Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore emegency-23-11

emegency-23-11

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-22 10:33:39

Description: emegency-23-11

Search

Read the Text Version

บทท่ี 6 การสอ่ื สารความเสย่ี ง กรณโี รคติดเชือ้ ไวรัสซกิ า 2. บุคลากรดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุ 2.1 บุคลากรดา้ นสาธารณสุขในพน้ื ท่ี (ปอ้ งกัน ควบคุม สอบสวนโรค และอื่นๆ) ประเด็นสื่อสารความเสยี่ ง 1) ความรูเ้ รื่องโรค และมาตรการการปอ้ งกันควบคมุ โรค 2) การดแู ลสขุ ภาพมารดา-ทารก การฝากครรภ์ การใหน้ มบุตรหลงั คลอด 3) การให้คำ�แนะนำ�ด้านการป้องกันควบคุมโรค เช่น ทายากันยุง การสวมถุงยางอนามัย การสรา้ งความตระหนกั ในการป้องกันควบคุมโรค เป็นต้น 4) การทำ�ลายแหลง่ เพาะพันธย์ุ ุงในบา้ น รอบบ้าน และในชุมชน 5) การให้คำ�ปรึกษาด้านดูแลจิตใจ และข้อมูลข่าวสารอื่นๆ เช่น วัคซีน ชนิดยาทากันยุง ทใี่ ช้ได้ หรอื ทางเลอื กอ่นื ๆ ในการป้องกนั ยุง 6) ไม่เปิดเผยขอ้ มลู สว่ นตวั ผู้ป่วย การแถลงข่าวรายวนั การให้ข่าวผู้ปว่ ยรายบุคคล ชอ่ งทางสือ่ สาร 1) หนังสอื สั่งการ 2) ประชมุ อบรม สัมมนา 3) ส่อื สง่ิ พิมพ์ ค่มู อื แนวทาง 4) สือ่ บุคคล เชน่ ทปี่ รกึ ษา ผเู้ ชย่ี วชาญ 5) สื่อโซเซียล เชน่ เว็บไซต์ เฟสบู๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทูป เป็นตน้ 6) แหลง่ อ้างองิ สถานศึกษา 2.2 บุคลากรทางด้านการแพทย์ที่ให้บริการในสถานพยาบาล เช่น แพทย์ พยาบาล เจา้ หน้าทีอ่ ืน่ ๆ ประเด็นสอื่ สารความเส่ียง 1) ความรู้เรือ่ งโรค และมาตรการการปอ้ งกันควบคมุ โรค 2) การดูแลสขุ ภาพมารดา-ทารก เชน่ การฝากครรภ์ การวางแผนการมีบุตร การสวมถงุ ยาง อนามยั การทายากนั ยงุ เปน็ ตน้ 3) การดูแลหญิงต้ังครรภ์ ขณะรอคลอด ระหว่างคลอด และหลงั คลอด 4) การท�ำ ลายแหลง่ เพาะพนั ธย์ุ งุ ในสถานพยาบาล 5) การป้องกนั การติดเชอ้ื ในโรงพยาบาล 6) การใหค้ ำ�ปรึกษาดา้ นดแู ลจิตใจของบุคลากร ช่องทางส่ือสาร 1) หนงั สือสั่งการ 2) ประชมุ อบรม สมั มนา 3) สอ่ื สง่ิ พิมพ์ คมู่ ือ แนวทาง 4) ส่ือบคุ คล เชน่ ทป่ี รกึ ษา ผเู้ ช่ียวชาญ 5) สอ่ื โซเซียล เช่น เว็บไซต์ เฟสบู๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทูป เป็นต้น 6) แหลง่ อา้ งองิ สถานศึกษา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 47

บทท่ี 6 การสือ่ สารความเส่ียง กรณีโรคติดเชือ้ ไวรัสซิกา 3. เครอื ขา่ ย ส่ือมวลชน และนานาชาติ 3.1 ชมุ ชน เชน่ ผูน้ ำ�ชมุ ชน ภาคเอกชน ธุรกิจ สถาบันสถานศึกษา/ครู ศาสนสถาน โรงงาน โรงแรม ประเด็นสื่อสารความเสีย่ ง 1) การท�ำ ลายแหลง่ เพาะพนั ธย์ุ งุ 2) การใหก้ ารสนบั สนนุ ในการดแู ลมารดา-ทารกทต่ี ดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า 3) การปอ้ งกนั ควบคมุ โรค 6 ร. ไดแ้ ก่ โรงเรอื น โรงเรยี น โรงงาน โรงแรม โรงธรรม และโรงพยาบาล ชอ่ งทางส่ือสาร 1) สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ คมู่ อื แผน่ พบั 2) สอ่ื หลกั เชน่ ทวี ี นสพ. 3) สอ่ื โซเซยี ล เชน่ เวบ็ ไซต์ เฟสบคู๊ ไลน์ ทวติ เตอร์ ยทู ปู เปน็ ตน้ 4) เสยี งตามสาย หอกระจายขา่ ว รถประชาสมั พนั ธ์ 5) สอ่ื บคุ คล เชน่ เจา้ หนา้ ทท่ี างดา้ นการแพทยแื ละสาธารณสขุ อสม. 6) การเรยี นการสอน 3.2 สอ่ื มวลชน ทง้ั ในและตา่ งประเทศ ประเด็นสื่อสารความเสี่ยง 1) ความรู้ หรอื ขอ้ มลู ขา่ วสารโรคทถ่ี กู ตอ้ ง 2) สถานการณโ์ รคทถ่ี กู ตอ้ ง และเหมาะสม 3) มาตรการการปอ้ งกนั ควบคมุ โรคของประเทศ 4) การไมเ่ ผยแพรข่ อ้ มลู สว่ นตวั ผปู้ ว่ ย หรอื ตดิ ตามจนผปู้ ว่ ย/ครอบครวั รสู้ กึ ถกู คกุ คาม ช่องทางส่อื สาร 1) การเขยี นขา่ วแจก (2 ภาษา เชน่ ไทย-องั กฤษ) 2) การใหส้ มั ภาษณ์ การแถลงขา่ ว 3) สอ่ื โซเซยี ล เชน่ เวบ็ ไซต์ เฟสบู๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทปู เป็นต้น 4) การรณรงค์ ภาพกจิ กรรม การด�ำ เนนิ งานในพน้ื ท่ี 3.3 นานาชาติ และเครอื ขา่ ยตา่ งประเทศ ประเดน็ ส่อื สารความเส่ียง 1) ความรู้ หรอื ขอ้ มูลข่าวสารโรคที่ถูกต้อง 2) สถานการณโ์ รคทถ่ี กู ต้อง และทันสถานการณ์ 3) การสร้างความเชื่อมนั่ มาตรการการป้องกันควบคุมโรคของประเทศ 4) ความร่วมมือกับเครือข่ายในและตา่ งประเทศ 48 แนวทางการสอ่ื สารความเส่ยี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทท่ี 6 การส่ือสารความเสย่ี ง กรณโี รคติดเช้ือไวรัสซกิ า ช่องทางสื่อสาร 1) หนงั สอื ราชการ (2 ภาษา เชน่ ไทย-องั กฤษ) 2) การประชมุ ประชมุ วชิ าการ สมั มนา 3) สอ่ื โซเซยี ล เวบ็ ไซตห์ นว่ ยงาน 4) อเี มล/การประสานกบั ผผู้ ดิ ชอบ การสอ่ื สารความเสย่ี งโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าในแตล่ ะระดบั 1. ระดบั กระทรวงสาธารณสขุ 1.1 ผทู้ ม่ี หี นา้ ทใ่ี นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ ปลดั กระทรวง สาธารณสขุ รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย โฆษกกระทรวงสาธารณสขุ ทไ่ี ด้ รบั มอบหมาย 1.2 บทบาทหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และการสง่ั การทกุ หนว่ ยงานภายใตก้ ระทรวงสาธารณสขุ 2) การควบคมุ ก�ำ กบั การด�ำ เนนิ งานตามมาตรการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค 3) การประสานกบั หนว่ ยงานระดบั กระทรวง ประเทศ และนานาชาติ 4) แสวงหาค�ำ แนะน�ำ จากผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ผเู้ ชย่ี วชาญ และคณะกรรมการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 5) รปู แบบการสอ่ื สารความเสย่ี ง เชน่ การใหข้ า่ ว การใหส้ มั ภาษณ์ และการแถลงขา่ ว 1.3 ประเดน็ สอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และประเดน็ ส่งั การพน้ื ที่ทกุ หนว่ ยงานภายใตก้ ระทรวงสาธารณสขุ 2) การประกาศเขตปอ้ งกนั ควบคมุ โรค ความเชอ่ื มโยงโรคตดิ เชอื้ ไวรสั ซกิ ากบั เดก็ ศรี ษะเลก็ กลมุ่ อาการเสน้ ประสาทอักเสบ เปน็ ตน้ 3) การใหข้ า่ วทม่ี คี วามสมุ่ เสย่ี งตอ่ ความมนั่ คงของประเทศ เศรษฐกจิ ทอ่ งเทย่ี วและอาจเกดิ ความตนื่ ตระหนกของประชาชน 4) สถานการณโ์ รคในภาพรวมของประเทศ จ�ำ นวนผปู้ ว่ ยรายใหมต่ อ่ สปั ดาห์ จงั หวดั ทตี่ อ้ ง เฝ้าระวงั เป็นต้น 5) ไมร่ ะบขุ อ้ มูลสว่ นตัวผู้ป่วยหรือผูต้ ดิ เชอื้ รายบคุ คล รวมท้ังขอ้ มลู ครอบครวั 2. ระดบั กรม ส�ำ นกั และสถาบนั สว่ นกลาง 2.1 ผทู้ ม่ี หี นา้ ทใ่ี นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ อธบิ ดี รองอธบิ ดที ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย โฆษกกรม ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั และสถาบนั ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2.2 บทบาทหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และการสง่ั การหนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ 2) การควบคมุ กำ�กับการด�ำ เนนิ งานตามมาตรการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค 3) การประสานกับหน่วยงานระดับกรม กระทรวง ประเทศ และนานาชาติ 4) แสวงหาค�ำ แนะน�ำ จากผทู้ รงคุณวุฒิ ผูเ้ ชี่ยวชาญ และคณะกรรมการที่เกีย่ วขอ้ ง 5) รูปแบบการสอื่ สารความเส่ยี ง เชน่ การให้ข่าว การให้สมั ภาษณ์ และการแถลงขา่ ว กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 49

บทที่ 6 การสอ่ื สารความเส่ยี ง กรณโี รคติดเชื้อไวรสั ซิกา 2.3 ประเดน็ สอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และประเดน็ ส่งั การหนว่ ยงานในพนื้ ทท่ี รี่ บั ผดิ ชอบ 2) ความรู้ หรือข้อมูลข่าวสารโรค และสถานการณ์โรค สอดคล้องกับการให้ข่าวของ กระทรวง และ คกก. โรคติดตอ่ 2558 3) การทำ�ลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการป้องกันควบคุมโรคใน 6 ร. ได้แก่ โรงเรือน โรงเรยี น โรงธรรม โรงงาน โรงแรม และโรงพยาบาล 4) มาตรการการป้องกัน ควบคุมโรค และการดแู ลการรักษาพยาบาล 5) สถานการณโ์ รคในภาพรวมของประเทศ จ�ำ นวนผปู้ ว่ ยรายใหมต่ อ่ สปั ดาห์ จงั หวดั ทตี่ อ้ ง เฝา้ ระวัง เปน็ ตน้ 6) การสร้างความเช่ือมั่นมาตรการป้องกนั ควบคุมโรคของประเทศ 7) ไม่ระบุขอ้ มลู ส่วนตวั ผปู้ ว่ ยหรือผ้ตู ิดเช้อื รายบุคคล รวมทั้งข้อมูลครอบครัว 3. เขตบรกิ ารสขุ ภาพ และส�ำ นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรค ท่ี 1-12 3.1 ผทู้ ม่ี หี นา้ ทใ่ี นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ ผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ สาธารณสขุ นเิ ทศน์ ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรค รองผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรค ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 3.2 บทบาทหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และการสง่ั การหนว่ ยงานในเขตทรี่ ับผิดชอบ 2) การควบคมุ กำ�กับการดำ�เนินงานตามมาตรการปอ้ งกนั ควบคุมโรค 3) การประสานกับหนว่ ยงานระดบั จงั หวดั กรม กระทรวง 4) รปู แบบการสอื่ สารความเส่ียง เชน่ การให้ขา่ ว และการให้สัมภาษณ์ 3.3 ประเดน็ สอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และประเดน็ สัง่ การหนว่ ยงานในเขตท่รี บั ผดิ ชอบ 2) ความรู้ หรอื ขอ้ มูลขา่ วสารโรค และสถานการณโ์ รค สอดคลอ้ งกบั การใหข้ า่ วของระดับ กระทรวง และระดบั กรม 3) การทำ�ลายแหล่งเพาะพันธ์ุยุง และการป้องกันควบคุมโรคใน 6 ร. ได้แก่ โรงเรือน โรงเรยี น โรงธรรม โรงงาน โรงแรม และโรงพยาบาล 4) มาตรการการปอ้ งกัน ควบคุมโรค และการดแู ลการรักษาพยาบาล 5) สถานการณโ์ รคในภาพรวมของประเทศ จ�ำ นวนผปู้ ว่ ยรายใหมต่ อ่ สปั ดาห์ จงั หวดั ทตี่ อ้ ง เฝ้าระวงั เป็นตน้ 6) ไม่ระบุขอ้ มูลส่วนตัวผูป้ ว่ ยหรอื ผตู้ ิดเช้อื รายบคุ คล รวมท้งั ขอ้ มูลครอบครัว 4. ส�ำ นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ส�ำ นกั งานสาธารณสขุ อ�ำ เภอ และโรงพยาบาล 4.1 ผทู้ ม่ี หี นา้ ทใ่ี นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวดั รองนายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดท่ีได้รับมอบหมาย สาธารณสุขอำ�เภอ ผู้อำ�นวยการโรงพยาบาล รองผอู้ �ำ นวยการโรงพยาบาลทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 50 แนวทางการส่ือสารความเสี่ยง ในภาวะวกิ ฤติ

บทท่ี 6 การส่อื สารความเสี่ยง กรณโี รคตดิ เช้อื ไวรัสซกิ า 4.2 บทบาทหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และการสง่ั การภายในจงั หวัด/หน่วยงานในความรบั ผิดชอบ 2) การควบคุมก�ำ กับการด�ำ เนินงานตามมาตรการป้องกนั ควบคมุ โรคภายในหนว่ ยงาน 3) การประสานกับหน่วยงานระดับเขตสขุ ภาพ กรม ส�ำ นกั หรือสถาบนั สว่ นกลาง 4) การแสวงหาแหล่งอ้างองิ /ผ้เู ชีย่ วชาญทใี่ หค้ ำ�ปรึกษา 5) รปู แบบการสอื่ สารความเสย่ี ง เชน่ การใหข้ ่าว และการให้สมั ภาษณ์ 4.3 ประเดน็ สอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ 1) นโยบาย และประเดน็ ส่ังการภายในจงั หวดั /หนว่ ยงานในความรับผิดชอบ 2) ความรู้ หรือข้อมูลข่าวสารโรค และสถานการณ์โรค สอดคล้องกับการให้ข่าวของ ระดับกระทรวง ระดับกรม และเขตบริการสุขภาพ อาจเพิ่มเติมจำ�นวนผู้ป่วยหรือ ผ้ตู ดิ เชื้อสะสมในจงั หวดั 3) การทำ�ลายแหล่งเพาะพันธ์ุยุง และการป้องกันควบคุมโรคใน 6 ร. ได้แก่ โรงเรือน โรงเรยี น โรงธรรม โรงงาน โรงแรม และโรงพยาบาล 4) มาตรการการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค และการดแู ลการรกั ษาพยาบาลในจงั หวดั และสถาน พยาบาล 5) ความรว่ มมอื กับเครอื ขา่ ยในพื้นท่ี 6) ไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อรายบุคคล รวมทั้งข้อมูลครอบครัว การถ่ายภาพผู้ป่วยหรือผู้ติดเช้ือรายบุคคล การไม่ติดตามจนผู้ป่วยและครอบครัว โดยไม่ไดแ้ จ้งใหท้ ราบหรือรสู้ กึ ถูกคกุ คาม 5. เจา้ หนา้ ทป่ี ฎบิ ตั งิ านในพน้ื ท่ี และในโรงพยาบาล 5.1 ผทู้ ม่ี หี นา้ ทใ่ี นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ แพทย์ พยาบาล นกั วชิ าการสาธารณสขุ 5.2 บทบาทหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 1) การควบคมุ ป้องกันโรค และการทำ�ลายแหล่งเพาะพนั ธย์ุ ุงและลูกนํา้ ใน 6 ร. 2) การดูแลสุขภาพมารดา-ทารก การฝากครรภ์ การให้นมบตุ รหลังคลอด 3) การใหค้ �ำ แนะน�ำ ดา้ นการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค และการสรา้ งความตระหนกั ในการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค เปน็ ต้น 4) เตรียมประเด็นส่ือสารและสถานการณ์ให้ หน่วยงาน 4 5) การประสานกับหนว่ ยงานในพืน้ ท่ี 6) การแสวงหาแหลง่ อ้างอิง/ผูเ้ ชย่ี วชาญทใ่ี หค้ ำ�ปรกึ ษา 7) การให้ขา่ วและการใหส้ ัมภาษณเ์ ฉพาะท่ีเปน็ ประเดน็ ความรูท้ างวชิ าการเทา่ น้ัน 5.3 ประเดน็ สอ่ื สารความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ 1) ความรู้ หรือข้อมูลข่าวสารโรค และสถานการณ์โรค สอดคล้องกับการให้ข่าวของ ระดับกระทรวง ระดับกรม และเขตบริการสุขภาพ อาจเพ่ิมเติมจำ�นวนผู้ป่วยหรือ ผตู้ ิดเชอื้ สะสมในจังหวัด 2) การทำ�ลายแหล่งเพาะพันธ์ุยุง และการป้องกันควบคุมโรคใน 6 ร. ได้แก่ โรงเรือน โรงเรยี น โรงธรรม โรงงาน โรงแรม และโรงพยาบาล 3) การดูแลสุขภาพมารดา-ทารก การฝากครรภ์ การให้นมบุตรหลงั คลอด กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 51

บทที่ 6 การสอ่ื สารความเสี่ยง กรณโี รคตดิ เชือ้ ไวรสั ซิกา 4) คำ�แนะนำ�ด้านการป้องกันควบคุมโรค และการสร้างความตระหนักในการป้องกัน ควบคุมโรค เป็นตน้ 5) ไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อรายบุคคล รวมทั้งข้อมูลครอบครัว การถ่ายภาพผู้ป่วยหรือผู้ติดเช้ือรายบุคคล การไม่ติดตามจนผู้ป่วยและครอบครัว โดยไม่ไดแ้ จง้ ใหท้ ราบหรอื รูส้ ึกถกู คุกคาม กจิ กรรมสอ่ื สารความเสย่ี งโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าทค่ี วรด�ำ เนนิ การตามล�ำ ดบั 1. การเขยี นขา่ วแจก ด�ำ เนนิ การในกรณี เกดิ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าในตา่ งประเทศ หรอื มรี ายงานผปู้ ว่ ยหรอื ผตู้ ดิ เชอ้ื ใน ประเทศ แตย่ งั ไมม่ กี ารระบาด หรอื ความเสย่ี งตา่ํ วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื แจง้ ขอ้ มลู ขา่ วสารใหป้ ระชาชน หนว่ ยงานทเ่ีกย่ี วขอ้ ง และภาคเี ครอื ขา่ ยทราบ ประเดน็ ส�ำ คญั ในการเขยี นขา่ ว ไดแ้ ก่ สถานการณ์ ความรเู้ รอ่ื งโรค การปอ้ งกนั การดแู ลสขุ ภาพ เมอ่ื เจบ็ ปว่ ย มาตรการของประเทศ และสรา้ งความเชอ่ื มน่ั ในมาตรการประเทศ สง่ิ ทต่ี อ้ งเตรยี ม ไดแ้ ก่ ประเดน็ สาร (key messages), ขา่ วแจก (press release), เจา้ หนา้ ท่ี เขยี นขา่ วแจก และผตู้ รวจทานขา่ วแจกกอ่ นเผยแพรส่ อ่ื มวลชน หน่วยงานท่ดี ำ�เนินการ ทุกหน่วยงาน แต่ประเด็นจะแตกต่างกันข้นึ อย่กู ับระดับหน่วยงาน รายละเอยี ดตามเนอ้ื หาตามทร่ี ะบใุ นการสอ่ื สารความเสย่ี งโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าในแตล่ ะระดบั 2. การใหข้ า่ วและการใหส้ มั ภาษณส์ อ่ื มวลชน ด�ำ เนนิ การในกรณี เกดิ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าหรอื มรี ายงานผปู้ ว่ ยหรอื ผตู้ ดิ เชอ้ื ในประเทศจ�ำ นวน ไมม่ าก และยงั ไมม่ กี ารระบาด หรอื ความเสย่ี งปานกลาง วตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื สรา้ งความตระหนกั ลดความตระหนกมคี วามรแู้ ละมพี ฤตกิ รรมปอ้ งกนั ควบคมุ โรค แกป่ ระชาชน หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และภาคเี ครอื ขา่ ย รวมทง้ั เนน้ ย�ำ้ มาตรการการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคของประเทศ ประเดน็ ส�ำ คญั ในการเขยี นขา่ วไดแ้ ก่สถานการณโ์ รคความรเู้ รอ่ื งโรคการปอ้ งกนั การดแู ลสขุ ภาพ เมอ่ื เจบ็ ปว่ ย และมาตรการของประเทศ รวมทง้ั สรา้ งความเชอ่ื มน่ั ในมาตรการของประเทศ ส่ิงท่ีต้องเตรียม ได้แก่ ประเด็นสาร (key messages), ข่าวแจก (press release), โฆษกและวทิ ยากร เพอ่ื ใหข้ า่ วหรอื ใหส้ มั ภาษณส์ อ่ื มวลชน หน่วยงานท่ีดำ�เนินการ หน่วยงานระดับโรงพยาบาล จังหวัด เขต กรม และกระทรวง แต่ประเด็นจะแตกต่างกันข้ึนอยู่กับระดับหน่วยงาน รายละเอียดตามเน้ือหาตามท่ีระบุ ในการสอ่ื สารความเสย่ี งโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าในแตล่ ะระดบั 3. การแถลงขา่ ว ดำ�เนินการในกรณี เกิดการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสซิกาหรือมีรายงานผู้ป่วยหรือ ผตู้ ดิ เชอ้ื ในประเทศจ�ำ นวนมาก มปี ระเดน็ ใหมๆ่ เชน่ มเี ดก็ ศรี ษะเลก็ มรี ายงานผปู้ ว่ ยกลมุ่ อาการ เสน้ ประสาทอกั เสบ เปน็ และความเสย่ี งตอ่ ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และอาจเกดิ ความตืน่ ตระหนกของประชาชน 52 แนวทางการสอื่ สารความเสย่ี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 6 การส่อื สารความเสย่ี ง กรณโี รคตดิ เช้อื ไวรัสซกิ า วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื สรา้ งความตระหนกั ลดความตระหนก มคี วามรแู้ ละมพี ฤตกิ รรมปอ้ งกนั ควบคมุ โรค แกป่ ระชาชน หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และภาคเี ครอื ขา่ ยทง้ั ในและตา่ งประเทศ รวมทง้ั เนน้ ยา้ํ ความเขม้ ขน้ ของมาตรการการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคของประเทศ ประเด็นสำ�คัญในการเขียนข่าว ได้แก่ สถานการณ์โรค ความรู้เร่ืองโรค การป้องกัน การดูแลสุขภาพเม่ือเจ็บป่วย และมาตรการของประเทศ รวมท้ังสร้างความเช่ือม่ัน ในมาตรการของประเทศ ส่ิงท่ีต้องเตรียม ได้แก่ ประเด็นสาร (key messages), ข่าวแจก (press release), ผู้แถลงข่าว ผู้ร่วมแถลงข่าว โฆษก และวิทยากร เพ่ือให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ส่ือมวลชน รวมท้ังการจัดเตรียมการแถลงข่าว เช่น การกำ�หนดวันเวลาสถานท่ีจัดแถลงข่าว การเชญิ สอ่ื มวลชน การเตรยี มสถานทแ่ี ถลงขา่ ว การอ�ำ นวยความสะดวก เปน็ ตน้ หน่วยงานท่ีดำ�เนินการ หน่วยงานระดับกรม และกระทรวง แต่ประเด็นจะแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับระดับหน่วยงาน รายละเอียดตามเน้ือหาตามท่ีระบุในการส่ือสารความเส่ียง โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ าในแตล่ ะระดบั ค�ำ /วลี ทค่ี วรใช/้ ไมค่ วรใช้ ใชใ้ นการสอ่ื สารความเสย่ี ง ส�ำ หรบั สอ่ื สารกบั ประชาชนและสอ่ื มวลชน Technical term ควรใช้ ไมค่ วรใช้ Microcephaly เดก็ ศรี ษะเลก็ เดก็ หวั ลบี /สมองลบี /สมองเลก็ Guillain Barre กลมุ่ อาการเสน้ ประสาทอกั เสบ กลมุ่ อาการกลิ แลง เบอรเ์ ร, Guillain Barre Syndrome Syndrome, GBS , ผปู้ ว่ ยแขนขาออ่ นแรง - จ�ำ นวนผปู้ ว่ ยรายใหมใ่ นสปั ดาหท์ ่ี ผปู้ ว่ ยรายใหม่ 1 ราย เปน็ หญงิ ตง้ั ครรภ์ ชอ่ื ผา่ นมา....ราย กระจายอยใู่ น...จงั หวดั นางกอไก่ ใชแ่ น่ อายุ 28 ปี อยบู่ า้ นเลขท่ี - ผปู้ ว่ ยรายใหมใ่ นสปั ดาหม์ จี �ำ นวน....ราย 555 หมทู่ ่ี 5 ต. ตองหา้ อ. สามหา้ จ.ทห่ี า้ จาก...อ�ำ เภอ เรา/หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งก�ำ ลงั เฝา้ ระวงั ยงั ไมม่ รี ายงานผปู้ ว่ ย อยา่ งใกลช้ ดิ ถา้ มคี วามคบื หนา้ ใดๆ จะ ยงั ไมม่ กี ารระบาด รบี แจง้ ใหท้ ราบ เรา/หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ก�ำ ลงั น�ำ ยงั ไมม่ รี ายงานเดก็ ศรี ษะเลก็ ประเดน็ ...... ปรกึ ษาผเู้ ชย่ี วชาญ คกก. ยงั ไมม่ รี ายงาน อน่ื ๆ โรคตดิ ตอ่ ชาติ รวมทง้ั ศกึ ษาขอ้ มลู ทาง ดา้ นวชิ าการอน่ื ๆ ทม่ี อี ยถู่ า้ มคี วามคบื หนา้ ใดๆ จะรบี แจง้ ใหท้ ราบ ประ-เ ดน็ โหรคลตกั ดิ/สเช�ำ อ้ื คไญัวรใสั นซกกิ าารสเกอ่ื ดิ สจาารกคเชวอ้ืาไมวเรสสั ย่ี ซงกิโราคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า - ประเทศไทย มรี ายงานผปู้ ว่ ยโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า ในหลายพน้ื ท่ี - ผตู้ ดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า มที ง้ั มอี าการ และไมม่ อี าการ สว่ นใหญไ่ มม่ อี าการ - ผตู้ ดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า ทง้ั ทม่ี อี าการ และไมม่ อี าการ สามารถแพรเ่ ชอ้ื ใหก้ บั ผอู้ น่ื ได้ - ช่องทางแพร่เช้ือท่ีสำ�คัญ คือ ผ่านทางยุงลายท่ีมีเช้ือกัด ลองลงมา คือ เพศสัมพันธ์ และ แมส่ ลู่ กู ผา่ นทางสายสะดอื กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 53

บทท่ี 6 การส่อื สารความเส่ยี ง กรณีโรคติดเชอื้ ไวรสั ซกิ า - หญงิ ตัง้ ครรภ์ทีต่ ิดเชอ้ื ควรทายากนั ยุง ตลอดการตง้ั ครรภ์ - หญงิ ต้งั ครรภท์ ี่ตดิ เชื้อ ควรสวมถุงยางอนามัยทกุ คร้ังขณะมเี พศสมั พนั ธ์ ตลอดการตงั้ ครรภ์ - อาการทีพ่ บบ่อย คือ ผ่นื คัน ไข้ ตาแดง ปวดข้อ อาจมอี าการใดอาการหน่งึ หรือรว่ มกบั อาการ หวัด เช่น ไอ มีนา้ํ มกู - ส่วนใหญ่ อาการจะดีขึน้ และหายเป็นภายปกติ ใน 1 สปั ดาห์ - ภาวะแทรกซอ้ นพบนอ้ ยมาก แตอ่ าจท�ำ ใหท้ ารกแรกเกดิ ศรี ษะเลก็ และกลมุ่ อาการเสน้ ประสาท อกั เสบ - ขณะน้ไี ม่มวี ัคซีนป้องกัน และยารักษาเฉพาะ - การปอ้ งกนั ทด่ี ที ส่ี ดุ คอื ไมใ่ หย้ งุ กดั สวมถงุ ยางอนามยั เมอ่ื มเี พศสมั พนั ธก์ บั ผทู้ ตี่ ดิ เชอื้ และการ ทำ�ลายแหลง่ เพาะพันธุ์ลุกนาํ้ ยงุ -ยุงลายตัวแก่ - ยาทากนั ยงุ ใช้ได้ท้งั ชนิดสารเคมี และสมุนไพร ท่ไี ด้รบั การรับรองจาก อย. ระยะเวลาการดำ�เนินงาน : ตามสถานการณ์หรือระยะของการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสซิกาและ ตอ้ งทำ�การประเมนิ อยา่ งต่อเน่ือง เพื่อวางแผนการด�ำ เนินงานใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ พื้นท่เี ป้าหมาย : ทั่วประเทศ หนว่ ยงานที่รับผดิ ชอบ : หน่วยงานรับผิดชอบหลกั - กรมควบคุมโรค โดย สำ�นักสื่อสารความเส่ียงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำ�นักวิชาการ/ สถาบนั และ สคร. ที่ 1-12 - ส�ำ นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ โดย ส�ำ นักสารนิเทศ หน่วยงานสนบั สนุน เช่น - กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมสนับสนุนบริการสขุ ภาพ กรมอนามัย กรมการแพทย์ - สำ�นกั นายกรฐั มนตรี โดย กรมประชาสมั พันธ์ - กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการปกครองส่วนท้องถ่ิน และกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั - กระทรวงศกึ ษาธิการ โดย สำ�นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน - กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษย์ - กระทรวงกลาโหม - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม สรุป การส่ือสารความเส่ียงโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ต้องสื่อสารความเสี่ยงด้วยความจริงใจ คือ สื่อสาร ความเส่ียงด้วยข้อเท็จจริง หาข้อมูลและหลักฐานทางวิชาการให้เพียงพอ รวมทั้งอธิบายข้อมูล และไมป่ ดิ บงั ขอ้ มูล จรงิ จัง คือ เผยแพรข่ อ้ มูลขา่ วสารเร็ว ทนั สถานการณ์ เป็นระยะ ต่อเนอื่ ง และ ได้ใจความ คือ ขอ้ มลู ถูกต้อง ครบถ้วน เขา้ ใจงา่ ย และตรงประเด็นอย่างมอื อาชพี โฆษกนา่ เช่ือถือ รวมทงั้ โฆษกผู้บริหาร และทุกคนใหข้ า่ วตรงกัน 54 แนวทางการสื่อสารความเสย่ี ง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 7 การสือ่ สารความเส่ยี ง กรณโี รคเมอรส์ เช้ือไวรัสโคโรน่า 2012 หรือเช้อื ไวรสั ที่ก่อใหเ้ กดิ โรคทางเดนิ หายใจตะวันกลาง หรือโรคเมอรส์ ถกู คน้ พบครง้ั แรกในผปู้ ว่ ยอายุ 60 ปี ทถี่ งึ แกก่ รรมจากปอดอกั เสบ และไตวายในประเทศซาอดุ อิ าระเบยี เมื่อเดือนกนั ยายน พ.ศ.2555 ขอ้ มลู จากองคก์ ารอนามยั โลกสรปุ ยอดผปู้ ว่ ยยนื ยนั การตดิ เชอ้ื โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง ตงั้ แต่เดอื นกันยายน 2555 จนถึงวันท่ี 21 กนั ยายน 2559 รวมทัง้ สิ้น 1,806 รายเสยี ชวี ิต 643 ราย จาก 27 ประเทศ ประเทศไทย พบผปู้ ว่ ยโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง จ�ำ นวนทงั้ สน้ิ 3 ราย (ชาวโอมาน 2 ราย และคูเวต 1 ราย) ซ่งึ ผ้ปู ่วยหายเปน็ ปกติ และได้เดินทางกลบั ประเทศแลว้ โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง หรอื โรคเมอรส์ (Middle East respiratory syndrome: MERS) หรอื โรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ สายพนั ธใุ์ หม่ 2012 (ชอื่ เดมิ ) เกดิ จากเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ อยใู่ นตระกลู เดยี วกบั โรคซาร์ส แตเ่ ป็นคนละสายพนั ธุ์ จากสถานการณข์ องโรคเมอรส์ ทยี่ งั คงมกี ารระบาดในแถบประเทศตะวนั ออกกลางอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดงั นัน้ จึงจ�ำ เป็นอยา่ งยิ่งที่แพทย์ พยาบาล รวมท้งั บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทเี่ กี่ยวขอ้ ง จะตอ้ งมคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความส�ำ คญั ของโรคดังกล่าว และรว่ มมือกันในการเฝ้าระวัง อยา่ งเขม้ แขง็ โดยมกี ารตรวจวนิ จิ ฉยั และคน้ หาผปู้ ว่ ยทตี่ ดิ เชอ้ื ไวรสั ในระยะเรมิ่ ตน้ (Early Detection) ไดอ้ ยา่ งทนั เหตกุ ารณ์ ระบบการสง่ ตอ่ ผปู้ ว่ ยใหไ้ ดร้ บั การรกั ษาอยา่ งทนั ทว่ งที และเหมาะสม (Referral System) ระบบการป้องกนั การติดเช้อื ภายในโรงพยาบาลได้ตามมาตรฐาน (Infection Control : IC) น�ำ ไปสกู่ ารด�ำ เนนิ มาตราการในการป้องกนั ควบคมุ โรคอย่างเหมาะสม และมีประสิทธภิ าพ เพอ่ื ไม่ให้ เกดิ การแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทยเปน็ วงกว้าง มาตรการการดำ�เนนิ งานของกระทรวงสาธารณสขุ 1) มาตรการการประเมนิ ความเสีย่ ง และการปอ้ งกัน - มีการติดตามสถานการณ์ การระบาดในต่างประเทศ และสถานการณ์ในประเทศ อย่างต่อเนอ่ื ง พรอ้ มทัง้ วิเคราะห์และท�ำ การ ประเมนิ ความเส่ยี ง 2) มาตรการการเฝ้าระวงั และคัดกรอง - การเฝ้าระวงั คดั กรองผูเ้ ดินทาง ทีช่ อ่ งทางเขา้ ออกประเทศ/การติดตามกลุ่มเสย่ี ง - การเฝ้าระวังในโรงพยาบาล โดยเน้นการคัดกรองผู้มีประวัติเสี่ยง และการป้องกัน การตดิ เชือ้ และการแพร่กระจายเช้อื - จดั ทมี ดแู ลผเู้ ดนิ ทางไปประกอบพธิ ที างศาสนาในชว่ งกอ่ นเดนิ ทาง ระหวา่ งเดนิ ทาง และ หลังกลบั จากเดินทาง 3) มาตรการการวินิจฉยั ดแู ลรกั ษา/การสง่ ต่อ/การตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ดำ�เนินการคดั กรอง และรักษา ตามแนวทางการรกั ษาของกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 55

บทที่ 7 การส่อื สารความเสย่ี ง กรณีโรคเมอร์ส - เตรยี มพรอ้ มศกั ยภาพของโรงพยาบาลในการรองรบั ผปู้ ว่ ย ทง้ั ในกรงุ เทพมหานคร และ สว่ นภมู ภิ าคเตรยี มพรอ้ มการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร โดย ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ 14 เขต ทว่ั ประเทศ และ โรงพยาบาลศูนยใ์ นสว่ นภูมภิ าค สามารถตรวจหาเช้ือ และ รายงานผลไดภ้ ายใน 5-8 ชม. 4) มาตรการสอ่ื สารความเส่ียง - ท�ำ การสอื่ สารความเสยี่ ง และใหค้ วามรู้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทวั่ ไป ผเู้ ดนิ ทางกลบั จากแสวงบุญ ผ้ปู ่วยสงสัย บุคลากรทางการแพทย์ และญาติ การส่อื สารความเสี่ยงโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง การส่ือสารความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เพ่ือให้ประชาชนเกิดพฤติกรรม ในการป้องกันควบคุมโรค สามารถป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วย ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้สื่อสาร ความเสยี่ งโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง เพอื่ ใหป้ ระชาชนเกดิ พฤตกิ รรมในการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค สามารถป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วย โดยสื่อสารความเสี่ยงไปยังประชาชนกลุ่มเส่ียง ครอบครัว และชุมชน รวมทั้งการสื่อสารความเสยี่ ง ผ่านสื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ เช่น หนงั สอื พิมพ์ โทรทศั น์ วทิ ยุ เวบ็ ไซต์ เปน็ ต้น ตง้ั แต่เริ่มมขี ่าวการระบาด ตง้ั แตเ่ ดือนพฤศจกิ ายน 2556 เป็นตน้ มา โดยการให้ ขอ้ มลู โรคและภยั สขุ ภาพทรี่ วดเรว็ และทนั เวลา ทนั ตอ่ สถานการณแ์ กป่ ระชาชนและสงั คม โดยค�ำ นงึ ถงึ ผลกระทบจากโรคและภัยสุขภาพจากโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางที่อาจเกิดข้ึนกับประชาชน ทัง้ ผลกระทบต่อสงั คม ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี ม นโยบายและเศรษฐกิจ แนว•ท างกราารยสลอ่ืะสเอาียรดคผวู้ปาม่วเยสพี่ยองสโรังคเขตปดิ เชไมื้อ่นไวำ�รเสัสเนมออขร้อส์ มูลส่วนตัวผู้ป่วยและผู้สัมผัส เช่น ชื่อ-สกุล เลขท่ีพาสปอร์ต ทอ่ี ยู่ เปน็ ต้น รวมทงั้ โรงพยาบาลที่ผปู้ ่วยเข้ารับการรักษา • เสนอข้อมูลการเดินทาง การเข้ามาในประเทศไทย การตรวจพบอาการเจ็บป่วย อาการใน ปัจจุบันของผู้ป่วยและการดูแลรักษา • มาตรการกระทรวงสาธารณสขุ และความจ�ำ เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งเฝา้ ระวงั อยา่ งเขม้ ขน้ สรา้ งความเขา้ ใจ เพอ่ื ให้เกิดยอมรบั และรว่ มมอื ในกระบวนการด�ำ เนนิ งาน • การสอบสวนโรค และการเข้าทำ�ลายเช้ือ (disinfectant) ที่พัก สถานท่ีที่เก่ียวข้อง วัสดุ อุปกรณ์ในชุมชน ให้ทำ�ความเข้าใจถึงความจำ�เป็นในการดำ�เนินการตามมาตรฐานตาม คำ�แนะน�ำ ระดบั สากล แก่ เจา้ ของทีพ่ กั สถานท่ี พาหนะ และวัสดุอุปกรณท์ ่ีเกยี่ วขอ้ ง • ช้ีแจงทำ�ความเข้าใจแก่บุคลากรเจ้าหน้าท่ีโรงพยาบาลท่ีต้องปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวข้องกับ ผู้เข้าเกณฑ์หรอื ผู้สมั ผัส วา่ โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางป้องกนั ได้ด้วยการปฏบิ ตั ติ าม ค�ำ แนะน�ำ เรอ่ื งการปอ้ งกนั โรคตดิ เชอ้ื ในโรงพยาบาล และการปฏบิ ตั อิ ยา่ งถกู ตอ้ งถอื เปน็ ผไู้ มม่ ี ความเสี่ยงและไมใ่ ช่ผูส้ ัมผสั โรค สามารถด�ำ รงชวี ิตได้ตามปกติ • ชแ้ี จงท�ำ ความเขา้ ใจแกป่ ระชาชน วา่ โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางอาจจะสามารถตดิ ตอ่ จากคนสู่คน น่าจะผ่านทางฝอยละออง (Droplet) ได้แก่ น้ํามูก น้ําลายจากผู้ป่วยท่ีมีเชื้อ ไปยงั บคุ คลอนื่ โดยการไอ หรอื จามและการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สารคดั หลง่ั จากทางเดนิ ลมหายใจ ของผู้ปว่ ยเป็นหลัก สว่ นการแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne) มโี อกาสเป็นไปได้แตน่ ้อย 56 แนวทางการสื่อสารความเสี่ยง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 7 การสื่อสารความเสยี่ ง กรณีโรคเมอรส์ • การขอความร่วมมือส่ือมวลชนในการนำ�เสนอข่าวที่เป็นจริง เพ่ือลดความตระหนกของ สาธารณะชน รวมทั้งเคารพความเปน็ สว่ นตัวของผปู้ ่วยและผู้สมั ผสั ขอ้ เท- ็จจโรรคิงทเกาีย่งเวดกนิ บั หโารยคใทจาตงะเวดันินอหอากยกใจลตางะวเกนั ิดอจอากกกเชล้ือาไงวรัสโคโรนา ซึ่งประกอบด้วยเช้อื สายพนั ธยุ์ ่อย หลายสายพันธุแ์ ละพบไดท้ ่วั โลกโดยในเขตอบอนุ่ (temperate climates) มรี ายงานการพบ ตรวจเช้ือน้ี มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) มักพบการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา ในชว่ งฤดูหนาวและฤดใู บไมผ้ ลิ - เชอื้ ไวรสั โคโรนาโดยทว่ั ไป เปน็ กลมุ่ ของเชอื้ ไวรสั ทท่ี �ำ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ้ื ในระบบทางเดนิ หายใจ และ/หรือระบบอ่ืนๆ ทงั้ ในคนและสัตว์ เชน่ หนู ไก่ วัว ควาย สุนขั แมว กระต่าย และสุกร ในคนทเี่ ปน็ โรคไขห้ วดั มสี าเหตจุ ากเชอื้ ไวรสั โคโรนาไดป้ ระมาณรอ้ ยละ 15 พบไดใ้ นทกุ กลมุ่ อายุ แต่พบมากในเดก็ - ความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ท�ำ ใหเ้ กดิ อาการไขห้ วัดธรรมดา (common cold) หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนน้อยทำ�ให้เกิดกลุ่มอาการโรคติดเช้ือระบบทางเดิน ลมหายใจเฉยี บพลนั รุนแรง หรอื โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome, SARS) ซึ่งมีการระบาดปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) โดยพบเริ่มจากประเทศจีนแล้วแพร่กระจายไป ทวั่ โลก ใน 29 ประเทศ พบรายงานผปู้ ว่ ยโรคซารส์ ทง้ั สนิ้ 8,096 ราย และเสยี ชวี ติ มากกวา่ 774 ราย (อตั ราการปว่ ยตายรอ้ ยละ 9.56) รวมทง้ั ประเทศไทย มรี ายานผปู้ ว่ ย 9 ราย เสยี ชวี ติ 2 ราย ซงึ่ ผปู้ ว่ ยในประเทศไทยทงั้ หมดผผู้ ทู้ เี่ ดนิ ทางมาจากพน้ื ทท่ี มี่ กี ารระบาดของโรคซารส์ ในขณะนน้ั - ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าแสดงอาการเมื่อใดหลังจากติดเช้ือ แต่สําหรับเชื้อไวรัสโคโรนาโดยท่ัวไป โดยเฉลย่ี มีระยะฟกั ตวั ประมาณ 2 – 4 วนั - จากขอ้ มลู ทมี่ อี ยู่ โรคนอ้ี าจจะสามารถตดิ ตอ่ จากคนสคู่ น นา่ จะผา่ นทางฝอยละออง (Droplet) ได้แก่ น้ํามูก น้ําลายจากผู้ป่วยที่มีเช้ือไปยังบุคคลอ่ืน โดยการไอ หรือจามและการสัมผัส ใกล้ชิด กับสารคัดหล่ังจากทางเดินลมหายใจของผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนการแพร่กระจาย ทางอากาศ (Airborne) มโี อกาสเป็นไปได้แต่น้อย - อาการท่พี บโดยทัว่ ไป จะมอี าการทันทีทันใด คือ อาการไข้ ไอ หอบเหนอ่ื ยหรือหายใจลำ�บาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการปอดอักเสบรุนแรงหรือมีอาการปอดบวม อาจมีอาการของระบบ ทางเดนิ อาหารร่วมดว้ ย เช่น อจุ จาระร่วง หรือ ถา่ ยเหลว ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไตวาย และเสยี ชีวิต - การดูแลรักษาและการป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ถ้ามีอาการไข้ ไอ หอบ นานเกนิ 2 วนั หลงั จากเดนิ ทางไปในพนื้ ทรี่ ะบาดของโรคภายใน 30 วนั หรอื มปี ระวตั กิ ารสมั ผสั สัตว์ป่วยตายผิดปกติ หรือมีประวัติดูแลผู้ป่วยปอดบวม ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจ วนิ จิ ฉยั และได้รบั การรักษาท่ีถูกตอ้ ง ปัจจบุ ันยงั ไม่มียารักษาเฉพาะและยงั ไม่มีวัคซีนป้องกัน - การปอ้ งกนั การเจบ็ ป่วย 1) หลีกเลยี่ งการคลุกคลใี กลช้ ิดกบั ผู้ปว่ ยทมี่ อี าการไข้ ไอ หรือจาม 2) ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยนํ้าและสบู่ โดยเฉพาะเม่ือสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ก่อนรบั ประทานอาหาร และหลงั ขบั ถ่าย กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 57

บทที่ 7 การส่ือสารความเส่ียง กรณีโรคเมอรส์ 3) ควรหลีกเล่ียงการเข้าไปในพ้ืนท่ีแออัด หรือท่ีชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำ�นวนมาก เพอื่ ลดความเสี่ยงในการติดโรค 4) แนะน�ำ ใหผ้ ปู้ ่วยใสห่ นา้ กากป้องกันโรค ปิดปากปดิ จมูกเวลาไอ หรอื จาม 5) เมื่อเขา้ เย่ียมชมฟารม์ หรอื พ้นื ทโ่ี รงเกบ็ ผลผลิตทางการเกษตร ควรรักษาสขุ อนามัยทัว่ ไป เชน่ ลา้ งมอื เป็นประจำ� ก่อนและ หลังการสมั ผสั สตั ว์ท่ี หลีกเลีย่ งการสมั ผัสสตั ว์ปว่ ยและ รับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย 6) กลุ่มเสี่ยงท่ีจะมีอาการป่วยรุนแรง ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน โรคปอดเร้ือรัง โรคไตวาย หรือ ผู้ท่ีภูมิต้านทานตํ่า ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ หากท่านเข้าเย่ียมชมฟาร์ม หรือพื้นท่ี โรงเกบ็ ผลผลติ ทางการเกษตร หรอื ในพนื้ ทตี่ ลาดทมี่ อี ฐู อยู่ รวมถงึ ควรหลกี เลย่ี งการสมั ผสั อฐู ควรรกั ษาสขุ อนามยั สว่ นบคุ คลใหด้ ี โดยการลา้ งมอื และควรหลกี เลย่ี งการดมื่ นาํ้ นมดบิ จาก อฐู หรอื น้าํ นมจากอฐู ทยี่ งั ไมผ่ า่ นการฆา่ เชอ้ื หรอื กนิ อาหารทไี่ มส่ ะอาด เนอื่ งจากอาจมกี าร ปนเปอ้ื นสารคัดหล่งั ของสตั ว์ หรอื ผลิตภณั ฑ์ที่ไม่ผา่ นการลา้ ง ปอกเปลอื ก หรือปรงุ ใหส้ กุ แผนการดำ�เนนิ งานส่ือสารความเสย่ี ง โรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง กล่มุ เปา้ หมายที่ส�ำ คัญ ได้แก่ 1) ประชาชนทว่ั ไป 2) เจ้าหน้าทผ่ี ูใ้ ห้บรกิ ารทางการแพทย์ และเจา้ หนา้ ทสี่ อบสวนโรค 3) อาสาสมัครสาธารณสุข 4) ส่ือมวลชน 5) ผบู้ ริหารกรมควบคุมโรค ผบู้ ริหารกระทรวงสาธารณสุข วธิ ีการส่ือสารความเสย่ี ง 1. ผลิตสือ่ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย - ผลิตคู่มือการการเฝา้ ระวังและป้องกันโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง ในชมุ ชน - โปสเตอร์คำ�แนะนำ�ในการเฝ้าระวังโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง สำ�หรับบุคลากร ทางการแพทย์และสาธารณสุข - แผ่นพับความรู้โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง สำ�หรับประชาชน ภาษาไทย- ภาษาองั กฤษ 2. เผยแพรผ่ ่านชอ่ งทางต่างๆ รวมถึงสถานท่ีที่มีความเส่ยี ง - สปอตทางสถานวี ิทยุ - สปอตทางโทรทศั นห์ รอื สัมภาษณ์สด - หนังสือพิมพ์ 3. อบรมเครอื ขา่ ยเจ้าหนา้ ท่ีและอาสาสมคั รสาธารณสขุ ชมุ ชน เรอื่ งการเฝ้าระวงั และปอ้ งกนั โรคทาง เดินหายใจตะวันออกกลาง ในชุมชนทัว่ ประเทศ ระยะเวลาการด�ำ เนนิ งาน : ตามสถานการณห์ รอื ระยะของการระบาดโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง และตอ้ งทำ�การประเมนิ อย่างตอ่ เน่อื ง เพอื่ วางแผนการด�ำ เนินงานให้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 58 แนวทางการสือ่ สารความเส่ยี ง ในภาวะวิกฤติ

บทท่ี 7 การสอื่ สารความเส่ยี ง กรณีโรคเมอรส์ ระยะการระบาดของโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง และแนวทางการสอื่ สารความเสย่ี ง ระยะที่ 1 ระยะเตรียมการหรอื ยงั ไมม่ ผี ูป้ ่วยสงสยั โรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง 1. ประเมินความเสี่ยงและความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น (ตามแนวทางการวิเคราะห์ความเส่ียง ทางสขุ ภาพ) 2. จดั ตง้ั คณะท�ำ งานเพอื่ บรหิ ารทรพั ยากรทม่ี อี ยู่ เชน่ คน วสั ดอุ ปุ กรณ์ และงบประมาณ ใหส้ ามารถ ดำ�เนนิ การสื่อสารในภาวะฉุกเฉินไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ก�ำ หนดบคุ คลทีเ่ ปน็ โฆษกระดบั กระทรวง/กรม/จงั หวัด ส�ำ หรบั ใหข้ า่ ว 4. จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เปน็ ระยะและต่อเนือ่ ง เพอ่ื สรา้ งความเชอื่ มั่นประชาชน และ ลดความตระหนก 5. เผยแพร่ขอ้ มลู ทางโทรทศั น์, วิทยุ, หนังสอื พิมพ์ 6. ให้ข้อมลู ข่าวสาร และรบั แจ้งเหตทุ าง call center ท่ีหมายเลข 1422 และ 0 2590 3333 7. ให้บริการข่าวสารทางเวบ็ ไซต์ 8. จัดกจิ กรรมพเิ ศษ และรณรงค์ (Special event activities & Campaign) ในพื้นทเ่ี สย่ี ง แนวทางการสอ่ื สารความเสย่ี งโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง ระดบั พนื้ ทกี่ รณรี ะยะเตรยี มการ หรือยงั ไม่มผี ูป้ ่วยสงสยั โรคติดเชอื้ ไวรสั เมอร์ส 1. เฝา้ ระวัง คดั กรอง ขา่ วสารท่เี กย่ี วขอ้ งกับโรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง ท้ังภายใน และ ภายนอกประเทศ รวมทั้งข่าวสารส่งผลกระทบเชิงลบต่อความเช่ือม่ันต่อการดำ�เนินงาน กรมควบคุมโรคและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและหนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้องทราบ 2. ประสานหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดทำ�ประเด็นการส่ือสาร เพ่ือนำ�มาวิเคราะห์และจัดทำ� สาระสำ�คัญของการสื่อสารความเส่ียง 3. ดำ�เนินการและตอบโต้ข้อมูลข่าวสารในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพอย่างรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ และท่วั ถงึ ทกุ พน้ื ทท่ี ่ัวประเทศ และระดบั นานาชาติ 4. น�ำ เสนอการตอบโต้ข้อมูลขา่ วสารใหก้ ับ ผูบ้ ังคบั บัญชาและหน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งทราบ 5. พฒั นารปู แบบ และวธิ กี ารในการเฝา้ ระวงั และตอบโตก้ ารสอื่ สารความเสยี่ งโรคและภยั สขุ ภาพ ท่มี ปี ระสิทธิภาพ ประเดน็ ส่ือสารเนน้ การสอ่ื สารความเสยี่ งเนน้ การเผยแพรข่ อ้ มลู สถานการณก์ ารระบาดในตา่ งประเทศ ความรเู้ รอื่ ง โรค เปน็ การสอ่ื สารให้เกดิ ความเขา้ ใจ ในธรรมชาติของโรค มาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ หนว่ ย งานภาครัฐ ท้งั นี้ เพือ่ ให้ประชาชนได้รบั ทราบข้อมลู ท่ีถกู ต้อง ลดความวิตกกงั วล ระยะที่ 2 มผี ปู้ ว่ ยสงสยั โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางรบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย ได้แก่ 1. บริหารจัดการดา้ นการส่อื สารในภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสุข โดยการประชมุ ช้ีแจงทีมงาน 2. จัดเตรยี มประเดน็ ข้อมลู ขา่ วสาร ส�ำ หรับการแถลงข่าว 3. จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เป็นระยะและต่อเน่ือง เพ่ือสร้างความเช่ือม่ันประชาชน และลดความตระหนก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ 59

บทที่ 7 การส่อื สารความเสยี่ ง กรณีโรคเมอรส์ 4. แถลงข่าว โดย อธิบดีกรมท่ีเกี่ยวข้อง หรือ/และ โฆษกกระทรวง/กรมที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ ได้รับมอบหมาย (กรณผี ลทางห้องปฏบิ ัตกิ ารเปน็ ลบตอ่ เช้อื ไวรัสโคโรนา สายพนั ธุ์ 2012) 5. ใหส้ มั ภาษณส์ อ่ื มวลชน โดย อธบิ ดกี รมทเี่ กย่ี วขอ้ ง หรอื /และ โฆษกกระทรวง/กรมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 6. ผลิตและเผยแพรส่ อื่ เผยแพรข่ ้อมูลทางโทรทัศน,์ วิทยุ, หนงั สือพมิ พ์ 7. ให้ข้อมูลข่าวสาร และรบั แจ้งเหตุทาง call center ท่หี มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8. ประสานทีมวทิ ยากร และท่ปี รึกษา ในกรณีนำ�เสนอขอ้ มูลเชงิ วิชาการ 9. ประชาสมั พนั ธเ์ คล่อื นที่ลงชุมชนในพนื้ ทเี่ สี่ยง 10. สรา้ งและพัฒนาเครอื ข่ายประชาสมั พนั ธใ์ นระดบั ชุมชน 11. ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนสำ�คัญต่อการป้องกัน ควบคมุ โรค ทีเ่ กดิ กับประชาชนและชุมชน 12. จดั กจิ กรรมพเิ ศษ และรณรงค์ (Special event activities & Campaign) ในพ้ืนทเ่ี ส่ียง แนวทางการสือ่ สารความเส่ียงโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง กรณมี ีผู้เข้าเกณฑต์ อ้ งสอบสวนโรค และ/หรอื มีผู้สัมผัสอยูใ่ นพนื้ ที่กำ�หนดเฉพาะ 1. กรณสี งสยั รายที่ 1-3 การใหส้ มั ภาษณส์ อื่ มวลชน ด�ำ เนนิ การโดยศนู ยป์ ฏบิ ตั ติ อบโตภ้ าวะฉกุ เฉนิ ทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ระดบั กระทรวง โดยปลดั กระทรวง/รองปลดั กระทรวงทด่ี แู ล ศูนยป์ ฏิบัตกิ ารฯ แถลงขา่ ว ทั้งน้ี อธบิ ดีกรมที่เกย่ี วขอ้ งร่วมใหข้ ้อมูล 2. ในกรณีสงสัยรายท่ี 4 เป็นต้นไป อาจจะแถลงหรือไม่แถลงก็ได้ การแถลงข่าวโดยอธิบดีกรม ท่เี กย่ี วขอ้ ง/โฆษกระดบั กระทรวงหรือกรมทไี่ ด้รับมอบหมาย ในกรณกี ารแถลงขา่ วหรือให้ข่าว โดยพ้ืนท่ี จะดำ�เนินการ เมื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆ ว่าเหมาะสมต่อการดำ�เนินงานระดับ พ้ืนที่แลว้ 3. การสอื่ สารความเสี่ยงในชมุ ของผูเ้ ขา้ เกณฑต์ ้องสอบสวนโรคให้ดำ�เนินการโดยอาศัยกลไกผนู้ ำ� ชมุ ชน อสม. เพ่ือใหเ้ กดิ ความเข้าใจ ในธรรมชาตขิ องโรค มาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ หน่วยงานภาครัฐ ท้ังนี้ ให้ประสานความร่วมมือในระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและระดับนาย อำ�เภอโดยประเด็นสื่อสารสำ�คัญคือ โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางอาจจะสามารถติดต่อ จากคนสคู่ น น่าจะผา่ นทางฝอยละออง (Droplet) ไดแ้ ก่ น้าํ มกู น้าํ ลายจากผ้ปู ่วยทม่ี ีเชอื้ ไปยงั บุคคลอื่น โดยการไอ หรอื จามและการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กับสารคดั หลงั่ จากทางเดนิ ลมหายใจของ ผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne) มีโอกาสเป็นไปได้แต่น้อย การสมั ผัสอย่างผิวเผนิ เช่น เดนิ สวนกัน กินอาหารรว่ มโตะ๊ เดียวกนั หรือ อย่ใู นชุมชนเดยี วกัน จะไม่ตดิ โรค 4. การสื่อสารความเสี่ยงกับผู้สัมผัส และถูกกำ�หนดให้อยู่ในพ้ืนที่เฉพาะ ให้ดำ�เนินการสื่อสาร ธรรมชาติของโรค มาตรการกระทรวงสาธารณสุข และความจำ�เป็นท่ีจะต้องเฝ้าระวัง อย่างเข้มขน้ ดว้ ยความเขา้ ใจ เพอื่ ใหเ้ กิดยอมรบั และรว่ มมือในกระบวนการด�ำ เนินงาน 5. การสอบสวนโรค และการเขา้ ท�ำ ลายเชอื้ (disinfectant) ทพี่ กั สถานทท่ี เ่ี กยี่ วขอ้ ง วสั ดอุ ปุ กรณ์ ในชมุ ชน ใหท้ �ำ ความเขา้ ใจถงึ ความจ�ำ เปน็ ในการด�ำ เนนิ การตามมาตรฐานตามค�ำ แนะน�ำ ระดบั สากล แก่ เจา้ ของทพี่ ัก สถานที่ พาหนะ และวัสดอุ ุปกรณท์ เี่ กย่ี วข้อง 6. ปกป้องขอ้ มูลความเปน็ สว่ นตวั ของผู้เขา้ เกณฑต์ ้องสอบสวนโรค และผูส้ ัมผัส 60 แนวทางการสื่อสารความเส่ยี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทท่ี 7 การสื่อสารความเส่ียง กรณีโรคเมอรส์ 7. แจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขและบุคลากรท่ีเกี่ยวข้อง ระวังการสื่อสารด้วยส่ือสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะข้อความความเปน็ สว่ นตัวผูเ้ ขา้ เกณฑต์ อ้ งสอบสวนโรค และผสู้ ัมผสั ตา่ งๆ 8. ชแ้ี จงท�ำ ความเขา้ ใจแกบ่ คุ ลากรเจา้ หนา้ ทโ่ี รงพยาบาลทตี่ อ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ผเู้ ขา้ เกณฑ์ หรือผสู้ มั ผัส ว่า โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางเป็นโรคท่สี ามารถป้องกันไดด้ ้วยการปฏบิ ตั ิ ตามคำ�แนะนำ�เร่ืองการป้องกันโรคติดเช้ือในโรงพยาบาล และการปฏิบัติอย่างถูกต้องถือเป็น ผู้ไม่มคี วามเส่ยี งและไม่ใชผ่ ู้สมั ผสั โรคสามารถดำ�รงชวี ติ ได้ตา ระยะที่ 3 มีผ้ปู ่วยโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายท่ี 1-3 และ/หรือกรณีท่ีเปน็ บคุ ลากรทางการแพทย์ ไดแ้ ก่ 1. บริหารจดั การด้านการสอ่ื สารในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสขุ 2. จัดเตรยี มประเด็น ข้อมูลขา่ วสาร ส�ำ หรับการแถลงข่าว 3. จดั ทำ�ข่าวแจก (Press release) เปน็ ระยะและต่อเนอ่ื ง เพือ่ สร้างความเชือ่ มนั่ ประชาชน ให้ ประชาชนมพี ฤตกิ รรมในการปอ้ งกันการเจบ็ ปว่ ย และลดความตระหนก 4. แถลงข่าว ในผู้ปว่ ยรายที่ 1 ควรแถลงข่าวโดย ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ โดยมีอธิบดีกรม ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง และโฆษกกระทรวง/กรมท่เี ก่ยี วขอ้ งร่วมให้ขอ้ มลู นอกจากนี้ ควรมนี ายแพทย์ สสจ. และแพทยผ์ ดู้ ูแลผปู้ ว่ ยร่วมในงานแถลงข่าวด้วย เผ่ือว่าส่ือมวลชนจะซักถามเพม่ิ เตมิ 5. ให้สมั ภาษณ์สอ่ื มวลชน โดย รฐั มนตรวี า่ การ สธ. และ/หรอื ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ โดย อธิบดกี รมทีเ่ ก่ียวข้อง หรือ/และ โฆษกกระทรวง/กรมที่เกีย่ วขอ้ งรว่ มใหข้ ้อมลู 6. ผลติ และเผยแพร่สื่อ เผยแพร่ข้อมลู ทางโทรทัศน์, วิทยุ, หนงั สอื พิมพ์ 7. ให้ข้อมลู ข่าวสาร และรับแจง้ เหตทุ าง call center ทหี่ มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8. ประสานทมี วิทยากร และทป่ี รกึ ษา ในกรณนี �ำ เสนอขอ้ มลู เชงิ วิชาการ 9. ประชาสัมพันธเ์ คล่ือนทลี่ งชุมชนในพนื้ ท่เี ส่ยี ง 10. สร้างและพัฒนาเครอื ข่ายประชาสัมพนั ธใ์ นระดับชมุ ชน 11. ประชาสมั พนั ธ์ เพอื่ สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจแกผ่ ู้เกย่ี วขอ้ ง และผู้มีส่วนส�ำ คัญต่อการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค ท่ีเกิดกบั ประชาชนและชุมชน 12. จดั กิจกรรมพิเศษ และรณรงค์ (Special event activities & Campaign) ในพ้ืนที่มรี ายงาน ผ้ปู ว่ ยโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง แนวทางการส่ือสารความเส่ียงระยะมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางรับการรักษาใน โรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 1-3 และ/หรือกรณีทีเ่ ปน็ บุคลากรทางการแพทย์ การสือ่ สารความเส่ยี งกรณีมีรายงานผูป้ ่วยโรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง รับการรกั ษาใน โรงพยาบาลในประเทศไทย รายท่ี 1-3 และ/หรือกรณีท่ีเป็นบุคลากรทางการแพทย์ มีวัตถุประสงค์ เพอื่ ลดความตน่ื ตระหนกในวงกวา้ ง สรา้ งความเชอ่ื มนั่ ในกระบวนการท�ำ งาน มาตรการของหนว่ ยงาน ต่างๆ รายละเอียดการสื่อสารความเสี่ยงดังนี้ 1. รายละเอียดผู้ป่วยพอสังเขป ไม่นำ�เสนอข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยและผู้สัมผัส เช่น ชื่อ-สกุล เลขที่ พาสปอรต์ ท่ีอย่เู ป็นตน้ รวมทง้ั โรงพยาบาลทผ่ี ปู้ ่วยเข้ารบั การรกั ษา 2. เสนอข้อมลู การเดนิ ทาง การเขา้ มาในประเทศไทย การตรวจพบอาการเจบ็ ปว่ ย อาการในปัจจบุ ัน ของผูป้ ว่ ยและการดแู ลรักษา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 61

บทที่ 7 การส่อื สารความเส่ียง กรณโี รคเมอร์ส 3. มาตรการกระทรวงสาธารณสุข และความจำ�เป็นท่ีจะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ด้วยความเข้าใจ เพื่อให้เกิดยอมรบั และร่วมมือในกระบวนการด�ำ เนินงาน 4. การสอบสวนโรค และการเขา้ ท�ำ ลายเชอ้ื (disinfectant) ทพ่ี ัก สถานท่ที เี่ กีย่ วข้อง วัสดอุ ปุ กรณ์ ในชุมชน ให้ทำ�ความเข้าใจถึงความจำ�เป็นในการดำ�เนินการตามมาตรฐานตามคำ�แนะนำ�ระดับ สากล แก่ เจ้าของท่พี กั สถานท่ี พาหนะ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีเกยี่ วขอ้ ง 5. ช้ีแจงทำ�ความเข้าใจแก่บุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ต้องปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวข้องกับผู้เข้าเกณฑ์ หรือผู้สัมผัส ว่า โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางเป็นโรคท่ีสามารถป้องกันได้ด้วยการปฏิบัติ ตามค�ำ แนะน�ำ เรอ่ื งการปอ้ งกนั โรคตดิ เชอ้ื ในโรงพยาบาล และการปฏบิ ตั อิ ยา่ งถกู ตอ้ งถอื เปน็ ผไู้ มม่ ี ความเสยี่ งและไม่ใชผ่ ู้สัมผัสโรคสามารถดำ�รงชวี ิตไดต้ า 6. ชแี้ จงท�ำ ความเขา้ ใจแกป่ ระชาชน วา่ โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางอาจจะสามารถตดิ ตอ่ จาก คนสคู่ น นา่ จะผา่ นทางฝอยละออง (Droplet) ไดแ้ ก่ นาํ้ มกู นา้ํ ลายจากผปู้ ว่ ยทม่ี เี ชอื้ ไปยงั บคุ คลอนื่ โดยการไอ หรอื จามและการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สารคดั หลงั่ จากทางเดนิ ลมหายใจของผปู้ ว่ ยเปน็ หลกั สว่ นการแพรก่ ระจายทางอากาศ (Airborne) มโี อกาสเปน็ ไปไดแ้ ตน่ อ้ ย การสมั ผสั อยา่ งผวิ เผนิ เชน่ เดินสวนกัน กินอาหารรว่ มโตะ๊ เดียวกัน หรอื อยูใ่ นชมุ ชนเดียวกนั จะไม่ติดโรค 7. การขอความรว่ มมอื สอ่ื มวลชนในการน�ำ เสนอขา่ วทเ่ี ปน็ จรงิ เพอ่ื ลดความตระหนกของสาธารณะชน รวมทงั้ เคารพความเปน็ สว่ นตัวของผปู้ ว่ ยและผู้สัมผัส ระยะท่ี 4 มผี ้ปู ่วยโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง รับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 4 ข้นึ ไปและไมใ่ ช่บคุ ลากรทางการแพทย์ ไดแ้ ก่ 1. บริหารจดั การดา้ นการส่ือสารในภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสุข 2. จัดเตรยี มประเด็น ข้อมลู ขา่ วสาร สำ�หรบั การแถลงข่าว 3. จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เป็นระยะและต่อเนอื่ ง เพอ่ื สร้างความเชอื่ มัน่ ประชาชน ให้ ประชาชนมพี ฤตกิ รรมในการป้องกนั การเจ็บป่วยลด และความตระหนก 4. แถลงขา่ ว โดย ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ และ/หรือ รองปลดั กระทรวงสาธารณสุขท่ีไดร้ บั มอบหมายโดยอธบิ ดกี รมทเี่ กย่ี วขอ้ ง และ/หรอื โฆษกกระทรวง/กรมทเ่ี กยี่ วขอ้ งรว่ มใหข้ อ้ มลู นอกจากนี้ ควรมีนายแพทย์ สสจ. และแพทยผ์ ดู้ แู ลผ้ปู ่วย ร่วมในงานแถลงข่าวด้วย เผือ่ ว่า สอ่ื มวลชนจะซกั ถามเพิม่ เตมิ 5. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ รบั มอบหมายอธบิ ดีกรมท่ีเกยี่ วขอ้ ง หรอื /และ โฆษกกระทรวง/กรมทีเ่ ก่ียวข้อง/นายแพทย์ สสจ./แพทยผ์ ้ดู แู ลผปู้ ่วย 6. ผลิตและเผยแพรส่ อ่ื เผยแพร่ขอ้ มลู ทางโทรทัศน,์ วทิ ย,ุ หนงั สอื พิมพ์ 7. ใหข้ ้อมลู ขา่ วสาร และรบั แจ้งเหตุทาง call center ทีห่ มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8. ประสานทมี วิทยากร และทป่ี รึกษา ในกรณีนำ�เสนอข้อมลู เชิงวิชาการ 9. ประชาสัมพันธ์เคลื่อนทลี่ งชุมชนในพ้ืนทีเ่ ส่ียง 10. สรา้ งและพฒั นาเครอื ข่ายประชาสัมพันธ์ในระดบั ชุมชน 11. ประชาสัมพนั ธ์ เพอ่ื สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจแกผ่ ู้เกยี่ วข้อง และผู้มสี ว่ นส�ำ คัญตอ่ การป้องกนั ควบคุมโรค ที่เกดิ กบั ประชาชนและชมุ ชน 62 แนวทางการสือ่ สารความเสีย่ ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 7 การสอื่ สารความเสี่ยง กรณีโรคเมอรส์ 12. จัดกิจกรรมพเิ ศษ และรณรงค์ (Special event activities & Campaign) ในพื้นทม่ี ีรายงาน ผู้ปว่ ยโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง แนวทางการส่ือสารความเส่ียง ระยะมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางรับการรักษา ในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 4 ข้ึนไปและไม่ใช่บคุ ลากรทางการแพทย์ การส่ือสารความเส่ียงในกรณีนี้ดำ�เนินการเช่นเดียวกับมีรายงานผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ตะวนั ออกกลางรบั การรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 1-3 และ/หรอื กรณที ีเ่ ปน็ บคุ ลากร ทางการแพทย์ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ลดความตน่ื ตระหนกในวงกวา้ ง สรา้ งความเชอื่ มนั่ ในกระบวนการ ทำ�งาน มาตรการของหน่วยงานต่างๆ สรา้ งพันธมติ รและความร่วมมือในการควบคุมการระบาดและ ลดผลกระทบจากการระบาดของโรค ส�ำ หรบั การก�ำ หนดทศิ ทาง ขอ้ มลู เนอ้ื หา กระบวนการ ใหม้ าจาก ศูนยป์ ฏิบัติตอบโต้ภาวะฉกุ เฉนิ ทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุขระดับประเทศ ระยะท่ี 5 หลังการระบาดของโรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง ในวงกว้าง ไดแ้ ก่ 1. วเิ คราะห์สถานการณ์ ประเมนิ วางแผนสือ่ สารประชาสมั พันธห์ ลงั เกิดเหต ุ 2. จัดเตรยี มประเดน็ ขอ้ มลู ข่าวสาร ส�ำ หรับการแถลงขา่ ว 3. จดั แถลงข่าวส่ือมวลชน (Press conference) สรปุ สถานการณ์และการดำ�เนินงาน 4. ให้สมั ภาษณส์ อื่ มวลชน (Press interview) 5. ใหบ้ รกิ ารข่าวสารทางเวบ็ ไซต์ แนวทางการส่ือสารความเส่ียงระยะหลังการระบาดของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ในวงกวา้ ง การสอ่ื สารความเส่ียงในกรณีนี้ มวี ตั ถุประสงค์ เพือ่ สรุปเหตุการณก์ ารระบาดของโรคทางเดิน หายใจตะวนั ออกกลางทง้ั หมดผลการด�ำ เนนิ งานของหนว่ ยงานเชน่ การเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั และควบคมุ โรค การรักษาผู้ป่วยและผู้สัมผัส เป็นต้น ความสำ�เร็จในการดำ�เนินงานและความร่วมมือจากหน่วยงาน ต่างๆ รวมทัง้ ขอบคณุ ประชาชนและหนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้องในการด�ำ เนนิ งานปอ้ งกันและควบคมุ โรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 63

บทท่ี 7 การส่อื สารความเสี่ยง กรณีโรคเมอรส์ 64 แนวทางการส่อื สารความเส่ยี ง ในภาวะวกิ ฤติ แนวทางการส่อื สารความเสีย่ งและการใหข้ ่าวกรณีโรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง การด�ำ เนนิ งาน ฉากทัศน์ท่ี 1 และ 2 ฉากทศั น์ท่ี 3 ฉากทัศน์ที่ 4 ฉากทศั นท์ ่ี 5-7 หมายเหตุ ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั / หัวหน้าดา่ นควบคมุ โรคฯ หวั หน้าทมี SRRT ผูอ้ ำ�นวยการโรงพยาบาล ปลัด/อธบิ ดี กระทรวง/กรม ให้ขา่ ว ทเี่ กี่ยวขอ้ ง การให้ขา่ ว/ ใหข้ ่าวกับสอ่ื มวลชน ให้ขา่ วกบั สือ่ มวลชน ให้ขา่ วกบั สอื่ มวลชน ใหข้ า่ ว/แถลงขา่ ว เพื่อ สัมภาษณ์ ภาพกวา้ งๆ ภาพกว้างๆ ถาพกว้างๆ สื่อมวลชน การรายงาน/แจ้ง ผบู้ ริหาร/ส�ำ นักสอ่ื สาร ผบู้ รหิ าร/สำ�นักส่ือสาร ผูบ้ ริหาร/ส�ำ นกั สอ่ื สาร ความเสย่ี งฯ/สำ�นัก ความเส่ยี งฯ/สำ�นกั ความเส่ยี งฯ/สำ�นัก ผบู้ รหิ าร/ส�ำ นักสื่อสารความ ผรู้ ับผดิ ชอบเตรียม สารนิเทศ สป. สารนเิ ทศ สป. สารนิเทศ สป. เสีย่ งฯ/ส�ำ นักสารนเิ ทศ สป. ประเดน็ ข่าว/ ประเด็นสมั ภาษณ์ ส�ำ นกั สือ่ สารความเส่ียงฯ ส�ำ นักสอ่ื สารความเสย่ี งฯ ส�ำ นักสอื่ สารความเสย่ี งฯ สำ�นกั สารนเิ ทศ สป. แหล่งขอ้ มูล/ ประสานข้อมลู สำ�นกั ระบาดวิทยา/ ส�ำ นกั ระบาดวิทยา/ส�ำ นกั ส�ำ นักระบาดวิทยา/ส�ำ นกั สำ�นักสือ่ สารความเสีย่ งฯ สำ�นักโรคตดิ อตอ่ อุบตั ิ โรคติดอตอ่ อบุ ัตใิ หม่ โรคติดอตอ่ อบุ ัตใิ หม่ ใหม่

การดำ�เนินงาน ฉากทัศน์ที่ 1 และ 2 ฉากทศั น์ที่ 3 ฉากทัศนท์ ี่ 4 ฉากทศั น์ที่ 5-7 หมายเหตุ กิจกรรมสอ่ื สาร ขา่ วแจก/ใหส้ มั ภาษณ์ ขา่ วแจก/ให้สัมภาษณ์ ข่าวแจก/ให้สมั ภาษณ์ แถลงขา่ ว/ขา่ วแจก/ ความเส่ียง โดย อธบิ ดี/รองอธิบด/ี โดย อธบิ ด/ี รองอธบิ ด/ี โดย อธิบดี/รองอธบิ ดี/ สมั ภาษณ์ โฆษก กรมทีเ่ กย่ี วข้อง โฆษก กรมทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง โฆษก กรมที่เกี่ยวขอ้ ง โดย รมว./ปลัด สธ. โดย เฉพาะในผปู้ ว่ ยยนื ยันรายท่ี กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มเป้าหมายใน ประชาชนท่วั ไป ประชาชนทวั่ ไป/ชุมชน ประชาชนทวั่ ไป/HCWs 1-3 หรือทเี่ ปน็ บคุ ลากร การสือ่ สาร รับทราบข้อมลู รบั ทราบข้อมลู รับทราบข้อมูล ทางการแพทย์ ส่วนผู้ปว่ ย วตั ถปุ ระสงคใ์ นการ และปฏิบตั ติ นท่ีถูกตอ้ ง และปฏิบตั ติ นทถ่ี ูกตอ้ ง ยืนยนั รายท่ี 4 สอ่ื สาร สถานการณโ์ รค/ความรู้ เป็นตน้ ไป และไม่ใช่บุคลากร บทท่ี 7 การสอื่ สารความเส่ยี ง กรณีโรคเมอรส์ เรอ่ื งโรค/การปอ้ งกนั การ ทางการแพทย์ สามารถ ประเด็นสอื่ สารหลกั สถานการณ์โรค/ความรู้ สถานการณโ์ รค/ความรู้ เจบ็ ป่วย/มาตรการ สธ. แถลงขา่ วโดยโฆษกท่ไี ดร้ ับ เรอ่ื งโรค/การป้องกนั การ เรอ่ื งโรค/การปอ้ งกันการ โทรทัศน,์ วทิ ย,ุ มอบหมายหรอื อธิบดกี รมท่ี เจ็บป่วย/มาตรการ สธ. เจบ็ ปว่ ย/มาตรการ สธ. หนงั สอื พิมพ,์ โซเชียล เก่ียวข้องได้ มีเดยี , HCWs เป็นต้น ประชาชนทวั่ ไป/HCWs ชอ่ งทางสือ่ สาร โทรทัศน,์ วิทย,ุ โทรทศั น์, วทิ ยุ, หนงั สอื พิมพ,์ โซเชยี ล หนังสอื พิมพ,์ โซเชียล รบั ทราบข้อมลู การปฏบิ ตั ิ 65 มีเดีย เปน็ ต้น มีเดยี , ชมุ ชน เป็นต้น ตนทถ่ี กู ตอ้ ง และลดความ ต่นื ตระหนก สถานการณโ์ รค/ความรเู้ รอ่ื ง โรค/การป้องกนั การเจบ็ ป่วย/มาตรการ สธ. ท่ีเขม้ งวดและการสร้างความเชื่อ มน่ั สงั คม โทรทัศน,์ วิทยุ, หนังสือพมิ พ,์ โซเชยี ลมีเดยี , ชุมชน, HCWs เป็นตน้

บทที่ 7 การสอื่ สารความเส่ียง กรณโี รคเมอรส์ แนวทางการสือ่ สารความเสยี่ งตามฉากทศั นโ์ รคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (ต่อ) ฉากทัศน์ที่ 1 และ 2 กรณีได้รับแจ้งผู้สงสัยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง บนเคร่ืองบิน/ อากาศยาน และ ทดี่ ่านควบคุมโรคติดต่อระหวา่ งประเทศ มีสอ่ื มวลชนไปท�ำ ข่าว แจ้ง ด่านควบคมุ โรค แจ้ง หัวหนา้ ดา่ นควบคุมโรคฯ1 แจ้ง ผูบ้ ริหาร/สำ�นักสือ่ สาร ระหวา่ งประเทศ ความเสย่ี งฯ รายละเอียด - ไม่ควรใหส้ อื่ มวลชนพบกับผู้ปว่ ยสงสัยโดยตรง - แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ หรือส่ือมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ทันทีทันใด สามารถให้ข้อมูล ว่า มีผู้ป่วยที่มีอาการโรคติดเช้ือระบบทางเดินหายใจเดินทางมาพร้อมกับอากาศยาน แตเ่ พือ่ ปกปอ้ งสทิ ธขิ องผู้ป่วย/ผู้เดินทาง จึงไม่สามารถให้ข้อมูลหรือรายละเอยี ดได้ - ไมใ่ หข้ ้อมูลสว่ นตวั ผูป้ ่วย/ผู้เดนิ ทาง เท่ยี วบนิ /สายการบิน ประเทศท่เี ดนิ ทางมา และผู้สมั ผัส รวมทงั้ โรงพยาบาลท่จี ะส่งผปู้ ว่ ยไป - หากส่ือมวลชนถามคำ�ถามด้วยความก้าวร้าวอย่าแสดงความไม่พอใจ ควบคุมอารมณ์ ก่อนจะตอบคำ�ถามด้วยความสงบ อย่าทำ�ตัวเหินห่างและเป็นปฏิปักษ์กับผู้สื่อข่าว หลกี เลย่ี งการใช้คำ�สรา้ งสีสนั เกินจริง พูดนอกประเดน็ วกวน และยืดเยือ้ เป็นตน้ - ส่ิงท่ีต้องระวัง สื่อมวลชนจะไปสอบถามบุคลากรอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่ด่าน หัวหน้าด่านฯ ต้องกำ�ชับบุคลากรในหน่วยงาน ว่า เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ป่วยไม่สามารถให้ข้อมูล เก่ียวกับผปู้ ่วย/ผเู้ ดนิ ทางได้ ฉากทัศน์ที่ 3 กรณีพบผสู้ งสัยโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง ในชมุ ชน มสี อ่ื มวลชนไปท�ำ ข่าว แจ้ง ผู้สงสยั ตดิ เชอ้ื แจง้ หัวหนา้ หวั หนา้ ทีม SRRT2 แจ้ง ผ้บู รหิ าร/ส�ำ นกั ส่อื สาร ในชมุ ชน ความเส่ยี งฯ รายละเอียด - ไม่ควรให้ส่ือมวลชนพบกับผูป้ ว่ ยสงสยั โดยตรง - แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ หรือสื่อมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ทันทีทันใด สามารถให้ข้อมูลว่า มีผปู้ ว่ ยท่ีมอี าการโรคติดเชื้อระบบทางเดนิ หายใจอยู่ในชมุ ชน อยูร่ ะหว่างการสอบสวนโรค แต่ เพ่อื ปกปอ้ งสิทธขิ องผู้ปว่ ยจึงไม่สามารถใหข้ อ้ มลู หรอื รายละเอยี ดได้ - ไมใ่ หข้ ้อมูลส่วนตัวผู้ป่วย/ผสู้ มั ผสั ที่อยู่ รวมท้งั โรงพยาบาลท่ีจะสง่ ผปู้ ว่ ยไปรบั การรกั ษา - หากสื่อมวลชนถามคำ�ถามด้วยความก้าวร้าวอย่าแสดงความไม่พอใจ ควบคุมอารมณ์ก่อนจะ ตอบคำ�ถามด้วยความสงบ อยา่ ทำ�ตัวเหินห่างและเปน็ ปฏปิ ักษ์กับผสู้ ื่อข่าว หลีกเลีย่ งการใช้คำ� สรา้ งสีสันเกนิ จริง พดู นอกประเด็นวกวน และยืดเยอ้ื เปน็ ต้น 66 แนวทางการสือ่ สารความเสย่ี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 7 การสือ่ สารความเส่ยี ง กรณโี รคเมอร์ส - สงิ่ ทตี่ อ้ งระวงั สอ่ื มวลชนจะไปสอบถามบคุ ลากรอน่ื ๆ เชน่ เจา้ หนา้ ที่ รพ.สต. ตอ้ งก�ำ ชบั บคุ ลากร ในหน่วยงานวา่ เพอื่ ปกปอ้ งสิทธขิ องผู้ปว่ ยไมส่ ามารถใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั ผู้ป่วย/ผ้สู มั ผสั ได้ ฉากทัศน์ท่ี 4 กรณีพบผูส้ งสยั โรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง ในโรงพยาบาล มสี ่ือมวลชนไปทำ�ขา่ ว แจ้ง ผูส้ งสัยตดิ เชือ้ แจ้ง หัวหนา้ หัวหนา้ ทีม SRRT2 แจง้ ผูบ้ ริหาร/ส�ำ นกั ส่ือสาร ในชมุ ชน ความเสย่ี งฯ รายละเอียด - ไมค่ วรใหส้ ื่อมวลชนพบกับผปู้ ่วยสงสัยโดยตรง - แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ หรือสื่อมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ทันทีทันใด สามารถให้ข้อมูลว่า มีผูป้ ่วยท่มี อี าการโรคตดิ เชอื้ ระบบทางเดินหายใจอยใู่ นชมุ ชน เขา้ รบั การรักษาในโรงพยาบาล แต่เพ่ือปกปอ้ งสิทธิของผู้ปว่ ยจงึ ไมส่ ามารถใหข้ อ้ มูลหรอื รายละเอยี ดได้ - ไม่ใหข้ อ้ มลู สว่ นตัวผ้ปู ว่ ย/ผู้สมั ผสั ท่อี ยู่ รวมทงั้ ตึกผปู้ ่วย - หากสื่อมวลชนถามคำ�ถามด้วยความก้าวร้าวอย่าแสดงความไม่พอใจ ควบคุมอารมณ์ ก่อนจะตอบคำ�ถามด้วยความสงบ อย่าทำ�ตัวเหินห่างและเป็นปฏิปักษ์กับผู้ส่ือข่าว หลกี เล่ียงการใช้ค�ำ สรา้ งสสี นั เกินจริง พดู นอกประเด็นวกวน และยืดเยอื้ เป็นตน้ - สงิ่ ที่ตอ้ งระวงั สือ่ มวลชนจะไปสอบถามบคุ ลากรอน่ื ๆ เช่น พยาบาล เจ้าหน้าท่ปี ระชาสัมพันธ์ ต้องกำ�ชับบุคลากรในหน่วยงาน ว่า เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ป่วยไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ผูป้ ่วย/ผ้สู ัมผสั ได้ ฉากทัศนท์ ่ี 5 กรณีพบผู้สงสัยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เดนิ ทางมาจากต่างประเทศ ฉากทศั น์ท่ี 6 กรณพี บผสู้ งสัยโรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง ในประเทศแต่ยังไม่มกี ารระบาด ฉากทัศนท์ ี่ 7 กรณีพบการระบาดของโรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง ในประเทศไทย ผู้สงสัยตดิ เชอื้ /ติดเช้อื แจ้ง ส�ำ นกั ระบาดวิทยา/ แจง้ สำ�นกั สอ่ื สารความเส่ียงฯ4 แจ้ง ผบู้ รหิ าร/ ส�ำ นัก EID สำ�นกั สารนิเทศ สป. รายละเอียด - ไม่ควรใหส้ ่อื มวลชนพบกบั ผูป้ ่วยสงสัยโดยตรง - จดั ท�ำ ขา่ วแจก และประเดน็ สมั ภาษณ์ โดยส�ำ นักส่อื สารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค โดยใช้ ขอ้ มลู จาก ส�ำ นักระบาดวิทยาและสำ�นกั โรคตดิ ต่ออบุ ตั ิใหม่ - ให้ข่าว/สัมภาษณ์โดย อธิบดี/รองอธิบดี/โฆษกกระทรวง/โฆษกกรม ที่เก่ียวข้อง ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ สำ�นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ - เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โรคเมอร์ส-โควีในต่างประเทศ และในประเทศไทย และความรู้ เร่อื งโรค - วตั ถุประสงค์ เพ่อื ให้เกิดความเขา้ ใจธรรมชาติของโรค เพื่อให้ประชาชนไดร้ ับทราบขอ้ มูลที่ ถกู ตอ้ ง กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 67

บทที่ 7 การสือ่ สารความเสี่ยง กรณโี รคเมอรส์ - สง่ิ ทค่ี วรใหข้ า่ วส�ำ หรบั ขอ้ มลู ผปู้ ว่ ยสงสยั ไดแ้ ก่ รายละเอยี ดผปู้ ว่ ยพอสงั เขป ขอ้ มลู การเดนิ ทาง การเข้ามาในประเทศไทย การตรวจพบอาการเจ็บป่วย อาการปัจจุบันของผู้ป่วย และการ ดูแลรักษา มาตรการกระทรวงสาธารณสุข และความจำ�เป็นที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ด้วยสรา้ งความเข้าใจ ยอมรบั และร่วมมอื ในการดำ�เนนิ งาน - ไม่น�ำ เสนอขอ้ มูลส่วนตวั ผปู้ ่วยและผสู้ ัมผัส รวมทั้งโรงพยาบาลทผี่ ู้ป่วยเขา้ รับการรักษา - ชอ่ งทางการเผยแพร่ขอ้ มูล โทรทัศน,์ วทิ ย,ุ หนงั สอื พิมพ์, โซเชยี ลมีเดยี เปน็ ต้น - การขอความร่วมมือส่ือมวลชนในการนำ�เสนอข่าวที่เป็นจริง เพ่ือลดความตระหนกของ สาธารณะชน รวมทัง้ เคารพความเป็นส่วนตัวของผปู้ ว่ ยและผู้สัมผสั 2. กรณีผู้ป่วยยนื ยนั และพบการแพรร่ ะบาดของโรค  - จัดเตรยี มจัดเตรียมประเด็นขา่ ว และประเดน็ สัมภาษณ์ โดยส�ำ นักสารนเิ ทศ สำ�นักงานปลัด กระทรวงสาธารณสขุ โดยประสานกบั สำ�นกั ส่อื สารความเสีย่ งฯ กรมควบคมุ โรค - จดั แถลงข่าว/ให้สมั ภาษณ์ โดย รมว./ปลัดกระทรวง โดยกรมทเี่ กยี่ วข้องร่วมให้ข้อมูล ไดแ้ ก่ กรมควบคมุ โรค กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ เปน็ ตน้ - เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุ 2012 ในต่างประเทศ และในประเทศไทย และความร้เู รอื่ งโรค - วัตถุประสงค์ของการส่ือสาร เพื่อลดความต่ืนตระหนกในวงกว้าง สร้างความเชื่อม่ัน ในกระบวนการท�ำ งาน มาตรการของหน่วยงานตา่ งๆ - สงิ่ ทค่ี วรใหข้ า่ วส�ำ หรบั ขอ้ มลู ผปู้ ว่ ยยนื ยนั ไดแ้ ก่ รายละเอยี ดผปู้ ว่ ยพอสงั เขป ขอ้ มลู การเดนิ ทาง การเข้ามาในประเทศไทย การตรวจพบอาการเจ็บป่วย อาการปัจจุบันของผู้ป่วย และการ ดูแลรักษา มาตรการกระทรวงสาธารณสุข และความจำ�เป็นที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ด้วยสรา้ งความเข้าใจ ยอมรับและร่วมมือในการดำ�เนนิ งาน - ไม่น�ำ เสนอขอ้ มลู ส่วนตวั ผู้ป่วยและผู้สัมผสั รวมทง้ั โรงพยาบาลทผี่ ปู้ ่วยเข้ารับการรกั ษา - ช่องทางการเผยแพรข่ อ้ มูล โทรทัศน์, วิทยุ, หนงั สอื พมิ พ,์ โซเชยี ลมเี ดยี เปน็ ต้น - การขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำ�เสนอข่าวที่เป็นจริง เพื่อลดความตระหนกของ สาธารณะชน รวมทง้ั เคารพความเป็นสว่ นตัวของผู้ป่วยและผสู้ มั ผสั 3 แนวทางสำ�หรบั พืน้ ท/่ี ผอ. ร.พ. /สสจ. ในการให้ข่าว - ผู้อำ�นวยการโรงพยาบาล/นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ไม่ควรให้ข่าวกับสื่อมวลชน ท้ังกรณผี ้ปู ว่ ยสงสัย และผปู้ ่วยยืนยนั ยกเวน้ ผบู้ ริหารส่วนกลาง เชน่ รมว. ปลัดกระทรวง หรือ อธิบดีที่เกยี่ วขอ้ งได้ให้ข่าวแลว้ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในผปู้ ว่ ยสงสยั และผ้ปู ว่ ยยนื ยันรายแรกๆ - ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือ ส่ือมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ทันทีทันใด สามารถให้ข้อมูลว่า มผี ปู้ ว่ ยทมี่ อี าการโรคตดิ เชอ้ื ระบบทางเดนิ ลมหายใจเขา้ มารบั การรกั ษาในโรงพยาบาล แตเ่ พอื่ ปกป้องสทิ ธิของผ้ปู ว่ ยจงึ ไม่สามารถให้ข้อมลู หรือรายละเอียดของผูป้ ่วยได้ - หากสื่อมวลชนถามค�ำ ถามดว้ ยความกา้ วร้าว อยา่ แสดงความไม่พอใจ ควบคุมอารมณก์ ่อนจะ ตอบค�ำ ถามดว้ ยความสงบ อย่าท�ำ ตวั เหินห่างและเป็นปฏปิ ักษก์ บั ผ้สู อ่ื ข่าว หลกี เลย่ี งการใชค้ �ำ สร้างสสี นั เกนิ จริง พดู นอกประเดน็ วกวน และยดื เยื้อ เป็นต้น 68 แนวทางการสื่อสารความเส่ยี ง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 7 การสือ่ สารความเสีย่ ง กรณีโรคเมอร์ส - สง่ิ ทตี่ อ้ งระวงั สอื่ มวลชนจะไปสอบถามบคุ ลากรอน่ื ๆ ในโรงพยาบาล ผอู้ �ำ นวยการโรงพยาบาล/ นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวดั ในพนื้ ท่ี ตอ้ งก�ำ ชบั บคุ ลากรในหนว่ ยงานวา่ เพอ่ื ปกปอ้ งสทิ ธขิ อง ผปู้ ่วยไมส่ ามารถใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ผปู้ ่วยได้ - การขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำ�เสนอข่าวท่ีเป็นจริง เพ่ือลดความตระหนกของ สาธารณะชน รวมทั้งเคารพความเปน็ ส่วนตัวของผูป้ ่วยและผ้สู ัมผัส ** เพ่ิมเติม: รายละเอียดการดำ�เนินงานส่ือสารความเสี่ยง สามารถถประยุกต์ใช้จากการสื่อสาร ความเสีย่ งกรณีติดเชือ้ ไวรัสอโี บลา ประเดน็ การสื่อสารความเส่ยี งตามกลุ่มเป้าหมาย 1. ประชาชนท่ัวไป ประเด็นส่อื สาร - สถานการณก์ ารระบาดของตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา สายพนั ธุ์ 2012 ในตา่ งประเทศ และประเทศไทย รวมทัง้ ความเส่ียงท่อี าจพบผู้ป่วยในประเทศไทย จากผทู้ ี่เดนิ ทางกลบั /มาจากพ้ืนทีร่ ะบาด - มาตรการและการด�ำ เนินงานของประเทศไทย แม้ยังไม่พบรายงานผปู้ ว่ ยโรคนใี้ นประเทศไทย เช่น ผู้บริหารกระทรวงได้ส่ังการให้สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งและขอความร่วมมือ จากหน่วยงานท้ังภาครัฐและภาคเอกชนให้มีการจัดระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ตะวันออกกลาง  ควบคู่กับโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกในโรงพยาบาลท้ังภาครัฐและเอกชน ให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมการติดเช้ือตามมาตรฐานสากลให้เข้มงวดเป็นพิเศษ ในระดับสูงสุดเช่นเดยี วกับการปอ้ งกันโรคซาร์ส พร้อมทง้ั ไดจ้ ัดทำ�คู่มือแนวทางการดูแลรกั ษา การป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล แจกให้กับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ทวั่ ประเทศแล้ว ขณะเดยี วกันก็ไดจ้ ัดระบบการเฝ้าระวงั ในชมุ ชน โดยให้ อสม.และอสม.ฮัจย์ ติดตามอาการผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลางเป็นเวลา 14 วัน หากพบผู้ป่วย มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลาง ใหแ้ จง้ ท่ีสำ�นักระบาดวิทยาทนั ที เพ่อื เขา้ สรู่ ะบบเฝ้าระวงั และปอ้ งกนั โรคตอ่ ไป เปน็ ตน้ - ความรู้เร่ืองโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุ 2012 ได้แก่ เชื้อก่อเหตุ อาการ การรักษา การป้องกัน เป็นต้น - แหลง่ ขอ้ มลู ทป่ี ระชาชนจะสามารถคน้ หา หรอื สอบถามเพม่ิ เตมิ ได้ เชน่ เวบ็ ไซตส์ �ำ นกั โรคตดิ ตอ่ อุบตั ิใหม่ สายด่วนกรมควบคมุ โรค 1422 เป็นตน้ 2. ผ้เู ดินทางกลับ-มาจากพืน้ ทก่ี ารระบาด ประเด็นสือ่ สาร - เคร่งครัดการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเส่ียงท่ีจะมีอาการป่วยรุนแรง ควรระมดั ระวงั เปน็ พเิ ศษ ไดแ้ ก่ ผปู้ ว่ ยเบาหวาน โรคปอดเรอ้ื รงั โรคไตวาย หรอื ผทู้ ภ่ี มู ติ า้ นทานตา่ํ - หลกี เลย่ี งการเทยี่ วชมฟารม์ พน้ื ทโ่ี รงเกบ็ ผลผลติ ทางการเกษตร และตลาดทม่ี อี ฐู อยู่ หากจ�ำ เปน็ ต้องเข้าไปในพืน้ ที่ดังกล่าว หลีกเลีย่ งการสมั ผสั อูฐ ตลอดจนหลกี เลย่ี งการด่ืมนํา้ นมดบิ จากอูฐ ทีย่ ังไม่ผ่านการฆา่ เช้อื การกนิ อาหารท่ีไมส่ ะอาด หรอื ผลิตภณั ฑท์ ไ่ี มผ่ ่านการล้าง ปอกเปลือก หรือปรงุ ให้สุก เนอื่ งจากอาจมีการปนเปื้อนสารคดั หล่งั ของสตั ว์ และควรลา้ งมือบ่อยๆ - หลกี เลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานทแ่ี ออดั หากจ�ำ เปน็ ควรใสห่ น้ากากป้องกันโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 69

บทท่ี 7 การสอื่ สารความเสยี่ ง กรณโี รคเมอรส์ - หากมอี าการคลา้ ยไขห้ วดั ใหร้ บี ไปพบแพทย์ หลงั เดนิ ทางกลบั มาถงึ เมอื งไทยภายใน 14 วนั หาก มไี ข้ ไอ เจ็บคอ มีนาํ้ มูก อาการไม่ดีข้ึนใน 2 วัน หรือมอี าการไข้สูง หอบเหนือ่ ย หายใจล�ำ บาก ขอใหไ้ ปพบแพทย์พรอ้ มแจง้ ประวัตกิ ารเดนิ ทางไปต่างประเทศดว้ ย - แหลง่ ขอ้ มลู ทป่ี ระชาชนจะสามารถคน้ หา หรอื สอบถามเพม่ิ เตมิ ได้ เชน่ เวบ็ ไซตส์ �ำ นกั โรคตดิ ตอ่ อบุ ัติใหมส่ ายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เป็นต้น 3. ผปู้ ว่ ยสงสยั /ผูส้ มั ผัส/ญาติ - ผู้ที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางมักจะมีอาการไข้ไอ หายใจหอบและ หายใจลาํ บาก เมอ่ื ตรวจรา่ งกายมกั พบวา่ เปน็ ปอดอกั เสบ นอกจากนใ้ี นผปู้ ว่ ยอกี จาํ นวนมาก จะมีอาการในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องร่วง ร่วมด้วย ผู้ป่วยท่ีมีอาการรุนแรงอาจมี ภาวการณห์ ายใจลม้ เหลว สาํ หรบั ผทู้ มี่ โี รคประจาํ ตวั ผทู้ ม่ี ภี าวะภมู คิ มุ้ กนั ออ่ นแอ ผสู้ งู อายแุ ละ ผู้ทมี่ โี รคเรื้อรัง เชน่ เบาหวาน มะเร็งและโรคปอดเรอ้ื รัง อาการป่วยจะรุนแรง - แนะนําใหผ้ ู้เดนิ ทางท่ปี ่วยด้วยโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉยี บพลนั เชน่ มไี ขแ้ ละไอ (รนุ แรง ขนาดที่รบกวนการทํากิจวัตรประจําวัน) ให้ทําดังนี้คือ ลดการพบปะคนอ่ืน ๆ เพ่ือลดการ แพร่เชื้อ ปิดปากปิดจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ เม่ือไอหรือจาม หรือไอจาม ใสแ่ ขนเสอ้ื ของตนเอง บรเิ วณตน้ แขน โดยไมไ่ อหรอื จามใสม่ อื และใหไ้ ปพบแพทย์ โดยเรว็ ทสี่ ดุ - แนะนาํ ใหผ้ ทู้ เ่ี ดนิ ทางกลบั มาจากตะวนั ออกกลางทราบวา่ ถา้ ปว่ ยมากดว้ ยโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลัน โดยมีไข้และไอ (รุนแรงขนาดท่ีรบกวนการทํากิจวัตรประจําวัน) ในช่วง สองสัปดาห์หลังจากกลับมาถึงให้ไปพบ แพทย์และรายงานต่อผู้รับผิดชอบงานสาธารณสุข ของประเทศนั้น ทนั ที - แนะนาํ ใหผ้ ทู้ นี่ คลกุ คลใี กลช้ ดิ กบั ผเู้ ดนิ ทางทปี่ ว่ ยมากดว้ ยโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉยี บพลนั โดยมีไข้ และไอ (รุนแรงขนาดท่ีรบกวนการทํากิจวัตรประจําวัน) และยังเร่ิมป่วยเองด้วย อาการเดียวกนั ใหร้ ายงานต่อ ผู้รับผดิ ชอบงานสาธารณสขุ ของท้องถน่ิ เพอื่ ติดตามว่าตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนาหรือไม่ - แหล่งข้อมูลที่ประชาชนจะสามารถค้นหา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ เช่น เว็บไซต์สำ�นักโรค ตดิ ตอ่ อุบัตใิ หมส่ ายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เป็นต้น 4. บคุ ลากรทางการแพทย์/ด่าน ประเด็นส่ือสาร - กระตุ้นเตือนแพทย์และสถานพยาบาล ให้ทราบว่าอาจมีการติดเช้ือไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2012 ในกลมุ่ ผเู้ ดนิ ทางกลบั จากตะวนั ออกกลาง ดว้ ยอาการโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉยี บพลนั โดยเฉพาะผทู้ ม่ี ไี ขไ้ อ และหายใจลาํ บาก หากลกั ษณะทางคลนิ กิ ทาํ ใหน้ กึ ถงึ การตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนาฯ ใหส้ ง่ ตรวจทางห้องปฏบิ ตั กิ าร ตามนิยามผปู้ ่วยที่ องค์การอนามัยโลกแนะนํา รวมทง้ั ให้ปฏิบตั ิ ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ ควรเตือนแพทย์ให้คํานึงถึงโอกาสท่ีจะพบ การแสดงออกทางคลินกิ ท่ีผดิ ปกตใิ นผปู้ ่วยที่มภี าวะภูมคิ ุ้มกันบกพรอ่ ง 70 แนวทางการสือ่ สารความเสย่ี ง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 7 การสือ่ สารความเสี่ยง กรณีโรคเมอร์ส - เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้ป่วย/บุคลากรทางสาธารณสุข มีความเสี่ยงต่อการติดเช้ือไวรัสโคโรนาฯ เนอื่ งจาก มรี ายงาน ตรวจพบการแพรเ่ ชอื้ ในสถานพยาบาล ในหลายๆ ประเทศ รวมทง้ั การแพร่ กระจายของเชอื้ จากผูป้ ่วยไปยังผใู้ หบ้ รกิ าร ด้านสาธารณสุขด้วย อยา่ งไรก็ตาม ยังไม่สามารถ ระบุได้ว่าผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับเชื้อ โดยวิธีใด ไม่ว่าจะเป็น ระบบทางเดินหายใจ (ไอ, จาม) หรือการสัมผสใกล้ชิดกบั ผปู้ ว่ ยโดยตรงหรือการได้รับเชอ้ื ทอี่ ยู่ ในอากาศจากผปู้ ว่ ย เนอื่ งจาก อาการและลักษณะทางคลนิ กิ ไมม่ ีความจาํ เพาะเจาะจง - ดว้ ยเหตนุ ี้ จงึ เปน็ สงิ่ สาํ คญั ที่ บคุ ลากรทางการแพทยต์ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามมาตรการควบคมุ การตดิ เชอื้ อย่างเป็นมาตรฐาน (Standard precautions) ต่อผู้ป่วยทุกราย ตลอดเวลา และควรเพิ่ม มาตรการการปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ โรคจากละอองฝอยเสมหะ (Droplet precautions) ดว้ ย หากตอ้ งดแู ลผปู้ ว่ ยทมี่ อี าการตดิ เชอ้ื ระบบทางเดนิ หายใจแบบเฉยี บพลนั ควรเพมิ่ มาตรการ การระมดั ระวงั การสัมผสั และหากตอ้ งดแู ลผปู้ ่วยสงสยั หรอื ผปู้ ว่ ยยนื ยันติดเช้ือไวรัสโคโรนา และถา้ จาํ เปน็ ตอ้ งใชก้ ระบวนการทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ละอองลอย (aerosol) กค็ วรปฏบิ ตั ติ ามมาตรการ การปอ้ งกันการแพรก่ ระจาย เช้อื ทางอากาศ (Airborne precautions) - แหลง่ ขอ้ มลู ทปี่ ระชาชนจะสามารถคน้ หา หรอื สอบถามเพม่ิ เตมิ ได้ เชน่ เวบ็ ไซตส์ �ำ นกั โรคตดิ ตอ่ อุบตั ใิ หม่ ตวั อย่างอกั ษรว่งิ ทางโทรทศั น์ เรอื่ งโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ขอ้ ความท่ี 1 โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางระบาดอยู่ในประเทศในตะวันออกกลาง ควรหลกี เลย่ี งการเดนิ ทางไปในประเทศดงั กลา่ ว สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ โทรสายดว่ น กรมควบคุมโรค 1422 ข้อความท่ี 2 โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางอาจจะสามารถ ติดตอ่ จากคนสู่คน น่าจะผ่านทางฝอยละออง (Droplet) ไดแ้ ก่ นา้ํ มกู น้าํ ลายจาก ผปู้ ว่ ยทมี่ เี ชอ้ื ไปยงั บคุ คลอนื่ โดยการไอ หรอื จามและการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สารคดั หลงั่ จากทางเดินลมหายใจของผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne) มีโอกาสเป็นไปได้แต่น้อย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 ขอ้ ความที่ 3 ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยจากเช้ือไวรัสเมอร์ส-โควี 5 ราย ทุกรายเป็นปกติ เดินทางกลับประเทศไปแล้ว กระทรวงสาธารณสุขมีระบบเฝ้าระวังและคัดกรอง ผู้เดินทางมาจากประเทศระบาด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 71

บทท่ี 8 การสือ่ สารความเส่ยี ง กรณโี รคไขห้ วัดนก โรคไข้หวัดนกเป็นหน่ึงในโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่มีความรุนแรง และเช้ือก่อโรคมีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธ์ุทำ�ให้เกิดโรคหรือเกิดการเจ็บป่วยเฉพาะในสัตว์ปีก และบางสายพันธุ์ติดต่อมายังสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยนํ้านม รวมทั้งคนซึ่งการติดเช้ือโรคไข้หวัดนกสามารถทำ�ให้เกิดการเจ็บป่วยและเสีย ชีวิตได้ ในประเทศไทยพบผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดนก สายพันธ์ุ เอช 5 เอ็น 1 รายแรก เมื่อ ปี 2547 และผปู้ ว่ ยรายสดุ ทา้ ย ในปี 2549 และจากนน้ั ยงั ไมพ่ บผปู้ ว่ ยโรคไขห้ วดั นกเพมิ่ อกี โดยสว่ นมากผปู้ ว่ ยทปี่ ว่ ย ดว้ ยโรคไขห้ วดั นก จะมปี ระวตั กิ ารสมั ผสั กบั ไกป่ ว่ ย/ไก่ ทตี่ ายผดิ ปกติ สว่ นการแพรจ่ ากคนสคู่ นพบไดน้ อ้ ย นอกจากโรคไข้หวัดนกจะทำ�ให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ผลกระทบด้านอ่ืนๆ ท่ีหน่วยงานที่ เกยี่ วขอ้ งตอ้ งตระหนัก เชน่ เศรษฐกิจ นโยบาย สังคม รวมทงั้ ความเชื่อม่ันของประชาชนตอ่ ระบบบรกิ าร สขุ ภาพ ดังนน้ั การส่อื สารความเสยี่ งโรคไขห้ วดั นกท่มี ปี ระสิทธิภาพจึงมคี วามจ�ำ เป็น การสอ่ื สารความเส่ียง กรณีโรคไข้หวัดนก ความรู้เรือ่ งโรคไขห้ วดั นก โรคไข้หวัดนก เป็นโรคที่เกิดจากเช้ือไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ในสัตว์ปีก หรือที่เรียกกันว่า ไข้หวัดนก โดยสัตว์ปีกทุกชนิดติดเชื้อน้ีได้ เช่น ไก่ เป็ด นกนํ้า นกชายทะเล เป็นต้น ซึ่งมีเช้ือไวรัส ไข้หวดั นกหลายสายพันธทุ์ ก่ี ่อให้เกิดโรคในคนได้ โดยมักพบในคนที่มปี ระวตั ิสัมผสั กับสตั ว์ปกี ท่ปี ่วย/ตาย ดว้ ยโรคไขห้ วัดนก ส่วนการพบการแพรจ่ ากคนสู่คนได้นอ้ ย สถานการณแ์ ละสายพนั ธุ์ที่ท�ำ ใหเ้ กดิ โรคไข้หวดั นก โรคไขห้ วัดนก สายพนั ธ์ุ เอช 7 เอ็น9 (H7N9) เปน็ โรคตดิ เชือ้ ไวรัสท่ีเกดิ ในนก ยังไมเ่ คยมรี ายงาน ว่าเกิดโรคกับคน จนกระทั่งมีรายงาน การระบาดในคนที่ประเทศจีน จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก ณ วันที่  18 กรกฎาคม 2558 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสายพันธ์ุ เอช  7  เอ็น  9  รายใหม่ 5 ราย ในจำ�นวนนเ้ี สยี ชีวติ 3 ราย โรคไขห้ วัดนกสายพันธ์ุ เอช 5 เอน็ 8 และเอช 10 เอ็น 8 ท่ีมรี ายงานในประเทศเกาหลใี ต้ และ สายพันธ์ุ เอช 5 เอ็น 6 ท่ีมีรายงานการระบาดที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. จ�ำ นวน 3 คร้ัง ปจั จุบันมรี ายงานการตดิ เชื้อเฉพาะในสตั ว์ปกี ยงั ไม่มีรายงานในคน ส่วนกรณีไข้หวัดนก สายพันธ์ุ เอช 5 เอ็น 1 ที่เคยมีรายงานในประเทศไทยครั้งแรก ปี พ.ศ. 2547 และไมม่ รี ายงานผปู้ ว่ ยในประเทศไทยอกี เลยตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2549 เปน็ ตน้ มา องคก์ ารอนามยั โลก ภาคพ้ืนแปซิฟิกตะวันตก ได้รายงานผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดนก สายพันธุ์ A (H5N1) ทั่วโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงวันท่ี 17 กันยายน 2558 พบผู้ป่วยยืนยันการติดเช้ือโรคไข้หวัดนกแล้ว 844 ราย เสียชีวิต 449 ราย ใน 16 ประเทศ ในประเทศไทยที่ผ่านมาพบสัตว์ปีกและคนติดเชื้อไข้หวัดนก สายพนั ธเุ์ อช 5 เอ็น 1 (H5N1) สว่ นสายพันธุอ์ นื่ ๆ ท่ีพบในตา่ งประเทศ ยงั ไม่เคยมีรายงานในไทยมาก่อน การติดต่อ คนสามารถติดเชื้อจากสัตว์ได้โดยจากการสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยตรง และโดยอ้อม จากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งจากสัตว์ ท่ีเป็นโรค เช่น อุจจาระ นํ้ามูก น้ําตา น้ําลายของสัตว์ท่ีป่วย โดยเม่ือสมั ผัสสัตวท์ ีป่ ว่ ยแลว้ มกั เอามอื มาสมั ผัสกบั หนา้ จมูก หรอื ปาก ตนเอง ท�ำ ให้รับเชือ้ เข้าสู่ร่างกาย ซ่ึงขณะน้ียังไม่ทราบว่าคนติดเชื้ออย่างไร แต่จากข้อมูลผู้ป่วย พบว่า มีประวัติการสัมผัสหรืออยู่ใน สิง่ แวดลอ้ มท่ีมสี ัตว์ เช่น ตลาดค้าสัตวป์ กี มชี วี ติ นอกจากน้ยี งั ตรวจพบเช้ือในนกพิราบ เป็ด และไก่ 72 แนวทางการสอื่ สารความเสี่ยง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 8 การส่ือสารความเสย่ี ง กรณีโรคไขห้ วดั นก อาการโรคไขห้ วัดนก สายพนั ธุ์ เอช 5 เอ็น 1 อาการและการแสดงในสตั ว์ปีก อาจไม่แนน่ อน ผันแปรตามความรุนแรงของเชื้อไวรัสท่ีสัตว์ได้รับมา เม่ือรับเชื้อมาอาจแสดงอาการ หรือไม่แสดง อาการก็ได้ แต่สามารถแพร่เช้ือไปสู่สัตว์ หรือคนได้ อาการในสัตว์ มักพบอาการดังต่อไปน้ี ซูบผอม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง ขนร่วง ซึม ไอ จาม หายใจลำ�บาก หน้าบวม หงอนและเหนียงบวม มีสีคลํ้า ท้องเสีย บางตัวอาจตายกะทันหัน โดยไม่แสดงอาการชัดเจน หรืออาจพบการตายผิดปกติเป็น จ�ำ นวนมากได้ ในคน เริม่ จากอาการไข้ ไอ หายใจหอบ ปอดบวมรนุ แรงและอาจเสียชวี ติ   การรักษา ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนสำ�หรับไวรัสไข้หวัดนกในคนทุกสายพันธุ์ แต่มียาต้านไวรัส คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) โดยแพทยจ์ ะเปน็ ผพู้ ิจารณาให้ยาตา้ นไวรสั ซึ่งยาน้ีจะมปี ระสทิ ธิภาพ การรักษามากท่ีสุด หากผู้ป่วยได้รับยาเร็วภายใน 2 วัน นับตั้งแต่เริ่มป่วย โดยยาจะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ส�ำ หรบั ผู้ใหญ่ เดก็ โต และเด็กเลก็ การปอ้ งกนั โรคไขห้ วดั นกทุกสายพันธุ์ ประชาชนสามารถปฏบิ ตั ิไดด้ งั น้ี 1. ล้างมือด้วยน้ําและสบู่ ก่อนและหลังปรุงอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องนํ้า หลงั จากดูแลสัตวห์ รอื หลังการดูแลผู้ป่วย  2.  ปดิ ปากและจมกู เวลาไอดว้ ยหนา้ กากป้องกนั โรค หรือผ้าเชด็ หนา้ หรอื แขนเสือ้   3. สามารถรบั ประทานไกเ่ ปด็ ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั แตต่ อ้ งระมดั ระวงั การช�ำ แหละ่ และตอ้ งปรงุ ใหส้ กุ สำ�หรับสตั วป์ ีกทป่ี ่วยหรือป่วยตายไมค่ วรนำ�มารับประทาน 4.  หากไปตลาดสด ให้หลีกเล่ยี งการสมั ผสั สตั วป์ ีกทมี่ ีชวี ติ รวมท้งั อปุ กรณ์ที่บรรจุสตั ว์ หากท�ำ ฟารม์ สัตว์ ตอ้ งไมใ่ ห้เด็กเขา้ ใกล้สัตวป์ ว่ ย และใหเ้ ล้ียงสัตวแ์ ต่ละชนิดใหห้ า่ งจากกัน หากพบซากสตั วป์ กี ให้แจ้ง อสม. ทันที และหากมีสัตว์ปีกตายผิดปกติ ให้รายงานเจ้าหน้าท่ีปศุสัตว์ทันที  เพื่อจำ�กัด การแพร่ระบาดระบาดของโรคโดยเรว็ ที่สุด และท�ำ ลายซากสตั วป์ ีกอย่างถกู วิธี  5. ส�ำ หรบั ผเู้ ดนิ ทางไปตา่ งประเทศ ประชาชนยงั สามารถเดนิ ทางไปทอ่ งเทย่ี วยงั ประเทศทม่ี กี าร ระบาดของโรคไขห้ วัดนกได้ แตข่ อให้ระมัดระวงั ไมเ่ ข้าใกลส้ ตั ว์ปีก และล้างมอื บ่อยๆ  6.  หากมอี าการไข้ ไอ เจบ็ คอหอบเหนอ่ื ย และมปี ระวตั สิ มั ผสั กบั สตั วป์ กี ใหส้ วมหนา้ กากปอ้ งกนั โรค แลว้ รบี ไปพบแพทย์ทันที การดำ�เนินการโดยกรมควบคุมโรค ได้ส่ังการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสานสำ�นักงาน สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศดำ�เนินการตาม 5 มาตรการ ดงั น้ี  1. เรง่ รัดการเฝ้าระวังโรคไขห้ วัดนกในพื้นท่ที งั้ ในคนและในสัตว ์ 2.  หากมีผู้ป่วยสงสัย ให้ดำ�เนินการสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างส่งตรวจเพื่อหาสาเหตุ และ ตรวจสอบว่ามีประวัติเส่ียงหรือไม่ เช่น ประวัติสัมผัสสัตว์ปีกป่วย/ตาย ประวัติเดินทางไปประเทศที่มี การระบาดของโรค หรอื สมั ผสั ใกลช้ ดิ /ใหก้ ารดแู ลผู้ป่วยปอดอักเสบ  3.  ขอความรว่ มมอื จาก อสม. และประสานงานปศสุ ตั วจ์ งั หวดั และหนว่ ยงานของกรมอทุ ยานแหง่ ชาตสิ ัตวป์ า่ และพนั ธพุ์ ืชในพื้นที่ เฝ้าระวังการป่วยตายผดิ ปกติของสตั ว์ปกี ทีเ่ ลี้ยง และในนกธรรมชาติ 4. แจง้ เตอื นบคุ ลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาล ทง้ั ภาครฐั และเอกชน เพอื่ เตรยี มความ พร้อมด้านการรกั ษาพยาบาล 5. ประชาสัมพันธ์ให้คำ�แนะนำ�แก่ผู้เดินทางไปพ้ืนท่ีมีรายงานผู้ป่วยหรือสัตว์ปีกติดเช้ือ และ ประชาชนทั่วไปในเร่ืองการปอ้ งกนั โรค กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 73

บทท่ี 8 การสื่อสารความเสยี่ ง กรณโี รคไข้หวดั นก แนวทางการวเิ คราะห์ขอ้ มูลขา่ วสาร เพอ่ื การตอบโตแ้ ละการสื่อสารความเสย่ี งโรคไขห้ วดั นก 1. จัดให้มีหน่วยงานหรือบุคลากรที่รับผิดชอบในการติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสาร โรคไข้หวัดนกผ่านชอ่ งทางตา่ งๆ ทง้ั ส่อื หลัก และโซเชียลมเี ดยี 2. วิเคราะห์โทนข่าว/ข้อมูลข่าวสาร ว่า เน้ือหาหรือ/และการเสนอความคิดเห็นต่อข่าว/ข้อมูล ข่าวสารนน้ั ๆ สรา้ งความรูส้ กึ กลัว วติ กกงั วล ใกล้ตวั ประชาชน และกำ�ลงั ขยายความน่ากลัว ให้มากข้ึนหรือไม่ 3. ถ้าวิเคราะห์โทนข่าว พบว่า เป็นเชิงลบท่ีสร้างความวิตกกังวล และความไม่เชื่อม่ันต่อระบบ บริการสาธารณสขุ ของประชาชนและกระทบขวัญก�ำ ลังใจบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงาน ทีเ่ กยี่ วข้อง ควรดำ�เนนิ การดังน้ี 3.1 ทมี สอบสวนควบคมุ โรค สคร. ควรลงพน้ื ทต่ี รวจสอบขอ้ มลู โดยเรว็ ทสี่ ดุ หากขา่ ว/ขอ้ มลู ขา่ วสารเปน็ จรงิ ใหร้ ายงานอธบิ ดีกรมควบคุมโรค/ผูบ้ ริหารตามล�ำ ดบั ทันที 3.2 ส�ำ นกั ในสว่ นกลาง ท้ังส�ำ นกั ระบาดวิทยา สำ�นักสอื่ สารฯ ประสาน/ตรวจสอบขอ้ มลู กบั สคร./สสจ.เพ่ือจัดทำ�ข้อมูลสื่อสารกับส่ือมวลชน ผู้บริหาร และสังคม เพราะถ้าช้า สอ่ื มวลชน/สังคม จะเขา้ ใจวา่ กรม/กระทรวงปดิ ข่าว 3.3 กรมควบคมุ โรค/กระทรวง จะตอ้ งใหโ้ ฆษกหรอื ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ใหข้ า่ วทนั ที โดยใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ข้อเทจ็ จรงิ สถานการณ์และการด�ำ เนนิ การท่ีกรม/กระทรวงได้ดำ�เนินการแลว้ รวมทั้งจะดำ�เนินการอย่างไรต่อไป เพ่ือป้องกันควบคุมโรคไม่ให้กระจายในวงกว้าง โดยเผยแพร่ข้อมูลตามช่องทางสื่อต่างๆ อย่างพอดี สร้างความเช่ือม่ันและสร้าง ขวัญกำ�ลังใจบุคลากรอย่างต่อเนื่องแต่อย่ามากจนเกินไป รวมทั้งยํ้ามาตรการป้องกัน ควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ประ-เ ด็นรกาายรลสะือ่เอสยี าดรผคปู้วว่ายมพเสอ่ยี สงงั โเรขคปไขไมห้ น่ ว�ำ ัดเสนนกอขอ้ มลู สว่ นตวั ผปู้ ว่ ยและผสู้ มั ผสั เชน่ ชอื่ -สกลุ ทอี่ ยู่ เปน็ ตน้ รวมท้ังโรงพยาบาลทผ่ี ปู้ ่วยเข้ารับการรักษา - นำ�เสนอการตรวจพบอาการเจ็บป่วย อาการในปัจจุบันและการดูแลรักษา มาตรการกระทรวง สาธารณสุข และความจำ�เป็นที่จะต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มข้น เพ่ือให้เกิด ยอมรบั และรว่ มมือ - การสอบสวนโรค และการเขา้ ท�ำ ลายเชอ้ื (disinfectant) ทพ่ี กั สถานทที่ เี่ กยี่ วขอ้ ง วสั ดอุ ปุ กรณใ์ น ชุมชนรวมทง้ั การกำ�จัดสตั วเ์ ล้ียง/สตั ว์ปีก ใหท้ ำ�ความเขา้ ใจถงึ ความจำ�เปน็ ในการดำ�เนินการตาม มาตรฐานตามคำ�แนะนำ�ระดับสากล แก่ เจา้ ของ เพื่อนบ้าน และชุมชน - ชี้แจงทำ�ความเข้าใจแก่บุคลากรเจ้าหน้าท่ีโรงพยาบาลท่ีต้องปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวข้องกับผู้เข้า เกณฑ์หรือผู้สัมผัส ว่า โรคไข้หวัดนกติดต่อจากคนสู่คนน้อยมาก และสามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำ�แนะนำ� เรื่องการป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล และการปฏิบัติ อยา่ งถกู ต้องถอื เป็นผ้ไู มม่ คี วามเสี่ยงและไม่ใช่ผูส้ ัมผสั โรค สามารถด�ำ รงชีวติ ได้ตามปกติ - ชี้แจงทำ�ความเข้าใจแก่ประชาชน ว่า โรคไข้หวัดนกติดต่อคนสู่คนได้น้อย จากข้อมูลผู้ป่วย พบวา่ ผปู้ ว่ ยมปี ระวตั กิ ารสมั ผสั หรอื อยใู่ นสงิ่ แวดลอ้ มทมี่ สี ตั ว์ เชน่ ตลาดคา้ สตั วป์ กี มชี วี ติ นอกจาก นีย้ งั ตรวจพบเชอื้ ในนกพริ าบ เปด็ และไก่ ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne) มโี อกาส เป็นไปไดแ้ ตน่ อ้ ย - การขอความรว่ มมอื สอื่ มวลชนในการน�ำ เสนอขา่ วทเ่ี ปน็ จรงิ เพอื่ ลดความตระหนกของสาธารณชน รวมทัง้ เคารพความเป็นส่วนตวั ของผปู้ ว่ ยและผู้สัมผัส 74 แนวทางการสื่อสารความเสย่ี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 8 การส่อื สารความเสย่ี ง กรณีโรคไขห้ วดั นก กลุ่มเป้าหมายในการด�ำ เนนิ งานสื่อสารความเสย่ี งโรคไข้หวัดนก 1) ประชาชนทั่วไป และอาสาสมคั รสาธารณสุข 2) เจ้าหน้าท่ีผู้ให้บรกิ ารทางการแพทย์ และเจา้ หนา้ ท่ีสอบสวนโรค 3) ผบู้ ริหารกรมควบคุมโรค ผบู้ รหิ ารกระทรวงสาธารณสขุ 4) สอ่ื มวลชน วธิ กี ารส่อื สารความเสี่ยง (รายละเอียดในบทท่ี 9) 1. ผลติ สอื่ ให้เหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย - ผลติ คู่มอื การการเฝ้าระวังและปอ้ งกนั โรคไข้หวัดนก ในชุมชน - โปสเตอร์คำ�แนะนำ�ในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก สำ�หรับบุคลากรทางการแพทย์และ สาธารณสุข - แผน่ พบั ความรโู้ รคไข้หวัดนก ส�ำ หรับประชาชน ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ 2. เผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถงึ สถานทท่ี ีม่ ีความเส่ยี ง - สปอตทางสถานวี ทิ ยุ - สปอตทางโทรทศั น์หรือสัมภาษณ์สด - หนังสอื พิมพ์ 3. อบรมเครือข่ายเจ้าหน้าท่ีและอาสาสมัครสาธารณสุข ชุมชน เร่ืองการเฝ้าระวังและป้องกัน โรคไขห้ วดั นกในชมุ ชนทั่วประเทศ แนวทางการสอ่ื สารความเสี่ยง แบ่งตามระยะการระบาดของโรคไขห้ วดั นก ระยะเวลาการด�ำ เนนิ งาน : ตามสถานการณห์ รอื ระยะของการระบาดโรคไขห้ วดั นก และตอ้ งท�ำ การ ประเมนิ อย่างตอ่ เนอ่ื ง เพื่อวางแผนการดำ�เนินงานใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ ระยะที่ 1 ระยะเตรียมการหรือยงั ไม่มีผู้ปว่ ยสงสัยโรคไขห้ วัดนก 1) ประเมินความเส่ียงและความรนุ แรงทอ่ี าจจะเกดิ ข้นึ (ตามแนวทางการวิเคราะห์ความเส่ียงทาง สุขภาพ) 2) จดั ตง้ั คณะท�ำ งานเพอื่ บรหิ ารทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ เชน่ คน วสั ดอุ ปุ กรณ์ และงบประมาณ ใหส้ ามารถ ดำ�เนินการสอื่ สารในภาวะฉกุ เฉนิ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3) ก�ำ หนดบคุ คลที่เป็นโฆษกระดบั กระทรวง/กรม/จงั หวดั ส�ำ หรบั ใหข้ า่ ว 4) จัดท�ำ ขา่ วแจก (Press release) เป็นระยะและตอ่ เนื่อง เพ่ือสร้างความเชื่อมน่ั ประชาชน และ ลดความตระหนก 5) เผยแพร่ข้อมลู ทางโทรทัศน์, วิทยุ, หนงั สือพิมพ,์ เวบ็ ไซต์ และโซเชยี ลมเี ดียตา่ งๆ 6) ใหข้ อ้ มลู ข่าวสาร และรับแจ้งเหตุทาง call center ท่ีหมายเลข 1422 และ 0 2590 3333 แนวทางการส่ือสารความเส่ียง ระดบั พืน้ ทก่ี รณีระยะเตรยี มการหรอื ยงั ไมม่ ีผ้ปู ว่ ยสงสยั โรคไขห้ วัดนก 1) เฝ้าระวัง คัดกรอง ข่าวสารท่ีเก่ียวข้องกับโรคไข้หวัดนก ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ รวมทั้งข่าวสารท่ีอาจส่งผลต่อความวิตกกังวลและสร้างความตระหนกของประชาชน และ รายงานใหผ้ ้บู งั คบั บญั ชาและหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งทราบ 2) ประสานหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง เพื่อน�ำ มาวิเคราะห์และจดั ท�ำ ประเดน็ สื่อสาร กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 75

บทท่ี 8 การส่ือสารความเสีย่ ง กรณโี รคไข้หวัดนก 3) ดำ�เนินการและตอบโต้ข้อมูลข่าวสารในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ชดั เจน ทนั ต่อเหตุการณ์ และทวั่ ถงึ ทุกพ้นื ท่ีทว่ั ประเทศ และระดับนานาชาติ 4) น�ำ เสนอการตอบโตข้ ้อมลู ขา่ วสารให้กบั ผ้บู งั คับบญั ชาและหน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งทราบ 5) พัฒนาการเฝ้าระวังและตอบโต้การสื่อสารความเสี่ยงโรคไข้หวัดนกที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ทนั เหตุการณ์ ประเดน็ สื่อสารเน้น การสอ่ื สารความเสย่ี งเนน้ การเผยแพรข่ อ้ มลู สถานการณก์ ารระบาดโรคไขห้ วดั นกในประเทศ และ ตา่ งประเทศ ความรเู้ รอ่ื งโรค เปน็ การสอ่ื สารใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ ในธรรมชาตขิ องโรค มาตรการของกระทรวง สาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ ทงั้ นี้ เพือ่ ให้ประชาชนไดร้ บั ทราบข้อมลู ท่ถี ูกตอ้ ง ลดความวติ กกงั วล และ ใหค้ วามรว่ มมือในการด�ำ เนนิ งาน ระยะที่ 2 มผี ู้ป่วยสงสัยโรคไข้หวดั นกรับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย ได้แก่ 1) บรหิ ารจัดการด้านการส่อื สารในภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสขุ โดยการประชมุ ชแี้ จงทีมงาน 2) จดั เตรียมประเด็น ขอ้ มลู ข่าวสาร สำ�หรับการแถลงข่าว 3) จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เป็นระยะและต่อเน่ือง เพื่อสร้างความเช่ือม่ันและลดความ ตระหนกประชาชน 4) แถลงข่าว โดย อธิบดีกรมที่เก่ียวขอ้ ง หรอื /และโฆษกกระทรวง/กรมทเ่ี ก่ียวขอ้ ง หรือผูท้ ่ีไดร้ ับ มอบหมาย (กรณีผลทางห้องปฏิบัติการเปน็ ลบตอ่ เชื้อไขห้ วดั นก สายพันธ์ุ เอช 5 เอ็น 1 หรอื สายพันธุ์อน่ื ๆ) 5) ใหส้ ัมภาษณ์สือ่ มวลชน โดย อธบิ ดกี รมท่เี ก่ยี วขอ้ ง หรอื /และ โฆษกกระทรวง/กรมท่เี กย่ี วข้อง 6) ผลิตและเผยแพรส่ อื่ เผยแพรข่ ้อมูลทางโทรทศั น,์ วทิ ยุ, หนังสือพมิ พ์ 7) ใหข้ อ้ มูลขา่ วสาร และรบั แจง้ เหตุทาง call center ทหี่ มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8) ประสานทมี วิทยากร และทปี่ รึกษา ในกรณีน�ำ เสนอข้อมูลเชิงวชิ าการ 9) ประชาสมั พนั ธเ์ คลอื่ นทล่ี งชมุ ชนในพนื้ ทเ่ี สยี่ ง สรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยประชาสมั พนั ธใ์ นระดบั ชุมชน 10) ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนสำ�คัญต่อการป้องกัน ควบคมุ โรคท่ีเกดิ กับประชาชนและชุมชน รวมท้ังจดั กิจกรรมพิเศษ และรณรงคใ์ นพนื้ ท่ีเสยี่ ง แนวทางการส่ือสารความเสี่ยง กรณีมีผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรค และ/หรือ มีผู้สัมผัสอยู่ในพ้ืนที่ ก�ำ หนดเฉพาะ 1) กรณสี งสยั รายที่ 1-3 การใหส้ มั ภาษณส์ อื่ มวลชน ด�ำ เนนิ การโดยศนู ยป์ ฏบิ ตั ติ อบโตภ้ าวะฉกุ เฉนิ ทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ระดบั กระทรวง โดยปลดั กระทรวง/รองปลดั กระทรวงทดี่ แู ล ศูนยป์ ฏิบัตกิ ารฯ แถลงขา่ ว ท้งั น้ี อธบิ ดกี รมทีเ่ กยี่ วข้องร่วมใหข้ อ้ มูล 2) ในกรณีสงสัยรายที่ 4 เป็นต้นไป อาจจะแถลงหรือไม่แถลงก็ได้ การแถลงข่าวโดยอธิบดีกรมที่ เกี่ยวข้อง/โฆษกระดับกระทรวงหรือกรมที่ได้รับมอบหมาย ในกรณีการแถลงข่าวหรือให้ข่าว โดยพนื้ ที่ จะด�ำ เนนิ การเมอื่ ประเมนิ สถานการณต์ า่ งๆ วา่ เหมาะสมตอ่ การด�ำ เนนิ งานระดบั พน้ื ทแ่ี ลว้ 76 แนวทางการสอื่ สารความเสีย่ ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทท่ี 8 การสื่อสารความเส่ยี ง กรณีโรคไขห้ วดั นก 3) การสื่อสารความเส่ียงในชุมของผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคให้ดำ�เนินการโดยอาศัยกลไก ผู้นำ�ชุมชน อสม. โดยเป็นการส่ือสารให้เกิดความเข้าใจ ในธรรมชาติของโรค มาตรการของ กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ ท้ังนี้ ให้ประสานความร่วมมือในระดับผู้ว่าราชการ จังหวัดและระดับนายอำ�เภอโดยประเด็นสื่อสารสำ�คัญคือ โรคไข้หวัดนก คนสามารถติดเช้ือ จากสัตว์ได้โดยจากการสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยตรง และโดยอ้อมจากการสัมผัสสิ่งคัดหล่ัง จากสัตว์ ท่เี ป็นโรค เชน่ อจุ จาระ น้ํามกู น้าํ ตา นํา้ ลายของสัตวท์ ีป่ ว่ ย โดยเม่อื สมั ผสั สตั ว์ท่ีป่วย แลว้ มักเอามอื มาสมั ผัสกับหน้า จมูก หรือปาก ตนเอง ท�ำ ให้รบั เช้ือเขา้ สรู่ ่างกาย ซ่ึงขณะนย้ี ัง ไม่ทราบว่าคนติดเช้ืออย่างไร แต่จากข้อมูลผู้ป่วย พบว่า มีประวัติการสัมผัสหรืออยู่ในสิ่ง แวดลอ้ มท่ีมสี ัตว์ เชน่ ตลาดคา้ สัตว์ปีกมีชวี ติ นอกจากนย้ี ังตรวจพบเชอ้ื ในนกพิราบ เปด็ และไก่ สว่ นการแพรก่ ระจายทางอากาศ (Airborne) และการตดิ ตอ่ จากคนสคู่ น มโี อกาสเปน็ ไปไดแ้ ตน่ อ้ ย 4) การส่ือสารความเสี่ยงกับผู้สัมผัส และถูกกำ�หนดให้อยู่ในพ้ืนที่เฉพาะ ให้ดำ�เนินการส่ือสาร ธรรมชาติของโรค มาตรการกระทรวงสาธารณสุข และความจำ�เป็นท่ีจะต้องเฝ้าระวัง อย่างเขม้ ข้น ดว้ ยความเขา้ ใจ เพอื่ ใหเ้ กดิ การยอมรับและรว่ มมือในกระบวนการดำ�เนินงาน 5) การสอบสวนโรค และการเขา้ ทำ�ลายเช้อื (disinfectant) ที่พกั สถานท่ีที่เกี่ยวขอ้ ง วัสดุอุปกรณ์ ในชุมชนรวมทั้งการก�ำ จัดสัตว์เล้ียง/สตั ว์ปีก ใหท้ ำ�ความเขา้ ใจถงึ ความจำ�เป็นในการดำ�เนนิ การ ตามมาตรฐานตามคำ�แนะนำ�ระดบั สากล แก่ เจ้าของ เพอ่ื นบ้าน และชุมชน 6) ชี้แจงทำ�ความเข้าใจแก่บุคลากรเจ้าหน้าท่ีโรงพยาบาลท่ีต้องปฏิบัติหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับผู้เข้า เกณฑ์หรือผู้สัมผัส ว่า โรคไข้หวัดนกติดต่อจากคนสู่คนน้อยมาก และสามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำ�แนะนำ� เรื่องการป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล และการปฏิบัติ อย่างถูกต้องถือเป็นผ้ไู มม่ ีความเสยี่ งและไมใ่ ชผ่ ู้สัมผัสโรค สามารถด�ำ รงชวี ติ ได้ตามปกติ 7) แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบุคลากรที่เก่ียวข้อง ระวังการส่ือสารด้วยสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะขอ้ ความความเปน็ สว่ นตวั ผเู้ ขา้ เกณฑต์ อ้ งสอบสวนโรค และผสู้ มั ผสั ตา่ งๆ โดยปกปอ้ ง ขอ้ มลู ความเปน็ สว่ นตัวของผู้เข้าเกณฑ์ตอ้ งสอบสวนโรค และผสู้ ัมผสั 8) ช้ีแจงทำ�ความเข้าใจแก่ประชาชน ว่า โรคไข้หวัดนกติดต่อคนสู่คนได้น้อย แต่อาจจะสามารถ ติดต่อจากคนสู่คน ผ่านทางฝอยละออง (Droplet) ไดแ้ ก่ น้ํามกู นา้ํ ลายจากผูป้ ว่ ยท่ีมเี ชอื้ ไปยงั บุคคลอื่น โดยการไอ หรือจามและการสัมผัสใกล้ชิดกับสารคัดหล่ังจากทางเดินลมหายใจของ ผ้ปู ่วยเปน็ หลกั สว่ นการแพรก่ ระจายทางอากาศ (Airborne) มีโอกาสเปน็ ไปไดแ้ ตน่ ้อย 9) การขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำ�เสนอข่าวท่ีเป็นจริง เพ่ือลดความตระหนกของ สาธารณชน รวมทง้ั เคารพความเปน็ ส่วนตวั ของผปู้ ่วยและผู้สัมผัส ระยะที่ 3 มีผู้ป่วยโรคไขห้ วดั นก รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 1- 3 1) บรหิ ารจัดการด้านการสื่อสารในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสขุ 2) จัดเตรยี มประเด็น ขอ้ มูลขา่ วสาร สำ�หรบั การแถลงขา่ ว 3) จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เป็นระยะและต่อเน่ือง เพื่อสร้างความเชื่อม่ันประชาชน ใหป้ ระชาชนมีพฤติกรรมในการปอ้ งกนั การเจ็บป่วย และลดความตระหนก 4) แถลงข่าว ในผู้ป่วยรายท่ี 1 ควรแถลงข่าวโดย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีอธิบดีกรมที่ เกีย่ วขอ้ ง และโฆษกกระทรวง/กรมท่ีเกยี่ วข้องรว่ มให้ข้อมลู นอกจากนี้ ควรมีนายแพทย์ สสจ. และแพทย์ผ้ดู ูแลผปู้ ว่ ยร่วมในงานแถลงขา่ วด้วย เผือ่ วา่ สอ่ื มวลชนจะซักถามเพม่ิ เติม กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 77

บทที่ 8 การสอ่ื สารความเสี่ยง กรณโี รคไขห้ วดั นก 5) ใหส้ มั ภาษณส์ อ่ื มวลชน โดย รฐั มนตรวี า่ การ สธ. และ/หรอื ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ โดยอธบิ ดี กรมท่ีเก่ยี วข้อง หรือ/และ โฆษกกระทรวง/กรมท่ีเก่ยี วขอ้ งร่วมให้ขอ้ มูล 6) ผลติ และเผยแพรส่ อ่ื เผยแพรข่ อ้ มูลทางโทรทศั น,์ วทิ ย,ุ หนังสือพมิ พ์ 7) ให้ข้อมูลขา่ วสาร และรับแจง้ เหตุทาง call center ทหี่ มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8) ประสานทมี วิทยากร และท่ปี รกึ ษา ในกรณนี �ำ เสนอขอ้ มลู เชงิ วิชาการ 9) ประชาสมั พนั ธเ์ คลอื่ นทล่ี งชมุ ชนในพน้ื ทเ่ี สยี่ ง สรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยประชาสมั พนั ธใ์ นระดบั ชมุ ชน 10) ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เก่ียวข้อง และผู้มีส่วนสำ�คัญต่อการป้องกัน ควบคุมโรค ท่ีเกิดกับประชาชนและชุมชน รวมทั้งการจัดกิจกรรมพิเศษ และรณรงค์ในพ้ืนท่ี มีรายงานผปู้ ่วยโรคไขห้ วดั นก แนวทางการสอื่ สารความเสยี่ ง ระยะมผี ปู้ ว่ ยโรคไขห้ วดั นกรบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 1-3 วัตถุประสงค์เพื่อลดความตื่นตระหนกในวงกว้าง สร้างความเช่ือมั่นในกระบวนการทำ�งาน มาตรการของหน่วยงานต่างๆ รายละเอยี ดการสอ่ื สารความเส่ยี งดังนี้ 1. กรณีผู้ปว่ ยยืนยันโรคไขห้ วดั นก รายท่ี 1-3 การใหส้ มั ภาษณ์สือ่ มวลชน ด�ำ เนนิ การโดยศูนย์ปฏบิ ัติ การตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวง โดยปลัดกระทรวง/ รองปลดั กระทรวงทีด่ แู ลศนู ยป์ ฏิบัตกิ ารฯ แถลงขา่ ว ทั้งน้ี อธิบดีกรมทีเ่ กีย่ วข้องรว่ มให้ข้อมลู 2. ในผ้ปู ่วยยนื ยันโรคไข้หวดั นก รายที่ 4 เป็นต้นไป อาจจะแถลงหรือไม่แถลงกไ็ ด้ การแถลงข่าวโดย อธบิ ดกี รมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง/โฆษกระดบั กระทรวงหรอื กรมทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ในกรณกี ารแถลงขา่ วหรอื ใหข้ า่ วโดยพน้ื ทจี่ ะด�ำ เนนิ การ เมอ่ื ประเมนิ สถานการณต์ า่ งๆ วา่ เหมาะสมตอ่ การด�ำ เนนิ งานระดบั พนื้ ท่ีแลว้ 3. การสื่อสารความเส่ียงในชุมของผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคให้ดำ�เนินการโดยอาศัยกลไก ผนู้ �ำ ชมุ ชน อสม. โดยเปน็ การสอื่ สารใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ ในธรรมชาตขิ องโรค มาตรการของกระทรวง สาธารณสขุ หนว่ ยงานภาครฐั ทงั้ นี้ ใหป้ ระสานความรว่ มมอื ในระดบั ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และระดบั นายอำ�เภอโดยประเด็นสือ่ สารส�ำ คญั คือ โรคไข้หวดั นก คนสามารถตดิ เชือ้ จากสัตวไ์ ด้โดยจากการ สัมผัสกับสัตวป์ ่วยโดยตรง และโดยออ้ มจากการสัมผสั ส่งิ คัดหลง่ั จากสัตว์ ทีเ่ ปน็ โรค เช่น อจุ จาระ นํา้ มูก น้าํ ตา นาํ้ ลายของสัตว์ทปี่ ่วย โดยเม่ือสัมผัสสัตว์ที่ป่วยแล้วมักเอามือมาสมั ผสั กบั หน้า จมูก หรอื ปาก ตนเอง ท�ำ ใหร้ บั เชอ้ื เขา้ สรู่ า่ งกาย ซง่ึ ขณะนย้ี งั ไมท่ ราบวา่ คนตดิ เชอ้ื อยา่ งไร แตจ่ ากขอ้ มลู ผปู้ ว่ ย พบวา่ มปี ระวตั กิ ารสมั ผสั หรอื อยใู่ นสงิ่ แวดลอ้ มทมี่ สี ตั ว์ เชน่ ตลาดคา้ สตั วป์ กี มชี วี ติ นอกจากนี้ ยังตรวจพบเช้อื ในนกพริ าบ เปด็ และไก่ ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne) และการ ตดิ ต่อจากคนสคู่ น มโี อกาสเปน็ ไปไดแ้ ตน่ อ้ ย 4. การสื่อสารความเส่ียงกับผู้สัมผัส และถูกกำ�หนดให้อยู่ในพ้ืนที่เฉพาะ ให้ดำ�เนินการสื่อสาร ธรรมชาตขิ องโรค มาตรการกระทรวงสาธารณสขุ และความจ�ำ เปน็ ทจี่ ะตอ้ งเฝา้ ระวงั อยา่ งเขม้ ขน้ ดว้ ยความเข้าใจ เพ่อื ใหเ้ กดิ ยอมรับและรว่ มมอื ในกระบวนการดำ�เนนิ งาน 5. การสอบสวนโรค และการเขา้ ท�ำ ลายเชอื้ (disinfectant) ทพี่ กั สถานทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ ง วสั ดอุ ปุ กรณใ์ น ชมุ ชนรวมทั้งการก�ำ จดั สตั วเ์ ล้ยี ง/สตั ว์ปีก ให้ทำ�ความเขา้ ใจถงึ ความจำ�เป็นในการด�ำ เนนิ การตาม มาตรฐานตามคำ�แนะน�ำ ระดบั สากล แก่ เจ้าของ เพ่อื นบา้ น และชุมชน 78 แนวทางการสือ่ สารความเสีย่ ง ในภาวะวิกฤติ

บทท่ี 8 การส่ือสารความเสย่ี ง กรณโี รคไขห้ วัดนก 6. ชี้แจงทำ�ความเข้าใจแก่บุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่ีต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้า เกณฑ์หรือผู้สัมผัส ว่า โรคไข้หวัดนกติดต่อจากคนสู่คนน้อยมาก และสามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำ�แนะนำ� เรื่องการป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล และการปฏิบัติ อย่างถูกต้องถือเปน็ ผไู้ ม่มีความเส่ยี งและไม่ใช่ผู้สมั ผัสโรค สามารถด�ำ รงชีวิตได้ตามปกติ 7. แจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ระวังการสื่อสารด้วยสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะขอ้ ความความเป็นสว่ นตวั ผูเ้ ขา้ เกณฑต์ ้องสอบสวนโรค และผสู้ ัมผัสต่างๆ โดยปกป้อง ขอ้ มูลความเปน็ ส่วนตวั ของผู้เข้าเกณฑต์ ้องสอบสวนโรค และผ้สู ัมผัส 8. ชแี้ จงท�ำ ความเขา้ ใจแกป่ ระชาชน วา่ โรคไขห้ วดั นกตดิ ตอ่ คนสคู่ นไดน้ อ้ ย แตอ่ าจจะสามารถตดิ ตอ่ จากคนสู่คน ผ่านทางฝอยละออง (Droplet) ได้แก่ น้ํามกู น้าํ ลายจากผปู้ ว่ ยทมี่ ีเชื้อไปยงั บคุ คลอ่นื โดยการไอ หรอื จามและการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สารคดั หลงั่ จากทางเดนิ ลมหายใจของผปู้ ว่ ยเปน็ หลกั สว่ นการแพรก่ ระจายทางอากาศ (Airborne) มโี อกาสเป็นไปไดแ้ ตน่ ้อย 9. การขอความร่วมมอื ส่อื มวลชนในการนำ�เสนอขา่ วที่เปน็ จรงิ เพือ่ ลดความตระหนกของสาธารณะ ชน รวมทั้งเคารพความเปน็ ส่วนตัวของผู้ปว่ ยและผ้สู มั ผัส ระยะท่ี 4 มผี ปู้ ่วยโรคไข้หวดั นก รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายที่ 4 ข้นึ ไป 1) บรหิ ารจัดการด้านการสอ่ื สารในภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสขุ 2) จัดเตรียมประเด็น ข้อมลู ขา่ วสาร สำ�หรับการแถลงขา่ ว 3) จัดทำ�ข่าวแจก (Press release) เป็นระยะและต่อเน่ือง เพ่ือสร้างความเช่ือม่ันประชาชน ให้ ประชาชนมพี ฤตกิ รรมในการปอ้ งกันการเจ็บป่วยลด และความตระหนก 4) แถลงขา่ วโดยปลดั กระทรวงสาธารณสขุ และ/หรอื รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย โดยอธิบดีกรมท่ีเกี่ยวข้อง และ/หรือโฆษกกระทรวง/กรมที่เก่ียวข้องร่วมให้ข้อมูล นอกจากนี้ ควรมีนายแพทย์ สสจ. และแพทย์ผดู้ ูแลผปู้ ว่ ย รว่ มในงานแถลงขา่ วด้วย เผอ่ื ว่าสื่อมวลชนจะ ซกั ถามเพิ่มเติม 5) ให้สัมภาษณ์ส่ือมวลชน โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่ีได้รับ มอบหมายอธบิ ดกี รมที่เกี่ยวข้อง หรอื /และ โฆษกกระทรวง/กรมที่เกีย่ วขอ้ ง/นายแพทย์ สสจ./ แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วย 6) ผลิตและเผยแพร่สอ่ื เผยแพรข่ ้อมูลทางโทรทัศน์, วทิ ยุ, หนังสือพมิ พ์ 7) ให้ข้อมลู ขา่ วสาร และรับแจง้ เหตทุ าง call center ทห่ี มายเลข 1422 และ 0 2590 3333 8) ประสานทมี วิทยากร และทีป่ รึกษา ในกรณีนำ�เสนอขอ้ มูลเชงิ วชิ าการ 9) ประชาสมั พนั ธเ์ คลอ่ื นทลี่ งชมุ ชนในพน้ื ทเี่ สย่ี ง สรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยประชาสมั พนั ธใ์ นระดบั ชุมชน 10) ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนสำ�คัญต่อการป้องกัน ควบคุมโรค ที่เกิดกับประชาชนและชุมชน รวมทั้งจัดกิจกรรมพิเศษ และรณรงค์ ในพื้นท่ีที่มี รายงานผปู้ ว่ ยโรคไขห้ วดั นก แนวทางการสอ่ื สารความเสย่ี ง ระยะมผี ปู้ ว่ ยโรคไขห้ วดั นก รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายท่ี 4 การส่ือสารความเสี่ยงในกรณีนี้ดำ�เนินการเช่นเดียวกับมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกได้รับการ รกั ษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย รายท่ี 1-3 โดยมีวัตถปุ ระสงค์ เพอื่ ลดความตืน่ ตระหนกในวงกวา้ ง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ 79

บทที่ 8 การส่ือสารความเสย่ี ง กรณโี รคไขห้ วดั นก สร้างความเช่ือมน่ั ในกระบวนการทำ�งาน มาตรการของหน่วยงานต่างๆ สร้างพนั ธมิตรและความร่วมมือ ในการควบคุมการระบาดและลดผลกระทบจากการระบาดของโรค สำ�หรับการกำ�หนดทิศทาง ข้อมูล เน้ือหา กระบวนการ ให้มาจากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ระดบั ประเทศ ระยะที่ 5 หลังการระบาดของโรคไข้หวัดนกในวงกวา้ ง ไดแ้ ก่ 1. วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมนิ วางแผนสือ่ สารประชาสัมพันธห์ ลังเกดิ เหตุ - การปอ้ งกัน รักษา และควบคมุ โรคระบาด - สรปุ บทเรียน 2. จดั เตรยี มประเด็น ขอ้ มลู ข่าวสาร สำ�หรบั การแถลงขา่ ว 3. จดั แถลงข่าวสือ่ มวลชน (Press conference) สรุปสถานการณแ์ ละการด�ำ เนินงาน 4. ให้สมั ภาษณส์ ื่อมวลชน (Press interview) 5. ใหบ้ รกิ ารขา่ วสารทางเวบ็ ไซต์ แนวทางการสื่อสารความเสี่ยงระยะหลงั การระบาดของโรคไข้หวัดนกในวงกวา้ ง การสื่อสารความเสี่ยงในกรณีนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสรุปเหตุการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนก ทั้งหมด ผลการดำ�เนินงานของหน่วยงาน เช่น การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค การรักษาผู้ป่วย และผูส้ มั ผัส เป็นตน้ ความส�ำ เร็จในการด�ำ เนินงานและความร่วมมือจากหนว่ ยงานต่างๆ รวมทงั้ ขอบคณุ ประชาชนและหน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งในการด�ำ เนินงานปอ้ งกนั และควบคมุ โรค แนว- ทาผงสู้อ�ำำ�หนรวบัยพกานื้ รทโร่/ี ผงพู้อ�ำยนาบวยาลกา/นรโารยงแพพยทาบย์สาลาธ/นาราณยแสพุขทจังยห์สวาัดธาในรณพื้นสทขุ จ่ี ไังมห่คววดั รใใหน้ขก่าาวรใกหับ้ขส่า่ือวมวลชน ทั้งกรณีผู้ป่วยสงสัย และผู้ป่วยยืนยัน ยกเว้นผู้บริหารส่วนกลาง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ปลดั กระทรวงสาธารณสุข หรือ อธิบดที เ่ี กีย่ วขอ้ งไดใ้ หข้ ่าวแลว้ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในผ้ปู ว่ ยสงสัยและผ้ปู ว่ ยยนื ยันรายแรกๆ - ถ้าไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ หรือ สื่อมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ทันทีทันใด สามารถให้ข้อมูลว่า มีผู้ป่วยที่มีอาการโรคติดเชื้อระบบทางเดินลมหายใจเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่เพื่อ ปกป้องสิทธขิ องผปู้ ว่ ยจึงไมส่ ามารถให้ขอ้ มูลหรือรายละเอียดของผู้ป่วยได้ - หากสอ่ื มวลชนถามค�ำ ถามดว้ ยความกา้ วรา้ วอยา่ แสดงความไมพ่ อใจ ควบคมุ อารมณก์ อ่ นจะตอบ ค�ำ ถามดว้ ยความสงบ อยา่ ท�ำ ตวั เหนิ หา่ งและเปน็ ปฏปิ กั ษก์ บั ผสู้ อื่ ขา่ ว หลกี เลย่ี งการใชค้ �ำ สรา้ งสสี นั เกินจรงิ พดู นอกประเดน็ วกวน และยดื เย้อื เป็นต้น - การใหข้ ่าวหรอื สมั ภาษณ์ ควรใหข้ ่าวโดยหวั หนา้ สว่ นราชการนนั้ ๆ เชน่ ผ้อู �ำ นวยการโรงพยาบาล นายแพทยส์ าธารณสขุ จังหวัดหรอื รองนายแพทย์สาธารณสขุ จงั หวัดทไี่ ดร้ บั มอบหมาย - สง่ิ ท่ตี ้องระวงั ส่อื มวลชนจะไปสอบถามบุคลากรอ่ืนๆ ในโรงพยาบาล ผูอ้ ำ�นวยการโรงพยาบาล/ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในพ้ืนท่ี ต้องกำ�ชับบุคลากรในหน่วยงาน ว่า เพื่อปกป้องสิทธิของ ผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับผปู้ ว่ ยได้ - การขอความรว่ มมอื สอื่ มวลชนในการน�ำ เสนอขา่ วทเ่ี ปน็ จรงิ เพอ่ื ลดความตระหนกของสาธารณชน รวมทง้ั เคารพความเปน็ สว่ นตวั ของผู้ป่วยและผู้สัมผสั 80 แนวทางการส่ือสารความเส่ยี ง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 9 แแนละวปทราะงชกาาสรมั สพอ่ื ันสธาร์โรคควแาลมะเสภย่ีัยงสุขภาพ การส่ือสารความเสี่ยง และประชาสมั พันธ์ เปน็ การเผยแพร่ข้อมูล ถา่ ยทอดเร่อื งราว ข่าวสาร แกก่ ลมุ่ ประชาชนเป้าหมาย ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ จากสถาบันหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึง่ โดยมีการวางแผน กำ�หนดวัตถุประสงค์ และดำ�เนินการเพื่อบอกกล่าวให้ทราบ โดยผ่านช่องทาง การสื่อสาร หรอื สอื่ ทใ่ี ชใ้ นการประชาสมั พันธท์ ่เี หมาะสม ประเภทของสื่อท่ีใชใ้ นการประชาสัมพนั ธ์ 1. สอื่ มวลชน เชน่ หนังสือพมิ พ์ นติ ยสาร วทิ ยุกระจายเสียง วทิ ยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ 2. สอื่ ส่งิ พิมพ์ เช่น แผน่ ปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ จดหมายขา่ ว หรือเอกสารทเ่ี ย็บเปน็ เล่ม เช่น วารสาร เอกสารเผยแพร่ หนงั สอื ในโอกาสตา่ ง ๆ รายงานประจ�ำ ปี 3. ส่อื โสตทัศน์ เช่น เทปบันทกึ เสยี ง เทปวีดที ศั น์ ฟลิ ม์ ภาพยนตร์ แผน่ ดิสเกต็ แผ่นซีดรี อม และจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 4. สอื่ กิจกรรม เช่น การจดั นทิ รรศการ การจดั การแสดง และการจดั กิจกรรมต่าง ๆ หลักการส�ำ คัญในการดำ�เนินการประชาสมั พนั ธ์ 1. การกำ�หนดวัตถุประสงค์ (Objective) จะต้องกำ�หนด หรือระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เราตอ้ งการสรา้ งความเข้าใจส่ิงใดบา้ ง หรอื ตอ้ งการแกป้ ญั หาใด 2. การก�ำ หนดกลุ่มประชาชนเปา้ หมาย (Target Determination) จะต้องระบุให้แนช่ ัดวา่ กล่มุ ประชาชนเป้าหมายคอื ใคร มพี ืน้ ฐานการศกึ ษาหรอื ภมู ิหลงั อยา่ งไร 3. การกำ�หนดหัวเรื่อง (Theme Setting) ต้องกำ�หนดให้แน่นอนว่าแนวหัวเร่ืองนั้น จะเนน้ ในทางใด อาจก�ำ หนดเปน็ สญั ลกั ษณ์ ขอ้ ความสนั้ ๆ หรอื ค�ำ ขวญั เพอ่ื ดงึ ดดู ความสนใจ และงา่ ยต่อการจดจ�ำ 4. ก�ำ หนดชว่ งระยะเวลา (Timing) ตอ้ งมกี ารก�ำ หนดชว่ งระยะเวลาหรอื จงั หวะเวลาทเ่ี หมาะสม ทสี่ ดุ ในการปฏิบัตงิ านใหม้ ีประสทิ ธิภาพ 5. การก�ำ หนดสอ่ื และเทคนคิ ตา่ งๆจะตอ้ งก�ำ หนดใหช้ ดั เจนวา่ จะใชส้ อื่ เครอ่ื งมอื หรอื เทคนคิ ใด ให้เหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ และกลุม่ ประชาชนเปา้ หมาย 6. การก�ำ หนดงบประมาณ ตอ้ งก�ำ หนดงบประมาณทใ่ี ชใ้ นการด�ำ เนนิ งานใหช้ ดั เจนโดยค�ำ นงึ ถงึ ความคุ้มค่าในการใช้จา่ ยเงนิ ขอ้ สงั เกตของคณะอนกุ รรมาธกิ ารฯ ดา้ นการโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ ควรเปลย่ี นรปู แบบ และวธิ กี าร เผยแพร่ข้อมูลด้านการประชาสัมพันธใ์ ห้ทนั สมยั ใชต้ น้ ทนุ ตาํ่ ตามข้อพจิ ารณาดังนี้ 1. ใชส้ ่อื ที่เป็นของส่วนราชการ เช่น สถานีโทรทัศนช์ ่อง 9 และช่อง 11 2. ใหส้ ว่ นราชการใช้ส่ือเทคโนโลยี เช่น ประชาสมั พนั ธผ์ า่ นสือ่ อินเตอรเ์ นต็ ใชแ้ ผ่น CD-Rom หรือ ทำ� Website เปน็ ตน้ แทนการจดั พิมพ์รายงานประจ�ำ ปี กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 81

บทที่ 9 แนวทางการสอ่ื สารความเสยี่ งและประชาสัมพนั ธโ์ รคและภัยสขุ ภาพ 3. เลอื กสื่อ และช่วงเวลาใหเ้ หมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย 4. ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เพ่ือให้เป็นข่าว ในลักษณะของการแนะนำ�หรือเผยแพร่ ผลงานของหนว่ ยงาน 5. ควรมีการประเมนิ ผลการใชจ้ ่ายงบประมาณการประชาสมั พนั ธ์ บทเร•ีย นดม้าวนลกมาหราสพื่อนั สธามริตครวาดมา้ เนสกี่ยางรเสหือ่ตสุกาารรคณว์โารมคเสแ่ียลงะภยั สขุ ภาพทีผ่ า่ นมา • พลังของสอื่ มวลชน • พลงั ของประชาชน และ อสม. • ศักยภาพของ Social media • เครดิตของกรมควบคมุ โรค คือขอ้ ความรู้ท่ถี กู ต้อง ทนั การณ์ ชัดเจน เปน็ ประโยชน์ • ความพรอ้ มไมม่ ขี ายตอ้ งเตรยี มไวล้ ่วงหนา้ รายละเอยี ดการด�ำ เนนิ งานด้านการสือ่ สารความเสีย่ ง 1. การใหส้ มั ภาษณ์กบั ส่อื มวลชน(Press Interview) วตั ถุประสงค์ 1) เพือ่ ใหข้ ้อมลู แกป่ ระชาชน 2) เพ่ือแสดงจดุ ยนื ขององค์กรต่อเหตุการณท์ ี่เกดิ ขนึ้ 3) เพ่ือแก้ไขขอ้ ความ หรอื ความเขา้ ใจทผี่ ดิ พลาด 4) เพอื่ ใหผ้ สู้ ่ือข่าวเผยแพร่ข้อมูลขา่ วสารทถ่ี กู ต้อง ขั้นเตรยี มการใหส้ ัมภาษณ์ 1. หลกั ปฏิบัตใิ นข้นั การเตรยี มใหส้ ัมภาษณ์สื่อมวลชน 1.1 เตรียมผ้ทู ่ีจะให้สมั ภาษณ์ (ผบู้ งั คบั บัญชาระดบั สงู หรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย) ซึง่ เตม็ ใจท่ี จะใหส้ มั ภาษณ์ 1.2 ก�ำ หนดประเด็นการให้สมั ภาษณ์เบือ้ งต้นกบั ผ้สู ื่อข่าวล่วงหนา้ 1.3 เตรยี มประเดน็ สมั ภาษณ์ แบบถาม-ตอบทส่ี ัน้ กระชับ และเขา้ ใจงา่ ย (ทางทด่ี ีทสี่ ุด คอื ให้สัมภาษณ์เฉพาะสิ่งท่ี เปิดเผยได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของ ประเทศชาตหิ รอื ของผใู้ ด) 1.4 หากเกิดวิกฤติการณใ์ ดๆ ผู้ใหส้ มั ภาษณต์ อ้ งตอบค�ำ ถามในเชงิ บวก 1.5 ให้ขอ้ มูลขา่ วสารแก่สอ่ื มวลชนเป็นระยะๆ อยา่ งต่อเนื่อง 1.6 เขา้ ใจถงึ ขีดความสามารถ และหนา้ ทขี่ องสื่อมวลชน 1.7 ฉากหลังของบรเิ วณให้สมั ภาษณค์ วรจัดใหเ้ หมาะสม 1.8 หาข้อมูลเก่ียวกบั ผสู้ อ่ื ข่าว เพื่อทราบภูมิหลัง หรือลักษณะนิสัยกอ่ น 2. วธิ ีเตรียมขอ้ มลู ส�ำ หรบั การใหส้ ัมภาษณ์สอื่ มวลชน 2.1 ปจั จยั ควบคมุ ทส่ี �ำ คญั ทสี่ ดุ ในการให้สมั ภาษณ์ คือ “เวลา” - ขา่ วโทรทศั น์ มีเวลาประมาณ 30 – 60 วินาที - ขา่ วหนังสอื พิมพ์ ความยาวประมาณ 10 – 20 คอลมั นน์ ิว้ 82 แนวทางการสื่อสารความเสย่ี ง ในภาวะวิกฤติ

บทท่ี 9 แนวทางการสอ่ื สารความเส่ยี งและประชาสัมพันธ์โรคและภยั สขุ ภาพ ดังน้ันต้องเตรียมประเด็นสำ�คัญท่ีสุดโดยสื่อสารด้วยประโยคสั้นๆ ถ้าต้องการช้ีแจง ในรายละเอียดใหท้ ำ�หลงั จากพดู ประเด็นสำ�คญั ท่ีสุดไปแล้ว 2.2 คาดคะเนประเดน็ ทจ่ี ะถกู สมั ภาษณล์ ว่ งหนา้ และเตรยี มค�ำ ตอบใหต้ รงประเดน็ และกระชบั 2.3 ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติการณ์ชนิดใด ข้อความที่จะให้สัมภาษณ์ควรเป็นข้อมูลทางบวก เช่น ความห่วงใยผู้ที่เจ็บป่วย ความเสียใจต่อผู้สูญเสียชีวิต และครอบครัว ส่ิงที่ได้ ดำ�เนินการ ไปแล้วคืออะไร และจะดำ�เนินการต่อไปอย่างไร รวมท้ังมาตรการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ รา้ ยแรงขึน้ อกี ในอนาคต ข้ันการให้สมั ภาษณ์ สง่ิ ทพ่ี ึงปฏบิ ตั ิ และไม่พึงปฏิบัติในขณะใหส้ ัมภาษณ์สื่อมวลชน สง่ิ ท่ีพงึ ปฏิบตั ิ ส่ิงที่ไมพ่ งึ ปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิต่อผ้สู อ่ื ข่าว เชน่ เดียวกับท่ตี อ้ งการให้ผอู้ นื่ อยา่ ทำ�ตวั เหินหา่ งและเปน็ ปฏปิ กั ษก์ บั ผู้ส่ือขา่ ว ปฏบิ ัติต่อท่าน ผใู้ ห้สัมภาษณ์แตง่ กายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่าใช้คำ�ยอ่ หรอื ศพั ท์เทคนคิ ซง่ึ ประชาชนท่วั ไปอาจ และสถานที่ ไมเ่ ขา้ ใจ การเรียกชอ่ื บคุ คล ตำ�แหนง่ ส่วนราชการหรอื องคก์ ร หากผู้สัมภาษณถ์ ามคำ�ถามดว้ ยความก้าวร้าว ทเ่ี กีย่ วข้อง ต้องแน่ใจวา่ ถูกต้อง อยา่ แสดงความไมพ่ อใจ ควบคมุ อารมณ์ก่อนจะตอบ คำ�ถามด้วยความสงบ พดู เฉพาะประเด็นส�ำ คญั ๆ และให้ข้อมูลสนบั สนนุ เทา่ ท่จี ำ�เป็น หลกี เล่ยี งการใชค้ �ำ สร้างสีสันเกินจรงิ พดู นอกประเด็น พดู เฉพาะประเด็นที่รู้ แตไ่ ม่จ�ำ เป็นต้องพูดทกุ ส่ิงทร่ี ู้ วกวน และยืดเยือ้ ถา้ ไม่สามารถตอบค�ำ ถามได้ ควรใหเ้ หตผุ ลวา่ เพราะ อยา่ รบี ตอบค�ำ ถามในทนั ที ควรฟงั ให้เขา้ ใจ คิดถึง เหตใุ ด ค�ำ ตอบแลว้ จึงตอบ อย่าคาดเดาสถานการณ์ หากไมท่ ราบขอ้ เทจ็ จรงิ หาก “ไมท่ ราบ” ให้ตอบตามตรง แต่ไมค่ วรพดู อยา่ ประเมนิ สถานการณ์ต่ําหรือสงู กว่าความเปน็ จรงิ ว่า“ไม่มีความคิดเห็น” หา้ มลำ�เอียงหรือเลือกใหข้ ้อมลู กับสอ่ื ใดสอื่ หน่ึง ถา้ ผู้สือ่ ขา่ วอ้างถงึ ขอ้ มลู หรือสถิตทิ ่ีคาดเคล่อื น ควรขอแก้ไขให้ถูกตอ้ ง ตดิ ตามผลหลงั การให้สมั ภาษณ์ พร้อมอ�ำ นวย อย่าตดิ สนิ บนเพ่ือขอใหส้ ่อื ลงข่าวให้ ความสะดวกดา้ นข้อมูล 2. การจดั แถลงขา่ วส่อื มวลชน (Press conference) วตั ถปุ ระสงค์ 1) เพื่อใหเ้ กดิ บรรยากาศในการส่อื สาร 2 ทาง โดยมีช่วงถาม-ตอบ เปน็ ชว่ งสำ�คญั 2) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำ�เนินงานป้องกัน และควบคุมภาวะวิกฤติแก่ ผสู้ ่อื ข่าว 3) เพือ่ ให้ผู้ส่อื ข่าวเผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารท่ถี ูกต้อง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 83

บทท่ี 9 แนวทางการสอ่ื สารความเสีย่ งและประชาสมั พันธ์โรคและภยั สขุ ภาพ การจัดแถลงข่าว คือ การจัดให้มีการประชุมพบปะกันระหว่างส่ือมวลชนแขนงต่างๆ กับบุคคล หรือคณะบุคคลขององค์กร ซึ่งมีข่าวสำ�คัญจะแถลงหรือให้สัมภาษณ์ชี้แจงตอบข้อซักถามแก่บรรดา ส่ือมวลชน สำ�หรับผู้ที่ทำ�หน้าที่เป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงตอบข้อซักถามแก่สื่อมวลชนน้ัน อาจเป็น ผบู้ รหิ ารระดบั สงู หรอื อาจจะมผี เู้ ชยี่ วชาญทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เรอ่ื งนน้ั ๆ เปน็ ผชู้ แี้ จงหรอื ใหส้ มั ภาษณ์ โดยมี นกั ประชาสัมพนั ธ์ขององค์กรประจ�ำ อย่ดู ว้ ย โดยหลักการในการจัดแถลงข่าวมีดงั น้ี 1. การกำ�หนดวนั เวลาและสถานที่ จะต้องก�ำ หนด วนั เวลา และสถานที่ ใหแ้ นน่ อน และจำ�นวน คนทคี่ าดวา่ จะมารว่ มดว้ ยทงั้ หมด ส�ำ หรบั เวลานนั้ โดยทว่ั ไปแลว้ จะนยิ มจดั ในชว่ งเวลาประมาณ 10.30 – 11.30 น และ 13.30 – 14.30 น. เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว บรรดาสื่อมวลชน (ชว่ งเชา้ และช่วงเยน็ ) สามารถเขา้ ร่วมดว้ ยอยา่ งสะดวก 2. การจัดเตรียมสถานที่และเคร่ืองมืออุปกรณ์ต่างๆ ท่ีจะใช้ประกอบในการแถลงข่าว ท้ังภาพ และแผนภูมิตา่ งๆ ส่วนใหญ่จะนิยมจัดตามโรงแรม หรือ หอ้ งประชุมของหนว่ ยงาน เนือ่ งจาก มีสถานทีท่ ่ีมคี วามพร้อมในทุกด้าน 3. การจดั เตรยี มสง่ิ พมิ พเ์ อกสารสมดุ แฟม้ คมู่ อื ตา่ งๆ เปน็ สงิ่ พมิ พเ์ พอื่ การประชาสมั พนั ธ์ ส�ำ หรบั ไวใ้ ชแ้ จกจา่ ยแกส่ อื่ มวลชน เพราะจะไดท้ ราบถงึ รายละเอยี ดปลกี ยอ่ ยรวมทง้ั กจิ กรรมตา่ งๆ ของ หน่วยงานได้ดีย่ิงข้ึน หรือสามารถใช้เป็นแนวทางในการถามปัญหาข้อสงสัยต่างๆ เพิ่มเติมได้ รวมทัง้ อาจนำ�ไปใชเ้ ป็นขอ้ มูลประกอบในการเขยี นขา่ วไดด้ ้วย 4. การเชญิ และนัดหมายนกั ข่าวส่อื มวลชน อาจทำ�ได้โดยการส่งจดหมายเชิญหรือบัตรเชิญ หรือ แจ้งขา่ วให้สอื่ มวลชนได้ทราบถึงก�ำ หนดวนั เวลาและสถานท่ที จี่ ะจัดให้มี Press Conference โดยปกตมิ ักใชว้ ธิ ีสง่ จดหมายเชิญ ผ่านทางโทรสาร หรอื /และอีเมล กไ็ ด้ และโทรศพั ท์เชญิ เพือ่ การยนื ยนั อกี ครั้ง 5. การแถลงข่าวและการให้สัมภาษณ์ ต้องจัดเจ้าหน้าท่ีให้การต้อนรับและดูแลสื่อมวลชนตลอด การจดั งาน และผทู้ จี่ ะเปน็ ผใู้ หส้ มั ภาษณค์ วรจะเปน็ ผทู้ อ่ี ยใู่ นฐานะทจี่ ะใหข้ า่ วหรอื ชแ้ี จงขอ้ เทจ็ จรงิ รวมทง้ั ใหค้ วามคดิ เหน็ ในขอบเขตความรบั ผดิ ชอบอยา่ งเตม็ ท่ี นอกจากนย้ี งั คงตอ้ งมผี รู้ หู้ รอื ผเู้ ชยี่ วชาญเฉพาะดา้ น ท�ำ หนา้ ทใ่ี หร้ ายละเอยี ดเฉพาะอยา่ งสงิ่ ทสี่ �ำ คญั ทสี่ ดุ โดยภาพรวมในการ จัดงานควรใหม้ ีบรรยากาศท่ีเปน็ กนั เองมากท่ีสดุ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ : 1) กำ�หนดประเดน็ การแถลงข่าว 2) กำ�หนดตัวบุคคลในการแถลงข่าวท่ีชัดเจน เหมาะสม สามารถให้ข้อมูลเบ้ืองต้น และชี้แจง ปัญหาตา่ งๆขององค์กรได้ พร้อมนัดหมายตารางเวลา และจดั เตรียมข้อมูลข่าวสารใหผ้ ู้แถลง 3) มอบหมายพธิ กี รในการแถลงขา่ ว ซงึ่ มหี นา้ ทด่ี งั นี้ ก�ำ หนดวาระ รปู แบบ หรอื ขน้ั ตอนการแถลงขา่ ว กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการแถลงข่าว ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการแถลงข่าว แนะนำ�โฆษก แจ้งแหล่งข่าวหรือหน่วยงานสำ�หรับสอบถามข้อมูลเพ่ิมเติม ควบคุมเวลาที่ใช้ในการซักถาม ในประเด็นตา่ งๆ และกลา่ วปดิ การแถลงข่าว 4) เลือกเวลาท่ีเหมาะสมในการจัดแถลงข่าว (เช่น 2 ช่ัวโมงก่อนกำ�หนดปิดต้นฉบับของข่าว หนังสือพิมพ์ หรือโดยเร็วท่ีสุดเท่าท่ีเป็นไปได้ เม่ือมีความคืบหน้าสำ�คัญในสถานการณ์หรือ การปฏบิ ตั งิ าน) 84 แนวทางการสอ่ื สารความเส่ยี ง ในภาวะวิกฤติ

บทที่ 9 แนวทางการส่ือสารความเส่ียงและประชาสมั พันธโ์ รคและภัยสขุ ภาพ 5) เลือกสถานท่ีจัดแถลงข่าว จองและจัดสถานที่ รวมท้ังจัดหาเคร่ืองมือโสตทัศน์ท่ีพร้อม ใชง้ าน(สถานทคี่ วรเขา้ ถงึ งา่ ย ไปมาสะดวก มที จี่ อดรถ มปี ลก๊ั ไฟเพยี งพอ มคี สู่ ายโทรศพั ท์ มเี สยี งรบกวนน้อย และอาจมีบรเิ วณทจี่ ัดฉากเวทไี ดเ้ หมาะสมสวยงาม) 6) จัดทำ�เน้ือหาในการแถลงข่าวตามข้อเท็จจริง รวดเร็ว ทันเหตุการณ์และวิเคราะห์ สถานการณ์อย่างละเอยี ด 7) แจ้งให้ส่ือมวลชนทราบกำ�หนดการแถลงข่าว สถานที่และเวลาในการจัดแถลงข่าวอย่าง ชัดเจน 8) จดั เตรยี มแฟม้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร และวสั ดทุ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การแถลงขา่ วส�ำ หรบั สอ่ื มวลชน เชน่ หน้ากากป้องกันโรค เตรียมอาหารว่าง/เคร่ืองดื่ม หรือ อาหาร ตามความเหมาะสม เตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือ หรืออำ�นวยความสะดวกแก่ผู้สื่อข่าว ในส่ิงท่ีอาจ ตอ้ งการเพิ่มเติมภายหลงั การแถลงข่าว 9) ด�ำ เนินการแถลงข่าว 10) ประเมนิ ผลการจดั แถลงขา่ ว 3. การน�ำ ผ้สู อื่ ขา่ วดูงานในพื้นที่ (Study tours) วัตถุประสงค์ 1) เพือ่ ใหผ้ สู้ ื่อขา่ วได้เหน็ การปฏบิ ตั ิงานในพ้ืนท่จี รงิ 2) เพ่อื แลกเปลีย่ นความคิดเห็น 3) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำ�เนินงานป้องกันและควบคุมภาวะฉุกเฉิน โรคและภยั สขุ ภาพ 4) เพ่ือให้ผู้ส่ือขา่ วเผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารทีถ่ ูกตอ้ ง ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ : 1) กำ�หนดประเด็นการสัมมนา และกำ�หนดพ้ืนท่ีดูงาน รวมทั้งหาข้อมูลเพื่อการจัดงาน และเตรียมขอ้ มลู ส�ำ หรบั ส่ือมวลชน 2) จัดท�ำ โครงการและก�ำ หนดการสัมมนา (Agenda) พรอ้ มจัดท�ำ งบประมาณ 3) ประสานพืน้ ทใี่ หเ้ ตรยี มพืน้ ทดี่ งู าน และอำ�นวยความสะดวก 4) เชญิ วิทยากร แขกรับเชิญ และสอื่ มวลชน เพ่ือเขา้ รว่ มสัมมนา 5) จัดเตรียมสถานท่ี ห้องพัก ห้องประชุม ยานพาหนะ อาหาร พร้อมศึกษาเส้นทางการ เดนิ ทาง 6) จัดเตรยี มขา่ วแจก เอกสาร และส่ือประกอบการดงู าน 7) เตรียมจดั งานสอื่ มวลชนสัมพนั ธ์ ระหว่างการประชุมและดงู าน 8) เตรียมเอกสาร และส่อื ส�ำ หรบั วทิ ยากร 9) ประเมินผลการจดั สมั มนา 10) สรปุ ผลการสมั มนา ดูงาน และปรบั ปรุงในการจัดครัง้ ตอ่ ไป กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 85

บทที่ 9 แนวทางการสือ่ สารความเส่ยี งและประชาสัมพันธโ์ รคและภัยสขุ ภาพ 4. การจัดสัมมนากลุม่ เปา้ หมายเฉพาะ วตั ถุประสงค์ 1) เพอื่ ใหก้ ลุม่ เป้าหมายมคี วามรู้ความเขา้ ใจในการป้องกันตนเอง 2) เพอื่ ใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายรสู้ กึ มสี ว่ นรว่ มในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขภาวะฉกุ เฉนิ โรคและภยั สขุ ภาพ 3) เพอ่ื ให้กลมุ่ เปา้ หมายทราบรายละเอยี ดอยา่ งชัดเจน กล่มุ เป้าหมายเฉพาะ คือ กลุ่มทม่ี ีความต้องการข้อมูลทีแ่ ตกตา่ งจากกลุ่มผู้รบั สารทัว่ ไป เชน่ ตอ้ งการ ทราบวิธีป้องกันตนเองอย่างละเอียด หรือต้องการข้อมูลในเชิงลึก เช่น ต้องการทราบนโยบายหรือ วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ชี่ ดั เจน ตอ้ งการทราบระเบยี บวธิ กี ารในการเรยี กรอ้ งคา่ ชดเชยอยา่ งละเอยี ด ตอ้ งการขอ้ มลู ในภาษาต่างประเทศหรือภาษาถิ่น โดยกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะอาจไดแ้ ก่ 1) เจ้าหนา้ ทต่ี อบโต้ภาวะฉุกเฉนิ 2) ประชาชนท่ไี ดร้ ับความเสยี หายหรอื ผลกระทบโดยตรง 3) ลกู จา้ งหรือคนงาน 4) แรงงานตา่ งด้าว ขนั้ ตอนการปฏิบัติ : 1) จัดท�ำ โครงการประชุมสัมมนาและวาระการประชุม (Agenda) 2) ขออนมุ ัติโครงการ 3) จดั ตง้ั คณะท�ำ งานจดั ประชุม 4) ประชมุ หารอื ถงึ แนวทางการจัดงาน และรายละเอียดกิจกรรม 5) เชญิ วทิ ยากร และผูเ้ ข้ารว่ มประชุมตามกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะ 6) เตรยี มสถานท่ี วสั ดุอปุ กรณ์การประชุม 7) ด�ำ เนนิ การประชุม 8) ประเมินผลการจัดประชมุ 5. การจดั ทำ�ข่าวแจก (Press release) วัตถุประสงค์ 1) เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั กจิ กรรมหรอื เหตกุ ารณต์ า่ งๆทเี่ กดิ ขน้ึ ภายในหนว่ ยงานกบั สอ่ื มวลชน ได้รบั ทราบ 2) เพ่ือให้สื่อมวลชนถ่ายทอดขอ้ มูล ขา่ วสาร หรือข้อเท็จจริงไปยังประชาชน 3) เพ่ือใหป้ ระชาชนรบั ทราบความเคลือ่ นไหวและความเป็นไปอย่างต่อเน่ือง 4) เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใจและยอมรบั กิจกรรมการด�ำ เนนิ งานของหนว่ ยงาน ข้ันตอนการปฏิบตั ิ : 1) เตรยี มประเดน็ ข่าว และหาขอ้ มลู 2) ประสานผ้บู รหิ ารระดบั สงู หรอื ผใู้ หข้ า่ ว 3) เขียนขา่ วภาษาไทย 4) ตรวจสอบความถูกตอ้ งกับผบู้ ังคบั บญั ชา 5) แปลเป็นภาษาอนื่ ๆ หากจำ�เป็น แล้วตรวจสอบความถกู ต้องอีกครัง้ 86 แนวทางการสอ่ื สารความเสีย่ ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทท่ี 9 แนวทางการสอื่ สารความเสี่ยงและประชาสัมพนั ธ์โรคและภัยสขุ ภาพ 6) ผลติ ข่าวแจก และขอการอนุญาตเผยแพร่ 7) ส่งข่าวใหส้ อ่ื มวลชนโดยทางโทรสาร อีเมล และข้อความสัน้ 8) ส่งขา่ วให้ผดู้ แู ลเว็บไซต์ และศนู ยต์ อบรับทางโทรศัพท์ 9) สง่ ข่าวผ่านสือ่ สังคม (Social media) เชน่ เฟสบ๊คุ และทวติ เตอร์ 10) ประเมินผลการส่งข่าวแจกในคร้งั น้นั 6. การจดั กิจกรรมพเิ ศษ และรณรงค์ (Special event activities & Campaigns) วัตถปุ ระสงค์ 1) เพ่อื ใหเ้ กิดความตื่นตวั และสาธิตวิธกี ารปอ้ งกนั ตนเองจากภัยคกุ คาม 2) เพ่ือให้ส่ือมวลชนน�ำ เหตกุ ารณพ์ เิ ศษนี้ไปเผยแพรใ่ นขา่ ว 3) เพอื่ ใหเ้ กดิ การส่ือสารเชงิ ปฏิสัมพนั ธใ์ นระดบั สงู ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ : 1) วเิ คราะห์สถานการณ์ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การป้องกนั พฤติกรรม และวิเคราะหก์ ลมุ่ เปา้ หมาย 2) กำ�หนดประเด็นส�ำ คัญในการส่ือสาร 3) จดั ตง้ั คณะกรรมการและคณะท�ำ งาน พรอ้ มประชมุ เตรยี มความพรอ้ มในการจดั กจิ กรรมรณรงค์ 4) ก�ำ หนดรปู แบบการจัดงาน และรายละเอียดขอ้ กำ�หนดการจัดงาน เชน่ สถานท่ี บคุ ลากร เงนิ สอ่ื ตา่ ง ๆ กิจกรรม เกมส์ และระยะเวลา 5) ด�ำ เนนิ การจดั จา้ งเอกชนทมี่ คี วามช�ำ นาญเพอื่ ด�ำ เนนิ การจดั งาน ตามกจิ กรรม และรปู แบบ ที่วางไว้ 6) ตดิ ตามก�ำ กบั การด�ำ เนนิ งานของผรู้ ับจา้ ง 7) ประเมนิ ผลการจัดงาน 7. การจัดบอรด์ แสดงข้อมลู ขา่ วสาร ในส�ำ นักงาน/ศนู ย์ ฯ วัตถุประสงค์ 1) เพ่ือให้ข้อมูลเก่ียวกับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนภายในหน่วยงานให้บุคลากรใน หนว่ ยงานไดร้ ับทราบ 2) เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และร่วมมือกันภายในองคก์ ร ขน้ั ตอนการปฏิบัติ : 1) ก�ำ หนดประเดน็ ท่จี ะนำ�เสนอใหก้ บั เจา้ หน้าที่ 2) กำ�หนดบริเวณท่ีเหมาะสมสำ�หรับการจัดบอร์ดเผยแพร่ข้อมูล เช่น บริเวณห้องพักผ่อน ทางเดนิ เป็นต้น 3) น�ำ ขา่ วแจกขององคก์ ร และขา่ วเกย่ี วกบั เหตกุ ารณท์ ต่ี ดั จากหนงั สอื พมิ พ์ หรอื จากเวบ็ ไซตต์ ดิ บอรด์ 4) แสดง หรอื เผยแพร่ข้อมูลขา่ วสารอนื่ ๆ ท่ีไมเ่ ก่ยี วกับเหตกุ ารณ์ แตอ่ าจมีผลต่อการเสริมสร้าง ขวญั และก�ำ ลงั ใจบนบอรด์ ดว้ ย เชน่ ภาพการต์ นู ภาพขา่ วกฬี า รายการอาหาร เปน็ ตน้ ทงั้ น้ี ขน้ึ อย่กู บั วัตถุประสงค์ในการสอ่ื สารในแตล่ ะครงั้ 5) ปรับปรงุ เปลีย่ นแปลงขอ้ มูลขา่ วสารใหท้ ันสมยั อยเู่ สมอ 6) ประเมนิ ผลการจดั บอรด์ เปน็ ระยะ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ 87

บทท่ี 9 แนวทางการส่ือสารความเสีย่ งและประชาสมั พนั ธ์โรคและภัยสขุ ภาพ 8. การจดั นทิ รรศการและสนับสนุนเจา้ หนา้ ท่ีประจ�ำ นิทรรศการนอกหนว่ ยงาน วตั ถปุ ระสงค์ 1) เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมหรอื เหตุการณ์ที่เกดิ ขน้ึ ใหส้ าธารณชนไดร้ บั ทราบ 2) เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และร่วมมอื กันกบั องค์กร ขั้นตอนการปฏิบัติ : 1) ก�ำ หนดวัตถุประสงค์การสอ่ื สาร และกลมุ่ เป้าหมาย 2) ก�ำ หนดสถานท่ี รูปแบบ ภาพ และกจิ กรรมตา่ ง โดยเนน้ ให้กล่มุ เป้าหมายมสี ่วนร่วม 3) จัดเตรียมชดุ นทิ รรศการส�ำ เร็จรูป สอื่ ประกอบ ของช�ำ ร่วย แจกผเู้ ขา้ ชม 4) ประสานกับหนว่ ยงานเป็นสถานทีจ่ ัดนทิ รรศการ และหน่วยงานอื่นที่ร่วมดำ�เนินงาน 5) กำ�หนดบคุ ลากรและนกั วชิ าการที่ไปประจ�ำ นทิ รรศการ 6) จัดต้งั นิทรรศการในบริเวณพืน้ ทีก่ �ำ หนด 7) ประเมินผลการจัดนทิ รรศการ 9. การส่ือสารดว้ ยหนว่ ยเคลื่อนท่ีในพ้นื ที่เส่ียง วัตถุประสงค์ 1) เพอ่ื ใหข้ อ้ มูลแกป่ ระชากรในพน้ื ท่เี สยี่ งโดยตรง 2) เพ่ือให้ความช่วยเหลือแกป่ ระชากร 3) เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ และรว่ มมือกบั องคก์ ร ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ : 1) กำ�หนดวตั ถุประสงค์การส่อื สาร และกลุม่ เป้าหมาย 2) กำ�หนดทีมประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่เร็ว โดยมักประกอบด้วย นักวิชาการ เจ้าหน้าท่ี สาธารณสขุ ทเี่ กย่ี วขอ้ งทกุ ฝา่ ย แกนน�ำ เครอื ขา่ ยชมุ ชน ชา่ งอเิ ลคทรอนคิ ส์ และพนกั งานขบั รถ 3) ทำ�หนังสือแจง้ หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง 4) ประสานงาน อปท. และแกนน�ำ ชุมชน 5) จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์การสือ่ สาร การกระจายเสียง และยานพาหนะ 6) จัดหาเครื่องแบบหรอื ปลอกแขน เพื่อแสดงเอกลกั ษณข์ องทมี งาน 7) รวบรวม ศกึ ษา วิเคราะห์ และจัดท�ำ ขอ้ มูลขา่ วสารเฉพาะ เพอ่ื การประชาสมั พนั ธ์ในพน้ื ที่ 8) ปฏิบตั กิ ารประชาสัมพันธ์เคลื่อนท่ีเร็ว 9) ประเมนิ ผลการส่อื สารด้วยหน่วยเคล่ือนที่ในพ้ืนท่เี สี่ยง 10. การให้บรกิ ารข่าวสารทาง call center วตั ถุประสงค์ 1) เพ่อื รับฟังความร้สู ึก ความวติ กกงั วลของประชาชนและผ้มู สี ่วนเก่ียวขอ้ ง 2) เพื่อให้ข้อมูลแกป่ ระชาชนและผู้มสี ว่ นเกีย่ วขอ้ งไดโ้ ดยตรง 88 แนวทางการสอ่ื สารความเสย่ี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 9 แนวทางการสอื่ สารความเส่ยี งและประชาสัมพนั ธ์โรคและภยั สุขภาพ ข้ันตอนการปฏบิ ัติ 1) ก�ำ หนดวัตถุประสงคก์ ารสือ่ สาร และกลมุ่ เป้าหมาย 2) เตรยี มขอ้ ความให้ครบถ้วน และตอบสนองความตอ้ งการขอ้ มลู ของกลมุ่ เปา้ หมายทกุ กล่มุ 3) บนั ทกึ เสียงตามขอ้ ความทก่ี ำ�หนดไว้ 4) มอบหมายเจา้ หนา้ ท่ีรบั โทรศพั ทโ์ ดยใหค้ ัดเลือกผ้ทู ่มี ีความรอบรูใ้ นเหตกุ ารณ์ และมีความ สามารถในการสอ่ื สาร 5) จดั เวรผ้ทู ่ีทำ�หนา้ ทต่ี อบคำ�ถามตลอด 24 ช่วั โมง • ในสถานการณป์ กติ จดั เวรผตู้ อบค�ำ ถามโดยปฏบิ ตั หิ นา้ ทปี่ ระจ�ำ ศนู ย์ Call Center ใน วนั และเวลาราชการ วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. ถา้ นอกเวลาราชการ ให้ตง้ั โปรแกรมโอนสายอตั โนมัติเขา้ มอื ถือของเจา้ หน้าทีท่ ปี่ ฏิบตั หิ นา้ ที่นอกเวลา • ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรค จัดเวรเจ้าหน้าท่ีตอบคำ� ถามทุกวันไม่เว้นวัน หยุดราชการ โดยแบง่ ออกเปน็ 3 ผลดั ดังนี้ - ผลัดที่ 1 ปฏบิ ัติหนา้ ที่เวลา 08.00-17.00 น. - ผลัดที่ 2 ปฏบิ ัติหนา้ ทเี่ วลา 17.00-01.00 น. - ผลัดที่ 3 ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่เวลา 01.00-08.00 น. หมายเหตุ : จ�ำ นวนเจา้ หนา้ ทที่ รี่ บั สายพจิ ารณาจากปรมิ าณสายทโี่ ทรเขา้ โดยใชค้ า่ เฉลย่ี ผรู้ บั โทรศพั ท์ 1 คน สามารถรับสายได้ประมาณ 9 สาย ตอ่ ช่วั โมง ทงั้ นี้ข้นึ อยกู่ ับค�ำ ถาม และปญั หาทพี่ บ 1) เสรมิ ข้อมลู ใหมอ่ ยเู่ สมอ โดยแหล่งขอ้ มูลอาจเปน็ เวบ็ ไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข และ กรมควบคุมโรค หรอื หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2) จดั เตรียมประเดน็ ค�ำ ถาม/คำ�ตอบทีพ่ บบอ่ ย โดยประสานงานกบั คณะทำ�งานวิชาการ และ ปรับปรงุ ให้ทนั สมยั อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมือ่ มีเหตุการณ์เปลยี่ นแปลง 3) ดำ�เนินการสรุปรายละเอยี ดโดยสังเขปกบั เจา้ หนา้ ทท่ี กุ คนกอ่ นการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ 4) ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง ในกรณีที่ไม่สามารถใหบ้ ริการเองได้ 5) บันทึกรายละเอียดการติดต่อของผู้ใช้บริการ เก็บเป็นประวัติการติดต่อทุกครั้ง เพื่อการ บริการท่ดี ีย่ิงข้นึ ในครง้ั ต่อไป 6) สรุปการให้บริการข้อมูลข่าวสารทางศูนย์ตอบรับโทรศัพท์เป็นระยะ เพ่ือวางแผนการ ด�ำ เนนิ งานในฝ่ายอ่นื ตอ่ ไป 7) ประเมนิ ผลการให้บริการ 11. การใหบ้ รกิ ารขา่ วสารทางเวบ็ ไซต์ วัตถุประสงค์ 1) เพ่ือใหข้ อ้ มลู แกป่ ระชาชนและผมู้ ีสว่ นเกยี่ วข้องได้โดยตรง 2) เพือ่ ตอบโตก้ บั ข่าวลือ และแกไ้ ขขอ้ มลู ทผี่ ิดพลาด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 89

บทท่ี 9 แนวทางการส่อื สารความเสย่ี งและประชาสัมพนั ธโ์ รคและภัยสุขภาพ ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ : 1) กำ�หนดเจ้าหน้าท่ีและทีมรับผิดชอบตามกลุ่มงานท่ีเกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์การ ระบาดของโรคท่ัวโลก 2) รวบรวมขอ้ มูลขา่ วสารท่ีเก่ียวขอ้ ง เผยแพรท่ างเวบ็ ไซต์ ภาษาไทย/ภาษาองั กฤษ 3) เขียนให้เหมาะกับการเผยแพร่บนสื่อเว็บไซต์ และควรมีส่ืออื่น ประกอบด้วย ภาพ คลิปวิดโี อ คลิปเสยี ง ไฟลเ์ อกสาร รวมถึง ลิงค์ไปยงั เวบ็ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เป็นตน้ 4) ก�ำ หนดเจ้าหน้าที่ หรือทมี ตรวจทานหรอื แกไ้ ข ข้อมูลกอ่ นการเผยแพรบ่ นเวบ็ ไซต์ 5) สง่ ข้อมลู ให้ผ้ดู ูแลเวบ็ ไซต์เพ่อื เผยแพร่ 6) ปรับปรุงขอ้ มลู ข่าวสารให้ทนั สมยั ถูกต้อง ครบถ้วน 7) ประเมนิ ผลการให้บริการขา่ วสารทางเวบ็ ไซต์ 12. การเผยแพรข่ ้อมลู ทางโทรทศั น,์ วทิ ยุ, หนงั สอื พมิ พ์ วตั ถปุ ระสงค์ 1) เพื่อใหเ้ กิดความรบั รู้ถึงภัยที่เกิดข้ึนอย่างรวดเรว็ และทว่ั ถึง 2) เพื่อให้ความรใู้ นการป้องกันตนเองจากภยั ทีเ่ กดิ ขึน้ ขั้นตอนการดำ�เนนิ งาน 1) ก�ำ หนดวตั ถุประสงคก์ ารสอื่ สาร และกลมุ่ เป้าหมาย 2) จดั ท�ำ แผนการเผยแพร่ (Media Plan) - ส่อื โทรทศั น์ เตรยี มภาพ (วีดีโอ, ภาพนิ่ง) เน้อื ข่าว, สารคดี หรอื รายการสอดแทรกใน รายการต่าง ๆ Game Show, ละคร - ส่ือวิทยุ จัดทำ�เนื้อข่าวสั้น และกระชับ อาจเป็นสปอต สารคดี, ข่าว หรือรายการ โดยสอดแทรกในรายการต่าง ๆ Spot โฆษณา - สือ่ ส่งิ พมิ พ์ หนังสอื พมิ พ์ (ภาพน่งิ , เนื้อขา่ วอยา่ งละเอยี ด)นติ ยสาร 3) จัดท�ำ ตน้ ฉบับ 4) ประสาน/ขอความรว่ มมอื ผรู้ บั ผดิ ชอบสอ่ื ทกุ ชอ่ งทางตามแผนการเผยแพรท่ กี่ �ำ หนดไว้ เชน่ Cut out ATM Banner Studio แผน่ พับ โปสเตอร์ ฯลฯ 13. การผลติ และเผยแพรส่ อ่ื ด้านการศึกษา IEC (Information Education Communication) วตั ถุประสงค์ 1) เพ่อื ใหค้ วามรใู้ นการปอ้ งกนั ตนเองจากภยั ท่ีเกดิ ขนึ้ 2) เพอ่ื ให้รูส้ ึกมสี ่วนร่วมในการป้องกนั และแก้ไขภาวะฉุกเฉิน ขั้นตอนการปฏบิ ัติ : 1) รวบรวมเครือข่าย 2) จดั ท�ำ ทำ�เนยี บเครอื ข่าย 3) จดั ประชมุ ชแี้ จง 4) จัดท�ำ และสนับสนนุ สอื่ แกเ่ ครือขา่ ย 90 แนวทางการสอื่ สารความเสย่ี ง ในภาวะวกิ ฤติ

บทที่ 9 แนวทางการสือ่ สารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์โรคและภยั สขุ ภาพ การผลิตสอ่ื และเผยแพรส่ ื่อ แกส่ ่อื มวลชน การผลิตสอื่ และเผยแพร่สอ่ื ส�ำ หรับประชาชน รวบรวมขอ้ มูลความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกบั การเฝ้าระวัง ศกึ ษาขอ้ มูลเรื่องโรคและภยั สุขภาพที่จะดำ�เนนิ ปอ้ งกัน ควบคุม รกั ษาโรคและภยั สขุ ภาพ การผลติ สือ่ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง นำ�เสนอข้อมลู ท่ีรวบรวมใหผ้ เู้ ช่ยี วชาญตรวจทาน ออกแบบสอื่ ใหส้ วยงาม ดงึ ดดู และน่าสนใจ แก้ไข และปรับปรุง สรุปเนอื้ หาเปน็ รูปเล่ม (ตน้ ฉบบั เปน็ ซดี ี หรอื ทำ�ใน นำ�เสนอรูปแบบสือ่ ใหผ้ ูบ้ รหิ าร และผูท้ ่ีเกย่ี วข้อง รปู ขา่ วแจก) ตรวจทาน แกไ้ ข และปรบั ปรุง ขออนมุ ัตผิ ู้บรหิ ารเพอ่ื จดั ท�ำ รปู เลม่ ซีดี และข่าว จัดทำ�รปู แบบส่ือตน้ ฉบบั แจก ส่งตน้ ฉบบั ทำ�รูปเลม่ แจกส่ือมวลชนในพนื้ ที่ ขออนมุ ัติผบู้ รหิ าร จัดทำ� และส่งให้หน่วยงานที่ เกี่ยวขอ้ งเพื่อเผยแพร่แกป่ ระชาชน ติดตามประเมินผล การรบั รขู้ ้อมูลขา่ วสารโรค ตดิ ตามประเมนิ ผล การรบั รู้ขอ้ มูลขา่ วสารโรคและ และภัยสขุ ภาพ ของประชาชนกลุม่ เป้าหมาย และ ภัยสขุ ภาพ และความพึงพอใจของประชาชนกลุ่ม ความพึงพอใจของสอ่ื มวลชน เป้าหมาย สรุปผลการดำ�เนนิ งาน น�ำ เสนอต่อผบู้ รหิ าร สรปุ ผลการด�ำ เนนิ งาน น�ำ เสนอผบู้ ริหาร 14. การเผยแพรข่ อ้ มูลเปน็ ภาษาต่างประเทศแก่นักท่องเทย่ี ว และแรงงานตา่ งดา้ ว ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ : 1) แต่งต้งั ทป่ี รึกษาและคณะทำ�งาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองคก์ รอสิ ระ 2) ร่วมหารือ และประสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ/จัดประชุม คณะทีป่ รึกษาและคณะท�ำ งานฯ ในการวางแผนในการผลติ ส่อื ชอ่ งทางการสือ่ สาร 3) วเิ คราะห์กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นตา่ งชาติ ตา่ งดา้ ว และนักทอ่ งเท่ียว ในพ้นื ทีร่ วมไปถึงคนไทย เชอื้ สายอื่น ๆ เพื่อทราบถงึ เช้ือชาติ จำ�นวน และพฤตกิ รรมต่าง ๆ 4) ประสานกบั หนว่ ยงานส�ำ นกั งานประชาสมั พนั ธจ์ งั หวดั (สปชส.) และสถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี ง แห่งประเทศไทย (สวท.) ในพ้ืนที่ 5) ดำ�เนินกิจกรรมกับสื่อต่างประเทศ โดยแปลเอกสาร ประสานงานและส่งข่าวให้ส่ือ ตา่ งประเทศ 6) จัดหาล่ามหรอื ผู้ที่มคี วามเช่ยี วชาญดา้ นภาษารว่ มทมี ปฏบิ ตั ิการในพนื้ ที่ 7) ประเมินผลการเผยแพร่ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 91

กติ ติกรรมประกาศ คมู่ อื ฉบบั นส้ี �ำ เรจ็ ลลุ ว่ งดว้ ยดี ดว้ ยความรว่ มมอื และเนอ้ื หาสาระทเ่ี รยี บเรยี งมาจากการเขา้ รว่ ม ประชมุ เตรยี มพรอ้ มและตอบโตภ้ าวะฉกุ เฉนิ ทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ตามระบบบญั ชาการ เหตกุ ารณแ์ ละศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารภาวะฉกุ เฉนิ กรมควบคมุ โรค เนอื้ หาสาระบางสว่ นจากผเู้ กย่ี วขอ้ ง ไดแ้ ก่ ส�ำ นักโรคตดิ ต่ออบุ ตั ิใหม่ สำ�นักโรคตดิ ต่อนำ�โดยแมลง สำ�นกั ระบาดวทิ ยา สำ�นักโรคติดต่อท่วั ไป และ ส�ำ นกั อน่ื ๆ รวมทงั้ ครบู าอาจารย์ ผเู้ ชย่ี วชาญ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ทไี่ ดป้ ระสทิ ธปิ ระศาสนว์ ชิ าดา้ นการสอ่ื สาร ความเสย่ี งและระบาดวทิ ยา นอกจากนท้ี ข่ี าดไมไ่ ด้ คอื กลมุ่ ตวั อยา่ งทต่ี อบแบบสมั ภาษณก์ ารประเมนิ การรบั รู้ความเสยี่ งโรคและภยั สุขภาพ ผจู้ ัดทำ�ขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ เอกสารอา้ งองิ กรมควบคุมโรค (2553). คู่มือการปฏิบัติงานสื่อสารในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข. กรุงเทพ: ส�ำ นักพิมพอ์ กั ษรกราฟคิ แอนดไี ซน.์ กรมควบคุมโรค (2554). คู่มือการปฏิบัติงานส่ือสารในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข. กรุงเทพ: ส�ำ นักพมิ พ์อักษรกราฟคิ แอนดีไซน.์ พาหรุ ตั น์ คงเมอื ง ทยั สวุ รรณ,์ สดุ จติ ต์ ตรวี จิ ติ รศลิ ป,์ กรกฎ ดวงผาสขุ , (2558). สรปุ โครงการประชมุ เชงิ วิชาการ การสอื่ สารความเส่ยี ง เพือ่ ตอบโตโ้ รคติดเชื้อไวรสั อโี บลา และโรคตดิ ตอ่ อบุ ตั ิใหม่ โดยความร่วมมอื องค์การอนามยั โลก สำ�นักงานประเทศไทย และกรมควบคมุ โรค. ศูนย์ส่ือและ สิง่ พมิ พแ์ กว้ เจ้าจอม มหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสุนนั ทา: กรุงเทพ. พาหุรัตน์ คงเมือง ทยั สุวรรณ์ และคณะ (2558). ชุดความรกู้ ารส่อื สาร วิชาการโรค: การส่ือสาร ความเสี่ยงโรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง (MERS-CoV). ศนู ย์สอ่ื และสง่ิ พิมพ์แก้วเจ้าจอม มหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสุนันทา: กรุงเทพ. พาหรุ ตั น์ คงเมอื ง ทยั สวุ รรณ์ และคณะ (2558). ชดุ ความรกู้ ารสอื่ สาร วชิ าการโรค: การสอื่ สารความ เสยี่ งตดิ เช้อื ไวรัสอโี บลา. โรงพมิ พ์สำ�นกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาต:ิ กรุงเทพ. พาหุรัตน์ คงเมอื ง ทยั สวุ รรณ์, (2558). การสือ่ สารความเส่ียงโรคและภยั สขุ ภาพ: กรณีโรคไขห้ วดั นก ใน คู่มือการปฏิบัติงานโรคไข้หวัดนกสำ�หรับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข (ฉบับ ปรับปรุง). โรงพิมพอ์ งค์การทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปถมั ภ:์ กรุงเทพ, หน้า 139-162. พาหุรัตน์ คงเมือง ทัยสุวรรณ์ (2559). การส่ือสารความเส่ียงโรคและภัยสุขภาพ: กรณีโรคติดเชื้อ ไวรัสซิกา ใน คมู่ ือการปอ้ งกนั ควบคุมโรคติดเช้อื ไวรัสซกิ า ส�ำ หรบั บุคลากรทางการแพทย์ และ สาธารณสขุ ปี 2559. โรงพิมพอ์ งคก์ ารทหารผา่ นศึกในพระบรมราชปู ถัมภ:์ กรุงเทพ, หนา้ 118- 135. CDC (2002). Crisis and Emergency Risk Communication. Centers for Disease Control and Prevention. WHO (2005). IHR 2005. World Health Organization, Geneva. WHO (2013) Emergency Response Framework. World Health Organization, Geneva. 92 แนวทางการสือ่ สารความเส่ยี ง ในภาวะวกิ ฤติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook