นาฬกิ าชวี ติ (1น.) วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย
นาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย นาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย เป็ นนาฬกิ าชวี ติ ทพ่ี ฒั นามาจากนาฬกิ าชวี ติ แบบดงั้ เดมิ โดยมกี ารบรู ณาการ หลักการแพทยแ์ ผนปัจจุบัน การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก เศรษฐกิจพอเพียง และศา ส นธรรม ในการปฏิบัติกิจวัตรประจาวัน ดว้ ยเครอ่ื งมอื 3ส.3อ. และภาระงานตามหนา้ ที่ ความรับผดิ ชอบของแต่ละ คน ในช่วงเวลา 24 ช่ัวโมงของนาฬกิ า สอดคลอ้ งกบั การทางานของ อวยั วะสาคญั ของร่างกายแต่ละขณะ ที่มีประสทิ ธภิ าพสูงอย่าง ตอ่ เนอ่ื งจนเกดิ เป็ นสขุ นสิ ยั และวนิ ยั ของการดาเนนิ ชวี ติ
นาฬิกาชีวติ วถิ พี ทุ ธ ( ต ัว อ ย่ า ง นาฬิกาชีวติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย)
กจิ วตั รประจาวนั ของนาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย ช่วงเวลา กจิ วตั รประจาวนั สัมพนั ธ์กบั การทางานของอวยั วะ 05.00 น. ตื่นนอน ลา้ งหนา้ แปรงฟัน ด่ืมน้า 2 – 3 แกว้ ลาไสใ้ หญ่ , ปอด 05.00 – 07.00 น. สวดมนต์ ปฏิบตั ิสมาธิ แผเ่ มตตา ออกกาลงั กา ลาไสใ้ หญ่ , ปอด 07.00 – 08.00 น. กระเพาะอาหาร 08.00 – 12.00 น. อาบน้า กินขา้ ว (ม้ือหนกั ) มา้ ม 12.00 – 13.00 น. ปฏิบตั ิภารกิจชีวติ ประจาวนั หวั ใจ 13.00 – 16.00 น. กินขา้ วกลางวนั (ม้ือหนกั ) ลาไสเ้ ลก็ 16.00 – 17.00 น. ปฏิบตั ิภารกิจชีวติ ประจาวนั กระเพาะปัสสาวะ 17.00 – 18.00 น. ไต ออกกาลงั กา พกั ผอ่ น อาบน้า สงั สรรคใ์ นครอบครัว
กจิ วัตรประจาวันของนาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย(ตอ่ ) ช่วงเวลา กจิ วตั รประจาวนั สัมพนั ธ์กบั การทางานของ อวยั วะ 18.00 – 19.00 น. กินอาหารเ น็ เบาๆ หรืออาหารวา่ ง 19.00 – 22.00 น. พกั ผอ่ น ผอ่ นคลา สบา อารมณ์ สวดมนต์ เ ้อื หุม้ หวั ใจ 22.00 น. แปรงสีฟัน ดื่มน้า 1 แกว้ ปัสสาวะ เขา้ ถุงน้าดี นอน (01.00 – 03.00 น.) ตบั (03.00 – 05.00 น.) นอนหลบั สบา ปอด นอนหลบั สบา
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ องคป์ ระกอบของนาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย สวดมนต์ ภาระงานตาม นาฬกิ าชวี ติ สมาธิ หนา้ ทรี่ ับผดิ ชอบ วถิ ธี รรม สนทนาธรรม วถิ ไี ทย อารมณ์ ออกกาลงั กาย อาหาร
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ สวดมนต ์ มนต์ หมายถงึ คาพูดท่ีศักดสิ์ ทิ ธทิ์ ่ีตอ้ งอาศัยการสวดหรือ บรกิ รรมพร่าบน่ จงึ จะทาใหเ้ กดิ อานุภาพในการป้องกนั เหตตุ ่าง ๆ สวด มนตเ์ ป็ นการเรยี นรูพ้ ุทธธรรม หลังจากสวดมนตไ์ ปไดร้ ะยะเวลาหน่ึง จติ ใจจะเงียบสงบลง ซงึ่ เป็ นจุดประสงคข์ องการเจรญิ สมาธนิ ั่นเอง ชว่ ยปลดปล่อยความเครียดและชว่ ยพัฒนาการใชช้ วี ติ ใหเ้ ป็ นปกติ สง่ ผลใหส้ ขุ ภาพดขี นึ้ ดว้ ย
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ สมาธิ ไดแ้ ก่ การกระทาใหเ้ กดิ ภาวะทจ่ี ติ แน่วแน่ตอ่ สง่ิ ทก่ี าหนด คอื การทจี่ ติ กาหนดแน่วแน่อยกู่ บั สง่ิ ใดสง่ิ หนงึ่ ไมฟ่ ้งุ ซา่ น โดยพจิ ารณา สง่ิ นัน้ อยา่ งเครง่ ครัด เพอื่ ใหเ้ กดิ ปัญญารแู ้ จง้ ในสง่ิ นัน้ และการปฏบิ ตั ิ สมาธจิ ะตอ้ งมสี ตสิ มั ปชญั ญะกากบั ดว้ ยเสมอ
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ การสนทนาธรรม เป็ นวิธีการถ่ายทอดความรูแ้ ละประสบการณ์ การปฏิบัติ เกยี่ วกับพุทธธรรม ทเี่ ป็ นสอื่ สารสองทางระหว่างผูส้ นทนาซง่ึ อาจมี จานวนตงั้ แต่ 2 คนขนึ้ ไป เชน่ ระหวา่ งผรู ้ หู ้ รอื ผทู ้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นพทุ ธ ศาสนาดว้ ยกนั อาจเป็ นบรรพชติ ดว้ ยกนั หรอื บรรพชติ กบั ฆราวาส หรอื ฆราวาสกบั ฆราวาสดว้ ยกนั กไ็ ด ้ ทาใหเ้ กดิ การพัฒนาองค์ ความรแู ้ ละปัญญารเู ้ ทา่ ทนั ตามสภาพความจรงิ
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ อาหาร-วถิ พี ทุ ธ หมายถึง การรับประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ ตามหลัก โภชนาการในปริมาณพอประมาณ กล่าวคือรูจ้ ักประมาณในการ บริโภค ตาม ห ลักโภ ช เนมัตตัญญุต าและ มัชฌิม าปฏิป ทาและ รับประทานอาหารทม่ี สี ารอาหารครบถว้ น โดยพจิ ารณาอาหารกอ่ น รับประทานตามหลักปั จจยสันนิสิตศีล คือ การบริโภคปั จจัย 4 ใหเ้ ป็ นไปเพอ่ื ประโยชน์ทแ่ี ทจ้ รงิ เพอื่ หลอ่ เลย้ี ง ซอ่ มแซมสว่ นทส่ี กึ หรอใหร้ ่างกายเป็ นปกตสิ ขุ พอเพยี ง มใิ ชร่ ับประทานตามความอยาก หรอื ความอรอ่ ยเทา่ นัน้
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ ออกกาลงั กาย วถิ พี ทุ ธ ห ม า ย ถึ ง ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ า ง ก า ย ที่ ค ว บ คุ ม ด ้ว ย สตสิ ัมปชญั ญะ กาหนดจติ ใหแ้ น่วแน่อยกู่ ับอวัยวะทเ่ี คลอ่ื นไหว โดย พจิ ารณาสงิ่ นัน้ อย่างเคร่งครัดเพอื่ ใหเ้ กดิ มสี มาธแิ ละปัญญารูแ้ จง้ ใน การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ อารมณ์ วถิ พี ทุ ธ หมายถงึ การควบคุมและปลอ่ ยวางจติ ใจ ไม่ยดื มั่นโดยไม่มี เหตผุ ล การยดึ หลักทางสายกลางตามหลักพุทธธรรม การรจู ้ ักคลาย เครียด เมื่อมีสง่ิ กระทบใหเ้ กดิ อารมณ์โดยใชส้ ตสิ ัมปชัญญะ และ เจรญิ สมาธสิ มา่ เสมอ
รายละเอยี ดของกจิ วตั รประจาวนั ฯ(ตอ่ ) รายละเอยี ดขององคป์ ระกอบนาฬกิ าชวี ติ ฯ ภาระงานตามหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบ หมายถงึ การปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจาวันของแตล่ ะบุคคล แต่ละ อาชพี เชน่ การเรยี นหนังสอื การสอนหนังสอื การทางานตา่ งๆ โดย ใชห้ ลักพุทธธ รรม กากับตลอดเวลา เช่น สติ ความระลึกได ้ สมั ปชญั ญะ ความรตู ้ วั สมาธิ ความตงั้ มั่นแหง่ จติ เป็ นตน้
การนานาฬกิ าชวี ติ ไปปฏบิ ตั ิ ในโครงการสุขภาพดี วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย ไดน้ านาฬกิ าชวี ติ ไปปฏบิ ัติ ควบคู่กับ 3ส.3อ. ตัง้ แต่ปี 2558 เป็ นตน้ มา ในพื้นท่ีชุมชนและ โรงพยาบาลประเภทตา่ งๆ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในเขตสขุ ภาพท่ี 9 / 4 จังหวดั ไดแ้ ก่ นครราชสมี า ชยั ภมู ิ บรุ รี ัมย์ สรุ นิ ทร์ สรปุ ผลดงั น้ี
การนานาฬกิ าชวี ติ ไปปฏบิ ตั ิ - รูปแบบสุขภาพดี วิถีธรรม วิถีไทย ในการสรา้ งเสริมสุขภาพ ป้ องกันและควบคุมโรคเร้ือรัง สามารถบูรณาการกับ โครงการ ตาบลจัดการสขุ ภาพตนเองแบบบรู ณาการฯ ระบบบรกิ ารสขุ ภาพ รพ.สต. หน่วยบรกิ ารปฐมภุมิ เวชศาสตรค์ รอบครัว รวมทัง้ ระบบ สขุ ภาพระดบั อาเภอได ้ - ค ว ร น า รู ป แ บ บ นี้ ไ ป ข ย า ย ผ ล สู่พื้น ที่อื่น ๆ เ ช่น ใ น ปี 2 5 6 1 คณ ะ กร ร ม การ ส นั บ ส นุ นการ ดาเนินง านโคร ง การ บูร ณ า การ งา น ประชารัฐเพ่ือสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบ ให ้ ขยายพนื้ ทจ่ี งั หวดั ละ 2 อาเภอๆ ละ 2 ตาบล เป็ นตน้
ตวั อยา่ งนาฬกิ าชวี ติ วถิ ธี รรม วถิ ไี ทย กรณีศาสนา - อสิ ลาม - ครสิ ต์ - พราหมณ-์ ฮนิ ดู - ซกิ ข์
กรณีศาสนาอสิ ลาม เวลา กจิ วตั รประจาวนั 03.00 - 05.00 น. ตนื่ นอน/คาวงิ วอนหลงั ตน่ื นอน/ละหมาดยามคา่ คนื 05.00 น. 1. ละหมาดซบุ ฮี (ละหมาดกอ่ นรงุ่ อรณุ ) 06.00 - 12.00 น. บทวงิ วอนยามเชา้ /ละหมาดหลงั พระอาทติ ยข์ น้ึ 12.00 - 16.00 น. 2. ละหมาดซฮุ รี (ละหมาดชว่ งเทย่ี งวนั ) 16.00 - 18.00 น. 3. ละหมาดอสั รี (ละหมาดชว่ งบา่ ย/บทวงิ วอนยามเย็น) 18.00 - 19.00 น. 4. ละหมาดมฆั รบิ (ละหมาดยามคา่ ) 19.00 - 22.00 น. 5. ละหมาดอซี า (ละหมาดยามดกึ ) 22.00 น. คาวงิ วอนกอ่ นนอน/นอนพักผอ่ น 24 ชม./วนั เจรญิ รอยตามแบบทา่ นศาสดา - ดา้ นการใชช้ วี ติ พฤตกิ รรม กรยิ ามารยาท - ดา้ นการประกอบศาสนกจิ - ดา้ นการแสวงหาปัจจัยยงั ชพี ทางาน การคบคา้ สมาคม
กรณีศาสนาครสิ ต์ เวลา กจิ วตั รประจาวัน 05.00 น. ตน่ื นอน 05.00 – 07.00 น. อธษิ ฐาน ดมื่ น้า 2 แกว้ ขบั ถา่ ย ยดื เสน้ ยดื สาย ออกกาลงั กาย 07.00 – 08.00 น. อาบน้า กนิ ขา้ ว นมสั การ 08.00 – 12.00 น. ทางาน ดมื่ น้า 2 แกว้ 12.00 – 13.00 น. กนิ ขา้ วเทยี่ ง งบี หลบั 15 นาที 13.00 – 16.00 น. ทางาน ดม่ื น้า 2 แกว้ 16.00 – 17.00 น. ทางาน ดมื่ น้า 1 แกว้ 17.00 – 18.00 น. กนิ อาหารเย็น ดสู ารคดี อยกู่ บั ครอบครัว ออกกาลงั กาย 18.00 – 19.00 น. ออกกาลงั กาย กนิ อาหารเย็น 19.00 – 22.00 น. พกั ผอ่ นกบั ครอบครวั อาบน้า อธษิ ฐาน อา่ นพระคมั ภรี ์ บทเรยี นสะปาโต 22.00 น. นอน 01.00 – 03.00 น. นอน 03.00 – 05.00 น. นอน ตน่ื ตี 4
กรณีศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู เวลา กจิ วตั รประจาวนั 05.00 น. ตน่ื นอน ชาระรา่ งกาย อาบน้า ฝึกโยคะ 05.00 - 07.00 น. สวดมนต์ และทาโยคะ (7 ทา่ ) 07.00 - 08.00 น. รับประทานอาหารเชา้ (ขนมปัง+นมสด+ไขด่ าว/ไขต่ ม้ 1 ฟอง) 08.00 - 12.00 น. ทางาน 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวนั 13.00 - 16.00 น. ทางาน 16.00 - 17.00 น. ทางาน 17.00 - 18.00 น. เดนิ ทางกลบั 18.00 - 19.00 น. รับประทานอาหารเย็น/เดนิ 30 นาที – 1 ชว่ั โมง 19.00-22.00 น. ดทู วี ี 22.00 น. นอน 01.00-03.00 น. นอนหลับ 03.00-05.00 น. นอนหลับ/ปัสสาวะ
เวลา กรณีศาสนาซกิ ข์ 04.30 - 05.30 น. 05. 30 - 06.00 น. กจิ วตั รประจาวนั 06.00 - 08.00 น. ตนื่ นอน ชาระรา่ งกาย สวดภาวนา ตงั้ สมาธิ 08.00 - 12.00 น สวดมนตต์ ามคมั ภรี ์ 4 บท 12.00 - 13.00 น. รบั ประทานอาหารเชา้ พักผอ่ น 13.00 - 17.00 น. แตง่ ตวั เตรยี มและทางานตามภารกจิ 17.00 - 18.00 น. รบั ประทานอาหารเทย่ี ง 18.00 - 19.00 น. ทางานตามภารกจิ ตอ่ 19.00 - 20.30 น. ออกกาลงั กาย ยดื เสน้ โยคะ 20.30 - 22.00 น. อาบน้า รบั ประทานอาหารเย็น 22.00 - 04.30 น. สวดภาวนา สวดมนต์ พักผอ่ น สงั สรรค์ นอนหลบั
ขอบคณุ ครับ
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: