รายวชิ า การเขยี นตัวอกั ษรจนี เบ้อื งตน้ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 จัดทาโดย นางสาว กัลย์สดุ า กนั ทะศลิ ป์
คำนำ ภาษาจีนเป็ นภาษาสากลภาษาหน่ึงที่ใชต้ ิดต่อสื่อสารกนั อยา่ งแพร่หลายทว่ั โลกและการเขียนภาษาจีนก็เป็ นทกั ษะท่ียากที่สุดของภาษาจีน ในรายวิชาการเขียนตวั อกั ษรจีนน้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้การเขียนอกั ษรจีนเบ้ืองตน้ ลาดบั ขีด ประวตั ิความเป็ นมา รากศพั ทแ์ ละการผสมคาของอกั ษรจีน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผทู้ ี่ตอ้ งการศึกษาและสามารถเขียนตวั อกั ษรจีนไดถ้ ูกตอ้ งตามกฎของอกั ษรจีน กลั ยส์ ุดา กนั ทะศิลป์ ผจู้ ดั ทา
สำรบญั หนา้คานา 1จุดประสงค์ 3 5บทท่ี 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั อกั ษรจีน 7 - แบบฝึกหดั 12 17บทท่ี 2 ลาดบั ขีดของอกั ษรจีน 22 - แบบฝึกหดั 26 31บทที่3 ความเป็นมาของตวั อกั ษรจีนบทที่ 4 รากศพั ทต์ วั อกั ษรจีน - แบบฝึกหดับทที่ 5 การรวมมคาตวั อกั ษรจีน - แบบฝึกหดับรรณานุกรม
จุดประสงค์1. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั กฎ ลาดบั ขีดของการเขียนภาษาจีน2. ผเู้ รียนสามารถเขียนลาดบั ขีดของภาษาจีนไดถ้ ูกตอ้ ง
1 บทท่ี 1 ควำมรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั อกั ษรจนีรู้จักรูปแบบกำรเขียนอกั ษรจีนตัวอกั ษรจีนมเี ส้นขดี พืน้ ฐำนอยู่ 8 ขดี คือ เส้นขีด ช่ือเรียก ตวั อยา่ งอกั ษร丶 点 广寸 太 diǎn一 王大 干丨 横 巾木十 Héng亅 承小丁 竖 Shù 钩 gōu
2 提 打 地功 Tí丿 撇 人女 piěノ 短撇 火牛 duǎn piě 捺 八 又木 Nà
3คำชี้แจง ให้คดั ตัวอกั ษรจีนตำมทก่ี ำหนดมำ 10 คำ1. 丶 diǎn2. 一 Héng3. 丨 Shù4. 亅 gōu5. Tí6. 丿 piě
47. ノ duǎn piě8. Nà
5 บทที่ 2 ลำดบั ขดี ของอกั ษรจนีกฎ กำรเขียนตวั อกั ษรจีนท่ีนี่เจด็ กฎพ้นื ฐาน ของคาส่ัง จงั หวะ ในตวั อกั ษรจีน คือที่ กฎในการเขียน ตวั อยา่ ง ลาดบั ขีดอกั ษร1 ส้นขวางก่อน 七 เส้นต้งั2 ลากซา้ ยก่อน 九 ลากขวา3 จากบนลงล่าง 亮4 จากซา้ ยไปขวา 你 แลว้ ลง5 จากนอกเขา้ ใน 高
66 จากนอกเขา้ ใน 国 แลว้ ปิ ด7 เส้นกลางก่อน 小 ซา้ ยขวา
7 แบบฝึ กหดัคำชี้แจง ให้คัดคำศัพท์ พนิ อิน ควำมหมำย ลำดบั ขดี แล้วคัดเฉพำะคำศัพท์มำอกี 10คำลำดับ คำศัพท์ พนิ อนิ ควำมหมำย ตวั อย่ำงลำดับขีดท่ี shí สิบ1十2 三 sān สาม3 月 yuè เดือน4 四 sì สี่5 回 huí กลบั6 就 jiù ก็
87 记 jì ลืม8 问 wèn ถาม9 小 xiǎo เล็ก10 节 jié เทศกาล11 风 fēng ลม
9คำชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นพนิ อนิ คำแปล ลำดับขดี และคดั มำอกี ตวั ละ10คำ1. 十2. 三3. 月4. 回
105. 就6. 记7. 问
118. 小9. 节10. 风
12บทท่ี 3 ควำมเป็ นมำของตวั อกั ษรจีน ตวั อกั ษรจีนเริ่มกลายเป็ นตวั อกั ษรท่ีมีระบบในสมยั ราชวงศซ์ าง ศตวรรษที่14ก่อนคริสตก์ าล นกั โบราณคดีไดพ้ ิสูจน์วา่ ระยะตน้ ของราชวงศซ์ าง อารยธรรมจีนได้พฒั นาไปถึงระดับท่ีค่อนขา้ งสูงแล้ว ลักษณะพิเศษท่ีสาคญั ประการหน่ึงก็คือ การปรากฏตวั อกั ษรเจี่ยกู่เหวนิ ซ่ึงอกั ษรเจ่ียกู่เหวนิ เปิ นอกั ษรที่เก่าแก่ท่ีสุด ปัจจุบนั นกั โบราณคดีไดข้ ุดพบกระดองหรือกระดูกท้งั หมดกวา่ 1แสน6หม่ืน ราชวงศ์ซางชิ้น ในจานวนน้นั มีบางชิ้นยงั มีความสมบูรณ์อยู่ บางชิ้นก็เป็ นเพียงชิ้นส่วนท่ีไม่ได้บนั ทึกตวั อกั ษรใดๆ ตามสถิติ ตวั อกั ษรชนิดตา่ งๆบนกระดองและกระดูกเหล่าน้ีมีถึงส่ีพันกว่าตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาตัวอักษรพันกว่าตัวน้ี เราก็สามารถเข้าใจสภาพการณ์เกี่ยวกบั ด้านต่างๆของราชวงศ์ซาง เช่น ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจวฒั นธรรม เป็ นตน้ ตวั อกั ษรเจ่ียกู่เหวินเป็ นตวั อกั ษรที่ค่อนขา้ งสมบูรณ์และมีระบบของตนเอง ซ่ึงไดป้ ูพ้ืนฐานใหก้ ารพฒั นาตวั อกั ษรจีนในเวลาต่อมา ต่อจากน้นั ตวั อกั ษรจีนก็ไดผ้ า่ นการเปลี่ยนแปลงเป็นหลายรูปแบบ ววิ ฒั นำกำรอกั ษรจนี อกั ษรเจี่ยก่เู หวนิ 甲骨文(Jiǎgǔwén) ววิ ฒั นาการอกั ษรจีนเริ่มตน้ ที่ “ อกั ษรเจ่ียก่เู หวนิ ” เป็นตวั อกั ษรโบราณชนิดหน่ึงท่ีแกะสลกั บนกระดองเตา่ และกระดูกสัตว์ ในสมยั ราชวงศซ์ าง กษตั ริย์ตอ้ งทาพิธีเส่ียงทายก่อนจะทรงทาพระราชภารกิจใดๆ กระดองเต่าและกระดูกสัตวก์ ็คืออุปกรณ์การเสี่ยงทายในสมยั น้นั ลกั ษณะของอกั ษรเจ่ียกู่เหวนิ จะเป็ นอกั ษรภาพ เน่ืองจากส่วนใหญ่การจารึกอกั ษรส่วนใหญ่ในสมยั โบราณของจีนเป็นววิ ฒั นาการมาจากรูปภาพนนั่ เอง 3.1อกั ษรเจยี่ ก่เู หวิน
อกั ษรจินเหวนิ หรืออกั ษรโลหะ 金文 Jīn wén 13 3.2อกั ษรจินเหวนิ หรืออกั ษรโลหะ เป็ นอกั ษรท่ีใชใ้ นสมยั ซางต่อเน่ืองถึงราชวงศโ์ จว มีช่ือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ‘จงต่ิงเหวิน’(钟鼎文)หมายถึงอกั ษรที่หลอมลงบนภาชนะทองเหลืองหรือสาริด มีลกั ษณะพเิ ศษ คือ มีลายเส้นท่ีหนาหนกั ร่องลายเส้นราบเรียบท่ีไดจ้ ากการหลอม ไม่ใช่การสลกั ลงบนเน้ือโลหะ อกั ษรโลหะในสมยั หลงั รัชสมยั เฉิงหวงั และคงั หวงั แห่งราชวงศ์โจว จะมีความสง่างาม สะทอ้ นภาพลกั ษณ์ที่สุขุมเยือกเย็น เน้ือหาที่บนั ทึกดว้ ยอกั ษรโลหะ โดยมากเป็น คาสงั่ การของชนช้นั ผูน้ าพธิ ีการบูชาบรรพบุรุษ บนั ทึกการทาสงคราม เป็นตน้ อกั ษรต้ำจ้วน 大篆 Dàzhuàn อกั ษรตา้ จว้ นมีลกั ษณะคลา้ ยอกั ษรภาพ ลกั ษณะเส้นจะใหญ่ หรือหนากวา่ อกั ษรเจี๋ยกู่เหวนิ พบชื่อเรียกแตกตา่ งกนั ตามยุคสมยั ในสมัยราชวงศ์โจว ( 周朝 ) ผูป้ ระดิษฐ์ช่ือว่า โจ้ว ( 籀 ) ดงั น้นั อกั ษรชนิดน้ีจึงเรียกวา่ อกั ษรโจว้ ( 籀文 )3.3 อกั ษรต้าจ้วน
14 อกั ษรเสี่ยวจ้วนอกั ษรจ้วนเลก็หลงั ฉินฮอ่ งเตข้ ้ึนครองราชยไ์ ดม้ ีการรวมแผน่ ดินใหเ้ ป็ นหน่ึงเดียวกนั อกั ษรจีนก็เป็ นหน่ึงในนโยบายท่ีสาคญั ยิ่งในยุคน้ันจึงทาการปกิรุ ประบบอักษรคร้ังใหญ่ โดยการสร้างมาตรฐานรูปแบบตวั อกั ารหน่ึงเดียวกนั ทวั่ ประเทศ ไดม้ ีการคิดคน้ตัวอกั ษรข้ึนมาเพ่ือให้เกิดนาใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็ นหน่ึงเดียวกนั เรียกวา่ “อกั ษรเส่ียวจว้ นหรืออกั ษรจว้ นเล็ก” ซ่ึงเรียกไดว้ า่เป็นคร้ังแรกของอกั ษรจีนท่ีใชเ้ หมือนกนั ทว่ั ประเทศจีน อกั ษรเส่ียวจ้วนพฒั นามาจาก อกั ษรตา้ จา้ นและจินเหวิน ในสมยั น้ันเรียกอกั ษรเสี่ยวจว้ นวา่ “ฉินจว้ น” ภายหลงั ตอ่ มาจึงเรียกเสี่ยวจว้ น 3.4 อกั ษรเส่ยี วจ้วนอกั ษรจ้วนเล็กอกั ษรลซี่ ู 隶书อกั ษรล่ีซูคืออกั ษรจว้ นเล็กท่ีมีการลดข้นั ตอนการเขียนลาดบั ขีดให้น้อยลง ซ่ึงขณะที่ยุคสมยั ฉินประกาศใช้ อกั ษรจว้ นเลก็ อยา่ งเป็ นทางการ พร้อมกนั น้นั กป็ รากฏ ว่ามีการใช้อักษรล่ีซู (隶书)ควบคู่กันไป อกั ษรลี่ซูเป็ นอกั ษรท่ีใชเ้ ขียนบนวสั ดุที่ทาจากไมห้ รือ ไม้ไผ่ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ( 汉朝 ) พบว่าอักษร เสี่ยวจว้ นมีความซบั ซ้อนยากในการเขียน จึงดดั แปลง เป็ นอกั ษรล่ีซู มีลกั ษณะเร่ิมเป็ นอกั ษรสี่เหล่ียม มีเส้น ขีดเขียนที่สวยงาม และไดม้ ีอีกชื่อหน่ึงเรียกวา่ อกั ษร ฮั่นล่ี 3.5 อกั ษรลี่ซู
15อกั ษรข่ำยซู 楷书 อกั ษรข่ายซู(楷书)หรือเรียกอีกอย่างหน่ึงว่าอักษรจริง (真书)เป็ นอักษรจีนรูปแบบมาตรฐานใชก้ นั อย่างแพร่หลายในปัจจุบนั (คาวา่ ‘楷’ อ่านวา่ ข่าย มีความหมายวา่ แบบฉบบั หรือตวั อยา่ ง)อกั ษรข่ายซูเป็ นเส้นสัญลกั ษณ์ที่ประกอบกนั ข้ึน ภายใตก้ รอบสี่เหล่ียม หลุดพน้ จากรูปแบบอกั ษรภาพของตวัอกั ขระยุคโบราณอย่างสิ้นเชิง อกั ษรข่ายซูมีตน้ กาเนิดในยุคปลายราชวงศ์ฮน่ั ตะวนั ออก เม่ือถึงยุคถงั (คริสตศกั ราช 618 – 907) จึงกา้ วสู่ยคุ ทองของอกั ษรข่ายซูอยา่ งแท้จริ ง จวบจนปัจจุบัน อักษรข่ายซูยังเป็ นอักษรมาตรฐานของจีน 3.6 อกั ษรข่ายซู อกั ษรเฉ่ำซู 草书 ต้งั แต่กาเนิดมีตวั อกั ษรจีนเป็นตน้ มา อกั ษรแต่ละรูปแบบลว้ นมีวธิ ีการเขียนแบบ ตวั หวดั ท้งั สิ้น จวบจนถึงราชวงศ์ฮนั่ อกั ษรหวดั จึงไดร้ ับการเรียกขานวา่ ‘อกั ษรเฉ่าซู’ (草书)อย่างเป็ นทางการ (คาว่า ‘เฉ่า’ ในภาษาจีนหมายถึง อย่างลวก ๆหรือ อยา่ งหยาบ) อกั ษรเฉ่าซู เกิดจากการนาเอาลายเส้นท่ีมีแต่เดิมมายน่ ยอ่ เหลือเพียงขีดเส้น เดียว โดยฉีกออกจากรูปแบบอนั จาเจของกรอบส่ีเหลี่ยมในอกั ษรจีน หลุดพน้ จาก ขอ้ จากดั ของข้นั ตอนวธิ ีการขีดเขียนอกั ษรในแบบมาตรฐานตวั คดั หรือ ขา่ ยซู ในขณะที่ อกั ษรข่ายซูอาจประกอบข้ึนจากลายเส้นสิบกวา่ สาย แต่อกั ษรเฉ่าซูเพียงใช้ 2 – 3 ขีดก็ สามารถประกอบเป็นสัญลกั ษณ์เช่นเดียวกนั ได้3.7 อกั ษรเฉ่าซู
อษั รสิงซู 16 3.8 อษั รสงิ ซู อักษรสิ งซู(行书)เป็ นรู ปแบบตัวอักษรท่ีอยู่ก่ึงกลางระหวา่ งอกั ษรข่ายซูและ อกั ษรเฉ่าซู เกิดจากการเขียนอกั ษรตวั บรรจงท่ีเขียนอย่างหวดั หรืออกั ษรตวั หวดั ที่เขียน อย่างบรรจง อาจกล่าวได้ว่าเป็ นตวั อกั ษรก่ึงตวั หวดั และก่ึงบรรจง อกั ษรสิงซูกาเนิดข้ึนในราวปลายราชวงศ์ฮนั่ ตะวนั ออก รวบรวมเอาปมเด่นของอกั ษรข่ายซูและเฉ่าซูเขา้ดว้ ยกนั
17 บทท่ี 4 รำกศัพท์ของอักษรจนี1.亻รำกศัพท์ ช่ือเตม็ ควำมหมำย ตวั อย่ำง 亻 单立人 คำน้ีมีความหมาย 你 nǐ คุณ (dān lì rén) เก่ียวกบั คน 他 tā เขา 们 men พวก 休 xiū พกั ผอ่ น 体 tǐ ร่างกาย
18 2. 氵 ช่ือเตม็ ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ 三点水 จะเก่ียวขอ้ งกบั น้า 河 hé แม่น้า 氵 湖 hú ทะเลสาบ sān diǎn shuǐ 洋 yáng มหาสมุทร 汗 hàn เหงื่อ3. 口 ชื่อเต็ม ควำมหมำย ตัวอย่ำง รำกศัพท์ 口 เป็นคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ปากดงั น้นั เวลาท่ี 吃 chī กิน 口 เห็นคาวา่ 口 อยใู่ นคาจะมี 唱 chàng ร้อง kǒu ความหมายท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปาก 喝 hē ดื่ม 吗 ma ไหม
194. 冫รำกศัพท์ ช่ือเตม็ ควำมหมำย ตัวอย่ำง น้าแขง็ ,เยน็ (ใชก้ บั เครื่องด่ืม) 冫 เยน็ (ใชก้ บั อากาศ) 两点水 เป็นคาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั น้าแขง็ เมื่อ 冰 bīng หนาว มาอยใู่ นคาศพั ทจ์ ะมีความหมาย 谅 liàng liǎng diǎn เกี่ยวกบั เยน็ ๆ แขง็ ๆ 冷 lěng shuǐ5.女 ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ ช่ือเตม็ เป็นคาที่เก่ียวขอ้ งกบั ผหู้ ญิง 好 hǎo ดี 女女 妈 mā แม่ nǚ 姐 jiě พี่สาว 妹 mèi นอ้ งสาว
206.心 ช่ือเตม็ ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ 心部 จะเป็ นคาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั หวั ใจ 想 xiǎng คิด,คิดถึง 心 xīn bù ส่วนมากจะวางไวข้ า้ งล่างของคา 忘 wàng ลืม 您 nín คุณ,ทา่ น7.忄 ชื่อเตม็ ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ 忄旁部 คาน้ีจะเก่ียวกบั หวั ใจ 怕 pà กลวั 忄 shù xīn páng bù เช่นกนั และมกั จะวางอยู่ 情 qíng ความรู้สึก ขา้ งๆตวั อกั ษรจะมี 快 kuài เร็ว ความหมายเกี่ยวกบั 慢 màn ชา้ สภาพจิตใจ
218.疒 ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ ชื่อเตม็ เกี่ยวกบั ป่ วยหรือโรคต่างๆ 病 bìng ป่ วย 疒 疒部 痛 tòng เจบ็ ,ปวด bìng bù 瘦 shòu ผอม 疯 fēng บา้9.目 ช่ือเตม็ ควำมหมำย ตวั อย่ำงรำกศัพท์ 目部 คาน้ีจะเกี่ยวขอ้ งกบั ดวงตา 眼睛 yǎnjīng ดวงตา 目 mù bù 睡 shuì นอนหลบั 看 kàn ดู 盲 máng ตาบอด 22
แบบฝึ กหัดคำชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นพนิ อนิ คำแปล และคดั มำอกี ตวั ละ10คำ1. 他2. 休3. 河4. 汗5. 吃
236. 吗7. 冰8. 冷9. 妈10. 姐
2411. 想12. 您13. 怕14. 慢
2515. 病16. 瘦17. 睡18. 看
26 บทที่ 5 กำรรวมคำตวั อกั ษรจนีตวั อกั ษรจนี เม่ือเอำมำรวมกนั กจ็ ะเกดิ ควำมหมำยใหม่ๆขนึ้ มำ ตัวอย่ำงเช่น上 + 课 =上课 上+午 = 上午 Shàngkè Shàngwǔ เขา้ เรียน ตอนเชา้ 上 上+海 = 上海 Shàng Shànghǎi เซ่ียงไฮ้上+班 = 上班 上+网 = 上网 Shàngbān Shàngwǎng ไปทางาน เล่นอินเตอร์เน็ต
电+ 话 = 电话 27 diànhuà 电 + 脑 = 电脑 โทรศพั ท์ diànnǎo คอมพิวเตอร์ 电 diàn电 + 视 = 电视 电 + 影 = 电影 diànshì diànyǐng โทรทศั น์ ภาพยนตร์
生 + 气 = 生气 28 shēngqì 生 + 日 = 生日 โกรธ shēngrì วนั เกิด 生 shēng生 + 活 = 生活 生 + 产 = 生产 shēnghuó shēngchǎn ชีวติ ผลิต
大 + 概 = 大概 29 Dàgài 大 + 学 = 大学 ประมาณ Dàxué มหาลยั 大 dà大 + 约 = 大约 大 + 家 = 大家 Dàyuē DàJiā ประมาณ ทุกคน
下 + 班 = 下班 30 Xiàbān 下 + 午 = 下午 เลิกงาน Xiàwǔ ตอนบ่าย 下 xià 下 + 雨 = 下雨 xià yǔ ฝนตก
31 แบบฝึ กหดัคำชี้แจง ให้นักเรียนหำคำเพมิ่ เติมจำกคำทกี่ ำหนดให้学
32老
33教
บรรณำนุกรมเขมมภคั ค์ ชินสมุทร. (2556) .ฟัง พดู อ่าน เขียน จีนกลาง.นนทบุรี:พราว โพเอท จากดัคณาจารยม์ หาวทิ ยาลยั ปังกิ่ง.(2541).1000 อกั ษรจีน.แปลโดยกิตติ ปิ ยพสุนทรา.กรุงเทพฯ:เยลโล่การพิมพ์ จากดัจิราภรณ์.การเขียนลาดบั ขีด.[เวบ็ บลอ็ ค].สืบคน้ จากhttps://sites.google.com/site/jirapornth142439/e-learning-phas-s-cin-radab-tn/kar-cheiy-n-ladab-khidพชั รพล หาสวนขวญั (2556).ประวตั ิตวั อกั ษรจีน.[เวบ็ บลอ็ ค].สืบคน้ จากhttp://llollollo91.blogspot.com/2013/03/blog-post_1966.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: