Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore CBI_NCDs62

CBI_NCDs62

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-21 03:45:31

Description: CBI_NCDs62

Search

Read the Text Version

ตารางที่3ตวั อยา่ งวธิ กี ารดำเนนิ งานชมุ ชนลดเสยี่ ง ลดโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รงั โดยสรปุ บทเรยี นจากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 5แหง่ ไดแ้ ก่ 1) เทศบาลตำบลท่าแค จังหวัดพัทลุง, 2) องค์การบริหารส่วนตำบลโคกยาง จังหวัดกระบี่, 3) เทศบาลตำบลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา, 4) เทศบาลเมืองอา่ งทอง จังหวัดอา่ งทอง และ 5) เทศบาลเมอื งน่าน จังหวดั น่าน หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงอาปน ทท.อ้ งถ่ิน/ ภาคเี ครอื ข่าย เชน่ ที่เกยี่ วขอ้ งกับการ ขนั้ ตอน ภาคประชาชน โรงเรียน วดั NGO ดำเนินงาน เช่น รพ.สต. รพช. รพท. รพศ. เกษตร ฯลฯ ฯลฯ (โปรดระบ.ุ ..) 4. การดำเนนิ การ - โรงเรยี นชว่ ยในการวาง - รพช. และรพ.สต. ตามแผนชมุ ชน ระบบจดั การสขุ ภาพ การ สนบั สนนุ องคค์ วามรู้ - ระยะกอ่ น - เตรยี มหนว่ ยงานและบคุ ลากร - แกนนำ อสม. เตรยี มชมุ ชน จดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ ออ้ื และบคุ ลากรในการ ดำเนนิ การ เพอ่ื สนบั สนนุ การดำเนนิ งาน และชแ้ี จงเบอ้ื งตน้ ตอ่ การสรา้ งสขุ ภาพ ดำเนนิ งาน - ระยะ - สนบั สนนุ งบประมาณ - ประธานชมุ ชน คณะกรรมการ - โรงเรยี นเปน็ แหลง่ เรยี นร ู้ - รพช. และรพ.สต. มี ดำเนนิ การ ทรพั ยากรและสถานทใ่ี นการ ชมุ ชน อสม. และประชาชน ใหแ้ กเ่ ยาวชน การประสานการดำเนนิ ดำเนนิ งานและกจิ กรรมตา่ งๆ รว่ มดำเนนิ งานในชมุ ชน - วดั รว่ มดำเนนิ การในสว่ น งานอยา่ งเปน็ ระบบ ตามแผน - ชมรมผปู้ ระกอบการรา้ น ของการดำเนนิ งานดา้ น และสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ - จดั สง่ิ แวดลอ้ มใหเ้ ออ้ื ตอ่ การ อาหาร ชว่ ยในสว่ นของการ สขุ ภาพจติ รปู แบบการดำเนนิ งาน ลดเสย่ี ง ลดโรค ขบั เคลอ่ื นงานอาหารปลอดภยั - พฒั นาชมุ ชน ประมง 49

50 ตารางท่ี3 ตวั อยา่ งวธิ กี ารดำเนนิ งานชมุ ชนลดเสย่ี ง ลดโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รงั โดยสรปุ บทเรยี นจากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 5 แหง่ ไดแ้ ก่ 1) เทศบาลตำบลท่าแค จังหวัดพัทลุง, 2) องค์การบริหารส่วนตำบลโคกยาง จังหวัดกระบี่, 3) เทศบาลตำบลพนมสารคาม จงั หวัดฉะเชงิ เทรา, 4) เทศบาลเมืองอ่างทอง จงั หวดั อ่างทอง และ 5) เทศบาลเมอื งนา่ น จังหวดั น่าน หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงอาปน ทท.อ้ งถ่นิ / ภาคีเครอื ขา่ ย เช่น ทีเ่ กีย่ วข้องกบั การ ขั้นตอน ภาคประชาชน โรงเรยี น วัด NGO ดำเนนิ งาน เชน่ รพ.สต. รพช. รพท. รพศ. เกษตร ฯลฯ ฯลฯ (โปรดระบ.ุ ..) - ผนู้ ำชมุ ชน ประสานการ เกษตรฯ กศน. รว่ มดำเนนิ ดำเนนิ งานระหวา่ งภาครฐั กบั การในสว่ นการจดั สง่ิ แวด- ประชาชน ลอ้ มทเ่ี ออ้ื ตอ่ สขุ ภาพ 5. กำกบั ตดิ ตาม - เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการ - แกนนำ อสม. และคณะ - โรงเรยี นรว่ มกำกบั ตดิ ตาม - รพ.สต. และรพช. รว่ ม และประเมนิ กำกบั ตดิ ตาม และประเมนิ กรรมการชมุ ชน รว่ มในการ และประเมนิ ผลการดำเนนิ กำกบั ตดิ ตามและ ผลการดำเนนิ ผลการดำเนนิ งานใหเ้ ปน็ ไป ตดิ ตามและประเมนิ ผล งานของชมุ ชนในสว่ นของ ประเมนิ ผลการดำเนนิ งาน โดยการม ี ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องแผนงาน - ชแ้ี จงใหช้ มุ ชนทราบผลการ เยาวชนในโรงเรยี น งานของชมุ ชน เพอ่ื หา สว่ นรว่ มของ ดำเนนิ งานเพอ่ื พฒั นาตอ่ เนอ่ื ง โอกาสพฒั นา ชมุ ชน และเกดิ ความยง่ั ยนื

โดยสรุปบทเรยี นจากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 5 แห่ง ภาพท่ี 6 ตวั อยา่ งการดำเนนิ งาน CBI NCDs ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 5 แห่ง** * แตง่ ตง้ั คณะทำงาน Plan * สร้างทมี /ภาคเี ครือข่าย Plan นวัตกรรม Do * วเิ คราะหป์ ัญหาชมุ ชน Plan ตวั ชวี้ ัด/แนวทางคดั เลอื ก * เลอื กพน้ื ทใี่ นการดำเนนิ Plan 1. ผู้นำ 2. พนื้ ท่ี คืนขอ้ มลู /ระดมความคิด Plan - ออกแบบแผนงาน Plan - จัดหางบประมาณ - บริหารจดั การ จดั ทำแผนการดำเนินงานแบบมสี ่วนร่วม ดำเนินงานตามแผน Do (ouกtำpกuบั tต, oดิ uตtาcมo/mปรeะ, เpมrนิocผeลss)Check องค์ความรู้ ถอดบทเรียน Check พัฒนากระบวนงาน/ Act Act ขยายผลการดำเนินงาน พน้ื ท่ีใหม่ Buddy หมายเหตุ * สามารถสลบั ขั้นตอนกันได้ ** องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน 5 แห่ง ได้แก่ 1) เทศบาลตำบลท่าแค จังหวัดพัทลุง, 2) องค์การบริหารส่วนตำบลโคกยาง จังหวัดกระบี่, 3) เทศบาลตำบลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา, 4) เทศบาลเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง และ 5) เทศบาล เมอื งนา่ น จงั หวัดนา่ น 51

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลลัพธแ์ ละผลผลติ ตวั อยา่ ง นวตั กรรม 1. รำวงมาตรฐานเกา้ ชอ่ งปอ้ งกนั โรคสมองเสอ่ื ม (เทศบาลเมอื งอา่ งทอง) ประกอบด้วย ท่าเดินท้ังหมดเก้าท่า จังหวะการเดินตามตัวเลขใน แตล่ ะทา่ ตอ่ ไปนนี้ บั เปน็ 1 ชดุ แนะนำใหเ้ ดนิ ซำ้ ทา่ ละ 3-5 ชดุ หรอื ทา่ ละ 2 นาที กไ็ ด้ สำหรบั ผสู้ งู อายอุ าจลดทำเพยี งทา่ ที่ 1-5 และควรเรม่ิ กา้ วดว้ ยเทา้ ซา้ ยกอ่ น เสมอ ผเู้ ริ่มฝึกใหม่ ใหเ้ รมิ่ เดนิ พรอ้ มกับแกว่งแขน เมอื่ เดนิ จนชำนาญแลว้ อาจใส่ท่ารำวงมาตรฐานในท่าเดิน เพื่อช่วยให้แขนได้ออกกำลังกายเพ่ิมขึ้น ดังนี้ ทา่ ที่ 1 สอดสรอ้ ยมาลา ท่าที่ 2 ชกั แปง้ ผดั หน้า ท่าท่ี 3 รำส่าย ท่าท่ี 4 พรหมสี่หนา้ และยงู ฟ้อนหาง และทา่ ท่ี 5 ขัดจางนาง ส่วนท่าท่ี 6-9 ให้แกวง่ แขนตามปกติ ทา่ ท่ี 1 กา้ วขึน้ -ลง แนวเสน้ ตรง (23-56-89-56-23) 789 456 123 เทา้ ซา้ ย เทา้ ขวา 52

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ทา่ ที่ 2 ก้าวจากกลางออกขา้ ง (22-46-23) 2 89 456 12 3 เทา้ ซา้ ย เท้าขวา ทา่ ที่ 3 กา้ วกากบาทแนวเสน้ ตรง (13-55-79-55-13) 2 89 45 6 1 23 เท้าซ้าย เท้าขวา 53

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ท่าที่ 4 กา้ วรูปสีเ่ หล่ียมขา้ วหลามตัด (22-46-88-46-22) 28 9 456 12 3 เทา้ ซ้าย เทา้ ขวา ทา่ ที่ 5 ก้าวเท้าซ้ายไขวก้ ับเทา้ ขวา 2 89 456 1 23 เท้าซา้ ย เทา้ ขวา 54

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” 2. เพลงชวนคนโคกยางไปออกกำลงั กาย (บา้ นควนเกาะจนั ทร์ ต.โคกยาง อ.เหนอื คลอง จ.กระบี่) เปน็ เพลงทเี่ ชญิ ชวนคนโคกยางไปออกกำลงั กาย ทเี่ ปดิ กอ่ นทจ่ี ะเรมิ่ ออกกำลงั กาย มีเนอ้ื เพลงดังนี้ เพลงชวนคนโคกยางไปออกกำลังกาย โคกยาง โคกยาง โคกยางๆ เรามาร่วมสรา้ งสขุ ภาพกัน ทกุ คน ทุกวัย หมายมน่ั ๆ สรา้ งสุขภาพกันด้วยออกกำลังกาย ผ้นู ำ ผู้ใหญ่ อบต. ประชาชนอกี หนอมาออกกำลงั กาย เชญิ ชวนพ่นี อ้ งทุกคนๆ ทัว่ ทั้งตำบลมาออกกำลงั กาย โคกยางมเี จด็ หมบู่ า้ น ชว่ ยกนั ประสานงานออกกำลังกาย หมูห่ นง่ึ ชื่อบ้านนาเหนือๆ พวกเขาไมเ่ บ่อื การออกกำลังกาย หมสู่ อง บา้ นหว้ ยแทงง ู พวกเขาเชดิ ชูการออกกำลงั กาย หมู่สาม บ้านควนนกหวา้ ๆ พ่นี ้องเขามา มาออกกำลงั กาย หมูส่ ี่ คือบา้ นโคกยาง มีเวลาว่างมาออกกำลงั กาย หมู่ห้า เขาไม่ใช่ยอ่ ยๆ เขามาไม่นอ้ ยมาออกกำลงั กาย หมู่หก ยกมอื กนั นาน ตอ้ งชว่ ยประสานการออกกำลงั กาย หมูเ่ จ็ด น้นั มันครกึ คร้นื ๆ ทุกวัน ทุกคนื เขาออกกำลังกาย ทกุ คนน้นั มีความสุข พวกเราสนกุ กบั ออกกำลงั กาย เชิญชวนพี่น้องอีกคราๆ มากนั เถิดหนามาออกกำลังกาย มโนราห์ ลิเกปา่ กลองยาว เขามาช่วยเรางานออกกำลังกาย ศิลปนิ ศลิ ปะ รวมกนั ๆ โคกยางเราน้ันสขุ สนั ตท์ ้ังใจ...กาย 55



ตวั อย่าง การดำเนินงานลดเสี่ยง ลดโรคไมต่ ดิ ต่อเรื้อรัง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในประสบการณจ์ ริงในพื้นที่ โปรแกรมรู้ไหมใครเคม็ กับการลดการบรโิ ภคเค็มในครัวเรือน ทส่ี งสยั ป่วยความดนั โลหติ สงู บา้ นควนเกาะจันทร์ ตำบลโคกยาง อำเภอเหนอื คลอง จงั หวดั กระบี่ ศริ ลิ กั ษณ์ ปลอดฤทธิ,์ บุญสงิ ห์ แก้วสขุ , พิชญา คงมาก, อมรรัตน์ ผลส่ง โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำบลบ้านบางผึ้ง องค์การบริหารสว่ นตำบลโคกยาง บทคัดยอ่ ประชาชนบา้ นควนเกาะจนั ทร์ ตำบลโคกยาง อำเภอเหนอื คลอง จงั หวดั กระบี่ สว่ นใหญ่ไม่ตระหนักวา่ อาหารที่ตนเองบริโภคมีรสชาติเคม็ และจากการ ตรวจวดั ความดนั โลหติ พบจำนวนกลมุ่ เสย่ี งและกลมุ่ สงสยั ปว่ ยความดนั โลหติ สงู มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น การบริโภคเค็มเป็นพฤติกรรมเส่ียงที่สำคัญ จึงจำเป็นต้อง ลดและควบคมุ การบรโิ ภคเค็ม เพอ่ื ลดจำนวนผู้ป่วยความดนั โลหิตสงู รายใหม่ วัตถปุ ระสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพผลของโปรแกรมรู้ไหมใครเค็มกับการลดการ บรโิ ภคเคม็ ในครวั เรอื นทส่ี งสยั ปว่ ยความดนั โลหติ สงู บา้ นควนเกาะจนั ทร์ ตำบล โคกยาง อำเภอเหนอื คลอง จังหวัดกระบ่ี วิธีการดำเนินการ เปน็ การวจิ ยั ทพี่ ฒั นามาจากงานประจำ (R2R) ทดี่ ำเนนิ การในครวั เรอื น ทีม่ กี ล่มุ สงสยั ปว่ ยความดนั โลหิตสูง โดยมีการตรวจวดั ความเคม็ ในอาหารดว้ ย ปากกาตรวจวดั ความเค็มของครวั เรือน 35 ครวั เรอื น แจง้ ผลการตรวจ รว่ มกบั การซักประวัติการใช้เคร่ืองปรุงรส (ผงชูรส รสดี ซอสปรุงรส) ให้สุขศึกษา 57

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” หลังจากน้ัน 1 เดือน ตรวจวัดความเค็มในอาหารซ้ำ ซักประวัติการใช้เครื่อง ปรงุ รส และนำมาวเิ คราะหผ์ ลดว้ ยสถติ เิ ชงิ พรรณนาและสถติ วิ เิ คราะห์ Paired t-test ผลลัพธ์ จากการตรวจวดั ความเคม็ อาหารในครวั เรอื นจำนวน 35 ครวั เรอื น พบวา่ ก่อนดำเนินการครัวเรือนท่ีมีกลุ่มสงสัยป่วยส่วนใหญ่รับประทานอาหารอยู่ใน ระดบั สีแดง (เค็มมาก) ร้อยละ 31.43 ระดบั สสี ้ม (เค็ม) ร้อยละ 62.86 ระดบั สีเหลือง (ค่อนข้างเค็ม) ร้อยละ 5.71 หลังจากดำเนินการ 1 เดือน พบว่า อาหารในครวั เรอื นมรี ะดบั ความเคม็ ลดลงอยใู่ นระดบั สแี ดง รอ้ ยละ 11.43 ระดบั สสี ม้ รอ้ ยละ 48.57 ระดบั สเี หลอื ง รอ้ ยละ 37.14 และระดบั สเี ขยี ว รอ้ ยละ 2.86 อยา่ งมนี ัยสำคัญทางสถิติ (p=0.05) สรปุ และขอ้ เสนอแนะ สรุปว่าโปรแกรมรู้ไหมใครเค็มมีผลต่อการปรับพฤติกรรมการบริโภค อาหารเค็มลดลง ซึ่งการตรวจวัดความเค็มในอาหารช่วยสร้างความตระหนัก ให้แก่ประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูงได้ดีย่ิงข้ึน ให้เห็นผลเป็น รูปธรรม คำสำคญั : ความดันโลหติ สงู ความเคม็ ในอาหาร 58

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลของโปรแกรมสร้างความตระหนักรเู้ ร่ืองโรคไตเร้อื รงั และการปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมการดูแลตนเองเพ่อื ป้องกัน ภาวะไตเร้ือรงั ในผปู้ ่วยโรคเบาหวาน type 2 บา้ นหนองบัวน้อย ตำบลหนองตูม อำเภอเมือง จังหวดั ขอนแก่น ปานจันทร์ จิตรีพรต, หทัยรัตน์ โสหะ โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบลหนองตมู บทคดั ยอ่ ขอ้ มูลพ้ืนฐานตำบลหนองตูม อำเภอเมือง จงั หวดั ขอนแกน่ พบว่า 3 ปี ยอ้ นหลงั (พ.ศ. 2559 - 2561) บา้ นหนองบวั นอ้ ย พบผปู้ ว่ ยเบาหวานทมี่ ภี าวะ ไตเสอื่ มระยะท่ี3ขน้ึ ไปรอ้ ยละ14.29,15.49และ14.49 ตามลำดบั การจดั กจิ กรรม ตามโปรแกรมสร้างความตระหนักรู้เร่ืองโรคไตเร้ือรังเพ่ือการปรับเปล่ียน พฤติกรรมการดแู ลตนเอง จะช่วยให้ผปู้ ่วยยอมปฏบิ ัตติ ามแผนการรกั ษาอยา่ ง ตอ่ เนอื่ งและสง่ ผลใหช้ ะลอภาวะไตเสอ่ื มได้ การวจิ ยั กงึ่ ทดลองนม้ี วี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยโรคเบาหวาน type 2 เกดิ การตระหนกั รู้ สามารถนำสกู่ ารปรบั เปลย่ี น พฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อชะลอการเสื่อมของไตได้ กลุ่มตัวอย่างคือ ผ้ปู ว่ ยเบาหวาน type 2 จำนวน 25 คน บา้ นหนองบวั นอ้ ย ทีเ่ ขา้ รับบริการใน รพ.สต.หนองตมู ชว่ งตุลาคม 2560 ถึงมีนาคม 2561 โดยจดั กิจกรรมทง้ั หมด 4 ครั้ง รวม 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการอบรมให้ความรู้เรื่องโรค แนวทาง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน เก็บรวบรวมข้อมูล ดว้ ยแบบสอบถามการตระหนักรู้ภาวะไตเสือ่ ม พฤติกรรมการดแู ลตนเอง โดย เก็บขอ้ มลู ก่อน หลงั เขา้ ร่วมกจิ กรรม แบง่ ระดับตามมาตรวดั ลิเคริ ท์ วเิ คราะห์ ขอ้ มลู ดว้ ยความถ่แี ละร้อยละ 59

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลการศึกษาพบว่าผลของโปรแกรมการสร้างความตระหนักรู้ภาวะ ไตวายเรอ้ื รงั สามารถสรา้ งการตระหนกั รกู้ ลมุ่ ผปู้ ว่ ยเบาหวานทม่ี ภี าวะไตเสอ่ื ม เพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่างท่ีมีการตระหนักรู้ระดับปานกลางก่อนเข้าร่วม กจิ กรรมเทา่ กบั รอ้ ยละ 60 หลงั รว่ มกจิ กรรมเพม่ิ ขน้ึ เปน็ รอ้ ยละ 76 และระดบั สงู กอ่ นรว่ มกจิ กรรมเทา่ กบั รอ้ ยละ 12 หลงั รว่ มกจิ กรรมเพม่ิ ขน้ึ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20 และระดบั ตำ่ ลดลงจากรอ้ ยละ 28 เปน็ รอ้ ยละ 4 ในดา้ นพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ วั มีระดับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดภาวะไตเสื่อมระดับสูง เพิ่มขึ้น โดยก่อนการเข้าร่วมกิจกรรมเท่ากับร้อยละ 4 หลังเข้าร่วมกิจกรรม คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40 ระดบั ปานกลางยงั คงเทา่ เดมิ คอื รอ้ ยละ 56 แตใ่ นระดบั ตำ่ ลดลงโดยก่อนเข้าร่วมกิจกรรมเท่ากับร้อยละ 40 หลังเข้าร่วมกิจกรรมลดลง เหลือร้อยละ 4 สรุปได้ว่าผลโปรแกรมสร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคไตเรื้อรังและการ ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมการดแู ลตนเอง เพอ่ื ปอ้ งกนั ภาวะไตวาย ในผปู้ ว่ ยเบาหวาน type 2 สามารถเพ่ิมการตระหนักรู้และช่วยเพิ่มพฤติกรรมการปฏิบัติตัวเพ่ือ ปอ้ งกนั การเกดิ ภาวะไตวายไดจ้ รงิ แตก่ ารศกึ ษาวจิ ยั ครง้ั นค้ี วรเพม่ิ ระยะตดิ ตาม ผลเพื่อประเมินความคงอยู่ของการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยตามหลัก 3อ. 2ส. รวมท้ังควรศึกษาตัวชี้วัดท่ีบ่งบอกภาวะไตเสื่อมเพิ่มเติม เช่น ค่าครีเอตินิน (creatinine) และอตั ราการกรองของไต (e-GFR) กอ่ นนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นพนื้ ท่ี อ่นื ตอ่ ไป คำสำคัญ : ภาวะไตวาย โปรแกรมสร้างความตระหนักรเู้ รื่องโรคไตเรื้อรงั 60

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” การออกกำลงั กายแบบตารางเก้าช่องชว่ ยเพมิ่ สมรรถนะความจำ ในผูส้ ูงอายุกลุม่ ติดบา้ น เทศบาลเมอื งอ่างทอง ร่งุ ทิวา มากอ่ิม, ลักษวดี ชุตาภา, พลู ศรี กมุท, อตกิ านต์ ลีลากร และทรงยศ ยอดม่ัน ความสำคัญ สถานการณ์ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และสว่ นใหญเ่ ปน็ ผสู้ งู อายกุ ลมุ่ ตดิ บา้ นมจี ำนวนจาก 348 คน แยกเปน็ เพศชาย 126 คน เพศหญงิ 222 คน เพ่มิ ขึ้นเปน็ 520 คน แยกเป็นเพศชาย 168 คน เพศหญงิ 352 คน ทำใหเ้ สย่ี งต่อการเกิดภาวะสมรรถนะความจำลดลง วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการประยุกต์โปรแกรมการออกกำลังกาย แบบตารางเก้าช่องในการช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุติดบ้านเขตเทศบาล เมอื งอ่างทอง วิธีการศึกษา เปน็ การวจิ ยั กง่ึ ทดลองแบบกลมุ่ เดยี ว ดว้ ยการจดั การออกกำลงั กายแบบ ตารางเก้าช่องในผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง ซึ่งมีผู้สูงอายุ ตดิ บา้ นทสี่ มคั รใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการออกกำลงั กายแบบตารางเกา้ ชอ่ ง ทง้ั สน้ิ 50 คน เพศชาย 10 คน เพศหญิง 40 คน โดยกลุ่มเป้าหมายจะได้รับฝึก ออกกำลังกายแบบตารางเก้าช่อง ประกอบด้วยท่าออกกำลังกายจำนวนการ เดิน 5 ทา่ ได้แก่ ท่าท่ี 1 ก้าวข้นึ -ลงแนวเส้นตรง ท่าท่ี 2 กา้ วจากกลางออกข้าง 61

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ท่าที่ 3 ก้าวกากบาทแนวเส้นตรง ทา่ ท่ี 4 กา้ วรปู ส่เี หลีย่ มข้าวหลามตดั และ ทา่ ท่ี 5 กา้ วทแยงมมุ ไขวเ้ ทา้ รว่ มกบั ทา่ รำวงมาตรฐาน จำนวน 5 ทา่ ประกอบดว้ ย สอดสรอ้ ยมาลา ชกั แปง้ ผดั หนา้ รำสา่ ย พรหมสห่ี นา้ และขดั จางนาง ตามลำดบั เปน็ ระยะเวลา 3 เดือน จากน้นั ทำการเก็บข้อมลู ดว้ ยแบบทดสอบสภาพสมอง เบ้ืองต้น (MMSE-Thai 2002) ก่อน - หลงั การเข้ากจิ กรรม เพื่อนำมาวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงความเสื่อมของสมองโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์ เปรยี บเทียบด้วยประสิทธิผลดว้ ย Paired t- test ผลลัพธ์ จำนวนผูส้ ูงอายตุ ดิ บ้านท่ีเข้าร่วมกิจกรรม 50 คน เป็นเพศชาย 10 คน เพศหญิง 40 คน พบว่าก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม ค่าเฉล่ียของสมรรถนะ ความจำ จำแนกตามระดับการศึกษาเพม่ิ ข้ึน โดยกลุม่ ไม่เรียนค่าเฉล่ยี เพ่ิมจาก 11.14 เป็น 14.93 กลุ่มประถมศกึ ษาเพิ่มจาก 15.18 เปน็ 19.09 และสูงกวา่ ประถมศึกษา เพิ่มจาก 19.0 เป็น 27.5 พบว่า สมรรถนะความจำที่เพิ่มข้ึน แตกตา่ งจากก่อนการเข้าร่วมโปรแกรมอยา่ งมนี ัยสำคัญทางสถติ ิ (p<0.05) สรุปและขอ้ เสนอแนะ กิจกรรมการออกกำลังกายแบบตารางเก้าช่องช่วยเพ่ิมสมรรถนะ ความจำในผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน มีประสิทธิผลดี ดังนั้นเทศบาลเมืองอ่างทอง ควรขยายผลกิจกรรมไปยังกลุ่มผู้สูงอายุติดสังคมและทุกกลุ่มวัยในทุกชุมชน เพือ่ เป็นทางเลอื กหน่ึงของการเพิ่มสมรรถนะความจำ คำสำคญั : การออกกำลังแบบตารางเกา้ ชอ่ ง สมรรถนะความจำกลมุ่ ผู้สงู อายุ ตดิ บา้ น 62

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลของโปรแกรมคา่ ยจัดการสขุ ภาพตอ่ สุขภาพในกลุ่มเสีย่ ง โรคไมต่ ิดต่อเรือ้ รัง ชมุ ชนหน้าผา ตำบลปากน้ำโพ จังหวดั นครสวรรค์ ความสำคญั กลมุ่ โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั เปน็ ปญั หาสำคญั ดา้ นสาธารณสขุ เนอ่ื งจากโรคน้ี ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนท่ีเป็นอันตราย บางรายอาจพิการหรือสูญเสียชีวิต ทำให้บุคคลนั้นอยู่ในภาวะพ่ึงพา สูญเสียรายได้ เป็นภาระของครอบครัวและ ชุมชน อีกท้ังยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ดงั นน้ั การป้องกันและส่งเสรมิ สุขภาพในกล่มุ เสย่ี งจึงมคี วามสำคัญ วัตถุประสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาผลของโปรแกรมคา่ ยจดั การสขุ ภาพตอ่ ภาวะสขุ ภาพของกลมุ่ เสีย่ งโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรือ้ รงั ชมุ ชนหน้าผา ตำบลปากน้ำโพ จังหวดั นครสวรรค์ วิธกี ารศกึ ษา เป็นการวิจัยก่ึงทดลองแบบกลุ่มเดียว กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนที่มี ผลการคดั กรองอยู่ในกลุ่มเส่ียงโรคไมต่ ดิ ต่อเร้อื รัง จำนวน 30 คน โดยวิธกี าร เลอื กแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการทดลอง คอื โปรแกรมคา่ ยจดั การสขุ ภาพ เพอื่ ควบคมุ ระดบั นำ้ ตาล ระดบั ไขมนั ในเลอื ด ความดันโลหิตและดัชนีมวลกาย จำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ การพัฒนาทักษะ สว่ นบคุ คล การกำหนดมาตรการทางสงั คม การสง่ เสรมิ การออกกำลงั กาย และ การให้โภชนบำบัด จากนั้นมีการติดตามการดูแลตนเองด้วยการจัดกิจกรรม เสวนาปญั หาสขุ ภาพ (Health Meeting) ทกุ 1 เดอื น จำนวน 3 ครง้ั และทำการ เก็บข้อมูลภาวะสุขภาพของกลุ่มตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลค่าเฉล่ีย (Mean) ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard deviation) วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบความ แตกต่างดว้ ยสถติ ิ Paired Sample t-test 63

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลลัพธ์ กลุ่มเส่ียงโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง หลังเข้าร่วมโปรแกรมค่ายจัดการสุขภาพ จำนวน 30 คน สว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญิง จำนวน 24 คน รอ้ ยละ 80 มีคา่ ดัชนี มวลกาย (BMI) เฉลย่ี ลดลงจาก 23.60 เหลือ 23.04 ซึง่ ลดลงอยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ิ (t = 2.10 p-value = 0.044) ระดบั ความดนั โลหติ ซสิ โตลคิ เฉลย่ี ลดลง จาก 133.53 เหลือ 120.03 ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 3.57, p = 0.001) ระดบั ความดนั โลหติ ไดแอสโตลคิ เฉลย่ี ลดลงจาก 81.20 เหลอื 76.67 ซง่ึ ลดลงอยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิ (t = 2.66, p = 0.012) ระดบั นำ้ ตาลในเลอื ด เฉลย่ี ลดลงจาก 94.33 เหลอื 88.80 ซง่ึ ลดลงอยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิ (t = 1.90, p = 0.066) ระดบั ไขมนั ในเสน้ เลอื ด (คลอเลสเตอรอล) เฉลย่ี ลดลงจาก 230.30 เหลือ 190.90 ซึ่งลดลงอยา่ งมีนัยสำคัญทางสถติ ิ (t = 5.29 p<0.001) ระดับ ไขมันในเส้นเลือด (LDL) เฉลี่ยลดลงจาก 154.80 เหลือ 122.83 ซ่ึงลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 5.42 p<0.001) ระดับน้ำตาลในเส้นเลือด (Triglyceride) เฉลย่ี ลดลงจาก 124.90 เหลอื 94.00 ซง่ึ ลดลงอยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิ (t = 5.25, p<0.001) สรปุ โปรแกรมค่ายจัดการสุขภาพ มีผลต่อภาวะสุขภาพของกลุ่มเส่ียง โรคไม่ติดต่อเร้ือรัง ในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์จึงควรนำโปรแกรมฯ ไปขยายผลและพัฒนารูปแบบการดำเนินงานการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ เร้ือรัง โดยยึดชุมชนเป็นฐานให้มีประสิทธิผลยิ่งข้ึน โดยรูปแบบของโปรแกรม ประกอบด้วยกิจกรรมการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล การกำหนดมาตรการทาง สงั คม การสง่ เสรมิ การออกกำลงั กาย และการใหโ้ ภชนบำบดั จากนนั้ มกี ารตดิ ตาม การดูแลตนเองด้วยการจัดกิจกรรมเสวนาปัญหาสุขภาพ (Health Meeting) ทุก 1 เดือน จำนวน 3 ครัง้ คำสำคัญ : ค่ายจัดการสุขภาพ กลุ่มเสีย่ งโรคไมต่ ดิ ต่อเรื้อรงั 64

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” การเตน้ และรำฟอ้ นกับการลด BMI ของกล่มุ สตรีโซนใต้ ตำบลในเวียง อำเภอเมอื ง จงั หวดั น่าน บวั ผา แกว้ มงคล, พัณณ์ชยา เพ็งมาววิ ัฒน,์ นิภาธร ออ่ นดี ความสำคญั การออกกำลงั กายชว่ ยใหร้ า่ งกายแขง็ แรงและมสี ขุ ภาพดี รวมทง้ั ลดเสย่ี ง ลดโรคเรื้อรัง หากแต่ประชาชนยังไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าที่ควร ดังน้ัน การออกกำลังกายที่สอดคล้องกับบริบทด้วยการประยุกต์ท่าเต้น และการ รำฟ้อนของท้องถ่ินให้เป็นท่าในการออกกำลังกาย จะส่งเสริมและจูงใจให้ ประชาชนออกกำลังกายได้ดขี ึ้น วัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาผลของการออกกำลังกายด้วยวิธีเต้น และรำฟ้อน ต่อ BMI ของกลมุ่ สตรีโซนใต้ เขตเทศบาลเมืองน่าน วธิ กี าร เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มสตรีโซนใต้ ตำบล ในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 25 คน โดยให้มีกิจกรรมเต้นหรือรำฟ้อนประกอบด้วยการอบรมให้ความรู้ด้านการ ออกกำลังกาย และจัดกิจกรรมออกกำลังกายด้วยการเต้นและรำฟ้อน ทุกวัน เวลา 17.00 - 18.30 น. เป็นเวลา 6 เดือน ณ ลานออกกำลงั กายข่วงเมอื งน่าน หลังจากน้ันทีม อสม. ออกติดตาม และประเมินผลผู้ร่วมกิจกรรม และเก็บ ข้อมลู สขุ ภาพโดยการตรวจสขุ ภาพ วดั คา่ BMI กอ่ น และหลงั และวิเคราะห์ ข้อมูลดว้ ยสถติ เิ ชิงพรรณนา และเชงิ วิเคราะหด์ ว้ ย z - test 65

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลลพั ธ์ จากการประเมิน BMI ของกลุ่มสตรีโซนใต้ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน จำนวน 25 คน กอ่ นดำเนนิ กจิ กรรมพบว่า มีค่า BMI เฉล่ีย 22.3 โดยมผี ทู้ ม่ี ี BMI มากกวา่ 25 จำนวน 13 คน หลงั ดำเนนิ กจิ กรรมพบวา่ กลมุ่ สตรี ท่ีมี BMI มากกว่า 25 ลดลงจำนวน 10 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 76.9) และ BMI เทา่ เดมิ 3 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 23.07) และคา่ เฉลยี่ ของกลมุ่ สตรจี ำนวน 25 คน หลงั ทำกจิ กรรม มคี ่า BMI เฉลี่ย 21 สดั สว่ นของผู้ทมี่ ี BMI ลดลงมนี ยั สำคัญ ทางสถติ ิ (p ≤ 0.05) สรุป การออกกำลังกายดว้ ยการเตน้ และรำฟอ้ น ของสตรีโซนใต้ มีผลทำให้ สามารถลด BMI ได ้ ดงั นนั้ อปท. ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารออกกำลงั กายอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และคน้ หารูปแบบการออกกำลงั กายทีเ่ หมาะสมและความสนใจตามวัย คำสำคญั : การออกกำลงั กาย การเตน้ รำฟอ้ น BMI รอบเอว 66

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” โครงการดนตรไี ทย เพือ่ พฒั นาผูส้ งู วัย กจิ กรรมสนั ทนาการ “องั กะลงุ ” กบั การพฒั นาสขุ ภาพผสู้ งู อายตุ ดิ สงั คม เทศบาลตำบลพนมสารคาม จงั หวดั ฉะเชิงเทรา นายบรรจบ จันทรเ์ จริญ, เนาวรตั น์ สอนเจรญิ , สุดาภรณ์ ไมตรวี งศ,์ สายฝน สุดดี, ภรประณตุ สังพาลี เทศบาลตำบลพนมสารคาม โรงพยาบาลพนมสารคาม ความสำคญั ผสู้ งู อายสุ ว่ นใหญม่ ภี าวะเหงา เครยี ด และมกั มอี าการปวดเมอ่ื ยรา่ งกาย การส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการท่ีเหมาะสมกับวัยจะช่วยให้เกิดการผ่อน คลาย อังกะลุงเป็นรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เกิดการยืดเหยียดและมีจังหวะท่ีทำให้ รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งจะมีผลต่อผู้สูงอายุทั้งทางร่างกาย สังคมและจิตใจ และ ส่งเสรมิ คุณภาพชีวิต วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ภาพผสู้ งู อายใุ นดา้ นรา่ งกาย สงั คมและจติ ใจของผสู้ งู อายุ ในกล่มุ ตดิ สังคมโดยการใชก้ ิจกรรมสันทนาการอังกะลุง วิธีการศึกษา/ดำเนินงาน เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการท่ีดำเนินงานในกลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิก ชมรมผู้สูงอายุท่ีติดสังคมจำนวน 35 คน ในเขตเทศบาลตำบลพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีการจัดต้ังวงอังกะลุงผู้สูงอายุติดสังคม มีข้ันตอนดังนี้คือ การรวบรวมสมาชกิ ทสี่ นใจ การเรยี นการสอนวธิ กี ารเลน่ องั กะลงุ และฝกึ ซอ้ ม โนต้ ดนตรี การตงั้ วงองั กะลงุ และการเลน่ เปน็ วง การพบปะและฝกึ ซอ้ มพรอ้ มทง้ั มกี ารนำอาหารมาทานรว่ มกัน และการแสดงในงานประเพณตี า่ งๆ ของชุมชน 67

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” เช่น งานศพของสมาชิกชมรม งานประเพณีร่นื เริง งานจ้างต่างๆ ผูส้ งู อายุจะมี การพบปะกนั อยา่ งสมำ่ เสมอและตอ่ เนอ่ื งอยา่ งนอ้ ยทกุ วนั ศกุ รส์ ปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั โดยมกี ารจดั สรรงบประมาณจากกองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพ ทำการเกบ็ ขอ้ มลู ประเมินผลโดยการสัมภาษณ์ข้อมูล และสังเกต และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ เชิงพรรณนา ผลการศกึ ษา ผู้สูงอายุติดสังคมที่มีการรวมกลุ่มเล่นอังกะลุง จำนวน 35 คนพบว่า ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมด้านสุขภาพกาย ทั้งหมดระบุว่า ทำให้อาการ ปวดเมอ่ื ยกลา้ มเนอื้ หลงั แขน และขา ลดลง ทำให้มคี วามคงทนในการน่ังและ การเคลือ่ นไหวไดน้ านขึน้ จากระยะเวลาในการเข้าร่วม 1 ชว่ั โมง เพม่ิ ขนึ้ เปน็ 2-3 ชั่วโมง/ครั้ง ได้โดยไม่ปวดเมื่อย ผู้สูงอายุเหล่านี้มาร่วมกิจกรรมอย่าง ตอ่ เน่ือง ไม่ขาดการเข้าร่วมกิจกรรม (ยกเว้นมีความจำเปน็ ) สุขภาพด้านสังคม ผสู้ งู อายุในกลมุ่ มีสัมพนั ธภาพที่ดตี ่อกัน มีการสือ่ สารพูดคุย มีความสามัคคกี ัน มีการช่วยเหลือและแบ่งปันกันมากขึ้น เช่น การระดมส่ิงของและเงินเพื่อช่วย กจิ กรรมตา่ งๆ ของชมุ ชน และดา้ นสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายรุ สู้ กึ สนกุ สนาน มอี ารมณด์ ี ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเบิกบาน เต็มใจเข้าร่วมกิจกรรม มีการแต่งตัวสวยงาม รสู้ กึ ภาคภมู ใิ จทไี่ ดแ้ สดงความสามารถและเหน็ คณุ คา่ ในตนเองมากขนึ้ ยงิ่ กวา่ น้ี ผู้สูงอายยุ งั ไดแ้ สดงศกั ยภาพในการแตง่ เพลงอังกะลุงไดเ้ อง เช่น เพลงสำหรับ ต้อนรับคณะดูงาน ผู้สูงอายุท้ังหมดมีความพึงพอใจอย่างมากในการเข้าร่วม กจิ กรรม 68

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” สรปุ และขอ้ เสนอแนะ การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีศูนย์รวมในการทำกิจกรรม “อังกะลุง” ที่ เหมาะสมกับวัยและส่งผลท้ังสุขภาพกาย สังคมและจิตใจ มีความสำคัญย่ิง ตอ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของผสู้ งู อายุ ซง่ึ ควรอยา่ งยง่ิ ทอี่ งคก์ รและหนว่ ยงาน ทเี่ กย่ี วขอ้ งจะไดค้ น้ หากจิ กรรมทสี่ รา้ งสรรคส์ ำหรบั ผสู้ งู อายุ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การพาผสู้ งู อายทุ ต่ี ดิ บา้ นใหอ้ อกสสู่ งั คมมากขน้ึ และควรมกี ารประเมนิ สขุ ภาวะ ของผู้สูงอายุอยา่ งชดั เจน คำสำคญั : องั กะลงุ ผสู้ ูงอายตุ ิดสังคม การพัฒนาสุขภาพ ทีอ่ ยูต่ ดิ ตอ่ ผ้วู ิจยั สำนักงานเทศบาลตำบลพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชงิ เทรา 24120 69

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” พิชิตพุง ลดโรค ตำบลต้นโพธ์ิ อำเภอเมอื ง จังหวัดสงิ ห์บุรี สุพัฒน์ อว่ มนอ้ ย 1, ณชั ชา เชตุพันธ์ุ 1, กำไลทอง แพ่งพันธ์ 1, ภาวิดา ยิ้มยอ่ ง 2 รุจรวีย์ เจรญิ สุข 2, ณัฐณญั ญา สมางชัย 3, ภควพร เปยี อยู่ 4 1 โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลต้นโพธ์ิ 1 และ 2 2 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลต้นโพธ์ิ 3 ผูน้ ำชมุ ชน หมูท่ ่ี 4 4 สำนักงานสาธารณสขุ จงั หวดั สงิ ห์บรุ ี บทคัดยอ่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยหลัก 3อ 2ส เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้กลุ่มพิชิตพุงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำเร็จได้ การวิจัยเชิง ปฏิบตั ิการนี้ มีวตั ถุประสงค์ เพื่อสง่ เสริมและพฒั นาการดำเนินงานขององคก์ ร พิชิตพุงลดโรค ให้มีประสิทธิภาพและย่ังยืน เกิดการปรับเปล่ียนพฤติกรรม สขุ ภาพทถี่ กู ตอ้ งเหมาะสมในเรอ่ื งอาหาร การออกกำลงั กาย และการจดั การกบั อารมณท์ เ่ี หมาะสม เพอื่ เปน็ ตน้ แบบองคก์ รพชิ ติ พงุ กลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ พนกั งาน ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลตน้ โพธิ์ อำเภอเมอื ง จงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี จำนวน 50 คน (กลุ่มบุคคลปกติ 16 คน กลุ่มคนรอบเอวเกิน 9 คน กลุ่มความดันโลหิตสูง 17 คน และกลุ่มเบาหวาน 8 คน) โดยวิธีการตรวจคัดกรองสุขภาพเบ้ืองต้น บันทึกผลตรวจสุขภาพลงในแบบรายงาน ดำเนินการปรับเปล่ียนพฤติกรรม สุขภาพโดยใช้หลัก 3อ 2ส ระหว่างเดือน ตุลาคม 2559 – กันยายน 2560 ติดตามประเมินผลทุก 1/3/6 เดือน และคืนข้อมูลผลตรวจสุขภาพก่อนและ 70

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” หลังให้กับกลุ่มเป้าหมาย คัดเลือกผู้ท่ีมีพฤติกรรมสุขภาพดี เพื่อเป็นต้นแบบ ใหก้ บั ชมุ ชน สรปุ ถอดบทเรยี นเพอื่ ขยายเครอื ขา่ ยการดแู ลสขุ ภาพใหก้ บั ชมุ ชน เกิดความยั่งยืนต่อไป วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบค่าเฉล่ียความดันโลหิตและ น้ำตาลก่อนและหลังปรบั เปล่ียนพฤติกรรมโดยใชส้ ถติ ิ Paired t-test ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มเป้าหมายท่ีมีรอบเอวเกิน จำนวน 9 คน ได้ ปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพจนกระทั่งกล่มุ บคุ คลปกติ จำนวน 2 คน รอ้ ยละ 22.22 โดยกลุ่มความดันโลหิตสูงและกลุ่มเบาหวาน สามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมจนกระทั่งควบคุมระดับความดันโลหิตและควบคุมระดับน้ำตาลใน เลอื ดอยใู่ นกลมุ่ สเี ขยี วเขม้ รอ้ ยละ 100 และคา่ เฉลยี่ ความดนั โลหติ และนำ้ ตาล ก่อนและหลังปรับเปล่ียนพฤติกรรมพบว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุปได้ว่าการปรับเปล่ียนพฤติกรรมพิชิตพุงนี้สามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมพนักงานในองค์กรได้ดังนั้นจึงควรนำไปประยุกต์ใช้ในชุมชน โดย เร่ิมต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายในชุมชนใกล้เคียงเพื่อ สะดวกในการติดตามประเมินผล มีการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องต่อเน่ืองและ สม่ำเสมอ คำสำคัญ : ปรับเปลีย่ นพฤติกรรมโดยใชห้ ลัก 3อ 2ส (โดยกรมอนามยั ) 71

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลการสร้างเสรมิ สขุ ภาพในการควบคมุ ระดบั น้ำหนักตวั ของเจ้าหน้าทีอ่ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลเกาะแกว้ อำเภอเมือง จังหวัดภเู กต็ ผ่องนภา ยุคุณธร* นภสั นันท์ ทัว่ รอบ* สุพัฒตรา แอเดน็ ** *องค์การบรหิ ารส่วนตำบลเกาะแก้ว **โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบลเกาะแก้ว บทคดั ยอ่ การศกึ ษาครั้งนเ้ี ปน็ การวิจัยเชิงปฏบิ ตั ิการ เพือ่ ศึกษาผลการสร้างเสริม สุขภาพเจา้ หน้าท่อี งค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภเู กต็ ในการ ควบคมุ ระดบั นำ้ หนกั ตวั โดยใชแ้ นวทางกฎบตั รออตตาวา ในการดำเนนิ งาน ซง่ึ มี 5 กลยุทธ์ คือ 1) สร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ โดยมีนโยบายลดอ้วน ลดโรค ในสถานท่ีทำงาน 2) สร้างสรรค์สภาพแวดล้อม ท่ีสนับสนุนสุขภาพ มกี ารจดั สร้างสวนสาธารณะในชมุ ชน เพอื่ ส่งเสริมการออกกำลงั กาย 3) สร้าง ความเข้มแข็งให้แก่ปฏิบัติการชุมชน จัดต้ังกลุ่มออกกำลังกาย โดยมีผู้บริหาร องค์กรเป็นแกนนำ 4) พัฒนาทักษะส่วนบุคคล อบรมให้ความรู้เร่ืองโรคอ้วน แกเ่ จา้ หนา้ ท่ี และ 5) ปรบั เปลยี่ นบรกิ ารสขุ ภาพ มกี ารนำเทคโนโลยมี าใชใ้ นการ แลกเปลยี่ น สอบถาม ขอ้ มลู กบั เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ มเี จา้ หนา้ ทเ่ี ขา้ รว่ มจำนวน 52 คน เกบ็ ขอ้ มูลกอ่ นหลังการดำเนินงานโดยใช้แบบสอบถามและแบบบันทึก สุขภาพของเจ้าหน้าที่ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บด้วย Paired t-test 72

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลการดำเนนิ งานพบวา่ มเี จา้ หนา้ ท่ี เขา้ รว่ มโปรแกรมการควบคมุ ระดบั นำ้ หนกั ตวั เปน็ เพศชาย 15 คน เพศหญงิ 37 คน กอ่ นเขา้ รว่ มโครงการมนี ำ้ หนกั ตวั เฉลย่ี 66.43 กิโลกรมั หลังเข้ารว่ มโปรแกรมพบวา่ สามารถลดระดับนำ้ หนกั ตวั ได้ จำนวน 23 คน คดิ เป็นร้อยละ 44.23 มรี ะดับน้ำหนกั ตวั เพิ่มขึน้ จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 30.77 และมีระดับน้ำหนักตัวไม่เปล่ียนแปลงจำนวน 13 คน คิดเป็น ร้อยละ 25 โดยมีน้ำหนักตัวเฉล่ียลดลงจาก 66.43 กิโลกรัม เป็น 65.94 กิโลกรัม ซ่ึงพบว่าระดับน้ำหนักตัวเฉล่ียลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถติ ิ (p < 0.05) จากการดำเนินงานพบว่า การใช้แนวทางกฎบัตรออตตาวาในการ ดำเนินงานการสร้างเสริมสุขภาพในองค์กร สามารถควบคุมระดับน้ำหนักตัว ของผเู้ ข้ารว่ มโปรแกรมสามารถนำไปใชใ้ นชุมชนได้ คำสำคญั : การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การควบคมุ ระดบั นำ้ หนกั ตวั กฎบตั รออตตาวา 73

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” การพฒั นาระบบการคดั กรองกลุม่ เสยี่ งโรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาหวาน โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด แบบมีส่วนร่วมในชุมชนตำบลทุ่งโฮง้ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ จนั ทร์เพญ็ สทุ ธนะ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ เทศบาลตำบลทุ่งโฮง้ ความสำคญั การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลอื ด เพอื่ ไดข้ อ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ งจะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยง่ิ ตอ่ การปอ้ งกนั และควบคุมโรคเรื้อรัง ดังนั้นการมีระบบคัดกรองท่ีมีประสิทธิภาพจะมีผลต่อ คณุ ภาพขอ้ มลู วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อศึกษาหากระบวนการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลอื ดแบบมสี ่วนร่วมโดยแกนนำชุมชน และ อสม. วธิ กี าร การวิจัยน้ีเป็นการวิจัยและพัฒนา โดยใช้กระบวนการดำเนินงานใช้ แนวคดิ วงจรคณุ ภาพของ Edwards Deming (PDCA) เปน็ กรอบในการพฒั นา ที่เน้นการมีส่วนร่วมในชุมชนในการคัดกรองค้นหากลุ่มเสี่ยงโรคความดัน โลหิตสูง โรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือดในพื้นท่ีตำบลทุ่งโฮ้ง แกนนำ ชมุ ชน และ อสม. ทสี่ มคั รใจ จำนวน 30 คน เขา้ รว่ มกระบวนการพฒั นาศกั ยภาพ เพ่ือทำการคัดกรอง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ประชาชนในชุมชนได้รับการคัดกรอง ต้ังแต่เดือนมกราคม 2561 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2561 โดยใช้เคร่ืองมือการคัดกรองความดันโลหิตสูง เบาหวาน ขั้นตอนดำเนินการพัฒนาปรบั ปรุงระบบการคดั กรองหากลมุ่ เส่ียงโรคเรม่ิ ดว้ ย 74

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ขั้น Plan มีการประชุมแกนนำชุมชนและ อสม. เพ่ือชี้แจงปัญหาการ ดำเนนิ การคดั กรองโรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาหวาน โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด มีการคัดเลือกแกนนำชุมชน และ อสม. จากนั้นมีการชี้แจงรูปแบบการตรวจ คัดกรอง วางแผนการออกปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข มีการ กำหนดระยะเวลา การจัดหาอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมและเพียงพอ ข้นั Do จัดอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารให้แกนนำชุมชน และ อสม. เพอ่ื ใหเ้ กดิ องคค์ วามรู้ ในการคดั กรอง และทกั ษะทเี่ กยี่ วขอ้ ง เชน่ การวดั ความดนั โลหติ สงู การวัดรอบเอวการคำนวณหาค่า BMI ขนั้ Check ประชมุ หรอื ทบทวนแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ารปฏบิ ตั งิ านทกุ 7 วนั ทบทวนปัญหาท่ีได้จากการทำงาน ความก้าวหน้า ความสมบูรณ์ของผลงาน และขอ้ ตกลงในการปฏบิ ตั งิ านคร้งั ต่อไป ขน้ั Act รวบรวมความคดิ เหน็ ในการดำเนนิ งานคดั กรองในกลมุ่ แกนนำ ชุมชน อสม. ที่ออกปฏบิ ัติงาน เพ่อื นำไปปรับปรงุ ผลลพั ธ์ กระบวนการคัดกรองหากลุ่มเสี่ยง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดโดยแกนนำชุมชน อสม. ตำบลทุ่งโฮ้ง ทำให้เข้าถึง ประชากรและคัดกรองได้ 275 คน คิดเป็นร้อยละ 91.67 โดยจำแนกเป็น กลุม่ เสย่ี งโรคความดันโลหติ สงู 12 คน (ร้อยละ 4.36) กลมุ่ เสี่ยงโรคเบาหวาน 15 คน (ร้อยละ 5.45) และโรคหัวใจและหลอดเลือด (ร้อยละ 2.91) มีการส่งต่อให้มาตรวจซ้ำ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งโฮ้งจากการ ปรบั เปลยี่ นกระบวนการดำเนนิ งาน โดยใชว้ ธิ กี ารวงจรคณุ ภาพ (PDCA) ทำให้ เกิดการทำงานระบบคัดกรองเชิงรุกมีความรวดเร็ว ในเวลาท่ีกำหนด ทำให้ กลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองได้มากขึ้นในเวลาที่สั้นลง 75

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” มกี ารทบทวนปญั หาทไี่ ดจ้ ากการทำงาน ตดิ ตามงานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และปรบั ปรงุ วิธีการดำเนินงาน ทำให้ทีมทำงานมีศักยภาพเพ่ิมข้ึน เมื่อมีการตรวจยืนยัน จากเจา้ หน้าที่ พบวา่ ขอ้ มลู มีความถูกต้อง ครบถ้วน เชื่อถอื ได้ 100% สรปุ และขอ้ เสนอแนะ การประยกุ ตว์ ธิ กี ารวงจรคณุ ภาพ (PDCA) มาใชใ้ นการดำเนนิ งานคดั กรอง ความดนั โลหติ สงู เบาหวาน และโรคหวั ใจและหลอดเลอื ด แบบชมุ ชนมสี ว่ นรว่ ม ทำใหไ้ ด้ข้อมูล ครบถ้วน มีความถกู ต้อง และเชอ่ื ถือได้ สามารถนำไปใช้ในการ วางแผนงานได้อีกท้ังก่อใหเ้ กิดการพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน คำสำคัญ : การคัดกรอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและ หลอดเลอื ด 76

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลของกระบวนการกนิ ให้เป็นเลน่ ใหถ้ กู ตอ่ การควบคมุ ระดบั น้ำตาล ในเลอื ดและคา่ ความดนั โลหิตในกลมุ่ ผปู้ ่วยโรคเร้อื รงั ตำบลวังนำ้ เยน็ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสพุ รรณบรุ ี นรินทร์ ศรีร่งุ เรือง, ปรารถนา ม่นั คง, พรพรรณ คำเสียงใส รพ.สต.วงั นำ้ เยน็ ศรีรตั น์ คุ้มวงษ,์ ปิยรัตน์ สวัสดิศ์ รี อบต.วงั นำ้ เย็น ความสำคัญ จากสถติ กิ ารมารบั บรกิ ารของผปู้ ว่ ยโรคเบาหวานและโรคความดนั โลหติ สูง ปี 2559 - 2560 พบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมระดับ ความดันโลหิตได้ร้อยละ 24.71 ในปี 2559 และร้อยละ 27.02 ในปี 2560 และผู้ป่วยโรคเบาหวานสมารถควบคมุ ระดบั นำ้ ตาลในเลอื ดได้ รอ้ ยละ 34.29 ในปี 2559 และร้อยละ 40 ในปี 2560 ซ่ึงทำให้ผู้ป่วยเส่ียงต่อการเกิดภาวะ แทรกซ้อนที่จะส่งผลให้เกิดความพิการหรือทุพพลภาพจนเกิดเป็นภาวะพึ่งพิง ของครอบครวั และสงั คมได้ในอนาคต วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาผลของการรบั ประทานอาหารและการออกกำลงั กายทถ่ี กู ตอ้ ง ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและค่าความดันโลหิตในกลุ่มผู้ป่วยโรค เบาหวานและโรคความดันโลหิตสงู วธิ ีการศึกษา เปน็ การวจิ ยั กงึ่ ทดลองแบบกลมุ่ เดยี วในกลมุ่ ผปู้ ว่ ยโรคความดนั โลหติ สงู จำนวน 85 ราย และโรคเบาหวานจำนวน 35 ราย ที่มารับยาที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลวังน้ำเย็นในปี 2561 โดยส่งเสริมกิจกรรมกระบวนการ กนิ ใหเ้ ปน็ และการเลน่ ใหถ้ กู โดยกำหนดกจิ กรรมการกนิ ใหเ้ ปน็ คอื กนิ ผกั และผลไม้ ทม่ี ีรสไม่หวานวนั ละคร่งึ กโิ ลกรมั ลดอาหารจำพวกแปง้ และอาหารท่มี ีรสเค็ม ของมัน ของทอด และอาหารรสจัด รวมทั้งเครื่องด่ืมทุกชนิดที่มีรสหวาน 77

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” สว่ นวธิ กี ารเลน่ ใหถ้ กู มกี จิ กรรมคอื การแกวง่ แขนวนั ละครงึ่ ชว่ั โมงหรอื ประมาณ วนั ละ 1,000 ครง้ั หลงั จากนน้ั มกี ารตดิ ตามวดั คา่ นำ้ ตาลในเลอื ดและคา่ ความดนั โลหติ ในผูป้ ว่ ยทม่ี ารับยาที่โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบลวงั น้ำเย็น จำนวน 6 คร้งั (เดอื นละ 1 คร้ัง) โดยนำข้อมลู มาวิเคราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรม โดยใช้สถิตเิ ชงิ พรรณนาและวเิ คราะห์เปรยี บเทยี บดว้ ย Paired t - test ผลการศกึ ษา จากการดำเนินการพบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 85 ราย เป็นชาย 20 คน หญิง 65 คน ควบคุมระดับความดันโลหิตในระดับดีมาก (120 - 129/80 - 84) จำนวน 67 ราย (78.82%) ระดบั ดี (130 - 139/85 - 89) 13 ราย (15.29%) และระดับพอใช้ (140 - 180/90 - 109) 5 ราย (5.88%) พบว่าค่าความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนผู้ป่วย โรคเบาหวาน จำนวน 35 ราย เป็นชาย 7 ราย เปน็ หญงิ 28 คน ควบคุมระดบั นำ้ ตาลไดใ้ นระดบั ดมี าก (90 - 130 mg./dl.) จำนวน 27 ราย (77.14%) ระดบั ดี (<140 mg./dl.) 2 ราย (2.86%) พอใช้ (140 - 180 mg./dl.) 4 ราย (11.43%) และใช้ไม่ได้ (>180 mg./dl.) 2 ราย (2.86%) พบว่าค่าน้ำตาลลดลงอย่างมี นยั สำคัญทางสถติ ิ (p<0.05) สรปุ และข้อเสนอแนะ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมและเห็นประโยชน์จากการดำเนิน กิจกรรม “กินให้เป็นเล่นให้ถูก” สามารถดูแลสุขภาพตนเองให้ดีข้ึนได้ ท้ังนี้ ต้องติดตามและใช้เวลาในการปลูกฝังความคิด สนับสนุนและจัดส่ิงแวดล้อม ที่เออ้ื เพื่อใหเ้ กิดการปรับเปล่ียนพฤติกรรมอย่างยงั่ ยนื คำสำคญั : กนิ ให้เป็นเล่นให้ถูก การควบคมุ ระดับนำ้ ตาลในเลือด การควบคุม ค่าความดนั โลหิตผู้ปว่ ยโรคเรื้อรัง 78

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” การศกึ ษาความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาพและพฤตกิ รรมสุขภาพ ของกลมุ่ เสีย่ งเบาหวานและความดันโลหติ สูง หมู่ที่ 2 บ้านสามกอง ตำบลเกาะแตว้ อำเภอเมือง จังหวดั สงขลา รอเซง็ ไหรเจริญ, กล่ินผกา ประสิทธนิ์ ุ้ย, ประภาภรณ์ ศศธิ ร, สอาดะ พันธสุ ะ, สุพิศตรา สุวรรณธนะ, อาธญั ญา เพช็ รแกว้ บทคดั ยอ่ โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพและสาเหตุการ เสียชีวิตในอันดับต้นๆ ของไทยส่วนหนึ่งเป็นปัญหาด้านความรู้และพฤติกรรม เส่ียงต่างๆ การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ (3อ. 2ส.) ของกลุ่ม เสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมกี ลมุ่ ตวั อยา่ ง จำนวน 50 คน ทำการสมุ่ แบบเจาะจง เกบ็ ขอ้ มลู ชว่ งเดอื น มกราคม - มิถุนายน 2561 โดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติ เชิงพรรณนา ไดแ้ ก่ ค่าความถ่ี และร้อยละ ผลการศกึ ษาพบว่า กลมุ่ ตวั อยา่ ง จำนวน 50 คน สว่ นใหญ่เป็นเพศหญงิ รอ้ ยละ 90 อายุ อยู่ในชว่ ง 48 - 59 ปี ร้อยละ 56 รองลงมาอยู่ในช่วง 37 - 47 ปี สถานภาพ สมรสสว่ นใหญ่ คู่ รอ้ ยละ 70 รองลงมาโสด รอ้ ยละ 22 ระดบั การศกึ ษาสว่ นใหญ่ จบชน้ั ประถมศกึ ษา รอ้ ยละ 44 และมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ รอ้ ยละ 44 ลกั ษณะงาน ทป่ี ฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจำวนั สว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี รบั จา้ ง/ใชแ้ รงงาน รอ้ ยละ 58 และพฤตกิ รรมสขุ ภาพของกลมุ่ ตวั อยา่ งพบวา่ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นสขุ ภาพ รอ้ ยละ 69.67 ดา้ นการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และบรกิ ารสขุ ภาพ รอ้ ยละ 70.60 การรบั รู้ การสื่อสารสุขภาพ ร้อยละ 61.07 ด้านการจัดการตนเอง ร้อยละ 68.27 79

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ด้านการเข้าถึงรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ ร้อยละ 68.00 การตัดสินใจเลือก ปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ ง รอ้ ยละ 85.17 ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพโดยรวม รอ้ ยละ 70.09 อยใู่ นระดบั ปานกลาง และพฤตกิ รรมสขุ ภาพตามหลกั 3อ 2ส โดยรวม รอ้ ยละ 77.67 อยใู่ นเกณฑพ์ อใช้ ซงึ่ ขนึ้ อยกู่ บั ระดบั การศกึ ษามผี ลตอ่ การรบั รใู้ นแตล่ ะ ด้านท่ีถกู ตอ้ งท่ีสดุ ร้อยละ 50 ถูกตอ้ งบา้ ง รอ้ ยละ 46 ไมถ่ ูกตอ้ ง ร้อยละ 4 ขอ้ เสนอแนะ ชุมชนควรมีการทำเวทีประชาคม คืนข้อมูล สถานการณ์ความรุนแรง ของโรคในชุมชน ผ่านแผนท่ีความเส่ียงของชุมชน ร่วมคิดวิเคราะห์แผนท่ี ความเสี่ยงและการถอดบทเรียนของชุมชน เพื่อหาแนวทางการปรับเปลี่ยน พฤตกิ รรมของกลมุ่ เสย่ี งโดยเนน้ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนและการสนบั สนนุ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ใหม้ ปี ระสทิ ธผิ ลตอ่ การลดเสยี่ งลดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง และควรมีมาตรการของชุมชนที่เอ้ือต่อการลดปัจจัย เส่ียงตอ่ การเกดิ โรคในชุมชนได้ คำสำคัญ : ความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพกลุ่มเส่ียงเบาหวาน และความดันโลหิตสูง กติ ติกรรมประกาศ ขอขอบคุณกรมควบคุมโรค เทศบาลตำบลเกาะแต้ว สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดสงขลา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะแต้ว และ ผูท้ ีม่ สี ว่ นเกยี่ วข้องทุกท่าน 80

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ปจั จยั ทส่ี รา้ งแรงจงู ใจในการออกกำลงั กายเพอ่ื การปอ้ งกนั โรคไมต่ ดิ ตอ่ ตำบลบา้ นโปง่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวดั ราชบรุ ี สมหมาย เครือนพคณุ * นางศศินา ศรีสำราญ ความสำคญั เนื่องจากการออกกำลังกาย เป็นหนึ่งในกิจกรรมของการลดพฤติกรรม เส่ยี ง การปอ้ งกนั โรคไม่ตดิ ต่อ ตามกระบวนการ 3อ. 2ส. ซ่ึงสง่ ผลต่อการลด อตั ราเสยี่ งการเกดิ โรคไมต่ ดิ ตอ่ ทสี่ ำคญั และเปน็ ปญั หาลำดบั ตน้ ๆ ของประเทศ เช่น โรคหัวใจ โรคความดนั โลหติ สูง โรคเบาหวาน วตั ถุประสงค์ เพอ่ื คน้ หาปจั จยั ทส่ี รา้ งแรงจงู ใจใหป้ ระชาชนไดส้ นใจในการออกกำลงั กาย วธิ กี ารศกึ ษา/การดำเนนิ งาน โดยการสำรวจขอ้ มลู ประชาชนดว้ ยแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างจากผู้มาออกกำลังกาย 10 สนามๆ ละ 10 คน รวม 200 คน เพ่ิม ชาย หญิง เท่าไหร่ระหว่างเดือนกันยายน 2560 ในหัวข้อเร่ืองแรงจูงใจ ท่ีทำให้ประชาชนมาออกกำลังกาย ประมวลข้อมูลโดยวิธีการแจงนับ และ เป็นการวจิ ยั เชิงพรรณนา ผลการศึกษา พบวา่ ปจั จยั ทเ่ี ปน็ แรงจงู ใจใหป้ ระชาชนมาออกกำลงั กาย ประกอบดว้ ย 1. สถานท่/ี สง่ิ แวดล้อม รอ้ ยละ 49 (98 คน) 2. ครูนำเต้น ร้อยละ 36.5 (73 คน) 3. ประเภทกฬี า ร้อยละ 9.5 (19 คน) 4. วสั ดอุ ุปกรณ์ ร้อยละ 5 (10 คน) 81

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” วธิ ีการศกึ ษา/การดำเนนิ งาน โดยการสำรวจขอ้ มลู ประชาชนดว้ ยแบบสอบถามกลมุ่ ตวั อยา่ งจากผมู้ า ออกกำลังกาย 10 สนาม สนามละ 10 คน รวม 200 คน เป็นชาย 47 คน หญิง 153 คน ระหว่างเดือน กันยายน 2560 ในหัวข้อเรื่องแรงจูงใจท่ีทำให้ ประชาชนมาออกกำลงั กาย ประมวลขอ้ มลู โดยวธิ กี ารแจงนบั และเปน็ การวจิ ยั เชิงพรรณนา สรปุ และขอ้ เสนอแนะ เห็นควรใหห้ น่วยงานของรฐั หรือเอกชน สนบั สนุนงบประมาณ สถานท่ี เพ่ือเอื้อต่อการออกกำลังกายของประชาชนและควรมีการตรวจประเมิน สขุ ภาพทุก 3 เดือน ให้ประชาชนท่มี าออกกำลงั กายเพ่อื ดูภาวะสขุ ภาพ (ดชั นี มวลกาย ความดนั โลหิต เบาหวาน) ท่จี ะส่งผลทด่ี ีต่อการป้องกนั โรคไมต่ ดิ ต่อ ในระยะยาว ตอ่ ประชาชน คำสำคัญ : แรงจูงใจในการออกกำลังกาย การปอ้ งกันโรคไม่ติดตอ่ ศนู ย์บรกิ ารสาธารณสุขเทศบาลเมอื งบ้านโป่ง อ.บา้ นโป่ง จ.ราชบรุ ี 82

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลการใช้เคร่อื งมอื มสั ยดิ 7 สี ในการปรับเปลย่ี นพฤติกรรม ของผู้ป่วยเร้อื รงั ในชุมชน นรสิ า นเิ ซ็ง, สุธา รุกขพันธ์, รตั ติยา บญุ หลง ความสำคัญ ชุมชนทา่ แพรก ตำบลเจะ๊ เห อำเภอตากใบ จงั หวัดนราธวิ าส มีจำนวน ประชากร 2,350 คน ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง ซ่ึงเป็นปัญหาสาธารณสุข ท่สี ำคญั โดยมจี ำนวนผูป้ ว่ ยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 204 คน ไมส่ ามารถ ควบคุมโรคได้ จำนวน 172 คน คิดเป็นร้อยละ 84.31 และผู้ป่วยเบาหวาน จำนวน 79 คน ไมส่ ามารถควบคมุ โรคได้ จำนวน 57 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 72.15 ซงึ่ ผปู้ ว่ ยทไี่ มส่ ามารถควบคมุ โรคไดม้ ภี าวะแทรกซอ้ นหลอดเลอื ดสมอง จำนวน 3 คน โดยทีผ่ ่านมา มีการให้ความรู้ผู้ป่วยโดยการให้คำแนะนำหลังรับยาและ การให้ความรู้เป็นกลุ่มในโรงพยาบาลซึ่งยังไม่ได้ผล จึงทดลองเปลี่ยนวิธีการ มาใช้เครื่องมือมสั ยดิ 7 สี ในการปรับเปลย่ี นพฤติกรรม วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ การศกึ ษาการใช้เครื่องมอื มัสยดิ 7 สี ในการปรบั เปล่ียนพฤติกรรม สขุ ภาพของผปู้ ว่ ยโรคความดันโลหติ สูงและเบาหวานที่ควบคุมโรคไมไ่ ด้ วธิ ีการศกึ ษา การศึกษาคร้ังนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลองกลุ่มเดียว เพ่ือดูผลของ การใชร้ ปู แบบการปรับเปล่ยี นพฤติกรรม 3อ. 2ส. โดยใชเ้ ครื่องมือมัสยดิ 7 สี ในการปรับเปล่ียนพฤติกรรม เครื่องมือในการแบ่งระดับโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน 7 ระดับ มีสัญลักษณ์รูปมัสยิดตามสีท่ีกำหนด มีการดำเนิน กิจกรรมดังน้ี 83

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” 1. วัดความดันโลหิตสูง/เจาะน้ำตาลในเลือด 2. ผู้ปว่ ยนำผลที่ไดไ้ ปตดิ ท่ีเคร่ืองมอื มัสยิด 7 สี ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนดไว้ แลกเปลยี่ นเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพของคน ทม่ี ีผลการเปลย่ี นแปลงทด่ี ขี ้นึ และแย่ลง 3. มอบรางวัลบุคคลต้นแบบที่มีผลระดับสีและมีการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมทด่ี ีขึ้น กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชาชนท่ีนับถือศาสนาอิสลาม ในชมุ ชนทา่ แพรก ทม่ี ปี ระวตั กิ ารปว่ ยดว้ ยโรคเบาหวานหรอื โรคความดนั โลหติ สงู อย่างใดอย่างหน่ึงหรือมีประวัติป่วยด้วยทั้ง 2 โรค และมีประวัติควบคุม ระดับความดันโลหิตสูงหรือน้ำตาลในเลือดไม่ได้ มีการเข้าร่วมกิจกรรม 3 ใน 5 ครัง้ ดำเนนิ การต้ังแต่ ตุลาคม 2560 ถงึ กันยายน 2561 เกบ็ ขอ้ มลู ระดบั ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือด และการสัมภาษณ์พฤติกรรมท่ี เปล่ยี นแปลง วิเคราะหข์ ้อมลู ด้วยสถติ ิเชิงพรรณนา คอื จำนวน และรอ้ ยละ ผลการดำเนินงาน กลุ่มตัวอย่างในการดำเนินงานครั้งนี้เป็นเพศชายจำนวน 10 คน หญิง 30 คน มีอายุช่วง 35-59 ปี จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 62.5 อายุ 60 ปขี ้ึนไปจำนวน 15 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 37.5 ปว่ ยเปน็ ความดันโลหิตสูงจำนวน 34 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 85 ปว่ ยเป็นเบาหวานจำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 5 ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงและเบาหวานจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ผลการใช้เครอ่ื งมอื มสั ยิด 7 สี ดำเนินงานมีผลดงั นี้ 84

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” กล่มุ ดีขึน้ 12 คน คิดเป็น 30% ชาย 2 คน คดิ เปน็ 5% หญิง 10 คน คิดเป็น 30% กลมุ่ คงท่ี 24 คน คดิ เปน็ 60% ชาย 7 คน คดิ เปน็ 17. 5% หญงิ 17 คน คดิ เป็น 42.5% กลุ่มแยล่ ง 4 คน คิดเป็น 10% ชาย 1 คน คิดเป็น 2.5% หญิง 3 คน คดิ เปน็ 7.5% สรปุ : การศกึ ษาคร้ังนีแ้ สดงใหเ้ หน็ ว่าการใชเ้ คร่อื งมอื มัสยดิ 7 สี ทำให้ ผู้ป่วยทราบข้อมูลระดับโรคของตัวเองเปรียบเทียบกับผู้อื่นมีผลกระตุ้นให้มี ความต่ืนตัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีข้ึน มีความสอดคล้องกับชุมชน ท่ีนับถือศาสนาอิสลามในการสร้างความเข้าใจสามารถนำไปใช้ต่อในพื้นที่ ชมุ ชนมุสลมิ อน่ื ท่ีมบี ริบทคลา้ ยคลึงกัน คำสำคญั : มสั ยิด 7 สี การปรับเปล่ยี นพฤติกรรม โรคเร้อื รงั สอบถามขอ้ มลู : เทศบาลเมอื งตากใบ โรงพยาบาลตากใบ ตำบลเจะ๊ เห อำเภอ ตากใบ จงั หวัดนราธิวาส 96110 85

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ผลของโปรแกรมปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมสขุ ภาพต่อพฤติกรรม การดูแลตนเองของผู้ปว่ ยโรคเรอ้ื รัง บ้านโคกโพธิ์ เทศบาลตำบลทา่ แค อำเภอเมืองพทั ลงุ จงั หวัดพทั ลุง เศรษฐา เพชรสง* รสสุคนธ์ ศรีใส** วัชราภรณ์ จอมชิตกลำ่ ** เชดิ แก้วสุข และสุดา แกว้ สุข *นายกเทศมนตรีตำบลทา่ แค **พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ บทคัดยอ่ โรคเรื้อรังท่ีสำคัญ ๒ โรคของบ้านโคกโพธ์ิ ตำบลท่าแค อำเภอเมือง พทั ลงุ จงั หวดั พทั ลงุ คอื โรคเบาหวาน และโรคความดนั โลหติ สงู จากสถานการณ์ โรคเรื้อรงั ปี 2562 พบผ้ปู ่วยที่เปน็ โรคเบาหวาน คุมระดับนำ้ ตาลไม่ได้ ร้อยละ 53.33 และผปู้ ว่ ยความดนั โลหติ สงู คมุ ระดบั ความดนั โลหติ ไมไ่ ด้ รอ้ ยละ 61.67 และมีแนวโน้มสูงข้ึน เน่ืองจากมีพฤติกรรมสุขภาพท่ีไม่เหมาะสม จึงจำเป็น ต้องมีการควบคุมโรคและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การวิจัยก่ึงทดลอง (Quasi Experimental Research) นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของ โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ต่อพฤติกรรม การดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โปรแกรมปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพ มดี งั นี้ การละลายพฤตกิ รรม การดแู ลตนเองเพอื่ หา่ งไกลเบาหวาน/โรคความดนั โลหิตสูง การจัดการเรื่องออกกำลังกายและถอดบทเรียนจากประสบการณ์ โดยการประยกุ ตแ์ นวคดิ ดา้ นการรบั รคู้ วามสามารถของตนเอง การกำกบั ตนเอง และการดูแลตนเอง (3 Self) กลุ่มตัวอย่าง ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย ได้กลุ่ม ตัวอย่าง 30 คน เก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังดำเนินการ ระหว่างเดือน 86

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” มนี าคม - กนั ยายน 2561 โดยใชแ้ บบสมั ภาษณ์ วิเคราะห์ขอ้ มูลทั่วไป โดยใช้ สถิติเชิงพรรณนา และเปรียบเทียบผลของโปรแกรมก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้สถิต Paired T-Test ผลการวจิ ัย พบวา่ กลุ่มตัวอย่างสว่ นใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 64.24 อายุเฉล่ีย 57 ปี ดัชนีมวลกายส่วนใหญ่เกินเกณฑ์ ร้อยละ 59.78 ความรู้ เก่ยี วกับการดูแลตนเอง พฤติกรรมการดแู ลตนเอง การรับรคู้ วามสามารถของ ตนเอง การกำกับตนเอง และการดูแลตนเองมีค่าเฉล่ียเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อน ทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ร้อยละ 63.30 และผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ควบคุมระดบั ความดันโลหติ ไดร้ อ้ ยละ 76.67 สรปุ และข้อเสนอแนะ โปรแกรมปรบั เปลีย่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพในผปู้ ว่ ยโรคเร้อื รัง ด้วย 3 Self ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมระดับ นำ้ ตาลและระดับความดันโลหติ ได้เพิ่มข้นึ การบริการสาธารณสุขในระดับพ้ืนที่ ควรนำโปรแกรมน้ีไปขยายผล ในพ้นื ท่ีให้ครอบคลมุ พ้นื ท่ีอ่นื ตอ่ ไป คำสำคัญ : การปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเอง ผปู้ ว่ ยโรคเรื้อรัง 87

ตวั อยา่ ง Poster Presentation การดำเนินงานลดเสี่ยง ลดโรคไมต่ ิดต่อเรื้อรัง ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ผลลพั ธ จํานวนผูสูงอายุติดบานท่ีเขา รวมกจิ กรรมจาํ นวน 50 คน เปนเพศชาย 10 คน และหญิง 40 คน พบวากอนและหลังเขารวม ความสาํ คญั กิจกรรม คาเฉล่ียของสมรรถนะความจํา จําแนก สถานการณผูสูงอายุในเขตเทศบาลเมืองอางทองมี ตามระดับการศึกษาเพ่ิมข้ึนอยางมีนัยสําคัญทาง จํานวนเพิ่มมากข้ึน และสวนใหญเปนผูสูงอายุติดบานมีจํานวนจาก สถิติ (p..< 0.05) โดยกลุมไมเรียนคาเฉลี่ยเพ่ิม 348 คน แยกเปน เพศชาย 126 คน เพศหญงิ 222 คน เพิ่มข้ึนเปน จาก 11.14 เปน 14.93 กลุมประถมศึกษา 520 คน แยกเปน เพศชาย 168 คน เพศหญงิ 352 คน ทําใหเสีย่ ง เพิ่มจาก 15.18 เปน 19.09 และสูงกวา ตอการเกดิ ภาวะสมรรถนะความจําลดลง ประถมศกึ ษา เพม่ิ จาก 19.0 เปน 27.5 ระดับการศกึ ษา กอน หลงั วัตถุประสงค ไมไ ดเ รยี น 11.14 14.93 ประถมศกึ ษา 15.18 19.09 เพ่ือศึกษาประสิทธิผลของการประยุกตโปรแกรม สงู กวา ประถมศกึ ษา 19.00 27.50 การออกกําลังกายแบบตารางเกาชองในการชวยเพ่ิมความจําใน สรุปและขอเสนอแนะ ผูส งู อายตุ ิดบานเขตเทศบาลเมอื งอา งทอง กิจกรรมการออกกําลังกายแบบ วธิ กี ารศกึ ษา ตารางเกาชองชวยเพิ่มสมรรถนะความจําใน เปนการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุมเดียว ดวยการ ผูสูงอายุกลุมติดบาน มีประสิทธิผลดี ดังน้ัน จัดการออกกําลังกายแบบตารางเกาชองในผูสูงอายุติดบานเขต เทศบาลเมืองอางทองควรขยายผลกิจกรรมไปยัง เทศบาลเมืองอางทอง ซ่ึงมีผูสูงอายุติดบานที่สมัครใจเขารวมกิจกรรม กลุมผูสูงอายุติดสังคมและทุกกลุมวัยในทุกชุมชน การออกกาํ ลังกายแบบตารางเกาชอง ทง้ั สิน้ 50 คน เพศชาย 10 คน เพ่ือเปนทางเลือกหนึ่งของการเพ่ิม เพศหญิง 40..คน โดยกลุมเปาหมายจะไดรับฝกออกกําลังกายแบบ สมรรถนะความจาํ ตารางเกาชอง ประกอบดวยทาออกกําลังกายจํานวนการเดิน 5..ทา ไดแ ก ทา ท่ี 1 กาวข้นึ -ลงแนวเสน ตรง ทาท่ี 2 กา วจากกลางออกขาง กติ ติกรรมประกาศ ทา ที่ 3 กา วกากบาทแนวเสนตรง ทาท่ี 4 กาวรูปส่ีเหล่ยี มขา วหลาม ขอขอบคณุ ตัด และทาที่..5 กาวทแยงมุมไขวเทา รวมกับทารําวงมาตรฐาน จํานวน 5 ทาประกอบดวย สอดสรอยมาลา ชักแปงผัดหนา รําสาย สํานักโรคไมตดิ ตอ กรมควบคุมโรค พรหมสี่หนา และขัดจางนาง ตามลําดับเปนระยะเวลา 3..เดือน ดร.ชยั สุวพนั ธุ พญ.รตั นเกลา สมุ านิก จากน้ันทําการเก็บขอมูลดวยแบบทดสอบสภาพสมองเบื้องตน ที่ใหขอเสนอแนะและเปนท่ีปรึกษาการทํางาน (MMSE-Thai..2002) กอน-หลังการเขากิจกรรม เพื่อนํามาวิเคราะห วจิ ัยและสนับสนุนวจิ ยั จนสําเร็จลุลวงไปดวยดี การเปลย่ี นแปลงสถานะความจําโดยใชสถิติเชิงพรรณนาและวเิ คราะห เปรียบเทยี บดว ยประสทิ ธผิ ลดวย Paired t- test ทต่ี ดิ ตอ ผูวจิ ัย โรงพยาบาลอางทอง 2 เทศบาลเมอื งอางทอง E-mail : [email protected] 88

ตัวอย่าง Poster Presentation การดำเนนิ งานลดเสี่ยง ลดโรคไมต่ ดิ ต่อเร้อื รงั ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน พชิ ิตพงุ ลดโรค ตาํ บลต้นโพธ�ิ อ.เมอื ง จ.สิงห์บุรี สุพฒั น์ อ่วมนอ้ ย ณชั ชา เชตุพนั ธุ์ กาํ ไลทอง แพง่ พนั ธ์ ภาวดิ า ยมิ� ยอ่ ง ภควพร เปี ยอยู่ ณฐั ณญั ญา สมางชยั รุจรวีย์ เจริญสุข ความสําคญั การปรับเปลี�ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยหลกั 3 อ 2 ส ในการออกแบบพชิ ิตพงุ ลดโรคเป็น กิจกรรมสาํ คญั ท�ีจะช่วยใหก้ ลุ่มพชิ ิตพงุ มีสุขภาพดี วตั ถุประสงค์ เพ�ือศึกษาผลการใช้ หลกั 3 อ 2 ส ในการลดโรคเบาหวานและโรคความดนั โลหิตสูง วิธีการศึกษา การวิจยั เชิงปฏิบตั ิการโดยใช้หลกั 3 อ.2.ส ในพนักงานของ องคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลตน้ โพธ�ิ อาํ เภอเมือง จงั หวดั สิงห์บุรี จาํ นวน 50 คน เก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใช้แบบตรวจสุขภาพเบ�ืองตน้ และแบบรายงานผล ตรวจสุขภาพ ดาํ เนินการปรับเปลี�ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใชห้ ลกั 3 อ 2 ส (3 อ อารมณ์ อาหาร ออกกําลังกาย 2 ส สุรา ยาเสพติด) ระหว่างเดือน ตุลาคม 2559 - กันยายน 2560 ติดตามประเมินผลทุก 1/3/6 เดือน และคืน ขอ้ มูลผลตรวจสุขภาพก่อนและหลงั ใหก้ บั กลุ่มเป้ าหมาย วิเคราะห์ขอ้ มูลโดย ใชส้ ถิติ Paired t-test ผลการศึกษา ก่อนการใชห้ ลกั 3 อ 2 ส ในการปรับเปล�ียนพฤติกรรมสุภาพใน กลุ่มประชากร จาํ นวน 50 คน พบวา่ มีกลุ่มปกติ จาํ นวน 16 คน ร้อยละ 32 กลุ่ม รอบเอวเกิน จาํ นวน 9 คน ร้อยละ 18 กลุ่มความดนั โลหิตสูง จาํ นวน 17 คน ร้อยละ 34 (BP<130/80 จาํ นวน 9 คน ร้อยละ 52.94, BP≥130/80 จาํ นวน 8 คน ร้อยละ 47.06) และกลุ่มเบาหวาน จํานวน 8 คน ร้อยละ 16..(DTX<130 จาํ นวน 3..คน ร้อยละ 37.5, DTX≥130 จาํ นวน 5 คน ร้อยละ 62.5) พบว่า หลงั จากใชห้ ลกั 3 อ 2 ส ในการปรับเปลี�ยนพฤติกรรมสุภาพ กลุ่มปกติ จาํ นวน 18 คน ร้อยละ 36 กลุ่มรอบเอวเกิน จาํ นวน 7 คน ร้อยละ 14 กลุ่มความดนั โลหิ ตสู ง จํานวน 17 คน (BP<130/80 จํานวน 12..คน ร้อยละ 70.59, BP≥130/80 จาํ นวน 5..คน ร้อยละ 29.41) และกลุ่มเบาหวาน จาํ นวน 8 คน (DTX<130 จาํ นวน 5.คน ร้อยละ 62.5, DTX≥130 จาํ นวน 3 คน ร้อยละ 37.5) จากผลการศึกษาแสดงใหเ้ ห็นวา่ การหลกั 3 อ 2 ส มีผลต่อการลดโรคอยา่ งมี นยั สาํ คญั ทางสถิติ p<0.05 สรุปและข้อเสนอแนะ จากการปรับเปลี�ยนพฤติกรรมพิชิตพุงน�ีสามารถปรับเปลี�ยนพฤติกรรมกลุ่มประชากรได้ ดังน�ันจึงควรนําไปประยุกต์ใช้ในชุมชน โดยเริ�มตน้ ด้วยการปรับเปล�ียนพฤติกรรมกลุ่มประชากรในชุมชน ใกลเ้ คียงเพอื� สะดวกในการติดตามประเมินผล มีการจดั กิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งต่อเน�ืองและสม�าํ เสมอ กติ ติกรรมประกาศ ขอกราบขอบพระคุณพระครูวิธานปริยตั ิคุณและขอบคุณนายกองการบริหารส่วนตาํ บลตน้ โพธ�ิ ท�ีใหก้ ารสนบั สนุน รายละเอยี ดเพม�ิ เติม รุจรวีย์ เจริญสุข อีเมล์ : [email protected] 89

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” บรรณานกุ รม กรมควบคุมโรค สำนักโรคไม่ติดต่อ. (2558). คู่มือการจัดบริการสุขภาพ “กลมุ่ วยั ทำงาน”แบบบรู ณาการ2558.พมิ พค์ รงั้ ท่ี1.สำนกั งานกจิ การ โรงพมิ พ์องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ กรมควบคุมโรค สำนักโรคไม่ติดต่อ. (2561). คู่มือการดำเนินงานป้องกัน ควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยยึดชุมชนเป็นฐาน : ชุมชนลดเส่ียง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (CBI NCDs) สำหรับบุคลากรสาธารณสุข ผรู้ บั ผดิ ชอบโรคไม่ติดตอ่ เร้อื รงั ปี 2561. สำนกั พมิ พ์ บรษิ ัท อโิ มชนั่ อารต์ จำกดั กรมควบคมุ โรค สำนกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ . (2562). รายงานประจำปี 2561. สบื คน้ เมอ่ื 6 มนี าคม 2562, จาก http://thaincd.com/2016/media-detail. php?id=12986&tid=&gid=1-015-008 กฤษณ์ พงศพ์ ริ ุฬห์ นายมโน มณฉี าย. ม.ป.ป. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ ศึกษารูปแบบความสัมพันธ์ของหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดการระบบ สขุ ภาพระดบั ตำบลภายใตแ้ ผนการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สถิติ สาธารณสุข พ.ศ. 2560. สบื ค้นเม่อื 6 มีนาคม 2562, จาก http:// bps.moph.go.th/new_bps/สถิติสาธารณสุข จรุ ีพร คงประเสริฐ และทศั นีย์ เอกวานชิ . บทบาทภาคีเครือขา่ ยสุขภาพในการ ป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ. ในคู่มือการปฏิบัติงานป้องกันควบคุม โรคไม่ติดต่อเรื้อรังของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ถวลิ อนิ ทรโม. ชมุ ชนศกึ ษาและแนวทางพฒั นา. เอกสารประกอบการสอน. ปที ่ี พิมพ์ 2557. สำนกั พมิ พ์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สงขลา 90

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” เทศบาลเมืองน่าน. แผนการขับเคลอื่ นหน่วยงาน. สบื ค้นเมือ่ 6 มนี าคม 2562, จาก http://frontend.nancity.go.th/web/index.php?r=list% 2Fbook9 ทักษพล ธรรมรังสี. (บรรณาธิการ). 2557. รายงานสถานการณ์โรค NCDs วิกฤตสขุ ภาพ วกิ ฤตสงั คม (พมิ พค์ รง้ั ที่ 1). สำนกั วิจยั นโยบายสร้าง เสรมิ สขุ ภาพ (สวน.) สำนกั งานพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ ประนมพร โรจนบ์ วรวทิ ยา. เอกสารอธิบายแนวคดิ และหลักการของการสร้าง เสรมิ สขุ ภาพ Health Promotion 26 มกราคม 2556. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2561 จาก www.med.mahidol.ac.th/commed/ sites/default/files/..../HP ประเวศ วะส.ี แผนแมบ่ ทชมุ ชนการพฒั นาระบบสขุ ภาพชมุ ชน. สขุ ภาวะชมุ ชน เปน็ รากฐานของสขุ ภาวะทง้ั มวล ครงั้ ท่ี 1. กรกฎาคม. 2549. จดั พมิ พ์ โดยสปสช. สสส. สวรส. มลู นธิ ิสาธารณสุขแห่งชาติ รจู้ กั และเขา้ ใจ : ธรรมนญู วา่ ดว้ ยระบบสขุ ภาพแหง่ ชาต.ิ สบื คน้ เมอื่ 18 มนี าคม 2562, จาก http://www.nationnalhealth.or.th/gettoknow tammanoon วิจิตต์ สีมา. บอกเล่าประสบการณ์จัดทำธรรมนูญสุขภาพ จากหมู่บ้านคลอง อาราง ถงึ ตำบลบ้านแกง้ โดย หมอวิจิตต์ สีมา รอง นพ.สาธารณสุข จังหวัดสระแกว้ . สบื คน้ เมือ่ 6 มนี าคม 2562, จาก https://www. samatcha.org/areahpp2/archives/1890 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. Health Data Center. สืบค้นเม่ือ 11 ธันวาคม 2561, จาก http://hdcservice. moph.go.th/hdc/reports/ 91

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ. กลุ่มโรค NCDs. สืบคน้ เมอ่ื 11 ธันวาคม 2561, จาก www.thaihealth.or.th/microsite/ categories/5/ncds/2/173/176 สำนกั งานสำรวจสขุ ภาพประชาชนไทย สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสขุ . รายงาน การสำรวจสขุ ภาพประชาชนไทย โดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ที่ 5 พ.ศ. 2557. นนทบุรี : สำนักพิมพอ์ ักษรกราฟฟคิ แอนด์ดไี ซน,์ 2559 สำนกั งานคณะกรรมการสขุ ภาพแหง่ ชาติ (สช.). ธรรมนญู วา่ ดว้ ยระบบสขุ ภาพ แหง่ ชาติ พ.ศ. 2552. คร้งั ท่ี 1 ธ.ค. 2552. พิมพ์ที่ บรษิ ทั วิกิ จำกัด สำนกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ กรมควบคมุ โรค. สบื คน้ เมอื่ 11 ธนั วาคม 2561, จาก http:// www.thaincd.com/2016/mission/document.php?tid= 32&gid=1-020&searchText=&pn=1 สภุ ชั ญา สนุ นั ตะ๊ . องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กบั บทบาทการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ชุมชน. วารสารกฎหมายสุขภาพและสาธารณสุข ปีที่ 4 ฉบับท่ี 1 มกราคม–เมษายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2562, จาก http://www.smhos.com/health/home.html อรรถเกียรติ กาญจนพิบลู วงศ์. รายงานสถานการณโ์ รค NCDs ฉบับท่ี 2 “kick off to The Goals” สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่าง ประเทศ. อำพล จินดาวัฒนะ. ถามมา ตอบไป เข้าใจสช. พิมพ์คร้ังที่ 3 เม.ย. 2552. โรงพมิ พ์ เจ.เอส.การพิมพ.์ จดั พมิ พ์ โดยสำนกั งานคณะกรรมการ สุขภาพแห่งชาติ (สช.) องค์การอนามัยโลก. Know the NCD targets. สบื ค้นเม่ือ 4 เมษายน 2562, จาก https://www.who.int/beat-ncds/take-action/targets/en/ 92

ภาคผนวก

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ภาคผนวก ก. ตวั อย่างนโยบายสาธารณะ/มาตรการชุมชน 1. เทศบาลเมอื งอา่ งทอง จงั หวดั อ่างทอง - นโยบายชุมชนลดเส่ยี งลดโรค ชมุ ชนทรพั ยส์ นิ เพอ่ื ส่งเสริมใหป้ ระชาชน ในชมุ ชนปฏบิ ัติตามหลัก 3อ 2ส ประกอบดว้ ย 1. ออกกำลังกายคร้งั ละอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วนั 2. ลดการบรโิ ภคอาหารหวานมันเคม็ เพิ่มผัก 3. อารมณแ์ จ่มใส สะกดใจไม่ให้บรโิ ภคเกนิ 4. ลด ละ เลกิ สรุ า ลดเหลา้ ทุกวนั พระ 5. ลด ละ เลิกยาสบู บุหร่ี ž¦³„µ«Áš«µ¨Á¤º°Š°µn Šš°Š Á¦ºÉ°Š œÃ¥µ¥¤» œ¨—Á­¥É¸ Ѝ—æ‡ ¤» œš¦´¡¥r­œ· .................................................................. —oª¥Áš«µ¨Á¤º°Š°nµŠš°Š ŗoÁ…oµ¦nª¤Ã‡¦Š„µ¦»¤œ¨—Á­¸É¥Š¨—æ‡ ¦nª¤„´ ­Îµœ„´ æ‡Å¤n ˜—· ˜°n „¦¤‡ª‡¤» æ‡ „¦³š¦ªŠ­µ›µ¦–­…» ¨³ „°Š„·‹„¦¦¤šµŠ„µ¥ Á¡ºÉ°­…» £µ¡ „¦¤°œµ¤¥´ „¦³š¦ªŠ ­µ›µ¦–­»… Á¡ºÉ°¤n»Š­nŠÁ­¦·¤­»…£µ¡žo °Š„´œÃ¦‡Å¤n˜·—˜n°Á¦º°Ê ¦´Š ×¥­nŠÁ­¦·¤„µ¦Á¦¸¥œ¦o¼Â¨³¤¸­nªœ¦nª¤…°Š ž¦³µœ°¥µn ŠÁ®¤µ³­¤ ¨³¥Š´É ¥ºœ‹Š¹ ŗo„ε®œ—œÃ¥µ¥ —Š´ œ¸ Ê ­Šn Á­¦·¤Ä®ož¦³µœÄœ¤» œž’· ˜´ ˜· µ¤ ®¨„´ 3° 2­ ž¦³„°—oª¥ 1. °°„„ε¨Š´ „µ¥‡¦´ŠÊ ¨³°¥µn Šœo°¥ 30 œµš¸ ­ž´ —µ®r¨³ 3 ªœ´ 2. ¨—„µ¦¦·Ã£‡°µ®µ¦®ªµœ¤œ´ Á‡¤È Á¡·É¤Ÿ„´ 3. °µ¦¤–r‹¤n Ä­ ­³„—ċŤÄn ®o¦·Ã£‡Á„·œ 4. ¨—¨³ Á¨„· ­¦» µ ¨—Á®¨oµš„» ªœ´ ¡¦³ 5. ¨—¨³ Á¨„· ¥µ­¼ ®» ¦¸É ž¦³„µ« – ªœ´ šÉ¸ 30 ¤œ¸ µ‡¤ ¡.«. 2561 (œµ¥Á°œ„ š°ŠºÉœ‹·˜) ¦°Šœµ¥„Áš«¤œ˜¦¸ ¦´„¬µ¦µ„µ¦Âšœ œµ¥„Áš«¤œ˜¦¸Á¤º°Š°µn Šš°Š 94

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” 2. เทศบาลตำบลท่าแค จังหวดั พัทลุง - จัดทำมาตรการหมู่บ้าน เพ่ือส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนปฏิบัติตาม ประกอบดว้ ย 1. ปลูกผกั ปลอดสารพิษ ผกั สวนครัว ทุกครวั เรอื น 2. กนิ ผกั และผลไม้สด อย่างนอ้ ยวันละคร่ึงกโิ ลกรัมตอ่ คนตอ่ วนั ทกุ วนั 3. มแี ปลงผักรวมของหม่บู ้าน 4. ออกกำลงั กายอยา่ งนอ้ ย 3 - 5 วนั /สปั ดาห์ และอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 30 นาที 3. เทศบาลเมอื งน่าน จังหวัดน่าน - มาตรการชุมชนลดเค็มชมุ ชนบา้ นนำ้ ลอ้ ม มดี งั น้ี 1. การปรงุ อาหารในงานตา่ งๆ ในชุมชน เชน่ งานขึน้ บา้ นใหม่ งานบวช งานแตง่ งาน และงานบำเพญ็ กุศลศพ ขอใหป้ ฏิบตั ิดังน้ี 1.1 ขอให้เลือกใช้เคร่ืองปรุงรสที่มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ เช่น ซีอิ้วขาว ซุปก้อน ผงปรงุ รส เกลอื นำ้ ปลา ผงชรู ส โดยขอใหใ้ ช้ เพยี งอย่างใดอย่างหนึ่งในการปรุงอาหาร 1.2 ไมน่ ำอาหารทมี่ เี กลอื โซเดยี มสงู ปรงุ อาหารเลยี้ งแขก เชน่ ปลาเคม็ ไข่เคม็ ผัดกาดดอง ปลากระปอ๋ ง ผลไม้ดอง เปน็ ต้น 1.3 ไมว่ างเครอื่ งปรงุ รสเคม็ เชน่ เกลอื นำ้ ปลาซอสซอี ว้ิ บนโตะ๊ อาหาร ในงานเล้ยี งตา่ งๆ 95

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” 2. ขอใหป้ ระชาชนในชมุ ชนชว่ ยกนั ดแู ลการบรโิ ภคขนมกรบุ กรอบปรงุ รส เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ปลาเส้น สาหร่ายปรุงรส ของเด็กในชุมชน โดยขอให้หลกี เลี่ยงการบรโิ ภค หรอื ควรบรโิ ภคแต่นอ้ ย 3. ขอความร่วมมือให้ประชาชนแต่ละหลังคาเรือน ลดการใช้เคร่ือง ปรงุ รสทม่ี โี ซเดยี มเปน็ สว่ นประกอบ เชน่ ซอี วิ้ ขาว ซปุ กอ้ น ผงปรงุ รส เกลือ นำ้ ปลา ผงชูรส 96

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” - ขอ้ ตกลงการปฏบิ ตั ใิ นงานบำเพญ็ กศุ ลของประชาชนในเขตเทศบาลเมอื งนา่ น 1. งดนำอาหารประเภทเน้อื สัตวส์ กุ ๆ ดิบๆ ขน้ึ โตะ๊ เลย้ี งแขก 2. งดเลย้ี งอาหารวา่ งทมี่ แี ปง้ และนำ้ ตาลสงู เชน่ นม โอวลั ตนิ กาแฟ ขา้ วตม้ น้ำหวานนำ้ อัดลมและขนมต่างๆ หลังเสร็จส้ินการสวดพระอภิธรรม โดยใหจ้ ดั เล้ียงเฉพาะนำ้ เปลา่ หรือน้ำสมนุ ไพรท่ีไมห่ วาน เทา่ นน้ั 3. งดสบู บุหรแ่ี ละดืม่ สรุ า 4. งดการใช้กล่องโฟมเปน็ ภาชนะบรรจอุ าหาร 4. องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลโคกยาง จังหวัดกระบ่ี - นโยบายสาธารณะเพ่ือสุขภาพแบบมีส่วนร่วม “ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรค ไมต่ ิดตอ่ เร้อื รัง” 1. นโยบายเขตปลอดควันบหุ ร่ีภายในอาคาร ดงั น้ี 1.1 จดั ใหม้ ีเขตปลอดควนั บหุ ร่ีภายในอาคาร 1.2 จัดให้มีสิ่งแวดล้อมโรงเรียน สถานที่ราชการ และสถานที่ สาธารณะท่ปี ราศจากควนั บุหร่แี ละควนั พษิ สารเสพตดิ 2. นโยบายให้มีอาหารปลอดภัยและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในโรงเรียน/ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ /สถานที่ทำงาน/ชุมชน ดังน้ี 2.1 จัดให้มีอาหารกลางวันเมนูชูสุขภาพ/อาหารปลอดภัยปลอด ผงชูรส 2.2 มีเขตปลอดกล่องโฟม 2.3 งดถวายอาหารหวาน มนั เคม็ และเพมิ่ ผกั ผลไมส้ ด แดพ่ ระสงฆ์ 2.4 จัดให้มีเขตปลอดน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบในโรงเรียน และ ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก 2.5 จัดให้มีน้ำด่ืมที่สะอาดและเพียงพอต่อการบริโภคในโรงเรียน และศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก 2.6 ส่งเสรมิ การปลกู และรับประทานผักปลอดสารพษิ ในครัวเรือน 97

“ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” 2.7 ส่งเสริมการใช้น้ำสมุนไพรแทนกาแฟในอาหารว่างสำหรับการ ประชุม/อบรมและจดั เลย้ี ง งานประเพณี 2.8 สง่ เสรมิ การรบั ประทานอาหาร“เพม่ิ ผกั ลดเกลอื เนอื้ นอ้ ยดอ้ ยมนั นำ้ ตาลต่ำ” 3. นโยบายเพมิ่ การมีกจิ กรรมทางกาย 3.1 จัดให้มีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอ้ือต่อการออก กำลังกาย 3.2 ส่งเสรมิ ให้มีการจดั กิจกรรมชมุ ชนรกั ษส์ ขุ ภาพ 3.3 ส่งเสริมให้โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจัดทำนวัตกรรม การออกกำลังกาย 3.4 จดั ใหม้ กี จิ กรรมยดื เหยยี ดผอ่ นคลายการทำงานระหวา่ งวนั เวลา 14.00 น. 3.5 รณรงค์ใหม้ ีการออกกำลงั กายในสถานท่ที ำงานทุกวันพธุ เวลา 15.00 น. 3.6 สง่ เสรมิ การออกกำลงั กายอยา่ งสมำ่ เสมอ อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 5 วนั วนั ละ 30 นาที 4. ข้อตกลงในการจำหน่ายบุหรี่/สรุ าของรา้ นคา้ ในชมุ ชน 4.1 ห้ามแสดงผลติ ภณั ฑย์ าสูบ ณ จุดขาย 4.2 หา้ มจำหนา่ ยบหุ รใี่ หแ้ กเ่ ด็กทีอ่ ายุต่ำกวา่ 20 ปี บรบิ รู ณ์ 4.3 หา้ มจำหนา่ ยเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลใ์ หแ้ กเ่ ดก็ ทอ่ี ายตุ ำ่ กวา่ 20 ปี บรบิ ูรณ์ 4.4 ห้ามสบู บหุ ร่ใี นทส่ี าธารณะ เช่น โรงเรยี น รพ.สต. อบต. ศาลา เอนกประสงค์ 4.5 งานบวช งานสวด งานแต่ง ปลอดเหลา้ 4.6 งดถวายบุหรแี่ ด่พระสงฆ์ **สายด่วนเลกิ เหล้า 1413, 1165 98 **ศนู ยบ์ รกิ ารเลกิ บหุ ร่ี 1600


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook