ก คำนำ ดว้ ยสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน ร่วมกับสถำบันเทคโนโลยพี ระจอมเกล้ำเจ้ำคุณทหำร ลำดกระบัง ได้จัดทำโครงกำรพัฒนำแนวคิดเชิงคำนวณโดยใช้เกมเป็นฐำน (Game-based Learning) สำหรับ ศึกษำนิเทศก์และครูจำกโรงเรียนคุณภำพประจำตำบล เพ่ือมุ่งเน้นให้นักเรียน สำมำรถพัฒนำกำรคิด ทักษะ กระบวนกำร ค่ำนิยม เจตคติ กำรเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐำน ทำให้ผู้เรียนเปลี่ยนแนวคิดเชิงนำมธรรมเป็นรูปธรรม สร้ำงแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกำรเรียนรู้ไปอย่ำงมีควำมหมำย (Meaningful Learning) ผู้เรียนเข้ำใจและ เหน็ ภำพเชอื่ มโยงชีวิตจรงิ ได้ พรอ้ มกับกำรพัฒนำทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ในกำรน้ีคณะนิเทศจึงขอรำยงำนผลกำรนิเทศ ติดตำมกำรจัดกำรเรียนรู้โครงกำรพัฒนำแนวคิดเชิง คำนวณโดยใช้เกมเป็นฐำน โรงเรียนคุณภำพประจำตำบล ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ หวังว่ำคงจะเป็นประโยชน์ และแนวทำงในกำรจัดกำรเรยี นรู้ตอ่ ไป คณะนเิ ทศ
สำรบญั ข เร่อื ง หน้ำ คำนำ ก สำรบญั ข ท่มี ำและควำมเป็นมำ 1 วตั ถปุ ระสงค์ 1 ขอบเขตกำรศกึ ษำ 1 เคร่อื งมอื ที่ใช้ในกำรศึกษำ 1 ระยะเวลำในกำรดำเนินกำร 1 กำหนดกำรนเิ ทศ 2 ผลกำรดำเนนิ กำร 2 สรุปผลกำรดำเนนิ กำร 5 ภำคผนวก 6 7 แบบบนั ทกึ กำรนิเทศ 12 คลปิ วดิ ีโอ 14 ประกำศผลกำรประกวดคลิปวดิ โี อ 20 ภำพกิจกรรม
รายงานการนเิ ทศ ติดตาม การจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาแนวคิดเชงิ คานวณ โดยใช้เกมเปน็ ฐาน (Game-based Learning) ความเปน็ มาและความสาคัญ รัฐบาลได้มอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนษุ ย์ โดยให้ความสาคัญกบั การส่งเสรมิ การเรียนคอมพิวเตอร์ (Coding) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา สร้างนักวิจัยใหม่และนวัตกรเพื่อเพ่ิมศักยภาพและนวัตกรรมของประเทศ ปัจจุบันระบบการศึกษาท่ัวโลกให้ ความสาคัญต่อการสอนเทคโนโลยีในโรงเรียน โดยเฉพาะการสอนวิทยาการคานวณ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เป็นการสร้างแนวคิดเชิงคานวณ (Computational thinking) ซ่ึงเป็นการคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้เป็นสิ่งสาคัญที่เด็กทุกคน ควรได้รับการปลูกฝังตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เพ่ือท่ีจะนาประเทศไปสู่การพัฒนาตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป กระทรวงศึกษาธิการได้มีการปรับ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง พ.ศ.2560) กาหนดให้วิทยาการ คานวณเป็นมาตรฐาน ว 4.2 ในสาระที่ 4 เทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และจัดให้มี คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการสอนภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) แห่งชาติ ซ่ึง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดาเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสอนวิทยาการ คานวณในระดบั ตา่ งๆ มาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้ดาเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาแนวคิดเชิงคานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-based Learning) สาหรับศึกษานิเทศก์และครูจากโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล โครงการดังกล่าว มุ้งเน้นให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการคิด ทักษะกระบวนการ ค่านิยม เจตคติ การเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน สามารถทาให้ผู้เรียนเปลี่ยนแนวคิดเชิงนามธรรมเป็นรูปธรรม สร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทาให้การเรียนเป็นไปอย่างมีความหมาย ผู้เรียนเข้าใจ เห็นภาพเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ พร้อมกับการพัฒนา ทักษะในศตวรรษท่ี 21 วตั ถุประสงค์ เพอ่ื นิเทศ ตดิ ตาม การจัดการเรียนการสอนตามแนวคดิ เชงิ คานวณ โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-based Learning) ขอบเขตการศกึ ษา ครผู ู้สอนรายวชิ าวทิ ยาการคานวณ โรงเรียนคณุ ภาพประจาตาบล จานวน 3 โรงเรยี น ได้แก่ โรงเรยี นบา้ นคานางโอก โรงเรียนชมุ ชนโพนทราย และโรงเรยี นบา้ นซง่ เครื่องมือในการศกึ ษา 1. แบบสงั เกตชน้ั เรียน การจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือพัฒนาแนวคดิ เชงิ คานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน 2. แบบประเมนิ กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาแนวคิดเชิงคานวณโดยใชเ้ กมเปน็ ฐาน ผา่ น YouTube ระยะเวลาในการดาเนนิ การ ระหว่างเดือน ธันวาคม 2563 ถงึ กมุ ภาพนั ธ์ 2564
๒ กาหนดการนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดเชิงคานวณโดยใชเ้ กมเปน็ ฐาน วนั /เดอื น/ปี โรงเรยี น เรอ่ื งทน่ี ิเทศ ผูน้ ิเทศ 1 ธ.ค. 63 - โรงเรยี นบา้ นคานางโอก 5 ม.ค. 64 โรงเรยี นชุมชนโพนทราย การจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ นายอดศิ ร ก้อนคา 5 ม.ค. 64 โรงเรียนบ้านซง่ นายจีรศกั ดิ์ ยาโน 28 ม.ค. 64 โรงเรยี นบ้านคานางโอก 29 ม.ค. 64 โรงเรียนชุมชนโพนทราย นายชยา ภาคภูมิ 10 ก.พ. 64 โรงเรียนบ้านซง่ สง่ แผนการจัดการเรียนรู้ 14 ก.พ. 64 โรงเรยี นบา้ นคานางโอก โรงเรยี นชมุ ชนโพนทราย นเิ ทศและสงั เกตชั้นเรยี น โรงเรียนบ้านซง่ สง่ คลปิ VDO โรงเรยี นบ้านคานางโอก โรงเรยี นชมุ ชนโพนทราย ประเมินคลิป VDO โรงเรียนบา้ นซง่ โรงเรยี นบา้ นคานางโอก โรงเรยี นชมุ ชนโพนทราย โรงเรียนบา้ นซง่ ผลการดาเนนิ การ ผลการนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดเชิงคานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-based Learning) ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านคานางโอก โรงเรียนชุมชนโพนทราย และโรงเรียนบ้านซ่ง สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาการ ดังนี้ 1. ผลการสงั เกตชัน้ เรยี นการจดั การเรยี นรู้ตามแนวคิดเชงิ คานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน 1. ช่อื ผู้รบั การนเิ ทศ นางสาวนิลุบล วาปี กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เรอ่ื งทีส่ อน เศรษฐกจิ พอเพียง ขัน้ เตรียมการสอน องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ครบถ้วน มีการจัดเตรียมสอ่ื ใบกิจกรรม ขั้นการจัดกจิ กรรม เครอ่ื งมือวัดและประเมินผล การเรยี นรู้ นาเขา้ สู่บทเรียนด้วยการสรา้ งสถานการณ์ ใชค้ าถามและส่ือกระตนุ้ ให้สงสยั แจ้งจดุ ประสงค์ก่อนการเรียนรู้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยการอธบิ าย ใช้เกมมาเป็น ผลลัพธ์ท่เี กดิ ขนึ้ ส่อื และมีการสะทอ้ นคดิ หลงั การเลน่ เกม สรุปองค์ความรู้และนาเสนอผลการเรียนรู้ วดั และประเมนิ ผลจากการมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมและประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น ผเู้ รียนมสี ่วนรว่ มในการลงมือปฏบิ ตั ิรว่ มวิเคราะหส์ ถานการณ์ แลกเปล่ียนความคิด กับผ้เู รียน ร่วมเลน่ เกมทกุ ขัน้ ตอนและสรุปบทเรยี นหลังเลน่ เกม มคี วามสนกุ สนานในการเรยี นรู้ จากเกมด้วยใบหนา้ ท่ยี ้มิ แยม้ มคี วามตง้ั ใจจนสาเรจ็ เมื่อเล่นเกมแพ้ก็ไมแ่ สดง
๓ การสะท้อนคิดหลงั การ พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม และมกี ารพฒั นาแนวคิดเชงิ คานวณ การแยกปญั หา/ สงั เกตการสอน สถานการณ์ได้ การจดจารปู แบบการแก้ปัญหา แนวคิดเชิงนามธรรม และข้ันตอนใน การแกป้ ัญหา ครูสะท้อนผลการสอนของตนเองวา่ ภาพรวมอยใู่ นระดบั ดี ยังมจี ดุ ทีค่ วรแก้ไขคือเวลา ท่ีใช้ในการจัดกิจกรรมน้อยเกินไป และจานวนใบงานที่มีมากเกนิ ไปทาใหน้ ักเรยี นทา ไมท่ นั ผู้นิเทศสะท้อนผลวา่ ผู้เรยี นมคี วามสขุ ในการเรยี นรู้ แตผ่ ลลพั ธใ์ นการเรยี น รู้อย่ใู นระดับปานกลาง เพราะผ้เู รยี นบางสว่ นยังไม่สามารถวางแผนและวิเคราะห์ สถานการณ์ไดเ้ ท่าที่ควร 2. ชอื่ ผูร้ ับการนิเทศ นายธรี พล การร้อย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดบั ชน้ั คณติ ศาสตร์ เรื่องทส่ี อน ประถมศึกษาปที ่ี 6 ข้ันเตรียมการสอน รปู เรขาคณติ สามมติ ิ องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรคู้ รบถว้ น มีการจัดเตรียมสื่อ ใบกจิ กรรม ขนั้ การจัดกจิ กรรม เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล การเรยี นรู้ นาเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการสร้างสถานการณ์ ใชค้ าถามและส่ือกระตุ้นให้สงสัย มีการแจ้งจดุ ประสงค์ก่อนการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยการอธบิ าย ผลลพั ธ์ที่เกดิ ขึ้น ใช้เกมมาเปน็ สื่อในการจัดการเรียนรู้ และสรุปผลการเรียนรู้และนาเสนอผลการ กับผูเ้ รยี น เรียนรู้ วดั และประเมนิ ผลจากการมีส่วนรว่ มกจิ กรรมและประเมนิ ผลงานผูเ้ รียน ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการลงมอื ปฏบิ ตั ริ ว่ มวิเคราะหส์ ถานการณ์ แลกเปลย่ี นความคิด การสะท้อนคดิ หลงั การ ร่วมเล่นเกมทกุ ขนั้ ตอนและสรุปบทเรียนหลังเลน่ เกม มีความสนกุ สนานในการเรยี นรู้ สงั เกตการสอน จากเกมด้วยใบหนา้ ทย่ี ิ้มแยม้ มคี วามต้งั ใจจนสาเรจ็ เม่ือเล่นเกมแพก้ ็ไม่แสดง พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม และมกี ารพัฒนาแนวคิดเชิงคานวณ การแยกปัญหา/ สถานการณ์ได้ การจดจารปู แบบการแก้ปญั หา แนวคิดเชิงนามธรรม และขน้ั ตอนใน การแก้ปัญหา ครูสะท้อนผลการสอนของตนเองว่าภาพรวมอย่ใู นระดับดี ยงั มีจุดทีค่ วรแกไ้ ขคือเวลา ทีใ่ ชใ้ นการจัดกจิ กรรมน้อยเกินไป ผู้เรยี นยงั ขาดการวางแผนและความคดิ สร้างสรรค์ ในการสรา้ งผลงาน ผนู้ ิเทศสะท้อนผลว่า ผูเ้ รียนมีความสนกุ สนานในการเรียนรู้ แต่ผลลัพธใ์ นการเรียนรู้อยู่ในระดบั ปานกลาง เพราะผ้เู รยี นบางส่วนยังไม่สามารถ วางแผนกอ่ นสรา้ งสรรค์ผลงานและผลงานยังไม่ความหลากหลายและสร้างสรรคไ์ ด้ เทา่ ทค่ี วร 3. ชอื่ ผู้รบั การนเิ ทศ นายพศวตั สุยะรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เรื่องทีส่ อน โซอ่ าหาร ข้นั เตรียมการสอน องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรูค้ รบถ้วน มีการจัดเตรียมส่ือ ใบกจิ กรรม เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล
๔ ข้นั การจัดกิจกรรม นาเขา้ สู่บทเรยี นด้วยการสร้างสถานการณ์ ใชค้ าถามและสื่อกระต้นุ ใหส้ งสัย การเรียนรู้ มีการแจง้ จุดประสงค์กอ่ นการเรียนรู้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยการอธบิ าย ใชเ้ กม มาเปน็ สื่อในการเรยี นรู้ และมีการสะทอ้ นคิดหลังการเลน่ เกม สรุปองค์ความรู้และ ผลลัพธ์ทเ่ี กดิ ขึน้ นาเสนอผลการเรยี นรู้ วัดและประเมินผลจากการมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมและประเมินผล กบั ผเู้ รียน งานผ้เู รียน ผูเ้ รียนมสี ่วนรว่ มในการลงมอื ปฏิบัติร่วมวเิ คราะห์สถานการณ์ แลกเปลยี่ นความคิด การสะท้อนคดิ หลงั การ รว่ มเลน่ เกมทกุ ข้ันตอนและสรุปบทเรยี นหลงั เล่นเกม มีความสนุกสนานในการเรียนรู้ สังเกตการสอน จากเกมด้วยใบหน้าที่ย้ิมแย้ม มีความตง้ั ใจจนสาเรจ็ เม่ือเล่นเกมแพ้ก็ไมแ่ สดง พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม และมกี ารพัฒนาแนวคดิ เชิงคานวณ การแยกปญั หา/ สถานการณ์ได้ การจดจารูปแบบการแก้ปัญหา แนวคดิ เชิงนามธรรม และขัน้ ตอนใน การแกป้ ัญหา ครสู ะท้อนผลการสอนของตนเองว่าภาพรวมอยใู่ นระดับดี ยังมจี ดุ ทีค่ วรแกไ้ ขคือเวลา ที่ใช้ในการจัดกจิ กรรมน้อยเกินไป ผูเ้ รียนบางสว่ นยงั ขาดทักษะการทางานกลมุ่ การนาเสนอ ผู้เรยี นบางสว่ นยังไม่เข้าใจในเน้ือหาในการเรยี นรู้ ผูน้ เิ ทศสะท้อนผลวา่ ผู้เรียนมีความสขุ และสนกุ สนานในการเรยี นรู้ แต่ด้านผลลัพธ์ควรอธบิ ายเพ่ิมเตมิ การ เขยี นแผนผังโซ่อาหารว่าเขยี นอย่างไร ใชส้ ญั ลักษณ์อยา่ งไรในการบรโิ ภคเป็นทอดๆ เพราะนักเรียนบางส่วนยงั ไม่ความเข้าใจในการเขยี น 2. ผลการประเมนิ กจิ กรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาแนวคิดเชิงคานวณโดยใช้เกมเปน็ ฐาน ผา่ น YouTube โรงเรียนบ้าน โรงเรยี นชมุ ชน โรงเรยี น โพนทราย บา้ นซง่ ท่ี รายการประเมิน คานางโอก 5 ด้านเน้อื หา 55 5 1 มคี วามเหมาะสม/สอดคล้องกับมาตรฐานตวั ชวี้ ดั 55 5 2 มีความถูกตอ้ งตามหลักวิชา ทนั สมัย 55 5 3 สนับสนนุ ความก้าวหนา้ เพ่มิ พนู ความรใู้ ห้แกผ่ ู้เรยี น 55 5 4 มีความยากงา่ ยเหมาะสมกบั ระดบั ชน้ั ของผเู้ รยี น 55 5 มกี ารจัดลาดบั ขั้นการนาเสนอทเ่ี หมาะสม เข้าใจง่าย 5 55 5 ด้านภาษา 55 5 6 ถกู ต้อง ชัดเจน 55 7 มคี วามเหมาะสมกับวยั หรอื ระดับชั้นของนักเรียน 4 8 อธิบายและส่ือความหมาย เข้าใจได้งา่ ย 44 4 44 4 ดา้ นเทคนิคการถา่ ยทา 44 4 9 การเลือกสถานท่สี าหรับการถ่ายทา 44 5 10 การเลือกพน้ื หลงั 54 11 การเลอื กตัวอักษร (แบบ ขนาด สี) 12 การจดั แสง 13 เสยี งบรรยาย (นา้ เสียง การออกเสยี ง อักขระ จงั หวะการอ่าน)
๕ ท่ี รายการประเมนิ โรงเรียนบา้ น โรงเรยี นชมุ ชน โรงเรียน คานางโอก โพนทราย บา้ นซ่ง 14 เสยี งดนตรี (ความชัดเจน ระดับความดงั ) 15 เสยี งประกอบ (ตรง สมั พันธ์เหมาะสมกับภาพและการบรรยาย 5 4 4 16 การดาเนนิ เรือ่ งน่าสนใจ ชวนให้ติดตาม 5 4 4 5 4 4 ด้านรปู ลักษณ์ของผู้สอน 17 การแต่งกายเหมาะสม 55 5 18 บุคลกิ ทา่ ทาง ชวนให้ตดิ ตาม 55 5 19 มรี ปู แบบการนาเสนอทน่ี ่าสนใจ 54 4 ด้านกิจกรรมประกอบ 45 5 20 สง่ เสริมความรู้ ความเข้าใจในบทเรยี น นาไปส่กู ารปฏบิ ัติได้ 55 5 21 ส่งเสริมใหเ้ กิดการมสี ว่ นร่วมของผเู้ รียน 55 5 22 สอดแทรกกจิ กรรมไดเ้ หมาะสม สอดคล้องกับเน้ือหา 45 5 23 สามารถนาไปปรบั ใช้ไดต้ ามบรบิ ทของโรงเรยี น 44 4 24 มีคาถามทา้ ทาย กระตนุ้ ความคดิ 44 4 25 ทาให้ผเู้ รยี นเกิดความสนุกสนาน 117 114 ดเี ยย่ี ม ดเี ยย่ี ม 115 รวม ระดับคุณภาพ ดีเย่ยี ม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั คุณภาพ ดเี ย่ียม ระดับคุณภาพ ดมี าก คะแนน 115 - 125 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 100 - 114 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 85 - 99 คะแนน ระดับคุณภาพ ต้องปรบั ปรงุ คะแนน 70 - 84 คะแนน คะแนน ตา่ กว่า 70 คะแนน สรปุ ผลการนิเทศ 1. ครผู สู้ อนสามารถจดั การเรียนรูเ้ พ่อื พฒั นาแนวคดิ เชงิ คานวณโดยใช้เกมเปน็ ฐาน (Game-based Learning) ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ 2. ครผู ู้สอนจัดทาคลปิ วิดโี อการจดั การเรียนร้เู พ่ือพฒั นาแนวคดิ เชิงคานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-based Learning) เผยแพร่ผา่ น YouTube ไดอ้ ยใู่ นระดบั ดีเยีย่ ม 3. ครูผู้สอนจัดทาคลปิ วดิ โี อการจัดการเรียนรู้เพือ่ พัฒนาแนวคิดเชิงคานวณโดยใชเ้ กมเป็นฐาน (Game-based Learning) เผยแพร่ผา่ น YouTube ได้รับรางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั ท่ี 2 ระดบั ภาค ตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน คือ โรงเรยี นบา้ นคานางโอก
๖ ภาคผนวก
๗ ภาคผนวก ก - แบบสงั เกตชน้ั เรยี น การจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่ือพัฒนาแนวคิดเชิงคานวณโดยใช้เกมเป็นฐาน - แบบประเมนิ กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือพฒั นาแนวคิดเชงิ คานวณ โดยใชเ้ กมเป็นฐาน (Game Based Learning) ผ่าน YouTube
๘ แบบสังเกตชนั้ เรยี น การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาแนวคดิ เชงิ คานวณโดยใชเ้ กมเปน็ ฐาน โรงเรยี น……………………………………………………………………………………………… ครงั้ ท…่ี …………………………………. ชื่อผ้สู อน………………………………………รายวชิ า…………………………………………………….ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่……….. แผนการจดั การเรยี นรู้ที่……………เรือ่ ง..................................................วนั ที่....................................................... ผู้สงั เกตช้ันเรยี น.................................................................................................................................................... ขน้ั ตอน การปฏิบัติ กจิ กรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ บนั ทึกเพ่มิ เติม ๑. การเตรยี มการสอน ไม่มี แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………….. 1.เตรียมการสอน มี มอี งค์ประกอบครบถว้ น ……………………………………………………….…….………………….. ……………………………………………………………..………………….. เตรียมส่อื ……………………………………………………………..………………….. เคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล ……………………………………………………………..………………….. ใบความรู้ ……………………………………………………………..………………….. ใบกจิ กรรม 2. การจดั กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ 2.1 ขน้ั นา ไมม่ ี สรา้ งสถานการณ์ ……………………………………………………………..………………….. กระตุ้นให้สงสัย ……………………………………………………….…….………………….. เขา้ สู่บทเรยี น มี ใช้คาถามกระตนุ้ (Learn to ……………………………………………………………..………………….. Question) ……………………………………………………………..………………….. 2.2 แจ้งจุดประสงคห์ รือ ไม่มี ใช้ส่ือกระตนุ้ ……………………………………………………………..………………….. เปา้ หมายการเรยี นรู้ มี อ่ืน ๆ…………………………….. ……………………………………………………………..………………….. 2.3 ข้ันการจัดกจิ กรรม ไมม่ ี ………………………………............................... ……………………………………………………………..………………….. การเรียนรู้ มี ………………………………............................... ……………………………………………………………..………………….. อธบิ าย ……………………………………………………………..………………….. สร้างแรงจูงใจให้ศกึ ษาค้นคว้า (Learn ……………………………………………………….…….………………….. to Search) …………………..…………………………………………………………….. สร้างกระบวนการใหน้ ักเรยี นลงมือ ………………………………………..……………………………………….. ปฏบิ ตั ิหรือคน้ หาคาตอบ ……………………………………………………………..………………….. (Learn to Construct) ……………………………………………………………..………………….. การใช้เกมมาเป็นส่อื การสอน ……………………………………………………………..………………….. การสะทอ้ นคดิ หลังการเล่นเกม ……………………………………………………….…….………………….. อนื่ ๆ ………………………... ……………………………………………………………..…………………. 2.4 ขัน้ สรปุ องค์ความรู้ ไม่มี สรา้ งกระบวนการสรปุ องค์ความรู้ ……………………………………………………………..………………….. มี สรุปผลการเรยี นรู้ และนาเสนอผลการ ……………………………………………………….…….………………….. เรยี นรู้ (Learn to Communicate) ……………………………………………………………..………………….. การเผยแพรแ่ ละใช้ประโยชน์ความรตู้ อ่ ……………………………………………………………..………………….. ตนเองและสงั คม (Learn to Service) ……………………………………………………………..………………….. นาเสนอรายละเอยี ดการตอ่ ยอด ……………………………………………………………..………………….. นวตั กรรม ……………………………………………………………..………………….. อ่ืน ๆ ………………………… ……………………………………………………….…….…………………..
๙ ๒.๕.การวดั และ ไมม่ ี การมีส่วนรว่ มกิจกรรม ……………………………………………………………..………………….. ประเมนิ ผล มี ผลงานผเู้ รียน ……………………………………………………….…….………………….. ๓.ผลลัพธท์ ี่เกิดขน้ึ กับผู้เรยี น ๓.1 การมีสว่ นรว่ มในการ ไม่มี รว่ มวิเคราะหส์ ถานการณ์ ……………………………………………………………..………………….. ร่วมแลกเปลี่ยนความคดิ ……………………………………………………….…….………………….. ลงมือปฏิบตั ิ มี ร่วมเล่นเกมทกุ ข้ันตอน ……………………………………………………………..………………….. ร่วมสรปุ บทเรียนหลงั เล่นเกม ……………………………………………………………..………………….. ๓.2 ความสนุกสนานใน ไมม่ ี อ่นื ๆ ……………………………………………………………..………………….. การเรียนรู้จากเกม มี รว่ มเล่นเกมดว้ ยใบหนา้ ทย่ี มิ้ แย้ม ……………………………………………………………..………………….. แจ่มใส ……………………………………………………………..………………….. เล่นเกมด้วยความมุ่งมัน่ ตงั้ ใจ จนสาเร็จ ……………………………………………………………..………………….. เมือ่ เลน่ เกมแพ้ก็ไม่แสดงอารมณ์ หรือ ……………………………………………………………..………………….. พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม ……………………………………………………………..………………….. ……………………………………………………………..………………….. ……………………………………………………………..………………….. ๓.3 ผลการพัฒนา ไม่มี การแยกปญั หา/สถานการณไ์ ด้ ……………………………………………………………..………………….. แนวคดิ เชิงคานวณ มี การจดจารปู แบบการแกป้ ัญหา ……………………………………………………….…….………………….. แนวคิดเชงิ นามธรรม ……………………………………………………………..………………….. ขน้ั ตอนในการแกป้ ญั หา ……………………………………………………………..………………….. ๔. การสะท้อนคิดหลังการสังเกตช้นั เรยี น ๔.๑ ครสู ะท้อนการสอน ไมม่ ี ผลลพั ธท์ ีเ่ กดิ กบั ผู้เรียน ……………………………………………………………..………………….. กิจกรรมทีต่ ้องปรบั แกไ้ ข ……………………………………………………….…….………………….. ของตนเอง มี การวดั และประเมินผลท่ีตอ้ งปรับแก้ ……………………………………………………………..………………….. เกม ……………………………………………………………..………………….. อืน่ ๆ ………………………… ……………………………………………………………..………………….. ๔.๒ ผนู้ ิเทศสะทอ้ น ไม่มี ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ ……………………………………………………………..………………….. ผลลัพธท์ เี่ กดิ กบั ผเู้ รียน มี ……………………………………………………….…….………………….. พฤติกรรมท่ีแสดงออก ……………………………………………………………..………………….. ……………………………………………………………..………………….. ……………………………………………………………..………………….. อ่ืน ๆ ………………………… ๔.๓ การสรุปประเดน็ ใน ไม่มี การตัง้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ ……………………………………………………………..………………….. การดาเนินการร่วมกัน มี การออกแบบกจิ กรรม ……………………………………………………….…….………………….. การเลอื กใชเ้ กม ……………………………………………………………..………………….. การวดั และประเมินผล ……………………………………………………………..………………….. อนื่ ๆ ………………………… ……………………………………………………………..………………….. …………………..…………………………………………………………….. ………………………………………..……………………………………….. ……………………………………………………………..…………….…….
๑๐ แบบประเมินกจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ พัฒนาแนวคิดเชงิ คานวณ โดยใช้เกมเปน็ ฐาน (Game Based Learning) ผา่ น YouTube ช่อื เจา้ ของผลงาน...................................................โรงเรียน............................................สพป.............................. ท่ี รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดมี าก ดี พอใช้ ต้อง (5) (4) (3) (2) ปรบั ปรุง(1) ด้านเน้อื หา 1 มีความเหมาะสม/สอดคลอ้ งกับมาตรฐานตัวชี้วัด 2 มีความถูกตอ้ งตามหลักวิชา ทนั สมยั 3 สนบั สนนุ ความกา้ วหนา้ เพมิ่ พนู ความรใู้ ห้แก่ผู้เรยี น 4 มคี วามยากง่ายเหมาะสมกับระดบั ชน้ั ของผเู้ รยี น 5 มีการจดั ลาดบั ขั้นการนาเสนอท่เี หมาะสม เขา้ ใจง่าย ด้านภาษา 6 ถกู ต้อง ชดั เจน 7 มคี วามเหมาะสมกับวยั หรือระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 อธิบายและสื่อความหมาย เข้าใจได้งา่ ย ดา้ นเทคนิคการถ่ายทา 9 การเลือกสถานทีส่ าหรบั การถ่ายทา 10 การเลือกพื้นหลงั 11 การเลือกตัวอกั ษร (แบบ ขนาด ส)ี 12 การจัดแสง 13 เสยี งบรรยาย (น้าเสยี ง การออกเสียง อกั ขระ จงั หวะการอ่าน) 14 เสียงดนตรี (ความชัดเจน ระดับความดงั ) 15 เสียงประกอบ (ตรง สมั พนั ธเ์ หมาะสมกับภาพและการบรรยาย 16 การดาเนนิ เรอ่ื งนา่ สนใจ ชวนใหต้ ิดตาม ด้านรปู ลักษณข์ องผู้สอน 17 การแต่งกายเหมาะสม 18 บคุ ลิก ทา่ ทาง ชวนใหต้ ิดตาม 19 มรี ูปแบบการนาเสนอทน่ี า่ สนใจ ด้านกจิ กรรมประกอบ 20 สง่ เสรมิ ความรู้ ความเข้าใจในบทเรียน นาไปสู่การปฏิบตั ิได้ 21 สง่ เสรมิ ให้เกิดการมสี ว่ นรว่ มของผูเ้ รยี น 22 สอดแทรกกิจกรรมได้เหมาะสม สอดคลอ้ งกับเนื้อหา 23 สามารถนาไปปรบั ใช้ไดต้ ามบรบิ ทของโรงเรยี น 24 มคี าถามทา้ ทาย กระตนุ้ ความคดิ 25 ทาให้ผูเ้ รยี นเกิดความสนกุ สนาน
๑๑ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน 115 - 125 คะแนน ระดับคุณภาพ ดเี ย่ียม คะแนน 100 - 114 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดีมาก คะแนน 85 - 99 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 70 - 84 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน ตา่ กวา่ 70 คะแนน ระดบั คุณภาพ ต้องปรบั ปรุง สรปุ ผลการประเมิน ได้คะแนน.....................................คะแนน ระดับคณุ ภาพ............................................. ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพฒั นา ดา้ นเนอ้ื หา ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ด้านภาษา ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ดา้ นเทคนิคการถา่ ยทา ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ดา้ นรปู ลักษณ์ผู้สอน ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................................................................................... ....................... ........................................................................................................... ................................................................ ด้านกิจกรรมประกอบ ............................................................................................................................. .............................................. .............................................................................................................................. ............................................. ........................................................................................................................................................................... ลงขอ่ื ผปู้ ระเมนิ ................................................................. (........................................................) สพป.............................................................
๑๒ ภาคผนวก ข คลิปวดิ โี อสื่อการเรียนรูเ้ พ่อื พฒั นาแนวคดิ เชงิ คานวณโดยใช้เกมเปน็ ฐาน ผา่ น YouTube
๑๓ ภาพประกอบ ลงิ ค์ (Link) https://youtu.be/ap9BcpY-tpE https://youtu.be/HUv00l9J8x8 https://youtu.be/mpXv1VgY9nI
๑๔ ภาคผนวก ค ประกาศรายช่อื ผู้ที่ได้รับรางวัล โครงการพฒั นาแนวคดิ เชิงคานวณโดยใชเ้ กมเปน็ ฐาน (Game – based Learning) ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี1-6
๑๕ ประกาศรายช่อื ผู้ที่ไดร้ ับรางวัล โครงการพัฒนาแนวคิดเชิงคานวณโดยใชเ้ กมเปน็ ฐาน (Game – based Learning) ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี1-6
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐ ภาคผนวก ง รปู ภาพกจิ กรรมการนเิ ทศ ตดิ ตามการจดั การเรียนรูโ้ ครงการพัฒนาแนวคิดเชิงคานวณใชเ้ กมเปน็ ฐาน
๒๑ ภาพกจิ กรรมการสังเกตช้นั เรยี นโรงเรียนชมุ ชนโพนทราย สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร
๒๒ ภาพกจิ กรรมการสงั เกตชั้นเรียนโรงเรยี นบา้ นคานางโอก สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร
๒๓ ภาพกิจกรรมการสงั เกตช้นั เรยี นโรงเรียนบ้านซ่ง สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษามกุ ดาหาร
๒๔
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: