Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 21022019_120901-0000000986

21022019_120901-0000000986

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-11-16 21:19:13

Description: 21022019_120901-0000000986

Search

Read the Text Version

พษิ รายใกลต ัว... สารตะกั่ว ในศูนยพัฒนาเดก็ เล็ก

พษิ รา ยใกลต ัว...สารตะกั่วในศนู ยเดก็ เล็ก จัดพิมพค ร้งั ท่ี 1 ป 2559 จัดทำและเผยแพร : กลมุ เวชศาสตรสิ่งแวดลอ ม สำนกั โรคจากการประกอบอาชพี และสิง่ แวดลอ ม โทรศพั ท : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทรสาร : 0 2590 4393 อีเมล : 0 2591 8218 ทอ่ี ยู : [email protected] สำนักโรคจากการประกอบอาชพี และสิ่งแวดลอ ม กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ อาคาร 5 ชัน้ 6 ตึกกรมอนามัย ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมอื ง จงั หวัดนนทบรุ ี 11000 รวบรวมและเรยี บเรยี ง : นายจักรี ศรแี สง นางสาวกาญจนา เชือ้ คำ นางสาวศภุ มิตรา คำผาลา ปทจ่ี ัดทำ : สงิ หาคม 2559 ISBN : 978-616-11-3145-6

คำนำ ปญหาการสัมผัสสารตะกั่ว เปนปญหาสำคัญที่ตองใหความสำคัญ เนื่องจากกลุมเด็กเล็กท่ีมีอายุระหวาง 0-5 ป เปนชวงอายุที่มีความเสยง ทอ่ี าจไดร บั อนั ตรายตอ สขุ ภาพจากการสมั ผสั สารตะกวั่ เขา สรู า งกาย และเส่ยี งตอ การลดลงของระดบั สตปิ ญ ญา เกดิ ปญ หาดา นพฤตกิ รรม ภาวะโลหติ จาง ฯลฯ ความเสี่ยงสำคัญที่จะทำใหเกิดการสัมผัสสารตะกั่วเขาสูรางกายเด็ก คอื การใชผ ลติ ภณั ฑท มี่ กี ารปนเปอ นสารตะกวั่ เชน ของเลน เดก็ ภาชนะบรรจอุ าหาร สีทาบาน ฯลฯ ศูนยพัฒนาเด็กเล็ก เปนสถานที่แหงหนึ่งท่ีมีการดูแลเด็กเล็ก เปน จำนวนมากในแตล ะวนั ซง่ึ หากศนู ยพ ฒั นาเดก็ เลก็ มสี ง่ิ แวดลอ มปนเปอ นสารตะกวั่ จะทำใหเดก็ มคี วามเส่ียงตอ การรับสมั ผัสเขา สรู างกาย ดังนั้น เจา หนาท่ีหรอื ครพู เี่ ลยี้ งประจำศนู ยเ ดก็ เลก็ จงึ เปน บคุ คลสำคญั ทจี่ ะทำใหเ กดิ ความปลอดภัย จากการสัมผัสสารตะก่ัวเขาสูรางกายของเด็ก โดยคูมือเลมน้ีสามารถใชเ ปน องคค วามรูเก่ียวกับอันตราย แหลงปนเปอนตะก่ัว การปองกันการสัมผัส สารตะกั่วฯลฯ เพื่อนำไปสูการนำความรูไปประยุกตใชในการปองกันการ สัมผสั สารตะก่ัวของเดก็ ภายในศูนยพัฒนาเด็กเล็กตอไป สำนักโรคจากการประกอบอาชพี และส่งิ แวดลอม สงิ หาคม 2559

สารบญั ความรูเรอื่ งสารตะกวั่ 1 แหลง ปนเปอนสารตะกั่วในศูนยพฒั นาเดก็ เลก็ 2 สารตะกั่วเขาสูรา งกายไดอยางไร? 3 ผลกระทบตอสุขภาพ 4 ทำไมเดก็ มีความเส่ียงมากกวา ผูใ หญ? 5 การตรวจหาสารตะก่ัว 6 การปอ งกันและจัดการปญ หา 7 การปนเปอ นสารตะกว่ั ภายในศูนยพ ัฒนาเดก็ เล็ก ลา งมอื อยางไร...ใหปลอดภัยจากสารตะกวั่ 11 เอกสารอา งอิง 12 คณะผูจดั ทำ 12

พิษรายใกลต ัว... สารตะก่ัวในศนู ยพ ัฒนาเด็กเลก็ 1 ความรูเรอื่ งสารตะกัว่ L EAD สารตะก่ัว เปน สารโลหะหนกั ทม่ี ีคุณสมบตั อิ อ นตวั และสามารถ ดัดแปลงเปน รูปรางตางๆ ไดงาย ฯลฯ สารตะก่ัวมีการใชประโยชน ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ซึ่งสามารถเกิดอันตรายตอสุขภาพได หากมกี ารรับสัมผัสเขาสูรางกาย โดยเฉพาะอยางย่ิงกลุมเด็กเล็ก ซึ่ง คาดการณวาในแตละปสารตะกั่วจะเปนสาเหตุท่ีทำใหเด็กทั่วโลก เกดิ ความบกพรองทางสติปญ ญาสูงถึงปล ะกวา 600,000 คน การใชประโยชนจากสารตะกวั่ - ผลติ สีทาบาน - แบตเตอรี่ - ผลติ กระเบื้องเซรามิก - โรงพิมพ - ชบุ เคลือบโลหะ - ตะกั่วบัดกรี - อูตอ เรือไม( เสน) - แหอวน - ผลิตแผน วงจรไฟฟาและอุปกรณอเิ ล็กทรอนกิ ส - นำ้ มนั เช้อื เพลงิ (ปจ จุบนั ยกเลิกการใชแลว )

2 พิษรา ยใกลต ัว... สารตะก่วั ในศนู ยพฒั นาเด็กเล็ก แหลงปนเปอนสารตะกั่ว ในศูนยพฒั นาเด็กเล็ก สีทาอาคาร เชน พ้นื ผนัง รวั้ เหลก็ หรอื เพดาน ทีม่ ีการหลดุ ลอกของสี ของเลนสนาม ที่มีการทาสีและมีการ หลุดลอกของสี ภาชนะบรรจุอาหารและน้ำด่ืม เชน จานเซรามิกทม่ี ีลวดลาย ตูน ำ้ เย็นที่มรี อย เชื่อมของตะก่วั เครื่องใชและของเลนเด็ก เชน โตะ เขยี น ABC เกา อี้ ของเลน ไมห รอื พลาสตกิ

พษิ รายใกลต วั ... สารตะกวั่ ในศนู ยพ ัฒนาเดก็ เล็ก 3 สารตะก่ัวเขา สูร างกาย ไดอ ยางไร? 1 ทางการหายใจ เกดิ จากการหายใจเอาควัน ไอระเหย หรอื ฝนุ ละอองท่มี ตี ะกวั่ ปนเปอ น ในอากาศเขา ไปในรางกาย 2 ทางการกิน เกดิ จากการกนิ อาหาร นำ้ ด่ืมทีม่ กี ารปนเปอ นสารตะกว่ั โดยเปนสาเหตุสำคญั ทท่ี ำใหเ กดิ การรบั สารตะกัว่ เขา สูรา งกายของเด็ก 3 ทางผวิ หนัง เกดิ เฉพาะสารตะกวั่ อนิ ทรียท ม่ี ีการผสมกับน้ำมันเบนซนิ (แตปจจบุ นั มีการยกเลกิ การผสมตะกัว่ ในน้ำมันเชอ้ื เพลิงแลว)

4 พษิ รายใกลตวั ... สารตะกั่วในศนู ยพฒั นาเด็กเลก็ ผลกระทบตอ สุขภาพ พฒั นาการ : โตชา สมอง : ปญหาดา นพฤตกิ รรม ตัวไมสูง นำ้ หนักเพมิ่ ชา พฒั นาการดา นสมองและระดบั สตปิ ญ ญาของเดก็ ตำ่ การไดยนิ ลดลง การเรยี นรผู ดิ ปกติ ไต : ถกู ทำลาย ตับ : ถกู ทำลายและถกู ขดั ขวาง ไตวาย การสรา งวติ ามินดีทต่ี ับ จงึ ทำใหเ จรญิ เติบโตชา เม็ดเลือดแดง ทางเดินอาหาร : ปวดทอง : แตกงา ย ทองบดิ อาเจยี น เกดิ ภาวะโลหติ จาง กระดกู และกลามเนือ้ : ลดการเจริญเติบโต • ไมมรี ะดับสารตะกัว่ ทีป่ ลอดภัยสำหรบั มนุษย • ระดบั สารตะกว่ั ในเลือดท่มี ีคา มากกวา 10 ไมโครกรมั ตอเดซิลิตร ในเดก็ อายตุ ่ำกวา 5 ป ทำใหร ะดบั สติปญญา (IQ) ลดลง 2-3 จดุ • เดก็ ทีข่ าดสารอาหารธาตุเหล็กและแคลเซยี ม จะเพิ่มการดดู ซมึ สารตะกั่ว •

พิษรา ยใกลตัว... สารตะกัว่ ในศูนยพ ัฒนาเด็กเล็ก 5 ทำไมเดก็ มีความเส่ียง มากกวาผูใหญ? 1 พฤติกรรมเด็กท่ีมีความเสี่ยงในการรับสารตะก่ัวเขาสูรางกาย ไดแก ชอบเลน ตามพน้ื ไมลา งมอื การดดู นิว้ หรือหยบิ สิง่ ของเขาปาก เปน ตน 2 อัตราการหายใจของเด็กสูงกวา ผูใ หญ สงผลใหด ูดซมึ อนภุ าคฝนุ ทป่ี นเปอ น สารตะกว่ั ไดมากกวาผใู หญ 3 การดูดซึมสารตะก่ัวในเด็กจะมากกวาผูใหญ 4-5 เทา โดยระบบ ทางเดินอาหารของเด็กจะดูดซึมสารตะก่ัวไดมากกวาถึงรอยละ 50 ของท้งั หมดที่รับประทานเขาไป ขณะที่ระบบยอยอาหารของผูใหญจะ ดูดซมึ ไดเ พียงรอ ยละ 10 เทา นน้ั 4 พัฒนาการทางสมองจะเกิดข้ึนมากท่ีสุดในชวงวัยเด็ก หากเด็กไดรับ สารตะกั่วเขาสูรางกายจะทำใหเกิดการขัดขวางพัฒนาการของสมอง ซ่ึงสงผลตอการทำงานของสมองไปตลอดชีวิต

6 พษิ รา ยใกลตวั ... สารตะกว่ั ในศูนยพัฒนาเดก็ เลก็ การตรวจหาสารตะกว่ั ในส่ิงแวดลอม สามารถทำไดห ลายวธิ ี เชน ตรวจวดั สารตะกว่ั ในดนิ นำ้ บรโิ ภค อากาศ ฯลฯ รวมทงั้ การเก็บตวั อยางฝนุ ตะกัว่ ดวยวิธกี ารปด (Wipe method) เน่ืองจากงา ย และสะดวกในการเกบ็ ตวั อยาง เพ่อื นำมาวเิ คราะหทางหอ งปฏิบตั กิ าร ในรางกาย ควรมีการประเมินความเส่ียงตอการสัมผัสสารตะกั่วกอนที่จะมีการ ตรวจระดับสารตะก่ัวในรางกาย ซ่ึงสามารถตรวจไดโดยการเก็บตัวอยางเลือด มาวเิ คราะห (ระดับตะกั่วในรา งกายเดก็ ไมควรเกนิ 10 ไมโครกรัม/เดซลิ ติ ร)

พิษรายใกลตวั ... สารตะกั่วในศนู ยพ ัฒนาเด็กเล็ก 7 การปองกันและจดั การปญหา การปนเปอนสารตะก่ัว ภายในศูนยพฒั นาเด็กเล็ก การปอ งกันสารตะกัว่ ในอาคาร ของเลน หรือ เครอ่ื งใช 1 เลือกใชสีทาอาคารท่ไี ดมาตรฐาน หรอื ไมมกี ารผสมสารตะกว่ั ลงไป และเลือกสนี ้ำทาอาคารแทนสีนำ้ มนั 2 ทำความสะอาดพื้น/ขอบหนาตา ง/ ขอบเตยี ง/ ท่นี อน หมอนอยางสมำ่ เสมอ 3 หากพบสีที่ทาบริเวณพื้นหรือผนังมี การหลุดลอกของสี ควรมีการขดู ลอก สเี กา ออกแลวทาสใี หมทบั และหา ม ใหเดก็ เขา ไปในบรเิ วณดังกลาว 4 เลอื กของเลนหรือเครือ่ งใชทีไ่ ดมาตรฐาน ปลอดสารตะก่ัวหรือมี มอก.รับรอง เชน ของเลน เครอื่ งเลน สนาม ตูน ้ำเย็น ฯลฯ หากพบการหลดุ ลอกของสี ควรงดใชง าน

8 พษิ รา ยใกลตัว... สารตะกั่วในศูนยพัฒนาเด็กเล็ก การขดู สีอยางปลอดภัย 1 ผูปฏบิ ัตงิ านควรสวมใสอุปกรณปองกนั อันตรายท่เี หมาะสม เชน หนากาก เสอื้ แขนยาว กางเกงขายาว ถงุ มอื ฯลฯ และควรใชกระดาษหรอื พลาสติก รองพน้ื ทที่ ำงาน เพอื่ รองรบั เศษสี และควรมกี ารนำเศษสไี ปกำจดั อยา งปลอดภัย 2 ทำความสะอาดผนัง (ควรฉีดพรมดวยน้ำเพ่ือลดการกระจายของฝุนส)ี แลว ใชเกรียงแซะเศษสีทห่ี ลุดลอนออก จากน้นั เชด็ ดวยผา สะอาดอกี ครั้ง 3 ผสมน้ำยาลอกสีในถังผสม ใชแปรงทาสีทาน้ำยาลอกสีใหท่ัวบริเวณผนงั โดยทาบางๆ ซำ้ สกั 2-3 รอบ เพื่อใหนำ้ ยาซึมเขา ไปในเน้อื สี 4 ท้งิ ไวประมาณ 20 นาที ใหน ำ้ ยาลอกสที ำปฏกิ ิริยากบั เน้อื สีเดมิ จากนนั้ ใช เกรยี งขดู หนาสอี อก หรือจะใชเครอื่ งขดั กระดาษทรายแทนก็ได 5 ใชผ งซกั ฟอกลา งทำความสะอาดผนงั อกี ครงั้ เพอ่ื ขจดั คราบมนั จากนำ้ ยาลอกสี และทำใหท าสีใหมติดทบั งา ยขน้ึ จากนน้ั ปลอยใหผนงั แหง 6 เม่ือลอกสีเสร็จแลว หากสังเกตวาผนังมีรอยเจาะตะปูหรือรอยแตกรา ว ใหใชเกรียงปาดผลิตภัณฑสีโปวอะครีลิครอยเปอรเซ็นตชนิดสีขาว อุดรองรอยดงั กลาว

พิษรายใกลต ัว... สารตะกั่วในศนู ยพฒั นาเด็กเลก็ 9 7 ทาสีรองพน้ื ปนู ใหท่ัว 1 รอบ ปลอยท้งิ ไวน าน 2-3 ช่วั โมง จนสแี หงสนทิ เม่ือจบั ดูจะไมเหนียวมือและเปน เนือ้ เดียวกับปนู 8 เมอ่ื สีรองพื้นปูนแหงสนิทดีแลว ควรทาสีใหมทับหนา ซ่ึงมีใหเลือกทั้ง สีภายในและสีทาภายนอก โดยวิธีการใชสี เปดดูตามคูมือหรือฉลาก ขางกระปองสี ควรทาบางๆ ซ้ำ 2 รอบ เพื่อใหสีเรียบเนียน ไมควร ลงทีเดียวหนาๆ เพราะจะทำใหเน้ือสีไมเสมอกัน ผนังจะดูไมสวยงาม คำแนะนำทางโภชนาการและสขุ ลกั ษณะ 1 ควรสงเสริมใหเด็กรับประทานอาหาร ที่มธี าตเุ หลก็ และแคลเซยี มสงู เชน นมจืด วันละ 2 กลอง ไขไกวันละ 1 ฟอง เนื้อสตั ว ผักและผลไม ฯลฯ 2 สงเสริมใหเด็กออกกำลังกายเปนประจำ เชน โยนลูกบอล กระโดดเชือก ฯลฯ ชวยกระตุนการสรางมวลกระดู ก และเพิม่ ความยาวของกระดกู 3 ดูแลเด็กใหนอนหลับพักผอนอยางนอย วนั ละ 10-11 ชว่ั โมง เพอื่ สง เสรมิ พฒั นาการ และการเจริญเติบโต

10 พิษรา ยใกลต ัว... สารตะก่ัวในศนู ยพัฒนาเดก็ เลก็ การปองกนั การสมั ผสั สารตะกว่ั ของเดก็ 1 ควรฝก ใหเ ด็กไมอมของเลนหรอื นำสิ่งของตา งๆ เขาปาก โดยเฉพาะของทตี่ กพื้น 2 ควรใหเด็กลางมอื กอนรบั ประทานอาหาร หรือหลังจากคลานตามพน้ื ว่ิงเลน นอกสนาม ใชมอื จบั สิง่ สกปรก หรือการทำกิจกรรมอ่นื ๆ ทมี่ ีโอกาสสัมผัสสารตะก่ัว 3 ควรสง เสรมิ ใหเ ดก็ รบั ประทานอาหาร ท่มี ธี าตเุ หลก็ และแคลเซียมสูง, ไขมันตาํ่ เชน นมจืดวนั ละ 2 กลอง ไขไกว ันละ 1 ฟอง เนือ้ สตั ว ผกั และผลไม ฯลฯ 4 ควรปรึกษาแพทยท นั ทเี มอื่ สังเกตพบอาการ ของเด็กผิดปกติ เชน ซีดมาก ชัก ซึม ปวดทอ ง พัฒนาการชา การเจริญเติบโตชา ฯลฯ หากตองการขอมูลเพม่ิ เตมิ สามารถตดิ ตอสอบถามกับหนว ยงานสาธารณสุขในพน้ื ท่หี รือ สำนกั โรคจากการประกอบอาชีพและสิง่ แวดลอม กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ โทรศพั ท 02-590-4393 โทรสาร 02-591-8218 E-mail : [email protected] Website : envocc.ddc.moph.go.th

พิษรายใกลตัว... สารตะกว่ั ในศนู ยพ ัฒนาเดก็ เลก็ 11 ลา งมอื อยางไร... ใหป ลอดภยั จากสารตะก่ัว ลางมือถูกวธิ ี 7 ขน้ั ตอน เพอ่ื มือสะอาด ลดโอกาสท่อี าจนำไปสูโรคตา งๆ 1 ฝา มอื ถูกนั 6 ปลายนิ้วมือ 2 ฝา มอื ถหู ลงั มอื ถขู วางฝา มือ และนิว้ ถูซอกนว้ิ 7 ถรู อบขอ มอื 5 ถูนิ้วหัวแมมือโดยรอบ 3 ฝา มอื ถฝู า มอื ดวยฝามอื และน้วิ ถซู อกนิว้ 4 หลงั นว้ิ มอื ถูฝา มอื

12 พษิ รายใกลตัว... สารตะก่วั ในศนู ยพฒั นาเดก็ เลก็ เอกสารอางอิง มลู นธิ ิบูรณะนเิ วศ. สารตะก่วั ในสี มหันตภยั ใกลตัวเดก็ . 2557. สถาบันสขุ ภาพเด็กแหง ชาติมหาราชินี. คมู ือการดแู ลเดก็ หา งไกลพิษสารตะกั่ว. พิมพค ร้ังท่ี 1. นนทบรุ ี: เอฟเวอรร ต่ี งิ ไอเดยี ; 2557. สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดลอ ม. แนวทางการดำเนินงานเฝา ระวังและ ปองกันการสัมผสั สารตะก่วั ในเดก็ ปฐมวัย. พมิ พค รั้งท่ี 1. กรงุ เทพฯ:ศนู ยส อื่ และ สิ่งพมิ พแกว เจาจอม; 2558. World Health Organization.Childhood Lead Poisoning.Geneva:WHO; 2010 คณะผจู ดั ทำ ท่ีปรึกษา สำนกั โรคจากการประกอบอาชีพและส่งิ แวดลอม กรมควบคมุ โรค เปรมปรี ผอู ำนวยการสำนกั โรคจากการ ประกอบอาชีพและสง่ิ แวดลอ ม 2. นางสธุ ิดา อุทะพันธุ หัวหนา กลมุ เวชศาสตรสิ่งแวดลอ ม ผูจดั ทำ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ 1. นางสาวณราวดี ชินราช นักวิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ 2. นายธนะวรรธน รตั นวิทูรย นักวชิ าการสาธารณสขุ ปฏบิ ตั กิ าร 3. นายจักรี ศรีแสง นกั วิชาการสาธารณสุขปฏบิ ตั ิการ 4. นายประหยดั เคนโยธา นักวิชาการสาธารณสุขปฏบิ ัติการ 5. นางสาวกาญจนา เชื้อคำ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัตกิ าร 6. นางสาวศุภมติ รา คำผาลา นักวิชาการสาธารณสขุ 7. นายราชันย ตนกนั ยา นกั วิชาการสาธารณสุข 8. นางสาววาธิดา เรืองสมบัติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook