1 ดินสอพองสะตุ ดินสอพองสะตุ คือดินสอพองท่ีผ่านกระบวนการทาให้สะอาด โดยความร้อน ดินสอพองที่ขายอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่จะผ่าน กรรมวิธีการทาตามแบบพื้นบา้ นใช้การตากแดดให้แห้งสนทิ มกั ราคาไมแ่ พง สามารถซื้อหาได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างหรือร้านชาท่ัวไป ซึ่งยัง ไม่เหมาะในการใช้กับผิงหนัง ส่วนดินสอพองที่ใช้กับผิว เป็นเครื่องสาอาง เปน็ ยา จะต้องทาให้ละเอียด สะอาดให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งมักนามา สะตุก่อนท่ีจะใช้ ดินสอพองที่ผ่านกระบวนการเหล่านี้มักจะราคาแพง กวา่ ดนิ สอพองท่ใี ชท้ ว่ั ไป เพราะต้องทาการร่อนหลายครั้ง นามาใส่หม้อ ดินตั้งไป ในอุณหภูมิ และเวลาที่พอเหมาะ แม้ว่าขั้นตอนจะยุ่งยากแต่ เรากท็ าใชเ้ องได้ ขม้นิ ชัน เป็นสมุนไพรที่นิยมใช้เก่ียวกับการดูแลผิวพรรณของคนไทยมายาวนาน มีสรรพคุณในการช่วยลดผดผื่นคัน เม่ือนามาผสมกับดินสอพองจึงได้ยาสาหรับ บรรเทาอาการผ่ืนคนั ตามผวิ หนังไดด้ ี ส่วนผสม ดินสอพอง 1,000 กรมั ขม้ินชนั ผง 100 กรมั วิธที ำ 1. นาดินสอพองมาแช่น้า แล้วกรองเอาดินหยาบที่ปนมาทิ้งไป นาไปตาก แดดใหแ้ หง้ และบดให้เป็นผง จะได้ผงดินสอพองท่ีละเอียดมาก 2. นาดินสอพองใส่หม้อดิน ปิดฝาตั้งไฟปานกลาง เวลาท่ีใช้แล้วแต่ปริมาณ ของดินสอพอง 3. ยาหม้อดินลง ปล่อยให้ดินสอพองเย็น แล้วนามาผสมกับผงขม้ินผสม ให้เขา้ กนั ดี 4. บรรจใุ ส่ภาชนะไว้ใช้ สรรพคุณ บรรเทาอาการผ่ืนคัน แพ้ อักเสบจากแมลงกัดต่อย เป็นสิวหรือตุ่มผื่นคันต่างๆ ใช้ได้ดีท้ังเด็กและผู้ใหญ่ ผสมกบั น้ามะนาว พอกหัวโน
2 กำรนำดินสอพองสะตุไปประยุกต์ใช้ 1. กำรนำผงขดั ผิว นาดินสอพองสะตุมาผสมกับสมุนไพรท่ีมีสรรพคุณท่ีช่วยเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น ว่านนางคา ไพล โสม กวาวเครือ พญายา ฝักส้มป่อย โดยสมุนไพรแต่ละชนิดต้องบดเป็นผงให้ละเอียด (ควรใช้แร่งเบอร์ 100) ในสัดส่วนเดินสอพอง 2 ส่วนและสมุนไพรอ่ืนๆ ใช้ 1 ส่วน ใช้ผสมกับโยเกิร์ต ขัดผิวคนท่ีผิวแห้ง และใช้ผสม นา้ มะขามเปียกขัดคนทผี่ ิวมนั 2. กำรทำยำทำแก้เริม งูสวัด นาใบเสลดพังพอนตัวเมียมาล้าง ผ่ึงลม ตา ดองในแอลกอฮอล์ (ใช้น้าท่วมยา) นาน 7 วัน เขย่าทุกวัน กรองเอาแต่น้ายา แล้วผสมกับดินสอพอง โดยใช้น้ายา 3 ส่วน ดินสอพอง 1 ส่วน ใช้ทาเริม งูสวัด หรือผ่ืนคัน ทเี่ กดิ จากการแพ้ แมลงกดั ต่อย อ้ำงอิงขอ้ มลู จำก : หนงั สือภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยไทยใกลต้ วั จัดทำโดย : กลุ่มงานวชิ าการเภสชั กรรมแผนไทย สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
1 ดูแลผมสวยดว้ ยตวั เอง จดั ทำข้อมลู โดย กลุ่มงำนวชิ ำกำรเภสัชกรรมแผนไทย สถำบนั กำรแพทยแ์ ผนไทย ขอ้ แนะนำในกำรดแู ลเสน้ ผมใหส้ วยด้วยตัวเอง 1. เลือกแชมพทู ี่เหมาะกับเส้นผม เช่นถ้าผมแหง้ ควรจะเลือกแชมพทู ่ีมีส่วนผสมของนา้ มันบ้ารงุ เส้นผมมากกวา่ คนผมมนั 2. ก่อนสระผมควรหมักผมสัปดาห์ละ 1 ครัง โดยใช้น้ามันมะกอกชโลมผม และปล่อยไว้ประมาณ 10-15 นาที และสระออกด้วยแชมพู ขณะสระผมควรขยีผมเบาๆ ล้างออกด้วยน้าสะอาด ขณะท่ีผมเปียกควรใช้ผ้าซับผมเบาๆ จนกว่า ผมจะแหง้ ไมค่ วรเปา่ ผมด้วยความร้อน เพราะจะท้าใหผ้ มแหง้ แตกปลาย อกี ทงั ยงั ท้าใหน้ ้ามันทีบ่ รเิ วณหนังศีรษะถูกท้าลาย เป็นเหตใุ ห้ผมรว่ งได้ มรี งั แค ส่วนการหวีผมควรจะรอให้ผมแห้งก่อน ไม่ควรหวีผมขณะที่ผมเปียก เพราะเส้นผมจะพันกัน เส้นผมขาดขณะหวีและจะท้าใหผ้ มรว่ งและแตกปลายมากขนึ 3. การเลือกหวีส้าหรับผู้ที่ไว้ผมยาวควรจะดูแลเป็นพิเศษ โดยเลือกหวีท่ีมีขนแปรงนุ่ม ควรหวีเบาๆ จากโคนผม ถึงปลายผม และควรจะทา้ ความสะอาดหวีสัปดาหล์ ะ 2 ครัง ไม่ควรใชห้ วีร่วมกับผู้อ่ืน เพราะอาจจะติดเชือราเชือแบคทีเรีย หรอื โรคติดต่อจากคนอ่ืนได้ 4. การดัดผม การใช้น้ายากัดสผี มหรือการตกแตง่ ผม เชน่ การสระ เซ็ท ไดร์ เป็นสว่ นหน่งึ ที่ทา้ ใหเ้ ส้นผมเสยี การดแู ล ใหก้ ลบั คืนสภาพเดมิ ต้องใชเ้ วลานาน 5. การดแู ลรา่ งกายใหส้ มบรู ณแ์ ขง็ แรง ไดร้ ับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ทุกวันอย่างพอเพียงจะช่วยท้าให้ สุขภาพดี ส่งผลให้หนังศีรษะและเส้นผมถูกบ้ารุงไปด้วย เช่น ควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ รับประทานผักผลไม้ ใหเ้ พยี งพอ เพราะในผลไมม้ ีวติ ามนิ ซี และมีสารอาหารท่ีช่วยกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายท้างานเป็นปกติ การรับประทาน อาหารตามทฤษฎกี ารแพทย์แผนไทยชว่ ยปรบั สมดุล 6. การออกกา้ ลงั กายอยา่ งสม่า้ เสมอ ช่วยให้หวั ใจมกี ารทา้ งานเป็นปกติ การไหลเวยี นโลหติ ดี กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ในรา่ งกายทา้ งานเปน็ ปกติ สุขภาพแข็งแรงนอกจากนีการออกกา้ ลังกายช่วยให้เราคลายเครียด เพราะความเครียดจะท้าให้ ผมหงอกเร็วและผมร่วงได้ นอกจากการออกกา้ ลังกายคลายเครยี ดแลว้ ยงั ชว่ ยให้เราหลับสบาย 7. ท้าอารมณ์และจิตใจใหผ้ อ่ งใส สดชืน่ ในแตล่ ะวัน เพราะถา้ รา่ งกายแขง็ แรงสขุ ภาพจิตดี สารสุข (Endophine) ก็จะถูก หลัง่ ออกมาชว่ ยใหส้ ุขภาพจติ ดี ระบบต่างๆ ในรา่ งกายดีกส็ ง่ ผลทา้ ให้สขุ ภาพเสน้ ผม หนงั ศรีษะดีตามไปดว้ ย และสดุ ท้ายคงจะหลีกหนีไมพ่ ้นความผดิ ปกติทางพนั ธุกรรม เพราะถา้ พันธกุ รรมมผี มหงอกเรว็ ผมแดงแห้ง และหัวล้าน การดูแลรักษาทีก่ ลา่ วมาแลว้ อาจจะไมไ่ ด้ผลนกั แต่ถา้ ทา่ นทราบสาเหตแุ ละเขา้ ใจถงึ ปญั หาตา่ งๆ การแก้ไขปัญหาท่ีดีและถูก วธิ ีจะชว่ ยให้ท่านมคี วามสุข การมสี ุขภาพดี บุคลกิ ดี ผมสวยสะอาด สรา้ งเสนห่ ใ์ ห้กับผทู้ พี่ บเหน็ แตถ่ ้าขาดเสียซึ่งความดีแล้ว ทา่ นมีสง่ิ เหล่านแี ลว้ ก็คงจะไมช่ ่วยให้ทา่ นสวยและมีเสนห่ ์ตลอดกาลได้ ขอ้ แนะนำในกำรเลือกใชแ้ ชมพสู มนุ ไพร - ต้องราคาไม่แพงมาก - มีฉลากกา้ กับ ถงึ สว่ นประกอบในแชมพูให้ชัดเจน - มีทะเบียนการคา้ ระบุชัดเจน และมีเครอ่ื งหมาย อย. กา้ กบั ถ้าไม่มีตอ้ งมหี น่วยงานผลิตทเี่ ช่อื ถือได้ - มีสถานทีผ่ ลิต วันที่ผลิต และวันหมดอายุ - สงั เกตสี กล่นิ มคี วามคงตวั ดี ไมเ่ ปลี่ยนแปลงเมอ่ื ถูกแสงหรืออยูใ่ นอณุ หภูมสิ ูง - คุณสมบตั ิของแชมพทู ด่ี ี - ท้าความสะอาดเส้นผมและหนงั ศรี ษะอยา่ งหมดจด - หลงั สระผมเสน้ ผมจะล่นื ออ่ นนมุ่ และยืดหยุ่นตวั ได้ - ไมท่ า้ ลายไขมันตามธรรมชาติของเสน้ ผม ไมท่ ้าใหผ้ มและหนงั ศรี ษะแหง้ เกินไป
2 - ล้างออกง่ายโดยน้าธรรมดาหรอื นา้ กระด้าง - ไมเ่ กิดความระคายเคือง ผวิ หนงั อักเสบหรือผมร่วง - มกี ล่ินหอมไมก่ อ่ ความระคายเคอื ง สมุนไพรบำรุงผม 1. กำกเมล็ดชำ, แตโ้ ค สว่ นทใ่ี ช้ เปน็ กากของเมล็ดชา ทีไ่ ด้บีบเอานา้ มนั ชาออกแลว้ ประมาณ 1 กา้ มือ วธิ ีใช้ น้ามาสระผม จะช่วยท้าใหเ้ สน้ ผมสะอาด และน้ามนั ท่ีติดอยู่ในกากเมล็ดชาจะชว่ ยให้ ผมด้าเปน็ เงางามด้วย (ขอบคณุ รปู ภาพจากฐานข้อมลู พรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์) 2. สม้ ป่อย สว่ นทีใ่ ชฝ้ กั แกแ่ ละแหง้ ขนาด 4–8 ฝัก วิธีใช้ เอาฝักมาหักและตีกับน้า ใช้สระผมจะท้าให้สะอาด ดกด้าและช้าระล้างรังแคได้ดี เนอ่ื งจากฝกั มีรสเปรยี วเป็นกรด ใชช้ า้ ระล้างผมใหส้ ะอาดและเปน็ เงางาม 3. มะกรูด ส่วนที่ใช้ ใชผ้ ลสดขนาด 1 ผล วิธีใช้ เอามะกรูดเผาไฟหรือผ่ามะกรูดเป็น 2 ซีก ผสมกับน้าอุ่น เมื่อสระผมเสร็จแล้ว เอามะกรูดสระซ้า โดยใช้มะกรูดครึ่งซีกยีไปบนผม น้ามะกรูดเป็นกรดจะช่วยท้าให้ ผมสะอาด สว่ นผวิ ของมะกรูดมีน้ามันหอมระเหย ช่วยให้ผมชุ่มชืนเป็นเงางาม และดกด้า และจะท้าให้ผมลืน่ จดั ทรงไดง้ ่าย 4. ว่ำนหำงจระเข้ สว่ นท่ีใชน้ า้ วนุ้ จากวา่ นหางจระเข้ วิธีใช้ น้าเอาว่านหางจระเข้ท่ีแก่มาปอกเอาแต่ส่วนที่เป็นวุ้น น้ามาบดแล้วเอาน้าวุ้น ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เวลาสระผม หยดน้าวุ้นจากหางจระเข้ลงขยีผมให้ท่ัวทิงประมาณ 3–5 นาที แล้วล้างออกใหส้ ะอาด วนุ้ ว่านหางจระเขจ้ ะท้าให้ผมสะอาด ไม่มีรังแค และช่วย บ้ารุงรกั ษาหนงั ศรี ษะป้องกันผมร่วง และชว่ ยลดความมันของเสน้ ผมได้ ลดอาการคัน และ ทา้ ใหผ้ มไมห่ งอกเรว็ วุ่นจากวา่ นหางจระเข้สดจะใชไ้ ดผ้ ลดี ถ้าเก็บไว้นานจะมีการเสอ่ื มสภาพ 5. นำมันมะกอก (olive oil) เป็นน้ามันที่ได้จากผลสุกของมะกอกฝร่ัง ซ่ึงมีช่ือทาง วิทยาศาสตร์ว่า olea europoea L. ในน้ามันประกอบด้วย กลีเซอไรด์ของกรดโอเลอิค พาลมติ คิ ลิโนเลอิค นยิ มใช้ นวดผมเพือ่ ใหผ้ มนมิ่ ผมดกดา้ เปน็ เงางามป้องกันผมแห้งกรอบ ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในการเตรยี มเครอื่ งสา้ อางตา่ ง ๆ ถ้าใชน้ ้ามันมะกอกนวดผมเปน็ ประจา้ จะชว่ ยใหผ้ มด้าไม่หงอกเรว็ (ขอบคณุ รปู จากศนู ยส์ ารนเิ ทศทางอาหาร สถาบนั คน้ ค้าและพัฒนาผลติ ภณั ฑ์อาหาร) 6. สุพรรณิกำร,์ กรรณิกำร์ เชียงใหม่ ฝำ้ ยดำ (เหนือ, อสี ำน) วิธใี ช้ ใช้ใบอ่อนน้ามาต้มเอาน้าสระผมบ้ารุงรักษาเส้นผมให้ดกด้า นอกจากนียางจากต้น ให้ท้ายาเซ็ทผม ท้าครีมทาบ้ารุงผิว และยังสามารถน้าดอกใบแห้งต้มด่ืม บ้ารุงร่างกาย ใหแ้ ข็งแรงได้อีกดว้ ย
1 นำ้ สมุนไพรตรีผลำ ตรผี ลำ เป็นชื่อพิกัดยาท่ีประกอบด้วย ผลไม้ 3 อย่าง ได้แก่ สมอไทย สมอพเิ ภก และมะขามปอ้ ม ใช้น้าหนกั เท่ากันทั้ง 3 อยา่ ง ประโยชนท์ ำงยำ เปน็ สมนุ ไพรทีใ่ ช้ในฤดูรอ้ น แพทยอ์ ายรุ เวทในอินเดียใช้เป็นยาอายวุ ฒั นะ และยาระบาย ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพลีคลินิกพบว่า “สารสกัดตรีผลา” มีฤทธ์ิด้านออกซิเดชัน ลดระดับน้าตาล ในหนูทดลอง ฤทธ์ิป้องกันอันตรายจากรังสี ลดความรุนแรงของอาการป่วยจาการตอบสนองต่อรังสีในหนูเพศผู้ ท่ไี ด้รับรบั สีแกมมาทั้งตัว นอกจากนนั้ สมนุ ไพรอันเป็นองค์ประกอบของผลไมท้ ั้งสามชนดิ และและสารสกัดตรีผลา มีฤทธิ์ลดระดับคอเลสเตอรอลในหนูทดลอง เป็นตน้ วิธที ำ้ น้ำสมนุ ไพรตรีผลำ 1. ใช้ ผลสมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อมที่แก่ (ผลไมท้ ั้ง 3 ชนิด จะออกผลแก่ใช้ไดใ้ นชว่ งเดือน กรกฎาคม – ตุลาคมของทกุ ปี) 2. น้าสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด มาล้างให้สะอาด ผ่ึงให้สะเด็ดน้าแล้วทุบ ใหแ้ ตก เอาทง้ั เนือ้ และเมล็ด 3. ใส่น้าเติมจนท่วมสมุนไพรประมาณ 3 – 4 เท่า ต้มน้าให้เดือด แลว้ หรีไ่ ฟลงต้มตอ่ อีกประมาณ 30 นาที ปดิ ไฟแลว้ ยกลงรอให้อนุ่ 4. กรองเอาแต่น้า เติมน้าตาลสีร้า น้าผงึ้ และเกลอื นดิ หน่อยพอไดร้ ส ถกู ใจ ไมค่ วรหวานมาก 5. บรรจุขวดเก็บในตู้เย็นดืม่ แก้กระหาย หรือน้ามาใส่น้าแขง็ ดื่มชนื่ ใจดี หมายเหตุ** ในแต่ละวันไม่ควรด่ืมมากเกินไป เพราะสมุนไพรมีฤทธิ์ ระบาย หากดมื่ มากอาจจะท้าใหท้ อ้ งเสยี ได้
2 รำยละเอยี ดสมนุ ไพรแตล่ ะชนดิ 1) สมอไทย (SAMO THAI) สมอไทยเป็นผลของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Terminalia chebula Retz. var. chebula ในวงศ์ Combretaceae ชอื่ อ่นื ส้มมอ, สมออพั ยา องค์ประกอบทำงเคมี สมอไทยมีสาระส้าคัญเป็นสารกลุ่มแทนนิน ได้แก่ กรดชีบูลินิก, กรดชีบูลิก, กรดแทนนิก, กรดแกลลิก เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีสารกลุ่มแซโพนิน น้ามันระเหยยาก ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นเอสเทอร์ ของกรดพาล์มิติก และ กรดลิโนเลอกิ เป็นตน้ ประโยชนท์ ำงยำ ต้าราสรรพคุณยาไทยว่าสมอไทยมีสรรพคุณแก้อุจจาระธาตุพิการ แก้อติสาร แก้บิดมูกเลือก คุมธาตุ แก้ไขพ้ ษิ แกพ้ ิษท้าให้ร้อน แกอ้ าเจยี น แกเ้ สมหะพิการ แกเ้ ม็ดยอดภายใน สมานแผล ขอ้ มูลจาการศึกษาวจิ ัยพรีคลนิ ิกพบว่าสารกลุ่มแทนนนิ ในพชื มีฤทธ์ิฝาดสมาน นอกจากน้ันยังมีรายงานว่า สารสกดั สมอไทยยังมีฤทธ์ลิ ดระดับนา้ ตาลกลูโคสในเลอื ด ฤทธติ์ ้านเซลล์มะเรง็ บางชนดิ 1) สมอพเิ ภก (SAMO PHI-PHEK) สมอพิเภกเป็นผลของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Terminalia bellirica (Gaertn.) Roxb. ในวงศ์ Combretaceae ช่อื อื่น สมอแหน องค์ประกอบทำงเคมี สมอพิเภกมีสาระส้าคัญเป็นสารกลุ่มแทนนิน ได้แก่ กรดชีบูลาจิก กรดเอลลาจิก กรดแกลลิก เป็นต้น นอกจากนัน้ ยงั มสี ารบีตา-ซิโทสเตอรอล น้ามันระเหยจาก เปน็ ต้น ประโยชนท์ ำงยำ สมอพิเภกมสี รรพคณุ แก้เสมหะจกุ คอ ทา้ ให้ชมุ่ คอ แก้โรคตา แกธ้ าตกุ ้าเรบิ บ้ารงุ ธาตุ แกไ้ ข้ เป็นตน้ ข้อมลู จาการศึกษาวจิ ัยพรคี ลินกิ พบวา่ สารกลมุ่ แทนนินในพชื มีฤทธิ์ฝาดสมาน นอกจากน้ันยังมีรายงานว่า สารสกดั สมอพิเภกยังมฤี ทธ์ิลดระดบั น้าตาลกลโู คสในเลอื ดฤทธิต์ ้านเซลล์บางชนดิ
3 3) มะขำมป้อม (MAKHAM POM) มะขามป้อมเป็นผล ของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica L. ในวงศ์ Euphorbiaceae ช่ืออน่ื ก้าทวด, กนั โตด องคป์ ระกอบทำงเคมี มะขามป้อมมีกรดแอสคอร์บิก หรือวิตามินซี, รูทิน, กรดมูซิก, กรดแกลลิก, กรดฟิลเลมบลิก สารกลุ่ม แทนนิน ได้แก่ กรดเชบูลาจิก, คอริลาจิน และ 1-โอ-แกลลอยล์-บีตา-ดี-กลูโคส เป็นต้น นอกจากนี้พบ แอล-มาลิก แอซิด 2-โอ-แกลเลต, มซู ิกแอซดิ 2-โอ-แกลเลต และโปรตีน ประโยชนท์ ำงยำ ตา้ ราสรรพคณุ ยาไทยว่ามะขามป้อมมรี สเปรีย้ ว ฝาดขม แก้ไขเ้ จอื ลม แก้ไอ แก้เสมหะ แก้บิด แก้ท้องเสีย ชว่ ยย่อยอาหาร ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย พรีคลินิกพบว่ามะขามป้อมมีฤทธิ์แก้ไอ ต้นออกซิเดชัน ลดไขมันและ คอเลสเตอรอล ต้านเช้ือแบคทเี รีย รกั ษาแผลในกระเพาะ ต้านมะเร็ง ป้องกันตับจากสารพิษ ป้องกันพิษจากการ ฉายรังสี ขอ้ มลู วิชำกำรจำก คณะกรรมการจัดท้าต้าราอ้างอินยาสมุนไพร, ต้าราอ้างอิงยาสมุนไพร เล่ม 1 เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเน่ืองในมหามงคลสมัยท่ีทรงครอบครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี. พิมพ์คร้ังท่ี 1. กรงุ เทพ ฯ : บรษิ ัทอมรนิ ทรพ์ รนิ้ ต้งิ แอนดพ์ บั ลชิ ชิง่ จา้ กัด, 2551. อ้ำงอิงข้อมลู จำก : หนงั สือภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยไทยใกล้ตวั จัดท้ำโดย : กลมุ่ งานวิชาการเภสชั กรรมแผนไทย สถาบนั การแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
บัวบก ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Centella asiatica Urban วงศ์ : UMBELLIFFRAE (APIACEAE) ชอื่ สามญั : Asiatic Pennywort/Tiger Herbal ชือ่ อ่ืน/ช่ือสามัญ : ผกั แวน่ (ใต้) ผกั หนอก จำปำเครือ กะบังนอก (ลำปำง) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น เป็นพืชล้มลุกอำยุหลำยปี มักขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลำต้นเลื้อยยำวไปตำมพื้นดิน แตกรำกฝอยตำมข้อ แผ่ไป จะงอกใบจำกข้อ ชูขนึ้ 3 – 5 ใบ ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลบั รูปไต เส้นผ่ำศนู ยก์ ลำง 2 – 5 ซม. ขอบใบหยัก ก้ำนใบยำว ดอก ดอกออกเป็นช่อท่ซี อกใบ ขนำดเลก็ 2 – 3 ดอก กลีบดอกสีมว่ ง ผล เป็นผลแห้ง แตกได้ ส่วนทีใ่ ชป้ ระโยชน์ : ลำต้นและใบสด สรรพคุณทางยาและวธิ ีใช้ โรคปากเป่อื ย ปากเหม็น แกร้ ้อนใน กระหายน้า ใช้บัวบกสด 1 กำมือ (10 – 20 กรัม) ตำแล้วค้ันเอำแต่น้ำเติมน้ำตำลทรำยเล็กน้อย ด่ืมวันละ 3 คร้ัง ติดต่อกนั 1 – 2 วัน แกอ้ าการเจบ็ คอ ใช้บวั บกสด 1 กำมือ ตำใหล้ ะเอียดแลว้ คัน้ เอำแตน่ ้ำ เติมนำ้ สม้ สำยชู 1 – 3 ช้อน จิบบอ่ ยๆ แกอ้ าการปวดศรีษะขา้ งเดียว รบั ประทำนแบบสดๆ หรอื ค้ันน้ำรับประทำนไมจ่ ำกดั ปรมิ ำณ ควรรบั ประทำนติดตอ่ กัน 5 – 6 วัน แก้อาการช้าใน ลดความดันโลหติ ใช้บัวบกสด 2 กำมอื คนั้ เอำแต่น้ำ เตมิ นำ้ ตำลทรำยเลก็ น้อย รับประทำนตดิ ตอ่ กันอย่ำงน้อย 5 – 7 วัน รักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก ใช้ใบสด 1 กำมือ ตำใหล้ ะเอียด คั้นเอำแต่นำ้ ทำบริเวณแผลบอ่ ยๆ ใช้กำกพอก สารเคมแี ละสารอาหารทีส่ า้ คัญ : จำพวกไตรเทอร์ปิน และไตรเทอร์ปินกลัยโคไซด์ ได้แก่ กรดเอซีอำติก (asiatic acid) กรดมำดิคำสซิก (madecassic acid) เอซิอำติโคไซด์ (asiaticoside) ออกซิเอซิอำติโคไซด์ (oxyasiaticoside) มำดิคำสซอล (madecassol) ซ่ึงสำรเหล่ำนี้มี ฤทธ์ิช่วยเร่งกำรสร้ำงเนื้อเยื่อและสมำนแผล นอกจำกน้ียังพบ น้ำตำลหลำยชนิด เช่น เรซิน วิตำมินซี สำรแทนนินสำรท่ีมีรสขม ช่ือ Vellarine อัลคำลอยด์ช่ือไฮโดรคอไทลีน (hydrocotylene) และน้ำมันหอยระเหยชือ่ B-Caryophyllene
คุณค่าทางอาหาร ตารางแสดงคณุ คา่ ทางอาหารสว่ นท่ีรบั ประทานได้ 100 กรมั พลงั งำน 44 กิโลแคลอร่ี โปรตนี 1.8 กรมั ไขมนั 0.9 กรมั คำรโ์ บไฮเดรด 7.1 กรัม แคลเซยี ม 146 มลิ ิกรมั ฟอสฟอรัส 30 มลิ กิ รมั เหล็ก 3.9 มิลิกรมั วติ ำมนิ บี 1 0.24 มลิ กิ รมั วิตำมนิ บี 2 0.09 มิลิกรมั ไนอำซีน 0.8 มิลกิ รัม วติ ำมนิ ซี 4 มลิ กิ รมั เบตำ้ – แคโรทีน 238.23 RE ใยอำหำร - กรัม * RE ไมโครกรมั เทียบหน่วยเรตินอล - ไมม่ ีกำรวเิ ครำะห์ อา้ งอิงข้อมูลจาก หนงั สือผักพ้ืนบำ้ นต้ำนโรค เลม่ 1 จดั ทำโดยกลุม่ สำรนเิ ทศฯ กรมพัฒนำกำรแพทยแ์ ผนไทยและกำรแพทย์ทำงเลอื ก
1 แปะกว๊ ย : ชว่ ยบำรงุ สมองเพ่ิมควำมจำ จดั ทำข้อมูลโดย กล่มุ งำนวิชำกำรเภสัชกรรมแผนไทย สถำบันกำรแพทยแ์ ผนไทย แปะก๊วย (Ginkgo Biloba) แปะก๊วย - พืชสมุนไพรที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ สามารถบาบัด โรคต่างๆ ได้ ช่วยบารุงสมอง ทาให้มีสมาธิและความจาดีข้ึน เป็นพืชท่ีมีการแยกต้น เป็นเพศผู้ และเพศเมีย ใบมีลักษณะคล้ายใบพัด แยกออกเป็น 2 กลีบ สารที่สกัดได้ จากใบแปะก๊วยมีหลายชนิด เช่น สาร Flavonoids, Terpenoids สารเหล่าน้ีมีฤทธ์ิ ตา้ นอนุมูลอิสระ (Free radical) เพ่ิมการไหลเวยี นของโลหิตไปสู่สมอง, ปลายมอื ปลายเท้า ซ่งึ เป็นสาเหตุหน่ึงที่ทาให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเล้ียงสมอง เพราะเมื่อสมอง ขาดเลอื ดไปหล่อเลย้ี ง ยอ่ มเสอ่ื มสมรรถภาพและฝ่อไปในทส่ี ุด ส่งผลต่อการทางานและ ประสิทธิภาพของสมองทาให้เกิดการหลงลืมในผู้สูงอายุ หรือโรคความจาเสื่อม ท่เี รียกว่า อัลไซเมอร์ (Alzheimer disease) ในปัจจุบันหลายๆ ประเทศได้ใหก้ ารยอมรบั ถึงสรรพคุณของใบแปะก๊วยในการ รักษาโรคสมองเส่ือม โดยการนาสารสกัดจากใบแปะก๊วยมารวมกับ Phospholipids ให้อย่ใู นรปู ของ Phytosome ซ่ึงช่วยให้การดูดซับที่ผนังลาไส้เล็กดีข้ึน ทาให้ร่างกาย สามารถนาเอาสารสกัดจากใบแปะก๊วยน้ีมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากน้ียังมีการนาสารสกัดดังกล่าวมาทาเป็น ผลติ ภัณฑเ์ สริมอาหาร เพื่อบารุงสมอง และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ใช้รักษาโรคความจาเสื่อม, โรคซึมเศร้า อาการ หลงๆ ลมื ๆ อันเน่ืองมาจากเลือดไปเลี้ยงสมองไมเ่ พียงพอในผู้ป่วยสงู อายุ ขอบคุณเครดิตภาพจาก http://www.technologychaoban.com/
Search