บทที 16 วธิ ีการอ่านงบกระแสเงนิ สด บทนเี ราจะมาเรียนรู้ถงึ การอ่านงบกระแสเงินสดกันนะครับ เรามาเริมกนั เลยดีกวา่ โดยผมได้นํางบดลุ งบกาํ ไร ขาดทนุ และงบกระแสเงินสดของห้นุ ตวั หนงึ มาให้พจิ ารณากนั .. 51 | P a g e
กอ่ นทเี ราจะเรียนรู้ “งบกระแสเงนิ สด” กนั เราจะเห็นตวั เลขบวกและตวั เลขตดิ ลบ ให้เราจําไว้เลยว่า ตัวเลขบวก ก็คอื เงนิ สดเพมิ ขนึ ตวั เลขติดลบ คือ เงนิ สดลดลง ถ้างงก็ให้ยึดหลกั การนีไว้ เพราะเราอาจจะสบั สนกบั บางบรรทดั เชน่ บรรทดั ทเี ขยี นวา่ “ทีดนิ อาคาร อปุ กรณ์ (เพมิ ขนึ ) ลดลง” -8.91ล้านบาท เค้าก็จะหมายความว่า ถ้าตวั เลขนีเป็ นบวกก็ จะหมายความว่า “ทดี ิน อาคาร อปุ กรณ์ ลดลง” แตถ่ ้าตวั เลขนีเป็ นลบ กจ็ ะหมายความว่า “ทีดิน อาคาร อปุ กรณ์ เพิมขึน” เพราะวา่ ถ้า “ทดี นิ อาคาร อปุ กรณ์ เพิมขนึ ” แสดงวา่ เราเอาเงินสดไปซอื หามา ดงั นนั ”เงนิ สดต้องติดลบ” ดกู นั อกี สกั ตวั อยา่ ง ในบรรทดั ทีเขยี นวา่ “เงนิ เบกิ เกินบญั ชีและเงนิ ก้ยู มื ระยะสนั -สถาบนั การเงิน เพิมขนึ (ลดลง)” 238.39ล้านบาท ก็แสดงว่ามีการกู้ยืมมาเพิมขึน เพราะเงินสดเราสงู ขนึ จากการกู้ถึง 238.39ล้านบาท ในทางกลบั กัน ถ้าเราเอาเงนิ ไปจ่ายคนื ตวั เลขนกี ็จะตดิ ลบ หมายถงึ “เงินสดลดลงจากการนําเงนิ ไปคนื เงินก้ยู ืม” นนั เอง 52 | P a g e
เอาละ่ !!! นา่ จะพอเหน็ ภาพกนั สกั นดิ หนงึ แล้ว เรามาดกู นั เป็ นขนั ๆ นะครบั ขนั แรก ผมอยากให้ดใู นงบดลุ ก่อนครบั (รูปแรกเลย) เราจะเห็นกรอบสแี ดง แสดงรายการ “เงินสดและเทียบเท่า เงนิ สด” ว่าในการปิ ดงบงวดนี บริษัทมีเงนิ สดเท่าไหร่ เราก็ได้ตวั เลขมา ก็คือ 50.30ล้านบาท และตรงนีเอง พอเรามาดใู น งบกระแสเงินสด (ภาพที 3) เห็นไม๊ครับว่าสองบรรทดั สดุ ท้ายทีผมได้ตีกรอบแดงไว้ต้นงวด (หรือการปิ ดงบครังก่อน) บริษัทมเี งินสด 71.30ล้านบาท แต่ปลายงวดมเี งนิ สดเพยี ง 50.30ล้านบาท ลดลง 21ล้านบาท (71.30 - 50.30) ขันทีสอง ก็คือ จากการทีเราได้เรียนรู้กนั ในบททีแล้วว่ากิจกรรมทีเงินจะไหลเวียนเข้าออก 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการดาํ เนนิ งาน, กิจกรรมการลงทุนและกิจกรรมการจัดหาเงิน จะต้องรวมกนั แล้วเท่ากบั เงินสดทีเปลียนแปลงไป โดยจากข้อมลู งบการเงิน เรามาดกู รอบสนี าํ เงนิ เลยครบั วา่ ในแตล่ ะกจิ กรรมได้ยอดรวมเป็ นอย่างไร (การอ่านงบกระแสเงิน สดในครังแรกๆ จะหาสามบรรทดั นลี าํ บากเพราะรายการมนั เยอะ ต้องคอ่ ยๆ ดนู ะครับ) เราพบว่าในงวดบัญชีนี กิจกรรมการดําเนินงาน มีเงินสดสทุ ธิ -222.08ล้านบาท ในขณะทีกิจกรรมการลงทุน มีเงินสดสทุ ธิ -8.91ล้านบาท และกิจกรรมการจดั หาเงิน มเี งนิ สดสทุ ธิ 209.99ล้านบาท ถ้าเราเอาตวั เลขทงั สามกิจกรรมมารวมกนั ก็คือ (-222.08) + (-8.91) + (209.99) = 21.00 เห็นไม๊ครับว่าเงินสด ทีลดลงไป 21ล้านบาท เทา่ กบั ผลรวมตวั เลขของทงั สามกิจกรรมเป๊ ะเลย ทีนีทุกคนคงพอเข้าใจการใช้ “งบกระแสเงินสด” เบอื งต้นแล้ว มนั ก็มีเพียงเท่านีแหละครับ ทีนี ผมอยากจะอธิบายเพิมเติมในส่วนของ “กิจกรรมการดําเนินงาน” เพิมเติมอีกสกั นิด ว่ามนั มี “ทีมาทีไป” อย่างไร ตวั เลขของกิจกรรมนี เริมต้นมาจากงบกําไรขาดทุนก่อนหักภาษีเงินได้ ซึงมีตัวเลขอยู่ที -85.55ล้านบาท ซึงผม อยากให้ดูในงบกําไรขาดทุน (ภาพทีสอง) ในกรอบสีแดงทีผมตีไว้ อันนีคือรายการกําไรสุทธิที -44.05ล้านบาท เมือ รวมกับภาษีเงนิ ได้ที -41.49ล้านบาท จะรวมได้เท่ากบั -85.55ล้านบาทพอดี ซึงเราจะเห็นได้ว่าตัวเลขตรงนี ยงั ไม่ได้ บวกกลบั ต้นทนุ ทางการเงิน เพราะถ้ารวมไปแล้วตวั เลขจะไม่เท่ากับ -88.55ล้านบาทแน่นอน (เราจะเห็นได้ว่าช่องลา่ ง ถัดๆ มามีการบวกต้นทุนทางการเงินกลับเข้าไปในภายหลงั ) และจากตัวเลขงบกําไรขาดทุนก่อนหักภาษีเงินได้ที -85.55ล้านบาท ผมได้ตีกรอบสีเขียวในงบกระแสเงินสดไว้ คือ “รายการค้าเสอื มราคาบวกกลบั ” เห็นไม๊ครับว่ามีการ บวกกลบั ไป 23.24ล้านบาท นคี ือสงิ ทีเราพดู ถงึ กนั ในบททแี ล้วครบั สาํ หรบั ในการวิเคราะห์โดยใช้ “งบกระแสเงนิ สด” เห็นไม๊ครับว่าในงวดงบการเงินนี บริษัทนีมีผลการดําเนินงาน ขาดทนุ ดงั ทปี รากฏในกิจกรรมการดาํ เนินงานที -222.08ล้านบาท มีการลงทนุ เพิมบ้างที 8.91ล้านบาท (ในงบจะปรากฏ ว่าติดลบเพราะเงินสดจ่ายออกไป) และมีการกู้เงินมาเพิมเป็ นจํานวนถึง 238ล้านบาท แต่สุทธิแล้วหักกลบกับ เงินปันผลจ่ายและดอกเบยี จา่ ย ทาํ ให้สทุ ธิมกี ารก้เู งินมาเพิมเป็ นจาํ นวน 209.99ล้านบาท ซงึ ถ้าเหตุการณ์ยังเป็ นแบบนีไป เรือยๆ เงนิ สดก็จะหมดมือ หนีสนิ กจ็ ะเพิมมากขนึ เรือยๆ จนกิจการพงั ทลายลงไปได้ เรามาดกู นั อกี สกั หนงึ บริษัทก็แล้วกนั ครับ.. 53 | P a g e
จากรูปด้านซ้าย เห็นไม๊ครบั วา่ บริษัทนีมผี ลกําไรสทุ ธิอย่ทู ี 190.65ล้านบาท แต่มีกําไรจากการขายสนิ ทรัพย์ถาวร สงู ถงึ 201.85ล้านบาท และจากตัวเลขทีโชว์ว่า -201.85ล้านบาท แสดงว่า “เงินไม่มีจริง” เราก็เลยกลบั ไปดใู นงบกําไร ขาดทนุ ในรูปด้านขวา เรากจ็ ะเห็นวา่ มนั เป็ นรายการ “กาํ ไรจากการขายทรัพย์สนิ รอการขาย” คือบันทึกเป็ น “กําไร” ไปแล้ว แต่ยงั ไมได้รับเงิน และถ้าหากรายการนีเกิด “ผดิ พลาดทางเทคนคิ ” รบั รองวา่ จะว่นุ วายกนั มากมายทีเดียว ทีนีพอย้อนกลบั มาดรู ูปฝังซ้ายตรงสรุปว่า “เงินสดสทุ ธิได้มาจาก (ใช้ไปใน) กิจกรรมการดําเนินงาน” มีค่าสทุ ธิ -115.21ล้านบาท เราก็เลย ไมต่ ้องสงสยั อะไรแล้ว.. เหน็ ไม๊ครบั วา่ บางทที บี ริษัทโชว์ว่ามกี าํ ไร แต่พอเข้าไปเช็คดโู ดยการเอางบแตล่ ะแบบมาประกบกนั ปรากฏว่าบริษัทไมม่ อี ะไรเลย อาจจะออกแนว “แหกตา” ด้วยซํา ดงั ตวั อยา่ งทยี กมาให้เหน็ ข้างต้น หวงั ว่าผ้อู า่ นคงจะพอเหน็ ภาพและนาํ “งบกระแสเงนิ สด” ไปใช้ประโยชน์ได้แล้วนะครับ.. 54 | P a g e
บทที 17 ปัจจยั ทมี ผี ลต่องบการเงนิ บทนี ผมมีประเด็นทีต้องการจะนําเสนออยู่ 2-3 ประเด็นด้วยกัน ทีน่าจะมีประโยชน์เวลาทีเราใช้วิเคราะห์ งบการเงนิ เพราะมนั อาจจะทาํ ให้เราเข้าใจในตวั ของงบการเงินของแตล่ ะบริษัทชดั เจนมากยิงขนึ ครบั ประเด็นที 1 ก็คอื “หากเราเข้าใจตัวธุรกิจเราจะพอทราบถงึ ความเป็ นไปในงบการเงิน” หมายความว่า ธุรกิจแต่ละประเภทจะมีโครงสร้ างทางการเงินทีไม่เหมือนกัน ธุรกิจบางประเภทใช้ เงินลงทุนเริมต้ นทีไม่มากนัก ทําให้ดูเหมือนว่าความเสียงจะตํา และแน่นอนว่าดูเหมือนจะกําไรดีในช่วงแรก แต่เมือเวลาผ่านไปกลบั กลายเป็ นว่ากํา ขนั ต้นตกตาํ ลงไปเรือยๆ แต่ต้นทนุ บริหารจดั การไมส่ ามารถลดลงได้ สดุ ท้ายแม้ว่ากิจการจะมีกําไรแต่ก็อาจจะไม่สามารถ เติบโตได้ ในขณะทีบางกจิ การมกี ารลงทนุ เริมต้นทสี งู การลงทนุ เริมต้นทีสงู ก็จะทําให้เกิดความเสยี งเพราะระหว่างทียงั ไม่ คืนทนุ (คา่ เสอื มราคายงั ตดั ไมห่ มด) ระยะเวลาทีคา่ เสอื มราคายงั ตดั ไม่หมดนี เหมือนกบั เป็ น “ภาวะฟักตวั ” ของกิจการซึง พอพ้นจากช่วงเวลานไี ปได้ บริษัทเหลา่ นนั ก็จะเกดิ ความได้เปรียบโดยอตั โนมตั ิ ความได้เปรียบทีว่านีก็จะมาจากสนิ ค้าทุน ทีลงทุนไป ได้ สร้ างความได้ เปรียบทางการค้าให้ เหนือกว่าคู่แข่งทีไม่ได้ลงทุนส่วนนี แต่แม้กระนันก็มีหลายกิจการ ทไี มส่ ามารถก้าวผา่ นชว่ งเวลาของ “การฟักตวั ” ไปได้ คือ อาจจะบริหารงานผิดพลาดหรืออ่านทิศทางการค้าผิด ส่งผลให้ กิจการไมส่ ามารถประกอบการจนสามารถมีกําไรได้ (ไม่ว่าจะทําอย่างไรกําไรขนั ต้นก็ไม่พอจ่ายค่า SG&A) ส่งผลให้เกิด “วงจรหน”ี และทบั ถมให้บริษัทไม่สามารถก้าวไปไหนตอ่ ได้จนกวา่ “จะลงเงินเพิมหรือเพิมทุนเข้าไป” แต่การเพิมทุนทีว่านี ก็จะทําให้”ความเป็ นเจ้าของ” ลดน้อยลงไปด้วย จึงอาจเป็ นการเพิมทนุ แบบ “ทีละนิด” ซึงไม่ช่วยให้อะไรดีขึนมากนัก กลา่ วโดยสรุปในประเดน็ นกี ็คือ หากเราเข้าใจธุรกจิ และเข้าใจการทํากาํ ไรของกิจการ เราจะเข้าใจว่าทําไมงบการเงินบางปี ถงึ อาจจะแย่ลงบ้าง เพราะมนั อาจจะอยใู่ นช่วงลงทนุ เพมิ และเข้าสภู่ าวะ “ฟักตวั ” นนั เอง ประเด็นที 2 ก็คือ “ความเข้มแข็งของกิจการทีส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว” ซงึ เราจะเห็นในหลาย กจิ การ แตค่ วามเข้มแขง็ มาจากทไี หนกนั ละ่ .. ผมลองไตร่ตรองด้วยประสบการณ์อนั น้อยนิดของผม จําแนกออกมาได้เป็ น 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที 1 ความได้เปรียบอันเกิดจากทําเลทีตงั หมายความถึง กิจการอาจจะมีความได้เปรียบในการ ทําเลทีใช้ประกอบการ ซงึ รวมไปถึงตําแหน่งทางการค้าทีมีอยู่ดังเดิม (เช่น เครืองหมายทางการค้าและการผูกขาดมา ยาวนาน), รูปแบบที 2 ได้แก่ ความได้เปรียบจากสนิ ค้าทุนทีได้ลงทุนไป ซึงประเด็นนีเป็ นประเด็นทีได้กล่าวถึงบ่อย (เพราะเชอื มโยงกบั เรืองของงบการเงินได้งา่ ย) ความได้เปรียบสว่ นนชี ว่ ยให้หลายกิจการอย่ใู นสภาวะของ “ตลาดผูกขาด” (monopoly) หรือ “ตลาดผ้ขู ายน้อยราย” (oligopoly) ซงึ สามารถควบคมุ ราคาค่าบริหารหรือสร้างความได้เปรียบทางการ ค้าทีมตี อ่ ค่คู ้าทงั หลาย สง่ ผลให้เกดิ กําไรอยา่ งต่อเนอื ง และรูปแบบที 3 ได้แก่ ความได้เปรียบอันเกิดจากระบบ ซงึ การทํา ธุรกิจขนาดใหญ่ “ระบบ” เป็ นสิงทีสาํ คัญมาก และหากระบบไม่ดีก็จะเกิดการ “สญู เสีย” ได้อย่างทีคาดไม่ถึง โดยแม้ว่า บริษัทในตลาดหลกั ทรัพย์จะเป็ นบริษัททีได้ชอื ว่า “มีการพิสจู น์มาแล้วว่าดหี รือมมี าตรฐานแล้วในระดับหนึง” แต่เราก็ยงั คง ต้องค้นหาบริษัททีมรี ะบบที “แข็งแกร่ง” ทาํ ให้เกดิ สภาวะทีวา่ “ขยายงานไปเรือยๆ ยิงขยายยิงมีกําไร เพราะระบบนิงแล้ว” ซงึ สงิ ทผี มกลา่ วถงึ นี ก็ไม่ได้เกิดขึนโดยง่าย เพราะระบบทีเข้มแข็งของบางธุรกิจก็ต้อง “ฝ่ าฝันและเจ็บปวด” มายาวนาน จนกระทงั ประสบความสาํ เร็จ และนจี งึ เป็ นเหตผุ ลทีทําไมกิจการเหลา่ นนั จงึ มคี วามได้เปรียบในระยะยาว 55 | P a g e
ประเด็นที 3 ซึงเป็ นประเด็นสุดท้ายก็คือ “ความฉ้อฉลและความรัวไหลในงบการเงิน” ซึงแน่นอนว่า งบการเงินทุกฉบบั จะต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐานบัญชีทีเข้มงวด โดยผ้สู อบบญั ชีชันนําทีได้รับอนุญาตเป็ นการ เฉพาะ แต่เรากป็ ฏิเสธไมไ่ ด้ว่า มนั มสี ว่ นที “ก้าวเข้าไปตรวจไม่ถึง” ซึงถ้าเราพิจารณาดอู ย่างดีแล้ว เราก็จะพบว่ามีบางสงิ บางอยา่ งทคี วามเป็ นจริงอาจจะไมไ่ ด้สะท้อนให้เห็น ยกตวั อย่างเช่นบริษัท A มีสินทรัพย์รวม 200,000ล้านบาท ในขณะที มีหนีสินรวม 190,000ล้านบาท ทําให้มีส่วนของผู้ถือหุ้นทังสิน 10,000ล้านบาท ตรงจุดนีเราก็อาจจะพอทราบได้ว่า “หนสี นิ เป็ นของจริง” แต่ทรพั ย์สนิ เมอื เข้าไปดแู ล้วกลบั พบวา่ มีเงินสดและเทียบเท่าเงินสดเพียงไม่ถึง 10,000ล้านบาทเป็ น ต้น ถ้าหากเป็ นการพจิ ารณาด้วยความเห็นของผม ผมก็จะคิดว่าสินทรัพย์ตรงนีอาจจะมีเพียงครึงเดียว สว่ นของผู้ถือหุ้น จริงๆอาจจะติดลบไปแล้วเป็ นหลายหมืนล้าน และเข้าส่ภู าวะล้มละลายมาตังนานแล้ว แต่กิจการยังอยู่ได้จากการ “หมนุ เงนิ ” ใช้กลไกของตลาดหลกั ทรัพย์ในการ “ปัมเงิน” ขึนมาความคู่ไปกับการ “เพิมทนุ ” เป็ นระยะๆ เพือให้กิจการยงั ดํารงอยไู่ ด้ ซงึ ถ้าหากเราเจอกิจการประเภทนี และเราวิเคราะห์ในงบการเงนิ อยา่ งเป็ นกลาง เราก็จะพบว่า “มันไม่น่าลงทุน เอาเสยี เลย” และหากเราลงทุนเข้าไปกบั กิจการประเภทนีทงั ๆ ทีเรารู้ในเรืองราวเหลา่ นีก็เท่ากบั ว่า “เราเข้าไปเก็งกําไร” ไม่ใช่ “การลงทนุ ” นอกจากนีก็อาจจะรวมไปถงึ กิจการทีกําไรน้อยหรือขาดทุนอย่างต่อเนืองจนเงินสด “ไม่เหลือติดมือ” แต่ออกขา่ วใหญ่โตว่าจะลงทนุ โน้นนี ด้วยเงนิ เทา่ นนั เท่านี และจะทาํ ให้กาํ ไรก้าวกระโดด ซงึ เมือเราพิจารณาในด้านเงินทนุ แล้ว ไม่น่าจะเป็ นไปได้เพราะเงินสดไม่พอ หรือหากในแง่ความสามารถของผู้บริหารแล้วว่า ถ้าผู้บริหารไม่เปลียน เหตกุ ารณ์เหลา่ นีจะเกิดขนึ ได้หรือไม่ เพราะทผี ่านมากไ็ ด้พสิ จู น์ผา่ นงบการเงินแล้ววา่ บริหารงานได้ยําแย่ หรือ “เรือยเปื อย” มาตลอด ตรงนลี ะ่ ที “การวเิ คราะห์งบการเงิน” เข้ามาช่วยเหลือเราให้ทราบข้อเท็จจริงเหลา่ นีได้บ้าง (แม้จะไม่ครบถ้วนก็ ตาม เนืองจากเรามองเรืองราวเหลา่ นผี า่ นงบการเงินและตามสอื ต่างๆ) ทงั หมดนกี ็คอื ประเดน็ ตา่ งๆ ทีควรรบั ทราบไว้ เพอื ให้เกิดความเข้าใจทมี ากขนึ ในการนาํ งบการเงินไปใช้ครับ.. 56 | P a g e
บทที 18 บทสรุปของหนังสอื เล่มนี ผมขอกลา่ วสรุปสนั ๆ กอ่ นวา่ “หนงั สอื เลม่ นีมีความประสงค์จะทําให้ผ้อู ่านทังหลายมีความเชือมนั ว่างบการเงิน เป็ นเรืองทเี ราทกุ คนสามารถเข้าใจและนาํ ไปใช้ได้” ดงั นนั เนือหาในเลม่ นีผมจงึ ได้พยายามเรียบเรียงและเชือมโยงเนือหา เป็ นขันเป็ นตอนพร้ อมยกตัวอย่างโดยละเอียด เพือให้ สามารถปฏิบัติได้ ด้ วยตนเอง แม้ ว่าอาจจะเป็ นเพียง “ความรู้เบืองต้น” แตก่ ็นา่ จะทาํ ให้ผ้อู า่ นได้รับประโยชน์และเกดิ การต่อยอดไปยงั หนงั สอื เลม่ อนื ๆ ทลี กึ ซงึ กวา่ ตอ่ ไป.. สาํ หรบั การ “ลงทนุ ห้นุ ปันผล” นนั ผมเองคดิ ว่ามปี ระเด็นหลกั ๆ ทีเราจะต้องพิจารณาอยู่ด้วยกัน 3 ประการ ก็คือ การพจิ ารณาเลอื กลงทนุ , การรอจงั หวะทเี หมาะสมในการเข้าลงทนุ และการตรวจสขุ ภาพห้นุ ทีเข้าไปลงทนุ .. ในสว่ นของ “การพจิ ารณาเข้าลงทนุ ” ผมเชือว่าการเข้าลงทุนในบริษัททีมีขนาดใหญ่มาก (และมีงบการเงินทีดี) โดยเฉพาะอย่างยงิ ต้องมเี งินปันผลทกุ ปี แม้ในปี ทียากลาํ บาก) จะเป็ นความได้เปรียบในระยะยาว เพราะขนาดทีใหญ่โตทํา ให้มคี ่แู ข่งน้อย และการทีบริษัทเหลา่ นนั โตมาได้ คงจะต้องมีการบริหารจัดการทีได้มาตรฐาน แต่ผมมกั จะหลกี เลียงห้นุ ทีมีหนีสินต่อทนุ สงู กว่า 1 เท่า เพราะผมไม่ชอบ “ภาระหนี” ซงึ เป็ นการ “บีบคัน” บริษัท แม้ว่าบางครังจะจําเป็ นต้อง ก้มู าลงทนุ กต็ ามที ในส่วนของ “การรอจงั หวะทีเหมาะสม” ผมเชือว่าการทีเราเจอบริษัททีดี ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเหล่านัน “น่าลงทุน” เสมอไป นันเพราะว่าในวันทีเราไปพบก็อาจจะเป็ นช่วงเวลาที “ราคาหุ้นสูงจนไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน” ทําให้เราอาจจะต้องเบนเข็มไปหาหุ้นตัวอืน และ “อดทนเฝ้ ารอ” จนกว่าหุ้นตวั นันจะมีราคาลดลงมาจนถงึ ระดับทีเรา “สบายใจทจี ะเข้าลงทนุ ” ในสว่ นของ “การตรวจสขุ ภาพห้นุ ” ผมเชือว่าการทีเราลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (ทีมีความมันคงสงู ) ในจงั หวะทีดี (ราคาทีเหมาะสม) แม้วา่ จะทําให้เราเกิดความสบายใจในการได้รับ “เงินปันผลทีคุ้มค่า” อย่างสมําเสมอ แต่เราก็ไม่อาจ ปฏิเสธความจริงอันเทียงแท้ได้ว่า “ทุกสงิ ไม่จีรังยังยืน” ไม่มีสิงใดทีจะ “ยืนยงคงอย่ตู ราบชวั ฟ้ าดินสลาย” นนั จึงเป็ น เหตผุ ลทีเราจะต้องคอยหมนั ตรวจสขุ ภาพของกิจการ ด้วยการวิเคราะห์ “งบการเงิน” และหากว่าเรา “เห็นท่าไม่ดี” เราก็ สามารถ “ถอนการลงทนุ ” โดยการขายหุ้นออกซึงใช้เวลาเพียงไม่กีนาที ซึงเป็ นข้อดีทีสําคัญยิง (ในความเห็นของผม) สาํ หรบั “การลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ย์” ทสี ามารถถอนการลงทนุ ได้งา่ ย หรือ “ชงิ ได้ง่าย” นนั เอง สดุ ท้ายนี ผมหวังว่าหนังสอื เลม่ นี รวมถงึ หนังสอื เลม่ ก่อนหน้าอีก 3 เลม่ จะครอบคลมุ เนือหาทีจําเป็ นทงั หมด ตามทผี มได้กลา่ วถงึ ในเบอื งต้นแล้ว โดยขอให้หนงั สือทังหลายเหล่านี ได้ทําประโยชน์ สร้างพอร์ตการลงทุน “หุ้นปันผล” ทจี ะเป็ นรากฐานทางการเงินทมี นั คงแกผ่ ้อู ่าน และสง่ มอบไปสลู่ กู หลานให้ได้ “กินใช้ไมห่ มดสนิ ” ตอ่ ไป ขอบพระคณุ ครบั .. (หนังสอื มีความสขุ กับห้นุ ปันผล by หมสี ้ม เล่ม 4 จบแล้วครับ) 57 | P a g e
Search