224 3. สามเหลี่ยมมุมฉาก ABC มีมุม BAC เปนมุมฉาก และกําหนดความยาวของดานดังรูป จงหาความ ยาวของดาน A วธิ ที าํ ABC เม่อื AB เปนฐาน พ้ืนท่สี ามเหลย่ี มคือ 1 x6x8 = 24 − − − − −1 2 ABC เม่อื BC เปน ฐาน พื้นท่สี ามเหลีย่ ม คอื 1 x10xa − − − − − − − 2 2 สมการที่ 1 = สมการที่ 2 จะได 1 x10xa = 24 2 ดงั นน้ั a = 4.8 หนว ย 4. จงหาพื้นที่ของสวนที่แรเงาของไมฉากรูปสามเหลี่ยม ซึ่งมีขนาดตามรูป (ความยาวที่กําหนดมี หนว ยเปน เซนติเมตร) 30 วิธีทํา พืน้ ทส่ี ามเหลีย่ มรปู นอก = 1 x30x25 = 375 ตารางหนวย ตารางหนวย 2 พ้นื ท่ีสามเหลย่ี มรูปใน = 1 x24x20 = 240 2 ดงั นัน้ พ้ืนท่ีสวนท่ีแรเงามีพนื้ ท่ีเทา กับ 375 – 240 = 135 ตารางหนว ย
225 แบบฝกหัดท่ี 4 1.1 พ้นื ทร่ี ปู สเี่ หลย่ี มจัตุรัส = ดา น x ดา น = 8 x 8 = 64 ตารางเซนตเิ มตร 1.2 พ้ืนที่รปู สเ่ี หลยี่ มจัตุรสั = 1 x ผลคูณของเสนทแยงมุม = 1 ( 12×12 ) = 72 ตาราง 22 เซนตเิ มตร 1.3 พน้ื ที่รูปสเ่ี หล่ียมผืนผา = กวาง x ยาว = 4 x 7 = 28 ตารางเซนตเิ มตร 1.4 พ้ืนที่สี่เหลยี่ มดานขนาน = ฐาน x สูง = 12 x 8 =96 ตารางเมตร 1.5 พ้ืนท่สี ่ีเหล่ียมคางหมู = 1 x ผลบวกดานคูขนาน x สงู = 1 x(5 +11)x6 = 48 ตารางเมตร 22 1.6 พ้นื ทร่ี ปู สี่เหลยี่ มขนมเปยกปูน = 1 x ผลคูณของเสนทแยงมุม = 1 x12x8 = 48 ตารางเมตร 22 1.7 พ้นื ทรี่ ูปส่ีเหลีย่ มรปู วาว = 1 x ผลคูณของเสนทแยงมมุ = 1 x8x10 = 40 ตารางเมตร 22 1.8 พ้นื ท่รี ูปส่ีเหลี่ยมรูปวาว = 1 x ผลคูณของเสน ทแยงมมุ = 1 x7x12 = 42 ตารางเมตร 22 1.9 พื้นที่รปู สี่เหลย่ี มใดๆ = 1 x เสนทแยงมุม x ผลบวกของเสนกิ่ง = 1 x10x(5 + 7) = 60 22 ตารางเมตร 2. จงหาพื้นที่สวนที่แรงเงา ตัวเลขที่เขียนกํากับไวถือวาเปนความยาวของดานและมีหนวยความยาว เปน เมตร วธิ ีทาํ พนื้ ท่ีสามเหล่ียมรูปเล็ก = 1 x4x4 = 8 ตารางเมตร 2 พืน้ ท่ีสามเหลี่ยมรปู ใหญ = 1 x8x6 = 24 ตารางเมตร 2 จะเห็นวา พน้ื ทีส่ วนที่แรเงามีพนื้ ทเ่ี ทา กบั 24 – 8 = 16 ตารางเมตร
226 วิธีทํา พ้ืนทสี่ ี่เหลีย่ มรูปใหญ = 50x40 = 2,000 ตารางเมตร พ้ืนท่สี เ่ี หล่ียมรปู เล็ก = 44x34 = 1,496 ตารางเมตร จะเหน็ วา พื้นท่สี ว นท่แี รเงามีพ้ืนท่เี ทา กับ 2,000 – 1,496 = 504 ตารางเมตร แบบฝก หัดท่ี 5 1. จงหาพน้ื ทส่ี วนที่แรเงา ตวั เลขทเ่ี ขยี นกํากบั ดานมหี นว ยเปน เซนตเิ มตร และจดุ O, Q แทนจดุ ศูนยก ลางของวงกลม 1.1 วธิ ีทํา พื้นทสี่ ามเหลย่ี ม รูป 1 = 1 x8x3 = 12 พ้นื ท่ีสเี่ หล่ียม รปู 2 2 ดงั นนั้ พื้นท่ีทแ่ี รเงาท้งั หมด = 1 x10x8 = 40 2 = 12 + 40 = 52 ตารางหนวย
227 1.2 วธิ ีทํา พืน้ ทวี่ งกลม = 22 x3.5x3.5 พ้นื ทีท่ ่ีแรเงาท้ังหมด 7 = 38.5 ตารางหนวย 1.3 วธิ ที าํ พน้ื ทีว่ งกลม = 22 x7x7 = 154 ตารางหนวย พ้นื ที่สเ่ี หล่ียม 7 พ้นื ทท่ี แี่ รเงาทง้ั หมด = 14 x 14 = 196 = 196 – 154 = 42
228 1.4 11 2.5 2 6 วิธีทํา พ้ืนทีส่ ามเหลีย่ มรปู ท่ี 1 = 2.5 พน้ื ทีส่ ามเหลยี่ มรปู ที่ 2 = 1x6=6 พืน้ ท่ีสามเหลีย่ มรูปท่ี 3 = 2x1=2 1x6=6 ดงั น้นั พื้นทีแ่ รเงาท้ังหมด = 6+2+6 = 14 ตารางหนวย 1.5 วิธีทาํ พนื้ ทีส่ ี่เหลย่ี มรูปท่ี 1 = 4 x 5 = 20 พื้นทสี่ ามเหลยี่ มรูปท่ี 2 = 1 x4x3 = 6 2 ดังนัน้ พ้ืนทีท่ ้ังหมด = 20 + 6 = 26 ตารางหนว ย 1.6 วิธีทํา พนื้ ที่สามเหลยี่ มรปู ท่ี 1 = พื้นที่สามเหลี่ยมรูปที่ 2 พื้นที่สามเหลย่ี มรูปท่ี 1และรูปที่ 2 = 1 x3x2x2 = 6 พน้ื ทส่ี ่เี หลย่ี มรูปที่ 3 2 ดังนนั้ พ้นื ท่ีส่ีเหลี่ยมทัง้ หมด = 5 x 3 = 15 = 6 + 15 = 21 ตารางหนว ย
229 แบบฝก หัดท่ี 6 1. แผนผังบา นหลังหนึง่ มีลักษณะและขนาดดงั รปู ถา บริเวณทีแ่ รเงาตอ งการเทปูนซีเมนต โดยเสยี คาใชจายตารางเมตรละ 250 บาท จะตองเสียคาใชจายทั้งหมดกี่บาท กําหนดความยาวมีหนวยเปน เซนตเิ มตร วธิ ที ํา พืน้ ทีส่ ่ีเหลย่ี มรปู ท่ี 1 = 1x2 = 2 ตารางเมตร พ้ืนที่ส่ีเหลี่ยมรูปท่ี 2 = 1x3 = 3 ตารางเมตร 3 ตารางเมตร พนื้ ทีส่ ี่เหลย่ี มรปู ท่ี 3 = 1.5 x 2 = 8 ตารางเมตร 250 บาท ดงั น้นั พ้ืนทส่ี วนที่แรเงา = 2+3+3 = 2,000 บาท ตองการเทปูนซีเมนตโดยเสียคาใชจายตารางเมตรละ จะตอ งเสยี คาใชจายทั้งหมด = 250 x 8 = 2. ตอ งการตดั เส้ือตัวหนง่ึ มีลักษณะดังรูป จะตองใชผา กตี่ ารางเมตร (ไมคิดตะเข็บ) ความยาวที่ กาํ หนดมหี นวยเปน เซนตเิ มตร
230 วิธที าํ พืน้ ท่ีสเ่ี หล่ยี มสว นแขนเสื้อ สว นที่ 1= ( 1 x (0.2+0.3) x 0.15) = 0.0375 ตารางเมตร 2 พน้ื ท่ีสเ่ี หลี่ยมสว นแขนเสอื้ สว นท่ี 2= ( 1 x (0.2+0.3) x 0.15) = 0.0375 ตารางเมตร 2 พ้ืนท่สี ีเ่ หลีย่ มสวนทเ่ี ปนลําตัว = 0.4 x 0.4 = 0.16 ตารางเมตร พนื้ ทีท่ งั้ หมด คือ 0.0375 + 0.0375 + 0.16 = 0.235 จะตอ งใชผ า 2 ชิน้ จะตอ งใชผาท้งั หมด 0.235 x 2 = 0.47 ตารางเมตร แบบฝกหดั ท่ี 7 1. จงคาดคะเนเวลาหรือชวงเวลาใหเหมาะสมกับสถานการณตอไปนี้ 1.1 5.00 นาฬกิ า 1.2 12.00 นาฬกิ า 1.3 หนาว , ธนั วาคม 2. จงวงกลมลอมรอบขอที่เหมาะสมที่สุด สําหรับใชหนวยในการคาดคะเน ระยะทาง น้ําหนัก หรือ ขนาดของสิ่งตอไปนี้ 2.1 ข 2.2 ข 2.3 ก 2.4 2.4.1 ค 2.4.2 ก 2.4.3 ข 2.4.4 ข 2.5 2.5.1 ข 2.5.2 ก 3. ทางหลวงสายพหลโยธินกรุงเทพฯ-แมสาย ยาว 952 กิโลเมตร รถประจําทางปรับอากาศวิ่งบน ทางหลวงสายนต้ี ลอดเสน ทางดว ยอตั ราเรว็ 80-100 กิโลเมตรตอ ชวั่ โมง 3.1 10 – 12 ชวั่ โมง 3.2 4.00 – 6.00 3.3 24.00 – 2.00
231 4. ลฟิ ตของโรงแรมแหง หน่ึงบรรทกุ ผูโดยสายไดเ ท่ียวละไมเ กิน 10 คน (600 กิโลกรัม) บางครั้งมี ผโู ดยสารเขา ลิฟตเ พียง 8 คน ลฟิ ตจ ะมีเสียงเตือน บางครัง้ มีผูโดยสาร 12 คน ลิฟตไ มม ีเสียงเตอื นยัง ใชงานไดเปนเพราะเหตุใด จงอธิบาย ตอบ ถานํ้าหนกั ของคน 8 คน รวมกันเกนิ 600 กโิ ลกรมั ถา นํ้าหนกั ของคน 12 คน รวมกันไมเ กนิ 600 กโิ ลกรมั 5. ทางหลวงสายเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-บานคลองพราน จังหวัดนราธิวาส) 1,352 กโิ ลเมตร ทาง หลวงสายมิตรภาพ (กรงุ เทพฯ-จงั หวดั หนองคาย) 508 กิโลเมตร ทางหลวงสายสุขุมวิท (กรุงเทพฯ- จงั หวดั ตราด) 400 กโิ ลเมตร 5.1 ระยะทาง 1,352 + 508 = 1,860 กโิ ลเมตร ใชอัตราเร็ว 90 – 100 กิโลเมตร ตอช่วั โมง จะใชเ วลาประมาณ 19 – 22 ชั่วโมง 5.2 ใชเวลา 1,352 = 13.52 ชั่วโมง จะถึงนราธิวาสเมื่อเวลาประมาณ ตี 2 100 5.3 ใชเวลา 400 = 5 ชว่ั โมง 1,400 กโิ ลเมตร 80 5.4 ทางหลวงเพชรเกษม ประมาณ ทางหลวงมิตรภาพ ประมาณ 500 กโิ ลเมตร ทางหลวงสุขุมวิท ประมาณ 400 กโิ ลเมตร
232 แบบฝกหดั ที่ 1 เฉลย บทที่ 6 พนื้ ทีผ่ วิ และปริมาตร 1. จงหาพน้ื ที่ผวิ และปรมิ าตรของปรซิ มึ ตอไปนี้ วิธีทํา ปริมาตร = พน้ื ที่ฐาน x สงู = 1 x8x3x5 = 60 ลูกบาศกเซนติเมตร 2 วธิ ีทํา ปริมาตร = พื้นทีฐ่ าน x สูง = 1 x12x2x4 = 48 ลูกบาศกเซนติเมตร 2 แบบฝกหัดที่ 2 1. จงหาปริมาตร และพื้นที่ผิวทั้งหมดของทรงกระบอกสูง 10 เซนตเิ มตร มีเสน ผา นศูนยก ลาง 14 เซนตเิ มตร วธิ ที าํ ปริมาตร = ¶r2h = 22 x7x7x10 = 1,540 ลูกบาศกเซนติเมตร 7 พืน้ ท่ีฐาน = ¶ r 2 = 22 x7x7 = 154 ตารางเซนตเิ มตร พ้นื ที่ผวิ ขาง = 7 2¶rh = 2x 22 x7x10 = 440 ตารางเซนตเิ มตร 7
233 ดงั น้นั พน้ื ทีผ่ ิวทั้งหมด คือ 440 + (154 x 2) = 748 ตารางเซนตเิ มตร 2. จงหาปริมาตรของทรงกระบอกใบหนึ่งที่มีรัศมีของฐาน 3.5 น้ิว และสูง 5 นิ้ว วธิ ที าํ ปริมาตร = ¶r2h = 22 x3.5x3.5x5 = 192.5 ลูกบาศกน ว้ิ 7 3. จงหาปรมิ าตรและพื้นทีผ่ วิ ท้ังหมดของถังเกบ็ นา้ํ รปู ทรงกระบอกใบหน่งึ ท่มี รี ัศมีท่ีฐาน 3 เมตร สงู 4 เมตร 90 เซนตเิ มตร วธิ ที าํ ปริมาตร = ¶r2h = 22 x3x3x4.9 = 138.6 ลูกบาศกเมตร พ้ืนที่ผิวขา ง = 7 2¶rh = 2x 22 x3x4.9 = 92.4 ตารางเมตร พ้ืนท่ีฐานทัง้ 2 ขาง = 7 ดังนัน้ พ้นื ท่ีผิวทั้งหมด = 2 x (3.14)x 3x 3 = 56.52 ตารางเมตร 92.4 + 56.52 = 148.92 ตารางเมตร แบบฝก หัดท่ี 3 1. จงหาปริมาตรและพน้ื ท่ผี วิ ทั้งหมดของพีระมิดทสี่ งู 6 เซนตเิ มตร ฐานเปนรูปสี่เหล่ยี มจัตุรัส ยาว ดา นละ 16 เซนตเิ มตร วธิ ที ํา หาสงู เอยี ง จากสตู ร c2 = a2 + b2 พ้ืนทฐี่ านสี่เหลี่ยมจัตุรัส = c2 = 82 + 62 = 256 ตารางเซนตเิ มตร C = 10 512 ตารางเซนตเิ มตร 16 x 16 320 ตารางเซนตเิ มตร 576 ตารางเซนตเิ มตร ปริมาตรพีระมิด = 1 x พน้ื ทีฐ่ าน x สงู 3 = 1 x256x6 = 3 พ้ืนท่ผี ิวเอยี ง = 1 x(4x16)x10 = ดงั น้นั พืน้ ท่ีผิวท้ังหมด = 2 256 + 320 =
234 2. จงหาพื้นที่ผิวเอียงของพีระมิดฐานรูปหกเหลี่ยมดานเทา มุมเทา ยาวดานละ 4 เซนติเมตร สูงเอียง 7.5 เซนตเิ มตร วิธที าํ พ้นื ที่ผิวเอียง = 1 x ความยาวรอบฐาน x สงู เอยี ง 2 = 1 x (4 x 6) x 7.5 = 90 ตารางเซนติเมตร 2 = 2 x 6 x 7.5 แบบฝก หัดที่ 4 1. จงหาปริมาตร และพื้นที่ผิวทั้งหมดของกรวยกลมที่สูง 24 เซนติเมตร มีเสนผานศูนยก ลาง 14 เซนตเิ มตร วธิ ีทํา ปริมาตร = 1¶r2h 3 = 1 x 22 x7x7x24 37 = 1,232 ลูกบาศกเซนติเมตร สงู เอยี ง = A2 = 242 + 72 = 625 A = 25 พื้นทฐี่ าน = ¶ r 2 = 22 x7x7 = 154 ตารางเซนตเิ มตร พื้นท่ีผวิ เอียง = 7 ¶rl = 22 x7x25 = 550 ตารางเซนตเิ มตร = 704 ตารางเซนตเิ มตร 7 ดังนน้ั พนื้ ที่ผิวทัง้ หมด = 154 + 550 2. จงหาปริมาตรและพื้นที่ผิวทั้งหมดของกรวยกลมที่สูงเอียง 5 เซนตเิ มตร มเี สนผา นศูนยกลาง 8 เซนตเิ มตร (ตอบในรูป π) วิธีทาํ หาสงู ตรง c2 = a2 + b2 ปริมาตร = a2 = 52 − 42 = 16 ¶ ลูกบาศกเซนติเมตร พ้ืนทผี่ วิ เอียง = a =3 = 1 ¶r2 h 3 1 ¶ 42 x3 3 ¶rl
235 = ¶ (4)(5) = 20 ¶ ตารางเซนติเมตร พ้ืนทฐี่ าน = ¶r2 = 16 ¶ ตารางเซนติเมตร = ¶ 42 = 36¶ ตารางเซนติเมตร พืน้ ทผี่ วิ ท้งั หมด = 20 ¶ + 16¶ 3. จงหาปริมาตรจรวดทรงกระบอกมีปลายเปนกรวย มีเสนผานศูนยกลาง 14 เซนติเมตร ความยาว ทรงกระบอก 30 เซนตเิ มตร ความสงู ยอดกรวย 12 เซนตเิ มตร วิธีทํา ปริมาตรทรงกระบอก = ¶r2h ปริมาตรทรงกรวย ปริมาตรทั้งหมด = 22 x7x7x30 = 4,620 ลูกบาศกเซนติเมตร 7 = 1¶r2h 3 = 1 x 22 x7x7x12 = 616 ลูกบาศกเซนติเมตร 37 = 4,620 + 616 = 5,236 ลูกบาศกเซนตเิ มตร แบบฝก หดั ท่ี 5 1. จงหาปริมาตรและพื้นที่ผิวของทรงกลมซึ่งมีเสนผานศูนยกลาง 14 เซนตเิ มตร วิธีทาํ ปริมาตรทรงกลม = 4 ¶r3 เซนตเิ มตร 3 พ้นื ทผ่ี วิ ทรงกลม = 4 × 22 × 7× 7× 7 = 1,437.3 ลูกบาศก 37 = 4¶ r 2 = 4 x 22 x7x7 = 616 ตารางเซนติเมตร 7
236 2. ทรงกลมมีปริมาตร 38,808 ลูกบาศกเ ซนติเมตร จงหารศั มแี ละพ้นื ท่ผี วิ วิธีทาํ ปริมาตรทรงกลม = 4 ¶r3 พื้นทผ่ี ิวทรงกลม 38,808 = 3 4 x 22 xr 3 r3 = 37 r= 38,808× 3× 7 = 4× 22 21 เซนตเิ มตร 4¶ r 2 = 4x 22 x21x21 = 5,544 ตารางเซนติเมตร 7 3. ทรงกลมมพี ื้นท่ผี ิว 616 ตารางนว้ิ จงหาปริมาตรของทรงกลม วิธที าํ พ้ืนทผี่ ิวทรงกลม = 4¶ r 2 616 = 4 × 22 × r 2 7 r 2 = 616 × 1 × 7 4 22 r = 7 เซนตเิ มตร ปริมาตรทรงกลม = 4 ¶r3 3 = 4 × 22 × 7 × 7 × 7 37 = 1,437.33 ลูกบาศกเซนติเมตร 4. โลหะกลมลกู หน่ึง รศั มีภายนอก 21 เซนติเมตร รศั มีภายใน 7 เซนตเิ มตร จงหาปรมิ าตรเนอ้ื โลหะ วิธีทํา ปริมาตรทรงกลมรูปนอก = 4 ¶r3 3 = 4 × 22 × 21× 21× 21 37 = 38,808 ลูกบาศกเซนตเิ มตร ปริมาตรทรงกลมรูปใน = 4 ¶r3 ดงั นน้ั ปรมิ าตรเน้ือโลหะ 3 = 4 × 22 × 7 × 7 × 7 37 = 1,437.33 ลูกบาศกเซนติเมตร = 38,808 - 1,437.33 = 37,370.67
237 แบบฝก หดั ท่ี 6 1. สระแหง หนง่ึ เปน รูปสเ่ี หล่ียมผืนผา กนสระกวาง 5 วา ลกึ 3 เมตร ยาว 15 เมตร ถาใชเครอ่ื งสบู น้าํ ออกจากสระไดนาทีละ 9,000 ลติ ร จะตองใชเ วลาสบู นํ้าเทาไร วธิ ที าํ ปรมิ าตรสระนาํ้ = กวาง x ยาว x ลึก = 10 x 15 x 3 ลูกบาศกเมตร = 450 ลูกบาศกเมตร 1 ลูกบาศกเมตร = 1,000,000 ลูกบาศกเซนติเมตร = 450 x 1,000,000 = 450,000,000 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 ลติ ร = 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร = 450,000,000 = 450,000 ลติ ร สบู น้ําออกจากสระไดนาทีละ = 1,000 9,000 ลติ ร ตอ งใชเ วลาสูบน้ํา = 450,000 = 50 นาที 9,000 2. อางเลี้ยงปลาทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากกวาง 90 เซนตเิ มตร ยาว 1.2 เมตร จุนํา้ 540 ลิตร ตองการปู กระเบ้ืองภายในอา งดวยแผนกระเบอื้ งรปู สีเ่ หลีย่ มจัตุรัส ยาวดา นละ 10 เซนติเมตร ตองใชก ระเบอ้ื ง อยางนอยทีส่ ุดเทาไร วธิ ีทาํ อา งเลย้ี งปลาจุน้ํา 540 ลติ ร คดิ เปน 540 x 1,000 = 540,000 ลูกบาศกเซนติเมตร หาความลึกอางเลี้ยงปลาจาก 540,000 = 90 x 120 x ลึก ความลึก = 540,000 = 50 เซนตเิ มตร 90 ×120 หาพ้นื ทอ่ี า งเลีย้ งปลาดา นท่ี 1 = 50 x 90 = 4,500 ตารางเซนตเิ มตร หาพืน้ ท่ีอา งเลยี้ งปลาดา นท่ี 2 = 50 x 90 = 4,500 ตารางเซนตเิ มตร หาพน้ื ทอ่ี างเลยี้ งปลาดา นที่ 3 = 50 x 120 = 6,000 ตารางเซนตเิ มตร หาพน้ื ที่อางเล้ียงปลาดา นที่ 4 = 50 x 120 = 6,000 ตารางเซนติเมตร หาพ้นื ท่อี างเลย้ี งปลาดานท่ี 5 = 90 x 120 = 10,800 ตารางเซนติเมตร หาพ้ืนทีอ่ างเลย้ี งปลาดานท่ี 6 = 90 x 120 = 10,800 ตารางเซนติเมตร ดังนน้ั พืน้ ที่อา งเลี้ยงปลาท้ังหมด = 4,500 +4,500 +6,000 +6,000 + 10,800 +10,800= 42,600 ตารางเซนติเมตร หาพน้ื ที่กระเบ้ือง = 10 x 10 = 100 ตารางเซนติเมตร ดงั น้ันตองใชก ระเบ้ือง = 42,600 = 426 แผน 100
238 3. นา้ํ ยาบวนปากขวดหนึ่งปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลติ ร ใชอ มปวนปากครง้ั ละ 10 มลิ ลิลติ ร วันละ 2 คร้งั จะใชไ ดก ว่ี นั วิธที าํ น้ํายาบวนปากขวดหนง่ึ ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลลิ ิตร ใชน าํ้ ยาบว นปาก ครงั้ ละ 10 มลิ ลลิ ิตร วนั ละ 2 ครัง้ = 10 x 2 = 20 มิลลิลติ ร จะใชไ ดท ้ังหมด = 700 = 35 วนั 20 4. ถังน้ําทรงลูกบาศกยาวดานละ 2 เมตร จุนํา้ ไดก ลี่ ิตร วธิ ีทาํ ถังน้ําทรงลูกบาศก มีความจุ = 2x2x2 = 8 ลูกบาศกเมตร 8,000,000 ลูกบาศกเซนติเมตร คิดเปน = 8 x 1,000,000 = 8,000 ลติ ร จุน้ําได = 8,000,000 = 1,000 5. ถังทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากวัดภายในกวาง 90 เซนตเิ มตร ยาว 1.50 เซนติเมตร สงู 1.20 เมตร บรรจนุ า้ํ เต็มถัง ถาตองการตวงน้าํ มนั จากถงั ใสแกลอนซึ่งมีความจุ 4.5 ลิตร จะไดน้าํ ทัง้ หมดกี่แกลอน วธิ ีทาํ ถังทรงสี่เหลี่ยมมีปริมาตร = 90 x 150 x 120 = 1,620,000 ลูกบาศกเซนติเมตร สามารถจุน้ําได = 1,620,000 และแกลอน 1 ใบสามารถจุน้ําได 1,000 = 1,620 ลติ ร = 4.5 ลติ ร ดังน้ัน นาํ้ 1,620 ลิตร สามารถจุได = 1,620 = 360 แกลอน 4.5
239 แบบฝกหัดที่ 7 1. ถงั เก็บนา้ํ มันของปม แหงหนง่ึ เปนรปู ทรงกลม มีเสนผา นศูนยก ลาง 7 เมตร ตองการทาสีครึ่งทรงกลม บน โดยเสียคาทาสีตารางเมตรละ 40 บาท ตองเสียคาทาสีกี่บาท วธิ ที าํ พื้นทผี่ ิวทรงกลม = 4¶ r 2 พน้ื ท่ผี ิวคร่ึงทรงกลม = 1 x 4¶ r 2 เสียคาทาสีตารางเมตรละ 2 จะเสียคาทาสี = 1 × 4 × 22 × 3.5 × 3.5 27 = 77 ตารางเมตร = 40 บาท = 77 x 40 = 3,080 บาท 2. หินออนทรงลูกบาศกมีขนาดดานละ 2.1 เมตร ถาตองการกลึงใหเปนรูปทรงกลมใหมีขนาดเสน ผานศูนยกลางเทากับความยาวของดานลูกบาศก จะหาวาจะตองกลึงหินออกไปปริมาตรเทาใด วิธีทํา ปริมาตรลูกบาศก = ดา น3 ปริมาตรทรงกลม = 2.1 x 2.1 x 2.1 = 9.261 ลูกบาศกเมตร จะตอ งกลงึ ออก = 4 ¶r3 3 = 4 × 22 × 2.1 × 2.1 × 2.1 3 7 2 2 2 = 4.851 ลูกบาศกเมตร = 9.261 – 4.851 = 4.41 ลูกบาศกเมตร
240 3. นําแทงตะกั่วทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากกวาง 8 นว้ิ ยาว 11 น้ิว หนา 5 นว้ิ ไปหลอมเปน ลูกปน ทรงกลม ขนาดรัศมี 1 นวิ้ จะหลอมไดก่ลี ูก วิธีทาํ ปริมาตรของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก = 8 x 11 x 5 = 440 ลูกบาศกนว้ิ ปริมาตรลูกปนทรงกลม 1 ลกู = 4 ¶r3 จาํ นวนลกู ปน ทไ่ี ด 3 = 4 × 22 × (1)3 37 = 88 ลูกบาศกน ว้ิ 21 = 440 ÷ 88 21 = 440 × 21 88 = 105 ลูก
241 เฉลยบทท่ี 7 คอู นั ดับและกราฟ แบบฝก หดั ท่ี 1 1. จงเขยี นคอู ันดบั จากแผนภาพทก่ี าํ หนดใหต อไปน้ี 1.1 (1,-1), (2,-2), (3,-3), (4,-4) 1.2 (1,c), (2,b), (3,a) , (4,d) 1.3 (1,0), (2,-1), (3,-2), (4,-3),(5,-4) 2. จงหาคา x และ y จากเง่ือนไขท่ีกาํ หนดใหใ นแตละขอ ตอไปน้ี 2.1 x = 4 , y = 3 2.2 x = y , y = 2 2.3 x = 6 , y = 0 2.4 x = 4 , y = 4 แบบฝก หดั ที่ 2 B= (-1,2) C= (-4, -2) D=(1,-1) 1.1 A = ( 1,3) B= (-3,1) C= (4, 0) D=(3,-4) 1.2 A = ( 0,2)
242 2.1
243 2.2 แบบฝกหดั ที่ 3 กราฟขางลางแสดงการเดินทางของอนุวัฒนและอนุพันธ 3.1 2 ชัว่ โมง 3.2 3 ชั่วโมง 3.3 320 กโิ ลเมตร 3.4 2 ช่ัวโมง 3.5 160 กโิ ลเมตร
244 เฉลย บทท่ี 8 ความสัมพันธร ะหวา งรูปเรขาคณิตสองมติ แิ ละสามมิติ แบบฝก หัดที่ 1 1. จงบอกชนิดของรูปเรขาคณิตสามมิตทิ ีม่ ีรูปคล่ีดงั ตอไปนี้ 1. พรี ะมิดฐานสามเหลี่ยม 2. ปรซิ ึมสเ่ี หลี่ยม หรอื ทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก 3. พรี ะมนิ ฐานหกเหล่ยี ม 4. ปริซึมหา เหลย่ี ม 2. จงเขียนรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติในแตละขอตอไปนี้
245
246 แบบฝก หัดท่ี 2
247 แบบฝกหัดท่ี 3 จงจับคูภ าพดานหนา ดานขา ง และดา นบน ในแตล ะขอตอไปนี้กบั รูปเรขาคณิตสามมิติที่ กําหนดใหทางขวามือ โดยเลอื กตวั อกั ษรท่ีกาํ กบั ไวในรปู เรขาคณติ สามมิติ เขียนเตมิ ลงในชอ งวาง บนขวาของแตละขอ ค ก
248 ข จ ง
249 2. จงเขยี นภาพดา นหนา ดา นขา ง และดา นบนของรูปเรขาคณิตสามมติ ิตอไปน้ี พรอมท้ังเขยี น จาํ นวนลูกบาศกก ํากบั ไวใ นตารางสี่เหลยี่ มจตั ุรัส
250 แบบฝกหดั ที่ 1 เฉลย บทที่ 9 สถติ ิ ขอท่ี ขอ ความ ขอมลู สถิติ เปน ไมเ ปน 1 แดงสงู 163 เซนติเมตร 2 นางสาวิภาวมี ีสว นสดั เปน 35-24-36 3 นา้ํ หนกั ของนกั เรยี นทุกคนท่ีเรยี นชดุ การเรยี นทางไกล 4 อณุ หภูมิท่ีจงั หวัดปทุมธานีวันนีว้ ดั ได 25 องศาเซลเซยี ส 5 สมศรไี ดค ะแนน 15 คะแนน ในการโยนเหรยี ญ 10 คร้งั เกิดหวั 6 ครั้ง เกดิ กอ ย 4 ครัง้ ได 6 อัตราสวนทจี่ ะเกิดหัว 6 10 7 อาจารยศุภราเงินเดือน 23,000 บาท 8 ความสูงเฉลี่ยของประชาชนที่เปนชาย 162 เซนตเิ มตร 9 คน 6 คน เปนชาย 4 คน เปนหญิง 2 คน ท่ีอยูใ นบานวิชัย 10 จาํ นวนคดอี าชญากรรมในป 2551 ซึ่งรวบรวมมาจากบันทึกคดี อาชญากรรมแตละวันในแตละสถานีตํารวจ 2. ใหผูเรียนพจิ ารณาขอมลู ในแตล ะขอ ตอไปนี้ แลวเขียนเครื่องหมาย ลงในชองที่ตรงกับ ความคิดเห็น ขอมลู สถติ ิ ขอท่ี ขอความ ขอ มูล ขอมูล คุณภาพ ปริมาณ 1 สถิติคนไขแยกตามเชื้อโรคของโรงพยาบาลแหงหนึ่ง 2 จํานวนครั้งของการโทรศัพททางไกลจากแตละเครอื่ งใน สํานักงาน 10 เครื่อง ในวนั หน่งึ 3 ผูจดั การถูกสมั ภาษณถ งึ จํานวนเปอรเ ซ็นตข องเวลาทํางานท่ีใชใ น การประชุม 4 เครื่องสําอางโดยเฉพาะสีของสีทาปาก ซึ่งแตละบริษัทใน 10 บรษิ ัท ไดระบุวามยี อดขายมากที่สดุ
251 3. ใหผเู รยี นพิจารณาขอความตอไปน้ี แลวเติมคําตอบลงในชองวางตามความคิดเห็นของผูเรียนวา เปนขอมูลปฐมภมู ิ หรือทตุ ยิ ภมู ิ 3.1 ทุติยภมู ิ 3.2 ปฐมภูมิ 3.3 ทตุ ิยภูมิ 3.4 ปฐมภูมิ 3.5 ทตุ ยิ ภูมิ แบบฝกหัดที่ 2 1. แผนภมู ิรปู วงกลมแสดงรายไดข องหา งสรรพสนิ คา แหง หนง่ึ โดยเฉลย่ี ตอ วัน จาํ แนกตามแผนก ตา งๆ 1.1 นอ ยกวา 0.86 % 1.2 รายไดจากแผนกเครื่องสําอางนอ ยทส่ี ดุ คดิ เปน 12.87% ของรายไดจ ากแผนกที่รายไดม ากทส่ี ดุ 1.3 51.43% 1.4 แผนกเครอ่ื งเขยี นแบบเรยี น คดิ เปน 20.11% ของรายไดทั้งหมด
252 2. จากการสอบถามงบประมาณที่แตละกลุมสาระการเรียนรูไดมาจากการจัดสรรงบประมาณของ ทางโรงเรยี น เปน ดงั น้ี กลมุ สาระการเรียนรู งบประมาณ จาํ นวนเปอรเ ซน็ ต ขนาดของมุมท่ีจดุ ศูนยก ลาง (บาท) ของรปู วงกลม (องศา) คณิตศาสตร 35,000 35,000 ×100 = 10.29 35,000 × 360 = 37.06 340,000 340,000 วิทยาศาสตร 100,000 29.41 105.88 ภาษาตางประเทศ 48,000 14.12 50.82 ภาษาไทย 34,500 10.15 36.53 ศิลปะ 18,500 5.44 19.59 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40,500 11.91 42.83 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 29,500 8.68 31.24 สังคมศึกษา ศาสนา และ 34,000 10.00 36.0 วฒั นธรรม 3. จงเขยี นแผนภมู ริ ปู วงกลมโดยใชจ าํ นวนเปอรเซน็ ตแ ละขนาดของมุมที่จุดศูนยกลางของรูป วงกลมที่คํานวณไดจากตารางขางตน
253 4. ใหผ ูเรยี นพิจารณากราฟเสนตอไปน้ี 4.1 พ.ศ. 2529 , พ.ศ. 2531 , พ.ศ. 2533 4.2 พ.ศ. 2529 แตกตา งกนั ประมาณ 28,000 ลูกบาศกเมตร 4.3 ปรมิ าณไมสักและไมประดูที่ผลติ จะลดลงเร่ือยๆ แตปริมาณไมประดูจะมีการเปลี่ยนแปลง มากกวา 4.4 ไมส ักผลิตได 26,000 ×100 = 76.47% ของไมประดู 34,000 4.5 ปทีผ่ ลิตไดม ากท่สี ุด คอื พ.ศ. 2530 คอื 52,000 ลูกบาศกเมตร ปท ีผ่ ลติ ไดน อยสดุ คอื พ.ศ. 2533 คือ 5,000 ลูกบาศกเมตร ดังนั้น ทงั้ สองปนีต้ างกันอยู 52,000 – 5,000 = 47,000 ลูกบาศกเมตร 5. ตารางแสดงรายรับ – รายจายของนาย ก ในรอบ 6 เดอื นแรกของป พ.ศ. 2546 เปน ดังน้ี
254 จากตารางนาํ เสนอขอมลู ดว ยกราฟเสน ไดด งั น้ี แบบฝกหัดที่ 3 1. จากขอมูล 2, 6,1, 5, 13, 6, 16 จงหาคาเฉลี่ยเลขคณิต ฐานนิยม และมัธยฐาน คา เฉลีย่ เลขคณติ = 7 มธั ยฐาน = 4 ฐานนยิ ม = 6 2. จากขอมูล 24, 16,18, 36, 7, 28, 6, 36, 12 จงหาคา เฉลี่ยเลขคณติ ฐานนยิ ม และมัธยฐาน คา เฉลยี่ เลขคณติ = 20.33 มธั ยฐาน = 18 ฐานนยิ ม = 36 3. จากขอมูล 10.1, 13.8, 15.6, 4.5, 18.6, 8.4 จงหาคาเฉลี่ยเลขคณิต ฐานนิยม และมัธยฐาน คาเฉลยี่ เลขคณติ = 11.83 มธั ยฐาน = 11.95 ฐานนยิ ม = -
255 แบบฝกหดั ที่ 4 1. จากตารางใหนักเรียนหาความถี่สะสม โดยเติมลงในชองความถี่สะสม มัธยฐาน = 45 ฐานนยิ ม = 45 คา เฉลย่ี เลขคณติ คอื 44.72
256 3. ตอไปนี้เปนตารางแจกแจงความถี่ของน้ําหนัก (หนว ยเปนกโิ ลกรมั ) ของนกั เรยี น 60 คน หาความถี่สะสมไดดังนี้ 2) ฐานนิยมของน้ําหนักอยใู นชว งใด ตอบ 40 -44 3) โดยสว นใหญน กั เรยี นหนักอยใู นชว งใด ตอบ 40 -44 4). ถาเรียงน้ําหนกั นอ ยทส่ี ดุ ไปยังน้ําหนักมากที่สุด จงหาตําแหนงของมัธยฐาน ตอบ มธั ยฐานอยูระหวางน้ําหนกั ของคนที่ 30 และ 31 5) นักเรียนคิดวามธั ยฐานของนํ้าหนักอยูในชวงใด ตอบ 40 -44
257 6) หาคาเฉล่ยี เลขคณิต ใหนักเรยี นเติมคาตางๆ ลงในชองวางใหสมบูรณ
258
259 เฉลย บทที่ 10 ความนาจะเปน แบบฝก หดั ที่ 1 1. ใหผูเรียนพิจารณาการทดลองสุมตอไปนี้วาผลจากการทดลองสุมอาจเปนอยางไรบาง 1.1 อาจได หัว หรอื กอ ย 1.2 อาจไดห ัวท้งั 2 เหรียญ หรอื ได หัว และ กอย หรอื อาจไดก อ ยท้ังสองเหรยี ญ 1.3 อาจไดลูกปง ปองสเี หลืองสองลกู หรอื สเี หลือง 1 ลกู และสแี ดง 1 ลูก 2. จงเขียนผลที่อาจจะเกิดขึ้นไดทั้งหมดจากการหมุนแปนวงกลมที่มีหมายเลข 1 และ2 แลว มาโยน เหรียญบาท 1 อัน ตอบ H,1 H,2 T,1 T, 2 3. จงเขียนผลทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นไดจากการหยิบสลาก 1 ใบ จากสลากที่เขียนหมายเลขตั้งแต 10 ถึง 20 ไว ตอบ 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 แบบฝกหดั ท่ี 2 1. ทอดลูกเตา 1 ลกู 1 ครั้ง จงเขียน 1.1 1, 2, 3, 4, 5,6 1.2 1, 2, 3, 4, 5 1.3 3, 6 2. ทอดลูกเตา 2 ลกู พรอมกัน 1 คร้ังจงเขยี น 2.1 {(1,1),(1,2),(1,3),(1,4),(1,5),(1,6), (2,1),(2,2),(2,3),(2,4),(2,5),(2,6), (3,1),(3,2),(3,3),(3,4),(3,5),(3,6), (4,1),(4,2),(4,3),(4,4),(4,5),(4,6), (5,1),(5,2),(5,3),(5,4),(5,5),(5,6), (6,1),(6,2),(6,3),(6,4),(6,5),(6,6)} 2.2 (2,6), (3,5), (4,4), (5,3) (6,2) 2.3(4,6), (5,5), (5,6), (6,4),(6,5),(6,6) 2.4 (1,1),(1,2), (2,1)
260 2.5 (1,1), (1,3),(1,5),(2,1),(2,2),(2,4),(2,6), (3,1),(3,3),(3,5),(4,2),(4,4),(4,6), (5,1),(5,3),(5,5),(6,2),(6,4),(6,6) 2.6 ไมมี หรือ เปน เหตุการณท่เี ปนไปไมได 3. จากการสอบถามถึงปกรายงานที่ผูเรียนชอบ 2 สี ในจํานวน 5 สี คือ สขี าว สีฟา สีชมพู สี เขยี ว และสเี หลือง จงเขยี น 3.1 (สีขาว,สีฟา ), (สีขาว,สีชมพ)ู , (สีขาว,สีเขยี ว), (สีขาว,สเี หลอื ง), (สีฟา ,สีชมพู), (สีฟา, สีเขยี ว), (สฟี า,สเี หลอื ง), (สชี มพู,สเี ขียว), (สีชมพ,ู สเี หลอื ง), (สเี ขยี ว,สเี หลอื ง) 3.2 (สีขาว,สีฟา), (สีขาว,สีชมพ)ู , (สีฟา ,สีชมพ)ู , (สฟี า,สีเขียว), (สฟี า ,สเี หลอื ง), (สชี มพ.ู สีเขียว), (สีชมพู,สเี หลอื ง) แบบฝก หัดที่ 3 15 10 2. 1 6 3. 5 7 4. 1 52 5. 26 52 6. 6 36 7. ไมมี 8. 100 ใบ 9. 1 4 10. 6 12 แบบฝกหดั ที่ 4 จากโจทยต อไปน้ใี หนักเรียนตอบวาใครไดเ ปรียบ 1. ใหนักเรียนทาํ ลูกบาศกห นึ่งลกู แลวเขยี นเลข 1 ทีห่ นาหนงึ่ ของลกู บาศก เขียนเลข 2 ทห่ี นาอกี สองหนา สวนอกี สามหนา ที่เหลือเขยี น 3 ใชก ตกิ าตอ ไปนตี้ ัดสนิ การแพ ชนะ เสมอในการโยน ลูกบาศกทีท่ ําข้นึ นี้คนละครั้ง 1.1 ไมม ีใครไดเ ปรียบเสยี เปรยี บ 1.2 ผูเลน คนที่สองไดเปรยี บ
261 เฉลย บทที่ 11 เร่อื ง การใชทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรในงานอาชีพ 1. บัญชีรับจายประจําวันของนายสมพร ซึ่งประกอบอาชีพเปนผูขายปาทองโกในเวลา 5 วนั วัน เดอื น ป รายการรบั จาํ นวนเงนิ วนั เดือน ป รายการจา ย จาํ นวนเงนิ บาท สต. บาท สต. 1 ต.ค. 54 - ยอดเงินคงเหลือ 8,000 - 1 ต.ค. 54 - ซื้อแปงสาลีและ 2,500 - วัตถดุ บิ อ่ืน ๆ ยกมาจากเดือน 350 - - คา แกส หงุ ตม 270 - กันยายน 2554 4,800 - - คาอาหาร 840 - - ไดรับเงินจาก 320 - 200 - การขายปาทองโก 4,200 - 2 ต.ค. 54 - คานา้ํ คา ไฟฟา 100 - 430 - 2 ต.ค.54 - ไดรับเงนิ จาก 290 - การขายปาทองโก 950 - - คาอาหาร 160 - 1,250 - - คาถุงพลาสติก 340 - 2,000 - - คาถุงกระดาษ 3 ต.ค. 54 - ไดร บั เงนิ จาก 3,900 - 3 ต.ค. 54 - จายคาโทรศัพท 250 - 120 - การขายปาทองโก - คาอาหาร 480 - - คาหนงั สอื เรียน - คา นํ้าดม่ื 4 ต.ค. 54 - ไดร ับเงนิ จาก 4,500 - 4 ต.ค. 54 - จา ยคา เสอื้ ผา การขายปาทองโก - คาอาหาร - ซอ้ื แปง สาลแี ละ วตั ถดุ ิบอ่ืน ๆ 5 ต.ค. 54 - ไดร ับเงินจาก 3,800 - 5 ต.ค. 54 - คาอาหาร การขายปาทองโก - คานํ้าด่มื - คา หนงั สือพมิ พ รวมรายรบั 29,200 - รวมรายจาย 10,850 - ยอดคงเหลือยกไป 18,350 -
262 2. ใหผ เู รยี นจดั ทําบัญชรี บั จา ยประจําวันของผูเรยี นในเวลา 1 สปั ดาห วนั เดอื น ป รายการรบั จาํ นวนเงนิ วนั เดอื น ป รายการจาย จาํ นวนเงนิ บาท สต. บาท สต. - คา น้าํ มนั รถยนต 1,200 - วนั ที่ 1 ไดร บั เงินเดือนหรือ 18,000 - วนั ที่ 1 - คาอาหาร ไดเงินจากการขาย - คาผลไม 340 - - คาอาหาร 130 - วนั ที่ 2 ไดดอกเบย้ี จาก 3,000 - วนั ที่ 2 - คาโทรศัพท 280 - เงินฝาก - คา นาํ้ ด่ืม 430 - - คากาซหุงตม 150 - วันที่ 3 - คาอาหาร 360 - - คา หนงั สือพิมพ 240 - วันที่ 4 - คาอาหาร 240 - - คาเส้ือผา 220 - วนั ที่ 5 - คาซักอบรดี 850 - - คา น้ํามนั รถยนต 350 - รวมรายรบั วันที่ 6 - คาอาหาร 1,200 - วนั ที่ 7 - คาผลไม 280 - 21,000 - - คาอาหารและนมสด 180 - - คารองเทา 400 - - คาอาหาร 1,800 - - คานาํ้ ดื่ม 280 - รวมรายจาย 140 - ยอดคงเหลือยกไป 9,070 - 11,930 -
263 3. (1) สมรตองการซอ้ื เตยี งนอน ตูเสอ้ื ผา และโตะ = 6,000 + 8,500 + 5,500 = 20,000 เสยี ภาษมี ูลคาเพิม่ = 20,000 × 7 = 1,400 บาท 100 สมรตอ งจายเงิน = 20,000 + 1,400 = 21,400 บาท สมรซ้อื เฟอรน ิเจอรขางตนไมค รบ 25,000 บาท ไมไดรับสวนลด (2) สมรซื้อทุกรายการจากตาราง 6,000 + 8,500 + 600 + 5,500 +3,200 = 23,800 บาท เสียภาษีมูลคา เพม่ิ 23,800 × 7 = 1,666 บาท 100 ราคาเฟอรน ิเจอรทงั้ หมด 23,800 + 1,666 = 25,466 บาท สมรซ้ือสนิ คาเกนิ 25,000 บาท ไดร บั สว นลด 10% ∴ ไดร ับสว นลด 25,466 × 10 = 2,546.60 บาท 100 สมรตองจา ยเงนิ = 25,466 – 2,546.60 = 22,919.40 บาท 4. (1) ดอกเบย้ี ออมทรพั ย = 500,000 × 0.75 ×1 = 3,750 บาท 100 3.42 4 (2) ดอกเบ้ยี ฝากประจํา 4 เดอื น = 500,000 × 100 × 12 = 5,700 บาท ฝากครบ 1 ป = 5,700 × 3 = 17,100 บาท เสียภาษี = 17,100 × 15 = 2,565 บาท 100 ไดรบั ดอกเบ้ยี จรงิ = 14,535 บาท (3) ซ้ือสลากออมสินได = 500,000 = 10,000 ฉบับ 50 ฝากครบ 1 ป ขอถอนไดรบั ดอกเบย้ี ฉบับละ 0.25 บาท ไดร ับดอกเบย้ี 500,000 × 0.25 = 2,500 บาท 50 มีสิทธิถูกรางวัลเลขทาย 4 ตวั 12 เดือน ๆ ละ 2 รางวัล ๆ ละ 150 บาท = 12 ×2 × 150 = 3,600 บาท ∴ ไดรับเงินรางวัลและดอกเบี้ยจากการซื้อสลากออมสิน = 2,500 + 3,600 = 6,100 บาท ∴ อมรควรฝากประจํา 4 เดือน จะไดรับผลตอบแทนมากที่สุด
264 5. เงินไดพึงประเมินของจํานง 15,000 × 12 = 180,000 บาท หัก คา ใชจ า ย 40% ของเงินไดพึงประเมิน แตไมเกิน 60,000 บาท 40 = 100 ×180,000 = 72,000 บาท จํานงสามารถหักคาใชจายไดแค 60,000 บาท หกั คา ลดหยอ นตนเอง 30,000 บาท และคาเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท รวมหกั คา ลดหยอน 30,000 + 10,000 = 40,000 บาท เงินไดส ทุ ธิของจํานง = เงินไดพึงประเมิน – (หกั คาใชจาย + หกั คา ลดหยอ น) = 180,000 – (60,000 + 40,000) = 80,000 บาท ดังนั้น จํานงตองยื่นแบบภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 91) แตไ มต องชําระเงนิ เพราะไดรับการยกเวนภาษี (กรมสรรพากรกาํ หนดใหผูมีเงนิ ไดสทุ ธติ ัง้ แต 0 ถึง 150,000 บาท ไดรับการยกเวนภาษี) 6. เมื่อพิจารณาขอมูลจากกราฟ บริษัทแหง นี้จาํ หนา ยกระเปา ไดส ูงข้ึนตามลําดบั ควรเพิม่ จาํ นวนในการสั่งซือ้ กระเปา เพิม่ ขน้ึ เพื่อเปนสตอคในการจําหนาย 7. คาจางทํางานปกติ = 215 × 5 = 1,075 บาท คาลวงเวลา = 215 × 1.5 × 3 = 967.50 บาท พนักงานคนนี้ไดรับคาจาง = 1,075 + 967.50 = 2,042.50 บาท 8. ควรใชกราฟเสนในการดแู นวโนม ผลกําไรของธุรกจิ ยอนหลัง 9. วธิ ีทํา พปา้ืนยทมปี่ ีคาวยาทมง้ักยหาววมางด211=0นน11วิ้ 20ว้ิ ×==121221211102×ฟ3ฟตุ ตุ= 4.375 ตารางฟุต เสียคาใชจายทั้งหมด = 4.375 × 185 = 809.375 บาท
265 ทีป่ รกึ ษา คณะผจู ัดทํา 1. นายประเสรฐิ 2. ดร.ชัยยศ บญุ เรอื ง เลขาธิการ กศน. 3. นายวชั รนิ ทร อมิ่ สุวรรณ รองเลขาธิการ กศน. 4. ดร.ทองอยู จําป รองเลขาธิการ กศน. 5. นางรกั ขณา แกวไทรฮะ ที่ปรึกษาดานการพัฒนาหลักสูตร กศน. ตัณฑวุฑโฒ ผอู าํ นวยการกลมุ พัฒนาการศึกษานอกโรงเรยี น ผูเขยี นและเรียบเรียง มวงบุญมี ขาราชการบํานาญ 1. นายไชโย ตตยิ รัตนาภรณ ขาราชการบํานาญ 2. นางสาวกรุณา ขาราชการบํานาญ ผบู รรณาธิการ และพัฒนาปรับปรงุ ขาราชการบํานาญ 1. นายชุมพล หนูสง สํานักงาน กศน. จ.สมุทรสาคร สํานักงาน กศน. จ.สมุทรสาคร 2. นายไชโย มวงบุญมี กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 3. นางสาวสริ นิ ธร นาคคุม กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 4. นางสาวบีบีฮารา สะมัท กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 5. นางพรทิพย กลารบ กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 6. นายสุรพงษ มั่นมะโน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน คณะทํางาน มนั่ มะโน 1. นายสุรพงษ กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 2. นายศุภโชค ศรีรัตนศิลป 3. นางสาววรรณพร ปทมานนท 4. นางสาวศริญญา กุลประดิษฐ 5. นางสาวเพชรินทร เหลอื งจิตวฒั นา ผูพิมพตนฉบับ นางสาวเพชรินทร เหลอื งจิตวฒั นา ผอู อกแบบปก ศรรี ัตนศลิ ป นายศภุ โชค
266 คณะผูพัฒนาและปรบั ปรุงครั้งที่ 2 ทปี่ รกึ ษา บญุ เรอื ง เลขาธิการ กศน. อม่ิ สุวรรณ รองเลขาธิการ กศน. 1. นายประเสรฐิ จําป รองเลขาธิการ กศน. 2. ดร.ชัยยศ ผูเช่ียวชาญเฉพาะดา นพฒั นาส่ือการเรียนการสอน 3. นายวชั รนิ ทร จนั ทรโอกลุ ผูเชย่ี วชาญเฉพาะดานเผยแพรทางการศึกษา ผาตินินนาท หวั หนา หนว ยศกึ ษานิเทศก 4. นางวทั นี ธรรมวธิ ีกุล ผอู าํ นวยการกลมุ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน 5. นางชุลีพร งามเขต 6. นางอัญชลี ศูนยเทคโนโลยีทางการศึกษา 7. นางศุทธีนี ขาราชการบํานาญ สํานักงาน กศน. กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน ผูพฒั นาและปรับปรงุ คร้งั ท่ี 2 กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 1. นางจารุพร พุทธวริ ิยากร กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 2. น.ส.วรวรรณ เบญ็ จนริ ัตน 3. นางพรรณทิพา ชินชัชวาล 4. น.ส.เบญ็ จวรรณ อําไพศรี 5. นางสาวปย วดี คะเนสม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293