ภาษาไทยเพื่อส่อื สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ หน่วยที่ ๑ ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั การส่อื สาร แนวคิด (Concept) การสื่อสารเป็นปัจจัยที่จำเป็นอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์ต้อง ติดต่อสื่อสารกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ความคิด ทัศนคติและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ภาษา เป็นสื่อกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) ซึ่งข้อมูลข่าวสารส่งถึงกันได้ อย่างรวดเร็ว การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพทำให้บุคคลมีความรู้ ความเข้าใจ มีโลกทัศน์กว้างไกล เกิดการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งใน ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า แก่ประเทศชาตติ ่อไป สาระการเรียนรู้ (Topics) ๑. ความหมายของการสอ่ื สาร ๒. ความสำคัญของการสอ่ื สาร ๓. พัฒนาการของการสือ่ สาร ๔. วัตถปุ ระสงค์ของการสือ่ สาร ๕. องค์ประกอบของการสือ่ สาร ๖. การสือ่ สารในยคุ ปัจจบุ ัน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (Behavioral Objectives) ๑. บอกความหมายของการส่อื สารได้ ๒. บอกความสำคญั ของการสือ่ สารได้ ๓. บอกพฒั นาการของการสอ่ื สารได้ ๔. จำแนกวตั ถปุ ระสงคข์ องการส่ือสารได้ ๕. จำแนกองคป์ ระกอบของการสอื่ สารได้ ๖. อธบิ ายลกั ษณะการส่อื สารในยุคปจั จบุ นั
ภาษาไทยเพื่อส่อื สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑
ภาษาไทยเพอื่ ส่อื สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี ๑ ความรพู้ ้นื ฐานเกี่ยวกบั การส่ือสาร คำช้ีแจง จงทำเคร่อื งหมาย (X) ลงหนา้ ข้อทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพียงขอ้ เดียว ๑. ขอ้ ใดให้ความหมายของคำวา่ “การสือ่ สาร” ได้ชัดเจนท่สี ุด ก. การสง่ สารจากผรู้ ับไปยังผสู้ ่ง ข. การสอ่ื ความรู้สึกไปยงั ผูร้ ับสาร ค. การติดต่อรับรู้เร่อื งราวซ่ึงกนั และกนั ง. การติดของมนุษยท์ มี่ สี าร จ. การติดต่อระหวา่ งมนุษย์และมกี ารตอบสนอง ๒. ขอ้ ใดไม่ใช่การติดตอ่ ส่อื สาร ก. แดงอ่านทบทวนวิชาภาษาไทย ข. ดำจอดรอสญั ญาณไฟทสี่ ี่แยกตลาด ค. คณุ แม่อ่านสลากยาข้างขวดกอ่ นรับประทานอาหาร ง. คุณพ่อฟงั ข่าวโทรทัศน์ทุกเช้ากอ่ นไปทำงาน จ. คณุ ปอู่ ่านหนังสือใหด้ ำฟงั ๓. การฟังนทิ านหรอื ดนตรี เปน็ การฟงั เพือ่ วตั ถุประสงคใ์ ด ก. เพอ่ื แจ้งใหท้ ราบ ข. เพอ่ื การกระทำหรอื ตดั สินใจ ค. เพื่อเสนอหรือชกั จงู ใจ ง. เพ่ือสรา้ งความพอใจหรอื บนั เทงิ จ. เพื่อสอนหรอื ใหก้ ารศกึ ษา ๔. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของการส่ือสารทถี่ ูกต้อง ก. ส่ือ การตอบสนอง ผูส้ ง่ สาร สาร ข. ผสู้ ่งสาร ส่ือ การตอบสนอง ผูร้ ับสาร ค. ผ้สู ง่ สาร สาร สอ่ื ผูร้ บั สาร การตอบสนอง ง. การตอบสนอง ภาษา สอื่ สาร ผ้สู ง่ สาร จ. ผู้สง่ สาร การตอบสนอง ผู้รบั สาร ภาษา ๕. การสื่อสารทีด่ นี อกจากจะมีองค์ประกอบของการสอื่ สารแล้วสิ่งทตี่ อ้ งคำนึงถึงอีกประการหน่งึ คอื ขอ้ ใด ก. ความชดั เจนของสาร ข. ความจริงใจของผูส้ ง่ สาร ค. ความเข้าใจของผรู้ ับสาร ง. ระยะเวลาในการส่งสาร จ. สภาพแวดล้อมเพ่อื ผู้รับสารจะไดเ้ ขา้ ใจ - ๓-
ภาษาไทยเพ่อื ส่ือสารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๖. ในการประกาศขา่ วรายการวิทยุ “ผ้สู ่งสาร” หมายถึงข้อใด ก. ผู้ฟังขา่ ว ข. ผปู้ ระกาศขา่ ว ค. ขา่ ว ง. สถานท่ีจัดข่าว จ. เคร่ืองประกาศขา่ ว ๗. ลกั ษณะในขอ้ ใด คอื “วัจนภาษา” ก. ท่าทางการบอกสาร ข. ภาพบอกเรือ่ งราว ค. สญั ลักษณส์ อ่ื ความหมาย ง. ถอ้ ยคำไขความ จ. สายตาเปน็ หนา้ ต่างหวั ใจ ๘. ขอ้ ใดเป็นการส่งสารดว้ ยอวจั นภาษา ก. ชาตหิ ลวงหัวเราะรว่ น เม่ือได้ฟงั เรื่องตลก ข. ธิดากวักมือเรยี ก สจุ ินต์กเ็ ดินเข้ามาหา ค. ปญิ าอา่ นประวัตศิ าสตร์ นำ้ ตาเธอกไ็ หลริน ง. ธริ ณีเขยี นจดหมายหาครจู รรยา จ. องั สุธาถูกกล่าวหาว่าเปน็ ขโมย ๙. การสื่อสารจะมอี ุปสรรคมากทีส่ ุดถ้าผู้ส่งสารและผูร้ บั สารขาดคณุ สมบัติขอ้ ใด ก. ความรู้และประสบการณ์ระหวา่ งบคุ คล ข. การจัดเรยี งลำดบั ของสาร ค. มารยาทในการส่งสาร ง. สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการส่ือสาร จ. ความยากง่ายของสาร สือ่ ทใ่ี ช้ในการส่อื สาร ๑๐. เมอ่ื ผู้ฟงั รับสารทีผ่ ู้พดู สง่ มาแล้วเกดิ ความเลอื่ มใสศรทั ธาผู้ฟังอยใู่ นกระบวนการรับสารใด ก. รับรู้ ข. สนใจ ค. ตคี วาม ง. เข้าใจ จ. ตอบสนอง -๔-
ภาษาไทยเพ่อื ส่ือสารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ บทนำ มนุษย์จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการสื่อสารตั้งแต่เกิดจนตาย ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมนุษย์เรา ไม่สามารถดำเนินชีวิตอยู่ตามลำพังโดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นได้จึงต้องมีการสื่อสารระหว่างกันซึ่งในการ สื่อสารแต่ละครั้งจะต้องอาศัยภาษาในการสื่อความหมายจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร และภาษาในที่นี้จะ รวมทั้งภาษาที่เป็นคำพูด ได้แก่ ภาษาพูด ภาษาเขียน ของชนชาติต่างๆ (วัจนภาษา) และภาษาที่ไม่ใช่ คำพูด ได้แก่ สัญลักษณ์ สัญญาณต่าง ๆ อากัปกิริยา (อวัจนภาษา) พิจารณาง่าย ๆ สมัยก่อนมนุษย์มีการ ใช้สัญญาณ ประเภทควันไฟต่าง ๆ ในการติดต่อสื่อสาร สื่อความหมายให้เกิดการรับรู้ร่วมกัน ต่อมามนุษย์ มีวิวัฒนาการมากขึ้นมีการสร้างภาษาขึ้นมา เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูดหรือภาษา เขียนประกอบกับโลกมีวิวัฒนาการเรื่องสื่อต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้มนุษย์เกิดการรับรู้ความหมายร่วมกัน ได้ดีขึ้น กว้างขวางและรวดเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นตราบใดก็ตามที่มนุษย์จำเป็นจะต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม การติดต่อสื่อสารย่อมต้องมีความจำเป็นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นระเบียบในการอยู่ร่วมกัน สรา้ งความเขา้ ใจความชว่ ยเหลือ และความสามัคคกี นั ๑. ความหมายของการส่ือสาร การสื่อสาร หมายถึง การนำถ้อยคำ ข้อความหรือหนังสือของอีกฝ่ายหนึ่งส่งให้อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมสี อ่ื นำไป (พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒,๒๕๔๖ : ๑,๒๐๐) การสื่อสาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร เพื่อสื่อความหมาย ต่างๆ ตามความต้องการโดยผ่านสื่อหรือช่องทาง การสื่อสารมีลักษณะเป็นทั้งเครื่องมือและวิธีการที่ทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อบุคคล องค์กรและสังคม มีธรรมชาติเป็นสหวิทยาการที่จะต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจสาขาวิชาต่าง ๆ เป็นพื้นฐานให้สามารถเข้าใจการสื่อสารได้กว้างขวาง ชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น (วรมน ล้มิ มณี, ๒๕๔๔ : ๔๒) การสื่อสาร หมายถึง การสื่อความหมายให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน โดยเป็นกระบวนการ ถ่ายทอดสารระหว่างมนุษย์และใช้ภาษาเป็นเครื่องมือติดต่อระหว่างกันด้วยวิธีการต่าง ๆ อันส่งผลให้ ผู้ส่งสารและผู้รับสารเกิดความเข้าใจตรงกัน รวมทั้งยังเป็นการแสดงออกซึ่งความรู้สึกนึกคิด การถ่ายทอด เรื่องราวต่าง ๆ หรือสิ่งอื่นใดที่มนุษย์ต้องการนำเสนอไปยังผู้อื่น ซึ่งแต่ละบุคคลอาจใช้วิธีการหรือ กระบวนการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมหรือความจำเป็นทั้งของตนเองและคู่สื่อสาร (กอบกาญจน์ วงศว์ สิ ทิ ธ์,ิ ๒๕๕๑ : ๔ - ๕) การสื่อสาร หมายถึง การที่มนุษย์ถ่ายทอดความรู้ ความคิด หรือประสบการณ์ของตนไปยังบุคคล อื่น และการรับรู้ความคิดจากบุคคลอื่นมาปรับพฤติกรรมของตนเองโดยกระบวนการของการสื่อสาร ซง่ึ ถา่ ยทอดและรับความรู้ (สุวทิ ย์ ขาวนอก, ๒๕๕๑ : ๑๔) การสื่อสาร หมายถึง การติดต่อกันของบุคคลเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้ ความคิด โดยอาศัยสื่อ ทั้งการพูด การเขียน ภาษาท่าทางและวัตถุให้เกิดการรับรู้และเข้าใจตรงกัน (วิเศษ ชาญประโคน, ๒๕๕๑ : ๒)
ภาษาไทยเพื่อสอื่ สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ สรุปได้ว่า การสื่อสาร (Communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ ความรู้สึก ความคิดเห็น ความต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ที่อาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อื่นใด การแสดงหรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ไปยังผู้รับสาร ซึ่งอาจจะใช้กระบวนการ สื่อสารที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม หรือความจำเป็นของตนเองและคู่สื่อสาร โดยมีวัตถุประสงค์ ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกัน บริบททางการสื่อสารที่เหมาะสมเป็น ปัจจัยสำคัญ ทีจ่ ะช่วยใหก้ ารส่ือสารสมั ฤทธผ์ิ ล ภาพท่ี ๑.๑ การเสวนาของครพู ่ีเล้ียงเกี่ยวกับการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพของนักศึกษา ณ มหาวิทยาลยั ราชภัฎศรีสะเกษ ทมี่ า : งานประชาสัมพันธม์ หาวทิ ยาลยั ราชภัฎศรีสะเกษ ๒. ความสำคญั ของการสอื่ สาร ๒.๑ ด้านสังคม การรวมกลุ่มในสังคมทั้งระดับครอบครัว ชุมชน จนถึงระดับประเทศนั้น จะต้องมีการ สื่อสารให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในเรื่องต่าง ๆ มีกระบวนการทําให้คนยอมอยู่ในกฏเกณฑ์กติกาของสังคม มีการถ่ายทอดความรู้และทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารเป็นพื้นฐาน เพื่อให้เกิดความ เขา้ ใจ และเพอ่ื สรา้ งระเบียบของสงั คมให้เป็นทีย่ อมรบั ระหวา่ งสมาชิกอยู่รว่ มกนั อยา่ งสงบสขุ ในสังคม ๒.๒ ด้านชีวิตประจำวัน การสื่อสารมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก ในแต่ละวันเรามีการสื่อสารอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารกลุ่มใหญ่ การสื่อสารด้วยคำพูด ตัวหนังสือ กิริยาท่าทางและการสื่อสารมวลชน ทั้งในบทบาทของผู้รับสาร และผู้ส่งสาร หากคนเราขาดความรู้หรือทักษะการสื่อสาร ก็อาจทําให้การปฏิบัติภารกิจประจําวันนั้น บกพรอ่ งได้ -๖-
ภาษาไทยเพ่ือสื่อสารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๒.๓ ดา้ นธรุ กิจและอตุ สาหกรรม ปัจจุบันวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมมีการปฏิวัติทางด้านเทคโนโลยีการผลติ ตลอดจน การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้ต้องอาศัยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสื่อสาร จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยใช้สื่อสารเพื่อการโฆษณาสินค้า การประชาสัมพันธ์ ทั้งภายในและภายนอก องค์กร การบริหาร ติดต่อ ประสานงาน การฝึกอบรมพนักงาน โดยมีการนำเครื่องมือและเทคโนโลยี การสื่อสาร ซ่ึงการสอื่ สารท่ีดี จะสง่ ผลใหธ้ ุรกจิ และอุตสาหกรรมประสบผลสาํ เรจ็ ได้อยา่ งรวดเร็ว ๒.๔ ด้านการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการปกครองในระบอบใดหรือการปกครองระดับใด ต้องอาศัยการสื่อสาร เป็นเครื่องมือหรือกลไกที่สำคัญที่จะทำให้สังคมเจริญก้าวหน้าและประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และปฏิบัติตามนโยบาย ตลอดจนกฎเกณฑ์ต่างๆ นอกจากจากนี้ การรับทราบความรู้สึกนึกคิด ความต้องการหรือประชามติของประชาชนยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสื่อสาร เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทาง การดำเนินนโยบายของรฐั บาล เพ่ือพัฒนาประเทศตอ่ ไป ๒.๕ ดา้ นการเมอื ง การติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศในด้านต่างๆ เช่น คน การค้า การทหาร การทําสนธิสัญญา ฯลฯ การมีนักการฑูตประจําในประเทศต่างๆ จึงมีความจำเป็นต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศเนื่องจากต้องติดต่อสื่อสารระหว่างกันอยู่เสมอ หากผู้เกี่ยวข้องมีความรู้และทักษะในการสื่อสาร เพียงพอ ย่อมสามารถสร้างความสมั พนั ธ์ทีด่ ีตอ่ กันได้ ๓. พฒั นาการของการสอื่ สาร ๓.๑ การสื่อสารในยุคโบราณ การสื่อสารในยุคโบราณ เป็นการสื่อสารอย่างง่ายตามธรรมชาติของการดําเนินชีวิต ในสมัยนั้น แม้ว่าการใช้ภาษาหรือรหัสสัญญาณในการสื่อสารมีขอบเขตจํากัด แต่ก็สามารถสื่อสารกัน ได้ผลดี เพราะมีผู้คนจํานวนน้อย การสื่อสารจึงไม่ซับซ้อน ทั้งนี้มนุษย์เองก็มีนิสัยชอบบอกกล่าว ถึงสิ่งที่ตนค้นพบหรือเห็นว่าน่าสนใจให้คนอื่นได้รับทราบอยู่แล้ว นอกจากการบอกกล่าวโดยการสื่อสาร อย่างง่ายด้วยคําพูด หรือภาษาท่าทางแล้ว ภาพเขียนโบราณตามผนังถ้ำนั้นยังเป็นหลักฐานสําคัญอันหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นความพยายามที่จะสื่อความหมายของมนุษย์ ซึ่งนับเป็นการสื่อสารที่มีคุณค่าทาง ประวัตศิ าสตร์ และการสื่อสารในยคุ น้ี ยงั คงเปน็ การส่อื สารกลุม่ ย่อยเทา่ นนั้ -๗-
ภาษาไทยเพือ่ สอื่ สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ภาพท่ี ๑.๒ ภาพสลักโบราณ ณ อุทยานแหง่ ชาตผิ ามออแี ดง อ.กนั ทรลกั ษ์ จ.ศรสี ะเกษ ทมี่ า : ณชติ า จิราณัฏฐกุล ๓.๒ การสื่อสารในยุคเกษตรกรรม ในยุคนี้เกิดการรวมกลุ่มกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีหัวหน้าหรือกษัตริย์ผู้ปกครอง มีพัฒนาการทางด้านความรู้ ความคิด การเมืองการปกครอง จึงจําเป็นต้องคิดค้นภาษาหรือสัญลักษณ์ เพื่อใช้ในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การสื่อสารจึงมีความซับซ้อนขึ้นตามไปด้วย เริ่มจากการ สื่อสารด้วยการเขียนภาพเหมือนของจริงในสมัยโบราณ กลายมาเป็นอักษรภาพ และตัวอักษรที่มีลักษณะ เป็นรูปธรรมขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการค้นพบกรรมวิธีทางการพิมพ์ยิ่งเป็นการช่วยสนับสนุน ให้เกิดการบันทึกและเผยแพร่ความรู้ข่าวสารต่าง ๆ มากขึ้นเป็นลําดับ มีความพยายามที่จะติดต่อสื่อสาร และแลกเปลี่ยนข่าวสาร ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ระหว่างชุมชน เมื่อมีการอยู่รวมกันเป็นชุมชน ขนาดใหญก่ ารส่อื สารแบบมวลชนจงึ เกดิ ข้นึ ภาพที่ ๑.๓ : ศลิ าจารึกสมัยพอ่ ขุนรามคำแหง ทมี่ า : https://sites.google.com/site/prawatisukhothay๒๓๓/sila-caruk -๘-
ภาษาไทยเพอ่ื สอ่ื สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๓.๓ การสอ่ื สารในยคุ อุตสาหกรรม เมื่อประชากรโลกมีจํานวนเพิ่มขึ้น จึงมีการติดต่อค้าขายระหว่างกลุ่มชน ประกอบกับ มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สําคัญ เช่น การไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรทุ่นแรง ฯลฯ ซึ่งเป็นเหตุ ผลักดันให้ต้องแสวงหากรรมวิธีในการผลิตสินค้าเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ เกิดการปฏิวัติ อุตสาหกรรม โดยเริ่มจากประเทศในยุโรปและขยายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา จากสังคมเกษตรกรรม กลายเป็นสังคมอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนขึ้น เมื่อสังคมมีความซับซ้อน การสื่อสารก็มีความซับซ้อน มากขึ้นตามไปด้วย การสื่อสารแบบมวลชน จึงมีความสําคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในยุคนี้พัฒนาการของ เครือ่ งมอื ส่อื สาร ไฟฟ้า โทรเลข วิทยุ โทรทศั น์ และความก้าวหน้าทางการพิมพ์ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง จึงส่งเสริมให้การสื่อสาร ทั้งระหว่างบุคคลและการสื่อสารแบบมวลชนขยายตัว อย่างกวา้ งขวาง ภาพท่ี ๑.๔ การส่ือสารมวลชน ผา่ นระบบโทรทศั น์ ทม่ี า : http://www.dekdern.com/News/NewsDetail.aspx?NewsID=๔๕๒ ๓.๔ การสอ่ื สารในยคุ ปัจจบุ นั การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตลอดจนความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีทุก ๆ ด้าน ทําให้การสื่อสารกลายเป็นปัจจัยที่มีความสําคัญอย่างมาก สภาพของสังคมปัจจุบัน ทั้งในระดับชุมชน ระดับประเทศหรือระดับโลก เกิดการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการแก่งแย่ง ทางการค้าจากอดีตที่เคยทําสงครามด้วยอาวุธ เพื่อครอบครองดินแดน และหาแหล่งทรัพยากร กลายมาเป็นการทําสงครามทางการค้าและสงครามทางวัฒนธรรม ซึ่งผู้ที่ครอบครองข่าวสารข้อมูล มากกว่า ย่อมเป็นผู้ได้เปรียบ และนับว่าในปัจจุบันเทคนิควิธีการและเครื่องมือสื่อสารมีความก้าวหน้าและ ทันสมัยมากขึ้น เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิ ภาพสูง และใช้งานได้อย่างหลากหลาย การสื่อสาร ทางไกล ไม่ว่าจะเปน็ วิทยุ โทรทัศน์ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การส่อื สารผา่ นโทรศพั ท์ ซงึ่ สะดวก รวดเร็ว สื่อสาร ไดท้ ้งั ภาพ เสยี ง และไมจ่ ำกัดระยะทางสอ่ื สารอกี ด้วย -๙-
ภาษาไทยเพื่อสอื่ สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ภาพที่ ๑.๕ : แอปพลิเคชันท่ีใชใ้ นการส่ือสารในโทรศัพท์เคลื่อนท่ี (Smartphone) ท่มี า : ณชิตา จิราณัฏฐกุล ภาพท่ี ๑.๖ : การอบรมการเรียนการสอน Active learning ของครภู าษาไทย จดั โดยศูนย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชวี ศึกษาภาคเหนอื ท่มี า : ณชติ า จริ าณฏั ฐกุล - ๑๐ -
ภาษาไทยเพอื่ สือ่ สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ เทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายการสื่อสารออกไปอย่างกว้างไกลไร้ขอบเขต เครือข่ายการสื่อสารถูกสร้างขึ้นโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หากมองย้อนกลับไปในอดีตจะเห็นว่า การสือ่ สารมกี ารเปลย่ี นแปลงมาตลอด ดงั จะเหน็ ได้จากตารางเปรียบเทยี บต่อไปนี้ ตารางท่ี ๑.๑ ตัวอย่างความแตกต่างวธิ ีการสื่อสารอดตี กับปัจจุบัน การสอื่ สารในอดตี การสื่อสารในปัจจบุ ัน การเขียนด้วยมือหรือเครือ่ งพิมพด์ ดี การจัดเก็บเอกสารในกล่องหรอื แฟม้ เอกสาร การพมิ พ์โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ การจัดเกบ็ ขอ้ มลู ลงในแผ่นซดี ี ฮารด์ ไดรฟ์ การสง่ ขอ้ มูลเปน็ จดหมายหรอื ข้อความด่วน หรอื การจัดเก็บข้อมูลบนเครือขา่ ย NAS ทางโทรเลข ผา่ นระบบไปรษณยี ์ (Network Attached Storage) การส่งขอ้ ความผา่ นทางโทรศพั ท์เคล่อื นท่ี การสง่ แฟกซ์ หรอื จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-mail) การนำเสนองานโดยใช้บอร์ด การเขียน การนำเสนองานโดยใช้โปรแกรม Power point บนกระดาน การใช้บัตรภาพหรือบตั รคำ ซ่งึ มที ้งั แสง สี และเสยี ง การคน้ ขอ้ มลู จากหนังสือ ตำราในหอ้ งสมุด การค้นขอ้ มลู จากขอ้ มูลในเว็บไซต์ หรอื จากคอมพวิ เตอร์ ๔. วตั ถุประสงคใ์ นการสอื่ สาร ๔.๑ แบ่งตามวตั ถุประสงค์ของผ้สู ง่ สาร ดงั น้ี ๔.๑.๑ เพอื่ แจง้ ให้ทราบ (Inform) เป็นการสื่อสารเพื่อชี้แจงข้อมูล ข่าวสารเรื่องราว เหตุการณ์ หรือบอกกล่าว สงิ่ อน่ื ใดให้ผู้รับสารไดร้ บั ทราบหรือเกดิ ความเขา้ ใจ ๔.๑.๒ เพอ่ื สอนหรอื ให้การศึกษา (Teach or Education) เป็นการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ หรือเรื่องราวเชิงวิชาการ เพื่อให้ผู้รับ สารได้ มีโอกาสพัฒนาความร้ใู หเ้ พ่ิมพนู ยิ่งขนึ้ ๔.๑.๓ เพ่อื สร้างความพอใจหรือใหค้ วามบนั เทิง (Please of entertain) เป็นการส่งสารไปยังผู้รับสารทั้งในรูปแบบของการพูด การเขียน หรือการแสดง กริ ิยาตา่ งๆ เพอื่ ความพอใจหรอื ให้ความบันเทงิ แกผ่ ู้รบั สาร ๔.๑.๔ เพ่อื เสนอหรือชักจงู ใจ (Propose or Persuade) เป็นการให้ข้อเสนอแนะ หรือชักจูงใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อผู้รับสารให้ผู้รับสาร มีความคดิ คล้อยตาม หรอื ยอมปฏบิ ัตติ ามการเสนอแนะของตน ๔.๒ แบง่ ตามวัตถุประสงคข์ องผรู้ ับสารดงั น้ี ๔.๒.๑ เพ่อื ทราบ (Understand) ในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการสื่อสารนั้น ผู้รับสารมีความต้องการทราบ เรื่องราวข่าวสาร เหตุการณ์ ข้อมูล หรือสิ่งอื่นใดที่มีผู้แจ้งหรือรายงานหรือชี้แจง หากข่าวสารที่ได้รับทราบ นั้นเป็นเรื่องใหม่ ก็ทำให้ผู้รับสารได้ข่าวสารเพิ่มเติม หากเป็นเรื่องเดิม ก็เป็นการยืนยันความถูกต้อง ของข่าวสารที่มีอยู่ให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น ในทางตรงข้าม หากเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับข่าวสารที่มีอยู่เดิม ผู้รบั สารจะได้พิจารณาว่าขา่ วสารใดมคี วามน่าเชอ่ื ถือหรอื ถกู ต้องมากกวา่ กัน - ๑๑ -
ภาษาไทยเพือ่ ส่อื สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๔.๒.๒ เพ่ือเรยี นรู้ (Learn) ลักษณะของสารในกรณีนี้ มักเป็นสารที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับวิชาความรู้ วิชาการ เป็นการแสวงหาความรู้ของผู้รับสาร การค้นคว้าเพิ่มเติม หรือการทำความเข้าใจกับเนื้อหาสาระ ในการสอนของผสู้ ่งสาร ๔.๒.๓ เพื่อความพงึ พอใจ (Enjoy) โดยปกตินั้น นอกจากคนเราจะต้องการทราบขาวสารต่าง ๆ แล้ว ยังต้องการ ความบันเทิง ต้องการการพักผ่อนหย่อนใจด้วย ดังนั้น ในบางโอกาสผู้รับสารจึงแสวงหาสิ่งที่สามารถ สรา้ งความบันเทิง ขบขัน และความสบายใจใหแ้ ก่ตนเองด้วย ๔.๒.๔ เพอื่ การกระทำหรือตัดสินใจ (Dispose or Decide) ในการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำอยู่เสมอคือการตัดสินใจกระทำ การอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการตัดสินใจของแต่ละบุคคลนั้น มักได้รับการเสนอแนะหรือจูงใจจากบุคคลอื่น เสมอ บางครั้งทางเลือกในการตัดสินใจของเรานั้นขึ้นอยู่กับข้อเสนอนะ ว่ามีความน่าเชื่อถือและเป็นไปได้ มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการใช้ข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ ความเชื่อและประสบการณ์เป็นเครื่องมือ ในการตัดสินใจของเราด้วย จะเห็นได้ว่า ทั้งผู้รับสารและผู้สื่อสารต่างมีวัตถุประสงค์ของตนเอง เมื่อใดที่วัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่ายสอดคล้องกัน การสื่อสารย่อมบรรลุวัตถุประสงค์ หากวัตถุประสงค์ ไม่สอดคล้องกัน การสื่อสารนั้นอาจล้มเหลวได้ ดังนั้น จึงสรุปวัตถุประสงค์ของการสื่อสารของทั้งสองฝ่าย ดังน้ี ภาพที่ ๑.๗ : การนเิ ทศตดิ ตามผลการจดั การเรียนการสอน Active learning ของครภู าษาไทย วทิ ยาลยั เทคนิคศรีสะเกษ โดยศึกษานเิ ทศก์ ศนู ยส์ ง่ เสริมและพัฒนาอาชีวศกึ ษาภาตะวันออกเฉียงเหนอื ทีม่ า : ปพัชญานันทน์ เพ็งแจม่ - ๑๒ -
ภาษาไทยเพื่อสื่อสารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ตารางท่ี ๑.๒ แสดงวัตถุประสงค์ของผสู้ ่งสารและผูร้ ับสาร วัตถุประสงค์ของผู้สง่ สาร วัตถุประสงค์ของผรู้ บั สาร ๑. เพื่อแจ้งใหท้ ราบ ๑. เพอ่ื เรยี นรู้ ๒. เพ่อื สอนหรือใหก้ ารศกึ ษา ๒. เพอ่ื ความพึงพอใจ ๓. เพอื่ สร้างความพอใจหรอื ใหค้ วามบนั เทิง ๓. เพื่อการกระทำหรือตดั สนิ ใจ ๔. เพื่อเสนอหรอื ชักจงู ใจ ๔. เพือ่ ทราบ ๕. องคป์ ระกอบของการสอื่ สาร ๕.๑ ผู้ส่งสาร (Sender) หรือแหล่งสาร (Source) หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคลหรือหน่วยงาน ที่ทำหน้าที่ในการส่งสารหรือเป็นแหล่ง กำเนิดสาร โดยเริ่มต้นส่งสารด้วยการแปลสารนั้นให้อยู่ในรูปของสัญลักษณ์ที่มนุษย์สร้างขนึ้ ได้แก่ ภาษา และอากัปกิริยาต่าง ๆ เพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึก ข่าวสาร ความต้องการและวัตถุประสงค์ของตน ไปยังผู้รับสารด้วยวิธีการหรือส่งผ่านช่องทางการสื่อสารใด ๆ เช่น ผู้พูด ผู้เขียน กวีศิลปิน นักจัดรายการ วิทยุ โฆษกรัฐบาล องค์การ สถาบัน สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ กองบรรณาธิการ หนงั สือพมิ พ์หน่วยงานของรัฐ บริษทั สถาบนั ส่อื มวลชน ฯลฯ คุณสมบตั ิของผสู้ ่งสาร ๑) มีเจตนาแน่ชัดที่จะให้ผู้อื่นรับรู้จุดประสงค์ของตนในการส่งสาร แสดงความ คิดเห็น หรอื วจิ ารณ์ ฯลฯ ๒) มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในเนอื้ หาของสารเป็นอยา่ งดี ๓) มีบุคลิกลักษณะที่ดี มีความน่าเชื่อถือ แคล่วคล่องเปิดเผยจริงใจและมี ความรับผิดชอบ ในฐานะเป็นผสู้ ง่ สาร ๔) มีความเขา้ ใจความพร้อมและความสามารถในการรบั สารของผู้รับสาร ๕) ร้จู กั เลอื กใชก้ ลวธิ ที เ่ี หมาะสมในการสง่ สาร ๕.๒ สาร (Message) หมายถึง เรื่องราวที่มีความหมาย หรือสิ่งต่างๆ ที่อาจอยู่ในรูปของข้อมูล ความรู้ ความคิด ความต้องการ อารมณ์ ฯลฯ ซึ่งถ่ายทอดจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสารให้ได้รับรู้ และแสดงออกมา โดยอาศัยภาษาหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่สามารถทำให้เกิดการรับรู้ร่วมกันได้ เช่น ข้อความที่พูด ข้อความ ท่เี ขียน บทเพลงท่ีขับร้อง รูปทว่ี าด เรื่องราวทอี่ ่าน ท่าทางทสี่ ื่อความหมาย ฯลฯ ๕.๒.๑ รหัสสาร (Message Code) ได้แก่ ภาษา สัญลักษณ์ หรือสัญญาณที่มนุษย์ใช้ เพอื่ แสดงออกแทนความรู้ ความคิด อารมณ์ หรอื ความรู้สึกต่าง ๆ ๕.๒.๒ เนื้อหาของสาร (Message Content) หมายถึง บรรดาความรู้ ความคิด และประสบการณ์ที่ผู้ส่งสารต้องการจะถ่ายทอดเพื่อการรับรู้ร่วมกัน แลกเปลี่ยนเพื่อความเข้าใจร่วมกัน หรอื โต้ตอบกนั - ๑๓ -
ภาษาไทยเพือ่ สื่อสารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๕.๒.๓ จัดสาร (Message Treatment) หมายถึง การรวบรวมเนื้อหาของสาร เลือกใช้ รหัสสารที่เหมาะสม แล้วนำมาเรียบเรียงให้เป็นไปอย่างมีระบบในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ใจความ ตามเนอ้ื หาทต่ี ้องการ เช่น นยิ าย นิทาน บทความ ฯลฯ ๕.๓ สือ่ หรือช่องทาง (Media or Channel) หมายถึง สิ่งที่เป็นพาหนะของสาร ทำหน้าที่นำสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร ผู้ส่งสาร ต้องอาศัยสื่อหรือช่องทางทำหน้าที่นำสารไปสู่ผู้รับสาร โดยจำแนกประเภทของสื่อที่ใช้ในการสื่อสารเป็น ๕ ประเภทดงั นี้ (สวนิต ยมาภยั ๒๕๔๖ : ๑๑ - ๑๒) ๕.๓.๑ สื่อบุคคลหรือสื่อมนุษย์ ได้แก่ โฆษก ผู้เล่านิทาน ตัวแทนเจรจา บุรุษไปรษณีย์ พอ่ สอื่ แมส่ อื่ ผสู้ ื่อข่าว ทตู ฯลฯ ๕.๓.๒ สื่อธรรมชาติ ได้แก่ แสง เสียง การจ้องมองหน้า การกวักมือเรียก การกระแอม การไอ บรรยากาศรอบตวั ฯลฯ ๕.๓.๓ สอื่ สง่ิ พิมพ์ ได้แก่ หนังสอื หนังสอื พมิ พ์ นิตยสาร แผ่นพบั ใบปลิว ใบแจง้ ความ ใบประกาศ ภาพ ฯลฯ ๕.๓.๔ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ แถบบันทึกเสียง โทรศพั ท์ ดาวเทียมสอ่ื สาร ฯลฯ ๕.๓.๕ สื่อเฉพาะกิจ คือ สื่อที่ทำหน้าที่ในวงจำกัดเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ป้ายชื่อ ถนน ป้ายโฆษณาตามที่สาธารณะ จดหมาย รวมไปถึงการจัดกิจกรรมบางอย่าง เช่น การจัดนิทรรศการ การประชุม การแสดงนานาชาติทั้งที่เป็นพื้นบ้านและที่เป็นสากล การจัดงานตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานเทศกาลเงาะทุเรียน ของดศี รีสะเกษ งานมุฑิตา บชู าครู ผูท้ รงคณุ คา่ วทิ ยาลัยเทคนคิ ศรสี ะเกษ ฯลฯ ๕.๔ ผรู้ ับสาร (Receiver) หมายถึง บุคคลที่เป็นจุดหมายปลายทางในกระบวนการสื่อสาร ผู้รับสารอาจเป็น คนเดียวหรือเป็นหมู่คณะก็ได้ มีบทบาทในการกำหนดรู้ความหมายตามเรื่องราวที่ผู้ส่งสารสื่อผ่านมาถึงตน และมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อผู้ส่งสาร เช่น ผู้เข้าร่วมประชุม ผู้ฟังรายการวิทยุ กลุ่มผู้ฟังการอภิปราย ผู้อ่าน บทความจากหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ซึ่งการสื่อสารจะประสบความสำเร็จได้นั้น ก็ต่อเมื่อผู้รับสารได้พัฒนา ตนเองให้เป็นผู้มีเจตนาชัดเจน มีทัศนคติที่ดีต่อผู้ส่งสาร พยายามทำความเข้าใจกับสารที่ได้รับ มีความรู้ ทางภาษาดี มีความสามารถในการคิดและรับรู้ความหมายที่ผู้ส่งสารต้องการถ่ายทอด รวมทั้งสามารถ แสดงปฏิกิริยาตอบสนองผสู้ ่งสารได้ ๕.๕ ปฏิกิรยิ ายอ้ นกลบั (Feedback) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงท่าทีและพฤติกรรมของผู้รับสารเมื่อได้รับสารนั้นแล้ว เช่น การพยักหน้า หารยิ้ม สีหน้าเฉยเมย ฯลฯ ปฏิกิริยาย้อนกลับนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นผลของการสื่อสาร ซึ่งสามารถแบ่งได้ ๒ ชนิด คือ ผลทางบวก (Positive feedback) เช่น การพยักหน้าเห็นด้วย การปรบมือ ชื่นชม ฯลฯ และผลทางลบ (Negative feedback) เช่น สีหน้าเบื่อหน่าย เคร่งเครียด การเบือนหน้าหนี ฯลฯ ปฏิกิริยาย้อนกลับหรือผลของการสื่อสารนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการสื่อสาร ไม่ว่าจะ เป็นการสื่อสารระหว่างบุคคล กลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ หรือการสื่อสารมวลชนเพราะเป็นตัวบ่งชี้ ถึงผลของการ สื่อสารใน แต่ละครั้งว่าผู้รับสารมีความรู้สึกนึกคิดอย่างไรต่อสารที่ได้รับนั้น และทำให้องค์ประกอบของ การส่อื สารนนั้ ครบบริบรู ณ์ คือ มีการส่อื สารทัง้ จากผู้สง่ สารและผรู้ บั สาร - ๑๔ -
ภาษาไทยเพ่อื ส่ือสารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ภาพที่ ๑.๘ : แผนภาพแสดงกระบวนการสือ่ สาร ทมี่ า : ศันสนยี ์ พนั เจริญ จากกระบวนการในการสื่อสารข้างต้น ทุกองค์ประกอบมีความสำคัญต่อการสื่อสาร หาก องค์ประกอบไม่ครบหรือองค์ประกอบใดมีความบกพร่อง การสื่อสารก็จะไม่สัมฤทธิผล ทั้งนี้เพราะผลของ การสื่อสารจะเป็นตัวกำหนดว่าการสื่อสารในแต่ละครั้งนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ ดังนั้นในการสื่อสาร ผู้ส่งสารและผู้รับสารจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องของการใช้ภาษาในการ สื่อสารอย่างมีศิลปะ และมีประสิทธิภาพด้วย เพื่อให้ใช้ภาษาในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ของการใชภ้ าษาตลอดจนเหมาะสมกบั โอกาสและบุคคล การพิจารณาองค์ประกอบของการสือ่ สาร ตัวอย่างที่ ๑ พธิ กี รส่ังนักศึกษาวิชาทหารตามระเบียบพัก เพื่อรับฟังการชี้แจงกำหนดการต้อนรับ รองนายกรฐั มนตรี ผสู้ ่งสาร คอื พธิ ีกร สาร คอื คำส่ังตามระเบียบพัก ส่อื คอื เสยี งพูด ไมโครโฟน ผรู้ บั สาร คอื นกั ศกึ ษาวิชาทหาร - ๑๕ -
ภาษาไทยเพอ่ื ส่ือสารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ภาพท่ี ๑.๙ พธิ ีการต้อนรบั พล.อ.ธนะศกั ดิ์ ปฏมิ าประกร รองนายกรฐั มนตรี ซงึ่ เดินทางเข้าเย่ยี มศูนยฝ์ กึ นักศกึ ษาวิชาทหารวิทยาลยั เทคนิคศรสี ะเกษ ท่ีมา : ปพชั ญานนั ท์ เพ็งแจม่ ตัวอยา่ งท่ี ๒ นกั ศึกษาแผนกวชิ าสถาปตั ยกรรมสาธิตการรอ้ ยมาลยั ใหเ้ พ่อื นๆ ในชมรมวชิ าชีพการบญั ชี ผู้สง่ สาร คือ นกั ศึกษาแผนกวชิ าสถาปัตยกรรม สาร คอื เน้ือหาการรอ้ ยมาลยั สอ่ื คอื ดอกไม้ เขม็ อปุ กรณก์ ารร้อยมาลยั ผรู้ ับสาร คือ นกั ศึกษาชมรมวชิ าชีพการบัญชี ภาพท่ี ๑.๑๐ นักศกึ ษาแผนกวชิ าสถาปัตยกรรม พูดสาธติ การร้อยมาลัย ที่มา : ณชติ า จริ าณัฏฐกุล - ๑๖ -
ภาษาไทยเพอื่ สอ่ื สารในงานอาชพี รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๖. อปุ สรรคในการสือ่ สาร อุปสรรคในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ทำให้การสื่อสารไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของผู้สื่อสาร และผู้รับสาร อุปสรรคในการสื่อสารอาจเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการสื่อสาร ดังนั้น อุปสรรค เกิดจากองคป์ ระกอบต่าง ๆ ดงั นี้ ๖.๑ อปุ สรรคจากตวั บคุ คล ซง่ึ เกิดข้นึ ไดท้ ัง้ จากผ้สู ่งสารและผ้รู ับสาร ดังนี้ ๖.๑.๑ อปุ สรรคด้านร่างกาย เกิดขึ้นได้จากปัญหาสุขภาพ หรือความบกพร่องทางด้านร่างกาย เช่น ไม่สบาย มีความผิดปกตทิ างสายตา รา่ งกายอ่อนเพลยี เน่ืองจากพกั ผอ่ นไม่เพยี งพอ ฯลฯ ๖.๑.๒ อปุ สรรคด้านจติ ใจ เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจ ทำให้ผู้สื่อสารไม่มีสมาธิหรือสนใจสิ่งอื่นมากกว่าเรื่องที่กำลัง สื่อสาร รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องแต่เกิดขึ้นระหว่างที่กำลังสื่อสาร ส่งผลให้กระบวนการ สื่อสาร ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น คิดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สื่อสาร ความวิตกกังวล ในเร่ืองอน่ื ๆ อคตขิ องผู้สอ่ื สารท่ีมีตอ่ อกี ฝา่ ยหน่งึ ฯลฯ ๖.๑.๓ อปุ สรรคดา้ นองคค์ วามรู้ การขาดกลวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ การขาดประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญของผู้ส่งสาร การขาดความรู้พื้นฐานของผู้รับสาร เป็นปัญหาความไม่พร้อมของการสื่อสาร ซึ่งจะทำให้การสื่อสาร นั้น ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารต้องเตรียมความพร้อมของตนเอง เตรียมกลวิธีนำเสนอที่น่าสนใจที่เหมาะกับผู้รับสารหรือการเตรียมศึกษาค้นคว้าข้อมูลพื้นฐานของเรื่อง ทต่ี อ้ งเข้ารับฟงั เพ่ือจะได้เขา้ ใจไดง้ า่ ย ชัดเจนและแม่นยำมากขึน้ ๖.๒ อุปสรรคจากสอ่ื หรือวัสดอุ ปุ กรณ์ ดงั นี้ ๖.๒.๑ คณุ ภาพของส่ือ สื่อที่จัดเตรียมมาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ เช่น เสียงที่ผ่านลำโพงเกิดการ ติดขัด ภาพที่เตรียมมาบางส่วนหายไป ซง่ึ มีผลต่อการรับรู้การตีความของผู้รบั สารดว้ ย ๖.๒.๒ ความสอดคล้องและเหมาะสมของสอ่ื การเตรียมสื่อที่สอดคล้องกับเนื้อหานั้น จะช่วยให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาได้ง่าย ขึ้น หากสื่อที่เตรียมมาไม่ตรงตามประเด็นที่นำเสนออาจทำให้ผู้รับสารเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น วิทยากร หาภาพปราสาทเขาพระวิหารไม่ได้ จึงใช้ภาพปราสาทอื่นแทน ทำให้ผู้รับสารเข้าใจตาม ภาพนั้น ดังนั้น ควรตรวจสอบสื่อให้ถูกต้องก่อนนำมาใช้ ในส่วนของผู้รับสารก็ควรเตรียมสื่อหรือ อปุ กรณ์ทจี่ ะนำมาใช้บนั ทกึ เพอ่ื ประโยชน์ในการเกบ็ ข้อมลู ๖.๒.๓ ความชดั เจนของสอ่ื สื่อที่เตรียมมาควรเป็นสื่อที่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ ซง่ึ นอกจากจะส่งผลดตี อ่ การนำเสนอแลว้ ยงั ทำให้ผู้รบั สารสนใจมากข้ึนด้วย - ๑๗ -
ภาษาไทยเพื่อสอ่ื สารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๖.๓ อปุ สรรคจากสาร ๖.๓.๑ ความยากงา่ ยของสาร สารที่ยากเกินไปจะทำให้ผู้รับสารไม่เข้าใจสารที่ง่ายเกินไป จะทำให้ผู้รับสาร ไม่สนใจ ดังนั้นผู้ส่งสารควรพิจารณาระดับความยากง่ายของสารให้เหมาะสมกับผู้รับสาร ทั้งในด้านอาชีพ วยั หรอื ความสนใจของผรู้ ับสาร ๖.๓.๒ การจดั เรยี งลำดับของสาร ในการสื่อสารนั้น การจัดเรียงลำดับของเนื้อเรื่อง มีผลต่อความเข้าใจของผู้รับ สาร ดังนั้น ผู้ส่งสารจึงจัดลำดับเนื้อเรื่องโดยเรียงตามลำดับความสำคัญและความยากง่าย เพื่อให้การ สือ่ สารนนั้ บรรลุวตั ถุประสงค์ ๖.๔ อุปสรรคจากสภาพแวดลอ้ มในการสือ่ สาร สภาพแวดล้อมจะมีผลต่อบรรยากาศในการสื่อสาร ส่งผลต่อสมาธิหรือความสนใจของ ผู้ส่งหรือผู้รับสาร เช่น มีฝนฟ้าคะนองขณะครูกำลังสอนหนังสือ มีเสียงดังรบกวนขณะกำลังอ่านหนังสือ แสงสว่างในห้องประชุมไม่เพียงพอ มีกลิ่นของกองขยะใกล้สถานที่อบรม ฯลฯ นอกจากสภาพแวดล้อม ดังกล่าวแล้ว ยังรวมถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ร่วมประบวนการสื่อสารด้วย อาจเป็นผู้ที่สนทนาอยู่ใกล้ๆ ผู้ที่แสดง ท่าทางล้อเลียน ดังนั้น ผู้สื่อสารจึงต้องมีสมาธิและให้ความสำคัญกับคู่สื่อสารของตนเองเพื่อให้ กระบวนการสือ่ สารนนั้ สำเรจ็ ๗. ประเภทของการส่ือสาร นักวิชาการด้านการสื่อสารมวลชน ได้จําแนกประเภทของการสื่อสารไว้แตกต่างกันหลายลักษณะ ทัง้ นี้ขึ้นอยูก่ บั วา่ จะใช้อะไรเป็นเกณฑใ์ นการจําแนก (ปรมะ สตะเวทนิ ๒๕๒๖ : ๑๘ – ๔๘ ) ๗.๑ จาํ แนกตามกระบวนการหรือการไหลของขา่ วสาร แบ่งเป็น ๒ ประเภทคอื ๗.๑.๑ การสอ่ื สารทางเดยี ว (One Way Communication) คือการสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว โดยไม่มีการตอบโต้ กลับจากฝ่ายผู้รับ เช่น การสื่อผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ การออกคําสั่งหรือมอบหมายงาน โดยฝ่ายผู้รับไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซึ่งผู้รับอาจไม่เข้าใจข่าวสาร หรือเข้าใจไม่ถูกต้องตามเจตนา ของผู้ส่งและทางฝ่ายผู้ส่ง เมื่อไม่ทราบปฏิกิริยาของผู้รับจึงไม่อาจปรับการสื่อสารให้เหมาะสมได้ การสื่อสารแบบนี้สามารถทําได้รวดเร็วและเหมาะสําหรับการสื่อสารในเรื่องที่เข้าใจง่าย ในบางสถานการณ์มีความจําเป็น ต้องใช้การสื่อสารทางเดียว แม้ว่าเรื่องราวที่สื่อสารจะมีความซับซ้อน ก็ตาม เช่น กรณีผู้รับผู้ส่งไม่อาจพบปะหรือติดต่อสื่อสารกันได้โดยตรง การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่และการ สื่อสารมวลชนซ่ึงม่อาจทราบผูร้ บั ท่แี นน่ อน ๗.๑.๒ การสื่อสารสองทาง (Two way Communication) คือการสื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร ดังนั้นผู้สื่อสาร แต่ละฝ่ายจึงเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับ ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อสารมีโอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหว่างกัน ทําให้ทราบว่าการสื่อสารบรรลุจุดประสงค์หรือไม่ และช่วยให้สามารถปรับพฤติกรรมในการสื่อสารให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ ตัวอย่างการสื่อสารแบบสองทาง เช่น การพบปะพูดคุยกันการพูดโทรศัพท์ การออกคําสั่งหรือมอบหมายงานโดยฝ่ายรับมีโอกาสแสดงความคิดเห็น การสื่อสารแบบนี้จึงมีโอกาส ประสบผลสําเร็จได้มากกว่า แต่ถ้าเรื่องราวที่จะสื่อสารเป็นเรื่องง่าย อาจทําให้เสียเวลาโดยไม่จําเป็น ในบางสถานการณ์ เชน่ ในการสื่อสารมวลชนซึง่ โดยปกตมิ ลี ักษณะเป็นการสือ่ สารทางเดยี ว - ๑๘ -
ภาษาไทยเพ่อื ส่อื สารในงานอาชพี รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ นักสื่อสารมวลชนก็มีความพยายามที่จะทําให้มีการสื่อสาร ๒ ทางเกิดขึ้น โดยการให้ประชาชน ส่งจดหมาย โทรศัพท์ ตอบแบบสอบถาม หรือการส่งข้อความทางหมายเลขโทรศัพท์ กลับไปยังองค์กร สือ่ มวลชน เพ่ือแสดงความคดิ เห็นในประเด็นตา่ งๆ นาํ ผลไปปรบั ปรงุ การสื่อสารให้บรรลุผลสมบรู ณย์ ง่ิ ขน้ึ ๗.๒ จําแนกตามภาษาสัญลักษณท์ ี่แสดงออก แบง่ เป็น ๒ ประเภท คอื ๗.๒.๑ การส่อื สารเชิงวัจนะ (Verbal Communication) หมายถึง การสื่อสารด้วยการใช้ภาษาพดู หรอื เขยี นเปน็ คาํ พูดในการส่อื สาร ๗.๒.๒ การสอ่ื สารเชิงอวัจนะ (Non-Verbal Communication) หมายถึง การสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น เช่น ภาษา ท่าทาง การแสดงออกทางใบหนา้ สายตาตลอดจนถงึ น้ำเสยี ง ระดบั เสยี งความเรว็ ในการพดู ๗.๓ จําแนกตามจาํ นวนผูส้ อ่ื สาร กิจกรรมต่างๆ ของบุคคลและสังคมถือว่าเป็นผลมาจากการสื่อสารทั้งสิ้น ดังนั้น การสื่อสารจึงมีขอบข่ายครอบคลุมลักษณะการสื่อสารของมนุษย์ ๓ ลักษณะคือ (อรุณีประภา หอมเศรษฐี ๒๕๓๐ : ๔๙ – ๙๐) ๗.๓.๑ การส่อื สารภายในตวั บคุ คล (Intrapersonal Communication) เป็นการสื่อสารของบุคคลคนเดียว เกิดขึ้นภายในตัวของบุคคล โดยมีระบบ ประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System) ควบคุมการสื่อสารและเป็นตัวทำให้การสื่อสารเกิดขึ้น ทำหน้าทเ่ี ป็นผสู้ ่งและผู้รบั สาร ประสาทสว่ นทท่ี ำหนา้ ทเ่ี ปน็ ผสู้ ง่ สารเรยี กวา่ “Motor Skills” ซง่ึ ประกอบ ด้วยกลไกในการออกเสียง (Vocal Mechanisms) ทำให้เกิดเสียงพูด เสียงร้องไห้ ฯลฯ ระบบกล้ามเนื้อ ทมี่ ือ (Muscle Systems in Hand) ทำใหเ้ กดิ ตวั หนังสอื ภาพ ฯลฯ ตลอดจนระบบกล้ามเน้อื ในสว่ นอื่น ๆ ของร่างกายซึ่งทำให้เกิดกิริยาท่าทาง ในขณะที่ประสาทส่วนที่ทำหน้าที่เป็นผู้รับสารเรียกว่า “Sensory Skills” ซึ่งประกอบด้วยกลไกในการได้ยิน (Hearing Mechanisms) และประสาทตาในการมองเห็น ตัวอย่างของการสื่อสารภายในตัวบุคคล ได้แก่ การพูดกับตัวเอง การร้องเพลงฟังคนเดียว การเขียน จดหมายแลว้ อ่านตรวจทานก่อนส่ง การนึกถึงงานท่ีจะทำ ฯลฯ ๗.๓.๒ การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication) ประกอบด้วย บุคคลตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป สื่อสารกันในลักษณะที่ทั้งผู้ส่งสาร และผูร้ บั สารสามารถแลกเปล่ยี นสารกนั ไดโ้ ดยตรง (Direct) และเป็นการส่ือสารแบบตวั ตอ่ ตัว (Person to Person) ดังนั้นการสื่อสารระหว่างบุคคลจึงเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีที่คน ๒ คนสื่อสารกัน เช่น การพูดคุยกัน การเขียนจดหมาย การส่งข้อความถึงกัน ในขณะเดียวกัน การสื่อสารระหว่างบุคคลนั้นอาจประกอบด้วย คนหม่มู าก หากคนเหลา่ น้นั สามารถส่อื สารกนั ไดท้ งั้ ในลกั ษณะโดยตรงและตวั ต่อตวั ๗.๓.๓ การสือ่ สารกลุม่ ใหญ่ (Large Group Communication) เป็นการสื่อสารที่ประกอบด้วยคนจำนวนมากซึ่งมารวมกันอยู่ในที่เดียวหรือ ใกล้เคียงกัน แต่ไม่สามารถสื่อสารกันโดยตรงหรือตัวต่อตัวได้ เนื่องจากจำนวนคนที่มากเกินไป เช่น การอภิปรายในหอประชุม การพูดหาเสียงเลือกตั้ง การสอนที่มีผู้เรียนจำนวนมากโดยอาศัยสื่อการสอน เคร่ืองขยายเสยี ง จอภาพขนาดใหญ่ ฯลฯ - ๑๙ -
ภาษาไทยเพ่ือสอื่ สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๗.๓.๔ การสอ่ื สารมวลชน (Mass Communication) เป็นการสื่อสารที่ถ่ายทอดความรู้ข่าวสารโดยสื่อมวลชน (Mass Media) ไปยัง ผู้รับจำนวนมาก มีความแตกต่างกันและไม่เป็นที่รู้จักของผู้ส่งสาร โดยผู้ส่งสารจะปฏิบัติงานในรูปของ องค์การที่สลับซับซ้อน มีการแบ่งงานกันทำอย่างกว้างขวางและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการค่อนข้างสูง เช่นวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพยนตร์ ฯลฯ และการสื่อสารประเภทนี้ อาจทำใหเ้ กิดปฏิกิรยิ าโต้ตอบเกดิ ข้ึนได้ยากและช้ากวา่ การสอ่ื สารประเภทอืน่ อย่างไรก็ตามอาจกล่าวได้ว่าการสื่อสารมวลชนเป็นผลผลิตของความก้าวหน้า ในด้านเทคโนโลยีและวิวัฒนาการของการสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งเกิดมาจากการคิดค้นหาเครื่องมือที่จะ ถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารไปยังมวลชน โดยใช้เวลารวดเร็วและไล่เลี่ยกัน สารที่ส่งออกไปมีลักษณะเป็น สาธารณะ มีความรวดเร็วแต่ไม่ยั่งยืน เป็นการสื่อสารที่มีความเหมาะสมสำหรับสังคมที่มีการขยายตัว และมคี วามสลับซบั ซอ้ นของส่อื และกล่มุ คนในสังคม ๘. การใช้สอ่ื สังคมเพอ่ื การสือ่ สารในปจั จุบนั ปัจจุบันกระแสการใช้สื่อสังคม (Social Media) และเครือข่ายสังคม (Social Networking) อย่าง Facebook, Twitter, Youtube หรือการใช้แอปพลิเคชัน Line, Instagram ฯลฯ ได้รับความนิยม สูงมาก ทั้งในรูปแบบการใช้ส่วนบุคคล โครงการ จนถึงระดับองค์กร มีการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ของ หน่วยงาน ด้วยผ่านสื่อสังคม เครือข่ายสังคมอย่างต่อเนื่อง และบุคลากรขององค์กรจำนวนมากสมัครเป็น สมาชิกเว็บไซต์ Facebook หรือสื่อสังคมต่างๆ และนำเสนอเนื้อหา ข้อมูลของตนเองผ่านสื่อประเภทนี้ ควบคู่กับเว็บไซต์หลักมีอยู่เดิม หน่วยงานต่างๆ มีการปรับบทบาทการบริการการประชาสัมพันธ์ ให้ทันต่อ เทคโนโลยี สามารถตอบรบั กับแนวคิดการประชาสมั พนั ธ์ และการบรกิ ารเชงิ รกุ มากข้ึน ภาพท่ี ๑.๙ การส่ือสารในยุคปจั จบุ ัน ท่ีมา : ณชิตา จิราณัฏฐกลุ - ๒๐ -
ภาษาไทยเพอ่ื ส่ือสารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ สื่อสังคม หรือเครือข่ายสังคม หรือสังคมออนไลน์ หมายถึง การเชื่อมโยงสื่อสารกันเป็นเครือข่าย ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นการสร้างเครือข่ายในการตอบสนองความต้องการทางสังคมที่มุ่งเน้นในการสร้างและ สะท้อนให้เห็นถึงเครือข่าย หรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ่มคนที่มีความสนใจหรือมีกิจกรรมร่วมกัน บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จะให้บริการผ่านหน้าเว็บ และให้มีการตอบโต้กันระหว่างผู้ใช้งาน ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ๘.๑ การนำเสนอภาพหรือการจัดทำคลังภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ในกรณีการประชุม สัมมนา การจัดกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร การเสนอขายสินค้า หากมีภาพประกอบจะสร้างความน่าสนใจ มากขนึ้ แต่ควรเผยแพรแ่ ละใช้คำอธบิ ายท่ีเหมาะสม ๘.๒ ไม่ควรนำภาพละเมิดลิขสิทธิ์มาเผยแพร่ เนื่องจากจะกระจายได้กว้างและรวดเร็วมาก อาจจะสร้างปญั หาต่างๆ แก่องคก์ รและตนเองได้ ๘.๓ การกลั่นกรองเนื้อหาเพื่อป้องกันการละเมิดปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจสอบข้อมูลก่อน เผยแพร่ ๘.๔ ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่คุณแบ่งปันใน Facebook, twitter หรืออื่น ๆ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองมากเกินไป เช่น วันเดือนปีเกิด อาชีพ นั้นจะเป็นช่องทาง ให้มิจฉาชีพ หรือผู้ประสงค์ร้าย นำข้อมูลของคุณไปใช้ในการยืนยันข้อมูลทางการเงิน หมายเลข โทรศพั ทม์ อื ถอื หรอื รายละเอยี ดของท่ีอยูอ่ าศัยได้ ๘.๕ การโพสต์แจ้งสถานะต่างๆ ผ่าน Check in ใน Facebook ว่ากำลังจะไปสถานที่ใด ไปกับ ผู้ใด เดินทางอย่างไร นานเท่าไร ฯลฯ การแชร์ข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นช่องทางแก่มิจฉาชีพหรือผู้ประสงค์ร้าย กับเราได้ ๘.๖ การล่อลวงหรือหลอกลวงผ่านสื่อสังคมจากเพื่อนที่เราไม่รู้จักซึ่งอาจจะมาทำความรู้จักด้วย จุดประสงค์ใดๆ ก็ตาม เราไม่ควรรับการติดต่อสื่อสารกับคนที่ไม่รู้จัก และต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนสื่อสาร และไมค่ วรไปพบเพ่ือนที่รู้จกั กันในสอื่ สังคมโดยท่ีไม่รู้จักภูมหิ ลังของบุคคลเหล่านนั้ ๘.๗ การโพสต์รูปสิ่งของที่มีค่า หรือสิ่งที่แสดงถึงทรัพย์สมบัติ ซึ่งทำให้เรากลายเป็นเป้าหมายใน การชิงทรัพย์ หรือการโพสต์รูปอิริยาบถส่วนตัวที่ล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ หรือนักถ้ำมอง (Stalker) ให้ติดตาม หรอื พยายามทำร้ายเรา เนอื่ งจากความช่ืนชมในเครือข่ายสังคมอาจจะเป็นการนำภยั มาส่ตู วั เองได้ ๘.๘ ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นที่นำมาสู่ความแตกแยก การโพสต์ข้อความซึ่งพาดพิง ถงึ บคุ คลที่ ๓ ในทางเสยี หาย ๘.๙ อย่าปักใจเชื่อสิ่งที่ได้ยิน หรือได้อ่านจากสื่อสังคม โดยเฉพาะข้อความที่ส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ หรือข่าวลือ อื่น ๆ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ควรมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนโดยหลักการ “ตรวจสอบก่อน ส่งต่อ” หรือ “Check –Sure – Share” ๘.๑๐ ระมัดระวังในการเชื่อมต่อบัญชีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ของคุณกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ได้รับจากบุคลอื่น เพราะอาจจะมีไวรัสหรือมีแอปพลิเคชันแปลกปลอมที่เข้าขโมยข้อมูลของคุณได้จาก เครือขา่ ยสังคมได้ - ๒๑ -
ภาษาไทยเพอ่ื สื่อสารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ใบงานที่ ๑.๑ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื งทศ่ี กึ ษา ความรู้พ้นื ฐานเกยี่ วกบั การส่ือสาร วัตถุประสงค์ องคป์ ระกอบของการส่อื สาร คำชี้แจง จำแนกองค์ประกอบของการสือ่ สารได้ ๑. ใหน้ ักศกึ ษาจบั กลุม่ จำนวน ๔ คน แต่ละกลุม่ ส่งตัวแทนกล่มุ ละ ๑ คน เพอ่ื เปน็ ผู้สงั เกตการณ์และประเมินผลงานรว่ มกบั ครู ๒. ให้นกั ศกึ ษาดูวดี ิทัศน์ช่ือ \"Forget me not\" [ภาพยนตร์โฆษณา ปี พ.ศ.๒๕๕๕] [Official TVC ๒๐๑๒ : Thai Life Insurance] ของบรษิ ทั ไทยประกันชวี ิต URL คอื https://www.youtube.com/watch?v=BqXYpZM๕๗-4&t=๘๗s ๓. สมาชิกในกล่มุ รว่ มกนั อภิปรายเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบของการส่อื สารจากเรอ่ื ง ท่ีกำหนดให้ ๔. นำผลงานเสนอหน้าช้นั เรียน ๕. ครูและเพอื่ นๆ รว่ มกันประเมนิ ผลงาน ๖. นำผลงานส่งครู ๗. ครแู ละนักศึกษารว่ มกันสรุปแนวคดิ เกีย่ วกบั องค์ประกอบของการส่อื สาร “Forget me not” อภปิ รายเกยี+ วกบั กบั ประเดน็ ต่างๆ ดงั นี7 ๑. ผู้ส่งสารและผู้รบั สารคอื ผู้ใด มีลักษณะอย่างไร ๒. ในการสือ่ สารมีการใช้สือ่ ในรปู แบบใดบา้ ง ๓. การสื่อสารนี้มีอปุ สรรคหรอื ไม่ อย่างไร - ๒๒ -
ภาษาไทยเพือ่ สื่อสารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ “Forget me not” แนวทางการอภิปรายกลมุ่ (จงเขยี นด้วยลายมือบรรจง) ๑. ผสู้ ่งสารและผู้รบั สารคอื ผู้ใด มีลักษณะอยา่ งไร ๒. ในการสอ่ื สารมีการใช้สื่อในรปู แบบใดบ้าง ๓. การส่อื สารนี้มอี ปุ สรรคหรือไม่ อยา่ งไร - ๒๓ -
ภาษาไทยเพื่อสอ่ื สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบประเมินการนำเสนอผลงาน (สำหรบั ครูและนกั ศกึ ษา) ใบงานท่ี ๑.๑ เร่ืององคป์ ระกอบของการสือ่ สาร หน่วยที่ ๑ ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ียวกับการส่ือสาร กลมุ่ ท่ี.............................. ระดบั ช้ัน................สาขางาน.............................. วนั /เดือน/ปี................. ที่ รายการประเมิน คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๑ เนือ้ หา (๖ คะแนน) คะแนน ๖ : มีครบทุกขอ้ ๑. เนอ้ื หาครบถ้วนสมบูรณ์ คะแนน ๕ : มี ๕ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ ๒. เนื้อหาถูกต้อง คะแนน ๔ : มี ๔ ขอ้ ขาด ๒ ข้อ ๓. เนอ้ื หามคี วามชัดเจนตรงประเดน็ คะแนน ๓ : มี ๓ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๔. เนอื้ หามีความต่อเน่อื ง คะแนน ๒ : มี ๒ ขอ้ ขาด ๔ ข้อ ๕. ลำดบั เนอ้ื หาได้เหมาะสม คะแนน ๑ : มี ๑ ขอ้ ขาด ๕ ขอ้ ๖. มีการคน้ คว้าเพ่มิ เติม คะแนน ๔ : มคี รบทกุ ข้อ ๒ การนำเสนอ (๔ คะแนน) คะแนน ๓ : มี ๓ ขอ้ ขาด ๑ ขอ้ ๑. การใชส้ ำนวนภาษาถูกต้อง คะแนน ๒ : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ขอ้ สละสลวย ๒. นำ้ เสยี งน่าฟัง ไมร่ าบเรยี บ คะแนน ๑ : มี ๑ ข้อ ขาด ๓ ขอ้ ๓. รปู แบบการนำเสนอน่าสนใจ ๔. ตรงตามกำหนดเวลา (ลงชอ่ื ).............................................ประเมนิ (.............................................) ............/................./............. - ๒๔ -
ภาษาไทยเพอื่ สือ่ สารในงานอาชพี รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (สำหรบั คร)ู ใบงานที่ ๑.๑ เร่ืององค์ประกอบของการสื่อสาร หนว่ ยท่ี ๑ ความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกับการสอ่ื สาร กลุ่มที.่ ................. ระดบั ชั้น................สาขางาน.............................. วัน/เดอื น/ป.ี ................ คำชแ้ี จง ๑. ครูผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ของนกั ศึกษาแตล่ ะคนทุกครัง้ ที่มกี ารปฏบิ ัตกิ จิ กรรม กลุม่ และทำเครอื่ งหมาย Ö ในช่องทตี่ รงกบั พฤตกิ รรมของนกั ศกึ ษาตามเกณฑ์การประเมิน ๒. นำผลการสังเกตไปเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ของนกั ศึกษา ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ รวม ๑ ความรว่ มมือในการทำงาน ๒ การแสดงความคิดเหน็ ๓ การรับฟังความคิดเห็น ๔ ความต้งั ใจในการทำงาน ๕ การมีส่วนร่วมในการวางแผน / อภปิ ราย (ลงชอ่ื ).............................................ผสู้ งั เกต (.............................................) ............./................./............. เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ปฏบิ ตั ิ = ๐ ไม่ปฏบิ ัติ = - ๒๕ -
ภาษาไทยเพ่อื ส่อื สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ใบงานท่ี หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เร่ืองท่ีศึกษา ความรพู้ ื้นฐานเกย่ี วกบั การสื่อสาร วตั ถุประสงค์ ๑.๒ คำช้แี จง การสอื่ สารในยคุ ปัจจุบัน บอกพฒั นาการของการส่ือสารได้ ๑. ให้นักศกึ ษาจับกลมุ่ จำนวน ๔ คน ๒. ชว่ ยกันคน้ คว้าข้อมูลเกย่ี วกับแอปพลเิ คชันทก่ี ำหนดให้ ๓. เขียนรายละเอียดของขอ้ มูลแอปพลเิ คชันนั้น ๔. นำผลงานเสนอหนา้ ช้นั เรียน ๖. ครแู ละเพื่อนๆ ร่วมกันประเมินผลงาน ๗. นำผลงานส่งครู แอปพลเิ คชันเก่ียวกบั ภาษาไทยท่ีนา่ สนใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ๒๖ -
ภาษาไทยเพื่อส่ือสารในงานอาชพี รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบประเมินการนำเสนอผลงาน (สำหรับครแู ละนกั ศึกษา) ใบงานท่ี ๑.๒ เร่ืองการใช้ส่อื สงั คมเพือ่ การสื่อสารในปจั จุบนั หน่วยท่ี ๑ ความรูเ้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับการส่ือสาร กลุม่ ที.่ ............................. ระดบั ชน้ั ................สาขางาน.............................. วนั /เดือน/ป.ี ................ ท่ี รายการประเมิน คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ เน้อื หา (๔ คะแนน) คะแนน ๔ : มีครบทกุ ขอ้ ๑. องคป์ ระกอบครบถว้ นสมบรู ณ์ คะแนน ๓: มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ข้อ ๒. เนอื้ หาถกู ต้อง คะแนน ๒: มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ขอ้ ๓. เน้ือหาต่อเนื่อง คะแนน ๑: มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ข้อ ๔. มกี ารคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ๒ กระบวนการทำงาน (๒ คะแนน) คะแนน ๒: มีครบทกุ ข้อ ๑. มกี ารวางแผนอยา่ งเป็นระบบ คะแนน ๑: มไี ม่ครบ ๔ ขอ้ ๒. การปฏิบตั ติ ามแผน คะแนน ๐: ไม่ปรากฏกระบวนการ ๓. ติดตามประเมินผล ทำงานที่ชดั เจน ๔. การปรับปรงุ พฒั นางาน ๓ การนำเสนอ (๒ คะแนน) คะแนน ๒ : มคี รบทุกขอ้ ๑. การใช้สำนวนภาษาดีถูกต้อง คะแนน ๑.๕: มี ๓ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ ๒. การสะกดคำและไวยากรณ์ถูกต้อง คะแนน ๑ : มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ข้อ ๓. รปู แบบนา่ สนใจ คะแนน ๐.๕ : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๔. ตรงตามกำหนดเวลา ๔ คุณธรรม (๒ คะแนน) คะแนน ๒ : มีครบทกุ ข้อ ๑. กระตอื รือร้น คะแนน ๑.๕: มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ ๒. ความมีน้ำใจ คะแนน ๑ : มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ขอ้ ๓. ความซ่อื สัตย์ คะแนน ๐.๕: มี ๑ ข้อ ขาด ๓ ข้อ ๔. ความรบั ผดิ ชอบ (ลงชอื่ ).............................................ผ้ปู ระเมนิ (.............................................) ............./................./............. - ๒๗ -
ภาษาไทยเพือ่ สือ่ สารในงานอาชพี รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ ๑ คำชแี้ จง ให้นักศกึ ษาตอบคำถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง ตอนที่ ๑ ให้นักเรียนใส่เครื่องหมาย P หน้าข้อความที่ถูกต้อง และใส่เครื่องหมาย Ï หน้าข้อความที่ไม่ ถกู ต้อง ………………๑. การสื่อสาร หมายถึง การนำถ้อยคำ ข้อความหรือหนังสือของอีกฝ่ายส่งให้อีกฝ่ายโดยมี หนังสือนำไป ...................๒. Line ,Facebook ,IG ,Twitter เปน็ การส่อื สารในยุคปจั จุบัน ...................๓. การตดิ ตอ่ สรา้ งความสมั พันธ์ในด้านต่างๆ กับประเทศ เช่น การคา้ การทหาร การทำสนธสิ ญั ญา เป็นความสำคญั ของการสือ่ สารดา้ นการปกครอง ...................๔. การสือ่ สารในยคุ เกษตรกรรมเปน็ การพัฒนาการของการส่ือสารยุคแรก ...................๕. การพมิ พ์โดยใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ สมยั กอ่ นพิมพด์ ว้ ยมือหรือเคร่ืองพมิ พด์ ดี ...................๖. ประเภทของการสอ่ื สารมี ๑ ประเภท คือการสอ่ื สารทางเดียว ……………….๗. องค์ประกอบของการสอ่ื สาร มี ผสู้ ง่ สาร สาร ส่อื ผรู้ ับสาร ปฏกิ ิรยิ าตอบกลับ ....................๘. อุปสรรคในการสื่อสาร หมายถึง สิง่ ท่ีทำให้การสอ่ื สารไม่บรรลวุ ตั ถุประสงค์ของผูส้ ง่ สาร และผรู้ ับสาร ………………..๙. การใช้ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า สายตา เปน็ การสอ่ื สารเชิงวจั น …………......๑๐. การประชาสมั พนั ธเ์ ปน็ การสอ่ื สารท่ีมีแตผ่ ้สู ่ือสารเปน็ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู ฝา่ ยเดยี ว - ๒๘ -
ภาษาไทยเพอ่ื ส่อื สารในงานอาชีพ รหัสวิชา ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ตอนที่ ๒ ใหน้ กั ศึกษานำตวั อกั ษรหน้าข้อความด้านขวามอื มาเตมิ ลงในชอ่ งว่างหนา้ ขอ้ ความดน้ ซา้ ยมือ ท่ีสัมพนั ธก์ นั ……………….. ๑. เปน็ การสอื่ สารเพื่อช้ีแจงขอ้ มลู ข่าวสาร ก. การส่ือสารเพือ่ เสนอหรอื ชกั จงู ใจ เรื่องราว เหตุการณ์ หรอื บอกกล่าวสื่ออนื่ ใด ข. การสอ่ื สารในยุคโบราณ ……………….. ๒. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกจิ สังคม และการเมือง ตลอดจนความกา้ วหนา้ ค. การสอ่ื สารในยคุ เกษตรกรรม ทางด้านเทคโนโลยี ง. การส่อื สารเพอ่ื แจ้งใหท้ ราบ ……………….. ๓. เป็นการส่ือสารท้งั ในรูปแบบของการพดู การเขยี น หรือการแสดงกริ ยิ าต่างๆ จ. ผู้สง่ สาร ……………….. ๔. การสอื่ สารด้วยอกั ษรภาพ และตัวอกั ษร ฉ. การส่ือสารเพอ่ื สอนหรอื ให้ ท่มี ลี ักษณะเป็นนามธรรมขึน้ เร่อื ยๆ การศกึ ษา ………………. ๕. เปน็ การให้ขอ้ เสนอแนะหรอื ชกั จูงในสิ่งใด ช. ผู้รบั สาร ส่งิ หนึง่ ตอ่ ผรู้ บั สาร ซ. การสือ่ สารเพอ่ื พอใจหรอื ให้ ………………. ๖. การสอื่ สารเพ่ือถ่ายทอดวชิ าความรู้ หรอื ความบนั เทงิ เรอื่ งราว เชิงวชิ าการ ฌ. การสอื่ สารในยคุ ปจั จบุ นั ………………. ๗. การส่ือสารทีม่ กี ารคน้ พบทาง วิทยาศาสตร์ เชน่ การไฟฟ้า ญ. การสือ่ สารในยคุ อตุ สาหกรรม อิเล็กทรอนกิ ส์ เครอ่ื งจกั รทนุ่ แรง เปน็ ต้น ……………….. ๘. การสอ่ื สารอยา่ งง่ายตามธรรมชาติของ การดำเนนิ ชวี ิต ……………… ..๙. บุคคลที่เปน็ จุดหมายปลายทางใน กระบวนการ สอ่ื สาร …………….. ๑๐. บคุ คล กลุ่มบคุ คล หรอื หนว่ ยงาน ทท่ี ำหน้าทีใ่ นการเปน็ แหลง่ กำเนิดสาร - ๒๙ -
ภาษาไทยเพอื่ สอ่ื สารในงานอาชีพ รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยท่ี ๑ คำชีแ้ จง จงทำเครื่องหมาย (X) ลงหนา้ ขอ้ ทีถ่ กู ตอ้ งทสี่ ุดเพยี งข้อเดยี ว ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การติดต่อส่ือสาร ก. แดงอา่ นทบทวนวชิ าภาษาไทย ข. ดำจอดรอสญั ญาณไฟที่ส่ีแยกตลาด ค. คณุ แม่อ่านสลากยาขา้ งขวดก่อนรบั ประทานอาหาร ง. คุณพ่อฟังข่าวโทรทัศนท์ ุกเช้าก่อนไปทำงาน จ. คุณปอู่ ่านหนังสอื ให้ดำฟงั ๒. ข้อใดให้ความหมายของคำวา่ “การส่อื สาร” ไดช้ ดั เจนท่ีสดุ ก. การส่งสารจากผรู้ ับไปยังผู้ส่ง ข. การส่อื ความร้สู กึ ไปยงั ผู้รบั สาร ค. การตดิ ตอ่ รบั รเู้ รือ่ งราวซึง่ กนั และกัน ง. การติดของมนุษยท์ มี่ ีสาร จ. การติดตอ่ ระหว่างมนษุ ย์และมกี ารตอบสนอง ๓. การฟงั นิทานหรือดนตรี เปน็ การฟังเพ่อื วัตถปุ ระสงคใ์ ด ก. เพ่อื แจง้ ให้ทราบ ข. เพือ่ การกระทำหรือตดั สินใจ ค. เพอ่ื เสนอหรือชักจงู ใจ ง. เพ่ือสรา้ งความพอใจหรือบนั เทิง จ. เพือ่ สอนหรอื ให้การศกึ ษา ๔. ในการประกาศข่าวรายการวทิ ยุ “ผ้สู ง่ สาร” หมายถึงขอ้ ใด ก. ผูฟ้ ังข่าว ข. ผูป้ ระกาศขา่ ว ค. ขา่ ว ง. สถานทีจ่ ัดข่าว จ. เครือ่ งประกาศขา่ ว ๕. การสื่อสารที่ดีนอกจากจะมีองค์ประกอบของการสื่อสารแล้วสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกประการหนึ่ง คือ ขอ้ ใด ก. ความชัดเจนของสาร ข. ความจรงิ ใจของผู้ส่งสาร ค. ความเข้าใจของผูร้ ับสาร ง. ระยะเวลาในการส่งสาร จ. สภาพแวดล้อมเพือ่ ผ้รู ับสารจะได้เข้าใจ - ๓๐ -
ภาษาไทยเพื่อสือ่ สารในงานอาชพี รหัสวชิ า ๓๐๐๐ – ๑๑๐๑ ๖. ขอ้ ใดเปน็ องค์ประกอบของการสื่อสารที่ถกู ต้อง ก. ส่อื การตอบสนอง ผสู้ ง่ สาร สาร ข. ผ้สู ่งสาร สอื่ การตอบสนอง ผรู้ ับสาร ค. ผสู้ ง่ สาร สาร ส่อื ผรู้ บั สาร การตอบสนอง ง. การตอบสนอง ภาษา สือ่ สาร ผ้สู ่งสาร จ. ผสู้ ง่ สาร การตอบสนอง ผู้รับสาร ภาษา สาร ๗. การส่อื สารจะมีอุปสรรคมากท่ีสุดถ้าผู้ส่งสารและผรู้ บั สารขาดคุณสมบตั ิข้อใด ก. ความรแู้ ละประสบการณ์ระหวา่ งบุคคล ข. การจดั เรียงลำดบั ของสาร ค. มารยาทในการสง่ สาร ง. สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการส่ือสาร จ. ความยากงา่ ยของสาร ส่ือ ท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร ๘. เมอื่ ผฟู้ งั รบั สารท่ีผูพ้ ูดส่งมาแลว้ เกิดความเลือ่ มใสศรทั ธา ผฟู้ งั อยใู่ นกระบวนการรบั สารใด ก. รบั รู้ ข. สนใจ ค. ตีความ ง. เข้าใจ จ. ตอบสนอง ๙. ลักษณะในข้อใด คอื “วจั นภาษา” ก .ท่าทางการบอกสาร ข. ภาพบอกเร่ืองราว ค. สัญลักษณ์สอื่ ความหมาย ง. ถ้อยคำไขความ จ. สายตาเป็นหน้าตา่ งหวั ใจ ๑๐. ขอ้ ใดเปน็ การส่งสารด้วยอวจั นภาษา ก. ออกญาหลวงหวั เราะรว่ น เม่ือได้ฟังเรอื่ งตลก ข. พี่หมน่ื กวกั มอื เรยี ก การะเกดก็เดนิ เข้ามาหา ค. เกศสุรางค์อ่านประวัติศาสตร์ นำ้ ตาเธอก็ไหลริน ง. ขุนเรืองเขยี นจดหมายหาแม่จันทรว์ าด จ. แม่ปรกิ ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย - ๓๑ -
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: