เสนอขอฯ คุรุชน คนคุณธรรม ผู้บริหารสถานศึกษา

๑

๒ แบบเสนอขอรับการพิจารณาเพ่อื ยกย่องเชิดชูเกียรติ “คุรุชน คนคณุ ธรรม”โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษายโสธร เขต ๑ ----------------------------------------------------------------------------------------- ตอนท่ี ๑ ข้อมลู สว่ นบุคคล ประเภท √ ผู้บริหารสถานศึกษา  ครู ชอ่ื  นาย  นางสาว √ นางรตั นาวงศ์ เลาะหะนะ NAME Mrs. ….Ruttanawong…..SURNAME …Loahana………อายุ....59.....ปี วทิ ยฐานะ ไมม่ ี  ชำนาญการ √ ชำนาญการพิเศษ  เชีย่ วชาญ  เชย่ี วชาญพิเศษ วฒุ กิ ารศึกษา  ปรญิ ญาตรี √ ปรญิ ญาโท  ปริญญาเอก สถานทปี่ ฏบิ ตั ิงานโรงเรียน.....บ้านโนนยาง.......สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษายโสธร เขต ๑ อำเภอ......มหาชนะชยั ............จงั หวัดยโสธร รหสั ไปรษณีย์....๓๕๑๓๐.......โทรศัพท์ ....0๙๕-๖๐๒๐๗๘๕............... โทรสาร .........-...................... .e.mail……[email protected] ท่อี ยู่ทีต่ ดิ ตอ่ ได้สะดวก เลขที่ ...๖๓/๑.......หม.ู่ ..๙......ถนน.........-........ตำบล......พนมไพร.......อำเภอ.....พนมไพร................................................. จังหวัด......รอ้ ยเอ็ด................รหัสไปรษณีย.์ ....๓๕๑๓๐.................โทรศัพทเ์ คลื่อนที.่ ..๐๘๕-๖๐๒๐๗๘๕......................... ตอนท่ี ๒ ผลการปฏิบตั ติ นและผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์ เอกสารและหลกั ฐานอา้ งองิ คุณธรรมท่ี ๑ ด้านความพอเพยี ง การปฏิบตั ิน การปฏิบตั งิ าน ข้าพเจ้าใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ หลักในการดำเนินชีวติ เพราะความพอเพียงในการดำรงชีวิต เป็นเง่ือนไขพ้ืนฐานที่ทำให้เราสามารถพ่ึงตนเองได้ มีความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองไดร้ ับการ สนองตอบต่อความตอ้ งการต่างๆ รวมทงั้ ความสามารถในการจดั การปัญหาตา่ งๆได้ด้วยตนเอง ตงั้ บนพ้ืนฐานของทาง สายกลาง และความไมป่ ระมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุ้มกันในตวั เอง ตลอดจนใช้ ความรแู้ ละคุณธรรม เป็นพืน้ ฐานในการดำรงชวี ิต ท่สี ำคัญจะต้องมี “สติ ปัญญา และความเพียร” ซ่ึงจะ นำไปสู่ “ความสุข” ในการดำเนนิ ชวี ิต ข้าพเจา้ ประพฤติปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณวิชาชพี มีระเบยี บวินัย ไม่เคยถูกรอ้ งเรยี น ไม่เคยถกู ลงโทษทาง วนิ ัย ไม่มวี นั ลา ผลการขบั เคล่อื นนโยบาย ในหนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบ บงั คบั บญั ชาข้าราชการครแุ ละบุคลากรทางการ ศึกษา บริหารกจิ การของสถานศึกษา วางแผนการปฏิบตั ิงาน ควบคมุ กำกับ ดูแลเก่ียวกับการบริหารงาน 4 ฝา่ ย และงานหนา้ ท่ีพเิ ศษคือ ไดร้ ับการแตง่ ตั้งให้เป็นเลขาสมาคมผบู้ ริหารอำเภอมหาชนะชัย เลขาผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาใน เครือข่ายคณุ ภาพการศกึ ษาหัวเมอื ง-พระเสาร์ ข้าพเจา้ ได้พฒั นางานตามมาตรฐานตำแหนง่ อยูเ่ สมอ ดงั นี้ การบริหารวชิ าการ จดั ให้มีหลกั สูตรสถานศึกษาทสี่ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของผู้เรยี นและทอ้ งถ่ิน ปรบั หลักสูตรใหเ้ ข้ากับ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสริมและยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิให้สูงขนึ้ ส่งเสริมใหค้ รุจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่หลากหลาย เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ สง่ เสริมใหค้ รจู ัดหาส่อื ผลิตสอ่ื ใช้ส่ือ นวัตกรรมเทคโนโลยี จัดให้มีการประกนั คุณภาพท่ียง่ั ยืน

๓ และต่อเน่ือง มีการายงานประเมนิ ตนเอง รายงานพฒั นาคุณภาพการศึกษาประจำปีอยา่ งต่อเน่ือง การบรหิ ารงานงบประมาณ จัดให้มีการบริหารการเงิน บญั ชี และพสั ดุอย่างเปน็ ระบบ ดำเนินงานถกู ต้องตามระเบยี บของทางราชการที่ เก่ยี วข้อง มีการระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา สนับสนนุ ใหบ้ ุคลากรและสถานศกึ ษารว่ มกนั ใชท้ รัพยากร ในชุมชนใหเ้ กิดประโยนต์ ่อกระบวนการจัดการเรียนการสอนโดยประสานตความร่วมมืออยา่ งเปน็ รปู ธรรม โดยจัดทำ ผ้าป่าเพอ่ื พัฒนาการศึกษา จา้ งบคุ ลากรครูมาเพ่มิ 2 ท่าน เมอ่ื วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2563 เปน็ เงนิ จำนวน 250,000 บาท การบริหารงานบคุ คล แตง่ ตั้ง มอบหมายบคุ ลกาอย่างเหมาะสม ตามความร้คู วามสามารถ จัดวางระบบอย่างชัดเจน โดยการ ทำงานเป็นทีม มกี ารปฐมนเิ ทศช้ีแจงหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ นเิ ทศ กำกับ ติดตาม สง่ เสริมการพฒั นาขา้ ราชการครู และบุลากรทางการศกึ ษา ให้เข้ารบั การพฒั นาตนเองใหเ้ ป็นครมุ อื อาชพี อยา่ งต่อเน่ือง และการเล่ือนขั้นเงินเดือน ข้าราชการครูปละบลุ ากรทางการศกึ ษา มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพจิ ารณาความดีความชอบอยา่ งเหมาะสม การบรหิ ารงานทัว่ ไป มกี ารบรหิ ารงานกิจการนกั เรียน จัดกิจกรรมนักเรียน ระบบดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี น มีขอ้ มูลนักเรียน รายบุคคล บริการแนะแนว งานสัมพันธก์ ับชุมชน มคี วามรคู้ วามเข้าใจในบรบิ ทของชมุ ชน มที ักษะในการสรา้ ง ความสมั พนั ธท์ ีด่ ีกบั ชมุ ชน มีการจัดระบบงานธรุ การในสถานศกึ ษา มีการพฒั นาเครือข่ายขอ้ มูลสารสนเทศ เพ่ือ จัดระบบฐานข้อมลู มกี ารพัฒนาอาคารสถานทแ่ี ละสภาพแวดลอ้ ม ให้มคี วา่ มมนั่ คง ปลอดภยั สวยงามรม่ ร่นื โดย ซ่อมแซมอาคารเรยี น สปช. 105/29 จำนสน 80,000 บาท และปรบั ปรุงภมู ิทัศนโ์ ดยความรว่ มมือกับชมุ ชนพฒั นา บรบิ ทสถานศึกษา ข้าพเจ้าปฏิบตั ิตามมาตรฐานตำแหน่งผบู้ ริหารสถานศึกษา โดยมีรายละเอียดของงานท่ีจะปฏบิ ตั ิ ในแต่ละด้านมผี ลการดำเนนิ การ ดงั น้ี รูปแบบการบริหารจัดการสถานศกึ ษาส่คู วามสำเร็จ

๔ ตัวช้วี ดั (Indicators) ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ทีจ่ ะเกิดขึ้นกบั ผู้เรยี น ตามมาตรฐานตำแหน่ง ท่จี ะดำเนินการพฒั นาตาม ของงานตามขอ้ ตกลงที่ ครู และสถานศกึ ษา ที่ ขอ้ ตกลงใน 1 รอบการประเมิน คาดหวงั ใหเ้ กดิ กบั ผูเ้ รยี น แสดงใหเ้ ห็นถึงการ ครู และสถานศึกษา เปลีย่ นแปลงไปในทาง (โปรดระบุ) ท่ีดขี ึ้นหรอื มีการพัฒนา (โปรดระบุ) มากข้นึ หรือผลสัมฤทธิ์ สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ 1. ด้านบริหารวชิ าการและ 1. พฒั นาหลักสูตรสถานศึกษา 1. ผเู้ รียนเป็นผูม้ ี 1. ผู้เรียนมีคุณลกั ษณะ ความเปน็ ผ้นู ำทางวิชาการ ส่มู าตรฐานการเรียนรขู้ อง คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ท่พี ึงประสงค์ มี ลกั ษณะงานทเ่ี สนอให้ ผเู้ รยี น โดยวิเคราะห์หลักสตู ร มีสมรรถนะ สามารถ สมรรถนะสามารถอ่าน ครอบคลุมถึงการวางแผน ใหส้ อดคล้องกบั วสิ ัยทัศน์ อ่าน เขียน วเิ คราะห์ มี เขียน วเิ คราะห์ และมี พฒั นามาตรฐานการเรยี นรู้ ของสถนาศึกษา สอดคล้องกับ ความคิดสรา้ งสรรค์ และ ความคิดสรา้ งสรรค์ ของผู้เรียน การจดั ทำและ สาระ ความต้องการของชาติ ส่อื ความได้อย่างมี สงู ขนึ้ พัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา ทอ้ งถ่นิ และผ้เู รยี น ประสทิ ธภิ าพ 2. ครูมีวจิ ยั ในชัน้ เรยี น การพัฒนากระบวนการ 2. สง่ เสรมิ ให้ครใู ช้กระบวนการ 2. ครมู ีกระบวนการ มีสือ่ และนวัตกรรมทีม่ ี จดั การเรียนรทู้ เ่ี นน้ ผูเ้ รียนเป็น PLC และกระบวนการวจิ ัย PLC มวี ิจัยในชน้ั เรียน ประสทิ ธภิ าพ เพ่ิมขึ้น สำคัญและการปฏิบัติการสอน สร้างสือ่ นวัตกรรมเพื่อเปน็ มีสื่อ นวัตกรรมที่มี 3. ครสู ามารถใช้ การสง่ เสรมิ สนับสนุน การ แนวทางการจัดการเรียนรู้ ประสทิ ธิภาพ และใช้ กระบวนการ Active พฒั นาหรือการนำส่ือ 3. ดำเนนิ การนเิ ทศ กำกับ กระบวนการ Active Learning ในการ นวตั กรรม และเทคโนโลยี ตดิ ตาม ประเมินผลการจดั การ Learning ในการจดั การ จดั การเรียนรู้ และมี ทางการศึกษา มาใช้ในการ เรียนรขู้ องครูรายกลมุ่ สาระฯ เรยี นรู้ และมกี าร การประเมินผลท่ี จดั การเรยี นรู้ การนิเทศ และรายบคุ คล ทุกภาคเรียน ประเมินผลทห่ี ลากหลาย หลากหลาย เพมิ่ ขึ้น กำกับ ติดตาม ประเมินผล 4. มีการประเมนิ คณุ ภาพ 3. สถานศกึ ษามรี ะบบ 4. สถานศึกษามผี ลการ การจัดการเรยี นรู้ของครใู น ภายในสถานศึกษาอย่างน้อยปี การประกันภายในทมี่ ี ประเมินระบบงาน สถานศกึ ษา และมีการประกัน ละ 1 ครัง้ เพ่ือเป็นข้อมลู ในการ คณุ ภาพตรวจสอบได้ ประกันคุณภาพภายใน คณุ ภาพการศึกษาภายใน ปรับปรุงแผนพัฒนาสถานศกึ ษา สูงขน้ึ สถานศึกษา การศึกษา การ อยา่ งต่อเน่ืองและนำผลการ วเิ คราะห์หรอื วจิ ัย เพ่ือ ติดตามตรวจสอบคุณภาพ แก้ปญั หาและพัฒนาการ การศกึ ษาเปน็ ข้อมลู ในการ จัดการเรยี นร้เู พ่ือยกระดบั จัดทำรายงานประจำปี คุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา

๕ ตัวชีว้ ัด (Indicators) ลกั ษณะงานท่ีปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ทจ่ี ะเกิดข้ึนกบั ผเู้ รยี น ครู ตามมาตรฐานตำแหนง่ ทจ่ี ะดำเนินการพัฒนาตาม ของงานตามข้อตกลงท่ี และสถานศกึ ษา ท่แี สดง ข้อตกลงใน 1 รอบการประเมิน คาดหวังให้เกดิ กบั ผเู้ รียน ให้เหน็ ถงึ การเปลยี่ นแปลง ครู และสถานศึกษา ไปในทางที่ดีข้ึนหรือมีการ (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) พฒั นามากข้ึนหรอื ผลสมั ฤทธิ์สูงข้นึ (โปรด ระบุ) 2. ด้านการบริหารจัดการ 1. จัดทำแผนพฒั นาคุณภาพ 1. ผ้เู รยี นมแี หล่งเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนมแี หลง่ เรยี นรู้ สถานศึกษา คณุ ภาพการศึกษาของ และมสี ื่อ อปุ กรณ์ และมี และมีส่อื อปุ กรณ์ และ การบริหารจัดการ สถานศกึ ษาให้สอดคลอ้ ง บรรยากาศทเี่ อื้อตอ่ การ มีบรรยากาศทเ่ี อ้ือต่อ สถานศกึ ษาให้เปน็ ไปตาม นโยบายของรฐั บาล ส่งเสริมและพัฒนาการ การสง่ เสริมและ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คับ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สำนักงาน เรยี นรู้ พัฒนาการเรยี นรู้ นโยบาย และตามหลกั บริหาร คณะกรรมการการศึกษาขน้ั 2. ผูเ้ รยี นมคี ณุ ลกั ษณะที่ เพิ่มขึน้ กิจการบ้านเมืองที่ดี การ พื้นฐาน และสำนกั งานเขตพื้นที่ พงึ ประสงค์ มวี ินัย 2. ผูเ้ รยี นร้อยละ 80 มี บริหารกจิ การผเู้ รียนและการ การศกึ ษา คณุ ธรรมและจริยธรรม คณุ ลกั ษณะที่พึง ส่งเสรมิ พัฒนาผูเ้ รยี น การ 2. บรหิ ารจัดการสถานศึกษา 3. ครูมีสอื่ อปุ กรณ์ท่ี ประสงค์ มวี ินยั จดั ระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู้ รียน โดยยดึ ระเบยี บ กฎหมาย ทันสมยั และมี คุณธรรมและจรยิ ธรรม ข้อบังคบั และจรรยาบรรณ ประสทิ ธิภาพทใ่ี ช้ในการ เพ่มิ ข้ึน วิชาชีพ จัดการเรยี นการสอน 3. ครู มสี ื่อ อุปกรณท์ ่ี 3. บรหิ ารแบบมสี ่วนรว่ ม ใน สามารถจัดการเรยี นการ ทนั สมัยและมี ลกั ษณะของการร่วมตดั สนิ ใจ สอนทห่ี ลากหลาย ประสทิ ธภิ าพท่ีใชใ้ น ได้แก่ คณะกรรมการ 4. ครสู ามารถดำเนินการ การจดั การเรยี นการ สถานศึกษา ทีมงานบคุ ลากร ตามระบบดูแลช่วยเหลอื สอน สามารถจดั การ โรงเรียน ผู้ปกครองและชุมชน นักเรยี นทีม่ ปี ระสิทธิภาพ เรียนการสอนท่ี 4. สง่ เสริมและพฒั นาระบบ 5. สถานศึกษามี หลากหลาย เพ่ิมขึน้ ดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียนอย่าง บรรยากาศ 4. ครมู กี ารดำเนนิ การ ตอ่ เน่ือง สภาพแวดลอ้ มและ ตามระบบดูแล แหล่งเรยี นรู้ท่เี อ้ือต่อการ ชว่ ยเหลอื นักเรียนท่ีมี แสวงหาความรขู้ อง ประสิทธิภาพ เพ่ิมขึ้น ผ้เู รยี น 5. สถานศึกษามี 6. สถานศกึ ษามรี ะบบ บรรยากาศ ดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน สภาพแวดล้อมและ และมีเครือข่ายในการ แหลง่ เรยี นรทู้ ่ีเอ้ือต่อ ดูแลช่วยเหลือนักเรยี นท่ี การแสวงหาความรู้ มีประสทิ ธิภาพ ของผูเ้ รียน เพิ่มขึน้ 6. สถานศกึ ษามรี ะบบ ดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น และมเี ครือขา่ ยในการดูแล ช่วยเหลอื นกั เรยี นทมี่ ี ประสทิ ธภิ าพ เพมิ่ ข้ึน

๖ ลกั ษณะงานที่ปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ชว้ี ดั (Indicators) ตามมาตรฐานตำแหนง่ ที่จะดำเนนิ การพฒั นาตาม ของงานตามข้อตกลงที่ ที่จะเกิดขึน้ กบั ผเู้ รียน ครู ข้อตกลงใน 1 รอบการ คาดหวังให้เกดิ กบั ผู้เรียน และสถานศึกษา ทแี่ สดงให้ 3. ดา้ นการบริหารการ ครู และสถานศกึ ษา เหน็ ถงึ การเปลีย่ นแปลงไป เปลยี่ นแปลงเชิงกลยุทธ์และ ประเมนิ (โปรดระบ)ุ ในทางทีด่ ีขน้ึ หรอื มีการ นวตั กรรม (โปรดระบ)ุ 1. กำหนดนโยบาย และ พฒั นามากข้ึนหรือ การกำหนดนโยบาย กลยทุ ธใ์ นการบรหิ าร 1. ผูเ้ รยี นมีโครงการและ ผลสมั ฤทธิ์สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ กลยุทธ์ การใชเ้ ครื่องมือหรือ จัดการให้สอดคล้องกบั กจิ กรรมทส่ี ่งเสริมการ นวตั กรรมทางการบริหารและ วสิ ัยทศั น์ ของสถานศกึ ษา เรียนรูท้ ห่ี ลากหลาย ตรง 1. ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 80 มคี วาม การนำไปปฏิบัติ การบรหิ าร 2. ใช้รปู แบบการบรหิ าร ตามความต้องการและ พึงพอใจในการร่วมโครงการ การเปล่ียนแปลงและ TEAM HUADONG ความสนใจของผเู้ รียน และกิจกรรม สง่ เสริมการ นวตั กรรมในสถานศกึ ษา เพื่อ MODEL ร่วมกบั การ 2. มที กั ษะ กระบวนการ เรียนรู้ทห่ี ลากหลายของ พฒั นาสถานศึกษา บริหารโดยใชโ้ รงเรียนเป็น ในการปฏิบัติงาน ตาม สถานศึกษา ฐาน (SBM) เป็นแนวทาง วงจร PDCA 2. มีทกั ษะ กระบวนการใน ในการบริหารจดั การ เพ่ือ 3. สถานศกึ ษา มรี ะบบ การปฏิบตั งิ าน ตามวงจร พฒั นาคณุ ภาพ ประกนั คุณภาพ PDCA เพ่ิมขนึ้ สถานศกึ ษา การศกึ ษาภายในที่มี 3. สถานศึกษา มรี ะบบ คุณภาพ ประกันคุณภาพการศึกษา ภายในท่มี ีคุณภาพ เพื่อ เตรียมรองรบั การประเมิน คุณภาพภายนอก 4. ด้านการบรหิ ารงานชุมชน 1. ส่งเสริมและพัฒนา 1. ผ้เู รียนไดร้ บั ทนุ ใน 1. ผู้เรยี นท่ีจบการศกึ ษาใน เครอื ข่ายการบริหาร สนบั สนุนการศกึ ษา ระดบั ป.6 เรยี นตอ่ ใน และเครือข่าย 2. ครูมขี วัญกำลงั ใจ และ ระดบั สงู ขึน้ ทุกคน จดั การแบบมสี ว่ นรว่ มใน การสร้างและพฒั นา สถานศึกษา เช่น เครอื ข่ายเพื่อพัฒนาการ มเี ครอื ข่ายช่วยเหลือ 2. ผูเ้ รยี นไดร้ ับความ เรียนรู้ การจัดระบบการ คณะกรรมการสถานศึกษา และสนับสนุนในการ ช่วยเหลอื และสนับสนนุ ให้บรกิ ารในสถานศีกษา ขัน้ พน้ื ฐาน เครือข่าย ปฏิบตั ิงาน การศึกษาเพมิ่ มากขึ้น ผูป้ กครองนักเรยี น เครอื ข่ายศิษยเ์ ก่า 3. สถานศึกษามี 2. ครูมีขวญั กำลงั ใจในการ เครือข่ายสถานศึกษาและ เครอื ข่ายความรว่ มมือใน ปฏบิ ตั ิงาน เพิ่มขึ้น การพัฒนาและสง่ เสรมิ 3. สถานศกึ ษามีเครือข่าย องค์กรภายนอก การพัฒนาสถานศกึ ษา ความร่วมมือในการพฒั นา สถานศึกษา 4. สถานศึกษามี เป็นต้น สถานศึกษา เพิ่มขนึ้ งบประมาณในการ 2. ส่งเสริมและพฒั นา บริหารจัดการและ เครอื ข่ายในการระดมทนุ พัฒนาสถานศึกษา เพือ่ พัฒนาการศกึ ษา ไดแ้ ก่ ชุมชน ศิษยเ์ กา่ ครู ผู้ปกครองนักเรยี น

๗ ตวั ชี้วัด (Indicators) ลักษณะงานท่ีปฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ทีจ่ ะเกิดข้ึนกับผ้เู รียน ครู ตามมาตรฐานตำแหน่ง ที่จะดำเนนิ การพัฒนาตาม ของงานตามข้อตกลงที่ และสถานศึกษา ท่ีแสดงให้ ขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ คาดหวังใหเ้ กดิ กบั ผเู้ รยี น เหน็ ถึงการเปล่ยี นแปลงไป ครู และสถานศกึ ษา ประเมนิ (โปรดระบุ) ในทางท่ดี ีข้นึ หรือมกี าร (โปรดระบุ) พัฒนามากข้ึนหรือ ผลสัมฤทธ์ิสงู ข้ึน (โปรดระบุ) 5. ดา้ นการพัฒนาตนเองและ เข้ารว่ มอบรมและพฒั นา 1. ผ้เู รยี นเป็นผู้มี 1. ผ้เู รยี นมีคณุ ลักษณะที่พงึ วชิ าชีพ ตามโครงการ กิจกรรม คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ ประสงค์ มีสมรรถนะ การพัฒนตนเองและ ตา่ ง ๆ ของสำนักงาน มีสมรรถนะ สามารถ สามารถอา่ น เขียน วชิ าชพี การนำความรู้ ทักษะ คณะกรรมการการศึกษา อ่าน เขียน วิเคราะห์ มี วเิ คราะห์ และมคี วามคดิ ท่ไี ดจ้ ากการพัฒนาตนเองและ ขน้ั พืน้ ฐาน สำนักงานเขต ความคดิ สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ สูงขน้ึ วิชาชพี มาใชใ้ นการพัฒนาการ พ้ืนท่กี ารศกึ ษา องค์กร สื่อความได้อยา่ งมี 2. ครมู ีวจิ ยั ในชน้ั เรียน มสี อ่ื บรหิ ารจดั การสถานศึกษา ที่ ภายนอก และแสวงหา ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมท่ีมี ส่งผลตอ่ คณุ ภาพผู้เรียน ครู ความรู้อยา่ งตอ่ เน่ืองเพื่อ 2. ครูมกี ระบวนการ ประสิทธิภาพ เพ่ิมขนึ้ และสถานศึกษา พฒั นาตนเองและพฒั นา PLC มวี ิจัยในช้นั เรียน 3. ครสู ามารถใช้ วชิ าชีพ และนำไปใชใ้ น มีสื่อ นวตั กรรมที่มี กระบวนการ Active การบริหารจัดการ ประสิทธภิ าพ และใช้ Learning ในการจัดการ สถานศึกษา กระบวนการ Active เรยี นรู้ และมกี ารประเมนิ ผล Learning ในการจัดการ ทีห่ ลากหลาย เพม่ิ ขึ้น เรียนรู้ 4. ครมู ีขวญั กำลงั ใจในการ 3. ครูมีขวญั กำลังใจ ใน ปฏิบตั ิงาน เพมิ่ ข้ึน การปฏบิ ัตงิ าน และมี 5. สถานศกึ ษา มนี วัตกรรม การประเมินผลที่ โครงการและกจิ กรรมท่ี หลากหลาย สง่ เสรมิ และพฒั นา 4. สถานศึกษามี การศึกษาทีห่ ลากหลาย โครงการและกิจกรรมที่ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ท่ี หลากหลาย ตรงตาม ความตอ้ งการและความ สนใจของผเู้ รียน วธิ กี ารดำเนินการให้บรรลผุ ลสำเรจ็ บรหิ ารจดั การซึง่ ไดใ้ ชร้ ูปแบบการบริหาร “NONGYANG MODEL สู่โรงเรียนน่าดู นา่ อยู่ นา่ เรียน น่าทำงาน นักเรียนมีเป็นคนเกง่ คนดี และมีความสขุ ร่วมกบั นำหลักการบริหารแบบใช้โรงเรยี นเปน็ ฐาน (SBM) เปน็ เคร่ืองมอื ในการทำงาน โดยรูปแบบดังกล่าว ผูบ้ รหิ ารเปน็ ผนู้ ำ ครูลงมอื กระทำด้วยความกระตือรอื รน้ มีการจัดระบบและพัฒนาองค์กรทไ่ี ด้มาตรฐาน สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือ ใชก้ ิจกรรมท่ีหลากหลายในการพัฒนาเพ่ือให้

๘ บรรลุเป้าหมายร่วมกัน คือ เป็นโรงเรียนน่าอยู่ น่าดู นา่ เรียน นา่ ทำงาน นกั เรียนเปน็ คนเกง่ คนดี และมคี วามสุขซง่ึ รูปแบบการบริหาร “NONGYANG MODEL สู่โรงเรียนนา่ ดู นา่ อยู่ นา่ เรยี น นา่ ทำงาน นักเรียนเป็นคนเก่ง คนดี และมคี วามสุข รปู แบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสคู่ วามสำเร็จ ใช้เทคนิคแนวคิดทฤษฎรี ะบบ System theory เปน็ ตัวขบั เคล่อื นการดำเนินงาน นำโครงการ ผลงาน เป็นเครอ่ื งมอื ในการบริหารจัดการ มีการตรวจสอบคุณภาพนวัตกรรมจากข้อมลู ย้อนกลับ และการพัฒนาองค์กรควบคู่ ไปด้วย หลังจากนัน้ นำไปให้ผเู้ ชย่ี วชาญตรวจสอบรปู แบบนวตั กรรม เป็นการบรหิ ารจัดการเพือ่ ให้การดำเนนิ งานพัฒนา สถานศกึ ษาประสบผลสำเร็จ NONYANG MODEL Net Work Party หมายถงึ การมสี ่วนร่วมของทุกฝ่าย ความเปน็ นำ้ หนงึ่ อนั เดยี วกันมีความสามัคคี กลม เกลยี ว เป็นเอกภาพเดียวกัน ในการปฏิบตั ิงานตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย ตามหน้าท่ี ตามบทบาทอนั ซง่ึ ให้บรรลุตาม วตั ถุประสงค์ ในเอกภาพเดียวกันทง้ั ระบบ ทงั้ นี้จะต้องสอดคลอ้ งกับแนวปฏิบตั ิ แนวนโยบายและเพ่ือพฒั นานักเรียน ตามระบบการศึกษาของชาติ Attitude หมายถึง ทัศนคติความคิดเห็นต่อองค์กร ตอ่ บุคลากรในองค์กรทดี่ ี แผงไปด้วยคุณธรรมและ ความคดิ เชิงบวกในการพัฒนานกั เรยี น พัฒนาตนเอง พัฒนาองค์กร ทั้งทางกาย ทางสติปญั ญาและจติ ใจอนั ดงี าม Yell หมายถงึ การกลา่ วคำชน่ื ชมที่ยิง่ ใหญ่ สง่ เสริมให้เกดิ พลังในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ด้วย ความจรงิ ใจ ตอ่ เน่ือง สรา้ งความรสู้ ึกทดี่ ี มีพลงั ให้ทำงานบรรลโุ ดยยัง่ ยืน Obvious หมายถงึ ความชัดเจน ความเดน่ ชัด เขา้ ใจงา่ ย เนอ่ื งจากในการดำเนนิ โครงการต้องมีการวางแผน ตามดำเนินงาน มจี ดุ ประสงค์ มีเป้าหมาย มีการกำหนดคุณธรรมท่ตี อ้ งการพฒั นา อย่างชัดเจน เพือ่ บรรลุผลท่ถี ูกต้อง ชัดเจนเกดิ ผลรูปธรรมกบั นักเรียนมากทส่ี ุด Goodness หมายถงึ ความดีงาม คุณความดี ในการกระทำทกุ สงิ่ อยา่ งต้องปฏิบตั ิดว้ ยความต้ังใจ ความ จรงิ ใจปฏิบัตดิ ี ใชค้ ณุ ธรรมความดี เป็นแนวทางในการดำเนนิ ชีวติ แล้วทุกส่ิงอยา่ งจะประสบผลสำเรจ็ ด้วยคุณธรรมนำ ทาง

๙ คณุ ธรรมท่ี 2 ด้านความกตัญญู - ขา้ พเจา้ เป็นบุคคลทมี่ ีความกตัญญตู ่อบดิ า มารดา ครูบาอาจารย์ รคู้ ุณชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ รักและเทิดทนู สถาบนั รกั ษาระเบียบวนิ ัย ครองตน ครองคน ครองงาน มีคตปิ ระจำใจและมวี สิ ยั ทศั นใ์ นการทำงาน ต้ังม่ันอยู่ในศลี ธรรม จรยิ ธรรมอนั ดี รกั ษาและเขา้ รว่ มประเพณีวฒั นธรรมท้องถ่ิน รักษาและทำนบุ ำรงุ บ้านเมือง รกั ษาและปฏิบตั ติ ามกฎหมายบ้านเมือง ตลอดจนรักษาชือ่ เสยี งวงศ์ตระกูลมิใหเ้ ส่อื มเสีย และปฏิบัติหน้าทวี่ ชิ าชพี ครู อยา่ งเต็มกำลงั และความสามารถ เอกสารประกอบ ( ภาคผนวก ) การมจี ิตอาสา พฒั นาวัด ทำบุญ บรจิ าคทรัพย์สิ่งของ ช่วยเหลือสงั คมอยเู่ สมอ เทดิ ทูนสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คณุ ธรรมขอ้ ท่ี 3 ด้านความซือ่ สตั ย์สจุ รติ - ขา้ พเจา้ เปน็ ผทู้ ี่มคี วามซ่ือสัตย์สจุ ริต คอื เป็นผทู้ มี่ ีความประพฤตติ รงต่อเวลา ตอ่ หนา้ ที่ และต่อวิชาชีพ มี ความจริงใจ มคี วามยุตธิ รรม ไม่ลำเอยี ง ไมท่ ุจรติ คดโกง ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม พรอ้ มให้การตรวจสอบการกระทำ ไดเ้ สมอ ปฏิบตั ิเต็มกำลังความสามารถ ดว้ ยความบรสิ ุทธ์ใิ จ ขา้ พเจ้ามีคณุ ธรรมประจำ กาย วาจา ใจ คอื

๑๐ 1) มีสัจจะ หมายถึง การคิด การพูด การทำแตค่ วามจรงิ 2) มคี วามเปน็ ธรรม หมายถงึ มใี จเปน็ กลาง 3) ไมม่ อี คติ หมายถึง ไม่มคี วามลำเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง 1. ขา้ พเจ้าเป็นผทู้ ่ีมีสจั จะ คือเป็นผทู้ ม่ี คี วามจริงใจ ซอื่ สัตย์ตอ่ ตนเอง ตอ่ ผบู้ ังคับบญั ชา เพอื่ นครูและบุคลอื่น เชน่ จะคิด จะพูด จะทำ สิ่งใดก็ต้องทำสิง่ นั้นใหส้ ำเรจ็ ลลุ วงไปด้วยดี สง่ิ นัน้ ต้องเปน็ ความจรงิ มปี ระโยชน์กบั ตนเอง ผอู้ ืน่ และส่วนรวมจะประกอบกจิ การใดๆ กม็ ีความจรงิ จัง จรงิ ใจ ต่อเนอื่ ง มคี วามซ่อื ตรงต่อเวลาตอ่ หน้าท่ี มคี วาม ซ่ือสัตยส์ ุจรติ ไมท่ ุจรติ คดโกงทัง้ ทางตรงและทางอ้อม มีความประพฤติดีท้งั กาย วาจา ใจ ไม่สรา้ งความเดือดร้อนให้กบั ตนเอง ผ้อู น่ื องค์กร สงั คม และประเทศชาติบ้านเมือง 2. เปน็ ผู้มีความเป็นธรรม เปน็ ผู้ทร่ี ูเ้ หตุ รผู้ ล รูผ้ ดิ รถู้ กู รชู้ ่วั รู้ดี เข้าใจในธรรมชาติของมนษุ ย์ เป็นผ้ทู ี่มีใจ เป็นกลาง สง่ เสริมสนับสนุนผ้ทู ที่ ำถูกทำดีแลว้ ให้เจรญิ ร่งุ เรืองต่อไป และใหโ้ อกาสผู้ที่ทำผดิ โดยชว่ ยอบรมส่งั สอน ศิษย์ให้ปรบั ปรงุ แก้ไขตนเอง ให้ละช่วั ประพฤติดี ใครผิดก็วา่ ไปตามผดิ ใครถกู กว็ ่าไปตามถกู นค้ี ือ คณุ สมบัตขิ อง ผู้ทม่ี ี คุณธรรมประจำใจคือ “ความเปน็ ธรรม” 3. ไม่มอี คติ หมายถึง ไมม่ ีความลำเอยี ง 4 ประการดังน้ี 1) ไมล่ ำเอยี งเพราะรัก 2) ไม่ลำเอียงเพราะเกลียด 3) ไม่ลำเอยี งเพราะกลัว 4) ไมล่ ำเอียงเพราะโงเ่ ขลา ผลงานโครงการท่เี ปน็ ผู้รบั ผิดชอบทีป่ ระสบความสำเร็จ ด้านความซอ่ื สัตย์ สจุ ริต 1. ผลงานนวัตกรรมระดับภูมิภาค จากครุ สุ ภา ระดบั ชมเชย 1 โรงเรียน 1 นวัตกรรม , โรงเรียนสจุ ริต ม โรงเรยี นดีวถิ ีพุทธ, โรงเรยี นคณุ ธะชรรมสพฐ. ระดบั 2 ดาว ,โรงเรยี นสขี าว ,โรงเรยี นทีผ่ ่านการประเมนิ สมศ. รอบที่ 4 ระยะที่ 1 2. ผลงานนักเรยี น 2 โล่ รางวัลชนะเลิศอันดบั ที่ 5 และ 6 จากเลขาธิการ สพฐ. การแข่งขนั การต่อสมการคณิตศาสตร์ A Math Challence 2022 โดยการจัดการแขง่ ขนั ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั ยโสธร เอกสารประกอบ ( ภาคผนวก )

๑๑ กรรมการตัดสินการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนกั เรียน ระดับเขตพ้ืนท่ี ตดั สนิ ดว้ ยความยุติธรรม ตามเกณฑก์ ารแขง่ ขัน และใชค้ วามรู้ความสามารถพิจารณาตัดสินอย่างเตม็ กำลังความสามารถ คณุ ธรรมขอ้ ที่ 4 ด้านความรบั ผิดชอบ ข้าพเจา้ เปน็ ผู้มคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเอง ตอ่ คำส่ังจากผู้บังคบั บญั ชา เป็นผูม้ คี วามรบั ผดิ ชอบตาม หนา้ ที่ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย รับผิดชอบเดก็ นักเรยี นดูแล กำกับ ตดิ ตาม ช่วยเหลอื เอาใจใสอ่ ย่างจริงใจและเตม็ ใจ นอกจากน้ี ขา้ พเจ้ายังมที ัศนคติทดี่ ีต่อเพ่ือนรว่ มงานอกี ดว้ ย ดว้ ยเหตุนจ้ี ึงสง่ ผลให้ เกดิ ผลแห่งความสำเรจ็ ในการทำงาน ดงั นี้ 1. ทำให้งานและกิจกรรมต่าง ๆ สำเรจ็ ลุลว่ งตามเป้าหมายทตี่ ง้ั ไว้ 2. ทำใหเ้ ราเป็นคนซ่ือสัตย์ต่อตนเองและผู้อน่ื 3. เกิดการเตบิ โตและพฒั นาทางด้านจติ ใจมากข้ึน 4. มคี วามเจริญก้าวหน้าทางด้านชีวติ และการงาน 5. เปน็ ทยี่ อมรับ เชื่อถือ และเป็นทีไ่ วใ้ จของผูบ้ ังคับบัญชา เพอ่ื นครู นกั เรยี น และบุคลทว่ั ไป เป็นต้น วิสัยทัศน์และแนวทางการปฏิบตั งิ าน ดา้ นสมรรถนะ ผลสัมฤทธใ์ิ นการปฏิบตั งิ าน วสิ ัยทศั น์ ปฏบิ ตั ิหน้าทด่ี ้วยความวริ ิยะ อตุ สาหะ เสียสละ มองไกลให้ทนั โลก เน้นความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ

๑๒ 5. อดุ มการณ์คณุ ธรรม ข้าพเจา้ มีคุณธรรม สำหรบั ผูบ้ รหิ าร คือ ใช้หลกั ธรรมปฏิบัตใิ นการบรหิ าร และประกอบด้วยหลกั ธรรม 4 ประการ ดังน้ี 1. หลักการครองตน 2. หลักการครองงาน 3. หลกั การครองคน 4. หลกั ธรรมาภบิ าล หลักการครองตน ขา้ พเจ้า มีการพฒั นาตามหลกั คุณธรรมของคนดี คือ เป็นผมู้ ีบคุ ลกิ ภาพที่ดี (Good Personality) คอื เปน็ ผ้มู สี ุขภาพกาย และ สขุ ภาพจิตท่ดี ี เป็นผู้มสี ขุ ภาพอนามยั ที่ดี มี ทว่ งทา่ กริ ิยารวมทง้ั การแต่งกายท่สี ุภาพ เรยี บรอ้ ย ดงี าม สะอาดและดูสงา่ งามสมฐานะเปน็ ผู้มี อัธยาศัยใจคอทีง่ ามเป็นคนดี มศี ีลธรรม ได้แก่ ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ วิรยิ ะ สติ สมาธแิ ละ ปัญญา คอื มีคุณธรรมของคนดี ดังนี้ เป็นผมู้ ศี รัทธา หมายถึง เป็นผู้รจู้ กั เลือ่ มใสในปัญญาตรัสรู้ของพระพทุ ธเจา้ และข้อ ปฏบิ ตั ิท่คี วรศรัทธา ไมล่ ุ่มหลง งมงาย เชอ่ื กรรมและผลของกรรมวา่ มีจรงิ เปน็ ผู้มศี ลี คือ ผู้ท่รี ู้จกั สารวมระวงั ความประพฤติปฏบิ ตั ิ ทางกาย และทางวาจา ให้ เรียบร้อยดี เป็นผมู้ ีสตุ ะ คือ ผไู้ ด้เรยี นรู้ทาง วชิ าการ และได้ศกึ ษาคน้ คว้าในวชิ าชีพดี ไดย้ นิ ได้ฟงั มาก เปน็ ผู้มีจาคะ คือ เปน็ ผมู้ ีจิตใจ กว้างขวาง ไม่คับแคบ รู้จักเสยี สละ เป็นผ้มู วี ิรยิ ะคือ เปน็ ผขู้ ยันหมน่ั เพยี ร ในการประกอบกิจการงานและ/หรือในหน้าท่ี รับผดิ ชอบ เป็นผมู้ ีสติ คือ ผทู้ ีร่ จู้ ัก ยบั ยงั้ ชั่งใจ ร้จู กั คดิ ไตร่ตรองใหร้ อบครอบ ก่อนคดิ ก่อนพูด ก่อนทาเปน็ ผู้มสี มาธิ คือ ผูม้ ีจติ ใจตงั้ ม่ัน ผรู้ อบรู้สภาวธรรมทป่ี ระกอบดว้ ยปจั จัย ปรุงแต่ง (สงั ขาร) และท่ีไมป่ ระกอบดว้ ยปัจจยั ปรุงแต่ง (สงั ขาร คือ พระนิพพาน) ข้าพเจา้ เปน็ ผรู้ แู้ จ้งพระอริยสัจ 4 รวมเปน็ ผู้มปี ัญญาอนั เห็นชอบรอบรู้ ทางเจริญ ทางเสอ่ื มแห่งชีวิตตามทเี่ ปน็ จริง การพัฒนาผู้นาตามหลักคุณธรรม ของมติ รท่ีดี เปน็ ผู้มกี ัลยาณมติ รธรรม 7 ประการ 1) เป็นผนู้ ่ารัก (ปิโย) คือ เป็นผ้มู ี จติ ใจประกอบด้วยเมตตากรุณาพรหมวิหาร 2) เปน็ ผ้นู า่ เคารพบชู า (คร)ุ คือเปน็ ผ้ทู ีส่ ามารถเอาเปน็ ท่ีพง่ึ อาศัย เป็นที่พึ่งทางใจ 3) เป็นผู้น่านับถอื (ภาวนโี ย) เปน็ ผูท้ ่ี ได้ฝึกฝนตนควรแก่การยอมรบั และยกย่องนับถือ 4) เปน็ ผู้มีเหตผุ ล หลักการ (วัตตา) ร้จู กั ช้แี จงแนะนาผูอ้ ื่นใหเ้ ข้าใจเป็นทีป่ รึกษาทดี่ ไี ด้ 5) เป็นผอู้ ดทนต่อถ้อยคาท่ลี ่วงเกนิ วิพากษ์ วิจารณ์ ซักถาม หรอื ขอปรึกษา (วจนักขโม) 6) สามารถแถลงชแ้ี จงเรือ่ งที่ลกึ ซึง้ หรือเรื่องท่ียงุ่ ยากซบั ซ้อนให้เขา้ ใจอย่างถูกต้อง และตรงประเด็นได้ (คัมภีรัญ จะ กะถัง กัตตา) 7) ไมช่ กั นำในอฐานะ (โน จฏั ฐาเน นิ โยชะเน) คือไมช่ ักจูงไปในทางเส่อื ม (อบายมุข) หรือไปในทางท่ีเหลวไหล ไรส้ าระ หรอื ทเี่ ป็นโทษ เปน็ ความทุกข์ เดอื ดรอ้ น และพัฒนาตามหลกั สัปปุริสธรรม กลา่ วคือ เปน็ ผ้มู ีคณุ ธรรมของสัตบุรุษ 7 ประการ ขา้ พเจา้ เปน็ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ท่ีมคี วามคิดรเิ ร่ิม ( Initiatives) ด้วยความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative) โครงการใหม่ๆ ท่เี ปน็ ประโยชน์ และวธิ กี ารทางานใหม่ๆ ใหก้ ารปกครอง การบรหิ ารกิจการงานได้บังเกิดผลดี มปี ระสทิ ธิภาพเปน็ นักคิดพฒั นา (Development) คือ พฒั นาปรับปรงุ แก้ไข ข้อบกพร่องให้ดขี ้นึ อยู่เสมอ เป็นผ้มู ีสานึก ใน ภาระหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบ (Sense of Responsibilities) สงู คอื มสี ำนกึ ในความรับผดิ ชอบต่อตนเอง โดย การศึกษาหาความรู้ เพิม่ พนู ศกั ยภาพ และสานกึ ในการสร้างฐานะของตน มีสำนึกในหนา้ ท่คี วามรับผดิ ชอบต่อส่วนรวม คอื ต่อครอบครัว ต่อองค์กรและหม่คู ณะ เป็นผูท้ ่ี มีความม่ันใจตนเอง (Self Confidence) สงู หมายถึง มีความมน่ั ใจโดย ธรรม คอื มีความมัน่ ใจ ในความรู้ ความสามารถ สติปญั ญาและวสิ ยั ทศั น์ และท้ังคุณธรรม คือความเป็นผมู้ ศี ลี มธี รรม อนั ตนได้ศึกษาอบรมมาดีแล้ว และยงั ตอ้ งรู้จักแสดง ความมัน่ ใจ ในเวลาคิด พดู ทำใหเ้ หมาะสมกับ กาลเทศะ บุคคล

๑๓ สถานท่ี และชมุ ชน อีกดว้ ย หลกั การครองงาน หลักการครองงาน ประกอบดว้ ยหลักธรรม อทิ ธิบาทธรรม คอื พฒั นาใหเ้ ป็นผู้รจู้ ักหลักปฏบิ ัตทิ ีด่ ี ไดแ้ ก่ 1. ฉนั ทะ ความรักงาน คือ เป็นผ้รู กั งานทตี่ นมหี น้าทรี่ ับผิดชอบอยู่ ท้งั จะต้อง เอาใจใส่กระตือรือรน้ ในการเรียนรู้งาน และเพ่ิมพูนวชิ าความรู้ความสามารถในการทากิจการงาน และ มุง่ มน่ั ท่ีจะทางานในหนา้ ท่ีท่รี บั ผิดชอบหรอื กจิ การงาน อาชพี ของตนใหส้ าเร็จเรียบร้อยอย่เู สมอ 2. วิรยิ ะ ความเพียร คือ เป็นผมู้ คี วามขยันหมน่ั เพียร ประกอบดว้ ยความอดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อความยากลาบากในการ ประกอบกิจการงานในหน้าที่หรือในอาชีพของตน จงึ จะถงึ ความสำเร็จ และความเจรญิ ก้าวหน้าได้ 3. จิตตะ ความเป็นผมู้ ใี จจดจ่ออยู่กบั การงาน ผูท้ ี่จะทำงานได้สำเรจ็ ดว้ ยดี มี ประสทิ ธิภาพนน้ั จะต้องเป็นผ้เู อาใจใส่ตอ่ กิจการงานทที่ า และมงุ่ กระทางานอยา่ งตอ่ เนื่องจนกว่าจะสำเร็จ ไม่ทอดทงิ้ หรือวางธุระเสียกลางคนั ไม่เป็นคนจบั จด หรือทำงานแบบทาๆ หยุดๆ 4. วมิ ังสา เปน็ ผู้รู้จักพจิ ารณาเหตุสงั เกตผลในการปฏบิ ตั ิงานของตนเอง และของผู้น้อยหรือของผู้อยู่ใต้บงั คบั บัญชา วา่ ดาเนนิ ไปตามนโยบายและแผนงานที่วางไวห้ รือไม่ ไดผ้ ลสำเรจ็ หรือมคี วามคืบหนา้ ไปตามวตั ถุประสงค์ท่กี าหนดไว้ หรือไมเ่ พยี งไร มีอุปสรรคหรือปัญหาท่คี วรไดร้ ับการ ปรบั ปรงุ แก้ไขวิธกี ารทำงาน หรอื วิธีการบรหิ ารกจิ การงานนนั้ ให้ สำเร็จตามวัตถปุ ระสงค์ได้อย่างไร ข้นั ตอนนี้ เปน็ การนำข้อมลู จากที่ได้ติดตามประเมินผลงานหรอื ตรวจงานน้ันแหละมา วเิ คราะห์ วจิ ัย ใหท้ ราบเหตผุ ล ของปัญหาหรืออุปสรรคขอ้ ขดั ข้องในการทางาน แล้วพจิ ารณาแก้ไขปัญหาเหลา่ นน้ั และ ปรับปรุงพัฒนาวิธกี ารทำงานให้ดาเนนิ ไปสู่ความสำเร็จ ให้ถึงความเจรญิ กา้ วหน้าย่ิงๆ ขึ้นไปได้ อนงึ่ อิทธบิ าทธรรม ขอ้ “วิมังสา” คอื ความเป็นผูร้ ู้จักพจิ ารณาเหตุสงั เกตผลในการทางาน ใหไ้ ด้ผลดีน้ี กลา่ วโดย ความหมายอยา่ งกว้าง จะเหน็ มขี อ้ ปฏิบัติท่ีจะชว่ ยใหก้ ารปฏิบัติงานในหน้าท่รี ับผิดชอบ หรือในการประกอบสัมมาอาชีวะ ใหไ้ ดผ้ ลดแี ละมคี วามเจริญมั่นคงยง่ิ กวา่ ข้ออนื่ ๆ อีก ท่ีในวงวิชาการบรหิ าร ได้ศึกษาวิจัยเห็นผลดมี าแลว้ ไดแ้ ก่ ก) เปน็ ผู้มคี วามคดิ รเิ ร่มิ (Initiatives) ดว้ ยความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative) โครงการ ใหม่ๆ ท่ี เป็นประโยชนส์ ุขแก่หมู่ คณะ สังคม และประเทศชาติ และวิธกี ารทำงานใหมๆ่ ใหก้ ารปกครอง การบริหาร กจิ การงานได้บงั เกิดผลดี มี ประสทิ ธิภาพสูงย่งิ ขึ้น ข) มีความคิดพฒั นา (Development) คือ เป็นนักพฒั นา ปรบั ปรุงแก้ไขสิง่ ทลี่ ้าหลัง หรือข้อบกพร่องในการทางานให้ดี ขึ้นอยเู่ สมอ ค) เป็นผูม้ สี านึกในภาระหน้าทีค่ วามรับผิดชอบ (Sense of Responsibilities) สงู คอื มสี ำนึกในความรบั ผิดชอบต่อ ตนเอง โดยการศึกษาหาความรู้ เพ่ิมพูนศกั ยภาพ และ สานกึ ในการสรา้ ง ฐานะของตน และมีสานึกในหนา้ ท่ีความ รบั ผิดชอบตอ่ ส่วนรวม คอื ต่อครอบครวั ต่อองค์กรและหมู่คณะ ที่ตนรับผิดชอบอยู่ และตอ่ สงั คมประเทศชาติ ใหเ้ จริญ สันตสิ ขุ และม่นั คง โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ สานกึ ในหน้าท่ี รบั ผดิ ชอบตอ่ สถาบันหลัก อุดมการณ์คุณธรรม การร่วมกนั เสริมสรา้ งหลักการบริหารกิจการบา้ นเมืองท่ดี ี และปลูกฝงั ความคิดเชงิ อุดมการณ์ เพอื่ ให้เกดิ โรงเรยี นคุณธรรมอย่างกว้างขวางและทว่ั ถึง อนั เปน็ ความยง่ั ยืน และม่ันคงของระบบการศึกษาของชาตบิ ้านเมืองสืบไปในอนาคต ขา้ พเจา้ ดำเนินตามแนวทางดำเนนิ งาน 5 กรอบแนวทางการดำเนนิ งาน 7 ตัวชี้วัด กรอบแนวคิดโรงเรยี นคุณธรรม ที่ต้องชว่ ยกันปลกู ฝงั 5 ประการ ได้แก่ 1) ความพอเพียง 2) ความกตัญญู 3) ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 4) ความรบั ผดิ ชอบ 5) อดุ มการณ์คุณธรรม

๑๔ หลักการครองคน หลกั ธรรมในการครองคนท่ีดี หลกั การครองคน ข้าพเจา้ มีหลกั ธรรมดงั ต่อไปน้ี 1. รจู้ ักหลกั ปฏบิ ัติตอ่ กันดว้ ยดี ระหวา่ งผ้บู งั คับบัญชากบั ลูกนอ้ ง หรอื ผู้อยใู่ ต้บงั คับบัญชา ตามหลักธรรมของ พระพุทธเจา้ ชือ่ “เหฏฐิมทิศ” มีเนือ้ ความว่า “เหฏฐมิ ทศิ ” คือ ทิศเบ้อื งตา่ เจ้านาย หรอื ผ้บู งั คับบัญชา พึงบารงุ บา่ ว คอื ผใู้ ต้บังคับบัญชา ด้วยสถาน 5 คอื 1.1 ดว้ ยการจัดงานให้ตามกาลัง กลา่ วคือ มอบหมายหนา้ ทกี่ ารงานให้ตามกาลังความรู้ สตปิ ัญญา ความสามารถ (Put the right man on the right job – รู้จกั ใชค้ นใหถ้ ูกกับงาน) 1.2 ดว้ ยการให้อาหารและบาเหน็จรางวลั กลา่ วคอื เมือ่ ทำดี ก็รู้จกั ยกย่องชมเชย และ/หรอื สนับสนนุ อุดหนุน ให้ ได้รับบาเหน็จรางวัล เล่ือนยศ เลื่อนตำแหน่งตามสมควรแก่ฐานะ เม่ือทาไมด่ ี ก็ให้คาตักเตอื น แนะนา ส่งั สอน ใหพ้ ัฒนา สมรรถภาพใหด้ ีข้ึน ถา้ ไม่ยอมแกไ้ ขพฒั นาตนให้ดขี ึ้น ก็ตอ้ งตาหนิ และมโี ทษตามกฎเกณฑ์ โดยชอบธรรม 1.3 ด้วยการรักษาพยาบาลในยามเจบ็ ไข้ กล่าวคือ ต้องร้จู ักดูแลสารทุกข์ สกุ ดิบของ ผูอ้ ยู่ใต้บงั คบั บญั ชา ไมเ่ ป็นผแู้ ล้งน้า ใจ คอื ไม่ปฏิบัติกับลูกนอ้ ง หรือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา 1.4 ดว้ ยแจกของมีรสดแี ปลกๆ ใหก้ นิ หมายความว่า ให้รู้จักมนี ้าใจแบ่งปันของกนิ ของใช้ดๆี ใหล้ ูกน้อง 1.5 ดว้ ยปล่อยในสมัย คอื รู้จกั ให้ลูกนอ้ ง หรอื ผอู้ ยู่ใตบ้ ังคบั บัญชาได้ลาพักผ่อนบา้ ง สว่ นบ่าว หรอื ลูกน้องผู้อยูใ่ ตบ้ ังคับบัญชา เม่ือเจ้านาย หรอื ผูบ้ งั คับบญั ชา ทานบุ ารุงอย่างนีแ้ ล้ว ก็พงึ ปฏิบตั ิอนเุ คราะห์ เจา้ นาย ผูบ้ งั คับบญั ชาด้วยสถาน 5 ตอบแทนด้วยเชน่ กัน คอื (1) ลกุ ขน้ึ ทางานก่อนนาย คือ ให้รับสนองงานผบู้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความขยันขันแขง็ ควรมาทางานก่อนนาย หรือ ผู้บังคบั บัญชา อยา่ งน้อย กม็ าให้ทนั เวลาทางาน ไมม่ าสายกวา่ นาย หรอื สายกวา่ เวลาทางานตามปกติ (2) เลกิ การทำงานทหี ลงั นาย คือ ทำงานด้วยความขยันขันแขง็ แม้เลกิ กค็ วรเลกิ ทีหลังนาย หรือผู้บงั คบั บญั ชา อย่าง นอ้ ยก็อยทู่ างานใหเ้ ต็มเวลา ไมห่ นกี ลบั ก่อนเวลาเลกิ งาน (3) ถือเอาแต่ของท่นี ายให้ คือ มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ไมค่ ดโกงนาย หรอื ผ้บู ังคบั บัญชา ไม่คอรร์ ปั ชั่น ไมเ่ รียกร้อง ตอ้ งการโดยไมเ่ ปน็ ธรรม หรอื เกินเหตุ (4) ทางานให้ดขี ้นึ คอื ต้องร้จู ักพฒั นาคณุ วุฒิ ความรู้ ความสามารถ และวสิ ยั ทัศน์ในการ ทางาน ให้ไดผ้ ลดี มี ประสิทธิภาพสงู (5) นำคุณของครูไปสรรเสรญิ คือ ร้จู กั นำคุณความดีของเจ้านาย ผู้บังคบั บญั ชา ไปยกย่อง สรรรเสริญ ตามความเปน็ จรงิ ในทแ่ี ละโอกาสอนั สมควร สังคหวัตถุธรรม 4 ประการ คอื (1) ทาน รจู้ ักใหป้ ัน สงิ่ ของ ของตน แกผ่ ู้อน่ื ทีค่ วรให้ปนั (2) ปิยวาจา รู้จักเจรจาอ่อนหวาน คือ กล่าวแตว่ าจาทส่ี ุภาพอ่อนโยน (3) อตั ถจริยา รูจ้ กั ประพฤติสิง่ ที่เปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้อน่ื (4) สมานตั ตตา เป็นผู้มีตนเสมอ คือ ไม่ถือตวั เยอ่ หยงิ่ จองหอง อวดดี คณุ ธรรม 4 ประการน้ี เป็นเครื่องยดึ เหนยี่ วจติ ใจของผู้อนื่ ไว้ได้ และยงั ความสมัคร สมานสามัคคี ใหเ้ กิดขน้ึ ระหวา่ งกันและกนั ในสถานศกึ ษา ทัง้ การสร้างแรงจูงใจเพื่อใหผ้ ู้ใต้บงั คับบญั ชาปฏิบัตงิ านใหบ้ รรลเุ ปาู หมาย ท่ตี ัง้ ไว้ ซ่ึงการสร้างแรงจงู ใจมีทง้ั ทางบวกและทางลบ เช่น การให้รางวัล หรอื การลงโทษ เป็นตน้ แต่ในความเปน็ จริง ในการสรา้ งแรงจงู ใจที่ดที ส่ี ุดคอื การทาให้ผ้ใู ต้บังคับบญั ชามคี วามรูส้ ึกว่าไดป้ ฏิบัติหน้าที่กบั ผบู้ ังคบั บญั ชาทีม่ ีความซอื่ สัตย์ สุจริต ยุตธิ รรม ดงั นั้น ถ้าผบู้ รหิ ารมีคณุ ธรรมก็จะเป็นการสร้างแรงจงู ใจให้แก่ผู้ใต้บังคบั บัญชาไดเ้ ป็นอย่างดี หรอื จะ เรียกวา่ เป็น “หลกั ธรรมมหาเสนห่ ”์ กไ็ ด้

๑๕ การพฒั นาผูน้ ำตามหลกั พทุ ธ ธรรม คือ ให้เป็นผเู้ ข้าใจอคติตามพุทธธรรม 4 ประเภท ได้แก่ 1) ฉนั ทาคติ คือ ความลำเอียงเพราะความรกั ใคร่ หมายถึง การทำใหเ้ สยี ความยุตธิ รรมเพราะอ้างเอาความรกั ใคร่หรือ ความชอบพอกัน ซง่ึ มักเกิดกับตนเอง ญาติพีน่ ้องและคนสนทิ สนม การแก้ฉนั ทาคติ ตอ้ งทำใจใหเ้ ปน็ กลาง โดยการปฏิบัติ ต่อทุกคนใหเ้ หมาะสมเหมือนๆกนั 2) โทสาคติคือ ความลำเอยี งเพราะความไม่ชอบ เกลียดชัง หรือโกรธแคน้ หมายถึงการทาใหเ้ สยี ความยุติธรรม เพราะความโกรธหรอื ลอุ านาจโทสะ การแก้ไขโทสาคติ ทาไดด้ ้วยการทาใจใหห้ นักแนน่ ร้จู กั เอาใจเขามาใสใ่ จเราและ พยายามแยกเรื่องส่วนตัวกับเรอื่ งงานออกจากกนั 3) โมหาคติ คือ ความลาเอยี งเพราะความไม่รู้ หรอื ความรู้เทา่ ไม่ถงึ การณ์ หมายถงึ การทาใหเ้ สียความเป็นธรรมเพราะ ความสะเพร่าความไมล่ ะเอยี ดถ่ถี ้วน ดว่ นตัดสนิ ใจกอ่ นพิจารณาใหด้ ี วิธแี ก้ไข ทำด้วยการเปิดใจให้กวา้ งทาใจให้สงบ มองโลกในแงด่ ี และยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่ ตวั ชวี้ ัดโรงเรยี นคุณธรรม มี 7 ขอ้ ดังนี้ 1. มกี ระบวนการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรมโรงเรยี น 2. มกี ระบวนการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมโรงเรียน 3. พฤตกิ รรมทพ่ี งึ ประสงค์ ในโรงเรียนเพิม่ ขึน้ 4. พฤตกิ รรมทไี่ ม่พึงประสงค์ ในโรงเรยี นลดลง 5. เกิดกระบวนการมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนา คุณธรรม จริยธรรมในโรงเรยี นจากทุกภาคสว่ นที่เก่ยี วขอ้ ง เช่น ผ้บู ริหาร โรงเรยี น ครู บุคลากร นกั เรยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชน 6. มีองคค์ วามรู้ นวัตกรรม การสรา้ งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และการบูรณาการกับการจัดการเรยี นรใู้ นชัน้ เรียน 7. เปน็ แหล่งเรียนรขู้ องโรงเรียนคุณธรรม เอกสารประกอบเพม่ิ เติม ( ภาคผนวก )

๑๖ ตอนที่ ๓ ความคดิ เหน็ ของผบู้ งั คับบัญชาขั้นตน้ เก่ียวกบั คณุ ลกั ษณะ คุณสมบตั แิ ละผลงานท่ีโดเด่นเปน็ แบบอยา่ ง ตามหลกั เกณฑก์ ารประเมินคุรชุ น คนคุณธรรม ............................................................................................................................. .................................................................. .......................................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................................. ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่า (นาย/นาง/นางสาว)(ระบชุ ่ือผู้ขอรบั การพิจารณา) นางรตั นาวงศ์ เละหะนะ ตำแหน่งผ้อู ำนวยการโรงเรียนบา้ นโนนยาง เป็นผู้มีความเหมาะสมแก่การยกย่องให้เป็น แบบอย่าง “คุรชุ น คนคุณธรรม” ประจำปีงบประมาณ 2565 ตามเกณฑ์ในประกาศฯทุกประการ ลงชอื่ ( นางรัตนาวงศ์ เลาะหะนะ ) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนโนนยาง วันท่ี 27 เดอื นกกรฎาคม พ.ศ. 2565

๑๗ ภาคผนวก - เกียรตบิ ัตร - ภาพถา่ ยรายงาน - คำส่ัง

๑๘ 1 โรงเรียน 1 นวัตกรรม “ โรงเรียนสุจริต คดิ บวกออนไลน์ ” ตามโครงการเสริมสร้างคณุ ธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา \"ป้องกนั ทจุ ริต\" โรงเรียนบ้านโนนยาง สพป.ยโสธร เขต 1 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- รูปแบบ ธนาคารจาลอง Online Banking สู่โรงเรียนสุจริต Model ของนวตั กรรม คำส่งั โรงเรยี นบ้านโนนยาง ที่ 29 / 2565 เร่ืองแตง่ ตง้ั อนกุ รรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตสำหรับนักเรียน (ป.ป.ช. สพฐ. นอ้ ย) ด้วยโรงเรียนบา้ นโนนยาง ไดร้ บั การคัดเลือกจากสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน เข้าร่วมโครงการเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา “โรงเรียนสุจรติ ” ปงี บประมาณ 2563 เพอื่ ให้การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจรติ สำหรับนกั เรยี น (ป.ป.ช.สพฐ. นอ้ ย) เปน็ ไปตามแนว ดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน โรงเรยี นจงึ แต่งตง้ั อนุกรรมการปอ้ งกัน และปราบปรามการทจุ รติ สำหรบั นักเรียน ดังนี้ 1.เด็กหญิงพาขวญั สมุ าพา ประธานกรรมการ 2.เดก็ ชายธรรมภล ลออวิไล กรรมการ 3.เด็กชายยศพัฒน์ วิฤทธ์ิชัย กรรมการ 4.เดก็ ชายภวู ดล ยศสมบตั ิ กรรมการ 5.เด็กหญงิ ขตั ติยาภรณ์ จริตน้ การและเลขานุการ - มบี ทบาทและหน้าที่ ดังน้ี ๑) กำหนดมาตรการและแนวทางการดำเนนิ การสง่ เสริมป้องกนั และพฒั นาตาม คุณลักษณะของโรงเรียนสุจรติ ๒) ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดีตามคุณลกั ษณะของโรงเรียนสุจริต ๓) สอดสอ่ งดแู ล

๑๙ พฤติกรรมของนักเรยี นที่ไม่พึงประสงค์ตามคณุ ลักษณะของโรงเรียนสุจริต ๔) เป็นผนู้ ำในการสรา้ งเครือขา่ ยคุณลกั ษณะ ของโรงเรยี นสุจรติ ในการดำเนินการจดั กจิ กรรมเพ่ือป้องกันการทุจริตต่อโรงเรียนและชุมชน ๕) ประสานความร่วมมือในการปฏิบตั ิงานระหว่างนักเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชนและหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วข้อง ๖) สรรหา/คดั สรร ผู้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีตามลกั ษณะของโรงเรียนสจุ รติ ๗) ประชาสมั พนั ธ์กจิ กรรมโรงเรยี นสจุ ริตในการป้องกนั และตอ่ ต้านการทุจริต ๘) จัดทำรายงานผลการปฏบิ ตั ิงานต่อโรงเรียน ๙) ปฏบิ ตั งิ านอ่ืน ๆ ตามที่ได้รบั มอบหมาย ทัง้ น้ีขอใหค้ ณะกรรมการท่ไี ด้รับการแตง่ ตง้ั ปฏบิ ัติหน้าท่ีตามแนวทางการป้องกันและปราบปรามการ ทุจรติ สำหรับนกั เรยี น (ป.ป.ช.สพฐ.นอ้ ย) โดยเคร่งคัด สง่ั ณ วันที่ 17 พฤษภาคมม พ.ศ. 2565 + ( นางรัตนาวงศ์ เลาะหะนะ ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นโนนยาง

๒๐ คำสัง่ โรงเรยี นบา้ นโนนยาง ที่ 31 / 2565 เรอ่ื ง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการดำเนินโครงการโรงเรยี นสุจริต ประจำปกี ารศึกษา 2565 ……………………………………………….………………………..…. ดว้ ยโรงเรียนบ้านโนนยาง จะดำเนินโครงการเสริมสรา้ งคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล ในสถานศกึ ษา “โรงเรยี นสจุ ริต” ให้เปน็ ไปตามยทุ ธศาสตร์ พันธกจิ วัตถุประสงค์ ขับเคลื่อนสโู่ รงเรยี นตลอดจนการ บริหารจดั การ การนเิ ทศกำกับตดิ ตามโรงเรียนสจุ รติ ให้มแี นวปฏบิ ตั ิทด่ี ีในการป้องกันการทุจรติ สามารถเผยแพรผ่ ลงานสู่ สาธารณชน และขยายผลใหก้ ับเครือข่ายโรงเรยี นสุจรติ ของแตล่ ะเขตพืน้ ท่ีการ และเพือ่ ใหก้ ารจดั กิจกรรมดังกล่าวดำเนนิ ไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดผลดบี รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ จงึ แต่งตงั้ คณะกรรมการดำเนินโครงการเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษา “โรงเรียนสุจริต” ระดับสถานศกึ ษา ดังตอ่ นี้ 1. นางรัตนาวงศ์ เลาะหะนะ ผู้อำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ 2. นายบรรจง อุทก ครู รองประธาน 3. นายพรสทิ ธ์ิ สายรัตน์ ครู กรรมการ 4. นางกลิ่นแกว้ จลุ วรรณา ครู กรรมการ 5. นางสาวปรีชญา ศรโี สพันธ์ ครพู ่ีเล้ยี งเด็กพิการ กรรมการ 6. นางสาวธนนั ทิกานต์ อทุ ก ครูอัตราจ้าง กรรมการ 7. นางสาวสธุ ิดา พลกัลป์ ครอู ัตราจ้าง กรรมการ 8. นางสาวภัทรณฤนณ์ เดชศิริ ครูอัตราจา้ ง กรรมการ 9. นายวิทยากูล โสระมรรค ครอู ัตราจ้าง กรรมการ 10. นางสาวนรศิ รา นครวงษ์ พนกั งานราชการครู กรรมการและเลขานุการ 11. นายพงษ์พัฒน์ ธรรมรักษ์ เจา้ หนา้ ที่ธุรการ กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานุการ โดยมีบทบาท/มีหนา้ ท่ี ดังนี้ 1. วางแผนพฒั นาโครงการ “โรงเรียนสุจรติ ” ระยะสั้นระยะยาว 2. ดำเนินการขับเคล่อื นโครงการ “โรงเรียนสุจรติ ” ใหเ้ ป็นไปตามแผน/นโยบาย/ยุทธศาสตรข์ อง โครงการ 3. สง่ เสรมิ สนบั สนุน พัฒนา วิจยั นวัตกรรมการเรียนการสอน และจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียน การสอน 4. นเิ ทศ กำกบั ตดิ ตาม และประเมินผล การดำเนนิ งานโครงการ “โรงเรยี นสุจรติ ” 5. สรุปรายงานผลการดำเนนิ งานใหส้ ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน สำนกั งานเขพน้ื ที่ การศกึ ษาประถมศึกษาพะเยา เขต ๑ เป็นรายไตรมาสและสรปุ ผลประจำปี 6. เรอ่ื งอืน่ ๆ ท่ีเหน็ สมควร และเปน็ ประโยชนต์ อ่ การดำเนินโครงการ “โรงเรยี นสุจรติ ”

๒๑ ใหผ้ ้ทู ่ีไดร้ บั การแต่งตั้งตามคำสงั่ นีป้ ฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รบั มอบหมายอยา่ งเตม็ กำลังความสามารถ เพ่ือให้ บงั เกดิ ผลดีแก่ทางราชการตามวตั ถุประสงค์ทกุ ประการ หากมีปญั หาอุปสรรคอน่ื ใดให้รีบแจง้ ต่อผู้บังคับบัญชาโดยเร็ว เพ่อื หาทางป้องกันและแก้ไขต่อไป สง่ั ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ( นางรัตนาวงศ์ เลาะหะนะ ) ( ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนยาง )

๒๒ จดุ เดน่ ของนวัตกรรม มีระบบการวางแผนตามกระบวนการ PDCA มีกจิ กรรมและขั้นตอนการดำเนนิ งานชัดเจน ความสอดคล้องกับโครงการโรงเรียนสุจริต สอดคลอ้ งกบั คุณลกั ษณะตามโรงเรยี นสจุ ริต และเนน้ การมวี ินยั มีนสิ ัยประหยดั อดออม เปน็ หลักในการจัด กิจกรรม

๒๓ คา่ ยเยาวชน อบรมคุณธรรม จริยธรรม โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ เปน็ ครูแกนนำ อบรมคณุ ธรรม จริยธรรม โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. ณ โรงเรยี นพระเสารส์ ามัคคีวิทยาคม อ.มหาชนะชยั จ.ยโสธร

๒๔ ภาพรายงานผลการปฏิบัตงิ านราชการ เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาเสนอขอคุรชุ น คนคณุ ธรรม (อดุ มการณ์ คุณธรรม) สงั กดั สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 ศกึ ษาดูงานโรงเรยี นชุมชนแก่งเสอื เตน้ อ.พฒั นานิคม จ.ลพบรุ ี โรงเรียนตน้ แบบคุณธรรม โดยการนำของทา่ นรองผอ.สพป.ยส.1 นายสรุ ยิ ันต์ ม่งิ ขวญั ประชุมโรงเรยี นต้นแบบนำเสนอโครงการ โครงงานโรงเรยี นคณุ ธรรม ศกึ ษาดงู านโรงเรียนชุมชนแกง่ เสือเต้น อ.พัฒนานิคม จ.ลพบรุ ี โรงเรียนตน้ แบบคณุ ธรรม โดยการนำของท่านรองผอ.สพป.ยส.1 นายสรุ ิยันต์ มิง่ ขวัญ

๒๕ เดนิ ทางศึกษาดูงานโรงเรยี นคณุ ธรรมตน้ แบบ สพฐ. ณ โรงเรียนชมุ ชนบา้ นแก่งเสือเตน้ อำเภอพัฒนานคิ ม จงั หวัดลพบรุ ี ในวนั ที่ 15 - 16 สงิ หาคม 2561 ศกึ ษาดงู านโรงเรยี นชมุ ชนแกง่ เสอื เตน้ อ.พฒั นานคิ ม จ.ลพบรุ ี โรงเรยี นตน้ แบบคณุ ธรรม โดยการนำของทา่ นรองผอ.สพป.ยส.1 นายสรุ ิยนั ต์ มง่ิ ขวญั บริจาคทาน ทำบุญสังฆทาน ทำโรงทาน ในโครงการธรรมะสัญจร ณ วัดปา่ หนองบัวแดง ต.พระเสาร์ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ในวนั ท่ี 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2564

๒๖ ผลงานผู้บรหิ าร และโรงเรียน รางวลั เหรยี ญทอง การเขียนเรียงความหลักธรรมคำสอนในพระพทุ ธศาสนาท่ขี ้าพเจา้ ยึด เปน็ แนวทาง ในการดำเนนิ ชีวติ ในโครงการโรงเรยี นวิถีพทุ ธ ประจำปีงบประมาณ 2565

๒๗ โล่ รางวัล จากเลขาธิการสพฐ. การแข่งขนั การต่อสมการคณติ ศาสตร์ A Math Challence 2022 รับมอบจากนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ยโสธร ในวนั ท่ี 20 มีนาคม 2565 ณ หอประชุมวิมานพญาแถน จงั หวดั ยโสธร