Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore top hits สุขภาพจิตกับความรุนแรงทางสังคมและโลกออนไลน์

top hits สุขภาพจิตกับความรุนแรงทางสังคมและโลกออนไลน์

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-23 12:07:20

Description: top hits สุขภาพจิตกับความรุนแรงทางสังคมและโลกออนไลน์

Search

Read the Text Version

สุขภาพจติ กับความรุนแรง ทางสงั คมและโลกออนไลน์ “การจดั การอารมณ์โกรธ” เรอื่ งราวเก่ยี วกบั ความขดั แย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง ทำ�รา้ ยร่างกาย ทั้ง ผอู้ นื่ และตนเองไปจนถงึ การมงุ่ ท�ำ ลายชวี ติ กนั ในสงั คมทกุ วนั น้ี มกั จะมาจาก สภาพอารมณ์ทเ่ี รียกวา่ “โทสะ” หรอื “อารมณ์โกรธ” ของมนษุ ยน์ ั่นเอง ความโกรธเป็นหนึ่งในอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึนกับทุกคนเป็นธรรมดา เราสามารถรู้สึกได้เม่ือมีอารมณ์โกรธ สภาวะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง หลายๆ อย่าง เช่น หัวใจเตน้ แรงและเรว็ ข้นึ กล้ามเน้ือตึงเครยี ด เนื้อตวั ส่ัน ปน่ั ปว่ นในทอ้ ง รา่ งกายเหมอื นกบั มแี รงสง่ สงู ขนึ้ และพรอ้ มจะพงุ่ พลงั ออกไป บางคนเปรยี บวา่ ความโกรธเสมอื นหนงึ่ กบั ไฟ คนท่ี “เจา้ โทสะ” มกั จะท�ำ ให้ คนอนื่ รู้สึกรอ้ นไม่อยากอย่ใู กล้ คนที่มีอารมณ์โกรธมักแสดงความโกรธ เช่น ใช้คำ�พูดเชือดเฉือนผู้อื่น หรือแสดงการกระท�ำ ที่ก้าวร้าวรุกราน ทำ�ให้มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อ่ืน เพราะความรสู้ กึ ไมเ่ ปน็ มติ ร มกั ตดั สนิ ใจผดิ พลาดเพราะขาดความระมดั ระวงั ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและการทำ�ความผิดได้ง่าย ความโกรธท่ีเรื้อรังยังเป็น สาเหตุของปัญหาสุขภาพ อาทิ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคกระเพาะ และอาการปวดศีรษะเป็นประจำ� “Top Hits ความรสู้ ุขภาพจติ ” 189 ฉบบั นกั สื่อสาร

สาเหตุของอารมณ์โกรธ ทพี่ บไดบ้ อ่ ย ได้แก่  ความคบั ขอ้ งใจท่ีไมส่ ามารถทำ�บางสิ่งบางอย่างไดด้ ังใจ  ความร�ำ คาญ หงุดหงดิ จากสิ่งแวดล้อมตา่ งๆ ความรสู้ กึ ไม่สะดวก ในการดำ�เนนิ ชวี ติ ประจำ�วัน  การถูกรบกวนความเปน็ ส่วนตวั  ความเสยี ใจ ความกลัวทีแ่ ปรเปลย่ี นกลายเปน็ ความโกรธ  ความผดิ หวงั ความรสู้ กึ วา่ ตนเองโชครา้ ย ประสบเคราะหก์ รรม หรอื เผชิญความสูญเสีย  การถูกคุกคาม รสู้ ึกถูกเหยยี ดหยาม ดูหม่นิ  ความอิจฉาริษยาผอู้ น่ื เปน็ ตน้ ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็อาจก่อพฤติกรรมรุนแรง โดยความโกรธนั้น อาจพงุ่ เขา้ หาตนเองดว้ ยการท�ำ รา้ ยตนเอง หรอื พงุ่ ไปสคู่ นอนื่ ท�ำ รา้ ยผอู้ นื่ กไ็ ด้ วิธหี าทางออกใหก้ บั อารมณ์โกรธ  ยอมรับว่ากำ�ลังรู้สึกโกรธ พิจารณาว่ากำ�ลังเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ไมจ่ �ำ เปน็ ต้องรู้สกึ ผิดหรือละอายที่ร้สู ึกโกรธ  พิจารณาสาเหตุของความโกรธ ที่เกิดข้ึนโดยไม่เข้าข้างหรือตำ�หนิ ตนเองเกินเหตุ  พยายามเปิดความคิดใหก้ วา้ งและยืดหย่นุ  ตัดสินใจทำ�การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์แลว้ ลองปฏิบตั ิ 190 “Top Hits ความรสู้ ุขภาพจิต” ฉบบั นักสอื่ สาร

ขนั้ ตอนทคี่ วรใชเ้ พอ่ื ควบคมุ อารมณ์  ตง้ั สตใิ หม้ ัน่ สงบใจ ระงบั อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ก่อนทำ�ความตกลง หรือลงมือทำ�อะไรเพราะอาจตัดสินใจผิดพลาด หากเจรจาหรือ แก้ปญั หาขณะท่กี �ำ ลังมีอารมณ์  ถามตนเองวา่ “กำ�ลงั ตอ้ งการเอาชนะ” หรอื “ต้องการแก้ปญั หา” ถ้าคำ�ตอบ คือ การเอาชนะ ให้หยดุ การเจรจาไว้ แลว้ หาทางระงับ อารมณ์ และความคดิ เอาชนะใหไ้ ดก้ อ่ น เพราะไมม่ ที างทจ่ี ะเอาชนะ ไดอ้ ย่างสนั ติเม่ือกำ�ลงั โกรธ  แสดงความรู้สึกและความต้องการของตนเองด้วยท่าทีไม่ก้าวร้าว ไม่ข่มขู่ หรอื ละเมิดสิทธิของคนอน่ื  หาทางระบายความโกรธออก ถ้าหากไม่สามารถจัดการกับความ โกรธตวั เองได้ อยา่ อายทจ่ี ะพดู คยุ ความรสู้ กึ กบั ผทู้ ใ่ี กลช้ ดิ และเขา้ ใจ  หากทำ�ใจเล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้ อาจใช้วิธีเขียนเร่ืองที่โกรธลง บนกระดาษ จะทำ�ใหค้ วามโกรธระบายออกมาบา้ ง  อยา่ เก็บความขุ่นมัว โกรธเคอื งไว้เงียบๆ ตามล�ำ พังเพราะจะทำ�ให้ คุณเป็นคนเครียดได้ง่าย และมีความอดทนกับเรื่องต่างๆ รอบตัว นอ้ ยลงเร่อื ยๆ กจิ กรรมท่ีจะชว่ ยระงับเม่ือคณุ โกรธ กีฬาท่ีได้ออกแรง เช่นแบดมินตัน เทนนิส เตะบอล วิ่ง ว่ายน้ํา แตอ่ ย่าเนน้ การแขง่ ขนั กบั คนอื่นเพราะจะยิ่งเครียดแทนที่จะสงบลง ทำ�งาน ทีไ่ ด้ออกแรง เช่น การถอนหญ้า ขุดดนิ ปลูกต้นไม้ ซ่อมแซม สิ่งของ จะชว่ ยให้ออกแรงระบายอารมณ์ พรอ้ มกบั ไดผ้ ลงานทนี่ ่าชืน่ ชมขน้ึ มาแทน “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจติ ” 191 ฉบบั นักส่ือสาร

ใชเ้ ทคนคิ การผอ่ นคลาย ทเ่ี หมาะกบั ตนเอง เชน่ นบั ตวั เลขในใจ ก�ำ หนด ลมหายใจ ผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื หรอื อาจสวดมนต์ ทอ่ งคาถาสน้ั ๆ ทเ่ี ปน็ การ ช่วยผอ่ นคลายและ “ต้ังสติ” พึงระลึกไว้เสมอว่า “ฉันต้ังใจ จะไม่ให้มีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น” หาทาง ปลดปลอ่ ยอารมณอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ภยั ทง้ั กบั ตนเองและผอู้ นื่ ดว้ ยการ เรยี นรทู้ จ่ี ะจดั การกบั ความโกรธอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ฝกึ ตนใหม้ สี ติ ระลกึ ถงึ อารมณ์ของตนเองและเป็นผู้ควบคุมอารมณ์เสียแต่วันน้ี ดีกว่ามานั่งเสียใจ ภายหลัง  192 “Top Hits ความรูส้ ุขภาพจติ ” ฉบับนักสือ่ สาร



ความรนุ แรงบนโลกออนไลน์ “สอ่ื ” ในปจั จบุ นั โดยเฉพาะสอื่ ออนไลนไ์ ดส้ ง่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ ประจ�ำ วนั และความสัมพันธ์ของคนในสังคมอย่างชัดเจน จนกลายเป็นประเด็นทาง สังคมต่างๆมากมาย ท้ังน้ี เน่ืองจากการไม่มีตัวตนหรือมีตัวตนซ่อนเร้น ในโลกออนไลน์ จึงทำ�ให้มีอิสระในการแสดงความคิดเห็นหรือแสดง “ความแรง”ออกมามากขึ้น ทงั้ ความโกรธ ความโอ้อวด ความอจิ ฉา อคติ และความเกลียดชัง น�ำ ไปส่คู วามขัดแย้งบนโลกออนไลน์ อยา่ งไรกต็ าม สิ่งทเี่ ราสามารถทำ�ไดใ้ นการปอ้ งกนั คือ การรเู้ ทา่ ทันสอ่ื เข้าใจสภาพของสื่อออนไลน์ว่าเป็นสังคมที่มีทั้งพ้ืนที่ส่วนตัวและพ้ืนท่ี สาธารณะ จงึ ควรมสี ตทิ กุ ครงั้ ในการสอื่ สารหรอื การแสดงความคดิ เหน็ ตา่ งๆ บนโลกออนไลน์ รวมทั้งตรวจสอบท่มี าของข้อมูล อย่าส่งต่อข้อมลู ที่ไมเ่ กดิ ประโยชน์ ขอใหค้ ิดทกุ ครง้ั กอ่ นโพสต์ ก่อนไลค์ กอ่ นแชร์ อาจกล่าวไดว้ า่ “การรู้เท่าทันส่ือใหม่ ก็เหมือนกับการรู้เท่าทันตัวเราเอง” ความรุนแรง บนโลกออนไลน์ มีท้งั Hate Speech คอื การสรา้ งความแตกตา่ งท่มี ีผล ต่อยอดไปสคู่ วามรุนแรงได้ เช่น เรือ่ งของเพศสภาพ เชื้อชาติ ศาสนา ความ คดิ เหน็ ทางการเมอื ง คนพกิ าร สว่ นใหญจ่ ะเปน็ บรบิ ททางสงั คม และ Blame Speech คอื การสรา้ งความรนุ แรงในเร่อื งสว่ นตัว เชน่ กรณี กราบรถกู 194 “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจติ ” ฉบับนกั ส่อื สาร

ดังนั้น การสร้างพลเมืองสื่อดิจิตัล (Digital Citizenship) จึงเป็นส่ิง ส�ำ คญั ซง่ึ ตอ้ งประกอบไปดว้ ย การไมข่ ยายความรนุ แรง จาก Hate Speech โดย ใชห้ ลกั 2 ไม่ 1 เตือน ได้แก่ ไมส่ อื่ สารทางลบ ไม่สง่ ต่อ และเตือน ด้วยถ้อยค�ำ ท่สี ภุ าพ รวมทัง้ ใหข้ ้อมูลทีน่ ่ารบั ฟัง ขณะที่ Blame Speech ซึ่งท�ำ ใหเ้ กิดสังคมดรามา่ เหมือนเชน่ ทกุ วันนี้ ให้ใช้หลักเดินหน้า 3 What ได้แก่ What, So What, What Next หมายถึง อย่าหยุดอย่แู ค่ What เกดิ อะไรขนึ้ แบบทเี่ รยี กวา่ ดรามา่ ซง่ึ ทกุ วนั นเ้ี รามกั จะสนใจอยเู่ พยี งตวั What หรอื ตวั เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ดงั นนั้ เราจงึ ควรกา้ วไปสู่ So What ในการเขา้ ใจ สาเหตวุ า่ ท�ำ ไมเหตกุ ารณน์ จี้ งึ เกดิ ขนึ้ เพราะสาเหตเุ หลา่ นนั้ อาจเกดิ กบั เราได้ ทกุ คนเปน็ ความเครยี ดหรอื การเลยี้ งดใู นครอบครวั และทา้ ยสดุ What Next หาแนวทางเพื่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึนทั้งในระดับบุคคล ครอบครัวและสังคม  “Top Hits ความรสู้ ขุ ภาพจิต” 195 ฉบบั นกั ส่ือสาร



“การกล่นั แกลง้ ทาง internet” สถานการณก์ ารกลน่ั แกลง้ ผา่ นโลกออนไลน์ (Cyber bullying) ทรี่ นุ แรง ในประเทศไทย ใกลเ้ คยี งกับประเทศญ่ีป่นุ และจนี ท่ีถูกกลน่ั แกลง้ มากกวา่ 40-50% ขณะที่ยุโรปจะอยู่ในกลุ่มที่ปัญหาน้อย (10-20%) ส่วนรัฐต่างๆ ในอเมรกิ ามีปญั หาปานกลาง(10-20%) เยาวชนที่เปน็ เหย่อื จะไดร้ บั ผลกระทบทรี่ นุ แรง ท่พี บบ่อย คือ รูส้ ึกขาด ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง หรอื เสยี self มคี วามคดิ ฆา่ ตวั ตาย และมีปฏิกริ ิยา ทางอารมณ์ เชน่ กลวั กงั วล เศร้า และจะยง่ิ มีผลมากขึ้น ถ้าอายุนอ้ ย หรอื มีปัญหาอยแู่ ลว้ เช่น เป็นเด็กเกบ็ ตัว หรือมีปัญหาสขุ ภาพจิต ขอ้ แนะนำ�/แนวทางแก้ไขปัญหา  เยาวชน จ�ำ นวนมากมกั มองวา่ การกลน่ั แกลง้ เปน็ เรอื่ งลอ้ เลน่ แตอ่ นั ทจ่ี รงิ ผตู้ กเปน็ เหยอื่ จะไดร้ บั ผลรุนแรง จงึ ควรสร้างความเขา้ ในเร่ืองนี้  ครอบครวั จะตอ้ งดแู ลการใช้ internet ใหถ้ กู ทาง ตงั้ แตเ่ ลก็ ๆ ไมค่ วรใหเ้ ดก็ กอ่ นวยั เรยี นมอี ปุ กรณเ์ หลา่ น้ี เพราะเดก็ ควรเรยี นรแู้ ละใชเ้ วลา กับโลกจริง ส่วนวัยเรียนและวัยรุ่นตอนต้น ผู้ปกครองต้องมีกติกา เช่น 3 ต้อง 3 ไม่ “Top Hits ความรูส้ ุขภาพจิต” 197 ฉบบั นกั สือ่ สาร

3 ตอ้ ง 1. ต้องกำ�หนดเวลาในการเล่น ว่าการเล่นในแต่ละวันไม่ควรเกิน 1 ช่วั โมง 2. ต้องสามารถตกลงการเลน่ กบั ลกู ว่าเล่นอะไรได้บ้าง 3. ตอ้ งมีเวลาเล่นอินเตอร์เน็ตกบั ลูก 3 ไม่ 1. ไม่เป็นแบบอย่างในการเล่นท่ีผิด เช่น ใช้เวลาการเล่นมากเกินไป เล่นเกมทม่ี คี วามรนุ แรงก้าวรา้ ว หรือท่องเว็บโป๊ 2. ไม่ให้ลกู มอี นิ เตอร์เนต็ ในหอ้ งนอน 3. ไม่ใชอ้ นิ เตอร์เน็ตในเวลาครอบครวั  โรงเรยี น เปน็ สถาบนั ทส่ี �ำ คญั ทส่ี ดุ ในการปอ้ งกนั ปญั หา โรงเรยี นตอ้ ง มนี โยบายชดั เจนทไ่ี มย่ อมรบั การกลนั่ แกลง้ มกี ารสอนทกั ษะชวี ติ ในการใชส้ อื่ ซงึ่ ชว่ ยใหเ้ ดก็ เขา้ ใจและตระหนักถึงผลรา้ ยของการกลนั่ แกลง้ กัน มีระบบที่ ทำ�ให้เด็กที่ได้รับผลกระทบสามารถขอความช่วยเหลือโดยโรงเรียนร่วมกับ ผปู้ กครอง รวมทั้งดูแลเด็กที่เปน็ ฝา่ ยกล่ันแกลง้ ซ่ึงอาจจะมปี ัญหาเชน่ กนั 198 “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจติ ” ฉบับนักสอ่ื สาร

 บรษิ ทั ทดี่ แู ลเครอื ขา่ ยและเจา้ ของแพลทฟอรม์ (Platform) จะตอ้ ง รบั ผดิ ชอบ กล่นั กรองการใช้อินเตอรเ์ น็ต ในทางไมเ่ หมาะสมออกไป ซงึ่ เป็น การแกป้ ัญหาที่ตน้ ตอและมีประสิทธภิ าพ  การออกกฎหมายเพ่ือเอาผิดเป็นเรื่องท่ีรัฐบาลต่างๆ ให้ความ สนใจมากขึ้นเร่ือยๆ แต่มักไม่ค่อยมีผลต่อเยาวชน ซ่ึงไม่อยู่ในฐานะและ วัยทจี่ ะไปฟ้องรอ้ งได้ โลกอินเตอร์เน็ต ขยายตัวมากข้ึนเรื่อยๆ หากเราไม่ช่วยกันใช้อย่าง สร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ย่อมกลายเป็น ดาบ 2 คม ที่หนั กลับมาทำ�ร้ายเด็ก เยาวชน และสงั คม จงึ ไม่ควรมองขา้ ม ความสำ�คัญในการช่วยกันเป็นพลเมืองสื่อ ดูแลและพัฒนาให้เกิดการใช้ อยา่ งสรา้ งสรรค์  “Top Hits ความรสู้ ุขภาพจติ ” 199 ฉบับนักสอ่ื สาร

“ความรนุ แรงบนท้องถนน” ความรนุ แรงบนท้องถนน เปน็ ประเภทความรนุ แรงทเี่ ราพบบ่อย นอก เหนือจากความรุนแรงในครอบครัว สาเหตุมาจากความเครียดและการ ควบคมุ ตนเองและจติ ใจ จงึ ตอ้ งเรยี นรจู้ ดั การกบั ความเครยี ดของตนเองและ จดั การอารมณข์ องตนเอง กลุ่มที่มีความเส่ียงทะเลาะวิวาทจากการขับข่ีบนท้องถนนมากที่สุด คอื วยั รนุ่ ซงึ่ เปน็ ผขู้ บั ขที่ ใี่ ชร้ ถจกั รยานยนตม์ ากทส่ี ดุ และยงั เปน็ รถประเภท ยานยนต์ทเี่ กิดอุบตั ิภัยมากที่สุด สาเหตุที่ทำ�ให้เกิดการทะเลาะวิวาทจากการขับขับข่ีบนท้องถนนมักมา จากตวั บคุ คลทีเ่ ปน็ ผขู้ ับขีห่ รอื คกู่ รณเี ป็นสำ�คญั ได้แก่  คณุ ลักษณะผขู้ บั ข่ี เช่น อายุ เพศ ผู้ขับขี่ทท่ี ะเลาะวิวาทมกั เปน็ วัยรุ่น วัยทำ�งาน และส่วนใหญ่เปน็ เพศชาย ดว้ ยวยั และเพศแล้วจะมีความ รนุ แรงทางอารมณส์ งู อยใู่ นตวั บางครง้ั หากมอี าวธุ ตดิ ตวั หรอื อยใู่ นรถกท็ �ำ ให้ เกดิ ความรนุ แรงยง่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มคี วามหุนหัน เมอ่ื เกิดความ ขัดแย้งกนั ก็อาจจะมีเร่อื งได้งา่ ยด้วย  สภาพร่างกายขณะนน้ั เมาขาดสติ หลับใน ความอ่อนลา้ หรือใช้ สารเสพติด ท�ำ ใหร้ ถความสามารถในการขับขใ่ี ห้นอ้ ยลง การควบคุมตนเอง กน็ อ้ ยลง การตัดสนิ ใจจึงไม่ดี วู่วาม และถกู กระต้นุ ทางอารมณ์ได้งา่ ย  สภาพอารมณ์ขณะนั้น หากการขับขี่มีอารมณ์ไม่ปกติ (Wean) โกรธแค้น ขุน่ มวั เครยี ดสะสม ท�ำ ใหพ้ รอ้ มท่จี ะระเบดิ อารมณก์ บั ผู้อนื่ อยา่ ง หนุ หนั พลันแลน่ 200 “Top Hits ความรู้สุขภาพจติ ” ฉบับนกั สอื่ สาร

 บคุ ลกิ ลกั ษณะของผขู้ บั ขหี่ รอื คกู่ รณี เชน่ เจา้ ระเบยี บ ไมย่ ดื หยนุ่ ไมย่ อมรบั หากคนอ่นื ทำ�ผดิ พลาด ท�ำ อะไรตามใจตัวเอง ชอบทำ�สิ่งทที่ ้าทาย ชอบเส่ียง ต้องการแสดง วางอ�ำ นาจ เรียกรอ้ งความสนใจ ตคี วามพฤตกิ รรม ผู้อ่ืนว่าต้องการหาเร่ือง แก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรง อดทนหรือรอคอย ไมเ่ ปน็ ชอบระบายอารมณ์ดว้ ยความรนุ แรงกับคนอ่นื  การเรยี นรกู้ ารใชร้ ถใชถ้ นน การไมใ่ สใ่ จดผู ลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากตวั อยา่ ง ทไี่ มด่ ใี นการใชร้ ถใชถ้ นน การไมเ่ ตอื นใจ/ตระหนกั ไมเ่ กดิ วนิ ยั จราจร ไมย่ อม ใหอ้ กี ฝ่ายถึงแม้เขาท�ำ ถกู กฎ หากเดก็ ๆ ไดเ้ รยี นรทู้ จ่ี ะขบั ขตี่ ามกฎระเบยี บไมใ่ ชอ้ ารมณ์ เมอ่ื โตขนึ้ เขากจ็ ะขบั ข่ดี ้วยความรับผิดชอบ วิธีการโต้ตอบเมื่อผู้อื่นขับรถไม่เหมาะสมก็เป็นพฤติกรรมที่เรียนรู้ และเลยี นแบบเชน่ การกดแตรเสยี งดงั และยาวการขบั รถไปปาดหนา้ มองหนา้ คนขบั ซึง่ จะกระตุ้นให้เกดิ ความขัดแย้งได้ง่าย  วถิ ชี วี ติ ชวี ติ ในสงั คมเมอื งทผ่ี ขู้ บั ขหี่ รอื คกู่ รณอี าศยั อยู่ ถกู บบี ดว้ ย เวลา เรง่ หารายได้ ถกู มองวา่ ผดิ ตลอด การจัดการความวติ กหรอื ความกลัว ไมไ่ ด้ บางครง้ั ตอ้ งดมื่ สรุ าเนอื่ งจากไปงานสงั สรรค์ บางคนท�ำ งานทมี่ แี ตค่ วาม กดดนั ความเครยี ดและเรง่ รบี คนเหลา่ นก้ี จ็ ะเกดิ การทะเลาะววิ าทไดง้ า่ ยกวา่  ศลี ธรรมจรรยาการใชร้ ถใชถ้ นนรว่ มกนั การละเลยไมป่ ฏบิ ตั ติ าม กฎจราจร ความเห็นแกต่ ัว ใชอ้ �ำ นาจบาตรใหญ่ ขาดจิตส�ำ นึก ความไมร่ ับ ผิดชอบทางสงั คม มุมมองต่อการขับข่ี คนท่ีคดิ ว่าการขับรถเป็นเร่อื งยงุ่ ยาก กจ็ ะอารมณเ์ สยี งา่ ยกวา่ คนทชี่ อบขบั รถ บางคนมองวา่ ขบั รถตอ้ งเอาเปรยี บ เอาชนะคนอ่ืนจึงจะไปถึงท่ีหมายได้เร็วจะหงุดหงิดง่ายกว่าคนท่ีขับรถแบบ เอือ้ เฟื้อเผอื่ แผใ่ ห้คนอื่น “Top Hits ความรูส้ ุขภาพจติ ” 201 ฉบบั นักส่อื สาร

 ความผิดปกติทางจิต มีความผิดปกติบางอย่างที่ทำ�ให้อารมณ์ แปรปรวนงา่ ย ถกู กระตนุ้ ง่ายโดยไม่มีเหตุผลอย่หู ลายกรณี เชน่ โรคลมชัก ความแปรปรวนทางอารมณ์ การดื่มสุรา/ใช้สารเสพติด อาการยํ้าคิดย้ําทำ� โรคเก่ยี วกับความจ�ำ ความรุนแรงของการทะเลาะววิ าทจากการขับขบี่ นท้องถนน มกั มี 4 วธิ ีน้ี  รุนแรงด้วยค�ำ พูด เชน่ ดุด่า ตอ่ ว่า ติเตียน โวยวาย  รุนแรงด้วยท่าที/การใช้ภาษาท่าทาง เช่น ให้ของลับ กดแตร เรง่ เครือ่ ง ท�ำ เสยี งดัง  รุนแรงด้วยการใช้กำ�ลัง/ใช้คนหมู่มาก เช่น ชกต่อย ยกพวก รุมทำ�รา้ ย  รุนแรงดว้ ยการใช้อาวุธ เช่น ไม้ ทอ่ นเหลก็ มีด ปืน ข้อแนะน�ำ /แนวทางการรบั มือ ในการควบคมุ ตนเอง สงิ่ ทส่ี �ำ คญั ทส่ี ดุ คอื สติ เราไมต่ อ้ งไปใหค้ วามส�ำ คญั หรือสนใจว่าใครผิด ใครถูก ควรส่ือสารและเจรจาด้วยคำ�พูดที่สุภาพ ผิดก็ ขอโทษ ห้ามใช้อารมณ์ ในทางจิตวิทยาการส่ือสารท่ีเราจะใช้ต้องเป็นการ ส่ือสารที่บอกความรู้สึกของตัวเรามากกว่าการพูดถึงพฤติกรรมอีกคนหน่ึง ถา้ เรากลา่ ววา่ เราไมไ่ ด้ตั้งใจ เราขอโทษ จะทำ�ให้ความขดั แยง้ เยน็ ลง 202 “Top Hits ความรู้สุขภาพจิต” ฉบับนักสอ่ื สาร

 การฝกึ สติ 4 ข้นั ตอน สามารถใชไ้ ด้กับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะ อยา่ งย่ิงในสถานการณ์คบั ขนั 1. คมุ สติ หายใจเขา้ ออกลกึ ๆ เวลาท่ีเจอสถานการณอ์ ยู่ตรงหน้า หรอื บคุ คลทเี่ ขา้ มาหาดว้ ยความโกรธ จะเปน็ การเรยี กสตกิ ลบั มาใหม้ สี ตริ ตู้ วั ตลอดเวลา 2. เจรจาด้วยคำ�ท่ีสุภาพ อ่อนโยน ณ ตอนน้ันผิดหรือไม่ผิด ไม่ต้องสนใจ ใหข้ อโทษไว้กอ่ น บอกไปว่าไมไ่ ด้ตั้งใจ ห้ามตอบโต้ดว้ ยคำ�พูด ที่ไม่สุภาพ รุนแรง ให้ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา ห้ามใช้อารมณ์ เพราะจะ กลายเปน็ สง่ิ เรา้ คกู่ รณี กลายเปน็ ฉนวนใหค้ กู่ รณเี กดิ ความขดั แยง้ จนกระทง่ั มปี ญั หาตามมา หรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิ การสญู เสยี ได้ 3. หากอีกฝ่ายใชค้ วามรนุ แรง ตั้งสตแิ ล้วหาความชว่ ยเหลอื เชน่ ตะโกนออกไปใหค้ นมาช่วย โทรศัพท์ หรือแจ้งตำ�รวจ 4. ป้องกันตนเอง ไม่ใช้อาวุธใดๆทั้งสิ้น เพราะจะก่อให้เกิด ความรุนแรงมากย่ิงขึ้น และก็ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธประเภทใดมาด้วย ให้คดิ ว่าจะเกิดผลเสยี ตามมาทุกคร้ัง  “Top Hits ความรูส้ ุขภาพจิต” 203 ฉบับนักส่ือสาร

“หึงหวงท�ำ รา้ ยร่างกาย” ความหึงหวงในทางจิตวิทยา เป็นสภาวะทางจิตใจที่เกิดข้ึนท่ามกลาง ความสงสยั ความระแวง ความวิตกกงั วล และความกลัว วา่ บุคคลทีต่ นเอง นั้นผูกพันจะต้องอยู่และรักษาเอาไว้ไม่ให้เปล่ียนไปเป็นของผู้อ่ืน ความ หึงหวงนี้จึงเป็นความรู้สึกด้านลบของจิตใจ ซ่ึงบั่นทอนความสัมพันธ์กับ คนรัก และเพ่ิมความเกลียดชังให้กับผู้มาสนิทสนม เรียกว่า ความหึงหวง ทีส่ ร้างปญั หา แต่หากมองในอกี แงม่ ุมหน่งึ จะพบวา่ ความหึงหวงเปน็ ส่วนดี ที่แสดงถึงความรัก ความเอาใจใส่คนรัก ความหึงหวงที่มีอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ความสัมพนั ธม์ ั่นคงและยัง่ ยืนต่อไปได้ อกี ท้ังปกป้องความรักมใิ ห้ นอกใจไดด้ ว้ ย เรียกวา่ ความหงึ หวงทส่ี ร้างสรรค์ การหงึ หวงจนถงึ ขนั้ ท�ำ รา้ ยรา่ งกายนน้ั สะทอ้ นแนวโนม้ ความเปราะบาง ของครอบครวั ไทย ท่ีมีความซื่อสตั ย์ในการใช้ชวี ติ คนู่ ้อยลง ความหงึ หวง โดยทวั่ ไปจะมผี เู้ กย่ี วขอ้ งอยู่ 3 ฝา่ ย คอื ตนเอง คนทชี่ อบ/ คนที่รักและบุคคลท่ีสาม โดยอาจมีสถานะความสมั พนั ธอ์ ยู่ 6 สถานะ คอื คบหาดใู จ รกั ชอบขา้ งเดยี ว บงั คบั ใหม้ สี มั พนั ธ์ แยกทางกนั แลว้ สมรสกนั และหย่ากันแล้ว ผลของความหึงหวงจนถึงขั้นทำ�ร้ายร่างกายจะมีลักษณะการทำ�ร้าย ร่างกายจิตใจจากเหตุความหึงหวงอยู่ 4 ลักษณะ คือ การข่มขู่ทำ�ร้าย คกู่ รณหี รอื คนทช่ี อบคนทรี่ กั การลงมอื ท�ำ รา้ ยคกู่ รณหี รอื คนทช่ี อบคนทรี่ กั การพยายามท�ำ รา้ ยตัวเอง และการลงมือท�ำ รา้ ยตัวเอง ซึ่งมักจะมผี ้ไู ดร้ ับ ผลกระทบจากการท�ำ รา้ ยรา่ งกายจติ ใจจากเหตคุ วามหงึ หวงอยู่ 4 กลมุ่ คอื 204 “Top Hits ความร้สู ขุ ภาพจิต” ฉบับนกั สือ่ สาร

 ญาตขิ องผกู้ ระท�ำ เชน่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง สมาชกิ ในครอบครวั ของผกู้ ระท�ำ เชน่ ลกู หรือคู่ครองตวั จรงิ  ญาติของผู้ถูกกระทำ�/คู่กรณี เช่น คู่รัก/แฟนตัวจริง พ่อแม่ ผ้ปู กครอง สมาชิกในครอบครวั ของคกู่ รณี เช่น ลกู หรอื คู่ครองตวั จริง  ผู้ที่ต้องเข้ามาดูแลหรือไกล่เกล่ีย เช่น ญาติผู้ใหญ่หรือ ผเู้ ขา้ ไปห้าม ตำ�รวจ ศาล  ผโู้ ดนลูกหลง เช่น คนรอบบรเิ วณทเ่ี กดิ เหตุ ปัจจยั กอ่ ความหงึ หวง  ความตอ้ งการและความปรารถนา อนั ไดแ้ ก่ ความเชอ่ื ของผกู้ ระท�ำ ทวี่ า่ 1. ความซื่อสัตย์ในการใช้ชีวิตคู่ คนที่ใช้ชีวิตด้วยกันจำ�เป็นต้อง ซ่อื สตั ยใ์ นการอยรู่ ว่ มกนั ให้เกยี รตติ ่อกนั 2. ประเพณีนิยมและค่านิยมทางสังคม สังคมมีมุมมองการเป็น ครอบครัวทผี่ ่านพิธสี มรสหรอื แตง่ งาน ตอ้ งไวเ้ นอื้ เชอื่ ใจกัน สรา้ งครอบครวั ให้ม่ันคง อยรู่ ่วมกันอยา่ งสงบสขุ 3. พฤติกรรมทางอุปนิสัยและบุคลิกลักษณะนิสัย คนที่รักกันมี ทัศนะว่าเม่ือแต่งงานกันแล้ว ความรักท่ีมีให้กันจะสามารถเปล่ียนแปลง พฤติกรรมท่ีไม่ถูกใจได้  เหตุจูงใจของปัญหาความขัดแย้ง ได้แก่ การนอกใจ การไม่ทำ� ตามสญั ญา การบกพรอ่ งตอ่ หนา้ ทคี่ นรกั /คคู่ รอง การจงใจแยง่ ชงิ ของคกู่ รณี เป็นต้น  ภาวะซึมเศร้า หรือมปี ญั หาสุขภาพจติ “Top Hits ความรสู้ ขุ ภาพจติ ” 205 ฉบบั นกั สือ่ สาร

สญั ญาณเตือนความก้าวรา้ ว  เขา/เธอเตบิ โตในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงหรอื ไม่  เขา/เธอได้รบั การดแู ลหรอื ใชค้ วามรนุ แรงเพ่อื แกป้ ญั หาบา้ งหรือไม่  เขา/เธอมีพฤตกิ รรมดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติดบา้ งหรอื ไม่  เขา/เธอคาดหวังว่าคุณจะต้องทำ�ตามคำ�แนะนำ�หรือคำ�ส่ังของเขา/ เธอบ้างหรอื ไม่  เขา/เธอมคี วามคดิ ฝงั แนน่ ประเภททวี่ า่ ผชู้ ายจะตอ้ งเปน็ อยา่ งนห้ี รอื ผู้หญงิ จะตอ้ งเปน็ อย่างน้นั บ้างหรือไม่  เขา/เธอเคยท�ำ ทา่ ทรี ะแวงความสมั พนั ธข์ องคณุ กบั เพอื่ น กบั ผชู้ าย อ่ืน หรอื แม้แตค่ รอบครวั ของคุณเองบา้ งหรือไม่  เขา/เธอเวลาโกรธทำ�ให้คุณรู้สึกกลัวบ้างหรือไม่ หรือดูแลคุณอย่าง บังคับหรือไมใ่ หเ้ กียรติคณุ บา้ งหรือไม่  เขา/เธอเคยทำ�การขม่ ขเู่ พ่อื ให้ไดม้ าซ่งึ สิง่ ที่ตอ้ งการบา้ งหรือไม่ ถา้ มบี างขอ้ กค็ วรระวงั ในการปฏบิ ตั ติ วั ของตวั เอง และยง่ิ หากมหี ลายขอ้ ควรขอค�ำ แนะน�ำ จากผเู้ ชย่ี วชาญเพอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาการท�ำ รา้ ยจากเหตคุ วาม หึงหวงนน้ั ข้อแนะน�ำ /แนวทางป้องกนั ผกู้ ระทำ�  ควรตระหนกั ว่าการนอกใจมิใช่ทางออกของสาเหตปุ ัญหาทอี่ ยลู่ ึก ๆ จนไปกระทำ�การนอกใจ ต้องหันมาทบทวนแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดอย่าง แทจ้ ริง อาจตอ้ งอาศัยผู้มีประสบการณ์หรอื ผู้เชี่ยวชาญเป็นส�ำ คญั 206 “Top Hits ความรสู้ ุขภาพจติ ” ฉบับนกั ส่ือสาร

 ควรสร้างคุณค่าและพัฒนาตัวเองให้ดีด้วยการคิดดี ทำ�ดี ขยันทำ� หน้าทที่ รี่ ับผิดชอบให้ส�ำ เร็จมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ดี พดู จาไพเราะสุภาพ  ควรพฒั นาความฉลาดทางอารมณห์ รอื อคี วิ ทด่ี ใี นชวี ติ คแู่ ละความรกั อยเู่ สมอ สงิ่ แรกทคี่ วรท�ำ คอื ตอ้ งมที ศั นคตทิ ดี่ ตี อ่ การมชี วี ติ คแู่ ละการปฏบิ ตั ติ วั เร่ิมจากการรู้จักตนเอง รู้จุดเด่น จุดด้อย รวมท้ังจุดอ่อนของตนเอง และ พยายามไมใ่ หจ้ ดุ ออ่ นของตนเองมาเปน็ อปุ สรรคตอ่ การใชช้ วี ติ คู่ รจู้ กั ควบคมุ อารมณ์ของตนเอง ยามดีใจ เสียใจ เศร้าใจ ไม่ให้แสดงออกมากไปหรือ ไมเ่ กบ็ กดมากไป จนเกดิ ปญั หาทางจติ ใจตามมา พยายามควบคมุ อารมณใ์ หไ้ ด้ โดยเฉพาะเมอ่ื รสู้ กึ โกรธผดิ หวงั รอจนอารมณส์ งบแลว้ จงึ คอ่ ยๆแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ โดยใช้ปัญญามากกว่าอารมณ์ รู้จักปลดปล่อยอารมณ์ที่ไม่ดีออกใน รูปแบบของพลังงานท่ีใช้ในการเล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือทำ�อะไรก็ได้ ท่ีเป็นการปลดปล่อยพลังงานออกไป รู้จักการเพ่ิมพลัง สร้างแรงจูงใจให้ เห็นสิ่งท่ีดีงามของคนที่เป็นคู่ชีวิต มองอย่างรู้แจ้งเห็นจริง มีทัศนคติท่ีดีต่อ คู่ของตน รวมท้ังมีมานะพยายามท่ีจะทำ�ให้คู่ชีวิตเห็นความดีงามของการ มสี มั พนั ธภาพรว่ มกนั พยายามเขา้ ถงึ จติ ใจของคคู่ รอง ปรบั ปรงุ ตวั เขา้ หากนั ไมส่ รา้ งความแตกแยก รกั ษาสมั พนั ธภาพใหด้ ที ส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะท�ำ ได้ รจู้ กั ยกยอ่ ง ชมเชยคขู่ องตนอยเู่ สมอ และ ควรศกึ ษาหาความรหู้ รอื ขอค�ำ แนะน�ำ ปรกึ ษา จากผ้เู ชย่ี วชาญสขุ ภาพจติ เพม่ิ เติม “Top Hits ความร้สู ขุ ภาพจิต” 207 ฉบบั นกั สอื่ สาร

ผู้ถูกกระทำ�หรือคกู่ รณ/ี ผู้ใกล้ชิด  ผู้ถูกกระทำ�ควรใช้การเจรจาต่อรองหรือการสัญญาเท่าท่ีจำ�เป็น ไม่ควรทำ�จนเคยตัว เพราะนั่นเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่าน้ัน แตก่ ารพดู คยุ กัน ท�ำ ความเขา้ ใจกัน แกไ้ ขมูลเหตทุ ่ที �ำ ใหห้ ึงหวงรว่ มกนั เป็น ส่งิ สำ�คญั ทีส่ ุด ควรทำ�เมือ่ เรมิ่ เกิดปัญหาระยะแรก ๆ  ผู้ถูกกระทำ�ควรยอมรับผิดท่ีแสดงพฤติกรรมนอกใจ จะโดยต้ังใจ หรอื ไม่ตัง้ ใจหรอื ทำ�ใหก้ ำ�กวมสงสยั กต็ าม ขอโทษในสิ่งทก่ี ระทำ�ตอ่ ผกู้ ระท�ำ พูดคุยถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไขหรือส่ือสารให้เข้าใจเพื่อป้องกัน มิใหเ้ กิดขนึ้ อีก  ผู้ถูกกระทำ�ต้องลดพฤติกรรมท่ีอาจทำ�ให้คนรักคู่ครองเข้าใจผิด จนหึงหวง เชน่ กลบั บ้านไม่ตรงเวลา หายไปโดยไม่บอกกลา่ ว ปิดโทรศพั ท์ มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้ เวลาคุยโทรศัพท์แสดงท่าทีวิตกกังวล และ เดินเลี่ยงไปพูดท่ีอ่ืน ไม่อาบน้ําก่อนเข้านอน โดยอ้างว่าอาบมาแล้วจาก ทอี่ นื่ เปน็ ตน้ เหลา่ นลี้ ว้ นเปน็ พฤตกิ รรมทกี่ ระตนุ้ ใหค้ นรกั คคู่ รองแสดงความ หงึ หวงมากขน้ึ ทง้ั ๆ ทค่ี วามจรงิ ตวั เองอาจมไิ ดน้ อกใจคนรกั คคู่ รองเลย  ผู้ถูกกระทำ�ควรหมั่นสังเกตสัญญาณเตือน หรือพฤติกรรมของ ผู้กระทำ� ในยามท่ีมีความวิตกกังวล ความเครียด มีความผิดปกติไป เช่น เกิดง่าย หายช้า หรือมีลักษณะที่รุนแรง ควรขอคำ�ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ สขุ ภาพจิต เพื่อดำ�เนินการปอ้ งกันแก้ไขทอ่ี าจเกิดขึน้ ในอนาคตได้  ผถู้ กู กระท�ำ ตอ้ งสรา้ งความมน่ั ใจใหเ้ หน็ วา่ เรานน้ั ไวว้ างใจไดท้ จ่ี ะไมม่ ี พฤตกิ รรมนอกใจ หรอื คบหาคนอนื่ ควรแสดงพฤตกิ รรมสมาํ่ เสมอใหค้ งเสน้ คงวา  ผถู้ กู กระท�ำ ควรหมน่ั สรา้ งสมั พนั ธภาพ ความเขา้ อกเขา้ ใจกบั คคู่ รอง อยเู่ สมอ 208 “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจติ ” ฉบบั นักสื่อสาร

ครอบครัว ประชาชนท่วั ไป และหนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ ง  ครอบครัว พ่อแม่ผู้ปกครอง และประชาชนควรป้องกันแก้ไขระยะ ยาวดว้ ยวธิ กี ารเลยี้ งดเู ดก็ ทเี่ หมาะสม ใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสม เติบโตด้วยความรกั ความอบอุน่ มีความภาคภูมใิ จในตัวเอง ไมล่ งโทษเดก็ รนุ แรง ท�ำ ใหเ้ ดก็ เกดิ ความรสู้ กึ อา้ งวา้ ง หวาดกลวั หรอื หวาดผวา เชน่ ขม่ ขวู่ า่ จะไมร่ ักจะเอาไปปลอ่ ย หรอื กกั ขงั เด็กในห้องมดื หรือหอ้ งแคบๆ เป็นต้น  หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรทุ่มเทหรือหันมาส่งเสริมความรักความ สมั พนั ธใ์ นครอบครวั และปอ้ งกนั ปญั หาความขดั แยง้ ในครอบครวั ใหม้ ากขน้ึ เขม้ ข้นยิง่ ข้ึน  ส่ือมวลชนควรให้ความสำ�คัญกับแนวทางแก้ไขปัญหาท่ีถูกต้อง เหมาะสม จากผู้เช่ียวชาญ แทนการนำ�เสนอและบรรยายเหตุการณ์ ให้เหน็ ภาพจินตนาการเพียงอยา่ งเดยี ว  “Top Hits ความรูส้ ุขภาพจติ ” 209 ฉบบั นกั สือ่ สาร

“ฆา่ หั่นศพ” วิเคราะหก์ ารกระทำ�  ผู้ท่ีมีพฤติกรรมเช่นน้ีอาจเป็นทั้งกลุ่มคนปกติและกลุ่มคนท่ีมีอาการ ทางจิตได้ กรณีเป็นกลมุ่ คนปกติ อาจมีสาเหตุจากความแคน้ โกรธ เกลียด คนทถ่ี กู ท�ำ รา้ ยเปน็ อยา่ งมาก จนยบั ยงั้ ตวั เองไมไ่ ด้ และใชก้ ารหนั่ ศพเปน็ การ อำ�พรางความผิด ส่วนผู้ที่มีอาการทางจิต โดยเฉพาะเป็นโรคจิตที่รุนแรง และไม่ได้รับการรักษา การฆ่าหั่นศพจึงเป็นการสะท้อนความผิดปกติของ จิตใจโดยตรง ซ่ึงผู้ป่วยกลุ่มน้ีจะแสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น การ ตะโกนด่าทอ มีความก้าวร้าวรุนแรง อาการหูแว่ว ประสาทหลอนและ หวาดระแวง เหล่านี้เป็นอาการของคนที่มีแนวโน้มว่ามีความผิดปกติทาง จติ ใจ  การฆา่ หน่ั ศพ หากมกี ารวางแผนจงใจ ไตต่ รองมาอยา่ งดี มกี ารปกปดิ มกี ารอ�ำ พราง ถือเปน็ เรอ่ื งของอาชญากรรม ไมใ่ ชป่ ่วยทางจิต เพราะผู้ปว่ ย ทางจติ จะไมม่ กี ระบวนการคดิ ทซ่ี บั ซอ้ นและมกั จะหลดุ ไปจากโลกของความ เปน็ จรงิ  การที่สังคมตั้งค�ำ ถามวา่ ผตู้ อ้ งหามอี าการทางจิตหรือไมน่ ัน้ ต้องสง่ เขา้ สกู่ ระบวนการวนิ จิ ฉยั โดยมี ทมี แพทย์ ประกอบดว้ ย จติ แพทย์ พยาบาล และนกั สงั คมสงเคราะหร์ ว่ มกนั ประเมนิ สงั เกตและทดสอบทางสมอง ตรวจ สภาพจิตวิทยา พฤติกรรมการแสดงออก ซงึ่ ทกุ ขนั้ ตอนตอ้ งตรวจสอบอยา่ ง ละเอียดจึงจะบอกได้ว่ามีอาการทางจิตจริงหรือไม่ ถ้าประเมินว่ามีอาการ 210 “Top Hits ความรสู้ ุขภาพจติ ” ฉบับนกั สื่อสาร

ปว่ ยทางจติ ตอ้ งไดร้ บั การรกั ษาทนั ที ถอื เปน็ การใหโ้ อกาสและความยตุ ธิ รรม กบั ผปู้ ่วย  การฆา่ หนั่ ศพในกรณสี ว่ นใหญไ่ มไ่ ดเ้ ปน็ ผปู้ ว่ ยทางจติ แตม่ าจากความ แคน้ สว่ นตวั และบคุ ลกิ ภาพในลกั ษณะของการท�ำ ความรนุ แรงโดยไมร่ สู้ กึ ผดิ ท่ีเรยี กว่า บุคลิกภาพแบบตอ่ ตา้ นสงั คม การสงั เกตลักษณะพฤติกรรมแบบบุคลกิ ภาพตอ่ ต้านสังคม  บุคลิกภาพและพฤติกรรมท่ีแสดงออก มีหลายลักษณะโดดเด่นกว่า คนทั่วไป เช่น รปู ร่าง หนา้ ตาดี แตง่ กายดี มีเสนห่ ์ ใชค้ �ำ พูดรนุ แรง ท�ำ ส่ิง ผิดกฎหมาย สร้างสัมพันธภาพกับคนอื่นที่มีลักษณะฉาบฉวย ต้องการใช้ ประโยชน์จากบุคคลน้ัน การใช้ยาเสพติด ใช้จ่ายเงินทองอย่างไม่มีความ รบั ผิดชอบ ใชค้ วามรุนแรงท้งั กบั ตวั เองและผูอ้ น่ื พบได้ทั้งผ้ทู ่มี ไี อคิวสงู และ ไอควิ ต่าํ สาเหตุ/ปจั จัย  สภาพครอบครวั และการดแู ลเลยี้ งดใู นวยั เดก็ อาจมปี ญั หาครอบครวั ขาดความอบอุ่น ได้รับความรุนแรง ขาดคนดูแลแนะน�ำ “Top Hits ความรูส้ ขุ ภาพจิต” 211 ฉบับนักสือ่ สาร

ขอ้ แนะนำ�/แนวทางปอ้ งกนั  พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ตอ้ งดแู ลเอาใจใสเ่ ลย้ี งดเู ดก็ ใหเ้ ตบิ โตมาดว้ ยความรกั ความเมตตา ลดความรุนแรงในครอบครัว สร้างความม่ันคงในจิตใจ รู้จักการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี เพราะครอบครัว เป็นพ้ืนฐานสำ�คัญที่สุด ทจ่ี ะลดปญั หาอาชญากรรม  ขอความร่วมมือสื่อมวลชนคัดกรองเร่ืองราวและวิธีการนำ�เสนอ แบบรอบดา้ น ไมใ่ ชจ่ �ำ กดั เพยี งเสนอดา้ นอาชญากรรม ไมท่ �ำ ใหก้ ลายเปน็ เรอ่ื ง ดรามา่ เพ่อื ไม่ใหผ้ ทู้ ่ียังขาดวิจารณญาณ เกิดการหลงผิด คดิ ว่า เปน็ ไอดอล เป็นส่ิงท่ีดี ตลอดจนตระหนักถึงสภาพจิตใจและผลเสียท่ีอาจเก่ียวข้องกับ ท้งั ผูต้ าย ผ้ตู อ้ งหารวมถึงญาติของทง้ั 2 ฝา่ ย  ทุกฝ่ายต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ต้องไม่มีส่วนแพร่กระจาย สง่ิ ไมด่ ีออกไปสู่สงั คม  212 “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจิต” ฉบับนกั สื่อสาร

“การสงั หารหม่”ู การสงั หารหม(ู่ Mass murder) หมายถงึ การท�ำ ใหค้ นตายเปน็ หมใู่ นเวลา เดยี วกนั หรือไลเ่ ลีย่ กนั โดยอาจเปน็ การกระทำ�ของบุคคลหนง่ึ /กลุ่มบคุ คล/ องคก์ รหรอื รัฐ สาเหต/ุ แรงจูงใจ/ลักษณะบคุ ลกิ ภาพของฆาตกรสังหารหมู่ การคน้ หาสาเหตหุ รอื การอธิบายในแง่จติ วิทยายงั ไม่ชัดเจนกระจ่างแจง้ หรอื ยงั เปน็ ความลบั ด�ำ มดื สาเหตแุ รงจงู ใจในแตล่ ะกรณลี ว้ นแตกตา่ งกนั การ แบ่งชนิด/ประเภทของสาเหตุแรงจูงใจล้วนหลากหลายแตกตา่ ง ดังนี้  แรงจงู ใจในการสงั หารหมู่ อาจเกดิ ขน้ึ ไดท้ งั้ จากปจั จยั ภายนอก เชน่ การสงั หารหมตู่ ามการชน้ี �ำ ของผนู้ �ำ และปจั จยั ภายใน เชน่ การฆา่ สมาชกิ ใน ครอบครัวหรือแม้แต่ ฆ่าสัตว์เล้ียงในบ้านพร้อมกันในคราวเดียวของผู้เป็น หัวหน้าครอบครัว ของผู้กระทำ�ผิด ฆาตกรที่กระทำ�การมักจะมีความแค้น ในใจและครอบครองอาวุธ มักมีความคิดในการรบ/สงครามซ่อนเร้นอยู่ ภายใน คนเหล่านี้จะมีการเก็บสะสมอาวุธต่าง ๆหลากหลายชนิด ต้ังแต่ มดี พกไปจนถงึ ระเบดิ มอื ลกู เลก็ ๆ เปน็ แรงขบั ภายในและการจนิ ตนาการใน เรอ่ื งการฆา่ ซ่ึงไดพ้ ูดถึงแรงจงู ใจในการสงั หารหมู่ ดังนี้  ฆาตกรสังหารหมู่เป็นพวกกระหายอำ�นาจและต้องการควบคุม คนอื่น ชอบแต่งกายคล้ายนักรบทหาร/ตำ�รวจ ชอบและหลงใหลใน สัญลักษณ์พลังอำ�นาจ และอาวุธจู่โจมอาวุธสงคราม ปืน ระเบิด เป็นต้น “Top Hits ความร้สู ขุ ภาพจิต” 213 ฉบบั นกั ส่ือสาร

 เป็นการล้างแค้น (Revenge killings) คนที่ต่อต้าน/ มีความ แตกตา่ งจากตน จากการถกู ล้อเลียน ถกู ขม่ ขู่ ดถู กู ความเป็นมนุษยข์ องตน การแก้แค้นอาจเป็นกับบุคคล / กลุ่มบุคคล/ หรือคนในสังคม ส่วนมาก การแก้แค้นมักเกิดกับคนในครอบครัว/โรงเรียน/ คนในท่ีทำ�งาน/หัวหน้า/ พนักงานในท่ที �ำ งานเดยี วกนั  ฆาตกรสังหารหมู่ ท่ีกระทำ�เพ่ือความจงรักภักดี หรือความรักที่ บิดเบือน (Provered Love Killing) เช่น การฆ่ายกครัว ฆ่าเพราะคิดว่า เป็นการปกป้อง/ช่วยเหลือคนท่ีตนรักให้พ้นจากความทุกข์และความยาก ลำ�บากในชีวิต มองว่าตนเป็นผู้รับผิดชอบในความสุข ความทุกข์ของคน ในบ้านฆาตกรมักจะเป็นผู้ชายท่ีเป็นพ่อหรือสามีที่ส้ินหวังกับชะตากรรม ของครอบครวั  อดุ มการณท์ างการเมอื งและความเกลยี ดชงั เชอ้ื ชาติ (Politics and hate) เป็นการก่อการร้ายเพื่อวัตถุประสงค์อุดมการณ์ทางการเมือง และ ศาสนา โดยความคดิ มมุ มองของฆาตกร จ�ำ เปน็ ตอ้ ง ก�ำ จดั /ฆา่ คน(กลมุ่ ชน) ท่ีแตกต่างจากตน (ความเชื่อ ลัทธิ ศาสนา การเมือง) เพือ่ ลดจ�ำ นวนชนชาติ ท่ีเป็นศัตรูกับตน เช่น การสังหารหมู่ชาวยิวโดยฮิตเลอร์เป็นการฆ่าล้าง เผ่าพันธุ์ชาวยิว เพราะฮิตเล่อร์มองว่า ยิวคือปัญหาของเยอรมัน หรือ เหตกุ ารณร์ ะเบดิ ฆา่ ตวั ตายในอิสราเอล ฯลฯ  ความเจบ็ ปว่ ยทางจติ ใจ มคี วามเศรา้ และซมึ เศรา้ อยา่ งมาก ในขณะ เดยี วกนั ก็มีความโกรธและหวาดระแวงผู้อื่นจนท�ำ รา้ ยและฆ่าผ้อู นื่ ได้  อทิ ธพิ ลจากสื่อวิดีโอเกม 214 “Top Hits ความรู้สขุ ภาพจติ ” ฉบับนกั ส่อื สาร

ประเภทของผู้ลงมอื สังหารหมู่ การเปน็ สาวก/การเป็นลกู ศิษย์ เปน็ การกระทำ�ตามคำ�สั่งของหัวหนา้ / ผนู้ �ำ ท่ีเขาหลงใหล พวกเขาตกอยภู่ ายใตม้ นต์เสนห่ ข์ องผู้น�ำ ปรารถนาที่จะ ทำ�ให้ผู้นำ�พึงพอใจ เหยื่อจะขึ้นอยู่กับการสุ่มเลือกหรือจากสัญลักษณ์บาง ประการทจี่ ะรเู้ ฉพาะตวั ผนู้ �ำ เทา่ นนั้ อาวธุ ทใี่ ชอ้ าจเปน็ พวกมดี ปนื หรอื พวก แก๊สพษิ อาวธุ ชีวภาพ หรอื อาวุธอืน่ ๆในการสงั หารคนจำ�นวนมากก็เปน็ ได้ กลุ่มคนท่ีคลั่งลัทธิศาสนา การฆ่าเพื่อความจงรักภักดี หรือการกระทำ�เพ่ือ แกง๊ ค์ ก็ถกู จัดอยูใ่ นประเภทนี้ การท�ำ ลายลา้ งอยา่ งถอนรากถอนโคน แสดงถงึ การมปี ญั หาสขุ ภาพจติ ของฆาตกร การมีพฤติกรรมรุนแรงกับคนที่อยู่ร่วมในครอบครัว ปกติมัก จะเป็นเด็กชายที่อายุมากทส่ี ุดในบา้ น มพี ฤตกิ รรมแปลกๆ มกั จะฆ่าทุกคน ในครอบครัว รวมท้ังสัตว์เลี้ยงในบ้านในคราวเดียวกัน หลังจากน้ัน มักจะ ฆา่ ตัวตายหรอื ถูกต�ำ รวจยิงตาย พฤติกรรมนยี้ งั หาสาเหตุไมเ่ จอ ลกู จา้ งทข่ี นุ่ เคอื งใจมกั จะเปน็ ลกู จา้ งทถ่ี กู เลกิ จา้ ง สญู เสยี อาชพี การงาน อาจจะถกู ออกเพราะปญั หาทางสขุ ภาพกาย/สขุ ภาพจติ ฆาตกรจะปรากฎตวั และเดินไปรอบๆท่ีทำ�งาน เลือกยิงเหย่ือท่ีคิดไว้ในใจ หรืออาจจะกราดยิง ไม่เลือก อาจเป็นลูกจ้างท่ีจ้างมานาน หรือเข้าทำ�งานไม่นาน เพราะเชื่อว่า ตนไมไ่ ดร้ ับความยุตธิ รรม นกั รบจ�ำ ลอง ฆาตกรประเภทนมี้ กั จะเกบ็ สะสมอาวธุ เชน่ ปนื ปนื ไรเฟลิ ระเบิดลกู เลก็ ๆ หรอื อาวธุ หลากหลายทมี่ าจากภูมภิ าคตา่ ง ๆ การจู่โจมจะ มาจากการวางแผนท่ีรัดกุมเพื่อให้โลกเห็นการต่อต้านรุนแรงและความไม่ ถกู ต้องในแนวทางบางอยา่ ง “Top Hits ความรูส้ ขุ ภาพจิต” 215 ฉบับนักสือ่ สาร

แนวทางการดูแลในระดบั โรงเรยี น/ครอบครัว /ชุมชน ที่ผ่านมา การเกิดเหตุการณ์แต่ละคร้ัง เป็นการยากมากที่จะป้องกัน เหตกุ ารณ์ คาดเดาไดย้ ากในเน่ืองจากฆาตกรทลี่ งมอื กระทำ�ไมเ่ คยมีประวัติ ความรุนแรง การวนิ ิจฉัยว่าใครในชุมชน/ในโรงเรยี นจะกอ่ การ ขอ้ มลู มีน้อย มาก แนวทางเบ้อื งตน้ ที่ควรปฏิบัติ คอื 1. มีการคัดกรองและส่งต่อเด็ก/ บุคคลที่มีปัจจัยเส่ียง พบแพทย์ และรกั ษาอาการตอ่ ไป ซ่งึ ปัจจยั เสี่ยงตอ่ พฤตกิ รรมท่ีคนครอบครัว/ คร/ู คนในชุมชน ควรสงั เกตและส่งตอ่ ดังน้ี  มีความเบี่ยงเบนทางความคิดคิดฆ่าตัวตาย/ฆ่าผู้อ่ืน/รู้สึกว่า ถูกข่มเหงรังแก/ หวาดระแวง/ โทษคนอื่น/ ไม่ยอมรับความแตกต่างทาง ความคิด/ ไม่ยอมรับคนท่ีมีทัศนคติแตกต่างจากตน/ หลงตนเอง/ มีความ อดทนตอ่ ความคบั ขอ้ งใจตํ่า  แปลกแยกและปฎเิ สธผอู้ น่ื /ชอบอยสู่ นั โดษ/โดดเดย่ี ว/แยกตวั / ไม่มีเพื่อน/ ถูกรังแกข่มเหง/ แต่งตัวหรือแสดงพฤติกรรมแปลกๆ / รู้สึก ถกู ปฎิเสธ/ ล้มเหลว/ ซมึ เศรา้ / รสู้ ึกส้นิ หวงั  สิ่งแวดล้อมที่บ้านไม่ดี มีการใช้ความรุนแรง/ การทำ�หน้าที่ ของครอบครวั บกพรอ่ ง/ ขาดคนเอาใจใสด่ แู ล/ ไมไ่ ดร้ บั ความรกั ความอบอนุ่ จากพอ่ แม่  เข้าแก๊งค์/ เพื่อการการแก้แค้น/ การทำ�ความผิดด้วยการ ยิงปืน) มีการสักตามตัว /การวาดภาพหรือเขียนบนกำ�แพง หรือสีที่เป็น สญั ลักษณข์ องแกง๊ ค์ ใช้สัญญาณมอื 216 “Top Hits ความรสู้ ขุ ภาพจติ ” ฉบบั นักสอื่ สาร

 มปี ระวตั ถิ กู กระท�ำ /ประสบความรนุ แรง ความรนุ แรงในบา้ น/ ในชมุ ชน ถกู กระท�ำ ทารณุ กรรมหรอื เปน็ คนใชค้ วามรนุ แรงกบั คนอน่ื / ครู่ กั / สตั ว/์ ขา้ วของ  มพี ฤติกรรมข่มขรู่ ังแกคนอ่ืน ควบคมุ ความโกรธไม่ได้ หลงตัว เอง/ตอ่ ต้านสังคม/หวาดระแวง/มีบุคลกิ ภาพแบบคกุ คาม/กอ่ กวน  ยาํ้ คดิ ในเรอื่ งความรนุ แรง จากดนตรี ภาพยนตร์ วดิ โี อเกม การ เขยี นขอ้ ความ/ศลิ ปะแสดงถงึ ความรนุ แรง การใสเ่ สอ้ื ผา้ /การแตง่ กายทเ่ี นน้ ความรนุ แรง การสะสมอาวธุ ยธุ โธปกรณ์ เปน็ เจา้ ของอาวธุ ปนื มคี วามคดิ ใน การสูร้ บ  มีปัญหาการเรียน/ปัญหาการงาน/ไม่ค่อยสนใจในการงาน/ การเรียน/ ผลการเรียนไม่ดี/ ผลงานน้อย /มีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย/หนี โรงเรียน/ละทง้ิ หนา้ ที่การงาน/มีปัญหากบั เพื่อนรว่ มงาน  มีการใช้ยาเสพติด-ดื่มสุรา/กัญชา/ฝิ่น/เฮโรอีน/ยาบ้า/ สารระเหย 2. การใหค้ วามรกู้ บั เจา้ หนา้ ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ ง/ผปู้ กครอง/ครอบครวั /และ ชมุ ชน การใหค้ วามรกู้ บั เจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ กครอง/คนในครอบครวั /คนในชมุ ชน เป็นมาตรการที่ช่วยให้มีการระแวดระวัง/คัดกรองคนท่ีมีความคิดก่อการ ได้มากข้ึน “Top Hits ความรสู้ ขุ ภาพจติ ” 217 ฉบับนกั ส่อื สาร

ที่ปรกึ ษาและคณะทำ�งาน ทปี่ รกึ ษา อธิบดีกรมสขุ ภาพจิต น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรอื งวรวฒั น์ รองอธบิ ดกี รมสุขภาพจิต นายแพทยช์ โิ นรส ลส้ี วัสดิ ์ รองอธิบดีกรมสขุ ภาพจิต นายแพทย์พงศเ์ กษม ไขม่ ุกด ์ รองอธิบดีกรมสขุ ภาพจิต นายแพทยส์ มัย ศริ ทิ องถาวร ที่ปรกึ ษากรมสขุ ภาพจติ นายแพทย์ยงยทุ ธ วงศภ์ ริ มยศ์ านติ์ ผูอ้ �ำ นวยการ นางนนั ทนา รตั นากร กองสุขภาพจิตสังคม สถาบนั กลั ยาณร์ าชนครนิ ทร์ นายแพทยอ์ ภิชาติ แสงสนิ คณะท�ำ งาน ทับทิมเจือ กองสขุ ภาพจิตสังคม นางสาวปยิ ฉตั ร นาทะพนั ธ ุ์ กองสขุ ภาพจิตสังคม นายชนินทร์ ฉัตรทอง กองสขุ ภาพจติ สังคม นายอานนท์  218 “Top Hits ความร้สู ุขภาพจติ ” ฉบบั นกั ส่ือสาร