ยาไทรอยด์ Levothyroxine sodium (L-thyroxine sodium) tablets
GREEN BOOK1111 (L-tLheyvrooxthinyerosxoindeiusmo)dtiuamblets หวั ขอ้ ตรวจสอบคณุ ภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลกั ษณ์ (Identification) ปรมิ าณตวั ยาสำคญั (Active ingredient) ความสมำ่ เสมอของตัวยา (Content uniformity) การละลายของตัวยา (Dissolution) Organic impurities ผผู้ ลติ ท่ีผ่านมาตรฐานตามเกณฑค์ ัดเลือก รายชอ่ื ผูผ้ ลติ ทะเบียนยา ชอ่ื การค้า Manufacturer Reg. No. Trade Name Merck KGaA 1C 225/44 Euthyrox 50 ug (Federal Republic of Germany) 1C 226/44 Euthyrox 100 ug 51
ยากลุ่มสเตียรอยด์ Clobetasol propionate cream Hydrocortisone acetate cream Hydrocortisone sodium succinate sterile powder Prednisolone tablets
GREEN BOOK1111 Clobetasol propionate cream หัวขอ้ ตรวจสอบคุณภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลักษณ์ (Identification) ปรมิ าณตวั ยาสำคญั (Active ingredient) ความเปน็ กรด – ดา่ ง (pH) ปริมาณบรรจุ (Minimum fill) ผูผ้ ลติ ท่ผี า่ นมาตรฐานตามเกณฑ์คัดเลอื ก รายชอ่ื ผูผ้ ลิต ทะเบยี นยา ช่อื การค้า Manufacturer Reg. No. Trade Name 2M (MED-MAKER) Co., Ltd. 1A 218/40 Klobecort New Life Pharma Co., Ltd. 1A 970/40 Clobevate Osoth Inter Laboratories 1A 1258/41 P-Vate Co., Ltd. 1A 734/39 Clobetate Polipharm Co., Ltd. Umeda Co., Ltd. 1A 359/45 Delacor 53
ยากลุ่มสเตยี รอยด์ Hydrocortisone acetate cream หัวขอ้ ตรวจสอบคุณภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลกั ษณ์ (Identification) ปริมาณตวั ยาสำคัญ (Active ingredient) ผผู้ ลิตทผี่ า่ นมาตรฐานตามเกณฑค์ ัดเลอื ก รายชือ่ ผู้ผลติ ทะเบียนยา ชื่อการคา้ Manufacturer Reg. No. Trade Name Atlantic Laboratories Corp., Ltd. 1A 285/29 Hytisone 54
GREEN BOOK1111 Hydrocortsisteornileespoodwiudmersuccinate หัวข้อตรวจสอบคุณภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลักษณ์ (Identification) ปริมาณตัวยาสำคัญ (Active ingredient) ความแตกต่างจากนำ้ หนกั เฉล่ีย (Weight variation) ความเป็นกรด – ดา่ ง (pH) สารกอ่ ไข้ (Bacterial endotoxins; LAL) นำ้ หนกั ทีห่ ายไปหลงั อบแห้ง (Loss on drying) Free hydrocortisone ผู้ผลิตทผี่ ่านมาตรฐานตามเกณฑค์ ดั เลอื ก รายชอื่ ผผู้ ลติ ทะเบียนยา ชอื่ การคา้ Manufacturer Reg. No. Trade Name Pfizer Manufacturing Belgium 1C 403/27 Solu-Cortef NV (Kingdom of Belgium) 55
ยากลมุ่ สเตยี รอยด์ Prednisolone tablets หวั ข้อตรวจสอบคณุ ภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลักษณ์ (Identification) ปริมาณตวั ยาสำคัญ (Active ingredient) ความสม่ำเสมอของตวั ยา (Content uniformity) การละลายของตัวยา (Dissolution) ผู้ผลิตทผี่ า่ นมาตรฐานตามเกณฑ์คดั เลอื ก รายช่ือผผู้ ลติ ทะเบยี นยา ชอ่ื การคา้ Manufacturer Reg. No. Trade Name The Medicpharma Co., Ltd. 1A 1918/29 Prednisolone 1A 1995/30 Predsomed องคก์ ารเภสชั กรรม 1A 410/45 Prednisolone 56
ยาฮอร์โมนเพศ Norethisterone tablets
ยาฮอร์โมนเพศ Norethisterone tablets หวั ข้อตรวจสอบคุณภาพ (มาตรฐาน BP 2013) การตรวจเอกลักษณ์ (Identification) ปรมิ าณตัวยาสำคัญ (Active ingredient) ความแตกต่างจากนำ้ หนกั เฉลี่ย (Weight variation) การกระจายตวั (Disintegration) ผูผ้ ลติ ที่ผ่านมาตรฐานตามเกณฑค์ ดั เลือก รายชือ่ ผู้ผลติ ทะเบยี นยา ช่ือการค้า Manufacturer Reg. No. Trade Name Bayer Weimar GmbH Und Co.KG 1C 94/50 Primolut N (Federal Republic of Germany) Sunward Pharmaceutical Pte 1C 18/48 Sunolut Ltd. (Republic of Singapore) Unicure Remedies Pvt. 1C 95/51 Pinrone Ltd. (Republic of India) West-Coast Pharmaceutical 1C 106/51 Steron Works Ltd. (Republic of India) 58
ยาคุมกำเนิด Medroxyprogesterone acetate sterile suspension
ยาคุมกำเนดิ Medroxyprogesustsepreonnseioancetate sterile หัวขอ้ ตรวจสอบคุณภาพ (มาตรฐาน USP 36, 2013) การตรวจเอกลักษณ์ (Identification) ปริมาณตัวยาสำคัญ (Active ingredient) ความเปน็ กรด – ด่าง (pH) ความปราศจากเชือ้ (Sterility) ผผู้ ลิตที่ผ่านมาตรฐานตามเกณฑค์ ดั เลอื ก รายช่ือผูผ้ ลติ ทะเบยี นยา ช่อื การคา้ Manufacturer Reg. No. Trade Name A.N.B. Laboratories. Co., Ltd. 1A 2372/28 Depo-Gestin 1A 403/43 Depo-A General Drugs House Co., Ltd. 1A 2332/29 Depo-Progesta Olan-Kemed Co., Ltd. 1A 597/32 Deprora T.P. Drug Laboratories (1969) 1A 415/51 Medeton Co., Ltd. 1A 521/42 ENAF-150 Umeda Co., Ltd. Vesco Pharmaceutical Co., Ltd. 1A 124/42 Depo-M 60
GREEN BOOK1111 ภาคผนวก 61
GREEN BOOK 11 หัวขอ้ ทดสอบในผลิตภณั ฑย์ าสำเรจ็ รูป ผลิตภัณฑ์ยาแต่ละรูปแบบ หรือรูปแบบยาเดียวกันแต่ตัวยาสำคัญต่างกัน อาจมีหวั ข้อการควบคุมคุณภาพ (Requirements) ไม่เทา่ กนั อยา่ งไรกต็ ามมหี ัวข้อ ควบคณุ ภาพหลักๆ ทีต่ รวจสอบในทกุ รปู แบบยา คอื ลักษณะภายนอก การตรวจ เอกลักษณ์ของตัวยา และการหาปริมาณตัวยาสำคัญ สำหรับเกณฑ์มาตรฐาน ทั่วไปของแต่ละหัวข้อทต่ี รวจสอบ มีรายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ (ยกเวน้ จะกำหนดเป็น อยา่ งอืน่ เฉพาะบางผลิตภัณฑ์) 1. ลกั ษณะภายนอก (Appearance) ยาเม็ดต้องไม่กร่อนแตกหักหรือเคลือบเม็ดยาหลุด สีสม่ำเสมอ แคปซูลผิวต้องเรียบ ผงยาไม่ชื้น ยาน้ำหรือยาฉีดต้องไม่ตกตะกอนหรือร่ัวซึม ไมม่ สี ง่ิ แปลกปลอม ยาน้ำแขวนตะกอนตอ้ งเป็นเนื้อเดียวกันหลงั การเขย่า เป็นตน้ 2. การตรวจเอกลกั ษณ์ (Identification) เป็นการตรวจพิสูจน์สารที่ต้องการทราบว่าตรงกับท่ีแจ้งในฉลาก โดยการเปรียบเทียบสารละลายตัวอย่างกับสารละลายสารมาตรฐานโดยวิธี spectrophotometry, chromatography หรอื วธิ อี น่ื ๆ ตามทรี่ ะบไุ ว้ 3. ปรมิ าณตวั ยาสำคญั (Assay หรอื Content of active ingredient) เป็นการตรวจหาปริมาณตัวยาสำคัญตามท่ีระบุในฉลาก มาตรฐาน ทั่วไปกำหนดในช่วง 90.0-110.0% บางตัวยาท่ีมีดัชนีการรักษาแคบ จะกำหนด เป็น 95.0-105.0% และตัวยาท่ีไม่คงสภาพอาจกำหนดแตกต่างออกไปเป็น 90.0-115.0% หรือ 95.0-110.0% ของปรมิ าณที่แจ้งบนฉลาก 4. ความสมำ่ เสมอของตวั ยาในแตล่ ะหน่วย (Uniformity of mass, BP หรอื Uniformity of dosage units, USP) มีการทดสอบ 2 แบบขน้ึ กับปรมิ าณตวั ยาในแต่ละหน่วยหรอื เป็นสัดส่วน กับสารทำเจือจาง คือ แบบท่ี 1 หาค่าเบี่ยงเบนจากน้ำหนักเฉล่ีย (weight 62
GREEN BOOK1111 variation หรือ uniformity of weight) หรือแบบท่ี 2 ความสม่ำเสมอของ ปรมิ าณตวั ยาในแตล่ ะหนว่ ย (content uniformity หรอื uniformity of content) โดยตำรายาฉบบั ใหม่ ๆ เชน่ USP 29 เปน็ ต้นไป มีการเปลยี่ นแปลงเกณฑ์มาตรฐาน และการคำนวณ เป็นคา่ ทยี่ อมรับได้ เช่น acceptance value ≤ 15.0% จากเดมิ ทก่ี ำหนดเปน็ ชว่ งของนำ้ หนกั หรือปริมาณตัวยาสำคัญและคา่ Relative Standard Deviation (% RSD) เป็นต้น 5. การกระจายตัว (Disintegration) หมายถึง การทดสอบการแตกตัวของยาเม็ดหรือแคปซูล ในสภาวะ และเวลาท่ีกำหนด ซ่ึงไม่ได้แสดงถึงการละลายของเม็ดยาหรือตัวยาสำคัญ ปัจจุบัน วิธีทดสอบการแตกกระจายของเม็ดยาของ USP และ BP ได้ถูกปรับ ใหเ้ ปน็ แนวทางเดียวกัน โดยประกอบดว้ ย 2 ขนั้ ตอน ขนั้ ตอนที่ 1 ใช้ตัวยาจำนวน 6 เม็ด ข้ันตอนที่ 2 ใช้ตัวยา 16 เม็ด รวม 18 เม็ด กรณีท่ีข้ันตอนท่ี 1 มเี มด็ ยาหรอื แคปซูลแตกตวั ไม่หมด 1-2 เมด็ ให้ทดสอบข้ันตอนท่ี 2 ใช้ตวั ยา 16 เม็ด จะสรุปว่ายาเขา้ มาตรฐานเมือ่ ยา 16 ใน 18 เม็ดแตกตวั หมด 6. การละลายของตัวยา (Dissolution) การทดสอบการละลายของตัวยาสำคัญ เพ่ือจำแนกคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์และเป็นข้อบ่งช้ีท่ีดีกว่าการกระจายตัว (disintegration) ในแง่ ของการเอื้อประโยชน์ของยาเป็นการทดสอบ in vitro ซ่ึงจะแสดงความ แตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ยาของแต่ละบริษัท นอกจากน้ียังแสดงความ แตกต่างของตำรับ ปัจจัยต่อตำรับ และพารามิเตอร์อ่ืน ๆ ในกระบวนการผลิต ซึ่งการทดสอบการละลายของตัวยาน้ี อาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับการ ทดสอบ in vivo (bioavailability) ถ้า in vitro dissolution สัมพันธ์กับ in vivo dissolution profile สามารถบ่งบอกถึง bioavailability คือ การเอ้ือประโยชน์ในร่างกาย หมายถึง อัตราเร็วและปริมาณตัวยาสำคัญที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และมผี ลหรือเอือ้ ประโยชนไ์ ด้ ณ จดุ ออกฤทธ์ิ 63
GREEN BOOK 11 ถ้า in vitro dissolution ไม่สัมพันธ์กับ in vivo dissolution ถือเป็น physical test คือ เป็นการตรวจสอบลักษณะของผลิตภัณฑ์ โดยศึกษา การละลายของตัวยาในสภาวะท่กี ำหนด ซง่ึ ไมส่ ามารถบ่งบอกถงึ bioavailability ปัจจุบันการทดสอบการละลายของตวั ยาท้งั ใน USP และ BP ไดถ้ ูกปรับ ให้เป็นแนวทางเดียวกัน โดยการทดสอบประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ๆ ละ 6, 6 และ 12 เม็ด รวม 24 เม็ด อาจสรุปผลได้ต้ังแต่ข้ันตอนใดข้ันตอนหน่ึงหรือ ต้องทดสอบทง้ั 3 ขัน้ ตอน 7. Related substances / Related compounds / Chromatographic purity เป็นการตรวจหาสารอ่ืนท่ีไม่ใช่ตัวยาสำคัญในตำรับ อาจเป็นสาร ซึ่งเกิดข้ึนในกระบวนการสังเคราะห์ตัวยาสำคัญหรือเป็นสารสลายตัวของ ตัวยาสำคัญ หรือเป็นสารสกัดร่วม (co-extracted) ที่ได้จากการสกัดตัวยา จากสมนุ ไพร สว่ นใหญ่ใช้วิธี Chromatography 8. การทดสอบ Bacterial endotoxins test เป็นการทดสอบหาปริมาณ endotoxin ที่เกิดจากแบคทีเรียแกรม ลบในยาฉีด โดยอาศัยหลักการทำปฏิกิริยาระหว่างสารสกัดจากเลือด แมงดาทะเล (Limulus Amoebocyte Lysate) กับปริมาณสาร bacterial endotoxin ในตัวอย่าง โดยดูการเกิดวุ้นเม่ือครบเวลาที่กำหนด (Gel-clot method) หรือการวัดความขุ่นท่ีเกิดข้ึนอย่างต่อเนื่องทุกช่วงเวลาของ การทำปฏิกิริยา (Turbidimetric method) แล้วเปรียบเทียบความขุ่นกับ เส้นกราฟของสารเอ็นโดทอกซินมาตรฐาน (Standard endotoxins) เพื่อ หาปริมาณของสารเอ็นโดทอกซินในตัวอย่าง ซึ่งปริมาณสาร bacterial endotoxin แปรผกผนั กับเวลาทใ่ี ชใ้ นการทำปฏกิ ริ ยิ า 64
GREEN BOOK1111 9. การทดสอบความปราศจากเช้อื (Sterility Test) เป็นการตรวจสอบความปราศจากเช้ือของผลิตภัณฑ์ปราศจากเชื้อ เช่น ยาฉดี ยาหยอดตา 10. ปรมิ าณนำ้ (Water) และน้ำหนักท่หี ายไปหลังอบแห้ง (Loss on drying) เป็นการตรวจปริมาณน้ำในตัวอย่าง และน้ำหนักที่หายไปหลังอบแห้ง ท่ีอณุ หภมู ิ ความดนั และเวลาที่กำหนด 11. ความเป็นกรด–ด่าง (pH) วดั ค่าความเป็นกรด–ดา่ ง ของตัวอย่างยาฉดี ยานำ้ ยานำ้ แขวนตะกอน 65
GREEN BOOK 11 การจดั ทำ GREEN BOOK 1 – 10 ในการจัดทำสารสนเทศด้านคุณภาพยาท่ีได้จากการดำเนินโครงการ ประกันคุณภาพยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซ่ึงมีข้อจำกัดด้วย กฎระเบียบตาม พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ว่าด้วยการเผยแพร่ ข้อมูลสู่สาธารณะในส่วนของข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาท่ีไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ัน ไม่สามารถกระทำได้ทันทีเพราะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหาสาเหตุ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ดังน้ัน ข้อมูลเหล่าน้ีจึงมีการเผยแพร่เฉพาะหน่วยงานของรัฐที่ร่วมดำเนิน โครงการท้ังในรูปของเอกสารและผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซ่ึงต้องกำหนด ช้ันความลับและให้รหัสการเข้าถึงข้อมูลแก่บุคลากรในหน่วยงานราชการ เท่าน้ัน อย่างไรก็ตามการเผยแพร่ข้อมูลคุณภาพยาท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐาน สามารถ กระทำได้โดยไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งสำนักยาและวัตถุเสพติด ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก และพัฒนารูปแบบในการนำเสนอสำหรับ ผลิตภัณฑ์ยาท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อเข้าอยู่ในบัญชีรายชื่อผลิตภัณฑ์ยา คุณภาพ โดยจัดทำเป็นหนังสือ “รายช่ือผลิตภัณฑ์ยาคุณภาพและผู้ผลิต หรือ GREEN BOOK” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องนอกเหนือจากหน่วยงาน ของรฐั ได้ใชป้ ระโยชน์มากขน้ึ รายงานน้ีได้กล่าวถึง การจัดทำสารสนเทศด้านคุณภาพยา คือ GREEN BOOK 1–10 ซ่ึงเผยแพร่ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา พร้อมการสำรวจ ความคดิ เหน็ และความพงึ พอใจของผใู้ ชข้ อ้ มลู เพอื่ นำมาปรบั ปรงุ และพฒั นาสารสน เทศด้านคณุ ภาพยาของกรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ใหม้ คี วามสมบูรณย์ ่งิ ขึน้ 66
GREEN BOOK1111 การจดั ทำ GREEN BOOK 1 เป็นการจัดทำ GREEN BOOK เล่มแรกโดยนำข้อมูลผลการตรวจสอบ คุณภาพผลิตภัณฑ์ยาในโครงการประกันคุณภาพยา ต้ังแต่ปีงบประมาณ 2545- 2547 มาพิจารณา การเลือกใช้ผลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาจากโครงการดังกล่าวมา เผยแพร่ เนื่องจากมีการวางแผนในการดำเนินการที่ชัดเจน ทุกผลิตภัณฑ์ท่ีมีชื่อ สามัญและรูปแบบยาเหมือนกัน ขนาดความแรงเท่ากัน (pharmaceutical equivalence) ไม่ว่ามาจากแหล่งผลิตใด จะได้รับการตรวจสอบด้วยวิธีและ มาตรฐานเดยี วกัน หวั ขอ้ ทดสอบเท่าเทยี มกัน ซึ่งเปน็ วิธแี ละมาตรฐานตามตำรายา ท่ีรฐั มนตรปี ระกาศ (USP 27, 2004 และ BP 2004) หรือฉบับใหมก่ วา่ เป็นหลัก ในการกำหนดรูปแบบและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกข้อมูลคุณภาพยา มานำเสนอน้ัน มีการจำแนกข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาตามช่ือสามัญทางยาและ แหล่งผลิต พบว่าแต่ละแหล่งผลิตมีการข้ึนทะเบียนยาช่ือสามัญเดียวกัน รูปแบบยาและขนาดความแรงเท่ากันจำนวนหลายทะเบียนยา บางราย การมีคุณภาพไม่สม่ำเสมอในแต่ละทะเบียนยาทั้งท่ีผลิตจากแหล่งเดียวกัน คือ บางตำรับผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกรุ่นผลิต ในขณะท่ีบางตำรับไม่ผ่านเกณฑ์ ในบางรุ่น ดังนั้น จึงใช้ทะเบียนยาเป็นตัวสำคัญในการคัดเลือก โดยแต่ละ ตำรับต้องมีผลการตรวจสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกหัวข้อที่ทดสอบทุกรุ่น ผลิต อย่างน้อย 3 รุ่น และหากมีปัญหาในการตัดสินใจจะนำเอกสารทะเบียน ยามาพิจารณารว่ มด้วย การระบุรายละเอียดข้อมูลที่เก่ียวข้องด้านคุณภาพยา จะคำนึงถึงประโยชน์ สงู สดุ ในการนำขอ้ มลู ไปใช้ โดยจำแนกประเภทของยา (category) ตามประสทิ ธภิ าพ ในการรกั ษา ระบุชือ่ สามัญทางยา (generic name) รปู แบบยา (dosage form) และหวั ขอ้ ทีท่ ดสอบคณุ ภาพ สำหรับผลิตภัณฑย์ า ทผี่ า่ นเกณฑ์การคัดเลือกจะระบุ ช่ือผู้ผลิต หรือผู้แทนจำหน่าย ชื่อการค้าและขนาดความแรงของตัวยาสำคัญ พรอ้ มทะเบียนยา 67
GREEN BOOK 11 ผลิตภัณฑ์ยาจำนวนมากที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก มาเผยแพร่ เน่ืองจากไม่ครบ 3 รุ่นผลิต ส่วนใหญ่ได้รับการสุ่มตรวจทะเบียน ยาละ 1 รุ่นผลิต โดยแต่ละช่ือสามัญจากแหล่งผลิตเดียวกันอาจมีการข้ึน ทะเบียนไว้ 3-5 ทะเบียนยาหรือมากกว่า ซึ่งในการรักษาสถานภาพของ ทะเบียนยาที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาน้ัน ต้องมีการผลิตยาออกจำหน่าย ดังน้ัน จากจำนวนผลิตภัณฑ์ยาท่ีผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน 783 ตำรบั แต่ไดร้ ับการคัดเลอื กมาเผยแพรใ่ น GREEN BOOK 1 เพยี ง 261 ตำรบั (รอ้ ยละ 33) เทา่ น้ัน จากช่อื สามญั ทางยา 55 รายการ สำหรับยาต้นแบบ พบว่าได้รับการสุ่มตรวจจำนวนน้อย เน่ืองจาก โรงพยาบาลไมส่ ง่ ตรวจ อาจเนอื่ งจากไมส่ งสยั ในคณุ ภาพ ประกอบกบั ยามรี าคาแพง ทำให้ข้อมูลของยาต้นแบบไม่ได้รับการเผยแพร่เท่าท่ีควร อย่างไรก็ตามพอสรุป ได้วา่ ผลิตภณั ฑย์ าทีไ่ มไ่ ด้รบั การเผยแพร่มาจากสาเหตุ 3 ประการ ประการแรก ผลติ ภณั ฑย์ านนั้ ไดร้ บั การตรวจสอบ 3 รนุ่ ผลติ หรอื มากกวา่ ในแต่ละทะเบียนยา แต่มีบางรุ่นผลติ ไม่ผา่ นเกณฑม์ าตรฐาน ประการที่ 2 ผลิตภัณฑ์ยาน้ันได้รับการตรวจสอบและผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน แต่ไมค่ รบ 3 รุ่นผลติ ในแต่ละทะเบยี นยา ประการสดุ ท้าย ผลติ ภณั ฑย์ านนั้ ไมถ่ กู สมุ่ ตรวจ เพราะไมม่ ใี ชใ้ นโรงพยาบาล ในช่วงทีม่ ีการสุ่มตัวอย่าง การจัดทำ GREEN BOOK 2 จากข้อจำกัด 3 ประการที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาไม่ได้รับการเผยแพร่ใน GREEN BOOK 1 ดังนั้นเพ่ือให้ได้ข้อมูลเผยแพร่มากขึ้น การดำเนินโครงการ ประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2548 จึงมีการสุ่มตัวอย่างเพิ่มเติมรอบท่ี 2 สำหรับผลิตภัณฑ์ยาท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 2 รุ่นผลิต นอกจากนี้สำนัก ยาและวัตถุเสพติดได้ดำเนินโครงการ “ประกันคุณภาพยาท่ีใช้ในโรงพยาบาล ชุมชนและหน่วยปฐมภูมิ” โดยความร่วมมือและสนับสนุนงบประมาณจาก 68
GREEN BOOK1111 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยา 10 รายชื่อ สามัญทางยาจากโรงพยาบาลชุมชน และคัดเลือกข้อมูลมาเผยแพร่ใน GREEN BOOK 2 ด้วย ในการจัดทำ GREEN BOOK 2 พบว่าตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาท่ีได้รับ การสุ่มตรวจในโครงการ ส่วนใหญ่ผู้ผลิตใช้ทะเบียนยาเดียวในการผลิตยา ชื่อสามัญ แต่ละรายการเพื่อจำหน่ายให้โรงพยาบาลรัฐ ซ่ึงเป็นผลจาก GREEN BOOK 1 ทำให้ผู้ผลิตพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ยาภายใต้ทะเบียน ยาเดียวโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนยาไว้มากเกินความจำเป็น ทำให้แต่ละ ตำรับมีจำนวนรุ่นผลิตมากพอท่ีถูกสุ่มตรวจในโครงการประกันคุณภาพยา สำหรับปีงบประมาณ 2548 มีตำรับที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ท้ังหมด 421 ตำรับ ได้รับการคดั เลือกมาเผยแพรใ่ น GREEN BOOK 2 จำนวน 176 ตำรับ (ร้อยละ 42) จากช่อื สามญั ทางยา 44 รายการ สำหรับตำรับยาฉีดยังได้รับการเผยแพร่น้อยและไม่ครอบคลุมทุกแหล่ง ผลิต เน่ืองจากการตรวจสอบคุณภาพมีหัวข้อทดสอบมากกว่ายารูปแบบอื่น ๆ บางหัวข้อใช้ตัวอย่างจำนวนมาก เช่น sterility, particulate matter เป็นต้น ดังนั้นจึงได้รับตัวอย่างยาจากโรงพยาบาลน้อย เพราะมียาอยู่จำนวนจำกัด เท่าทพี่ อใช้ในโรงพยาบาล การสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของผู้ใช้ข้อมูล GREEN BOOK 1–2 เก่ียวกับวิธีการดำเนินโครงการประกันคุณภาพยาและการให้ บริการสารสนเทศด้านคุณภาพยา ได้แก่ เอกสารผลการตรวจวิเคราะห์ยาท้ังท่ี ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในโครงการประกันคุณภาพยา และ GREEN BOOK 1-2 เพ่ือนำมาปรับปรุงและพัฒนาการจัดทำสารสนเทศด้านคุณภาพ ยา โดยส่งแบบสอบถามไปยังโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่าง ๆ ของรัฐ รวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั่วประเทศ จำนวน 941 แห่ง ตอบกลับมา 325 แห่ง (ร้อยละ 34.5) ร้อยละ 65 เปน็ หัวหนา้ กลมุ่ งานเภสชั กรรม อีกรอ้ ยละ 35 เป็นเภสัชกรโรงพยาบาล ซ่ึงความคิดเห็นในเร่ืองวิธีการดำเนินโครงการ 69
GREEN BOOK 11 ประกันคุณภาพยา ร้อยละ 92 เห็นด้วยในเรื่องการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยา ต้ังแต่ 3 รุ่นผลิตข้ึนไปและควรทดสอบคุณภาพยาในทุกหัวข้อตามท่ีตำรายา กำหนด กรณีท่ียามีราคาแพง ร้อยละ 94 เสนอว่าควรมีการชดเชยยาให้แก่ โรงพยาบาลที่ส่งตรวจ และวิธีการชดเชยยา ร้อยละ 45 มีความเห็นว่าควร ระบุไว้ในสัญญาจะซ้ือจะขาย สำหรับความคิดเห็นเร่ืองการให้บริการสาร สนเทศด้านคุณภาพยา ร้อยละ 71 ระบุว่าใช้เอกสารผลการตรวจวิเคราะห์ คุณภาพยาเป็นข้อมูลสำหรับการจัดซ้ือยาคราวต่อไป ร้อยละ 46 ระบุว่า ได้ใช้ GREEN BOOK เปน็ แนวทางในการจัดซ้ือยา และรอ้ ยละ 45 ใช้ GREEN BOOK เป็นแนวทางในการกำหนดคคู่ า้ การจัดทำ GREEN BOOK 3 ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาในโครงการประกันคุณภาพยาที่ผ่านมา จะรับตัวอย่าง ท้ังหมดจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือโรงพยาบาลที่ส่งตรวจคุณภาพ โดยไม่มีการคัดเลือกรุ่นผลิต จึงพบปัญหาว่า ผลิตภัณฑ์ยาบางรายการมีผู้ผลิต น้อยราย และมีใช้เหมือนกันในโรงพยาบาลหลายแห่งท่ัวประเทศ ทำให้ได้รับ ตัวอย่างจากแหล่งผลิตเดียวกันซ้ำรุ่นผลิตมากหรือหลายรุ่นเกินความจำเป็น ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ยาบางรายการมีผู้ผลิตหลายราย แต่ได้รับตัวอย่างไม่ ครอบคลุมทุกแหล่งผลิต ดังนั้นเพ่ือให้ครอบคลุมแหล่งผลิตท่ีได้รับข้อมูลจาก โรงพยาบาล ไม่ซ้ำร่นุ ผลติ และจำนวนตวั อย่างไมม่ ากเกนิ ไป จงึ ทำการสุม่ ตวั อย่าง ในโครงการประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2549 โดยขอข้อมูลยาที่มีใช้ใน โรงพยาบาล ตามชื่อสามัญทางยา ความแรง รูปแบบยา ชื่อการค้า ทะเบียนยา พร้อมรุ่นผลิต และระบุจำนวนตัวอย่างท่ีต้องการในแต่ละผลิตภัณฑ์ และนำ ข้อมูลที่ได้มาบันทึกในโปรแกรมการสุ่มตัวอย่างจนครบทุกโรงพยาบาล ภายใน 1 เดือน แล้วจึงสุ่มเลือกให้ครอบคลุมทุกแหล่งผลิตและจำนวนรุ่นท่ีต้องการ โดยแจ้งให้โรงพยาบาลส่งตัวอย่างตามที่สุ่มเลือก ท้ังนี้ตัวอย่างยาฉีดได้ลดการ ทดสอบในบางหัวข้อท่ีต้องใช้ตัวอย่างจำนวนมากและเป็นหัวข้อท่ีไม่เคยพบ 70
GREEN BOOK1111 ปัญหาผิดมาตรฐาน ทำให้ได้รับตัวอย่างยาฉีดเพิ่มขึ้น และได้ผลิตภัณฑ์ยา ครอบคลมุ แหลง่ ผลิตมากกวา่ เดมิ นอกจากนี้ สำนักยาและวัตถุเสพติดได้รับความร่วมมือและสนับสนุน งบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการดำเนินโครงการ “วิเคราะห์คุณภาพยา ณ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ในปี พ.ศ. 2549 โดยสุ่มตัวอย่างยาจำนวน 11 รายชื่อสามัญทางยา ได้ข้อมูล มาเผยแพร่ใน GREEN BOOK 3 ด้วย ซ่ึงจำนวนตำรับที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน มที ้ังหมด 312 ตำรบั ได้รบั การคดั เลือกมาเผยแพร่ จำนวน 211 ตำรับ (รอ้ ยละ 68) จากช่อื สามญั ทางยา 50 รายการ การจดั ทำ GREEN BOOK 4 เน่ืองในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550 กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างพร้อมใจสนองพระราชจริยวัตรในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ภายใต้โครงการ “80 พรรษา สืบสานพระเมตตา พัฒนาผู้สูงวัย” เพ่ือเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซ่ึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ร่วมดำเนินโครงการ ของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ชื่อ “โครงการประกันคุณภาพยาสำหรับ ผสู้ ูงอายุ : Golden Drugs for Golden Age (GoldenQ)” โดยการตรวจสอบ คุณภาพผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้ในโรคผู้สูงอายุ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ ยาในกลุ่มรักษาโรคหัวใจ ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ยารักษา โรคเบาหวาน ยาลดไขมันในหลอดเลือด ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหารและ ทางเดินหายใจ และนำข้อมูลคุณภาพยามาจัดทำ GREEN BOOK 4 ซ่ึง ประกอบด้วย ข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาในกลุ่มโรคผู้สูงอายุจากทุกโครงการ ที่ผ่านมา รวมกับข้อมูลคุณภาพยาในกลุ่มอื่น ๆ ซ่ึงมีการปรับระยะเวลาของ การสุ่มตัวอย่างให้รวดเร็วขึ้น โดยใช้โทรสารท้ังในเรื่องการส่งข้อมูลจาก โรงพยาบาลและการสุ่มเลือกกลับไปภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้ได้รับตัวอย่าง 71
GREEN BOOK 11 ตรงตามที่สุ่มเลือก และคัดเลือกข้อมูลผลการตรวจสอบคุณภาพมาจัดทำ GREEN BOOK 4 เผยแพร่ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 จำนวนผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้ในโรคผู้สูงอายุ ได้รับคัดเลือกมาเผยแพร่ รวมทั้งสิ้น 272 ตำรับ จากช่ือสามัญทางยา 55 รายการ สำหรับผลิตภัณฑ์ยา กลุ่มอื่น ๆ มีจำนวนท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 252 ตำรับ ได้รับการ คัดเลือกมาเผยแพร่ จำนวน 173 ตำรับ (ร้อยละ 69) จากชื่อสามัญทางยา 43 รายการ สำหรับการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาท่ียังไม่มีระบุในตำรายา จะใช้วิธี และเกณฑ์มาตรฐานในทะเบียนยา ส่วนการคัดเลือกตำรับใดมาเผยแพร่ จะพิจารณาเกณฑ์มาตรฐานท่ีระบุไว้ในทะเบียนยาด้วย เพราะแต่ละตำรับอาจ กำหนดหัวข้อควบคุมคุณภาพไม่เท่ากัน เนื่องจากข้ึนทะเบียนยาไว้ในแต่ละปี ท่ีแตกต่างกัน ตำรับยาที่มีหัวข้อการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล ที่ทันสมัย จะได้รับการคัดเลือกมาเผยแพร่ใน GREEN BOOK 4 เช่น ตำรับยา ที่กำหนดหัวข้อการละลายของตัวยา (dissolution) ซึ่งบ่งบอกคุณภาพได้ดีกว่า หัวข้อการกระจายตัว (disintegration) เป็นต้น เพ่ือให้โรงพยาบาลได้ใช้เป็น แนวทางในการกำหนดคุณลกั ษณะของผลิตภณั ฑย์ าในการจัดซอ้ื ดว้ ย อย่างไรก็ตามในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐานมาเผยแพร่ ใน GREEN BOOK 4 พบว่า ผลิตภัณฑ์ยาที่มีการใช้น้อยหรือมีการนำเข้าเพียง ปลี ะ 2 ร่นุ ผลติ ทำให้สมุ่ ตัวอยา่ งไดไ้ ม่ครบ 3 รุ่น ดังน้ัน ในกรณที มี่ ีจำนวน 2 รุ่น ผลิตเหมือนกันทุกแหล่งผลิตและเป็นยาที่ไม่มีปัญหาด้านความคงสภาพ จะอนโุ ลมคัดเลอื กจาก 2 ร่นุ ผลติ มาเผยแพร่อย่างเท่าเทียมกนั 72
GREEN BOOK1111 การจดั ทำ GREEN BOOK 5 การดำเนินโครงการประกันคุณภาพยาปีงบประมาณ 2551 โดยได้รับ ผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมด 1,334 ตัวอย่างจาก 356 ทะเบียนยา การตรวจสอบ คุณภาพผลิตภัณฑ์ยาท่ีมีช่ือสามัญทางยาและรูปแบบเดียวกัน โดยอ้างอิงวิธี และเกณฑ์มาตรฐานที่ระบุในตำรายาเป็นหลัก พบว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 1,199 ตัวอย่าง ประมาณร้อยละ 90 จากจำนวน 294 ทะเบียนยา และได้รับการคัดเลือกมาเผยแพร่ใน GREEN BOOK 5 จำนวน 202 ทะเบียนยา 54 รายการยาช่ือสามัญ ท่ีมีจำนวน 2-3 รุ่นผลิตข้ึนไปและผ่าน เกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด สำหรับยาต้นแบบ ในการจัดทำ GREEN BOOK 1-4 ที่ผ่านมามีคำถามเสมอว่าทำไม GREEN BOOK จึงไม่มีรายช่ือของยาต้นแบบ ท้ังนี้เน่ืองมาจากได้รับตัวอย่างยาต้นแบบจำนวนรุ่นผลิตน้อยกว่าเกณฑ์ การคัดเลือก ทำให้ไม่ได้รับการเผยแพร่ ดังน้ันใน GREEN BOOK 5 ฉบับนี้ เฉพาะยาต้นแบบทุกตำรับท่ีผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้นำมาเผยแพร่ โดย ไม่กำหนดจำนวนรุ่นผลติ ส่วนยาสามญั ยังคงคัดเลือกตามเกณฑ์ท่กี ำหนด ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการตรวจสอบคุณภาพยา คือ สารมาตรฐาน ซ่ึงส่วนใหญ่ต้องซ้ือจากต่างประเทศ ทำให้การตรวจวิเคราะห์อาจไม่เป็นไป ตามระยะเวลาท่ีกำหนด บางชนิดมีราคาแพงจำเป็นต้องรอตรวจวิเคราะห์ ตัวอย่างในคราวเดียวกันเพ่ือความประหยัดและการใช้สารมาตรฐานอย่าง ค้มุ ค่า นอกจากนี้สารมาตรฐานบางชนิดท่ีจัดเป็นวัตถุออกฤทธ์ิ การจัดซ้ือต้อง ผ่านข้ันตอนตามกฎระเบียบของทางราชการผ่านสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา ทำให้การตรวจวิเคราะห์ต้องล่าช้าและไม่สามารถตรวจได้ทันเวลา ท่ีกำหนด เช่น ตำรับยา alprazolam tablets การตรวจสอบหัวข้อ content uniformity ต้องใช้สารมาตรฐานร่วม (internal standard) ท่ีเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ดงั นัน้ ใน GREEN BOOK 1 จึงใชผ้ ลของ weight variation แทน ซงึ่ ในโครงการฯ ปีงบประมาณ 2552 (ปรากฏใน GREEN BOOK 6) ได้ดำเนินการตรวจสอบ คุณภาพยาตำรับน้ีซ้ำอีก และได้เตรียมสารมาตรฐานดังกล่าวไว้ล่วงหน้า เพ่อื ให้ไดข้ อ้ มลู คณุ ภาพที่ครบถว้ นตามที่ตำรายากำหนด 73
GREEN BOOK 11 การจัดทำ GREEN BOOK 6 โครงการประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2552 ได้รับความร่วมมือ ในการส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาเพ่ือตรวจสอบคุณภาพ จากโรงพยาบาลรัฐ 353 แห่ง รวมจำนวน 1,151 ตัวอย่างจาก 447 ทะเบียนยา โดยมีผลิตภัณฑ์ยา ท่ีได้รับการทบทวนคุณภาพจำนวน 4 รายการ ได้แก่ albendazole tablets, indomethacin capsules, piroxicam capsules และ warfarin tablets ซ่ึงเป็นตำรับที่ผ่านการคัดเลือกและเผยแพร่ใน GREEN BOOK 3, 1, 1 และ 4 ตามลำดับน้ัน ผลการตรวจสอบคุณภาพซ้ำ พบว่า albendazole tablets และ piroxicam capsules ในบางตำรับที่เคยไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน หัวข้อการละลายของตัวยา ได้รับการพัฒนาคุณภาพจนผ่านเกณฑ์ มาตรฐานในการตรวจวิเคราะห์คร้ังนี้ แต่สำหรับ indomethacin capsules และ warfarin tablets บางตำรับที่เคยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ยังพบความ ไม่สม่ำเสมอในการผลิตและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในการตรวจวิเคราะห์ ครั้งน้ี นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลจากผลการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา ท่ีสุ่มจากร้านขายยา ผู้นำเข้าหรือผู้ผลิต โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาในปีเดียวกันมาเผยแพร่ด้วย ทำให้ได้ข้อมูลจากแหล่งสุ่มตัวอย่างต่างกัน เพ่ือให้เกิดการเฝ้าระวังคุณภาพยาครอบคลุมมากขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ยาท่ีสุ่ม โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซ่ึงตรวจวิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติ การของสำนักยาและวัตถุเสพติด ได้คัดเลือกมาเผยแพร่จำนวน 9 รายการ ได้แก่ dicyclomine hydrochloride tablets, diphenhydramine hydrochloride capsules, doxazosin mesilate tablets, fenofibrate capsules / tablets, levothyroxine sodium tablets, methocarbamol tablets, ofloxacin tablets, pioglitazone hydrochloride tablets และ tenoxicam tablets 74
GREEN BOOK1111 จากเกณฑ์มาตรฐานในตำรายาท่ีรัฐมนตรีประกาศ คือ USP 27, 2004 และ BP 2004 เม่ือเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานในตำรายาฉบับใหม่กว่า เช่น USP 31 และ BP 2008 พบวา่ ไม่มีความแตกต่างในส่วนท่เี ป็นสาระสำคัญ ยกเว้นหัวข้อความสม่ำเสมอของตัวยา (uniformity of dosage units หรือ content uniformity) ซึ่งต้ังแต่ USP 29 และ BP 2008 เป็นต้นมา มีการเปล่ียนแปลงวิธีคำนวณและเกณฑ์มาตรฐานในหัวข้อ content uniformity ซ่ึงเข้มงวดข้ึนจากเดิม ซ่ึงในการวิเคราะห์ยา Indomethacin capsules ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 อุบลราชธานี พบว่า USP 31 มีความเข้มงวดกว่า ในกรณีท่ีค่าเฉล่ียของปริมาณตัวยาสำคัญ (mean; c) มีค่าใกล้เคียง upper limit (110.0% la.) หรือใกล้ lower limit (90.0% la.) โดยยอมให้มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานแคบกว่าใน USP 27 แต่กรณีท่ีค่า c มีค่า ใกล้เคียงกับปริมาณตัวยาที่แจ้งบนฉลาก (100.0% la.) ตำรายาทั้งสอง จะยอมรับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานได้สูงกว่ากรณีแรกและไม่แตกต่างกันมาก ในการผา่ นเกณฑม์ าตรฐาน การจดั ทำ GREEN BOOK 7 การจัดทำ GREEN BOOK 7 ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาจากการดำเนิน โครงการประกันคุณภาพยา ประจำปีงบประมาณ 2552 และ 2553 ซ่ึง ได้รับความร่วมมือในการส่งตัวอย่างยาจากโรงพยาบาลรัฐ ท้ังในและ นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ จำนวน 360 แห่ง และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้รับตัวอย่างท้ังสิ้นจำนวน 960 ตัวอย่าง (384 ทะเบียนยา) คัดเลือกรายการยาท้ังส้ิน จำนวน 35 รายการ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ยาท่ีเคยตรวจวิเคราะห์ในโครงการฯ ปีท่ีผ่านมา จำนวน 22 รายการ โดยคัดเลือกรายการยาที่เคยพบปัญหาคุณภาพมาตรวจสอบซ้ำเพื่อ ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา และเป็นการเฝ้าระวังคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา เป็นระยะ ๆ จากการทบทวนคุณภาพในปีนี้ พบว่าส่วนใหญ่มีการพัฒนาคุณภาพ 75
GREEN BOOK 11 และผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน เช่น amitriptyline hydrochloride tablets เป็นรายการยาที่มีการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ จากเดิมเป็นยาเม็ดเคลือบ น้ำตาลเปลี่ยนเป็นเคลือบฟิล์ม ทำให้ลดปัญหาด้านการละลายของตัวยา สำหรับ Enalapril maleate tablets พบว่าผู้ผลิตในประเทศมีการพัฒนาคุณภาพ ผลิตภัณฑ์จนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน โดยยาท่ีผิดมาตรฐานเกือบทั้งหมดเป็นยา สามญั ทีน่ ำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับรายการยาที่ยังคงพบผิดมาตรฐาน เช่น aspirin tablets และ dipotassium clorazepate capsules เนื่องจากคุณสมบัติความไม่คงสภาพ ของตัวยา โดยพบผิดมาตรฐานหัวข้อปริมาณตัวยาสำคัญ และปริมาณ สารสลายตัว สำหรับ aspirin tablets พบหลายตัวอย่างที่มีลักษณะของ ยาเสื่อมคุณภาพก่อนวันหมดอายุ คือมีกล่ินฉุนของ acetic acid และมีผลึก salicylic acid ซึ่งเป็นสารสลายตัวระเหิดมาเกาะอยู่ท่ีแผงและเม็ดยา สำหรับ dipotassium clorazepate capsules พบผิดมาตรฐานจำนวนมาก จึง ไม่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกมาเผยแพร่ โดยตัวอย่างที่ส่งตรวจวิเคราะห์มีลักษณะ ชื้น ซึ่งตำรับยาน้ีตัวยาสลายตัวง่ายเม่ือสัมผัสความชื้น ความร้อน และแสง ตำรายาจึงกำหนดให้ยาตำรับนี้ต้องอยู่ในภาชนะบรรจุ class A ซึ่งความช้ืน ไมส่ ามารถผ่านไดแ้ ละป้องกนั แสง ผลิตภัณฑ์ยาท่ีสุ่มตัวอย่างโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คือ erythropoietin alfa sterile solution กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ ตรวจวิเคราะห์คุณภาพตามมาตรฐานตำรายาและเผยแพร่ใน GREEN BOOK 7 ดว้ ยเช่นกนั 76
GREEN BOOK1111 การจัดทำ GREEN BOOK 8 การดำเนินโครงการประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2554 ได้รับ ความร่วมมือจากโรงพยาบาลรัฐท้ังในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั่วประเทศ 336 แห่ง และข้อมูลทะเบียนยาจากสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาตรวจวิเคราะห์รายการผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์ยา จากสมุนไพร จำนวน 35 รายการ ได้รับตัวอย่างท้ังส้ินจำนวน 692 ตัวอย่าง (324 ทะเบยี นยา) เปน็ ยาแผนปจั จบุ นั จำนวน 581 ตวั อยา่ ง ผลติ ภณั ฑย์ าจากสมนุ ไพร 111 ตวั อยา่ ง ในการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน 32 รายการ ซ่ึงเป็นผลิตภัณฑ์ ยาท่ีเคยตรวจวิเคราะห์ในโครงการปีท่ีผ่านมา 16 รายการเพ่ือติดตามคุณภาพ โดยเป็นรายการยาที่เคยพบปัญหาคุณภาพ และเป็นการเฝ้าระวังคุณภาพ ผลติ ภัณฑ์ยาเป็นระยะ ๆ และอาจมผี ู้ผลิตเพิ่มขึ้น ซงึ่ พบวา่ ผลิตภณั ฑย์ าที่มีปัญหา เหล่าน้มี กี ารพฒั นาคุณภาพและผา่ นเกณฑม์ าตรฐาน นอกจากน้ี การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาในโครงการยังพิจารณาจากตำรายา ฉบับใหม่ท่ีมีการเปล่ียนแปลงเกณฑ์มาตรฐานในบางหัวข้อ เช่น amlodipine tablets เคยสุ่มตัวอย่างเมื่อปี 2549 ซ่ึงขณะนั้นยังไม่มีระบุในตำรา ยาที่รัฐมนตรีประกาศ จึงใช้เกณฑ์มาตรฐานของผู้ผลิตที่ข้ึนทะเบียนยาไว้ ซึ่งไม่มีข้อกำหนดหัวข้อ related substances แต่ในปี 2554 มีระบุในตำรายา The United States Pharmacopeia 33 (USP 33) ซ่ึงกำหนดหัวข้อ related compounds ไว้ซ่ึงบ่งบอกอายุของยาได้ หรือกรณี Lithium carbonate capsules ซงึ่ อยใู่ นโครงการฯ ปงี บประมาณ 2551 ตามขอ้ กำหนดของ ทะเบียนยาผู้ผลิตไม่มีการกำหนดหัวข้อการละลายของตัวยา (dissolution) เมื่อมีระบุในตำรายา USP 33 ท่ีกำหนดมาตรฐานการละลายของตัวยาไว้ จึงนำมาเข้าโครงการเพ่ือตรวจสอบคุณภาพตามตำรายาดังกล่าว ซึ่งหัวข้อ การละลายของตัวยาจะบ่งบอกถึงคุณภาพที่ชัดเจนกว่าการทดสอบการ กระจายตวั ของยา (disintegration) ท่ีระบใุ นทะเบยี นยา 77
GREEN BOOK 11 การจดั ทำ GREEN BOOK 9 โครงการประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2555 ได้รับความร่วมมือ จากโรงพยาบาลรัฐทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขท่ัวประเทศ 322 แห่ง ตรวจวิเคราะห์รายการผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน จำนวน 29 รายการ ยาในบัญชียาจากสมุนไพร พ.ศ. 2549 จำนวน 10 รายการ รวมทัง้ สนิ้ 39 รายการ ได้รับตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,167 ตัวอย่าง เป็นยาแผนปัจจุบันจำนวน 1,084 ตัวอย่าง ผลิตภณั ฑย์ าจากสมุนไพร 83 ตัวอยา่ ง สำหรับการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันจำนวน 29 รายการ ซ่ึงเป็นรายการยาท่ีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์คัดเลือกจากผลการสำรวจ โรงพยาบาลรัฐท่ัวประเทศ เร่ืองรายการยาท่ีต้องการทราบผลวิเคราะห์ คุณภาพ นอกจากน้ีมีการทบทวนคุณภาพยาท่ีเคยตรวจวิเคราะห์ในโครงการ ปีที่ผ่านมาจำนวน 22 รายการ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา อย่างต่อเน่ือง พบว่าผลิตภัณฑ์ยาท่ีเคยมีปัญหาบางรายการมีการพัฒนาคุณภาพ และผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เช่น enalapril tablets ซ่ึงตรวจวิเคราะห์คุณภาพ ปี 2553 พบผิดมาตรฐานจำนวนมากในผู้ผลิตรายหน่ึงท่ีนำเข้าจากต่างประเทศ ซ่ึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เผยแพร่ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนี้ ให้โรงพยาบาลรัฐท่ัวประเทศทราบ ในปีนี้เม่ือทบทวนคุณภาพอีกคร้ังไม่พบ โรงพยาบาลส่งตัวอย่างจากผู้ผลิตดังกล่าวตรวจวิเคราะห์และผลตรวจวิเคราะห์ยา enalapril tablets ในปีน้ีไม่มีตัวอย่างท่ีผิดมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงผล ของข้อมูลจากโครงการฯร่วมกับกลไกของหน่วยงานรัฐท่ีดำเนินการร่วมกัน เพ่ือกำกับดูแลคุณภาพยาภายในประเทศ และผู้ผลิตมีการควบคุมคุณภาพ ให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการในระบบประกันสุขภาพได้ใช้ยาที่มี คุณภาพ สำหรับรายการยาท่ีทบทวนคุณภาพและยังคงพบผิดมาตรฐาน ยา กลุ่มน้ีส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องตัวยาสำคัญไม่คงสภาพ สลายตัวง่าย ยาไวต่อ ความช้ืน/แสง หรือยาละลายน้ำได้น้อย ดังนั้นหัวข้อที่พบผิดมาตรฐานของ ยาในกลุ่มนี้คือปริมาณตัวยาสำคัญ ปริมาณสารสลายตัว การละลายของตัวยา 78
GREEN BOOK1111 เป็นต้น ตัวอย่างเช่น aspirin tablets, warfarin sodium tablets อย่างไร ก็ตามถึงแม้ว่าตัวยาสำคัญจะมีข้อจำกัดแตกต่างกันที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยา มีปัญหาคุณภาพ แต่ในภาพรวมผลิตภัณฑ์ยาส่วนใหญ่ท่ีใช้ในโรงพยาบาลรัฐ มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานสากล การจัดทำ GREEN BOOK 10 การจัดทำ GREEN BOOK 10 ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาจากโครงการ ประกันคุณภาพยา ปีงบประมาณ 2555-2556 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามตำรายาฉบับปัจจุบัน (ปีงบประมาณ 2556 ใช้วิธีและเกณฑ์มาตรฐานตาม United States Pharmacopeia : USP 35 หรือ British Pharmacopoeia : BP 2012) หรืออ้างอิงทะเบียนยากรณี ท่ีไม่มีระบุในตำรายา การสุ่มตัวอย่างได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลรัฐ ท้ังในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ 271 แห่ง เป็นผู้ให้ข้อมูล และสง่ ตวั อยา่ งตรวจวเิ คราะห์ โดยปงี บประมาณ 2556 ไดผ้ ลสรปุ คณุ ภาพยา จำนวน 61 รายการ จำนวนตัวอย่างท้ังหมด 819 ตัวอย่าง จำแนกเป็น ยาแผนปัจจุบัน 47 รายการ จำนวน 664 ตัวอยา่ ง พบผดิ มาตรฐาน 47 ตัวอย่าง (ร้อยละ 7.1) และยาในบญั ชยี าจากสมนุ ไพร พ.ศ. 2555 จำนวน 14 รายการ จำนวน 155 ตวั อยา่ ง พบผิดมาตรฐาน 22 ตัวอยา่ ง (รอ้ ยละ 14.2) ตามที่กรมบัญชีกลางประกาศเร่ือง มาตรการควบคุมการเบิกจ่ายยานอก บัญชียาหลักแห่งชาติที่มีมูลค่าการใช้สูง พบว่ามีรายการยาที่กรมวิทยา- ศาสตร์การแพทย์ไม่เคยดำเนินการสุ่มตรวจวิเคราะห์คุณภาพยา (ยกเว้น กลุ่มยารักษามะเร็ง และยาท่ีมีผู้ผลิตรายเดียว) ได้แก่ alendronate tablets, cilostazol tablets, irbesartan tablets, pamidronate sterile solution, pantoprazole tablets, perindopril tablets, และ quinapril tablets ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2556 นอกจากน้ีได้ขยายขอบเขตของโครงการฯ ให้ครอบคลุมแหล่งกระจาย 79
GREEN BOOK 11 ยาท่ีสำคัญของประเทศ เช่น ร้านขายยา เพื่อตรวจสอบคุณภาพยาที่ประชาชน สามารถหาซื้อด้วยตนเอง โดยคัดเลือกรายการยา paracetamol tablets ซ่ึง มีหลายผู้ผลิตและราคาแตกต่างกันมาก โดยตัวอย่างยาที่สุ่มตรวจวิเคราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตภายในประเทศ จำนวน 10 ราย และผู้ผลิต ต่างประเทศจำนวน 1 ราย รวมทั้งหมด 11 ราย ตรวจวิเคราะห์หัวข้อปริมาณ ตัวยาสำคัญ และการละลายของตัวยา พบว่าทุกตัวอย่างที่ถูกสุ่มตรวจผ่าน เกณฑ์มาตรฐานกำหนด สำหรับภาพรวมผลตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาแผนปัจจุบันในปีงบ ประมาณ 2556 พบว่าส่วนใหญ่ยามีคุณภาพ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานสากล แต่ท่ีพบผิดมาตรฐานจะเป็นเฉพาะบางรายการยา เน่ืองด้วยคุณสมบัติของ ตัวยาสำคัญที่มีแนวโน้มปัญหาคุณภาพ หรือเป็นการผิดมาตรฐานเฉพาะ ทะเบียน เฉพาะรุ่น ของผู้ผลิตบางราย ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเก่ียวข้อง เช่น วัตถุดิบตัวยาสำคัญ สูตรตำรับ การคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ กระบวนการควบคุม การผลิตที่สม่ำเสมอ การขนส่ง และสภาพการเก็บรักษา ซึ่งผู้ผลิตต้อง ตระหนักเพ่ือให้ผลิตภัณฑ์ยาสามารถคงสภาพตลอดอายุการใช้งาน ตัวอย่าง รายการยาท่ีพบผิดมาตรฐานมาก เช่น cetirizine hydrochloride tablets เปน็ ยาตา้ นฮสี ตามนี ใชร้ กั ษาอาการแพ้ พบผดิ มาตรฐานหวั ขอ้ related substances จำนวน 15 ตัวอย่าง จากทั้งหมด 39 ตัวอย่าง (ร้อยละ 38.5) เน่ืองจากตัวยา สลายตัวได้ด้วยปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งวัตถุดิบตัวยาสำคัญ สูตรตำรับ กระบวนการผลิต และภาชนะบรรจุ สามารถส่งผลต่อคุณภาพยาทั้งสิ้นหรือ ยา stavudine capsules เป็นยาต้านไวรัส พบปัญหาคุณภาพเร่ืองความชื้น โดยตรวจวิเคราะห์ 6 ตัวอย่าง พบผิดมาตรฐานทุกตัวอย่าง (ร้อยละ 100.0) ซ่ึงตัวยาสามารถเกิดปฏิกิริยา hydrolysis ได้สารสลายตัวเป็น thymine และจากการสำรวจคุณภาพ stavudine capsules ในปีงบประมาณ 2551 พบว่าร้อยละ 100 ของตัวอย่างที่ตรวจวิเคราะห์ท้ังหมดจำนวน 18 ตัวอย่าง มีปญั หาคณุ ภาพเรอ่ื งความชนื้ เช่นกนั 80
GREEN BOOK1111 20 คำถาม – คำตอบ เร่อื งการประกันคุณภาพยาในโรงพยาบาลรัฐ และการจดั ทำหนงั สอื GREEN BOOK ถาม 1. ทำไมต้องประกนั คุณภาพยาทใ่ี ชใ้ นโรงพยาบาล? ตอบ : กระทรวงสาธารณสขุ ได้ปฏิรูประบบบริหารเวชภณั ฑ์ เพอื่ ใหโ้ รงพยาบาล ทุกระดับมีการจัดซ้ือยาท่ีดี มีคุณภาพในราคาประหยัด ซ่ึงการจัดซ้ือยา เข้าโรงพยาบาลรัฐ มีผู้เสนอขายในราคาที่แตกต่างกัน เมื่อผ่านการพิจารณา เอกสารต่าง ๆ ท้ังด้านการผลิตและการควบคุมคุณภาพยา ตามข้อกำหนด คุณลักษณะเฉพาะ (specification) แล้วจึงมาตัดสินด้วยราคายา โดยใช้ราคาต่ำสุด ทำให้ผู้รับบริการไม่มีความเช่ือม่ันในคุณภาพยาราคาถูก ดังน้ัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงดำเนินโครงการประกันคุณภาพยา หลงั จากมกี ารสง่ มอบยาให้โรงพยาบาล ถาม 2. การจัดซ้ือยาของโรงพยาบาล หากพิจารณาคุณภาพจากใบรับรอง ผลของผูผ้ ลิต (Certificate of Analysis) จะเชื่อถือได้หรือไม่? ตอบ : การจัดซ้ือยาของโรงพยาบาล สามารถพิจารณาคุณภาพจากใบรับรอง ผลของผู้ผลิต (Certificate of Analysis) ได้ กรณีที่ผู้ผลิตผ่านการรับรอง ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (Good Manufacturing Practice; GMP) แล้ว โดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ผลิตท่ีห้องปฏิบัติการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/ IEC 17025 หรือเทียบเท่า หากโรงพยาบาลสงสัยในคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา ที่ส่งมอบ จะมีการสุ่มตรวจวิเคราะห์ในโครงการประกันคุณภาพยาของกรม วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ ซ่ึงเป็นการยนื ยันใบรบั รองผลของผผู้ ลติ ดว้ ยเชน่ กัน 81
GREEN BOOK 11 ถาม 3. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีแนวทางในการประกันคุณภาพยาใน โรงพยาบาลอย่างไร? ตอบ : แต่ละปีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีการดำเนินโครงการประกัน คุณภาพยาท่ีใช้ในโรงพยาบาล โดยวางแผนสุ่มตัวอย่างยาหลังการจัดซ้ือ และส่งมอบมาตรวจสอบคุณภาพโดยใช้วิธีและมาตรฐานตามตำรายาฉบับ ท่ีรัฐมนตรีประกาศ หรือฉบับใหม่กว่า ในทุกตัวอย่างไม่ว่ามาจากแหล่งผลิตใด เพอ่ื เปรยี บเทยี บคณุ ภาพในหวั ขอ้ ทเี่ ทา่ เทยี มกนั บนมาตรฐานเดยี วกนั ทกุ แหลง่ ผลติ และเพื่อเฝ้าระวังคุณภาพยาที่จำหน่ายในประเทศว่า หากใช้วิธีและมาตรฐาน ทท่ี นั สมยั ดงั กลา่ ว ผลติ ภณั ฑย์ ามคี ณุ ภาพหรอื มปี ญั หาดา้ นใดบา้ ง เพอื่ ใหผ้ เู้ กยี่ วขอ้ ง ทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลและนำไปพัฒนาคุณภาพยาให้เป็นไปตามมาตรฐาน สากล ถาม 4. ทำไมไมใ่ ชว้ ิธีวิเคราะหแ์ ละมาตรฐานท่ีผู้ผลติ ระบุไวใ้ นทะเบยี นยา? ตอบ : ทะเบียนยาท่ีอ้างอิงตำรายาแต่ละยุคสมัยจะมีหัวข้อการควบคุม คุณภาพท่ีแตกต่างกันหรือไม่เท่ากัน เพราะตำรายามีการปรับปรุงมาตรฐาน ตลอดเวลา เพื่อบง่ บอกคณุ ภาพยาให้ชัดเจนและมปี ระสิทธิภาพย่งิ ข้นึ แต่ทะเบยี น ยาที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาต้ังแต่ปี พ.ศ. 2526 จนถงึ ปจั จบุ นั เปน็ ทะเบยี นยาทม่ี อี ายตุ ลอดชพี ดงั นน้ั ในการดำเนนิ โครงการประกนั คุณภาพยาน้ัน แต่ละผลิตภัณฑ์ยาสุ่มมาจากหลากหลายผู้ผลิตหากอ้างอิง มาตรฐานในทะเบียนยาของแต่ละรายจะไม่สามารถเปรียบเทียบคุณภาพกันได้ (pharmaceutical equivalence) และเป็นเหตุผลหน่ึงที่ทำให้โรงพยาบาล ต้องกำหนด specification ในการจัดซื้อยาโดยอ้างอิงตำรายาฉบับท่ีรัฐมนตรี ประกาศหรือฉบับปัจจุบัน เพ่ือให้ได้ยาท่ีมีคุณภาพทันสมัยเช่นกัน ยกเว้นกรณี รายการยาน้ันไม่มีในตำรายา จึงจะใช้วิธีวิเคราะห์และมาตรฐานตามที่ผู้ผลิตระบุ ไวใ้ นทะเบยี นยา 82
GREEN BOOK1111 ถาม 5. วธิ วี เิ คราะหแ์ ละมาตรฐานท่รี ะบุในทะเบียนยา จะนำมาใชอ้ า้ งองิ ในกรณใี ดบา้ ง? ตอบ : กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาส่งตรวจวิเคราะห์เพ่ือ สามารถนำผลไปดำเนินการทางกฎหมายได้นั้นจะระบุว่าให้ใช้วิธีตามทะเบียนยา หรือวิธีตามตำรายาฉบับที่รัฐมนตรีประกาศ (British Pharmacopoeia, BP 2011 หรือ The United States Pharmacopeia, USP 34/ 2011) หรือผลิตภัณฑ์ยาท่ีออกฤทธ์ินาน (sustained/extended release) การทดสอบ การละลายของตัวยาตามชว่ งเวลา (dissolution profile) ตอ้ งใช้วธิ ีท่ีผู้ผลิตระบไุ ว้ เท่านั้น เพราะเป็นการออกแบบการละลายของแต่ละผู้ผลิต ไม่สามารถใช้วิธี ในตำรายาใดๆ ได้ ซึ่งในการข้ึนทะเบียนยาสามัญของยาที่ออกฤทธ์ินาน ต้อง แสดงขอ้ มลู การศึกษาชีวสมมูล (bioequivalence) เทียบกับยาตน้ แบบด้วย ถาม 6. ตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศหรือฉบับใหม่กว่ามีความหลากหลาย มวี ิธีเลือกใชอ้ ยา่ งไร? ตอบ : กรณีท่ีรายการยานั้นมีระบุในตำรายาหลายแหล่ง เช่น BP หรือ USP การเลือกใช้จะพิจารณาตำรายาที่มีหัวข้อการทดสอบท่ีครอบคลุมคุณภาพ มากท่ีสุด และ/หรือใช้วิธีวิเคราะห์ที่ยุ่งยากน้อยกว่า รวมท้ังคำนึงถึง สารมาตรฐานที่ใช้เป็นหลัก และใช้ตำรายาอ้างอิงเพียงเล่มใดเล่มหน่ึงใน แต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจไม่ตรงกับวิธีและมาตรฐานท่ีแต่ละผู้ผลิตระบุไว้ใน ทะเบยี นยา 83
GREEN BOOK 11 ถาม 7. ภาพรวมคุณภาพผลติ ภณั ฑ์ยาในโครงการแตล่ ะปี เป็นอย่างไร? ตอบ : จากการตรวจสอบคุณภาพยาที่ใช้ในโรงพยาบาลตามโครงการประกัน คุณภาพยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในแต่ละปี โดยใช้มาตรฐาน ตามตำรายาฉบับใหม่ ๆ พบว่าแนวโน้มตรวจพบยาผิดมาตรฐานลดลง ดังกราฟด้านล่าง โดยในปีงบประมาณ 2553 ตรวจพบยาผิดมาตรฐานร้อยละ 12.7 และในปีงบประมาณ 2557 ตรวจพบยาผิดมาตรฐานเพียงร้อยละ 4.8 ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเร่ืองความไม่คงสภาพ และการละลายของตัวยา ซ่ึง ผผู้ ลิตควรนำไปแกไ้ ขและพฒั นาสูตรตำรบั ให้มีคุณภาพตอ่ ไป ยาผดิ มาตรฐาน (รอ้ ยละ) 14 12.7 แนวโน้มตรวจพบยา 12 ผิดมาตรฐานลดลง 9.8 10 2554 7.3 7.1 4.8 8 ปงี บประมาณ 6 2555 2556 2557 4 2 0 2553 กราฟแสดงร้อยละของการตรวจพบยาผดิ มาตรฐานในโครงการประกันคณุ ภาพยาแต่ละปงี บประมาณ ถาม 8. ยาท่จี ำหนา่ ยในร้านขายยา ไม่ไดร้ ับการสมุ่ ตรวจวิเคราะหใ์ นโครงการ ประกันคุณภาพยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเชื่อม่ันคุณภาพ ได้อย่างไร? ตอบ : ยาที่จำหน่ายในร้านขายยา ส่วนใหญ่ผลิตโดยผู้ผลิตยาที่จำหน่ายใน โรงพยาบาล ซึง่ ผลิตภายใตม้ าตรฐาน GMP เชน่ กัน เพราะการผลิตหลายมาตรฐาน ถือว่าไม่เป็นไปตามจรรยาบรรณของวิชาชีพและไม่ซ่ือสัตย์ต่อลูกค้า อย่างไรก็ตาม ในโครงการฯ ปี 2556 มีการขยายขอบเขตของโครงการประกันคุณภาพยา ให้ ครอบคลุมแหล่งกระจายยาท่ีสำคัญของประเทศ คือ ร้านขายยา เพื่อตรวจสอบ คณุ ภาพยาท่ปี ระชาชนสามารถซื้อดว้ ยตนเอง 84
GREEN BOOK1111 ถาม 9. รายงานผลการตรวจวิเคราะห์และผลสรุปในโครงการประกัน คุณภาพยา ส่งไปทีใ่ ดบ้าง? ตอบ : รายงานผลการตรวจวิเคราะห์แต่ละตัวอย่างส่งให้โรงพยาบาลท่ีเป็น เจ้าของตัวอย่าง และสำเนาให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดท่ีกำกับดูแล โรงพยาบาลน้ัน และเม่ือเสร็จส้ินทั้งโครงการ มีการรวบรวมและประเมินผล ท้ังที่ ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่ให้เครือข่ายภาครัฐ ทราบ ส่วนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้กำหนดเกณฑ์การคัดเลือก มาเผยแพร่ สสู่ าธารณะเปน็ หนงั สอื “รายชอื่ ผลติ ภณั ฑย์ าคณุ ภาพและผผู้ ลติ (GREEN BOOK)” รวมถงึ เผยแพรผ่ า่ นเวบ็ ไซตข์ องกรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี http://dmsc2.dmsc. moph.go.th/webroot/drug/index.stm และ www.tumdee.org/alert ถาม 10. ทำไมรายงานผลวิเคราะห์จึงล่าช้า ส่วนใหญ่ทราบผลตอนท่ียาใช้ หมดไปแล้ว ต้องการทราบผลวิเคราะห์ท่ีรวดเร็วโดยเฉพาะกรณีผิด มาตรฐาน เพ่ือสามารถคนื ยาไดท้ นั ที? ตอบ : เนื่องจากผลวิเคราะห์กรณีผิดมาตรฐานจะใช้เวลาตรวจสอบซ้ำอีกหลาย ข้ันตอนเพื่อยืนยันผลตามระบบประกันคุณภาพของห้องปฏิบัติการ ทำให้ล่าช้า และยาอาจใชห้ มดไปแล้ว อย่างไรกต็ าม ควรใช้ผลวิเคราะห์ดงั กล่าวเป็นข้อมลู เพอ่ื พจิ ารณาจดั ซ้อื ในคราวต่อไป หรอื ใช้วธิ ีการอน่ื ตามท่ีเห็นสมควร นอกจากนก้ี ารดำเนินโครงการจะต้องรับตวั อย่างยาทง้ั หมดทีส่ มุ่ ก่อน จึงตรวจ วิเคราะห์ในคราวเดียวกันทุกผลิตภัณฑ์ยาอย่างต่อเนื่อง จากน้ันจึงสรุปผลในภาพ รวมทุกผลิตภัณฑ์ยาในโครงการ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในเชิงบูรณาการหรือแก้ไข อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ออกคำส่ังกระทรวงสาธารณสุขการพัฒนาปรับปรุงระบบ ข้ึนทะเบียนยาต่าง ๆ และผู้ผลิตต่ืนตัวเรื่องคุณภาพเป็นต้น ดังน้ันวัตถุประสงค์ ของโครงการนี้จึงมิใช่การวิเคราะห์ยาทุกรุ่นผลิตเพื่อเรียกคืนยา แต่ประโยชน์ของ โครงการนีค้ ือผลกระทบจากขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นคุณภาพยาที่เผยแพร่ 85
GREEN BOOK 11 ถาม 11. กรณียาผิดมาตรฐาน ควรแจ้งผลวิเคราะห์ให้บริษัททราบก่อน เพื่อให้โอกาสผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ได้พิสูจน์ก่อนดำเนินการทาง กฎหมายได้หรือไม่ เพราะมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการวิเคราะห์ เช่น วธิ วี ิเคราะห์ การเก็บรกั ษา? ตอบ : ในกรณีท่ีพบว่าผิดมาตรฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะรายงาน ผลวิเคราะห์ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อพิจารณา ดำเนินการตรวจสอบ โดยอาจสุ่มตัวอย่างจาก retained sample ของผู้ผลิต ให้สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ยืนยัน คุณภาพ ถ้ายังพบผิดมาตรฐานจึงมกี ารดำเนนิ การตามกฎหมาย ถาม 12. ทำไมไมต่ รวจวิเคราะห์ Cytotoxic drug? ตอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพยา ของกลมุ่ ดงั กลา่ ว ซงึ่ การตรวจวเิ คราะหค์ ณุ ภาพยากลมุ่ น้ี จำเปน็ ตอ้ งมคี วามพรอ้ มทงั้ ทางห้องปฏิบัติการ บุคลากรและงบประมาณ เพ่ือความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน และไม่ส่งผลเสียต่อส่ิงแวดล้อม ซ่ึงกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินการ หรือ อาจหาห้องปฏิบัตกิ ารรบั จ้างเหมาชว่ งท่มี ีคณุ สมบัตทิ เ่ี หมาะสมมาดำเนินการ ถาม 13. ยาท่โี รงพยาบาลผลิต สามารถสง่ ตรวจวิเคราะห์ทห่ี นว่ ยงานใดบา้ ง? ตอบ : ยาที่โรงพยาบาลผลิต สามารถติดต่อขอส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ ได้ท่ีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานท่ีผ่านการรับรองความสามารถ ห้องปฏิบัติการทดสอบด้านสาธารณสุข/คุ้มครองผู้บริโภค (ISO/IEC 17025) สามารถดูรายช่ือหน่วยงานท่ีได้รับการรับรองได้ท่ีเว็บไซต์ของสำนักมาตรฐาน หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ http://webdb. dmsc.moph.go.th/ifc_qa/dbqa/default.asp?iID=LDMEM 86
GREEN BOOK1111 ถาม 14. กรณใี ดบา้ ง ทโ่ี รงพยาบาลไดร้ บั การชดเชยยา? ตอบ : สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำความ ตกลงกับสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (Pharmaceutical Research and Manufacturers Association : PReMA) สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยา แผนปัจจุบัน (Thai Pharmaceutical Manufacturers Association : TPMA) และองค์การเภสัชกรรม เพื่อขอความร่วมมือชดเชยยาคืนให้แก่ โรงพยาบาลท่ีส่งตัวอย่างยาตรวจวิเคราะห์ในโครงการประกันคุณภาพยา ซงึ่ ทางผผู้ ลติ /ผนู้ ำเขา้ ตอบรบั และยนิ ดใี หค้ วามรว่ มมอื แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามความรว่ มมอื ดังกล่าวไม่ครอบคลุมผู้ผลิต/ผู้นำเข้าท้ังหมดที่ถูกสุ่มยาตรวจวิเคราะห์ของ โครงการฯ เน่ืองจากมีผู้ผลิต/ผู้นำเข้ายาแผนปัจจุบันจำนวนหน่ึงที่ไม่ได้เป็น สมาชิกของสมาคม รวมถึงผู้ผลิตยาจากสมุนไพรที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง ความร่วมมือน้ี อย่างไรก็ตาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พยายามให้โรง พยาบาล ได้รบั การชดเชยยาไดม้ ากทีส่ ุด โดยสง่ หนงั สือแจ้งถึงบริษัทผู้ผลิต/ผนู้ ำเขา้ ยาแผนปัจจุบันท้ังหมดทุกแห่งท่ีมีโรงพยาบาลส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ คุณภาพ ในโครงการฯ เพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินการชดเชยยาคืนแก่ โรงพยาบาลด้วย สามารถดูรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกของแต่ละสมาคมที่อยู่ ในขอ้ ตกลงความรว่ มมอื การชดเชยยาได้ท่ี website ดงั น้ี - สมาคมผวู้ จิ ยั และผลติ เภสชั ภณั ฑ์ (PReMA) : http://www.prema.or.th - สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลติ ยาแผนปจั จบุ นั (TPMA) : http://www.tpma.or.th/web/th 87
GREEN BOOK 11 ถาม 15. ทำไมการสุ่มตัวอย่างยาเฉพาะในโรงพยาบาลรัฐ ไม่ครอบคลุม ผลติ ภณั ฑย์ าที่ข้นึ ทะเบียนยาไว้ทัง้ หมด ทำให้ตัดโอกาสผู้ผลติ บางราย เพื่อเผยแพร่ใน GREEN BOOK? ตอบ : ยาท่ีข้ึนทะเบียนยาไว้มีจำนวนมากถึง 2-3 หม่ืนทะเบียนยาน้ัน มีการผลิตหรือจำหน่ายจริงเพียงหลักพันตำรับเท่าน้นั ดังน้นั ไม่ว่าจะส่มุ ตัวอย่าง ยาท่ัวประเทศตลอดท้ังปี ก็ไม่มีโอกาสครอบคลุมทุกตำรับที่ข้ึนทะเบียนไว้ได้ อย่างไรก็ตามการจัดทำ GREEN BOOK อาจตอบคำถามเรื่องคุณภาพยาราคาถูก ท่ใี ชใ้ นโรงพยาบาลได้ในระดับหนงึ่ เพราะเปน็ การส่มุ ตัวอย่างผลิตภณั ฑ์ยาท่ีใช้จริง หลงั การจดั ซือ้ และส่งมอบในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น ถาม 16. ถา้ หากตอ้ งการให้ GREEN BOOK มรี ายการยาครอบคลมุ ผผู้ ลติ ทกุ ราย โดยการให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ยาเข้าร่วมโครงการด้วย จะทำได้หรือไม่ เพราะผู้ผลิตบางรายไม่ถูกสุ่มตัวอย่าง จึงไม่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ อาจทำใหโ้ รงพยาบาลเขา้ ใจผดิ วา่ เฉพาะผผู้ ลติ ทม่ี ชี อื่ ใน GREEN BOOK เทา่ นัน้ ทมี่ มี าตรฐาน? ตอบ : ผลิตภัณฑ์ยาที่ผู้ผลิตจัดส่งให้ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมผลวิเคราะห์ ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีปัญหาคุณภาพ ดังน้ันข้อมูลคุณภาพยาท่ีเป็นจริงต้องสุ่ม หลังจากการส่งมอบหรือออกจำหน่ายแล้วเท่านั้น ซึ่งข้อจำกัดของการสุ่มตัวอย่าง ยา คือ ไมส่ ามารถสมุ่ ไดค้ รอบคลมุ ทกุ ผูผ้ ลิต เน่อื งจากไมไ่ ด้รับขอ้ มูลผลติ ภณั ฑย์ า ทม่ี ีใช้จากโรงพยาบาลทกุ แหง่ หรอื ผลติ ภณั ฑย์ าของผผู้ ลติ นน้ั ไมม่ ใี ช้ในโรงพยาบาล ในชว่ งเวลาทส่ี มุ่ ตวั อยา่ ง กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยจ์ งึ เพม่ิ ชอ่ งทางเพอ่ื เพม่ิ โอกาส รบั ตัวอย่างผลิตภณั ฑ์ยาใหค้ รอบคลุมมากขน้ึ เชน่ เพิ่มระยะเวลาในการสุ่มตัวอย่าง ผลิตภณั ฑย์ าจากโรงพยาบาล หรอื สมุ่ ตัวอยา่ งจากร้านยาคณุ ภาพ รวมถึงประสาน งานกับสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (TPMA) และสมาคมผู้วิจัย และผลิตเภสัชภัณฑ์ (PReMA) เพื่อขอข้อมูลการกระจายยาไปยังแหล่งต่าง ๆ และขอสมุ่ ตวั อย่างยาเพม่ิ เตมิ 88
GREEN BOOK1111 ถาม 17. ผูผ้ ลติ ยาทไี่ มม่ ีรายชือ่ ในหนงั สือ GREEN BOOK เพราะอะไร? ตอบ : เกณฑ์การคดั เลอื กผลติ ภณั ฑย์ าเผยแพร่ใน GREEN BOOK กรณตี วั อยา่ ง เป็นยาต้นแบบท่ีได้รับตัวอย่างไม่จำกัดรุ่นผลิต และยาสามัญที่มี 3 รุ่นผลิตขึ้นไป ต่อ 1 ทะเบียนยา หากผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกรุ่นผลิตจะได้รับการคัดเลือก เผยแพร่ใน GREEN BOOK สำหรบั ผผู้ ลติ ยาทไี่ มม่ รี ายชอื่ ในหนังสอื GREEN BOOK อาจเพราะสาเหตุ 4 ประการ คือ ประการที่ 1 ผลิตภัณฑ์ยาน้ันได้รับการตรวจสอบ 3 รุ่นผลิตหรือมากกว่าใน แตล่ ะทะเบียนยา แต่มบี างรนุ่ ผลติ ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ประการท่ี 2 ผลิตภัณฑ์ยาน้ันได้รับการตรวจสอบและผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่ได้รับตวั อย่างน้อยกวา่ 3 ร่นุ ผลิตในแต่ละทะเบยี นยา ประการท่ี 3 ผลติ ภณั ฑย์ านน้ั ไมถ่ กู สมุ่ ตรวจวเิ คราะห์ เนอื่ งจากไมไ่ ดร้ บั ขอ้ มลู ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสุ่มตัวอย่างจากโรงพยาบาลครบทุกแห่ง หรือผลิตภัณฑ์ยาน้ัน ไมม่ ใี ชใ้ นโรงพยาบาลในชว่ งเวลาทม่ี ีการสมุ่ ตวั อยา่ ง ประการที่ 4 ผู้ผลิตบางรายขึ้นทะเบียนยาหลายทะเบียนสำหรับผลิตภัณฑ์ ยาชื่อสามัญเดียวกันท่ีมีความแรงเท่ากัน รูปแบบยาเดียวกันโดยไม่มีการยกเลิก ทะเบียนยาเดิม และผลิตยาแต่ละทะเบียนยาออกจำหน่ายเพื่อรักษาสถานภาพ ของทะเบียนยาไว้ตามกฎหมายกำหนด ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาแต่ละทะเบียนยา กระจายอยู่ในสถานพยาบาลต่าง ๆ มีผลให้สุ่มตัวอย่างไม่ครบ 3 รุ่นผลิตต่อ 1 ทะเบยี นยาในช่วงการสมุ่ ตัวอย่าง อย่างไรก็ตาม ตำรับยาสามัญท่ีได้รับตัวอย่างน้อยกว่า 3 รุ่นผลิต และผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แม้ไม่ได้รับคัดเลือกมาเผยแพร่ใน GREEN BOOK กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการเผยแพร่ข้อมูลผลวิเคราะห์ทั้งท่ีผ่านและ ไม่ผ่านมาตรฐานในรายงาน “สรุปผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาโครงการ ประกนั คุณภาพยา” ให้โรงพยาบาลรัฐทว่ั ประเทศและหน่วยงานภาครฐั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ทราบ ดังนั้น ผู้ผลิตยาท่ีไม่มีช่ือในหนังสือ GREEN BOOK จึงอาจจะไม่ใช่ เพราะผลิตภัณฑ์ยาของผู้ผลิตน้ันไม่มีคุณภาพ แต่เนื่องจากการจัดทำหนังสือ GREEN BOOK มีขอ้ จำกัดตามเงอื่ นไขดงั กล่าว 89
GREEN BOOK 11 ถาม 18. ขอ้ มลู ใน GREEN BOOK เช่อื ถือไดต้ ลอดไปหรอื ไม?่ ตอบ : ผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาทั้งท่ีผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน นน้ั เปน็ การรบั รองเฉพาะตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑย์ าทต่ี รวจวเิ คราะหเ์ ทา่ นนั้ ไมไ่ ดร้ บั รอง ครอบคลุมตัวอย่างท่ีไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ แม้จะระบุว่าเป็นรุ่นผลิตเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างยาท่ีมีการสุ่มตรวจตามระบบคุณภาพ อาจเป็นตัวแทนที่ สะท้อนถึงความสม่ำเสมอในการผลิตได้ในระดับหน่ึง หากผู้ผลิตมีกระบวน การผลิตที่ดี ซึ่งรวมถึงการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ก็สามารถคงคุณภาพไว้ได้ ซง่ึ ตอ้ งติดตามเปน็ ระยะ ๆ ต่อไป ถาม 19. ประชาชนท่ไี ม่ใชเ่ จา้ หน้าท่รี ัฐจะทราบผลวิเคราะหท์ ี่ไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน ได้อย่างไร? ตอบ : ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 (และฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม) ระบุว่าในกรณีที่ ตัวอย่างยาใดก็ตามไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ต้องมีการตรวจติดตามเพ่ือยืนยันผล ดงั กลา่ ว หรอื ผา่ นกระบวนการทางกฎหมายสน้ิ สดุ แลว้ โดยสำนกั งานคณะกรรมการ อาหารและยาเป็นผู้ดำเนินการจึงจะสามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน สามารถเผยแพร่ได้ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ของราชการ พ.ศ. 2540 ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เผยแพร่ในรูปหนังสือ GREEN BOOK ดงั กล่าว ถาม 20. ประชาชนท่ัวไปจะตดิ ตามหนงั สอื GREEN BOOK ได้จากทใ่ี ด? ตอบ : ประชาชนทั่วไปสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของกรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ที่ http://dmsc2.dmsc.moph.go.th/webroot/drug/index.stm ซ่ึงเผยแพร่ตง้ั แต่เล่มที่ 1 - 11 90
GREEN BOOK1111 ขอ้ เสนอแนะจากโรงพยาบาลเก่ยี วกับโครงการประกนั คุณภาพยา และ GREEN BOOK S โรงพยาบาลเสนอแนะ A กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทยช์ ้แี จง S รายการยาควรให้โรงพยาบาลกำหนดเอง เพื่อเลือกรายการยาที่มีปัญหา หรอื สงสัยในคณุ ภาพ A กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทยม์ ีนโยบายรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผรู้ บั บรกิ าร โดย มีการสำรวจรายการยาท่ีโรงพยาบาลต้องการให้ตรวจคุณภาพเป็นระยะๆ เพื่อใช้ เป็นข้อมูลการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาในโครงการประกันคุณภาพยา นอกจากน้ียัง คัดเลือกรายการยาที่ควรเฝ้าระวังปัญหาด้านคุณภาพ โดยพิจารณาจากข้อมูล รายงานปัญหาคุณภาพยาท่ีโรงพยาบาลส่งมาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รว่ มด้วย ซ่ึงส่วนใหญ่แลว้ รายการยาทเี่ ขา้ โครงการฯ เป็นรายการยาที่โรงพยาบาล ต่าง ๆ เสนอมา S การตรวจวเิ คราะหค์ วรเปน็ ไปตามตำรายาทบี่ รษิ ทั ใชอ้ า้ งองิ หรอื ทร่ี ะบไุ วใ้ น ทะเบยี นยา A ผลติ ภณั ฑย์ าทไ่ี ดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี นจากสำนกั งานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นทะเบียนยาท่ีมีอายุตลอดชีพ ทะเบียนยาที่อ้างอิงตำรายาแต่ละยุคสมัยจะมี หัวข้อการควบคุมคุณภาพและเกณฑ์ท่ีแตกต่างกัน การดำเนินโครงการประกัน คุณภาพยาสุ่มตัวอย่างมาจากหลากหลายผู้ผลิต หากอ้างอิงมาตรฐานในทะเบียน ยาของแต่ละรายจะไม่สามารถเปรียบเทียบคุณภาพในหัวข้อที่เท่าเทียมกันได้ (pharmaceutical equivalence) นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดำเนนิ การโดยใชร้ ะบบคณุ ภาพ ISO/IEC 17025:2005 ซึ่งกำหนดใหใ้ ช้วิธีวเิ คราะห์ท่ีเป็น ปัจจุบัน จึงไม่สามารถใช้วิธีวิเคราะห์และเกณฑ์มาตรฐานในทะเบียนยาเก่า ๆ ได้ จึงใช้วิธีและมาตรฐานตามตำรายาฉบับท่ีรัฐมนตรีประกาศหรือฉบับใหม่กว่า ใน ทุกตัวอย่างไม่ว่ามาจากแหล่งผลิตใด บนมาตรฐานเดียวกันทุกแหล่งผลิต เพราะ ตำรายามีการปรับปรุงมาตรฐานตลอดเวลา ยกเว้นกรณีรายการยาน้ันไม่มีใน ตำรายา จึงจะใชว้ ิธวี ิเคราะห์และมาตรฐานตามท่ีผ้ผู ลติ ระบไุ ว้ในทะเบียนยา 91
GREEN BOOK 11 S ควรมีหนงั สอื แจ้งเตอื นการสมุ่ ตัวอยา่ ง A กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีนโยบายลดข้ันตอนและระยะเวลาในการ ดำเนินงาน และลดการใช้พลังงาน ดังน้ันเพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากร จงึ พฒั นาโปรแกรม Single Window (http://www.tumdee.org/alert/) สำหรบั การสุ่มตัวอย่างยาจากโรงพยาบาล และเป็นฐานข้อมูลผลวิเคราะห์ยา ซ่ึงสามารถ ลดระยะเวลาและลดการใชก้ ระดาษได้เป็นจำนวนมาก S ควรแจง้ วา่ สุ่มตัวอยา่ งยาบรษิ ัทใดบ้าง A สำหรับการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ จะประกาศช่ือผู้ผลิตท่ีถูกสุ่มใน โปรแกรม Single Window (เว็บไซต์ http://www.tumdee.org/alert/) ซึ่งจะมีข้อมูลโรงพยาบาล ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายท่ีถูกสุ่มตัวอย่าง ทะเบียนยา และจำนวนตวั อยา่ งทสี่ ง่ ตรวจวเิ คราะห์ S ควรประกันคุณภาพยาทุกตัวท่ีออกสู่ท้องตลาด ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มยา และทุกรูปแบบ A กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดำเนินโครงการประกันคุณภาพยา โดยขอ ความร่วมมือในการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาจากโรงพยาบาลทั่วประเทศประมาณ 1,000 แห่ง ซึ่งข้อจำกัดของการสุ่มตัวอย่างยา คือ ไม่สามารถสุ่มได้ครอบคลุม ทุกผู้ผลิต เนื่องจากไม่ได้รับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาที่มีใช้จากโรงพยาบาลทุกแห่ง โดยได้รับข้อมูลตอบกลับจากโรงพยาบาลเพียงประมาณ 200 – 300 แห่ง หรือผลิตภัณฑ์ยาของผู้ผลิตนั้นไม่มีใช้ในโรงพยาบาลในช่วงเวลาท่ีสุ่มตัวอย่าง ทำให้ไม่ได้รับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมดที่ออกสู่ท้องตลาด อย่างไรก็ดีจาก การดำเนินงานตั้งแต่ปี 2545 สามารถตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาได้ครอบคลุม ทุกรูปแบบยา และครอบคลุมเกือบทุกกลุ่มยา ยกเว้นยากลุ่ม cytotoxic drugs ซ่ึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพยาของกลุ่ม ดังกล่าว แต่การตรวจวิเคราะห์คุณภาพยากลุ่มน้ี จำเป็นต้องมีความพร้อมท้ัง ทางห้องปฏิบัติการ บุคลากร และงบประมาณ เพ่ือความปลอดภัยต่อ ผู้ปฏิบัติงานและไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ซ่ึงกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา 92
GREEN BOOK1111 ดำเนินการ หรืออาจหาห้องปฏิบัติการรับจ้างเหมาช่วงท่ีมีคุณสมบัติท่ีเหมาะสม มาดำเนินการ S ควรมขี อ้ มลู ผลวเิ คราะห์ยานำเขา้ จากอนิ เดีย A การสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาจะสุ่มทุกทะเบียนยาจากข้อมูลที่ได้รับจาก โรงพยาบาล โดยมที ง้ั ผู้ผลิตในประเทศและนำเข้ารวมถงึ ยาทนี่ ำเข้าจากอนิ เดียด้วย S ควรวิเคราะห์รายการยาท่ีจัดซื้อร่วม และรายการยาที่เคยลงใน GREEN BOOK ฉบบั กอ่ น ควรนำมาดำเนนิ การใหมอ่ กี ครั้งเพ่อื ให้มผี ผู้ า่ นมาตรฐาน มากขึน้ จึงควรวเิ คราะหซ์ ำ้ ในบางรายการที่เคยวิเคราะห์แล้ว A รายการยาเข้าโครงการในแต่ละปี เป็นรายการยาที่คัดเลือกจากรายการยา ท่โี รงพยาบาลเสนอเพ่อื ตรวจวเิ คราะห์ รายการยาทพ่ี บปัญหาคณุ ภาพ ซงึ่ สว่ นหนึ่ง ก็เป็นรายการยาท่ีมีการจัดซ้ือร่วม โรงพยาบาลสามารถนำข้อมูลผลวิเคราะห์ ดังกล่าวมาใช้พิจารณาคัดเลือกยาเข้าโรงพยาบาลได้ นอกจากน้ียังมีการเฝ้าระวัง และทบทวนคุณภาพผลิตภัณฑ์ยาเป็นระยะๆ โดยตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาซ้ำ ที่เคยตรวจวิเคราะหใ์ นโครงการฯ ท่ีผ่านมา S การตรวจวเิ คราะห์ใชป้ ริมาณตัวอยา่ งนอ้ ยลง A กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุจำนวนตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาที่ส่งตรวจ ในโครงการ เพื่อให้สามารถตรวจวิเคราะห์ได้ครบทุกหัวข้อตามท่ีกำหนดหากใช้ ปริมาณตัวอย่างน้อยอาจไม่เพียงพอสำหรับการตรวจวิเคราะห์ และตัวอย่างที่ได้ ตอ้ งเปน็ รุน่ ผลิตเดยี วกันสำหรับแตล่ ะผู้ส่งตวั อยา่ ง S GREEN BOOK ควรปรับปรุงให้รวดเร็วทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจาก ยาท่ีมีผลในฉบับแรกไม่สามารถยืนยันผลได้ถึงคุณภาพในปัจจุบัน ซึ่งมี การเปล่ียนตำรายา (Pharmacopoeia) แล้ว และควรสรุปทั้งหมดเป็น 1 เลม่ A ผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาใด ๆ ก็ตาม ท้ังที่ผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐานน้นั เป็นการรับรองเฉพาะตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาท่ตี รวจวิเคราะห์ เท่าน้ัน ไม่ได้รับรองครอบคลุมตัวอย่างที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ แม้จะระบุว่าเป็น 93
GREEN BOOK 11 รุ่นผลิตเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างยาที่มีการสุ่มตรวจตามระบบคุณภาพ อาจเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงความสม่ำเสมอในการผลิตได้ในระดับหนึ่ง หาก ผู้ผลิตมีกระบวนการผลิตท่ีดี ซ่ึงรวมถึงการคัดเลือกวัตถุดิบท่ีมีคุณภาพ ก็สามารถ คงคณุ ภาพไว้ได้ ซ่ึงต้องตดิ ตามเปน็ ระยะ ๆ ต่อไป S ควรรายงานผลวเิ คราะห์อย่างรวดเรว็ เพราะกวา่ จะทราบผล ผลิตภัณฑ์ยา นัน้ ก็ใชห้ มดไปแลว้ ความรวดเรว็ ในการเผยแพร่เพ่ือสามารถคืนยาได้ทันที A เน่ืองจากผลวิเคราะห์กรณีผิดมาตรฐานจะใช้เวลาตรวจสอบซ้ำอีกหลาย ข้ันตอนเพ่ือยืนยันผล ซ่ึงเป็นไปตามระบบประกันคุณภาพของห้องปฏิบัติการ ทำให้ล่าช้าและยาอาจใช้หมดไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ควรใช้ผลวิเคราะห์ดังกล่าว เป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาจัดซื้อในคราวต่อไป หรือใช้วิธีการอ่ืนตามที่เห็นสมควร หากมีการส่งรุ่นผลติ ตอ่ ๆ ไปของผลติ ภณั ฑเ์ ดิมทมี่ ีปญั หา นอกจากน้ีการดำเนินโครงการจะต้องรับตัวอย่างยาท้ังหมดท่ีสุ่มก่อน จึง ตรวจวิเคราะห์ด้วยมาตรฐานเดียวกันพร้อมกันในทุกผลิตภัณฑ์ยา เม่ือเสร็จสิ้น ท้ังโครงการ จึงมีการรวบรวมและประเมินผลท้ังที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐานในภาพรวมทุกผลิตภัณฑ์ยาในโครงการจัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่ให้ เครือข่ายภาครัฐทราบ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในเชิงบูรณาการหรือแก้ไขอย่างเป็น รูปธรรม เช่น ออกคำส่ังกระทรวงสาธารณสุข การพัฒนาปรับปรุงระบบข้ึน ทะเบียนยาต่าง ๆ และผู้ผลิตต่ืนตัวเรื่องคุณภาพ เป็นต้น ดังน้ันวัตถุประสงค์ ของโครงการน้ีจึงมิใช่การตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาทุกรุ่นผลิตเพ่ือเรียกคืน ยา แต่ประโยชน์ของโครงการน้ีคือผลกระทบจากข้อมูลข่าวสารด้านคุณภาพ ยาท่ีเผยแพร่ S GREEN BOOK ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้เพราะไม่ครอบคลุมทุกบริษัท และไม่ไดแ้ จ้งยีห่ อ้ ทไี่ มผ่ า่ นมาตรฐาน จงึ แทบไม่เกดิ ประโยชน์ ควรมีขอ้ มูล รายการยาและบรษิ ทั ทไี่ มผ่ า่ นมาตรฐาน แจง้ ผลวเิ คราะหท์ ไี่ มผ่ า่ นทกุ รายการ ไมใ่ ช่รายงานเฉพาะโรงพยาบาลท่สี ่งตรวจ 94
GREEN BOOK1111 A การดำเนินโครงการประกันคุณภาพยายังมีข้อจำกัดเร่ืองการสุ่มตัวอย่าง เน่ืองจากใช้วิธีขอความร่วมมือตามความสมัครใจของโรงพยาบาล จึงไม่สามารถ สุ่มได้ครอบคลุมทุกผู้ผลิต เนื่องจากไม่ได้รับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาที่มีใช้จาก โรงพยาบาลทุกแห่ง หรือผลิตภัณฑ์ยาของผู้ผลิตนั้นไม่มีใช้ในโรงพยาบาลในช่วง เวลาท่ีสุ่มตัวอยา่ ง ทำให้ไม่ไดร้ ับขอ้ มลู ผลติ ภณั ฑย์ าท้งั หมดท่ีออกสทู่ ้องตลาด ท้งั น้ี จงึ ขอความรว่ มมอื จากโรงพยาบาลเขา้ รว่ ม โครงการฯ สง่ ผลติ ภณั ฑย์ าตรวจวเิ คราะห์ เพอื่ ใหค้ รอบคลุมตวั อย่างท่มี ใี ชจ้ รงิ ในโรงพยาบาลไดม้ ากท่ีสุด เมื่อสิ้นสุดโครงการฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเผยแพร่ข้อมูลผล วเิ คราะหท์ กุ รายการยาทง้ั ทผี่ า่ นและไมผ่ า่ นมาตรฐานในโปรแกรม Single Window (เว็บไซต์ http://www.tumdee.org/alert/) ซ่ึงต้องกรอกรหัสผ่านสำหรับการ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู และเผยแพรร่ ายงาน “สรปุ ผลการตรวจวเิ คราะหผ์ ลติ ภณั ฑย์ าโครงการ ประกันคุณภาพยา” ซึ่งในปี พ.ศ. 2557 จัดทำในรูปแบบแผ่นซีดีเผยแพร่ ให้โรงพยาบาลรัฐท่ัวประเทศและหน่วยงานภาครัฐท่ีเก่ียวข้องทราบ สำหรับ ผลติ ภณั ฑย์ าทไี่ มผ่ า่ นมาตรฐาน กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยจ์ ะรายงานผลวเิ คราะห์ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจสอบ โดยอาจสุ่มตัวอยา่ งจาก retained sample ของผ้ผู ลติ ให้สำนกั ยาและวตั ถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ยืนยันคุณภาพ ถ้ายังพบผิดมาตรฐาน จงึ มกี ารดำเนินการตามกฎหมาย ซงึ่ การเผยแพร่ข้อมลู ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 (และฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม) ระบุว่า ในกรณีที่ตัวอย่างยาท่ีไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ต้องมีการตรวจติดตามเพ่ือยืนยันผลดังกล่าว หรือผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ส้ินสุดแล้ว โดยสำนกั งานคณะกรรมการอาหารและยาเปน็ ผดู้ ำเนนิ การจงึ จะสามารถ เผยแพร่สู่สาธารณะได้ อย่างไรก็ตามในส่วนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานสามารถ เผยแพร่ได้ตาม พ.ร.บ.ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ซง่ึ กรมวทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ได้เผยแพร่ในรูปหนังสือ GREEN BOOK ดังนั้น ผู้ผลิตยาท่ีไม่มีรายชื่อ ในหนังสือ GREEN BOOK จึงอาจจะไม่ใช่เพราะผลิตภัณฑ์ยาของผู้ผลิตน้ันไม่มี คุณภาพ แต่เนื่องจากการจัดทำหนังสือ GREEN BOOK มีข้อจำกัดตามเง่ือนไข ดงั กล่าว 95
GREEN BOOK 11 S GREEN BOOK ควรระบุชื่อผู้แทนจำหน่าย หมายเลขโทรศัพท์ รูปภาพ ผลิตภัณฑ์ยาและเพม่ิ ข้อมูลราคายา A สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีบทบาทหน้าที่ ในการประกันคุณภาพยาและส่ือสารข้อมูลคุณภาพผลิตภัณฑ์ยาให้หน่วยงาน ท่ีเก่ียวข้องทราบเพ่ือนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป การระบุข้อมูลดังกล่าวตามที่ โรงพยาบาลเสนอมา อาจเปน็ สง่ เสรมิ การขายใหก้ บั ผูผ้ ลติ บางรายได้ S ควรมีการรายงานปัญหาคุณภาพยาผ่านระบบโปรแกรม Single Window A เนื่องด้วยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาในการพัฒนาระบบร้องเรียนปัญหาคุณภาพยาสามัญผ่านทาง web application เพ่ือให้ข้อมูลถูกรวบรวมเป็นหนึ่งเดียวและเป็นฐานข้อมูล ระดบั ประเทศ ลดความสบั สนแกผ่ รู้ ายงาน โดยระบบรายงานปญั หาคณุ ภาพยาเปน็ ส่วนหน่ึงในโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงข้อมูลยาท่ีจำเป็นในการ สั่งใช้ยาและคัดเลือกยาสำหรับสถานพยาบาล (National Drug Database for Hospitals) ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ ซ่ึงสามารถเปิดให้บริการ ในปี พ.ศ. 2558 ซ่ึงต่อไปโรงพยาบาลทุกแห่งจะส่งรายงานปัญหาคุณภาพยา ท่ีระบบนี้เพียงแห่งเดียวภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา ซงึ่ มอี ำนาจหนา้ ทต่ี ามกฎหมายเพอื่ ดำเนนิ การกำกบั ดแู ลคณุ ภาพยา ภายหลงั ออกส่ทู ้องตลาดได้ สำหรบั ทรี่ ะบบโปรแกรม Single Window มรี ะบบรายงานปัญหาผลิตภณั ฑ์ สขุ ภาพทอ่ี าจเปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ เชน่ ยาแผนโบราณทป่ี นปลอมยาแผนปจั จบุ นั เพื่อให้สามารถแจ้งเตอื นภัยแกป่ ระชาชน 96
GREEN BOOK1111 รายชอ่ื โรงพยาบาลทรี่ ว่ มโครงการประกันคณุ ภาพยา ปงี บประมาณ 2557 จำนวน 105 แหง่ กรุงเทพมหานคร กองเภสัชกรรม สำนกั อนามัย รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ตากสนิ รพ.ตำรวจ รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี รพ.ส่งเสริมสขุ ภาพ ศูนย์อนามัยที่ 1 คณะแพทยศาสตรว์ ชิรพยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช กระบี่ รพช.เกาะพีพี กาญจนบรุ ี รพท.มะการักษ์ กาฬสนิ ธ์ุ รพช.เขาวง กำแพงเพชร รพช.คลองขลงุ ขอนแกน่ รพช.พล ฉะเชิงเทรา รพช.ทา่ ตะเกียบ ชลบุร ี รพศ.ชลบรุ ี ชัยนาท รพท.ชัยนาทนเรนทร ชยั ภมู ิ รพช.จตั ุรัส ชุมพร รพช.สวี เชยี งราย รพช.เชียงแสน รพช.เวยี งแก่น เชียงใหม่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพช.จอมทอง รพช.สนั กำแพง รพช.สนั ปา่ ตอง รพช.หางดง ตรงั รพศ.ตรงั รพช.กนั ตงั รพช.ปะเหลยี น ตราด รพท.ตราด รพช.บอ่ ไร่ นครนายก รพท.นครนายก นครปฐม รพศ.นครปฐม รพช.พุทธมณฑล รพช.สามพราน รพช.หว้ ยพลู นครพนม รพท.นครพนม นครราชสมี า รพศ.มหาราชนครราชสมี า รพช.คง นครศรีธรรมราช รพศ.มหาราชนครศรีธรรมราช รพช.ทุ่งสง รพช.ลานสกา นครสวรรค์ รพช.ตาคลี นนทบุร ี สถาบนั บำราศนราดรู รพช.บางบวั ทอง นราธิวาส รพท.นราธิวาสราชนครนิ ทร ์ รพช.ตากใบ น่าน รพช.เวยี งสา ปทมุ ธาน ี รพ.ธรรมศาสตร์เฉลมิ พระเกยี รต ิ รพช.ลำลกู กา 97
GREEN BOOK 11 รายชื่อโรงพยาบาลทรี่ ่วมโครงการประกนั คณุ ภาพยา ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 105 แห่ง ประจวบครี ขี นั ธ ์ รพช.บางสะพานน้อย ปราจีนบุร ี รพศ.เจ้าพระยาอภยั ภเู บศร รพช.ศรมี โหสถ ปตั ตานี รพร.สายบรุ ี พระนครศรีอยธุ ยา รพท.เสนา พะเยา รพท.เชียงคำ พงั งา รพช.คุระบุรีชยั พฒั น ์ รพช.ทา้ ยเหมอื งชยั พฒั น์ พทั ลุง รพท.พทั ลงุ รพช.ควนขนุน รพช.ศรบี รรพต พจิ ิตร รพร.ตะพานหิน พษิ ณโุ ลก รพศ.พุทธชนิ ราช รพ.มหาวทิ ยาลยั นเรศวร เพชรบรุ ี รพท.พระจอมเกลา้ เพชรบูรณ ์ รพช.บงึ สามพนั แพร่ รพท.แพร่ รพช.ลอง ภูเกต็ รพศ.วชริ ะภเู กต็ มกุ ดาหาร รพท.มกุ ดาหาร แมฮ่ อ่ งสอน รพช.ปาย ยโสธร รพท.ยโสธร รอ้ ยเอด็ รพช.พนมไพร ระนอง รพช.กระบรุ ี รพช.สุขสำราญ ระยอง รพศ.ระยอง รพช.ปลวกแดง ลำปาง รพศ.ลำปาง รพช.แมท่ ะ รพช.งาว รพช.หา้ งฉัตร ศรีสะเกษ รพช.ขขุ นั ธ์ สกลนคร รพช.คำตากล้า รพช.พังโคน รพช.วาริชภมู ิ สงขลา รพท.สงขลา รพ.สงขลานครินทร์ สตลู รพช.ควนโดน รพช.ทงุ่ หวา้ สระบรุ ี รพช.มวกเหลก็ สิงห์บุร ี รพช.คา่ ยบางระจนั รพช.ท่าช้าง 98
GREEN BOOK1111 รายชอ่ื โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการประกันคณุ ภาพยา ปงี บประมาณ 2557 จำนวน 105 แห่ง สพุ รรณบรุ ี รพศ.เจา้ พระยายมราช รพช.ดอนเจดยี ์ รพช.ศรปี ระจันต ์ รพช.หนองหญา้ ไซ รพช.อทู่ อง สุรนิ ทร์ รพช.สังขะ รพช.เข่ืองใน รพร.เดชอดุ ม หนองบัวลำภ ู รพช.โนนสงั อ่างทอง รพท.อา่ งทอง อำนาจเจริญ รพช.ชานมุ าน อุตรดติ ถ ์ รพศ.อุตรดิตถ์ อุทัยธาน ี รพช.ทัพทัน อุบลราชธาน ี รพศ.สรรพสิทธปิ ระสงค ์ 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118