Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เศรษฐศษสตร์4-4

เศรษฐศษสตร์4-4

Published by Sirinun Suedee, 2021-01-29 16:40:02

Description: เศรษฐศษสตร์4-4

Search

Read the Text Version

คำนำ รายงานเลม่ นจ้ี ัดทำขึ้นเพ่ือเปน็ ส่วนหนึ่งของรายวิชา เศรษฐศาสตร์ เกย่ี วกับเร่ือง ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกิจ ของชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เพอื่ ให้ไดศ้ ึกษาหาความรู้ในเรื่อง ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจ และไดศ้ ึกษา อยา่ งเข้าใจเพ่อื เป็นประโยชนก์ บั การเรยี น ผจู้ ดั ทำหวังวา่ รายงานเล่มนจ้ี ะเปน็ ประโยชนก์ บั ผอู้ ่านหรอื นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ที่กำลงั หาขอ้ มลู เร่ืองนี้ หากมขี อ้ แนะนำหรอื ขอ้ ผิดพลาดประการ ใด ผจู้ ดั ทำขอน้อมรบั และขออภยั มา ณ ทีน่ ด้ี ว้ ย คณะผู้จดั ทำ

สารบัญ หน้า 4 เรอื่ ง 5 ความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ 16 อุปสงค์และอปุ ทาน 18 การแทรกแซงราคา ตลาด

ความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ 4 อุปสงค์ อปุ ทานและดุลยภาพตลาด ในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนยิ มและแบบผสม กลไกราคา จะเปน็ เครือ่ งมอื ในการแกป้ ญั หาพื้นฐานทางเศรษฐกจิ ว่าจะ ผลิตอะไร ผลิตอยา่ งไรและผลิตเพื่อใคร ซึ่งส่ิงทเี่ ป็นตัวกำหนด ราคาสินค้าและบริการในทางเศรษฐกิจ คอื อุปสงคข์ องผ้บู ริโภค และอุปทานของผู้ผลิตนนั่ เอง

อุปสงค์ 5 อุปสงค์ (Demandค) วหมาามยถหึง มปราิมยาณขคอวางมตออ้ ุปงกาสรซง้ือคสิน์ คา้ และบรกิ ารชนดิ ใดชนดิ หนึ่งของผู้บรโิ ภคท่ีเต็มใจ จะซ้ือและซื้อหามาได้ ณ ระดบั ราคาตา่ งๆที่ อปุ สงค์ (Demand) หมายถงึ ปรมิ าณสินคา้ และบรกิ ารชนิดใดชนดิ หนง่ึ ท่ีมีผู้ ตลาดกำหนดให้ กลา่ วคอื เม่อื ผู้บริโภคมคี วามตอ้ งการทีจ่ ะซ้อื สนิ ค้าและตอ้ งการซือ้ ณ ระดบั ราคาตา่ งๆ ของสนิ คา้ ชนิดนนั้ ภายในระยะเวลาใดเวลาหน่งึ บริการนน้ั แลว้ กจ็ โดะยสสมามตุมิใหาป้ รัจจถยั อม่นื ๆกี ทำ่ีกาลหนงั ดซอปุ ้อื สงสคค์ นิ งทค่ี ควา้ ามนตอั้น้ งกไาดรใน้ ทแ่ีนตีต้ อ้ ่ถงม้าีอาผนาู้บจซรอื้ ิโภคไม่สามารถที่ (Purchasing power หรอื Ability to pay)ดว้ ย ถา้ บคุ คลใดบคุ คลหนง่ึ มีแต่ จะซือ้ หรอื ไม่มีกำลคงั วาซมตอื้ อ้ งกการ็จในะตวั ไสมินค่ถา้ โดอื ยไวม่าม่ ีเเงนิปท่จี็นะจอ่ายปุ ซอื้ สเรงาเรคียก์ตควาามมตคอ้ งกวาารลมกั ษหณะมายในทาง นนั้ วา่ “ความตอ้ งการ (Want)” ไมใ่ ช่ “อปุ สงค์ (Demand)” ดงั นนั้ องคป์ ระกอบ เศรษฐศาสตร์ ของอปุ สงค์ จะประกอบดว้ ย ความตอ้ งการและอานาจซือ้ กฎของอุปสงค์ กฎของอุปสงค์ อปุ สงค์ คือ อธิบายถงึ พฤตกิ รรมของผูบ้ ริโภคในการตดั สนิ ใจซอ้ื สนิ คา้ เม่ือ ราคาสินคา้ เปล่ียนแปลงไป กฎของอปุ สงคก์ ล่าววา่ \"ปรมิ าณสนิ คา้ ทผี่ บู้ รโิ ภค ตอ้ งการซอ้ื ในขณะใดขณะหนง่ึ จะมีความสัมพนั ธใ์ นทางตรงกันข้ามกับราคา สินค้าชนดิ น้ัน\" โดยมขี ้อสมมตใิ หป้ ัจจัยอน่ื ๆคงที่

ลกั ษณะของเสน้ อปุ สงค์ 6 จะมลี ักษณะเปน็ เส้นตรงลาดลงจากซ้ายมาขวา ความชัน (slope) ของเสน้ เปน็ ลบ เน่ืองจากราคาและปริมาณความต้องการซอื้ มีความสมั พนั ธใ์ นทศิ ทางตรงกนั ขา้ ม อปุ สงค์ส่วนบุคคล (Individual Demand) และอุปสงค์ตลาด (Market Demand) ในการพจิ ารณาอุปสงค์ ถ้าพิจารณาความสัมพนั ธร์ ะหว่างราคาสนิ ค้ากบั ปริมาณ สินค้าที่ผบู้ ริโภคคนใดคนหน่งึ ตอ้ งการ เรยี กอุปสงคน์ น้ั วา่ “อุปสงคส์ ว่ นบคุ คล

สาเหตุทีท่ ำให้อุปสงคเ์ ปล่ยี นแปลงท้งั เสน้ 7 1.)รายได้ - ถ้ารายไดเ้ พม่ิ เส้นอปุ สงคจ์ ะเพม่ิ ชดิ ขวาของเสน้ เดมิ - ถา้ รายไดล้ ด เสน้ อปุ สงค์จะลดลงชดิ ซา้ ยของเสน้ เดิม 2.)รสนยิ ม - ถา้ รสนยิ มในสนิ ค้าสูง เสน้ อุปสงคจ์ ะเพ่มิ ชดิ ขวา - ถ้ารสนยิ มในสินคา้ ต่ำ เสน้ อุปสงค์จะเพิม่ ชิดซา้ ย 3.)การเปลีย่ นแปลงของราคาสนิ ค้า อย่างอื่นที่ใชท้ ดแทนกนั 4.)การเปล่ยี นแปลงจำนวนและองคป์ ระกอบของประชากร 5.)การโฆษณา 6.)การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล 7.)การคาดคะเนการขึน้ ลงของราคาสนิ ค้าทที่ ำให้อุปสงค์เปล่ยี นแปลงทั้งเสน้

อุปทาน 8 หมายถึง ปริมาณสินค้าและบริการชนิดใดชนดิ หนง่ึ ที่ผผู้ ลิตเตม็ ใจนำออกเสนอ ขายในตลาดภายในระยะเวลาหนึง่ ณ ระดับราคาต่างๆ กนั ของสินค้าและบรกิ าร นั้น โดยสมมตใิ หป้ จั จัยอืน่ ๆ ทก่ี ำหนดอปุ ทานคงที่ จากความหมายของอปุ ทาน จะเห็นได้วา่ อปุ ทานประกอบด้วย 2 สว่ นสำคญั คอื 1.)ความเตม็ ใจท่จี ะเสนอขายหรอื ใหบ้ รกิ าร กล่าวคอื ณ ระดบั ราคาตา่ งๆ ท่ี ตลาดกำหนดมาให้ ผผู้ ลิตหรือผปู้ ระกอบการมคี วามยนิ ดีหรือเต็มใจที่จะเสนอ ขายสนิ คา้ หรือใหบ้ ริการตามความตอ้ งการซอ้ื ของผบู้ รโิ ภค 2.)ความสามารถในการจัดหามาเสนอขายหรือให้บริการ กล่าวคือ ผู้ผลิตหรือ ผู้ประกอบการจะต้องจัดหาให้มีสินค้าหรือบริการอย่างเพียงพอที่จะตอบสนอง ความตอ้ งการซื้อของผ้บู รโิ ภค ณ ระดับราคาของตลาดในขณะนัน้ ๆ

กฎของอุปทาน 9 จะอธบิ ายถึงพฤติกรรมของผผู้ ลิตในการแสวงหากำไรสงู สุด กฎของ อุปทานกล่าววา่ “ปริมาณสินคา้ ท่ผี ผู้ ลติ เต็มใจจะนำออกขายในระยะเวลา หน่ึงข้นึ อยกู่ บั ราคาสินคา้ นั้นๆ ในทิศทางเดยี วกัน” กลา่ วคอื เมือ่ ราคา สินคา้ สงู ขน้ึ ปรมิ าณอุปทานจะเพิ่มข้ึน เน่อื งจากผผู้ ลิตมีความตอ้ งการที่จะ เสนอขายมากขน้ึ เพราะคาดการณ์วา่ จะไดก้ ำไรสูงขึ้น ในทางกลบั กัน เมอื่ ราคาสนิ คา้ ลดลงปริมาณอปุ ทานจะน้อยลง เน่อื งจากคาดการณ์วา่ กำไรท่ี ไดจ้ ะลดลง ลักษณะทัว่ ไปของเสน้ อปุ ทานจึงเป็นเสน้ ทมี่ ีลักษณะทีล่ าก เฉยี งข้ึนจากซา้ ยไปขวา ภายใต้ข้อสมมตวิ า่ ปจั จัยตวั อนื่ ๆทมี่ ีผลตอ่ อปุ ทาน มคี า่ คงที่ ลักษณะของเส้นอุปทาน - ทอดข้นึ จากซ้ายไปขวาและมีความชนั เป็นบวก -แสดงถึงราคากบั ปริมาณเสนอขายเปล่ยี นแปลงทิศทางเดียว

สาเหตทุ ีท่ ำใหอ้ ุปทานเปล่ยี นแปลงท้ังเสน้ 10 1.)ตน้ ทนุ ผลติ - ถา้ ตน้ ทนุ การผลิตสินค้าสงู จะทำให้เส้นอุปทานลดลง - ถา้ ต้นทนุ การผลติ สนิ ค้าตำ่ จะทำใหเ้ ส้นอปุ ทานเพม่ิ ขึน้ 2.)สภาพดนิ ฟา้ อากาศเชน่ - ถา้ สภาพดนิ ฟ้าอากาศไมด่ ีหรอื ฝนไมต่ กถกู ต้องตามฤดกู าลผลผลิตข้าวลด นอ้ ยลง อปุ ทานลดลง - ถา้ สภาพดินฟ้าอากาศดหี รอื ฝนตกตอ้ งตามฤดกู าล ผลผลติ ขา้ วได้มากขน้ึ อุปทานเพิม่ ข้นึ 3.)เทคนิคการผลติ - ถา้ เทคนคิ การผลติ ดีอปุ ทานจะเพิ่มขน้ึ - ถ้าเทคนคิ การผลิตไมด่ ีอุปทานจะลดลง 4.)ราคาสินค้าชนดิ อนื่ สินค้าเป็นทีต่ อ้ งการมากจะเกดิ การกกั ตนุ เพอ่ื การเก็ง กำไรอปุ ทาน ลดราคาจะสงู ขน้ึ 5.)จำนวนผูข้ าย ถ้าผขู้ ายมากอุปทานเพมิ่

อุปทานสว่ นเกิน 11 รัฐบาลจะตอ้ งรับซอื้ ผลผลิตส่วนเกินไวท้ ัง้ หมดในราคาประกนั ทำใหร้ ัฐบาลต้อง รับภาระหนัก เพราะส้นิ เปลอื งงบประมาณมาก รัฐบาลจงึ ใช้วธิ ีอ่ืนแก้ปัญหา ได้แก่ การลดปรมิ าณการผลิต เพราะผลผลติ มีราคาตกตำ่ เน่อื งจากปริมาณ ผลผลติ มากกวา่ ความต้องการตลาด ปญั หาใหล้ ดการผลติ ลงทำไดย้ าก การให้ เงินอดุ หนุนดา้ นราคา โดยรัฐจะกำหนดราคาขั้นตำ่ ท่ีสูงกว่าราคาดลุ ยภาพหรอื ราคาตลาดแล้วจา่ ยเงินอุดหนุนตอ่ หนว่ ยสินคา้ จากผลตา่ งของราคาดุลยภาพและ ราคาประกันขนั้ ตำ่ ขอ้ ดีคอื ผูบ้ รโิ ภคมีโอกาสซอื้ สินค้าในราคาถกู และไดบ้ รโิ ภค สินค้าจำนวนมาก

ราคาและปรมิ าณดุลยภาพ 12 ความหมายของราคาและปรมิ าณดุลยภาพ ราคา หมายถึง มลู คา่ ของสินคา้ และบริการทคี่ ดิ เป็นจำนวนเงินเพอ่ื ประโยชนใ์ นการแลกเปล่ยี นซื้อขายราคาดุลยภาพและปริมาณดุลยภาพ หมายถงึ ราคาหรอื ปรมิ าณท่ผี ้บู รโิ ภคพอใจที่จะซื้อหรือใช้ และผู้ผลิตหรอื ผขู้ ายพอใจทจ่ี ะ ขายหรือผลติ ทงั้ นเ้ี น่อื งจากในตลาดทีม่ ีการซื้อขายอย่างสนิ คา้ อยา่ งเสรี ผู้ผลิต และผบู้ ริโภคย่อมจะพยายามแสวงหาผลประโยชนใ์ หต้ นเองมากที่สุดเทา่ ทจี่ ะทำ ไดก้ ลา่ วคอื ผูบ้ ริโภคตอ้ งการสินค้าราคาตำ่ ส่วนผูข้ ายต้องการขายในราคาสงู ซ่ึง ทำให้ความตอ้ งการสงู ขนึ้ สินคา้ ทคี่ งเหลอื จงึ สามารถขายให้หมดได้ในขณะใด ขณะหนึ่ง ราคาสนิ คา้ ตำ่ เกนิ ไปเมือ่ เทียบกบั ปรมิ าณความต้องการ สนิ คา้ ก็จะขาด แคลน ผซู้ ้ือสนิ คา้ ในตลาดยอ่ มจะแย่งกนั ซื้อ ซ่ึงจะส่งผลใหร้ าคาสนิ คา้ มรี าคา สูงข้นึ เม่อื สินคา้ ราคาสงู ข้ึน ความต้องการจะลดลง ซงึ่ จะทำให้ในสว่ นที่ขาดแคลน หายไปดว้ ยในทส่ี ดุ กจ็ ะถงึ จุดดลุ ยภาพ

13 สาระสำคญั ในพระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ.2541 พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรือ “กฎหมายคุ้มครอง แรงงาน” เป็นกฎหมายทม่ี ีแนวคิดเกีย่ วกบั การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในเรือ่ งตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการจ้างแรงงานระหว่างนายจา้ งกบั ลกู จ้าง อาทิเช่น การกำหนด อัตราคา่ จา้ งข้ันตำ่ วันเวลาทำงานปกติ วันหยดุ วันลา ค่าชดเชย ฯลฯ ทน่ี ายจา้ ง จะต้องถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ลกู จา้ ง โดยมเี จตนารมณท์ ีส่ ำคญั คอื ต้องการคมุ้ ครองลกู จ้าง ใหม้ มี าตรฐานในการจ้างงานทีเ่ หมาะสม เหตุผลเนือ่ งจากอำนาจตอ่ รองระหว่าง นายจ้างและลูกจา้ งน้นั ไมเ่ ทา่ กัน ดังนั้นการกำหนดมาตรฐานข้ันต่ำในการจ้างงาน โดยรัฐท่ถี ือวา่ เปน็ คนกลางระหว่างทงั้ 2 ฝา่ ย ข้นึ มาก็จะเป็นผลดีกบั ลกู จา้ งทจ่ี ะ ไดร้ ับการคุ้มครองแรงงานท่เี ปน็ ธรรม นอกจากนี้ กฎหมายคมุ้ ครองแรงงานยังมี ลักษณะเป็นกฎหมายสงั คมและมีลกั ษณะทเี่ ปน็ กฎหมายเก่ยี วกบั ความสงบ เรยี บรอ้ ย ซ่งึ ประเดน็ สำคญั ก็คือนายจ้าง และลูกจา้ งไม่สามารถท่จี ะตกลงยกเวน้ การบงั คับใชก้ ฎหมายฯ ได้ถ้าไมไ่ ด้มกี ารกำหนดใหน้ ายจ้างและลูกจ้างสามารถที่ จะตกลงยกเวน้ ได้และในกรณที ่มี ีการตกลงยกเวน้ การบงั คบั ใช้กฎหมายฯ ก็จะถอื วา่ ข้อตกลงดงั กล่าวนัน้ เป็นโมฆะ

สาระสำคัญโดยสรปุ ของกฎหมาย 14 กำหนดมาตรฐานข้นั ตำ่ ในการจ้างแรงงานระหวา่ งนายจ้างและลูกจา้ ง เช่น 1.)การใช้แรงงานทั่วไปซึง่ ประกอบดว้ ยเรอื่ งเวลาปกติ และจำนวนช่ัวโมงทำงานปกติ หลักเกณฑแ์ ละจำนวนช่วั โมงทำงานล่วงเวลาทำงานในวนั หยดุ ทำงานลว่ งเวลาใน วันหยุด และเวลาพกั 2.)การใชแ้ รงงานหญิง และการใชแ้ รงงานเด็ก 3.)การจา่ ยคา่ ตอบแทนในการทำงาน 4.)วิธกี ารเลิกสัญญาจา้ งแรงงาน และคา่ ชดเชย 5.)กำหนดหนา้ ท่ี ความรับผดิ ชอบและข้อหา้ มทใ่ี ห้นายจ้างกระทำในเร่ืองต่างๆ เกย่ี วกับการใชแ้ รงงาน กำหนดหนว่ ยงาน และกลไกทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การบังคบั ใชก้ ฎหมาย เช่น คณะกรรมการตา่ ง ๆ ซง่ึ ไดแ้ ก่ คณะกรรมการค่าจ้าง คณะกรรมการสวสั ดิการ แรงงานคณะกรรมการสวสั ดิการในสถานประกอบกิจการและจำนวนของพนกั งานตรวจ แรงงานในสว่ นทีเ่ ก่ยี วกบั การบงั คบั ใช้กฎหมาย กำหนดช่องทาง และวิธีการของลูกจ้าง ในการด าเนินการในกรณที นี่ ายจา้ งไมจ่ ่ายเงนิ ตามที่ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดใหน้ ายจา้ งมีหนา้ ท่ีจะต้องจ่ายใหก้ ับลกู จ้าง

โครงสรา้ งของกฎหมาย 15 พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรอื กฎหมายค้มุ ครองแรงงานมี บทบญั ญตั ิทง้ั สน้ิ 166 มาตรา แบ่งเปน็ 16 หมวด ดงั น้ี • หมวด 1 บททวั่ ไป (มาตรา 7 – มาตรา 23) • หมวด 2 การใช้แรงงานทว่ั ไป (มาตรา 23 – มาตรา 37) • หมวด 3 การใช้แรงงานหญงิ (มาตรา 38 – มาตรา 43)

การแทรกแซงราคา 16 การแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคา จากการท่ปี ระเทศใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมทีค่ ่อนขา้ งไปทางทุนนิยม ทำให้เอกชนสามารถมบี ทบาทในการกำหนดราคาในตลาดได้มาก แตห่ าก ระดับราคาตลาดหรอื ราคาดุลยภาพนั้น ก่อให้เกิดความเดอื ดรอ้ นแกค่ นบาง กล่มุ รฐั จะเขา้ มาแทรกแซงกลไกราคา เพือ่ ช่วยเหลอื และสรา้ งความเปน็ ธรรม ให้เกิดข้นึ ในระบบเศรษฐกิจได้ การแทรกแซงราคา คือ การที่รฐั เขา้ แทรกแซง ตลาดเพอ่ื ควบคมุ ราคาใหเ้ ป็นอยา่ งที่อยากให้เป็น ซ่ึงเปน็ ตัวการทำให้กลไก ราคาทำงานไดอ้ ยา่ งไม่สมบูรณ์ การแทรกแซงราคาของรฐั บาล รฐั บาลจะเข้าไปแทรกแซงกลไกราคาในกรณีท่ี กลไกราคาไมส่ ามารถ แกไ้ ขปญั หาไดท้ ันทว่ งที รัฐบาลมกั จะเข้าแทรกแซงราคาโดยใช้มาตรการ ควบคมุ ราคา ความจำเปน็ ในการแทรกแซงราคา กลไกราคาจะทำงานอยา่ งเสรเี ฉพาะในตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณเ์ ทา่ นนั้

17 การกำหนดราคาขน้ั ตำ่ ผลกระทบท่ีสำคญั จากการกำหนดราคา - เกดิ ภาวะอปุ ทานสว่ นเกิน -รฐั บาลต้องใชม้ าตรการใชเ้ งนิ อุดหนนุ การกำหนดราคาขน้ั สูง ผลกระทบท่ีสำคัญจากการกำหนดราคา - เกดิ ภาวะอปุ สงค์สว่ นเกนิ - เกดิ ภาวะตลาดมดื

ตลาด 18 ความหมายของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ ในทางเศรษฐศาสตร์ ตลาด หมายถึงสถาบันทางสังคมทผี่ ้คู นหลายฝา่ ย สามารถค้าขายหรอื แลกเปล่ยี นสินคา้ และบรกิ ารได้ โดยไมร่ ะบเุ จาะจงวา่ เปน็ สถานท่ที างกายภาพทใ่ี ดทห่ี นึ่ง ตลาดอาจมีการแลกเปล่ียนสนิ ค้ากนั โดยตรงหรือมเี งนิ ตราเปน็ สื่อกลางในการแลกเปลย่ี น และมรี าคาเป็น ตัวชว้ี ดั มลู ค่าของสินคา้ หรือบรกิ ารในการแลกเปล่ยี นน้นั ๆ แนวคิดเรอ่ื งตลาดในเศรษฐศาสตร์กระแสหลกั มลี ักษณะค่อนขา้ งเปน็ นามธรรม โดยมกั ใช้แนวคิดทอ่ี อ็ งตวน-โอกุสแตง็ กรู ์โนอธบิ ายวา่ การทีผ่ ู้ ซอื้ และผขู้ ายสามารถแลกเปลยี่ นไดโ้ ดยสมัครใจ และราคาสนิ ค้ามีแนวโนม้ ท่ีจะกลายเปน็ ราคาเดยี วกนั ไดโ้ ดยง่าย[1] นักเศรษฐศาสตร์ยงั ใชแ้ นวคิด ตลาดอธบิ ายความสัมพันธท์ างสงั คมในรปู แบบอน่ื ๆ ท่ไี มใ่ ช่การซ้อื ขายทาง เศรษฐกิจเพยี งอยา่ งเดยี ว

ตลาดแข่งขันสมบรู ณ์ 19 ลักษณะตลาดแขง่ ขันสมบูรณ์ 1.)มีจำนวนผู้ซื้อและผูข้ ายในตลาดจำนวนมาก 2.) สนิ คา้ ท่ขี ายในตลาดมีลกั ษณะเหมือนกนั ทกุ ประการ จงึ ทำใหไ้ ม่มผี ้ซู ื้อ และผขู้ ายรายใดสามารถกำหนดราคาของสนิ คา้ ในตลาดได้ ดงั น้ันผซู้ ื้อผขู้ าย ในตลาดแข่งขนั สมบรู ณจ์ งึ ตอ้ งยอมรบั ราคาทตี่ ลาดกำหนด 3.)ผู้ผลติ หรอื ผขู้ ายสามารถเข้าออกจากตลาดไดอ้ ยา่ งเสรี โดยมีกำไรเปน็ แรงจูงใจ 4.)มกี ารเคล่ือนย้ายทรพั ยากรการผลิตสินค้าและบริการได้อย่างเสรี 5.)ผูซ้ ้ือและผขู้ ายมีความรู้ และรับทราบข้อมลู ข่าวสาร โดยเฉพาะเรื่อง ราคาได้เป็นอย่างดี

20 ขอ้ ดี 1.)ดา้ นผบู้ ริโภค ราคาสินคา้ และบรกิ ารที่ถูกก าหนดขึน้ ในสภาพการแขง่ ขัน เป็น ราคาท่คี อ่ นขา้ งยุตธิ รรมตอ่ ผบู้ รโิ ภค 2.)ดา้ นผผู้ ลิตทำให้ผ้ผู ลิตปรับปรงุ คุณภาพสนิ ค้าและบริการของตนเอง เพ่อื การแข่งขนั กับผผู้ ลิตรายอน่ื ๆ 3.)ดา้ นสงั คมทำให้สงั คมมีการใชท้ รัพยากรตา่ งๆ อย่างคุ้มค่าเพ่ือใหเ้ กิด ประสิทธภิ าพทางเศรษฐกิจ ในทางเศรษฐศาสตร์ถือวา่ ตลาดแข่งขันสมบรู ณเ์ ปน็ ตลาดในอุดมคติ

ตลาดแขง่ ขันไมส่ มบรู ณ์ 21 หมายถงึ ตลาดท่ผี ู้ซือ้ หรือผขู้ ายมอี ทิ ธพิ ลในการกำหนดราคาหรอื ปริมาณ ซ้อื ขายสนิ ค้ากนั บา้ งไม่มากกน็ อ้ ย ซง่ึ ขนึ้ อยกู่ ับความไมส่ มบูรณข์ องตลาดจะมี มากนอ้ ยเพยี งใด แบง่ ออกได้เปน็ 3ประเภท คอื 1.)ตลาดผกู ขาดสมบูรณ์ 2.)ตลาดผขู้ ายน้อยราย 3.)ตลาดกง่ึ แข่งขันกึง่ ผกู ขาด

ตลาดผูกขาด 22 สาเหตกุ ารเกิด สาเหตกุ ารเกิดการผูกขาด 1) การกีดกนั เน1ื่อ) กงามรกาีดกจนั เาน่ือกงมกาจาากรกผารผลลติติ ตตอ้ งอ้การงปกระาหยรดั ตปอ่ ขรนะาดห(ยิ่งยผลัดิตมตากอ่ เสขยี นาด(ย่งิ ผลติ มาก เสยี ตน้ ทนุ ตอ่ หน่วยต่าลง) ดงั นนั้ ผผู้ ลติ รายยอ่ ยไม่สามารถเขา้ มาแข่งขนั ทางดา้ น ราคาได้ เรยี ก “การผกู ขาดโดยธรรมชาติ” (natural monopoly) ตน้ ทุนต่อหนว่2)ยกาตรท่ำ่ผี ผูล้ ลงิตเปด็นผงัผู้ กูนขา้นั ดทผรพั ูผ้ ยาลกริตท่ใี รชใ้ านกยารยผลอ่ ติ เยองไจมงึ มส่ีอ าานมาจผากู รขาถดตเลขาดา้ สมนิ คาา้ ดแว้ ยข่งขัน ทางด้านราคาได้ เรยี ก “การผูกขาดโดยธรรมชาต”ิ3) การกีดกนั เน่ืองมาจากภาครฐั เป็นอ านาจผกู ขาดอนั เน่ืองมาจากกฎหมาย ซง่ึ เกิดไดจ้ ากหลายสาเหตุ 2) การที่ผู้ผลติ เป็นผกาู้ผรจูกดสขทิ ธาิบดตั รทเชน่รสัพิทธยิบตัารใกนสริ่งปทระีใ่ ดชิษฐ้ใ์ สนิทธกิบตัารรยาผเปล็นตติ น้ เอง จึงมอี านาจผกู ขาดตลาดสินค้าด้วย การใหใ้ บอนญุ าต เช่น ใบประกอบวชิ าชีพบางประเภท การใหส้ มั ปทาน เชน่ แรธ่ าตบุ างประเภท รงั นก ธุรกิจโทรคมนาคม 3) การกีดกนั เน่ืองมาจากภาครัฐ เปน็ อำนาจผกู ขาดอนั เน่อื งมาจาก กฎหมาย ซง่ึ เกดิ ไดจ้ ากหลายสาเหตุ เชน่ การจดสทิ ธิบัตร เชน่ สิทธิบัตรในสิง่ ประดษิ ฐ์ สทิ ธบิ ัตรยา เป็นต้น การใหใ้ บอนญุ าต เชน่ ใบประกอบวชิ าชพี บางประเภท การใหส้ มั ปทาน เช่น แรธ่ าตุบางประเภท รงั นก ธุรกิจโทรคมนาคม ข้อดี

ตลาดกึง่ แขง่ ขันกงึ่ ผกู ขาด 23 ลักษณะสำคญั 1.)มผี ู้ขายหรอื ผผู้ ลติ ในตลาดเป็นจำนวนมาก แตไ่ มม่ ากเทา่ กบั ตลาดแขง่ ขัน สมบูรณ์ ผู้ผลติ แต่ละรายไดส้ ่วนแบง่ ตลาดน้อย จงึ ไมส่ ามารถมีอทิ ธิพลตอ่ การ กำหนดราคา 2.)สินค้ามลี กั ษณะแตกตา่ งกนั ความแตกต่างน้ีอาจเกดิ จากรปู ลักษณ์หรอื เกดิ ขึน้ ในความรูส้ กึ ของผู้ซ้ือ 3.)ผผู้ ลติ ผู้ขายสามารถออกตลาดได้อย่างเสรี ตวั อย่าง สบู่ แชมพู กระดาษ ชา เขยี ว ลกู อม แครกเกอร์น้ำปลา ฯลฯ

24 ข้อดี 1).ตลาดกึ่งแข่งขันกงึ่ ผูกขาด เปน็ ตลาดทสี่ ร้างทางเลอื กใหก้ ับผู้บรโิ ภค ใกล้เคียงกบั ตลาดแข่งขันสมบรู ณ์ คอื มสี ินคา้ และบรกิ ารที่ทดแทนกนั ได้ ค่อนขา้ งดแี ละมจี ำนวนมาก นอกจากนก้ี ารแข่งขนั ทำให้เกิดประสิทธภิ าพใน การผลติ สนิ คา้ และบริการ 2.)การแขง่ ขนั กนั โดยการใช้ส่ือประเภทตา่ งๆ ท าให้ผูบ้ ริโภคได้รับรู้ข้อมลู เกี่ยวกับสินค้าไดอ้ ย่างกว้างขวาง ซง่ึ ทำให้ผู้บริโภคมีข้อมลู เป็นพน้ื ฐาน ในการตัดสนิ ใจ ข้อเสยี 1.)การท่ีมีผผู้ ลติ จำนวนมากทำใหแ้ ต่ละรายแขง่ ขันกันในดา้ นต่างๆ เพอ่ื ตอ้ งการให้ผู้บริโภคมคี วามภักดีต่อตราสินคา้ ของตน และเพม่ิ ยอดจำหน่าย จงึ มคี ่าใชจ้ ่ายในการส่งเสริมการขายค่อนขา้ งสูง เช่น การโฆษณา การจดั รายการสง่ เสรมิ การขายรูปแบบต่างๆ แต่ตน้ ทนุ เหล่านจ้ี ะ รวมอยูใ่ นราคาสนิ คา้ และบริการ ทำใหร้ าคาสนิ คา้ และบริการสูงเกินกวา่ ต้นทนุ การผลติ ที่แท้จริงมาก

ตลาดผู้ขายนอ้ ยราย 25 ลกั ษณะสำคญั 1.)ผูข้ ายหรอื ผู้ผลิตมจี ำนวนนอ้ ย ผู้ผลติ ในตลาดผูข้ ายนอ้ ยรายมกั ไมต่ อ้ งการ ร่วมมือกบั ผผู้ ลติ รายอื่น และคำนงึ ถึงผลกำไรที่จะไดร้ ับ จงึ ต้องสนใจแนว ทางการดำเนินงานของคแู่ ข่งด้วย 2.)สนิ ค้าที่นำมาขายในตลาดอาจจะเป็นสินค้าท่ีมีลกั ษณะคล้ายคลึงกนั หรอื เป็นสินคา้ ที่มีความแตกต่างกนั กไ็ ด้ แตส่ ามารถทดแทนกันได้ 3.)ผผู้ ลิตรายใหม่ๆจะเขา้ สู่ตลาดไดย้ ากเพราะมอี ุปสรรคบางประการ 4.)การดำเนนิ กลยุทธ์การแข่งขัน อาจใชท้ ง้ั ดา้ นราคา และท่ีไมใ่ ชร่ าคา แต่ส่วน ใหญเ่ ปน็ การแข่งขันทไ่ี มใ่ ช้ราคา เช่น การสง่ เสริมการขาย การโฆษณา เป็นตน้ ตัวอยา่ ง นำ้ มัน ซเี มนต์ โทรศัพทม์ อื ถอื รถยนต์ เหลก็ เป็นตน้

26 ข้อดี 1.)การท่ีมผี ขู้ ายจำนวนนอ้ ยทมี่ ีอทิ ธพิ ลต่อตลาดสูง สนิ คา้ และบรกิ าร สามารถทดแทนกนั ได้อยา่ งดี ทำใหผ้ ขู้ ายแตล่ ะรายต้องสนใจที่จะ แข่งขันในด้านบรกิ ารเพือ่ ดึงดูดผูบ้ รโิ ภค หรือใช้กลยุทธ์ทางด้านราคา ซ่งึ จะเกิดเป็นสงครามราคาที่มีการตัดราคากนั เอง ซึ่งเปน็ โอกาสทอง ของผ้บู รโิ ภค ข้อเสยี 1.)หากผู้ผลิตในตลาดสามารถร่วมมอื กนั ได้ทจ่ี ะไม่แข่งขันในดา้ น ราคา และเม่ือการร่วมมือกนั นั้นมคี วามใกลช้ ดิ กันมาก ผ้ขู ายนอ้ ยรายก็ จะยดึ ถือตามนโยบายของกลมุ่ ผู้ขายในตลาด โดยมจี ุดหมายเพื่อให้ ผลประโยชนข์ องกลมุ่ สงู สดุ ซ่งึ หมายความวา่ พฤตกิ รรมในการกำหนด ราคาหรือปรมิ าณการจำหนา่ ยของผูข้ ายนอ้ ยราย จะเปน็ เชน่ เดยี วกัน กบั กรณขี องผู้ผกู ขาด

บรรณานุกรม 27 อปุ สงค์และอุปทาน https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AA %E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0 %B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99?fbclid=Iw AR0WFmXDxWhD5ynkT8eM7YapvqENbMbensJB-mclVPnD5DCOwt3DjoBf1bY กลไกราคา https://th.m.wikibooks.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0% B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0 %B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80% E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B 4%E0%B8%88?fbclid=IwAR3fENn8Dlxujmtvnpz8tqPZN2oay98K_2jrOcb9Re3f- cB59WXKADmTsus ตลาดแข่งขนั สมบูรณแ์ ละตลาดแข่งขันไมส่ มบูรณ์ https://sites.google.com/site/chatsuda5010/tlad-khaengkhan- smburn?fbclid=IwAR0siC6alQEZ2ot4BPr- 4lWvjwvqz9sLCKwoPumuOdWDiRZfHSObZwTaQSY

เสนอ คณุ ครู ณัฐรินยี ์ สมนกึ จัดทำโดย นายธราเทพ บัวลา เลขท่ี17 นายพันนา ปาสานะเต เลขท6่ี นายธนัท อ่อนมั่ง เลขที่2 นายภัทรพงศ์ แตงพิศ เลขท่ี18 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook