Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สถาบันทางสังคม 7สถาบัน สามเณรณัฐภัทร หาญกันทร์

สถาบันทางสังคม 7สถาบัน สามเณรณัฐภัทร หาญกันทร์

Published by nattpat0930064479, 2022-11-29 06:54:40

Description: E300C326-47DB-483E-A03B-5D58601B1B29

Search

Read the Text Version

สถาบันทางสังคม เมื่อคนมาอาศัยอยู่รวมกันและสร้างความสัมพันธ์ขึ้ นระหว่างกัน ความสัมพันธ์ เหล่านั้ นจะเชื่อโยงกันไปมาเสมือนเป็ นแบบแผนที่มั่นคง หากจัดแบ่งความ สัมพันธ์เหล่านี้ ออกเป็ นเรื่องๆ ก็จะเห็นกลุ่มความสัมพันธ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึง กัน เราเรียกกลุ่มความสัมพันธ์ในเรื่องหนึ่ งๆว่า “สถาบันทางสังคม(social institution)” ซึ่ งจะทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม สถาบันทางสังคม หมายถึง ยอดรวมของรูปแบบความสัมพันธ์ กระบวนการ และวัสดุอุปกรณ์ที่สร้างขึ้ น เพื่อสนองประโยชน์ สำคัญๆทาง สังคมในเรื่องใดเรื่องหนึ่ ง ทุกสถาบันจึงมีจารีตประเพณี กฎเกณฑ์ ธรรมเนียมปฏิบัติ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของตนเอง เช่น อาคารสถานที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์สื่อสาร เป็ นต้น สถาบันทางสังคมตามนัยแห่งสังคมวิทยานั้ น มิใช่จะปรากฏออก มาในรูปที่เป็ นทางการ เช่น การอยู่รวมกันเป็ นครอบครัวในบ้านแห่งหนึ่ ง (สถาบันครอบครัว) ธนาคาร สำนักงาน ตลาดสด (สถาบันทางเศรษฐกิจ) โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย (สถาบันการศึกษา) เท่านั้ น แต่รวมไปถึง รูปแบบที่ไม่เป็ นทางการด้วย ซึ่ งในแต่ละสังคม จะมีสถาบันทางสังคมที่เป็ น พื้นฐาน

สถาบันครอบครัว คือ แบบแผนพฤติกรรมของคนที่มาติดต่อเกี่ยวข้องกันในเรื่อง เกี่ยวกับครอบครัวและเครือญาติ นั่นคือ คนที่เป็ นญาติกันโดยสายเลือด เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง และเป็ นญาติกันทางการแต่งงาน เช่น สามีภรรยา เขยสะใภ้ หรือการรับไว้เป็ นญาติ เช่น บุตรบุญธรรม เป็ นต้น คนเหล่านี้ จะต้องปฏิบัติ ตามกฎเกณฑ์แบบแผนที่สังคมเป็ นผู้กำหนดขึ้ น รวมเรียกว่า “สถาบัน ครอบครัว” บทบาทและหน้าที่ของสถาบันครอบครัว คือการให้สมาชิกใหม่ กับสังคม ดูแลและทำนุบำรุง รวมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมให้แก่สมาชิกที่ กำเนิ ดขึ้ นมาในสังคม ตลอดจนกำหนดแนวปฎิบัติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ สมาชิกในครอบครัว เช่น การเลือกคู่ การหมั้น การแต่งงาน เป็ นต้น สถาบันครอบครัวเป็ นสถาบันพื้นฐานแรกสุดที่มีความสำคัญอย่าง ยิ่ง เพราะเป็ นจุดเริ่มต้นของสถาบันอื่นๆ ในสังคม และทำหน้าที่อบรม ขัดเกลาให้สมาชิกในครอบครัวเป็ นคนดีของสังคม

สถาบันเศรษฐกิจ คือ แบบแผนการคิดการกระทำเกี่ยวกับเรื่องของการผลิตสินค้า และบริการ การจำหน่ายแจกจ่ายสินค้าและการให้บริการต่างๆ รวมทั้งการ บริ โภคของสมาชิ กในสังคม สถาบันเศรษฐกิจเป็ นกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่ลูกจ้าง นายจ้าง เจ้าของโรงงาน ธนาคาร และผู้ผลิตสินค้าและบริการจะต้องปฎิบัติตาม แม้แต่ผู้ประกอบการอิสระและเกษตรกร ก็จะต้องปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ของการ ประกอบอาชีพที่ดีเช่นเดียวกัน สถาบันเศรษฐกิจเป็ นความสัมพันธ์ในแง่ของการผลิต การแลก เปลี่ยน และการบริโภค ซึ่ งการปฎิสังสรรค์กันทางสังคมในแง่นี้ อาจเป็ น ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว และญาติ หรือกับบุคคลอื่น ทั้งที่ อาศัยอยู่ในสังคมเดียวกัน หรือต่างสังคมกันได้ บทบาทและหน้าที่ของสถาบันเศรษฐกิจ คือ สร้างแบบแผนและ เกณฑ์ในการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน กำหนดกลไกราคาที่เหมาะสม รวม ทั้งผลิตเครื่องอุปโภคและบริโภคและเทคโนโลยี ซึ่ งคนๆ เดียวมาสามารถที่ จะกระทำหรือผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด จึงต้องพึ่งพาอาสัย คนอื่นให้ช่วยทำให้ได้ผลผลิตที่เป็ นอาหารและของใช้ ส่งผลให้คนเราต้องมี ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และภายหลังที่ผลิตขึ้ นมาได้แล้วก็จำเป็ นต้องนำไป แลกเปลี่ยนกับของชนิ ดอื่นที่เราไม่ได้ทำขึ้ นเอง กระบวนการแลกเปลี่ยนจึง เป็ นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ของคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุค ปัจจุบันที่มีการผลิตสินค้าและบริการจำนวนมาก

สถาบันการเมืองการปกครอง คือแบบแผนการคิดการกระทำที่จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละ สังคมโดยขึ้ นอยู่กับปรัชญาความเชื่อพื้นฐานของคนในสังคมว่าต้องการจะให้ เป็ นแบบเสรีประชาธิไตย หรือแบบสมบูรณาญาสิทธิราช หรือแบบ คอมมิวนิ สต์ เมื่อได้เลือกรูปแบบการปกครองแล้วก็ต้องจัดการบริหารการ ปกครองให้เป็ นไปตามปรัชญาการเมืองแบบนั้ นๆตามแนวทางที่เห็นว่าถูกต้อง และเหมาะสม บทบาทและหน้าที่ของสถาบันการเมืองการปกครองที่สำคัญ คือ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของชาติ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ราษฎร สร้าง ความมั่นคงและรักษาสิทธิประโยชน์ ของประเทศชาติ รวมทั้งสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยจะครอบคลุมทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ซึ่ งบางส่วนจะทำหน้าที่ในการตรากฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับและบาง ส่วนจะทำหน้าที่บริหารงาน เพื่อให้สังคมดำรงอยู่และพัฒนาต่อไปได้ โดยใน ระดับชาติ เช่น นักการเมือง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้พิพากษา เป็ นต้น และในระดับท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิกองค์การบริหารส่วน ตำบล เทศบาล เป็ นต้น

สถาบันการศึ กษา สถาบันการศึกษา คือ แบบแผนของการคิดและกระทำที่ เกี่ยวข้องกับการอบรมให้การศึกษาแก่สมาชิกใหม่ของสังคม รวมทั้งถ่ายทอด วัฒนธรรมจากคนรุ่นหนึ่ งไปยังอีกรุ่นหนึ่ งด้วย สถาบันทางการศึกษาเป็ น สถาบันที่ครอบคลุมในเรื่องที่เกี่ยวกับหลักสูตร การสอบเข้า การเรียนการ สอน การฝึกอบรมในด้านต่างๆ บทบาทและหน้าที่ของสถาบันการศึกษา คือ ส่งเสริมให้สมาชิก ในสังคมเกิดความเจริญงอกงามในด้านต่างๆ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ ด้าน การวิจัย เป็ นต้น ส่งเสริมให้บุคคลเป็ นคนดี มีศีลธรรม มีค่านิ ยมที่ดีงาม รู้จักสิทธิหน้าที่ที่ตนพึงปฏิบัติต่อสังคมและประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิด การเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูปสังคม เบื้องต้นการอบรมขัดเกลาสมาชิกของสังคมเป็ นหน้าที่ของ ครอบครัว ส่วนการจัดการการศึกษาเพื่อให้เยาวชนมีความรู้ มีคุณธรรมและ วิชาชีพต่างๆเพื่อจะได้นำไปใช้ในการดำเนิ นชีวิตส่วนใหญ่จะเป็ นหน้าที่ของ รัฐและเอกชนจัดการให้ โดยจะจัดเป็ นโรงเรียนที่มีครูอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ร่วมมือในการจัดการศึกษาให้กับเยาวชน

สถาบันศาสนา สถาบันศาสนา คือ แบบแผนการคิดและการกระทำของสถาบันที่เกี่ยวพัน ระหว่างสมาชิก ของสังคมกับนักบวช คำสอน ความเชื่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อำนาจ ที่นอกเหนื อธรรมชาติ และกฎเกณฑ์ทางศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของสังคม การนับถือศาสนาจะเกี่ยวพันกับการดำเนิ นชีวิตของ คนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างงยิ่งในโอกาสสำคัญต่างๆของชีวิต หรือช่วง เวลาที่ผ่านพ้น จากสถานภาพหนึ่ งไปยังอีกสถานภาพหนึ่ งบทบาทและหน้าที่ ของสถาบันสังคมคือ เป็ นศูนย์รวมความศรัทธา สร้างแบบแผนแนวทางการ ดำเนิ นชีวิตของสมาชิกในสังคม

สถาบันนันทนาการ สถาบันนันทนาการ คือ แบบแผนการคิดและการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการ พักผ่อนหย่อนใจ หลังจากการทำงานที่เหน็ ดเหนื่อยของคนในสังคม เพื่อ ให้การดำรงชีวิตมีความสุขสมบูรณ์มากยิ่งขึ้ น บทบาทและหน้าที่ของสถาบันนันทนาการ คือการทำให้คนในสังคมผ่อน คลายความตึงเครียดเพิ่มพูนอนามัยที่ดี ใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์ ในทาง สร้างสรรค์ต่างๆ รวมทั้งสนองความต้องการทางสังคม ในรูปแบบความ บันเทิงต่างๆ เช่น ศิลปะ การละเล่น การกีฬา เป็ นต้น โดยผลที่ตามมานอก จากความผ่อนคลาย ความเพลิดเพลินใจแล้ว ก็คือทำให้มีละคร ภาพยนตร์ งานบันเทิง มหรสพ คนตรี ฟ้ อนรำ ขึ้ นมาในสังคม สถาบันนันทนาการจำเป็ นทีจะต้องมีบุคคลวิธีการสำหรับดำเนิ นการ และ การฝึกฝนเป็ นระยะเวลานานจนเกิดความชำนาญจนทำให้การแสดงสมจริง สามารถสร้างความเพลิดเพลินบันเทิงใจแก่คนทั่วไปได้ ดังนั้ น ความสัมพันธ์ ระหว่างศิลปิ น ผู้จัดการ และคนดูทั่วไปจึงเกิดขึ้ น และสอดคล้องกันและกัน

สถาบันสื่อสารมวลชน สถาบันสื่อสารมวลชน คือแบบแผนการสื่อสารระหว่างบุคคลในสังคมที่มี การขยายตัวกว้างใหญ่ขึ้ น ครอบคลุมอำเภอ จังหวัด ประเทศ และโลก โดย แบบแผนดังกล่าวเกิดขึ้ นเพื่อลดข้อจำกัดในแง่ของระยะทางและเวลา ในรูป ของหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ ต บทบาทและหน้าที่ของสถาบันสื่อสารมวลชน คือ การส่งข่าวสาร นำเสนอ ความคิดเห็นของประชาชนออกไปสู่สาธารณชนเพื่อให้รับรู้ข่าวสารทันกับ ความเปลี่ยนแปลงของสังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตรวจสอบการ ทำงานของบุคคลและกลุ่มคนที่ทำงานเพื่อส่วนรวม เช่น นักการเมือง ข้าราชการ ให้มีความโปร่งใส ยุติธรรม และเป็ นประโยชน์ ต่อบ้านเมืองมาก ที่สุด นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังมีหน้าที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมให้ความบันเทิงและ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้รับสารในปัจจุบัน นอกจากนี้ สถาบันสื่อสารมวลชนยังทำหน้าที่ให้ความรู้แก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัยในแขนงต่างๆ โดยยปัจจุบันสื่อมวลชนได้ผลิตสื่อออกมาหลายรูปแบบ มากขึ้ น เช่น รูปแบบของสื่ออิเล็กทรอนิ กส์ ที่บรรจุเนื้ อหาสาระของความรู้ทุก แขนงสู่ประชาชนโดยไม่จำกัดเวลา สถานที่ เพศ และวัย เป็ นต้น ทำให้ สังคมปัจจุบันกลายเป็ นสังคมแห่งความรู้