Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

9

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-05 21:45:32

Description: 9

Search

Read the Text Version

บนวนตั กฐรรามกนารคจัดวกาารมสุขรภาู้ชพตมุ นชเองน สูว่ ถิ ีพอเพยี ง จดั ทำ� โดย : สำ� นักงานสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ เขต 7 จงั หวัดขอนแก่น กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ

คำ� น ำ ตามท่กี ระทรวงสาธารณสุข มีแนวทางการขับเคล่ือน Thailand 4.0 โดยอาศยั นวตั กรรม เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ ในการขบั เคลื่อนงาน เพ่อื ถึงเปา้ หมายที่ กำ� หนดไว้ใน 20 ปีข้างหน้า คือ “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหนา้ ทม่ี คี วามสขุ ระบบสุขภาพ ย่ังยืน” ส�ำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 7 ขอนแก่น จึงได้จัดท�ำหนังสือ “นวตั กรรมการจดั การสขุ ภาพตนเอง บนฐานความรชู้ มุ ชน สวู่ ถิ พี อเพยี ง” เพอื่ รวบรวม แนวคิดการท�ำงานดา้ นนวัตกรรมสุขภาพชมุ ชน โดยอาศัยประสบการณ์การท�ำงานของ เจ้าหน้าท่ีทีมงานส�ำนักงานสนับสนุนบริการสุชภาพ เขต 7 และกลุ่มงานสุขภาพ ภาคประชาชน และงานสุขศกึ ษา ในพ้ืนท่ี 4 จังหวัด คอื ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอด็ และมหาสารคาม หวังวา่ หนงั สือเล่มนี้ จะเปน็ แนวทางการสรา้ งงานนวัตกรรมในชมุ ชน โดยใชค้ วามร้บู นพน้ื ฐานบริบทของชมุ ชน สู่วถิ ีพอเพียง นั่นคือ ประชาชนสามารถดูแล สขุ ภาพตนเอง และชมุ ชนจัดการสุขภาพเพอื่ การพ่งึ ตนเองดา้ นสุขภาพได้ นางสจุ นิ ดา สขุ กำ� เนดิ ผู้อำ� นวยการ สำ� นักงานสนับสนนุ บริการสุขภาพ เขต 7 ขอนแกน่ ส ารบัญ บทที่ 1 : นวัตกรรมการจัดการสุขภาพตนเอง 1 บนฐานความรู้ชมุ ชน ส่วู ิถพี อเพียง 4 บทที่ 2 : การจดั การความรู้ ‘โรคเบาหวาน’ 8 ส่กู ารปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ 12 บทที่ 3 : นวตั กรรมสขุ ภาพ อสม. ผนู้ �ำการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ บทที่ 4 : การสรา้ งความรอบรู้ดา้ นสุขภาพ “ชุมชนชะลอไตเสอ่ื ม”

1 นวตั กรรมการจดั การสขุ ภาพตนเอง บนฐานความรูช้ มุ ชน ส่วู ิถพี อเพียง นวตั กรรม (innovation) หมายถงึ สงิ่ ใหมท่ เ่ี กดิ จากการใชค้ วามรแู้ ละความคดิ สรา้ งสรรคท์ มี่ ปี ระโยชน์ ต่อเศรษฐกิจและสังคม\" (อ้างอิงจาก ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ) เช่ือตรงกันว่า การท่ีส่ิงใดสิ่งหนึ่งจะเป็น นวัตกรรมได้น้ัน จะต้องมีความใหม่ และความใหม่น้ันจะต้องเพ่ิมมูลค่าส่ิงต่างๆ ได้อีกด้วย โดยเป้าหมาย ของนวตั กรรมคอื การเปล่ียนแปลงในเชงิ บวก เพ่อื ทำ� ให้สิ่งต่างๆ เกดิ เปลี่ยนแปลงในทางทด่ี ีขึ้น กระทรวงสาธารณสุข ไดจ้ ดั ทำ� แผนยทุ ธศาสตร์ชาติดา้ นสาธารณสุขระยะ 20 ปี ตามนโยบายรฐั บาลท่ี จะนำ� ประเทศไทยกา้ วสู่ Thailand 4.0 โดยก�ำหนดเป้าหมาย คอื \"ประชาชนสขุ ภาพดี เจา้ หน้าทีม่ ีความสุข ระบบสขุ ภาพยั่งยนื \" รายละเอียดมีดงั นี้ 1. ประชาชนสุขภาพดี คอื ประชาชนมีอายุคาดเฉลยี่ เมื่อแรกเกดิ ไม่น้อยกว่า 85 ปี และอายุคาดเฉลยี่ ของการมสี ุขภาพดเี ม่ือแรกเกิด ไม่น้อยกว่า 75 ปี 2. เจ้าหน้าท่ีมีความสุข คือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขได้รับการพัฒนาความก้าวหน้าใน วชิ าชีพและมคี วามสขุ ในการทำ� งาน 3. ระบบสุขภาพยง่ั ยืน คือ ประชาชนมีระบบสขุ ภาพเป็นหนง่ึ เดยี ว แบบองค์รวม ไรร้ อยตอ่ เปน็ ธรรม และม่นั คงทางสุขภาพ ม่งุ พัฒนาสู่ \"สงั คมอย่รู ว่ มอยา่ งมีความสุข สรา้ งความม่นั คง ม่ังคงั่ ยง่ั ยนื \" เปน็ ประเทศ พฒั นาแลว้ ประชาชนสขุ ภาพดี เจา้ หน้าทีม่ ีความสขุ ระบบสขุ ภาพยง่ั ยืน 1

กระทรวงสาธารณสุข 4.0 จ�ำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรม เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ ในการ ขับเคลอ่ื นงาน เพื่อถงึ เปา้ หมายท่กี �ำหนดไว้ใน 20 ปีขา้ งหน้า ดา้ นสาธารณสขุ แผนยทุ ธศาสตร์ 20 ปี นวตั กรรม กระทรวงสาธารณสุข Value-Based Healthcare ทเ่ี พิ่มมลู คา่ ทางเศรษฐกิจ การค้นหานวัตกรรมน้ัน ส่ิงส�ำคัญที่สุด คือ ความรู้ท่ีน�ำมาใช้ให้เกิดนวัตกรรม และผลลัพธ์ของการน�ำ นวัตกรรมไปใช้ ในบทความนี้ เป็นการถอดบทเรียนการด�ำเนินงานนวัตกรรมการจัดการสุขภาพตนเองในงาน สขุ ภาพภาคประชาชน เขตสขุ ภาพท่ี 7 ประกอบดว้ ย 4 จงั หวดั คอื ขอนแกน่ รอ้ ยเอด็ มหาสารคาม และกาฬสนิ ธ์ุ โดยมเี ปา้ หมายงานสชุ ภาพภาคประชาชน คือ วถิ ีพอเพยี ง นั่นคอื ประชาชนทุกคนสามารถดูแลสขุ ภาพตนเอง และชมุ ชนจดั การสุขภาพเพ่อื การพึง่ ตนเองดา้ นสขุ ภาพได้ จากการถอดบทเรยี น ต�ำบลจัดการสขุ ภาพ 4 พน้ื ที่ ไดแ้ ก่ (1) ต�ำบลอีต้ือ อ�ำเภอยางตลาด จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ประเดน็ : โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรื้อรงั (2) ต�ำบลโคกไร่ อ�ำเภอแกด�ำ จังหวัดมหาสารคาม ประเด็น : พัฒนาการเดก็ สมวัย (3) ตำ� บลโนนพะยอม อำ� เภอชนบท จงั หวดั ขอนแก่น ประเดน็ : โรคพยาธิใบไมใ้ นตบั (4) ต�ำบลดงลาน อำ� เภอเมอื ง จังหวัดรอ้ ยเอด็ ประเดน็ : การดแู ลผู้สูงอายุในชุมชน ผลการด�ำเนนิ งานการจัดการสขุ ภาพในตำ� บลจดั การสุขภาพทั้ง 4 ต�ำบล สามารถสรุปนวัตกรรมที่ใช้ใน การดำ� เนนิ งานได้ 5 ประเดน็ ทส่ี ำ� คญั คอื (1) มกี ารสรา้ งความรใู้ หม่ ซงึ่ เกดิ จากฐานความรทู้ างวชิ าการ แลว้ นำ� ความรขู้ องชมุ ชนมาปรบั ใหเ้ ขา้ กบั บรบิ ทของชมุ ชนจนเกดิ ความร้ใู หม่ น�ำไปสู่การปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพคนในชุมชนได้ (2) กระบวนการสามารถสร้างผ้นู �ำข้ึนในชุมชน (3) กจิ กรรมทเี่ กดิ ข้ึน ส่วนใหญ่เกิดจากการก�ำหนดมาตรการทางสังคมทก่ี ลุม่ รว่ มกันคดิ (4) ความยั่งยนื ท่เี กิดขนึ้ เกดิ จากการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนทเี่ ข้ามารว่ มขับเคลอื่ น (5) ผลลพั ธ์ทเ่ี กิด อาจไม่ใชเ่ พ่อื ลดปัญหา แต่เป็นการสรา้ งความสขุ ของกลุม่ คนในชมุ ชน รายละเอียดตามแผนผังด้านลา่ ง 2

นวตั กรรมการจัดการสุขภาพตนเอง บนฐานความร้ชู ุมชน สู่วิถีพอเพียง สว่ นใหญ่เป็นการน�ำความรู้ 12 ผลลพั ธท์ ไี่ ด้อาจ ทางวิชาการ และน�ำความรู้ ไมเ่ กดิ ผลทเ่ี ปน็ การลด ของชมุ ชนมาปรับให้เขา้ กับ เกดิ ความรใู้ หมน่ ำ� ไปสู่ สามารถสร้างผู้น�ำ ชมุ ชน ปญั หาในเบอ้ื งต้น แต่ บริบทชมุ ชน จนเกิดความรู้ การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม ข้ึนมาไดท้ ีจ่ ะเปน็ ผผู้ ลกั ดันงาน เป็นการสรา้ ง ชุดใหม่ ทสี่ ามารถน�ำไปสู่การ สขุ ภาพของคนในชุมชน ใหข้ ับเคลอื่ นต่อเนื่องในชมุ ชน ความสขุ ให้กบั ปรับเปลยี่ นพฤติกรรม กลุ่มคนในชุมชน สขุ ภาพคนในชุมชน 5 ผลลพั ธ์ ลดปญั หา/ 3 สามารถสร้าง เพม่ิ ความสขุ 4 สามารถ การมสี ่วนรว่ มจากทกุ ภาคสว่ น การศกึ ษาและออกแบบ กิจกรรมที่มาจาก สรา้ งการมีส่วนร่วม ในชุมชนในการร่วมคดิ กจิ กรรมสุขภาพตา่ งๆ โดยคำ� นงึ ถงึ มาตรการ และสามารถขยายผล ร่วมออกแบบวางแผนกจิ กรรม ร่วมรบั วถิ ชี ีวิต วฒั นธรรม ประเพณี ทางสังคม ไปทีช่ ุมชน ผลประโยชนแ์ ละประเมินผลรว่ มกัน จะท�ำให้ ความเชอ่ื ของชุมชน เพื่อใหก้ ารดแู ล ประชาชนรู้สกึ เปน็ เจ้าของกจิ กรรมเจา้ ของ อืน่ ๆ ได้ ชุมชน จะเกิดการต่นื ตัวต่อการดแู ลสขุ ภาพ และแก้ปญั หาสขุ ภาพนน้ั สอดคล้องกับ ของตนเองและชุมชน ส่งผลให้เกดิ ความยั่งยนื บริบทชุมชนอย่างแทจ้ ริง ของการดแู ลสขุ ภาพในชุมชนที่มาจากชมุ ชนอยา่ งแท้จริง 3 วิถีพอเพยี ง : ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ และชมุ ชนจัดการสุขภาพเพอ่ื การพ่ึงตนเองดา้ นสุขภาพได้

2 การจัดการความรู้ ‘โรคเบาหวาน’ สกู่ ารปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ “เบาหวาน...รจู้ ักเพื่อป้องกนั รทู้ ันเพอ่ื ควบคมุ ” สถานการณโ์ รคเบาหวานมแี นวโน้มเพ่ิมขึน้ อย่างตอ่ เนอื่ ง สมาพนั ธเ์ บาหวานนานาชาติ รายงาน วา่ ในปี พ.ศ. 2558 ผู้ป่วยโรคเบาหวานทว่ั โลกมจี ำ� นวน 415 ล้านคน นน่ั คอื ประชากรวยั ผ้ใู หญ่ 1 ใน 11 คน ป่วยเปน็ โรคเบาหวาน ส�ำหรบั ประเทศไทยจากรายงานของส�ำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตรา ตายดว้ ยโรคเบาหวานตอ่ ประชากรแสนคน ในภาพรวมของประเทศในปี 2556-2558 เทา่ กบั 14.93, 17.53 และ 17.83 ตามลำ� ดบั ซง่ึ เพม่ิ สงู ขน้ึ ทกุ ปี (อา้ งองิ จาก เวปไซต์ Hfocus : https://www.hfocus.org/content/2016/11/12992) การเปน็ เบาหวาน เพราะรา่ งกายมคี วามผดิ ปรกตใิ นขบวนการเปลย่ี นนำ�้ ตาลในเลอื ดใหเ้ ปน็ พลงั งาน เมอื่ นำ�้ ตาล ไม่ได้ถูกใช้จงึ ทำ� ใหร้ ะดบั น�้ำตาลในเลอื ดสูงขน้ึ กวา่ ระดับผดิ ปกติ (ระดบั น้�ำตาลทม่ี ากกว่า 126 มก./ดล). ตามภาพ ในขั้นตอนที่ 4 กระเพาะย่อย น้�ำตาลเข้าไป เมอ่ื น้�ำตาล ไมส่ ามารถเปลีย่ นเปน็ อาหารเป็นนำ�้ ตาล ในกระแสเลือด พลังงานเข้าไปในเซลได้ น้�ำตาล จะถูกขับไปที่ไต โดยปกติน้�ำตาล กระเพาะอาหาร เป็นสารท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย จะถูกไตดูดซึมกลับแต่ถ้ากรณีที่มี ระดบั นำ�้ ตาลสูงขึน้ น�้ำตาลในเลือดมากเกินไป ไตต้อง กระตุ้นให้ตบั อ่อน ท�ำงานหนักแต่ก็ไม่สามารถดูดซึม น�้ำตาลกลับได้หมด จึงต้องปล่อย ผลติ อนิ ซูลิน ออกมาพรอ้ มกบั น้ำ� ปัสสาวะ ตับออ่ น เมื่อเซลลร์ ่างกายไมต่ อบสนองต่ออนิ ซลู นิ น้�ำตาลกลูโคส จงึ เข้าไปในเซลล์ไมไ่ ด้ ท�ำใหม้ นี ้ำ� ตาลเกาะตามผนงั เส้นเลือด ท�ำใหร้ ะดบั นำ้� ตาลในกระแสเลอื ดสูงผิดปกติ อนิ ซูลิน นำ้� ตาล เรามักจะเข้าใจว่า การที่ผู้ป่วย Receptor เยื่อบผุ วิ เบาหวานควบคมุ ระดับน�้ำตาล ไม่ได้ เพราะขาดอนิ ซลู ิน เซลลท์ ว่ั ร่างกาย มตี ัวรับอนิ ซลู นิ ทีเ่ ยือ่ หมุ้ เซลลท์ เ่ี รียกว่า insulin receptor แตจ่ ริงๆ แลว้ ยังมีปัจจยั หนงึ่ ท่ี ซงึ่ จะกระตนุ้ ให้เกดิ ขบวนการดึงกลโู คสจากเลือดเขา้ สภู่ ายในเซลล์ ส�ำคญั คอื Insulin Receptor จะเป็นตัวทอี่ ินซูลนิ มาเกาะ จึงจะท�ำการเผาผลาญนำ้� ตาลได้ 4

เราพบวา่ ผปู้ ว่ ยเบาหวานทไ่ี มไ่ ดอ้ อกกำ� ลงั กายเลย เซลลร์ า่ งกายจะมี Receptor ทม่ี ปี ญั หาไมส่ ามารถใหอ้ นิ ซลู นิ มาเกาะได้ น่ันคือ แม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับอินซูลิน เพียงพอก็ตาม แต่ก็อาจไม่สามารถเผาผลาญน้�ำตาลได้ ถ้าตัวรับ Receptor มปี ัญหา ดังนั้นการออกก�ำลงั กาย จึงเปน็ เร่ืองท่สี �ำคัญกับผูป้ ่วยเบาหวานอย่างมากเชน่ กนั ปัจจัยท่มี ีผลตอ่ การควบคุมระดบั น�้ำตาลในเลือดของผปู้ ว่ ยเบาหวาน มี 4 ประเด็นทีส่ �ำคญั ดงั นี้ 1. การกินหรือฉดี ยาเบาหวาน (ฮอรโ์ มนอินซูลิน) ตามที่แพทยส์ งั่ 2. อาหาร : การควบคุมและจ�ำกัดอาหารทม่ี นี ้ำ� ตาลสงู 3. การออกกำ� ลังกาย 4. อารมณ์ : การจดั การความเครยี ด บทเรียนการเป็นผปู้ ว่ ยเบาหวาน Peter Attia ในฐานะแพทยผ์ ่าตัดหนมุ่ ชาวอเมรกิ า พีเตอร์ แอทเทยี (Peter Attia) เขารสู้ กึ ดถู กู คนไข้ท่เี ป็นโรคเบาหวานคน หน่ึงท่ีมีแผลเน่าเปือยที่เท้า เขาคิดว่า เธอน้ําหนักตัวมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบกับความเป็นจริงท่ีว่า เธอต้องถูกตัดเท้าท้ิง นายแพทย์หนุ่มรู้สึกดูแคลนผู้ป่วยเพราะคิดว่า ถ้าผู้ป่วยพยายามเอาใจใส่ตนเอง ไม่กิน มากเกนิ ไป และออกก�ำลังกาย ผู้ป่วยก็จะไม่เป็นเบาหวานจนตอ้ งตดั เท้าทิ้ง หลังจากนัน้ 3 ปตี อ่ มา นพ.พีเตอร์ กลับป่วยเป็นโรคเบาหวานซะเอง แม้ว่าเขาจะมีพฤติกรรมการกินอาหารตามปริมาณที่ก�ำหนด ออกก�ำลังกาย ทุกวนั วนั ละ 3-4 ชวั่ โมง แต่น้ำ� หนกั ตัวกลับเพมิ่ ข้ึน แลว้ กลายเปน็ โรคที่เรียกวา่ “อว้ นลงพุง” น�ำไปสโู่ รคภาวะ ดอ้ื ตอ่ อนิ ซลู นิ (Insulin Resistant) อนิ ซลู นิ เปน็ ฮอรโ์ มนทคี่ วบคมุ วา่ รา่ งกายเราจะจดั การกบั อาหารทเี่ รากนิ เขา้ ไป อย่างไร จะเผาผลาญหรือจะเก็บสะสม แต่ถ้าเม่ือไรท่ีร่างกายต้านทานต่ออิทธิพลของอินซูลิน นั่นคือ เกิดความ ล้มเหลวทจ่ี ะผลิตอนิ ซูลินใหไ้ ดเ้ พยี งพอ ท�ำใหร้ ะดบั นำ้� ตาลในเลือดเริ่มสงู ข้ึน เขาจึงเริ่มเปล่ียนการกนิ อาหารใหม่ (ไมก่ ินแป้ง น้ำ� ตาล หรือเมลด็ พืชท่ขี ดั สจี นขาว (เชน่ ข้าวขาวที่ขัดส)ี เพราะจะทำ� ให้น้�ำตาลในเลือดสูงขน้ึ ในเวลา ส้ันๆ) แม้วา่ คร้งั น้เี ขาจะออกก�ำลงั กายนอ้ ยลง แต่สามารถลดนำ�้ หนักไปได้ 40 ปอนด์ (18.2 กโิ ลกรมั ) พรอ้ มกบั ไมม่ อี าการภาวะดอ้ื ตอ่ อนิ ซลู นิ สง่ิ ทน่ี ายแพทยห์ นมุ่ อยากทำ� คอื เขารสู้ กึ อยากกลบั ไปขอโทษคนไขเ้ บาหวานทเี่ ขา เคยดูถกู นนั่ คือ เขาคดิ ว่า โรคอ้วนอาจไมใ่ ช่สาเหตุ แต่เป็นการแสดงอาการของภาวะด้อื ต่ออินซลู นิ ท�ำให้การเผา ผลาญอาหารผิดปกติ และเกดิ การสะสมมากจนท�ำให้ร่างกายอ้วนขนึ้ กระบวนการปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ บทเรยี นในการจดั กระบวนการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสุขภาพ พบว่ามีขน้ั ตอนที่สำ� คญั ทส่ี ุดในการจัดกิจกรรม การปรับเปลย่ี นพฤติกรรมสุขภาพ ดังนี้  การสรา้ งความคดิ ทวี่ า่ “จดุ เรม่ิ ตน้ แหง่ ความสำ� เรจ็ คอื ความคดิ วา่ ตอ้ งทำ� ได”้ หลกั สตู รการอบรมทกุ ครงั้ เร่ิมต้นด้วยการสร้างความคิดบวก ท่ีว่าเราท�ำได้ ทีมวิทยากรต้องสร้างแนวคิดการลงมือท�ำ โดยวิธีท่ีดีที่สุดที่จะท�ำให้ ความฝันบรรลุผล คือ การตั้งเป้าหมาย และจดจ่ออยู่กับมัน โดยใช้วิธีการท่ีเรียกว่า “นิสัย 21 วัน” ซึ่งหมายถึง 5

การท�ำอะไรซ�้ำไปซ้�ำมาเป็นเวลา 21 วัน แล้วจะกลายเป็นนิสัย ดูแล้วเหมือนจะไม่ยาก แต่ถ้าได้ลองลงมือท�ำดู จะรวู้ ่า อยา่ วา่ แต่ 21 วันเลย แคท่ �ำใหไ้ ด้สามสวี่ นั กย็ ากแลว้ ดังน้ันจำ� เปน็ ต้องสร้างความคดิ บวก นัน้ คือ ตอ้ งคดิ วา่ เราท�ำได้ แต่เพียงคิดก็จะไปไม่ถึง ต้องลงมือท�ำ นั่นคือ ความแตกต่างของภาพฝันและความจริง อยู่ที่การลงมือท�ำ เราจะต้องสรา้ งอนาคตไปทลี ะวัน ก้าวไปทลี ะก้าว และส่ังสมไปทีละนดิ แล้ววันหน่ึงเราจะก้าวไปอยตู่ รงหนา้ ความฝนั น้นั ทัง้ น้ีทีมวทิ ยากร ไดน้ �ำวดี ีโอแสดงถงึ การต่อสู้ของทหารผ่านศึกผู้พิการ จาก อบุ ตั เิ หตแุ ลว้ พกิ ารเดนิ ไมไ่ ดแ้ มว้ า่ หมอจะบอก ว่าไม่มีทางกลับมาเดินได้อีก แต่เขาต้องการ กลบั มาเดนิ อกี ครง้ั ดคู ลปิ ไดท้ ่ี การกลบั มาเกดิ ใหม่ ของทหารผ่านศึกผู้พิการ https:// youtu.be/vq-ojFqSy9A  การตงั้ เปา้ หมาย โดยใหท้ กุ คนก�ำหนดว่า ภายใน 3 เดอื น คุณจะลดน�้ำหนักกกี่ โิ ลกรัมและควรกำ� หนดการ ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมเสยี่ งของแตล่ ะคนวา่ มอี ะไรบา้ ง เราอาจใชแ้ บบสญั ญาใจ เปน็ เครอื่ งมอื ในการพจิ ารณาพฤตกิ รรม เส่ียงของแต่ละคน สุดท้ายก่อนจบการอบรม ให้แต่ละคน/แต่ละกลุ่ม ขึ้นมาหน้าเวที เพ่ือประกาศความต้ังใจ หรือประกาศเจตนารมณ์ วา่ แตล่ ะคนก�ำหนดการลดนำ�้ หนักภายใน 3 เดือน วา่ จะลดกี่กโิ ลกรมั โดยหลงั ประกาศแล้ว ทุกคนท่ีนั่งฟังจะสร้างพลังก�ำลังใจให้กับผู้ประกาศ โดยร่วมกันเปล่งเสียงว่า “คุณท�ำได้” กล่าว 3 ครั้ง พบว่า ผเู้ ขา้ อบรมทส่ี ามารถลดนำ้� หนกั ได้ 12 กโิ ลกรัมนั้น พดู ว่า ส่ิงทที่ ำ� ให้ไปถงึ เป้าหมายทตี่ ัง้ ไว้ได้นน้ั เพราะเสียงทพี่ ดู ว่า คุณทำ� ไดน้ ้ัน ฝังอย่ใู นใจ ทำ� ให้มแี รงบันดาลใจทจ่ี ะออกก�ำลังกายทกุ เช้า โดยการว่งิ รอบบ้าน ตลอด 3 เดอื น  การต่อสู้กับแนวคิดของคนรอบข้าง หรือคนในครอบครัว พบว่า การกินกล้วยห่าม : เลือก คนรอบข้างมักเชื่อว่า เราท�ำไม่ได้ หากเราไม่สร้างแรงบันดาลใจว่า “เราท�ำได้” จะท�ำใหเ้ ราไปไมถ่ งึ เปา้ หมาย เปลือกยังเขียวประมาณ 20 % จะมีสารโพแทสเซียมสูง เพิ่ม  การคน้ หาปญั หา หรือประเมินสขุ ภาพดว้ ยตนเอง กากใยในการขับถ่าย และมีสาร การใช้เคร่ืองมือ เช่น แบบประเมินสมรรถภาพทางกายเพื่อกระตุ้นให้ เซโรโทนนิ สงู มาก ทำ� ใหห้ ลบั สบาย ผปู้ ว่ ยออกกำ� ลงั กายมากขน้ึ แบบประเมนิ สแี ละตะกอนในปสั สาวะดว้ ยตนเอง หรอื กินตอนเช้า 2 ลูก ร่วมกับด่ืมน้�ำ แบบประเมนิ พฤติกรรมสขุ ภาพ ฯลฯ 1 แก้ว ก่อนกินข้าว และอาจกิน  เทคนคิ การปรบั พฤติกรรมสุขภาพ ตอนเย็นอีก 1 ลูกก็ได้ (ปกติกลว้ ย จะมแี คลเซยี ม แตถ่ า้ นำ� ไปปง้ิ หรอื 5.1 การกนิ อาหาร พบวา่ อาหารเปน็ เรอ่ื งยากทส่ี ดุ ในการปรบั เปลยี่ น ตม้ จะมแี คลเซยี มสงู สดุ เมอ่ื มนั ถกู เทคนคิ การปรบั อาหารทีง่ า่ ยท่ีสดุ มีดังน้ี ความร้อน) - การกนิ กลว้ ย หลกั การคอื การเลอื กกลว้ ย ไมค่ วรกนิ กลว้ ยสุก อ้างองิ จาก ดร.นพ.พรเทพ ศริ วิ นารังสรรค ์ เพราะจะไดแ้ ตน่ �ำ้ ตาล ควรกินกลว้ ยห่ามๆ การกินกล้วยตอนเชา้ 2-3 ลกู รว่ มกับ ดม่ื นำ้� 1 แกว้ กอ่ นกนิ อาหารเชา้ จะชว่ ยลดการกนิ ขา้ วไดม้ ากขนึ้ บางคนกนิ กลว้ ย ตอนเย็นรว่ มดว้ ย เพอ่ื ลดปรมิ าณการกินข้าวลงไดม้ ากขนึ้ 6

- การกนิ ขา้ วกลอ้ ง แทนขา้ วเหนยี ว วธิ นี พ้ี บวา่ ผทู้ ลี่ ดนำ�้ หนกั ไดม้ ากๆ จะใชว้ ธิ นี ท้ี กุ คน เพราะชว่ ยลด การกนิ ขา้ วเหนยี ว ซึ่งไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำ� ตาลได้ - การกินผักมากขึ้น กินปลาแทนเนื้อสัตว์ และลดวิธีปรุงอาหารด้วยวิธีผัด / ทอด เพื่อลดปริมาณ ไขมนั และทส่ี ำ� คญั หากเปน็ ผปู้ ว่ ยเบาหวานหรอื ผปู้ ว่ ยโรคไต ตอ้ งลดการกนิ ผงชรู ส และเครอ่ื งปรงุ รสในการปรงุ อาหาร เพราะมผี ลต่อไต ควรใชเ้ ฉพาะเกลอื น้ำ� ตาลทรายแดง 5.2 การปรบั พฤติกรรมการออกกำ� ลังกาย ผู้ป่วยหลายคนเต้นแอโรบกิ ทกุ วนั แตไ่ ม่สามารถลดนำ�้ หนกั ได้ เพราะเม่ือเต้นเสร็จ ก็จะเหนื่อยและหิว ก็จะกินอาหารมาก โดยคิดว่าได้ออกก�ำลังกายแล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการออกกำ� ลังกายโดยไม่ปรับการกินอาหารใหล้ ดลง กจ็ ะไม่สง่ ผลใหน้ ้ำ� หนักลดได้ ดังนน้ั ผู้ป่วยตอ้ งออกกำ� ลัง ควบคกู่ ับลดการกนิ อาหาร โดยจะใช้วธิ เี ดิน วง่ิ ร�ำไม้พลอง หรือแอโรบคิ ใหไ้ ด้วันละอย่างนอ้ ย 30 นาที การยกแขนข้ึน ก็สามารถบอกได้ว่าคุณมีปัญหาสุขภาพหรือไม่ ยกแขน แขน ข้ึนสุด แขนต้องอยู่หลังใบหู กรณีท่ีอยู่ด้านหน้าใบหู แสดงว่าร่างกายไม่สมดุล และ อยู่ พบวา่ มกั มีอาการปวดสะบกั ไหล่ เปน็ ต้น หลัง ใบหู 5.3 การใช้สมาธบิ �ำบดั แบบ SKT ในบทน้ีจะพูดถึง 2 เทคนิคจาก 7 เทคนิค ใช้ส�ำหรับผู้ที่ยังไม่ป่วย ใชส้ ร้างเสรมิ สุขภาพ เปน็ ท่าที่ทำ� ให้เซลล์ในร่างกายไดอ้ อกกำ� ลงั กาย เทคนิคท่ี 1 ท่านั่ง หลับตา เร่ิมจากหายใจออก ให้เป่าลมออกเบาๆ หายใจเข้า หายใจออก ตามภาพ จนลมออกสุด แล้วหายใจทางจมูก หายใจเข้าลึกๆ กลั้นลมหายใจนับ 1-3 แลว้ ผอ่ นลมหายใจออกทางปากชา้ นบั เป็น 1 รอบ ใหท้ ำ� ครบ 20 รอบ ประโยชน์ ท่าน้ี คอื ขับของเสยี จากรา่ งกาย ลดความดันโลหติ และผ่อนคลายกล้ามเน้อื เทคนคิ ที่ 2 ใชท้ า่ ยนื เทา้ หา่ งกนั เทา่ ชว่ งไหล่ ชมู อื 2 ขา้ งขนึ้ เอามอื ประกบ หายใจเขา้ หายใจออก กนั เบาๆ ตน้ แขนแนบหู นิว้ โป้งแคแ่ ตะกนั เท่าน้นั ผอ่ นลมออกทางปากยาวๆ สดู ลม หายใจเข้าลกึ ๆ กลน้ั ลมหายใจเล็กน้อย นับเปน็ 1 รอบ แล้วผ่อนลมหายใจออก และ หายใจเขา้ ทำ� เช่นนี้ 20 รอบ จึงคอ่ ยๆปล่อยมอื ลง โดยนบั 1-30 บางคนจะรสู้ กึ ปวด แขนมากช่วงท�ำ แต่เมอื่ ท�ำเสร็จจะหายปวด ประโยชนท์ ่าน้ี คือ ลดความดนั โลหิต ลดน�ำ้ ตาลในผปู้ ่วยเบาหวาน ที่มา: รศ.ดร.สมพร กัทนรดุษฎี เตรียมชัยศรี อาจารย์ประจ�ำภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล, https://www.youtube.com/watch?v=lPAPUhVqMHQ  การสรา้ งนโยบาย คนรกั สขุ ภาพ ปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรม เช่น มกี ารรวมกล่มุ ผ้สู งู อายุ ให้มกี ารออกกำ� ลัง กาย โดยใชร้ ำ� วงยอ้ นยคุ หรอื รำ� ไมพ้ ลอง ท�ำให้ผูส้ งู อายุสนกุ สนาน กล่มุ ทร่ี ับจา้ งทำ� อาหารในงานบุญตา่ งๆ จะเนน้ ลด การใชผ้ งชรู สในการปรงุ อาหาร และปรบั เมนอู าหาร ทเี่ ดมิ นยิ มใชเ้ นอ้ื สตั ว์ ปรบั มาเปน็ ปลา ปลารา้ กต็ ม้ ใหส้ กุ ในการนำ� มาจัดทำ� อาหาร รวมท้ังลดการท�ำอาหารประเภทผดั และทอด เนน้ ใชผ้ ักสด / ผกั ตม้ กินกับน้ำ� พรกิ สำ� หรบั กลุ่ม อสม. มจี ดั กจิ กรรมการดม่ื นำ�้ สมนุ ไพร การพอกหนา้ และการแชเ่ ทา้ ดว้ ยสมนุ ไพร โดยทำ� กนั เองในกลมุ่ อสม. และรณรงคใ์ ห้ ชุมชน ปลูกผักกินเอง หรอื ร้ัวกินได้ ในครัวเรอื น 7

3 นวัตกรรมสขุ ภาพ อสม. ผู้นำ� การปรับเปล่ียนพฤติกรรมสขุ ภาพ โดย นางจีรวรรณ หสั โรค์ ปญั หาสภาวะสขุ ภาพเบ้ืองต้นของ อสม.ในเขตสุขภาพที่ 7 จากการสุม่ ติดตามสภาวะสุขภาพของ อสม.ในเขต สขุ ภาพที่ 7 ในปี 2559 จ�ำนวน 534 คน พบว่า อสม.มคี า่ ดัชนีมวลกายปกติ เพียงรอ้ ยละ 30 และเสน้ รอบเอวปกติ รอ้ ยละ 45 ดงั นัน้ จ�ำเป็นทอี่ งคก์ ร อสม. จะตอ้ งหนั กลบั เขา้ มาดูแลสขุ ภาพของ อสม.ด้วยกนั เอง โดยการปรบั เปลยี่ น พฤตกิ รรมสขุ ภาพตามหลกั 3 อ 2 ส พรอ้ มทง้ั การตดิ ตามประเมนิ ผลอยา่ งตอ่ เนอ่ื งจนสามารถเปน็ ผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลง ดา้ นสุขภาพอนามยั ใหแ้ ก่ประชาชนได้ นวตั กรรมการปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมสขุ ภาพตามหลกั 3 อ 2 ส ของ อสม. อาหาร รับประทานอาหารรสจดื - กนิ ปลาเป็นหลกั กินผักเป็นยา อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 5 ขดี หรอื 5 กำ� มือ - กนิ กลว้ ยนำ�้ หวา้ วนั ละ 2 ลกู - ปรงุ อาหารดว้ ยวธิ กี ารตนุ๋ น่งึ อบ อู่ หมก หลาม (ไม้ไผ)่ คู่หู อสม.บัดด้ี พาข้าวรสจืด ตำ� บลหนองอีตอ้ื อ.ยางตลาด จ.กาฬสนิ ธุ์ มีการจับคู่ อสม. บ้านใกล้เรือนเคียงรับประทานอาหารร่วมกัน วนั ละ 1 มอื้ เนน้ มอื้ เชา้ หรอื มอ้ื เยน็ โดยมกี ารกำ� หนดรายการอาหารสลบั กนั ไปในแตล่ ะวัน และใหป้ รงุ อาหารรสจืดเนน้ ตุ๋น นงึ่ อบ อู่ หมก หลาม (ไมไ้ ผ่) ปน่ ปลา น่ึงปลา เพราะจะทำ� ใหร้ บั ประทานผักได้มากข้ึน ขา้ วเหนียวไมเ่ กนิ 1 ทัพพี ขา้ วสวยไม่เกิน 2 ทัพพี ตอ่ คน และมีการสรุปผลการด�ำเนินงานเดือนละ 1 คร้ัง ติดต่อกัน 3 เดือน ท�ำให้ อสม.กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จ�ำนวน 443 คน ลดลงเหลือ 331 คน และ อสม.กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำ� นวน 298 คน ลดลงเหลือ 232 คน และขยายผลสู่โรงเรยี น วัด และกล่มุ แมบ่ ้านทำ� อาหารในหมู่บา้ น ขา้ วฮางเพอื่ สขุ ภาพ อสม.ตำ� บลหนอง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแกน่ อสม.รวมกลุ่มปลูกข้าวอินทรีย์และท�ำข้าวกล่องรับประทานในกลุ่ม ทม่ี อี าการเหนบ็ ชาตามปลายมอื ปลายเทา้ ตงั้ แตป่ ี 2558 ตดิ ตอ่ กนั 1 ปี ทำ� ให้ ผลการคดั กรองสขุ ภาพ อสม.อำ� เภอบา้ นแฮด ไมพ่ บผปู้ ว่ ยโรคเบาหวาน และ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงท่ีอยู่ในกลุ่มสีส้มและสีแดงตามเคร่ืองมือปิงปอง จราจร 7 สี และมกี ารขยายผลเปน็ วสิ าหกจิ ชมุ ชนของตำ� บลปจั จบุ นั มสี มาชกิ 30 คน และเป็นศูนยก์ ารเรียนร้เู ศรษฐกิจพอเพียงของอ�ำเภอบ้านแฮด 8

สรุป กระบวนการลดน้�ำหนักอย่างยั่งยืน ใช้ความรู้การเลือกอาหารรสจืด เพ่ิมอาหารท่ีเป็นประโยชน์ เชน่ กลว้ ย ผกั ผลไม้ และมวี ธิ กี าร สกดั สะกดิ สะกด เพอ่ื ลดอาหาร ควรจดบนั ทกึ นำ้� หนกั เสน้ รอบเอว ใหร้ างวลั เมือ่ ทำ� ได้ตามเปา้ หมาย และท่สี �ำคญั ควรหาเพื่อนรว่ มอดุ มการณ์ คอยเตือนกนั ปรบั วิถชี ีวิต เพ่มิ การเดิน ขยับ รา่ งกายมากขนึ้ ลดขนมเครอื่ งดมื่ รสหวาน หาแรงจงู ใจทท่ี ำ� ใหส้ ำ� เรจ็ เชน่ ทำ� เพอื่ คนทเี่ รารกั หรอื ทำ� เพอื่ ตนเอง สกัด สิ่งกระตุ้นที่ท�ำให้ อารมณ์ : ควรจัดการความเครียดใน สะกิด ให้คนรอบข้าง หิว หลีกเลี่ยงการไป แต่ละวัน ผ่อนคลายสมอง เช่น การดู ช่วยเหลือเป็นก�ำลังใจ ศูนย์อาหารหรือจุดท่ีมี หนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ สวดมนต์น่ัง ไมซ่ ำ�้ เตมิ หรอื ยวั่ ใหเ้ รา อาหารชวนรับประทาน สมาธิก�ำหนดลมหายใจเข้า-ออก และ บรโิ ภคอาหารเกนิ ไป นอนพักผ่อนอย่างน้อย วันละ 7 – 8 ชั่วโมง ต้งั จิตมงุ่ ม่นั สะกดใจ ไม่บริโภคมากเกนิ ไป อยากลอง ตอ้ งมี สตหิ ากบรโิ ภคเกนิ ไปจะทำ� ใหอ้ ว้ น หรอื นกึ ถงึ ภาพ ดาราท่ีประทบั ใจหรอื ไอดอล *** ลดอ้วนอย่างย่งั ยืน จดบนั ทึกน้�ำหนกั เสน้ รอบเอว และให้รางวลั เม่ือท�ำได้ตามเป้า หาเพ่อื นรว่ มอุดมการณ์ คอยเตอื นกัน ปรับชวี ติ เพิม่ การเดนิ ขยบั รา่ งกาย ลดขนมเคร่ืองด่ืมรสหวานหาแรงจงู ใจท่ที �ำใหส้ �ำเร็จ เชน่ ท�ำเพ่อื คนทีเ่ รารัก *** ส.ลดด่ืมสรุ า : เคลด็ ลบั ในการเลิกดมื่ สุรา คือ การ ส.ไม่สูบบหุ รี่ : เคล็ดลับการเลิกบหุ รี่ ตั้งใจจรงิ ที่จะเลกิ ตั้งใจจรงิ ที่จะเลกิ เลิกเพ่อื ใคร เพราะอะไร โดยการ บุหร่ี ต้ังเปา้ ว่าจะเลิก ท้งิ อปุ กรณท์ เ่ี ก่ียวขอ้ งกับการสูบ ลดปริมาณในการดมื่ หลีกเล่ียงจากสถานท่ีทเี่ คยด่ืม บุหรี่ให้หมด เช่น บุหรี่ และไฟแช็ค เม่ือมีอาการ และเพอื่ นๆ ทรี่ ว่ มดื่ม หยุดความคิดทจ่ี ะดม่ื เพื่อเขา้ หงดุ หงดิ ตัดความเคยชิน หรือกิจกรรมวา่ ง ทมี่ กั จะทำ� สังคม หันมาท�ำกจิ กรรมเพ่อื สุขภาพ เช่น ออกกำ� ลัง ร่วมกับการสูบบุหร่ี หาท่ีพึงทางใจก�ำลังใจจาก กาย หางานอดิเรกท�ำ เปน็ ต้น คนรอบข้าง หรอื ใหร้ างวัลตนเองเม่อื สามารถทำ� ได้ วิ่งมินิมาราธอนบา้ นหนองแซง อ.บา้ นแฮด จ.ขอนแก่น เรม่ิ จาก อสม.บา้ นหนองชวนกลมุ่ เสยี่ ง กลมุ่ ปว่ ยโรคเบาหวาน-ความดนั โลหติ วงิ่ ออกกำ� ลงั กายในหมบู่ า้ นมคี น สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมว่ิงเพิ่มข้ึนทุกปี องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบลจึงจดั เป็นงานประจำ� ปี ว่งิ มนิ มิ าราธอนบ้านหนองแซง ตง้ั แตป่ ี 2553 ท�ำให้ อสม.ต�ำบลหนองแซงมีคา่ ดัชนีมวลกายปกติถงึ รอ้ ยละ 66 และเส้นรอบเอวปกตริ ้อยละ 67 ออกกำ� ลงั กาย : ออกกำ� ลงั กายอยา่ งนอ้ ย 30 นาที หรอื จนกวา่ จะเหนอ่ื ย มเี หงอื่ ออก สปั ดาหล์ ะ 5 วนั พยายาม แทรกรูปแบบการออกก�ำลังกายให้เป็นกิจวัตรประจ�ำวัน เช่น การเดินหรือปั่นจักรยานแทนการใช้รถยนต์ ท�ำงานบา้ นดว้ ยตนเอง 9

ค่หู ดู แู ลกนั และกันสรา้ งสรรคส์ ุขภาพ ต�ำบลสระบวั อ�ำเภอปทมุ รตั น์ จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด ดำ� เนนิ การสรา้ งแกนนำ� “คหู่ ดู แู ลสขุ ภาพ” โดย อสม.จบั คหู่ กู ลมุ่ ปว่ ย กลมุ่ เสยี่ งทอี่ ยใู่ นละแวกรบั ผดิ ชอบ และ มพี ฤตกิ รรมเสยี่ ง แลว้ รว่ มกนั ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ทำ� สญั ญาใจรว่ มกนั ตามขอ้ ตกลงการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม คือ 1. กนิ ผกั และผลไมป้ ลอดสารพษิ วนั ละคร่งึ กิโล 2. ลดอาหารหวาน มัน เค็ม 3. ปลูกผกั ปลอดสารพษิ ใชป้ ุ๋ยชวี ภาพหม่บู า้ น 4. ออกกำ� ลงั กายถกู ต้องทุกวนั ๆ ละ 45 นาที 5. ท�ำจติ ใจใหแ้ จม่ ใส ไม่โมโหงา่ ย 6. ไมด่ ่มื สรุ า 7. ไม่สบู บุหร่ี มกี ารตดิ ตามประเมนิ เดอื นละครง้ั ท่ี ศสมช และใหค้ หู่ ู มานำ� เสนอถงึ กจิ กรรมทต่ี นเองทำ� ดใี นรอบเดอื น พรอ้ ม เขยี นใบความดี กิจกรรมดีท่ีปฏบิ ัติ ใสไวท้ ่กี ล่องความดี เพอื่ ให้ คูห่ ู ไดอ้ ่านและถอื ปฏิบัติด้วย ส้ินเดือนจะน�ำใบความดี มารวบรวม ค่ไู หนทำ� ความดี มผี ลการปรบั เปลี่ยนสขุ ภาพเกิดผลลัพธท์ ีด่ ี จะมอบรางวัลให้ เปน็ แรงจงู ใจ เปน็ รายเดือน เม่อื สน้ิ สุดโครงการ จะมอบรางวัลใหญ่ อีกครั้งหน่ึง มีการติดตามประเมนิ ผลคู่หู จ�ำนวน 8 คร้ัง สนิ้ สุดโครงการเดอื น กนั ยายน 2559 พบวา่ ผปู้ ว่ ยเบาหวานสามารถควบคมุ ระดบั นำ้� ตาลไดเ้ พม่ิ ขนึ้ และผปู้ ว่ ยโรคความดนั โลหติ สงู สามารถ ควบคมุ ระดับความดนั โลหติ ไดเ้ พ่ิมขนึ้ ในสว่ นกลุ่มเสยี่ งลดลง โรคเบาหวานและความดันโลหติ สงู ลดลง บทสรปุ : หัวใจสำ� คญั ในการปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมสุขภาพ 1. การมเี พอื่ นคอยเปน็ ใหก้ ำ� ลงั ใจแนะนำ� ในการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม ดงั ตวั อยา่ ง อสม..บดั ด้ีพาขา้ วรสจดื และคหู่ ู ดูแลกนั และกนั สร้างสรรคส์ ขุ ภาพ 2. การมีเครือ่ งมอื ในการตดิ ตามประเมินผลที่ต่อเน่ือง โดยเฉพาะ เคร่ืองวัดความดันโลหติ สายวัดรอบเอว โดยมี ศสมช.เป็นสถานทปี่ ฏบิ ตั ิงานของ อสม. 3. สรา้ งแรงจงู ใจในการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ เชน่ การใหร้ างวลั แกค่ หู่ ทู ส่ี ามารถปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้ แบบตดิ ตามเสรมิ พลังใจคูเ่ ส่ยี ว อสม. ปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมสุขภาพ 10

สญั ญาใจ ค่เู สยี่ ว อสม.ปรับเปล่ยี นพฤติกรรมสขุ ภาพ ขา้ พเจ้า นาย/นาง/นางสาว..................................................................................................................อายุ............................ปี ทอ่ี ยู่...................บ้าน...............................ตำ� บล...........................อำ� เภอ...............................จังหวัด........................................ การประเมนิ สถานะสุขภาพเบื้องตน้  ปกติ การแปลผล (1) ค่าดัชนมี วลกาย = ………………….กโิ ลกรัม/ตารางเมตร  ผิดปกติ (น้ำ� หนกั .............กโิ ลกรมั ส่วนสูง..............เซนติเมตร) (น้อยกว่า 23) (มากกว่าหรือเทา่ กบั 23) (2) เส้นรอบเอว =………………………………เซนติเมตร (ปกติ ชาย นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากับ 90 ซม. / หญิง 80 ซม.)  ปกต ิ  ผิดปกติ (3) ความดันโลหติ =…………………………มิลลิเมตรปรอท  ปกต ิ  ผดิ ปกติ (ปกติ ความดนั บน น้อยกว่าหรอื เท่ากบั 140 / ความดันล่าง 90) ระบุสี...................................................... (4) ระดบั น้�ำตาลในเลอื ด =…………………....มิลลกิ รัม/เดซิลิตร  ปกต ิ  ผิดปกติ (ปกติ ระดับน�ำ้ ตาล นอ้ ยกวา่ หรือเท่ากับ 125) ระบุส.ี ..................................................... มคี วามตงั้ ใจและมุง่ ม่นั ปรบั เปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพตนเองดังน้ี (ใส่  หน้าข้อตอ้ งการปรับเปลย่ี น ฯ) ข้าพเจา้ สมคั รใจปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมสขุ ภาพตนเองดงั นี้ ระบุชว่ งเวลาเดือน/ปี 1. รับประทานอาหารรสจดื ลดอาหารทีม่ รี สหวาน มนั เคม็ 2. ออกก�ำลงั กายสม่ำ� เสมออยา่ งนอ้ ย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วนั (รสู้ กึ เหนอื่ ยมเี หงือ่ ออก) 3. รับประทานกลว้ ยน้ำ� ว้ากอ่ นรบั ประทานอาหาร 15 นาที อย่างน้อย 1 มื้อตอ่ วนั 4. ลด ละ เลกิ ด่มื สุราหรอื เครอื่ งด่ืมที่มแี อลกอฮอล์ 5. ลด ละ เลกิ สบู บหุ ร่ี 6. ด่ืมนำ�้ เปล่าสะอาดอย่างนอ้ ยวนั ละ 7- 8 แกว้ 7. ลดหรืองดเครื่องด่มื ท่ีมรี สหวาน เช่น น้�ำอดั ลม นำ�้ หวาน กาแฟ ชา โอวลั ติน 8. สวดมนต์ ไหวพ้ ระ และท�ำจติ ใจใหส้ งบ 9. เป็นจิตอาสา ช่วยเหลือกจิ กรรมสังคม 10. ปลกู ผักปลอดสารรบั ประทานเอง ลงชือ่ ............................................ผใู้ หส้ ัญญาใจ ผู้รบั สัญญาและช่วยเหลอื ให้ อสม. บรรลคุ วามตั้งใจ วัน/เดือน/ป.ี ........................................................ และความมุ่งม่ันในการปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ลงช่อื .........................................(คู่เสยี่ ว อสม.) แบบติดตามเสริมพลังใจ คู่เส่ยี ว อสม.ปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ระบุเป็นตวั เลข ใสเ่ ครอื่ งหมาย  = ทำ� ได้, × = ทำ� ยังไมไ่ ด้ สัปดาห์ น้ำ� หนัก ดชั นี เสน้ รอบเอว ความดัน อาหาร ออก ลด เครื่องดม่ื ไม่ ไม่ดืม่ เครือ่ งดื่ม ผู้ตดิ ตามเสรมิ พลงั ที่ (กิโลกรมั ) มวลกาย (เชนตเิ มตร) โลหิต ลดจืด กำ� ลงั กาย รสหวาน สูบบหุ ร่ี ท่ีมีแอลกอฮอล์ คู่เสย่ี ว อสม. ลายเซ็น 11

4 การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ “ชุมชนชะลอไตเส่ือม” ปญั หาโรคไตเร้ือรัง จากสถานการณ์โรคไตในปัจจุบันก�ำลังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก คนไทยมีแนวโน้มป่วยเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ โดย คนไทยป่วยเป็นโรคไตติดอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากมาเลเซียและสิงคโปร์ สาเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เกิดจาก เบาหวานและความดันโลหติ สูง ซงึ่ มีสถติ ิผปู้ ว่ ยรวมเกือบ 15 ลา้ นคน ผลท่ตี ามมาคอื มภี าวะไตเส่อื มและไตวายเรว็ ข้นึ หากปฏิบตั ติ วั ไมถ่ กู ต้อง “จากข้อมูลพบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง รอ้ ยละ 17.6 ของประชากร หรอื ประมาณ 8 ลา้ นคน เปน็ ผปู้ ว่ ยระยะสุดท้าย (ไตวาย) 2 แสนคน และป่วยเพ่ิมปี ละกว่า 7,800 ราย ส่วนการผา่ ตัดเปล่ยี นไตท�ำได้เพียงปี ละ 500 ราย การแกป้ ัญหาโรคไต จึงเน้นการชะลอความ เสือ่ มของไตเพอ่ื ให้เข้าสรู่ ะยะที่ตอ้ งล้างไตช้าลง” นอกจากนี้พฤติกรรมการกินคนไทยเปล่ียนไป ทำ� ใหพ้ บโรคไตในเดก็ ดว้ ย สาเหตหุ นง่ึ คอื การกนิ อาหารเคม็ ฟาสต์ฟูด ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะอาหารญ่ีปุ่น เกาหลี ท่ีก�ำลังเป็นท่ีนิยม เนื้อหมักใส่ซอสปรุงรส เกลือ ผงหมัก รวมน้�ำจิ้มแล้ว โดยรวมความเค็มมากกว่าอาหารปกติถึง 50 เท่า การลดบริโภคเค็มลงจะช่วยให้มีสุขภาพดี และ ลดจำ� นวนผเู้ สียชีวิตจากโรคไตเรือ้ รงั ได้อกี มาก “ไต” ถอื เปน็ ส่วนหน่งึ ของ “ระบบทางเดินปสั สาวะ” เพราะมีหน้าท่กี รองเอาของเสีย นำ�้ และเกลอื แร่สว่ นเกินจาก เลือดท่ีไหลผ่าน ไปสร้างปัสสาวะ นอกจากน้ีไตยังสร้างสารท่ีควบคุมความดันโลหิตและสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง เมด็ เลือดแดง ดังนัน้ หากไตท�ำงานได้น้อยลง มกั เกิดปญั หาความดนั โลหติ สูงและโลหติ จางร่วมด้วย โรคไตเรื้อรงั คอื สภาวะทไ่ี ตถูกทำ� ลาย มีผลท�ำให้ความสามารถของไตในการท�ำงานลดลง รา่ งกายของคนเรา มไี ตสองข้าง หากเหลือไตข้างเดยี วก็ยังสามารถดำ� รงชีวิตได้ เมอ่ื nephrons (หนว่ ยเล็กท่สี ดุ ของไต) เส่อื ม จะท�ำให้ การกรองนำ�้ และของเสยี ลดลง ซงึ่ จะทำ� ใหเ้ กดิ การคงั่ ของนำ�้ และเกลอื แร่ โรคไตทเ่ี รมิ่ เปน็ จะไมม่ อี าการ จนกระทงั่ การ ทำ� งานของไตลดลงระดับหน่ึงจงึ จะเกดิ อาการ ดงั นั้นจึงจ�ำเป็นจะต้องตรวจการท�ำงานของไต เพอื่ ท่จี ะได้ทราบว่าเปน็ โรคไตตัง้ แต่เริม่ เปน็ 12

โดยทั่วไป โรคไตจะไม่มีอาการ สัญญาณอนั ตรายบ่งบอกโรคไต 6 ประการ บอกใหร้ ลู้ ว่ งหนา้ จงึ เปน็ โรคทนี่ า่ กลวั และเมอื่ ปวดหลงั หน่วยกรองไตได้รับความเสียหายก็จะไม่ ปสั สาวะขดั สามารถรกั ษาใหก้ ลับคืนปกติได้ ปัสสาวะสีเขม้ (แบบสีนำ้� ล้างเนื้อ) ปวดเอว คนทั่วไปจะยังคงมีชีวิตปกติสุข ปสั สาวะบอ่ ย ความดนั โลหติ สงู แม้ว่าหน้าท่ีการท�ำงานของไตจะเหลือเพียง ร้อยละ 20 อาการเรมิ่ ตน้ ทสี่ ำ� คญั คอื เหนอ่ื ย งา่ ย เพลยี คันตามตัว เม่ือไตเสื่อมมากขึ้นจะมีอาการเปล่ยี นแปลงทางปัสสาวะ (ปสั สาวะลดลง สเี ปลี่ยน มีหนอง หรือ มีเมด็ เลือดแดงในปัสสาวะ) เบือ่ อาหาร คลนื่ ไส้อาเจยี น อาการอืน่ ๆ ได้แก่ บวมเท้า ชาปลายมอื ปลายเท้า (จากอาการ บวม) แลว้ จะด�ำเนินไปสไู่ ตวายเรื้อรงั การทำ� งานของไต ใช้การวัด GFR (Glomerular Filtration Rate) คอื ปริมาณเลอื ดทไี่ หลผา่ นตวั กรองของไต ในหนง่ึ นาที แพทย์จะประเมินความรนุ แรงของไตเปน็ 5 ระดบั ตามตาราง โรคไต อตั ราการกรองของไต รูปแบบอาหาร วิธีชะลอไตเลอ่ื ม เรือ้ รัง มิลลลิ ติ ร ตอ่ นาที ทคี่ วรกิน ระยะท่ี (จ-ี เอฟ-อาร์) GFR ไตเรมิ่ เส่อื ม (มีโปรตีน 1. ควบคมุ ความดัน ให้น้อยกว่า 130/80 มลิ ลเิ มตรปรอท ลดหวาน 2. ควบคุม น�้ำตาลในเลือด ใหต้ ำ่� กว่า 130 (มิลลกิ รมั ต่อเดซลิ ิตร) 1 ในปัสสาวะ) ค่า GFR ลดมัน หรือ น�้ำตาลสะสม (ฮโี มโกลบนิ เอวนั ซ)ี ใหน้ อ้ ยกว่า 7% ลดเคม็ 3. ด่มื นำ�้ วันละ 8-10 แก้ว (ยกเวน้ เม่อื แพทยส์ ั่งจ�ำกัดนำ�้ ) ปกต=ิ 90 หรอื มากกวา่ 4. หลกี เล่ียงยาแกป้ วด กลมุ่ “เอน็ เสด” ยากระษยั เส้น ยาชุด และสมุนไพร ลดหวาน 5. “กนิ จืดยดื ชีวิต” หลีกเลีย่ ง อาหารรสเคม็ ทกุ ชนดิ ผงชรู ส ผงปรงุ รส น้ำ� ปลารา้ 2 60 - 89 ลดมนั และใช้น้ำ� ปลาไม่เกิน 3 ช้อนชาต่อวัน (ลดเคม็ ) 3 30 - 59 ลดเค็ม 6. ไมค่ วรกนิ น�้ำตาลเกิน 6 ชอ้ นชาตอ่ วนั (ลดหวาน) 4 15 - 29 ลดเน้ือ 7. ไมค่ วรกนิ เนื้อสัตวม์ าก ใหก้ ินเหมาะสมกับน้ำ� หนักตัวของผ้ปู ว่ ย (ลดเนอ้ื ) 8. กินน�้ำมนั (ประกอบอาหาร) ไมเ่ กิน 6 ช้อนชาต่อวนั (ลดมนั ) 5 นอ้ ยกว่า 15 คา่ eGFR = ค่าความสัมพันธร์ ะหวา่ ง เน้นการปรงุ ด้วยวิธกี าร ตม้ ลวก นึ่ง ย�ำ ฯลฯ คา่ ครีอาตนิ นิ (Cr หรอื creatinine) 9. ออกก�ำลงั กาย หรือ เคล่อื นไหวยดื เหยยี ดกลา้ มเนอ้ื วันละ 30 นาที 10. งดดมื่ สรุ า และ งดสูบบหุ รี่ กบั คา่ ท�ำงานของไต GFR การสร้างความรอบรดู้ ้านสขุ ภาพ (Health Literacy) Health Literacy หมายถึง ทักษะต่างๆ ทางการรับรู้และทางสังคม ซ่ึงเป็นตัวก�ำหนดแรงจูงใจและความ สามารถของปจั เจกบคุ คลในการทจ่ี ะเขา้ ถงึ เขา้ ใจ และใชข้ อ้ มลู ในวธิ กี ารตา่ งๆ เพอ่ื สง่ เสรมิ และบำ� รงุ รกั ษาสขุ ภาพของ ตนเองให้ดีอยเู่ สมอ 13

แนวทางการพฒั นาความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพ ประกอบดว้ ย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. การเขา้ ถึงขอ้ มูลสุขภาพและบริการสุขภาพ เพอ่ื สร้างโอกาสใหแ้ ตล่ ะบุคคลไดร้ บั รูข้ ้อมลู ขา่ วสาร ความรู้ ด้านสุขภาพเกย่ี วกบั การปฏบิ ัตติ วั ขนั้ พนื้ ฐานอยา่ งเหมาะสม 2. ความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับสขุ ภาพเพอื่ ให้สามารถดแู ลสุขภาพตนเองได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3. ทักษะการสื่อสาร เพ่ือสร้างโอกาสให้บุคคลได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเก่ียวกับการดูแลสุขภาพ ตนเอง และเพือ่ ใหส้ ามารถสอ่ื สารให้คนอนื่ ๆ เพอื่ ให้มีการดแู ลสขุ ภาพไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 4. ทกั ษะการตดั สินใจ เพือ่ ใหม้ เี หตผุ ลและสามารถตดั สินใจในการดแู ลสขุ ภาพอย่างถกู ตอ้ งของแตล่ ะบุคคล 5. การจัดการตนเอง เพือ่ ให้มกี ารวางแผนและกำ� กบั ตนเองในการปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมสขุ ภาพ 6. การรู้เท่าทันสื่อ เพ่ือให้แต่ละบุคคลมีข้อมูลและสามารถคิด พิจารณาข้อมูลจากโฆษณาท่ีเก่ียวข้องกับ สุขภาพและเลือกแนวทางการดูแลสขุ ภาพได้อยา่ งถกู ต้อง ตัวอยา่ งกรอบแนวทางการสรา้ งความรอบรดู้ ้านสุขภาพ (รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสกุ าญจน)์ การพฒั นา P&P สู่ HL ความรู้ คุณธรรม “ความรอบร”ู้ “ใชส้ ติปัญญาในการด�ำเนินชีวติ ” MeKsesyage ประเด็น อาหาร ออกก�ำลงั กาย สิง่ แวดลอ้ ม ประเดน็ ส่งเสริมสุขภาพ ปอ้ งกันโรค การสือ่ สาร โรคไตเรือ้ รงั / ไตวาย เรกะดิ ยปะญักอ่ หนา เข้าถึง “mเeDทiคhghiโeteนaaaโlllลttHhยhี” บอกตอ่ เรกะิดยปะัญหลหงั า สถานปรคะกรออชบบมุ คกชรานัวร เขา้ ใจ เปลย่ี นพฤติกรรม สชคถรมุ อาชนบนปครรัวะกอบการ โตต้ อบ ตดั สนิ ใจ ซักถาม และเปล่ียน ระบบบรกิ าร/รพ.สต. ระยะเกดิ ปญั หา รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ 14

เราจะรอู้ ย่างไรวา่ ชุมชน เข้าถึง เขา้ ใจ “ปญั หาโรคไตเรื้อรงั ” ในการสรา้ งกระบวนการท�ำงาน “ชุมชนชะลอไตเสอ่ื ม” สิ่งท่สี �ำคัญคือ ชมุ ชนเขา้ ถงึ ขอ้ มูลปัญหาโรคไตเรื้อรัง จากแหล่งใด และเข้าใจปญั หาการเกิดโรคและจะจัดการสขุ ภาพตนเองและชมุ ชนได้อย่างไร ตัวอย่างค�ำถามท่ีพบบ่อย (พ้ืนท่ีเลือกค�ำถามที่ใกล้เคียงกับบริบท ของตนเอง เพื่อให้ชุมชนทบทวน รับรู้ และรว่ มกนั แก้ไขปญั หาโรคไต) (1) กลมุ่ ใดท่ีเส่ียงการเป็นโรคไตเร้ือรงั หรอื ไตเสือ่ ม? *** แนวทางการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดย ตอบ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง การใช้เทคนคิ “Ask me 3” (อา้ งองิ จาก รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์) และผทู้ ม่ี อี าการปวดทเ่ี กดิ จากปญั หาโรคไตเรอื้ รงั เปน็ ประจำ� ความเป็นมา เชน่ ปวดหลัง/เอว “Ask me 3” เปน็ เทคนิคท่ีพัฒนาโดย The National (2) กรณีท่ีเรียกวา่ ไตวายจะเกิดขนึ้ เมอ่ื ไหร่อยา่ งไร? Patient safety foundation ของสหรัฐอเมริกา แนะน�ำให้ ตอบ โรคไตมหี ลายระดบั แบง่ เปน็ 5 ระดบั แพทย์ บคุ ลากรทางการแพทยก์ ระตนุ้ ใหผ้ ปู้ ว่ ยตอบคำ� ถาม 3 ขอ้ เพอื่ ให้ผปู้ ว่ ยทบทวน การรบั รูแ้ ละการปฏบิ ัตติ วั ภายหลงั จากได้รบั มักจะใช้ค�ำว่าไตวายในกรณีทีไตเสื่อมสภาพไปแล้ว คือ บรกิ ารแลว้ ดังน้ี ไตทำ� งานนอ้ ยกวา่ 15 % (ระยะที่ 5) สว่ นระยะ 1-4 แพทย์ ใช้คำ� ว่าโรคไตเรื้อรังหรือไตเส่ือม 1. ปญั หาสุขภาพของฉันคืออะไร? 2. ฉนั ต้องท�ำอะไรบา้ ง? (3) ทานเค็มหรือเนื้อสัตว์เยอะจะเป็นเหตุให้เกิดโรคไต 3. ทำ� ไมฉันจงึ ตอ้ งทำ� สิ่งต่างๆ เหลา่ นั้น มันส�ำคัญอยา่ งไร หรอื ไม่? สำ� หรบั ประเทศไทยไดน้ ำ� เทคนคิ “Ask me 3” มาประยกุ ต์ ตอบ ถา้ คนปกติ จะไมใ่ ช่สาเหตุ แต่ถ้าเปน็ คนทมี ี ใช้เพ่ือให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมสังคมไทยท่ีไม่ชอบถาม โดย ใหเ้ จา้ หนา้ ทผี่ ใู้ หบ้ รกิ ารเปน็ ผตู้ งั้ คำ� ถามกบั ผปู้ ว่ ยและญาติ ดว้ ย ปัญหาไต จะเป็นตัวส่งเสริมให้โรคไตเป็นมากขึ้น รสเค็ม ค�ำถามงา่ ยๆ ไดด้ ังนี้ เกิดจากเกลือโซเดียม ร่างกายได้รับเข้าไปมากๆ ไตก็จะ 1. วนั นี้เปน็ อะไรมา ตรวจเสรจ็ แล้วหมอบอกวา่ เป็นอะไร ทำ� งานหนกั (กนิ เนอ้ื สตั วม์ ากๆ ทำ� ใหไ้ ตทำ� งานหนกั เพราะ 2. หมอบอกให้ทำ� อะไรบา้ ง มนั สรา้ งของเสยี ไนโตรเจน ทตี่ อ้ งขบั ทางไต) ความดนั โลหติ 3. ทหี่ มอบอกทำ� ไดไ้ หม แลว้ มันดีกับตัวเองอย่างไร จะสงู ขึน้ ท�ำใหไ้ ตเสอ่ื มสภาพเร็ว เวลาท่คี วามดันโลหติ สูง การถามเพอื่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยแตล่ ะคนตอบ และเจา้ หนา้ ทจ่ี ะไดใ้ ห้ ขึน้ จะทำ� ให้เสน้ เลือดภายในไตนน้ั เกิดการเส่ือมสภาพ ขอ้ มลู ในสว่ นทผี่ ปู้ ว่ ยยงั ไมเ่ ขา้ ใจในแตล่ ะประเดน็ นอกจากนผี้ ล การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยแต่ละราย สามารถน�ำมาก�ำหนดรูป (4) การตรวจโปรตนี ในปสั สาวะ คอื อะไร? แบบการใหส้ ุขศึกษาในภาพรวม ดงั นี้ ตอบ การตรวจโปรตนี ในปสั สาวะจะทำ� ใหร้ ไู้ ดเ้ ลย 1) ถ้าผู้ป่วยในภาพรวมที่ตอบถูก ต่�ำกว่าร้อยละ 60 ให้ ทบทวนการวิเคราะห์ปัจจัยของพฤติกรรมการจัดการตนเอง ว่าเส้นเลือดปกติหรือไม่เน่ืองจากเส้นเลือดอยู่ติดกับ และการออกแบบบริการสขุ ศึกษา กระเพาะปสั สาวะ ดงั นนั้ ถา้ เสน้ เลอื ดเกดิ เสยี ขน้ึ มากจ็ ะตอ้ ง 2) ถ้าผู้ป่วยในภาพรวมท่ีตอบถูกตั้งแต่ร้อยละ 60 ข้ึนไป มโี ปรตนี ในเส้นเลือดร่ัวออกมา และไหลออกทางปสั สาวะ แต่ยงั ต่�ำกวา่ รอ้ ยละ 80 ใหท้ บทวนวธิ ีการใหบ้ ริการสขุ ศกึ ษาที่ และถ้าโปรตนี รว่ั เยอะในปสั สาวะ แสดงว่าไตผดิ ปกติ จัดให้ 3) ถ้าผู้ป่วยในภาพรวมที่ตอบถูกตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป ใหย้ งั คงออกแบบบริการสขุ ศกึ ษา 15

เป้าหมายของชุมชนชะลอไตเสอื่ ม : ชมุ ชนจะตัง้ เป้าหมายผลลพั ธท์ ี่ การลดจำ� นวนผู้ปว่ ย โรคไตรายใหม่ และ/หรอื ลดจำ� นวนผปู้ ว่ ยลา้ งไต ซง่ึ กระบวนการทำ� งานจะแตกตา่ งกนั พรอ้ มกำ� หนด Key Massage ท่สี �ำคญั ในการขบั เคลอื่ น ชมุ ชนจะเขา้ มามสี ว่ นรว่ มการชะลอไตเสอื่ มได้อย่างไร : (1) การจดั การความรู้คนในชมุ ชน (2) การสนบั สนนุ ปจั จยั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ปญั หาโรคไต ไดแ้ ก่ อาหาร ยา การออกกำ� ลงั กาย และสงิ่ แวดลอ้ ม ฯลฯ รปู แบบการจัดการการมีส่วนรว่ มของชุมชน อาจมหี ลายรูปแบบ ดังน้ี รูปแบบท่ี 1 การสรา้ งทีมชมุ ชน และอบรมแกนนำ� ชุมชน อสม. อสค. ในการดแู ลผ้ปู ว่ ยโรคไต สร้างทมี ชมุ ชน และ ส่งผลใ ้ห สรา้ งอาสาสมัคร หลกั สตู รการดแู ลผู้ป่วยโรคไต ครอบครวั (อสม.) “ไตของเรา เราต้องรู้” ประกอบดว้ ย ญาตผิ ู้ปว่ ย อสม. กินอยู่อย่างไร หา่ งไกลเคร่ืองลา้ งไต และ รพ.สต. เพื่อการดแู ลผู้ปว่ ยโรคไตเรือ้ รงั ระยะกอ่ นการลา้ งไต ส่งผลใหผ้ ้ปู ว่ ยโรคไตเร้ือรัง สามารถชะลอความเส่อื ม ของไต ระยะ 3 และ 4 จนคาดการณ์ไดว้ า่ อาจจะ ชะลอการล้างเฉลี่ยถงึ 7 ปี รปู แบบที่ 2 การสร้างการเรยี นรโู้ รคไต ให้กับ อสม. : ประเมนิ สมรรถภาพทางกาย 3 ทา่ ลกุ นง่ั เกา้ อี้ มอื ไขวห้ ลงั แตะกนั นงั่ งอตวั เปน็ ตน้ เพอื่ ให้ อสม. ประเมนิ ตนเองและกระต้นุ ให้มีการออกก�ำลังกาย และยืดเหยียดกลา้ มเน้อื เป็นประจำ� : ประเมนิ สีและตะกอนปัสสาวะ ดว้ ยตนเอง เหลอื งอ่อน 1 เหลืองเข้ม 2 เหลืองน้�ำตาล 3 เหลืองอ�ำพนั แดง 4 สีนำ�้ ลา้ งเนือ้ 5 สขี าวขนุ่ 6 การวัดตะกอน วัดจากกน้ ถงุ ขึ้นไป 16

รปู แบบที่ 3 การจัดการปญั หา อาหาร ยา การออกก�ำลังกาย และสงิ่ แวดลอ้ ม : ปลกู ผกั สวนครัว ร้วั กนิ ได้ ในครอบครวั เพอ่ื ท่ีมา: ผศ.นพ.พสิ นธ์ จงตระกลู ให้มอี าหารปลอดภัยในชุมชน คม ชดั ลกึ กราฟฟิก : สง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั กลบั มาทำ� อาหารกนิ เอง ตวั อย่างยากลุ่มเอ็นเสด เพื่อลดการใช้ผงชูรส เพราะมีผลเสียต่อไต (อาจส่งเสริม อนิ โดเมทาซิน เมเฟนามกิ แอซดิ ให้คนในชุมชนทำ� ปลาร้ากินเอง) ชื่อการค้า อินโดซิด ช่ือการค้า พอนสแตน : ปัญหารถเร่ขายอาหารถุง ท่ีไม่มีคุณภาพ มีผลตอ่ สขุ ภาพ ชื่อไกอารบคูโ้าพโะกเเฟฟนน ช่ือการคซ้าลี ซีคีลอ็ีเบกรส็กบิซ์ ไพร็อกซิแคม อีโทริค็อกสิบ : ปญั หาการใชย้ าแกป้ วด (เอน็ เสด) ทม่ี ขี ายใน ร้านขายของช�ำ และชาวบ้านนิยมกินแก้ปวดแทนพารา ช่ือการค้า ปอ๊ ก, เพียแคม ชื่อการค้า อารค์ ็อกเซีย เซท เพราะคดิ วา่ ให้ฤทธิ์แก้ปวดไดด้ ี โดยไม่คดิ ถึงผลเสยี ต่อไต ไดโคลฟแิ นค มีล็อกซิแคม : รณรงคใ์ หม้ กี ารออกกำ� ลงั กาย และสรา้ งลาน ชอื่ การคา้ โวลทาเรน ชื่อการคา้ โมบิก ออกกำ� ลงั ในชมุ ชน ฯลฯ \"ยาเอน็ เสดหากมีการใชอ้ ยา่ งไมส่ มเหตผุ ลจะเหมอื น การนำ� ยาพษิ ทม่ี ีสัญลักษณก์ ะโหลกไขว้เขา้ สูร่ ่างกาย รูปแบบท่ี 4 มีการปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะแทรซ้อนโรคไต ระยะที่ 3 และ 4 และติดตามการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม ตวั อยา่ งแบบประเมินผลผปู้ ว่ ยโรคไตเส่ือม ระยะท่ี 3 และ 4 ไมใ่ หเ้ ขา้ สู่ ระยะท่ี 5 พฤตกิ รรมทีผ่ ูป้ ว่ ย สามารถปรบั เปล่ียน ภายใน 3 เดือน ก่อน หลงั (อยา่ งนอ้ ย 1 ประเดน็ ท่กี อ่ นดำ� เนนิ การไม่สามารถปรบั เปล่ียนได)้ ทำ� ไม่ได้ ท�ำได้ ท�ำไม่ได้ ทำ� ได้ 1. ควบคมุ ความดนั ให้นอ้ ยกว่า 130/80 มลิ ลเิ มตรปรอท 2. ควบคุม นำ้� ตาลในเลอื ด ให้ต่�ำกว่า 130 (มลิ ลกิ รัมต่อเดซิลิตร) หรอื น้ำ� ตาลสะสม (ฮีโมโกลบินเอวนั ซี) ใหน้ อ้ ยกวา่ 7% 3. ดมื่ น้ำ� วันละ 8-10 แก้ว (ยกเว้นเมือ่ แพทย์สง่ั จ�ำกัดน�ำ้ ) 4. หลีกเล่ยี งยาแก้ปวด กลมุ่ “เอน็ เสด” ยากระษยั เส้น ยาชดุ และสมุนไพร 5. “กนิ จดื ยืดชีวิต” หลกี เลี่ยง อาหารรสเคม็ ทกุ ชนิด ผงชรู ส ผงปรุงรส น้�ำปลา รา้ และใชน้ �ำ้ ปลาไม่เกนิ 3 ชอ้ นชาตอ่ วัน (ลดเค็ม) 6. ไม่ควรกินน้�ำตาลเกนิ 6 ชอ้ นชาตอ่ วัน (ลดหวาน) 7. ไม่ควรกนิ เนอ้ื สตั วม์ าก ให้กินเหมาะสมกับน้ำ� หนักตัวของผปู้ ่วย (ลดเนอ้ื ) 8. กนิ น�้ำมัน (ประกอบอาหาร) ไม่เกนิ 6 ช้อนชาตอ่ วนั (ลดมนั ) เนน้ การปรุงดว้ ยวิธกี าร ต้ม ลวก น่งึ ย�ำ ฯลฯ 9. ออกก�ำลงั กาย หรอื เคลอ่ื นไหวยืดเหยยี ดกลา้ มเนื้อ วนั ละ 30 นาที 10. งดด่ืมสุรา และ งดสูบบุหรี่ (อ้างอิงจาก: หนังสือ \"“ไตของเรา เราต้องร”ู้ ของสถาบนั โรคไตภมู ิราชนครินทร์) 17

นวตั กรรม การจัดการสขุ ภาพตนเอง บนฐานความรชู้ มุ ชน สู่วิถพี อเพยี ง เกิดความรู้ใหม่ นำ� ไปสู่การปรับเปลยี่ น พฤติกรรมสขุ ภาพคนในชมุ ชน สามารถสรา้ งผ้นู ำ� ข้นึ ในชมุ ชน เปน็ ผผู้ ลักดนั งานใหข้ ับเคลอ่ื นตอ่ เน่อื งในชมุ ชน สามารถสรา้ งกิจกรรมทีม่ าจากมาตรการ ทางสงั คม ความยัง่ ยืน สร้างการมสี ว่ นรว่ ม และสามารถ ขยายผลไปยงั ชมุ ชนอ่นื ๆ ได้ ผลลัพธ์ ลดปญั หา สร้างความสุขของคน ในชุมชน วถิ ีพอเพยี ง : ประชาชนสามารถดแู ลสขุ ภาพตนเองได้ และชุมชนจัดการสขุ ภาพเพอ่ื การพึง่ ตนเองดา้ นสุขภาพได้ บรรณาธิการ 1. นางสจุ นิ ดา สขุ กำ� เนิด 2. นางจรี วรรณ หสั โรค์ 3. นายถวิล เลกิ ชัยภูมิ 4. สิรวชิ ญ์ วชิ ญธรี ากุล ขอเอกสารไฟลท์ ่ี [email protected] พิมพท์ ี่ หจก.โรงพิมพ์คลังนานาวทิ ยา สำ� นกั งานสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ เขต 7 จังหวดั ขอนแก่น : http://do7.hss.moph.go.th/ 303/2 ม.14 ถ.มติ รภาพ ต.ศลิ า อ.เมือง จ.ขอนแกน่ 40000 โทร. 0-4324-3738-9 โทรสาร 0-4324-7045


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook