อ.นฤมล บญุ สง่
Objective 1. อธิบายปัญหาการผลติ และการใช้พลงั งานจากกรณีตวั อยา่ งได้ 2. บอกความหมายของสภาวะโลกร้อนได้ 3. อธิบายก๊าซเรือนกระจกได้ 4. วิเคราะห์ผลกระทบของการผลติ และการใช้พลงั งานจากกรณีตวั อยา่ งได้ 5. เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการผลติ และการใช้พลงั งานจากกรณีตวั อยา่ งได้ 6. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบจากการใช้พลงั งานในชวี ิตประจาวนั 7. วิเคราะห์ผลกระทบและเสนอแนวทางปอ้ งกนั แก้ไข
CONTENTS 1. สถานการณ์พลงั งานระดบั โลก 2. ปัญหาการใช้พลงั งานในประเทศไทย 3. ผลกระทบจากผลติ และใช้พลงั งาน 4. สภาวะโลกร้อนกบั ก๊าซเรือนกระจก
01 สถานการณ์พลงั งานระดบั โลก
จากรายงานของ World Energy Technology and Climate Policy Outlook 2030 (WETO) สรุปสถานการณ์แนวโน้มในอนาคตทางด้านพลงั งานของโลกจนกระท่งั ถงึ ปี ค.ศ. 2030 ได้ดงั นี้ 1 จานวนประชากรโลกมีการเพ่มิ ขนึ้ ในอัตราท่ลี ดลงทกุ ช่วงเวลาท่พี จิ ารณา โดย ลดลงจาก 1.5% ในอดีต เหลอื เพยี งประมาณ 1% ในช่วงปี 2000-2030 2 ค่าผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศ (GDP) ปัจจบุ นั มกี ารเพิ่มขึ้นในอตั ราที่สงู กว่าในช่วง ก่อนปี 2000 โดยมีการเพิ่มขึ้นปี ละประมาณ 3.5% แต่มีแนวโน้มท่ีจะเพิ่มขึน้ ในอตั ราที่ ชะลอตวั ลงในอนาคต โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 3.2% ต่อปี ในช่วงปี 2010-2020 และจะ เติบโตเพียง 2.6% ต่อปี ในช่วงปี 2020-2030 3 ความต้องการพลังงานของโลกเพ่ิมขนึ้ อย่างต่อเน่ืองตัง้ แต่อดตี ถงึ ปัจจุบนั และไม่มแี นวโน้มท่จี ะลดลง ในอนาคต และพลังงานทุกประเภทมีแนวโน้มท่จี ะถูกใช้มากขนึ้ ในอนาคต โดยพลงั งานท่มี บี ทบาทสาคัญ ท่สี ุดหรือมีสดั ส่วนการใช้มากท่สี ุด คือ นา้ มนั รองลงมาคือ ถ่านหนิ และก๊าซธรรมชาติ
4 การใช้พลังงานในภาคเศรษฐกิจต่างๆ เม่ือพจิ ารณาแบบแบ่งภาคในระบบเศรษฐกิจ และพจิ ารณาจากการใช้พลงั งานขัน้ สุดท้าย หรือการใช้พลังงานของผู้บริโภคลาดับ สุดท้าย ภาคการคมนาคมขนส่งมีสัดส่วนการใช้พลังงานสูงท่สี ุด รองลงมาได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน ภาคบริการและเกษตรกรรม ภาพ การใช้พลงั งานในภาคเศรษฐกิจต่างๆ 91
5 แนวโน้มราคานา้ มันและก๊าซธรรมชาต ิ ในอดตี พบว่าราคานา้ มันและก๊าซธรรมชาติ พ่งุ สงู ขึน้ อย่างมากในช่วงท่เี กิดวิกฤตด้านราคานา้ มัน ในช่วงปี ค.ศ. 1975-1980 หลังจากนัน้ ราคาได้ปรับตัว ลดลงในช่วงปี 1980-1997 และค่อยๆ เพ่มิ ขึน้ แบบค่อย เป็ นค่อยไป ภาพ แนวโน้มราคาน้ํามนั และกา๊ ซธรรมชาติ 92
02 ปัญหาการใช้พลงั งานในประเทศไทย ปัญหาการใช้พลังงานของประเทศรุนแรงขึน้ จนอาจกล่าว ได้ว่าเป็ นวกิ ฤตการณ์ด้านพลังงาน ซ่งึ สรุปสาเหตุของ วกิ ฤตการณ์พลังงานได้ดงั นี้ 1. การขาดแคลนพลงั งานประเภทนา้ มนั เชือ้ เพลงิ 2. ต้องพงึ่ พาการนาเข้านา้ มนั เชือ้ เพลิงจากตา่ งประเทศ 3. ขาดความรู้ และเทคโนโลยีในการพฒั นาพลงั งาน 4. นโยบายด้านพลงั งานของประเทศเพ่ิงเร่ิมต้นอยา่ งจริงจงั 5. ความฟ่ มุ เฟือย และการใช้พลงั งานอยา่ งขาดประสทิ ธิภาพ
03 ผลกระทบจากผลติ และใช้พลังงาน ปัญหาสง่ิ แวดล้อมจากภาคผลิตไฟฟา้ ปัญหาสง่ิ แวดล้อมจากภาคอตุ สาหกรรม ปัญหาส่ิงแวดล้อมจากภาคคมนาคมขอนสง่ ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมจากภาคผลิตและ ใช้พลงั งานในประเทศไทย
ปัญหาส่งิ แวดล้อมจากภาคผลติ ไฟฟ้า พลังงานท่ใี ช้กนั มากในแต่ละประเทศ คอื พลงั งานไฟฟ้า การผลิตพลังงานไฟฟ้า มีกระบวนการผลิตซ่งึ ใช้เชอื้ เพลงิ ท่สี าคญั ๆ ดังนี้
เป็ นเชือ้ เพลงิ ผลติ พลังงานไฟฟ้าอาจก่อให้เกิดปัญหา และผลกระทบต่อ ส่งิ แวดล้อม ผลกระทบท่เี กิดเร่ิมตงั้ แต่กระบวนการทาเหมืองแร่ และแต่งแร่ สรุปได้ดงั นี้
ประเทศไทยแหลง่ นา้ มนั ดบิ มีน้อย โดยที่แหล่งสริ ิกิต์ิผลิตได้เพียงร้อยละ 3 ของความต้องการใช้ ในประเทศ นา้ มนั ดบิ ส่วนใหญ่ที่ใช้ในประเทศนาเข้ามาจากตา่ งประเทศทาให้สญู เสียเงนิ ตราตา่ งประเทศเป็น จานวนมาก
เป็ นแหล่งพลังงานท่มี ีการขุดเจาะมาใช้ประโยชน์มากว่า 10 ปี แล้ว แหล่งใหญ่อยู่ในอ่าว ไทย แต่ปริมาณท่มี ีในประเทศไม่เพยี งพอต่อความต้องการใช้ จงึ ต้องมีการซอื้ จากเมียนมา มาเลเซยี และอนิ โดนีเซียในระยะต่อไป
การผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานจากนา้ ท่ีเก็บกักอยู่ในอ่างเก็บนา้ หรือเข่ือน อาศัยการปล่อย ให้นา้ ไหลออกผ่านกงั หนั (Turbine) เพ่อื ให้ไปขับเคล่อื นเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้า (Generator) ดังนัน้ การ ผลิตไฟฟ้าจากนา้ จึงจาเป็ นต้องมีการสร้ างเข่ือนสาหรับเก็บกักนา้ ซ่ึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อ ส่งิ แวดล้อมได้ 60
ปัญหาส่งิ แวดล้อมจากภาคอุตสาหกรรม การผลติ และการใช้พลงั งานในโรงงานก่อให้เกดิ มลพษิ และของเสียปลดปล่อยออกมา ซ่ึง อาจส่งผลกระทบต่อสงั คม และชุมชนท่อี าศัยอยู่ใกล้เคยี งกับโรงงาน สรุปได้ดังนี้ 1 นํ้าทิ้ง 2 ขยะหรอื กากของเสีย 3 มลพิษทางอากาศ
ปัญหาส่งิ แวดล้อมจากภาคคมนาคมขนส่ง ปัญหาและผลกระทบจากการคมนาคมขนส่งมาจากก๊าซเสยี ไอเสยี และฝ่ ุนละอองท่ี ปล่อยออกมาจากเคร่ืองยนต์ ก๊าซเสียบางส่วน และฝ่ ุนละอองท่เี กดิ ขนึ้ เป็ นผลมาจากการเผาไหม้ท่ี ไม่สมบรู ณ์ โดยท่วั ไปเขม่าฝ่ ุนละอองมีขนาดเลก็ มาก(เลก็ กว่า 10 ไมครอน หรือ PM 10) เม่ือ สูดลมหายใจเข้าไปจะเป็ นอันตรายต่อปอดของมนุษย์ซ่งึ มีผลต่อชีวติ และสุขภาพ ปัญหา ดงั กล่าวมีแนวโน้มจะเป็ นอันตรายมากสาหรับชุมชนเมืองใหญ่ท่มี ีการจราจรติดขดั มากๆ
ผลกระทบต่อส่งิ แวดล้อมจากภาคผลติ และใช้พลงั งานในประเทศไทย ก๊าซโอโซน ซ่งึ ทาหน้าท่เี ป็ นตัวกนั้ รังสีอลั ตราไวโอเลตบ(ี UVB) ท่แี ผ่กระจายมายังโลกไม่ให้มปี ริมาณ มากเกินไป ซ่งึ เป็ น รังสที ่เี ป็ นอนั ตรายต่อผวิ หนังมนุษย์ ย่งิ ก๊าซโอโซนถูกทาลายมากเท่าไร กแ็ สดงว่าส่งิ มีชีวิตบนโลกจะได้รับ ความเส่ยี งจากอนั ตรายของรังสี UVB มากขนึ้ การเกดิ รูร่ัวของชนั้ โอโซน (Ozone Depletion) รูร่ัวในชัน้ โอโซนเกดิ ขนึ้ เน่ืองจากสารคลอโรฟลโู อโคาร์บอน (CFCS) ซ่งึ เป็ นสารท่ใี ช้ในการทาความเยน็
ฝนกรด (Acid Rain) คือ ฝนท่ีตกลงมาโดยมีสภาพเป็ นกรดจากสารซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ สารนีเ้ กิดจากการเผาไหม้ถ่านหินท่ีมีส่วนประกอบของกามะถัน (ซลั เฟอร์) จากโรงไฟฟ้าและสารไนโตรเจนออกไซด์ ซ่ึงเกิดจากการ เผาไหม้เชือ้ เพลิง โดยเฉพาะการเผาไหม้เชือ้ เพลิงในรถยนต์ เม่ือ ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์ลอยขึน้ สู่อากาศก็จะ รวมตัวกับไอนา้ กลายเป็ นกรดซัลฟูริก และกรดไนตริก ตกลงมาเป็ น ฝนท่ีมีสภาพเป็ นกรดเป็ นอันตรายต่อโลหะ ส่ิงก่อสร้ าง พืช และ มนุษย์
04 สภาวะโลกร้อนกบั ก๊าซเรือนกระจก สภาวะโลกร้ อน (Global Warming) หมายถึง การที่ชัน้ บรรยากาศตัง้ แต่ผิวโลกขึน้ ไปมีอุณหภูมิสูงขึน้ เน่ืองจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพภูมิอากาศ เช่น อณุ หภูมิ ฝน ลม เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และทาให้ระบบนเิ วศมกี ารเปลย่ี นแปลง
ก๊าซเรือนกระจกเป็ นก๊าซท่ีกัน้ ความร้อนจากดวงอาทติ ย์ท่ีตกกระทบผิวโลกไม่ให้ออกไปยัง นอกโลก ทาให้บริเวณใต้ชัน้ บรรยากาศมีอุณหภมู ิท่สี ูงขึน้ คล้ายกับกระจกท่ีถกู แสงแดดส่องกระทบ โดยไม่ มีการระบายความร้ อน Carbon Dioxide: CO2 Methane: CH4 Nitrous Oxide: N2O CFCS Ozone: O3 ภาพ การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก
กลุ่มกจิ กรรมท่กี ่อให้เกดิ ก๊าซเรือนกระจก 1 กลุ่มกจิ กรรมด้านพลังงาน การเผาผลาญพลงั งาน การระเหยออกมาจากพลังงาน 2 กลุ่มกิจกรรมด้านการเกษตรและป่ าไม้ 3 กลุ่มกิจกรรมด้านการผลติ ทางอุตสาหกรรม
ผลกระทบจากสภาวะโลกร้ อน 1 ระบบนิเวศ 2 สภาพภมู อิ ากาศ การเปล่ียนแปลงท่มี ตี ่อสภาพภมู ิอากาศของโลก อณุ หภมู ิของผิวโลกเพิ่มสงู ขึน้ น้ําทะเลเพ่ิมระดบั การเปลี่ยนแปลงของหยาดนํ้าฟ้า 3 ส่งิ มีชีวติ บนโลก การเปลี่ยนแปลงเขตพนั ธพ์ุ ืช การเส่ือมโทรมของปะการงั สขุ ภาพอนามยั ของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงด้านเกษตรกรรม ผลกระทบด้านสงั คมและการเมือง
การป้ องกันและแก้ ไขปั ญหาผลกระทบจากสภาวะโลกร้ อน 1 การลดปริมาณการปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจก การชะลอการตดั ไม้ทาํ ลายป่ า การกาํ หนดมาตรฐาน ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า กกาารรลตด่อปตร้าิมนากณารกใา๊ชซ้สมารีเทซนีเอฟซี ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน เป็ นปัญหา ระดับโลกท่ีทุกชาติให้ความสาคัญในการ 2 การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน การประหยดั พลงั งานเชื้อเพลิง ดาเนินการอย่างมาก สรุปแนวทางป้องกัน การเลือกการเดินทางท่ีเหมาะสม และแก้ ไขดังนี ้ การใช้พลงั งานทดแทน การลดการใช้ป๋ ยุ 3 การรกั ษา เสริมสรา้ ง และเพ่ิมพนู
อนุ สัญญาว่ าด้ วยการเปล่ ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและพิธีสารว่ าด้ วยการเปล่ ียนแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศของสหประชาชาติ เกิดขนึ้ มาเป็ นลาดบั ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน ดังนี้ อนุสญั ญา1เวียนนา (Vienna Convention) พิธีสารมอ2นทรีออล (Montreal Protocol) การประช3มุ Earth Summit พธิ ีสารเก4ยี วโต (The Kyoto Protocol)
พลงั งานเป็นส่งิ จาเป็นสาหรับมนษุ ย์ และเป็นปัจจยั พืน้ ฐานในการดารงชีวิต ประเทศไทยมีแหลง่ พลงั งานหลายประเภท แตม่ ปี ริมาณน้อยเมอื่ เทียบกบั ประเทศอื่นๆ พลงั งาน หลกั ทีใ่ ช้คือ นา้ มนั ทงั้ เพ่ือใช้ในการผลิตไฟฟา้ การคมนาคมขนสง่ ตลอดจนเป็นวตั ถดุ บิ ในการ ผลิตภาคอตุ สาหกรรมการผลิตและการใช้พลงั งานได้สง่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทงั้ การทาลาย ป่าไม้จากการสร้างเขื่อน การเกิดมลพิษทางอากาศจากการใช้เชือ้ เพลงิ ฟอสซิล มลพิษทางนา้ จากโรงงานอตุ สาหกรรมรวมทงั้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภมู ิอากาศจากการเกิดปรากฏการณ์ เรือนกระจกโอโซนที่ลดลง และการเกิดฝนกรด
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: