บทที่ 1ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกบั ห้องสมุด ความหมายของหอ้ งสมุด คาว่า “ห้องสมุด” บญั ญตั ิมาจากคาวา่ Library มาจากภาษาละตินวา่ Liberia หมายถึง ท่ีเก็บหนงั สือ โดยมีรากศพั ทเ์ ดิมวา่ “Liber” ซ่ึงหมายความวา่ หนงั สือ(ฉนั ทนา ชาญพานิชย,์ 2532: 1)หอ้ งสมุด หมายถึง สถานท่ีเก็บรักษาผลงานทางสติปัญญาของมนุษย์ เป็นสถานที่ประกอบดว้ ยหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพต์ า่ งๆ โสตทศั นวสั ดุทุกชนิดรวมท้งั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ซ่ึงเสนอเร่ืองราวอนั ใหส้ าระความรู้ ความบนั เทิงและความจรรโลงใจ (นนั ทา วทิ วฒุ ิศกั ด์ิ, 2536 : 13)หอ้ งสมุด ( Library) คือสถานท่ีรวบรวม และใหบ้ ริการความรู้ ความบนั เทิง และข่าวสารในรูปของสิ่งพิมพ์ และสิ่งไมต่ ีพมิ พป์ ระเภทต่างๆโดยมีการจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบเพื่อความสะดวกในการใชบ้ ริการและง่ายตอ่ การเนินงานของบรรณารักษ์ หากนกั เรียนรู้จกั การปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกตอ้ งตามระเบียบ มีมารยาทในการใชห้ อ้ งสมุด และเลือกใชบ้ ริการของหอ้ งสมุดไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ีจะช่วยให้นกั เรียนสามารถใชห้ อ้ งสมุดร่วมกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและประหยดั เวลาในการศึกษาคน้ ควา้ ของนกั เรียนความหมายของห้องสมุดหอ้ งสมุด ( Library) คือ แหล่งสารนิเทศที่รวบรวมทรัพยากรสารนิเทศในรูปวสั ดุตีพมิ พ์ไดแ้ ก่ หนงั สือ วารสาร หนงั สือพมิ พ์ จุลสาร กฤตภาค และวสั ดุไมต่ ีพมิ พ์ หรือโสตทศั นวสั ดุทุกประเภท โดยมีบรรณารักษเ์ ป็นผดู้ าเนินการ และบริการงานในการจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ และมีระเบียบ เพอื่ ใหผ้ ใู้ ชไ้ ดร้ ับความสะดวก และเกิดประโยชน์สูงสุด (สุรีรัตน์ กองแดง, ม.ป.ป. : 3)ความสาคญั ของห้องสมุด ความสาคญั หรือประโยชนข์ องหอ้ งสมุด พอสรุปไดด้ งั น้ี (ลมุล รัตตากร, 2530 : 14-17)1. หอ้ งสมุดเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศตา่ งๆผใู้ ชห้ อ้ งสมุดสามารถคน้ หาความรู้จากทุกสาขาวชิ าไดจ้ ากหอ้ งสมุด2. หอ้ งสมุดเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเลือกอ่านหนงั สือและคน้ ควา้ หาความรู้เพ่ิมเติมไดต้ ามความสนใจ และเป็นอิสระ3. หอ้ งสมุดช่วยใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดมีความรู้ท่ีทนั สมยั อยแู่ สมอ4 หอ้ งสมุดช่วยส่งเสริมใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดมีนิสยั รักการอ่าน และการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง5. หอ้ งสมุดช่วยใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดรู้จกั เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 2 -6. หอ้ งสมุดทาใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดไดร้ ับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน จากการพกั ผอ่ นทางอารมณ์7. หอ้ งสมุดมีบทบาทตอ่ การศึกษา และมีส่วนเสริมสร้างลกั ษณะนิสัยท่ีดีแก่ผใู้ ช้หอ้ งสมุดดงั ท่ีกล่าวมาแลว้ จะเห็นไดว้ า่ หอ้ งสมุดมีความสาคญั ต่อผใู้ ชม้ ากมายถา้ หากผใู้ ชร้ ู้คุณค่าฃองสมบตั ิทุกชิ้นท่ีมีอยใู่ นหอ้ งสมุด รู้จกั ใชอ้ ยา่ งถูกวธิ ีรู้จกั ระวงั รักษาสมบตั ิของส่วนรวมจะเป็นการฝึกนิสยั ที่มีระเบียบมีกฎเกณฑเ์ ป็นการฝึกนิสยั ท่ีดีวตั ถุประสงค์ของห้องสมุด หอ้ งสมุดเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศ ข่าวสาร ขอ้ มูล และมีระบบการจดั เกบ็ โดยมีบรรณารักษเ์ ป็นผดู้ าเนินการดงั น้นั หอ้ งสมุดมีวตั ถุประสงคด์ งั น้ี 1. เพอื่ การศึกษา ( Education) หอ้ งสมุดไดใ้ หก้ ารศึกษาดว้ ยตนเองแก่ผใู้ ชบ้ ริการ โดยการจดั หาหนงั สือ สื่อสิ่งพิมพ์ และโสตทศั นวสั ดุ เพือ่ ใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการไดร้ ับความสะดวก และเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น หอ้ งสมุดโรงเรียนมีหนา้ ที่ช่วยส่งเสริมสนบั สนุนการเรียนการสอนใหม้ ีประสิทธิภาพนกั เรียนไดร้ ับความรู้ และรู้จกั ใชห้ อ้ งสมุดเพอื่ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. เพอื่ การให้ความรู้และข่าวสาร ( Information) หอ้ งสมุดเป็นแหล่งรวบรวมหนงั สือเอกสาร ส่ิงพมิ พแ์ ละโสตทศั นวสั ดุตา่ งๆท่ีใหค้ วามรู้ ขอ้ เทจ็ จริงท่ีถูกตอ้ ง ข่าวสารความเคลื่อนไหวตา่ งๆท้งั ภายในและภายนอกประเทศทวั่ โลก ทาใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดมีความรู้ทนั เหตุการณ์ปัจจุบนัตลอดเวลา 3. เพอ่ื การค้นคว้าและวจิ ัย ( Research) หอ้ งสมุดเป็นศูนยก์ ลางของวทิ ยาการตา่ งๆท่ีจะช่วยในการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั ซ่ึงเป็นการแสวงหาความรู้ใหมๆ่ เพื่อความเจริญกา้ วหนา้ ทางวชิ าการในสาขาตา่ งๆ 4. เพอื่ ความจรรโลงใจ ( Inspiration) การอ่านหนงั สือนอกจากจะไดร้ ับความรู้แลว้ ยงัก่อใหเ้ กิดความสุขทางใจใหร้ ู้สึกซาบซ้ึงในสานวนภาษาอนั ไพเราะ และความดีงามในความคิดของผเู้ ขียน ซ่ึงอาจเป็นแรงบนั ดาลใจใหอ้ ยากทาในส่ิงท่ีเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ 5. เพอ่ื นันทนาการและการบันเทงิ ( Recreation) หอ้ งสมุดจดั หาหนงั สือ วารสาร สิ่งพมิ พ์และโสตทศั นวสั ดุหลายหลายเน้ือหา เพอ่ื ใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการไดเ้ ลือกใชต้ ามความตอ้ งการ ผใู้ ชห้ อ้ งสมุดสามารถเลือกอา่ นหนงั สือ วารสาร และส่ิงพิมพท์ ่ีหอ้ งสมุดจดั เตรียมไวเ้ พอื่ ความเพลิดเพลินทางใจและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ยงั เป็นการเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านใหแ้ ก่ผใู้ ชอ้ ีกทางหน่ึงดว้ ย
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 3 -ประเภทของห้องสมุดหอ้ งสมุดแบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท ดงั น้ี1 . หอ้ งสมุดโรงเรียน (School Library) คือหอ้ งสมุดที่จดั ต้งั ข้ึนภายในโรงเรียน ไมว่ า่ จะเป็นโรงเรียนในระดบั ประถมศึกษา หรือมธั ยมศึกษา โดยทวั่ ไปมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือสนบั สนุน และส่งเสริมใหก้ ารจดั การเรียนการสอนในโรงเรียนมีประสิทธิภาพ ปลูกฝังนิสยั รักการอา่ น และให้นกั เรียนรู้จกั ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ดว้ ยตนเอง 2. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั และมหาวทิ ยาลยั ( College and University Library) คือหอ้ งสมุดท่ีจดั ต้งั ข้ึนในสถานศึกษา ระดบั อุดมศึกษาไดแ้ ก่ วทิ ยาลยั หรือมหาวทิ ยาลยั เป็นแหล่ง รวบรวมตาราวชิ าการ เอกสารอา้ งอิงตา่ งๆ เพอ่ื ใหอ้ าจารย์ นิสิต และนกั ศึกษาสามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการศึกษาคน้ ควา้ เพิ่มเติม และเพ่ือการทาวจิ ยั ในสาขาวชิ าตา่ งๆ3. หอ้ งสมุดเฉพาะ (Special Library) คือหอ้ งสมุดท่ีจดั ต้งั ข้ึนในหน่วยงานต่างๆท้งั ของรัฐบาล และเอกชน เพ่ือเก็บรวบรวมหนงั สือ สิ่งพิมพ์ รวมท้งั โสตทศั นวสั ดุตา่ งๆที่มีเน้ือหาเกี่ยวกบัหน่วยงานน้นั ๆ เช่น หอ้ งสมุดกรมบญั ชีกลาง รวบรวมตารา เอกสาร วารสาร และสิ่งพมิ พต์ า่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งานในหนา้ ท่ีของกรมบญั ชีกลาง
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 4 - 4. หอ้ งสมุดประชาชน (Public Library) เป็น หอ้ งสมุดที่จดั ต้งั ข้ึนเพ่ือใหบ้ ริการแก่ประชาชน ทุกเพศ ทุกวยั ทุกสาขาอาชีพ เขา้ ใชบ้ ริการคน้ หาความรู้ ติดตาม ข่าวสาร ช่วยพฒั นาประชากรใหม้ ีความรู้ เช่น หอ้ งสมุด ประชาชนจงั หวดั อุบลราชธานี หอ้ งสมุด ซอยพระนาง เป็ นตน้5 . หอสมุดแห่งชาติ ( National Library) เป็นสถานท่ีรวบรวมหนงั สือ ส่ิงพมิ พต์ า่ งๆท่ีจดั พมิ พข์ ้ึนในประเทศ ตน้ ฉบบั ตวั เขียน ศิลาจารึกต่างๆ ตลอดจนโสตทศั นวสั ดุ และเป็นหน่วยงานที่มีหนา้ ที่เก็บรักษาทรัพยส์ ินทางปัญญาของชาติในดา้ นสิ่งพิมพท์ ุกประเภท เพ่ือการศึกษาคน้ ควา้ และวจิ ยั ตามพ.ร.บ.การพิมพก์ าหนดใหผ้ ผู้ ลิตสิ่งพมิ พม์ อบสิ่งพิมพท์ ี่ผลิตได้ ใหเ้ ป็นสมบตั ิของหอสมุดแห่งชาติแหล่งสารสนเทศอ่ืนๆนอกจาหอ้ งสมุดแลว้ ยงั มีแหล่งสารสนเทศอื่นๆที่มีหนา้ ท่ีในการจดั หาจดั เกบ็ และใหบ้ ริการสารสนเทศท่ีเป็นแหล่งขอ้ มูลที่ควรรู้จกั ดงั น้ี 1. ศนู ยข์ อ้ มลู จาก คาศพั ทค์ อมพิวเตอร์ ศนู ยข์ อ้ มูล data center หมายถึง ที่หรื อแหล่งเก็บขอ้ มลู หรือแหล่งท่ีรวบรวมขอ้ มลู ไวเ้ ป็นจานวนมาก ส่วนมากจะอยกู่ บั หน่วยงานคอมพวิ เตอร์เช่น หน่วยคอมพวิ เตอร์ของกระทรวงเกษตร อาจเป็นคลงั ขอ้ มลู ในเรื่องของ ผลผลิต เน้ือที่การเกษตรรายละเอียดเก่ียวกบั กสิกร สัตวท์ ่ีใชใ้ นการเกษตร สินคา้ เกษตร ฯลฯ เป็นตน้ มีความหมายเหมือนdata bank 2. ศนู ยส์ ารสนเทศ (Information Center) หรือ ศนู ยบ์ ริการเอกสาร (DocumentationCenter)* เป็นแหล่งสารสนเทศ ท่ีต้งั ข้ึนเพ่อื จดั เก็บและใหบ้ ริการสารสนเทศท่ีมีเน้ือหาเฉพาะเจาะจง
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 5 -ลุ่มลึก ทนั สมยั ถูกตอ้ ง และทนั กบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ กาเนิดของศูนยส์ ารสนเทศมีพฒั นามาจากปัญหาของการทว่ มทน้ สารสนเทศ และความตอ้ งการใชข้ อ้ มูลของผใู้ ชบ้ ริการเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะกลุ่มผใู้ ชส้ ารสนเทศในสาขาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที ี่เป็นผรู้ ิเริ่มใหม้ ีการจดั ต้งั แหล่งสารสนเทศประเภทศนู ยส์ ารสนเทศข้ึน เพื่อดาเนินการสะสม และรวบรวมบนั ทึกสารสนเทศทุกรูปแบบ และจดั บริการเขา้ ถึงตวั ผใู้ ชเ้ ป็นเฉพาะกรณี 3. สถาบนั บริการสารสนเทศ คือ หน่วยงานที่ทาหนา้ ท่ีจดั หา จดั เก็บ และใหบ้ ริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวชิ าหรือเฉพาะเร่ือง บุคลากรของศูนยป์ ระกอบดว้ ยนกั เอกสารสนเทศ นกั วจิ ยับรรณารักษ์ นกั บรรณานุกรม 4. หน่วยงานทะเบียนสถิติ (Statistical office) หน่วยทะเบียนสถิติเป็นศูนยก์ ลางรวบรวมหลกั ฐานการจดทะเบียนหรือ ลงทะเบียน และรวบรวมสถิติท่ีเก่ียวขอ้ ง อาจเป็นหน่วยงานที่สังกดั อยใู่ นกระทรวง ทบวง กรม เพื่อรวบรวมสถิติเฉพาะภายในหน่วยงาน เช่น หน่วยเวชระเบียนของโรงพยาบาลตา่ ง ๆ กองการทะเบียนของกรมการปกครอง ศนู ยส์ ถิติพาณิชย์ และสานกั งานสถิติแห่งชาติเป็ นตน้ 5. ศนู ยแ์ นะแหล่งสารสนเทศ (Referral centers) ศูนยแ์ นะแหล่งสารสนเทศ ทาหนา้ ที่รวบรวมแหล่งขอ้ มลู และแหล่งสารสนเทศ โดยจดั ทาเป็นคู่มือ หรือรายการบรรณานุกรมและดชั นีเพือ่ ใหค้ าแนะนาแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศท่ีเหมาะสมตามท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการ ส่วนใหญจ่ ะแนะแหล่งสารสนเทศเฉพาะสาขาวชิ า เช่น ศูนยแ์ นะแหล่งสารสนเทศวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติหอสมุดรัฐสภาอเมริกนั ศูนยแ์ นะแหล่งสารสนเทศสิ่งแวดลอ้ มนานาชาติ เป็นตน้ (ศรีสุภา นาคธน,2548) 6. หน่วยงานจดหมายเหตุ ( archive) หน่วยงานจดหมายเหตุ ทาหนา้ ที่รวบรวมและอนุรักษเ์ อกสารราชการ และเอกสารทางประวตั ิศาสตร์ ไดแ้ ก่ คาสง่ั ระเบียบ ขอ้ บงั คบั บนั ทึกหนงั สือโตต้ อบ รายงาน แผนที่ ภาพถ่าย แบบแปลน เพ่ือเป็นหลกั ฐานการดาเนินงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน ใชเ้ ป็นแหล่งคน้ ควา้ อา้ งอิงท้งั เพ่ือการปฏิบตั ิงานและคน้ ควา้ ทางวชิ าการตวั อยา่ งเช่นหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หอจดหมายเหตุส่วนภูมิภาคและทอ้ งถ่ิน หอจดหมายเหตุของสถาบนั ทางศาสนา หอจดหมายเหตุของมหาวทิ ยาลยั และหอจดหมายเหตุของสถาบนั ธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นตน้ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ มีฐานะเป็นสานกั หน่ึงในกรมศิลปากรกระทรวงวฒั นธรรม จดั ต้งั เมื่อวนั ท่ี 18 สิงหาคม พ.ศ. 2495 มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื จดั เก็บและบารุงรักษาเอกสารทางราชการท่ีมีความสาคญั ทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ที่มีอายเุ กิน 25 ปี และรูปถ่ายไวใ้ หค้ นรุ่นหลงั ได้ศึกษาคน้ ควา้ ใหบ้ ริการคน้ ควา้ เอกสารจดหมายเหตุประเภทต่าง ๆ เช่น เอกสารโตต้ อบของส่วนราชการ เอกสารส่วนบุคคล เอกสารประวตั ิศาสตร์ร่วมสมยั ท้งั ท่ีเป็นเอกสารประเภทลายลกั ษณ์และ
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 6 -ประเภทไมโครฟิ ลม์ รวม ท้งั บริการเอกสารประเภทโสตทศั นจดหมายเหตุ เช่น ภาพถ่าย แผนที่แผนผงั แบบแปลน สไลด์ ซีดี แถบบนั ทึกเสียง เป็นตน้7. เครือข่ายบริการสารสนเทศ ( information services network) เครือขา่ ยบริการสารสนเทศเกิดข้ึนจากการรวมตวั กนั ของกลุ่มสถาบนั บริการสารสนเทศ เพอ่ื เพม่ิ ประสิทธิภาพในการดาเนินงานดา้ นการบริการทางบรรณานุกรม ไดแ้ ก่ การทาบตั รรายการ การพฒั นาทรัพยากร การยมืระหวา่ งหอ้ งสมุด และการบริการฐานขอ้ มลู อิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น เครือข่ายยนู ิเน็ต ( UniNet)เครือข่ายยูนิเน็ตจดั ดาเนินการโดยสานกั งานบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ พฒั นาการศึกษา ในสังกดัสานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ สนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกนั ไดด้ าเนินโครงการพฒั นาเครือข่ายหอ้ งสมุดมหาวทิ ยาลยั ในประเทศไทย ท่ีมีช่ือยอ่ วา่ “ThaiLIS” (Thai Library Integrated System) โดยเช่ือมโยงเครือข่ายระหวา่ งหอ้ งสมุดมหาวทิ ยาลยั และสถาบนั จานวน 24 แห่ง ใหส้ ามารถใชง้ านผา่ นเครือขา่ ยยนู ิเน็ต มีสารสนเทศที่ใหบ้ ริการในฐานขอ้ มลู อิเล็กทรอนิกส์ ดงั น้ีฐานขอ้ มูลสหบรรณานุกรม ( union catalog)เป็นฐานขอ้ มูลที่รวบรวมรายการบรรณานุกรมทรัพยากรสารสนเทศในหอ้ งสมุดมหาวทิ ยาลยั และสถาบนั 24 แห่ง ปัจจุบนั มีขอ้ มลู บรรณานุกรมจานวนกวา่ 2 ลา้ นระเบียน เขา้ ใชบ้ ริการไดท้ ี่เวบ็ ไซต์http://uc.thailis.or.th8. ฐานขอ้ มูลจดั เก็บเอกสารฉบบั เตม็ ( digital collection) เป็นฐานขอ้ มลู ท่ีจดั เกบ็ และแสดงเอกสา รฉบบั เตม็ ( full text) พร้อมภาพ ใหบ้ ริการขอ้ มูลวทิ ยานิพนธ์ งานวจิ ยั ของสถาบนั อุดมศึกษาในประเทศไทย และเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระหวา่ งหอ้ งสมุดมหาวทิ ยาลยั กวา่ 70แห่ง ปัจจุบนั มีเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ จานวนกวา่ 50,000 รายการ เขา้ ใชบ้ ริการไดท้ ่ีเวบ็ ไซตจ์ ะเห็นได้วา่ การพฒั นาหอ้ งสมุดในแตล่ ะยคุ แต่ละสมยั เป็นการสะสมสารสนเทศที่มีคุณคา่ หอ้ งสมุดจึงทาหนา้ ที่เป็นตวั กลางที่สาคญั ที่สามารถเช่ือมโยงสารสนเทศและผใู้ ชส้ ารสนเทศไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพถึงแมว้ า่ ในปัจจุบนั รูปแบบของการจดั หอ้ งสมุดมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปของแหล่งสารสนเทศอ่ืนๆก็ตามแตห่ อ้ งสมุดกย็ งั คงทาหนา้ ท่ีเป็นศูนยส์ ารสนเทศเพื่อการใหบ้ ริการความรู้ต่อไปอยา่ งไม่มีท่ีสิ้นสุด
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 7 -ระเบียบการใช้ห้องสมุดท่วั ไประเบียบการใชห้ อ้ งสมุดในแต่ละสถาบนั อาจจะไมเ่ หมือนกนั ทุกอยา่ ง แตส่ ่ิงท่ีเหมือนกนั กนั พอสรุปไดด้ งั น้ี1. ผมู้ ีสิทธิใชห้ อ้ งสมุด1.1 ครู1.2 นกั เรียน 1.3 บุคลากร2. เวลาทาการ เปิ ดบริการทุกวนั ท่ีมีการเรียนการสอน ต้งั แตเ่ วลา 07.00-16.30 น.3. เวลาใหบ้ ริการยมื หนงั สือ วนั จนั ทร์-วนั ศุกร์ เวลา 07.00-7.45 น. , 11.00-13.30 น. , 15.10 -16.00 น. วนั เสาร์ เวลา 07.00 น. -13.30 น.4. หนงั สือ เอกสาร และวสั ดุที่จดั บริการ 4.1 เอกสารท่ีจดั บริการใหย้ มื ทว่ั ไป อยใู่ นครอบครอง 5 เล่ม ยมื ได้ 7 วนั มีหนงั สือทวั่ ไป นวนิยายและเรื่องส้ัน จุลสาร วารสารฉบบั ล่วงเวลา 4.2 เอกสารท่ีไมอ่ นุญาตใหย้ มื ออกนอกหอ้ งสมุดคือ หนงั สืออา้ งอิง วารสารเยบ็ เล่ม วารสารและหนงั สือพิมพฉ์ บบั ปัจจุบนับริการของห้องสมุด งานบริการ คือ งานที่หอ้ งสมุดจดั ทาข้ึนเพอ่ื อานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผใู้ ชบ้ ริการหอ้ งสมุดรวมท้งั การจดั สถานท่ีภายในหอ้ งสมุดใหด้ ูสวยงาม น่าเขา้ ใจบริการ และจดั ช้นั หนงั สือใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกต่อการใชง้ าน บริการของหอ้ งสมุดแบง่ ออกไดด้ งั น้ี 1. บริการการอา่ น เป็นบริการของหอ้ งสมุดท่ีผใู้ ชบ้ ริการสามารถเขา้ มาอา่ นหนงั สือ และสิ่งพมิ พต์ า่ งๆของหอ้ งสมุดไดอ้ ยา่ งเสรี 2. บริการใหย้ มื -คืนหนงั สือ เป็นบริการท่ีใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถยมื หนงั สือออกไปใชน้ อกหอ้ งสมุดได้ โดยปฏิบตั ิตามระเบียบและขอ้ บงั คบั ของหอ้ งสมุด 3. บริการตอบคาถามและช่วยคน้ ควา้ คือ บริการตอบคาถามที่ผใู้ ชต้ อ้ งการทราบ เช่นจะคน้ เร่ืองราวต่างๆที่ตอ้ งการไดจ้ ากหนงั สือและส่ิงพิมพใ์ นหมวดใดไดบ้ า้ ง 4. บริการสืบคน้ ขอ้ มลู เป็นบริการท่ีหอ้ งสมุดจดั ข้ึนเพื่ออานวยความสะดวกแก่ผใู้ ชบ้ ริการในการสืบคน้ สารนิเทศที่ทนั สมยั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 8 - 5. บริการรวบรวมบรรณานุกรม คือบริการจดั ทารายชื่อหนงั สือ สิ่งพมิ พส์ าหรับใช้ประกอบการคน้ ควา้ วจิ ยั ในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง 6. บริการหนงั สือจอง คือ งานบริการหนงั สือท่ีครู อาจารยก์ าหนดใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั ใช้อา่ นประกอบการเรียนการสอนในรายวชิ าใดรายวชิ าหน่ึง กจ็ ะแจง้ ใหบ้ รรณารักษท์ ราบเพือ่ จดัหนงั สือน้นั ๆแยกไวต้ ่างหาก และกาหนดระยะเวลายมื หนงั สือจองส้ันกวา่ หนงั สือทว่ั ไป 7. บริการจองหนงั สือ เนื่องจากหนงั สือบางเล่มมีผตู้ อ้ งการใชม้ าก แตจ่ านวนหนงั สือมีนอ้ ยจึงเปิ ดใหผ้ ใู้ ชเ้ ขียนจองหนงั สือที่ตอ้ งการ โดยเรียงลาดบั ก่อน-หลงั เม่ือมีผมู้ าส่งคืน บรรณารักษก์ ็จะแจง้ ใหผ้ ใู้ ชท้ ่ีจองหนงั สือทราบ เพ่อื ขอยมื หนงั สือเล่มน้นั ตอ่ ไป 8. บริการแนะนาการใชห้ อ้ งสมุด คือ การบริการท่ีโรงเรียนหรือสถานศึกษาจดั สอนผเู้ ขา้เรียนในปี แรก มีท้งั การสอนอยา่ งเป็นทางการ คือเป็นรายวชิ า เช่นวชิ าการใชห้ อ้ งสมุด หรือเป็นส่วนหน่ึงของการปฐมนิเทศนกั เรียน นกั ศึกษาใหมเ่ พ่ือใหน้ กั เรียน นกั ศึกษาไดร้ ู้จกั หอ้ งสมุด และสามารถใชห้ อ้ งสมุดไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี และเกิดประโยชน์สูงสุด 9. บริการถ่ายสาเนาส่ิงพิมพต์ า่ งๆ หอ้ งสมุดหลายแห่งจดั ใหม้ ีบริการถ่ายสาเนาเอกสารสิ่งพิมพ์ เพื่ออานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผใู้ ชห้ อ้ งสมุด โดยผใู้ ชต้ อ้ งเสียค่าบริการตามท่ีกาหนด 10. บริการคอมพวิ เตอร์และอินเตอร์เน็ต เป็นบริการท่ีหอ้ งสมุดจดั คอมพิวเตอร์ไวใ้ หบ้ ริการแก่ผใู้ ช้ เพ่ืออานวยความสะดวกในการศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ทางอินเตอร์เน็ต และสาหรับการพมิ พ์เอกสารต่างๆของผใู้ ชบ้ ริการระเบยี บและมารยาทในการใช้บริการห้องสมุดในการใชบ้ ริการหอ้ งสมุด ผใู้ ชบ้ ริการควรที่จะศึกษาระเบียบและมารยาทในการใชบ้ ริการรวมท้งั ปฏิบตั ิตามระเบียบอยา่ งเคร่งครัดเพื่อใหห้ อ้ งสมุดมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยทวั่ ไประเบียบและมารยาทในการใชห้ อ้ งสมุด มีดงั น้ี 1. แตง่ กายใหส้ ุภาพ เรียบร้อย และเหมาะสม 2. ไม่ควรนากระเป๋ าเขา้ มาในหอ้ งสมุด 3. ไมน่ าอาหาร เครื่องดื่มเขา้ มารับประทานในหอ้ งสมุด 4. ไมส่ ่งเสียงดงั รบกวนสมาธิของผอู้ ่ืน 5. ใชท้ รัพยากรสารสนเทศอยา่ งระมดั ระวงั และเมื่อใชเ้ สร็จแลว้ ควรเกบ็ เขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 6. การยมื -คืนทรัพยากรสารสนเทศตอ้ งเป็นไปตามระเบียบการยมื -คืน 7. ไม่นาทรัพยากรสารสนเทศที่ไม่ผา่ นการยมื ออกจากหอ้ งสมุด 8. ไมท่ าลายทรัพยากรสารสนเทศ รวมท้งั ทรัพยส์ ินของหอ้ งสมุด
วชิ า ท20201 การใชห้ อ้ งสมุด - 9 - 9. กรุณาปฏิบตั ิตามระเบียบของหอ้ งสมุด และเชื่อฟังคาแนะนาของบรรณารักษ์ เม่ือมีปัญหา หรือมีขอ้ สงสยั กรุณาสอบถามที่บรรณารักษ์แหล่งเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ หมายถึง แหล่งขอ้ มลู ขา่ วสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ท่ีสนบั สนุนส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนใฝ่ เรียน ใฝ่ รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ดว้ ยตนเองตามอธั ยาศยั อยา่ งกวา้ งขวางและต่อเน่ือง เพือ่ เสริมสร้างใหผ้ เู้ รียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ความสาคญั ของแหล่งเรียนรู้ มี 5 ประการ คือ 1. แหล่งการศึกษาตามอธั ยาศยั 2. แหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวติ 3. แหล่งปลูกฝังนิสัยรักการอา่ น การศึกษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 4. แหล่งสร้างเสริมประสบการณ์ภาคปฏิบตั ิ 5. แหล่งสร้างเสริมความรู้ ความคิด วทิ ยาการและประสบการณ์ประเภทของแหล่งเรียนรู้ แบง่ ได้ 2 ประเภทตามลกั ษณะที่ต้งั ดงั น้ี 1. แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน 2. แหล่งเรียนรู้ในทอ้ งถ่ิน 1. แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อพฒั นาโรงเรียนใหเ้ ป็นสงั คมแห่งการเรียนรู้มีแหล่งขอ้ มลู ข่าวสาร ความรู้ วทิ ยาการ และสร้างเสริมประสบการณ์ที่หลากหลาย รวมท้งั ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีทกั ษะการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง และสามารถเรียนรู้ไดต้ ลอดชีวติโดยแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนสตรีวทิ ยามีดงั น้ี 1. หอ้ งสมุดกลุ่มสาระต่างๆ 2. หอ้ งสมุดเคล่ือนที่ 3. มุมหนงั สือในหอ้ งเรียน 4. หอ้ งเกียรติยศของโรงเรียน 5. พิพิธภณั ฑส์ มเด็จยา่ ฯลฯ 2. แหล่งเรียนรู้ในท้องถิน่ เป็นแหล่งศึกษาตลอดชีวติ ที่ประชาชนสามารถหาความรู้ตา่ งๆไดด้ ว้ ยตนเองตลอดเวลา อาทิเช่น วดั พิพธิ ภณั ฑ์ หอศิลป์ สวนสตั ว์ อนุสาวรียต์ า่ งๆ เป็นตน้ โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ส่งเสริมการเรียนรู้ดว้ ยตนเองตลอดชีวติ เป็นเคร่ืองมือของการพฒั นาตนเองอยา่ งยงั่ ยนื
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: