แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท 23102 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 จัดทาโดย นายพษิ ณุ เก่งการทา ตาแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเค่ิง อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจดั ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื แผนการสอนที่ 1 เรือ่ ง การเข รายวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ชั้นมธั ย ครผู ้สู อน นายพิษณุ เกง่ การทา ตาแหน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวัดแ ประเมิน ท 2.1 ม. 3/2 เขยี นข้อความ - การเขียน - ศกึ ษาความรจู้ าก โดยใช้ถอ้ ยคาไดถ้ ูกต้องตาม อตั ชีวประวัติหรือ หนังสอื เรยี น - ตรวจใบงาน ระดับภาษา ชีวประวตั ิ - ใบงาน เร่อื ง ชวี ประวตั ขิ อ ท 2.1 ม. 3/3 เขยี น ชีวประวัติของเพ่ือน สนิท ชีวประวตั ิหรืออตั ชีวประวัติ สนทิ - สังเกตพฤต โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคดิ เห็น การทางาน และทัศนคตใิ นเร่ืองตา่ ง ๆ รายบคุ คล ท 2.1 ม. 3/4 เขียนยอ่ ความ ท 2.1 ม. 3/5 เขยี นจดหมาย กิจธุระ ท 2.1 ม. 3/8 กรอกแบบ สมัครงานพร้อมเขยี นบรรยาย เกยี่ วกับความรูแ้ ละทักษะ ของตนเองท่เี หมาะสมกับงาน ท 2.1 ม. 3/10 มมี ารยาทใน การเขียน
ดการเรยี นรู้ อง การเขียนเพื่อการส่ือสาร 1 ขยี นอัตชีวประวตั ิหรอื ชวี ประวัติ ยมศึกษาปีที่ 3 รหัสวิชา ท 23102 นง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ีใช้ 2 ชัว่ โมง และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ นผล 1. หนังสือเรียน น เรอื่ ง 1. นักเรยี นศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง การเขียนอัตชีวประวตั หิ รอื ภาษาไทย หลกั ภาษา และการใช้ภาษา ช้ัน องเพื่อน ชีวประวตั ิ จากหนงั สือเรียน ม.1 2. หนังสือวรรณคดี 2. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นว่าการเขยี น และวรรณกรรม ชน้ั ม.3 ติกรรม อตั ชีวประวตั หิ รือชวี ประวัตนิ ้ันเขยี นอย่างไร 3. ใบงาน เรอื่ ง ชวี ประวตั ิของเพอื่ น 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด สนทิ - นักเรยี นคิดวา่ ผู้เขยี นอัตชีวประวตั ไิ ด้ดี ตอ้ งเปน็ บุคคลประเภทใด 4. นกั เรยี นฝึกเขียนอัตชีวประวัตติ ามตวั อย่าง จากหนังสือ เรียน โดยเขียนทลี ะข้นั ตอน 5. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ - การเขียนตามตัวอย่างเป็นผลดตี ่อนักเรียนอย่างไร 6. นักเรยี นสนทนากับเพื่อนสนทิ ในหอ้ งเรียนเพ่ือหาข้อมูล ทจ่ี ะนามาใช้ในการเขียนชวี ประวตั ิ 7. นกั เรยี นฝึกเขียนชีวประวัติของเพื่อนสนิท โดยไมต่ ้องดู ตัวอย่าง ทาลงในสมุด สง่ ครูตรวจ
แผนการจดั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื แผนการสอนท่ี 2 เร่ือ รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ชน้ั มัธย ครูผู้สอน นายพิษณุ เก่งการทา ตาแห ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวดั แ ประเมิน ท 2.1 ม. 3/2 เขียนข้อความ - การเขยี นยอ่ โดยใชถ้ ้อยคาไดถ้ ูกต้องตาม ความ - สรปุ ความรโู้ ดย - ตรวจชิ้นงา ระดับภาษา ท 2.1 ม. 3/3 เขยี น ประดษิ ฐ์เป็น เรือ่ ง การเขีย ชีวประวัตหิ รืออตั ชีวประวตั ิ โดยเลา่ เหตุการณ์ ข้อคดิ เห็น ชิน้ งานการเขยี นย่อ ความ และทศั นคติในเรื่องตา่ ง ๆ ท 2.1 ม. 3/4 เขียนย่อความ ความ - สังเกตพฤต ท 2.1 ม. 3/5 เขยี นจดหมาย กจิ ธุระ การทางานกล ท 2.1 ม. 3/8 กรอกแบบ สมคั รงานพร้อมเขียนบรรยาย - ตอบคาถาม เก่ียวกับความรู้และทักษะ ของตนเองทเี่ หมาะสมกับงาน เปล่า ท 2.1 ม. 3/10 มมี ารยาทใน การเขยี น
ดการเรยี นรู้ อง การเขยี นเพ่ือการสื่อสาร 1 อง การเขียนย่อความ ยมศกึ ษาปีท่ี 3 รหสั วิชา ท23102 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ 2 ช่วั โมง และ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ นผล านงาน 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นเรื่อง การเขียนยอ่ ความ วา่ เป็น 1. หนังสือเรยี น ยนย่อ อยา่ งไร แตกตา่ งจากการอ่านจบั ใจความหรือไม่ ภาษาไทย หลักภาษา 2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั บทความใน และการใช้ภาษา ชนั้ ติกรรม หนา้ หนังสอื พิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2561 ม.3 ลุ่ม วา่ “ราชบณั ฑติ ยสถานหว่ งใยเดก็ ไทย ยอ่ ความไมเ่ ป็น” 2. หนังสือวรรณคดี มปาก 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ และวรรณกรรม ชั้น - นักเรยี นคดิ วา่ การย่อความไม่เป็นน่าจะมีสาเหตุมา ม.3 จากอะไร 3. ชิน้ งาน เรื่อง การ 4. นักเรียนศกึ ษาความรู้เร่ือง การเขยี นย่อความ จาก เขยี นยอ่ ความ หนงั สือเรยี น 4. บทความในหนา้ 5. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด หนงั สือพิมพ์ไทยโพสต์ - การเขียนย่อความมคี วามสาคัญอย่างไร เม่อื วันที่ 30 6. นกั เรยี นท้งั หอ้ งร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การเขยี นย่อ พฤศจิกายน 2561 วา่ ความ ท่ีได้ศึกษา โดยทาเปน็ ชิ้นงานทสี่ วยงามของห้อง “ราชบณั ฑิตยสถาน พรอ้ มทง้ั ย่อความเป็นตัวอยา่ ง 1 เร่อื ง หว่ งใยเดก็ ไทย ย่อ 7. นกั เรยี นนาช้ินงานมาอภปิ รายความรู้เรื่อง การเขียนย่อ ความไมเ่ ป็น” ความ ร่วมกนั ในห้อง
แผนการจดั ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อ แผนการสอนที่ 3 เร่อื ง การเขียนจดห รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ชน้ั มัธย ครูผู้สอน นายพิษณุ เก่งการทา ตาแห ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวัดแ ประเมิน ท 2.1 ม. 3/2 เขียนข้อความ - การเขียน - เขยี นจดหมาย ตามหัวขอ้ ทไ่ี ดจ้ บั - ตรวจจดหม โดยใชถ้ ้อยคาไดถ้ ูกต้องตาม จดหมายกจิ ธุระ ฉลาก เขยี นตามหวั - ใบงาน เร่ือง การ ไดร้ บั ระดบั ภาษา - การกรอกแบบ กรอกแบบสมคั ร - ตรวจใบงาน งาน การกรอกแบ ท 2.1 ม. 3/3 เขียน สมัครงาน สมคั รงาน ชีวประวตั ิหรืออัตชีวประวัติ โดยเลา่ เหตกุ ารณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคตใิ นเรื่องตา่ ง ๆ ท 2.1 ม. 3/4 เขียนย่อความ ท 2.1 ม. 3/5 เขยี นจดหมาย กจิ ธรุ ะ ท 2.1 ม. 3/8 กรอกแบบ สมัครงานพร้อมเขยี นบรรยาย เกย่ี วกับความร้แู ละทักษะ ของตนเองท่เี หมาะสมกับงาน ท 2.1 ม. 3/10 มีมารยาทใน การเขียน
ดการเรยี นรู้ อง การเขียนเพอ่ื การสอ่ื สาร 1 หมายกิจธรุ ะและการกรอกแบบสมัครงาน ยมศึกษาปที ี่ 3 รหสั วิชา ท 23102 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ 2 ช่ัวโมง และ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ นผล มายท่ี 1. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การเขียน 1. หนงั สอื เรียน วข้อท่ี จดหมายในสมัยปจั จบุ ัน ภาษาไทย หลักภาษา 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ และการใช้ภาษา ชน้ั น เร่ือง ม.3 บบ - เหตุใดคนในสมัยปัจจุบันจงึ ไม่นยิ มการเขียน 2. หนังสือวรรณคดี จดหมาย และวรรณกรรม ชัน้ 3. นักเรยี นศึกษาความรเู้ รื่อง การเขยี นจดหมายและ ม.3 มารยาทในการเขียน จากหนงั สือเรียน ดังนี้ 3. ฉลากหวั ข้อการ เขยี นจดหมาย - ศึกษาเรือ่ ง การเขยี นจดหมายเชญิ วทิ ยากร 4. ใบงาน เรื่อง การ - ศึกษาเรอ่ื ง การเขยี นจดหมายขอความอนเุ คราะห์ กรอกแบบสมัครงาน - ศึกษาเรอื่ ง การเขียนจดหมายขอบคุณ 5. คาถามกระตนุ้ 4. นกั เรียนแตล่ ะคนออกมาจับฉลากว่าตนเองจะไดเ้ ขยี น ความคิด จดหมายในหัวข้อใด 5. นกั เรียนเขียนจดหมายตามหัวข้อทไ่ี ด้จับฉลากไป ทาลง ในสมุด ตามตัวอย่างท่ีไดศ้ ึกษา ส่งครตู รวจ 6. ครสู นทนากบั นกั เรียนเกีย่ วกบั ความสาคัญของแบบ สมัครงาน 7. นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั การกรอก แบบสมคั รงานทมี่ ีข้อบกพร่อง จากนั้นนกั เรยี นตอบคาถาม กระตนุ้ ความคดิ - การกรอกแบบสมัครงาน มีความจาเปน็ ตอ้ งใช้ใน ชีวติ ของนกั เรียนหรือไม่ เพราะเหตุใด
8. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้เรื่อง การกรอกแบบสมคั รงาน และการเขียนบรรยายความรู้และทักษะของตนเองจาก หนังสือเรียน 9. นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง การกรอกแบบสมคั รงาน ส่งครู ตรวจใหค้ ะแนน
แผนการจัด ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ือ แผนการสอนท่ี 4 เรื่อง การเขยี นอธบิ าย ชแ้ี รายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ชน้ั มธั ย ครูผ้สู อน นายพิษณุ เกง่ การทา ตาแห ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวดั แล ประเมินผ ท 2.1 ม. 3/6 เขยี น - การเขียนอธิบาย อธิบาย ชีแ้ จง แสดงความ ช้แี จง แสดงความ - แบ่งกลุ่มศึกษา - ตรวจชิน้ งาน คดิ เหน็ และโต้แย้งอย่างมี คดิ เหน็ และโต้แยง้ เหตุผล ในเรื่องตา่ งๆ และนาเสนองาน เร่ือง เร่อื ง การ ท 2.1 ม. 3/7 เขียน วิเคราะห์ วิจารณ์ และ เร่ือง การเขยี น เขยี นอธบิ าย ช แสดงความรู้ ความ คิดเห็น หรอื โต้แย้งในเร่ือง อธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิด ต่าง ๆ ท 2.1 ม. 3/9 เขยี นรายงาน แสดงความคิดเห็น - สังเกตพฤติก การศกึ ษาคน้ คว้าและ โครงงาน การทางานกล การนาเสนอผล
ดการเรียนรู้ อง การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 แจง แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งในเรือ่ งตา่ งๆ ยมศกึ ษาปที ่ี 3 รหัสวิชา ท 23102 หน่ง พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 2 ช่ัวโมง ละ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ ผล น 1. ครอู ่านบทความเรือ่ ง อคต.ิ ..สาวเหนอื เราไม่ใช่สาวเครอื 1. หนังสือเรยี น ร ฟ้า ให้นักเรยี นฟัง ภาษาไทย หลักภาษา ชแี้ จง 2. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั วธิ กี ารเขียน และการใช้ภาษา ช้นั ดเหน็ บทความเรื่องนี้ว่า จากเรอ่ื งที่นามาอ่านให้ฟงั นักเรียนคดิ ม.3 กรรม ว่าผเู้ ขยี นเร่อื งนี้มีความรู้สึกอยา่ งไรต่อคากล่าวหาสาว 2. หนังสือวรรณคดี ลมุ่ และ เหนอื และเร่อื งนมี้ ลี ักษณะเป็นงานเขียนประเภทใด ? และวรรณกรรม ชัน้ ลงาน 3. นักเรียนแบง่ กลุ่ม 6 กลมุ่ ตามความเหมาะสม จับฉลาก ม.3 หวั ขอ้ ท่ตี ้องศึกษา ดงั น้ี 3. ฉลาก - การเขยี นอธิบาย 4. บทความเร่อื ง - การเขียนช้แี จง อคต.ิ ..สาวเหนือ - การเขียนแสดงความคดิ เหน็ เราไมใ่ ชส่ าวเครือฟ้า 4. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้และเขยี นอธิบาย ช้ีแจง แสดง 5. กระดาษปรุ๊ฟ ความคิดเห็น ตามท่ีไดจ้ บั ฉลากไป พร้อมท้งั หาข้อความที่เป็น ตัวอย่างมาดว้ ย ทาลงในกระดาษปรฟุ๊ ท่ีครแู จกให้ ตกแต่งให้ สวยงาม 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานของตนเอง จน ครบทุกกล่มุ โดยครูเปน็ ผแู้ นะนาเพิ่มเติม
แผนการจัด ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื แผนการสอนที่ 5 เร่ือง การเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์แ รายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน ชั้นมธั ย ครผู ูส้ อน นายพิษณุ เก่งการทา ตาแห ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวัดแล ประเมนิ ผ ท 2.1 ม. 3/6 เขียน - การเขยี น - เตรียมบท อธบิ าย ชแ้ี จง แสดงความ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ โฆษณาท่ีสนใจคน - สังเกตพฤติก คิดเห็น และโตแ้ ยง้ อย่างมี และแสดงความรู้ ละ ๑ เร่ือง การทางานราย เหตุผล ความคิดเห็นหรือ - ใบงาน เร่ือง - ตรวจใบงาน ท 2.1 ม. 3/7 เขยี น โตแ้ ย้งจากสอ่ื ตา่ งๆ การเขียนวิเคราะห์ การเขยี นวิเครา วเิ คราะห์ วิจารณ์ และ วจิ ารณ์ และโต้แย้ง วจิ ารณ์ และโต แสดงความรู้ ความ บทโฆษณา บทโฆษณา คดิ เห็น หรือโต้แย้งในเร่ือง ต่าง ๆ ท 2.1 ม. 3/9 เขียนรายงาน การศึกษาคน้ ควา้ และ โครงงาน
ดการเรยี นรู้ อง การเขยี นเพ่ือการสื่อสาร 2 และแสดงความรู้ ความคิดเห็นหรอื โต้แยง้ จากสอื่ ต่างๆ ยมศึกษาปที ี่ 3 รหสั วิชา ท 23102 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาทีใ่ ช้ 2 ชัว่ โมง ละ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ผล กรรม 1. ครนู าตวั อยา่ งโฆษณาสินค้าตา่ งๆ จากหนังสือพิมพ์ มา 1. หนงั สือเรยี น ยบคุ คล ให้นกั เรียนดู ร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกบั การเขียนตัวอยา่ ง ภาษาไทย หลกั ภาษา เรอ่ื ง โฆษณา เพ่ือทบทวนความรู้เร่ือง การเขยี นโฆษณา และการใชภ้ าษา ช้นั ม. าะห์ 2. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ 3 ตแ้ ยง้ - นักเรียนคิดวา่ โฆษณาท่คี รูนามาให้ดูใชภ้ าษา 2. หนังสือวรรณคดแี ละ โนม้ นา้ วใจผูอ้ ่านอย่างไร วรรณกรรม ชั้น ม.3 3. นกั เรียนศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง การเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ 3. ตวั อยา่ งโฆษณาสนิ คา้ แสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือโตแ้ ยง้ จากหนงั สือเรียน ต่างๆ 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด 4. คาถามกระตนุ้ - การเขียนโฆษณาไม่ใหผ้ ู้อ่ืนโต้แยง้ ได้ ควรเขยี น ความคิด อย่างไร 5. ใบงาน เรอื่ ง 5. นกั เรยี นหาบทโฆษณาทส่ี นใจมาคนละ ๑ เรื่อง การเขยี นวิเคราะห์ 6. นกั เรยี นทาใบงาน เร่อื ง การเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ วจิ ารณ์ และโต้แย้งบท และโต้แย้งบทโฆษณา โดยนาบทโฆษณาที่เตรยี มมาติด โฆษณา ลงในสมดุ จากนั้นเขยี นการเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และ โต้แยง้ บทโฆษณา 7. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด - นกั เรียนคิดว่า บทโฆษณาสินคา้ ท่ีถูกโตแ้ ย้งจะ เปน็ ผลดหี รอื ผลเสียต่อสนิ ค้าอย่างไร เพือ่ ทบทวนความรู้อกี ครั้ง
แผนการจัด ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื แผนการสอนท่ี 6 เรอื่ ง การเข รายวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ช้นั มัธย ครูผูส้ อน นายพิษณุ เก่งการทา ตาแห ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวัดแล ประเมนิ ผ ท 2.1 ม. 3/6 เขยี น - การเขียนรายงาน - แบ่งกลมุ่ 5-6 กลุ่ม อธบิ าย ช้แี จง แสดง จากการศึกษา - ทารายงานจาก - ตรวจรปู เล่ม ความคิดเหน็ และโตแ้ ย้ง คน้ ควา้ การศึกษาค้นคว้าใน รายงานจาก อย่างมเี หตุผล เร่อื งทสี่ นใจ จดั ทา การศกึ ษาคน้ ท 2.1 ม. 3/7 เขยี น เปน็ รปู เล่ม เร่ืองที่สนใจ วิเคราะห์ วิจารณ์ และ แสดงความรู้ ความ คิดเห็น หรอื โตแ้ ยง้ ใน เรอ่ื งตา่ ง ๆ ท 2.1 ม. 3/9 เขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า และโครงงาน
ดการเรยี นรู้ อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร 2 ขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ ยมศึกษาปที ่ี 3 รหสั วิชา ท 23102 หน่ง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช้ 2 ชว่ั โมง ละ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ผล ม 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม 5-6 กลุ่ม ตามความเหมาะสมและ แต่ 1. หนังสือเรยี น ละกลุ่มเลือกเรื่องที่กลมุ่ ตนเองต้องการศึกษา โดยดตู ัวอย่าง ภาษาไทย หลักภาษา นควา้ ของครูประกอบการตัดสนิ ใจ และการใชภ้ าษา ชัน้ 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด ม.3 - เพราะเหตใุ ด กล่มุ ของนกั เรียนจงึ เลือกและสนใจ 2. หนงั สอื วรรณคดี เร่ืองดังกล่าว และวรรณกรรม ชนั้ - นักเรียนคิดว่า ความรทู้ ่ีเหมาะสมกบั เรือ่ งท่ีนกั เรยี น ม.3 จะทารายงานการศึกษาคน้ คว้าควรมีลกั ษณะอย่างไร 3. คาถามกระตนุ้ 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรู้เร่ือง การเขยี น ความคดิ รายงานการศึกษาคน้ คว้า จากหนังสือเรยี น 4. ตัวอย่างหัวข้อเรื่อง 4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายและสรปุ ความรู้ แลว้ ทา การทารายงาน ลงใบงาน เรอื่ ง หลักการเขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ 5. สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวางแผน แบ่งหนา้ ท่ใี นการ ดาเนนิ การศึกษาค้นควา้ เร่ืองทสี่ มาชิกกลมุ่ มีความสนใจ อยากรู้ อยากเรยี น และต้องการคน้ หาคาตอบร่วมกนั 6. นักเรยี นแต่ละคนนาความร้ทู ไี่ ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ มา แลกเปลีย่ นความรู้กนั ภายในกลุม่ อภิปรายผล และ สงั เคราะหค์ วามรู้ 7. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มจดั ทารูปเลม่ รายงานท่ถี ูกต้อง สวยงาม ส่งครูก่อนสอบปลายภาคเรียนท่ี 2/2562
แผนการจัด ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื แผนการสอนที่ 7 เร่ือง รายวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ชัน้ มธั ย ครผู ู้สอน นายพิษณุ เกง่ การทา ตาแห ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวัดแ ประเมิน ท 2.1 ม. 3/6 เขียน - การเขียน - เขยี นรายงาน อธบิ าย ช้ีแจง แสดงความ รายงานโครงงาน โครงงานกลมุ่ ละ 1 - ตรวจการเข คิดเห็น และโต้แย้งอยา่ งมี โครงงาน รายงานโครง เหตุผล ท 2.1 ม. 3/7 เขยี น วิเคราะห์ วิจารณ์ และ แสดงความรู้ ความ คดิ เหน็ หรือโตแ้ ย้งในเร่ือง ต่าง ๆ ท 2.1 ม. 3/9 เขยี นรายงาน การศึกษาค้นคว้าและ โครงงาน
ดการเรยี นรู้ อง การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 การเขยี นรายงานโครงงาน ยมศึกษาปีที่ 3 รหสั วิชา ท 23102 หน่ง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช้ 2 ชั่วโมง และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ นผล ขยี น 1. นกั เรยี นกลุ่มเดิมจากการทารายงานการศึกษาคน้ ควา้ 1. หนงั สอื เรยี น งงาน ให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ยกตัวอย่างปญั หาการใชภ้ าษาไทย ภาษาไทย หลกั ภาษา ของนักเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 กลุ่มละ 1 ปญั หา และการใชภ้ าษา ชนั้ 2. ครูกระตนุ้ ให้นักเรียนหาวิธกี ารแกป้ ัญหา จากคาถามวา่ ม.3 นกั เรยี นคดิ ว่า ปัญหาที่เกิดข้ึนในสงั คมควรให้ใครเป็นผู้ 2. หนังสอื วรรณคดี แกไ้ ข? และวรรณกรรม ช้ัน 3. ครูยกตวั อยา่ งโครงงานที่ใช้แกป้ ัญหาตา่ งๆ ใหน้ ักเรยี น ม.3 เข้าใจ แล้วโยงเข้าสู่เร่อื งการเขียนรายงานโครงงาน 3. ตัวอยา่ งปญั หาการ 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรูเ้ ร่ือง การเขียน ใชภ้ าษาไทยใน โครงงาน จากหนงั สือเรียน โรงเรียนราชประชานุ 5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มกาหนดจดุ มงุ่ หมายให้ชัดเจนวา่ จะ เคราะห์ 31 ศึกษาเร่ืองทสี่ นใจนน้ั เพ่ืออะไร จะทาโครงงานเพื่อ 4. ตวั อยา่ งโครงงาน แกป้ ัญหาอะไร (ปญั หาการใช้ภาษาไทยในโรงเรยี น) 5. กระดาษ A4 6. นักเรียนคิดวา่ รายงานโครงงานมีความเหมือนและ ความแตกต่างจากรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างไร? 7. นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผนแก้ปัญหา แล้วนาเสนอ แผนการดาเนินงาน ครคู อยให้คาแนะนาการวางแผน ดาเนินงานโครงงานของนักเรียน 8. นกั เรยี นเขียนโครงงานตามองคป์ ระกอบของโครงงาน และตามแผนการดาเนนิ งาน ทาในกระดาษ A4 ส่งครู
แผนการจัด ช่อื หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เ แผนการสอนที่ 8 เรื่อง คาภ รายวิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน ชน้ั มัธย ครผู ูส้ อน นายพิษณุ เก่งการทา ตาแห ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ การว ช้ินงาน ประเ ท 4.1 ม.3/1จำแนกและใช้คำ ภำษำต่ำงประเทศทใี่ ช้ในภำษำไทย - การศกึ ษาเรอ่ื ง - ใบงำนเรอ่ื ง - ตรวจใ ท 4.1 ม.3/4 ใชค้ ำทบั ศัพทแ์ ละ ศัพทบ์ ัญญตั ิ การใช้คาใน คำทม่ี ำจำก เรอ่ื ง ค ท 4.1 ม.3/5 อธบิ ำยควำมหมำย คำศัพท์ทำงวิชำกำรและวิชำชพี ภาษาไทย จะต้อง ภำษำตำ่ งประเทศ ภาษาตา่ จาแนกและใชค้ า ภาษาต่างประเทศ ท่ีใช้ในภาษาไทย ให้ถูกต้อง
ดการเรยี นรู้ เรอื่ ง การใช้คาในภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ยมศกึ ษาปที ่ี 3 รหัสวิชา ท 23102 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ 4 ช่วั โมง วดั และ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ เมินผล ใบงาน 1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน คาท่ีมาจาก ท่ี 9 ภาษาไทย หลกั ภาษา างประเทศ 2. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกับป้ายชือ่ รา้ นคา้ ใน และการใชภ้ าษา ชนั้ ท้องถ่นิ ของนักเรยี น แลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง ม.3 3. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ชื่อร้านคา้ วา่ เป็นคาทมี่ า 2. หนังสือวรรณคดี จากภาษาใดบ้าง และช่วยกนั บอกท่ีมาของภาษาน้ันๆ และวรรณกรรม ชนั้ ม. ในภาษาไทย 3.ห้องสมดุ 4. นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ 4. ใบงานที่ 9.1 • การทีเ่ รานาคาภาษาตา่ งประเทศเขา้ มาใช้ จะ 5. กระดาษ A4 เกดิ ผลอย่างไรต่อภาษาไทย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลย พนิ ิจของครผู สู้ อน) 5. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 5 คน คละกนั ตาม ความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน แล้วใหแ้ ตล่ ะ คนภายในกลุ่มกาหนดหมายเลขประจาตวั เปน็ หมายเลข 1-5 ซ่งึ เรยี กวา่ กลมุ่ บ้าน 6. ครูให้สมาชิกที่มหี มายเลขเดยี วกันมารวมกันเป็น กลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผูเ้ ช่ียวชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศกึ ษาความรู้เร่อื ง คาภาษาต่างประเทศใน
ภาษาไทย จากหนังสือเรียน ห้องสมดุ และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ ดงั นี้ - กลมุ่ หมายเลข 1 ศึกษาเร่ือง คาท่ียมื มาจาก ภาษาบาลี-สนั สกฤต - กลมุ่ หมายเลข 2 ศึกษาเร่ือง คาทย่ี มื มาจาก ภาษาเขมร - กลุ่มหมายเลข 3 ศึกษาเร่ือง คาทีย่ มื มาจาก ภาษาจีน - กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาเรื่อง คาที่ยืมมาจาก ภาษาชวา มลายู - กลุ่มหมายเลข 5 ศึกษาเร่ือง คาทย่ี มื มาจาก ภาษาองั กฤษ 7. เม่ือนักเรยี นกลุม่ ผู้เช่ยี วชาญศึกษาความรู้จนมคี วาม เข้าใจแลว้ ให้บนั ทึกความรลู้ งในแบบบนั ทกึ การอ่าน จากนัน้ แยกยา้ ยกันกลับไปยังกลุ่มบ้าน 8. สมาชกิ ผลดั กันอธิบายความรู้ตามที่ตนไดศ้ ึกษามา ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มบ้านฟัง ตามลาดับหมายเลข 1-5 จน ครบ และมีความรูค้ วามเขา้ ใจในเรื่องคา ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 9. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 9.1 เรื่อง คาที่มาจาก ภาษาตา่ งประเทศ เสรจ็ แล้วนาส่งครูตรวจ 10. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความร้เู ร่อื ง คา ภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ตามประเดน็ ความรู้ ดงั นี้ 1) หลักการสงั เกตคาที่มาจากภาษาต่างประเทศ 2) หลกั การใช้คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย 11. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ขอ้ 1-2 1) นักเรียนคิดวา่ คาที่ยืมมาจาก ภาษาต่างประเทศ เรายืมภาษาใดมาใชม้ ากทีส่ ุด เพราะ
เหตุใด (ภาษาบาลี-สนั สกฤต เพราะเปน็ ภาษาท่ีเขา้ มา พรอ้ มกับศาสนา) 2) ปัจจบุ ันเรายมื ศัพทป์ ระเภทใด เข้ามาใช้มาก ทสี่ ุด (ศพั ท์ทเ่ี ก่ียวกบั เทคโนโลยี)
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: