Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 153กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ

153กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-07-14 08:55:07

Description: 153

Search

Read the Text Version

ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เร่อื ง หลกั เกณฑก ารพจิ ารณาลงโทษปรับทางปกครอง สำหรบั ผปู ระกอบธรุ กจิ ใหบรกิ ารการชำระเงินทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

ชื่อกฎหมาย ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง สาหรับผ้ปู ระกอบธุรกจิ ใหบ้ ริการการชาระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๔ / ตอนพเิ ศษ ๖๗ ง / หน้า ๑๐ / วันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๖๐ เร่ิมบังคบั ใช้ วนั ท่ี ๔ มนี าคม ๒๕๖๐ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 179 สำ�นกั งานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๖๗ ง หน้า ๑๐ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง สําหรับผ้ปู ระกอบธุรกิจให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง ดงั น้ี ขอ้ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์ การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองสําหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐” ขอ้ ๒ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง หลักเกณฑ์การพิจารณา ลงโทษปรับทางปกครองสําหรับผ้ปู ระกอบธุรกจิ ให้บริการการชําระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ข้อ ๓ ใหป้ ระธานกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์เปน็ ผรู้ ักษาการตามประกาศน้ี หมวด ๑ บททวั่ ไป ข้อ ๔ ในประกาศนี้ “การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง” หมายความว่า การดําเนินการท่ีเก่ียวกับการพิจารณา ลงโทษปรบั ทางปกครองสําหรับผปู้ ระกอบธรุ กิจใหบ้ ริการการชําระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ “พนักงานเจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้ซ่ึงผู้ว่าการ ธนาคารแหง่ ประเทศไทยแต่งตง้ั ใหป้ ฏบิ ัตกิ ารตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการ ชาํ ระเงินทางอิเลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ “ผู้ถูกกล่าวหา” หมายความว่า ผู้ให้บริการตามท่ีกําหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงพนักงานเจ้าหน้าที่ พิจารณาในเบอื้ งต้นแล้วเห็นวา่ มกี ารกระทําท่มี ีมูลเข้าข่ายเปน็ การกระทําผดิ ที่มีโทษปรบั ทางปกครอง สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 180 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๖๗ ง หนา้ ๑๑ ๓ มนี าคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา “ผู้ถูกส่ังปรับ” หมายความว่า ผู้กระทําการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ทคี่ ณะกรรมการมคี ําสง่ั ปรบั “คา่ ปรบั ” หมายความวา่ เงินคา่ ปรับทางปกครองท่ีคณะกรรมการกําหนดให้ผู้กระทําการฝ่าฝืน พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ชําระให้แก่คณะกรรมการ ข้อ ๕ ในการพิจารณาและมีคําสั่งลงโทษปรับทางปกครอง และการพิจารณาอุทธรณ์คําส่ัง ดังกล่าว นอกจากที่กําหนดไว้ในประกาศนี้ให้นํากฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับ โดยอนโุ ลม ขอ้ ๖ การแจ้งข้อกล่าวหา การแจ้งกําหนดนัด การแจ้งคําสั่งลงโทษปรับทางปกครอง หรือ การอยา่ งอ่นื ใหก้ ระทาํ เปน็ หนงั สือ ข้อ ๗ ในกรณีมีเหตุจําเป็นเร่งด่วนหรือผู้ให้บริการได้แสดงความจํานงให้แจ้งด้วยวิธีอ่ืน การแจ้งขอ้ กล่าวหา การแจง้ กําหนดนัด การแจ้งคําสั่งลงโทษปรับทางปกครอง หรือการอย่างอื่น จะใช้วิธีส่ง ทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นตามท่ีผู้ให้บริการได้แจ้งความจํานงไว้ก็ได้ แต่ต้องมี หลักฐานการส่ง และต้องจัดส่งหนังสือแจ้งให้แก่ผู้ให้บริการในทันทีท่ีอาจกระทําได้ ในกรณีน้ีให้ถือว่า ผู้ให้บริการได้รับแจ้งตามวัน เวลาท่ีปรากฏในหลักฐานการส่งโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นน้ัน เวน้ แต่จะมกี ารพิสูจนไ์ ดว้ า่ ไม่มกี ารได้รับหรือไดร้ ับกอ่ นหรอื หลงั จากนนั้ หมวด ๒ การพจิ ารณาและการมีคําสงั่ ลงโทษปรับทางปกครอง ขอ้ ๘ เม่ือพนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าผู้ถูก กล่าวหาใดมีการกระทําที่มีมูลควรจะได้รับโทษปรับทางปกครอง ให้รายงานข้อเท็จจริงพร้อมทั้งเสนอ ความเห็นต่อคณะกรรมการเพ่อื พจิ ารณาตามความในหมวดนีต้ อ่ ไป สว่ นท่ี ๑ การพิจารณาทางปกครอง ขอ้ ๙ การพิจารณาทางปกครองให้รวมถงึ การดําเนินการ ดังต่อไปน้ี (๑) การแสวงหาพยานหลักฐานทีเ่ หน็ ว่าจาํ เปน็ แก่การพสิ จู นข์ ้อเทจ็ จริง (๒) การรับฟังพยานหลักฐาน คําช้ีแจงของผู้ถูกกล่าวหา ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าท่ี คณะกรรมการ หรอื พยานบคุ คลหรือพยานผู้เช่ียวชาญทพ่ี นักงานเจา้ หน้าที่ คณะกรรมการ หรือผู้ถูกกล่าวหา กลา่ วอ้าง ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 181 ส�ำ นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๖๗ ง หน้า ๑๒ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๓) การขอขอ้ เทจ็ จริงหรือความเหน็ จากพยานบคุ คล หรือพยานผ้เู ช่ียวชาญ (๔) การขอใหผ้ ู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารท่ีเกย่ี วข้อง (๕) การออกไปตรวจสถานที่ ผู้ถูกกล่าวหาต้องให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าท่ีและคณะกรรมการในการพิสูจน์ ข้อเท็จจรงิ และมีหนา้ ท่ีแจง้ พยานหลกั ฐานทต่ี นทราบแก่พนกั งานเจา้ หน้าท่แี ละคณะกรรมการ ขอ้ ๑๐ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานจากพนักงานเจ้าหน้าท่ีแล้ว หากพิจารณาเห็นว่าผู้ถูก กล่าวหาไม่ได้กระทําผิดให้คณะกรรมการมีคําส่ังยกข้อกล่าวหา แต่ถ้าพิจารณาเห็นว่ามีมูลท่ีผู้ถูกกล่าวหา ควรจะได้รับโทษปรับทางปกครอง ให้คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบเพ่ือโต้แย้งและ แสดงพยานหลกั ฐานของตน ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานท่ีมีอยู่ไม่เพียงพอจะพิจารณา ให้คณะกรรมการแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานเพ่ิมเติมและรายงานต่อคณะกรรมการ เพ่ือพิจารณาตอ่ ไป เมอ่ื ไดร้ ับแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิยื่นคําช้ีแจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการภายใน สบิ ห้าวนั นับแต่วนั ทไี่ ดร้ บั แจง้ สิทธิยื่นคําช้ีแจงตามวรรคสามมิให้นํามาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้ เว้นแต่คณะกรรมการจะ เห็นสมควรปฏบิ ัตเิ ป็นอยา่ งอื่น (๑) เมื่อมีความจําเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เน่ินช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง แกผ่ หู้ นง่ึ ผูใ้ ดหรือจะกระทบตอ่ ประโยชนส์ าธารณะ (๒) เมื่อเป็นข้อเท็จจริงท่ีผู้ถูกกล่าวหาเองได้ให้ไว้ในคําชี้แจงหรือในการให้ถ้อยคําต่อพนักงาน เจ้าหนา้ ท่ี (๓) เมอื่ โดยสภาพเห็นได้ชดั ในตวั วา่ การให้โอกาสดงั กลา่ วไมอ่ าจกระทําได้ ข้อ ๑๑ ภายใต้บังคับข้อ ๗ ในการแจ้งข้อกล่าวหา ให้คณะกรรมการแจ้งคําส่ังโดยทําเป็น หนงั สือโดยมสี าระสําคัญ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ชือ่ ผถู้ ูกกล่าวหา (๒) การกระทําท้ังหลายที่เข้าข่ายเป็นความผิดที่มีโทษปรับทางปกครอง พร้อมท้ังข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์ตามสมควรเก่ียวกบั การกระทําดังกล่าว (๓) บทบัญญัติ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกําหนดตามกฎหมายว่าด้วยการ ควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืน ไมป่ ฏบิ ัตหิ รอื ปฏบิ ตั ไิ มถ่ ูกตอ้ ง สำ�นักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน้า 182 ส�ำ นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๖๗ ง หน้า ๑๓ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๑๒ เม่ือคณะกรรมการได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่ช้ีแจงข้อกล่าวหาภายใน กําหนดเวลา ตามข้อ ๑๐ วรรคสาม หรือเป็นกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรปฏิบัติตามวรรคส่ี ให้คณะกรรมการพิจารณาพยานหลักฐานประกอบกับคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา (ถ้ามี) ถ้าเห็นว่าผู้ถูก กล่าวหาไม่ได้กระทําผิด ให้คณะกรรมการมีคําสั่งยกข้อกล่าวหา แต่ถ้าเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําผิด ให้พิจารณากําหนดโทษปรบั ทางปกครองแลว้ มคี าํ ส่ังลงโทษปรับทางปกครองต่อไป ให้คณะกรรมการแจง้ ผลการพิจารณาใหผ้ ้ถู กู กล่าวหาทราบโดยเร็ว ข้อ ๑๓ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหน่ึงจึงจะเป็น องคป์ ระชมุ การลงมติของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีหน่ึงเสียงในการลงคะแนน ท้ังน้ี ในกรณีท่ีไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเพ่ือพิจารณากําหนดโทษปรับทางปกครอง ถ้าปรากฏว่าคะแนน เสยี งเท่ากันประธานในทปี่ ระชมุ อาจออกเสียงเพิ่มขึน้ อกี เสียงหนงึ่ เปน็ เสียงชีข้ าด ส่วนที่ ๒ การกําหนดลงโทษปรบั ทางปกครอง ข้อ ๑๔ ในการพิจารณาโทษปรับทางปกครองท่ีจะใช้กับผู้ถูกกล่าวหา คณะกรรมการต้อง คํานึงถึงปจั จัย ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ความผิดเกิดข้ึนโดยความจงใจ หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือขาดความ ระมดั ระวงั ตามสมควร (๒) ประโยชน์ท่ีผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทําผิดหรือบุคคลอ่ืนได้รับหรือจะ ได้รับจากการกระทําน้นั (๓) ความเสยี หายทเี่ กดิ จากการกระทาํ น้ัน (๔) ระดับโทษปรับทางปกครองที่เคยใช้กบั ผถู้ ูกกล่าวหารายอ่ืนในความผิดทาํ นองเดียวกัน (ถ้าม)ี (๕) ประวัติการถูกลงโทษทางปกครองของผู้ถูกกล่าวหา หรือในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็น นิติบุคคล ให้หมายความรวมถึงประวัติการถูกลงโทษปรับทางปกครองของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ การกระทําของนติ บิ คุ คลที่ถกู กลา่ วหานน้ั (๖) ข้อเท็จจรงิ อ่นื ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง สว่ นที่ ๓ คาํ สั่งลงโทษปรับทางปกครอง ขอ้ ๑๕ คําส่ังลงโทษปรับทางปกครองให้ทําเป็นหนังสือระบุ วัน เดือน ปี ท่ีทําคําส่ัง โทษปรับทางปกครองท่ีลง รวมทง้ั ชื่อ ลายมือชอ่ื ประธานกรรมการ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 183 ส�ำ นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๖๗ ง หนา้ ๑๔ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๑๖ คําส่ังลงโทษปรับทางปกครองต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อย ตอ้ งประกอบด้วย (๑) ข้อเท็จจริงอนั เป็นสาระสาํ คญั (๒) ขอ้ กฎหมายท่ีอา้ งองิ (๓) ข้อพิจารณาและขอ้ สนบั สนนุ ในการใช้ดลุ พินิจ ความในวรรคหนึง่ ไมใ่ ช้บงั คบั กับกรณี ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เหตุผลนั้นเปน็ ทรี่ กู้ ันอยูแ่ ลว้ โดยไมจ่ าํ เป็นตอ้ งระบุอีก (๒) เปน็ กรณีทตี่ ้องรกั ษาไว้เปน็ ความลบั (๓) เป็นกรณีเร่งด่วน แต่ต้องให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรในเวลาอันควรหากผู้ถูกลงโทษร้องขอ คาํ ส่ังลงโทษปรบั ทางปกครองใหใ้ ชต้ ามแบบ ทปค. ๑ ทา้ ยประกาศน้ี ข้อ ๑๗ การออกคําสั่งลงโทษปรับทางปกครอง คณะกรรมการอาจมีคําสั่งให้ผู้ถูกลงโทษ ดาํ เนนิ การใด ๆ เพ่ือแก้ไขให้ถูกต้องหรอื เหมาะสมได้ ข้อ ๑๘ คําส่ังลงโทษปรับทางปกครองให้มีผลใช้ยันต่อผู้ถูกลงโทษตั้งแต่ขณะที่ผู้นั้นได้รับแจ้ง เป็นตน้ ไป ส่วนที่ ๔ การอุทธรณ์ ขอ้ ๑๙ การอุทธรณ์คําส่ังลงโทษปรับทางปกครองของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แหง่ พระราชบญั ญัตวิ า่ ด้วยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ใหผ้ ู้อทุ ธรณ์ย่ืนฟ้องต่อศาลปกครอง สว่ นที่ ๕ การบังคับโทษปรับทางปกครอง ขอ้ ๒๐ เม่ือถึงกําหนดให้ชําระค่าปรับตามคําส่ังลงโทษปรับทางปกครองแล้วไม่มีการชําระโดย ถูกต้องครบถ้วน ให้หัวหน้าสํานักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีหนังสือเตือนให้ผู้ถูกส่ังปรับ ชําระภายในเวลาท่ีกําหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน หนังสือแจ้งเตือนให้ชําระค่าปรับทางปกครองให้ใช้ ตามแบบ ทปค. ๒ ทา้ ยประกาศนี้ เมื่อครบกําหนดเวลาให้นําเงินมาชําระตามหนังสือแจ้งเตือนแล้ว ถ้าผู้ถูกสั่งปรับไม่ชําระหรือ ชาํ ระคา่ ปรับไมค่ รบถว้ น ใหค้ ณะกรรมการฟ้องคดตี ่อศาลปกครอง เพอ่ื บงั คับชําระคา่ ปรบั ทางปกครอง ส�ำ นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 184 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๖๗ ง หนา้ ๑๕ ๓ มนี าคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา บทเฉพาะกาล ขอ้ ๒๑ บรรดาการดําเนินการเพ่ือลงโทษปรับทางปกครองใดท่ีได้ดําเนินการไปแล้วตาม ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง สําหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ดําเนินการต่อไปตาม ประกาศฉบับดงั กล่าวจนเสรจ็ สิน้ เว้นแต่การอทุ ธรณ์คาํ สั่งลงโทษปรับทางปกครองและการบังคับโทษปรับ ทางปกครอง ข้อ ๒๒ ประกาศนี้ให้ใชบ้ งั คบั ต้ังแต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ พเิ ชฐ ดุรงคเวโรจน์ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงดจิ ิทลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสงั คม ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ สำ�นักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 185 สำ�นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

แบบ ทปค. ๑ คาํ ส่ังคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ที่ …. / …. เร่อื ง โทษปรบั ทางปกครอง ………………………………..… ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่า…....(ชื่อผู้ถูกส่ังปรับ).…………มีการกระทํา (สรุปข้อเท็จจริง ของการกระทาํ ทเ่ี ป็นความผดิ โดยยอ่ )…………..อันเป็นความผดิ ตามมาตรา………..…..แห่งพระราชบญั ญัติว่าด้วยธุรกรรม ท า ง อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ พ .ศ . ๒ ๕ ๔ ๔ ป ร ะ ก อ บ กั บ ม า ต ร า ….…….แ ห่ ง พ ร ะ ร า ช ก ฤ ษ ฎี ก า ว่ า ด้ ว ย การควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ…….. แห่งประกาศคณะกรรมการ ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (เรือ่ ง………...) และ ประกาศธนาคารแหง่ ประเทศไทย (…………) ฉะน้ัน อาศัยอํานาจตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และ ข้อ………...………...……….…..แห่งประกาศคณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองสําหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการ การชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมติที่ประชุม คร้ังที่ ../.... เมื่อวันท่ี ..........เดือน...................... พ.ศ. .... จึงมีคําสั่งปรับทางปกครอง...........(ชื่อผู้ถูกส่ังปรับ) . . . . . . . . . . . . . . . . . . เ ป็ น จํ า น ว น เ งิ น …………….บ า ท (………..……………) ทั้ ง นี้ ใ ห้ นํ า เ งิ น ค่ า ป รั บ ไ ป ชํ า ร ะ ณ…………………..…..…………ภายในสามสิบวนั นบั แต่วันทไ่ี ดร้ ับแจ้งคําส่งั นี้ ในกรณีที่ผู้ถูกส่ังปรับไม่เห็นด้วยกับคําสั่งน้ีให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายในเก้าสิบวัน นับแตว่ ันที่ได้รบั แจ้งคําสัง่ นี้ สง่ั ณ วันท่ี .. เดือน ..................... พ.ศ. .... (ลงชื่อ) (................................................) ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หมายเหตุ เพื่อความสะดวกในการชาํ ระค่าปรบั ทางปกครอง ขอใหผ้ ้ถู ูกสั่งปรับนําคําสงั่ ฉบบั นไี้ ปแสดงดว้ ย ส�ำ นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 186 สำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

แบบ ทปค. ๒ ท…่ี ……../………….. สํานักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ …………………………………....................................... วนั ที่ ………………………...................... เรอื่ ง แจง้ เตอื นให้ชาํ ระคา่ ปรบั ทางปกครอง เรียน ……………………………………… อา้ งถึง คาํ ส่งั คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ท่ี …../…… ลงวันที่ …………………………….….................. เรอ่ื ง โทษปรบั ทางปกครอง ตามคําส่ังท่ีอ้างถึง คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีคําส่ังลงโทษปรับ ทางปกครองแก่ท่านซ่ึงกระทําการฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามมาตรา…….. อันเป็นความผิดตามมาตรา…….… แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบกับ มาตรา….……. แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ……... แ ห่ ง ป ร ะ ก า ศ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ธุ ร ก ร ร ม ท า ง อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ( เ รื่ อ ง ….) แ ล ะ ป ร ะ ก า ศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (….) และสั่งให้ท่านไปชําระค่าปรับทางปกครอง เป็นเงินจํานวน ………….………..บาท (…………………….) ณ ………............................................ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ได้รบั แจง้ คาํ สง่ั นน้ั บัดน้ี ได้ล่วงเลยกําหนดเวลาดังกล่าวแล้ว จึงแจ้งมาเพื่อให้ท่านนําเงินค่าปรับทางปกครอง ตามจํานวนดังกล่าวข้างต้นไปชําระภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือน้ี หากพ้นกําหนดนี้แล้ว คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะดําเนินการฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อบังคับชําระค่าปรับทางปกครอง ดงั กลา่ วตอ่ ไป จงึ แจง้ มาเพอื่ ใหด้ าํ เนินการใหเ้ รยี บร้อย ขอแสดงความนับถอื (……………………………….) หวั หน้าสาํ นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ หน่วยงานเจ้าของเร่อื ง โทร. ………………….. หมายเหตุ เพอื่ ความสะดวกในการชาํ ระคา่ ปรับทางปกครอง ขอใหท้ ่านนาํ หนงั สอื เตอื นฉบบั นไ้ี ปแสดงด้วย สำ�นกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 187 ส�ำ นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส เร่ือง หลกั เกณฑก ารพจิ ารณาลงโทษปรบั ทางปกครองสำหรบั ผูประกอบธุรกจิ ใหบ ริการการชำระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๕๔

ช่ือกฎหมาย ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส เร่อื ง หลกั เกณฑก ารพิจารณาลงโทษปรับ ทางปกครองสาํ หรับผูประกอบธรุ กิจใหบ ริการการชําระเงินทางอิเลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๒๘ / ตอนพิเศษ ๔๗ ง / หนา ๕๕ / วนั ท่ี ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ เรมิ่ บังคบั ใช วนั ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ ส�ำานักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 18394 ส�ำานักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หน้า ๕๕ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรอ่ื ง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง สาํ หรบั ผู้ประกอบธรุ กจิ ให้บริการการชําระเงนิ ทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรม ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ดก้ ําหนดหลักเกณฑ์ วธิ กี ารและเง่ือนไขในการพจิ ารณาลงโทษปรับทางปกครอง ดงั น้ี ขอ้ ๑ ประกาศนีเ้ รยี กวา่ “ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองสําหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔” ขอ้ ๒ ประกาศน้ใี ห้ใชบ้ ังคับนับแตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ให้ประธานกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกสเ์ ปน็ ผู้รกั ษาการตามประกาศน้ี หมวด ๑ บททว่ั ไป ขอ้ ๔ ในประกาศนี้ “การพจิ ารณาลงโทษปรบั ทางปกครอง” หมายความว่า การดําเนินการที่เก่ียวกับการพิจารณา ลงโทษปรับทางปกครองสําหรบั ผ้ปู ระกอบธุรกจิ ให้บรกิ ารการชําระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ “พนักงานเจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้ซึ่งผู้ว่าการ ธนาคารแหง่ ประเทศไทยแต่งต้งั ให้ปฏิบัตกิ ารตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการ การชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ “ผู้ถูกกล่าวหา” หมายความว่า ผู้ให้บริการตามที่กําหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงพนักงาน เจ้าหน้าที่พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่ามีการกระทําที่มีมูลเข้าข่ายเป็นการกระทําผิดท่ีมีโทษปรับ ทางปกครอง “ผู้ถูกสั่งปรับ” หมายความว่า ผู้กระทําการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ท่ีคณะกรรมการมีคาํ สัง่ ปรบั “ค่าปรับ” หมายความว่า เงินค่าปรับทางปกครองท่ีคณะกรรมการกําหนดให้ผู้กระทําการ ฝ่าฝืนพระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ชําระใหแ้ ก่คณะกรรมการ สำา�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 19350 สำา�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หนา้ ๕๖ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา “ยึด” หมายความว่า การกระทําใด ๆ ต่อทรัพย์สินของผู้ถูกส่ังปรับ เพ่ือให้ทรัพย์สินน้ัน ไดเ้ ข้ามาอย่ใู นความควบคุมหรือครอบครองของเจ้าหนา้ ท่บี งั คับโทษปรับทางปกครอง “อายัด” หมายความว่า การส่ังให้ผู้ถูกส่ังปรับและหรือบุคคลภายนอกมิให้จําหน่าย จ่าย โอนหรอื กระทํานิตกิ รรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือสิทธิเรียกร้องที่ได้สั่งอายัดไว้ รวมตลอดถึงการ สง่ั ให้บุคคลภายนอกมิใหน้ าํ สง่ มอบทรพั ยส์ นิ หรือชําระหน้ีแก่ผู้ถูกสั่งปรับ แต่ให้ส่งมอบทรัพย์สินหรือ ชําระหน้ตี ่อเจา้ หน้าท่ีบังคับโทษปรับทางปกครอง ณ ที่ซ่งึ เจา้ หน้าท่บี งั คับโทษปรบั ทางปกครองกาํ หนด “การขายทอดตลาด” หมายความว่า การนาํ เอาทรัพย์สินของผู้ถูกสั่งปรับออกขายโดยวิธี ให้สูร้ าคากันโดยเปดิ เผย “เจ้าหนา้ ท่ีบงั คับโทษปรับทางปกครอง” หมายความวา่ บคุ คลผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมาย ให้ดาํ เนนิ การบงั คบั ตามคําส่งั ลงโทษปรับทางปกครองหรือคําสง่ั อื่นใดที่เก่ียวขอ้ ง ข้อ ๕ ในการพิจารณาและมคี ําส่งั ลงโทษปรับทางปกครอง และการพจิ ารณาอุทธรณ์คําส่ัง ดังกล่าว นอกจากที่กําหนดไว้ในประกาศน้ีให้นํากฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้ บังคับโดยอนโุ ลม เวน้ แตท่ ขี่ ัดหรอื แยง้ กบั ความในประกาศน้ี ข้อ ๖ การแจ้งข้อกล่าวหา การแจ้งกําหนดนัด การแจ้งคําส่ังลงโทษปรับทางปกครอง การแจง้ ผลพิจารณาอทุ ธรณ์ หรือการอยา่ งอืน่ ให้กระทําเป็นหนงั สอื ข้อ ๗ ในกรณีมีเหตุจําเป็นเร่งด่วนหรือผู้ให้บริการได้แสดงความจํานงให้แจ้งด้วยวิธีอื่น การแจง้ ขอ้ กล่าวหา การแจง้ กําหนดนัด การแจ้งคําส่ังลงโทษปรับทางปกครอง การแจ้งผลพิจารณา อุทธรณ์ หรือการอย่างอ่ืน จะใช้วิธีส่งทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอ่ืนตามท่ี ผู้ให้บริการได้แจ้งความจํานงไว้ก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานการส่ง และต้องจัดส่งหนังสือแจ้งให้แก่ผู้ให้ บรกิ ารในทันทีทีอ่ าจกระทําได้ ในกรณีน้ีให้ถือว่าผใู้ หบ้ รกิ ารไดร้ บั แจง้ ตามวัน เวลาทป่ี รากฏในหลักฐาน การส่งโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นนั้น เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับ หรอื ไดร้ บั ก่อนหรอื หลังจากน้ัน หมวด ๒ การพิจารณาและการมีคาํ สงั่ ลงโทษปรบั ทางปกครอง ข้อ ๘ เม่ือพนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาในเบ้ืองต้นแล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาใดมีการกระทําที่มีมูลควรจะได้รับโทษปรับทางปกครอง ให้รายงานต่อคณะกรรมการ เพอื่ พิจารณาตามความในหมวดนต้ี อ่ ไป สว่ นท่ี ๑ การพิจารณาทางปกครอง ข้อ ๙ การพจิ ารณาทางปกครองใหร้ วมถงึ การดําเนนิ การดงั ต่อไปน้ี สำา�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 19361 สาำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หน้า ๕๗ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑) การแสวงหาพยานหลกั ฐานท่เี ห็นวา่ จาํ เป็นแกก่ ารพสิ ูจนข์ ้อเทจ็ จริง (๒) การรับฟังพยานหลักฐาน คําชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าท่ี คณะกรรมการ หรือพยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญที่พนักงานเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการ หรอื ผ้ถู กู กลา่ วหากล่าวอา้ ง (๓) การขอขอ้ เท็จจริงหรอื ความเหน็ จากพยานบุคคล หรอื พยานผเู้ ชี่ยวชาญ (๔) การขอให้ผคู้ รอบครองเอกสารส่งเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง (๕) การออกไปตรวจสถานท่ี ผู้ถูกกล่าวหาต้องให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการในการพิสูจน์ ข้อเทจ็ จริงและมหี น้าท่ีแจ้งพยานหลกั ฐานท่ีตนทราบแก่พนักงานเจ้าหนา้ ทีแ่ ละคณะกรรมการ ข้อ ๑๐ เม่ือคณะกรรมการได้รับรายงานจากพนักงานเจ้าหน้าท่ีแล้ว หากพิจารณาเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทําผิดให้คณะกรรมการมีคําสั่งยกข้อกล่าวหา แต่ถ้าพิจารณาเห็นว่ามีมูล ที่ผู้ถูกกล่าวหาควรจะได้รับโทษปรับทางปกครอง ให้คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา ทราบเพื่อโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานท่ีมีอยู่ไม่เพียงพอจะพิจารณา ใหค้ ณะกรรมการแจง้ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานเพ่ิมเติมและรายงานต่อคณะกรรมการ เพอ่ื พิจารณาตอ่ ไป เม่ือได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิย่ืนคําช้ีแจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ภายในระยะเวลาสบิ ห้าวนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับแจ้ง สิทธิย่ืนคําชี้แจงตามวรรคสามมิให้นํามาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้ เว้นแต่คณะกรรมการ จะเห็นสมควรปฏิบัตเิ ป็นอย่างอน่ื (๑) เมอ่ื มีความจาํ เป็นเร่งดว่ นหากปลอ่ ยใหเ้ น่ินชา้ ไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง แก่ผหู้ นง่ึ ผใู้ ดหรือจะกระทบตอ่ ประโยชน์สาธารณะ (๒) เมือ่ เปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่ผถู้ กู กล่าวหาเองได้ให้ไวใ้ นคําชีแ้ จงหรอื ในการให้ถ้อยคําต่อพนักงาน เจา้ หนา้ ที่ (๓) เมือ่ โดยสภาพเหน็ ได้ชัดในตวั ว่าการใหโ้ อกาสดงั กล่าวไม่อาจกระทาํ ได้ ขอ้ ๑๑ ภายใต้บงั คับข้อ ๗ ในการแจ้งข้อกล่าวหา ให้คณะกรรมการแจ้งคําส่ังโดยทําเป็น หนังสือโดยมสี าระสําคญั ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ช่ือผ้ถู ูกกล่าวหา (๒) การกระทาํ ท้งั หลายท่เี ข้าข่ายเปน็ ความผดิ ทม่ี โี ทษปรบั ทางปกครอง พร้อมท้ังข้อเท็จจริง หรอื พฤติการณ์ตามสมควรเกยี่ วกบั การกระทําดังกลา่ ว สำ�านักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 19372 ส�ำานักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

เลม่ ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หน้า ๕๘ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) บทบัญญัติ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกําหนดตามกฎหมายว่าด้วย การควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืน ไม่ปฏบิ ตั หิ รือปฏบิ ัตไิ ม่ถกู ตอ้ ง ข้อ ๑๒ เมื่อคณะกรรมการได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน กําหนดเวลาตามข้อ ๑๐ วรรคสาม หรือเป็นกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรปฏิบัติตามวรรคสี่ ให้คณะกรรมการพิจารณาพยานหลักฐานประกอบกับคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา (ถ้ามี) ถ้าเห็นว่าผู้ถูก กล่าวหาไมไ่ ดก้ ระทําผิด ให้คณะกรรมการมีคําส่ังยกข้อกล่าวหา แต่ถ้าเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําผิด ให้พิจารณากําหนดโทษปรบั ทางปกครองแลว้ มีคาํ สั่งลงโทษปรับทางปกครองตอ่ ไป ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณาใหผ้ ถู้ ูกกลา่ วหาทราบโดยเรว็ ขอ้ ๑๓ การประชุมของคณะกรรมการตอ้ งมีกรรมการมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหน่ึงจึงจะเป็น องคป์ ระชมุ การลงมติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีหน่ึงเสียงในการลงคะแนน ท้ังน้ีในกรณีท่ีไม่ใชก่ ารวินิจฉยั ชข้ี าดเพ่อื พจิ ารณากําหนดโทษปรับทางปกครอง ถ้าปรากฏว่าคะแนนเสียง เท่ากันประธานในท่ปี ระชุมอาจออกเสียงเพิม่ ข้ึนอกี เสยี งหน่งึ เป็นเสียงช้ีขาด สว่ นที่ ๒ การกาํ หนดลงโทษปรับทางปกครอง ขอ้ ๑๔ ในการพิจารณาโทษปรับทางปกครองที่จะใช้กับผู้ถูกกล่าวหา คณะกรรมการต้อง คาํ นงึ ถงึ ปจั จยั ดังต่อไปนี้ (๑) ความผิดเกิดข้ึนโดยความจงใจ หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือขาดความ ระมดั ระวังตามสมควร (๒) ประโยชน์ที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดหรือบุคคลอื่นได้รับ หรอื จะไดร้ บั จากการกระทําน้ัน (๓) ความเสียหายที่เกดิ จากการกระทําน้นั (๔) ระดับโทษปรับทางปกครองที่เคยใช้กับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นในความผิดทํานองเดียวกัน (ถา้ ม)ี (๕) ประวัติการถูกลงโทษทางปกครองของผู้ถูกกล่าวหา หรือในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็น นิติบุคคล ให้หมายความรวมถึงประวัติการถูกลงโทษปรับทางปกครองของบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับ การกระทําของนติ ิบุคคลทถ่ี กู กลา่ วหาน้ัน (๖) ขอ้ เท็จจริงอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้อง สำ�านักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน้า 19383 ส�ำานักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๔๗ ง หนา้ ๕๙ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา ส่วนที่ ๓ คําสง่ั ลงโทษปรบั ทางปกครอง ขอ้ ๑๕ คําสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้ทําเป็นหนังสือระบุ วัน เดือน ปี ท่ีทําคําส่ัง โทษปรับทางปกครองท่ลี ง รวมทง้ั ชอ่ื ลายมือชื่อประธานกรรมการ ข้อ ๑๖ คําสั่งลงโทษปรับทางปกครองต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลน้ันอย่างน้อย ตอ้ งประกอบด้วย (๑) ขอ้ เท็จจรงิ อันเปน็ สาระสาํ คญั (๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง (๓) ข้อพิจารณาและขอ้ สนับสนุนในการใช้ดลุ พินิจ ความในวรรคหนงึ่ ไม่ใชบ้ งั คบั กับกรณีดังต่อไปนี้ (๑) เหตผุ ลน้ันเปน็ ทีร่ ู้กนั อยแู่ ล้วโดยไม่จาํ เปน็ ต้องระบุอกี (๒) เป็นกรณที ต่ี อ้ งรกั ษาไว้เปน็ ความลบั (๓) เป็นกรณีเร่งด่วน แต่ตอ้ งให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรในเวลาอันควรหากผู้ถูกลงโทษ รอ้ งขอ คําสงั่ ลงโทษปรบั ทางปกครองให้ใชต้ ามแบบ ทปค. ๑ ทา้ ยประกาศน้ี ข้อ ๑๗ การออกคําส่ังลงโทษปรับทางปกครอง คณะกรรมการอาจมีคําสั่งให้ผู้ถูกลงโทษ ดาํ เนินการใด ๆ เพอื่ แก้ไขให้ถกู ตอ้ งหรอื เหมาะสมได้ ขอ้ ๑๘ คาํ สั่งลงโทษปรบั ทางปกครองให้มผี ลใชย้ นั ตอ่ ผู้ถูกลงโทษต้ังแต่ขณะทีผ่ นู้ ้ันได้รับแจ้ง เป็นต้นไป สว่ นท่ี ๔ การอุทธรณ์ ข้อ ๑๙ การอุทธรณ์คําส่ังลงโทษปรับทางปกครองของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แหง่ พระราชบญั ญัติว่าดว้ ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้ผู้อุทธรณ์ย่ืนต่อ สาํ นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ภายในสบิ ห้าวันนับแต่วันที่ไดร้ ับแจ้งคําส่งั ดังกล่าว ในการยื่นอุทธรณ์ตามวรรคหน่ึง ผู้อุทธรณ์อาจยื่นด้วยตนเอง หรืออาจส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนก็ได้ และเพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาย่ืนอุทธรณ์ในกรณีการยื่นโดยทางไปรษณีย์ ให้ถือว่าวันที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์ต้นทางประทับตราไปรษณียากรบนซองหนังสืออุทธรณ์เป็นวันยื่น อทุ ธรณ์ ขอ้ ๒๐ คําอุทธรณ์ต้องทําเป็นหนังสือลงลายมือช่ือผู้อุทธรณ์ โดยระบุเรื่องอันเป็นเหตุ ให้ต้องอุทธรณ์เหตุผลที่เป็นข้อโต้แย้งว่าไม่เห็นด้วยกับคําส่ังลงโทษปรับทางปกครองอย่างชัดเจน และตอ้ งมขี ้อเทจ็ จรงิ หรอื ขอ้ กฎหมายทีอ่ ้างอิงประกอบด้วย สำา�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 19394 สาำ�นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๔๗ ง หนา้ ๖๐ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา บรรดาเอกสารต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับเร่ืองท่ีอุทธรณ์ซ่ึงผู้อุทธรณ์เห็นว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อ การพิจารณาอุทธรณ์ ให้ผู้อทุ ธรณ์แนบเอกสารดังกลา่ วพร้อมกบั คําอุทธรณม์ าด้วย คําอุทธรณ์ทีไ่ ด้ยืน่ ไวแ้ ลว้ อาจถอนเสยี ในเวลาใดก็ได้ก่อนท่ีคณะกรรมการจะมีหนังสือแจ้งผล อุทธรณ์ให้ผู้อุทธรณ์ทราบและเมื่อมีการถอนคําอุทธรณ์ ให้สํานักงานคณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนกิ สร์ ายงานให้คณะกรรมการทราบ ข้อ ๒๑ การพจิ ารณาอทุ ธรณ์ คณะกรรมการจะพิจารณาอทุ ธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน นบั แตว่ นั ทีส่ ํานักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ สไ์ ดร้ ับคําอทุ ธรณ์ ในกรณีท่ีมีเหตุจําเป็นไม่อาจพิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกําหนด ดงั กลา่ ว โดยตอ้ งมีหนังสือแจ้งใหผ้ ู้อุทธรณท์ ราบกอ่ นครบกาํ หนดเวลาดังกลา่ วด้วย ข้อ ๒๒ ในการพจิ ารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการสามารถพิจารณาทบทวนคําสั่งลงโทษปรับ ทางปกครองได้ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยอาจขอให้ผู้อุทธรณ์หรือสํานักงาน คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดส่งเอกสารหลักฐานเพ่ิมเติมหรือชี้แจงข้อเท็จจริง อันเก่ียวกับเรื่องท่ีอุทธรณ์เพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กําหนด หรือรับฟังความคิดเห็นจากผู้อุทธรณ์ หรือบคุ คลใดตามทเ่ี หน็ สมควรกไ็ ด้ ในกรณีท่ีคณะกรรมการเห็นด้วยกับคําอุทธรณ์ไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน ให้ดําเนินการ เปล่ียนแปลงคาํ ส่ังลงโทษปรบั ทางปกครองตามความเหน็ ภายในกําหนดเวลาตามข้อ ๒๑ ขอ้ ๒๓ เพอื่ ประโยชนใ์ นการพจิ ารณาอุทธรณ์คาํ สั่งลงโทษปรบั ทางปกครอง คณะกรรมการ อาจมอบหมายให้กรรมการคนหนงึ่ หรือคณะบคุ คลคณะหนึ่งให้มีหน้าที่สรุปข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมทั้งเสนอความเห็นในเรอื่ งอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ เพ่อื ประกอบการพิจารณากไ็ ด้ ขอ้ ๒๔ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เสร็จส้ินแล้ว ให้สํานักงานคณะกรรมการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีหนังสือแจ้งผลคําส่ังอุทธรณ์ให้ผู้อุทธรณ์ทราบพร้อมด้วยเหตุผล รวมท้งั สิทธิในการยน่ื ฟอ้ งคดีตอ่ ศาลปกครอง ข้อ ๒๕ การย่ืนอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคําสั่งลงโทษปรับทางปกครอง แต่ผู้อุทธรณ์อาจย่ืนคําขอทุเลาการบังคับดังกล่าวมาพร้อมกับการยื่นอุทธรณ์ก็ได้ โดยช้ีแจงเหตุผล อนั เป็นความจําเปน็ เร่งดว่ นในการขอทุเลาการบงั คับดังกล่าว ในกรณีทคี่ ณะกรรมการพจิ ารณาแลว้ เห็นวา่ เปน็ เรือ่ งทม่ี คี วามจําเป็นเร่งด่วน และคําขอนั้นมี เหตุสมควรอันแท้จริง จะมีคําส่ังตามที่เห็นสมควรโดยจะกําหนดเงื่อนไขใด ๆ ตามที่จําเป็นด้วยก็ได้ และใหส้ าํ นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์มีหนังสอื แจง้ ผลการพิจารณาใหผ้ ู้อุทธรณ์ทราบ สาำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 19450 สำา�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หนา้ ๖๑ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา ส่วนที่ ๕ การบงั คับโทษปรับทางปกครอง ข้อ ๒๖ เม่ือถงึ กําหนดให้ชาํ ระคา่ ปรบั ตามคําส่ังลงโทษปรบั ทางปกครองแล้วไม่มีการชําระโดย ถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าหนา้ ทบ่ี งั คับโทษปรับทางปกครองมีหนังสือเตือนให้ผู้ถูกสั่งปรับชําระภายในเวลา ทก่ี าํ หนดแตต่ ้องไมน่ อ้ ยกวา่ เจด็ วนั หนังสอื แจ้งเตอื นให้ชําระคา่ ปรบั ทางปกครองให้ใช้ตามแบบ ทปค. ๒ ท้ายประกาศนี้ เม่ือครบกําหนดเวลาให้นําเงินมาชําระตามหนังสือแจ้งเตือนแล้ว ถ้าผู้ถูกสั่งปรับไม่ชําระ หรือชําระค่าปรับไม่ครบถ้วน ให้เจ้าหน้าท่ีบังคับโทษปรับทางปกครองดําเนินการยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ถูกส่ังปรับ เพ่ือนํามาชําระค่าปรับ ทั้งน้ีให้นําประมวลกฎหมายวิธี พจิ ารณาความแพง่ มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม หมวด ๓ การรับและจ่ายเงิน ข้อ ๒๗ การรับเงิน การนําส่งเงิน การเก็บรักษาเงินและการเบิกจ่ายเงินจากการขาย ทอดตลาดทรพั ย์สนิ ให้ดําเนินการตามระเบยี บทก่ี ระทรวงการคลังกาํ หนด ข้อ ๒๘ เงินทไ่ี ด้จากการขายทอดตลาดทรัพยส์ ินใหห้ ักชําระคา่ ธรรมเนยี ม ค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรพั ยส์ ินก่อนนาํ มาชําระเป็นเงินค่าปรับทีผ่ ้ถู กู สั่งปรบั ตอ้ งชําระ กรณีท่ีมีเงินเหลือ ให้คนื เงินทีเ่ หลอื น้นั ใหแ้ กผ่ ูม้ ีสทิ ธไิ ด้รบั หมวด ๔ เบ็ดเตล็ด ข้อ ๒๙ กรณที ี่มปี ญั หาเก่ียวกบั การปฏิบัติหรือไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศนี้ หรือมีปัญหา อืน่ ใดท่ีมไิ ด้กล่าวไว้ในประกาศน้ี ให้เสนอคณะกรรมการพจิ ารณาสัง่ การเป็นกรณี ๆ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ สำ�านักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 19416 ส�ำานกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

แบบ ทปค. ๑ คําส่ังคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ที่ …. / …. เรือ่ ง คาํ ส่ังลงโทษปรับทางปกครอง ………………………………..… ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่า................…..…………มีการกระทํา…………………………………………….. อันเป็นความผิดตามมาตรา………..…..แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบกับ มาตรา….…….แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ……..แห่งประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เร่ือง……………………………….....................................................................................) และ ประกาศธนาคาร แหง่ ประเทศไทย (………………………………………………………………………………………………………………………..………) ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และ ข้อ………...………...……….…..แห่งประกาศคณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์การพจิ ารณาลงโทษปรับทางปกครองสาํ หรับผปู้ ระกอบธุรกิจให้บริการการ ชาํ ระเงนิ ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงมีคําสั่งปรับทางปกครอง .............................................เป็นจํานวนเงิน……………………………….บาท (…………………………………..……………) ทั้งน้ี ใหน้ าํ เงนิ ค่าปรบั ไปชําระ ณ……………………..…………ภายในสามสิบวันนับแตว่ ันที่ไดร้ ับแจ้งคําสั่งน้ี ในกรณีท่ีผู้ถูกสั่งปรับไม่เห็นด้วยกับคําส่ังน้ีให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่ง โดยยื่นอุทธรณ์ได้ท่ีสํานักงานคณะกรรมการ ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สัง่ ณ วันที่ .. เดอื น ..................... พ.ศ. .... (ลงชอื่ ) (................................................) ประธานกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ หมายเหตุ เพอื่ ความสะดวกในการชําระค่าปรับทางปกครอง ขอใหผ้ ถู้ ูกสงั่ ปรบั นําคาํ สั่งฉบับนี้ไปแสดงด้วย สำ�านักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 19472 สำ�านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

-๒- แบบ ทปค. ๒ ที…่ ……../………….. สาํ นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ …………………………………........................................... วนั ที่ ……………………… เรือ่ ง แจ้งเตือนใหช้ ําระค่าปรบั ทางปกครอง เรียน ……………………………………… อา้ งถงึ คาํ ส่งั คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ท…ี่ ../…… ลงวันที่…………………………….… เรื่อง คําสัง่ ลงโทษปรบั ทางปกครอง ตามคําส่ังท่ีอ้างถึง คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีคําส่ังลงโทษปรับ ทางปกครองแก่ท่านซ่ึงกระทําการฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามมาตรา……..อันเป็นความผิดตามมาตรา…….… แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบกับ มาตรา….…….แห่งพระราช กฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ……... แห่งประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เรื่อง…………………………) และ ประกาศธนาคาร แห่งประเทศไทย (………………………….) และส่ังให้ท่านไปชําระค่าปรับทางปกครอง เป็นเงินจํานวน ………….………..บ า ท (………………………….) ณ ………............................................ภ า ย ใ น ส า ม สิ บ วั น นั บ แ ต่ วันทีไ่ ด้รับแจ้งคาํ ส่ัง นนั้ บัดน้ี ได้ล่วงเลยกําหนดเวลาดังกล่าวแล้ว จึงแจ้งมาเพื่อให้ท่านนําเงินค่าปรับทางปกครอง ตามจํานวนดังกล่าวข้างต้นไปชําระภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือน้ี หากพ้นกําหนดน้ีแล้ว คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะดําเนินการยึด อายัดทรัพย์สินของท่าน เพ่ือชําระค่าปรับ ทางปกครองตอ่ ไป จงึ แจ้งมาเพือ่ ให้ดาํ เนนิ การให้เรยี บร้อย ขอแสดงความนับถือ (……………………………….) เจ้าหนา้ ท่ีบังคับโทษปรับทางปกครอง หนว่ ยงานเจา้ ของเร่อื ง โทร. ………………….. หมายเหตุ เพอ่ื ความสะดวกในการชําระค่าปรบั ทางปกครอง ขอใหท้ า่ นนาํ หนังสอื เตอื นฉบับน้ไี ปแสดงดว้ ย สำ�านกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 19438 ส�ำานักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

ประกาศธนาคารแหงประเทศไทย ที่ สนส. ๓/๒๕๕๙ เรื่อง หลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่ือนไขวา ดวยการควบคุม ดแู ลธรุ กิจบรกิ ารการชำระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส

ชือ่ กฎหมาย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ท่ี สนส. ๓/๒๕๕๙ เรือ่ ง หลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไข ว่าด้วยการ ควบคุมดูแลธุรกจิ บริการการชาระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ / ตอนพิเศษ ๙๗ ง / หนา้ ๓๓ / วนั ท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ เริ่มบงั คับใช้ วนั ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๙ สำ�นกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 200 ส�ำ นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๙๗ ง หน้า ๓๓ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศธนาคารแหง่ ประเทศไทย ท่ี สนส. ๓/๒๕๕๙ เร่อื ง หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขวา่ ด้วยการควบคมุ ดแู ลธรุ กิจบริการ การชาํ ระเงินทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ๑. เหตผุ ลในการออกประกาศ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เกิดความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ เกิดความน่าเช่ือถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ ความเสียหายต่อสาธารณชน ๒. อาํ นาจตามกฎหมาย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแล ธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และข้อ ๑๗ และข้อ ๒๓ แห่งประกาศ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจ บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๙ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้กําหนด หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขในการควบคมุ ดแู ลธุรกจิ บรกิ ารการชาํ ระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๓. ประกาศทย่ี กเลกิ ให้ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. ๒/๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไข ว่าด้วยการควบคมุ ดูแลธุรกิจบริการการชาํ ระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ลงวันท่ี ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ๔. ขอบเขตการบงั คบั ใช้ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับผู้ให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจ บรกิ ารการชาํ ระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๕. เนื้อหา ๕.๑ ในประกาศฉบับนี้ “ผู้ให้บริการ” หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กําหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบด้วยธุรกิจบรกิ ารที่ตอ้ งแจง้ ให้ทราบกอ่ นให้บริการ (บัญชี ก) ธุรกิจบริการที่ต้อง ขอข้ึนทะเบยี นกอ่ นให้บรกิ าร (บัญชี ข) และธุรกิจบรกิ ารท่ตี ้องไดร้ ับอนุญาตก่อนให้บริการ (บัญชี ค) สำ�นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 201 สำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๙๗ ง หนา้ ๓๔ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา “ธุรกิจบริการที่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ” (บัญชี ก) ได้แก่ การให้บริการเงิน อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ซื้อสินค้าหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการท่ีกําหนดไว้ล่วงหน้า จากผู้ขายสินค้า หรือใหบ้ ริการเพียงรายเดียว ทั้งนี้ เว้นแต่การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จํากัดเพื่ออํานวยความสะดวก แก่ผู้บริโภคโดยมิได้แสวงหากําไรจากการออกบัตร ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกําหนดโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Money บัญชี ก) “ธุรกจิ บริการท่ีตอ้ งขอขึน้ ทะเบียนกอ่ นให้บริการ” (บญั ชี ข) ได้แก่ (๑) การให้บริการเครอื ขา่ ยบตั รเครดิต (Credit Card Network) (๒) การใหบ้ รกิ ารเครือขา่ ยอดี ซี ี (EDC Network) (๓) การให้บริการสวิตช์ช่ิงในการชําระเงินระบบหนึ่งระบบใด (Transaction Switching บญั ชี ข) (๔) การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ทีใ่ ช้ซื้อสินค้าและหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการ ที่กําหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ขายสินค้าหรือให้บริการหลายราย ณ สถานท่ีที่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจําหน่าย และการใหบ้ ริการเดียวกนั (e-Money บัญชี ข) “ธุรกจิ บรกิ ารทตี่ อ้ งได้รบั อนุญาตกอ่ นใหบ้ ริการ” (บญั ชี ค) ไดแ้ ก่ (๑) การให้บริการหกั บัญชี (Clearing) (๒) การให้บรกิ ารชําระดุล (Settlement) (๓) การให้บริการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหน่ึงอย่างใดหรือผ่าน ทางเครือข่าย (๔) การใหบ้ ริการสวิตชช์ ่งิ ในการชําระเงนิ หลายระบบ (Transaction Switching บญั ชี ค) (๕) การใหบ้ รกิ ารรับชาํ ระเงนิ แทน (๖) การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้ซ้ือสินค้า และหรือรับบริการเฉพาะอย่าง ตามรายการทีก่ ําหนดไวล้ ่วงหนา้ จากผขู้ ายสนิ คา้ หรอื ให้บริการหลายราย โดยไม่จํากัดสถานที่และไม่อยู่ ภายใต้ระบบการจัดจาํ หนา่ ยและการให้บริการเดียวกัน (e-Money บัญชี ค) ๕.๒ การใหบ้ ริการเงินอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Money) ๕.๒.๑ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ต้องดํารงฐานะ ทางการเงนิ และสภาพคลอ่ ง เพ่อื ใหบ้ ริการไดอ้ ย่างตอ่ เนอ่ื งและไม่กอ่ ให้เกิดความเสียหายต่อผูใ้ ช้บริการ ๕.๒.๒ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ที่มิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติ ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องกันเงินรับล่วงหน้าที่ได้รับจากผู้ใช้บริการแยกไว้ต่างหาก จากเงินทุนหมุนเวียนของผู้ให้บริการ และให้ฝากไว้ที่ธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งไม่น้อยกว่ายอดคงค้าง ของเงินรับลว่ งหนา้ โดยเปดิ บัญชแี ยกต่างหากจากบัญชีเงินฝากอื่น ๆ ของผู้ให้บริการ ซ่ึงต้องปราศจาก ภาระผกู พนั และใชส้ ําหรบั การชําระบญั ชอี นั เนื่องมาจากการใหบ้ ริการเงินอิเลก็ ทรอนิกส์เท่าน้ัน ส�ำ นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 202 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๙๗ ง หน้า ๓๕ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา สําหรับผู้ให้บริการท่ีเป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เก่ียวกับการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกตาม พระราชบญั ญตั ธิ ุรกจิ สถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ๕.๒.๓ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ท่ีมิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติ ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องดํารงส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ เป็นอัตราส่วนกับยอดคงค้าง ของเงินท่ีได้รับล่วงหน้า ไม่ตํ่ากว่าร้อยละ ๘ โดยให้คํานวณ ณ วันสิ้นไตรมาส และจัดทํารายงานส่ง ธปท. ภายใน ๓๐ วันนับจากวันส้ินไตรมาส ตามหลักเกณฑ์ วิธีการคํานวณและเง่ือนไขที่ ธปท. กําหนด ตามแบบรายงานแนบทา้ ยประกาศน้ี กรณีอัตราส่วนดังกล่าวตํ่ากว่าร้อยละ ๘ ให้ ธปท. เสนอคณะกรรมการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พิจารณาลงโทษปรับ และ/หรือจะสั่งการเป็นรายกรณีเพ่ือป้องกัน ความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและสาธารณชน หรือเพื่อให้ผู้ให้บริการมีการปรับปรุง หรือแก้ไขฐานะทางการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เช่น การจัดทําแผนแก้ไขฐานะทางการเงิน การคืนเงิน รบั ลว่ งหน้าให้แก่ผ้ใู ช้บริการ การสงั่ พกั ใช้ใบอนุญาต หรอื เพกิ ถอนใบอนุญาต นอกจากน้ี เพื่อรักษาสถานภาพทางการเงินของผู้ให้บริการให้มีความมั่นคง ทางการเงินและการพาณิชย์ มีความน่าเช่ือถือ รวมถึงป้องกันผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ ธปท. กําหนด มาตรการเพ่ือกํากับดูแลเป็นลําดับข้ัน เมื่อปรากฏว่าผู้ให้บริการดํารงส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิเป็นอัตราส่วน กับยอดคงคา้ งของเงนิ ท่ไี ด้รับล่วงหน้าลดลงโดยลําดบั กอ่ นถึงระดบั ขัน้ ต่ําท่กี ําหนดไว้ ดังน้ี (๑) อัตราส่วนดังกล่าวตํ่ากว่าร้อยละ ๑๒ ผู้ให้บริการต้องมีหนังสือช้ีแจง เหตุผลต่อ ธปท. ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและแนวทางการแก้ไขภายใน ๓๐ วันนับจากวันส้ินไตรมาส ทั้งนี้ ธปท. อาจสั่งการให้ผู้ให้บริการจัดทําแผนการปรับปรุงหรือแก้ไขฐานะและผลการดําเนินงาน พรอ้ มกําหนดเงือ่ นไขอื่นดว้ ยกไ็ ด้ (๒) อัตราส่วนดังกล่าวต่ํากว่าร้อยละ ๑๐ ธปท. จะพิจารณาส่ังการให้ ผู้ให้บรกิ าร จดั ทาํ แผนการปรบั ปรงุ หรอื แก้ไขฐานะและผลการดําเนินงาน และให้ผู้ให้บริการเสนอแผนดังกล่าว ตอ่ ธปท. ในเวลาท่กี ําหนด ทง้ั น้ี ธปท. อาจพิจารณาสั่งการเพ่ิมเติมหรือกําหนดหลักเกณฑ์หรือเง่ือนไขอื่น ไวด้ ว้ ยกไ็ ด้ ๕.๒.๔ ในกรณีท่ีผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ท่ีมิใช่สถาบันการเงิน ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบนั การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ดํารงส่วนของผถู้ ือหุ้นสุทธิเป็นอัตราส่วนกับยอดคงค้าง ของเงนิ ทีไ่ ดร้ ับลว่ งหนา้ ในอัตราส่วนต่ํากว่าที่กําหนดไว้ตามข้อ ๕.๒.๓ เพราะมีเหตุจําเป็นหรือพฤติการณ์พิเศษ อย่างใดอย่างหน่ึง เช่น อัตราส่วนดังกล่าวเปล่ียนแปลงเน่ืองจากการขยายตัวของเงินรับล่วงหน้าของ ผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็ว โดยผู้ให้บริการยังคงมีฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานที่ดี ให้ผู้ให้บริการ ย่ืนขออนุญาตยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เป็นการชั่วคราวต่อ ธปท. พร้อมช้ีแจงเหตุผลและความจําเป็น โดย ธปท. อาจพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ หรืออาจพิจารณาอนุญาตโดยกําหนดเง่ือนไขเพ่ิมเติม ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 203 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๙๗ ง หน้า ๓๖ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา เป็นรายกรณีด้วยก็ได้ ทั้งน้ี ธปท. จะใช้เวลาในการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วันทําการนับแต่ วันท่ีไดร้ ับคําขอและเอกสารถูกต้องครบถ้วน ๕.๒.๕ เม่ือผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ที่มิใช่สถาบันการเงินตาม พระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ไม่ดําเนินธุรกิจตามปกติเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑ ปี ให้ ธปท. เสนอคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พิจารณาเพ่ือเร่งรัดให้ผู้ให้บริการเงิน อิเล็กทรอนิกส์ดําเนินธุรกิจบริการต่อไป เพื่อดูแลและคุ้มครองผู้บริโภค โดยจะพิจารณาดําเนินการ ตามลําดับขั้นกับผู้ให้บริการเป็นรายกรณี ต้ังแต่ การแจ้งเตือนพร้อมให้จัดทําหนังสือช้ีแจงเหตุผล ให้จัดทําแผนแก้ไขฐานะทางการเงิน ส่ังคืนเงินรับล่วงหน้าให้แก่ผู้ใช้บริการ พักใช้ใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนญุ าต ๕.๒.๖ ในกรณีมีเหตุจําเป็นหรือพฤติการณ์พิเศษที่ทําให้ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัญชี ค ท่ีมิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ไม่สามารถ ดําเนินการตามข้อ ๕.๒.๓ และข้อ ๕.๒.๕ ได้ ให้ผู้ให้บริการย่ืนขออนุญาตยกเว้นการปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ พร้อมชี้แจงเหตุผล ความจําเป็นและกําหนดเวลาที่จะดําเนินการแล้วเสร็จต่อ ธปท. และให้ ธปท. เสนอคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือพิจารณาต่อไป โดยคณะกรรมการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อาจพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ หรืออาจพิจารณาอนุญาตโดยกําหนดเง่ือนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ธปท. และคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะใช้เวลาในการพิจารณา ใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน ๔๕ วันทําการนบั แต่วันทีไ่ ด้รับคาํ ขอและเอกสารถกู ตอ้ งครบถว้ น ๕.๓ การให้บริการชําระดุล (Settlement) ผู้ให้บริการต้องกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับผลสิ้นสุดสมบูรณ์ของการโอนเงิน (Finality) ซ่ึงผู้รับสามารถใช้เงินได้ทันทีโดยปราศจากเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ (Irrevocable) พร้อมทง้ั แจ้งใหผ้ ใู้ ชบ้ รกิ ารทราบ ๕.๔ การให้บริการชาํ ระเงนิ ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ผา่ นอปุ กรณอ์ ยา่ งหน่งึ อยา่ งใดหรือผา่ นทางเครือขา่ ย ๕.๔.๑ ผู้ให้บริการต้องดาํ รงฐานะทางการเงินและสภาพคล่อง เพ่ือใหบ้ รกิ ารไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง และไม่ก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อผ้ใู ชบ้ รกิ าร ๕.๔.๒ ผู้ให้บริการต้องออกหลักฐานการชําระเงิน หรือหลักฐานอ่ืนใดที่มีข้อความ ทํานองเดียวกนั และจดั ส่งใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการตามวิธกี ารท่ีตกลงกับผูใ้ ชบ้ ริการ เมื่อผู้ให้บริการได้ออกหลักฐานการชําระเงิน หรือหลักฐานอื่นใดให้แก่ผู้ใช้บริการ ตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้ถือว่าการชําระเงินของผู้ใช้บริการมีผลเสร็จส้ินสมบูรณ์ เว้นแต่การรับชําระเงินด้วยเช็ค ให้ถือว่าการชําระเงินเสร็จสน้ิ สมบูรณ์ เมื่อเช็คนัน้ สามารถเรยี กเกบ็ เงนิ ไดค้ รบถว้ น ๕.๕ การให้บรกิ ารรับชําระเงินแทน ๕.๕.๑ ผใู้ ห้บรกิ ารต้องดาํ รงฐานะทางการเงินและสภาพคล่อง เพอ่ื ใหบ้ ริการได้อย่างต่อเน่ือง และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายต่อผใู้ ชบ้ ริการ ส�ำ นักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 204 สำ�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๙๗ ง หน้า ๓๗ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ๕.๕.๒ เมอ่ื ไดร้ บั ชาํ ระเงนิ แล้ว ผู้ให้บริการต้องออกหลักฐานเพ่ือแสดงว่าได้รับชําระเงิน จากผู้ใช้บริการ ในรูปของใบเสร็จรับเงิน ใบรับเงิน ใบรับฝากชําระ หรือหลักฐานอื่นใด ท่ีมีข้อความ ทํานองเดยี วกันและจดั ส่งให้ผู้ใชบ้ รกิ ารตามวิธกี ารทตี่ กลงกับผู้ใช้บริการ โดยต้องมีรายละเอียดอย่างน้อย ดังนี้ (๑) ชอื่ ผใู้ ห้บรกิ าร และชือ่ เจ้าหน้ี (๒) จํานวนเงินและรายละเอียดของสินค้าหรือบริการท่ีชําระ โดยอาจระบุ เปน็ ชื่อยอ่ หรอื รหัสกไ็ ด้ รวมถงึ รายละเอียดท่อี ้างองิ ถงึ ผู้ใชบ้ ริการ (๓) วนั เดือน ปี และเวลาทอ่ี อกหลักฐานการรับชําระเงิน เม่ือผู้ให้บริการได้ออกหลักฐานการรับชําระเงินแล้ว ให้ถือว่าการชําระเงิน ของผู้ใช้บริการมีผลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เว้นแต่การรับชําระเงินด้วยเช็คให้ถือว่าการชําระเงินเสร็จส้ินสมบูรณ์ เมอ่ื เช็คนนั้ สามารถเรยี กเก็บเงินไดค้ รบถ้วน ๕.๖ ในกรณีท่ี ธปท. เห็นสมควร อาจกําหนดให้ผู้ให้บริการตามบัญชี ข และบัญชี ค ต้องจัดให้มีการตรวจสอบทางด้านความม่ันคงปลอดภัยโดยผู้ตรวจสอบอิสระตามรายช่ือที่คณะกรรมการ ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกสก์ าํ หนดด้วยก็ได้ ๖. บทเฉพาะกาล ๖.๑ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ที่มิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบัน การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่ให้บริการก่อนประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ต้องดํารงส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ เป็นอัตราส่วนกับยอดคงค้างของเงินที่ได้รับล่วงหน้า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในประกาศฉบับนี้ภายใน ๑๘๐ วัน นบั จากวนั ทป่ี ระกาศมีผลใชบ้ งั คบั ๖.๒ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ค ที่มิใช่สถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจ สถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ท่ีไม่สามารถดําเนินธุรกิจตามปกติเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑ ปี ก่อนประกาศฉบบั นีม้ ผี ลใชบ้ งั คับ ใหด้ าํ เนินธรุ กิจภายใน ๑๘๐ วนั นบั จากวันทปี่ ระกาศมีผลใชบ้ ังคับ ๗. วนั เริ่มตน้ บังคบั ใช้ ประกาศน้ใี หใ้ ช้บังคบั ต้งั แตว่ ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ วิรไท สันติประภพ ผ้วู ่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 205 สำ�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานการดํารงส่วนของผ้ถู อื หุ้นสุทธเิ ป็นอัตราสว่ นกบั ยอดคงค้างของเงนิ ท่ีได้รบั ล่วงหน้า รหสั สถาบัน ................................................... ช่ือผใู้ หบ้ ริการ ................................................... ประเภทบัญชี ผู้ให้บรกิ ารเงนิ อิเลก็ ทรอนกิ สบ์ ัญชี ค ท่ีมิใชส่ ถาบนั การเงิน งวดไตรมาสท่ี ................................................... พ.ศ. ...................... กําหนดส่งภายใน 30 วันนบั จากวันสน้ิ ไตรมาส หนว่ ย: ล้านบาท อตั ราส่วน (1) (2) (1)/(2)x100 สว่ นของผู้ถือหนุ้ สทุ ธิ ยอดคงคา้ งของเงนิ ที่ไดร้ บั ลว่ งหน้า สว่ นของผู้ถือหุน้ สทุ ธิต่อยอดคงค้างของเงนิ ทไ่ี ด้รบั ลว่ งหนา้ ร้อยละ เดอื น/ปี พ.ศ. เฉลย่ี ยอ้ นหลงั 6 เดอื น หนา้ 206 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

ชอ่ื รายงาน หลกั เกณฑ์ วิธีการคาํ นวณ และเง่ือนไข ความถี่ในการสง่ คาํ อธบิ ายรายงาน กําหนดสง่ คําอธิบาย การดํารงส่วนของผู้ถอื หนุ้ สทุ ธิเป็นอตั ราส่วนกับยอดคงคา้ งของเงินทไ่ี ดร้ บั ล่วงหน้า รายไตรมาส ภายใน 30 วนั นับจากวนั สิน้ ไตรมาส รายงานนี้เป็นรายงานการดํารงสว่ นของผู้ถอื หนุ้ สทุ ธิเป็นอตั ราส่วนกับยอดคงค้างของเงนิ ทไ่ี ดร้ ับ ล่วงหน้าเป็นรายไตรมาส ส่วนของผ้ถู ือหุน้ สุทธิ หมายถงึ รวมส่วนของผูถ้ อื หนุ้ ในงบแสดงฐานะทางการเงนิ ยอดคงคา้ งของเงินทไ่ี ดร้ บั ล่วงหนา้ หมายถึง มูลค่าเงนิ คงคา้ งทั้งส้ินท่ีผู้ให้บรกิ ารไดร้ ับลว่ งหนา้ จากผใู้ ชบ้ ริการ ณ ส้ินเดอื นทร่ี ายงาน ยอดคงคา้ งของเงินทไ่ี ดร้ บั ลว่ งหน้าเฉลี่ย 6 เดือน หมายถงึ มลู คา่ เงินคงค้างท้งั สนิ้ ที่ผใู้ ห้บริการไดร้ ับลว่ งหน้าจากผูใ้ ชบ้ รกิ ารรายเดอื น เฉลยี่ ย้อนหลัง 6 เดอื น ส่วนของผูถ้ ือหุ้นสุทธเิ ปน็ อตั ราส่วนกับยอดคงค้างของเงินท่ีได้รบั ล่วงหนา้ หมายถงึ สว่ นของ ผู้ถือหุ้นสุทธิหารดว้ ยยอดคงคา้ งของเงินทไ่ี ด้รบั ล่วงหนา้ จากน้นั นํามาคดิ เป็นรอ้ ยละ ร้อยละที่ ธปท. กําหนด ในการคาํ นวณอัตราส่วนดังกล่าวใหใ้ ช้ขอ้ มูลตามงบการเงินของบริษทั ดังน้ี 1) สว่ นของผถู้ ือหุ้นสทุ ธิ ให้ใชม้ ูลคา่ ตามบัญชสี ่วนของผู้ถือหนุ้ สทุ ธจิ ากข้อมูลงบแสดงฐานะ ทางการเงิน 2) ยอดคงคา้ งของเงินท่ีได้รับล่วงหนา้ ใหใ้ ช้มลู คา่ ตามบัญชขี องยอดเงนิ ท่ีไดร้ ับล่วงหน้า รายเดือนเฉล่ยี ย้อนหลัง 6 เดอื น ตัวอยา่ งวิธคี าํ นวณ ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 207 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศธนาคารแหง ประเทศไทย ที่ สรข. ๑/๒๕๕๒ เร่ือง การใหบ ริการเงินอเิ ล็กทรอนิกส ตามบัญชี ก ท่ีไมตองแจงใหท ราบกอนใหบริการ

ชื่อกฎหมาย ประกาศธนาคารแหง ประเทศไทย ที่ สรข. ๑/๒๕๕๒ เรื่อง การใหบริการเงนิ อิเล็กทรอนิกส ตามบญั ชี ก ทีไ่ มต องแจง ใหทราบกอนใหบ ริการ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๒๖ / ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง / หนา ๕๗ / วนั ท่ี ๑๑ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๒ เร่ิมบงั คบั ใช วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๒ ส�ำานักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 210890 สำ�านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง หนา ๕๗ ๑๑ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๒ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศธนาคารแหงประเทศไทย ท่ี สรข. ๑/๒๕๕๒ เร่อื ง การใหบริการเงินอิเลก็ ทรอนกิ สตามบัญชี ก ทไ่ี มต อ งแจงใหท ราบกอ นใหบ รกิ าร ๑. เหตผุ ลในการออกประกาศ เพื่อกาํ หนดประเภทของการใหบ รกิ ารเงินอิเล็กทรอนิกส ซึ่งใชซ้ือสินคาหรือรับบริการเฉพาะอยาง ตามรายการท่ีกําหนดไวลวงหนา จากผูขายสินคาหรือผูใหบริการเพียงรายเดียวที่ไมตองแจงใหทราบ กอนใหบ รกิ าร ๒. อาํ นาจตามกฎหมาย อาศัยอํานาจตามความในบัญชีทายพระราชกฤษฎีกาวาดวยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการ การชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ธนาคารแหงประเทศไทยโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส จึงประกาศกําหนดประเภทของการใหบริการเงิน อเิ ล็กทรอนิกสตามบัญชี ก ทไี่ มตองแจงใหทราบกอนใหบ ริการ ๓. ขอบเขตการบังคับใช ประกาศฉบับนใ้ี หใชบ งั คับกบั การใหบริการเงินอิเล็กทรอนิกส บัญชี ก ตามที่กําหนดไวใน บัญชีทายพระราชกฤษฎีกาวาดวยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ๔. เนอ้ื หา ธนาคารแหงประเทศไทยโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ประกาศกาํ หนดใหก ารใหบรกิ ารเงนิ อเิ ล็กทรอนิกสท ใ่ี ชซ ้ือสินคาหรือรับบริการเฉพาะอยางตามรายการ ที่กําหนดไวลวงหนา จากผูขายสินคาหรือผูใหบริการเพียงรายเดียวที่ใชจํากัดเพื่ออํานวยความสะดวก แกผูบริโภคโดยไมแสวงหากําไรจากการออกบัตรดังตอไปนี้ เปนธุรกิจบริการที่ไมตองแจงใหทราบ กอ นใหบริการ ๔.๑ เงินอิเล็กทรอนิกสที่ใชเพ่ือชาํ ระคา สินคา หรือบรกิ ารเฉพาะอยา งอันเปนธุรกิจของตนเอง เชน บตั รโดยสารรถสาธารณะ บัตรโทรศัพทสาธารณะ บตั รชําระคา ผา นทางสาธารณะ ๔.๒ เงินอิเลก็ ทรอนิกสทใ่ี ชเ ฉพาะชําระคาอาหารและเครอ่ื งดื่มภายในศูนยอ าหาร สาำ�นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 128101 สำา�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง หนา ๕๘ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๒ ราชกิจจานเุ บกษา ๕. วันเริ่มตน ใชบ งั คบั ประกาศฉบับน้ีใหใชบ ังคับนับแตว ันท่ปี ระกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ธาริษา วฒั นเกส ผูวา การ ธนาคารแหงประเทศไทย สาำ�นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน้า 128121 สำา�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ประกาศธนาคารแหง ประเทศไทย ที่ สรข. ๓/๒๕๕๒ เรอ่ื ง นโยบายและมาตรการการรักษาความมน่ั คงปลอดภยั ทางระบบสารสนเทศในการประกอบธุรกิจของผูใหบ ริการ การชำระเงินทางอเิ ล็กทรอนกิ ส

ชือ่ กฎหมาย ประกาศธนาคารแหงประเทศไทย ท่ี สรข. ๓/๒๕๕๒ เร่ือง นโยบายและมาตรการ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศในการประกอบธุรกิจของผูใหบริการการ ชําระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๒๖ / ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง / หนา ๖๓ / วนั ท่ี ๑๑ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๒ เรมิ่ บังคับใช วันที่ ๑๑ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๒ สาำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 129130 สาำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง หนา ๖๓ ๑๑ กุมภาพันธ ๒๕๕๒ ราชกิจจานเุ บกษา ประกาศธนาคารแหง ประเทศไทย ที่ สรข. ๓/๒๕๕๒ เรอื่ ง นโยบายและมาตรการการรกั ษาความมัน่ คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ในการประกอบธรุ กิจของผใู หบรกิ ารการชําระเงินทางอเิ ล็กทรอนกิ ส ๑. เหตุผลในการออกประกาศ เพ่ือใหมีมาตรฐานในการกําหนดนโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ทางระบบสารสนเทศในการประกอบธุรกจิ ของผูใหบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส และใชเปน แนวทางกําหนดวิธีปฏิบัติในการตรวจสอบและรักษาความม่ันคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ทเ่ี ก่ยี วของกับการใหบรกิ ารการชําระเงินทางอเิ ล็กทรอนิกสใหมีความนาเช่ือถือ มีความมั่นคงปลอดภัย และสามารถใหบรกิ ารไดอยางตอเนอื่ ง ๒. อาํ นาจตามกฎหมาย อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๑๐ แหงพระราชกฤษฎีกาวาดวยการควบคุมดูแล ธุรกิจบริการการชาํ ระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ธนาคารแหงประเทศไทย (ธปท.) จึงได กาํ หนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และเงือ่ นไขในการควบคุมดแู ลธุรกจิ บริการการชาํ ระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ๓. ขอบเขตการบงั คบั ใช ประกาศฉบับนี้ใหใชบังคับกับผูใหบริการตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยการควบคุมดูแลธุรกิจ บรกิ ารการชําระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๕๑ ๔. เน้อื หา ผูใหบริการตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชําระเงินทาง อิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ตองถือปฏิบัติตามมาตรฐานนโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ดงั นี้ ๔.๑ นโยบายการรกั ษาความม่ันคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ (๑) ผูใหบริการจะตองจัดทํานโยบายการรักษาความม่ันคงปลอดภัยทางระบบ สารสนเทศเปน ลายลักษณอักษร โดยไดรับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารหรือผูบริหาร ระดบั สงู ของผูใหบริการ ท้ังนี้ ผูใหบริการจะตองเผยแพรนโยบายดังกลาว และอบรมใหแกบุคลากร ท่เี ก่ียวขอ งเพือ่ ถอื ปฏิบัติ รวมทั้งจดั ใหมีการทบทวนหรือปรับปรุงนโยบายใหเหมาะสมกับสถานการณ อยา งสมํ่าเสมอ สำา�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน้า 129141 สำา�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง หนา ๖๔ ๑๑ กุมภาพันธ ๒๕๕๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๒) นโยบายการรักษาความม่ันคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศท่ีเก่ียวของกับ การใหบ ริการ อยา งนอ ยตองครอบคลมุ ในเรอ่ื งดังตอ ไปน้ี (ก) การควบคมุ การเขา ถึง และการพิสจู นตวั ตนผใู ช (ข) การรกั ษาความลบั ของขอมูล และความถกู ตอ งเช่อื ถอื ไดข องระบบสารสนเทศ (ค) การรักษาสภาพความพรอมใชงานของการใหบ ริการ (ง) การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภยั ทางระบบสารสนเทศ ๔.๒ มาตรการการรักษาความมนั่ คงปลอดภยั ทางระบบสารสนเทศ ผใู หบ ริการจะตอ งจัดใหม ีมาตรการการรกั ษาความม่ันคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ที่เก่ียวของกับการใหบริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกสใหสอดคลองกับนโยบายท่ีไดกําหนดข้ึน และมาตรการดังกลาวจะตองเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ โดยครอบคลุมถึงการควบคุมการเขาถึง และการพิสูจนตัวตนผูใช การรักษาความลับของขอมูล การรักษาความถูกตองเช่ือถือไดของระบบ สารสนเทศ การรักษาสภาพความพรอมใชงานของการใหบริการ การแกไขปญหาและการรายงาน รวมถึงจัดใหมีการตรวจสอบความม่ันคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศอยางสม่ําเสมอ อยางนอยปละ ๑ ครัง้ ทั้งนี้ ผูใหบริการจะตองดําเนินการทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการตามระยะเวลาท่ีกําหนด หรือเมอื่ มีการเปลีย่ นแปลงที่สงผลกระทบกับนโยบายและมาตรการที่ไดกําหนดไว ตลอดจนจัดอบรม และใหความรแู กบุคลากรท่ีเก่ียวขอ ง อน่ึง ธปท. ไดจัดทําแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ท่เี กยี่ วขอ งกบั การใหบ ริการการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ลงวนั ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๒ (เอกสารแนบ) เพ่ือเปนแนวทางในการกําหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ใหนาเช่ือถือและใหเปนท่ียอมรับของผูใชบริการ ท้ังนี้ การกําหนดมาตรการการรักษาความม่ันคง ปลอดภัยของผูใหบริการแตละรายอาจแตกตางจากแนวปฏิบัติดังกลาวได หากผูใหบริการเห็นวา สามารถปองกันความเส่ียงทางระบบสารสนเทศไดอยางมีประสิทธิภาพเพียงพอ และอยูในมาตรฐาน ท่ยี อมรบั ได สาำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 129152 สำา�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๒๒ ง หนา ๖๕ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ๕. วนั เร่มิ ตนใชบงั คบั ประกาศฉบับน้ใี หใชบ งั คบั นับแตว ันทปี่ ระกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตนไป ประกาศ ณ วันท่ี ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ธารษิ า วฒั นเกส ผูวา การ ธนาคารแหง ประเทศไทย สำา�นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 129163 สาำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

แนวปฏบิ ตั กิ ารรักษาความมนั่ คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ที่เกีย่ วขอ งกบั การใหบรกิ ารการชําระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เพ่อื สนบั สนนุ ใหการประกอบธุรกจิ ของผใู หบรกิ ารการชําระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เปน ไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ ปลอดภยั ถกู ตอง และนาเชอ่ื ถือ ธนาคารแหงประเทศไทยไดจ ดั ทํา แนวปฏบิ ตั เิ พ่ือเปนแนวทางในการกาํ หนดมาตรการการรกั ษาความมนั่ คงปลอดภัยทางระบบ สารสนเทศท่เี กีย่ วขอ งกบั การใหบ รกิ ารการชาํ ระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส แนวปฏบิ ัตนิ เี้ ปนเพียง กรอบแนวทางทว่ั ไป ผูใหบรกิ ารอาจกําหนดมาตรการการรักษาความมนั่ คงปลอดภยั ทีแ่ ตกตา งจาก แนวปฏบิ ัติฉบบั น้ีได หากสามารถปอ งกนั ความเสย่ี งทางระบบสารสนเทศไดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ เพียงพอ และอยใู นมาตรฐานท่ียอมรบั ได นอกจากน้ี ผใู หบ รกิ ารตอ งพิจารณาปรับใชและกาํ หนด รายละเอียดของมาตรการการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผใู หบรกิ ารให เหมาะสมกับประเภทและความซับซอ นของธุรกจิ ตนเองดว ย สาระสาํ คัญของแนวปฏบิ ตั ฉิ บบั นป้ี ระกอบดว ย 1. การควบคมุ การเขาถงึ และการพสิ จู นต วั ตนผใู ช ผูใหบรกิ ารตองคาํ นึงถงึ การกําหนดบุคลากรหรือหนวยงานทางเทคโนโลยี สารสนเทศและการแบง แยกหนาทใี่ หเหมาะสม การควบคมุ การเขา ถงึ ระบบสารสนเทศ การพสิ ูจน ตัวตนผใู ช และการปอ งกันการปฏิเสธการรบั ผดิ ดงั นี้ 1.1 การกาํ หนดบคุ ลากรหรือหนวยงานทางระบบสารสนเทศ และการแบง แยก อํานาจหนา ทท่ี ่เี หมาะสมในการบริหารจัดการทางระบบสารสนเทศของผใู หบ ริการ ผูใ หบรกิ ารตอ งกาํ หนดหนา ท่ีและความรับผิดชอบของบุคลากรหรือ หนว ยงานทดี่ ูแลเกยี่ วกับความมน่ั คงปลอดภยั ทางระบบสารสนเทศของผูใ หบ ริการ โดยสรา งความ ตระหนกั ใหค วามรู และใหม กี ารอบรม ตลอดจนจัดใหมีกระบวนการทางวนิ ัยเพอื่ ลงโทษในกรณี ฝาฝน หรอื ละเมดิ ระเบยี บปฏิบตั เิ กย่ี วกับความมั่นคงปลอดภัย แนวปฏบิ ตั ิ (1) กําหนดหนา ทค่ี วามรับผดิ ชอบ และแบงแยกหนาทใ่ี นการปฏิบัตงิ าน ดานตา ง ๆ ที่เกีย่ วกับความมนั่ คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผูใหบ รกิ ารออกจากกนั ให ชดั เจน ใหม กี ารถว งดุลอํานาจ เพื่อปองกันความเสย่ี งในการปฏบิ ตั กิ ารทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ (2) มกี ารอบรม เพิ่มเติมความรูแ กบคุ ลากรเกา และใหมอยา งสมํ่าเสมอ ส�ำานักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 129174 สำ�านักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

-2- (3) จดั ใหมกี ระบวนการทางวนิ ัย เพอ่ื ลงโทษบคุ ลากรท่ฝี า ฝน ละเมิด นโยบายหรอื ระเบยี บปฏบิ ตั ิเก่ยี วกับความมนั่ คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผูใหบ รกิ าร 1.2 การควบคุมการเขาถงึ ระบบสารสนเทศ ผูใหบริการตอ งจดั ใหม ีขน้ั ตอนปฏบิ ตั เิ ปน ลายลักษณอ ักษรสําหรบั การควบคมุ และจํากดั สทิ ธิการใชระบบสารสนเทศทเ่ี กีย่ วกบั การใหบรกิ ารและขอมลู ตามความจาํ เปนในการใชง าน ปองกนั การลักลอบการเขาถงึ ระบบโดยผทู ี่ไมม สี ิทธิ ทง้ั จากภายในและภายนอกองคก ร แนวปฏบิ ตั ิ (1) จัดทําทะเบียนทรพั ยสิน หรืออปุ กรณร ะบบสารสนเทศใหถ กู ตองอยเู สมอ รวมถึงจัดใหมีผูร ับผดิ ชอบดแู ลทรัพยสินเหลาน้นั (2) มีกฎ ระเบยี บ ในการใชร ะบบสารสนเทศ และทรพั ยสนิ ท่เี กยี่ วขอ งกบั ระบบสารสนเทศที่เหมาะสม (3) ตองมีการควบคมุ และปองกันการเขาถึงสถานที่ตัง้ การควบคมุ การเขา ถงึ อุปกรณ และระบบสารสนเทศทีเ่ กีย่ วกบั การใหบ ริการ โดยกระบวนการดังกลาวครอบคลุมถงึ (3.1) การจัดวาง ติดต้งั อปุ กรณที่เกยี่ วกบั การใหบ รกิ ารที่เปน สดั สว น แบง เขตควบคมุ อุปกรณสําคัญ จดั ใหมกี ารควบคุมการเขา ออกบริเวณพนื้ ท่คี วบคมุ ปอ งกนั การ ลักลอบเขาถงึ โดยผูไมม สี ทิ ธิ ท้งั ภายในและภายนอกองคก ร (3.2) กาํ หนดวธิ กี ารและสิทธกิ ารเขา ถงึ ระบบสารสนเทศท่เี กีย่ วกับ การใหบรกิ าร โดยแบงแยกตามระดับอํานาจหนา ท่ี และจดั ใหม ีการตรวจสอบสทิ ธใิ นการเขา ถึง ระบบสารสนเทศดงั กลาว ทง้ั จากผใู ชบริการ และบคุ ลากรท่ีเกีย่ วของกอนอนุญาตใหเขา ใชระบบ โดยตองทบทวนและปรบั ปรงุ ใหเปน ปจ จุบนั อยเู สมอ (3.3) กาํ หนดใหมีการบันทึกการเขาใชระบบสารสนเทศของผูใชบริการ และบุคลากรท่เี กยี่ วขอ ง เพือ่ ใชประโยชนใ นการตรวจสอบตดิ ตามความผิดปกตติ าง ๆ ทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ 1.3 การตรวจสอบตัวตน และการปอ งกนั การปฏิเสธการรับผิด ผูใหบ รกิ ารตองจดั ใหมกี ารระบุ ตรวจสอบ หรอื พิสจู นตวั ตนและตรวจสอบสิทธิ ของผูใชร ะบบโดยพจิ ารณาใชเทคโนโลยีที่เหมาะสมกบั ระดับความเสี่ยงของประเภทธุรกจิ ท่ใี หบ รกิ าร เชน การใชร หัสผา น (Password) เลขประจําตวั (Personal Identification Number) อปุ กรณห รือบัตรท่ี เกบ็ ขอ มลู สวนบุคคล (Token or Smart Card) ลกั ษณะทางชวี มาตร (Biometric) เทคโนโลยีกุญแจ สาธารณะ (Public Key Infrastructure) เพื่อปอ งกนั การปฏเิ สธการรบั ผดิ กรณีมีขอพิพาทเกดิ ขน้ึ ส�ำานักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 129185 สำ�านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

-3- แนวปฏบิ ัติ (1) จดั ใหม วี ิธกี ารระบุ หรือตรวจสอบ หรือพสิ ูจนตวั ตนกอ นเขา ใชระบบ สารสนเทศของผูใชบ รกิ ารและบคุ ลากรที่เกยี่ วขอ งของผใู หบ รกิ าร เพอ่ื ใหทราบไดว า การเขา ใชง าน นนั้ มาจากผมู ีสิทธใิ นการเขาถงึ ระบบสารสนเทศ รวมทง้ั ปอ งกนั ไมใหม กี ารปฏเิ สธความรับผดิ หรือขอ โตแ ยง ในการทาํ รายการ (2) มกี ารบนั ทึกรายละเอียดการเขา ถึงระบบสารสนเทศไวเ ปนหลักฐาน สาํ หรับการตรวจสอบกรณเี กิดปญหา เพอ่ื ปอ งกนั การปฏเิ สธการรับผิด 2. การรักษาความลบั ของขอมลู และความถกู ตอ งเชื่อถือไดข องระบบสารสนเทศ ผูใหบริการตองกาํ หนดมาตรการในการรักษาความลับของขอ มลู และการรักษา ความถูกตอ งเช่อื ถอื ไดของระบบสารสนเทศท่ใี หบริการ เชน การควบคุมการเปลย่ี นแปลง การปรับปรงุ แกไ ขระบบ หรอื อุปกรณป ระมวลผลสารสนเทศ และการจดั การระบบเครือขา ยท่ี เกี่ยวกบั การใหบ รกิ ารเพือ่ ใหร ะบบสารสนเทศมคี วามถูกตอ งอยเู สมอ 2.1 การรกั ษาความลับของขอมลู ผใู หบ รกิ ารตอ งกาํ หนดขน้ั ตอน วิธกี ารในการรบั สง ประมวลผล และ การจัดเก็บขอ มูลอยางเหมาะสม เพอื่ รักษาความลับ ความถูกตองสมบูรณของขอ มลู แนวปฏบิ ัติ (1) กําหนดช้ันความลบั ของขอมลู ตามระดบั ความสําคัญ รวมถงึ กําหนด สิทธิผูท สี่ ามารถเขาถึงขอมูลความลับดังกลาว (2) การจัดใหม ีวิธีการรับสง ประมวลผล และจัดเก็บขอ มูลลับในลกั ษณะ ที่ม่ันคงปลอดภยั ตามระดบั ความสาํ คัญ เพ่อื ปอ งกนั การเขา แกไ ขเปล่ยี นแปลงโดยผทู ไี่ มมีสิทธิ หรอื ไมไดร ับอนญุ าต (3) กําหนดวธิ ีปฏิบัตใิ นการจดั เกบ็ ใชงาน และทําลายขอ มลู แตล ะประเภท ช้นั ความลบั 2.2 การควบคมุ การเปลยี่ นแปลง การปรบั ปรงุ แกไ ขระบบสารสนเทศหรอื อุปกรณประมวลผลสารสนเทศ ผใู หบริการตอ งกาํ หนดขนั้ ตอนปฏิบตั ิอยางเปน ระบบสาํ หรบั ควบคุม การเปลีย่ นแปลงหรอื แกไ ขระบบสารสนเทศ เพื่อลดความเสย่ี งท่จี ะทําใหร ะบบทใ่ี หบ รกิ ารเกดิ ความเสียหายหรือทาํ งานผิดปกติ ส�ำานักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 129196 สำ�านักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์

-4- แนวปฏิบัติ (1) จดั ใหมีขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิสาํ หรบั การควบคมุ การแกไ ขเปลี่ยนแปลงขอ มลู ใน กระบวนการประมวลผล การรบั สง ขอ มลู การจดั เกบ็ การจดั หา การปรบั ปรงุ อุปกรณ และการพัฒนา ระบบสารสนเทศ เชน มขี ้ันตอนการประเมินผลกระทบท่ีเกย่ี วขอ ง การอนมุ ตั ิจากผมู อี ํานาจ ขนั้ ตอน การพัฒนา หรอื ปรับปรงุ แกไข การทดสอบกอ นดําเนินการ รวมถงึ การบนั ทกึ การแกไขเปล่ียนแปลง การแจงใหผ ทู ่ไี ดรบั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงนนั้ ไดร บั ทราบ และปรับปรงุ เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ ง (2) ตอ งแยกระบบสาํ หรบั การพฒั นา และระบบทใ่ี ชงานจรงิ ออกจากกัน ซ่งึ อาจเปนการแยกอุปกรณเ ปน คนละเครอ่ื ง และใชผ คู วบคุมระบบแยกกนั (3) การใชบรกิ ารดา นงานเทคโนโลยสี ารสนเทศจากผูใหบ ริการรายอนื่ (3.1) จัดใหมีสญั ญาดําเนนิ การเปน ลายลกั ษณอักษร ระบขุ อบเขต การดาํ เนนิ งาน หนาทคี่ วามรบั ผดิ ชอบของคสู ญั ญาแตล ะฝา ยใหช ัดเจน (3.2) จดั ใหมกี ารบริหารความเส่ยี งในการใชบ รกิ ารจากผใู หบ รกิ าร รายอน่ื รวมทง้ั การคดั เลือก การตดิ ตาม ประเมนิ และตรวจสอบการใหบรกิ ารอยางเหมาะสม (3.3) จดั ใหม กี ารรักษาความม่ันคงปลอดภยั ของขอมลู ซึง่ รวมถงึ การ รักษาความลบั และความเปนสวนตวั ของขอมูลผใู ชบริการ (3.4) ความรับผิดชอบตอผูใชบ ริการในการใหบ ริการทีต่ อ เนอ่ื ง มั่นคง ปลอดภัย และนาเชือ่ ถอื เสมือนกบั การใหบรกิ ารโดยผใู หบ รกิ ารเอง (3.5) การจดั ทําแผนฉกุ เฉนิ สาํ หรบั การดําเนินการดานงานเทคโนโลยี สารสนเทศของผใู หบ รกิ ารรายอ่นื หรือบุคคลอ่ืนใหส อดคลองกบั แผนฉกุ เฉินของผใู หบริการ (4) จัดทาํ คูมอื ตาง ๆ ท่ีเกีย่ วของกบั ระบบสารสนเทศที่ใหบ ริการ อบรม และเผยแพรใ หพ นกั งานไวใ ชงาน 2.3 การจดั การเครือขา ยทเ่ี กย่ี วกบั การใหบริการ ผใู หบรกิ ารตองกําหนดมาตรการปองกนั การเขาถึงระบบทใ่ี หบริการทาง เครอื ขา ยโดยไมไดรบั อนญุ าต แนวปฏิบัติ (1) บริหารจดั การเครอื ขา ยทเี่ กยี่ วกบั การใหบรกิ าร เพ่อื ปองกันภัยคกุ คาม ทางเครอื ขา ย หรอื ขอ มูลที่สงผานทางเครือขา ย เชน (1.1) ตองกาํ หนดมาตรการควบคุมการเชือ่ มตอ ทางเครือขา ย การ อนุญาตการเช่อื มตอโดยอปุ กรณจากภายนอก ส�ำานกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 129270 สำ�านกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

-5- เปน ปจ จุบันอยเู สมอ (1.2) การตรวจสอบตวั ตนในการใชง านเครอื ขาย (1.3) การแบงแยกเครอื ขา ยตามกลุมบรกิ ารสารสนเทศ (1.4) ติดตั้งโปรแกรมปองกนั ภยั คกุ คามจากภายนอก (2) มมี าตรการควบคุมและปองกนั ไวรสั ที่มีประสทิ ธภิ าพและปรบั ปรงุ ให 3. การรกั ษาสภาพความพรอมใชง านของการใหบ รกิ าร ผูใหบรกิ ารตองจัดใหม ีการใหบ รกิ ารทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและมีสภาพความพรอ ม ใชง านในการใหบ รกิ ารตลอดเวลา สามารถรองรบั การทําธรุ กรรมตามความตอ งการของ ผใู ชบรกิ ารไดอยางพอเพยี ง ตอบสนองการทําธุรกรรมไดอ ยา งรวดเรว็ ทงั้ ในเวลาปกตแิ ละเวลาทมี่ ี การใชบริการอยางหนาแนน (Peak Time) รวมท้งั มกี ารสาํ รองขอ มลู อยา งเหมาะสม เพื่อใหสามารถ กูระบบใหก ลับมาทํางานไดตามปกตใิ นกรณีทีเ่ กดิ ความเสียหาย 3.1 การประเมนิ และจดั การความเสย่ี งของระบบทใ่ี หบ รกิ าร ผใู หบริการตอ งมวี ิธกี ารประเมนิ ความเส่ียงของระบบทใ่ี หบ รกิ ารที่ เหมาะสม กําหนดเกณฑในการยอมรับความเสย่ี งและระบรุ ะดบั ความเสยี่ งทีย่ อมรบั ได รวมถึง กาํ หนดวธิ ีการจดั การความเสีย่ งทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ท้งั น้ี ผใู หบรกิ ารตอ งจดั ใหมกี ารทบทวนความเสีย่ ง อยูเ สมอใหสอดคลอ งกับพัฒนาการทางเทคโนโลยแี ละสถานการณปจจบุ นั แนวปฏบิ ตั ิ (1) กําหนดวิธกี ารประเมินความเสี่ยงที่เปน รูปธรรม (2) วิเคราะหแ ละประเมนิ ผลกระทบทีม่ ตี อธรุ กจิ ท่อี าจเปน ผลจากความลม เหลว ของการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั (3) กาํ หนดเกณฑในการยอมรบั ความเสย่ี ง และระดับความเสีย่ งทย่ี อมรับได (4) ระบแุ ละประเมนิ ทางเลือกในการจดั การกบั ความเส่ยี งในการดําเนนิ การ ที่อาจเกดิ ขนึ้ ได เพือ่ หลกี เลี่ยงความเสย่ี งและลดความเสยี หายทีจ่ ะเกดิ ขึ้น 3.2 การติดตามตรวจสอบความผดิ ปกตแิ ละความลอ แหลมของระบบสารสนเทศ ผูใ หบรกิ ารตอ งกาํ หนดใหม กี ารตดิ ตาม ตรวจสอบความผดิ ปกติ ตลอดจน ขอ มลู ขา วสารท่เี กีย่ วกับชอ งโหวใ นระบบตา ง ๆ ทใี่ หบ รกิ าร เพ่ือประเมนิ ความเสีย่ งและกําหนด มาตรการรองรบั เพ่ือลดความเสย่ี งดงั กลาว สำา�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 129281 สำา�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

-6- แนวปฏิบตั ิ (1) ติดตามตรวจสอบรายการทไ่ี มป กติ และโอกาสทจ่ี ะเกดิ ภัยคกุ คาม หรอื การลักลอบเขาถึงระบบสารสนเทศ (2) ประเมินชอ งโหวของระบบ (Vulnerability Assessment) จดั เตรยี ม แนวทางการแกไ ข หรอื ปด ชองโหวจากความลอแหลมของระบบ โดยเฉพาะในสว นของระบบ เครอื ขายที่เก่ยี วกับการใหบรกิ าร รวมถงึ โปรแกรมระบบงานและฐานขอมูล (3) กรณรี ะบบมคี วามเสี่ยงสงู ควรจดั ใหมีการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Test) เพื่อทดสอบประสิทธภิ าพของเทคโนโลยกี ารรกั ษาความมน่ั คงปลอดภัย 3.3 การแกไ ขปญ หา บันทกึ เหตกุ ารณ และการรายงาน กรณรี ะบบสารสนเทศ ไดร บั ความเสยี หาย ผูใหบริการตอ งมีการติดตาม บนั ทกึ และรายงานเหตุการณล ะเมดิ ความ มนั่ คงปลอดภยั ผา นชอ งทางการรายงานท่ีกําหนดไว โดยดาํ เนินการอยางรวดเรว็ ทสี่ ุดเทาท่ีจะทาํ ได รวมทั้งใหม กี ารเรยี นรูจากเหตกุ ารณท่ีเกิดขึ้นแลว เพอ่ื เตรียมการปอ งกนั ทจี่ ําเปนไวลวงหนา แนวปฏบิ ัติ (1) กาํ หนดขน้ั ตอนการแกไขปญหา ทมี งานหรอื ผรู บั ผดิ ชอบ รวมถึง วธิ กี ารรายงานปญ หาใหก บั ผูบ ริหาร และแจงใหก บั ผูเก่ยี วของทราบ (2) เกบ็ รวบรวมหลักฐานตาง ๆ ทเี่ ปนประโยชน (3) บันทกึ เหตกุ ารณ หรอื จัดทาํ รายงานทเ่ี ปนลายลกั ษณอ กั ษรเพื่อเก็บไว เปนแนวทางในการแกป ญหา 3.4 การสํารองขอ มลู ผใู หบ ริการตอ งจดั ใหม กี ารสํารองและทดสอบขอ มูลทส่ี าํ รองเก็บไว อยา งสมํา่ เสมอ เพ่ือรักษาความถกู ตองสมบูรณ และสภาพความพรอมใชงานของการใหบริการ แนวปฏิบัติ (1) สาํ รองขอ มลู ที่สําคญั และขอ มูลอ่นื ท่ีจําเปน ตอการปฏบิ ตั งิ าน สํารอง ใหพรอมใชงานได (2) กําหนดวธิ ีปฏบิ ัติ หรือข้ันตอนในการสํารองขอ มูลใหช ัดเจน เชน ขอมูลที่ จะสาํ รอง ความถี่ในการสํารองขอมูล สือ่ ทใี่ ช สถานท่ีเก็บ วธิ ีการเกบ็ รกั ษา และการนํามาใชงาน (3) ทดสอบขอ มลู ทีเ่ กบ็ สํารองไวอ ยา งสมาํ่ เสมอ และใหเ ปนไปตามนโยบาย การสํารองขอ มูลของผใู หบรกิ าร สำา�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 129292 สาำ�นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

-7- 3.5 การจัดทําแผนรองรบั การดําเนนิ ธุรกิจอยา งตอ เนือ่ ง หรอื แผนฉกุ เฉนิ ทาง ระบบสารสนเทศ ผใู หบรกิ ารตอ งจดั ทาํ แผนสรา งความตอเนือ่ งใหกับการใหบ ริการการชาํ ระเงนิ ทางอิเล็กทรอนกิ ส และนําแผนมาดําเนนิ การเพอ่ื ใหบ ริการสามารถดําเนนิ ตอไปไดตามระยะเวลาที่ กาํ หนดไวหลังจากท่มี ีเหตกุ ารณทท่ี ําใหบ รกิ ารหยดุ ชะงกั แนวปฏิบตั ิ (1) วเิ คราะหแ ละระบุความเสย่ี ง และการดาํ เนินงานทีส่ ําคญั ของการใหบ ริการ (2) กําหนดระยะเวลาหยุดดําเนนิ งานทยี่ อมรับได (Recovery Time Objectives) (3) จัดทําแผนเปนลายลักษณอ ักษร กําหนดขน้ั ตอนรายละเอยี ดการดําเนนิ การ เมื่อมีการหยุดชะงกั ของการดาํ เนินงานท่ีสําคัญ เพือ่ ใหส ามารถกลับมาดําเนนิ งานไดตามระยะเวลาที่ กําหนด รายละเอยี ดของแผนอยา งนอยประกอบดวย ก. ช่ือแผน ข. วตั ถปุ ระสงค และขอบเขตของแผน ค. รายละเอียดของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพยากรท่ีจาํ เปน สาํ หรบั ปฏบิ ัติงานทดแทน ง. ผรู ับผดิ ชอบ ผมู อี าํ นาจตดั สนิ ใจ การตดิ ตอส่ือสารกับผเู ก่ียวขอ ง ท้งั ภายในและภายนอก จ. วธิ กี ารปฏิบัตกิ รณีเกดิ ปญหา และสถานท่ีปฏิบตั งิ านทดแทน (4) จดั ใหมกี ารฝก อบรมแผนแกพนกั งานและผมู สี ว นเกี่ยวของกบั การ ดาํ เนินการตามแผนอยา งสมํ่าเสมอ (5) ทดสอบและทบทวนแผนสําหรบั การดาํ เนนิ งานท่ีสําคญั อยางนอย ปละ 1 ครงั้ หรือเมอ่ื มีการเปลี่ยนแปลงปจ จัยท่ีมผี ลตอ ความเสีย่ ง 3.6 การบํารงุ รกั ษาอปุ กรณระบบสารสนเทศ ผใู หบ ริการตอ งกําหนดใหมกี ารบาํ รุงรกั ษาอปุ กรณต า ง ๆ อยางสมาํ่ เสมอ เพอ่ื ใหอปุ กรณท ํางานไดอยา งตอ เน่อื ง และอยูในสภาพทีม่ คี วามสมบูรณต อการใชงาน แนวปฏบิ ัติ กาํ หนดใหมีการบํารุงรักษาอุปกรณตาง ๆ อยา งสมา่ํ เสมอ เพ่อื ใหอปุ กรณ ทาํ งานไดอยางตอ เน่ือง และใหอ ยใู นสภาพพรอ มใชง านตลอดเวลา สำา�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หนา้ 22003 สำา�นกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

-8- 4. การตรวจสอบความมน่ั คงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ ผูใหบริการจะตองจดั ใหม กี ารตรวจสอบความมนั่ คงปลอดภัยทางระบบ สารสนเทศอยางสม่ําเสมอ อยางนอ ยปละ 1 ครัง้ เพ่อื ใหมนั่ ใจไดว า นโยบายและมาตรการการรักษา ความมัน่ คงปลอดภยั ทางระบบสารสนเทศท่เี กยี่ วของกับการใหบรกิ ารเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ ม่นั คงปลอดภัยสามารถใหบรกิ ารไดอยางตอเน่อื ง แนวปฏบิ ัติ (1) จัดใหมีผตู รวจสอบและดําเนนิ การตรวจสอบความมน่ั คงปลอดภัยทางระบบ สารสนเทศในเรอื่ งทีม่ คี วามเส่ียงหรอื มีความสาํ คัญตอการใหบริการอยา งนอยปละ 1 ครั้ง และจดั ทาํ รายงานผลการตรวจสอบเสนอผูบรหิ ารของผใู หบ รกิ ารเพอื่ พิจารณาระดบั ความเส่ียงที่เปนอยแู ละ กําหนดแนวทางการปรับปรงุ และแจงใหหนว ยงานภายในทเี่ ก่ียวขอ งทราบเพือ่ นําไปปฏิบัติ (2) ติดตามตรวจสอบการใหบ ริการการชาํ ระเงนิ ทางอิเล็กทรอนกิ สใ หเ ปน ไปตามกฎ ระเบยี บ ขอ บังคับที่เกยี่ วขอ งท้ังหมด เพ่ือหลีกเลี่ยงการละเมิดขอกําหนดทางกฎหมาย ระเบยี บปฏิบัติ ขอ กําหนดในสญั ญา และขอกาํ หนดดานความมัน่ คงปลอดภยั ฝา ยระบบการชําระเงนิ ธนาคารแหง ประเทศไทย 29 มกราคม 2552 สาำ�นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) หน้า 22041 สาำ�นักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

พระราชกฤษฎีกาวา ดวยวธิ กี ารแบบปลอดภยั ในการทำธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๓

ชอ่ื กฎหมาย พระราชกฤษฎกี าวาดว ยวิธีการแบบปลอดภัยในการทําธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๒๗ / ตอนท่ี ๕๓ ก / หนา ๑๓ / วนั ท่ี ๓ กันยายน ๒๕๕๓ เริ่มบังคับใช วันท่ี ๒ มนี าคม ๒๕๕๔ ผูรกั ษาการ นายกรฐั มนตรี สำา�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) หน้า 22063 สำา�นักงานคณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

เลม ๑๒๗ ตอนท่ี ๕๓ ก หนา ๑๓ ๓ กันยายน ๒๕๕๓ ราชกจิ จานุเบกษา พระราชกฤษฎีกา วา ดวยวธิ ีการแบบปลอดภัยในการทําธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๓ ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วนั ท่ี ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เปนปที่ ๖๕ ในรัชกาลปจจบุ นั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหป ระกาศวา โดยที่เปน การสมควรกาํ หนดวธิ ีการแบบปลอดภยั ในการทําธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ แหงพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ อันเปนกฎหมายที่มีบทบัญญัติ บางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติ แหงกฎหมาย จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชกฤษฎีกาข้ึนไว ดังตอ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎกี าวา ดว ยวิธีการแบบปลอดภัยในการ ทาํ ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๓” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับเมื่อพนกําหนดหน่ึงรอยแปดสิบวันนับแต วนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน ตน ไป ส�ำานักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หนา้ 22074 สำ�านกั งานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook