Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องที่ 1 เจดีย์ภูเขาทอง ใบงานที่ 1-6

เรื่องที่ 1 เจดีย์ภูเขาทอง ใบงานที่ 1-6

Published by นฤมล บัวขาว, 2021-05-25 08:16:58

Description: เรื่องที่ 1 เจดีย์ภูเขาทอง ใบงานที่ 1-6

Search

Read the Text Version

เจดียภ์ ูเขาทอง ความเป็นมา สนุ ทรภ่แู ตง่ นริ าศภูเขาทองในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้าเจ้าอยหู่ วั เม่ือราวปลาย พ.ศ. ๒๓๕๓ โดยเลา่ ถึงการเดินทางเพอื่ ไปนมสั การเจดียภ์ ูเขาทองท่ีเมืองกรงุ เก่าหรือจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา ในปจั จุบนั หลังจากจำพรรษาอยูท่ ่วี ัดราช-บรุ ณะหรือวดั เลียบ

นริ าศ นิราศเร่อื งแรกของไทยนนั้ ได้แก่ โคลงนริ าศหริภุญชยั เน้อื หาของนิราศสว่ นใหญม่ ักเป็นการ คร่ำครวญของกวี ต่อ สตรอี ันเปน็ ท่รี กั เนือ่ งจากต้องพลดั พรากจากนางมาไกล อย่างไรก็ตาม นางในนริ าศ ท่ีกวีพรรณนาวา่ จากมานั้นอาจมตี ัวตนหรือไม่มกี ็ได้ แต่กวสี ่วนใหญ่ถอื วา่ นางเปน็ ท่ีรกั เป็นปจั จัยสำคญั ทจี่ ะ เอือ้ ให้กวีแต่งนริ าศได้ไพเราะแมใ้ นสมยั หลังกวีอาจไมไ่ ด้ให้ความสำคญั เร่ืองการคร่ำครวญถึงนาง แต่เนน้ ท่ี การบันทึกระยะทางการเดินทาง ลกั ษณะคำประพันธ์ แตง่ ด้วยคำประพนั ธ์ประเภทกลอนนริ าศซึ่งมีลักษณะคล้ายกลอนสุภาพแต่มคี วามแตกต่างกันตรงที่กลอน นิราศจะแต่งข้ึนต้นเรื่องดว้ ยกลอนวรรครับและจะจบลงดว้ ยคำวา่ ”เอย” รับกฐนิ ภญิ โญโมทนา เดอื นสบิ เอ็ดเสร็จธุระพระวสา ................................ ชลุ ีลาลงเรือเหลอื อาลยั จงทราบความตามจรงิ ทกุ สิง่ ส้ิน นักเลงกลอนนอนเปล่ากเ็ ศร้าใจ ................................ อยา่ นกึ นินทาแถลงแหนงไฉน จึงรำ่ ไรเรอ่ื งร้างเล่นบา้ งเอย เร่อื งยอ่ สนุ ทรภู่เรม่ิ เรือ่ งดว้ ยการปรารภถงึ สาเหตทุ ี่ต้องออกจากวดั ราชบุรณะและการเดินทางโดยเรือ พร้อมหนูพดั ซ่ึงเปน็ บตุ รชาย ลอ่ งไปตามลำนำ้ เจ้าพระยาผ่านพระบรมมหาราชวงั จนมาถึงวัดประโคนปกั ผ่านโรงเหลา้ บางจาก บางพลู บางโพ บ้านญวน วัดเขมา ตลาดแกว้ ตลาดขวญั บางธรณี เกาะเกร็ด บาง พูด บ้านใหม่ บางเด่อื บางหลวง เชิงราก สามโคก บา้ นงิ้ว เกาะใหญร่ าชคราม จนถึงกรุงเก่าเม่ือเวลาเย็น โดยจอดเรือพักที่ท่าน้ำวดั พระเมรุ ครั้นรงุ่ เชา้ จงึ ไปนมสั การเจดยี ภ์ เู ขาทองสว่ นขากลับ สุนทรภ่กู ล่าวแต่ เพียงวา่ เมื่อถงึ กรงุ เทพ ไดจ้ อดเทียบเรอื ทา่ น้ำหน้าวดั อรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

เนื้อเร่ืองนิราศภเู ขาทอง ๑. ๏เดอื นสิบเอ็ดเสรจ็ ธุระพระวสา รับกฐนิ ภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรอื เหลอื อาลยั ออกจากวดั ทัศนาดูอาวาส เมือ่ ตรุษสารทพระวสาได้อาศยั สามฤดูอยู่ดไี ม่มีภยั มาจำไกลอารามเม่ือยามเยน็ โออ้ าวาสราชบุรณะพระวิหาร แตน่ ี้นานนบั ทวิ าจะมาเห็น เหลอื รำลึกนกึ น่าน้ำตากระเด็น เพราะขุกเขญ็ คนพาลมารานทาง จะยกหยิบธบิ ดเี ป็นที่ตงั้ ก็ใชถ้ งั แทนสดั เห็นขดั ขวาง จง่ึ จำลาอาวาสนิราศร้าง มาอ้างว้างวิญญาณใ์ นสาครฯ ๑. ถงึ เดอื น ๑๑ ซึง่ ออกจากการจำพรรษาแลว้ เมอื่ รับกฐนิ อย่างยนิ ดเี สร็จแลว้ กต็ ้องลงเรือไปด้วย ความเศรา้ โศก ออกจากวัดกม็ องดูวัดทเี่ คยอาศยั เมื่อปที ีผ่ า่ นมาได้อยูอ่ าศัย อีกทงั้ ๓ ฤดูทอ่ี ยมู่ าก็ไมม่ ีอะไร มากวนใจ อีกท้ังวัดราชบุรณะพระวิหารน้ีคงอีกนานกวา่ จะไดม้ าเห็น นกึ แล้วเศร้าใจย่ิงนกั ทง้ั นีเ้ ป็นเพราะมี คนพาลมารังแกใส่ร้าย คิดจะนำผใู้ หญ่คอยชว่ ยเหลือท่านก็ไม่มีความยุติธรรม จึงตอ้ งอำลาวัดไปจนต้องมา อ้างวา้ งอยู่กลางสายน้ำ ๒.๏ ถึงหน้าวังดังหน่ึงใจจะขาด คิดถงึ บาทบพิตรอดิศร โอผ้ า่ นเกลา้ เจา้ ประคณุ ของสุนทร แตป่ างกอ่ นเคยเฝ้าทกุ เชา้ เยน็ พระนิพพานปานประหนงึ่ ศีรษะขาด ด้วยไร้ญาติยากแคน้ ถงึ แสนเขญ็ ทงั้ โรคซ้ำกรรมซัดวบิ ัติเป็น ไมเ่ ล็งเหน็ ทีซ่ ึ่งจะพงึ่ พา จะสรา้ งพรตอตสา่ หส์ ง่ สว่ นบญุ ถวาย ประพฤติฝ่ายสมถะทั้งวสา เป็นส่งิ ของฉลองคณุ มลุ ิกา ขอเปน็ ข้าเคียงพระบาททุกชาติไปฯ ๒. ถงึ หนา้ วงั กเ็ ศรา้ โศกมาก คิดถึงพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้านภาลยั ผูซ้ ึ่งมีพระคุณกับสุนทร ภอู่ ยา่ งมาก เมอ่ื กอ่ นเคยเข้าเฝ้าท่านอยา่ งใกลช้ ดิ และบ่อยครงั้ เม่ือพระองคส์ วรรคตก็เหมอื นกับสนุ ทรภู่ ตายไปด้วยเพราะไมม่ ญี าตหิ รือคนคอยช่วยเหลือชีวติ จงึ ยากแค้นแสนเขญ็ อีกทัง้ มโี รคมีกรรมเขา้ มารมุ ลอ้ ม ไม่เหน็ ใครที่จะพ่งึ พาได้ จึงได้บวชเพื่ออุทศิ สว่ นกศุ ลให้แกร่ ัชกาลท่ี ๒ ประพฤตติ นอยู่ในศลี ธรรมตลอดเวลา เพื่อเป็นสิ่งทดแทนคุณพระองค์ แม้เกิดชาติใดใดก็ขอใหเ้ ปน็ ขา้ รับใช้พระองคต์ ลอดไป ๓.๏ ถงึ หน้าแพแลเห็นเรือทน่ี ่ัง คดิ ถึงครั้งก่อนมานำ้ ตาไหล เคยหมอบรบั กับพระจม่นื ไวย แล้วลงในเรอื ที่น่งั บัลลังก์ทอง เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ เคยรับราชโองการอา่ นฉลอง

จนกฐินส้ินแม่นำ้ แลลำคลอง มิ ได้ขอ้ งเคืองขดั หทั ยา เคยหมอบใกลไ้ ด้กลนิ่ สุคนธต์ ลบ ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา ส้นิ แผน่ ดนิ ส้ินรสสุคนธา วาสนาเรากส็ ้ินเหมือนกล่ินสุคนธฯ์ ๓. เม่ือถึงหนา้ แพก็เหน็ เรือพระทนี่ ัง่ คิดถึงเม่อื ก่อนกเ็ ศร้าจนน้ำตาไหล เคยหมอบกราบรชั กาลท่ี ๒ กบั พระจมนื่ ไวย แล้วกล็ งไปในเรือบัลลังกท์ อง เคยแตง่ แปลงบทความ เคยรบั ราชโองการอ่านในงานฉลอง จนเรือท่มี าทอดกฐนิ หมดแล้วก็ยังมิไดท้ ำให้พระองค์ขัดใจแต่อยา่ งใดเคยหมอบกราบใกล้จนได้กล่ินหอม จากพระวรกาย กล่นิ หอมนัน้ หอมจนตดิ จมูก แต่เม่ือพระองค์สวรรคตก็สน้ิ กลิน่ หอมไปด้วย อกี ทงั้ ยัง เหมือนวาสนาของสนุ ทรภ่กู ็สิ้นตามกล่ินไป ๔.๏ ดใู นวงั ยงั เห็นหอพระอฐั ิ ต้ังสตเิ ตมิ ถวายฝ่ายกศุ ล ทงั้ ป่นิ เกล้าเจ้าพภิ พจบสกล ใหผ้ ่องพ้นภยั สำราญผ่านบุรนิ ทรฯ์ ๔. มองไปในวงั ยังเห็นหอทเ่ี ก็บพระอัฐขิ องรชั กาลท่ี ๒ ก็ตั้งสติถวายส่วยบุญสวยกุศล ทงั้ ส่งส่วนกศุ ล ไปใหร้ ชั กาลท่ี ๓ ใหพ้ น้ ภัยในการปกครองบ้านเมอื ง ๕.๏ ถึงอารามนามวดั ประโคนปัก ไมเ่ หน็ หลักลอื เล่าวา่ เสาหิน เป็นสำคญั ปนั แดนในแผ่นดิน มิรูส้ ิ้นสดุ ชื่อท่ลี อื ชา ขอเดชะพระพุทธคณุ ช่วย แม้นมอดม้วยกลบั ชาติวาสนา อายุยืนหม่นื เท่าเสาศิลา อย่คู ่ฟู า้ ดนิ ได้ดงั ใจปอง ไปพน้ วดั ทัศนารมิ ท่าน้ำ แพประจำจอดรายเขาขายของ มแี พรผ้าสารพดั สีม่วงตอง ทง้ั สง่ิ ของขาวเหลืองเครื่องสำเภาฯ ๕. ถงึ วัดประโคนปักก็มองไปไมเ่ ห็นเสาหนิ ทล่ี อื กนั เป็นเสาทส่ี ำคัญในแผน่ ดนิ ถงึ จะไมเ่ หน็ ก็ขอเดชะ พระพุทธคุณชว่ ย ขอให้อายยุ ืนหมนื่ ๆปเี ท่าดังเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดนิ ไดต้ ลอดไป พอเรือล่องเลยวดั ก็มองดูริม ท่านำ้ มีแพมาจอดขายของอยู่เรียงราย มขี ายท้ังผ้าแพรสมี ่วงและสอี น่ื ๆ ท้งั สิง่ ของทีมาจากเมอื งจีน ๖.๏ ถึงโรงเหล้าเตากลัน่ ควันโขมง มีคนั โพงผูกสายไว้ปลายเสา โอบ้ าปกรรมน้ำนรกเจยี วอกเรา ใหม้ ัวเมาเหมอื นหน่ึงบ้าเป็นน่าอาย ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถงึ สุราพารอดไมว่ อดวาย ไมใ่ กล้กรายแกลง้ เมินกเ็ กนิ ไป ไมเ่ มาเหลา้ แล้วแตเ่ รายงั เมารัก สุดจะหกั หา้ มจิตคดิ ไฉน ถงึ เมาเหล้าเช้าสายกห็ ายไป แต่เมาใจนปี้ ระจำทุกค่ำคนื ฯ

๖. ถึงโรงเหล้าก็มีควันออกมาจากเตากลั่นมากมาย มเี ครื่องตักน้ำผูกไว้ปลายเสา สนุ ทรภ่เู คยด่มื นำ้ เหลา้ จนเมาเหมอื นคนบา้ จงึ ได้บวชเพ่ือจะได้พ้นจากอบายมขุ ขอให้ได้ตรสั ร้ดู ังพระพุทธเจ้า แตเ่ หล้าเคย ทำใหร้ อดชวี ติ ดงั นัน้ จะเมนิ ไปก็เกินไป ถึงจะไมเ่ มาเหล้าแต่ยงั เมารกั อยู่ หักห้ามจติ ใจไม่ให้รกั ไม่ได้ การเมา เหลา้ น้นั พอร่งุ ขน้ึ กห็ ายไป แต่การเมารกั นจี้ ะเป็นทุกๆคืน ๗.๏ ถึงบางจากจากวดั พลดั พี่นอ้ ง มามวั หมองมว้ นหน้าไม่ฝ่าฝืน เพราะรักใคร่ใจจืดไมย่ ดื ยืน จึงตอ้ งขืนในพรากมาจากเมือง ๗. ถึงบางจากไม่อยากไดย้ ินคำว่าจาก เพราะสนุ ทรภู่จากหลายๆอยา่ งมา ต้องมใี จมวั หมองเพราะรัก นน้ั ไมย่ ืนยาว จึงตอ้ งจากเมอื งพรากมา ๘.๏ ถึงบางพลคู ิดถงึ คู่เมื่ออยู่ครอง เคยใส่ซองสง่ ให้ลว้ นใบเหลือง ถงึ บางพลดั เหมือนพ่ีพลดั มาขัดเคือง ท้ังพลัดเมืองพลดั สมรมาร้อนรน ๘. ถึงบางพลูคิดถงึ นางจนั เม่ือแต่งงานกนั เคยส่งหมากพลโู ดยใสซ่ องให้ทั้งหมดเป็นใบเหลืองซง่ึ อร่อยมาก ถงึ บางพลดั ก็ไมอ่ ยากไดย้ ินคำว่าพลดั เพราะได้พลดั จากนางจนั ท้ังยงั พลัดจากเมอื งและอ่ืนๆ อย่างรอ้ นรน ๙.๏ ถงึ บางโพธโอ้พระศรีมหาโพธ์ิ รม่ นโิ รธรุกขมลู ให้พูนผล ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ให้ผ่องพ้นภัยพาลสำราญกายฯ ๙. ถงึ บางโพกค็ ิดถึงต้นโพธิใ์ หร้ ่มเงาใหค้ วามรม่ เย็นท้ังยงั ทำให้โคนต้นไมง้ อกงามได้ ขอเดชะของ พระพทุ ธเจา้ ให้พ้นภัยพาลตลอดไป ๑๐.๏ ถงึ บ้านญวนลว้ นแต่โรงแลสะพร่งั มีข้องขงั กุ้งปลาไวค้ ้าขาย ตรงหนา้ โรงโพงพางเขาวางราย พวกหญิงชายพร้อมเพรยี งมาเมียงมอง จะเหลียวกลับลบั เขตประเทศสถาน ทรมานหม่นไหม้ฤทยั หมอง ถงึ เขมาอารามอรา่ มทอง พงึ่ ฉลองเลกิ งานเมือ่ วานซนื ฯ ๑๐. ถงึ บา้ นญวนเหน็ มีโรงแลมากมาย มคี นค้าขายของเชน่ ก้งุ หรอื ปลาโดยการขังไว้ในขอ้ ง ข้างหนา้ โรง วางที่สำหรบั ดักปลาวางเรยี งไว้ มที ้งั ผูห้ ญิงและผู้ชายมาจับจ่ายซือ้ ของ จะมองกลบั ไปยังประเทศบ้านเกดิ ก็ ทรมานเหมือนโดนไฟไหม้ จิตใจกห็ มน่ หมอง ล่องเรือมาจนถงึ วดั เขมา ก็รู้ว่าพึ่งเลิกงานฉลองไปเม่อื วานซนื

๑๑.๏ โอ้ปางหลงั ครง้ั สมเดจ็ พระบรมโกศ มาผูกโบสถ์ก็ไดม้ าบูชาชื่น ชมพระพมิ พ์ริมผนังยังยัง่ ยนื ทงั้ แปดหม่นื ส่ีพนั ไดว้ นั ทา โอ้ครงั้ นี้มิไดเ้ ห็นเล่นฉลอง เพราะตัวตอ้ งตกประดาษวาสนา เป็นบุญนอ้ ยพลอยนึกโมทนา พอนาวาติดชลเขา้ วนเวยี น ดูนำ้ วงิ่ กลิง้ เชย่ี วเป็นเกลยี วกลอก กลับกระฉอกฉาดฉันฉวดั เฉวียน บ้างพลุ่งพลงุ่ วงุ้ วงเหมือนกงเกวียน ดูเปล่ียนเปลยี่ นควา้ งคว้างเป็นหว่างวน ทง้ั หวั ทา้ ยกรายแจวกระชากจ้วง ครรไลลว่ งเลยทางมากลางหน โอเ้ รอื พน้ วนมาในสาชล ใจยังวนหวงั สวาทไม่คลาดคลาฯ ๑๑. คิดถงึ เมื่อกอ่ นซ่ึงรัชกาลท่ี ๒ ได้มาตัดหวายลูกนมิ ิต ไดช้ มพระพิมพท์ ้ัง ๘๔,๐๐๐ องค์ซง่ึ เทา่ กับจำนวนพระธรรมท่ีอย่ใู นพระไตรปฎิ กที่อยูร่ มิ ผนงั แตค่ ร้ังนีไ้ ม่ไดเ้ ห็นการเล่นฉลองเพราะสุนทรภู่ต้อง หมดวาสนาและลำบาก เปน็ เพราะบุญน้อยก็นกึ เศร้า แตแ่ ลว้ เรอื ก็ติดนำ้ วน มองเหน็ น้ำวงิ่ เช่ยี วหมุนเป็น เกลยี ว พ่งุ ไปมาตดั กนั บางส่วนกพ็ ุ่งวนเหมือนกงเกวยี น ดเู วียนๆเปน็ เหมือนพายวุ น ทงั้ หวั ท้ายเรือได้รบั แจวเรือดงั นั้นเรือจึงหลุดน้ำวนออกมาได้ แต่ถึงเรือจะพ้นน้ำวนมาแลว้ แต่ใจก็ยังไม่พน้ จากความรัก ๑๒.๏ ตลาดแก้วแลว้ ไมเ่ หน็ ตลาดตั้ง สองฟากฝง่ั ก็แต่ล้วนสวนพฤกษา โอ้รินรินกลนิ่ ดอกไม้ใกล้คงคง เหมือนกลิน่ ผ้าแพรดำร่ำมะเกลือ เห็นโศกใหญ่ใกล้นำ้ ระกำแฝง ท้งั รกั แซงแซมสวาทประหลาดเหลอื เหมอื นโศกพท่ี ร่ี ะกำก็ซ้ำเจือ เพราะรักเร้อื แรมสวาทมาคลาดคลาย ๑๒. ถงึ ตลาดแกว้ แต่ไม่เหน็ มตี ลาดต้ังขายของท้ังสองฝัง่ เห็นแตต่ ้นไม้พชื พนั ธุต์ า่ งๆ ไดก้ ลิ่นดอกไม้ หอมไปเรื่อยๆตลอดทางและกลิ่นเหมือนผา้ แพรที่ยอ้ มดว้ ยมะเกลือ เหน็ ต้นโศกใหญ่และต้นระกำเปน็ แผง แต่แปลกที่มตี น้ รกั ขน้ึ แซมอยู่ดว้ ย เหมอื นความโศกเศร้าระกำใจทสี่ นุ ทรภ่ตู ้องเปน็ เพราะรกั แม่จัน ๑๓.๏ถงึ แขวงนนทช์ ลมารคตลาดขวัญ มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ท้งั ของสวนล้วนแตเ่ รอื เรยี งราย พวกหญิงชายชมุ กนั ทุกวนั คนื ฯ ๑๓. ถึงจังหวดั นนทบุรีก็เห็นมตี ลาดน้ำ มีแพอยู่ซ่งึ ขายเส้อื ผ้าเคร่ืองนุ่งห่ม มีทัง้ เรือจอดอยู่เพ่ือขาย ผลไมจ้ ากสวนแท้ มีทัง้ ผหู้ ญิงผชู้ ายมาประชมุ ซ้ือของกนั ทุกวนั ทกุ คนื

๑๔. ๏ มาถึงบางธรณที วโี ศก ยามวโิ ยคยากใจให้สะอืน้ โอ้สุธาหนาแนน่ เป็นแผน่ พ้นื ถึงส่ีหม่ืนสองแสนทั้งแดนไตร เม่ือเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมอื นนกไรร้ ังเร่อยเู่ อกาฯ ๑๔. มาถึงหม่บู ้านบางธรณีก็โศกเศร้ามากขึ้นมาก เพราะตอนลำบากพาใหใ้ จสะอ้ืนมาก ทั้งที่ แผน่ ดนิ หนาขนาดสองแสนสห่ี มนื่ โยชนแ์ ตเ่ มอ่ื ถึงคราวลำบากแม้แตแ่ ผ่นดนิ ก็ไม่มที อ่ี าศัย เหมือนโดนหนาม เสียดแทงเจ็บแสบมาก เหมือนกบั นกไม่มีรังทีจ่ ะอาศัยต้องเร่รอ่ นไปเร่ือยๆ ๑๕.๏ ถงึ เกร็ดย่านบ้านมอญแตก่ อ่ นเก่า ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา เด๋ยี วนมี้ อญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทัง้ ผดั หน้าจบั เขม่าเหมือนชาวไทย โอส้ ามญั ผันแปรไมแ่ ทเ้ ที่ยง เหมอื นอย่างเย่ียงชายหญงิ ท้ิงวิสยั นี่หรือจิตคิดหมายมีหลายใจ ท่จี ิตใครจะเป็นหนึ่งอยา่ พงึ คิดฯ ๑๕. ถงึ ตำบลปากเกร็ดซ่ึงเป็นบรเิ วณที่ชาวมอญอพยพมา ตามธรรมเนยี มผูห้ ญิงมอญจะเกล้าผม แต่สมัยนี้ผหู้ ญงิ มอญมาถอนไรผมเหมือนตุ๊กตา ทั้งยงั ใชเ้ ครื่องสำอาง ใช้แป้งผัดหนา้ ซึง่ เหมอื นกบั ชาวไทย ทำใหเ้ ห็นได้ว่าสมยั น้ีทุกส่ิงทุกอยา่ งไม่มีความเทย่ี งแท้ เหมือนดังทชี่ าวมอญละท้ิงประเพณีวัฒนธรรมของ ตนเองแล้วจะนบั ประสาอะไรกบั จติ ใจของคน ซึ่งไม่มีใครมีใจเดียวแตม่ ีหลายใจ ๑๖.๏ ถงึ บางพูดพดู ดเี ป็นศรีศักดิ์ มคี นรกั รสถ้อยอร่อยจติ แมน้ พูดชัว่ ตวั ตายทำลายมติ ร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ ๑๖. ถึงหม่บู ้านบางพูดสุนทรภ่กู ็นกึ ถึงคำว่าพดู ดังวา่ ถ้าใครพดู ดกี จ็ ะมีคนรกั แต่ถ้าพูดไมด่ กี ็ อาจจะเป็นภัยต่อตนเองได้อีกทง้ั ยังไม่มีใครคบ ไมม่ เี พอื่ นสนิทมติ รสหาย ทงั้ การจะดูว่าใครดีไมด่ ีดไู ดจ้ าก การพูด ๑๗.๏ ถงึ บา้ นใหม่ใจจิตก็คิดอ่าน จะหาบา้ นใหม่มาดเหมือนปรารถนา ขอใหส้ มคะเนเถิดเทวา จะไดผ้ าสกุ สวัสดจิ์ ำกัดภยั ๑๗. ถึงหมูบ่ ้านบ้านใหม่สนุ ทรภู่กค็ ิดอยากจะได้บา้ นซักหลงั ตามที่ตอ้ งการโดยขอกบั เทวดาใหส้ ม ดงั ปรารถนา เพราะ การมบี า้ นใหม่จะได้มคี วามสุขและมที ี่อาศัยอยา่ งปลอดภยั ๑๘.๏ถงึ บางเด่อื โอ้มะเด่ือเหลือประหลาด บงั เกดิ ชาติแมลงหวีม่ ีในไส้ เหมือนคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน อปุ ไมยเหมือนมะเด่ือเหลือระอา ๑๘.ถงึ หมบู่ ้านบางเดือ่ ก็คดิ ถงึ ลูกมะเด่ือทภี่ ายนอกนั้นดูสวยงามน่ารับประทานแตภ่ ายในกลับมี แมลงมีหนอนชอนไชอยู่ เหมือนกับคนพาลที่ปากพูดดแี ต่ในใจคิดทำอนั ตราย

๑๙.๏ถึงบางหลวงเชงิ รากเหมือนจากรัก สเู้ สียศกั ดส์ิ งั วาสพระศาสนา เป็นลว่ งพ้นรนราคราคา ถึงนางฟ้าจะมาให้ไม่ไยดฯี ๑๙. ถงึ บางหลวงเหมือนจากนางจนั มานานแลว้ เราต้องสละจากยศถาบรรดาศักด์เิ พ่อื มาบวชเพื่อ จะได้พ้นจากกเิ ลสทัง้ หลายทง้ั ปวง ถงึ จะมนี างฟ้ามายั่วกไ็ ม่สนใจ ๒๐.๏ ถงึ สามโคกโศกถวลิ ถึงปนิ่ เกล้า พระพทุ ธเจ้าหลวงบำรุงซ่ึงกรงุ ศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมอื งตรี ชือ่ ปทุมธานีเพราะมบี ัว โอพ้ ระคณุ สูญลับไม่กลบั หลงั แตช่ อ่ื ตัง้ กย็ ังอยเู่ ขารูท้ ัว่ โอเ้ รานีท้ ี่สนุ ทรประทานตวั ไมร่ อดช่ัวเช่นสามโคกยิง่ โศกใจ สิน้ แผน่ ดนิ สิ้นนามตามเสดจ็ ตอ้ งเทย่ี วเตร็ดเตร่หาทอี่ าศยั แม้นกำเนดิ เกิดชาติใดใด ขอให้ได้เปน็ ข้าฝ่าธลุ ี สนิ้ แผ่นดินขอใหส้ ้ินชีวติ บ้าง อยา่ รรู้ า้ งบงกชบทศรี เหลืออาลยั ใจตรมระทมทวี ทุกวันนี้กซ็ งั ตายทรงกายมาฯ ๒๐. ถงึ สามโคกกค็ ิดถงึ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั ซ่งึ พระองคป์ กครองเมือง กรุงเทพฯ พระองคไ์ ด้พระราชทานนามเมืองจากสามโคกซึ่งเป็นหัวเมืองชัน้ สามเป็นเมืองปทุมธานเี ปน็ เพราะมีบัวเยอะ ถงึ พระองค์จะเสด็จสวรรคตไปแลว้ แตช่ อ่ื ปทุมธานีคงอยูต่ ลอดไป แต่ทำไมชอื่ ของสนุ ทรภู่ ชือ่ ขุนสุนทรโวหารที่ไดร้ บั พระราชทานนามมาแต่กลับไม่มีชือ่ ในแผน่ ดินหลังจากพระองค์สวรรคตเลยซึง่ ต่างกับปทุมธานี สุนทรภตู่ อ้ งเรร่ ่อนหาทอ่ี าศยั เพราะขณะนี้ไมม่ ีบา้ น สุนทรภ่ขู อให้เกิดทุกชาตไิ ดเ้ ป็นข้ารับ ใช้พระองคต์ ลอดไป พอพระองค์สวรรคตสนุ ทรภู่กข็ ออยากตายตามบ้างเพ่ือจะได้รับใช้และพงึ่ พระองค์ เด๋ียวนีก้ ็เศรา้ โศกใจทุกขร์ ะทมอยา่ งทวคี ูณมาก ตอ้ งเร่รอ่ นไปเรอื่ ยๆชวี ิตไม่มจี ดุ มงุ่ หมาย ๒๑.๏ ถงึ บา้ นงิว้ เหน็ แต่งิ้วละลิว่ สงู ไม่มีฝงู สตั วส์ ิงกง่ิ พฤกษา ด้วยหนามดกรกดาษระดะตา นกึ กน็ า่ กลัวหนามขามขามใจ ง้วิ นรกสิบหกองคลุ ีแหลม ดงั ขวากแซมเสย้ี มแทรกแตกไสว ใครทำชู้คูท่ ่านครนั้ บรรลยั ก็ตอ้ งไปปนี ตน้ นา่ ขนพอง เราเกดิ มาอายเุ พยี งนี้แลว้ ยังคลาดแคล้วครองตัวไมม่ วั หมอง ทุกวันนีว้ ิปรติ ผดิ ทำนอง เจยี นจะต้องปีนบา้ งหรืออย่างไรฯ ๒๑. ถงึ หมู่บ้านบา้ นงิ้วกเ็ หน็ มีแต่ต้นงิว้ ซ่งึ ไม่มีนกหรือสัตวอ์ นื่ ๆอย่บู นกง่ิ เลยเพราะตน้ งว้ิ มหี นาม ข้ึนอยมู่ ากมายนึกถึงกน็ า่ กลัวหนามเพราะถา้ โดนคงเจ็บมาก แต่ง้ิวในนรกยาวถึง ๑๖ ขอ้ น้วิ แหลม เหมือนกบั ไม้ไผเ่ หลาทำกบั ดัก ซ่งึ ใครมชี ู้เม่ือตายไปแลว้ กต็ ้องไปปีนต้นงิ้วในนรก แต่สนุ ทรภ่เู กดิ มาอายมุ าก แล้วแตย่ งั ครองตวั อยู่ในศลี ธรรมไมม่ ีชู้ แต่ทกุ วนั น้ผี ้คู นวปิ ริตมชี ู้กันมากคงต้องไปปีนตน้ งิ้วในนรกกันบา้ ง

๒๒.๏ โอ้คิดมาสารพัดจะตัดขาด ตดั สวาทตดั รักมยิ ักไหว ถวิลหวังนั่งนึกอนาถใจ ถงึ เกาะใหญ่ราชครามพอยามเยน็ ดหู ่างย่านบ้านชอ่ งทง้ั สองฝ่ัง ระวงั ท้ังสตั ว์น้ำจะทำเขญ็ เป็นท่อี ยผู่ ู้ร้ายไมว่ ายเวน้ เทีย่ วซ่อนเรน้ ตเี รือเหลือระอาฯ ๒๒. ท้งั หมดท่ีคิดมาน้ันสุนทรภู่สามารถตดั ขาดได้แตก่ ารตดั ความรกั น้นั ยากยงิ่ นักนง่ั นึกอนาถใจไป จนเยน็ ก็ถงึ เกาะใหญร่ าชคราม มองไปเห็นบ้านเรือนต่างๆอย่หู า่ งจากสองฝัง่ มากในท่นี ้ตี ้องระวงั จระเขจ้ ะ ทำร้าย ทงั้ ที่นย่ี ังเป็นท่ีอยขู่ องผ้รู ้ายซึ่งมาคอยดกั ตีเรอื สุนทรภู่คดิ แล้วนา่ เบอ่ื ยง่ิ นัก ๒๓.๏ พระสุรยิ งลงลบั พยับฝน ดมู ัวมนมืดมิดทุกทิศา ถงึ ทางลัดตัดทางมากลางนา ทงั้ แฝกคาแขมกกข้นึ รกเรี้ยว เป็นเงางำ้ นำ้ เจ่ิงดเู ว้ิงวา้ ง ทัง้ กวา้ งขวางขวญั หายไมว่ ายเหลียว เห็นดุ่มดมุ่ หนมุ่ สาวเสียงกราวเกรียว ล้วนเรอื เพรยี วพร้อมหน้าพวกปลาเลย เขาถ่อคล่องว่องไวไปเป็นยืด เรือเราฝืดเฝือมานิจจาเอย๋ ต้องถ่อค้ำร่ำไปท้ังไม่เคย ประเด๋ียวเสยสวบตรงเขา้ พงรก กลับถอยหลงั ร้งั รอเฝ้าถ่อถอน เรอื ขยอ่ นโยกโยนกระโถนหก เงียบสงัดสตั วป์ า่ คณานก น้ำค้างตกพรา่ งพรายพระพายพัด ไมเ่ ห็นคลองต้องค้างอยู่กลางทงุ่ พอหยุดยุงฉู่ชมุ มารุมกดั เปน็ กล่มุ กลุ่มกลมุ้ กายเหมือนทรายซัด ต้องนั่งปัดแปะไปมิไดน้ อนฯ ๒๓. เม่อื พระอาทิตย์ตกก็มเี มฆมืดครม้ึ มาจนดูมืดมัวไปทกุ ทิศทุกทาง พายเรอื ถงึ ทางลดั ซ่งึ เป็นทาง ตดั กลางนาก็เหน็ มตี ้นแฝกต้นคาตน้ แขมต้นกกข้ึนปะปนกนั อยู่มากมาย เงาของตน้ พวกน้ีทอดลงนำ้ ทำใหด้ ู เวงิ้ ว้างดูกวา้ งขวางเหลยี วมองทีไรก็ร้สู ึกขวัญหายทุกที มองเห็นเงาของหญิงชายทง้ั ยงั มีเสียงคยุ กัน เรือของ พวกเขาเพรยี วเลก็ และมีปลาอยูบ่ นเรอื อกี ดว้ ย พวกเขาถอ่ เรอื คลอ่ งแคล่วเดินทางไปอย่างรวดเร็ว แต่เรอื ของสุนทรภไู่ ปช้ามากชา่ งนา่ สงสารลูกศิษย์ที่ตอ้ งถอ่ เรืออยา่ งเหน็ดเหน่ือยทัง้ ๆท่ีไมเ่ คยเส้นทาง บางทเี รือก็ เสยเข้าพงหญ้ารกรุงรงั จะถอยหลังก็ถอยยาก เรือก็โคลงจนกระโถนใสห่ มากหก พอเง่ยี หฟู ังก็ไม่ไดย้ นิ เสยี ง สตั วเ์ ลยซกั ตัว มีแตน่ ำ้ ค้างตกเพราะลมพัด มองไปไมเ่ หน็ คลองเลยตอ้ งค้างอยู่กลางทงุ่ แต่พอหยุดเรือหยุด ก็มารุมกดั เจบ็ เหมือนโดนทรายซัด เลยไม่ไดน้ อนเพราะต้องนัง่ ตบยุง ๒๔.๏ แสนวิตกอกเอย๋ มาอ้างวา้ ง ในทุง่ กว้างเหน็ แต่แขมแซมสลอน จนดกึ ดาวพราวพร่างกลางอมั พร กาเรยี นรอ่ นรอ้ งก้องเมื่อสองยาม ท้ังกบเขยี ดเกรียดกรีดจังหรดี เรอื่ ย พระพายเฉ่อื ยฉิวฉวิ วะหวิวหวาม วังเวงจิตคดิ คะนึงรำพึงความ สำรวลกับเพือ่ นรักสะพรกั พร้อม ถึงเมือ่ ยามยงั อุดมโสมนสั อย่แู วดลอ้ มหลายคนปรนนิบัติ

โอย้ ามเข็ญเห็นอยแู่ ต่หนูพัด ช่วยนงั่ ปดั ยงุ ให้ไม่ไกลกาย จนเดือนเด่นเหน็ กอกระจบั จอก ระดะดอกบวั เผอื่ นเม่อื เดือนหงาย เห็นร่องน้ำลำคลองท้ังสองฝ่าย ขา้ งหนา้ ทา้ ยถ่อมาในสาคร จนแจม่ แจง้ แสงตะวนั เหน็ พนั ธ์ผุ กั ดนู ่ารกั บรรจงส่งเกสร เหล่าบัวเผอื่ นแลสล้างรมิ ทางจร กา้ มก้งุ ซอ้ นเสยี ดสาหร่ายใต้คงคา สายตง่ิ แกมแซมสลับตน้ ตบั เต่า เปน็ เหลา่ เหล่าแลรายท้งั ซา้ ยขวา กระจับจอกดอกบวั บานผกา ดาษดาดูขาวดงั่ ดาวพราย โอเ้ ชน่ นส้ี กี าได้มาเหน็ จะลงเลน่ กลางทุ่งเหมือนมุ่งหมาย ท่ีมีเรือน้อยนอ้ ยจะลอยพาย เทยี่ วถอนสายบัวผันสันตะวา ถงึ ตวั เราเล่าถา้ ยงั มีโยมหญงิ ไหนจะนิ่งดดู ายอายบุปผา คงจะใชใ้ ห้ศิษยท์ ่ีติดมา อุตส่าห์หาเอาไปฝากตามยากจน นีจ่ นใจไมม่ เี ทา่ ขี้เล็บ ขีเ้ กยี จเก็บเลยทางมากลางหน พอรอนรอนอ่อนแสงพระสรุ ิยน ถงึ ตำบลกรงุ เกา่ ย่งิ เศรา้ ใจฯ ๒๔. สุนทรภู่ร้สู ึกอ้างว้างมาก มองไปในทุ่งกวา้ งเห็นมแี ตต่ ้นแขมข้นึ อยูป่ ะปนกนั จนดึกก็มดี าว อยู่กลางทอ้ งฟา้ มนี กกระเรียนบินร่อนและร้องก้องเมอ่ื ตอนเท่ยี งคืน มเี สยี งกบเขยี ดร้องเรอ่ื ยๆ มลี มพดั เฉ่ือยๆ สนุ ทรภูร่ ้สู กึ วังเวงก็คดิ รำพึงเมื่อตอนมียศถาบรรดาศักด์ิ ไดห้ ัวเราะเฮฮากบั เพื่อน มีคนคอย ปรนนิบตั ริ ับใช้ แต่ยามลำบากเหน็ แต่หนูพัดลูกชายคอยช่วยน่งั ปัดยุงใหจ้ นพระจันทร์ขึน้ กเ็ ห็นต้นกระจบั จอก มดี อกบัวเผื่อนข้นึ มากเมื่อคนื เดือนหงาย มองเหน็ คลองท้ังสองด้านหัวทา้ ยเรือก็รีบถ่อเรอื ลงคลอง จน พระอาทิตย์ขนึ้ ก็เหน็ พันธุผ์ ักดูน่ารกั สง่ เกสรแก่กัน มบี วั เผอ่ื นอยสู่ องข้างทางท่เี รือพายไป มีต้นกา้ มกุ้งข้ึนอยู่ กบั สาหรา่ ยใต้น้ำ มตี น้ สายต่ิงขน้ึ สลบั กบั ต้นตบั เตา่ เปน็ กลมุ่ ๆมองไปเหมือนกับดาวบนท้องฟ้า เหล่านี้ถา้ ผู้หญิงไดม้ าเห็นกค็ งจะลงเล่นกลางท่งุ ที่มีเรอื ก็คงจะพายไปเก็บสายบัว ถ้าสุนทรภู่มีโยมผหู้ ญิงกค็ งไมน่ ง่ิ เฉยใหอ้ ายดอกไม้ คงจะใช้ใหศ้ ิษยไ์ ปเกบ็ ของฝากเทา่ ทที่ ำได้ในตอนน้ี แต่น่ีจนใจไม่มเี งนิ ซกั นดิ ท้ังยงั ข้ีเกียจ เกบ็ จึงเลยมา พอมีแสงอ่อนๆของพระอาทิตยก์ ็ถึงกรุงศรีอยุธยา สุนทรภรู่ ู้สกึ เศรา้ ใจ ๒๕๏ มาทางทา่ หนา้ จวนจอมผ้รู ้ัง คดิ ถงึ ครง้ั กอ่ นมาน้ำตาไหล จะแวะหาถ้าท่านเหมือนเม่อื เป็นไวย กจ็ ะได้รับนิมนตข์ ึ้นบนจวน แต่ยามยากหากว่าถ้าท่านแปลก อกมิแตกเสียหรือเราเขาจะสรวล เหมือนเข็ญใจใฝส่ งู ไมส่ มควร จะต้องม้วนหนา้ กลับอปั ระมาณฯ ๒๕. เมอื่ ถึงหนา้ จวนของเพื่อนของสุนทรภู่ สนุ ทรภูก่ ค็ ิดถงึ เมอ่ื ก่อนจนนำ้ ตาไหล สนุ ทรภตู่ ัง้ ใจจะ แวะหาถา้ ยังเหมือนเมอื่ ก่อนก็คงจะไดร้ ับนมิ นต์ขนึ้ บนจวน แต่ถ้าหากวา่ ทา่ นแปลกไปก็คงจะโดนหวั เราะ เยาะจะต้องอายมาก รู้สกึ ไมก่ ลา้ ใฝส่ งู เปน็ เพ่ือนได้ จงึ ไดเ้ ดินทางตอ่ ไปยังเจดยี ภ์ ูเขาทอง

๒๖.๏ มาจอดท่าหนา้ วัดพระเมรขุ ้าม รมิ อารามเรือเรยี งเคยี งขนาน บา้ งขึ้นล่องร้องลำเล่นสำราญ ท้งั เพลงการเกย้ี วแก้กนั แซ่เซง็ บา้ งฉลองผ้าป่าเสภาขับ ระนาดรับรัวคลา้ ยกบั นายเสง็ มโี คมรายแลอร่ามเหมือนสำเพ็ง เมือ่ คราวเครง่ กม็ ิใครจ่ ะได้ดู อา้ ยลำหนึ่งคร่ึงทอ่ นกลอนมันมาก ช่างยาวลากเล้อื ยเจื้อยจนเหนอื่ ยหู ไม่จบบทลดเลี้ยวเหมือนเง้ยี วงู จนลูกคขู่ อทุเลาวา่ หาวนอนฯ ได้ฟงั เล่นตา่ งต่างที่ข้างวัด จนสงดั เงยี บหลับลงกบั หมอน ประมาณสามยามคล้ำในอัมพร อ้ายโจรจรจ่จู ้วงเขา้ ล้วงเรือ นาวาเอียงเสยี งกุกลุกขึ้นร้อง มันดำลอ่ งนำ้ ไปช่างไวเหลอื ไมเ่ หน็ หน้าสานศุ ิษยท์ ชี่ ิดเชื้อ เหมือนเนอื้ เบ้อื บ้าเลอะดเู ซอะซะ แตห่ นพู ัดจดั แจงจุดเทยี นส่อง ไม่เสียของขาวเหลอื งเครื่องอัฏฐะ ดว้ ยเดชะตบะบญุ กบั คุณพระ ชยั ชนะมารได้ดงั ใจปองฯ ๒๖. จอดเรอื ท่ขี า้ งวดั พระเมรุซงึ่ รมิ วดั มเี รือจอดเรียงอยู่ บางลำมีคนร้องเลน่ เต้นสำราญ บางลำก็ รอ้ งเพลงเกยี้ วกนั บางลำฉลองผา้ ปา่ ดว้ ยการขบั เสภา ทงั้ ยังมคี นตรี ะนาดซ่ึงตีเกง่ เหมือนนายเส็ง (คนเกง่ ระนาดสมยั สนุ ทรภู่) มโี คมแขวนอยู่เรียงรายเหมือนอยสู่ ามเพง็ เม่ือคราวเคร่งในพระศาสนากไ็ ม่ไดด้ ู มีเรือ ลำหนึ่งกลอนมนั มาก ร้องกลอนยากลากเลือ้ ยฟงั แล้วเหน่ือยหู กลอนลดเลี้ยวเหมอื นทางงู จนลูกคบู่ อกวา่ งว่ งนอน ได้การละเลน่ ต่างๆที่ขา้ งวดั พอดกึ กน็ อน ประมาณสามยามก็มโี จรขึน้ เรือ พอมเี สียงกุกกกั สนุ ทรภู่ ก็ลุกข้ึนโวยวาย โจรกร็ บี ดำน้ำไปอย่างวอ่ งไว มองไปไม่เห็นหน้าลูกศิษย์ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกดว้ ยความกลัว แต่หนพู ดั จดุ เทียนสอ่ งดูว่ามีอะไรหายไปบ้าง แต่ไม่มเี ลยแม้แต่เครอ่ื งอฐั บริขาร ทั้งน้ดี ้วยเดชะตบะบญุ และ พระพุทธ ทำให้ชนะมารได้ ๒๗.๏ ครนั้ รงุ่ เชา้ เข้าเป็นวันอุโบสถ เจริญรสธรรมาบชู าฉลอง ไปเจดยี ท์ ีช่ ื่อภเู ขาทอง ดูสูงล่องลอยฟา้ นภาลัย อยกู่ ลางทุง่ รุ่งโรจนส์ นั โดษเด่น เปน็ ทีเ่ ลน่ นาวาคงคาใส ทพ่ี น้ื ลานฐานบทั มถ์ ดั บันได คงคงลยั ลอ้ มรอบเป็นขอบคัน มเี จดยี ว์ หิ ารเปน็ ลานวัด ในจงั หวัดวงแขวงกำแพงกน้ั ท่ีองค์ก่อยอ่ เหลย่ี มสลับกนั เป็นสามช้ันเชงิ ชานตระหงา่ นงาม บนั ไดมีสด่ี ้านสำราญรื่น ต่างชมชื่นชวนกันขนึ้ ชัน้ สาม ประทกั ษณิ จินตนาพยายาม ไดเ้ สร็จสามรอบคำนบั อภวิ ันท์ มหี อ้ งถ้ำสำหรับจุดเทยี นถวาย ดว้ ยพระพายพัดเวยี นอยเู่ หยี นหนั เป็นลมทกั ษิณาวรรตนา่ อัศจรรย์ แต่ทุกวันนีช้ ราหนกั หนานัก ทั้งองค์ฐานราญรา้ วถึงเกา้ แฉก เผยแยกยอดทรุดกห็ ลดุ หัก โอ้เจดีย์ทส่ี ร้างยังรา้ งรัก เสียดายนักนึกนา่ น้ำตากระเด็น

กระน้ีหรอื ชื่อเสียงเกยี รตยิ ศ จะมหิ มดล่วงหนา้ ทนั ตาเห็น เป็นผู้ดีมีมากแลว้ ยากเย็น คดิ กเ็ ป็นอนจิ จงั เสียทง้ั น้นั ฯ ๒๗. วันรงุ่ ขน้ึ จะเปน็ วนั พระซึ่งจะไดบ้ ชู าพระธรรม ได้ไปเจดยี ์ภูเขาทองซ่งึ ดสู งู เสยี ดฟ้า อยู่กลางทงุ่ ดโู ดดเด่นมนี ำ้ ใสอยูร่ อบๆทฐ่ี านพื้นทีเ่ ป็นรูปกลีบบวั ถัดจากบนั ไดมีน้ำไหลล้อมรอบเปน็ ขอบ มเี จดยี ม์ วี ิหาร มลี านวัด มีกำแพงกั้นอยู่ การย่อเหล่ียมไม้ ๑๒ มมุ อย่างสวยงาม มเี ปน็ สามชั้นอยา่ งงดงาม บนั ไดมี ๔ ดา้ น คณะของสุนทรภ่ชู วนกันขน้ึ ไปช้ัน ๓ ตั้งใจเดินวนขวา ๓ รอบจนครบก็กราบเจดยี ์ มีห้องทเ่ี ป็นถ้ำสำหรับจุด เทยี นเพราะลมจะพัดแรงพาธูปเทยี นดบั ตอนน้นั บังเกิดส่ิงอศั จรรยม์ ีลมพัดเวียนขวาราวกับจะเวียนเทียน ด้วย ทุกวนั นีพ้ ระเจดียเ์ ก่าและทรุดโทรมมาก ทีฐ่ านร้าวถึงเก้าแฉก ท่ียอดก็หัก องค์พระเจดยี ก์ ็ทรุด เปน็ เพราะเจดีย์ไม่มีคนคอยดูแล นึกแลว้ เสยี ดายจนนา่ รอ้ งไห้ แล้ววจะเทยี บอะไรกับชื่อเสยี งเกยี รตยิ ศของ มนษุ ย์ ก็คงหมดไปในไมน่ าน เหมือนกบั เป็นผู้ดีแลว้ ลำบาก เปน็ คนม่งั มีแล้วยากจน คิดแล้วทุกอย่างไม่แท้ เท่ยี ง ๒๘.๏ ขอเดชะพระเจดียค์ ีรีมาศ บรรจุธาตทุ ี่ตง้ั นรงั สรรค์ ขา้ อุตสา่ หม์ าเคารพอภิวนั ท์ เป็นอนันตอ์ านิสงส์ดำรงกาย จะเกิดชาติใดใดในมนษุ ย์ ใหบ้ ริสุทธิส์ มจิตท่ีคิดหมาย ทัง้ ทุกข์โศกโรคภยั อย่าใกล้กราย แสนสบายบรบิ ูรณ์ประยรู วงศ์ ท้ังโลโภโทโสแลโมหะ ให้ชนะใจไดอ้ ยา่ ใหลหลง ขอฟ้งุ เฟื่องเรืองวชิ าปัญญายง ท้ังให้ทรงศลี ขันธ์ในสันดาน อีกสองสิ่งหญิงรา้ ยแลชายชัว่ อยา่ เมามัวหมายรักสมคั รสมาน ขอสมหวังตงั้ ประโยชนโ์ พธญิ าณ ตราบนิพพานชาติหน้าใหถ้ าวรฯ ๒๘. ขอเดชะแห่งเจดีย์ภูเขาทองซ่งึ บรรจพุ ระบรมสาริกธาตุ สนุ ทรภู่ขอให้ทีไ่ ด้มากราบในคร้งั น้ีให้ เปน็ บญุ เพ่ือเปน็ อานิสงสใ์ ห้พ้นภัยต่างๆ ถา้ จะเกิดชาติไหนๆก็ขอให้ตนบรสิ ทุ ธิท์ งั้ กายและใจ ทั้งความทกุ ข์ ความโศกอยา่ ได้มาใกล้ สบายไปตลอดกาล ทงั้ ความโลภ โกรธ หลง ขอให้ตนชนะได้ ขอให้มสี ติปญั ญาหลัก แหลม ให้มศี ลี ธรรมอยู่ในใจ ทง้ั ผู้หญงิ ร้ายและผ้ชู ายช่ัวกข็ อใหอ้ ย่าได้รูจ้ ักคบหากัน ขอใหส้ มดงั หวงั แม้แต่ ชาตหิ น้าก็ขอให้เปน็ ดังหวงั ๒๙.๏ พอกราบพระปะดอกปทุมชาติ พบพระธาตสุ ถติ ในเกสร สมถวิลยนิ ดีชลุ กี ร ประคองซ้อนเชิญองค์ลงนาวา กับหนูพดั มัสการสำเร็จแลว้ ใส่ขวดแกว้ วางไวใ้ กลเ้ กศา มานอนกรงุ รุง่ ขึ้นจะบชู า ไม่ปะตาตันอกยิง่ ตกใจ แสนเสียดายหมายจะชมบรมธาตุ ใจจะขาดคดิ มานำ้ ตาไหล โอบ้ ุญนอ้ ยลอยลับครรไลไกล เสยี นำ้ ใจเจยี นจะด้นิ ส้ินชีวัน สดุ จะอยู่ดูอน่ื ไมฝ่ นื โศก กำเริบโรครอ้ นฤทัยเฝา้ ใฝฝ่ ัน พอตรู่ตร่สู รุ ิย์ฉายขึน้ พรายพรรณ ให้ลอ่ งวนั หนึ่งมาถึงธานีฯ

๒๙. พอก้มลงกราบพระพทุ ธรูปเงยข้ึนมาก็เห็นดอกบวั และกเ็ หน็ พระบรมสารีริกธาตอุ ยูใ่ นเกสรกด็ ี ใจมากและชอ้ นประคองลงเรือ พอหนูพัดกราบไว้เสรจ็ แล้วก็ใส่พระบรมสารรี ิกธาตุไว้ในขวดแก้วแล้วกว็ าง ไวใ้ กล้ศรี ษะเมื่อนอน ต้งั ใจวา่ จะไปนอนท่ีกรงุ ศรีอยธุ ยาและรงุ่ เช้าจะบูชาพระบรมสารรี กิ ธาตแุ ตพ่ อต่นื มา มองไม่เห็นพระบรมสารรี ิกธาตุกต็ กใจอยา่ งมากทัง้ ทว่ี างไว้ใกล้ศีรษะ สนุ ทรภู่ว่าเปน็ เพราะบุญตนน้อยทำให้ พระธาตุลอยน้ำไปไกล สุนทรภคู่ ดิ วา่ ไม่สามารถอยู่ทเี่ จดยี ์ภเู ขาทองตอ่ ได้เพราะจะยงิ่ เศร้าโศกและร้อนใจ ยง่ิ ขน้ึ พอเช้าตรู่พระอาทติ ย์ขึ้นสอ่ งฉาย ก็ล่องเรือถงึ กรงุ เทพฯโดยใช้เวลาเดนิ ทาง ๑ วัน ๓๐๏ ประทบั ทา่ หนา้ อรุณอารามหลวง คอ่ ยสรา่ งทรวงทรงศีลพระชินสหี ์ นริ าศเรอ่ื งเมอื งเกา่ ของเรานี้ ไว้เปน็ ทโี่ สมนัสทศั นา ดว้ ยได้ไปเคารพพระพทุ ธรูป ทั้งสถูปบรมธาตพุ ระศาสนา เป็นนสิ ยั ไวเ้ หมอื นเตือนศรัทธา ตามภาษาไม่สบายพอคลายใจ ใช่จะมที รี่ ักสมคั รมาด แรมนริ าศรา้ งมติ รพสิ มัย ซ่งึ ครวญครำ่ ทำทีพริ ีพ้ ิไร ตามนสิ ัยกาพย์กลอนแต่ก่อนมา เหมอื นแม่ครวั ค่วั แกงพะแนงผัด สารพัดเพยี ญชนังเคร่ืองมังสา อันพริกไทยใบผักชีเหมือนสีกา ตอ้ งโรยนา่ เสียสกั หนอ่ ยอร่อยใจฯ จงทราบความตามจรงิ ทุกสิ่งส้นิ อยา่ นึกนนิ ทาแถลงแหนงไฉน นกั เลงกลอนนอนเปล่ากเ็ ศร้าใจ จงึ ร่ำไรเรอื่ งร้างเล่นบา้ งเอยฯ ๓๐. ถงึ หน้าวดั อรุณก็คอ่ ยสรา่ งจากความเศร้าเพราะได้กราบพระพุทธรูป นิราศภูเขาทองของสุนทร ภูเ่ รอ่ื งน้ีไวเ้ ป็นที่อ่านเมื่อเศรา้ จะได้มคี วามสุข เพราะได้ไปกราบไว้พระพุทธรูป ท้งั กราบไวพ้ ระบรม สารีริกธาตุ เพราะคนทนี่ ับถอื ศาสนาพทุ ธเม่ือไมส่ บายใจกจ็ ะกราบไหว้พระพทุ ธรปู เพอื่ ให้สบายใจ ตอนนี้ สนุ ทรภู่ใชว่ ่าจะมีคนรักหรือพ่ึงจะจากรักมา แต่ทีก่ ลา่ วถึงผู้หญงิ กเ็ พราะเปน็ ธรรมเนียมการแต่งนิราศแต่ โบราณ เหมือนแม่ครัวจะปรงุ อาหารประเภทพะแนงนอกจากจะใส่เครอ่ื งปรุงและเนื้อสัตวแ์ ล้วยงั ต้องใส่ พริกไทยใบผกั ชีเพ่อื เพมิ่ ความนา่ รบั ประทานแก่อาหาร และผหู้ ญงิ ก็เหมือนพริกไทยใบผกั ชีเพ่อื นให้นิราศน้ี น่าอ่าน ขอให้ทราบความจริงทกุ ๆอย่างว่าสนุ ทรภู่ไม่ได้มผี ู้หญิงเลยขออยา่ ได้นนิ ทาใหเ้ สียหาย เพราะคนที่ มคี วามสามรถในเชงิ กลอนจะน่ังๆนอนๆเฉยๆกจ็ ะนา่ เบ่ือและเศรา้ ใจ จึงจะต้องแต่งกลอนเพ่อื คลายเหงา และคลายความเศร้าใจ และให้ไดผ้ ลงานเป็นทป่ี ระจักษ์

คุณคา่ ด้านเนอ้ื หา ๑ สะทอ้ นวิถีชวี ิตและวฒั นธรรมแสดงใหเ้ หน็ ถึงสภาพบา้ นเมอื ง สงั คม วฒั นธรรม และวถิ ชี ีวติ ของผูค้ น อาทิ ๑.๑ การติดตอ่ ค้าขาย ภาพการค้าขายดำเนินไปอยา่ งคกึ คัก ๑.๒ ชุมชนชาวต่างชาติ กลา่ วถงึ หญงิ สาวชาวมอญ ซ่งึ อาศัยอยูใ่ นย่านปากเกร็ด (เขตจังหวดั นนทบุรี) ๑. ๓ การละเล่นและงานมหรสพ อาทิ งานลองผา้ ปา่ มกี ารประดับประดาโคมไฟ การขบั เสภา ร้องเพลงเรือเกย้ี วกนั ๒ ตำนานสถานท่ี อาทิ วดั ประโคนปกั เหตทุ ี่วัดชื่อว่าประโคนปกั เน่อื งจากมีการเล่าสืบตอ่ กนั มาวา่ บริเวณ นเ้ี ปน็ ทปี่ กั เสาประโคนเพื่อปักเขตแดน ๓ ความเชอื่ ของไทย มักเก่ียวเน่อื งในพระพทุ ธศาสนา โดยเฉพาะเรื่องนรก-สวรรค์ อาทิ ความเช่อื ท่ีว่า หากใครคบชู้ คอื ผนู้ ้นั จะตกนรกและต้องปีนต้นงิว้ ๔.แงค่ ิดเกีย่ วกับความจรงิ ในชีวติ บทประพนั ธ์ของสนุ ทรภูม่ ักไดร้ ับการยกย่องอยู่เสมอว่ามี เนอื้ หาท่สี อดแทรกข้อคิด คติการดำเนินชีวิต และชว่ ยยกระดบั จิตใจของผู้อา่ น สนุ ทรภูย่ ังใหแ้ ง่ คิดเรอื่ งการเลอื กคบคนว่า ไม่ควรประมาทและไมควรวางใจผใู้ ดงา่ ยๆเนอ่ื งจากบางคนพดู หรอื ทำใหเ้ รา เห็นวา่ เขาเป็นคนดี แต่แทจ้ รงิ แล้วเขาอาจเปน็ คนท่มี จี ิตใจไม่ดี คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ การเล่นเสียง เชน่ ดูนำ้ วิง่ กลง้ิ เชีย่ วเปน็ เกลยี วกลอก กลบั กระฉอกฉาดฉันฉวดั เฉวยี น บา้ งพลงุ่ พล่งุ วุ้งวงเหมือนกงเกวียน ดูเปล่ยี นเปล่ยี นคว้างคว้างเป็นหวา่ งวน เปรยี บเทียบลกึ ซงึ้ กินใจ เชน่ เมื่อเคราะห์รา้ ยกายเราก็เทา่ น้ี ไม่มีท่ีพสธุ าจะอาศยั ลว้ นหนามเหนบ็ เจบ็ แสบคบั แคบใจ เหมอื นนกไร้รงั เร่อยูเ่ อกาฯ การใชค้ ำเพ่อื สรา้ งจินตภาพหรอื เกิดภาพพจน์ชัดเจน เชน่ จนแจ่มแจง้ แสงตะวันเหน็ พันธผ์ุ กั ดนู า่ รกั บรรจงส่งเกสร เหลา่ บวั เผื่อนแลสลา้ งรมิ ทางจร กา้ มกงุ้ ซอ้ นเสยี ดสาหรา่ ยใตค้ งคา

ใบงานท่ี ๑ วิชาภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ เรอ่ื ง นิราศภเู ขาทอง ๑ สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตวั ชวี้ ดั ม.๑/๑,๑/๔ ชื่อ ....................... นามสกุล ..............................ชั้น.......... เลขที่........ คําสั่ง : ใหน้ ักเรียนบอกความหมายของบทประพันธ์ดังต่อไปนี้ ๑. เคยหมอบกราบใกล้ได้กล่นิ สคุ นธต์ รลบ ละอองอบรส่ืนชื่นนาสา สนิ้ แผน่ ดินสิ้นรสสคุ นธา วาสนากส็ ้นิ เหมือนกล่นิ สคุ นธ์ มีความหมายวา่ ... ........................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………......................................... ๒. โอส้ ามญั ผนั แปรไม่แทเ้ ทย่ี ง เหมือนอย่างเย่ียงชายหญิงทิง้ วิสัย นห่ี รือจิตคดิ หมายมีหลายใจ ท่ีจติ ใครจะเปน็ หนงึ่ อย่างพึงคิด มคี วามหมายวา่ ... ........................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………......................................... ๓. ถึงบางพดู พดู ดเี ปน็ ศรศี ักดิ์ มีคนรกั รสถ้อยอร่อยจติ แมน้ พูดชั่วตวั ตายทาํ ลายมติ ร จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พราะพูดจา มีความหมายว่า ... ........................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………......................................... ๔. เมือ่ เคราะหร์ า้ ยกายเราก็เทา่ น้ี ไมม่ ีทีพ่ สุธาจะอาศัย ลว้ นหนามเหน็บเจบ็ แสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รงั เร่อยู่เอกา มีความหมายว่า ... ........................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………......................................... ๕. “ถึงสรุ าพารอดไม่วอดวาย ไมใ่ กลก้ ลายแกลง้ เมินก็เกนิ ไป” มคี วามหมายว่า ... ........................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….........................................

ใบงานท่ี ๒ วิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เร่อื ง นริ าศภูเขาทอง ๒ สาระที่ ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตวั ชวี้ ัด ม.๑/๑,๑/๔ ชอ่ื .....................................นามสกุล ..........................ชนั้ ....... เลขที่.............. คาํ ส่ัง ตอนท่ี ๑ ให้นักเรียนเขียนคาํ ประพนั ธท์ ีป่ รากฏในนริ าศภูเขาทองตามทกี่ ําหนด ๑. คาํ ประพนั ธท์ ใ่ี หข้ ้อคิดคาํ สอนเกยี่ วกบั การพดู ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ๒. คําประพันธ์ท่ีใหข้ ้อคิดคาํ สอนเก่ียวกับการคบคน ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ๓. คําประพนั ธ์ท่ใี ห้ข้อคิดคําสอนเกี่ยวกับโทษของสุรา ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ๔. คําประพนั ธ์ทใ่ี ห้ข้อคิดคาํ สอนไมใ่ ห้คบชู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ตอนท่ี ๒ ใหน้ ักเรียนเขียนคาํ ประพนั ธท์ ป่ี รากฏในนริ าศภเู ขาทองทน่ี ักเรียนช่นื ชอบมา ๑ บท พรอ้ มบอกความหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ...................................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี ๓ วิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ เรอื่ ง นิราศภเู ขาทอง ๓ สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตวั ช้ีวดั ม.๑/๑,๑๓,๑/๔ ชือ่ .......................................... นามสกุล ............................. ชนั้ ............. เลขที่ .......... คําสงั่ ใหน้ กั เรยี นตอบคาํ ถามจากนิราศภูเขาทองใหถ้ ูกต้อง ๑. นิราศภูเขาทองแต่งดว้ ยคําประพันธ์ชนดิ ใด ๑๑. นริ าศภูเขาทองมจี ดุ เด่นในดา้ นใดบ้าง ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๒. กลอนนิราศ บทแรกนยิ มข้ึนดว้ ยวรรคใด ๑๒. คนพาลท่ปี ากพูดดี แตใ่ นใจคดิ ร้าย สุนทรภู่ เปรียบเหมือนอะไร ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๓. นิราศภเู ขาทองเริ่มต้นเล่าเรอ่ื งการเดินทางโดยทางใด ตอบ............................................................... ....................................................................... ๔. จดุ เรม่ิ ต้นของการเดนิ ทางอยทู่ ่ีใด ๑๓. สิง่ ใด ๆ ตัดได้หมด ที่ตัดไดย้ ากคือ ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๕. จุดหมายปลายทางในการเดินทางอยู่ท่ีใด ๑๔. เม่ือไปถงึ อยุธยาสนุ ทรภู่จอดเรือที่ไหน ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๖. จุดประสงคใ์ นการแต่งนิราศภูเขาทองคือ ๑๕. สภาพเจดียภ์ เู ขาทองเป็นอยา่ งไร ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๗. สนุ ทรภเู่ ปน็ กวที ่โี ปรดปรานของกษัตริย์ พระองค์ใด และรชั กาลท่ีเทา่ ไร ตอบ............................................................... ๑๖. สภาพเจดีย์ภูเขาทองให้ข้อคดิ อยา่ งไรกับ สนุ ทรภู่ ....................................................................... ตอบ.......................................................................................

๘. นิราศภูเขาทองสุนทรภู่สอดแทรกเกร็ดความรู้ ๑๗. โอ้รนิ รินกลิ่นดอกไมใ้ กล้คงคา เหมือนกลิน่ ผา้ แพรดํา อะไรไว้บา้ ง มะเกลือ ตอบ............................................................... ตอบ......................................................................................... ....................................................................... ................................................................................................. ๙. ชื่อวดั ประโคนปกั มที ม่ี าจากอะไร ๑๘. ในตอนท้ายสดุ ของบทกลอนสนุ ทรภ่เู ปรยี บ ผูห้ ญิง ตอบ............................................................... เหมอื นอะไร และหมายความว่าอยา่ งไร ๑๐. สามโคกได้ช่อื ว่าปทมุ ธานเี พราะอะไร ตอบ......................................................................................... ตอบ............................................................... ...........................หมายความวา่ ...............................................

ใบงานท่ี ๔ วิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ เรื่อง นริ าศภูเขาทอง ๔ สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตัวชวี้ ัด ม.๑/๓, ๑/๔ ชอ่ื ...................................................... นามสกลุ .................ช้ัน.............เลขท่ี...................... คาํ สง่ั ให้นักเรยี นอ่านบทประพันธ์ แล้ววเิ คราะหต์ ามประเด็นทก่ี ําหนด ๑. ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควนั โขมง มคี นั โพงผกู สายไว้ปลายเสา โอบ้ าปกรรมนํา้ นรกเจยี วอกเรา ให้มวั เมาเหมือนหน่งึ บ้าเปน็ น่าอาย ทําบุญบวชกรวดนํ้าขอสาํ เรจ็ พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถงึ สรุ าพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกลง้ เมนิ กเ็ กินไป ความรู้ทีไ่ ด้รับจากบทประพันธ์................................................................................................................................. ข้อคดิ ทีไ่ ดร้ บั ............................................................................................................................................................... แนวทางในการนําความรู้และข้อคิดไปใช้ในชีวิตประจาํ วัน.................................................................................... ๒. ถึงสามโคกโศกถวิลถงึ ปิ่นเกล้า ประทานนามสามโคกเปน็ เมอื งตรี โอพ้ ระคณุ สญู ลับไมก่ ลบั หลัง แตเ่ รานีท้ สี่ นุ ทรประทานตัว สิน้ แผน่ ดินส้นิ นามตามเสด็จ แมน้ กาํ เนดิ เกดิ ชาตใิ ดใด พระพุทธเจา้ หลวงบํารงุ ซ่ึงกรุงศรี ชือ่ ปทุมธานีเพราะมีบัว แต่ชือ่ ตั้งกย็ ังอยูเ่ ขารทู้ ั่ว ไม่รอดชว่ั เชน่ สามโคกย่งิ โศกใจ ต้องเทยี่ วเตรด็ เตรห่ าท่อี าศัย ขอให้ไดเ้ ปน็ ข้าฝ่าธลุ ี ความรทู้ ี่ได้รบั จากบทประพันธ์................................................................................................................................. ข้อคดิ ทไ่ี ดร้ บั ............................................................................................................................................................... แนวทางในการนาํ ความรแู้ ละขอ้ คิดไปใช้ในชีวิตประจําวัน.................................................................................... ๓. ถึงบา้ นง้ิวเหน็ แตจ้ วิ๋ ละล่ิวสงู ไมม่ ฝี ูงสตั วส์ งิ ก่งิ พฤกษา ด้วยหนามดกรกดาษระดะตา นกึ ก็น่ากลัวหนามขามขามใจ งิ้วนรกสบิ หกองคุลแี หลม ดังขวากแซมเส่ยี มแทรกแตกไสว ใครทําชู้คู่ท่านคร้ันบรรลัย กต็ อ้ งไปปีนต้นนา่ ขนพอง ความรทู้ ไี่ ดร้ บั จากบทประพันธ์................................................................................................................................. ขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั ............................................................................................................................................................... แนวทางในการนาํ ความรแู้ ละขอ้ คิดไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วัน....................................................................................

ใบงานท่ี ๕ วิชาภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ เรอ่ื ง นริ าศภเู ขาทอง ๕ สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตวั ช้วี ัด ม.๑/๒,๑/๓ ชือ่ ................................นามสกุล..................................ช้นั ........................ เลขท.่ี ......................... คาํ สัง่ ให้นกั เรียนวิเคราะห์และอธิบายคุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์จากวรรณคดเี ร่ือง นริ าศภเู ขาทอง ๑. ถึงบางเด่ือโอ้มะเด่ือเหลือประหลาด เหมือนคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน บงั เกิดชาตแิ มลงหว่มี ีในไส้ อุปไมยเหมอื นมะเดื่อเหลือระอา ..................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ๒. ดูนํ้าวิ่งกลงิ้ เชยี วเปน็ เกลียวกรอก บ้างพลุง่ พลุง่ รงุ้ วงเหมือนกงเกวียน กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวยี น ดเู วยี นเวยี นควา้ งควา้ งเปน็ หว่างวน ..................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ๓. จนดึกดาวพราวพร่างกลางอมั พร ทงั้ กบเขียดเกรียดกรดี จังหรดี เรือ่ ย กระเรียนร่อนร้องกอ้ งเม่ือสองยาม พระพายเฉื่อยฉวิ นวิ วะหวิวหวาม ..................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ๔. จนแจม่ แจ้งแสงตะวันเหน็ พนั ธ์ุผกั เหลา่ บวั เผอื่ นแลสลา้ งริมทางจร สายดิ่งแกมแซมสลับต้นตับเต่า กระจับจอกดอกบวั บานผกา ..................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ๕. ดนู ่ารักบรรจงส่งเกสร กา้ มกุ้งซอ้ นเสียดสาหร่ายใตค้ งคา เปน็ เหล่าเหล่าแลรายทง้ั ซา้ ยขวา ดาษดาดูขาวดงั ดาวพราย ..................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ......................................................

ใบงานท่ี ๖ วิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ เร่อื ง นริ าศภเู ขาทอง ๔ สาระที่ ๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตัวช้วี ัด ม.๑/๑ ชือ่ ...............................นามสกลุ .................................ชนั้ ............เลขท่ี................... คําสง่ั ใหน้ กั เรยี นเขียนอธบิ ายศพั ทห์ รือบอกความหมายของคาํ หรือข้อความตอ่ ไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง (จากนริ าศภูเขาทอง) ๑. เคร่ืองมงั สา หมายถึง ...................................................................................................................................................................... ๒. ชลมารค หมายถงึ .......................................................................................................................................................................... ๓. ชลุ ี หมายถงึ .................................................................................................................................................................................. ๔. ตบะ หมายถงึ .. ............................................................................................................................................................................ ๕. นโิ รธ หมายถงึ .. ........................................................................................................................................................................... ๖. บรมธาตุ หมายถงึ .. .......... ........................................................................................................................................................... ๗. บัทม์ หมายถึง ............................................................................................................................................................................... ๘. บาทบพิตรอดศิ ร หมายถงึ . ......................................................................................................................................................... ๙. ปทมุ ชาติ หมาย ............................................................................................................................................................................ ๑๐. ประดาษ หมายถึง ... ................................................................................................................................................................... ๑๑. ประยรู วงศ์ หมายถงึ .. ................................................................................................................................................................ ๑๒. พจนารถ หมายถึง ........................................................................................................................................................................ ๑๓.พระเจดียค์ รี มี าศ หมายถงึ ............................................................................................................................................................. ๑๔. พระธาตุ หมายถึง ........................................................................................................................................................................ ๑๕. พระสรุ ิยง หมายถงึ .. ................................................................................................................................................................... ๑๖. พสุธา หมายถึง . ......................................................................................................................................................................... ๑๗. พิภพ หมายถงึ ............................................................................................................................................................................ ๑๔. มลุ กิ า หมายถงึ ........................................................................................................................................................................... ๑๙. โมทนา หมายถงึ .... ................................................................................................................................................................... ๒๐. รุกขมูล หมายถึง .. ....................................................................................................................................................................... ๒๑.ลมทักษณิ าวรรต หมายถึง ............................................................................................................................................................. ๒๒. วิบตั ิ หมายถงึ ............................................................................................................................................................................. ๒๓. ศลี ขันธ์ หมายถึง.......................................................................................................................................................................... ๒๔. สาชล หมายถึง .. ......................................................................................................................................................................... ๒๕. อานสิ งส์ หมายถงึ . ......................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook