ข้นั ตอนการพัฒนาโปรแกรม
1. ข้นั วเิ คราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis and Feasibility Study) ขนั้ ตอนนี้เปน็ ขั้นตอนแรกสุดท่นี กั เขยี นโปรแกรม จะต้องทำกอ่ น ลงมอื เขยี นโปรแกรม เพอื่ ทำควำม เขำ้ ใจกับปญั หำท่เี กดิ ข้นึ และคน้ หำ จุดมุง่ หมำย หรือสิง่ ทต่ี ้องกำร ขัน้ ตอนน้ีถอื วำ่ เป็นขัน้ ตอนท่ี สำคัญท่ีสดุ กอ่ นถึงขน้ั ตอนกำรวำงแผนแกไ้ ขปญั หำ และดำเนินกำรเขียนโปรแกรม โดยในขัน้ วเิ ครำะหค์ วำมตอ้ งกำรจะใชเ้ ทคนิค \"กำรวิเครำะห์งำน\" มำตรวจสอบและวเิ ครำะหค์ วำมต้องกำร ดังน้ี
2. ขนั้ วางแผนแก้ไขปัญหา หรือการออกแบบโปรแกรม (Algorithm Design) ขน้ั ตอนกำรวำงแผนแกไ้ ขปัญหำ เป็นข้นั ทมี่ ีกำรใชเ้ คร่ืองมอื มำ ชว่ ยในกำรแก้ไขปญั หำ จะทำให้ ข้นั ตอนกำรเขียนโปรแกรมมคี วำมผิดพลำด นอ้ ยลง ซึ่งเคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นกำรตรวจสอบกำร ทำงำนของโปรแกรม น้ันจะ ทำให้ ทรำบข้นั ตอน กำรทำงำนของโปรแกรมไดอ้ ย่ำงรวดเรว็ ถ้ำเรำจะเปรยี บเทียบกำรเขยี นโปรแกรมเปน็ กำรสร้ำงบ้ำนแล้ว ขัน้ ตอนกำรวำงแผนแก้ไขปัญหำ น้ี เปน็ เหมือนกำรออกแบบแปลนบำ้ น ลงใน กระดำษ เพื่อจะได้นำไปสร้ำงบำ้ น ในลำดบั ไป ซึ่ง ขน้ั ตอนกำรวำงแผนแก้ไขปญั หำน้ี ผู้ออกแบบกำรแกไ้ ขปัญหำ สำมำรถนำเครอ่ื งมือมำชว่ ยใน กำรแกไ้ ขปญั หำได้ โดยมีอยหู่ ลำยตัว ตำมควำมถนัด หรอื ควำมชอบ ซง่ึ เครอ่ื งมือเหล่ำนไี้ ด้แก่ 2.1 อลั กอรทิ มึ (Algorithm) คือรปู แบบของกำรกำหนดกำรทำงำนอย่ำงเป็นขน้ั ตอน ซ่งึ ผ่ำน กำรวิเครำะหแ์ ละแยกแยะ เพือ่ กำรแกป้ ัญหำตำ่ ง ๆ ตำมลำดบั ขั้น อำจเลอื กใช้ภำษำไทยหรือ ภำษำองั กฤษตำมควำมถนัด เพื่อนำเสนอข้ันตอนของกจิ กรรมกไ็ ด้ 2.2 ผงั งาน (Flowchart) คอื แผนภำพทใี่ ชแ้ สดงลำดับข้นั ตอนกำรทำงำนของโปรแกรม ซึง่ จะ ใช้ภำพสัญลกั ษณส์ ื่อควำมหมำย แต่ละข้นั ตอนของกำรทำงำน และจะใช้ลูกศรส่อื ถงึ ทศิ ทำงกำร เดนิ ทำงของลำดบั กำรทำงำน ซ่ึงจะทำใหท้ รำบข้ันตอนและลำดับกำรทำงำนของโปรแกรมได้ อยำ่ งถกู ต้อง 2.3 รหัสจาลอง หรอื รหัสเทยี ม (Pseudo-code)คอื กำรเขียนโปรแกรมในรูปแบบ ภำษำองั กฤษทม่ี ขี ้ันตอนและรปู แบบแน่นอนกะทดั รดั และมองดูคล้ำยภำษำระดับสงู ทใ่ี ช้กบั เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ซ่งึ รหัสเทยี มนั้นจะไมเ่ จำะจงสำหรบั ภำษำใดภำษำหนึง่ โครงสร้ำงของรหสั เทยี ม จงึ มีสว่ นที่คลำ้ ยคลึงกันกับกำรเขียนโปรแกรมมำก
3. ขนั้ ดาเนนิ การเขยี นโปรแกรม (Program Coding) ข้นั ตอนน้เี ป็นกำรเขียนโปรแกรมด้วยภำษำคอมพวิ เตอร์ ภำษำใดภำษำหนึง่ ข้ึนมำ โดยเลอื กใชภ้ ำษำทเ่ี หมำะสมกับลกั ษณะ ประเภทของงำน และควำมถนัดของผู้เขยี น เช่นถ้ำเป็นงำนทำงด้ำน ธรุ กิจ กเ็ ลอื กภำษำโคบอล ถำ้ เป็นกำรพมิ พ์รำยงำน ก็เลือก ภำษำ อำรพ์ จี ี หรอื ถำ้ จะเขยี นโปรแกรมบนเว็บกจ็ ะใชภ้ ำษำ ASP , PHP เป็นตน้
4. ข้ันทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม (Program Testing and Debugging) ขน้ั ตอนนี้เป็นกำรตรวจสอบจุดผดิ พลำดของโปรแกรม (Bugs) ท่เี ขียนขน้ึ และดำเนินกำรแกไ้ ข ข้อผดิ พลำดนั้น เรียกกระบวนกำรน้กี ำร Debugs โปรแกรมท่ีทำงำนไม่ได้ตำมวตั ถุประสงค์ เรยี กวำ่ โปรแกรมมี Error เกดิ ขน้ึ Error ของโปรแกรมมักมมี ำจำก 3 สำเหตใุ หญ่ ๆ คือ 4.1 ข้อผดิ พลำดทำงไวยำกรณ์ของภำษำ (Syntax Error) 4.2 ข้อผิดพลำดที่เกดิ จำกตรรกะโปรแกรมผดิ (Logical Error) 4.3 ขอ้ ผิดพลำดในระหวำ่ งกำรรันโปรแกรม (Run-time Error)
5. ขัน้ การเขยี นเอกสารประกอบ (Documentation) กำรทำเอกสำรประกอบโปรแกรม คอื กำรอธิบำยรำยละเอยี ดของโปรแกรมวำ่ จดุ ประสงคข์ องโปรแกรมคืออะไร สำมำรถทำงำนอะไรไดบ้ ้ำง และมีข้นั ตอนกำร ทำงำนของโปรแกรมเป็นอย่ำงไร ฯลฯ เครื่องมือทช่ี ว่ ยในกำรออกแบบโปรแกรมเช่น ผงั งำน หรือ รหัสจำลอง กส็ ำมำรถนำมำประกอบกันเปน็ เอกสำรประกอบโปรแกรม ได้ ซง่ึ เอกสำรประกอบโปรแกรมโดยทวั่ ไปจะมอี ยู่ ด้วยกนั 2 แบบคือ 5.1 เอกสำรประกอบโปรแกรมสำหรับผใู้ ช้ (User Documentation) จะเหมำะ สำหรบั ผ้ใู ชท้ ี่ไมต่ ้องเก่ียวข้องกับกำรพฒั นำโปรแกรม แต่เป็นผู้ท่ีใช้งำนโปรแกรมอยำ่ ง เดยี ว จะเนน้ กำรอธิบำยเกี่ยวกับกำรใช้งำนโปรแกรม เปน็ หลกั ตัวอย่ำงเชน่ โปรแกรมน้ที ำอะไร ใชง้ ำนในด้ำนไหน ขอ้ มลู เข้ำมลี ักษณะอยำ่ งไร ข้อมูลออกหรอื ผลลพั ธม์ ีลกั ษณะอย่ำงไร กำรเรยี กใช้โปรแกรมทำอยำ่ งไร คำสั่ง หรือข้อมูล ท่จี ำเป็นใหโ้ ปรแกรมเรมิ่ ทำงำน มอี ะไรบำ้ ง อธบิ ำยเก่ียวกบั ประสิทธภิ ำพ และควำมสำมำรถของโปรแกรม 5.2 เอกสำรประกอบโปรแกรมสำหรบั ผูเ้ ขียนโปรแกรม (Technical Documentation) จะเหมำะสำหรบั ผูใ้ ชท้ ่ีไมต่ ้องเก่ยี วขอ้ งกับกำรพฒั นำโปรแกรม แตเ่ ป็นผู้ท่ีใชง้ ำนโปรแกรมอย่ำงเดยี ว จะเน้นกำรอธิบำยเกี่ยวกับกำรใช้งำนโปรแกรม เป็นหลัก ตัวอยำ่ งเช่น ส่วนทเ่ี ป็นคำอธบิ ำยหรอื หมำยเหตใุ นโปรแกรมหรือเรียกอีกอย่ำงหนึ่งวำ่ คอมเมนท์ (Comment) ซึง่ ส่วนใหญ่มักจะเขียนแทรกอยูใ่ นโปรแกรม อธบิ ำยกำรทำงำนของ โปรแกรมเปน็ ส่วน ๆ สว่ นอธิบำยดำ้ นเทคนคิ ซ่งึ สว่ นนี้มกั จะทำเปน็ เอกสำรแยกตำ่ งหำกจำก โปรแกรม จะ อธิบำยในรำยละเอยี ดทีม่ ำกข้นึ เช่น ชอ่ื โปรแกรมยอ่ ยตำ่ ง ๆ อะไรบ้ำง แตล่ ะ โปรแกรมย่อยทำหนำ้ ที่อะไร และคำอธบิ ำยยอ่ ๆ เกยี่ วกับ วตั ถปุ ระสงค์ของโปรแกรม เปน็ ตน้
6. ขั้นบารุงรกั ษาโปรแกรม (Program Maintenance) ขน้ั ตอนนคี้ ือข้นั ตอนสุดท้ำยเมื่อโปรแกรมผ่ำนกำรตรวจสอบตำมขน้ั ตอนเรยี บร้อยแลว้ และถกู นำมำให้ผใู้ ช้ได้ใช้งำน ในช่วงแรกผู้ใชอ้ ำจจะยังไมค่ นุ้ เคยก็อำจทำใหเ้ กิดปัญหำข้นึ มำบ้ำง ดังน้นั จึงต้องมีผ้คู อยควบคมุ ดแู ลและคอยตรวจสอบกำรทำงำน กำรบำรุงรักษำโปรแกรมจงึ เปน็ ขน้ั ตอน ทผี่ เู้ ขยี นโปรแกรม ต้องคอยเฝำ้ ดู และหำขอ้ ผดิ พลำด ของโปรแกรมในระหวำ่ งทผ่ี ูใ้ ชใ้ ชง้ ำน โปรแกรมและปรับปรุงแกไ้ ขโปรแกรมเม่ือเกดิ ข้อผิดพลำดขนึ้ หรือในกำรใชง้ ำนโปรแกรมไปนำน ๆ ผใู้ ช้อำจตอ้ งกำร เปล่ยี นแปลงกำรทำงำนของระบบเดมิ เพ่ือให้เหมำะสมกับเหตกุ ำรณ์ เช่น ต้องกำรเปล่ียนแปลงหนำ้ ตำของรำยงำน มีกำรเพิ่มเติมข้อมูล หรอื ลบข้อมลู เดมิ นกั เขยี นโปรแกรมก็จะต้องคอยปรบั ปรุงแก้ไขโปรแกรมตำมควำมตอ้ งกำรของ ผูใ้ ชท้ ีเ่ ปลี่ยนแปลงไปนนั้
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: