Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนม.2 ออกแบบ

แผนการสอนม.2 ออกแบบ

Published by tubsuknamtip, 2021-03-01 10:27:58

Description: แผนการสอนม.2 ออกแบบ

Search

Read the Text Version

สารบัญ หน้า เนื้อหา 3- 12 12-22 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 ปัญหาของเรามาแก้กนั 23-32 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 ออกแบบกนั ไหม ??? 33-43 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 วางแผน สร้างสรรค์ และนาเสนอ 44-55 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 คาดการณ์กนั ก่อน ภาคผนวก สารบญั

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ปัญหาของเรามาแก้กนั เวลา 4 ช่ัวโมง 1. ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้ 1.1 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้ ระบุปัญหาหรือความตอ้ งการในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา 1.2 สาระการเรียนรู้ 1) ปัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน มีหลายอย่าง ข้ึนกับบริบทหรือ สถานการณ์ท่ีประสบ เช่น ดา้ นพลงั งาน ส่ิงแวดลอ้ ม การเกษตร การอาหาร 2) การระบุปัญหาจาเป็ นตอ้ งมีการวิเคราะห์สถานการณ์ของปัญหาเพ่ือสรุปกรอบของ ปัญหา แลว้ ดาเนินการสืบคน้ รวบรวมขอ้ มูล ความรู้จากศาสตร์ต่างๆ ที่เก่ียวขอ้ ง เพื่อนาไปสู่การ ออกแบบแนวทางการปัญหา

3. จุดประสงค์ให้ผู้เรียนสามารถ 3.1 ทกั ษะการส่ือสาร 3.2 ทกั ษะการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3.3 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 3.4 ทกั ษะการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืน 4. ความรู้เดมิ ที่ผู้เรียนต้องมี เทคโนโลยี เป็นส่ิงที่มนุษยส์ ร้างหรือพฒั นาข้ึน ซ่ึงอาจเป็นไดท้ ้งั ชิ้นงานหรือวธิ ีการ เพอ่ื ใชแ้ กป้ ัญหา สนองความตอ้ งการหรือเพมิ่ ความสามารถในการทางานของมนุษย์ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เป็นกระบวนการแกป้ ัญหาหรือพฒั นางาน ช่วยสร้างแนวทางที่ เหมาะสมในการแกป้ ัญหาหรือสนองความตอ้ งการอย่างเป็ นข้นั ตอน ประกอบดว้ ย ระบุปัญหา รวบรวม ขอ้ มูลและแนวคิดที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขวิธีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงานนาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรือ ชิ้นงาน 5. สาระสาคญั การวเิ คราะห์สถานการณ์ปัญหา ทาใหท้ ราบถึงประเดน็ ปัญหา รวมท้งั เงื่อนไขหรือขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ ง กบั ปัญหา เม่ือนาขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์มาเขยี นสรุปเป็นกรอบของปัญหาจะช่วยใหป้ ัญหาน้นั มีความ ชดั เจนยงิ่ ข้ึน ซ่ึงกรอบของปัญหาน้ีถือเป็นส่ิงสาคญั ที่จะเป็นขอบเขตในการศึกษาแนวทางการแกป้ ัญหา ต่อไป การรวบรวมขอ้ มูลที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา เป็นการมุ่งหาแนวทางหรือวธิ ีการที่จะนามาใชใ้ นการ แกป้ ัญหาอยา่ งเหมาะสม ขอ้ มูลที่สืบคน้ อาจมาจากหลายศาสตร์ และวธิ ีการสืบคน้ ขอ้ มูลหลายวิธี อยา่ งไรก็ ตามควนสืบคน้ จากแหล่งขอ้ มูลที่น่าเช่ือถือ และตอ้ งมีการอา้ งอิงแหล่งท่ีมาของขอ้ มูลน้นั ดว้ ย

6. สื่อและอุปกรณ์ เร่ือง เวลา (นาที) 6.1 ใบกิจกรรม สารวจปัญหาที่เกิดจาก 20 ใบกิจกรรม การเกษตร การวเิ คราะห์สถานการณ์ของ 20 กจิ กรรมท่ี 1.1 ปัญหาที่เกิดข้ึน รู้จริงหรือเปล่า มารวบรวมกนั 30 กจิ กรรมท่ี 1.2 กจิ กรรมท่ี 1.3 7. แนวทางการจดั การเรียนรู้ 7.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ ช่ัวโมงที่ 1 1) ผูส้ อนให้นักเรียนยกตวั อย่างปัญหาท่ีเกิดข้ึนจากการเกษตรในประเทศไทยและบอก ผลกระทบท่ีเกิดข้ึน (10 นาที) แนวคาตอบ ปัญหาที่เกิดข้ึนจากท้งั ดินเสื่อมส่งผลต่อผลผลิตต่อไร่ต่ากว่า เกณฑ์ที่ควรจะเป็ น อีกท้งั ความไม่แน่นอนของดิน ฟ้า อากาศ ภยั พิบตั ิธรรมชาติ การ ระบาดของศตั รูพืชส่งผลใหช้ าวเกษตรขาด ความแน่นอนในอาชีพ 2) ผูส้ อนอธิบายกบั ผูเ้ รียนต่อเกี่ยวกบั เกษตรว่าสามารถทาอยา่ งไรแทนการปลูกตามดิน เพื่อลดปัญหาความแห้งแร้งและผลผลิตปลูกไม่ข้ึน เพื่อให้สามารถแก้ได้ตรงจุด หลงั จากน้ันผูส้ อนสรุปและสอนทาความเขา้ ใจกับสถานการณ์แลว้ นามาวิเคราะห์ ขอ้ มูลโดยอาจใช้การต้งั คาถามหรือวิธีการต่างๆเพ่ือให้ไดก้ รอบของปัญหาท่ีชดั เจน (10นาที) 3) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนจบั กลุ่มช่วยกนั คิดจากสถานการณ์จริงวา่ ปัญหาท่ีเกิดจากการเกษตร ปลูกแลว้ ไม่ไดผ้ ลผลิตบา้ ง แหง้ แร้งบา้ ง ถา้ เป็นผเู้ รียนจะแกป้ ัญหาอยา่ งไรและนาเสนอ หนา้ ช้นั เรียน (40 นาที) แนวคาตอบ หลงั จากพิจารณาสถานการณ์ในปัญหาของการเกษตรแลว้ ผเู้ รียนไดค้ ิดวิธีต่างๆที่จะทาให้ เกิดประโยชน์ไดห้ ลากหลายกันไป เช่น การทานาแบบผสมผสานหรือส่งเสริมการประกอบอาชีพ การเกษตรและนอกภาคเกษตร โดยถ่ายทอดจากองคค์ วามรู้โครงการหลวงเนื่องจากสภาวะแวดลอ้ มของ โลกมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทาให้ความสมบูรณ์ของดิน น้า และอากาศ ท่ีเหมาะกับการ

เพาะปลูกพชื ในแต่ละภูมิภาคลดลง รวมถึงปัจจยั ดา้ นความตอ้ งการอาหารของจานวนประชากรท่ีเพมิ่ ข้นึ นาไปสู่การพฒั นาการเพาะปลูกพืชในระบบปิ ดเพม่ิ ข้ึน ช่ัวโมงท่ี 2 1) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนศึกษาเพิม่ เติมในหนงั สือเกี่ยวกบั เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดลอ้ มและ ศึกษาดูส่ือการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ E-Book เรื่องเทคโนโลยีดา้ นการเกษตร (10 นาที) 2) ผูส้ อนให้นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่ 1.1 สารวจปัญหาที่เกิดจากการเกษตร (15นาที) 3) ผสู้ อนสุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน (10 นาที) 4) ผูส้ อนร่วมอภิปรายและช้ีแนะแนวทางในการคิดแนวทางท่ีเกี่ยวขอ้ งในการแกไ้ ข ปัญหาท่ีเกิดข้ึน (10นาที) แนวคาตอบ ปัญหาเน่ืองจากผลพืชในบา้ นเราแหง้ แร้งปลูกอะไรกต็ ายหมดประเทศไทยเป็นประเทศหน่ึงที่มี จานวนประชาชนมากท่ีประกอบอาชีพเกษตรกรรมและมีสาขามากมาย เช่น สาขาพืช สาขาสัตว์ ซ่ึงมีมา ต้งั แต่บรรพบุรุษและในปัจจุบนั น้ี ไดม้ ีการนาเอาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการทาการเกษตรมากข้ึน เพ่ือเป็นการ อานวยความสะดวกและประกอบกบั สร้างองคป์ ระกอบต่างๆเพอ่ื ใหก้ ารเกษตรน้นั ดีข้ึน 5) ผูส้ อนให้นกั เรียนทากิจกรรมที่ 1.2 การวิเคราะห์สถานการณ์ของปัญหาท่ีเกิดข้ึน (15 นาที) ช่ัวโมงที่ 3 1) ผสู้ อนทบทวนเน้ือหาท่ีสอนคร้ังที่แลว้ และนกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม (10 นาที) 2) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั การรวบรวมขอ้ มูลปัญหาท้งั หมด (15นาที) 3) ผสู้ อนแบ่งกลุม่ ละเท่า ๆ กนั แลว้ แจกกระดาษปรู๊ฟใหน้ กั เรียน (5 นาที) 4) ผูส้ อนให้นกั เรียนร่วมกนั คิดแลว้ ทาใบกิจกรรมท่ี 1.3 รู้จริงหรือเปล่า มารวบรวมกนั เกี่ยวกบั เน้ือหาการใชเ้ ทคโนโลยใี นการทางานดา้ นต่างๆวา่ มีอะไรบา้ งและมีประโยชน์อยา่ งไรโดยการ เขียนลงในกระดาษปรู๊ฟและตกแต่งใหส้ วยงาม (30นาที)

ช่ัวโมงท่ี 4 1) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนจากการทาใบงานคร้ังที่แลว้ ตามกลุ่ม (20นาที) 2) ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั อภิปรายสรุปผลจากการนาเสนอ (10 นาที ) 3) ผูส้ อนให้นกั เรียนศึกษาหัวขอ้ เรื่อง เทคโนโลยีในการจดั การสิ่งแวดลอ้ มแลว้ สรุปลงในสมุด (20นาที) แนวคาตอบ เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดลอ้ ม เป็ นเทคโนโลยีท่ีใชใ้ นการติดตาม ตรวจสอบ ดูแล บาบดั ฟ้ื นฟู สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และลดปัญหามลพิษที่อาจส่งผลกระทบ ต่อสภาพแวดลอ้ มและสุขภาพของ มนุษย์ หลกั การของเทคโนโลยดี า้ นส่ิงแวดลอ้ ม ตอ้ งเป็นเทคโนโลยที ่ีนาไปใชเ้ พื่อใหเ้ กิดการพฒั นาที่ยง่ั ยนื ต่อไปได้ เทคโนโลยดี า้ นสิ่งแวดลอ้ ม 4) ผสู้ อนร่วมกนั อภิปรายกบั นกั เรียนสรุปความรู้ท่ีได้ (10นาที)

8. การวัดและการประเมินผล เคร่ืองมือทีใ่ ช้ เกณฑ์การประเมิน รายการประเมนิ วธิ ีการวดั การผ่าน 1.การวเิ คราะห์ ตรวจใบ ใบกจิ กรรมที่ 1.1 สารวจ คะแนน 7-9 หมายถึง ดี สถานการณ์ปัญหา กิจกรรม ปัญหาที่เกิดจาก คะแนน 4-6 หมายถึง และสรุปกรอบของ การเกษตร พอใช้ ปัญหา คะแนน 1-3 หมายถึง ปรับปรุง 2.การรวบรวมข้อมูล ตรวจใบ ใบกิจกรรมที่ 1.2การ ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั แนว กิจกรรม วิ เ ค ร า ะ ห์ ส ถ า น ก า ร ณ์ พอใชข้ ้ึนไป ถือวา่ ผา่ น ทางการแก้ปัญหา ของปัญหาที่เกิดข้ึน ใบกิจกรรมท่ี 1.3รู้จริง ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 3. ทักษะการสื่อสาร หรือเปล่า มารวบรวมกนั พอใชข้ ้ึนไป ถือวา่ ผา่ น (ดูเกณฑก์ ารประเมินใน 4. ทักษะการคิดอย่าง ภาคผนวก) มวี จิ ารณญาณ สงั เกต แบบสงั เกตพฤติกรรม 5. ทักษะการแก้ปัญหา พฤติกรรม 6.ทักษะการทางาน ร่วมกบั ผู้อ่ืน

เกณฑ์การประเมิน ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน 321 1 . ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ใชค้ าถาม 5W1H ในการ กาหนดประเด็นในการ รวบรวมแนวทางการ สถานการณ์ปัญหาและ วิ เ ค ร า ะ ห์ ปั ญ ห า ไ ด้ รวบรวมข้อมูลได้ 3 แกป้ ัญหา 2 แนวทางข้ึน สรุปกรอบของปัญหา ถูกตอ้ งท้งั 6 คาถามและ ประเด็นข้ึนไป และระบุ ไ ป พ ร้ อ ม กั บ ร ะ บุ สรุ ปกรอบของปัญหา แหล่งข้อมูลที่ต้องการ แหล่งที่มาของข้อมูล ไดส้ อดคลอ้ งกบั การใช้ สืบคน้ แ ล ะ วั น ที่ สื บ ค้ น คาถาม 5W1H ครบถว้ น 2.การรวบรวมข้อมูลท่ี ใชค้ าถาม 5W1H ในการ กาหนดประเด็นในการ รวบรวมแนวทางการ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ แ น ว วิ เ ค ร า ะ ห์ ปั ญ ห า ไ ด้ รวบรวมข้อมูลได้ 2 แกป้ ัญหา 2 แนวทางข้ึน ทางการแกป้ ัญหา ถูกต้องท้ัง 4-5 คาถาม ประเด็นข้ึนไป และระบุ ไปแต่ระบุแหล่งที่มา 2 . 1 ก า ร ก า ห น ด แ ล ะ ส รุ ป ก ร อ บ ข อ ง แหล่งข้อมูลที่ต้องการ ข อ ง ข้อ มู ล แ ล ะ วัน ที่ ป ร ะ เ ด็ น แ ล ะ ร ะ บุ ปัญหาไดส้ อดคลอ้ งกบั สืบคน้ สืบคน้ ไม่ครบถว้ น แหลง่ ที่มา การใชค้ าถาม 5W1H 2.2 การรวบรวมแนว ใชค้ าถาม 5W1H ในการ กาหนดประเด็นในการ รวบรวมแนวทางการ ทางการแก้ปัญหาและ วิ เ ค ร า ะ ห์ ปั ญ ห า ไ ด้ รวบรวมข้อมูลเพียง 1 แ ก้ ปั ญ ห า เ พี ย ง 1 ร ะ บุ แ ห ล่ ง ที่ ม า ข อ ง ถู ก ต้ อ ง น้ อ ย ก ว่ า 4 ป ร ะ เ ด็ น โ ด ย ร ะ บุ แ น ว ท า ง แ ล ะ ร ะ บุ ขอ้ มูล คาถามและสรุปกรอบ แหล่งข้อมูลท่ีต้องการ แหล่งที่มาของข้อมูล ของปัญหาไม่สอดคลอ้ ง สืบคน้ และวนั ท่ีสืบคน้ กบั การใชค้ าถาม 5W1H เกณฑ์การตัดสินระดบั คุณภาพ คะแนน 7-9 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี คะแนน 4-6 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-3 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง **เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลสามารถประบเปล่ียนไดต้ ามความเหมาะสม

9. แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนอิเลก็ ทรอนิกส์ E-Book เร่ืองเทคโนโลยดี า้ นการเกษตร เทคโนโลยใี นการจดั การส่ิงแวดลอ้ ม ใน google 10. กจิ กรรม ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 สารวจปัญหาที่เกดิ จากการเกษตร กาหนดให้ : นกั เรียนสารวจปัญหาที่เกิดจากการเกษตรแลว้ เขียนลงในช่องวา่ งที่กาหนดให้ ปัญหาท่เี กดิ ขึน้ จากการเกษตรคือ ปัญหาเนื่องจากผลพชื ในบา้ นเราแหง้ แร้งปลูกอะไรกต็ ายหมดประเทศไทย เป็นประเทศหน่ึงที่มีจานวนประชาชนมากท่ีประกอบอาชีพเกษตรกรรมและมีสาขามากมาย เช่น สาขาพืช สาขาสตั ว์ ซ่ึงมีมาต้งั แต่บรรพบุรุษและในปัจจุบนั น้ี ไดม้ ีการนาเอาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการทาการเกษตรมาก ข้ึน เพือ่ เป็นการอานวยความสะดวกและประกอบกบั สร้างองคป์ ระกอบต่างๆเพือ่ ใหก้ ารเกษตรน้นั ดีข้ึน

กจิ กรรมท่ี 1.2 ตอนท่ี 1 การวิเคราะห์องค์ประกอบของปัญหาด้วย 5W ใหน้ กั เรียนเลือกปัญหาจากสถานการณ์ท่ีสนใจ แลว้ ช่วยกนั วิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของปัญหา ดว้ ย การต้งั คาถาม 5W1H 1. ปัญหาจากสถานการณ์ที่นกั เรียนสนใจ คือ ……ป…ัญห…าก…าร…เกษ…ต…รแ…หง้ …แร…้งข…าดแ…คล…น…น้า…ดิน…ไม…่สม…บูร…ณ…์ ……… 2. ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์องคป์ ระกอบของปัญหาท่ีนกั เรียนสนใจดว้ ยการต้งั คาถาม 5W1H ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… Who Where When _______ _______ _______ _______ _______ _______ _______ _______ _______ ___ ___ ___ Why ปัญหา What _______ _______ _______ _______ปลูกผลผลิตไมข่ ้ึน _______ _______ _______เนื่องจากการขาด _______ ___ แคลนน้าและดินไม่ ___ _ส_มบรู_ณ์ ____ ___ How _______ _______ _______ ___

ใบกจิ กรรมท่ี 1.3รู้จริงหรือเปล่า มารวบรวมกนั คาสง่ั ใหน้ กั เรียน รวบรวมปัญหาท่ีเกิดข้ึนท้งั หมดแลว้ นามาวเิ คราะห์พจิ ารณา ใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ออกแบบกนั ไหม??? เวลา 6 ชั่วโมง 1. ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้ 1.1 ตวั ช้ีวดั ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหาโดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตดั สินใจในการเลือกขอ้ มูลที่จาเป็ น ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ นาเสนอแนวทางแกป้ ัญหาทาใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ วางแผนข้นั ตอนการทางาน และดาเนินการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นข้นั ตอน 1.2 สาระการเรียนรู้ 1) การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูลท่ีจาเป็น โดยคานึงถึงเง่ือนไขและทรัพยากร เช่นงบประมาณ เวลา ขอ้ มูลสารสนเทศ วสั ดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ไดแ้ นวทางการแกป้ ัญหาท่ี เหมาะสม 2) การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทาไดห้ ลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การ เขียนผงั งาน

2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 วิเคราะห์ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูลที่จาเป็น โดยคานึงถึงเงื่อนไขและทรัพยากร เพื่อหา แนวทางแกป้ ัญหา 1.2 ออกแบบชิ้นงานหรือวธิ ีการที่สอดคลอ้ งกบั แนวทางการแกป้ ัญหา 1.3 นาเสนอทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ 3 ทักษะและกระบวนการ (ท่เี ป็ นจุดเน้น ทกั ษะในศตวรรษที่ 21) 3.1 ทกั ษะการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น 3.2 ทกั ษะการสื่อสาร 3.3 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 3.4 การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3.4 ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ 4. ความรู้เดมิ ทน่ี ักเรียนต้องมี การแกป้ ัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมน้นั จะตอ้ งระบุปัญหาให้ชดั เจนจาก สถานการณ์ของปัญหา จากน้นั รวบรวมขอ้ มูลหรือแนวคิดท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การแกป้ ัญหาโดยพิจารณา จากแหล่งขอ้ มูลท่ีน่าเช่ือถือ ขอ้ มูลที่จาเป็นและเงื่อนไขของปัญหา เพื่อนาไปสู่การเลือกและออกแบบ แนวการแก่ปัญหาต่อไป 5. สาระสาคญั การวิเคราะห์แนวทางแกป้ ัญหาโดยพิจารณาเง่ือนไขหรือทรัพยากรทางเทคโนโลยี ร่วมดว้ ย จาทาใหไ้ ดแ้ นวทางการแกป้ ัญหาท่ีเป็นไปไดแ้ ละเหมาะสมท่ีสุดกบั สถานการณ์ของ ปัญหาน้นั การออกแบบก่อนการสร้างชิ้นงานตามความตอ้ งการ การออกแบบน้ีจะทาให้ทราบ รายละเอียดและมีขอ้ มูลในการสร้างหรือดาเนินการแกป้ ัญหา รวมท้งั เป็นการสื่อสารให้ผูอ้ ่ืน เขา้ ใจ

6. ส่ือและอปุ กรณ์ เร่ือง เวลา (นาที) 6.1ใบกจิ กรรม วเิ คราะห์แนวทางแกป้ ัญหา 20 ใบกิจกรรม การเกษตรผลผลิตพืชผลใหไ้ ดผ้ ล ผลิต 20 กจิ กรรมที่ 2.1 ออกแบบชิ้นงานและวิธีการของ 20 ตนเอง กจิ กรรมท่ี 2.2 แบบจาลองมหาสนุกเป็ น รายบุคคล กจิ กรรมท่ี 2.3 7.แนวทางการจดั การเรียนรู้ 7.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ ชั่วโมงที่ 1 1) ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมจากท่ีเรียนมาแลว้ ถามนกั เรียนวา่ ผเู้ รียนคิดวา่ ตอ้ งดาเนินการต่อไป อยา่ งไรแลว้ จากน้นั ร่วมกนั สรุปคาตอบอีกคร้ัง (5นาที) 2) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนศึกษาบทเรียนสื่อหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ E-Book เกี่ยวกบั วเิ คราะหแ์ นวทาง แกป้ ัญหา(10นาที) 3) ผเู้ รียนทากิจกรรมที่ 2.1 วเิ คราะห์แนวทางแกป้ ัญหาการเกษตรผลผลิตพืชผลใหไ้ ดผ้ ลผลิตตลอดท้งั ปี โดยไม่ตอ้ งรอสภาพอากาศโดยวเิ คราะห์แนวทางแกป้ ัญหาของตวั เองท่ีรวบรวมได้ (20 นาที) 4) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั ศึกษาหวั ขอ้ 1.2 การสร้างทางเลือกในการออกแบบแลว้ ร่วมกนั อภิปราย ความสาคญั หรือประโยชน์ของการออกแบบผลิตภณั ฑแ์ ละความคิดสร้างสรรค์ (15นาที) 5) ผสู้ อนใหส้ ุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอเน้ือหาของตนเองแลว้ ใหเ้ พอื่ นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น (10 นาที)

ชั่วโมงท่ี 2 6) ผสู้ อนสรุปความคิดรวบยอดและช้ีประเดน็ ใหเ้ ห็นถึงการออกแบบที่ดีท่ีจะไดว้ ิธีการแกป้ ัญหาท่ีตรง ความตอ้ งคานึงถึงหลกั การออกแบบผลิตภณั ฑแ์ ละทรัพยากรทางเทคโนโลยแี ละช้ีแนะเพ่มิ เติม (10นาที) 7) ผสู้ อนแบ่งกลุม่ และใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั ทากิจกรรมท่ี 2.2 ออกแบบชิ้นงานและวิธีการของตนเอง (20นาที) 8) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนออกมานาเสนอแนวคิดของแต่ละกลุม่ (10นาที) 9) ผเู้ รียนศึกษาหวั ขอ้ 2.4 การสร้างแบบจาลอง รวมถึงการสร้างแบบจาลองอุปกรณ์ในการปลูกพชื ผล ใหไ้ ดผ้ ลผลิตตลอดท้งั ปี (10นาที) 10) ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปบทเรียนกนั (10นาที) ชั่วโมงที่ 3 1) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอความคืบหนา้ ของการออกแบบชิ้นงานของแต่ละกลุม่ (10นาที) 2) ผสู้ อนช้ีแนะแนวทางการแกไ้ ขของปัญหาของแต่ละกลุม่ (20นาที) 3) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนศึกษาเกี่ยวกบั การออกแบบชิ้นงาน (10นาที) 4) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากที่ศึกษามาแลว้ ตกแต่งใหส้ วยงามลงสมุด (20 นาที) ช่ัวโมงที่ 4 1) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทาใบงานที่ 2.3 แบบจาลองมหาสนุกเป็นรายบุคคล (20 นาที) 2) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนออกมานาเสนอเป็นรายบุคคลหนา้ ช้นั เรียน ( 30 นาที) 3) ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปอภิปรายผลการเรียนรู้ (10นาที)

ชั่วโมงที่ 5 1) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนศึกษาเพม่ิ เติม เก่ียวกบั การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา (20นาที) 2) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนเขา้ กลุ่มตามที่จบั ไวแ้ ลว้ ร่วมกนั สรุปทาความเขา้ ใจหนา้ ช้นั เรียนเป็นรายกลุม่ (15 นาที) 3) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนทางานกลุม่ โดยการออกแบบปัญหาท่ีเราตอ้ งการแก้ ลงในกระดาษกิจกรรมที่ 2.4 แบบจาลองของเรา (15 นาที) 4) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนนามาใหค้ รูช่วยวเิ คราะห์และหาแนวทางแกป้ ัญหาท่ีผดิ พลาด (10 นาที) ช่ัวโมงท่ี 6 1) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั ลงมือออกแบบสร้างแบบจาลองสิ่งท่ีนกั เรียนไดอ้ อกแบบจาลองลงในใบ กิจกรรมที่ 2.4 (40นาที) 2) จากน้นั ผเู้ รียนร่วมกนั นาเสนอและอภิปรายร่วมกบั ผสู้ อน (20 นาที) 8. การวดั และประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการวดั เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมนิ การผ่าน 1.การวเิ คราะห์สถานการณ์ ตรวจใบกิจกรรม ใบงานท่ี 2.1 วิเคราะห์แนวทาง คะแนน 7-9 หมายถึง ดี ปัญหาและสรุปกรอบของ ตรวจใบกิจกรรม แก้ปัญหาการเกษตรผลผลิต คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ ปัญหา สงั เกตพฤติกรรม พชื ผล คะแนน 1-3 หมายถึง ปรับปรุง 2.การรวบรวมข้อมูลที่ ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ เกยี่ วข้องกบั แนวทางการ ใบงานท่ี 2.2ออกแบบชิ้นงาน ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น แก้ปัญหา และวธิ ีการของตนเอง ใบงานที่ 2.3 แบบจาลองมหา 3. ทักษะการสื่อสาร สนุกเป็ นรายบุคคล 4. ทักษะการคดิ อย่างมี วจิ ารณญาณ ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ 5. ทักษะการแก้ปัญหา ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น (ดูเกณฑก์ าร 6.ทกั ษะการทางานร่วมกับ แบบสงั เกตพฤติกรรม ประเมินในภาคผนวก) ผู้อ่ืน

เกณฑ์การประเมนิ ประเดน็ การประเมิน 3 ระดับคะแนน 1 2 1 . ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ เ งื่ อ น ไ ข แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ง่ื อ น ไ ข แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ เ งื่ อ น ไ ข แ ล ะ ตัดสินใจเลือกข้อมูล ท่ี ทรัพยากรได้ถูกต้องและ ทรัพยากรได้ถูกตอ้ งแต่ไม่ ทรัพยากรไมถ่ ูกตอ้ ง จาเป็ นโดยคานึงถึงเง่ือนไข ครอบคลุม ครอบคลุม และทรัพยากรเพื่อหาแนว ทางการแก้ปัญหา 1.1 การวิเคราะห์เง่ือนไข และทรัพยากร 1.2 การตัดสินใจเพื่อเลือก ให้เหตุผลในการตดั สินใจ ให้เหตุผลในการตัดสินใจ ให้เหตุผลในการตัดสินใจ แนวทางการแก้ปัญหา เลือกแนวทางการแกป้ ัญหา เลือกแนวทางการแกป้ ัญหา เลือกแนวทางการแกป้ ัญหา ไดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล ไดไ้ ม่ชดั เจน ไม่ถูกตอ้ ง 2. การออกแบบชิ้นงานหรือ อ อ ก แ บ บ ชิ้ น ง า น ห รื อ อ อ ก แ บ บ ชิ้ น ง า น ห รื อ อ อ ก แ บ บ ชิ้ น ง า น ห รื อ วิธีการท่ีสอดคล้องกับแนว วิธีการท่ีสอดคลอ้ งกบั แนว วิธีการที่สอดคลอ้ งกบั แนว วิธีการที่สอดคลอ้ งกบั แนว ทางการแก้ปัญหาได้อย่าง ทางการ แก้ปั ญ หาได้ 2 ทางการ แก้ปั ญ หาได้ 1 ทางการแก้ปัญหา 2.1การออกแบบชิ้นงาน น้อย 3 แนวทางและให้ แนวทางและให้เหตุผลใน แนวทางและให้เหตุผลใน เหตุผลในการตัดสินใจได้ การตดั สินใจไดถ้ ูกตอ้ ง การตดั สินใจไดถ้ ูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง 2.2 การสร้างแบบจาลองและ แบบจาลองตรงตามแบบ แบบจาลองตรงตามแบบ แบบจาลองตรงตามแบบ ท ด ส อ บ แ น ว ท า ง ก า ร ร่าง/ผงั งานและแสดงการ ร่ าง/ผังงานแต่แสดงการ ร่าง/ผงั งานแต่ไม่สามารถ แก้ปัญหา ทางานหรื อแนวทางการ ทางานหรื อแนวทางการ แสดงการทางานหรือแนว แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ แกป้ ัญหาไดไ้ มส่ มบูรณ์ ทางการแกป้ ัญหาได้ 3. การนาเสนอแนวทาง น า เ ส น อ ร า ย ล ะ เ อี ย ด นาเสนอข้ันตอนการแก้ นาเสนอข้ันตอนการแก้ การแก้ปัญหา ข้ันตอนการแก้ปัญหาได้ ปั ญหาได้ชัดเจน แต่ไม่ ปัญหาไดไ้ ม่ชดั เจนส่ือสาร ชดั เจนส่ือสารให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ ครบถ้วน ขาดรายละเอียด ให้ผูอ้ ื่นเข้าใจได้บางส่วน ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น สมบูรณ์ ไปบางส่วน ขาดรายละเอียดในแต่ละ ข้นั ตอน เกณฑ์การตดั สินระดบั คุณภาพ คะแนน 11 - 15 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี คะแนน 6 - 10 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1 - 5 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง ** เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลสามารถปรับเปลี่ยนไดต้ ามความเหมาะสม

9. ส่ือและแหล่งข้อมูล สื่อหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ E-Book เก่ียวกบั วิเคราะห์แนวทางแกป้ ัญหา 10. กจิ กรรม

กจิ กรรมที่ 2.1 วิเคราะห์แนวทางแกป้ ัญหา วเิ คราะห์ผลกระทบของไม้เท้าสาหรับผู้บกพร่องทางการเห็น ในกิจกรรมทา้ ทายความคิดในบทท่ี 1 และ 2 ชวนคิด นกั เรียนไดท้ ราบเก่ียวกบั ระบบการ ทางานของไมเ้ ทา้ และการเปล่ียนแปลงของ ไมเ้ ทา้ สาหรับผูบ้ กพร่อง นอ้ งโรบอท อยากทราบวา่ ไมเ้ ทา้ สาหรับ ผู้ ทางการเห็น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่พฒั นาข้ึน บกพร่องทางการเห็นที่ออกแบบระบบ การทางาน ย่อมมีผลกระทบ ท้ังด้านบวกและด้านลบ ดังน้ัน ไวใ้ นบทท่ี 1 น้นั จะมีผลกระทบ ทางดา้ นบวกและ นกั เรียนจึงควร วิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยที ่ี ดา้ นลบต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ หรือส่ิงแวดลอ้ ม ศึกษาใหร้ อบคอบเพื่อป้องกนั และลดผลกระทบ ดา้ น หรือไม่ อยา่ งไร พร้อมท้งั วิเคราะห์ผลกระทบที่ ลบท่ีอาจเกิดข้ึน เกิดข้ึนจากการใช้ และการผลิตไมเ้ ทา้ น้นั ผลกระทบต่อ ด้านบวก ด้านลบ มนุษย์และสังคม ____________________________ ____________________________ เศรษฐกจิ ____________________________ ____________________________ ส่ิงแวดล้อม ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________ ____________________________

ใบงานที่ 2.2ออกแบบชิ้นงานและวธิ ีการของตนเอง คาส่ัง ให้นักเรียนออกแบบชิ้นงานเกย่ี วกบั การแก้ไขปัญหาเกย่ี วกบั เรื่องอะไรกไ็ ด้พร้อมบอกวิธีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วิธีการ

ใบงานท่ี 2.3 แบบจาลองมหาสนุกเป็ นรายบุคคล คาส่ัง ใหน้ กั เรียนออกแบบจาลอง เก่ียวกบั เร่ืองที่นกั เรียนสนใจลงในใบงาน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 วางแผน สร้างสรรค์ และนาเสนอ เวลา 6 ช่ัวโมง 1. ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้ 1.1 ตวั ชี้วดั 1) ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลิกขอ้ มูลท่ีจาเป็ น ภายใตเ้ งื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ วางแผนข้นั ตอนการ ทางานและดาเนินการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นข้นั ตอน 2) ใชค้ วามรู้และทกั ษะเก่ียวกบั วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือ แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม ปลอดภยั 3) ทดสอบ ประเมินผล อธิบายปัญหาหรือขอ้ บกพร่องที่เกิดข้ึน ภายใตก้ รอบเงื่อนไข พร้อม ท้งั หาแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข และนาเสนอผลการแกป้ ัญหา 1.2สาระการเรียนรู้ 1) การกาหนดข้นั ตอนระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการแกป้ ัญหาจะช่วยให้การทางาน สาเร็จไดต้ ามเป้าหมายและลดขอ้ ผิดพลาดของการทางานที่อาจเกิดข้ึนการสร้างชิ้นงานอาจใชค้ วามรู้ เร่ืองกลไกไฟฟ้า อิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บซั เซอร์ เฟื อง รอก ลอ้ เพลา 2) อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการสร้างชิ้นงานหรือพฒั นาวิธีการมีหลายประเภท ตอ้ งเลือกใช้ ใหถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมและปลอดภยั รวมท้งั รู้จกั เกบ็ รักษา 3) การทดสอบและประเมินผลเป็ นการตรวจสอบชิ้นงานหรือวิธีการว่าสามารถแกป้ ัญหาได้ ตามวตั ถุประสงค์ภายใตก้ รอบของปัญหา เพ่ือหาขอ้ บกพร่อง และดาเนินการปรับปรุงให้สามารถ แกไ้ ขปัญหาได้ 4) การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพ่ือให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจเก่ียวกบั กระบวนการทางาน และชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ ซ่ึงสามารถทาไดห้ ลายวิธี เช่น การเขียนรายงาน การทาแผ่นนาเสนอ ผลงาน การจดั นิทรรศการ

2. จุดประสงค์ให้ผู้เรียนสามารถ 2.1 วางแผนการทางานก่อนลงมือสร้างชิ้นงาน 2.2 เลือกใชอ้ อุปกรณ์และเครื่องมือเหมาะสมกบั งานและใชอ้ ยา่ งถูกวิธี 2.3 ทดสอบ ปะเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขชิ้นงาน 2.4 นาเสนอผลการทางานดว้ ยรูปแบบท่ีเหมาะสม 3. ทักษะและกระบวนการทีเ่ ป็ นจุดเน้น 3.1 ทกั ษะการส่ือสาร 3.2 ทกั ษะการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3.3 ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ 3.4 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 3.4 ทกั ษะการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น 4. ความรู้เดมิ ท่ีนักเรียนต้องมี การระบุปัญหาเป็ นพ้ืนฐานในการกาหนดวตั ถุประสงค์ในการแกป้ ัญหาให้สอดคลอ้ งกับ สภาพปัญหา โดยใช้ 5W1H เพ่ือเป็นเคร่ืองมือช่วยในการรวบรวมรายละเอียดของปัญหาไดอ้ ยา่ งตรง ประเดน็ การสืบคน้ ขอ้ มูลควรสืบคน้ จากแหล่งขอ้ มูลท่ีน่าเช่ือถือได้ และหลากหลายแหล่ง การวิเคราะห์แนวทางการแกป้ ัญหาโดยพิจารณาเง่ือนไขหรือทรัพยากรทางเทคโนโลยีร่วม ดว้ ย จะทาให้ไดแ้ นวทางการแกป้ ัญหาท่ีเป็ นไปไดแ้ ละเหมาะสมมากที่สุดกบั สถานการณ์ของปัญหา น้นั การออกแบบก่อนการสร้างชิ้นงานหรือดาเนินการแกป้ ัญหาจะทาให้ทราบรายละเอียดและมี ขอ้ มูลในการสร้างหรือดาเนินการแกป้ ัญหา นวมท้งั เป็นการส่ือสารใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ

5. สาระสาคญั การวางแผนการทางานอยา่ งเป็ นข้นั ตอนก่อนลงมือสร้างชิ้นงานช่วยให้การทางานสาเร็จได้ ตามเป้าหมาย ซ่ึงในการสร้างชิ้นงานตอ้ งมีการเลือกใชอ้ ปุ กรณ์เหมาะสมกบั งานและใชอ้ ยา่ งถูกวิธีโดย คานึงถึงความปลอดภยั แลว้ มีการทดสอบ ประเมินผล ปรับปรุงแกไ้ ขชิ้นงาน และนาเสนอผลการ ทางานดว้ ยรูปแบบที่เหมาะสม 6. สื่อและอุปกรณ์ 6.1ใบกจิ กรรม ใบกิจกรรม เรื่อง เวลา (นาที) กจิ กรรมท่ี 3.1 ปลอดภยั ไวก้ ่อน ก่อนลงมือ 30 กจิ กรรมที่ 3.2 ร่วมกนั ลงมือปฏิบตั ิงาน 30 กจิ กรรมที่ 1.3 กาหนดประเดน็ ในการรวบรวม 20 ขอ้ มูล กจิ กรรมที่ 3.4 ทดสอบการทางาน 40 กจิ กรรมท้ายบท การแกป้ ัญหารวบรวมขอ้ มูล 30

7.แนวทางการจัดการเรียนรู้ 7.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ ช่ัวโมงท่ี 1 1) ผสู้ อนสนทนากบั ผเู้ รียนทบทวนการเรียนคร้ังที่แลว้ และร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเรื่องการ ออกแบบและประโยชนข์ องการออกแบบ (10 นาที) 2) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนเขา้ ไปศึกษาในบทเรียน CAI เรื่อง ความปลอดภยั ในการออกแบบก่อนลงมือปฏิบตั ิ (20 นาที) 3) ผเู้ รียนทาใบกิจกรรมท่ี 3.1 ปลอดภยั ไวก้ ่อน ก่อนลงมือ (20 นาที) 4) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั สรุปและอภิปรายบทเรียนที่เรียนคร้ังน้ี (10 นาที) ช่ัวโมงท่ี 2 1) ผสู้ อนทบทวนความรู้จากการเรียนคร้ังท่ีแลว้ และเช่ือมโยงเขา้ สู่บทเรียนในคร้ังน้ี (10 นาที) 2) ผเู้ รียนแต่ละกลุม่ ศึกษาหวั ขอ้ ท่ีตนไดอ้ อกแบบไวใ้ นกิจกรรมท่ี 2.4 และร่วมกนั สรุป (10นาที) 3) ผเู้ รียนทากิจกรรมที่ 3.2 ร่วมกนั ลงมือปฏิบตั ิงาน (20 นาที) 4) ผสู้ อนใชค้ าถามกระตุน้ นกั เรียนคดิ และแสดงความคิดเห็นการการศึกษาเร่ืองการเกษตรและ เทคโนโลยี (10นาที) 5) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั อภิปรายความรู้ที่เรียนในคร้ังน้ี (10 นาที) ช่ัวโมงที่ 3 1) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทากิจกรรมท่ี 3.3 ทดสอบการทางาน โดยขณะที่ผเู้ รียนดาเนินการทา กิจกรรมตามแผนงานของตนเอง ผสู้ อนควรดูแลอยา่ งใกลช้ ิด เพอ่ื คอยใหก้ ารเสนอแนะ และสนบั สนุนใหก้ ิจกรรมใหเ้ ป็นไปตามจุดประสงคแ์ ละเวลาที่กาหนด (40นาที) 2) ผเู้ รียนออกมารายงานความคืบหนา้ หนา้ ช้นั เรียน (20 นาที)

ช่ัวโมงที่ 4 1) ผเู้ รียนศึกษาเกี่ยวกบั การทดสอบการทางานเพ่มิ เติมแลว้ ร่วมกนั สรุปลงในสมุด (20 นาที) 2) ผสู้ อนเสนอแนะและอธิบายสรุปความรู้เกี่ยวกบั การทดสอบการทางานท่ีถูกตอ้ งอยา่ ง ละเอียด (20 นาที ) 3) ผสู้ อนถามกระตุน้ ความรู้กบั ผเู้ รียนเพือ่ ดูความเขา้ ใจในเร่ืองการทดสอบการทางานที่ ถูกตอ้ ง (15นาที) แนวคาตอบ ความพยายามในการใช้งานระบบเพ่ือให้ขอ้ ผิดพลาดที่แอบแฝงอยู่ในระบบน้ันถูกเปิ ดเผย ออกมา ก่อนที่ระบบน้ันจะถูกนาไปใช้งานจริง การตรวจสอบในลกั ษณะน้ีตรงกนั ข้ามกับ “Validation testing” ซ่ึงเป็ นการตรวจสอบท่ีพยายามจะสาธิตว่าระบบสามารถทางานไดต้ ามเกณฑท์ ่ีกาหนดไว้ และจะ บรรลุวตั ถุประสงค์ก็ต่อเมื่อระบบสามารถให้ผลลัพธ์ได้ถูกต้องหลังจากป้อนข้อมูลไป ในขณะที่การ ตรวจสอบข้อบกพร่องจะประสบความสาเร็จ หากทาให้ระบบทางานไม่ถูกต้องและแสดงให้เห็น ขอ้ ผิดพลาดออกมา ซ่ึงเป็นแนวคิดของการตรวจสอบในลกั ษณะน้ีวา่ แสดงให้เห็นว่ามีข้อผิดพลาดอะไรใน ระบบ แต่ไม่ได้แสดงว่าระบบขาดการทางานอะไรไป 4) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั อภิปรายสรุปเน้ือหาที่เรียนในวนั น้ี (5นาที) ชั่วโมงท่ี 5 1) ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนเขียนสรุปรายงานต้งั แต่ตน้ จนจบจากการทากิจกรรมท้งั หมดโดยจดั ทาเป็ นเล่ม รายงานส่งภายในหอ้ ง (40 นาที) 2) ผเู้ รียนนาเสนออาจารยเ์ ป็นรายกลุ่ม (20นาที) ชั่วโมงที่ 6 1) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนดูคลิปวดิ ีทศั เร่ืองการนาเสนอผลงานท่ีถูกตอ้ ง (2 นาที) 2) ผเู้ รียนทากิจกรรมทา้ ยบทเรียนเร่ืองการนาเสนอ การแกป้ ัญหาโดยนาเสนอกิจกรรมท่ีไดล้ งมือทาไป ตามกลุ่มและจดขอ้ บกพร่องแกไ้ ขจากผฟู้ ัง (40นาที) 3) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั อภิปรายสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากคร้ังน้ี (18นาที)

8. การวดั และแการประเมินผล รายการประเมนิ วธิ ีการวดั เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑ์การประเมนิ การผ่าน 1.การวเิ คราะห์สถานการณ์ ใบกิจกรรมที่ 3.1 วางแผนกัน คะแนน 7-9 หมายถึง ดี ปัญหาและสรุปกรอบของ ปัญหา ตรวจใบกิจกรรม ก่อนลงมือ คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ ตรวจใบกิจกรรม 2.การรวบรวมข้อมูลท่ี คะแนน 1-3 หมายถึง ปรับปรุง เกย่ี วข้องกบั แนวทางการ แก้ปัญหา ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ 3. ทักษะการส่ือสาร กิจกรรมท่ี 3.2 ร่วมกันลงมือ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น 4. ทักษะการคดิ อย่างมี ปฏิบตั ิงาน วจิ ารณญาณ กิจกรรมที่ 3.3 ทดสอบการ 5. ทักษะการแก้ปัญหา ทางาน ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น (ดูเกณฑก์ าร ประเมินในภาคผนวก) สงั เกตพฤติกรรม ใบประเมินพฤติกรรม 6.ทกั ษะการทางานร่วมกบั ผู้อื่น 8. การวดั และประเมนิ ผล

เกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1 2 1. การวางแผนการทางาน วางแผนการทางานก่อน วางแผนการทางานก่อน วางแผนการทางานก่อน ก่อนลงมือสร้างชิ้นงาน ล ง มื อ ส ร้ า ง ชิ้ น ง า น ไ ด้ ลงมือสร้างชิ้นงาน ระบุ ลงมือสร้างชิ้นงาน ระบุ สอดคล้องกับปัญหาโดยมี ข้ั น ต อ น ก า ร ท า ง า น ข้ันตอนการทางาน แต่ไม่ รายละเอียดข้ันตอนการ ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละ ร ะ บุ ร ะ ย ะ เ ว ล า ห รื อ ทางานระยะเวลาท่ีใชใ้ นแต่ ข้นั ตอนแลผูร้ ับผิดชอบแต่ ผรู้ ับผดิ ชอบ ล ะ ข้ั น ต อ น แ ล ะ ผู้ รั บ ขาดรายละเอียดส่ วนใด ผดิ ชอบไดค้ รบถว้ น ส่วนหน่ึง 2. การเ ลื อกใช้ อุปกรณ์ เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ได้ เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ได้ เลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ ไม่ เหมาะสมกับงาน และใช้ ถูกต้องเหมาะสมกับงาน ถู ก ต้อ ง กั บ ง า น แ ต่ ไ ม่ ถูกตอ้ งกบั งาน อย่างถูกวธิ ี แ ล ะ ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ใ น ก า ร สามารถให้เหตุผล ใน เลือกใชไ้ ด้ การเลือกใชไ้ ด้ 3. การทดสอบประเมินผลและ ก า ห น ด ป ร ะ เ ด็ น ก า ร ก า ห น ด ป ร ะ เ ด็ น ก า ร ก า ห น ด ป ร ะ เ ด็ น ก า ร ปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน ท ด ส อ บ บัน ทึ ก ผ ล ก า ร ท ด ส อ บ บัน ทึ ก ผ ล ก า ร ท ด ส อ บ บัน ทึ ก ผ ล ก าร ทดสอบ พร้อมแนวทางการ ทดสอบ พร้อมแนวทางการ ทดสอบ แต่ไม่สามารถบอก ปรับปรุงแกไ้ ขไดค้ รบถว้ น ปรับปรุงแกไ้ ขไดบ้ างส่วน แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข ทุกข้นั ตอน 4. การนาเสนอผลการ นาเสนอผลงานการ นาเสนอผลงานการ นา เสนอผลงานการ ท า ง า น ด้ ว ย รู ป แ บ บ ที่ ออกแบบแนวทางแกป้ ัญหา ออกแบบแนวทางแกป้ ัญหา ออกแบบแนวทางแกป้ ัญหา เหมาะสม ข อ ง ก ลุ่ ม ต น เ อ ง ต า ม ข อ ง ก ลุ่ ม ต น เ อ ง ต า ม ของกลุ่มตนเองได้แต่ขาด กระบวนการทางานไดอ้ ยา่ ง ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ต่ ข า ด รายละเอียด ผูฟ้ ังไม่เข้าใจ ค ร บ ถ้ว น ชั ด เ จ น ผู้ฟั ง รายละเอียดบางส่วน ผูฟ้ ัง สิ่งท่ีนาเสนอในบางเน้ือหา สามารถเข้าใจได้อ ย่าง ส า ม า ร ถ เ ข้า ใ จ ไ ด้เ ป็ น ถูกตอ้ ง ส่วนมาก เกณฑ์การตัดสินระดบั คุณภาพ คะแนน 9-12 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี คะแนน 5-8 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-4 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง ** เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลสามารถปรับเปลี่ยนไดต้ ามความเหมาะสม

9. แหล่งเรียนรู้ บทเรียน CAI เร่ือง ความปลอดภยั ในการออกแบบก่อนลงมือปฏิบตั ิ ดูคลิปวิดีทศั เร่ืองการนาเสนอผลงานท่ีถูกตอ้ ง 10. กจิ กรรม ใบกจิ กรรมที่ 3.1 วางแผนกนั ก่อนลงมือ การวางแผนและแนวทางพฒั นางาน จากปัญหาท่ีนกั เรียนสนใจและไดก้ าหนดไว้ ใหน้ กั เรียนวางแผนการดาเนินงานในการแกป้ ัญหา โดยกาหนดกิจกรรมและระยะเวลาในการปฏิบตั ิงานแต่ละกิจกรรมวา่ ควรเริ่มเม่ือใด เสร็จสิ้นเม่ือใด ต้งั แต่ เริ่มตน้ จนสิ้นสุดกระบวนการสร้างชิ้นงานหรือวิธีการแกไ้ ขปัญหา กจิ กรรม ระยะเวลา (............................) 1 23456

กจิ กรรมที่ 3.2 ร่วมกนั ลงมือปฏบิ ตั ิงาน ตอนท่ี 1 การกาหนดประเดน็ ในการทดสอบและประเมนิ ผล ใหน้ กั เรียนกาหนดประเดน็ ในการทดสอบและประเมินชิ้นงานหรือวธิ ีการในการแกไ้ ขปัญหา โดย ใหม้ ีความสอดคลอ้ งตามจุดประสงคใ์ นการแกป้ ัญหาที่นกั เรียนไดร้ ะบุขอบเขตไว้ เกณฑ์ค่า ระดบั คุณภาพของชิ้นงานหรือวธิ ีการในการแก้ปัญหา รายการ คะแนน ประเมนิ ทดสอบ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด (5) (4) (3) (2) (1)

กจิ กรรมที่ 3.3 ทดสอบการทางาน วเิ คราะห์ชิ้นงานหรือวธิ ีการแก้ปัญหา ตามกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามความสนใจ เพื่อสืบคน้ นวตั กรรมหรือเทคโนโลยีท่ีใชใ้ นการแกป้ ัญหา ดา้ น สุขภาพจากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเตอร์เน็ตหรือวารสารต่าง ๆ ร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ แลว้ เลือกมา 1 อย่าง เพ่ือวิเคราะห์แนวทางในการแกป้ ัญหาหรือพฒั นาเทคโนโลยีน้ันตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม และนาเสนอหนา้ ช้นั โดยเทคโนโลยที ี่เลือกอาจเป็นวิธีการ หรือชิ้นงาน เช่น อปุ กรณ์ ช่วยเหลือผูบ้ กพร่องทางการเห็น วิธีการช่วยเหลือผูป้ ่ วยขอ้ ติดแข็ง เครื่องตรวจวดั ความดนั โลหิต อุปกรณ์ ช่วยหดั เดิน ไมเ้ ทา้ ค้ายนั เป็นตน้ เทคโนโลยที เี่ ลือก คือ ………………………………………………………………………………………………………………………. ระบุปัญหา คือ ....................................................................................................................................................................... รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………...…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………...…… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………... วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ กี ารแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… นาเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน …………………………………………………………………………………………………………………………...………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 คาดการณ์กนั ก่อน เวลา 4 ช่ัวโมง 2. ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้ 1.1 ตวั ชี้วดั 1)วิเคราะห์ เปรียบเทียบ ตดั สินใจเลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อชีวิต สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม 2)คาดการณ์แนวโนม้ เทคโนโลยีที่จะเกิดข้ึนโดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจยั ที่ส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 1.2 สาระการเรียนรู้ 1)สาเหตุหรือปัจจยั ต่างๆ เช่น ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ทาใหเ้ ทคโนโลยมี ีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 2)เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดลอ้ มที่แตกต่างกนั จึงตอ้ ง วเิ คราะห์เปรียบเทียบขอ้ ดี ขอ้ เสีย และตดั สินใจจเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม

2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 เลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อชีวิต สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม 2.2 คาดการณ์แนวโนม้ เทคโนโลยใี นอนาคต 3. ทักษะและกระบวนการทเ่ี ป็ นจุดเน้น 3.1 ทกั ษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ 3.2 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 3.3 ทกั ษะการสื่อสาร 3.4 ทกั ษะการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืน 4. ความรู้เดมิ ท่ีผู้เรียนต้องมี เทคโนโลยี เป็ นส่ิงท่ีมนุษยส์ ร้างหรือพฒั นาข้ึน อาจเป็ นได้ท้งั ชิ้นงานหรือวิธีการ เพื่อใช้ แกป้ ัญหา สนองความตอ้ งการหรือเพิ่มความสามารถในการทางานของมนุษยส์ ่งผลให้เทคโนโลยีมี การเปล่ียนแปลงตลอดเวลาต้งั แต่อดีตจนปัจจุบนั ซ่ึงการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีน้ันอาจเป็ นการ พฒั นา ปรับปรุงกระบวนการผลิตหรือกลไกการทางาน ปรับเปลี่ยนวสั ดุอุปกรณ์ เพื่อใหเ้ ทคโนโลยมี ี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงข้ึน 5.สาระสาคญั การเลือกใชเ้ ทคโนโลยี รวมท้งั การคาดการณ์แนวโนม้ ของเทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต ตอ้ งคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และตอ้ งเป็ นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม การเลือกใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อ สนองความตอ้ งการของมนุษยอ์ ยา่ งหมาะสม จะช่วยในการวางแผนการทางานและเป็นขอ้ มูลในการ เลือกใชท้ รัพยากรท่ีมีอยอู่ ยา่ งจากดั ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด รวมท้งั เป็นการพฒั นาขีดความสามารถของ มนุษยใ์ นการสร้างเทคโนโลยแี ห่งอนาคตไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์

6.1ใบกจิ กรรม เร่ือง เวลา (นาที) ใบกิจกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยี 20 การเลือกใชเ้ ทคโนโลยโี ดย 30 กจิ กรรมท่ี 4.1 ร่วมกนั วิเคราะห์สถานการณ์ กจิ กรรมที่ 4.2 เทคโนโลยที ่ีหนูอยากได้ 15 กจิ กรรมที่ 4.3 7.แนวทางการจดั การเรียนรู้ 7.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ ชั่วโมงท่ี 1 1) ผสู้ อนยกตวั อยา่ งและอธิบายการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยจี ากการบาบดั น้าเสีย (10นาที) 2) ผสู้ อนใหน้ กั เรียนทากิจกรรมท่ี 4.1 เลือกใชเ้ ทคโนโลยี (20นาที) 3) แบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม โดยคละความสามารถและเพศใหจ้ บั สลากหวั ขอ้ ที่จะศึกษาใน หวั ขอ้ 4.1 การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยแี ละการเลือกใชเ้ ทคโนโลยี ในหนงั สือ 3 เรื่อง คือ กล่มุ ท่ี 1 การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยกี ารบาบัดนา้ เสีย กล่มุ ท่ี 2 การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยกี ารจากดั ขยะมูลฝอย กล่มุ ท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยกี ารควบคุมมลพษิ ทางอากาศ จากน้นั อภิปรายผลการศึกษาการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยแี ละการเลือกใชเ้ ทคโนโลยี (30นาที) ชั่วโมงท่ี 2 1) ผเู้ รียนดูคลิปวิดีทศั นเ์ ร่ือง การคาดการณ์เทคโนโลยี (10 นาที) 2) ผเู้ รียนออกมาสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากคลิปที่ดู (20นาที) 3) แต่ละกลุ่มทากิจกรรม 4.2 เรื่องการเลือกใชเ้ ทคโนโลยโี ดยร่วมกนั วิเคราะห์สถานการณ์และ อภิปรายถึงปัญหาโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ มและนาเสนอ (30นาที)

ชั่วโมงท่ี 3 1) ผสู้ อนกระตุน้ นกั เรียนโดยการถามคาถามชวนคิดกบั นกั เรียนเกี่ยวกบั การคาดการณ์เทคโนโลยี (10นาที) 4) ผสู้ อนแจกกระดาษบรู๊ฟ ปากกาเมจิ กบั นกั เรียน โดยใหน้ กั เรียนนงั่ เป็นกลุม่ แลว้ ร่วมกนั คิดเกี่ยวกบ การคาดการณ์เทคโนโลยใี นอนาคตพร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม (30นาที) 5) ผเู้ รียนนาเสนอตามกลุม่ (10นาที) 6) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั สรุปผลการประเมินของแต่ละกลุม่ (10นาที) ช่ัวโมงท่ี 4 1) ผสู้ อนอธิบายเก่ียวกบั เทคโนโลยใี นปัจจุบนั ที่เกิดข้ึน (10นาที) 2) ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทากิจกรรมที่ 4.3 เทคโนโลยที ่ีหนูอยากได้ โดยทาเป็นรายบุคคล (15นาที) 3) ผสู้ อนสุ่มผเู้ รียนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน และใหผ้ ฟู้ ังใหค้ ะแนนรายบุคคคล (30 นาที) 4) ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั สรุปและอภิปรายความรู้ที่ได้ (5นาที)

8. การวดั และแการประเมนิ ผล รายการประเมนิ วธิ ีการวดั เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์การประเมินการผ่าน 1.การวเิ คราะห์สถานการณ์ กิ จ ก ร ร ม ที่ 4 . 1 เ ลื อ ก ใ ช้ คะแนน 7-9 หมายถึง ดี ปัญหาและสรุปกรอบของ ปัญหา ตรวจใบกิจกรรม เทคโนโลยี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ ตรวจใบกิจกรรม 2.การรวบรวมข้อมูลที่ กิจกรรม 4.2 เรื่องการเลือกใช้ คะแนน 1-3 หมายถึง ปรับปรุง เกย่ี วข้องกบั แนวทางการ แก้ปัญหา เทคโนโลยโี ดยร่วมกนั วเิ คราะห์ ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ สถานการณ์ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น กิจกรรมที่ 4.3 เทคโนโลยีท่ีหนู อยากได้ 3. ทักษะการสื่อสาร สงั เกตพฤติกรรม ผเู้ รียนไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น (ดูเกณฑก์ าร 4. ทักษะการคิดอย่างมี ประเมินในภาคผนวก) วจิ ารณญาณ แบบประเมินพฤติกรรม 5. ทักษะการแก้ปัญหา 6.ทกั ษะการทางานร่วมกับ ผู้อื่น 8. การวดั และประเมินผล

เกณฑ์การประเมิน ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1. การเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคานึงถึงผลกระทบท่ี เกิดขึ้นต่ อชีวิต สั งคม และสิ่งแวดล้อม 1.1 การระบุเทคโนโลยี ระบุเทคโนโลยีที่ใช้ใน ระบุเทคโนโลยีท่ีใช้ใน ระบุเทคโนโลยีท่ีใช้ใน ทีใ่ ช้ในการแก้ปัญหา ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ไ ด้ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ไ ด้ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ไ ด้ สอดคล้องกับปั ญหา สอดคล้องกับปั ญหา สอดคล้องกับปั ญหา อยา่ งนอ้ ย3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 เทคโนโลยี 1 . 2 ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ร ะ บุ ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ร ะ บุ ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ร ะ บุ ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ผลกระทบของเทคโนโลยี เทคโนโลยีได้ครบท้ัง เทคโนโลยไี ด้ 2 ดา้ น เทคโนโลยไี ด้ 1 ดา้ น ต่ อ ชี วิ ต สั ง ค ม แ ล ะ 3 ดา้ น สิ่งแวดล้อม 1.3 การเลือกใช้เทคโนโลยี ระบุเทคโนโลยีที่เลือกใช้ ระบุเทคโนโลยที ่ีเลือกใช้ ระบุเทคโนโลยีที่เลือกใช้ และการอธิบายเหตุผล และอธิบายเหตุผลในการ และอธิบายเหตุผลในการ แต่ไม่สามารถอธิ บาย เลือกใช้เทคโนโลยีได้ เลือกใชเ้ ทคโนโลยไี ดแ้ ต่ เหตุผลในการเลือกใชไ้ ด้ สมเหตุสมผลสอดคล้อง ไม่สอดคล้องกับปัญหา กบั ปัญหาและผลกระทบ และผลกระทบที่อาจ ที่อาจเกิดข้ึน เกิดข้ึน 2. การคาดการณ์แนวโน้ม เทคโนโลยใี นอนาคต 2.1 ด้านความก้าวหน้า วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลง ที่เกิดข้ึน และคาดการณ์ ที่เกิดข้ึนและคาดการณ์ ท่ีเกิดข้ึนได้ แต่ไม่ใช้ ของศาสตร์ต่าง ๆ เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร ข้อมูลประกอบในการ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ด้ า น เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ด้ า น คาดการณ์เทคโนโลยีจาก ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงด้าน ต่าง ๆโดยใชแ้ หล่งขอ้ มูล ต่าง ๆโดยใชแ้ หล่งขอ้ มูล ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ ท่ีน่าเชื่อถือ ที่ไม่น่าเช่ือถือ ต่าง ๆ

ประเดน็ การประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1 2 2.2 ด้ านมนุ ษย์ และ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง วเิ คราะหก์ ารเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง สังคม ที่เกิดข้ึนและคาดการณ์ ที่เกิดข้ึนและคาดการณ์ ที่เกิดข้ึนได้ แต่ไม่ใช้ เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร ขอ้ มูลประกอบในการคาด เปลี่ยนแปลงด้านมนุษย์ เปลี่ยนแปลงด้านมนุษย์ การณ์เทคโนโลยี จากการ แ ล ะ สั ง ค ม โ ด ย ใ ช้ แ ล ะ สั ง ค ม โ ด ย ใ ช้ เปลี่ยนแปลงด้านมนุษย์ แหลง่ ขอ้ มูลท่ีน่าเชื่อถือ แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ท่ี ไ ม่ และสงั คม น่าเช่ือถือ 2.3 ด้านเศรษฐกจิ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง ที่เกิดข้ึนและคาดการณ์ ท่ีเกิดข้ึนและคาดการณ์ ท่ีเกิดข้ึนได้ แต่ไม่ใช้ เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร เ ท ค โ น โ ล ยี จ า ก ก า ร ข้อมูลประกอบในการ 2.4 ด้านส่ิงแวดล้อม เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ด้ า น เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ด้ า น คาดการณ์เทคโนโลยี จาก เ ศ ร ษ ฐ กิ จ โ ด ย ใ ช้ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ โ ด ย ใ ช้ การเปลี่ยนแปลงด้าน แหลง่ ขอ้ มูลที่น่าเช่ือถือ แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ท่ี ไ ม่ เศรษฐกิจ น่าเช่ือถือ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์การเปล่ียนแปลง ที่เกิดข้ึนและคาดการณ์ ท่ีเกิดข้ึนและคาดการณ์ ที่เกิดข้ึนได้ แต่ไม่ใช้ เทคโนโลยี จากการ เทคโนโลยี จากการ ข้อมูลประกอบในการ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ด้ า น เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ด้ า น คาดการณ์เทคโนโลยีจาก สิ่ งแวดล้อม โดยใช้ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม โ ด ย ใ ช้ การเปล่ียนแปลงด้าน แหลง่ ขอ้ มูลท่ีน่าเชื่อถือ แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ที่ ไ ม่ ส่ิงแวดลอ้ ม น่าเชื่อถือ เกณฑ์การตดั สินระดบั คุณภาพ คะแนน 15 – 21 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี คะแนน 8 - 14 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1 - 7 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง ** เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลสามารถปรับเปลี่ยนไดต้ ามความเหมาะสม

9. แหล่งงเรียนรู้ วดิ ีทศั นเ์ รื่อง การคาดการณ์เทคโนโลยี 10. กจิ กกรม

กจิ กรรมท่ี 4.1 เลือกใช้เทคโนโลยี เลือกใช้กลไก อกุ กรณ์ไฟฟ้า และอเิ ลก็ ทรอนิกส์เพ่ือสร้างไม้เท้า กิจกรรมทา้ ทายความคิดเรื่องไมเ้ ทา้ สาหรับผูบ้ กพร่องทางการเห็นในบทที่ 1 ถึง 4 นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ เกี่ยวกับการพฒั นาระบบการทางาน การเปลี่ยนแปลงผลกระทบที่อาจเกิดข้ึน รวมท้งั การเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือสาหรับการสร้างแลว้ อยา่ งไรก็ตาม นอ้ งโรบอทจาเป็นตอ้ งเลือกระบบเซ็นเซอร์ท่ีใช้ เป็ นอุปกรณ์สาคญั สาหรับการออกแบบและสร้างไมเ้ ทา้ เพื่อให้สามารถใช้งานระบบตรวจจบั ส่ิงกีดขวาง ล่วงหนา้ ระบบสนั่ สะเทือนที่มือจบั และระบบเตือนดว้ ยเสียงร่วมกนั นกั เรียนจะมีวิธีการอยา่ งไรในการพฒั นาไมเ้ ทา้ ใหม้ ีระบบตรวจจบั สิ่งกีดขวางลว่ งหนา้ ระบบ สน่ั สะเทือนที่มือจบั และการเตือนดว้ ยเสียง โดยใชก้ ลไกไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนิกส์โดยนาเสนอแนว ทางการเลือกใชก้ ลไก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์เพอ่ื การสร้างไมเ้ ทา้ ใชง้ านไดต้ ามตอ้ งการ อุปกรณ์ไฟฟ้า/อเิ ลก็ ทรอนิกส์ท่ีใช้ หน้าทกี่ ารทางาน

ใบกจิ กรรม 4.2 เร่ืองการเลือกใชเ้ ทคโนโลยโี ดยร่วมกนั วเิ คราะห์สถานการณ์ วเิ คราะห์อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ในส่ิงของเครื่องใช้ ใหน้ กั เรียนเลือกเครื่องใชไ้ ฟฟ้ามา 1 ประเภท เพ่ือศึกษาส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าท่ีเลือกในประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี • อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีใชใ้ นเครื่องไฟฟ้าน้นั มีอะไรบา้ ง • การทางานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ในเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าน้นั มีการทางานสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร • อกุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์เกิดทางานผดิ พลาดจะส่งผลต่อการทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า อยา่ งไร เครื่องใช้ไฟฟ้าทเ่ี ลือก คือ.................................................................................................................................. อกุ กรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ทีใ่ ช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ความสัมพนั ธ์ของการทางานอุปกรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ตัวอย่างการทางานผดิ พลาดของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................

กจิ กรรมท่ี 4.3 เทคโนโลยที ี่หนูอยากได้ ออกแบบเทคโนโลยที มี่ ีองค์ประกอบของกลไกอุปกรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือออกแบบชิ้นงานสาหรับแกป้ ัญหาท่ีสนใจ โดยชิ้นงานน้ัน จะตอ้ งมีส่วนประกอบของระบบกลไก อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุกกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ แลว้ นาเสนอในช้นั เรียน ในประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี • เทคโนโลยที ี่ออกแบบมีหนา้ ที่หรือวตั ถุประสงคเ์ พื่อใชท้ าอะไร • ชิ้นส่วนกลไก อปุ กรณ์ไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนิกส์ที่ใชม้ ีอะไรบา้ ง แต่ละอยา่ งมีหนา้ ท่ีอะไร หน้าทขี่ องเทคโนโลยที อ่ี อกแบบ คือ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ร่างแบบชิ้นงาน พร้อมระบุส่วนประกอบของกลไก อุปกรณ์ไฟฟ้า และอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ ชิ้นส่วนกลไก อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ท่ใี ช้และหน้าท่ี .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................

ภาคผนวก

แบบประเมนิ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1. การระบุปัญหา ระบุปัญหาและเงื่อนไข ระบุปัญหาและเงื่อนไข ระบุปัญหาและเงื่อนไข ไม่สามารถระบุปัญหา ของการแก้ปัญหาได้ ของการแก้ปัญหาได้ ของการแก้ปัญหาได้ และเงื่อนไขของการ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ แกป้ ัญหา สถานการณ์ที่กาหนด สถานการณ์ที่กาหนด สถานการณ์ท่ีกาหนด ไดค้ รบถว้ นสมบูรณ์ บางส่วน 2 . ก า ร ร ว บ ร ว ม ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ท่ี ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ที่ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ท่ี ไม่สามารถรวบรวม ข้อมูลและแนวคดิ ที่ สอดคล้องกับแนว สอดคล้องกับแนว สอดคล้องกับแนว ขอ้ มูลที่สอดคลอ้ งกบั เกย่ี วข้องกบั ปัญหา ทางการแก้ปัญหาได้ ทางการแก้ปัญหาได้ ทางการแก้ปัญหาได้ แนวทางการแกป้ ัญหา อ ย่ า ง ค ร บ ถ้ ว น อย่างครบถ้วนแต่ บางส่วน สมบูรณ์ ไม่สมบูรณ์ 3. การออกแบบ ออกแบบชิ้นงานหรือ ออกแบบชิ้นงานหรือ ออกแบบชิ้นงานหรือ ไม่สามารถออกแบบ วธิ ีการแก้ปัญหา วิธีการได้สอดคล้อง วิธีการได้สอดคล้อง วิธีการได้สอดคล้อง ชิ้นงานหรือวิธีการได้ กั บ แ น ว ท า ง ก า ร กั บ แ น ว ท า ง ก า ร กั บ แ น ว ท า ง ก า ร สอดคล้องกับแนว แกป้ ัญหาและเงื่อนไข แกป้ ัญหาและเง่ือนไข แกป้ ัญหาและเงื่อนไข ทางการแกป้ ัญหาและ ท่ีกาหนดโดยแสดง ที่กาหนด โดยแสดง ที่กาหนดบางส่วนและ เง่ือนไขท่ีกาหนดและ รายละเอียดครบถว้ น รายละเอียดได้ และ สามารถส่ื อสารให้ ไม่สามารถสื่อสารให้ สมบูรณ์และสามารถ ส่ือสารให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจ ผอู้ ื่นเขา้ ใจตรงกนั ผอู้ ื่นเขา้ ใจตรงกนั ส่ือสารให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจ ตรงกนั ตรงกนั 4. การวางแผนและ มีการวางแผนในการ มีการวางแผนในการ มีการวางแผนในการ ดาเนินการแก้ปัญหา ดาเนินการแก้ปัญหา ทางานและดาเนินการ ทางานและดาเนินการ ท า ง า น แ ต่ ไ ม่ ไ ด้ โดยไม่มีการวางแผน แกป้ ัญหาตามข้นั ตอน แกป้ ัญหาตามข้นั ตอน ดาเนินการแก้ปัญหา ในการทางาน การทางานได้อย่าง การทางานได้ ตามข้ันตอนที่วางแผน ถูกตอ้ งและเหมาะสม ไว้

ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 5 . ก า ร ท ด ส อ บ กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเด็นในการ ไม่กาหนดประเด็นใน ประเมินผล และ ทดสอบได้สอดคล้อง ทดสอบได้สอดคล้อง ทดสอบได้สอดคล้อง ก ารทด สอบ แ ละ ป รั บ ป รุ ง แ ก้ ไ ข กั บสถานการณ์ ท่ี กั บสถานกา รณ์ ท่ี กั บสถานการณ์ ที่ บนั ทึกผลการทดสอบ วิธี การแก้ ปั ญหา กาหนดและบนั ทึกผล กาหนด และบนั ทึกผล กาหนด บันทึกผลการ ไม่ชดั เจน ไม่ครบถว้ น การทดสอบได้อย่าง การทดสอบไดโ้ ดยขาด ทดสอบแต่ไม่ครบถว้ น ไม่ มี การปรั บปรุ ง หรือชิ้นงาน ละเอียดครบถว้ นมีการ รายละเอียดบางส่ วน ขาดรายละเอียด มีการ แก้ไขชิ้ นงานหรื อ ปรับปรุงหรือเสนอแนว มีการปรับปรุ งหรื อ ปรับปรุงหรือเสนอแนว วิ ธี ก า ร เ ม่ื อ พ บ ทางแก้ไขท่ีสอดคล้อง เสนอแนวทางแก้ไข ทางการแก้ไขท่ี ไม่ ขอ้ บกพร่อง กับปัญหาหากชิ้นงาน ที่สอดคลอ้ งกับปัญหา ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ห รื อ วิ ธี ก า ร มี หากชิ้นงานหรือวิธีการ ขอ้ บกพร่องของชิ้นงาน ขอ้ บกพร่อง มีขอ้ บกพร่อง หรือวิธีการ 6. การน า เสนอ นา เสนอรายละเอียด นา เสนอรายละเอียด นา เสนอข้นั ตอนการ ไม่สามารถนาเสนอ วิธีการแก้ปัญหา ผล ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา แก้ ปั ญหาได้แต่ มี ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา การแก้ปัญหาหรือ ได้ชัดเจน ส่ือสารให้ ได้ชัดเจน สื่อสารให้ รายละเอียดไม่ชดั เจน ชิ้นงาน ผู้อ่ืนเข้าใจได้อย่าง ผอู้ ื่นเขา้ ใจได้ ครบถว้ น สมบูรณ์

กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ 1. ความคดิ ริเร่ิม 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 2. ความคดิ คล่อง พัฒนาชิ้ นงานหรื อ พัฒนาชิ้ นงานหรื อ พัฒนาชิ้ นงานหรื อ พัฒนาชิ้นงานหรื อ 3. ความคดิ ยืดหย่นุ วิธีการเพื่อแก้ปัญหา วิธีการเพื่อแก้ปัญหา วิธีการเพ่ือแก้ปัญหา วิธีการเพ่ือแก้ปัญหา 4. ความคดิ ละเอยี ด ด้วยความคิดท่ีแปลก ด้วยความคิดที่แปลก ด้วยการผสมผสานและ โดยไม่ มี ความคิ ด ลออ ใหม่เหมาะสมต่อการ ใหม่ ดัดแปลงจากความคิด แปลกใหม่ ใชง้ านจริง เดิม มีการคิดหาวิธี การ มีการคิดหาวิธี การ มีการคิดหาวิธี การ ไม่ สามารถคิ ดหา แก้ปัญหาได้มากกว่า แก้ปัญหาได้ 2 วิธีใน แกป้ ัญหาไดเ้ พียง1วิธี วิธีการแกป้ ัญหาไดใ้ น 2 วิธีในเวลาท่ีกาหนด เวลาท่ีกาหนด ในเวลาท่ีกาหนด เวลาท่ีกาหนด มีการคิดหาวิธี การ มีการคิดหาวิธี การ มีการคิดหาวิธี การ ไม่ สามารถคิ ดหา แ ก้ ปั ญ ห า โ ด ย แ ก้ ปั ญ ห า โ ด ย แ ก้ ปั ญ ห า โ ด ย วิธีการแก้ปัญหาโดย ดัดแปลงส่ิ งท่ีมีอยู่ ดัดแปลงสิ่ งที่มีอยู่ ดัดแปลงส่ิ งท่ีมีอยู่ ดัดแปลงส่ิ งท่ีมีอยู่ ห รื อ น า ส่ิ ง อื่ น ม า ห รื อ น า ส่ิ ง อ่ื น ม า ห รื อ น า ส่ิ ง อ่ื น ม า ห รื อ น า ส่ิ ง อื่ น ม า ทดแทนสิ่งท่ีขาดได้ ทดแทนส่ิงท่ีขาดได้ ทดแทนสิ่งท่ีขาดได้ ทดแทนส่ิงท่ีขาดได้ อยา่ งหลากหลาย แ ต่ ย ัง ไ ม่ เ ห ม า ะ ส ม กบั งาน มี การคิ ดแจกแจง มี การคิ ดแจกแจง มี การคิ ดแจกแจง ไม่มีการคิดแจกแจง รายละเอียดของวิธีการ รายละเอียดของวิธีการ รายละเอียดของวิธีการ รายละเอียดของวิธีการ แก้ปัญหาหรื อขยาย แก้ปัญหาหรื อขยาย แก้ปั ญหาหรื อขยาย แก้ปัญหาหรื อขยาย ค ว ามคิ ดได้ อย่ าง ค ว า ม คิ ด ไ ด้ อ ย่ า ง ความคิดแต่ขาดความ ความคิด ค ร บ ถ้ ว น แ ล ะ มี สมบูรณ์ ชดั เจนและสมบูรณ์ รายละเอียดท่ีสมบูรณ์

แบบประเมินความคดิ สร้างสรรค์ (แบ่งเป็ น 4 ลกั ษณะ) ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) การคดิ วเิ คราะห์ แจกแจงองค์ประกอบ แจกแจงองค์ประกอบ แจกแจงองค์ประกอบ แจกแจงองคป์ ระกอบ - แจกแจง แ ล ะ อ ธิ บ า ย แ ล ะ อ ธิ บ า ย และสามารถอธิ บาย แต่ไม่สามารถอธิบาย องคป์ ระกอบ ความสั มพันธ์ เชิ ง ความสั มพันธ์ เชิ ง ความสั มพันธ์ เชิ ง ความสั มพันธ์ เชิ ง - อธิบาย เ ห ตุ ผ ล ร ะ ห ว่ า ง เ ห ตุ ผ ล ร ะ ห ว่ า ง เ ห ตุ ผ ล ร ะ ห ว่ า ง เ ห ตุ ผ ล ร ะ ห ว่ า ง ความสัมพันธ์เชิง องค์ประกอบเพ่ือให้ องค์ประกอบเพื่อให้ องค์ประกอบได้ไม่ องคป์ ระกอบได้ เหตุผล เข้าใจสาเหตุได้อย่าง เข้าใจสาเหตุได้แต่ไม่ เหมาะสม ถูกตอ้ ง ชดั เจน ก า ร คิ ด อ ย่ า ง มี วิเคราะห์และประเมิน วิเคราะห์และประเมิน วิเคราะห์และประเมิน วิเคราะหแ์ ละประเมิน วจิ ารณญาณ สถานการณ์ ด้ ว ย สถาน ก ารณ์ ด้วย สถาน ก ารณ์ ด้ วย สถานการณ์แต่ไม่มี - วิ เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ หลกั ฐานที่หลากหลาย ห ลัก ฐาน แ ล้ว ลง ห ลัก ฐาน แ ล้ว ลง หลักฐานในการลง แล้วลงข้อสรุ ปได้ ข้ อ ส รุ ป ไ ด้ อ ย่ า ง ข้ อ ส รุ ป ไ ด้ ไ ม่ ขอ้ สรุป ประเมิน อยา่ งสมเหตุสมผล สมเหตุสมผล สมเหตุสมผล - ลงขอ้ สรุป การคดิ เชิงระบบ จาแนกองค์ประกอบ จาแนกองค์ประกอบ จาแนกองค์ประกอบ จาแนกองค์ประกอบ - จาแนก แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง ไ ด้ แ ต่ เ ชื่ อ ม โ ย ง แ ต่ ไ ม่ ส า ม า ร ถ องคป์ ระกอบ ความสัมพันธ์ของ ความสัมพันธ์ของ ความสัมพันธ์ของ เ ช่ื อ ม โ ย ง - เชื่อมโยงความ องคป์ ระกอบต่าง ๆ ที่ องคป์ ระกอบต่าง ๆ ท่ี องคป์ ระกอบต่าง ๆ ที่ ความสัมพันธ์ของ สัมพนั ธ์ เกี่ยวเนื่องกันอย่าง เก่ียวเนื่องกนั อยา่ งเป็น เก่ียวเนื่องกนั อยา่ งเป็น องคป์ ระกอบต่าง ๆ ที่ เป็นระบบไดค้ รบถว้ น ระบบได้ครบแต่ขาด ระบบไดไ้ ม่ชดั เจน เก่ียวเนื่องกนั ได้ และถูกตอ้ ง รายละเอียดบางส่วน การส่ือสาร นาเสนออภิปรายและ นาเสนอ อภิปรายและ นา เสนอ อภิปรายและ นา เสนอ อภิปรายและ - การนา เสนอ ตอบคา ถามไดเ้ ขา้ ใจ ตอบคา ถามได้เข้าใจ ตอบคา ถามได้ แต่มี ตอบค าถามได้ไม่ - การอภิปราย ง่ายและมีวิธี การที่ เหมาะสมกับลกั ษณะ วิธีการไม่เหมาะสมกบั เหมาะสมกบั ลกั ษณะ - การตอบคา ถาม น่าสนใจเหมาะสมกบั ขอ้ มูล ลกั ษณะขอ้ มูล ขอ้ มูล ลกั ษณะขอ้ มูล การทางานร่ วมกับ มี ส่ วนร่ วมในการ มี ส่ วนร่ วมในการ มี ส่ วนร่ วมในการ ไม่มีส่วนร่วมในการ ผู้อื่น ท างานและรั บฟั ง ท างานและรั บฟั ง ทางาน แต่ไม่รับฟั ง ทางานและไม่รับฟัง - มีส่วนร่วม ความคิดเห็นของผอู้ ื่น ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน - รับฟังความคิดเห็น อยา่ งต้งั ใจ

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางานกลุ่ม วชิ า........................................................................................... เรื่อง................................................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมินจากการสงั เกตทกั ษะกระบวนการกลุ่มในระหวา่ งเรียน ขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยให้ ระดบั คะแนนลงในตารางที่ตรงกบั พฤติกรรมของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดีมาก 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง ข้อท่ี พฤตกิ รรมท่ีสังเกต คุณภาพการปฏิบตั ิ 1 มีการปรึกษาและวางแผนร่วมกนั ก่อนทางาน 32 1 2 มีการแบ่งหนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสม และสมาชิกทางานตามหนา้ ท่ี 3 มีการปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอน 4 มีการใหค้ วามช่วยเหลือกนั 5 มีการเคารพกติกาของกลุม่ 6 ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 7 แสดงความคิดเห็นท่ีมีประโยชนต์ ่อกลุ่ม 8 มีความเป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี 9 ร่วมมือกนั ทางานจนสาเร็จ 10 ผลงานมีความถูกตอ้ งและเสร็จทนั เวลากาหนด รวมคะแนน สรุปผลการประเมิน........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน () สมาชิกกลุ่มท่ี............หอ้ ง.................. 1...............................................................................เลขท่ี...................หนา้ ที่.................................... 2...............................................................................เลขท่ี...................หนา้ ที่.................................... 3...............................................................................เลขที่...................หนา้ ท่ี.................................... 4...............................................................................เลขที่...................หนา้ ที่.................................... 5...............................................................................เลขท่ี...................หนา้ ที่.................................... เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 25 - 30 ดีมาก 20 - 24 ดี 15- 19 ปานกลาง 1 – 14 ปรับปรุง หมายเหตุ การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพหรือหวั ขอ้ ประเมินปรับเปลี่ยนไดข้ ้ึนอยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของ ครูผสู้ อน

แบบสังเกตพฤตกิ รรม ไม่ปฏบิ ตั ิ การใช้เครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน ชื่อ-สกลุ .............................................................................. เลขท.ี่ ............... ห้อง ............... คาชี้แจง ใหท้ าเครื่องหมาย  ลงใน ที่ตรงกบั พฤติกรรมนกั เรียน ปฏิบัติ 1. เลือกเคร่ืองมือเหมาะสมกบั ลกั ษณะและประเภทของงาน 2. ใชเ้ ครื่องมืออยา่ งถูกวิธี 3. ใชเ้ คร่ืองมือไดอ้ ยา่ งปลอดภยั 4. ทาความสะอาดเครื่องมือหลงั การใชง้ าน 5. จดั เกบ็ เคร่ืองมือท่ีถูกวธิ ีหลงั การใชง้ าน สถานภาพของผ้ปู ระเมนิ ตนเอง เพอ่ื น ครู เกณฑ์การประเมิน แสดงพฤติกรรม 5 ดา้ น หมายถึง ดีมาก แสดงพฤติกรรม 3-4 ดา้ น หมายถึง ดี สรุปผลการประเมิน แสดงพฤติกรรม 1-2 ดา้ น หมายถึง พอใช้ แสดงพฤติกรรม 0 ดา้ น หมายถึง ปรับปรุง ผา่ น มีพฤติกรรม 3-5 ดา้ น ไม่ผา่ น มีพฤติกรรม 0-2 ดา้ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook