Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จังหวัด อ่างทอง

จังหวัด อ่างทอง

Published by silaraktasiri45, 2023-06-27 02:39:53

Description: แนะนำแหล่งท่องเที่ยว

Keywords: สุราษฎร์ธานี,ท่องเที่ยวสุราษร์ฎาธานี,ท่องเที่ยวไทย,ที่เที่ยวในภาคใต้

Search

Read the Text Version

จังหวัด อ่างทอง จังหวัดอ่างทองเป็นพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางเป็นจังหวัดหนึ่งใน ภาคกลางของประเทศไทยตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็น จังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น ตุ๊กตาชาววัง กลอง และงานจักสาน ลักษณะภูมิประเทศ จังหวัดอ่างทอง มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม ลักษณะคล้ายอ่าง ไม่มีภูเขา ดินเป็นดินเหนียวปนทราย พื้นที่ส่วน ใหญ่เหมาะแก่การปลูกข้าว ทำไร่ ทำนา และทำสวน และมีแม่น้ำ สายสำคัญไหลผ่าน 2 สาย คือแม่น้ำเจ้าพระยาและ แม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสายแขนงที่ไหลผ่านจังหวัด นครสวรรค์ จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัด อ่างทอง ซึ่งไหลผ่าน อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอ ป่าโมก รวมระยะทางที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทองประมาณ 40 กิโลเมตร ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศจัดอยู่ในโซนร้อนและชุ่มชื้น เป็นแบบฝนเมือง ร้อนเฉพาะฤดู โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียง เหนือ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้อากาศ หนาวเย็น และแห้งแล้งในช่วงนี้ และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ทำให้มี เมฆมากและฝนตกชุกในช่วงนี้

จังหวัด สุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีสภาพ ภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งที่ราบสูง ภูมิประเทศแบบภูเขา รวมทั้งที่ราบ ชายฝั่ง มีพื้นที่ครอบคลุมถึงในบริเวณอ่าวไทย ทั้งบริเวณที่เป็นทะเลและ เป็นเกาะ เกาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มากถึง 98 เกาะ ลักษณะภูมิประเทศ จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีสภาพภูมิประเทศที่หลาก หลาย ได้แก่ ภูมิประเทศแบบที่ราบชายฝั่งทะเล ที่ราบสูง รวมทั้ง ภูมิประเทศแบบภูเขาซึ่งกินพื้นที่ของจังหวัดถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ ทั้งหมด โดยมีทิวเขาภูเก็ตทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ของจังหวัด และมีลุ่ม น้ำที่สำคัญ คือ ลุ่มน้ำตาปี ไชยา ท่าทอง เป็นต้น ด้านตะวันออกเป็น ฝั่งทะเลอ่าวไทยและมีเกาะน้อยใหญ่ที่มีประชากรอาศัย ส่วนด้านตะวัน ตกมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำตาปี แม่น้ำคีรี รัฐ หรือแม่นํ้าพุมดวง ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากทำเลที่ตั้งรวมถึงภูมิประเทศ จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้รับ อิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดมาจาก มหาสมุทรอินเดีย รวม ทั้งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่าน อ่าวไทย ดังนั้น จึงทำให้จังหวัด สุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนยาวนานมาก โดยกินระยะเวลาตั้งแต่เดือน พฤษภาคมจนถึงเดือนมกราคม โดย จังหวัดสุราษฏร์ธานี มีอุณหภูมิต่ำ สุดเฉลี่ย 21.16 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34.51 องศา เซลเซียส [10] และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 129.59 มิลลิเมตร

เขาสามเกลอ จ.สุราษฎร์ธานี ไฮไลท์ของการล่องเรือเที่ยวใน เขื่อนเชี่ยวหลาน ที่เที่ยวสุราษฎร์ธานี จะเป็นอย่าง อื่นไปไม่ได้นอกจาก เขาสามเกลอ เขาหินปูน 3 ลูกที่โผล่พ้นขึ้นมากลางน้ำ ท่ามกลาง ภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่รายล้อม จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของ กุ้ยหลินเมืองไทย อย่าง เขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ จะมีความโดดเด่นและสวยงาม หากมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว กิจกรรมเด่นๆ ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ นั่งเรือชม ความสวยงามของเขื่อน และแวะชม เขาสามเกลอ ภูเขาหินปูน 3 ลูก ขนาดไม่ใหญ่มาก นักโผล่พ้นขึ้นมาจากผืนน้ำ เกาะกลุ่มกันในตำแหน่งคล้ายสามเหลี่ยม ตัวภูเขาจะมี ลักษณะทรงสูงคล้ายๆ แท่งหิน ปกคลุมไปด้วยพรรณไม้สีเขียว ตัดกับผืนน้ำสีมรกตใส สะอาด ที่เกิดจากแร่ธาตุของหินปูน ทำให้น้ำยังสามารถคงความใสและไม่เน่าเสีย บรรยากาศรอบด้านรายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ที่เสริมองค์ประกอบให้ ทัศนียภาพดูยิ่งใหญ่อลังการมากยิ่งขึ้น

ถ้ำประการัง จ.สุราษฎร์ธานี ถ้ำปะการัง สถานที่สุด Unseen ภายในเขาสก หรือ อุทยานแห่งชาติเขาสก ความ พิเศษของถ้ำแห่งนี้คือจะมีน้ำไหลผ่านตลอด และมีหินงอกหินย้อยที่แตกเป็นหน่อเล็กๆ ซึ่งคาดว่าเกิดมาจากการตกตะกอนของน้ำหินปูน ที่เมื่อผสมเข้ากับความพิเศษของ อากาศจึงเกิดเป็นหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายกับปะการังในทะเล นอกจากนี้ยังมีการค้น พบ ฟอสซิลสัตว์ทะเลเซลล์เดียวอายุกว่า 250-400 ล้านปี ในหินปูนอีกด้วย เป็น มหัศจรรย์ธรรมชาติที่มีความเก่าแก่และหาชมได้ยากมากเลยทีเดียว จากการสำรวจบอกว่า หินงอกหินย้อยนั้น ไม่ใช่ปะการัง แต่อาจจะเกิดมาจากการตก ตะกอนของน้ำหินปูนค่ะ พอผสมเข้ากับความพิเศษของอากาศ เลยเกิดเป็นหินย้อยที่ คล้ายกับปะการังขึ้นมาค่ะ ว่ากันว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะลมาก่อนค่ะ เลยทำให้ หินงอกหินย้อยนั้นเหมือนกับปะการัง และยังพบฟอสซิลสัตว์ทะเลเซลล์เดียวอายุกว่า 250-400 ล้านปี ในหินปูนอีกด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่น่าจะเคยเป็นทะเลดึกดำบรรพ์ของโลก และ ภายในถ้ำยังไม่ค่อยมีกลิ่นมูลค้างคาวหรือกลิ่นอับเหมือนกับถ้ำทั่วๆ ไปด้วย

เนินทรายเหมืิองแกะ จ.สุราษฎร์ธานี เนินทรายเหมืองแกะ ตั้งอยู่ใน หมู่บ้านเหมืองแกะ ตำบลนาสาร อำเภอ บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความสวย แบบอันซีนสุดๆ ไปเลยค่ะ เพราะความสวยงามของที่นี่คือ ความงดงามของ ทรายที่ทับถมมาเป็นเวลานาน สูงต่ำสลับกันไปมา ประมาณตึกสามชั้นสี่ชั้นได้ มองแล้วเหมือนกับงานศิลปะที่ใครสร้างเอาไว้อย่างนั้นเลยค่ะ แต่จริงๆ แล้ว ศิลปะนี้มาจากธรรมชาติล้วนๆ อยู่กลางป่า ล้อมรอบด้วยต้นไม้สีเขียว อากาศ เย็บสบาย และเงียบสงบมาก เมื่อก่อนนั้น พื้นที่บริเวณนี้มีการสัมปทานเหมืองแร่ดีบุก และได้นำดินทราย ที่ดูดแยกร่อนแร่ออกมากองๆ กันไว้ เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เลยกลายเป็นกอง ทรายที่มีความสูงต่ำสลับกันไปมา มองแล้วสวยแปลกแบบนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งเม็ด ทรายนี้ จะค่อนข้างเนียนนุ่มละเอียดค่ะ มีสีออกน้ำตาลอ่อนๆ แต่เราก็ต้อง เที่ยวชมแบบใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพราะอาจจะเกิดการลื่นไถลได้ ตอนพื้นทรายทรุดตัว

ทะเลแหวก เกาะม้า จ.สุราษฎร์ธานี ทะเลแหวก ที่ตั้งอยู่บน เกาะม้า ในบริเวณของ เกาะพะงัน เป็นหาดเล็ก ๆ ที่มีความ เงียบสงบ ความพิเศษจะอยู่ตรงที่มีทางเดินยาวกว่า 350 เมตร เชื่อมจากแม่หาดของ เกาะพะงันไปยังเกาะม้า ยิ่งในช่วงในที่ระดับน้ำทะเลลดต่ำลง เราก็จะสามารถมองเห็น สันทรายที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถเดินเที่ยวไปมาถึงกันระหว่างเกาะได้ ได้เห็นบรรยากาศรอบๆ ของท้อง ทะเลได้ สวยงดงามไม่แพ้ทะเลแหวกที่อื่นๆ เลยค่ะ อีกทั้ง ทะเลแหวก เกาะม้า แห่งนี้ ยังมี แนวปะการังน้ำตื้นให้เราได้ดำชมโลกใต้ท้องทะเลกัน รวมไปถึงเราจะได้เห็นฝูงปลาแหวก ว่ายไปมารอบๆ อีกด้วย นอกจากบริเวณของ ทะเลแหวก เกาะม้า จะมีหาดทรายขาว นุ่ม เท้า ทรายเม็ดละเอียด กับน้ำทะเลใสๆ ให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ พักผ่อนชิลๆ นอนเล่น อาบแดดกันแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกแห่งด้วยค่ะ แค่ได้มา เห็นวิวของทะเลแหวกและพระอาทิตย์

หินตา หินยาย เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หินตาหินยาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกๆ ตั้งอยู่ริมหาดละไมนับว่าเป็นอีก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะสมุยเลยเพราะเป็นปรากฎการณ์ที่ธรรมชาติ สร้างขึ้นบวกกับจินตนาการที่มองเป็นรูปต่างๆ ของมนุษย์ เลยทำให้ที่นี่กลาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงขึ้นมา หินตา นั้นจะเป็นหินแกรนิต ที่มีลักษณะคล้ายกับอวัยวะเพศชาย เกิดจากการ กัดเซาะของน้ำทะเล สายลม และแสงแดดมาเป็นเวลานานเลยทำให้กลายเป็นรูป ทรงนี้ หินยาย ก็จะเป็นหินแกรนิตที่มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศหญิงนั่นเองค่ะ เกิด จากการผุกร่อนของหน้าผาชายฝั่งทะเล ที่ถูกคลื่นกัดเซาะเป็นเวลานาน ทำให้ กลายมาเป็นความมหัศจรรย์ธรรมชาตินี้ และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย

วัดพระบรมธาติไชยาราชวรวิหาร จ.สุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุไชยา ตั้งอยู่ที่ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ที่นี่ถือเป็น ปูชนียสถานที่สำคัญประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้ และเป็นหนึ่งในสามของโบราณ สถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้อีกด้วยค่ะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ อีกด้วย ใครที่เป็นสายบุญ ชอบเข้าวัด ชมสาปัต ยกรรมสวยๆ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดที่อายุเก่าแก่ จากหลักฐาน สันนิษฐานว่าเป็นสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิเชื่อมต่อกับอาณาจักรศรีวิชัย โดย การรับเอาอารยธรรมของอาณาจักรต่างๆ มา ซึ่งสามารถสันนิฐานได้จาก โบราณสถาน โบราณวัตถุที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมึีปรากฏอยู่หลายสมัย อันแสดงถึงความเจริญ และความเสื่อม บางครั้งทิ้งร้างไปแล้วฟื้นฟูขึ้นใหม่ใน พื้นที่เดียวกัน

วัดพระใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี วัดพระใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ความโดดเด่นของวัดจะอยู่ที่ พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม ที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เป็นพระพุทธปางมารวิชัยและองค์ใหญ่ที่สุดในภาค ใต้อีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วทั้งชาวเกาะสมุย และนักท่องเที่ยวเอง ก็จะนิยมมาสัก การะพระใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลกันอยู่แล้ว และก็ยังมาชมวิวของ เกาะพะงัน และหาดบ่อผุดที่ด้านบน ความโดดเด่นของ วัดพระใหญ่ ก็คือ ภายในวัดประดิษฐาน พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 เป็นพระพุทธปางมาร วิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในภาคใต้เลยทีเดียวค่ะ โดยมีหน้า ตักกว้างถึง 5 วา 9 นิ้ว และสูงถึง 6 วา ประดับด้วยกระเบื้องสีเหลืองทองทั้ง องค์ จึงทำให้มองเห็นองค์พระสีทองเด่นแต่ไกลๆ

เจดีย์ลอยฟ้า อุทยานธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานธรรมเขานาในหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัด สุราษฎร์ธานีเป็นสถานที่ตั้งของเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดีและบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุซึ่งก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร บนยอด เขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร และเป็นสำนักสงฆ์ของจังหวัด สุราษฎร์ธานี มีการจัดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน เป็นสถานที่ที่มีความสงบ ร่มเย็น เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรม นอกจากอุทยานธรรมเขานาในหลวง จะเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว และ เป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไป สถาปัตยกรรมจุดต่างๆ ภายในก็สวยงาม มี ความน่าสนใจมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอด ไฮไลท์สำคัญของ ที่นี่ ไม่ว่าใครที่มาก็จะต้องประทับใจ และเก็บภาพไว้ ยิ่งถ้าแสงอาทิตย์ส่อง กระทบกับซุ้มประตู ก็ยิ่งงดงาม

งานประเพณีชักพระ จ.สุราษฎร์ธานี ประเพณีชักพระ ประเพณีลากพระ หรือ ประเพณีแห่พระ เป็น ประเพณีทางพระพุทธศาสนาซึ่งพบมากในภาคใต้ของ ประเทศไทย เป็นประเพณีที่มีการอัญเชิญพระพุทธรูปออกแห่รอบเมืองในวันหลัง วันออกพรรษา ถือเป็นการจำลองเหตุการณ์ครั้งที่พระพุทธเจ้า เสด็จกลับจากสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ โดยการอัญเชิญพระพุทธรูป ขึ้น ประดิษฐานบนเรือพระแล้วชักลากไปในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ชาวบ้านได้ ร่วมทำบุญ มีการแห่เรือพระ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ เรือพระบก สำหรับแห่ทางบก และเรือพระน้ำ สำหรับแห่ทางน้ำ โดยเรือจะมีการ ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม

ประเพณีทำบุญเดือนสิบ หรือ งานสารทเดือนสิบ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อมาจากทางศาสนาพราหมณ์ โดยมีการผสม ผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาโดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการ อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าได้รับการปล่อยตัวมา จากภูมินรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยก่อไว้ตอนที่ยังมี ชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากภูมินรกในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เพื่อมายัง โลกมนุษย์ มีจุดประสงค์เพื่อให้มาขอส่วนบุญส่วนกุศลจากลูกหลานญาติพี่น้อง ที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้ เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลัง จากนั้นก็จะกลับไปยังภูมินรก ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook