1 บทเรียนโมดลู กลุ่มวิชาวทิ ยาสาสตร์ แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์ ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ช้ันปที ี่ 1 ระบคบำนนำ เิ วศ นายปกรณเ์ กยี รติ ใหมทอง ตาแหนง่ ครู วิทยำลยั เกษตรและเทคโนโลยีอุทยั ธำนี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำ กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร
2 คำนำ บทเรียนโมดูล เร่ือง ระบบนิเวศ ฉบับนี้ ข้ำพเจ้ำเรียบเรียงขึ้น เพื่อใช้ประกอบกำรเรียนรู้ วิชำ วิทยำศำสตร์เพอ่ื พัฒนำทกั ษะชวี ิต รหสั วิชำ 20000 – 1301 ระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ ช้ันปีที่ 1 โดยพยำยำมเขียนให้นักเรียนเข้ำใจง่ำย นักเรียนสำมำรถศึกษำด้วยตนเอง เพื่อให้มีควำมรู้พื้นฐำนก่อนจะ ศกึ ษำวิชำนน้ั ๆ บทเ รี ยน โมดูลน้ีมีจุดปร ะสงค์เพื่อใ ห้นักเรี ยน ไ ด้ศึกษำ เ กี่ยวกับ คว ามหมายของระบบนิเว ศ องค์ประกอบของระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ และการหมนุ เวยี นสารในระบบนิเวศ ผู้จัดทำหวังว่ำบทเรียนโมดูล เรื่อง ระบบนิเวศ ฉบับน้ี จะให้นักเรียนได้รับควำมรู้ควำมเข้ำใจ เรือ่ งระบบนเิ วศ มำกยง่ิ ขน้ึ และส่งผลใหผ้ ลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นนักเรยี นสงู ขึน้ ปกรณ์เกยี รติ ใหมทอง
สำรบัญ 3 คานา หนา้ สารบัญ 2 คำแนะนำกำรใช้บทเรยี นโมดูล 3 ขน้ั ตอนในกำรใช้บทเรยี นโมดลู 4 หลกั กำรและเหตุผล 5 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6 กำรประเมินหลังเรยี น 6 กำรเรยี นซ่อม 7 ขอบข่ายเนือ้ หา 7 สาระสาคญั 7 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 8 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ใบความรู้ 9 กิจกรรมตรวจสอบควำมเข้ำใจที่ 10.1 15 เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 10.1 กจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 10.2 16 เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 10.2 24 กิจกรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 10.3 25 เฉลยกิจกรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจท่ี 10.3 26 กจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจท่ี 10.4 29 เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 10.4 32 กิจกรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจท่ี 10.5 34 เฉลยกิจกรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจท่ี 10.5 36 แบบทดสอบหลังเรยี น 38 บทปฏิบัตกิ าร 40 แบบประเมนิ บทปฏิบัตกิ าร 42 44 52 54
4 คำแนะนำกำรใชบ้ ทเรยี นโมดูล การใช้บทเรียนโมดูลให้เกิดประสิทธิภาพการจัดการเรียน การสอนให้เกิดประโยชน์สูงสุดนักเรียน ควรปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. การเตรยี มตวั ของนกั เรยี น 1.1 นักเรียนศึกษาโมดูลล่วงหน้าก่อนทาบทปฏิบัติการ หรือปฏิบัติกิจกรรมตรวจสอบความ เข้าใจเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าไจเก่ียวกับจุดประสงค์ วัสดุ อุปกรณ์และสารเคมี วิธีการ ทดลอง ขอ้ ควรปฏิบัติในการทดลอง เทคนิคการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ตา่ ง ๆ และสามารถทาการทดลองได้อยา่ งถกู วิธี ประหยัดวลา และมีความปลอดภัย 1.2 วางแผน และจัดเตรียมอุปกรณ์ท่ีใช้ประกอบการเรียนรู้ของตนเองหรือของกลุ่มให้พร้อม สาหรับการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามที่ได้รบั มอบหมาข 2. ดาเนินการจดั กจิ กรรมในแตล่ ะครั้ง นกั เรียนควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 2.1 ศกึ ษาแนวทางในการปฏิบัตกิ ิจกรรมใหม้ คี วามเข้าใจอยา่ งถอ่ งแท้ หากพบปญั หาหรือไม่ เขา้ ใจใหส้ อบถามขอ้ มูลเพมิ่ เดมิ จากครู 2.2 ปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามลาดบั ขั้นตอนทก่ี าหนด ดังน้ี 2.2.1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบภาคความรกู้ ่อนเรยี น 2.2.2 นกั เรียนศึกษาและปฏิบตั กิ กิ รรมต่าง ๆ ตามแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ตามลาดบั ขนั้ ตอนทก่ี าหนด 2.2.3 นักเรยี นส่งผลงานหรอื ข้นึ งานในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม มสี ว่ นร่วมในการนาเสนอผลงาน หรอื อภปิ รายความรู้ 2.2.4 นักเรียนทาแบบทดสอบภาคความรู้หลังเรยี น
5 ขัน้ ตอนในกำรใชบ้ ทเรียนโมดลู 1. ครูแนะนานักเรียนเก่ียวกบั องค์ประกอบของบทเรยี นโมดลู เร่ือง ระบบนิเวศ 2. นักเรยี นศกึ ษา และตรวจสอบองค์ประกอบของบทเรยี นโมดลุ เรือ่ ง ระบบนิเวศ ว่าครบถ้วนหรอื ไม่ 3. นักเรียนศึกษา และปฏบิ ัติกิจกรรม ตามลาดับดงั นี้ 3.1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบภาคความร้กู ่อนเรียน 3.2 นกั เรยี นศกึ ษาและค้นควา้ จากใบความรู้ ดงั นี้ - ความหมายของระบบนเิ วศ - องค์ประกอบของระบบนิเวศ - การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ - ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ - การหมนุ เวียนสารในระบบนิเวศ 3.3 นกั เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมตามใบกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจและบทปฏบิ ัติการ ดงั น้ี 3.3.1 กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจท่ี 1 3.3.2 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 2 3.3.3 กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 3 3.3.4 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจท่ี 4 3.3.5 กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจท่ี 5 3.3.6 บทปฏิบัติการท่ี 6 เรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ 3.4 ในระหว่างการปฏบิ ัติกกิ รรมในใบตรวจสอบความเข้าใจที่ 1-5 ถา้ หากนักเรียน มขี อ้ สงสยั สามารถซกั ถามเพ่อื ใหส้ ามารถปฏิบัติได้ถูกต้องได้ 3.5. เมื่อปฏบิ ัติกกิ รรมตรวจสอบความเขา้ ใจในแต่ละช่ัวโมง ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภิปราย ความรูแ้ ละเฉลยคาตอบของการปฏิบตั กิ จิ กรรม 4. นกั เรยี นรว่ มกันซักถาม และอภปิ รายความรเู้ กย่ี วกบั ระบบนิเวศ 5. นักเรียนทาแบบทดสอบภาคความรู้หลงั เรยี น
6 ระบบนเิ วศ หลกั กำรและเหตผุ ล ระบบนิเวศเป็นความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ กับบริเวณแวดล้อมที่ส่ิงมีชีวิตเหล่านั้นดารงอยู่ ในพ้ืนท่ีใดพื้นท่ีหนึ่ง ซึ่งความสัมพันธ์น้ันคือการอาศัยอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และส่ิงมีชีวิตกับ สิ่งไม่มชี วี ติ เพอื่ ใหเ้ กิดการแลกเปลี่ยนสารและถ่ายทอดพลังงานระหว่างกัน ในระบบนิเวศต่าง ๆ ประกอบด้วย บริเวณที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่และกลุ่มประชากรท่ีมีชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว พืชและสัตว์ต้องการบริเวณที่อยู่ อาศัยท่ีมีขนาดเหมาะสมเพื่อการมีชีวิตอยู่รอดตลอดไป ส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศจะทาหน้าท่ีแตกต่างกันไป ก่อใหเ้ กิดการหมุนเวยี นของสารระหว่างสว่ นทมี่ ีชีวติ กับสว่ นท่ีไม่มชี ีวิต นัน่ คือจะมีการหมนุ เวียนของสารอาหาร และเกิดการถ่ายทอดพลงั งานอยตู่ ลอดเวลาอยา่ งต่อเนื่อง จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1 ด้านความรู้ 1.1 อธบิ ายความหมายของระบบนเิ วศได้ 1.2 บอกองค์ประกอบของระบบนิเวศได้ 1.3 อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างสิง่ มีชวี ิตในระบบนิเวศได้ 1.4 อธบิ ายกลไกการหมนุ เวยี นของสารในระบบนเิ วศได้ 2 ดา้ นทกั ษะ 2.1 เขียนแผนภาพการถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศได้ 3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 3.1 มีความรบั ผดิ ชอบ 3.2 มีความคิดสรา้ งสรรค์ 3.3 มีความละเอยี ดรอบคอบ 3.4 มีความสามารถทางานกับผอู้ ่นื ได้ 3.5 มีความปลอดภัย
7 กำรประเมนิ หลังเรียน นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินผลผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 สามารถเรียนบทเรียน โมดูลต่อไปได้แต่ถ้า ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 75 นักเรยี นตอ้ งเรียนซอ่ มเสริม กำรเรียนซ่อมเสรมิ ถ้านักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีระบุไว้ ให้นักเรียนได้ศึกษาตามจุดประสงค์ที่ไม่ผ่าน แล้วทาแบบทดสอบ ภาคความรหู้ ลงั เรียนใหผ้ า่ นเกณฑ์ท่กี าหนดไว้ การเรยี นซ่อมเสริม ให้นกั เรียนปฏิบัติ ดงั น้ี 1. ใช้เวลามากกว่าเดิม 2. ใหเ้ พอื่ นชว่ ยเหลือ 3. ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ ขอบขำ่ ยเนือ้ หำ 1 ความหมายของระบบนเิ วศ 2 องค์ประกอบของระบบนิเวศ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 4 ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวติ ในระบบนิเวศ 5 การหมนุ เวียนสารในระบบนเิ วศ
8 สำระสำคัญ ระบบนเิ วศเป็นความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ กับบริเวณแวดล้อมท่ีส่ิงมีชีวิตเหล่านั้นดารงอยู่ ในพ้ืนท่ีใดพื้นที่หน่ึง ซ่ึงความสัมพันธ์นั้นคือการอาศัยอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และส่ิงมีชีวิตกับ ส่งิ ไม่มชี ีวติ เพ่อื ใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นสารและถ่ายทอดพลงั งานระหว่างกัน ในระบบนิเวศต่าง ๆ ประกอบด้วย บริเวณที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่และกลุ่มประชากรที่มีชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว พืชและสัตว์ต้องการบริเวณท่ีอยู่ อาศัยท่ีมีขนาดเหมาะสมเพื่อการมีชีวิตอยู่รอดตลอดไป ส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศจะทาหน้าที่แตกต่างกันไป กอ่ ให้เกิดการหมนุ เวียนของสารระหวา่ งส่วนทม่ี ีชวี ิตกับสว่ นท่ีไม่มชี วี ติ นนั่ คอื จะมีการหมุนเวียนของสารอาหาร และเกิดการถ่ายทอดพลงั งานอยู่ตลอดเวลาอยา่ งต่อเนื่อง ทบทวนควำมรู้เดมิ กนั กอ่ นน่ะคะ่
9 แบบทดสอบก่อนเรียน คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบบั น้ีมี 1 ตอน คือ แบบปรนยั ชนดิ เลอื กตอบ 5 ตวั เลือก จานวน 20 ขอ้ ( 10 คะแนน ) 2. จงเลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ งเพียงข้อเดยี ว แลว้ ทาเครอ่ื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ 3. เวลาท่ใี ชใ้ นการทาแบบทดสอบ 20 นาที ตอนที่ 1 แบบปรนัยชนดิ เลือกตอบ 5 ตวั เลือก จานวน 20 ขอ้ จุดประสงค์การเรียนรทู้ ่ี 1 อธบิ ายความหมายของระบบนเิ วศได้ 1. ข้อใดเปน็ ความหมายของระบบนิเวศ ก. การอย่รู ่วมกนั เป็นกล่มุ ของส่ิงมชี วี ิต ข. กระบวนการหมุนเวยี นสารชนดิ ต่างๆ ในระบบนิเวศ ค. สงิ่ ต่างๆ ทีอ่ ยู่รอบตัวเราซึ่งมีทง้ั ส่งิ มชี ีวิตและไม่มชี ีวิต ง. กระบวนการถา่ ยทอดพลังงานของผู้ผลิตไปสู่ผบู้ รโิ ภค จ. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชวี ิตตา่ งๆ กบั สิ่งแวดล้อม จากรปู จงตอบคาถามข้อ 2 – 3 2. ส่งิ มีชวี ิตในรูป C จัดอยใู่ นข้อใด ก. ประชากร ข. สงิ่ มชี ีวิต ค. แหลง่ ท่ีอยู่ ง. กลุ่มสิ่งมชี วี ติ จ. โลกของส่งิ มชี ีวติ 3. รูป A จดั อย่ใู นขอ้ ใด ก. ประชากร ข. ส่ิงมีชวี ติ ค. แหลง่ ที่อยู่ ง. กล่มุ ส่ิงมชี ีวิต จ. โลกของส่งิ มชี ีวติ
10 จุดประสงค์กำรเรยี นรทู้ ี่ 2 บอกองคป์ ระกอบของระบบนิเวศได้ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 4 – 7 4. ขอ้ ใดจดั เปน็ สัตว์กนิ เน้ือ ข. B ก. A ง. D ค. C จ. E 5. ข้อใดจัดเป็นสัตวท์ ่ีกนิ ท้งั พชื และสัตว์ ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. D และ E จ. E และ G 6. ขอ้ ใดจัดเป็นผยู้ อ่ ยสลาย ข. C ก. B ง. F ค. D จ. G 7. แสงแดด อากาศ น้า และดนิ จดั เป็นส่วนประกอบประเภทใดในระบบนเิ วศ ก. อนินทรียส์ าร ข. อนิ ทรยี ์สาร ค. สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ ง. ผูย้ ่อยสลายสารอนิ ทรยี ์ จ. สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ
11 จุดประสงคก์ ำรเรียนรทู้ ่ี 3 เขียนแผนภาพการถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศได้ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 8 – 9 8. จากรปู ตรงกับข้อใด ข. เต่า ก. โซ่อาหารแบบปรสติ ง. พืช ข. โซ่อาหารแบบเศษอนิ ทรยี ์ ค. โซอ่ าหารแบบผสม ง. โซอ่ าหารแบบหมุนเวยี น จ. โซอ่ าหารแบบผู้ล่า 9. ขอ้ ใดจัดเป็นผผู้ ลิต ก. นกอนิ ทรีย์ ค. หนอน จ. เตา่ และหนอน จากรปู จงตอบคาถามข้อ 10 – 11
12 10. ขอ้ ใด ไมจ่ ัด เป็นผู้บริโภคลาดบั ท่ี 1 ก. วัวป่า ข. หมาป่า ค. ยรี าฟ ง. ลิง จ. กวาง 11. ข้อใดจดั เปน็ ผู้บริโภคลาดับสูงสุด ข. แมวป่า ก. เสือดาว ง. ววั ปา่ ค. สงิ โต จ. ปลวก จุดประสงค์กำรเรยี นร้ทู ี่ 4 อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศได้ 12. ถา้ การรวมกลมุ่ ของสง่ิ มชี ีวติ มจี านวนมากเกนิ ไปจะเกิดผลเสยี ในข้อใด ก. ทาให้เกิดการผสมพันธ์ุท่ีหลากหลาย ข. ทาให้ปรมิ าณผู้ล่าเหยอื่ ลดลง ค. ทาให้ศัตรูจะไล่จับกนิ ไดง้ ่าย ง. ทาให้การอพยพโยกยา้ ยจะลาบาก จ. ทาใหเ้ กิดการแกง่ แยง่ แขง่ ขนั กันมากขน้ึ 13. ข้อใดกาหนดรูปแบบความสมั พนั ธ์ของไลเคนได้ถกู ต้อง ก. ภาวะพึ่งพากัน ข. ภาวะไดป้ ระโยชนร์ ่วมกนั ค. ภาวะองิ อาศยั ง. ภาวะปรสติ จ. ภาวะหลัง่ สารยบั ย้ังการเจริญ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 14 – 16
13 14. ขอ้ ใดเป็นการอยรู่ ่วมกนั ของสง่ิ มชี วี ติ โดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ายหน่งึ ไมไ่ ด้และไม่ เสียประโยชน์ ก. A ข. B ค. C ง. D จ. B และ C 15. ขอ้ ใดเปน็ การอยรู่ ่วมกนั ของสิ่งมีชวี ติ ทีเ่ รียกว่า ภาวะลา่ เหย่อื ก. A ข. B ค. C ง. D จ. B และ C 16. ข้อใดเปน็ การอยรู่ ่วมกนั ของส่ิงมชี ีวติ ที่คล้ายคลึงกัน ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. D และ A จ. B และ D 17. ข้อความใดกลา่ วถูกต้องเก่ียวกับความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มีชวี ติ ในระบบนเิ วศ ก. ภาวะปรสิตเปน็ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตท่ตี ายแล้ว ข. ปลาฉลามกับเหาฉลามเป็นความสมั พนั ธท์ เี่ หมอื นกันกบั นกเอี้ยงกบั ควาย ค. ภาวะอิงอาศยั ฝ่ายที่ไดร้ ับประโยชน์จะมีขนาดใหญ่กวา่ และไม่เปน็ อันตราย ง. ภาวะพ่ึงพากนั สิ่งมชี ีวิตไมจ่ าเปน็ ต้องอยู่ด้วยกนั เสมอไป จ. แมงมุมกับกระตา่ ยอาศยั อยใู่ นทุง่ หญ้าจดั เป็นภาวะเป็นกลางต่อกนั
14 จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ท่ี 5 อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี ีวิตในระบบนเิ วศได้ 18. จากรูป ข้อใดเรยี งลาดับหมายเลข 1 – 4 ได้ถกู ต้อง ก. การควบแน่น, การระเหย, การรวมตัวของน้า, การเกิดฝน ข. การเกิดฝน, การระเหย, การควบแนน่ , การรวมตวั ของนา้ ค. การรวมตัวของนา้ , การระเหย, การเกิดฝน, การควบแน่น ง. การระเหย, การควบแน่น, การเกดิ ฝน, การรวมตัวของนา้ จ. การระเหย, การเกิดฝน, การรวมตัวของน้า, การควบแน่น 19. ข้อใด กลำ่ วผิด เก่ียวกับวฏั จักรคารบ์ อน ก. พืชสงั เคราะห์ดว้ ยแสงต้องใช้แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ ข. สัตวห์ ายใจต้องใช้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ค. การเผาไหม้เช้อื เพลิงจะปลอ่ ยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ง. การย่อยสลายซากพืชซากสัตวจ์ ะปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ จ. ปัจจุบนั แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพ่ิมขึน้ มากกวา่ ปกติ 20. ขอ้ ใดกลา่ ว ไมถ่ กู ต้อง ก. คารบ์ อนเปน็ องคป์ ระกอบหลักของสารอินทรยี ท์ ั้งหมด ข. นา้ เป็นวฏั จกั รทีส่ าคญั และมกี ารหมุนเวียนอยใู่ นระบบนเิ วศ 4 ขน้ั ตอน ค. วฏั จักรฟอสฟอรัสสว่ นใหญจ่ ะอยู่ในรูปของแขง็ ของสารประกอบฟอสเฟต ง. วัฏจักรฟอสฟอรสั เป็นองค์ประกอบสาคัญของสงิ่ มชี ีวิตในรปู พลงั งาน ATP จ. ธาตคุ าร์บอนในบรรยากาศสว่ นใหญ่จะอยูใ่ นรปู ของแก๊สคารบ์ อนมอนนอกไซด์
15 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ข้อ เฉลย 1จ 2ง 3ค 4ข 5ค 6ง 7จ 8จ 9ง 10 ข 11 ค 12 จ 13 ก 14 ง 15 ก 16 ข 17 จ 18 ง 19 ข 20 จ
16 ใบความรู้ เรอื่ ง ระบบนเิ วศ
17 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
18 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
19 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
20 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
21 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
22 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
23 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ (ตอ่ )
24 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ชอ่ื วิชำ : วทิ ยำศำสตร์เพอื่ พฒั นำทกั ษะชีวิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.1 เร่อื ง : ควำมหมำยของระบบนเิ วศ แผน่ ที่ 1 คำสงั่ : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้อง 1. ระบบนเิ วศตรงกับภาษาองั กฤษวา่ อะไร หมายถงึ อะไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จากรปู จงเขยี นคาศพั ทข์ องระบบนเิ วศตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง 3. นิเวศวทิ ยาตรงกับภาษาอังกฤษวา่ อะไร หมายถึงอะไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. จงเตมิ แผนภาพแสดงระดบั ความสัมพนั ธข์ องสง่ิ มีชีวติ ประชากร กลมุ่ ส่ิงมชี ีวิต โลกของ สงิ่ มีชวี ิต และแหลง่ ท่ีอยใู่ นระบบนิเวศ
25 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ช่ือวิชำ : วทิ ยำศำสตร์เพอื่ พฒั นำทักษะชีวติ ควำมเขำ้ ใจที่ 10.1 เรือ่ ง : ควำมหมำยของระบบนเิ วศ แผน่ ที่ 1 คำส่งั : ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนใี้ หถ้ ูกต้อง 1. ระบบนิเวศตรงกบั ภาษาองั กฤษว่าอะไร หมายถึงอะไร ตอบ Ecosystem หมายถงึ ความสัมพันธ์ระหว่างสง่ิ มชี ีวิตตา่ ง ๆ กบั บริเวณแวดลอ้ มที่ ส่งิ มชี ีวิตเหลา่ นน้ั ดารงอยู่ในพ้ืนที่ใดพน้ื ที่หนงึ่ 2. จากรูป จงเขยี นคาศพั ทข์ องระบบนิเวศตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง Communi Populati Biospher Organis e 3. นิเวศวทิ ยาตรงกบั ภาษาอังกฤษวา่ อะไร หมายถงึ อะไร ตอบ Ecology หมายถึง วิชาที่ศึกษาเก่ียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ ส่ิงแวดลอ้ ม . และระหว่างสิ่งมชี ีวติ ดว้ ยกันเอง 4. จงเติมแผนภาพแสดงระดับความสัมพนั ธข์ องส่ิงมีชวี ติ ประชากร กลุม่ สง่ิ มชี ีวิต โลกของ ส่ิงมชี วี ิต และแหล่งท่ีอยู่ในระบบนเิ วศ Organism Population Community สิ่งมชี วี ิต ประชากร กลุม่ สงิ่ มชี วี ิต Biosphere Ecosystem โลกของสิง่ มชี วี ติ ระบบนเิ วศ
26 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ช่ือวิชำ : วิทยำศำสตร์เพือ่ พัฒนำทกั ษะชีวิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.2 เรอื่ ง : องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ แผน่ ท่ี 1 คำสงั่ : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกต้อง 1. จากรปู จงบอกองคป์ ระกอบพืน้ ฐานของระบบนิเวศลงในช่องว่าง และตอบคาถามต่อไปนี้ 1) ผู้ผลิต 2) ผู้บรโิ ภค 3) ผยู้ อ่ ยสลายสารอินทรยี ์ 1.1 ส่วนประกอบที่มีชีวติ ไดแ้ ก่อะไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 1.2 ผูบ้ รโิ ภคจัดเป็นประเภทไหน ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 1.3 สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ ไดแ้ ก่อะไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 1.4 ระบบนเิ วศนี้มีจดุ เรมิ่ ต้นหรอื ได้รบั พลงั งานมาจากอะไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………..
27 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ชือ่ วิชำ : วิทยำศำสตร์เพือ่ พัฒนำทกั ษะชีวติ ควำมเข้ำใจที่ 10.2 เรอ่ื ง : องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ แผน่ ท่ี 2 2. จงเลอื กคาหรือขอ้ ความท่กี าหนดให้เตมิ ลงในช่องวา่ งตามหมายเลข 1-13 ใหถ้ กู ต้อง พวกกินพืช ผู้บรโิ ภค สาหรา่ ย สง่ิ มชี วี ิตไม่สามารถสรา้ งอาหารได้ สงั เคราะหเ์ คมีและไม่มคี ลอโรฟิลล์ แบคทีเรีย พวกกนิ ทงั้ พชื และสตั ว์ ผู้ย่อยสารอินทรีย์ พชื สเี ขยี ว สง่ิ มชี วี ิตที่สรา้ งอาหารได้ พวกกินซากพชื ซากสัตว์ เห็ด สังเคราะห์ดว้ ยแสงและมีคลอโรฟลิ ล์ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13.
28 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ชอ่ื วิชำ : วทิ ยำศำสตรเ์ พ่ือพฒั นำทักษะชีวิต ควำมเขำ้ ใจที่ 10.2 เร่อื ง : องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ แผน่ ที่ 3 3. จากรปู จงบอกช่ือของสิง่ มีชวี ิตใหส้ ัมพนั ธ์กัน 3.1 ผผู้ ลติ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 3.2 กินพืช ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 3.3 กินสตั ว์ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 3.4 กนิ ท้ังพชื และสตั ว์ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 3.5 ผยู้ ่อยสลาย ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 3.6 กนิ ซากพืชสร้างสตั ว์ ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………..
29 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกิจกรรมตรวจสอบ ชอ่ื วชิ ำ : วิทยำศำสตรเ์ พื่อพฒั นำทกั ษะชวี ติ ควำมเข้ำใจท่ี 10.2 เรือ่ ง : องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ แผ่นที่ 1 คำส่ัง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกตอ้ ง 1. จากรปู จงบอกองค์ประกอบพน้ื ฐานของระบบนเิ วศลงในช่องว่าง และตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1) ผ้ผู ลติ 2) ผู้บริโภค 3) ผู้ย่อยสลายสารอนิ ทรยี ์ 1.1 ส่วนประกอบที่มีชวี ติ ได้แก่อะไร ตอบ ผผู้ ลิต ผู้บริโภค และผูย้ ่อยสลายสารอนิ ทรีย์ 1.2 ผบู้ ริโภคจดั เป็นประเภทไหน ตอบ ส่วนประกอบท่มี ีชีวิต หรือ Biotic Component 1.3 สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ ไดแ้ ก่อะไร ตอบ แสงสว่าง นา้ ดนิ อากาศ แร่ธาตุ อุณหภูมิ ความช้นื 1.4 ระบบนิเวศน้ีมีจดุ เรม่ิ ตน้ หรอื ไดร้ บั พลังงานมาจากอะไร ตอบ ดวงอาทติ ย์
30 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ช่อื วชิ ำ : วิทยำศำสตร์เพ่ือพฒั นำทกั ษะชีวติ ควำมเขำ้ ใจท่ี 10.2 เรอ่ื ง : องค์ประกอบของระบบนเิ วศ แผ่นท่ี 2 2. จงเลือกคาหรือข้อความทก่ี าหนดให้เติมลงในช่องว่างตามหมายเลข 1-13 ใหถ้ กู ตอ้ ง พวกกินพืช ผบู้ รโิ ภค สาหร่าย ส่งิ มีชวี ติ ไมส่ ามารถสร้างอาหารได้ สังเคราะห์เคมีและไม่มคี ลอโรฟลิ ล์ แบคทีเรยี พวกกินทง้ั พชื และสตั ว์ ผู้ย่อยสารอินทรีย์ พชื สเี ขียว สง่ิ มชี วี ิตท่ีสรา้ งอาหารได้ พวกกนิ ซากพืชซากสัตว์ เหด็ สังเคราะห์ดว้ ยแสงและมีคลอโรฟลิ ล์ 1. ส่ิงมชี วี ติ ท่สี รา้ งอาหารได้ 2. สิง่ มชี วี ิตไมส่ ามารถสร้างอาหารได้ 3. สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงและมีคลอโรฟลิ ล์ 4. สังเคราะหเ์ คมแี ละไมม่ คี ลอโรฟลิ ล์ 5. ผูบ้ รโิ ภค 6. ผยู้ ่อยสารอนิ ทรยี ์ 7. พชื สีเขยี ว 8. สาหรา่ ย 9. เห็ด 10. แบคทเี รยี 11. พวกกนิ พืช 12. พวกกินทัง้ พืชและสตั ว์ 13. พวกกินซากพชื ซากสตั ว์
31 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ชอื่ วิชำ : วิทยำศำสตร์เพอ่ื พัฒนำทักษะชวี ติ ควำมเข้ำใจที่ 10.2 เรื่อง : องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ แผ่นที่ 3 3. จากรปู จงบอกชื่อของส่ิงมชี วี ิตให้สมั พนั ธก์ ัน 3.1 ผู้ผลิต ตอบ พืช 3.2 กนิ พืช ตอบ ช้างและมา้ ลาย 3.3 กินสตั ว์ ตอบ เสอื ชตี าห์และไฮยีนา 3.4 กนิ ทงั้ พืชและสัตว์ ตอบ - 3.5 ผ้ยู ่อยสลาย ตอบ แบคทเี รียและเห็ด 3.6 กนิ ซากพืชสร้างสตั ว์ ตอบ แรง้
32 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กิจกรรมตรวจสอบ ชือ่ วิชำ : วทิ ยำศำสตร์เพื่อพัฒนำทักษะชวี ิต ควำมเข้ำใจที่ 10.3 เร่อื ง : กำรถำ่ ยทอดพลังงำนในระบบนิเวศ แผ่นที่ 1 คำส่ัง : ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง 1. จากรูปสายใยอาหาร จงบอกช่ือของสง่ิ มีชีวิตต่อไปนีใ้ หส้ ัมพนั ธก์ ัน 1.1 ผ้ผู ลติ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.2 ผู้บริโภคลาดบั 1 ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.3 ผู้บรโิ ภคลาดับ 2 ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.4 ผบู้ รโิ ภคลาดับ 3 ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.5 ผบู้ รโิ ภคพืช ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. 1.6 ผบู้ รโิ ภคสตั ว์ ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………..
33 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ กิจกรรมตรวจสอบ ช่อื วชิ ำ : วิทยำศำสตร์เพ่อื พัฒนำทกั ษะชีวติ ควำมเข้ำใจท่ี 10.3 เรอ่ื ง : กำรถำ่ ยทอดพลังงำนในระบบนิเวศ แผน่ ท่ี 2 2. จากสายใยอาหารในขอ้ 1 จงเขยี นโซ่อาหารทัง้ หมดท่ีเป็นไปได้ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. จงเตมิ ลกู ศรแสดงการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหารทง้ั หมดทีเ่ ป็นไปได้
34 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกิจกรรมตรวจสอบ ชือ่ วิชำ : วทิ ยำศำสตรเ์ พื่อพฒั นำทกั ษะชีวติ ควำมเข้ำใจท่ี 10.3 เรอื่ ง : กำรถำ่ ยทอดพลังงำนในระบบนเิ วศ แผ่นที่ 1 คำสั่ง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง 1. จากรปู สายใยอาหาร จงบอกชอื่ ของส่ิงมีชวี ติ ตอ่ ไปน้ใี หส้ มั พนั ธ์กัน 1.1 ผูผ้ ลติ ตอบ พชื 1.2 ผู้บรโิ ภคลาดับ 1 ตอบ ตัก๊ แตน กระรอก หนู กระตา่ ย 1.3 ผ้บู ริโภคลาดับ 2 ตอบ สุนัขจง้ิ จอก กบ งู 1.4 ผบู้ ริโภคลาดับ 3 ตอบ นกฮูก 1.5 ผบู้ ริโภคพชื ตอบ ต๊กั แตน กระรอก หนู กระต่าย 1.6 ผู้บริโภคสตั ว์ ตอบ สุนขั จิ้งจอก กบ งู นกฮกู
35 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ชื่อวชิ ำ : วิทยำศำสตรเ์ พื่อพฒั นำทกั ษะชีวิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.3 เร่อื ง : กำรถ่ำยทอดพลังงำนในระบบนเิ วศ แผ่นท่ี 2 2. จากสายใยอาหารในข้อ 1 จงเขียนโซอ่ าหารทั้งหมดที่เป็นไปได้ ตอบ โซ่ที่ 1 พืช หนู สุนขั จ้งิ จอก โซ่ท่ี 2 พชื ต๊ักแตน หนู สุนขั จง้ิ จอก โซท่ ี่ 3 พชื ตัก๊ แตน กบ นกฮกู โซท่ ี่ 4 พชื ตั๊กแตน กบ งู นกฮูก โซท่ ่ี 5 พืช กระรอก สุนัขจิ้งจอก โซ่ท่ี 6 พืช กระตา่ ย งู นกฮูก 3. จงเตมิ ลกู ศรแสดงการถา่ ยทอดพลงั งานในสายใยอาหารทั้งหมดทเี่ ป็นไปได้
36 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กิจกรรมตรวจสอบ ช่ือวชิ ำ : วทิ ยำศำสตร์เพอื่ พฒั นำทักษะชวี ติ ควำมเข้ำใจท่ี 10.4 เรอื่ ง : ควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงสิง่ มชี วี ติ แผ่นที่ 1 ในระบบนเิ วศ คำสง่ั : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง 1. ม้าลายอยรู่ วมกันเป็นฝงู จะเกดิ ผลดแี ละผลเสียอยา่ งไรบา้ ง ข้อดี ข้อเสีย ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ 2. จงบอกรูปแบบความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชีวิตตอ่ ไปนี้
37 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ชือ่ วิชำ : วิทยำศำสตรเ์ พอื่ พัฒนำทกั ษะชีวิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.4 เรื่อง : ควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งสง่ิ มีชีวิต แผ่นท่ี 2 ในระบบนเิ วศ 3. จงเตมิ รูปแบบความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ มชี ีวติ ให้สมั พนั ธ์กบั เครอื่ งหมายต่อไปนี้
38 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกิจกรรมตรวจสอบ ชอ่ื วชิ ำ : วิทยำศำสตร์เพ่ือพฒั นำทักษะชวี ิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.4 เรือ่ ง : ควำมสัมพนั ธร์ ะหว่ำงสิ่งมีชวี ิต แผน่ ที่ 1 ในระบบนเิ วศ คำส่ัง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. ม้าลายอยูร่ วมกันเป็นฝงู จะเกิดผลดแี ละผลเสยี อย่างไรบ้าง ขอ้ ดี ข้อเสีย 1. มีการปกป้องอันตรายให้กัน 1. เกิดการแก่งแย่งอาหารกนั 2. มกี ารขยายพันธไ์ุ ดร้ วดเรว็ ขึ้น 2. เกิดการแกง่ แย่งกันผสมพันธ์ุ 3. มกี ารแบ่งบทบาทหน้าที่ 3. เกดิ ความหนาแนน่ ของประชากร 2. จงบอกรูปแบบความสัมพนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มีชวี ติ ต่อไปน้ี ภาวะไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน ภาวะลา่ เหยือ่ ภาวะพง่ึ พา ภาวะล่าเหยอื่ ภาวะปรสติ ภาวะไดป้ ระโยชน์รว่ มกัน ภาวะพงึ่ พา ภาวะปรสติ
39 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ช่ือวิชำ : วิทยำศำสตรเ์ พ่อื พฒั นำทักษะชีวิต ควำมเข้ำใจท่ี 10.4 เรอ่ื ง : ควำมสัมพันธ์ระหวำ่ งสิ่งมชี ีวิต แผ่นท่ี 2 ในระบบนิเวศ 3. จงเติมรปู แบบความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชีวติ ให้สัมพนั ธก์ ับเครอ่ื งหมายต่อไปน้ี 3.1 Mutualism 3.3 Parasitism 3.5 Commensalism 3.2 Protocooperation 3.4 Predation - - 3.6 Competition 3.8 Neutralism - 3.7 Antibiosis
40 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ชอ่ื วิชำ : วิทยำศำสตรเ์ พือ่ พฒั นำทกั ษะชวี ิต ควำมเขำ้ ใจท่ี 10.5 เรื่อง : กำรหมุนเวยี นสำรในระบบนิเวศ แผน่ ที่ 1 คำส่งั : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. จากรูปท่กี าหนดให้ จงเขียนความสมั พนั ธ์ของวฏั จกั รการเกดิ นา้ 2. แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้มาจากกจิ กรรมอะไรบ้าง ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. วฏั จักรฟอสเฟตแตกตา่ งจากวัฏจกั รอ่ืน ๆ อย่างไร ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………..
41 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ กจิ กรรมตรวจสอบ ช่ือวิชำ : วิทยำศำสตรเ์ พ่ือพฒั นำทักษะชีวติ ควำมเขำ้ ใจท่ี 10.5 เร่ือง : กำรหมุนเวียนสำรในระบบนเิ วศ แผ่นท่ี 2 4. จงเขียนเครือ่ งหมาย หนา้ ข้อความท่ีถูกต้อง และเขียนเครอื่ งหมาย หน้าข้อความ ทผ่ี ดิ ………….. 4.1 คารบ์ อนเป็นองค์ประกอบหลักของสารอนิ ทรียท์ ัง้ หมด ………….. 4.2 น้าเป็นองคป์ ระกอบสาคญั ในเซลลข์ องสิ่งมชี วี ิต ………….. 4.3 กระบวนการหายใจ การขับถ่าย การสงั เคราะห์ด้วยแสง เป็นการ ปล่อยน้ากลบั สูธ่ รรมชาติ ………….. 4.4 ปริมาณคารบ์ อนทห่ี มนุ เวียนในระบบนิเวศจะผา่ นสายใยอาหาร ………….. 4.5 วัฏจกั รฟอสเฟตสว่ นใหญจ่ ะอยู่ในรปู ของของเหลว ………….. 4.6 ฟอสเฟตทาใหพ้ ชื เจริญเตบิ โตและทาใหผ้ ลผลิตมีมากขึน้ ………….. 4.7 พชื ให้ฟอสเฟตในรูปของเกลือ ………….. 4.8 การผลิตโดยขาดความระมัดระวงั จะทาลายทรัพยากรธรรมชาติ ………….. 4.9 นา้ ท่วม แผน่ ดินไหว ไมท่ าใหส้ มดลุ ของระบบนิเวศเสียไป ………….. 4.10 การเพิ่มประชากรและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตรท์ าให้ระบบนเิ วศ เปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว
42 สำขำวชิ ำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกิจกรรมตรวจสอบ ชือ่ วิชำ : วทิ ยำศำสตรเ์ พ่ือพฒั นำทักษะชีวติ ควำมเขำ้ ใจที่ 10.5 เรอ่ื ง : กำรหมุนเวยี นสำรในระบบนเิ วศ แผน่ ท่ี 1 คำสัง่ : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ ง 1. จากรูปที่กาหนดให้ จงเขยี นความสัมพันธ์ของวัฏจักรการเกดิ นา้ 2. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ในบรรยากาศไดม้ าจากกจิ กรรมอะไรบา้ ง ตอบ กระบวนการหายใจของสิ่งมีชีวิต การเผาไหมเ้ ชือ้ เพลงิ ของโรงงานอุตสาหกรรม การ เผาป่าและกิจกรรมตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ 3. วฏั จกั รฟอสเฟตแตกตา่ งจากวัฏจกั รอนื่ ๆ อยา่ งไร ตอบ จะไม่พบฟอสฟอรัสในบรรยากาศ ส่วนใหญ่จะอยใู่ นรูปของของแขง็ ของ สารประกอบฟอสเฟตเกอื บทัง้ หมด เชน่ พบในชั้นหนิ ฟอสเฟต
43 สำขำวิชำ : เกษตรศำสตร์ เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบ ชื่อวิชำ : วิทยำศำสตร์เพอื่ พฒั นำทกั ษะชีวติ ควำมเข้ำใจที่ 10.5 เรอ่ื ง : กำรหมนุ เวยี นสำรในระบบนเิ วศ แผ่นท่ี 2 4. จงเขยี นเครือ่ งหมาย หน้าขอ้ ความทถี่ ูกตอ้ ง และเขยี นเครือ่ งหมาย หนา้ ข้อความ ทผี่ ดิ 4.1 คารบ์ อนเปน็ องคป์ ระกอบหลกั ของสารอินทรยี ท์ ้ังหมด 4.2 นา้ เปน็ องค์ประกอบสาคญั ในเซลล์ของสง่ิ มีชีวติ 4.3 กระบวนการหายใจ การขับถา่ ย การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เปน็ การ ปลอ่ ยนา้ กลบั สูธ่ รรมชาติ 4.4 ปรมิ าณคารบ์ อนทห่ี มุนเวยี นในระบบนเิ วศจะผา่ นสายใยอาหาร 4.5 วัฏจกั รฟอสเฟตส่วนใหญจ่ ะอยู่ในรปู ของของเหลว 4.6 ฟอสเฟตทาให้พชื เจรญิ เติบโตและทาให้ผลผลิตมีมากขึ้น 4.7 พชื ใหฟ้ อสเฟตในรูปของเกลือ 4.8 การผลิตโดยขาดความระมดั ระวังจะทาลายทรัพยากรธรรมชาติ 4.9 น้าท่วม แผน่ ดินไหว ไม่ทาใหส้ มดุลของระบบนิเวศเสียไป 4.10 การเพิ่มประชากรและความกา้ วหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ทาใหร้ ะบบนิเวศ เปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว
44 แบบทดสอบหลงั เรยี น คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนม้ี ี 1 ตอน คอื แบบปรนัยชนิดเลอื กตอบ 5 ตัวเลือก จานวน 20 ขอ้ ( 10 คะแนน ) 2. จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องเพยี งขอ้ เดียว แลว้ ทาเครื่องหมาย ลงในกระดาษคาตอบ 3. เวลาทีใ่ ชใ้ นการทาแบบทดสอบ 20 นาที ตอนท่ี 1 แบบปรนัยชนดิ เลือกตอบ 5 ตัวเลือก จานวน 20 ข้อ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้ทู ี่ 1 อธิบายความหมายของระบบนเิ วศได้ 1. ขอ้ ใดเปน็ ความหมายของระบบนิเวศ ก. การอยรู่ ว่ มกันเปน็ กลมุ่ ของส่งิ มชี ีวิต ข. กระบวนการหมุนเวยี นสารชนดิ ตา่ งๆ ในระบบนเิ วศ ค. ส่ิงต่างๆ ท่ีอยูร่ อบตวั เราซ่ึงมที ้งั สง่ิ มชี ีวิตและไม่มีชีวิต ง. กระบวนการถา่ ยทอดพลงั งานของผูผ้ ลิตไปสผู่ ้บู รโิ ภค จ. ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี วี ติ ต่างๆ กับส่งิ แวดล้อม จากรูป จงตอบคาถามขอ้ 2 – 3 2. สิง่ มีชวี ิตในรูป C จดั อยู่ในข้อใด ก. ประชากร ข. สงิ่ มชี ีวิต ค. แหล่งที่อยู่ ง. กล่มุ สิง่ มชี ีวิต จ. โลกของสิ่งมีชวี ติ 3. รูป A จัดอยู่ในข้อใด ก. ประชากร ข. สง่ิ มชี วี ติ ค. แหลง่ ท่อี ยู่ ง. กลุม่ สงิ่ มีชีวิต จ. โลกของสิง่ มชี ีวติ
45 จุดประสงค์กำรเรยี นรทู้ ี่ 2 บอกองคป์ ระกอบของระบบนิเวศได้ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 4 – 7 4. ขอ้ ใดจดั เปน็ สัตว์กนิ เน้ือ ข. B ก. A ง. D ค. C จ. E 5. ขอ้ ใดจัดเป็นสัตวท์ ่ีกนิ ท้งั พชื และสัตว์ ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. D และ E จ. E และ G 6. ขอ้ ใดจัดเป็นผยู้ อ่ ยสลาย ข. C ก. B ง. F ค. D จ. G 7. แสงแดด อากาศ น้า และดนิ จดั เป็นส่วนประกอบประเภทใดในระบบนเิ วศ ก. อนนิ ทรียส์ าร ข. อินทรยี ส์ าร ค. สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ ง. ผูย้ ่อยสลายสารอนิ ทรยี ์ จ. สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ
46 จุดประสงคก์ ำรเรียนรทู้ ่ี 3 เขียนแผนภาพการถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศได้ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 8 – 9 8. จากรปู ตรงกบั ข้อใด ข. เต่า ก. โซ่อาหารแบบปรสติ ง. พืช ข. โซ่อาหารแบบเศษอนิ ทรยี ์ ค. โซอ่ าหารแบบผสม ง. โซอ่ าหารแบบหมนุ เวยี น จ. โซอ่ าหารแบบผู้ล่า 9. ขอ้ ใดจัดเป็นผผู้ ลิต ก. นกอนิ ทรีย์ ค. หนอน จ. เตา่ และหนอน จากรปู จงตอบคาถามข้อ 10 – 11
47 10. ขอ้ ใด ไมจ่ ัด เปน็ ผู้บริโภคลาดับท่ี 1 ก. วัวป่า ข. หมาป่า ค. ยรี าฟ ง. ลิง จ. กวาง 11. ข้อใดจดั เปน็ ผู้บริโภคลาดบั สงู สดุ ข. แมวป่า ก. เสือดาว ง. ววั ปา่ ค. สงิ โต จ. ปลวก จุดประสงค์กำรเรยี นร้ทู ี่ 4 อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศได้ 12. ถา้ การรวมกลมุ่ ของสง่ิ มชี วี ิตมีจานวนมากเกนิ ไปจะเกิดผลเสยี ในข้อใด ก. ทาให้เกิดการผสมพันธ์ุทห่ี ลากหลาย ข. ทาให้ปรมิ าณผู้ล่าเหยื่อลดลง ค. ทาให้ศัตรูจะไล่จับกนิ ไดง้ ่าย ง. ทาให้การอพยพโยกยา้ ยจะลาบาก จ. ทาใหเ้ กิดการแกง่ แยง่ แขง่ ขันกันมากขน้ึ 13. ข้อใดกาหนดรูปแบบความสัมพนั ธ์ของไลเคนได้ถกู ต้อง ก. ภาวะพึ่งพากัน ข. ภาวะไดป้ ระโยชนร์ ่วมกนั ค. ภาวะองิ อาศยั ง. ภาวะปรสติ จ. ภาวะหลัง่ สารยบั ย้ังการเจริญ จากรปู จงตอบคาถามข้อ 14 – 16
48 14. ขอ้ ใดเป็นการอยรู่ ่วมกนั ของสิง่ มชี วี ติ โดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ายหน่งึ ไมไ่ ด้และไม่ เสียประโยชน์ ก. A ข. B ค. C ง. D จ. B และ C 15. ขอ้ ใดเปน็ การอยรู่ ่วมกนั ของส่ิงมีชวี ิตที่เรียกว่า ภาวะลา่ เหยอื่ ก. A ข. B ค. C ง. D จ. B และ C 16. ข้อใดเปน็ การอยรู่ ่วมกนั ของสิง่ มีชีวิตทค่ี ล้ายคลึงกัน ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. D และ A จ. B และ D 17. ข้อความใดกลา่ วถูกต้องเก่ียวกับความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มีชีวติ ในระบบนเิ วศ ก. ภาวะปรสิตเปน็ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชีวิตท่ตี ายแลว้ ข. ปลาฉลามกับเหาฉลามเปน็ ความสมั พนั ธท์ เี่ หมอื นกันกบั นกเอี้ยงกบั ควาย ค. ภาวะอิงอาศยั ฝ่ายที่ไดร้ ับประโยชนจ์ ะมีขนาดใหญ่กวา่ และไม่เปน็ อันตราย ง. ภาวะพ่ึงพากนั สิ่งมชี ีวิตไม่จาเปน็ ต้องอยู่ด้วยกนั เสมอไป จ. แมงมุมกับกระตา่ ยอาศยั อยใู่ นทุง่ หญ้าจดั เป็นภาวะเปน็ กลางต่อกนั
49 จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ท่ี 5 อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชีวิตในระบบนเิ วศได้ 18. จากรูป ข้อใดเรยี งลาดับหมายเลข 1 – 4 ได้ถกู ตอ้ ง ก. การควบแน่น, การระเหย, การรวมตัวของน้า, การเกิดฝน ข. การเกิดฝน, การระเหย, การควบแนน่ , การรวมตวั ของน้า ค. การรวมตัวของนา้ , การระเหย, การเกิดฝน, การควบแน่น ง. การระเหย, การควบแน่น, การเกดิ ฝน, การรวมตวั ของนา้ จ. การระเหย, การเกิดฝน, การรวมตัวของนา้ , การควบแนน่ 19. ข้อใด กลำ่ วผิด เก่ียวกับวฏั จักรคาร์บอน ก. พืชสงั เคราะห์ดว้ ยแสงต้องใช้แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ ข. สัตวห์ ายใจต้องใช้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ค. การเผาไหม้เช้อื เพลงิ จะปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ง. การย่อยสลายซากพืชซากสัตวจ์ ะปล่อยแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ จ. ปัจจุบนั แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพ่ิมขึ้นมากกว่าปกติ 20. ขอ้ ใดกลา่ ว ไมถ่ กู ต้อง ก. คารบ์ อนเปน็ องคป์ ระกอบหลักของสารอินทรยี ์ทงั้ หมด ข. นา้ เป็นวฏั จกั รทีส่ าคญั และมกี ารหมุนเวียนอยใู่ นระบบนิเวศ 4 ขั้นตอน ค. วฏั จักรฟอสฟอรัสสว่ นใหญจ่ ะอยู่ในรูปของแข็งของสารประกอบฟอสเฟต ง. วัฏจักรฟอสฟอรสั เป็นองค์ประกอบสาคัญของสง่ิ มชี วี ติ ในรปู พลงั งาน ATP จ. ธาตคุ าร์บอนในบรรยากาศสว่ นใหญ่จะอยูใ่ นรปู ของแกส๊ คาร์บอนมอนนอกไซด์
50 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ข้อ เฉลย 1จ 2ง 3ค 4ข 5ค 6ง 7จ 8จ 9ง 10 ข 11 ค 12 จ 13 ก 14 ง 15 ก 16 ข 17 จ 18 ง 19 ข 20 จ
Search