กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข 92
คู่มอื การผลิตเหด็ หลิดจือและสปอรเ์ หด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดที ่ีเหมาะสม บทที่ 5 โรคและแมลงศัตรขู องเหด็ หลินจือ 93
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข บทท่ี 5 โรคและแมลงศัตรูของเห็ดหลินจอื ทุกขั้นตอนในการเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือ หากผู้เพาะเลี้ยงไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูเห็ด จากน้ันโรคและแมลงศัตรูเห็ด เหลา่ น้จี ะแพร่ระบาด ทำความเสยี หายใหแ้ ก่เห็ดหลนิ จือทเ่ี พาะเลยี้ งได้ ดงั น้นั ผเู้ พาะ เล้ียงเห็ดหลินจือจะต้องตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ตลอดจนหาวิธีการป้องกันแก้ไข ให้ถูกต้อง การป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเห็ดหลินจือน้ันเป็นวิธีการท่ีค่อนข้าง ละเอียด ต้องใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสม เน่ืองจากเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพร ที่ใช้บำรุงรักษาสุขภาพ จึงต้องมีความประณีตในการผลิตเพ่ือให้ได้ผลผลิตที่มี คุณภาพดี โรคและแมลงศตั รขู องเหด็ หลินจือทีส่ ำคญั มดี งั นี ้ หนอนแมลงหว่ี (Scatopse sp.) เป็นหนอนท่ีเกิดจากแมลงหวี่ชนิดหน่ึง ซึ่ง พบในโรงบม่ ก้อนเช้อื เหด็ หลนิ จอื ในชว่ งฤดูฝน วธิ กี ารสังเกต คอื ดทู ่ปี ากถงุ ถ้ามนี ำ้ เมือกสีน้ำตาลขุ่นไหลออกมาจากปากถุงก้อนเชื้อเห็ด แสดงว่า ก้อนเช้ือนั้นมีหนอน แมลงหวี่เข้าทำลายก้อนเช้ือเห็ดแล้ว แมลงหวี่ตัวค่อนข้างเล็ก สามารถเข้าไปใต้ฝา ครอบท่ีปิดไม่สนิทหรือชอนไชผ่านสำลีท่ีหลวม เข้าไปวางไข่ไว้บริเวณปากก้อนเช้ือ เห็ด ตวั แมลงหว่มี ักมีสดี ำ มี 6 ขา หน้าอกมีขนาดเทา่ กบั ลำตวั มองไม่เหน็ หนวด ปีกสีขาวใสบางๆ แมลงหวี่จะวางไข่เป็นรูปวงรี หัวท้ายแหลมหรือขอบของไข่เป็นสี น้ำตาลส้ม มีลายเส้นบางๆ ตามขวางของไข่ และจะพัฒนาเป็นตัวหนอนแดงขนาด ใหญ่ ปลายหางแหลม ดดี ตัวไปมาได้ไมไ่ กลนกั ชอบกนิ หน่อออ่ นของเห็ดหลินจอื 94
ค่มู ือการผลิตเห็ดหลิดจอื และสปอรเ์ หด็ หลินจอื ตามแนวทางเกษตรดีทเ่ี หมาะสม แมลงหวหี่ วั แดง แมลงหวี่หัวแดง พบในโรงเรือนเปิดดอกเห็ดหลินจือ ชอบเกาะอยู่ตามใต้ใบ ดอกเห็ดหลินจือ ดูดกินน้ำเลี้ยงและกัดกินใต้ใบดอก สังเกตเป็นรอยบุ๋มและพบตาม กอ้ นเช้ือเห็ดทีเ่ สยี พบมากในฤดฝู น ลกั ษณะทวั่ ไป ตัวโตกว่าแมลงหว่ีหวั ดำ ตาโปน โตสีแดงมองดูคล้ายเป็นหัว ลำตัวสีดำ ใต้ท้องสีขาว ส่วนท้องมีลายขวาง ตัวอ้วน พอง ปลายก้นแหลมงุ้มลง ปีกบางใส แต่ถ้าปีกกระทบกับแสงแดดจะออกสีทอง มี 6 ขา ขาคอ่ นข้างยาว แมลงหวี่อกโต แมลงตัวนี้ชอบเกาะตาม แมลงหวอ่ี กโต ก้อนเช้ือเห็ดท่ีมีปัญหาหรือก้อนเสียในโรงบ่มเห็ด หลินจือ โดยเฉพาะก้อนที่เป็นหยดน้ำตาลรอบๆ ถุง พบมากในฤดูฝน ลำตัวค่อนข้างเล็ก สีดำ ลักษณะคล้ายยุง ปีกสีขาวใสบางๆ ก้นแหลม เล็ก หน้าอกใหญ่และนูนมากกว่าส่วนลำตัว ท่อนล่างมี 6 ขา มีหนวด 2 เส้น ลำตัวค่อน ข้างออ่ นน่ิม แมลงหวน่ี ักเดนิ (Drosophila sp.) พบมากตามกอ้ นเสยี ในโรงเรอื นเหด็ หลนิ จอื ตัวค่อนขา้ งใหญ่ ขนาดเทา่ แมลงหว่หี วั แดง ลำตวั มสี ดี ำ รูปทรงรี ปกี บางสีขาวใส มี หนวดสน้ั สดี ำ 2 เส้น มี 6 ขา ขาส่วนบนมสี ดี ำ ขาส่วนล่างมสี สี ม้ เดินค่อนขา้ งเร็ว และไม่ค่อยชอบบิน แมลงปีกแข็ง (Platydema waterhousei) พบตามก้อนเสียในโรงเรือน เหด็ หลินจือ ชอบอยตู่ ามก้อนเชอ้ื ทคี่ ่อนขา้ งแฉะ พบมากในฤดฝู น ตวั สดี ำตวั เล็กกวา่ 95
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แมลงหวี่หวั แดง มปี กี ซอ้ นกัน 2 ช้นั ปีกดา้ นบนมลี กั ษณะผิวมนั แขง็ มจี ดุ ลายสีสม้ 4 จดุ ปีกด้านในสีขาวใสบาง ปลายก้นแหลม มี 6 ขา ค่อนขา้ งเล็กส้ันเปน็ สสี ม้ มี หนวดยาวสีส้ม 2 เส้น ชอบชอนไชไปทั่ว ทำให้เกิดความเสียหาย แพร่เช้ือท่ีไม่พึง ปรารถนาได้ กำจดั ด้วยระบบสุขอนามัยทีด่ ี และอย่าทำกอ้ นแฉะเกินไป หนอนแดง (Chironomus sp.) เปน็ แมลงศัตรูตัวทีส่ ำคัญที่สามารถแพร่พนั ธุ์ ได้อยา่ งรวดเรว็ ทงั้ ในกอ้ นที่บ่ม กอ้ นทเ่ี ปิดดอกและกำลังมดี อกอยู่ ทำใหผ้ ลผลติ ลด ลงเป็นอย่างมากและทำให้ปริมาณก้อนเชื้อเสียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในการระบาด แต่ละครั้งมักจะพบแมลงหว่ีหัวแดง แมลงปีกแข็งผิวมันและแมลงหว่ีต่างๆ ร่วมกับ หนอนแดงมีลำตัวเป็นสีส้มแสด มีท้ังขนาดตัวใหญ่และขนาดตัวเล็ก ตัวเล็กแพร่ ระบาดได้เร็วกว่า การเคลื่อนไหวทำได้โดยม้วนงอส่วนหัวและหางเข้ามาชิดกันแล้ว ดีดตัวออกไป ชอบความชื้นสูงและบริเวณท่ีมีน้ำขัง หนอนแดงสามารถแพร่พันธุ์ได้ ง่ายในช่วงฤดูฝนหรือบริเวณท่ีถูกละอองฝน เมื่อหนอนแดงเกิดเป็นจำนวนมาก จะ รวมตัวกันเป็นก้อนๆ แล้วแห้งอยู่บริเวณท่ีปากถุง เม่ือมีความชื้นเพิ่มข้ึนก็จะดีดตัว แพรก่ ระจายขยายพนั ธุ์ไปยงั ทอ่ี นื่ ๆ ตอ่ ไป ไร (Luciaphorus sp.) เป็นสิ่งมี ชีวิตตัวเล็กๆ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ พอจะสังเกตได้จากเส้นใยของเห็ดท่ีเดิน อยู่ในถุง ถ้ามีลักษณะเส้นใยที่เดินไม่ สม่ำเสมอ ใหต้ ้ังขอ้ สังเกตไว้ก่อนว่าน่าจะมี ไรปนเป้อื นอยู่ ควรใชแ้ ว่นขยายขนาดอย่าง น้อย 10 เท่า มาส่องดู ถ้าดูแล้วไม่พบไร ตวั ไร ให้ดมก้อนเชื้อเห็ดที่ด้านนอก จะได้กล่ินบูดแสดงว่ามีการบูดของก้อนเช้ือเกิดข้ึน (สันนิษฐานได้ว่าอาหารเล้ียงเชื้อเห็ดในก้อนเช้ืออาจจะนึ่งไม่สุก) ไรเป็นสิ่งท่ีมีชีวิตตัว เล็ก มี 8 ขา สามารถเคลอ่ื นท่ไี ด้ และการแพรร่ ะบาดของไรเคยทำให้เกษตรกรบาง รายต้องเลกิ กิจการไป ไรทีม่ ปี ญั หากับเส้นใยเห็ด มีหลายชนิด เชน่ ไรไขป่ ลา ไรขาว ใหญ่ ไรกน้ ขน ไรก้นบ๋มุ เชื้อราสีเขียว หรือ Green Mould (Trichoderma, Gilocladium) มอง เหน็ เสน้ ใยเปน็ ขยุ เลก็ ๆ คอ่ นขา้ งเป็นฝุน่ เมอื่ มีการสรา้ งเป็นสปอร์ เสน้ ใยเกิดใหมจ่ ะ 96
คมู่ อื การผลิตเหด็ หลิดจอื และสปอรเ์ หด็ หลินจอื ตามแนวทางเกษตรดที ี่เหมาะสม เป็นสีขาว แล้วค่อยเปล่ียนเป็นสีเขียวจะมีสีตั้งแต่สีเหลืองไปเขียวจนถึงสีดำ ถ้าราสี เขียวเกิดบนดอกเห็ด ไม่ควรนำดอกเห็ดนั้นมาใช้ เมื่อเช้ือราเกิดข้ึนที่ดอกเห็ดช่วง แรกจะสังเกตได้ยาก เม่ือเริ่มสร้างสปอร์จะมองเห็นเป็นฝุ่นสีเขียวออกเหลืองแถวใต้ ใบดอก เสน้ ใยเห็ดหลนิ จอื จะสร้างแนวเปน็ ขอบสามารถสงั เกตเห็นได้ พบมากในช่วง ฤดูร้อน เช้ือราสีเขียวชนิดนี้ชอบสภาพอากาศร้อนอบอ้าวและอับช้ืน จาก ประสบการณ์ของผู้ผลิต พบการระบาดของเช้ือราสีเขียวเป็นจำนวนมาก ในช่วง เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2552 เน่ืองจากอากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิประมาณ 40 - 42 องศาเซลเซยี ส เช้อื ราสีเขียว เชื้อราสีส้ม หรือราร้อน (Neurospora sp.) มักพบในกระบวนการเพาะเลี้ยงเห็ด คือ ในช่วงที่ เส้นใยยังอ่อนจะมีสีขาว ไม่หนาแน่น ชอบความ เป็นกรดด่าง โดยค่อนไปทางกรด เป็นเครือข่าย เส้นใยง่ายๆ พร้อมแขนงที่สามารถสร้างสปอร์ไม่มี เพศ สีชมพูในเซลล์ช่วงปลาย เส้นใยจะเดินเร็วมาก และค่อนข้างจาง สามารถเดินกลมกลืนกับเส้นใย เช้อื ราสสี ม้ เห็ดได้ ไม่มีรอยแบ่งแยกชัดเจน ต้องอาศัยการสังเกต จึงจะพบ ถ้าดมจะมีกล่ิน คล้ายอาหารบูด เมื่อเส้นใยแก่จะออกสสี ้ม เพราะมกี ารสรา้ งสปอรท์ ่ีมีเพศเปน็ จำนวน มาก สำหรับเส้นใยในชว่ งน้ีจะชอบความเปน็ กรด-ด่าง โดยค่อนไปทางความเปน็ ด่าง และจะรวมตัวกันดันออกมาเป็นกลุ่มสปอร์ที่บริเวณปากขวดหรือปากก้อนเช้ือเห็ด หรือจดุ รว่ั ใดๆ ของกอ้ นเช้ือเห็ด เม่ือเปน็ เชน่ นแ้ี ลว้ สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเรว็ ควรใช้วิธีป้องกันจะดีกว่า บางทีจะสังเกตพบว่า เส้นใยเชื้อราสีส้มเดินจากจุกสำลีลง 97
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ไปในขวดเช้ือหรือก้อนเชื้อเห็ด สาเหตุเพราะ สปอร์ราสีส้มสามารถอาศัยความช้ืน เพียงเล็กน้อยท่ีมีอยู่ที่จุกประหยัดสำลี แตกตัวเจริญเติบโตได้ เช้ือราสีส้มมักเกิด กบั ฝกั ขา้ วโพดที่ถกู ท้งิ ไว้ทวั่ ไป การหลกี เลี่ยงเชือ้ ราสีสม้ ไม่ควรใชค้ วามร้อนสงู เกนิ ไป ในการน่ึงฆ่าเชื้อและไม่ควรใช้แป้งข้าวโพดมากเกินไปเป็นส่วนผสมในการเลี้ยง เสน้ ใยเหด็ เชื้อราสีดำ Mucor สายพันธุ์ต่างๆ ชื่อสามัญ The Black Pin Mold ที่ กำเนิดในธรรมชาติ คือ มูลสัตว์ ฟางเก่าๆ ปุ๋ยหมัก ดิน ซากพืช และเศษเสื้อผ้า เกา่ ๆ เส้นใยจะมสี ขี าวในชว่ งแรก เดินสานกันหนาแนน่ พอมีอายมุ ากจะรวมตัวเป็น จุดสีดำหนาแน่นมาก สีดำที่เห็นก็คือสปอร์ ถ้าอยู่ในอากาศที่สมบูรณ์ดีจะยังไม่ สร้างสปอร์ที่มีสีดำนี้ทำให้ดูไม่ออกว่าเป็นราดำ เส้นใยราดำเดินช้ากว่าเส้นใยเห็ด ท่ัวไปเล็กน้อย และมีการแบ่งแยกขอบเขตจะสังเกตได้ แต่เส้นใยของราตัวนี้สามารถ เดินแทรกเขา้ ไปในพนื้ ท่ีของเสน้ ใยเห็ด สายพันธ์ุ Mucor pusillus และรา Mucuraceous บางตัว แมจ้ ะพบไมม่ ากนกั แต่พวก นี้เป็นสาเหตขุ องโรค mucormycosis หรอื phycomycosis ท่ีรุนแรงถึงขัน้ เสียชวี ิต เพราะเช้ือตัวน้ีเป็นสาเหตุท่ีทำให้ร่างกายอ่อนแออย่างรุนแรง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มากมาย เชอ้ื ราสีดำ หนอนแมลงวันเซียริด หรือแมลงหวี่เห็ดปีกดำ หนอนพวกนี้ลำตัวมีสีขาวใส หรืออาจมีสีเขียวอ่อน บางครั้งหัวมีสีดำยาวประมาณ 5 - 7 มิลลิเมตร ตัวหนอน เคล่ือนไหวได้รวดเร็ว เม่ือเข้าดักแด้ใหม่ๆ จะเป็นสีขาวและสีจะเข้มข้ึนจนกลายเป็น 98
คูม่ ือการผลิตเหด็ หลิดจอื และสปอร์เหด็ หลินจือ ตามแนวทางเกษตรดีท่เี หมาะสม สีดำก่อนออกเป็นตัวแก่ ลักษณะของตัวแก่จะมีสีดำโดยเฉพาะท่ีปีก มีลักษณะคล้าย ยุงบ้าน มขี นาด 2 - 3 มิลลเิ มตร ชว่ งทอ้ งแคบ ตวั แก่ไม่ทำลายหรือกัดกนิ เหด็ แต่ อย่างใด วงจรชีวิตทั้งหมดคือจากไข่จนออกเป็นตัวแก่ประมาณ 25 - 30 วัน ศัตรู ธรรมชาติ ได้แก่แมลงวันตัวห้ำซีโนเซีย ทำลายท้ังระยะหนอนและตัวเต็มวัยในการ ป้องกันกำจัด เนื่องจากในปัจจุบันการระบาดทำลายของหนอนแมลงวันชนิดนี้เป็น ปัญหาที่สำคัญของเกษตรกรผู้เพาะเห็ด ซ่ึงถ้าหากปล่อยให้มีการระบาดทำลายเห็ด จนเน่าแล้วก็ยากที่จะแก้ไขได้ ดังน้ันจึงจำเป็นต้องคอยหม่ันดูแลความผิดปรกติที่เกิด ข้นึ กับเหด็ ที่เพาะอยา่ งสม่ำเสมอ โดยเนน้ การป้องกนั มากกวา่ การกำจัด ซึง่ มีขัน้ ตอน ในการจัดการดังน้ี โรงเรือนที่จะเพาะเห็ดควรทำความสะอาดให้ถูกต้องหรือถ้าเป็น โรงเรือนเก่าท่ีเคยเพาะเห็ดมาแล้วควรพักโรงเรือน ทำความสะอาด กำจัดแมลงและ ไรอย่างถูกวิธี ควรเลือกซื้อเช้ือพันธ์ุเห็ดหรือถุงก้อนเช้ือเห็ดจากแหล่งผลิตที่ไม่มี ประวตั ิการระบาดของหนอนแมลงวนั เซยี ริด และแมลงหวเ่ี หด็ ปกี ดำมาเพาะเลยี้ ง ลักษณะหนอนแมลงวนั เซียริด กำลงั ขยาย 40 เทา่ การทำลายเส้นใยเหด็ ของหนอนแมลงวันเซียรดิ ในก้อนอาหารเล้ยี งเชอ้ื 99
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข ราเมือก (Fuligo sp) มีสีขาวเกิดข้ึนลามเป็นร่างแหแล้วเป็นสีเหลืองและ มีกลิ่นเหม็นคาว เกิดบริเวณใกล้กับพื้นที่มีความช้ืนสูง และวางถุงเห็ดไว้ที่เดิม นานเกินไป ควรใช้เช้ือจุลินทรีย์ EM พ่นทุกวัน หรือให้ใช้น้ำผงซักฟอก ปูนขาว หรือเกลือแกงราดตรงบริเวณที่เป็นรา เม่ือนำเอาก้อนเชื้อออกแล้วจะต้องทำความ สะอาดด้วยน้ำยาคลอร็อคแล้วท้ิงไว้ให้แห้งก่อนที่จะนำเอาก้อนเชื้อชุดใหม่เข้าไปเปิด ให้ออกดอกต่อไป มอดหลินจือ (Cis chinensis Lawrence) เป็นแมลงศัตรูท่ีสำคัญท่ีเข้า ทำลายเห็ดหลินจือแห้ง ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ตามรอยแตกแยกของเห็ด หลังจาก ตัวหนอนฟักออกจากไข่ก็จะเริ่มกัดทำลายอยู่ภายในเน้ือเห็ด ทั้งตัวเต็มวัยและหนอน จะร่วมกันทำลายเห็ดหลินจือแห้ง ทำให้เห็ดเป็นรูพรุน และมีฝุ่นผงสีดำ ถ้ามีการ ระบาดหนักจะทำลายเน้ือเห็ดจนหมดเหลือแต่เปลือกหุ้มเห็ด ก่อให้เกิดความสูญเสีย ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ รูปร่างลักษณะเป็นด้วงปีกแข็งสีน้ำตาลแดงจนถึงดำ ลำตัวยาวประมาณ 1.68 - 2.17 มิลลิเมตร ลำตัวยาวกว่าความกว้าง ประมาณ 2 เทา่ สว่ นอกมักจะมสี เี ข้มกว่าปกี คหู่ น้า หนวด ปาก และขาสเี หลือง-สนี ำ้ ตาลแดง หนวดเป็นกระบอง (club) ปลายหนวดสีเข้มกว่าเล็กน้อย ตัวเต็มวัยเพศผู้ส่วนหัว หยัก สว่ นตวั เตม็ วัยเพศเมีย สว่ นหัวเรียบ ไข่มีลกั ษณะยาวรีขาวใส ระยะไข่ 3 - 5 วนั หลังจากน้ันจะฟกั เปน็ ตวั หนอน ตัวหนอนสีใส ระยะหนอน 19 - 35 วนั โดยมกี าร ลอกคราบ 4 ครงั้ จงึ เขา้ ดักแด้ในเน้ือเหด็ ระยะดกั แด้ 3 - 5 วัน จึงฟักออกเปน็ ตัว เต็มวัยระยะตัวเต็มวัย 108 - 517 วัน ตัวเต็มวัยเพศผู้อายุยืนกว่าเพศเมียเล็กน้อย การป้องกันกำจัด ใช้ความร้อน 60 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 50 นาที หรือ ความรอ้ น 50 องศาเซลเซียส นาน 100 นาที หรือใช้ความรอ้ นจากไมโครเวฟ ใช้ ความรอ้ นสงู อบนาน 1 นาที สามารถทำลายมอดหลินจือไดท้ ุกระยะการเจริญเตบิ โต ภาพขยายมอดหลนิ จอื 100
ค่มู ือการผลติ เหด็ หลิดจอื และสปอร์เหด็ หลินจอื ตามแนวทางเกษตรดีทเ่ี หมาะสม เอกสารอา้ งอิง กฤษณา ไกรสินธุ์. เห็ดหลินจือ Ling Zhi (Ganoderma lucidum) เอกสารอัดสำเนา. สถาบนั วิจยั และพฒั นาองค์การเภสัชกรรม, 2539. นพมาศ สุนทรเจริญนนท์. รายงานการวิจัยการวิเคราะห์คุณภาพทางเคมีของสปอร์เห็ดหลินจือ (Chemical qualitative analysis of lingzhi spores) ในชุดโครงการวิจยั เห็ดหลนิ จือ และสปอร์เหด็ หลนิ จือในประเทศไทย, 2552. สาธติ ไทยทตั กลุ . การเพาะเห็ดหลินจือ. กรุงเทพฯ: บริษัท ฟ้าอภยั จำกดั , 2538. สุรพล รักปทุม ,ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง. เห็ดหลินจือ Ling Zhi (Ganoderma lucidum) พมิ พ์คร้งั ท่ี 5. กรงุ เทพฯ: หจก.ภาพพิมพ์, 2549. อานนท์ เอ้ือตระกูล. การเพาะเห็ดหลินจือ. พมิ พ์คร้งั ท่ี 2. กรุงเทพฯ: คมชดั , 2544. Berger A, Rein D, Kratky E, Monnard I, Hajjaj H, Meirim I, et al. Cholesterol- lowering properties of Ganoderma lucidum in vitro, ex vivo, and in hamsters and minipigs. Lipids Health Dis 2004;3:2-12. Chang KC, Huang HC, Chen JH, Hsu JW, Cheng HC, Ou CH, et al. Ganoderma lucidum polysaccharides in human monocytic leukemia cells: from gene expression to network construction. BMC Genomics 2007;8:411. Chen WQ, Luo SH, Li HZ, Yang H. Effects of Ganoderma lucidum polysaccharides on serum lipids and lipoperoxidation in experimental hyperlipidemic rats. Zhongguo Zhong Yao Za Zhi 2005;30:1358-60. Chen JK, Chen TT. Chinese Medical Herbology and Pharmacology. 2nd ed. CA: Art of Medicine Press, Inc., 2004. Chen LW, Wang YQ, Wei LC, Shi M, Chan YS. Chinese herbs and herbal extracts for neuroprotection of dopaminergic neurons and potential therapeutic treatment of Parkinson’s disease. CNS Neurol Disord Drug Targets 2007;6:273-81. Chen X, Hu ZP, Yang XX, Huang M, Gao Y, Tang W, et al. Monitoring of immune responses to a herbal immuno-modulator in patients with advanced colorectal cancer. Int Immunopharmacol 2006;6:499-508. 101
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ Chen Z, Ding WL, Wang SF, Chen Y. Answer Questions on Cultivation of 100 Kinds of Medicinal Plants. 1st ed. Beijing: China Agriculture Publishing House, 2002 (in Chinese). Chengdu College of Traditional Chinese Medicine (CDUTCM). Zhongyao Jianding Xue. 1st ed. Shanghai: Shanghai Science and Technology Publishing House, 1979. Fatmawati S, Kurashiki K, Takebo S, Kim YU, Shimizu K, Sato M, et al. The inhibitory effect on aldose reductase by an extract of Ganoderma lucidum. Phytother Res 2009;23:28-32. Gao Y, Gao H, Chen E, Tang W, Xu A, Yang H, et al. Antitumor activity and underlying mechanisms of ganopoly, the refined polysaccharides extracted from Ganoderma lucidum, in mice. Immunol Invest 2005;34:171-98. Gao Y, Tang W, Dai X, Gao H, Chen G, Ye J, et al. Effects of water-soluble Ganoderma lucidum polysaccharides on the immune functions of patients with advanced lung cancer. J Med Food 2005;8:159-68. Gao Y, Zhou S, Jiang W, Huang M, Dai X. Effects of ganopoly (a Ganoderma lucidum polysaccharide extract) on the immune functions in advanced-stage cancer patients. Immunol Invest 2003;32:201-15. Hijikata Y, Yasuhara A, Sahashi Y. Effect of an herbal formula containing Ganoderma lucidum on reduction of herpes zoster pain: a pilot clinical trial. Am J Chin Med 2005;33:517-23. Ho YW, Yeung JS, Chu PK, Tang WM, Lin ZB, Man RY, et al. Ganoderma lucidum polysaccharides peptide reduced the production of proinflammatory cytokines in activated rheumatoid synovial fibroblast. Mol Cell Biochem 2007;301:173-9. Ko HH, Hung CF, Wang JP, Lin CN. Antiinflammatory triterpenoids and steroids from Ganoderma lucidum and G. tsugae. Phytochemistry 2008;69:234-9. Kong LW, Sun HF. Modern Practice in Cultivation Technique of Medicinal Plants. 1sted. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2000 (in Chinese). Li EK, Tam LS, Wong CK, Li WC, Lam CW, Wachtel-Galor S, et al. Safety and efficacy of Ganoderma lucidum (lingzhi) and San Miao San supplementation in patients with rheumatoid arthritis: a double-blind, randomized, placebo-controlled pilot trial. Arthritis Rheum 2007;57: 1143-50. 102
คู่มือการผลติ เห็ดหลิดจือและสปอรเ์ หด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดที เ่ี หมาะสม Li YB, Wang R, Wu HL, Li YH, Zhong LJ, Yu HM, et al. Serum amyloid A mediates the inhibitory effect of Ganoderma lucidum polysaccharides on tumor cell adhesion to endothelial cells. Oncol Rep 2008;20:5499-56. Lin JY, Li Y. Cultivation Technique of Medicinal Plants. 1st ed. Beijing: China Foresty Publishing House, 1999 (in Chinese). Lin ZB. Ganoderma Lucidum seu Japonicum: ling zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern Study of Pharmacology in Traditional Chinese Medicine. 2nd edition. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press. 1999. p. 1079-92. Lin ZB, Zhang HN. Anti-tumor and immunoregulatory activities of Ganoderma lucidum and its possible mechanism. Acta Pharmacol Sin 2004;25: 1387-95. Ma C, Guan SH, Yang M, Liu X, Guo DA. Differential protein expression in mouse splenic mononuclear cells treated with polysaccharides from spores of Ganoderma lucidum. Phytomedicine 2008;15:268-76. Noguchi M, Kakuma T, Tomiyasu K, Kunta Y, Kukihara H, Konichi F, et al. Effect of an extract of Ganoderma lucidum in men with lower urinary tract symptoms: a double-blind, placebo-controlled randomized and dose-ranging study. Asian J Androl 2008;10:651-8. Noguchi M, Kakuma T, Tomiyasu K, Yamada A, Itoh K, Konichi F, et al. Randomized clinical trial of an ethanol extract of Ganoderma lucidum in men with lower urinary tract symptoms. Asian J Androl 2008;10:777-85. Nonaka Y, Shibata H, Nakai M, kunhara H, Ishibashi H, Kiso Y, et al. Anti- tumor activities of the antlered from Ganoderma lucidum in allogeneic and syngeneic tumor-bearing mice. Biosci Biotechnol Biochem 2006;70:2028-34. Seto SW, Lam TY, Tam HL, Au AL, Chan SW, Wu JH, et al. Novel hypoglycemic effects of Ganoderma lucidum water-extract in obese/ diabetic (+db/+db) mice. Phytomedicine 2008; Dec 22 [Epub ahead of print]. Tang W, Gao Y, Chen G, Gao H, Dai X, Ye J, et al. A randomized, double-blind and placebo-controlled study of a Ganoderma lucidum polysaccharide extract in neurasthenia. J Med Food 2005;8:53-8. 103
กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. I. English ed. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. Wang SQ, Qin WB, Kang YM, Ma XR, Liu L, Liu JX, et al. Intervention effect of Ganoderma lucidum spores on the changes of XOD, MPO and SDH in the testis tissue of NIDDM rats. Zhonghua Nan Ke Xue 2008;14:792-5. Wu Y, Wang D. A new class of natural glycopeptides with sugar moiety- dependent antioxidant activities derived from Ganoderma lucidum fruiting bodies. J Proteome Res 2009;8:436-42. Xiao PG. Modern Chinese Materia Medica. Vol. 3. 1st ed. Beijing: Hua Xue Gong Ye Publishing House, 2002 (in Chinese). You YH, Lin ZB. Antioxidant effect of Ganoderma polysaccharide peptide. Yao Xue Xue Bao 2003;38:85-8. Zhao HB, Lin SQ, Liu JH, Lin ZB. Polysaccharide extract isolated from Ganoderma lucidum protects rats cerebral cortical neurons from hypoxia/reoxygenation injury. J Pharmacol Sci 2004;95:294-8. Zhao ZZ. An Illustrated Chinese Materia Medica in Hong Kong. First edition. Hong Kong: Chung Hwa Book Co., (H.K.) Ltd 2004. p.151. Zheng HN, Lin ZB. Hypoglycemic effect of Ganoderma lucidum polysaccharides. Acta Pharmacol Sin 2004;25:191-5. Zhu WW, Liu ZL, Xu HW, Chu WZ, Ye QY, et al. Effect of the oil from Ganoderma lucidum spores on pathological changes in the substantia nigra and behaviors of MPTP-treated mice. Di Yi Jun Yi Da Xue Xue Bao 2005;25:667-71. Zhu XL, Chen AF, Lin ZB. Ganoderma lucidum polysaccharides enhance the function of immunological effector cells in immunosuppressed mice. J Ethnopharmacol 2007;111:219-26. 104
คู่มือการผลิตเหด็ หลิดจอื และสปอร์เหด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดที ี่เหมาะสม ภาคผนวก ภาคผนวก 1 การเพาะเลี้ยงเหด็ หลนิ จอื ในสาธารณรฐั ประชาชนจนี ภาคผนวก 2 ต้นทนุ การผลิตเห็ดหลินจอื ตามแนวทางเกษตรดที ี่เหมาะสม ภาคผนวก 3 แบบฟอร์มทใ่ี ช้ในการผลติ เหด็ หลนิ จือตามแนวทางเกษตรดี ท่เี หมาะสม 105
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ภาคผนวก 1 การเพาะเล้ยี งเหด็ หลนิ จือ ในสาธารณรฐั ประชาชนจีน หลนิ จอื ทน่ี ยิ มใช้ในสาธารณรัฐประชาชนจนี มี 2 ชนดิ คือ หลนิ จือแดง และ หลินจือม่วง ใช้ทั้งส่วนดอกและสปอร์ในการทำยา หลินจือแดงมีแหล่งผลิตอยู่ใน มณฑลจห๋ี ลนิ เหลยี วหนงิ เหอเปย่ ซันตง ซันซี เหอหนัน เจียงซู อนั ฮุย เจ้อเจยี ง เจียงซี ฝูเจ้ยี น (ฮกเกย้ี น) กว่างตง (กวางต้งุ ) ไหห่ นัน (ไหหลำ) กวา่ งซี (กวางสี) กุ้ยโจว ซ่ือชวน (เสฉวน) หวินหนัน (ยูนนาน) เป็นต้น (Xiao, 2002 ; Lin, Li, 1999; Chen et al, 2002) ส่วนหลินจือม่วงมีแหล่งผลิตอยู่ในมณฑลเหอเป่ย ซันตง เจอ้ เจยี ง ฝูเจ้ยี น หหู นนั กวา่ งตง กวา่ งซี เปน็ ต้น (Xiao, 2002 ) การเพาะเห็ดหลินจือในสาธารณรฐั ประชาชนจนี จำแนกเปน็ 3 ประเภท ดังน้ี (Lu, 2009) 1. จำแนกตามผลผลติ ได้แก่ ดอกเห็ดหลนิ จอื สปอร์เหด็ หลนิ จือ 2. จำแนกตามอาหารเพาะเล้ียง ได้แก่ หลินจือที่เพาะเลี้ยงบนหญ้าที่มีไม้ฝัง อยู่ หลนิ จอื ทเี่ พาะเล้ียงในถงุ พลาสติก หลนิ จือที่เพาะเลย้ี งในมัดทอ่ นไม้สั้น ๆ และ หลินจอื ทเี่ พาะเลย้ี งในตอไม้ 3. จำแนกตามวิธีการเพาะเล้ียง ไดแ้ ก่ การเพาะเล้ยี งในขวด การเพาะเล้ยี งใน ถุงพลาสตกิ และการเพาะเลี้ยงบนดิน เทคนคิ การเพาะเลี้ยงเห็ดหลนิ จือ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คอื 1. ข้ันตอนการแยกเช้ือเห็ดบริสุทธิ์ การเพาะเลี้ยง การเก็บรักษาสายพันธุ์ และการเล้ียงเช้ือขยาย 2. ขัน้ ตอนการเขีย่ เชือ้ เห็ด และการบม่ ก้อนเชอื้ 106
คู่มือการผลติ เหด็ หลดิ จอื และสปอร์เห็ดหลนิ จือ ตามแนวทางเกษตรดีท่ีเหมาะสม 3. ขั้นตอนการดแู ลรกั ษาถุงกอ้ นเช้ือเห็ดเปดิ ดอก วิธีการเพาะเลีย้ งเห็ดหลินจอื (Lin, Li, 1999; Chen et al, 2002; Kong, Sun, 2000) 1. การเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือในขวด เป็นการเพาะเล้ียงเห็ดหลินจือที่ใช้กันมา นานในสาธารณรัฐประชาชนจีน เน่ืองจากให้ผลผลิตสูง และสามารถนำขวดกลับมา ใช้ใหม่ได้หลายครั้ง รวมทั้งสามารถป้องกันการกัดแทะของหนูหรือสัตว์เล้ียงอ่ืน นอกจากนี้การเก็บเก่ยี วสปอร์เหด็ หลนิ จือโดยวธิ คี ลมุ ถุงสามารถทำไดส้ ะดวก ปัจจบุ ัน ยังมีบางพื้นท่ีท่ีเลือกใช้วิธีนี้อยู่ แต่วิธีน้ีมีข้อเสีย คือ ปริมาณผลผลิตของดอกเห็ดจะ น้อยกว่าการเพาะเล้ียงในถุง หรือการเพาะเล้ียงบนดิน เนื่องจากมีข้อจำกัดของ ปรมิ าณอาหารเลีย้ งเชือ้ ที่บรรจใุ นขวด วัสดเุ พาะและสูตรอาหาร ทน่ี ิยมใชม้ ี 3 สตู ร ดังน้ี สูตรท่ี 1 สูตรอาหารทใ่ี ชข้ ี้ เลอ่ื ยเปน็ วสั ดุเพาะ สตู รที่ 2 สูตรอาหารท่ีใช้เปลอื กเมล็ดฝา้ ยเป็นวัสดุเพาะ สตู รท่ี 3 สตู รอาหารทใี่ ชก้ ากออ้ ยเป็นวสั ดเุ พาะ การบรรจุขวดและการนึ่งฆ่าเช้ือ นำอาหารเล้ียงเชื้อที่ผสมแล้วบรรจุในขวด ขนาด 750 มิลลิลิตร ในขณะบรรจุให้เขย่าขวดไปด้วย เพื่อให้อาหารเล้ียงเช้ือผสม เข้ากันดีและเพื่อลดช่องว่าง โดยท่ัวไปให้บรรจุอาหารเล้ียงเช้ือจนกระท่ังระดับห่าง จากปากขวดประมาณ 3 - 5 เซนตเิ มตร จากน้นั กดผวิ บนใหเ้ รียบ แลว้ ใชต้ ะเกยี บ เจาะรูตรงกลางขวดจากบนลงล่าง แล้วค่อยๆ เอาตะเกียบออก เพ่ือไม่ให้อาหาร ส่วนบนแตกกระจาย นำไปน่ึงฆ่าเชื้อ และรูนี้จะเป็นท่ีเจริญของเส้นใย ปิดปากขวด ดว้ ยสำลหี รือจุกประหยัดสำลีทำดว้ ยพลาสตกิ ทนรอ้ นและทนตอ่ แรงดนั การเตรียมขวดหัวเชื้อทำโดยใช้อัตราส่วนของข้าวสาลีต่อน้ำ คือ 1:2 เขย่าให้ เขา้ กนั ใสห่ วั เชือ้ ลงในขวดบรรจุอาหารทีเ่ ตรียมไว้ กดใหแ้ น่น ข้าวสาลีแห้ง 10 กรมั สามารถบรรจุขวดเพาะเลี้ยงได้ 9 เซนตเิ มตร การบรรจอุ าหารในขวดไม่ควรใหห้ นา เกินไป จากนัน้ นำไปนึ่งฆ่าเชอ้ื ทคี่ วามดนั สูงขนาด 1.2 กโิ ลกรมั ต่อตารางเซนติเมตร นึง่ ประมาณ 1 ชว่ั โมง การต่อเช้ือเห็ด ต้องทำในห้องท่ีสะอาดปราศจากเชื้อ โดยนำขวดหัวเชื้อเห็ดที่ เจริญเต็มที่ ลนไฟที่บริเวณคอขวด เขย่าให้ร่วน เปิดจุกสำลีของขวดเชื้อออก เทหัว เชื้อเห็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวลงให้เต็มรูที่เจาะไว้ รีบปิดฝาครอบให้แน่น จากนั้นนำ ไปบ่มในหอ้ งที่อณุ หภมู ิ 26 องศาเซลเซียส นาน 1 สัปดาห์ เส้นใยจะเจรญิ เต็มขวด 107
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ เพื่อใช้ในการเพาะเห็ดหลินจือ โดยหัวเช้ือเห็ด 1 ขวด จะสามารถต่อเชื้อได้ 25 - 30 ขวด การบ่มเช้ือ การเปิดดอกและการบำรุงรักษา เน่ืองจากมี 2 ข้ันตอน จึงควร แบ่งเปน็ 2 สว่ น ดังนี ้ โรงบ่มก้อนเชื้อ ควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 25 - 28 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิท่ีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของเห็ด โดยเลี้ยงประมาณ 10 วัน เส้นใยในขวดจะเดนิ ได้ 5 - 6 เซนติเมตร โดยทั่วไปเหด็ หลนิ จือจะใช้เวลาประมาณ 30 - 40 วัน เส้นใยเห็ดจะเจริญเต็มวัสดุเพาะ เมื่อเส้นใยเห็ดเจริญทั่วท้ังวัสดุเพาะ แลว้ ไมค่ วรปล่อยให้มีการพกั ตัวในโรงบ่มอีก ควรทำการยา้ ยไปโรงเรอื นเปิดดอกเหด็ โรงเรือนเปิดดอกเห็ด ควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 25 - 28 องศา เซลเซยี ส และควบคุมความชน้ื สัมพทั ธใ์ หอ้ ย่รู ะหวา่ งรอ้ ยละ 75 - 85 แต่ต้องไมต่ ำ่ กว่าร้อยละ 70 และต้องมีแสงเพยี งพอและอากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก เพือ่ ใหอ้ อกซิเจน เพียงพอต่อการเจริญเตบิ โตของเหด็ หลินจือตามปกติ การเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือในขวดควรป้องกันไม่ให้ก้อนเช้ือหลุดร่วงจากปาก ขวดหรือกอ้ นเช้อื ไม่ไดร้ ับอาหาร เพ่ือให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ควรทำในตอนกลางวนั ป้องกันไมใ่ หอ้ ากาศเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ มผี ลตอ่ รปู รา่ งลักษณะของดอกเหด็ 2. การเพาะเล้ียงเห็ดหลินจือในถุงพลาสติก มีกรรมวิธีเหมือนการเพาะเห็ด หลินจอื ในขวด ต่างกนั ทภี่ าชนะท่ีใชบ้ รรจวุ สั ดุเพาะ จะใชถ้ งุ พลาสตกิ แทนขวด โดย ท่ัวไปใช้ถุงพลาสติกทนร้อนขนาดความกว้าง 17 เซนติเมตร ยาว 33 เซนติเมตร หรือขนาดอื่นๆ ท่ีได้มาตรฐาน เป็นถุงชนิดที่พับก้นสำเร็จมาแล้ว เพราะสะดวกใน การบรรจุและสามารถสวมคอขวดสำหรับใสส่ ำลีได้ ภาพการเพาะเล้ียงเห็ดหลนิ จอื ภาพการเพาะเล้ยี งเห็ดหลินจอื ในถุงพลาสติกของจีน บนดนิ ของจนี 108
คูม่ อื การผลติ เห็ดหลดิ จือและสปอร์เหด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดที ี่เหมาะสม 3. การเพาะเล้ียงเห็ดหลินจือบนดิน เป็นวิธีท่ีนิยมใช้ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศญ่ีปุ่นซ่ึงมขี ัน้ ตอน ดังนี้ การเตรียมท่อนไม้ โดยทั่วไปจะใช้ไม้เน้ือแข็งที่มีใบกว้าง เช่น ต้นเมเปิ้ล ต้น ชินกัวพนิ (Chinguopin) และต้นจู (Zhu) เป็นตน้ ใหต้ ดั ทอ่ นไม้ในฤดูหนาวซ่งึ เปน็ ชว่ งทมี่ อี าหารอดุ มสมบรู ณ์ ตัดกิ่งและใบทงิ้ ใหห้ มด เจาะรูตรงกลางเน้อื ไม้ใหม้ ขี นาด 1- 2 เซนตเิ มตร และมคี วามชื้นพอเหมาะ นำมาวางทิง้ ไวใ้ นทรี่ ่ม การนึ่งฆ่าเชื้อและการต่อเชื้อเห็ด โดยทั่วไปจะน่ึงฆ่าเช้ือในหม้อน่ึงความดันท่ี อุณหภมู ิ 100 องศาเซลเซียส น่ึงนาน 12 - 14 ชั่วโมง ภายหลงั การนึง่ ฆา่ เชื้อแลว้ เอาทอ่ นไมท้ ีน่ ่ึงฆ่าเชือ้ ออก เมอ่ื ท่อนไมเ้ ย็นตวั ลงแล้ว ให้เทหัวเช้อื เห็ดลงในรูท่ีเจาะไว้ ปิดจุกด้วยสำลีและนำท่อนไม้ไปวางในห้องบ่มท่ีมีความช้ืนสัมผัสค่อนข้างต่ำคล้าย อากาศในช่วงฤดูหนาวประมาณ 20 - 22 องศาเซลเซียส บ่มนาน 3 - 4 วัน เพอ่ื ให้เส้นใยเห็ดเจริญบนท่อนไม้ การบม่ เช้ือเหด็ หลงั จากต่อเชอื้ เหด็ 2 - 3 วัน และรักษาอณุ หภูมไิ ว้ท่ี 22 องศาเซลเซียส เส้นใยเห็ดจะเจริญได้ดี ภายใน 1 สัปดาห์ เส้นใยเห็ดจะเจริญ ปกคลุมเตม็ ท่อนไมซ้ ึ่งมีสขี าวลกั ษณะเหมอื นปยุ ฝา้ ย การฝังท่อนไม้ที่มีเส้นใยเห็ดลงดิน โดยเลือกพื้นที่ท่ีมีการระบายน้ำดี ดินค่อน ข้างเป็นกรดและมีความอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้พื้นท่ีปลูกเมื่อพรวนดินและ ตากดินแล้ว แปลงปลูกควรยกดินให้สูงประมาณ 30 - 40 เซนติเมตรกว้าง 1.5 - 1.8 เมตร ความยาวไม่จำกดั รอบแปลงปลูกควรมีรอ่ งระบายน้ำ แปลงปลูก ควรเป็นแนวยาวจากทิศใต้ไปทศิ เหนือจงึ จะดีโรงเรือนท่ปี ลกู ควรสูงประมาณ 6 เมตร โดยใช้ตาข่ายสีดำพรางแสง เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ช่วยให้ลมถ่ายเทได้ดี ลดปริมาณ การระเหยของน้ำ ช่วยให้ความชืน้ สมั พทั ธภ์ ายในโรงเรอื นเพิม่ ขนึ้ และดูแลรักษาง่าย การเปิดดอกและการบำรุงรักษา ท่อนไม้ที่มีเส้นใยเดินเต็มที่เม่ือนำมาฝังลงดิน แล้ว ทีอ่ ณุ หภูมปิ ระมาณ 25 องศาเซลเซยี ส จะใชเ้ วลาประมาณ 7 - 15 วนั จึงจะ ออกดอก ดอกท่ีเริ่มออกจะเป็นตุ่มสีขาว ท่ีโคนดอกมีสีน้ำตาล ปริมาณความช้ืนใน ดินที่เหมาะสม คือ ร้อยละ 80 - 90 และควรปรับให้ความเข้มของแสงอุณหภูมิ ลม อากาศ และความช้ืนสัมพัทธ์ภายในโรงเรือนเป็นไปตามข้อจำกัดเฉพาะของ การเพาะเลยี้ งเห็ดหลนิ จอื 109
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ข้อกำหนดเฉพาะในการเพาะเลีย้ งเหด็ หลนิ จอื (Lin, Li, 1999; Chen et al, 2002; Kong, Sun, 2000) ในสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานกลางหรือข้อจำกัด เฉพาะในการผลติ ไว้ดงั นี้ 1. อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เส้นใยเห็ดเจริญอยู่ระหว่าง 4 - 39 องศาเซลเซียส แต่เจริญได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 24 - 30 องศาเซลเซียส ดอกเห็ดจะเจริญเติบโตค่อน ข้างช้าที่อุณหภูมิ 20 - 25 องศาเซลเซียส ดอกจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูร้อน และฤดใู บไม้รว่ ง 2. ความชื้น ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเจริญของเส้นใยเห็ด คือ ปริมาณน้ำและ ความช้ืนสัมพัทธ์ ซ่ึงมีผลต่อรูปร่างลักษณะของเห็ดแตกต่างกัน โดยท่ัวไปอาหาร เลี้ยงเช้ือต้องมีปริมาณน้ำร้อยละ 150 - 200 หากมากกว่าร้อยละ 250 การเจริญ เตบิ โตจะคอ่ นข้างชา้ และเม่อื เสน้ ใยเหด็ เจรญิ ในขวด ความชน้ื สัมพัทธส์ ามารถลดลง เหลอื ร้อยละ 60 ได้ สิง่ ทตี่ ้องเข้มงวดเพอื่ ให้หลนิ จอื สามารถออกดอกได้ คือ ความชื้นสัมพัทธ์ โดย ท่ัวไปความช้ืนสัมพัทธ์ท่ีต้องการต้องมากกว่าร้อยละ 70 แต่ท่ีเหมาะสมที่สุด คือ รอ้ ยละ 85 - 90 และอตั ราสว่ นของอาหารเลี้ยงเชอื้ ต่อน้ำทีเ่ หมาะสม คอื 1:2 ซ่งึ จะ มอี อกซเิ จนมากเพียงพอ หากความชื้นสัมพทั ธ์ตำ่ จะทำให้ดอกเหด็ ไม่เจริญเตบิ โต 3. อากาศบริสุทธ์ิ อากาศประกอบด้วยออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์เป็น หลัก ซึ่งล้วนมีผลต่อเห็ดหลินจือค่อนข้างมาก เส้นใยเห็ดจะเจริญในอาหารเล้ียงเชื้อ ได้ต้องมีออกซิเจนที่เพียงพอ การขาดออกซิเจนทำให้การเจริญของเส้นใยช้า ส่วน การออกดอกต้องการออกซิเจนคอ่ นขา้ งสูงหรอื อากาศบริสุทธิน์ น่ั เอง 4. แสง เส้นใยเห็ดหลินจือขณะเจริญในขวดเพาะเลี้ยงไม่ต้องการแสง ในที่มืด เส้นใยเห็ดเจริญได้ดี การเจริญเติบโตของดอกเห็ดต้องการความเข้มของแสงท่ีพอ เหมาะ คือ ความเข้มของแสงระหว่าง 1,200 - 2,000 ลักซ์ หากแสงไมเ่ พยี งพอจะ มผี ลให้การออกดอกช้าหรอื มีรปู รา่ งแปลกๆ การเจรญิ เติบโตของดอกเหด็ ส่วนใหญจ่ ะ หันไปทางด้านท่ีมีแสงเข้มกวา่ ในที่มดื เสน้ ใยเหด็ จะไมเ่ จรญิ เป็นดอก 5. อาหาร ในสภาพธรรมชาตเิ ห็ดหลินจอื มักชอบขนึ้ กบั ต้นไม้ได้มากมายหลาย ชนิด เช่น ต้นหม่อน ต้นเมเป้ิล เป็นต้น ในระยะแรกเส้นใยเห็ดจะดูดซึมน้ำตาล เชิงเดี่ยวที่มีธาตุคาร์บอนต่ำ จากน้ันเส้นใยเห็ดจะเจริญและผลิตเอนไซม์หลายชนิด 110
ค่มู ือการผลติ เห็ดหลดิ จอื และสปอร์เห็ดหลินจือ ตามแนวทางเกษตรดีท่เี หมาะสม เพ่ือย่อยอาหารท่ีมีเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และไซโลสมาใช้ประโยชน์ ส่วนธาตุวัตถุ อ่ืนๆ น้ันต้องการในปริมาณเล็กน้อย มีรายงานว่าหากเพ่ิมรำข้าวสาลีปริมาณที่ เหมาะสมลงในข้ีเลื่อยจะช่วยในการเจริญเติบโต แต่หากใช้รำข้าวสาลีอย่างเดียวจะ ทำให้การออกดอกได้ยาก ดังน้ันรำข้าวสาลีในปริมาณท่ีเหมาะสมจึงเป็นอาหารท่ีดี สำหรบั เส้นใยเหด็ 6. ความเปน็ กรด-ดา่ ง ความเปน็ กรด-ดา่ งทเ่ี ห็ดหลนิ จอื สามารถเจรญิ เติบโตได้ คือ pH 3.5 – 7.5 แตท่ เ่ี หมาะสมท่สี ุด คือ pH 5 - 6 (สภาพคอ่ นข้างเปน็ กรด) 111
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ภาคผนวก 2 ต้นทนุ การผลิตเห็ดหลินจือ และสปอรเ์ ห็ดหลินจอื ตามแนวทางเกษตรดีทีเ่ หมาะสม ต้นทุนการผลิตเห็ดหลินจือ หรือ ค่าใช้จ่ายในการผลิตเห็ดหลินจือ แบ่งออก เปน็ 2 ประเภทคือ 1. ต้นทุนผันแปร (variable cost) เป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตอันเกิดจากการ ใช้ปัจจัยผันแปร ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต ค่าใช้จ่ายนี้ผู้ผลิต สามารถท่ีจะเพ่ิมหรือลดได้ในระยะที่ทำการผลิต ซ่ึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ 1.1 ต้นทุนผันแปรท่ีเป็นเงินสด (monetary variable cost) เป็นค่าใช้ จ่ายผันแปรที่ผู้ผลิตจ่ายออกไปเป็นเงินสดในการซ้ือหรือเช่าปัจจัยการผลิต เช่น ค่า วัสดุอุปกรณ์ ค่าแรงงาน (จ้างในการผลิต เก็บเก่ียว และจัดการหลังการเก็บเกี่ยว) คา่ น้ำ คา่ ไฟฟ้า คา่ น้ำมันเชือ้ เพลิง เป็นตน้ 1.2 ต้นทุนผันแปรท่ีไม่เป็นเงินสด (non-monetary variable cost) เป็นค่าใช้จ่ายท่ีเก่ียวข้องกบั ปจั จัยการผลิตของตนเอง หรอื ได้มาโดยมิได้ซ้อื หรือจดั หา มาด้วยเงินสด จึงต้องประมาณค่าออกมาเป็นตัวเงิน เพ่ือนำมาวิเคราะห์ซ่ึงในทาง เศรษฐศาสตรเ์ รยี กว่าเป็นตน้ ทุนค่าเสยี โอกาส (opportunity cost) เช่น คา่ แรงงาน ครอบครวั (ประมาณค่าออกมาเป็นตัวเงนิ ตามอัตราค่าจา้ งแรงงานในท้องถน่ิ น้นั ๆ) 2. ตน้ ทนุ คงท่ี (fixed cost) เปน็ ค่าใชจ้ ่ายในการผลิตอนั เกิดจากการใช้ปจั จัย ซึ่งไม่เปล่ยี นแปลงไปตามปรมิ าณการผลติ ค่าใชจ้ า่ ยประเภทนมี้ ีความเกี่ยวขอ้ งกับทนุ ท่ีเรียกว่า เงินทุนจม (sunk capital investment) ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลกั ษณะ คือ 2.1 ต้นทุนคงท่ที ีเ่ ปน็ เงินสด (monetary fixed cost) เป็นคา่ ใชจ้ ่ายคงท่ี ท่ีผ้ผู ลติ ไดจ้ า่ ยออกไปจรงิ เป็นเงินสด เชน่ คา่ ภาษีทด่ี นิ คา่ เชา่ ที่ดนิ เป็นตน้ 112
คู่มือการผลิตเห็ดหลดิ จอื และสปอรเ์ ห็ดหลินจอื ตามแนวทางเกษตรดที ี่เหมาะสม 2.2 ต้นทนุ คงทท่ี ีไ่ ม่เป็นเงินสด (non-monetary fixed cost) เป็นค่าใช้ จ่ายคงที่ท่ีเกษตรกรผู้ผลิตไม่ได้จ่ายออกไปเป็นตัวเงิน แต่เป็นค่าใช้จ่ายท่ีได้จากการ ประเมนิ เชน่ และคา่ เส่ือมราคาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เป็นตน้ องค์ประกอบของต้นทุนการผลิตเหด็ และสปอร์เหด็ หลินจือ 1. ต้นทุนการผลิตเห็ดและสปอร์เห็ดหลินจือทั้งหมด ประกอบด้วย ต้นทุน ผนั แปร และตน้ ทุนคงที่ ตน้ ทนุ การผลติ ทง้ั หมด = ต้นทุนผันแปรท้งั หมด + ตน้ ทุนคงทีท่ ั้งหมด 2. ตน้ ทนุ การผลติ เห็ดและสปอรเ์ ห็ดหลินจอื = ต้นทุนการผลิตทั้งหมด ต่อหนว่ ยพ้นื ที่ (ม2) จำนวนพืน้ ท่ีโรงเรอื นทง้ั หมด 3. ต้นทุนการผลิตเห็ดและสปอร์เห็ดหลนิ จอื = ต้นทุนการผลิตท้งั หมด ต่อก้อนเหด็ จำนวนก้อนของเหด็ หลนิ จอื ทัง้ หมด 4. ตน้ ทนุ การผลติ เห็ดและสปอร์เหด็ หลินจือ = ตน้ ทุนการผลติ ทง้ั หมด ต่อหนว่ ยการผลติ ผลผลิตทง้ั หมด 5. ผลผลติ เห็ดหลนิ จือตอ่ หนว่ ยพื้นท่ี (ม2) = ผลผลติ เหด็ หลินจอื ทั้งหมด จำนวนพืน้ ท่โี รงเรือนทง้ั หมด 6. ผลผลิตสปอรเ์ ห็ดหลนิ จือต่อหน่วยพนื้ ท่ี (ม2) = ผลผลติ สปอร์ท้งั หมด จำนวนพน้ื ทโี่ รงเรอื นทั้งหมด นิยามศพั ท์ต้นทนุ ค่าใช้จ่ายแรงงาน หมายถึง ค่าจ้างแรงงานในการผลิตและการเก็บเกี่ยว ประกอบดว้ ย 1 คา่ จา้ งแรงงานผลติ หมายถึง คา่ ใชจ้ ่ายแรงงานทง้ั หมดท่ีใช้ในผลิตเห็ด และสปอรเ์ หด็ หลินจอื 113
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข 2 ค่าจ้างแรงงานเก็บเก่ียว หมายถึง ค่าใช้จ่ายแรงงานทั้งหมดท่ีใช้ในการ เก็บเกีย่ วเหด็ และสปอร์เหด็ หลนิ จือ ค่าใช้จา่ ยดา้ นวสั ดุ หมายถงึ ค่าใช้จา่ ยผันแปร เชน่ 1 คา่ ใช้จ่ายด้านวสั ดใุ นห้องปฏิบัติการ 2 ค่าวสั ดสุ ิน้ เปลอื งตา่ งๆ ในการทำอาหารเลี้ยงเชอ้ื พดี ีเอ 3 ค่าวสั ดุส้นิ เปลืองในการขยายเชอ้ื พดี ีเอ ลงเล้ยี งในเมล็ดข้าวฟา่ ง (ระยะ เวลา 15 วัน) 4 ค่าวัสดุท่ีใช้ในการทำก้อนเช้อื เหด็ 5 คา่ วสั ดทุ ี่ใชใ้ นการหยอดเชื้อ 6 คา่ ดูแลรักษากอ้ นเชอื้ ท่ที ำการบม่ และการเปิดดอก ฯลฯ ค่าใชจ้ ่ายด้านสาธารณูปโภค ได้แก ่ 1 ค่าน้ำ หมายถึง ค่าน้ำที่ใช้ในการทำอาหารเลี้ยงเช้ือและในการผสม ขเ้ี ล่ือย 2 ค่าไฟ หมายถงึ คา่ ไฟท่ีใช้ในห้องปฏบิ ตั ิการและในการผสมขีเ้ ลือ่ ย 3 ค่าน้ำมันเช้ือเพลิง หมายถึง ค่าน้ำมันเช้ือเพลิงที่ใช้ในการขนส่งก้อน เชอื้ เขา้ โรงเรือนและขนก้อนเชือ้ ไปฝ่ายชีวภาพเพือ่ ทำปุย๋ ฯลฯ ค่าใช้จ่ายคงท่ี หมายถึง ค่าเสื่อมราคาวัสดุอุปกรณ์ ค่าเช่าที่ดิน (ถือเป็น opportunity cost คำนวณจากราคาค่าเช่าที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับโครงการ พิเศษสวนเกษตรเมืองงายฯ) เงินเดือนผู้จัดการและเงินเดือนเจ้าหน้าท่ีประจำ โครงการผลิตเหด็ และสปอรเ์ ห็ดหลนิ จือ เชน่ 1 คา่ เสอื่ มราคาอาคาร โรงเรอื นและวสั ดุอปุ กรณ์ หมายถงึ คา่ เส่ือมราคา โรงเรือน เตานงึ่ ฆา่ เช้ือ หม้อน่ึงความดนั ช้นั วางกอ้ นเห็ด เคร่ืองผสม ขี้เลื่อย เคร่ืองอัดก้อนเชื้อเห็ด เครื่องดูดฝุ่น เครื่องวัดอุณหภูมิและ ความช้นื 2 ค่าเสื่อมราคาครุภัณฑ์ หมายถึง ค่าเสื่อมราคาถาดสแตนเลส หม้อ สแตนเลสเก็บสปอร์ ตู้อบสปอร์ เคร่ืองดูดสุญญากาศ แปรงปัดสปอร์ เหด็ ชดุ เกบ็ สปอร์ เสอ้ื กาวน์ ฯลฯ 114
คมู่ ือการผลิตเห็ดหลดิ จอื และสปอร์เห็ดหลินจอื ตามแนวทางเกษตรดที เี่ หมาะสม ภาคผนวก 3 แบบฟอรม์ ที่ใช้ในการผลติ เหด็ หลินจอื ตามแนวทางเกษตรดีที่เหมาะสม 1. แบบฟอร์มบนั ทกึ การเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดหลินจือในอาหารวนุ้ (PDA) 2. แบบฟอรม์ บันทึกอุณหภูมิและความชื้นสมั พัทธ์ 3. แบบฟอร์มการเก็บวัตถุดิบเห็ดหลนิ จือและสปอรเ์ ห็ดหลินจอื 4. แบบฟอร์มบันทึกน้ำหนกั 5. แบบฟอร์มบนั ทึกความช้นื ดอกเห็ดหลินจือ 6. แบบฟอรม์ การใช้ห้องเย็น 7. แบบฟอร์มการตรวจเช็คสภาพวัสด,ุ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการผลติ 8. แบบฟอร์มการซอ่ มบำรงุ วสั ดุ,อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการผลิต 9. แบบฟอร์มการทำความสะอาดวัสด,ุ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการผลิต 115
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ตารางบันทกึ การเจริญเตบิ โตของเสน้ ใยเหด็ หลินจือในอาหารวุ้น (PDA) ครั้งที่ ว/ด/ป ซ้ำท ่ี ขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางของเสน้ ใย (เซนตเิ มตร) หมายเหตุ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลีย่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี 116
คมู่ ือการผลิตเหด็ หลดิ จอื และสปอร์เหด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดที ีเ่ หมาะสม ตารางบนั ทกึ อุณหภูมแิ ละความช้นื สัมพัทธ์ โรงเรอื น.............................. ประจำเดือน............................ วนั ที่ อุณหภมู ิ (องศาเซลเซยี ส) ความชน้ื สัมพทั ธ์ (เปอร์เซ็นต์) หมายเหตุ เชา้ กลางวนั เยน็ เช้า กลางวัน เย็น 8.00-9.00 น. 12.00-13.00 น. 17.00-18.00 น. 8.00-9.00 น. 12.00-13.00 น. 17.00-18.00 น. เวลาทที่ ำการวดั 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 117
กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ แบบฟอร์มการเกบ็ วตั ถุดบิ สปอรเ์ ห็ดหลินจือ ชอื่ วัตถุดบิ สปอรเ์ ห็ดหลนิ จอื อบแห้ง ชอ่ื วตั ถุดบิ สปอร์เห็ดหลนิ จอื อบแห้ง สายพันธุ์.......................................... สายพันธ์ุ.......................................... เลขที่โรงผลิต................................... เลขที่โรงผลิต................................... วันท่ีเก็บ.......................................... วันที่เก็บ.......................................... น้ำหนัก........................................... น้ำหนัก........................................... ชอ่ื วตั ถุดิบ สปอร์เหด็ หลินจืออบแหง้ ชื่อวตั ถดุ ิบ สปอรเ์ หด็ หลินจืออบแห้ง สายพันธุ์.......................................... สายพันธ์ุ.......................................... เลขที่โรงผลิต................................... เลขที่โรงผลิต................................... วันที่เก็บ.......................................... วันท่ีเก็บ.......................................... น้ำหนัก........................................... น้ำหนัก........................................... ช่อื วตั ถุดบิ สปอรเ์ หด็ หลินจืออบแหง้ ชอื่ วตั ถุดิบ สปอร์เหด็ หลินจืออบแหง้ สายพันธ์ุ.......................................... สายพันธุ์.......................................... เลขที่โรงผลิต................................... เลขท่ีโรงผลิต................................... วันท่ีเก็บ.......................................... วันที่เก็บ.......................................... น้ำหนัก........................................... น้ำหนัก........................................... 118
ค่มู ือการผลิตเหด็ หลดิ จือและสปอรเ์ หด็ หลินจอื ตามแนวทางเกษตรดที ่เี หมาะสม ตาราง : บนั ทึกนำ้ หนกั น้ำหนักดอกเหด็ ค่าความชน้ื น้ำหนกั สปอร ์ คา่ ความชืน้ ว/ด/ป โรงผลิต (กโิ ลกรมั ) สัมพัทธ ์ (กิโลกรมั ) สมั พทั ธ์ กอ่ นอบ หลังอบ (เปอรเ์ ซ็นต)์ กอ่ นอบ หลงั อบ (เปอรเ์ ซน็ ต์) 119
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ตาราง : บันทึกความช้ืนดอกเหด็ หลนิ จือ ว/ด/ป โรงผลติ น้ำหนักสปอร ์ ช่วั 5โม0งํCท่ี 5 ช่ัว5โม5งCํท่ี 8 ชว่ั โ5ม5งทํC่ี 12 ช่ัวโ5ม5งทํC่ี 16 ชั่วโ5ม5งทํCี่ 18 120
คูม่ ือการผลติ เหด็ หลดิ จอื และสปอรเ์ หด็ หลนิ จอื ตามแนวทางเกษตรดีท่เี หมาะสม ลำดับ ว/ด/ป แบบฟอรม์ การใชห้ อ้ งเย็น รายการ เวลา จำนวน ผ้ปู ฎิบัต ิ ผู้ตรวจสอบ หมายเหต ุ 121
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ แบบฟอร์มการตรวจเช็คสภาพวสั ด,ุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ลำดับ ว/ด/ป รายละเอยี ดการตรวจ ตรวจเช็ค ผตู้ รวจเช็ค หมายเหต ุ เชค็ สภาพ สภาพ โดย รบั มอบงาน 122
คมู่ อื การผลติ เหด็ หลดิ จอื และสปอรเ์ ห็ดหลินจือ ตามแนวทางเกษตรดีที่เหมาะสม แบบฟอรม์ การซอ่ มบำรุงวัสดุ, อุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการผลติ ลำดบั ว/ด/ป รายละเอยี ดการซ่อมบำรงุ ซ่อมบำรุง ผู้ตรวจสอบ หมายเหตุ โดย รบั มอบงาน 123
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แบบฟอร์มการทำความสะอาดวสั ด,ุ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการผลิต ลำดับ ว/ด/ป รายละเอยี ดการทำ ผูป้ ฎิบตั ิ ผตู้ รวจสอบ หมายเหต ุ ความสะอาด 124
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133