Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องที่ 2

เรื่องที่ 2

Published by rsunjanjaw, 2020-03-01 23:19:54

Description: เรื่องที่ 2

Search

Read the Text Version

สื่อการเรียนรู้ วชิ า หลกั ภาษาไทย พท 33002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เรอื่ ง อกั ษรไทย ผจู้ ดั ทา นายเจตนส์ ฤษฏพ์ิ งศ์ รตั นบวรกรกลู ครู กศน.ตาบลทบั คลอ้ กศน.ตาบลทบั คลอ้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอทบั คลอ้ สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั พจิ ติ ร

คำนำ ส่ือกำรเรียนรู้ วิชำเลือก วิชำหลักภำษำไทย รหัสวิชำ พท33002 เร่ือง ระบบเสียงในภำษำไทย ตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551 ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย จดั ทำขึน้ เพอื่ ให้ผู้เรียนได้รับควำมรู้และ ประสบกำรณ์ ซ่ึงเป็นไปตำมหลักกำรปรัชญำกำรศึกษำนอกโรงเรียน และ พระรำชบัญญัติส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย พ.ศ.2551 ให้ผ้เู รยี นมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม มสี ติปญั ญำ มศี ักยภำพในกำรประกอบอำชีพและสำมำรถ ดำรงชวี ิตอย่ใู นสังคมได้อย่ำงมคี วำมสุข เพ่ือให้กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ของนักศึกษำ กศน.ตำบลทับคล้อ มีประสิทธิภำพ กศน.ตำบลทับคล้อ ได้ผลิตส่ือกำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสภำพปัญหำ ควำมต้องกำรของผู้เรียน สื่อกำรเรียนรู้เล่มนี้ได้ประมวลเนื้อหำรกำรเรียนรู้ กิจกรรม เสริมทักษะ แบบวัดประเมินผลกำรเรียนรู้ไว้ อย่ำงครบถ้วน เพ่ือให้ผู้เรียนสำมำรถอ่ำน เข้ำใจงำ่ ยและศึกษำค้นควำ้ ดว้ ยตนเองได้อยำ่ งสะดวก ผู้จดั ทำหวงั เปน็ อยำ่ งยิ่งวำ่ สือ่ กำรเรยี นรู้ รำยวิชำหลักภำษำไทย รหัสวิชำ พท33002 เร่ืองอักษรไทย เล่มน้ีจะเป็นส่ือที่อำนวยประโยชน์ต่อกำรเรียนรู้ของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ และสำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้รับมำปรับประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ของตนเองและอยใู่ นสงั คมได้อยำ่ งมีควำมสุข ผจู้ ดั ทำ นำยเจตนส์ ฤษฏ์พิ งศ์ รตั นบวรกรกลู ครู กศน.ตำบลทับคล้อ

ข หนำ้ ก สำรบญั ข 1 คำนำ 2 สำรบัญ 4 คำแนะนำในกำรใชส้ อ่ื กำรเรยี นรู้ 5 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5 สำระสำคญั 7 อกั ษรไทย 12 16 - ตอนที่ 1 ประวัติควำมเป็นมำอกั ษรไทย 18 - ตอนที่ 2 สระในภำษำไทย 20 - ตอนที่ 3 พยญั ชนะไทย 21 - ตอนท่ี 4 วรรณยุกตไ์ ทย แบบทดสอบหลังเรยี น เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ผู้จัดทำ

1 คาแนะนาในการใชส้ อ่ื การเรียนรู้ 1.นักศึกษำอ่ำนคำแนะนำส่อื กำรเรยี นรูใ้ ห้เข้ำใจกอ่ นปฏิบัตกิ จิ กรรม 2.กอ่ นจะศกึ ษำเนอ้ื หำในบทเรียน ใหน้ กั ศึกษำทำแบบทดสอบก่อน เรยี นทกุ ครงั้ เพอื่ เปรยี บเทียบพัฒนำกำรเรียนรู้ของตนเอง 3.เริ่มศึกษำเน้อื หำอยำ่ งละเอยี ด และหำกไม่เข้ำใจใหย้ อ้ นกับไป ศึกษำใหม่ 4.นักศึกษำไมค่ วรดูเฉลยกอ่ นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และตอ้ งมี ควำมซ่อื สัตย์ในตนเอง 5.เมอ่ื ศึกษำสอื่ กำรเรียนรคู้ รบเน้ือทุกตอนแลว้ ใหน้ กั ศกึ ษำทำ แบบทดสอบหลงั เรียนแลว้ ตรวจดเู ฉลยคำตอบท้ำยบทเรียน

2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คำชแี้ จง 1.แบบทดสอบฉบบั นีเ้ ปน็ แบบปรนัย 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ 2.ให้นกั ศกึ ษำเลือกคำตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ดุ เพียงข้อเดียว และไมค่ วรดูเฉลยก่อนทำ ข้อสอบเสรจ็ ******************************************************************************* 1. สระไทยมที ัง้ หมดกร่ี ปู กเ่ี สยี ง ก. 21 รปู 32 เสียง ข. 44 รปู 21 เสยี ง ค. 21 รูป 44 เสยี ง ง. 44 รูป 32 เสยี ง 2. ขอ้ ใดเป็นสระเสยี งสัน้ ทงั้ หมด ข. โอ อู เออะ อะ ก. อื อึ อำ แอ ง. อำ อี อู เออ ค. อะ อิ อุ เอำะ 3. ข้อใดเป็นสระเสียงส้ันทง้ั หมด ข. โอ อู เออะ อะ ก. อื อึ อำ แอ ง. อำ อี อู เออ ค. อะ อิ อุ เอำะ 4. สระ “เอียะ” ประสมกนั ระหวำ่ งสระอะไรบำ้ ง ก. สระ อื ประสมกับ สระ อำ ข. สระ อึ ประสมกับ สระ อะ ค. สระ อี ประสมกบั สระ อำ ง. สระ อิ ประสมกบั สระ อะ 5. สระเกนิ มที ั้งหมดกีต่ ัว ข. 8 ตวั ก. 7 ตวั ง. 10 ตวั ค. 9 ตัว

3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คำชแ้ี จง 1.แบบทดสอบฉบับนเี้ ปน็ แบบปรนยั 4 ตวั เลือก จำนวน 10 ข้อ 2.ใหน้ กั ศกึ ษำเลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว และไม่ควรดเู ฉลยกอ่ นทำ ข้อสอบเสรจ็ ******************************************************************************* 6. ข้อใดเป็นพยญั ชนะเสียงสงู ทงั้ หมด ก. ข ผ ฉ ถ ข. ค ง ช ว ค. ก ด ต บ ง. ข ด ต ว 7. พยัญชนะเสียงกลำงมที ง้ั หมดกต่ี ัว ข. 20 ตัว ก. 17 ตัว ง. 26 ตวั ค. 24 ตวั 8. ตวั สะกดมีทง้ั หมดก่ีมำตรำ ข. 6 มำตรำ ก. 5 มำตรำ ง. 8 มำตรำ ค. 7 มำตรำ 9. มำตรำใดไมม่ ตี ัวสะกด ก. แม่ กน ข. แม่ กม ค. แม่ กด ง. แม่ ก.กำ 10.วรรณยกุ ต์ไทยมีทัง้ หมดกีร่ ูปกเี่ สยี ง ก. 4 รูป 5 เสยี ง ข. 4 รปู 4 เสยี ง ค. 4 รปู 6 เสยี ง ง. 4 รปู 3 เสียง

4 สำระสำคญั ควำมเป็นมำของอกั ษรไทย สระและเสียงของสระในภำษำไทย ลกั ษณะ เสยี งพยญั ชนะไทย และลักษณะของเสยี งในวรรณยกุ ตไ์ ทย ผลกำรเรยี นรทู้ ค่ี ำดหวงั 1. ผูเ้ รยี นเขำ้ ใจควำมสำคญั ของอักษรไทย 2. ผ้เู รยี นเขียนสะกดคำไดถ้ กู ต้องตำมอกั ขระวธิ ี ขอบขำ่ ยเนอ้ื หำ ตอนท่ี 1 ประวัตคิ วำมเปน็ มำของอกั ษรไทย ตอนท่ี 2 สระในภำษำไทย ตอนที่ 3 พยญั ชนะไทย ตอนที่ 4 วรรณยกุ ตไ์ ทย

5 เรอ่ื ง อกั ษรไทย ตอนที่ 1 ประวตั คิ วำมเปน็ มำของอกั ษรไทย จำกศิลำจำรึกของพ่อขุนรำมคำแหงมหำรำช พบว่ำ มีข้อควำมท่ีกล่ำวถึง เรื่องของตวั หนังสือไทยเอำไว้ตอนหนึ่งว่ำ “เม่ือก่อนนี้ลำยสือไทน้ีบ่มี 1205 ศกปีมะเมีย พ่อขุนรำมคำแหงหำใครใ่ จ ในใจและใส่ลำยสือไทนี้ลำยสือไทนี้จ่ึงมีเพ่ือขุนผู้นั้นใส่ไว้”ได้ มผี ู้สนั นษิ ฐำน เรือ่ งตวั หนงั สอื ไทยไว้หลำยแง่มุม เช่นจำรึกอักษรท่ีภำพชำดกท่ีผนังอุโมง วัดศรีชุม จังหวดั สโุ ขทยั นำ่ จะเปน็ ตวั หนงั สือท่มี มี ำก่อนตัวหนังสือจำกศิลำจำรึกของพ่อ ขุนรำมคำแหงมหำรำช และพ่อขุนรำมคำแหงมหำรำช ปรับปรุงตัวหนังสือเก่ำท่ีเคยมี มำแลว้ จดั วำงสระเสียใหม่คำว่ำใส่อำจหมำยถึง กำรกระทำเชน่ น้ี แตก่ ส็ รปุ ได้ว่ำ แตก่ ่อน ไม่มีตัวหนังสือไทยแบบน้ี และเท่ำที่ทรำบยังไม่เคยมีผู้ท่ีทรำบว่ำ มีตัวหนังสือไทยแบบ อ่ืนใช้มำก่อนสมัยกรุงสุโขทัยไทยเรำเป็นชำติท่ีเจริญเก่ำแก่มำแต่โบรำณกำล ได้มี กำรศึกษำค้นคว้ำมำว่ำ ชำติไทยนั้น เคยมีภูมิลำเนำอยู่ในดินแดนที่เป็นส่วนหน่ึงของ ประเทศจีนในปัจจุบัน และเมื่อกำลเวลำผ่ำนไป มีกำรเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึนหลำยอย่ำง ตำมสภำพสังคมและส่ิงแวดล้อม แต่ภำษำพูด คนไทยเรำเห็นว่ำเป็นสิ่งสำคัญ ท่ีเรำยัง คงไว้ ไมเ่ ปลี่ยนแปลงไปงำ่ ยๆเหมอื นเร่ืองอื่น แม้ในปัจจุบันคนท่ีพูดภำษำ ซ่ึงพอจะย้อน ไปได้ว่ำ ต้นตอเป็นภำษำไทย มีอำศัยอยู่ท่ัวไป ในดินแดนท่ีกว้ำงใหญ่ของจีน ในมณฑลอัสสัมของอนิ เดีย ในรัฐฉำนตอนเหนือของพม่ำในลำวท้งั หมด ในเวียดนำมตอน เหนอื เรำยังพอพูด พอฟังเข้ำใจกันได้ ในเร่ืองท่ัว ๆ ไปในชีวิตประจำวันคำหลัก ๆ กำร สร้ำงรูปประโยค และไวยำกรณ์ ยงั คงอยู่ ภำษำจีนและภำษำไทย จัดเป็นภำษำอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นภำษำที่ กำหนดเอำเสียงหน่งึ แทนควำมหมำยหนึ่ง จึงมีคำท่ีมีเสียงโดดเสียงเดียวอยู่เป็นอันมำก ทำให้ต้องมีคำอยู่เป็นจำนวนมำก จึงต้องอำศัยกำรทำเสียงสูง เสียงต่ำ ให้มีควำมหมำย แตกตำ่ งกนั เพอ่ื ใหม้ เี สียงพอกับคำท่ีคดิ ขนึ้ แตถ่ ึงกระนนั้ ก็ยงั ไมเ่ พยี งพอ จึงตอ้ งมีคำผสม ของเสียงหลำยพยำงค์ เพมิ่ เตมิ ข้ึนอีก ควำมแตกต่ำงจำกภำษำอื่นประกำรหนึ่งคือ เรำมี เสยี งวรรณยุกต์ สมัยพ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช พระองคไ์ ดท้ รงประดษิ ฐว์ รรณยกุ ต์ขึ้น 2

6 เสยี ง คือ เสียงเอกและเสียงโท ซ่ึงเม่ือใชค้ วบกับอักษรเสียงสูงและเสียงต่ำ หรือใช้อักษร “ห” นำอักษรเสียงต่ำท่ีไม่มีคู่อักษรเสียงสูงแล้ว ก็สำมำรถผันเสียงได้ถึง 5 เสียง คือ เสียง สำมญั เอก โท ตรี และจตั วำ ภำษำจนี ก็มีเสียงที่เป็นวรรณยุกต์เหมือนกัน แต่ไม่มี เครื่องหมำยเขยี นในตวั หนงั สอื เสียงวรรณยุกต์ของจีนน้ีบ้ำงก็ว่ำมี 4 เสียง และสูงสุดถึง 8 เสยี ง ซึง่ เมอ่ื เทยี บกับวรรณยุกตไ์ ทย กค็ งจะเปน็ เสียง ท่ีเกดิ จำกวรรณยุกต์ผสมกับสระ เสียงส้ันเสียงยำว ซ่งึ ทำงไทยเรำแยกเสียงออกไปในรปู สระ ภำษำจนี และภำษำไทย มีรูป ประโยคท่เี กดิ จำกกำรเอำคำมำเรียงกนั เป็นประโยค ข้อแตกต่ำงของไวยำกรณ์ไทย ท่ีไม่ เหมือนของจีน ที่สำคัญคือคำคุณศัพท์ขยำยนำม ภำษำไทยเรำเอำไว้หลังนำม แต่จีน เอำไว้หน้ำนำม เช่นเดียวกับภำษำอ่ืน ๆ คำวิเศษณ์ท่ีประกอบกริยำ ภำษำไทยเอำไว้ ตำมหลังกริยำ แต่ภำษำจีนมักไว้หน้ำกริยำ คำวิเศษณ์ท่ีประกอบคุณศัพท์ ภำษำไทย เอำไว้หลังคุณศัพท์ แต่ภำษำจีนเอำไว้หน้ำคุณศัพท์ และลักษณะนำม ภำษำไทยจะไว้ หลงั นำม แตภ่ ำษำจนี เอำไวห้ นำ้ นำม

7 ตอนท่ี 2 สระในภำษำไทย สระ หมำยถึง เคร่ืองหมำยใชแ้ ทนเสียงที่เปลง่ ออกมำตำมหลกั ภำษำถอื ว พยัญชนะจำเป็นต้องอำศยั สระจึงจะออกเสียงได้ รปู สระในภำษำไทยมี 21 รปู ดงั นี้ 1. ะ เรยี กว่ำ วิสรรชนยี ์ 2. ั เรยี กว่ำ ไมห้ ันอำกำศ หรอื ไมผ้ ดั 3. ็ เรียกวำ่ ไมไ้ ต่คู้ 4. ำ เรยี กวำ่ ลำกขำ้ ง 5. ิ เรียกวำ่ พินทุ หรือ พิทอุ ิ 6. ่ เรยี กว่ำ ฝนทอง 7. \" เรียกว่ำ ฟันหนู 8. เรียกว่ำ นฤคหติ หรอื หยำดนำ้ คำ้ ง 9. ุ เรียกวำ่ ตนี เหยยี ด 10. ู เรียกว่ำ ตีนคู้ 11. เ เรียกวำ่ ไมห้ น้ำ 12. ใ เรยี กวำ่ ไมม้ ้วน 13. ไ เรียกว่ำ ไมม้ ลำย 14. โ เรยี กว่ำ ไมโ้ อ 15. อ เรยี กวำ่ ตวั ออ 16. ย เรียกว่ำ ตวั ยอ 17. ว เรียกวำ่ ตวั วอ 18. ฤ เรยี กว่ำ ตัว ฤ (รึ) 19. ฤๅ เรียกว่ำ ตวั ฤๅ (รอื ) 20. ฦ เรียกวำ่ ตวั ฦ (ล)ึ ปัจจบุ ันเลกิ ใช้แล้ว 21. ฦๅ เรยี กวำ่ ตัว ฦๅ (ลอื ) ปจั จบุ นั เลิกใชแ้ ลว้

8 เสยี งสระในภำษำไทยมี 32 เสยี ง ดังนี้ อะ อำ อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ เเอะ เเอ เอยี ะ เอยี เอือะ เออื อวั ะ อัว โอะ โอ เอำะ ออ เออะ เออ อำ ใอ ไอ เอำ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ เมื่อเวลำออกเสียงสระ เช่น อะ อำ เอะ เอ เอียะ เอีย จะออกเสียง แตกตำ่ งกัน บำงตวั ออกเสียงส้ันบำงตัวออกเสียงยำว บำงตัวเหมือนมีสระสองเสียงกล้ำ กัน ดงั น้นั จึงจดั แบ่งเสียงสระเป็นพวกใหญ่ ๆได้ 5 พวกด้วยกนั คือ สระเสียงสนั้ ได้แก่ สระทีอ่ อกเสียงสัน้ คอื อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอำะ เออะ เอยี ะ เออื ะ อัวะฤ ฦ อำ ไอ ใอ เอำ สระเสยี งยำว ได้แก่ สระท่ีออกเสียงยำว คอื อำ อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอยี เอือ อัว ฤๅ ฦๅ สระเดย่ี ว ได้แก่ สระที่เปล่งเสยี งออกมำเปน็ เสยี งเดยี ว ไม่มีเสยี งอนื่ ประสม มี 18 ตัวได้แก่ อะ อำ อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ เอำะ ออ สระประสม คอื สระท่มี เี สยี งสระเดยี่ ว 2 ตวั ประสมกนั มี 6 ตัวไดแ้ ก่ เอยี ะ เสียง อิ กบั อะ ประสมกัน เอีย เสียง อี กบั อำ ประสมกัน เอือะ เสยี ง อึ กับ อะ ประสมกนั เอือ เสียง อื กับ อำ ประสมกัน อัวะ เสยี ง อุ กบั อะ ประสมกนั อัว เสียง อู กับ อำ ประสมกัน สระเกิน คอื สระทม่ี ีเสียงซำ้ กบั สระเดี่ยว ต่ำงกันก็แต่ว่ำสระเกินจะมีเสียง พยัญชนะประสมหรือสะกดอยู่ด้วย มี 8 ตัว ได้แก่ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ (รึ รือ ลึ ลือ) มีเสียงยัญ

9 ชนะ ร ล ประสมอยู่อำ มีเสียง อะ และพยัญชนะ ม สะกดใอ ไอ มีเสียง อะ และ พยัญชนะ ย สะกด (คือ อัย)เอำ มีเสยี ง อะ และพยัญชนะ ว สะกด กำรใชส้ ระ 1. สระอะ (-ะ) เขียนไว้หลังพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับพยัญชนะ จะ ออกเสียงพยัญชนะน้ันประสมด้วยสระอะ เช่น กะ จะ ปะ สระอำ (-ำ) เขียนไว้หลัง พยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับพยัญชนะจะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอำ เช่น มำ กำ ตำ 2. สระอิ (- ิ) เขียนไวบ้ นพยญั ชนะ เม่ือนำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะออก เสยี งพยัญชนะนน้ั ประสมดว้ ยสระอิ เช่น บิ สิ มิ 3. สระอี (- ี) เขยี นไวบ้ นพยญั ชนะ เมอ่ื นำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะออก เสียงพยัญชนะนั้นประสมดว้ ยสระอี เช่น ปี ดี มี 4. สระอึ (- ึ) เขียนไวบ้ นพยญั ชนะ เม่อื นำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะออก เสียงพยัญชนะนั้นประสมดว้ ยสระอึ เช่น หึ สึ 5. สระอื (- )ื เขยี นไว้บนพยญั ชนะ เม่อื นำมำประสมกับพยัญชนะ จะออก เสยี งพยัญชนะน้ันประสมด้วยสระอื แต่กำรใช้สระอื ต้องมี อ มำประกอบด้วย เช่น มือ ถอื ลือ 6. สระอุ (-ุ) เขียนไว้ใต้พยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับพยัญชนะ จะออก เสยี งพยญั ชนะนัน้ ประสมด้วยสระอุ เชน่ ผุ มุ ยุ 7. สระอู (-)ู เขียนไว้ใต้พยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกับพยัญชนะ จะออก เสยี งพยัญชนะน้ันประสมด้วยสระอู เช่น ดู รู งู 8. สระเอะ (เ-ะ) เขียนไว้ท้ังหน้ำและหลังพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับ พยัญชนะ จะออกเสยี งพยัญชนะนน้ั ประสมด้วยสระเอะ เช่น เละ เตะ เกะ 9. สระเอ (เ-) เขียนไว้หน้ำพยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกับพยัญชนะ จะ ออกเสยี งพยัญชนะนน้ั ประสมด้วยสระเอ เช่น เก เซ เข

10 10. สระแอะ (แ-ะ) เขียนไวท้ ้งั หนำ้ และหลงั พยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกบั พยัญชนะ จะออกเสยี งพยญั ชนะน้นั ประสมด้วยสระแอะ เชน่ และ แพะ แกะ 11. สระแอ (แ-) เขยี นไว้หนำ้ พยัญชนะ เมือ่ นำมำประสมกับพยัญชนะ จะ ออกเสยี งพยญั ชนะนน้ั ประสมดว้ ยสระแอ เช่น แล แพ แก 12. สระเอียะ (เ-ียะ) เขียนไว้ท้ังหน้ำ บน และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมำ ประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอียะ เช่น เผียะ เพียะ เกยี ะ 13. สระเอีย (เ-ยี ) เขยี นไวท้ ั้งหนำ้ และหลงั พยญั ชนะ เมอ่ื นำมำประสมกับ พยัญชนะ จะออกเสยี งพยัญชนะนนั้ ประสมด้วยสระเอยี เชน่ เสีย เลยี เปยี 14. สระเออื ะ (เ-อื ะ) เขียนไวท้ ัง้ หนำ้ บน และหลงั พยัญชนะ 15. สระเอือ (เ-อื ) เขียนไว้ท้ังหน้ำ บน และหลังพยัญชนะ เม่ือนำมำ ประสมกบั พยัญชนะ จะออกเสียงพยญั ชนะนน้ั ประสมด้วยสระเอือ เช่น เสือ เรอื เจอื 16. สระอัวะ (-ัวะ) เขียนไว้บน และหลังพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับ พยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะน้ันประสมด้วยสระอัวะ เชน่ ผัวะ ยัวะ 17. สระอัว (-วั ) เขียนไว้บน และหลังพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับ พยญั ชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนัน้ ประสมดว้ ยสระอวั เชน่ ตวั รวั หวั 18. สระโอะ (โ-ะ) เขียนไว้หน้ำ และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกับ พยัญชนะ จะออกเสยี งพยญั ชนะนน้ั ประสมด้วยสระโอะ เช่น โปะ โละ แต่ถ้ำมีตัวสะกด จะตดั สระโอะออกเหลอื แต่พยัญชนะตน้ กบั ตัวสะกด เรยี กว่ำ สระโอะลดรปู เช่น คน รก 19. สระโอ (โ-) เขยี นไว้หน้ำพยัญชนะ เมือ่ นำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะ ออกเสียงพยญั ชนะน้นั ประสมดว้ ยสระโอ เช่น โต โพ โท 20. สระเอำะ (เ-ำะ) เขยี นไว้ท้ังหนำ้ และหลังพยญั ชนะ เมือ่ นำมำประสม กับพยญั ชนะจะออกเสยี งพยญั ชนะน้นั ประสมดว้ ยสระเอำะ เชน่ เลอะ เถอะ เจอะ 21. สระออ (-อ) เขียนไวห้ ลงั พยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะ ออกเสยี งพยญั ชนะน้นั ประสมดว้ ยสระออ เชน่ ขอ รอ พอ

11 22. สระเออะ (เ-อะ) เขยี นไวท้ ง้ั หน้ำ และหลงั พยญั ชนะ เมอ่ื นำมำประสม กบั พยญั ชนะจะออกเสยี งพยัญชนะน้ันประสมดว้ ยสระเออะ เช่น เลอะ เถอะ เจอะ 23. สระเออ (เ-อ) เขยี นไวท้ ัง้ หนำ้ และหลังพยญั ชนะ เมอื่ นำมำประสมกับ พยญั ชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมดว้ ยสระเออ เชน่ เจอ เธอ เรอ ถำ้ มี ย สะกด จะตัด อ ออกแล้วตำมด้วย ย เลย เช่น เขยเกย เฉย เรยี กวำ่ สระเออลดรูป ถำ้ มีตัวสะกด อ่ืนๆ ทไี่ ม่ใช้ ย จะเปลีย่ น อ เป็นสระอิ เชน่ เกิด เลิก เงนิ เรยี กวำ่ สระเออเปลย่ี นรปู 24. สระอำ (-ำ) เขียนไว้บนและหลังพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับ พยัญชนะ จะออกเสียงพยญั ชนะนั้นประสมด้วยสระอำ เชน่ รำ ทำ จำ 25. สระใอ (ใ-) เขียนไว้หน้ำพยัญชนะ เม่ือนำมำประสมกับพยัญชนะ จะ ออกเสียงพยญั ชนะนัน้ ประสมดว้ ยสระใอ มีทั้งหมด 20 คำ ได้แก่ ใกล้ ใคร ใคร่ ใจ ใช่ ใช้ ใด ใต้ ใน ใบ้ ใฝ่ ใย สะใภ้ ใส ใส่ ให้ ใหม่ ใหล ใหญ่ หลงใหล 26. สระไอ (ไ-) เขียนไว้หน้ำพยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกับพยัญชนะ จะ ออกเสียงพยญั ชนะนั้นประสมดว้ ยสระไอ เช่น ไป ไซ ไส ใช้กับคำท่ีมำจำกภำษำอังกฤษ เช่น ไกด์ ไมล์ สไลด์ ใช้กับคำที่มำจำกภำษำบำลีสันสกฤตที่แผลงสระอิเป็นสระไอ เช่น ตรี - ไตร ใชก้ ับคำที่มำจำกภำษำเขมร เช่น สไบ 27. สระเอำ (เ-ำ) เขียนไวห้ น้ำและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมำประสมกบั พยญั ชนะ จะออกเสยี งพยัญชนะนัน้ ประสมด้วยสระเอำ เชน่ เกำ เผำ เรำ

12 ตอนที่ 3 พยญั ชนะไทย พยญั ชนะไทยมที งั้ หมด 44 รปู กขฃคฅฆง จฉชซฌ ญฎ ฏ ฐ ฑฒณด ต ถ ท ธ นบปผฝพฟภมยร ล ว ศษสหฬอฮ พยญั ชนะมี 21 เสยี ง 1. ก 2. ข ฃ ค ต ฆ 3. ง 4. จ 5. ฉ ช ฌ 6. ซ ศ ษ ส 7. ญ ย 8. ฎ ด กบั เสยี ง 9. ฑ บำงคำ 10. ฏ ต 11. ฐ ถ ฑ ฒ ท ธ 12. น ณ 13. บ 14. ป 15. ผ พ ภ 16. ฝ ฟ 17. ม 18. ร 19. ล ฬ 20. ว 21. ห ฮ 22. เสียง อ.ไมน่ ับ เสยี งพยญั ชนะ พยญั ชนะเสียงสูง : ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห พยญั ชนะเสียงกลำง : ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ พยัญชนะเสียงต่ำ : ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ พยญั ชนะเสยี งสูง มี 11 ตวั เเละผนั ได้ เสียงที่ 5, 2 เเละ 3 อักษรสงู หมำยถงึ พยัญชนะท่ียัง ไมไ่ ด้ผันวรรณยกุ ต์ แล้วมีเสียงอย่ใู นระดับสงู มีท้งั หมด 11 ตัว วธิ ที ่องจำง่ำย ๆ ผ ฝ ถ ฐ ข ฃ ศ ษ ส ห ฉ ผี ฝำก ถงุ ขำ้ ว สำร ให้ ฉนั

13 พยญั ชนะเสยี งกลำง มี 24 ตัว เเละผันได้ท้ังหมดห้ำเสียงอักษรกลำง หมำยถึง พยัญชนะที่ยัง ไม่ได้ผนั วรรณยุกต์ แลว้ มีเสียงอยู่ในระดับกลำง มที ้งั หมด 9 ตัววธิ ีทอ่ งจำงำ่ ย ๆ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ ไก่ จิก เด็ก ตำย เด็ก ตำย บน ปำก โอ่ง กำรผันวรรณยุกต์กับอักษรกลำง ผันได้ครบ 5 เสียง ใช้วรรณยุกต์ได้ 4 รูป พยญั ชนะเสยี งตำ่ มี 9 ตวั เเละผันได้ เสียงท่ี 1, 3 เเละ 4 อักษรต่ำ หมำยถึง พยัญชนะท่ียัง ไม่ได้ผนั วรรณยุกตแ์ ลว้ มเี สยี งอย่ใู นระดบั ต่ำ มีทั้งหมด 24 ตัว ต่ำคู่ มีเสียงคู่อักษรสูง 14 ตัว พ ภ ฟ ฑ ฒ ท ธ ค ต ฆ ซ ฮ ช ฌ ต่ำเด่ียว (ไร้คู่) 10 ตัว วิธีท่องจำง่ำย ๆ ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล งู ใหญ่ นอน อยู่ ณ รมิ วดั โม ฬี โลก หนำ้ ทข่ี องพยญั ชนะ ทำหน้ำที่ เปน็ พยญั ชนะต้น กำเป็น สัตว์ ใกลส้ ญู พันธ์ ก ป ส กล ส พ เป็นพยญั ชนะตน้ พยญั ชนะตวั สะกด พยญั ชนะตวั สะกด มที ้งั ส้ิน 39 ตวั เทำ่ นน้ั ที่สำมำรถใช้เปน็ ตวั สะกดได้ โดยแบง่ เป็น 8 เสียงเรยี กว่ำมำตรำตัวสะกด 8 มำตรำดงั นี้ แมก่ ก ออกเสยี งสะกด ก ซง่ึ จะใช้พยัญชนะ ก ข ค ฆ เปน็ ตวั สะกด เช่น นก เลข โรค เมฆ แมก่ ด ออกเสยี งสะกด ด ซงึ่ จะใชพ้ ยญั ชนะ ด ต ถ ท ธ ฎ ฏ ฐ ฒ จ ช ซ ศ ษ ส เปน็ ตวั สะกด เชน่ เปิด จิต รถ แมก่ บ ออกเสียงสะกด บ ซ่ึงจะใชพ้ ยัญชนะ บ ป พ ภ ฟ เปน็ ตวั สะกด เช่น ดำบ บำป ภำพ กรำฟโลภ แมก่ น ออกเสยี งสะกด น ซง่ึ จะใช้พยญั ชนะ น ร ญ ล ฬ เปน็ ตัวสะกด เชน่ แขน คูณ บญุ อำหำรกลปลำวำฬ

14 แมก่ ง ออกเสียงสะกด ง ซึง่ จะใชพ้ ยัญชนะ ง เปน็ ตวั สะกด เช่น จริง วงิ่ ลงิ สิงห์ พิง มงุ่ ส่ัง แมก่ ม ออกเสยี งสะกด ม ซ่งึ จะใชพ้ ยัญชนะ ม เปน็ ตวั สะกด เชน่ นม ดม ลม พรม สม ชมิ แยม เจียม แมเ่ กย ออกเสยี งสะกด ย ซ่ึงจะใชพ้ ยัญชนะ ย เป็นตัวสะกด เชน่ ยำย เนย เคย เลย คยุ แมเ่ กอว ออกเสยี งสะกด ว ซงึ่ จะใช้พยญั ชนะ ว เป็นตวั สะกด เชน่ สวิ หิว ทำหนำ้ ทเี่ ปน็ อกั ษรควบ พยญั ชนะควบกลำ้ นอกจำกเสียงนั้นยงั มีพยญั ชนะควบกลำ้ พยัญชนะกล้ำคือพยัญชนะ 2 ตัว ประสมสระเดียวกันมี ร ล วแบ่งเป็น 2 ชนิด คือควบกล้ำแท้ เป็นพยัญชนะควบกล้ำท่ี ออกเสียงพร้อมกันท้ัง 2 ตัว เช่นควบด้วย ร กรอบ กรำบ เกรง ครอบครัว ควบด้วย ล กล้วย กลบี ไกล แปลง ควบด้วย ว ไกว แกวง่ ควำย ขว้ำงควบกล้ำไมแ่ ท้ เปน็ พยัญชนะที่ เขยี นเหมือนควบกลำ้ แท้ ร แตอ่ อกเสยี งเพียงตัวเดียว เชน่ จรงิ สร้ำงสระ เศรำ้ แสร้ง ศรี อำ่ นวำ่ (จิง) (สำ้ ง) (สะ) (เส้ำ) (แสง้ ) (ส)ี ตวั อยำ่ งคำอักษรควบแท้และไม่แท้ ทำหนำ้ ทเ่ี ปน็ อกั ษรนำ-อกั ษรตำม อักษรนำ คือ พยัญชนะ 2 ตัวเรียงกัน ประสมสระเดียว พยัญชนะตัวแรก ของคำ แบ่งตำมลักษณะ กำรอ่ำนได้ 2 ชนิด คือ อ่ำนออกเสียงร่วมกันสนิทเป็นพยำงค์ เดียวกัน เมือ่ มตี ัว ห และ ตวั อ เปน็ อักษรนำ ตัวอย่ำงเชน่ เม่อื มีตัว ห เป็นอักษรนำ เช่น หรู หรำ หญิง เหลือ หลำย เหลว ไหล หรูหรำ –หรูหรำ - ห อักษรสูงนำ ร อักษรต่ำ ออกเสียงวรรณยุกต์ตำม ห หญิง หญ้ำ ใหญ่ -หยิง- ห อักษรสูง นำ ญ อักษรต่ำ ออก เสียงวรรณยุกต์ตำม ห เม่ือมีตัว อ เป็นอักษรนำ ย มี 4 คำ คือ อย่ำ อยู่ อย่ำง อยำก อย่ำ อยู่ อย่ำง อยำก-หย่ำ หยู่ หยำ่ ง หยำก-อ อักษรกลำง นำ ย อกั ษรต่ำ ออกเสยี ง

15 วรรณยกุ ตต์ ำม ออำ่ นออกเสยี งเปน็ 2 พยำงค์ โดยพยำงคแ์ รกอำ่ นออกเสียงเหมอื นมีสระ อะ ประสมอยู่ก่ึงเสียงส่วนพยำงค์หลังอ่ำนตำมสระที่ประสมอยู่ และอ่ำนออกเสียง วรรณยุกต์ตำมพยัญชนะตวั แรก เชน่ ขยบั ขะ-หยับ ข อกั ษรสูง นำ ย อกั ษรตำ่ ออกเสียงวรรณยกุ ตต์ ำม ห ฉลำม ฉะ-หลำม ฉ อกั ษรสงู นำ ล อักษรต่ำ ออกเสียงวรรณยกุ ต์ตำม ห ตลำด ตะ-หลำด ต อักษรกลำง นำ ล อักษรต่ำ ออกเสยี งวรรณยกุ ตต์ ำม ต สนำม สะ-หนำม ส อกั ษรสงู นำ น อกั ษรต่ำ ออกเสียงวรรณยุกตต์ ำม ส ผลติ ผะ-หลิต ผ อักษรสูง นำ ล อกั ษรตำ่ ออกเสียงวรรณยุกต์ตำม ผ

16 ตอนท่ี 4 วรรณยกุ ตไ์ ทย วรรณยกุ ตแ์ ละกำรผนั วรรณยกุ ต์ ประโยชนข์ องวรรณยุกตค์ ือช่วยทำให้คำมคี วำมหมำยมำกขึ้น แตกตำ่ งจำก ภำษำของชำติอืน่ ๆ เช่น ปำ ปำ่ ป้ำ ป๊ำ ป๋ำ กลำ่ วคอื ปำ หมำยถงึ ขวำ้ งปำ ป่ำ หมำยถงึ ท่ีมีตน้ ไมภ้ ูเขำ และสัตว์ ปำ้ หมำยถึง พขี่ องพอ่ หรอื แม่ ปำ๊ หมำยถงึ พอ่ ในภำษำบำงภำษำ ป๋ำ หมำยถงึ พ่อในภำษำบำงภำษำ วรรณยกุ ตม์ ี 4 รปู 5 เสยี ง เสยี งสำมญั คือเสยี งกลำง ๆ เชน่ กำ มำ ทำ เปน็ ชน เสยี งเอก เชน่ ก่ำ ข่ำ ป่ำ ดึก จมกู ตก หมด เสยี งโท เชน่ กำ้ ค่ำ ลำก พรำก กลิง้ สร้ำง เสยี งตรี เช่น ก๊ำ คำ้ มำ้ ช้ำง โน้ต มด เสยี งจัตวำ เชน่ กำ๋ ขำ หมำ หลวิ สวย หำม ปิว๋ จวิ๋ กำรผนั วรรณยกุ ต์ ผันวรรณยุกต์ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื 1.วรรณยกุ ตม์ รี ปู หมำยถงึ วรรณยุกต์ท่ีมีเคร่อื งหมำยบอกระดับของเสยี ง ให้เห็นชัดเจนอย่เู บ้อื งบนอกั ษรมีอยู่ 4 รูปคือ วรรณยุกต์ เอก วรรณยกุ ต์ โท วรรณยุกต์ ตรี วรรณยุกต์ จตั วำ

17 2.วรรณยกุ ตไ์ มม่ รี ปู ตำ่ งกับวรรณยกุ ต์ทีม่ ีรูป คอื วรรณยกุ ตท์ ม่ี รี ูปจะต้องมี เครื่องหมำยบอกเสียงกำกับอยู่บนตัวอักษร และมีเพียง 4 เสียงเท่ำนั้น คือ เสียงเอก เสยี งโท เสยี งตรี เสยี งจตั วำ ตำมรูปวรรณยุกต์แต่ไม่มีเสียงสำมัญ ส่วนวรรณยุกต์ไม่มีรูป จะมีครบทง้ั 5 เสียงเตม็ ตำมจำนวนเสียงทีก่ ำหนดใชอ้ ย่ใู นภำษำไทยโดยไม่มีเครื่องหมำย บอกเสยี งกำกับ แต่อำศยั กำรออกเสียงตำมหมขู่ องอกั ษรทง้ั 3 เสยี งของกำรผนั วรรณยกุ ต์ เรำแบง่ ไดด้ งั นี้ พื้นเสยี ง คอื คำท่ไี ม่มรี ูปวรรณยกุ ต์แต่มเี สียงวรรณยกุ ต์ คำเปน็ คอื คำท่ีประสมกับสระเสยี งยำว หรอื เสียงสน้ั ทมี่ ีตัวสะกดในแม่ กง กน กม เกย และ เกอวเชน่ มำ กนิ ข้ำว ฯลฯ คำตำย คือ คำที่ประสมกับสระเสียงส้ัน หรือเสียงยำวที่มีตัวสะกดในแม่ กก กด กบ เช่น เด็ก นะ จำก ฯลฯ คำตำย ผนั ได้ 3 คำ ใช้วรรณยุกต์ เอก โท จตั วำ แบ่ง ออกเปน็ 2 ชนิด ดังนี้ 1.คำตำยสระส้ัน พ้ืนเสียงเป็นตรี เช่น คะ คก คด คบ ผันด้วยวรรณยุกต์ เอก เปน็ เสยี งโท เช่น ค่ะ คก่ คด่ ค่บ ผันดว้ ยวรรณยุกต์จัตวำเป็นเสียงจัตวำ เช่น ค๋ะ คก๋ 2.คำตำยสระยำว พื้นเสียงเป็นโท เช่น คำก คำด คำบ ผันด้วยวรรณยุกต์ โท เป็นเสียงตรี เช่นค้ำก ค้ำด ค้ำบ ผันด้วยวรรณยุกต์จัตวำ เป็นเสียงจัตวำ เช่น ค๋ำก คำ๋ ด ค๋ำบวิธีผันอักษร 3 หมู่ ที่เรียกว่ำ ไตรยำงศ์วิธีผันอักษร 3 หมู่ ที่เรียกว่ำ ไตรยำงศ์ น้นั ใชผ้ ันรปู วรรณยกุ ตต์ ่ำง ๆ กันดงั นี้ อกั ษรสูง ผันด้วยวรรณยุกต์ เอก และ โท คำเป็น ผนั ได้ 3 คำ คำตำยผันได้ 2 คำ พยัญชนะเสียงสงู คำเป็น พ้ืนเสียงเป็นเสียงจัตวำ เช่น ขำ ขง ขน ขม เขย ขำว ผันด้วย วรรณยกุ ตเ์ อก เปน็ เสยี งเอก เชน่ ขำ่ ขง่ ขน่ ขม่ เขย่ ข่ำว ผนั ดว้ ยวรรณยุกต์โทเป็นเสียง โท เชน่ ข้ำ ข้ง ขน้ ขม้ เขย้ ขำ้ ว คำตำย พืน้ เสยี งเป็นเสยี งเอก เชน่ ขะ ขก ขด ขบ ขำก ขำด ขำบ ผันด้วย วรรณยุกต์โท เป็นเสียงโท เช่น ข้ะ ข้ก ข้ด ข้บ ข้ำก ข้ำด ข้ำบ อักษรกลำง ผันด้วย วรรณยุกต์ เอก วรรณยกุ ต์ โท วรรณยกุ ต์ ตรี วรรณยุกต์จัตวำ พยัญชนะเสยี งกลำง

18 แบบทดสอบหลงั เรยี น คำชแ้ี จง 1.แบบทดสอบฉบับน้ีเป็นแบบปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ 2.ให้นักศกึ ษำเลอื กคำตอบที่ถกู ตอ้ งท่สี ดุ เพียงขอ้ เดียว และไม่ควรดเู ฉลยก่อนทำ ข้อสอบเสร็จ ******************************************************************************* 1. พยญั ชนะเสยี งกลำงมที ง้ั หมดก่ตี วั ก. 17 ตวั ข. 20 ตัว ค. 24 ตวั ง. 26 ตวั 2. สระไทยมีท้งั หมดกร่ี ูปก่ีเสยี ง ก. 21 รูป 32 เสยี ง ข. 44 รปู 21 เสียง ค. 21 รปู 44 เสียง ง. 44 รูป 32 เสยี ง 3. ข้อใดเปน็ สระเสยี งสน้ั ทง้ั หมด ข. โอ อู เออะ อะ ก. อื อึ อำ แอ ง. อำ อี อู เออ ค. อะ อิ อุ เอำะ 4. สระ “เอยี ะ” ประสมกนั ระหว่ำงสระอะไรบ้ำง ก. สระ อื ประสมกบั สระ อำ ข. สระ อึ ประสมกับ สระ อะ ค. สระ อี ประสมกบั สระ อำ ง. สระ อิ ประสมกบั สระ อะ 5.วรรณยกุ ตไ์ ทยมที ้งั หมดกี่รปู กเ่ี สยี ง ข. 4 รูป 4 เสยี ง ก. 4 รปู 5 เสียง ง. 4 รปู 3 เสียง ค. 4 รปู 6 เสยี ง

19 แบบทดสอบหลงั เรยี น คำชแี้ จง 1.แบบทดสอบฉบับน้เี ป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลอื ก จำนวน 10 ขอ้ 2.ใหน้ กั ศกึ ษำเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งที่สดุ เพียงข้อเดียว และไม่ควรดเู ฉลยกอ่ นทำ ข้อสอบเสร็จ ******************************************************************************* 6. ตัวสะกดมที ั้งหมดก่มี ำตรำ ข. 6 มำตรำ ก. 5 มำตรำ ง. 8 มำตรำ ค. 7 มำตรำ 7. ขอ้ ใดเปน็ พยญั ชนะเสยี งสงู ท้งั หมด ข. ค ง ช ว ก. ข ผ ฉ ถ ง. ข ด ต ว ค. ก ด ต บ 8. ขอ้ ใดเปน็ สระเสียงส้ันทั้งหมด ข. โอ อู เออะ อะ ก. อื อึ อำ แอ ง. อำ อี อู เออ ค. อะ อิ อุ เอำะ 9. มำตรำใดไมม่ ีตวั สะกด ข. แม่ กม ก. แม่ กน ง. แม่ ก.กำ ค. แม่ กด 10. สระเกินมที ั้งหมดกตี่ ัว ข. 8 ตวั ก. 7 ตวั ง. 10 ตวั ค. 9 ตัว

20 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น วิชำ หลักภำษำไทย พท 33002 เรื่อง....อกั ษรไทย.... ******************************************************************************* ขอ้ ท่ี คำตอบ 1. ก 2. ค 3. ง 4. ง 5. ก 6. ก 7. ค 8. ง 9. ง 10. ก

21 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น วิชำ หลักภำษำไทย พท 33002 เรอื่ ง....อกั ษรไทย.... ******************************************************************************* ขอ้ ที่ คำตอบ 1. ค 2. ก 3. ง 4. ง 5. ก 6. ง 7. ก 8. ค 9. ง 10. ข

ผจู้ ัดทำ คณะผจู้ ดั ทำ นำยไพฑูรย์ บัวสนิท ผอ.สำนกั งำน กศน.จังหวัดพจิ ิตร นำงสำวนภัสวรรณ อฤุ ทธ์ิ นำยเจตนส์ ฤษฏพิ์ งศ์ รตั นบวรกรกูล ผอ.กศน.อำเภอทับคลอ้ ครู กศน.ตำบลทบั คลอ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook