คูม่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 4.4 การเขยี นจ�ำ นวนในรปู กระจาย จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถเขยี นจำ�นวนนับ 11 ถึง 20 ในรปู กระจาย สือ่ การเรยี นรู้ • บตั รภาพของใช้ • กรอบสบิ • บตั รตัวเลข • บตั รตวั เลขรปู กระจาย แนวการจัดการเรียนรู้ ครสู นทนากับนักเรยี นเรื่องสวนสนุกท่มี ีเครอ่ื งเลน่ หลายชนดิ ลานกจิ กรรม รา้ นขายอาหารและรา้ นขายของที่ระลกึ ของทร่ี ะลกึ ทข่ี ายมหี ลายอยา่ ง เชน่ พวงกญุ แจ แก้วนำ้� ฯลฯ จากภาพในหน้า 177 ครใู ชค้ ำ�ถาม ถามว่านักเรยี นเหน็ พวง กุญแจมจี ำ�นวนเทา่ ไร (11) และแนะน�ำ ว่าจากภาพในกรอบสบิ ทั้ง 2 กรอบเปน็ 10 กับ 1 เราใช้สัญลกั ษณ์แทนคำ�วา่ “กบั ” ดว้ ยเครื่องหมาย + เราจึงใช้สญั ลกั ษณแ์ ทน 10 กบั 1 เป็น 10 + 1 ดงั น้นั จำ�นวน 11 = 10 + 1 ซึ่งเปน็ การเขียนแสดง 11 ในรูปกระจาย ครสู นทนาทำ�นองเดยี วกนั เพ่ืออธิบายการเขียนจำ�นวน 12 และ 13 ในรปู กระจาย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 191
คู่มือครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนับ 11 ถึง 20 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 แนวการจัดการเรยี นรู้ ครูแจกกรอบสิบ บัตรตวั เลข บตั รตัวเลขรปู กระจาย ให้นกั เรียนทุกคนเล่นเกม “เรากลุ่มเดียวกนั ” ให้นกั เรียนจบั กลมุ่ กรอบสิบ บตั รตวั เลข บตั รตัวเลขรูปการกระจาย ท่ีเป็นจำ�นวนเดียวกนั จำ�นวน 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 โดยใช้เวลา 10 วนิ าที กลุ่มไหนไดค้ รบใหน้ �ำ มาติดไวบ้ นกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง 14 10 + 4 15 10 + 5 19 10 + 9 20 10 + 10 ให้นกั เรียนท้ังหมดช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถา้ กลุม่ ไหนผดิ ช่วยกันแกไ้ ข 192 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จำ�นวนนับ 11 ถงึ 20 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1 แนวการจัดการเรยี นรู้ หลงั จากเลน่ เกม เรากล่มุ เดียวกัน ครูสรปุ เขียนจ�ำ นวน 11 ถึง 20 ในรปู กระจายแลว้ ถามนกั เรียนวา่ 10 เขียน ในรปู กระจายได้อย่างไรแลว้ อภิปรายรว่ มกันจนได้วา่ 10 = 10 + 0 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 193
คมู่ ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนับ 11 ถงึ 20 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1 10 + 1 10 + 5 10 + 3 10 + 7 10 + 6 10 + 4 10 + 9 20 + 0 ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ เพ่อื ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการเรยี นรู้ 11 = 10 + 1 , 12 = 10 + 2 , 13 = 10 +3 , ในชว่ั โมงนี้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยอาจ 14 = 10 + 4 , 15 = 10 + 5 , 16 = 10 + 6 , จัดกจิ กรรมโดยครูแสดงบัตรตัวเลขแลว้ ให้นกั เรียนตอบ 17 = 10 + 7 , 18 = 10 + 8 , 19 = 10 + 9 , ในรูปกระจายหรอื แสดงบัตรตวั เลขรูปกระจายแล้วให้ 20 = 20 + 0 นักเรียนตอบตวั เลขแสดงจำ�นวน หรืออาจจะใหน้ ักเรยี น เลน่ เกมจบั คู่ โดยจับคบู่ ตั รตวั เลข กบั บัตรตวั เลขรูปกระจาย การเขยี นจ�ำ นวนในลกั ษณะน้เี รยี กวา่ การเขยี น ครผู สู้ อนพจิ ารณากิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั เวลา หลงั จากน้นั จำ�นวนในรูปกระจาย ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบตรวจสอบความเข้าใจในหนงั สอื เรยี น หน้า 180 จากนนั้ ให้นักเรยี นทำ�แบบฝกึ หดั 4.4 หนา้ 110-111 194 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนับ 11 ถึง20 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1 4.5 การเปรยี บเทยี บจ�ำ นวน โดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน จุดประสงค์ นกั เรยี นสามารถเปรยี บเทยี บ จ�ำ นวนโดยใชเ้ ส้นจำ�นวน ส่ือการเรียนรู้ • แถบจ�ำ นวน 1 ถงึ 20 • เส้นจำ�นวน • บัตรตวั เลข • บตั รคำ�มากกวา่ น้อยกว่า เทา่ กบั • แผนผังสวนสนกุ • ภาพส่งิ ของทข่ี ายในร้าน แนวการจัดการเรยี นรู้ หนา้ 181 ครูติดภาพแผนผงั ในสวนสนกุ โดยมแี ผ่นทางเดิน ตน้ กลา้ กับขนุ ก�ำ ลังเดนิ จากรา้ นอาหารไปร้านขายของท่ีระลกึ (ภาพตามหนงั สือเรยี น) ครูถามนักเรียน “ตน้ กล้าและขนุ เดินได้คนละก่ชี ่อง (ต้นกลา้ เดนิ ได้ 15 ช่อง ขนุ เดินได้ 13 ชอ่ ง) จากนนั้ ครเู ปรยี บเทยี บการเดนิ ทางของต้นกล้ากับขุน โดยใช้แถบตวั เลขและเส้นจ�ำ นวนตามหนังสอื เรียน หน้า 181 จนได้ขอ้ สรปุ “การเปรียบเทียบจ�ำ นวนโดยใชเ้ สน้ จำ�นวน จ�ำ นวนทอ่ี ย่ทู างซา้ ยจะน้อยกวา่ จ�ำ นวนทอี่ ยู่ทางขวา แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกนั คดิ เปรียบเทยี บ 15 กบั 20 พร้อมอภิปรายเหตผุ ล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 195
ค่มู ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถึง 20 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1 11 18 18 11 14 17 17 14 แนวการจดั การเรียนรู้ ครูยกตวั อยา่ งจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนเพื่อใหน้ กั เรยี นแสดงการเปรยี บเทียบบนเส้นจำ�นวนเพม่ิ เตมิ ร่วมกัน 196 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1 มากกวา นอ ยกวา เทา กบั นอยกวา มากกวา แนวการจัดการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนเพม่ิ เตมิ ในท�ำ นองเดยี วกนั กบั หนา้ 182 นอกจากนค้ี รอู าจจดั กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ ใหน้ กั เรยี น เปรยี บเทยี บจ�ำ นวนโดย เลน่ เกมเปา่ ยงิ ฉบุ ถา้ นกั เรยี นชายกบั นกั เรยี นหญงิ เลน่ เกมจบั คเู่ ปา่ ยงิ ฉบุ ไดพ้ อดแี สดงว่าจ�ำ นวนนักเรยี น ชายเทา่ กบั จำ�นวนนกั เรยี นหญงิ ถ้านักเรียนหญงิ เหลอื แสดงวา่ จ�ำ นวนนักเรียนหญงิ เป็นอย่างไร (มากกวา่ ) หรือนักเรยี นชาย มีจำ�นวน (นอ้ ยกวา่ ) นกั เรยี นหญงิ พรอ้ มทัง้ บันทกึ จำ�นวนนกั เรยี นชายและจ�ำ นวนนักเรยี นหญิงลงบนเส้นจำ�นวน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 197
ค่มู อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนับ 11 ถึง 20 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 นอ ยกวา นอยกวา ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้ เพอ่ื ให้สอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ นช่ัวโมงนี้ การเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยแสดงบทบาทสมมติ จ�ำ นวนทอ่ี ยทู่ างซา้ ยจะน้อยกว่าจำ�นวนท่อี ยู่ทางขวา เกี่ยวกับร้านขายของ และให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บจ�ำ นวน หรอื จ�ำ นวนทอ่ี ยทู่ างขวาจะมากกว่าจ�ำ นวนที่อยทู่ างซ้าย ส่ิงของโดยใช้ค�ำ ว่า เท่ากับ มากกวา่ นอ้ ยกว่า หลังจากนนั้ ให้นักเรยี นอ่านค�ำ สัง่ ในหนา้ 184 ตามครู พรอ้ มทั้งลงมอื ท�ำ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 4.5 หนา้ 112-113 ด้วยตนเอง 198 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | จำ�นวนนบั 11 ถึง20 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1 4.6 การใชเ้ ครอ่ื งหมาย > < และ = จดุ ประสงค์ นกั เรยี นสามารถเขียนเครอื่ งหมาย = > หรือ < เพื่อแสดง การเปรียบเทยี บจ�ำ นวน สอื่ การเรยี นรู้ • บัตรภาพรถ • บตั รเคร่อื งหมาย = , > , < • บัตรคำ� เทา่ กับ มากกวา่ น้อยกวา่ • บตั รภาพดินสอ • บัตรภาพปากกา • บัตรภาพยางลบ แนวการจัดการเรยี นรู้ ครู สามารถใช้ภาพในหนังสอื เรยี นหนา้ 185 เปน็ สอื่ โดยใช้คำ�ถามดังน้ี xxนักเรียนสังเกตเหน็ อะไรในภาพ (ครสู นทนาเก่ียวกับเครือ่ งเลน่ และวิธกี ารเลน่ อยา่ งปลอดภยั ) xxในภาพมเี ด็กผูห้ ญิงก่ีคน (11คน) และผู้ชายก่ีคน (11 คน) xxแสดงวา่ มจี �ำ นวนเด็กผู้หญงิ และเด็กผูช้ ายเป็นอย่างไร (เท่ากัน) ดงั นัน้ จ�ำ นวนเดก็ ผู้หญงิ เทา่ กบั จ�ำ นวนเด็กผู้ชาย xxเราใชเ้ ครอื่ งหมายอย่างไรแทนค�ำ ว่า “เท่ากบั ” (=) หลงั จากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นนบั จ�ำ นวนรถจบิ๊ และรถเก๋ง และให้นกั เรยี นเปรยี บเทียบและเลอื กใชเ้ ครือ่ งหมาย “ = ” (เทา่ กบั ) แสดงการเทา่ กนั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 199
คมู่ อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถึง 20 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 แนวการจัดการเรียนรู้ จัดกจิ กรรมเหมือนหนา้ 185 หรอื จัดกจิ กรรมเพม่ิ ให้นกั เรียน 10 คนมาเล่นเกมโยนลูกบอลจ�ำ นวน 12 ลูกใส่ตะกรา้ โดยให้นกั เรยี นโยนลกู บอลคนละ 1 ลกู แลว้ ยังเหลือลูกบอลอีกแสดงวา่ จ�ำ นวนนกั เรียนกบั จำ�นวนลกู บอลเปน็ อยา่ งไร (จ�ำ นวนนักเรียน “นอ้ ยกวา่ ” จำ�นวนลกู บอล หรอื จำ�นวนลูกบอล “มากกว่า” จ�ำ นวนนักเรียน) ใช้เคร่อื งหมายอยา่ งไรแทน คำ�ว่า นอ้ ยกว่า (<) มากกวา่ (>) โดยเขียนแสดง 12 > 10 และ 10 < 12 พร้อมแนะนำ�การอ่านแลว้ ใหน้ กั เรียนศกึ ษาข้อมลู จากหนงั สอื เรยี นหน้า 186 200 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนับ 11 ถึง20 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1 แนวการจดั การเรยี นรู้ ครูอา่ นขอ้ ความแล้วใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบจ�ำ นวนโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน โดยให้นกั เรยี นวงกลมลอ้ มรอบจำ�นวน ทง้ั สองจ�ำ นวน แลว้ เปรียบเทียบไปทลี ะขอ้ รว่ มกัน โดยครูน�ำ สนทนาเพือ่ ใหน้ ักเรยี นสังเกตและสรปุ ไดว้ า่ การแสดงจ�ำ นวน บนเสน้ จำ�นวน จำ�นวนที่อยทู่ างซ้ายน้อยกว่าจ�ำ นวนทอ่ี ยู่ทางขวา หรือ จำ�นวนทีอ่ ย่ทู างขวามากกว่าจำ�นวนทอ่ี ยู่ทางซ้าย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 201
คูม่ อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนับ 11 ถงึ 20 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1 ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ นชัว่ โมงน้ี เคร่อื งหมาย = แทน เท่ากบั ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนพิจารณา เครอ่ื งหมาย > แทน มากกวา่ จำ�นวนสิง่ ของในภาพตามหนงั สอื เรียนหน้า 188 แลว้ เครื่องหมาย < แทน น้อยกว่า เปรียบเทียบจำ�นวนส่ิงของท่มี ใี นภาพครอู า่ นค�ำ สัง่ ใชเ้ ครอ่ื งหมายเหลา่ นีแ้ สดงการเปรยี บเทียบจ�ำ นวน แล้วใหน้ ักเรยี นลงมือท�ำ ด้วยตนเอง จากนน้ั ใหน้ กั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 4.6 หน้า 114-115 202 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 4.7 การเรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวน จดุ ประสงค์ เมือ่ กำ�หนดจ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 20 ให้ 3 ถึง 5 จำ�นวน นกั เรยี นสามารถเรยี ง ลำ�ดับจำ�นวนจากน้อยไปมากและ จ�ำ นวนจากมากไปน้อย ส่อื การเรียนรู้ • บตั รตัวเลข • เสน้ จ�ำ นวน แนวการจัดการเรยี นรู้ ครูใช้ภาพในหนังสือเรยี นหนา้ 189 เป็นส่อื โดยครสู นทนาร่วมกับนกั เรียนดงั น้ี ในภาพรถรางขบวนนี้มกี ่คี นั แต่ละคนั มผี โู้ ดยสารจ�ำ นวนเทา่ ไร ครตู ดิ เสน้ จ�ำ นวนไวบ้ นกระดาน ใหน้ กั เรยี นออกมาวงจ�ำ นวนคนทน่ี ง่ั อยใู่ นรถราง คนั ท่ี 1 (11 คน) คันท่ี 2 (19 คน) คนั ที่ 3 (14 คน) จากนนั้ ครถู ามใหน้ ักเรยี นบอกวิธกี ารเรยี งลำ�ดบั จำ�นวนคนที่น่ังในรถรางแตล่ ะคัน จากน้อยไปมากได้อย่างไร ครูนำ�อภิปราย xxใหน้ ักเรยี นสงั เกตท่เี ส้นจ�ำ นวนและบอกจำ�นวนท่ีน้อยท่ีสดุ ครูนำ�บตั รตวั เลขที่แสดงจำ�นวนทนี่ อ้ ยทส่ี ดุ ติดบนกระดาน xxถามนกั เรียนถึงจ�ำ นวนทม่ี ากท่ีสุด ครนู ำ�บตั รตวั เลขแสดงจำ�นวนที่มากท่สี ุดติดไวบ้ นกระดาน xxครนู ำ�บัตรตัวเลขท่เี หลอื เอาไวต้ รงกลางแล้วนักเรียนอา่ นจ�ำ นวนทีเ่ รยี งเสร็จแล้วบนกระดานและชว่ ยกันเรยี งล�ำ ดบั จำ�นวนจากมากไปนอ้ ยร่วมกนั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 203
คมู่ ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | จำ�นวนนับ 11 ถงึ 20 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1 แนวการจดั การเรยี นรู้ เพือ่ เปน็ การย�้ำ ขั้นตอนการเรยี งล�ำ ดับจ�ำ นวนครูกำ�หนดจ�ำ นวน 4 - 5 จ�ำ นวน เช่น 12 16 18 15 แลว้ ใหน้ กั เรยี น บันทกึ จำ�นวนทุกจ�ำ นวนลงบนเส้นจ�ำ นวน พร้อมทั้งสงั เกตจ�ำ นวนทนี่ อ้ ยท่สี ดุ และจ�ำ นวนทีม่ ากทสี่ ุด ตลอดจนจ�ำ นวนอ่ืน ๆ บนเสน้ จำ�นวน แลว้ น�ำ จ�ำ นวนมาเรยี งลำ�ดับจากนอ้ ยไปมากหรอื จากมากไปน้อย 2 - 3 ตัวอยา่ ง แลว้ ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาขอ้ มูล จากหนังสอื เรยี นหนา้ 190 204 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1 11 14 16 18 18 16 14 11 20 10 10 13 15 17 20 20 17 15 13 10 แนวการจัดการเรยี นรู้ ในทำ�นองเดียวกบั หนา้ 190 ครูให้นักเรยี นวงตวั เลขแสดงจ�ำ นวนตามทก่ี �ำ หนดให้บนเสน้ จำ�นวน จากเสน้ จ�ำ นวน ครูใชค้ ำ�ถามว่าจ�ำ นวนใดน้อยทีส่ ุดและจำ�นวนใดมากท่ีสุด จากน้ันให้นักเรียนเปรียบเทยี บจ�ำ นวนท่ีเหลือคอื จ�ำ นวนใด กับจ�ำ นวนใด แล้วให้นักเรียนเติมจำ�นวนแสดงการเรยี งลำ�ดับจำ�นวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยใหค้ รบตามค�ำ สั่ง เม่ือนกั เรยี นเตมิ ครบแล้วให้อา่ นพร้อมกันเพ่ือตรวจสอบความถกู ต้อง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 205
คู่มอื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถึง 20 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 12 17 19 20 18 15 14 11 10 ตรวจสอบความเขา้ ใจ สงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ เพอื่ ให้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นร้ขู องชัว่ โมงนี้ การเรียงล�ำ ดับจ�ำ นวน ทำ�ได้โดยหาจำ�นวนทีม่ ากทีส่ ุด ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยครูควรสนทนา และจ�ำ นวนท่ีนอ้ ยทีส่ ดุ โดยอาจใช้เสน้ จำ�นวน กบั นักเรียนถึงวิธกี ารเรียงลำ�ดบั จ�ำ นวนเพือ่ สรปุ เป็นแนวคิด แล้วเรียงล�ำ ดับจ�ำ นวนจากน้อยไปมากหรอื จาก “การเรยี งล�ำ ดบั จำ�นวนใหพ้ ิจารณาจ�ำ นวนท่ีนอ้ ยทสี่ ดุ และ มากไปน้อย จำ�นวนท่ีมากท่ีสดุ ก่อนแล้วจึงน�ำ จ�ำ นวนท่เี หลือมาเปรียบ เทียบกัน” จากนน้ั ครูให้นักเรยี นอา่ นคำ�สงั่ ในหนงั สอื เรยี น จากนนั้ ให้นกั เรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 4.7 หนา้ 116-117 หนา้ 192 และเรียงล�ำ ดับจำ�นวนดว้ ยตนเอง 206 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถึง20 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1 4.8 ความสมั พนั ธข์ องจ�ำ นวน แบบสว่ นยอ่ ย - สว่ นรวม จุดประสงค์ นกั เรยี นสามารถแสดงความสัมพันธ์ ของจำ�นวนแบบสว่ นย่อย – ส่วนรวม ของจ�ำ นวน 11 – 20 สอ่ื การเรียนรู้ • ตวั นบั (ฝาขวดพลาสติก กระดาษแขง็ ตดั เป็นวงกลม รูปสามเหลีย่ ม รปู สีเ่ หลีย่ ม ฯลฯ) • ใบกจิ กรรม • แบบบันทกึ กจิ กรรม • บัตรตวั เลข แนวการจัดการเรยี นรู้ ครใู ห้นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมความสัมพันธ์ของจ�ำ นวนแบบส่วนยอ่ ย-ส่วนรวมโดยแจกตัวนบั ใหน้ กั เรยี น (นักเรยี น แตล่ ะคนเกบ็ สะสมฝาขวดน้ำ�) คนละ 11 ตวั ใบกิจกรรมและแบบบันทกึ กิจกรรมโดยใหน้ กั เรียนวางตัวนบั 11 ตวั ในช่องบน สดุ ของใบกิจกรรม แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คดิ วา่ จะแยกตวั นับเป็นสองกองได้กีแ่ บบและได้จำ�นวนใดบา้ ง โดยศึกษาการปฏิบตั ิ จากน้ันครูน�ำ สนทนาเพื่อสรปุ การทำ�กิจกรรมของนกั เรยี นวา่ ได้ผลแบบใดบ้าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 207
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนับ 11 ถงึ 20 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1 12 11 10 9 8 76 13 12 11 10 9 8 7 แนวการจดั การเรยี นรู้ ให้นกั เรยี นทำ�กิจกรรมเช่นเดียวกบั หน้า 193 โดยใชต้ ัวนบั 12 ตวั และตัวนับ 13 ตัว พรอ้ มทง้ั เน้นย้�ำ กบั นกั เรยี น ถงึ จำ�นวนตัวนบั ทแี่ ยกออกมา 2 กอง เราเรยี กวา่ สว่ นย่อยของจำ�นวนนน้ั ๆ เช่น 1 กบั 11 เป็นสว่ นย่อยของ 12 นอกจากนี้ หลังจากนกั เรียนน�ำ เสนอผลงานแลว้ ครคู วรเสนอแนะใหน้ กั เรยี นแยกส่วนยอ่ ยอย่างเปน็ ระบบ ถ้าดา้ นซา้ ยเพ่ิม 1 ดา้ นขวา จะลดลง 1 208 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนับ 11 ถงึ 20 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1 0 17 1 16 2 15 3 14 4 13 5 12 6 11 7 10 8 9 0 12 3 18 17 16 15 6 4 5 12 14 13 9 7 8 9 11 10 แนวการจดั การเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมในท�ำ นองเดยี วกบั หนา้ 194 โดยแยกสว่ นยอ่ ย-ส่วนรวม ของจำ�นวน 17 และ 18 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 209
ค่มู ือครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนบั 11 ถึง 20 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 0 19 1 18 2 17 3 16 4 15 5 14 6 13 7 12 8 11 9 10 ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ในชว่ั โมงน้ี ความสัมพนั ธ์ของจำ�นวนแบบสว่ นยอ่ ย – ส่วนรวม ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นอา่ นค�ำ ส่งั เปน็ การเขยี นแสดงจ�ำ นวนในรปู ของจ�ำ นวน 2 จ�ำ นวน ในหน้า 196 ตามครแู ละเขยี นตวั เลขแสดงความสัมพันธข์ อง ขนึ้ ไป เชน่ 11 อาจเขียนเปน็ 1 กบั 10 2 กบั 9 จ�ำ นวนแบบสว่ นย่อย – ส่วนรวมของจ�ำ นวน 19 ดว้ ยตนเอง 3 กับ 8 4 กบั 7 5 กับ 6 หรอื 0 กับ 11 หากเวลาเหลือครูอาจจดั กิจกรรมเสริมโดยใหน้ กั เรยี น จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 4.8 หน้า 118-119 เล่นเกมแข่งขนั กนั ตอบส่วนย่อยของจำ�นวนทคี่ รูกำ�หนด ดังนี้ 1) แบง่ นักเรียนเป็นฝา่ ยชายและฝา่ ยหญงิ 2) ครยู กบัตรตวั เลขแล้วใหน้ กั เรียนยกมือ ฝา่ ยที่ ยกมือก่อนจะได้ตอบสว่ นย่อยของจำ�นวนก่อนอกี ฝ่ายจะตอ้ ง ตอบสว่ นยอ่ ยที่ 2 เชน่ ครยู กบตั รตัวเลขจำ�นวน 19 นกั เรยี น ชายยกมอื ก่อนจะตอบจ�ำ นวนทีเ่ ป็นสว่ นย่อยกอ่ นเปน็ 9 นักเรียนหญิงจะต้องตอบส่วนยอ่ ยที่เหลอื เปน็ 10 3) ครูบนั ทึกจ�ำ นวนท่ีนักเรยี นตอบบนกระดาน และ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนชว่ ยกนั ตอบสว่ นยอ่ ยคอู่ น่ื ๆ ของจ�ำ นวน 19 19 9 10 210 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนบั 11 ถงึ 20 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1 หมวกแสนสวย อุปกรณ์ • ภาพหมวกในโปสเตอรม์ ี 4 ชนดิ • แบบบันทกึ 12 ๑๒ สบิ สอง ๑๔ สสบิ สบิสบิ สามี่ 14 ๑๓ 13 ๑๐ 10 14 13 12 10 วิธีจดั กจิ กรรม 1. ให้นกั เรียนจับคกู่ นั ชว่ ยกันนับภาพหมวกแตล่ ะชนดิ ในโปสเตอร์ 2. บันทกึ จำ�นวนหมวกแตล่ ะชนดิ ลงในแบบบนั ทกึ โดยเขยี นเป็นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือ 3. เรียงล�ำ ดับจ�ำ นวนหมวกแต่ละชิ้นจากมากไปน้อย ครูใหเ้ พื่อน ๆ กล่มุ อื่นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้องโดยการแลกเปล่ยี นกนั ตรวจสอบ หากกลมุ่ ไหนไมส่ ามารถ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของเพื่อนไดใ้ ห้ครูมาช่วยแนะน�ำ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 211
คูม่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | จำ�นวนนบั 11 ถึง 20 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1 แบบทดสอบบทที่ 4 เป็นตัวอย่างแบบทดสอบท่ีใช้ในการประเมินเพ่ือพัฒนานักเรียนหากมีนักเรียนคนใดที่ไม่ผ่านการทดสอบครูควร ให้นักเรียนคนน้ันฝึกทักษะมากขึ้นโดยอาจใช้แบบฝึกเสริมจากหนังสือเสริมเพิ่มปัญญาของสสวท.หรือแบบฝึกอ่ืนท่ี เห็นวา่ สมควร ซึ่งแบบทดสอบทา้ ยบทนม้ี ีจำ�นวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใชเ้ วลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที และวเิ คราะหเ์ ป็นรายจดุ ประสงคไ์ ดด้ งั น้ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 1. บอกจำ�นวนของส่ิงต่าง ๆ และแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามจำ�นวนทก่ี ำ�หนด 11 ถึง 20 1, 2, 6 2. อ่านและเขยี นตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย ตัวหนังสอื แสดงจ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 3, 4, 5 3. เปรยี บเทียบและเรยี งลำ�ดบั จ�ำ นวนนับ 11 ถงึ 20 7, 8, 9, 10 เขยี น × ทบั ตัวเลือกท่ีเปน็ ค�ำ ตอบที่ถกู ตอ้ ง สังเกตภาพและตอบค�ำ ถามข้อ 1-3 1. ข้อใดแสดงจำ�นวนนักเรียนท่วี ิ่งเล่นในสนามได้ถูกตอ้ ง ก. ข. ค. 212 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | จำ�นวนนับ 11 ถงึ 20 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1 2. ข้อใดแสดงจำ�นวนผเี สอื้ ได้ถกู ตอ้ ง ก. ข. ค. 3. ขอ้ ใดเขยี นตัวเลขไทยและตวั เลขฮินดูอารบิกของจำ�นวนดอกไมไ้ ดถ้ ูกต้อง ก. 13 , ๑๓ ข. ๑๓ , 13 ค. 13 , ๑๗ 4. ภาพในข้อใดแสดงจ�ำ นวน สบิ หก ข. ค. ก. 5. เขยี น 17 ในรูปกระจายไดอ้ ย่างไร ก. 17 = 10 + 7 ข. 17 = 9 + 7 ค. 17 = 11 + 6 ค. 6 กับ 9 6. ข้อใดเปน็ สว่ นยอ่ ยของจ�ำ นวน 15 ก. 6 กบั 7 ข. 6 กับ 8 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 213
ค่มู อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | จ�ำ นวนนบั 11 ถงึ 20 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1 7. 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ขอ้ ใดใชเ้ ครอ่ื งหมายเปรยี บเทยี บจำ�นวนจากเสน้ จำ�นวนได้ถกู ตอ้ ง ก. 11 > 17 ข. 14 < 11 ค. 18 > 17 สงั เกตภาพและตอบค�ำ ถาม ขอ้ 8 - 10 ร้านขายของ ดินสอ 12 แท่ง ไม้บรรทัด 15 อัน ยางลบ 13 กอ้ น กบเหลาดินสอ 16 อนั 8. สงิ่ ใดในร้านขายของมจี �ำ นวนน้อยทีส่ ุด ก. ยางลบ ข. ดนิ สอ ค. ไม้บรรทดั ค. กบเหลาดินสอ 9. สง่ิ ใดในร้านขายของมีจ�ำ นวนมากทสี่ ดุ ก. ยางลบ ข. ไม้บรรทดั 10. ขอ้ ใดเรียงจำ�นวนสิง่ ของในร้านค้าจากนอ้ ยไปมากได้ถกู ตอ้ ง ก. ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทดั กบเหลาดินสอ ข. ยางลบ ไมบ้ รรทัด ดนิ สอ กบเหลาดนิ สอ ค. ไมบ้ รรทดั ยางลบ ดินสอ กบเหลาดนิ สอ เฉลย 1. ค 2. ข 3. ข 4. ก 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ค 10. ก 214 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 20 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 บทท่ี 5 การบวก การลบ จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 20 จดุ ประสงค์การเรยี นร้แู ละสาระสำ�คัญ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระส�ำ คัญ นกั เรยี นสามารถ • การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวน สามารถหาผลบวก โดยใช้การนบั ตอ่ 1. หาผลบวกในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวกของจำ�นวนนับ ไมเ่ กนิ 20 และ 0 • การหาผลบวกโดยใช้การนับตอ่ ถ้านบั ตอ่ จากจ�ำ นวนท่ี มากกว่า จะท�ำ ให้หาผลบวกได้เร็วกว่า (เน้ือหาในหวั ขอ้ 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5) • การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวน สามารถหาผลบวก โดยใช้เส้นจำ�นวน การหาผลบวกของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวน อาจใช้ผลบวกของจำ�นวนเดียวกนั สองจ�ำ นวนช่วยใน การหาผลบวก • การหาผลบวกของจำ�นวนสองจำ�นวน อาจใชก้ ารทำ�ให้ ครบสิบ • การบวกจำ�นวนสามจ�ำ นวนจะบวกสองจำ�นวนใดกอ่ นกไ็ ด้ แล้วบวกจ�ำ นวนทเ่ี หลือ ผลบวกเท่ากนั • ถ้ามีสองจำ�นวนใดท่ีบวกครบสิบ ใหบ้ วกสองจำ�นวนน้ัน กอ่ น แลว้ บวกจ�ำ นวนทเ่ี หลอื 2. หาผลลบในประโยคสัญลักษณ์การลบของจำ�นวนนับ • สามารถหาผลลบโดยใชก้ ารวาดรปู ไมเ่ กนิ 20 และ 0 • สามารถหาผลลบ โดยใช้เสน้ จำ�นวน (เนือ้ หาในหวั ขอ้ 5.6 5.3 5.8 5.9) • สามารถหาผลลบโดยใช้การนับต่อ โดยนบั ตอ่ จากตัวลบ ไปถงึ ตัวตง้ั จำ�นวนคร้ังในการนับต่อเปน็ ผลลบ • การลบจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน สามารถนำ�ตัวต้งั ลบด้วย ตวั ลบ 1 หรือตัวลบ 2 กอ่ นแลว้ ลบดว้ ยตวั ลบทเี่ หลือ 3. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การบวกและ • อาจใช้การนบั ต่อ หรอื เส้นจำ�นวน หรือความสมั พันธข์ อง ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบของจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 20 และ 0 การบวกและการลบชว่ ยในการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ (เนอ้ื หาในหัวขอ้ 5.10) ในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก และประโยคสญั ลักษณ์ การลบ 4. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ • การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดย อา่ นท�ำ ความเขา้ ใจปญั หา ปัญหาการลบของจำ�นวนนับไม่เกนิ 20 และ 0 วางแผนวธิ คี ิด ซงึ่ อาจใชก้ ารวาดรูป หาคำ�ตอบ (เนื้อหาในหวั ขอ้ 5.11 5.12 5.13) และตรวจสอบความสมเหตุสมผล • การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ตอ้ งมที ง้ั สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกและ สว่ นทโ่ี จทยถ์ าม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 215
คมู่ อื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1 ตารางการวเิ คราะห์เนื้อหากบั ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หวั ข้อ เน้อื หา ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ เตรียมความพร้อม jklmn 5.1 การหาผลบวกโดยใช้การนบั ต่อ 5.2 การหาผลบวกโดยใช้เสน้ จำ�นวน 5.3 การหาผลบวกโดยใช้การบวกจ�ำ นวนเดียวกัน 5.4 การหาผลบวกโดยการท�ำ ใหค้ รบสิบ 5.5 การบวกจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน 5.6 การหาผลลบโดยใช้การวาดรปู 5.7 การหาผลลบโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน 5.8 การหาผลลบโดยใช้การนับต่อ 5.9 การลบจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน 5.10 การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ 5.11 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (1) 5.12 โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (2) 5.13 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ (3) 5.14 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากภาพ 5.15 การสร้างโจทย์ปัญหาจากประโยคสัญลักษณ์ รว่ มคดิ ร่วมทำ� ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ j การแก้ปญั หา k การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ l การเชอื่ มโยง m การให้เหตุผล n การคดิ สรา้ งสรรค์ 216 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 20 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1 ค�ำ สำ�คัญ ผลบวก ผลลบ ตัวไมท่ ราบคา่ โจทย์ปัญหาการบวก โจทยป์ ญั หาการลบ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ โจทยถ์ าม โจทย์บอก ความสัมพันธ์ของการบวก และการลบ ความร้หู รอื ทักษะพน้ื ฐาน • การบวก • การลบ • การบวกการลบโดใช้ความสมั พนั ธ์ ของจ�ำ นวนแบบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรว่ ม • การเปรียบเทียบจ�ำ นวน • การหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน • สถานการณ์การบวก • สถานการณก์ ารลบ • การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก • การแกโ้ จทยป์ ัญหาการลบ • จ�ำ นวนนับ 1 ถึง 20 และ 0 เวลาทใ่ี ช้จดั การเรียนรู้ 17 ชั่วโมง ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน หน้า 198 ถงึ 261 • อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล่องลูกบาศก์ 2 ลกู 2. แบบฝึกหดั หน้า 121 ถึง 158 แผน่ เกมเบี้ยส�ำ หรบั เดนิ กลอ่ งนมจืด กล่องนม 3. เอกสาร แบบบันทึก ใบกจิ กรรม และอุปกรณต์ ่าง ๆ ชอ็ กโกแลต กลอ่ งสบิ ไมบ้ ลอ็ ก/ กล่องกระดาษ ท่ใี ชใ้ นการทำ�กจิ กรรม ดังน้ี เส้นเชือก กระโปรงกระดาษ เสอ้ื กระดาษ กาละมงั • สื่อของจรงิ เช่น ฝาขวดน�้ำ กระดาษสีรปู สีเ่ หลี่ยม จาน น�ำ้ สถานการณจ์ �ำ ลองการขาย ดนิ สอ ยางลบ วงกลม โตะ๊ วางสนิ คา้ บตั รปา้ ยราคาสนิ คา้ • บัตรตวั เลข เช่น บตั รตัวเลข 1 ถึง 9 • ใบบันทึกกิจกรรม • บัตรขอ้ ความ เช่น บตั รประโยคสญั ลักษณ์ • บตั รภาพต่าง ๆ เช่น บัตรภาพเสน้ จ�ำ นวน บตั รค�ำ สั่ง บตั รเครือ่ งหมาย บัตรโจทย์ปญั หา บตั รภาพ บัตรตัวเลข 1 ถึง 20 และ 0 บตั รภาพ • สือ่ ตัวนบั เช่น ตวั นบั สีต่าง ๆ รถราง บัตรภาพเดก็ ภาพสัตว์ ภาพวัว ภาพแพะ และภาพแกะ ภาพไก่ ภาพมะม่วง ภาพฝรัง่ และ ชมพู่ ภาพไขไ่ กก่ บั ไข่เป็ด ภาพต๊กุ ตาหมกี ับตุ๊กตาชา้ ง ภาพสถานการณเ์ ก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ยี ง ผลไม้ เครอื่ งเขยี น ช้ันวางหนงั สือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 217
คู่มือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 แนวการจัดการเรยี นรู้ ใช้ขอ้ มลู ในหนงั สอื เรียนหนา้ เปิดบท จ�ำ ลองสถานการณ์วันหยุดไปเข้าค่ายวชิ าการ “ท่องแดนคณิตคิดบวกลบ” โดยเตรียมบตั รตวั เลข บัตรการบวก บตั รการลบ หนีบไวก้ บั ราวเปน็ คแู่ ละมบี ตั รท่ยี งั ไมไ่ ด้จดั วางกองรวมกนั ครูใช้ค�ำ ถาม • นกั เรียนสงั เกตเห็นอะไรบ้าง (บตั รตัวเลข บตั รการบวก บตั รการลบ มบี ัตรท่ีหนีบไวก้ บั ราวเปน็ คแู่ ละมบี ตั ร อีกจ�ำ นวนหน่ึงวางกองรวมกนั อย)ู่ • นักเรียนคิดวา่ บัตรท่ีหนบี อยูบ่ นราวทำ�ไมจบั ค่กู ันไดห้ รอื จบั คู่กนั โดยใช้เกณฑ์ใด (เป็นบัตรการบวก บัตรการลบ กับผลลัพธ์) ใหน้ ักเรียนสำ�รวจบตั รท่อี ยู่ในกอง จะเห็นว่ามที ้งั บตั รการบวก บัตรการลบ และบัตรตวั เลข ครอู ธิบายว่าบัตรทุกบตั ร มีคเู่ ราจะทอ่ งแดนคณติ คดิ บวกลบ โดยจบั ค่บู ตั รที่อยใู่ นกองเพื่อหนบี บนราว และถามนกั เรียน “เราจะใช้วิธีใดหาผลบวก และผลลบ” อาจจดั กจิ กรรมนเี้ ปน็ ประสบการณจ์ ริงนอกหอ้ งเรียน ให้นกั เรียนได้เรยี นรู้จากของจริงเพ่อื น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี น ซ่งึ เมื่อเรียนจบบทที่ 5 แลว้ สามารถน�ำ กจิ กรรมน้ีมาจัดกจิ กรรม จะเห็นวา่ นกั เรียนจบั ค่บู ตั รไดร้ วดเร็วขึ้น 218 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1 แนวการจัดการเรยี นรู้ เตรียมความพรอ้ มเพ่ือตรวจสอบความรูพ้ น้ื ฐานของนกั เรยี นเรื่องจ�ำ นวน 1 ถึง 20 การบวกและการลบโดยทำ�กิจกรรม “ถงึ ก่อน อม่ิ กอ่ น” จากหนังสือเรียนหน้า 200 เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ กลอ่ งลูกบาศก์ 2 ลกู ท่ีแต่ละลูกมตี วั เลขบนหนา้ แตล่ ะ หน้าตามท่กี ำ�หนดแผ่นเกม เบ้ยี สำ�หรบั เดนิ ครแู บ่งกลมุ่ นกั เรยี นแจกอุปกรณ์กลุ่มละ 1 ชุด นักเรยี นผลดั กันเล่นโดยโยนกลอ่ ง ลูกบาศก์ 2 ลกู พร้อมกนั แล้วเดนิ แต้มตามผลบวกท่ไี ดโ้ ดยการนบั ตอ่ ใครถึง 20 ก่อนเปน็ ผู้ชนะ เพื่อฝกึ ฝนในเร่ืองการลบหากได้ต�ำ แหน่งทีต่ อ้ งยอ้ นถอยหลงั ใหถ้ ามว่านับถอยหลงั ไปก่แี ต้ม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 219
คมู่ ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1 5.1 การหาผลบวกโดยใช้การนับต่อ จดุ ประสงค์ นกั เรียนสามารถหาผลบวกในประโยค สัญลักษณก์ ารบวกของจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 20 และ 0 โดยใชก้ ารนับตอ่ ส่อื การเรยี นรู้ • สถานการณจ์ �ำ ลอง • บตั รการบวก • บตั รตวั เลข • บตั รคำ� แนวการจดั การเรยี นรู้ อภิปรายถงึ กิจกรรมท่นี ักเรยี นทำ�ในวนั หยดุ อาจจดั กลมุ่ เป็นกิจกรรมที่ท�ำ นอกบ้าน เชน่ ทอ่ งเทีย่ ว ซือ้ เส้ือผ้า ไปเยี่ยม ญาติผใู้ หญ่ และกจิ กรรมทท่ี ำ�ในบ้าน เช่น จัดเกบ็ บ้านให้เป็นระเบยี บ พกั ผ่อน เพ่ือเช่อื มโยงเขา้ สกู่ ารอ่านหนงั สือซ่งึ เปน็ ตามสถานการณใ์ นหนงั สอื เรยี นหนา้ 201 ใบบวั อ่านหนงั สือตอนเชา้ ได้ 5 หนา้ ตอนบา่ ยอ่านหนังสอื ได้อกี 9 หนา้ แกว้ ตาถาม ว่าอา่ นหนังสอื ได้ท้งั หมดกห่ี น้า โดยครูใชค้ ำ�ถาม เช่น • นกั เรยี นจะหาค�ำ ตอบได้อย่างไร (ใชว้ ธิ ีการนบั ต่อ) • ท�ำ ไมจึงใช้วธิ นี บั ต่อ/สถานการณท์ ีเ่ กิดขนึ้ เป็นอย่างไร (ใบบวั อา่ นหนังสอื ไปแลว้ ตอนเช้าแล้วตอนบ่ายอ่านเพิ่มอีก ดงั นนั้ จึงเป็นสถานการณ์การบวก) • นบั ต่อไดอ้ ยา่ งไร (เร่มิ นบั จาก 5 นับต่อไปอกี 9 เปน็ หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สบิ เอด็ สบิ สอง สิบสาม สบิ ส)่ี • นักเรียนคดิ ว่า 5 + 9 = 14 มวี ธิ นี ับต่อแบบอ่ืนอีกหรือไม่ (นบั ตอ่ จาก 9) • ลองนับต่อจาก 9 ไปอกี 5 จะไดค้ ำ�ตอบเท่ากบั นับตอ่ จาก 5 ไปอกี 9 หรอื ไม่ • นักเรียนคดิ ว่าจะเลอื กนับต่อจากจำ�นวนใด เพราะเหตใุ ด เพ่ือเป็นการทบทวนประสบการณ์เดิม ควรให้นักเรยี นได้วิเคราะหส์ ถานการณ์ที่เกดิ ขน้ึ ให้นกั เรียนได้สงั เกตและแสดง ความคิดเหน็ สุดท้ายครคู วรใหน้ กั เรียนไดส้ รปุ ดว้ ยตนเองว่าเทคนคิ การนบั ต่อถา้ นับจากจ�ำ นวนที่มากกว่า จะไดค้ ำ�ตอบเร็วกวา่ 220 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 20 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1 แนวการจดั การเรียนรู้ ฝกึ ทักษะการนับต่อในหนังสือเรยี นหน้า 202 โดยครู ชูบัตร 8 + 4 = ใหน้ กั เรียนตอบพร้อมกนั ทงั้ ห้อง จากน้นั ชบู ัตร 3 + 9 = ให้นักเรียน อาสาสมคั รแสดงการนบั ตอ่ และทำ�เช่นเดยี วกนั กับ 11 + 2 = และ 5 + 13 = ในขนั้ ตอนนี้สามารถประเมนิ ผลนักเรียนไดช้ ัดเจน ครสู ามารถนำ�บัตรการบวกจากกิจกรรมทที่ �ำ ในหนา้ เปดิ มาใชไ้ ด้ หากนักเรยี นนบั ต่อถกู ตอ้ ง ครแู ละเพ่ือนในชนั้ เรยี นควรใหก้ �ำ ลังใจ ถ้านบั ไมถ่ ูกครคู วรช่วยแก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 221
ค่มู อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 9 2 สิบ สิบเอ็ด ๑๑ 11 15 3 สิบหก สบิ เจด็ สิบแปด ๑๘ 18 16 4 สิบเจ็ด สบิ แปด สบิ เกา ยส่ี ิบ 20 ๒๐ แนวการจดั การเรยี นรู้ ฝึกการนับตอ่ ในหนงั สือเรยี นหนา้ 203 ทำ�ตัวอยา่ ง 7 + 4 = พร้อมกนั ท้ังหอ้ งแล้วถามวา่ ะสามารถนับตอ่ อยา่ งไร ลงมอื ทำ�พร้อมกันโดยครูอาจใชบ้ ตั รค�ำ (แปด เกา้ สบิ สบิ เอ็ด) ติดบนกระดานเพื่อช่วยนักเรียนท่ยี งั เขยี นจ�ำ นวนไม่คล่อง เพ่อื ใหเ้ กิดความแมน่ ย�ำ ในการท�ำ ข้อ 1, 2, 3 ครูควรสรปุ วธิ ีนับต่อใหน้ ับจากจ�ำ นวนทม่ี ากกวา่ ทุกครงั้ 222 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1 85 เกา สิบ สิบเอด็ สบิ สอง สิบสาม 13 ๑๓ 14 4 สบิ หา สบิ หก สิบเจ็ด สบิ แปด 18 ๑๘ ตรวจสอบความเข้าใจ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรใู้ นช่ัวโมงนี้ • การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนสามารถหาผลบวก ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยก�ำ หนดประโยค โดยใชก้ ารนบั ต่อ สัญลกั ษณก์ ารบวก ให้นกั เรยี นเติมค�ำ ตอบโดยการนับต่อ ตามหนงั สือเรียนหน้า 204 ในกรณที น่ี กั เรียนเขียนคำ�ไมไ่ ด้ • การหาผลบวกโดยใชก้ ารนบั ต่อ ถ้านบั ตอ่ จาก แตส่ ามารถเขียนตัวเลขไดถ้ ูกต้องถือว่านักเรยี นผา่ น จำ�นวนท่มี ากกวา่ จะท�ำ ใหห้ าผลบวกไดเ้ ร็วกวา่ จดุ ประสงค์ แตต่ ้องให้ความช่วยเหลือดา้ นการเขยี น (ครอู าจตดิ บตั รค�ำ ไวท้ ก่ี ระดานเพอ่ื ชว่ ยการเขยี น จากน้ันใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝึกหดั 5.1 หนา้ 121-122 ของนักเรียน) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 223
คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1 5.2 การหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน จุดประสงค์ นักเรียนสามารถหาผลบวก ในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก ของจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 20 และ 0 โดยใชเ้ ส้นจ�ำ นวน สอ่ื การเรยี นรู้ • สถานการณ์ • เสน้ จ�ำ นวน • บตั รการบวก • บตั รตวั เลข แนวการจดั การเรยี นรู้ จำ�ลองสถานการณ์ และใช้ขอ้ มูลในหนังสือเรยี นหนา้ 205 สนทนากับนกั เรยี นจ เชน่ • จากภาพนีม้ ีสถานการณใ์ ดเกิดขึ้น (แม่ของขุนมีนอ่ งไกท่ อด 4 ชิน้ ทอดเพมิ่ อีก 12 ชิ้น) • ค�ำ ถามคืออะไร (มนี อ่ งไก่ทอดทงั้ หมดก่ีช้ิน) • จะหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร (4+12 = ใช้วิธกี ารนับตอ่ จาก 12 นบั ไปอกี 4) • นอกจากการนับตอ่ แลว้ เราสามารถหาผลบวกวิธีอื่นได้หรอื ไม่ ครแู นะน�ำ การหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวนซง่ึ เสน้ จ�ำ นวนใช้หลกั การหรือวธิ คี ิดเช่นเดียวกับการนับตอ่ โดยอาจแสดงล�ำ ดับข้ันการคิดดงั น้ี • เขยี นสว่ นโค้งจาก 0 ถึง 4 และหวั ลกู ศรแสดงทศิ ทางเพื่อแสดงวา่ แม่มีน่องไก่ 4 ช้นิ • เขียนส่วนโคง้ ย่อยเป็นเส้นประพร้อมกับนบั ทีละช่องไป 12 ช่อง หน่ึง...สิบสอง สิ้นสดุ ท่ี 16 แล้วเขยี นวงกลม ล้อมรอบ แลว้ เขยี นส่วนโค้งจาก 4 ถึง 16เพือ่ แสดงเพม่ิ อกี 12 ชนิ้ • ครูนำ�สรุปว่า 4 + 12 = 16 แมม่ นี ่องไกท่ อดทั้งหมด 16 ช้ิน • ครูถามวา่ 12 + 4 ไดค้ �ำ ตอบเทา่ กับ 4 + 12 หรอื ไม่ จากน้ันครแู สดงลำ�ดบั ข้นั การหาผลบวก 12 + 4 โดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน ซง่ึ จะเห็นไดว้ า่ การหาผลบวกโดยใชเ้ ส้นจ�ำ นวน 4 + 12 กับ 12 + 4 ได้ 16 เท่ากัน แต่หากเรยี งล�ำ ดบั ตามสถานการณแ์ ลว้ 4 + 12 แสดงล�ำ ดบั ขน้ั สถานการณว์ า่ อะไรเกดิ กอ่ น-หลงั แต่ 12 + 4 สามารถใชห้ าค�ำ ตอบ ได้รวดเร็วกว่าครอู าจแนะน�ำ การใชเ้ สน้ จ�ำ นวนในการหาผลบวก ถา้ เร่มิ ทจี่ �ำ นวนมากกว่าจะหาค�ำ ตอบไดเ้ ร็วกว่า 224 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1 แนวการจดั การเรยี นรู้ ฝกึ ทักษะการหาผลบวกโดยใช้เสน้ จำ�นวนตามหนังสอื เรียนหนา้ 206 ครูรว่ มคิดร่วมท�ำ กับนักเรียนติดบตั ร 9 + 4 = และตดิ เส้นจ�ำ นวนบนกระดาน • เริ่มจาก 0 ไป 9 (เขยี นส่วนโค้งจาก 0 ถึง 9 และหัวลูกศรแสดงทศิ ทาง) • แล้วต่อไปอกี 3 (เขียนสว่ นโคง้ ยอ่ ยเปน็ เส้นประพร้อมทง้ั นับทีละชอ่ ง หน่งึ สอง สาม เขยี นวงกลมที่ 12 แลว้ เขียนส่วนโค้งจาก 9 ถึง 12) • ดงั นั้น 9 + 3 = 12 ครอู าจหาอาสาสมัครนกั เรียนมาเขียนสว่ นโค้งบนเส้นจำ�นวนแล้วชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง เชอื่ มโยงใหน้ กั เรียน เหน็ ว่า ไม้บรรทัดของนกั เรยี นเปน็ เสน้ จ�ำ นวนได้ ดงั นน้ั ในระหวา่ งกจิ กรรมนอ้ี าจใหน้ กั เรยี นทกุ คนท�ำ พรอ้ มกบั ครโู ดยใชไ้ มบ้ รรทดั เปน็ เสน้ จ�ำ นวนสว่ นตวั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 225
ค่มู อื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 13 ๑๓ 19 ๑๙ 17 ๑๗ แนวการจดั การเรยี นรู้ ให้นักเรยี นหาผลบวกในหนังสอื เรียนหนา้ 207 โดยเขยี นส่วนโคง้ บนเส้นจำ�นวนและเตมิ ผลบวก ท�ำ ทีละขอ้ ครูเฉลย พร้อมกนั ทีละข้อ ใหค้ รูประเมนิ ความเข้าใจของนกั เรยี น โดยสังเกตว่านกั เรยี นท�ำ ไดห้ รือไม่ มีความเข้าใจคลาดเคลอ่ื นอย่างไร ครูให้ความชว่ ยเหลอื แกไ้ ขให้เขา้ ใจถกู ตอ้ ง 226 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1 13 ๑๓ 18 ๑๘ ตรวจสอบความเข้าใจ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ของการเรยี น การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนสามารถหาผลบวกโดยใช้ ในช่ัวโมงน้ีครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้ เสน้ จำ�นวน นกั เรยี นหาผลบวกโดยใช้เส้นจำ�นวนและเตมิ ผลบวกตาม หนังสอื เรยี นหนา้ 208 จากนนั้ ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 5.2 หน้า 123-125 เมอ่ื นกั เรียนำ�จนคลอ่ งอาจไมต่ อ้ งเขียนส่วนโค้งประ เพือ่ นบั ต่อทลี ะชอ่ งอาจเขยี นสว่ นโคง้ ยาว เชน่ จาก 0 ถงึ 7 และจาก 7 ถงึ 13 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 227
คู่มอื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนับไม่เกนิ 20 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 5.3 การหาผลบวกโดยใช้ การบวกจ�ำ นวนเดยี วกนั จุดประสงค์ นกั เรยี นสามารถหาผลบวก ในประโยคสญั ลักษณก์ ารบวก ของจำ�นวนนับไม่เกิน 20 และ 0 โดยใช้การบวกจ�ำ นวนเดียวกัน ส่อื การเรียนรู้ • รปู ภาพ • ของจริง • กรอบสบิ แนวการจดั การเรยี นรู้ ใชข้ องจรงิ หรอื รปู ภาพเพอ่ื ฝกึ การหาผลบวกจ�ำ นวนเดยี วกนั 5 + 5 (ถงุ มอื สองขา้ ง) 6 + 6 (สบแู่ พค็ ละครง่ึ โหล 2 แพค็ ) 7 + 7 (วันในปฏทิ นิ ) 8 + 8 (แมงมมุ สองตัว) 9 + 9 (ภาพทจ่ี อดรถหนั หลังชนกนั ดา้ นละ 9 คนั ) ฝกึ ใหน้ ักเรียนหาผลบวก จำ�นวนเดียวกนั อยา่ งรวดเร็วโดยไมต่ ้องนับ ใช้ขอ้ มลู ในหนงั สือเรยี นหน้า 209 สนทนาเก่ยี วกับการหาผลบวก 5 + 5 และจำ�นวนใกล้เคียงกนั ได้แก่ 5 + 6, 5 + 7 โดยอาจใชค้ ำ�ถาม เชน่ • นกั เรียนสังเกตเหน็ อะไร (นมจืด 5 กลอ่ ง นมชอ็ กโกแลต 5 กลอ่ ง) • มีนมทั้งหมดกีก่ ลอ่ ง (10 กล่อง) • คิดไดอ้ ย่างไร (นับจากของจริงและใชก้ รอบสิบ) • ถา้ เรารวู้ ่า 5 + 5 = 10 แล้ว 5 + 6 เท่ากับเท่าไร (ตอบอยา่ งรวดเรว็ 5 + 6 = 11) • คดิ ไดอ้ ย่างไร (5 + 6 = 11 เพราะ 6 เพมิ่ จาก 5 อีก 1 นนั่ คือ 10 + 1 = 11) • สรุปไดว้ า่ หาผลบวกของ 5 + 6 ได้จากการน�ำ ผลบวกของ 5 + 5 คอื 10 บวกกบั 1 ครูแนะน�ำ วา่ จาก 5 + 5 = 10 สามารถใช้ขอ้ มลู นห้ี าค�ำ ตอบการบวกสองจ�ำ นวนใดไดอ้ ีก เช่น 5 + 7 = 12 เพราะ 7 เพม่ิ จาก 5 อีก 2 นัน่ คอื 10 + 2 • หาผลบวกของ 5 + 7 ได้จาก นำ�ผลบวกของ 5 + 5 คอื 10 บวกกับ 2 228 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนับไม่เกิน 20 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1 แนวการจัดการเรียนรู้ ใช้ขอ้ มลู ในหนังสอื เรียนหนา้ 210 ฝึกการหาผลบวก 6 + 7 = , 6 + 8 = โดยใช้วธิ หี าผลบวกของจำ�นวน เดียวกนั คอื 6 + 6 = 12 ดังนน้ั 6 + 7 = 13 ไดจ้ ากการน�ำ 12 บวก กับ 1 และ 6 + 8 = 14 ได้จากการน�ำ 12 บวกกบั 2 ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยใช้กรอบสิบใช้คำ�ถามกับนักเรยี น ครจู ัดกจิ กรรมทำ�นองเดยี วกนั กบั 7 + 8 = และ 7 + 9 = สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 229
คมู่ ือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1 เพราะ 8 นอ� ยกวา� 9 อย�ู 1 9 + 8 = 18 - 1 = 17 แนวการจัดการเรียนรู้ จากนัน้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันอภปิ รายถงึ การหาผลบวกของ 8 + 9 = โดยใช้การบวกจ�ำ นวนเดียวกนั โดยใชค้ ำ�ถาม • นกั เรยี นคิดวา่ จะหาผลบวกของ 8 + 9 ไดอ้ ยา่ งไรโดยไมต่ อ้ งนับ (เราทราบว่า 8 + 8 = 16 ดังนน้ั 8 + 9 = 16 +1) ครูจัดกิจกรรมทำ�นองเดยี วกันกับ 9 + 9 = โดยถามว่า • 9 + 9 = หาผลบวกไดอ้ ยา่ งไร (9 + 9 = 18 เป็นผลบวกจำ�นวนเดียวกันหรือหาผลบวกไดโ้ ดยใช้กรอบสบิ ) เม่อื นกั เรยี นหาผลบวกไดแ้ ล้วครูชบู ัตรการบวกที่เปน็ การบวกจ�ำ นวนเดยี วกนั และจ�ำ นวนใกลเ้ คียงใหน้ กั เรยี นบอก ผลบวกอยา่ งรวดเร็ว 230 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 20 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1 10 1 11 10 2 12 12 1 13 12 2 14 ตรวจสอบความเข้าใจ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ของการเรียน การหาผลบวกของจ�ำ นวนสองจำ�นวน อาจใชผ้ ลบวก ในช่ัวโมงน้ี ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น ของจ�ำ นวนเดียวกนั สองจำ�นวนช่วยในการหาผลบวก โดยให้นกั เรียนหาผลบวกของจำ�นวนสองจ�ำ นวนตามหนังสือ เช่น ถ้ารู้ 5 + 5 = 10 สามารถหา 5 + 6 = 11 และ เรยี นหนา้ 212 5 + 7 = 12 ครคู วรให้ความชว่ ยเหลือนักเรียนท่ียงั ไมเ่ ขา้ ใจหรอื จากน้นั ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 5.3 หนา้ 126-127 มีความเขา้ ใจทค่ี ลาดเคลอื่ นโดยฝกึ ให้หาผลบวกของจำ�นวน เดียวกันให้คล่องก่อนแล้วจงึ เพิ่มจำ�นวนทลี ะ 1 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 231
ค่มู อื ครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1 5.4 การหาผลบวก โดยการท�ำ ให้ครบสบิ จดุ ประสงค์ นกั เรยี นสามารถหาผลบวกในประโยค สญั ลักษณก์ ารบวกของจ�ำ นวนบบั ไมเ่ กนิ 20 และ 0 โดยการท�ำ ให้ครบสบิ สื่อการเรยี นรู้ • บัตรกจิ กรรมหาผลบวก : ด้านหน้า เปน็ บตั รการบวก ด้านหลังเป็นผลบวก • ตัวนบั • กรอบสบิ แนวการจัดการเรยี นรู้ ท�ำ กิจกรรมหาผลบวก โดยครสู ุ่มหยบิ บตั รการบวกแลว้ ชบู ตั รให้นกั เรียนชว่ ยกันหาผลบวก และบอกว่าหาผลบวกได้ อย่างไร อาจใชบ้ ัตรการบวกให้นกั เรียนจบั คูแ่ ข่งขันโดยจับเวลา ผลดั กนั ถามตอบ เป็นกิจกรรมอนุ่ เครอ่ื งสร้างบรรยากาศ การเรยี นรูก้ อ่ นเรม่ิ เรียน และเป็นการฝึกทกั ษะการบวกใหแ้ มน่ ย�ำ ยิง่ ขนึ้ 232 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1 แนวการจัดการเรียนรู้ ครูนำ�เสนอการหาผลบวกโดยการทำ�ให้ครบสิบโดยติดบตั ร 5 + 8 = บนกระดาน จากน้ันแสดงการบวกโดยใช้ กรอบสบิ 2 กรอบวางตวั นบั ในกรอบสิบกรอบแรก 5 ตัวนับ แล้วหยบิ จากกอง 8 มาทลี ะ 1 ได้ 5 ตัวนับ จึงครบสบิ วางอกี 3 ตวั นบั ในกรอบสิบอกี กรอบหน่งึ ดังนนั้ 5 + 8 จะได้ 10 + 3 เปน็ 13 พรอ้ มอธิบายวา่ นน่ั คอื การแยกส่วนย่อยจากส่วนรวมโดยแยก 8 ออกเปน็ 5 กับ 3 เพื่อนำ� 5 ไปรวมกับ 5 ให้ครบสบิ ก่อนแลว้ จงึ น�ำ 10 มารวมกบั 3 อาจเขียนแสดงได้ ดังน้ี 5 + 8 = 10 + 3 5 3 = 13 ครถู ามนกั เรยี นวา่ จะหาผลบวกจาก 8 + 5 ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (ได้ เนอื่ งจากสองจำ�นวนบวกกนั สามารถสลบั ทกี่ นั ได้ ผลบวกยังคงเทา่ กนั ) ครสู าธติ 8 + 5 = โดยการท�ำ ใหค้ รบสิบ ใช้ตัวนบั และกรอบสิบ แล้วเขียนข้ันตอนบนกระดาน จากนนั้ ร่วมกันสรุปวา่ การหาผลบวกโดยการทำ�ใหค้ รบสิบ เป็นการแยกส่วนยอ่ ยเพอ่ื บวกใหค้ รบสิบก่อนแลว้ จึงน�ำ สบิ บวกกบั สว่ นทเ่ี หลือ ซึง่ การแยกสว่ นยอ่ ยจากส่วนรวมนั้นจะแยกจำ�นวนใดกไ็ ด้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 233
คมู่ ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1 1 + 10 11 2 + 10 12 10 + 4 14 10 + 3 13 แนวการจัดการเรยี นรู้ ฝึกการหาผลบวกโดยการท�ำ ให้ครบสบิ โดยครยู กตัวอย่าง 9 + 7 = และเขยี นแสดงวิธีการ วิธที ี่ 1 แยก 7 เป็นส่วนยอ่ ยคอื 1 กบั 6 เพื่อน�ำ 1 ไปบวกกบั 9 ให้ครบสิบ แล้วจงึ นำ�มาบวกกับ 6 เปน็ 16 วธิ ที ่ี 2 แยก 9 เปน็ ส่วนย่อยคือ 6 กับ 3 เพอื่ น�ำ 3 ไปบวกกับ 7 ใหค้ รบสบิ แล้วจึงนำ�มาบวกกับ 6 เป็น 16 จะเหน็ ไดว้ า่ ไดผ้ ลบวกเท่ากนั จากน้ันร่วมคดิ รว่ มทำ�พรอ้ มกันทลี ะขอ้ เพอ่ื ให้นักเรียนไดเ้ ข้าใจวิธกี าร หากนกั เรยี น สบั สนใหค้ รูย้อนกลับมาใชต้ วั นบั กบั กรอบสิบ อธบิ ายใหมช่ า้ ๆ ให้เหน็ ข้ันตอนชัดเจน หรอื อาจทำ�ข้อ 1, 2, 3 พรอ้ มกนั แลว้ ใหน้ ักเรียนท�ำ ขอ้ 4 ดว้ ยตนเองกอ่ นที่จะรว่ มกนั เฉลย 234 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 10 + 3 13 4 + 10 14 2 + 10 12 ตรวจสอบความเข้าใจ สิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรู้ เพื่อให้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนร้ใู นช่วั โมงนี้ การหาผลบวกของจำ�นวนสองจำ�นวนอาจใช้การทำ�ให้ ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นหา ครบสิบ ผลบวกโดยการทำ�ให้ครบสบิ ขอ้ 1, 2 กำ�หนดสว่ นย่อยมา ให้ ส�ำ หรบั ข้อ 3 ให้นกั เรียนแยกส่วนยอ่ ยดว้ ยตนเอง หาก จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 5.4 หน้า 128-129 นักเรยี นมคี วามเขา้ ใจคลาดเคลอื่ นครูควรใหค้ วามช่วยเหลือ โดยใชต้ วั นับและกรอบสบิ การหาผลบวกโดยการท�ำ ใหค้ รบสบิ มคี วามสำ�คญั มาก นอกจากจะเป็นการนำ�เสนอการหาผลบวกอกี หนง่ึ วธิ ีแลว้ ยงั เป็นการตรวจสอบความรเู้ ดิมเกีย่ วกับเรื่องส่วนย่อย สว่ นรวมของจ�ำ นวน 1 – 10 และ ยังเปน็ พนื้ ฐานของ การบวกจ�ำ นวนสามจำ�นวนในล�ำ ดับต่อไป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 235
คมู่ ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 5.5 การบวกจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน จุดประสงค์ นักเรียนสามารถหาผลบวกจ�ำ นวนสาม จำ�นวนในประโยคสัญลักษณ์การบวก ของจำ�นวนนับไม่เกิน 20 และ 0 สอื่ การเรียนรู้ • กิจกรรมโยนลกู ปงิ ปอง • บัตรการบวก แนวการจัดการเรยี นรู้ ใชข้ อ้ มลู ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 217 หาผลบวกของจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน 5 + 11 + 4 แสดงใหเ้ หน็ ว่าจะบวกคไู่ หนก่อนกไ็ ด้ แลว้ บวกจ�ำ นวนทเี่ หลือผลบวกจะเท่ากนั โดยครคู วรโยงเส้นจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่ใช้บวกกอ่ นเพือ่ ใหน้ ักเรยี นสังเกตไดช้ ัดเจน ขณะท�ำ กจิ กรรมถามนักเรียนว่าชอบวิธใี ด เพราะเหตุใด ครอู าจจดั กิจกรรมให้นักเรยี นทำ�กจิ กรรมโยนลกู ปิงปองลงตะกร้าจรงิ นอกห้องเรยี นเป็นการสร้างบรรยากาศในการ เรียนรู้ 236 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 10 + 5 = 15 5 + 10 = 15 แนวการจดั การเรยี นรู้ ครตู ดิ บตั รการบวก 6 + 3 + 4 บนกระดาน อาสาสมคั รใหน้ กั เรยี นออกมาแสดงวธิ ีการคิดว่า คิดอย่างไรไดบ้ ้าง โดยไมซ่ ้�ำ กนั จากน้นั ถามนักเรยี นวา่ นักเรียนจะเลอื กวิธใี ดท่ีไดค้ ำ�ตอบเรว็ ท่สี ุด ครูควรแนะน�ำ ให้นกั เรียนสังเกตไดว้ ่า การบวกค่ทู ีค่ รบสบิ ก่อน แล้วจึงบวกจ�ำ นวนท่เี หลือ ทำ�ใหก้ ารบวกงา่ ยข้ึน หลังจากน้ันครกู �ำ หนดโจทย์ 3 + 5 + 7 และ 5 + 2 + 8 ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั หาค�ำ ตอบโดยใช้การบวกคทู่ คี่ รบสิบกอ่ น และนำ�เสนอผลงานพรอ้ มตรวจสอบคำ�ตอบร่วมกัน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 237
คู่มอื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1 10 6 16 10 9 19 13 7 20 14 6 20 แนวการจัดการเรียนรู้ ครชู บู ัตรการบวก 5 + 1 + 5 = ให้นกั เรยี นหาผลบวกอย่างรวดเรว็ แลว้ บอกวธิ ีคิด (นำ� 5 บวก 5 ได้ 10 แลว้ จึงบวก 1 เป็น 11) ให้นกั เรยี นทำ�ข้อ 1, 2 ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 219 ครูถามวิธคี ิดและเฉลยบนกระดาน จากน้ันยกตวั อยา่ งขอ้ 3 13 + 2 + 5 = ใหน้ กั เรยี นสงั เกต จะเหน็ ว่าไม่มีคู่ใดท่บี วกกันได้ครบสิบ หาอาสาสมัครนักเรียนให้แสดงวธิ ีคิดท่หี ลากหลาย วิธีท่ี 1 น�ำ 13 บวก 2 ได้ 15 แล้วบวก 5 ได้ 20 วิธีที่ 2 น�ำ 2 บวก 5 ได้ 7 แล้วบวก 13 ได้ 20 วธิ ีที่ 3 น�ำ 13 บวก 5 ได้ 18 แล้วบอก 2 ได้ 20 และถามว่านักเรยี นจะเลอื กวธิ ใี ด เพราะเหตใุ ด (ทุกวธิ เี ปน็ การบวกให้เปน็ สิบ แต่วิธีที่ 2 จะหาผลบวกไดเ้ ร็วกว่า เพราะ 2 กับ 5 เป็นสว่ นย่อยของ 7 ) จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นลองคิดขอ้ 4 7 + 7 + 6 = พร้อมอภปิ รายแสดงเหตผุ ลวา่ นกั เรยี นจะจบั คู่ใดบวกกอ่ น (น�ำ 7 บวก 7 ได้ 14 ใช้ความรูก้ ารบวกจำ�นวนเดียวกันแล้วจงึ น�ำ มาบวกกับ 6 ได้ 20) โดยครูควรมีบทบาทในการเสนอแนะการเลือก คูบ่ วกท่จี ะท�ำ ใหส้ ามารถหาผลบวกได้ง่ายขึน้ แกน่ กั เรยี น 238 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 20 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1 16 17 17 18 19 ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ เพื่อให้สอดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ในชั่วโมงน้ี • การบวกจ�ำ นวนสามจำ�นวนจะบวกสองจำ�นวนใด ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน โดยให้นักเรียนหา ก่อนกไ็ ด้ แลว้ บวกจ�ำ นวนที่เหลือ ผลบวกเทา่ กนั ผลบวกจ�ำ นวนสามจำ�นวนโดยจับคบู่ วกสองจ�ำ นวนใดก่อน • ถา้ มีสองจ�ำ นวนใดที่บวกครบสิบ ใหบ้ วกสองจำ�นวน ก็ไดต้ ามหนา้ 220 ครูควรเน้นให้นกั เรยี นพจิ ารณาว่า นน้ั กอ่ น แล้วบวกจ�ำ นวนท่ีเหลือ การจบั คู่บวกจะได้ผลบวกวอ่ งไวเม่ือบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวน ที่ครบสบิ กอ่ น หรือใชก้ ารบวกจำ�นวนเดียวกันเพื่อหาค�ำ ตอบ จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 5.5 หน้า 130-132 ได้รวดเร็ว ในกรณที ่ีนักเรยี นทหี่ าผลบวกไดช้ า้ หรอื ท�ำ ไม่ถูกตอ้ ง ใหค้ รูช่วยเหลือโดยการใหน้ กั เรยี นใชต้ ัวนบั ช่วยในการ หาผลบวก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 239
คู่มอื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนับไม่เกิน 20 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1 5.6 การหาผลลบโดยใชก้ ารวาดรปู จดุ ประสงค์ นกั เรยี นสามารถหาผลลบในประโยค สัญลักษณก์ ารลบของจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 20 และ 0 โดยใชก้ ารวาดรปู ส่ือการเรยี นรู้ • บตั รภาพ • บัตรตัวเลข • ฝาขวดน�้ำ • ประโยคสัญลกั ษณ์ แนวการจัดการเรียนรู้ ครสู ามารถใช้ภาพในหนงั สือหน้า 221 เปน็ ส่ือโดยใช้คำ�ถามดงั น้ี นักเรียนสังเกตเห็นอะไรในภาพบา้ ง นักเรียนร้จู ัก ผงึ้ และดว้ งกวา่ งหรอื ไม่ (ครูสนทนาเกยี่ วกับผงึ้ และด้วงกว่างเพ่ือเชอื่ มโยงความรกู้ ับวชิ าอืน่ ๆ) ผ้งึ ในภาพมีจ�ำ นวนทั้งหมดเทา่ ไร (13 ตัว) บนิ อยนู่ อกรงั กต่ี ัว (4 ตวั ) เหลือผ้ึงอยูใ่ นรงั ท้ังหมดกต่ี ัว (9 ตัว) ครูวาดรูปแสดงการเอาออกบนกระดาน และแนะน�ำ การเขียนประโยคสัญลกั ษณ์ 13 - 4 = 9 หลงั จากนนั้ ครูใช้ค�ำ ถามรูปแบบเดียวกนั ถามเกย่ี วกบั ดว้ งกว่างวาดรปู แสดงการเอาออกและให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอก ลกั ษณะของการเอาออกในรูปแบบอนื่ ๆ พรอ้ มหาผลลบ 240 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search