1. ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การศึกษาเรื่องใดเร่อื งหน่ึงเกีย่ วกับวิทยาศาสตรด์ ้วยตนเองโดยใช้ วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ ภายใต้คาแนะนาหรอื ข้อเสนอแนะของครู หรอื ผเู้ ชีย่ วชาญ กจิ กรรมอาจทาเป็นรายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม 1
2. หลกั การสาคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ • เปน็ กจิ กรรมที่เก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี • เนน้ แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง • เน้นกระบวนการแสวงหาความรู้โดยใช้วิธกี ารทาง วิทยาศาสตร์ • เน้นการคิดเป็น ทาเปน็ และการแกป้ ญั หาด้วยตนเอง 2
3. จดุ มุ่งหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ • เพ่ือให้นักศึกษาใชค้ วามรูแ้ ละประสบการณ์เลือกทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ตามที่ตนสนใจ • เพื่อให้นกั ศึกษาได้ศกึ ษาค้นคว้าหาขอ้ มลู จากแหลง่ ความรตู้ ่างๆ ดว้ ยตนเอง • เพอ่ื ให้นักศกึ ษาไดแ้ สดงความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ • เพ่อื ใหน้ ักศกึ ษามเี จตคติทางวทิ ยาศาสตร์และเหน็ คุณค่าของการใช้ กระบวนการวิทยาศาสตรใ์ นการแก้ปญั หา • เพือ่ ใหน้ ักศกึ ษามองเห็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในแตล่ ะท้องถ่นิ 3
4. ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มกี ี่ประเภท 4
4.1 โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสารวจ วตั ถุประสงค์ เพ่ือค้นหาความรทู้ ี่มอี ยู่หรือเปน็ อยตู่ ามธรรมชาติ ใช้วธิ ีการสาราจและรวบรวมแล้วนาข้อมูลมาจดั การกระทา ตวั อย่าง เช่น การสารวจหมูเ่ ลือดของผู้เรยี นระดับช้นั ตา่ งๆ 5
4.2 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือหาคาตอบโดยการออกแบบทดลองเพ่อื หา คาตอบของปญั หา หรอื อตรวจสอบสมมติฐาน ลักษณสาคญั คอื มตี วั แปรควบคมุ ตา่ งๆ ( ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม ตวั แปรควบคมุ ) ตัวอยา่ ง เช่น การพัฒนาผลิตภณั ฑแ์ ก้วมังกรอบแหง้ 6
4.3 โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทสงิ่ ประดิษฐ์ วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ พัฒนาหรอื ปฏิบตั เิ ครอื่ งมอื เครอื่ งใช้ใหใ้ ชง้ าน ได้ตามความประสงค์ ประดษิ ฐส์ ิ่งใหม่หรือปรับปรงุ อปุ กรณส์ ิ่งมีที่อยู่ (ต้องกาหนดตวั แปรเหมือนประเภททดลอง) ตวั อยา่ ง เช่น เครอื่ งขุดลอ้ มตน้ ไม้ 7
4.4 โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททฤษฎี วัตถุประสงค์ เพอ่ื เสนอแนวความคิดใหมๆ่ ในการอธิบายเรอ่ื ง ใดเร่ืองหนง่ึ อย่างมเี หตุผล ใชห้ ลักวิทยาศาสตรอ์ ธิบายปรากฎการณเ์ ก่าในแนวใหม่ ตัวอยา่ ง เช่น การดารงชิวติ อยู่ในอวกาศของมนษุ ย์ 8
5. ขนั้ ตอนในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ 9 การคดิ และเลอื กหัวข้อเรื่องหรอื ปัญหาท่จี ะศึกษา การวางแผนในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การลงมือทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์
5.1 การคิดและเลอื กหัวขอ้ เรอ่ื งหรอื ปัญหาทจี่ ะศกึ ษา การอา่ นงานวิชาการตา่ งๆ การสงั เกตปรากฎการณ์ส่ิงแวดลอ้ มรอบๆ ตัว การฟงั และการชมรายการทางวิทยุ โทรทัศน์ อนิ เตอรเ์ นต็ แหลง่ ทมี่ า งานอดิเรกของนักเรยี นเองหรืองานทเ่ี ป็นอาชพี เสรมิ งานที่เปน็ อาชีพในทอ้ งถนิ่ การเขา้ ชมนิทรรศการหรือโครงงานวทิ ยาศาสตร์ผอู้ ่ืน กจิ กรรมการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น การสนทนากับผู้สอน เพอ่ื นๆ หรือบคุ คลอ่นื ๆ 10
5.2 การวางแผนในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การกาหนดปัญหาหรอื ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน 11 การกาหนดวัตถปุ ระสงค์/สมมตฐิ านของการศกึ ษาคน้ ควา้ (ถา้ มี) การกาหนดขอบเขตการศกึ ษา การอา่ นและศกึ ษาคน้ คว้าจากเอกสารท่ีเกีย่ วขอ้ ง การวางแผนวิธดี าเนินการ เช่น วัสดุอปุ กรณ์ การออกแบบการทดลองฯ
5.2 การวางแผนในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การวางแผนวธิ ดี าเนินการ 12
5.2 การวางแผนในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การวางแผนวธิ ดี าเนินการ 13
5.3 การลงมอื ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 14 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทสารวจ = สารวจเก็บรวบรวมขอ้ มูล โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททดลอง = ปฏบิ ตั กิ ารทดลอง โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภทสงิ่ ประดษิ ฐ์ = สร้างหรือประดษิ ฐ์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททฤษฎี = คน้ ควา้ และคิดสรา้ งทฤษฎี
5.4 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 15 1 ส่วนปกและส่วนต้น 2. สว่ นเน้อื เร่อื ง 3. ส่วนทา้ ย
5.4 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 สว่ นปกและสว่ นตน้ 16
5.4 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 สว่ นปกและสว่ นตน้ 17
5.4 การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 สว่ นปกและสว่ นตน้ 18
5.4 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2. ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง 19
5.4 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2. ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง 20
5.4 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2. ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง 21
5.4 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3. ส่วนทา้ ย 22
5.5 การแสดงผลงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 23
6. แนวทางการประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขยี น การนาเสนอ บอรด์ แสดง ความคิ ประโยชน์ รายงาน ผลงาน โครงงาน สรา้ งสรรค์ • สามารถใชง้ าน • เขียนรายงาน • ส่ือนาเสนอเขา้ ใจ • ตวั อกั ษร รูปภาพ • ความแปลกใหม่ และเผยแพรไ่ ด้ สมบูรณ์ ครอบ ง่าย ขนาดเหมาะสม ของปญั หาและ คลมุ เนอื้ หาและ การระบตุ วั แปร • พัฒนาตอ่ ยอดได้ องคป์ ระกอบ • สามารถอธบิ าย • อธิบายขัน้ ตอน และตอบขอ้ ทดลองได้ชดั เจน • ความแปลกใหม่ • การใช้ทกั ษะ ซักถามแสดงถึง ของการออกแบบ กระบวนการทาง ความเข้าใจใน • มีคความคดิ ริเรมิ่ ทดลอง วิทยาศาสตร์ เน้อื หา สรา้ งสรรค์ • หลกั การบนั ทกึ ขอ้ มูลเพียงพอ 24
25
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: