ก คำนำ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรน่าหรือ'โควิด-19' ได้มีคาศพั ท์ใหม่ๆเกิดข้ึน ซึ่งล้วนเป็นคาศัพท์ใกล้ตัวที่น่ารู้ในสถานการณ์วิกฤติน้ี ท้ังในมิติทางสังคม การแพทย์ และธุรกิจ สถานการณ์ \"โควิด-19\" ยังระบาด ทาให้วิถีชีวิตของหลายคนเปลี่ยนไป และมีเรื่องใหม่ๆ ท่ีต้องทาความรู้จัก และทาความ เข้าใจในหลากหลายมิติ เพ่อื ให้สามารถใช้ชีวิตไดใ้ กลเ้ คียงกับสภาวะปกติมากทีส่ ดุ ระหวา่ งท่ยี ังต้องระวงั โรค หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบางเสาธง จงึ ได้จดั รวบรวมคาศพั ท์ต้องรู้ ยุค 'โควิด-19'เป็นคาคาศพั ท์ท่ี พบบ่อยนับต้ังแตม่ กี ารแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ที่ทาให้เกิด “โควดิ -19” ซ่ึงล้วนเป็นคาศัพท์ใกลต้ ัวท่นี ่ารใู้ น สถานการณ์วิกฤติน้ี ท้ังในมิติทางสังคม การแพทย์ และธุรกิจ ซ่ึงหลายคาอาจกลายเป็นสิ่งท่ีอาจเปลี่ยนการใช้ ชีวติ ของเราไปตลอดกาลนบั จากน้ี ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบางเสาธง
ข สำรบัญ เนื้อหา Social distancing (.................................................................................................................................1 Physical distancing ...............................................................................................................................2 Super Spreader.........................................................................................................................................2 State quarantine .....................................................................................................................................3 Self quarantine.......................................................................................................................................3 Lockdown/ Shutdown .................................................................................................................................3 Curfew.......................................................................................................................................................3 World Health Organization(WHO) .............................................................................................................4 พนั ธกจิ ........................................................................................................................................................5 Rapid Test ................................................................................................................................................5 New normal ................................................................................................................................................6 Work Form Home .........................................................................................................................................7 Challenge .................................................................................................................................................7 Video conference.....................................................................................................................................8 Drive Thru ................................................................................................................................................8
1 Social distancing (โซว่ เฉิ่ล ดิส้ เดิ่นซ่ิง) คอื ชุดการดาเนินการควบคมุ การตดิ เชอ้ื โดยไม่ใช้ยา เพ่ือหยุดหรือชะลอการแพร่กระจายของโรคติดต่อ วัตถุประสงค์ของการเว้นระยะห่างทางสังคมคือการลด โอกาสการสัมผัสระหว่างคนท่ีเป็นพาหะกับคนอ่ืน ๆ ที่ไม่ได้ติดเชื้อ เพ่ือลดการแพร่เชื้อ การเจ็บป่วย และ สุดท้าย การเสียชีวิตการรักษาระยะห่างทางสังคม คือการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ลดการพบปะหรือเข้า สังคมในที่ที่มีคนจานวนมาก เพ่ือลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 ต้นตอของโรคโควิด-19 การ เว้นระยะห่างทางสังคมจะมีประสิทธิภาพมากท่ีสุดเมื่อการติดเช้ือนั้นสามารถแพร่ผ่านการสัมผัสฝอยละออง (การไอหรือการจาม), การสัมผัสทางกายภาพโดยตรงซึ่งรวมถึงการสัมผัสทางเพศ, การสัมผัสทางกายภาพ ทางอ้อม (เช่น การสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนหรือเป็นพาหะนาเช้ือโรค) หรือการแพร่กระจายทางอากาศ (หากจุล ชีพสามารถอยรู่ อดในอากาศเปน็ เวลานาน) การเว้นระยะห่างทางสังคมอาจมีประสิทธิภาพน้อยลงในกรณีที่การติดเชื้อนั้นแพร่กระจายเป็น หลักผ่านน้าหรืออาหารท่ีมีการปนเปื้อนหรือผ่านตัวนาโรคเช่นยุงหรือแมลงอื่น ๆ และไม่บ่อยนักจากคนสู่คน ขอ้ เสียของการเว้นระยะห่างทางสังคมอาจรวมถึงความเหงา ผลิตภาวะท่ีลดลง และการเสียผลประโยชน์อื่น ๆ ที่เกยี่ วข้องกับปฏิสมั พันธ์ของมนษุ ย์ ตัวอย่างหน่ึงของการอ้างถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เก่าแก่ท่ีสุดสามารถย้อนไปได้ถึงพระ ธรรมเลวนี ิติ (ในไบเบิล) 13:46: \"ตลอดวนั เวลาที่เขาป่วยเป็นโรค ... เขาจะตอ้ งอยโู่ ดยลาพัง ทอ่ี าศัยของเขาจะ อยู่ข้างนอกค่าย\"[12] ในอดีต นิคมโรคเร้ือนและนิคมโรคติดต่อทางเรือได้รับการจัดตั้งข้ึนเพ่ือป้องกันการ แพร่กระจายของโรคเร้ือนและโรคติดต่ออื่น ๆ ผ่านการเว้นระยะห่างทางสังคมจนกระทั่งมนุษย์มีความรู้ความ เขา้ ใจเรอ่ื งการแพร่เช้ือมากขึ้นและค้นพบวธิ ีการรักษาที่มีประสทิ ธภิ าพ ตัวอย่างมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมท่ีใช้ควบคุมการแพร่กระ จายของโรคติดต่อในปัจจุบัน ได้แก่ การกักด่าน การแยกผู้ป่วย การปิดสถานศึกษาและการเรียนออนไลน์การปิดสถานท่ีทางานการยกเลิก การรวมตวั กันของฝูงชน (เชน่ งานกีฬา การแสดงดนตรี การฉายภาพยนตร)์ การปดิ สิง่ อานวยความสะดวกทาง นันทนาการ (เชน่ ชมรมเยาวชน สถานออกกาลังกาย) และการปิดหรือการจากัดระบบขนสง่ สาธารณะ เปน็ ต้น
2 Physical distancing (ฟิซิเค่ิล ด้ิสเดิ่นซ่ิง) การเว้นระยะห่างทางกายภาพ องค์การ อนามัยโลก (WHO) ให้เปล่ียนมาใช้คาน้ี แทนคาว่า Social distancing (การรักษาระยะห่างทางสังคม) เน่ืองจากโควิด-19 แพร่กระจายผ่านละอองฝอย โดยเฉพาะเวลาไอหรือจาม ดังน้ัน การรักษาระยะห่างท่ี ปลอดภัย หรือการรักษาระยะห่างระหว่างกัน (ทางกายภาพ) จะช่วยลดโอกาสการรับเช้ือ และแพร่เชื้อได้ ซ่ึง ส่งผลดีกว่า Social distancing เนื่องจากการเว้นระยะห่างทางสังคมอาจรู้สึกโดดเด่ียวและไม่เป็นผลดีต่อ สุขภาพใจ Super Spreader (ซูเปอร์สเปรดเดอร์) : ผู้ที่แพร่เช้ือไปในวงกว้าง Super Spreader ซูเปอร์ส เปรดเดอร์ คือ\"สิ่งมีชีวิตท่ีเป็นโรคติดต่อได้\"ท่ีติดเชื้ออย่างผิดปกติ มนุษย์ท่ีป่วยสามารถเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ หรือผู้ท่ีขับเชื้อและแพร่เชื้อได้มากเป็นพิเศษ พวกเขามีแนวโน้มท่ีจะแพร่เช้ือให้กับผู้อ่ืน มากกว่าคนท่ีติดเชื้อ ท่วั ไป ซเู ปอร์สเปรดเดอร์ จึงเป็นประเด็นท่ีมคี วามกังวลสงู ในวทิ ยาการระบาด กรณีท่ีมีการแพร่กระจายเชื้อมากเป็นพิเศษนั้นเป็นไปตามหลักการพาเรโต (Pareto principle หรือ กฎ 20/80) โดยที่ประมาณ 20% ของผู้ตดิ เช้ือจะเป็นผู้ที่แพร่กระจายเช้ือ 80% ถึงแม้ว่าการแพร่กระจายเช้ือมาก เป็นพิเศษนั้นกล่าวได้ว่า ก็สามารถเกิดขึ้นได้เม่ือการรายงานกรณีซูเปอร์สเปรดเดอร์ ซึ่งมีร้อยละของการ แพร่กระจายท่ีสูงกว่าหรือต่ากว่าในโรคระบาดที่มีการแพร่กระจายเชื้อมากเป็นพิเศษ ประชาชนส่วนใหญ่ที่ติด เชอื้ มีความสมั พันธแ์ บบการตดิ ตอ่ รอง (Secondary contact) เพยี งเลก็ นอ้ ย เหตุการณ์การแพร่กระจายเช้ือมากเป็นพิเศษถูกกาหนดโดยปัจจัยหลายประการ รวมถึงการลดลง ของภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากร, การติดเชื้อในโรงพยาบาล, ความรุนแรงของเชื้อ, ปริมาณไวรัส, การวินิจฉัย ผดิ พลาด, พลวัตไหลเวียนของอากาศ, ภาวะการกดภมู ิคุ้มกัน และการติดเชื้อร่วมกับเชื้อโรคอน่ื ๆหมายถึง คน ท่แี พร่โรคไปยังบุคคลอน่ื ๆ จานวนมาก โดยเฉล่ียคนหน่ึงคน จะแพร่เช้ือไปยังคนอืน่ ๆ ไดอ้ ีก 2 คน ซ่ึงหากกรณี ไม่สามารถควบคุมโรคได้ จะทาให้จานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนจานวนมาก โดย Super spreader หนึ่งคนจะแพร่เช้ือ มากกว่าคา่ เฉล่ยี หลายๆ เท่า หรือประมาณแพร่เชื้อได้ถงึ 20 คนหรือมากกวา่ นั้น
3 State quarantine (ซเทท ควอ-แร็นทนี ): การกักกันโรคทีศ่ ูนย์ควบคุมโรคซ่งึ หน่วยงานของรัฐ จดั ตง้ั ขน้ึ สถานที่ท่ีหน่วยงานของรัฐจดั ต้ังขึน้ กักตัว และควบคุมโรค โดยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาไทย รัฐ ได้จัดพื้นที่ State quarantine เป็น 2 ส่วน คือ พื้นท่ีกรุงเทพฯ และส่วนกลาง เพื่อกระจายการเฝ้าระวังโรค อยา่ งท่วั ถงึ Self quarantine (เซ็ลฟ ควอ-แรน็ ทีน) : การกกั กนั ตัวทบี่ ้าน สาหรับกลุม่ เสยี่ งติดเชือ้ การให้ ผทู้ ม่ี ีความเสี่ยงต่อการเกดิ โรคแยกตวั เองออกจากครอบครัว ชมุ ชน หรอื สงั คม เพ่ือลดการแพรก่ ระจายของเชอ้ื ไวรสั โควิด-19 Lockdown/ Shutdown (ล็อกดาวน์/ชัตดาวน์) : การปิดประเทศ หรือปิดเมือง โดยห้ามบุคคล เดินทางเข้าออก หรือส่ังหยุดกิจกรรมท่ีเสี่ยงต่อการระบาดของโรค มาตรการปดิ ประเทศ หรือปิดพรมแดน ซึ่ง มีลักษณะห้ามบุคคลในประเทศเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามบุคคลภายนอกประเทศเดินทางเข้ามาใน ประเทศ รวมถึงการส่ังหยุดกิจกรรมที่เส่ียงต่อการระบาดของโรค เพ่ือลดการแพร่กระจายของโรค Lockdown/ Shutdown การปิดขัง ซ่ึงคือการปิดขังสถาบันหนึ่ง เมือง หรือประเทศชั่วคราวโดยขังคนท่ีอยู่ ข้างในไม่ให้ออกและไม่ให้คนนอกเข้าไปหรืออาจให้มีการเข้าออกได้แต่มีการควบคุมการเข้าออกอย่างเข้มงวด เมื่อพูดถึง Lockdown/ Shutdown ก็ต้องคิดว่ามีคนติดอยู่ในสถานที่น้ันที่ออกและเข้าไม่ได้หากเป็นการปิด ประเทศหรือปิดขงั เมอื งผูค้ นก็จะอยใู่ นบ้านไม่อนุญาตให้ออกมาจากบา้ นหรือหากจะออกมากต็ ้องได้รับอนุญาต Curfew (เคอร์ฟวิ ) : เปน็ คาสง่ั กาหนดเวลาใช้ข้อบังคบั บางอยา่ ง โดยปรกติเป็นการกาหนดเวลาให้บคุ คล ต้องอยภู่ ายในเคหสถาน หรอื ให้ปิดทาการสานักงานบางประเภท และผู้ออกคาสง่ั ดงั กล่าวมักเป็นเจ้าหน้าท่ีของ รฐั แต่ยงั หมายถงึ กรณที ีเ่ อกชนเปน็ ผู้ออกคาสั่งได้ด้วย เชน่ กรณีทเ่ี จ้าของบ้านกาหนดให้โอแพร์ (au pair) ตอ้ ง กลับบ้านในยามเย็นการประกาศห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน ตามเวลาและพ้ืนที่ที่กาหนด คาว่า \"เคอร์ฟิว\" ในภาษาอังกฤษ มาจากคาว่า \"กูฟวร์เฟอ\" (couvre-feu) ในภาษาฝร่ังเศสเก่า (Old French) มีความหมายตรงตัวว่า \"ดับไฟ\" (cover fire) มีท่ีมาจากกฎหมายของพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต (William The Conqueror) ที่ให้ดบั ไฟและแสงไฟทง้ั หมดเม่อื ระฆังตีแปดนาฬิกา เพ่ือป้องกันเพลิงไหม้ในชุมชนอาคารไม้ 1.คาส่ังท่ีเจ้าหน้าท่ีรัฐหรือทหารเป็นผู้ออก กาหนดให้ทุกคนหรือบางคนอยู่ภายในเคหสถาน ณ ช่วงเวลาบางช่วง ปรกติมักเป็นยามวิกาล คาสั่งเช่นน้ีอาจมีขึ้นเพ่ือการรักษาความสงบเรียบร้อย (เช่น กรณีที่ เกิดในคราวไฟฟ้าดับท่ัวภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเมื่อ พ.ศ. 2546, การจลาจลในฝร่ังเศสเมื่อ พ.ศ. 2548, แผ่นดินไหวในชีลีเมื่อ พ.ศ. 2553, การปฏิวัติอียิปต์เมื่อ พ.ศ. 2554, และความไม่สงบที่เฟอร์กูสันเม่ือ พ.ศ. 2557) หรือเพอ่ื ปราบปรามบคุ คลบางกลุ่ม 2.คาสัง่ ของผู้ปกครอง (ตามกฎหมาย) ท่ีให้ผู้เยาว์กลับบ้านภายในเวลาที่กาหนด ปรกติมกั เป็นยาม วกิ าล อาจเปน็ คาสั่งวันต่อวนั หรืออาจมีความแตกตา่ งกันไปสาหรับแตล่ ะวันในสัปดาห์ 3,คาสั่งของหัวหน้าครัวเรือนต่อผู้ช่วยเหลือในครัวเรือน เช่น ต่อโอแพร์ดังกล่าวข้างต้น หรือต่อคน เลีย้ งเดก็ ให้กลบั บา้ นภายในเวลาที่กาหนด
4 4.ข้อกาหนดรายวันที่ให้แขกผู้พักอาศัยเดินทางกลับท่ีพักภายในเวลาท่ีกาหนด ปรกติมักเป็นยาม วิกาล 5.ในการแข่งขันเบสบอล ได้แก่ คาสั่งว่า ให้การแข่งขันสิ้นสุดลงภายในเวลาใด หรือให้พักการ แข่งขนั เม่ือถึงเวลาใด เช่น ในอเมรกิ ันลีก (American League) มีการใช้เคอร์ฟวิ บังคับเป็นเวลาตอ่ เนื่องหลายปี กาหนดหา้ มอนิ นงิ (inning) เม่ือพน้ เวลา 1 นาฬิกา (ตี 1) ไปแล้ว 6.ในวิชาการบนิ ไดแ้ ก่ คาสัง่ ห้ามข้ึนบินในเวลากลางคืน ซึง่ หา้ มปฏิการทางอากาศยานในช่วงเวลา ใด ๆ ของยามค่าคนื ตามที่กาหนด เพอ่ื ปอ้ งกนั การรบกวนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคยี ง เชน่ กรณขี องทา่ อากาศ ยานต่าง ๆ ในลอนดอนท่ีปฏิบัติการบินตามระบบนับโควตา (Quota Count system) 7.คาส่ังห้ามเข้าพ้ืนที่ท่ีกาหนดภายในระยะเวลาท่ีระบุไว้ เช่น ในอินเวอร์ไคลด์ (Inverclyde) สกอตแลนด์ ห้ามลูกค้า (patron) เข้าสถานที่ที่ได้รับใบอนุญาต (licensed premises) เป็นต้นว่า ผับ คลับ บา ร์ ฯล ฯ เ มื่อ พ้ นเ ว ล าเ ท่ี ยง คืน แ ล้ว คา สั่ งเ ช่น น้ีมั ก เรี ยก ว่ า \"ล าส ต์ ออ ร์เ ด อร์ \" ( last order) การประกาศ \"พรก.ฉกุ เฉิน\" หรือ \"เคอร์ฟิว\" คือ การประกาศหา้ มประชาชนออกจากเคหสถานในบริเวณพื้นที่ท่ี กาหนด ตามระยะเวลาท่ีระบุไวอ้ ย่างชัดเจน โดยจะเกดิ ขึ้นได้ในพนื้ ทีภ่ ายใตบ้ ังคบั ของกฎหมายพิเศษด้านความ มั่นคงอื่นๆ ในเวลาที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ เช่นอยู่ในภาวะสงครามหรือมีเหตุกระทบกระเทือนต่อความ มั่นคงของรัฐอยา่ งรุนแรง สาหรับสถานการณ์ \"เคอร์ฟิว\" ช่วง \"โควิด-19\" มีการประกาศห้ามออกจากบ้านในเวลาที่กาหนด แต่ยกเว้นให้กลุ่มคนบางอาชีพ และ/หรือ เจ้าหน้าท่ีที่ต้องทางานตามคาส่ังของทางการ โดยต้องมีเอกสาร รับรองความจาเป็น หรือเอกสารเก่ียวกับสินค้า หรือเอกสารการเดินทางและมีมาตรการป้องกันโ รคตาม ขอ้ กาหนด World Health Organization(WHO) : WHO คอื หน่วยงานที่มีความเช่ยี วชาญ เฉพาะทางในกฎบัตรของสหประชาชาติ ก่อต้งั ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2491 โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพือ่ ประสานความรว่ มมือ ระหว่างพวกเขาและหนว่ ยงานอนื่ เพื่อสง่ เสริมสขุ อนามยั ของทุกคน WHO องคก์ ารอนามัยโลก เป็นทบวงการชานาญพิเศษของสหประชาชาติ ซึ่งรับผดิ ชอบการ ประสานงานด้านสาธารณสขุ ระหวา่ งประเทศ ก่อตง้ั เม่ือ 7 เมษายน ค.ศ. 1948 มสี านักงานใหญ่ตง้ั อยู่ทก่ี รุงเจนี วา ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์ และมสี านกั งานสว่ นภูมภิ าคตั้งอยอู่ ีกใน 6 เมือง ไดแ้ กบ่ ราซาวีล, วอชิงตัน ด.ี ซี., ไคโร, โคเปนเฮเกน, นวิ เดลี และ มะนลิ า ตราสารจดั ตั้งองค์การอนามยั โลกไดร้ ับการลงนามโดย 61 ประเทศ เมอื่ วันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1946 และได้จัดการประชุมสมชั ชาอนามัยโลกขึ้นสมยั แรก เสรจ็ สน้ิ เมือ่ วนั ท่ี 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1948
5 พันธกิจ หนา้ ท่ขี ององค์การอนามยั โลก มี 4 ข้อ ดงั น้ี 1.อานวยความช่วยเหลือแกป่ ระเทศตา่ งๆ ตามความตอ้ งการเม่ือไดร้ อ้ งขอมา 2.จัดให้บริการดา้ นสุขภาพอนามยั แก่ประเทศตา่ งๆทั่วโลก 3.ส่งเสริมและประสานงานด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระหว่างชาติเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพต่างๆ อนั ไม่อาจดาเนินไปไดโ้ ดยลาพังของแตล่ ะประเทศ 4.ทาหนา้ ทแี่ ก้ปัญหาโรคทีย่ งั ไม่สามารถรักษาได้ เชน่ ซาร์ส ไขห้ วัดนก WHO คอื หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในกฎบัตรของสหประชาชาติ กอ่ ตง้ั ขึ้นในปี พ.ศ. 2491 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อประสานความร่วมมือระหวา่ งพวกเขาและหน่วยงานอ่ืนเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยของ ทกุ คน Rapid Test (ราปิด เทสต์) : ชดุ ตรวจหาภมู คิ ุม้ กัน ด้วยชดุ ทดสอบ ทราบผลไดใ้ น 15 นาที Rapid Test เป็นการเจาะเลือดเพื่อนาไปตรวจหาภมู คิ ุ้มกนั โดยการใชช้ ดุ ทดสอบแบบรวดเร็ว ที่ สามารถทราบผลได้ใน 15 นาที การตรวจวิธีนีจ้ ะทาได้หลงั มีอาการปว่ ย 5-7 วัน หรอื ได้รับเชื้อมาแล้ว 10-14 วัน รา่ งกายจงึ จะสร้างภูมิคุม้ กันข้นึ มาต้านเชือ้ โรค
6 อยา่ งไรก็ตาม การตรวจแบบ Rapid Test ไมค่ วรนามาตรวจเอง เน่ืองจากนา้ ยาเหล่านี้ทาง อย. อนญุ าตใชเ้ ฉพาะสถานพยาบาลเท่าน้นั ไม่อนุญาตจาหน่ายทวั่ ไป และหากนามาตรวจเองก็อาจจะแปลผลและ สรุปผลผิดพลาด ดงั นั้น จึงต้องตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่าน้ัน New normal(นิวนอร์มัล) : ความปกติในรูปแบบใหม่ คาว่า New normal เป็นวลีและเป็นสานวน Oxford dictionary ได้ให้คานิยามหมายถึงสถานการณ์หรือปรากฏการณ์ที่แต่เดิมเป็นส่ิงท่ีไม่ปรกติ ผู้คนไม่ คุ้นเคย ไม่ใช่มาตรฐาน ต่อมามีเหตุหรือเกิดวิกฤติบางอย่าง จึงมีการเปล่ียนแปลงทาให้สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์น้ันกลายเป็นสิ่งที่ปรกติและเป็นมาตรฐานกรรมการราชบัณฑิตได้ให้ความเห็นว่าคา จากัดความ ของคาว่า New normal เป็นพลวัตและคาน้ีมีที่ใช้ในหลายบริบท ไม่ใช่เฉพาะในทางธุรกิจหรือวิถีชีวิตเท่าน้ัน จึงเป็นการยากที่จะหาคากลางๆท่ีจะใช้ได้ในทุกบริบท จึงมีข้อสรุปร่วมกันว่า ควรจะเขียนคาน้ีทับศัพท์ ภาษาอังกฤษว่า \"นิวนอร์มลั \" จะสื่อความหมายได้ดกี วา่ อยา่ งไรก็ตามคณะกรรมการบญั ญตั ศิ ัพท์นเิ ทศศาสตร์ได้บัญญตั ิคานีไ้ ว้แล้วว่า ความปรกตใิ หม่ ฐาน วถิ ชี ีวิตใหม่ คณะกรรมการราชบัณฑิตจงึ มีความเห็นว่าสามารถใชส้ องคานี้ได้ดว้ ย อกี คาหน่งึ คอื New norm คณะกรรมการให้ใช้คาว่า\"บรรทัดฐานใหม่\" สรุป New normal= นวิ นอรม์ ลั , ความปรกตใิ หม,่ ฐานวถิ ีชวี ิตใหม่ New norm. =. บรรทัดฐานใหม่ ความปกติรูปแบบใหม่ ที่เปลยี่ นแปลงไปจนกลายเปน็ เรือ่ งปกติ เช่น สถานการณ์โควิด-19 ที่ทกุ คน ต้องพยายามลดการพบปะผคู้ น และไม่สามารถไปรับประทานอาอาหารในร้าน หรือห้างสรรพสินคา้ ไดต้ ามปกติ ทาให้หันมาส่ังอาหารเดลิเวอร่ีมากข้ึน จากเดิม บริการเหล่าน้ีเคยเป็นเพียงทางเลือก แต่ในอนาคตมันอาจจะ กลายเปน็ เรอ่ื งปกตธิ รรมดาของคนทว่ั ไป ซึง่ อาจกล่าวไดว้ ่าเปน็ New normal หลงั ยุคโควิด-19
7 Work Form Home ( เวิค ฟรอม โฮม WFH) : คือการท่ีเราสามารถทางานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องมา เข้าออฟฟิศ และในบางครั้งก็ไม่ได้เจาะจงเฉพาะบ้านเท่านั้น อาจจะหมายถึงการทางานนอกสถานท่ีท่ีไม่ได้ เก่ียวข้องกับกับการทางาน เพราะมีเหตุจาเป็นต้องไป แต่ก็สามารถน่ังทางานได้อยู่การทางานจากที่บ้าน การ ทางานเป็นองค์กร เป็นกลุม่ โดยทาออนไลน์ น่งั ทางานจากท่บี ้าน อย่างน้ีจะเรยี กว่า work from home แต่ถ้า ทางานสว่ นตัว เปน็ งานของตัวเอง กจ็ ะใช้ว่า work at home การทางานจากทบี่ า้ น คอื การทางานรูปแบบใหม่ ท่ีเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมท้ังในและต่างประเทศในช่วงหลายปีทีผ่ ่านมา การทางานจากที่บ้านจะต้องอาศัย เทคโนโลยี และระบบการสื่อสารทีท่ ันสมัยเป็นตัวเชื่อมโยงให้สามารถพูดคุย ส่งขอ้ มูลต่างๆ ให้ไดป้ ระสิทธภิ าพ คล้ายกับการทางานในสถานท่ีทางานหรือออฟฟิศ โดย WFH เป็นนโยบายท่ีหลายองค์กรประกาศใช้ เน่ืองจาก เป็นอกี หนึ่งในตัวช่วยลดการพบปะระหว่างกัน ชว่ ยใหบ้ ุคคลสามารถระยะห่างทางสังคม และเว้นระยะห่างทาง กายภาพ ทาใหช้ ่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้ Challenge (แชลเล็นจ) : กิจกรรมสง่ ตอ่ คาทา้ ให้ทาส่งิ ต่างๆ ในโซเชียลมเี ดีย Challenge คอื กิจกรรมในโลกโซเชียลมีเดีย ท่ีมีการท้าทายให้คนอื่นๆ ทาบางส่ิงบางอย่าง แล้วส่ง ต่อไปยังอีกคน หรืออีกหลายๆ คน ให้ทาในลักษณะเดียวกันต่อ Challenge กาลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสถานการณ์ Covid-19 สาเหตุหนึ่งคือคนอยู่บ้านมากขึ้น มีเวลาว่างมากข้ึน และเป็นการแสดงออก อย่างหน่ึงของการเชื่อมโยงกันของมนุษย์ ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของสัตว์สังคม ซึ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมยาม ว่าง การท้าทายต่อๆ กนั ช่วยเยียวยาสภาพจิตใจในระหวา่ งที่ยงั ไม่สามารถพบปะพูดคยุ กันไดด้ ้วย
8 Fake news (เฟค นิวส์): คือ ข่าวปลอม/ข่าวลวง ท่ีแชร์ผ่าน Social Network หรือ Social Media อย่าง Facebook, Twitter และ LINE เป็นต้น ซ่ึงข้อความหรือข่าวเหล่านี้สามารถสร้างความเข้าใจผิดและ ความเสียหายแก่สงั คมได้ และการกระจายข่าวปลอมมักเกิดข้ึนอย่างรวดเร็วและสามารถกระจายไปยังกลุ่มคน จานวนมาก โดยงานวิจยั พบวา่ ข่าวปลอมหรือ Fake News เข้าถึงผู้ท่ีอ่านได้มากกว่าขา่ วจริงถึง 6 เท่า และข่าว เหล่านัน้ มักเกดิ จากคนจริงๆ มากกว่า Bot (โปรแกรมหรือหุน่ ยนต์ที่ถูกสรา้ งข้นึ ) และปจั จุบนั มีผูใ้ ชง้ านสอ่ื สงั คม ออนไลน์เปน็ จานวนมากจึงเกิดการแพรข่ ่าวปลอมโดยผู้ส่งสาร/ผูอ้ า่ นไม่ได้ตรวจสอบ แลว้ ทาการสง่ ตอ่ ไปเร่อื ยๆ ท่ีกระจายสู่ผู้อ่ืนอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าการเกิดข้ึนของข่าวปลอม นามาซ่ึงการตรวจสอบข้อมูลมากเพิ่มข้ึน โดยส่วนใหญ่ต้นเหตุการณ์เกิดขึ้นของข่าวปลอมคือการทาให้ผู้รับสารเข้าใจแบบน้ัน ซึ่งเป็นส่ิงท่ีผิด เพราะสิ่งที่ ตามมาคือคนไม่สามารถแยกแยะข้อมูลข่าวสารได้ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม เพราะข่าวปลอมบางข้อความ อ้างอิงไปถึงบุคคลหรือแหล่งอ้างอิงว่ามาจากงานวิจัย บางคร้ังอาจเกิดข้ึนเพียงเพ่ือใส่ร้ายหรือเพียงบิดเบือน ข้อมลู บางอย่าง และหลายคนท่ีหลงเช่ือข่าวปลอมเหล่าน้นั กส็ ง่ ต่อสู่บคุ คลอื่นๆได้ สง่ ผลตอ่ การเขา้ ใจผดิ เปน็ ต้น ซ่ึงหลายข่าวปลอมมกั เป็นประเดน็ ท่ีกาลงั ถกเถียงกันในสังคมออนไลน์หรือข่าวลา่ สุดทีก่ าลังเป็นกระแส โดยข่าว ปลอมมักจะเกิดจากคนท่ีไม่ได้เป็นทร่ี ู้จกั เป็น user ที่สร้างขึ้นมาใหม่เพ่ือเผยแพร่ขา่ วปลอมและไมไ่ ด้เปน็ คนที่มี อิทธิพลทางออนไลน์ แต่ปัจจุบันหลายคนท่ีมีอิทธิพลในโลกออนไลน์ก็อาจมีการหลงเชื่อข่าวปลอม จึงควร ตรวจสอบให้ดีเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามการเกิดข้ึนของทุกข้อมูลหรือข่าวในสังคมออนไลน์น้ัน มีผลกระทบต่อ สังคมของคนจริงๆอย่างมาก จึงจาเป็นต้องใช้วิจารณญาณในการเสพส่ือและวิเคราะห์ให้ดีก่อนแชร์หรือส่งต่อ เพราะข้อมูลท่ีเกิดขึ้นท้ังในรูปแบบข้อความ ภาพ เสียงหรือวิดีโอก็สามารถเป็นข้อมูลท่ีถูกปลอม ตัดต่อ หรือ สร้างขึ้นมาได้ Fake news คือ ข่าวปลอม หรือข่าวลวง ท่ีถูกพิสูจน์ได้ว่าไม่จริง และมีผลกระทบในระดับ ความเชือ่ Video conference (วีดีโอ คอน-เฟอะเร็นซ : การประชุมทางไกล ระบบการประชุมทางไกล ผ่านจอภาพ (Video Conference System) เป็นระบบการตดิ ตอ่ สอื่ สารระหว่างบุคคลหรอื กลุ่มบุคคลทอี่ ยตู่ า่ ง สถานที่กันได้ทั้งภาพ เสียง และข้อมูลในเวลาเดียวกัน เป็นตัวช่วยสาหรับการทางานจากที่บ้าน (WFH) ให้คน ในองค์กรสามารถพูดคุย ประชมุ สงั่ งาน ฯลฯ ระหว่างกนั ไดเ้ สมือนการทางานในสถานการณ์ปกติ โดยไมจ่ าเป็น เดินทางมาประชุมกนั ตัวต่อตวั Drive Thru (ไดร์ฟ-ทรู) : ก็คือร้านอาหารที่เพียงแค่คุณขับรถเข้าไปก็เตรียมพร้อมรับของอร่อยได้ ทันที แต่ก่อนทจี่ ะเขา้ สูย่ คุ ของไดร์ฟ-ทรู เขากม็ วี ฒั นธรรมไดร์ฟ-อิน (Drive-In) กนั มาก่อน กฎกติกาของร้านอาหารไดร์ฟ-อินนั้นก็คงให้อารมณ์ไม่ต่างอะไรกับการดูหนังแบบไดร์ฟ-อิน (หนัง กลางแปลงท่ีเปลี่ยนจากการน่ังพ้ืนไปนั่งในรถยนต์ส่วนตัว) คือต้องขับรถเข้าไปเท่านั้น ซ่ึงแนวคิดของ ร้านอาหารนี้เกิดข้ึนพร้อมๆ กับการเฉลิมฉลองการเปิดทางหลวงเช่ือมต่อระหว่างเมืองเมืองดัลลาส (Dallas) และฟอร์ตเวริ ์ธ (Fort Worth) ในรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา โดยในปี ค.ศ. 1921 มีรา้ นไดร์ฟ-อินเกิดขึ้นครัง้ แรก ในชื่อ พิกสแตนด์ (Pig Stand) หรือร้านหมูยืนนั่นแหละ ซ่ึงร้านน้ีจะเป็นลานกว้างให้เข้ามาจอดรถ ก่อนเร่ิมส่ัง เมนูท่อี ยากกินกับพนักงาน จากนัน้ เดก็ เสิร์ฟก็จะมาพร้อมกับอาหารและถาดใบใหญ่ทีใ่ ชแ้ ขวนติดกับกระจกข้าง รถเพ่ือวางอาหาร กอ่ นที่รา้ นหมยู นื จะสร้างแฟรนไชส์ขยายสาขามายังลอสแอนเจลิสได้เป็นผลสาเร็จในปี 1931 เช่นเดียวกับจานชามช้อนส้อมก็เริ่มแปรรูปกลายเป็นถุงกระดาษและกล่องบรรจุหีบห่อแข็งแร งยิ่งขึ้นบริการ
9 สินค้าต่างๆ แบบไม่ต้องลงจากรถ บ้านเราก็เร่ิมมีไดร์ฟ-ทรูขยับขยายเปิดตัวกันอย่างคึกคัก ท้ังที่ความจริงแล้ว ร้านแบบนี้มีอายุเกือบ 100 ปเี ลยทีเดียว คาว่า \"ไดรฟ์ทรู\" มาจากคาว่า \"Drive-Through\" หรือ \"Drive-Thru\" ซึ่งหมายถึงการขบั รถผ่าน สื่อ ถึงลักษณะบริการให้สินค้าซื้อกลับบ้านโดยไม่ต้องออกจากรถ ปัจจุบันไดรฟ์ทรูกลายเป็นบริการท่ีช่วยอานวย ความสะดวกด้านสินค้าและบริการ โดยช่วยรักษาระยะห่างทางสังคม เพ่ือลดโอกาสแพร่เช้ือโควิด-19 การได รฟ์ทรู จึงไม่ใช่แค่ \"ทางเลือก\" ของคนที่เร่งรีบอีกต่อไป แต่กลายเป็น \"ทางรอด\" ของทุกคนนับตั้งแต่วันที่ \"โค วดิ -19\" ระบาดไปท่วั โลก
10 บรรณำนกุ รม เขำ้ ถงึ ข้อมลู ไดท้ ่ี https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/876961 http://gg.gg/j3wcb http://gg.gg/j3wcy https://www.youtube.com/watch?v=Vf8XuyT8ORo https://dictionary.sanook.com/search/dict-en-th-sedthabut/challenge https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/316 http://gg.gg/j3wd8
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: