กำ ๋ิกน ้บำน ่ปำ ุ้ตมดอน ขอ้ มูลIกnำfกo๋ินrmบa้ำนtioปn่ำตมุ้ ดอน โครงการยทุ ธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาทอ้ งถ่นิ
ขอ้ มูลIกnำfกoิ๋นrmบa้ำนtioปn่ำตุ้มดอน กากนิ๋ บา้ นป่าต้มุ ดอน วิถีชีวิตอันเรียบง่ายตามแบบฉบับ ภาพ ขอ ง ช าวบ้ านชุม ช น ของชาวบ้านในชุมชนป่าตุ้มดอน อาเภอพร้าว ป่าตุ้มดอน ที่ยังคงอัตลักษณ์ของความเป็น จังหวัดเชียงใหม่ ถูกส่งผ่านมายังวัฒนธรรม ไทใหญ่ไว้อย่างชัดเจน ทั้งศิลปกรรม อาหารการกิน อันเป็นหน่ึงในอัตลักษณ์ของ สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ชนชาติพันธ์ุไทใหญ่ในดินแดนล้านนา นอกจาก และวัฒนธรรมวิถีต่าง ๆ เป็นลักษณะของ จะเป็นการสืบสานภูมิปัญญาการหุงหาอาหาร การพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกันของชาวบ้าน ยังเป็นการรักษาไว้ซ่ึงวิถีดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ท้ังยังมีความผูกพันกับหลักความเช่ือทาง อาหารในแต่ละจาน จึงเต็มไปด้วยกลิ่นไอของ ศาสนา แสดงออกมาผ่านกิจกรรมการใช้ วิถีชวี ติ ชีวิตในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เช่น การแสดงพน้ื บ้าน การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในวัน “อยู่หลีกินหวาน” คือคาทักทาย สาคญั ทางศาสนารวมไปถึงอาหารการกิน ของชาวไทใหญ่ เมื่อเจอหน้าสะท้อนให้เห็นมโน ทั ศ น์ ข อ ง ช า ว ไ ท ใ ห ญ่ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต ก า กิ๋ น ห รื อ อ า ห า ร เ ป็ น ไม่ว่าจะเป็นการมีชีวิตที่ดารงอยู่ให้ปราศจาก วฒั นธรรมสาคัญของชาวไทใหญ่ในชมุ ชนปา่ ตมุ้ โรคภัยไข้เจ็บ มีข้าว มีน้า และอาหารท่ีบริบูรณ์ ดอน สะท้อนวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมที่ทาให้ ในการเล้ียงชีวิต ชาวไทใหญ่มีคติในการดาเนิน เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรใน ชีวิตวา่ คนเรานั้นเกดิ มาเพ่ือ “หิมกั๋นกิ๋น หิมก๋ัน ชุมชน รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับ หลู่” คือต้องมีการแก่งแย่งเพ่ือให้ได้มาซ่ึง สภาพแวดล้อม และเห็นสายใยความสัมพันธ์ อาหาร และขวนขวายท่ีจะทาบุญ เพื่อส่ังสมบุญ ระหว่างชาวบ้านกับความเช่ือทางศาสนา ไปยังภพหนา้ โดยมีจุดสูงสดุ คอื พระนพิ พาน ซ่ึ ง ห น่ึ ง ใ น อ า ห า ร ท่ี เ ป็ น เ อ ก ลั ก ษ ณ์ ข อ ง ชาวไทใหญ่ในชุมชนป่าตุ้มดอน นั่นคือ แกงน้า ขิง ถั่วเนา่ ซาคว่ั และนา้ อ้อยถั่วดินตัด โครงการยุทธศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเพือ่ การพฒั นาท้องถิ่น
ข้อมูลIกnำfกoิน๋rmบaำ้ นtioปn่ำตุ้มดอน แกงน้าขิง ได้ชื่อมาจากการนาขิงและผักนานาชนิดเป็นส่วนประกอบ เป็นหนึ่งใน อาหารสุขภาพของบ้านป่าตุ้มดอน เน่ืองจากมีหอม ขิง และผักผีเสื้อหรือผัก ดดี ซึ่งมรี สชาตขิ มออกหวาน ผสานรสเผด็ ของขงิ เลก็ น้อย โครงการยทุ ธศาสตรม์ หาวิทยาลยั ราชภฏั เพ่อื การพฒั นาท้องถ่ิน
ขอ้ มูลIกnำfกoนิ๋rmบaำ้ นtioปnำ่ ต้มุ ดอน วตั ถดุ ิบ 6. หอมแดง 7. กระเทยี ม 1. มะเขือหน่อม, มะเขอื เปราะ 8. พริกแห้ง 2. ผักผีเสือ้ , เขง่ ป๋าน, ผักดดี 9. กะปิเค็ม 3. ขิงสด 10. ถ่วั เน่าจ่ี 4. มะแว้ง 5. ปลาแหง้ (ปลาชอ่ น) 2 1 83 6 4 5 10 9 7 โครงการยทุ ธศาสตรม์ หาวิทยาลัยราชภฏั เพ่อื การพฒั นาทอ้ งถ่ิน
ขอ้ มูลIกnำfกo๋ินrmบa้ำนtioปnำ่ ตุ้มดอน ข้นั ตอนการทา 1. เร่มิ ตน้ ด้วยการนาถ่ัวเน่าแผ่น ไปยา่ งไฟให้เกดิ ความหอม 2. นาปลาช่อนตากแห้งมาย่างไฟ เพือ่ ดับกลนิ่ คาวและเพม่ิ ความหอม 3 . ใ น ส่ ว น ข อ ง เ ค ร่ื อ ง แ ก ง แกะหอมแดง และกระเทียม ใส่ลงในครกพร้อมกับใส่พรกิ แห้ง กะปิเค็ม และถั่วเน่าแผ่น โขลก ให้ละเอยี ด 4. สาหรับปลาช่อนตากแห้ง ห ลั ง จ า ก ย่ า ง ไ ฟ จ น ห อ ม แ ล้ ว นามาต้มน้า เพื่อให้เนื้อปลานุ่ม และนา้ ซปุ มีกลิ่นหอม โครงการยุทธศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยราชภัฏเพ่ือการพฒั นาทอ้ งถ่ิน
ขอ้ มูลIกnำfกoนิ๋rmบa้ำนtioปn่ำตุ้มดอน ขัน้ ตอนการทา 5. ขณะท่ีรอปลาแหง้ ให้ห่ันและ ซ อ ย ม ะ เ ขื อ เ ป ร า ะ ห รื อ ม ะ เ ขื อ หน่อม ให้เป็นช้ินขนาดไม่หนา และไม่บาง แล้วแชใ่ นน้าสะอาด 6. ลา้ งมะเขือโดยการบีบและคน้ั น้าออกจนใส เพื่อไมใ่ หเ้ กิด รสชาตขิ มจากมะเขอื 7. นาผักชนิดอื่นใส่ในแกงน้าขิง เช่น ผักดีดและผักผีเสื้อ หรือท่ี ช า ว บ้ า น เ รี ย ก ว่ า เ ข่ ง ป๋ า น จดั การล้างให้สะอาดแล้วคัดแยก ใบหรอื ยอดทีก่ ินได้ออกมา 8. ขั้นตอนขั้นต่อมา คือ การใส่ ขิงสดท่ีแกะเปลือกออกเล็กน้อย แล้วนาไปโขลกพอหยาบ โครงการยทุ ธศาสตร์มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเพ่ือการพฒั นาทอ้ งถิน่
ข้อมูล Iกnำfกoิ๋นrmบa้ำนtioปn่ำตุ้มดอน ข้ันตอนการทา 9. ผักชนิดสุดท้าย คือ มะแว้ง ให้ เ ด็ ด ใ บ แล้ ว น า ม า ล้ า ง น้ า ทาความสะอาด หากน้าซุปเดือด และปลาแห้งนุ่ม ใส่พริกแกงท่ี โขลกไว้ลงไปในน้าซุป คนแล้ว ตม้ ตอ่ ไปจนเดอื ด 10. เม่ือน้าแกงเดือด นามะเขือที่ ล้างไว้ใส่ลงไปตามด้วยหอมแดง ซอย ต้มต่อไปจนมะเขอื เปอ่ื ย 12. เม่ือน้าแกงเดือดอีกครั้ง จัดการใส่ผักที่เหลือลงไป ท้ัง มะแว้ง ขิงสดโขลกหยาบ ผักดีด และผักผีเสื้อ คนให้เข้ากันแล้ว ตม้ ตอ่ ไปจนผักสกุ 13. ปิดท้ายด้วยใส่ต้นหอมผักชี เพ่ือเพิ่มความหอม เสร็จแล้ว ตักใส่ชาม เป็นอันเสร็จสิ้น กระบวนการ โครงการยุทธศาสตรม์ หาวิทยาลัยราชภฏั เพื่อการพฒั นาท้องถ่นิ
ขอ้ มูลIกnำfกoิน๋rmบa้ำนtioปnำ่ ตุ้มดอน ถั่วเนา่ ซาควั่ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของ ชุมชนบ้านป่าตุ้มดอนที่มีกล่ินและรสชาติ เฉพาะตัว เกิดจากภูมิปัญญาการถนอม อาหารสู่การแปรรูปเพ่ือเพ่ิมคุณค่าและ รสชาติ ทานคู่กับผักสดได้คุณค่าทาง โภชนาการทีห่ ลากหลาย โครงการยุทธศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพื่อการพัฒนาทอ้ งถ่นิ
ข้อมูลIกnำfกo๋ินrmบa้ำนtioปn่ำต้มุ ดอน 1 วตั ถุดบิ 1. กระเทยี ม 2. หอมแดง 3. ขิง 4. พริกแหง้ 5. ถ่วั เน่าซา 35 42 ขนั้ ตอนการเตรียมถั่วเน่าซา - เตรยี มถ่วั เหลอื ง ลา้ งให้สะอาด แลว้ แซ่น้าไว้ 1 คืน - หลังแซเ่ สร็จ ต้มให้เปื่อย โดยใช้เวลา 4-5 ชัว่ โมง - เมอ่ื ต้มเสร็จแล้ว นามาใส่หวดเพอื่ กรองนา้ ออก - นามาใสต่ ะกร้าทร่ี องด้วยใบตองเหยี ง ปิดปากใหส้ นทิ บม่ 3 วนั - เมื่อราและกลิน่ เริ่มออกเปน็ อนั เสรจ็ สน้ิ โครงการยุทธศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพอ่ื การพัฒนาท้องถ่นิ
ขอ้ มูลIกnำfกo๋ินrmบa้ำนtioปnำ่ ตมุ้ ดอน ขัน้ ตอนการทา 1. เร่ิมต้นจากการห่ันซอย หอมแดง และพกั ท้งิ ไว้ 2. เตรียมขิงเพื่อโขลกเครื่อง ผัด โดยแกะเปลือกแล้วซอย เป็นแวน่ 3. โขลกกระเทียม พรกิ แหง้ ขงิ และหอมแดง ใหเ้ ขา้ กัน 4. ตั้งกระทะนา้ มัน เพื่อเจียว กระเทียม ให้เหลืองหอม โครงการยทุ ธศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพ่ือการพฒั นาท้องถน่ิ
ขอ้ มูลIกnำfกoิน๋rmบa้ำนtioปn่ำตุ้มดอน ขนั้ ตอนการทา 5. เม่ือกระเทียมเหลืองหอม นาเครื่องผัดที่โขลกไว้ลงไปผัด ตามด้วยหอมแดงซอย 6. ต้ังไฟระดับปานกลาง ผดั ตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ จากน้นั ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดต่อไป อกี เลก็ นอ้ ย 7. ใส่ถั่วเน่าซาลงไปผัดให้เข้า กับเครื่องผัดต่อไปเรื่อย ๆ จน เริ่มเปลี่ยนสีใหช้ ิมและปรุงรส 8 . ผั ด ต่ อ ไ ป จ น ถ่ั ว เ น่ า ซ า เปล่ียนสแี ละเกาะตวั กัน 9. ตักใส่ภาชนะท่ีเตรียมไว้ เปน็ อันเสร็จส้นิ กระบวนการ โครงการยุทธศาสตรม์ หาวิทยาลัยราชภฏั เพ่อื การพัฒนาท้องถนิ่
ข้อมูลIกnำfกoิน๋rmบaำ้ นtioปnำ่ ตุม้ ดอน น้าอ้อยถ่ัวดินตัด ของหวานอันหอมอร่อยท่ีเกิดจากความต้ังใจและการ ใช้ภูมิปัญญาการทาแบบดั้งเดิม รสชาติหวานมันจาก น้าอ้อย ร่วมกับความหอมของถั่วลิสงและงาขาวคั่วจะ รับประทานทานเป็นอาหารว่างหรือนาไปเป็นส่วนผสมใน อาหารอนื่ ๆ ได้ โครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพ่อื การพัฒนาท้องถ่ิน
ข้อมูลIกnำfกoน๋ิrmบaำ้ นtioปn่ำตมุ้ ดอน วัตถดุ ิบ 1 2 1. กะทคิ นั้ สด 2. น้าออ้ ยก้อน 3. ถั่วลิวงค่วั 4. งาขาวค่วั 34 โครงการยทุ ธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภฏั เพ่ือการพฒั นาทอ้ งถน่ิ
ข้อมูลIกnำfกoิน๋rmบaำ้ นtioปn่ำต้มุ ดอน ข้นั ตอนการทา 1. เริ่มต้นด้วยการต้ังกระทะ ให้ร้อน ใส่น้ากะทิลงไปเค่ียว คอยสงั เกตไมใ่ ห้กะทิแตกมนั 2. ใส่น้าอ้อยก้อนลงไป เคี่ยว จนละลายโดยให้ระดับความ รอ้ นของไฟคงท่อี ยู่เสมอ 3. ค่อย ๆ เค่ียวให้น้าอ้อย ล ะ ล า ย ไ ป พ ร้ อ ม กั น ห า ก น้าอ้อยละลายทั้งหมดแล้วใส่ ถ่ัวลิสงคั่วลงไปคนไปเร่ือย ๆ ใหเ้ ขา้ กันกบั น้าอ้อย 4. เม่ือน้าอ้อยเริ่มแห้งและ หนืดในระดบั ที่เหมาะสมแล้ว จัดการเทลงบนกระด้ง แล้ว ก ว า ด ใ ห้ ทั่ ว โ ด ย ไ ด้ ร ะ ดั บ ท่ี เสมอกนั โครงการยุทธศาสตร์มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเพื่อการพัฒนาทอ้ งถิ่น
ขอ้ มูลIกnำfกo๋นิrmบaำ้ นtioปn่ำต้มุ ดอน ขน้ั ตอนการทา 5. เพื่อไม่ให้น้าอ้อยแข็งตัว ทันทีให้โรยงาขาวคั่วจนท่ัว แล้วใช้มือกดงาขาวค่ัวให้ติด กับน้าอ้อย แล้วพักให้น้าอ้อย แขง็ ตัวและแหง้ พอประมาณ 6. ใช้มือกดลงแผ่นน้าอ้อย หากเริ่มคงรูปพอประมาณ ให้ใช้มีดค่อย ๆ ตัดเป็น รปู ทรง 7. เมื่อตัดเสร็จพักไว้ให้แห้ง สัก พั กจึงจะใช้มี ดค่อย ๆ ก ลั บ ด้ า น น้ า อ้ อ ย แ ต่ ล ะ ชิ้ น เพ่ือให้ผิวสัมผัสด้านล่างแห้ง และแข็งตัว 8. เมื่อคงรูปท้ังหมดแล้ว บรรจุใ ส่ หีบห่อเ ป็ น อั น เสรจ็ สิ้นกระบวนการ โครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภัฏเพ่อื การพัฒนาทอ้ งถิ่น
ข้อมูลIกnำfกoิ๋นrmบa้ำนtioปnำ่ ตุ้มดอน วทิ ยากรผใู้ ห้ความร้ภู ายในชมุ ชนเก่ียวกบั เรอื่ ง ฟอ้ นนกกง่ิ กะหรา่ และการเตน้ โต พอ่ อภัย คนื มาเมือง แม่บัวบาน คืนมาเมอื ง โครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพอ่ื การพัฒนาท้องถิน่
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: