Best-Practice กศน.ตำบลเข็กน้อย

1.ชอ่ื โครงการ ผลติ ภณั ฑผ์ า้ ทอพนื้ เมืองต่อยอดภมู ปิ ัญญาและสรา้ งรายได้ส่ชู ุมชนอย่างยั่งยืน 2. หน่วยงาน/สถานศกึ ษา กศน.ตาบลเข็กน้อย อาเภอเขาค้อ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาค้อ สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวัดเพชรบรู ณ์ 3. คณะทางาน : นายอาทิตย์ มตี า ครู กศน.ตาบล 4. ความสอดคล้อง นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4. การศึกษาเพอ่ื พัฒนาทักษะอาชพี และเพมิ่ ขดี ความสามารถในการแข่งขัน 4.1 พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น แบบโมดูล (Modular System) มีการบูร ณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการอาชีวศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและ ระบบทวิภาคี รวมท้ังการจัดการเรียนรู้แบบต่อเน่ือง (Block Course) เพ่ือสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มขน้ เพ่ือการมีงานทา 4.2 ขับเคล่ือนการผลิตและพัฒนากาลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับสมรรถนะกาลังคน ตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมท้ังขับเคล่ือนความเป็นเลิศทางการอ าชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการผลิตกาลังคนท่ีตอบโจทย์การ พฒั นาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพท่ีสอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับท่ีสูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพในรูปแบบหลากหลายให้ ครอบคลุมผเู้ รยี นทกุ กลุ่มเป้าหมาย รวมทง้ั ผ้สู ูงอายุ โดยมีการบรู ณาการความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้อง 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตามสมรรถนะท่ี จาเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการนาผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าทางาน ศึกษาต่อ ขอรับประกาศนียบัตร มาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตรสมรรถนะภาษาอังกฤษ (English Competency) 4.5 จัดตั้งศูนย์ให้คาปรึกษาการจัดต้ังธุรกิจ (ศูนย์ Start up) ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพและการเป็น ผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผปู้ ระกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการด้าน อาชีพท้ังผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเช่ือมโยงกับ กศน. และสถานประกอบการ ท้ังภาครัฐและ เอกชนทสี่ อดคลอ้ งกับการประกอบอาชีพในวิถีชวี ิตรปู แบบใหม่ 4.6 เพ่ิมบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและกาลังแรงงานในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ท่ี สามารถรองรับการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีสมัยใหมไ่ ด้

4.7 ส่งเสริม และสนับสนุนการผลิตและพัฒนากาลังคนทุกช่วงวัยเพื่อการมีงานทา โดยบูรณาการความ ร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงาน องค์กรท้ังภาครัฐ เอกชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และ สถาบันสงั คมอื่น 4.8 พัฒนาหลักสูตรอาชีพสาหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชนท่ีสอดคล้อง มาตรฐานอาชีพ เพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะและได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมทั้ง สามารถนาผลการเรียนรแู้ ละมวลประสบการณเ์ ทยี บโอนเขา้ สกู่ ารสะสมหน่วยการเรยี นรู้ (Credit Bank) ได้ 5. ความเปน็ มา จากนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ 2566 ข้อ 4 ซ่ึงมุ่งเน้นการจัด การศึกษา เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วง วยั “กศน. เพ่อื ประชาชน”โดยการจัดการเรียนวิชาชีพระยะสั้น (โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนที่ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน บรบิ ทของพน้ื ท่ี จัดการศึกษาเพื่อ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่ม ผู้สูงอายุและการพัฒนาทักษะชีวิตในการเตรียมความพร้อม รับมือกับการ เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Thailand 4.0) มีพ้ืนที่ส่วน ใหญท่ าการเกษตร เช่น การทานา ทาไรแ่ ละปลูกผัก หลังจากการเก็บเก่ียว ผลผลิตทางการเกษตร มีการประกอบ อาชีพเสริม เพ่ิมรายได้ให้กับคนในชุมชน เป็นอีก ตาบลที่ประชาชนใช้เวลาว่างหลังจากการเก็บเก่ียวผลผลิตทาง การเกษตร โดยการรวมกลุ่มกันประกอบอาชีพเสริม ได้แก่การประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากผ้าพ้ืนเมือง ซ่ึงเป็นอาชีพท่ี กาลงั มคี วามต้องการทางตลาดอยา่ งมาก เพราะ สามารถนาไปขายเป็นสินค้าโอท็อปของตาบลได้ ในการประดิษฐ์ ผลิตภณั ฑ์จากผา้ พ้ืนเมอื งเป็นงานฝมี ือต้องอาศัย ความชานาญและมีช้ันเชิงทางฝีมือ มีเทคนิคในการออกแบบและ ความคดิ สร้างสรรค์ มากกวา่ งานฝมี อื อยา่ งอน่ื เพราะตอ้ งใช้เวลาความอดทน และความละเอียดลออ มีกรรมวิธีท่ี ยงุ่ ยากและผู้ทาต้องมปี ระสบการณแ์ ละพรสวรรค์ในการทาซึ่งสรา้ งรายไดใ้ ห้กับชมุ ชนเป็นอย่างดี 6. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้กลุ่มเปา้ หมายสามารถนาความรู้หรือทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในการพัฒนาอาชีพเพื่อ สร้างรายไดส้ ชู่ มุ ชน 2. เพอื่ พฒั นาตอ่ ยอดกลมุ่ อาชพี ให้ก้าวไปสรู่ ะดับวิสาหกิจชมุ ชนอย่างย่ังยนื 7. วธิ ีดาเนนิ การ 1. กาหนดกล่มุ เป้าหมาย จานวน 12 คน 2. การดาเนินการจัดกิจกรรม 2.1 ครู ประชาชน ชุมชน ทาการสารวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซ่ึงทาการประชาคม ระดับหมูบ่ า้ น เพอ่ื สอบถามความตอ้ งการของกล่มุ เป้าหมายในด้านตา่ งๆ 2.2 ครู ประชาชน ชุมชน ประชุมร่วมกันเพ่ือวางแผนการดาเนินงาน ช้ีแจงวัตถุประสงค์ให้ ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมทราบ

2.3 ศึกษาเอกสารข้อมูลเก่ียวกับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพในชุมชน และวางแผนจัดกิจกรรม เรยี นรรู้ ่วมกัน 2.4 จัดส่งเสริมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง ให้ผลิตภัณฑ์มีรูปแบบ และลวดลายทห่ี ลากหลาย เป็นท่ีตอ้ งการของกลุ่มตลาดโดยมุ่งเนน้ ผลิตภณั ฑ์ท่มี คี ุณภาพ 2.5 ให้คณะกรรมการของกลุ่มพัฒนาอาชีพ จัดทาบัญชีรายรับ-รายจ่ายของกลุ่ม โดยครู กศน. ตาบล เป็นผู้แนะนาและใหค้ าปรกึ ษา 2.6 ปลกู จติ สานึกใหส้ มาชกิ น้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารจัดการ กลมุ่ 2.7 สรุปผลการดาเนินกิจกรรม โดยรวบรวมงานท่ีเป็นจุดเด่น และจุดท่ีควรพัฒนา รวมท้ัง ข้อเสนอแนะจากการประเมินผล การนาไปใช้ประโยชน์ และการจัดทารายงานด้านการศึกษาเพี่อพัฒนา อาชพี 2.8 เผยแพร่ผลงานด้านการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนจัดกิจกรรม คร้งั ตอ่ ไป 8. ตัวชี้วัดความสาเร็จ สมาชิกสามารถนาความรู้หรือทกั ษะจากกิจกรรมการเรยี นรู้ไปใช้ในการพัฒนาอาชีพเพือ่ สรา้ งรายได้สู่ ชมุ ชน และสามารถพัฒนาต่อยอดกลุ่มอาชีพใหก้ ้าวไปสู่ระดับวิสาหกิจชุมชนอยา่ งยั่งยนื 9. การประเมนิ ผลและเครอื่ งมอื การประเมินผล ประเมนิ ผลตามสภาพจริง โดยประเมินจากผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอพ้ืนเมือง 10. ผลการดาเนินงาน สมาชกิ สามารถนาความร้หู รือทักษะจากกิจกรรมการเรยี นรู้ไปใช้ในการพฒั นาอาชพี เพ่อื สร้าง รายไดส้ ่ชู มุ ชน และสามารถพัฒนาตอ่ ยอดกลมุ่ อาชพี ให้ก้าวไปส่รู ะดบั วิสาหกจิ ชุมชนอย่างย่งั ยืน 11. บทสรุป/วิธีการ/ข้นั ตอนการทางาน โดยใช้วงจรเดม่งิ (Deming Cycle) PDCA วางแผน (Plan : P) กศน.ตาบลเขก็ นอ้ ย ไดท้ าการสารวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทาการประชาคมระดับ หมู่บ้าน เพ่ือสอบถามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในด้านต่างๆ กศน.ตาบลเข็กน้อย จึงได้วิเคราะห์ ปัญหา จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของกลุ่มต้ังแต่ปีงบประมาณ 2565 ไว้และทาการวิเคราะห์ ผลรว่ มกนั โดยผา่ น Google Meet ดงั น้ี จดุ แข็ง (S) 1. มกี ารรวมกลมุ่ และมีกลุ่มลูกค้าที่ชดั เจน 2. มีเครอื่ งมอื วสั ดุอุปกรณ์ในการแปรรปู ผ้าทอพนื้ เมือง 3. สมาชิกมที ักษะและมคี วามรเู้ ร่อื งผ้าทอ และการสรา้ งผลิตภณั ฑ์ 4. มผี ู้นาเขม้ แข็ง สนบั สนนุ กิจกรรมกลุ่ม

จุดอ่อน (W) 1. ขาดทกั ษะการบริหารจดั การกลุม่ 2. ขาดทักษะการส่งเสรมิ การขาย โอกาส (O) 1. มหี น่วยงานในพ้ืนทใ่ี ห้การสนับสนุน 2. สามารถพฒั นาไดต้ ลอดเวลา อปุ สรรค (T) 1. ยังไมม่ ีการรบั รองจดทะเบียนเปน็ กลุ่มวสิ าหกิจชุมชน 9]kfsinvcs]j’0esojkppy’w,j=yfg0o การปฏิบตั ิ (Do : D) กศน.ตาบลเขก็ น้อย ไดจ้ ดั ทา/พฒั นาหลักสูตร/แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ และดาเนนิ งาน ซ่ึงได้จัดทาโครงการ/แผนการจัดกิจกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่ม โดยมีหลักสูตรรองรับ ดาเนิน กิจกรรม/โครงการตามแผน กศน.ตาบลเขก็ นอ้ ย ไดด้ าเนินงานกิจกรรมปีงบประมาณ 2566 ดังน้ี หลักสูตรการแปรรปู ผา้ ทอพืน้ เมอื ง จานวน 40 ชัว่ โมง มคี วามตอ้ งการในการทบทวน ฟื้นฟู เรียนรู้ ทักษะ การแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง และรวบรวมสมาชิกและเริ่มต้นดาเนินการเรียนใหม่ และวิทยากรสอนความรู้เร่ืองการ แปรรูปผ้าทอพนื้ เมือง นอกจากนี้ได้พัฒนากลุ่มให้เป็นศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน และแหล่งเรียนรู้ในตาบลหลังจากท่ีมีการให้ความรู้ ทักษะปฏิบัติกับกลุ่มฯ อย่างต่อเนื่อง ในหลักสูตรต่างๆข้างต้น กลุ่มพัฒนาอาชีพการแปรรูผ้าทอพื้นเมือง ตาบลเข็กน้อย อาเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถเป็นแบบอย่างที่น่าสนใจ และ กศน.ตาบลเข็กน้อย ไดพ้ ัฒนาปรบั ปรุงใหเ้ ป็นศูนยฝ์ ึกอาชพี ซุมชนตาบลเขก็ น้อย และเป็นแหลง่ เรยี นรู้ของชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับ นักศึกษา กศน.ตาบลเข็กน้อย ในวิชาทักษะการเรียนรู้ และวิซาการพัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง และวิชาการ พัฒนาอาชีพให้มีความม่ันคงเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านกลุ่มอาชีพ ของผู้สนใจในตาบลเข็กน้อย อาเภอหเขาค้อ จังหวดั เพรบูรณ์ การตรวจสอบและประเมินผล (Check : C) การตรวจสอบและประเมินผล และสรุปผลการดาเนินงาน โดย ครูอาสามัคร ฯ และครู กศน. ตาบล นุ่งคลา้ า ไดจ้ ดั กจิ กรรมหลักสูตรต่งๆตามแผนของหมู่บา้ น ตาบลบา้ นโสก อาเภอหลม่ สัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และได้ สรุปผลการดาเนนิ งานร่วมกันกับกลุ่ม และผู้เก่ียวข้อง โดยใช้กระบวนการสามห่วง สองเง่ือนไข ตามแนวทางหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง วิเคราะห์ปญั หาอุปสรรคเพื่อนาไปปรับปรุงต่อไป การนิเทศติดตาม โดยครู/ผู้บริหาร กศน. ร่วมกับผู้นาชุมชน และผู้บริหาร กศน.อาเภอหล่มสัก ได้ร่วม ตดิ ตาม ในทุกกิจกรรม รายงานผู้จบหลักสูตร ของแต่ละหลักสูตร ซ่ึงผลการดาเนินงานคิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้เข้าร่วมอบรม ทั้งหมดผลงาน การนาสินค้าสู่ตลาด การนาเสนอเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษาดูงาน งานแสดงสินค้า ในกิจกรรม ต่างๆของกศน. และของหน่วยงานในท้องถนิ่ การติดตามผู้จบหลักสูตร หลังเรียนร่วมติดตามกับผู้นาชุมชน พบว่ามีการนาความรู้ไปใช้ในการต่อยอด อาชีพ และทาเป็นอาชพี เสรมิ

การพัฒนาปรบั ปรงุ (Action : A) การนาผลการสรุปกิจกรรม/โครงการท่ีได้ดาเนินไปแล้วนั้น มาวิเคราะห์และเป็นข้อเสนอแนะพัฒนา ปรับปรุงในปงี บประมาณตอ่ ไป อย่างตอ่ เนอ่ื ง ยกตัวอย่าง เช่น เม่ือแก้ปัญหาด้านการฟื้นฟูรวบรวมกลุ่มและทักษะ ความรูด้ า้ นเทศโนโลยใี หม่ ๆ มาใช้ในการทาบ้านโสกแล้ว เม่ือวิเคราะห์ผลหลังจัดกิจกรรมได้ทราบปิญหาใหม่ คือ การรวมกลุ่มที่ไม่เข้มแข็ง ขาดการทาบัญชีรายรับ - รายจ่ย จึงได้มีการนาปัญหามาจัดทาหลักสูตร การพัฒนา ศักยภาพกลมุ่ พัฒนาอาชีพการทาบ้านโสกสวู่ สิ าหกจิ ชุมชน เปน็ การใหค้ วามรู้เร่ืองบริหารจัดการกลุ่ม การไปศึกษา ดูงานเพอื่ นามาปรบั ใชใ้ น กระบวนการกลุม่ เปน็ ต้น 12. ผลงานท่ีเป็นทย่ี อมรับ กลุ่มพัฒนาอาชีพแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง ได้รับการยอมรับจากท้ังในชุมชน และเป็นที่รู้จักของต่างชุมชนมี สินค้าทีห่ ลากหลาย และกลุ่มมคี วามพยายามพัฒนาตนเองอย่เู สมอ หลายหนว่ ยงานให้การสนับสนุน เช่น องค์การ บริหารส่วนตาบลเข็กนอ้ ย กศน.อาเภอเขาคอ้ สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอเขาค้อ เป็นต้น หน่วยงานท่ีสนใจ เป็น แหล่งเรียนให้กับนักศึกษา กศน.ตาบลเข็กน้อย สามารถเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนใกล้เคียง เป็นชุมซนที่สร้างช่ือ ให้กับตาบลเขก็ นอ้ ยได้ ในการบริหารจัดการกลุ่มและการดาเนินงานของกลุ่มได้เน้นกระบวนการตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจ พอเพียง นัน่ กค็ อื สามหว่ ง สองเง่อื นไข สามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้ เงื่อนไขความรู้ กลุ่มพฒั นาอาชีพการแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง มีการพัฒนาความรู้ ทักษะต้านต่างๆ ของการประกอบอาชีพ ซ่ึงกลุ่มได้มีการขวนขวายหาความรู้อย่างสม่าเสมอ มีการศึกษาดูงาน การอบรมเรื่องวิสาหกิจชุมชนพัฒนาความรู้ เติม เพ่ิมเติมความรู้ใหม่ อยู่อย่างสม่าเสมอ ดูจากการเรียนหลักสูตรต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพของกลุ่ม โดยมีการ ประสานกับหน่วยงานต่างๆ ในพ้ืนที่ อยา่ งต่อเนอื่ ง เง่อื นไขคณุ ธรรม ในการประกอบอาชพี ของกลุ่มดาเนินด้วยคณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ มีความซ่ือสัตย์ต่อลูกค้า มีความ ขยันอดทน พยายามเรียนรู้และนาความรู้มาใช้อย่างเต็มความสามารถ กลุ่มเป็นการทางานร่วมกันทุกคนสามารถ แสดงความคิดเหน็ และยอมรบั ความคิดเห็นของกันและกัน และใช้ความเพยี รในการคาเนนิ ชวี ิต ต้านพอประมาณ กลุ่มพัฒนาอาชีพการแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง มีกรนาทรัพยากรของตนเองท่ีมีอยู่มาใช้อย่างคุ้มค่า นอกจากน้ันยังมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีลวดลายหลากหลายมากย่ิงขึ้น จึงเป็นการประมาณตนว่ามีทักษะ ความสามารถ ต้นทุน แสะนามาไขอ้ ย่างเกิดประโยชน์ ดา้ นความมเี หตุผล การดาเนินกิจกรรมของกลุ่มอาชีพการแปรรูปผ้าทอพ้ืนเมือง เป็นการดาเนินตามเหตุและผลที่ควรจะเป็น เน่ืองด้วยปัจจัยต่างๆ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ และการปฏิบัติ เช่น ความพร้อมด้านกูมิปัญญาผู้รูความพร้อมด้านผู้นา ผู้สนับสนุน ความพร้อมด้านหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน จึงเป็นเหตุผลท่ีกลุ่มสามารถดาเนินกิจกรรมได้อย่าง ต่อเนื่อง และพัฒนาขึน้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม มีผลการดาเนนิ งานเชงิ ประจักษ์

ดา้ นการมภี มู คิ ุ้มกนั ท่ดี ี กลุ่มพัฒนาอาชีพการแปรรูปผ้าทอพื้นเมือง มีความพร้อมในการรับความเปล่ียนแปลงตออดเวลา เมื่อมี การรวมกลุ่มอีกคร้ังได้มีการนาความรู้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมีความพยายามพัฒนาทักษะของสมาชิก พัฒนา ผลิตภัณฑ์ การทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย และก้าวสู่วิสาหกิจชุมชน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เปน็ การสรา้ งภูมคิ มุ้ กันที่ดีใหก้ ับตนเอง 13. ข้อเสนอแนะ 1) ควรสง่ เสริมให้มีการพฒั นารปู แบบผลิตภัณฑใ์ นการบรรจุสินค้าอยา่ งต่อเนอ่ื งใหส้ ะดดุ ตาเปน็ ทส่ี นใจแก่ กลุ่มตลาด 2) ควรพฒั นากลุ่มสมาชกิ ในเร่อื งการจาหน่ายสินค้าผา่ นสอื่ ออนไลนเ์ พ่ือเพิ่มชอ่ งทางในการจาหน่ายสรา้ ง รายได้ใหช้ มุ ชน

ภาพกิจกรรม

ภาพกิจกรรม

ภาพกิจกรรม