Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปรัชญาเศรษฐกิจอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกิจอเพียง

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2021-10-14 08:01:07

Description: ปรัชญาเศรษฐกิจอเพียง

Search

Read the Text Version

1 คำนำ หนงั สืออเิ ลคทรอนิกส์ “ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง”เล่มนี้ไดจ้ ัดทำขึ้นเพ่ือ “นอ้ มรำลกึ ในพระมหา กรณุ าธคิ ณุ ”พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เน่อื งในโอกาสวัน คลา้ ยวันสวรรคต ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ เปน็ เอกสารใชป้ ระกอบกจิ กรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ “ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยหอ้ งประชาชนอำเภอบางเสาธงได้รวบรวมจัดทำขน้ึ มาเพอื่ อำนวยความสะดวกให้กบั ผ้เู ข้าร่วมทำ แบบทดสอบออนไลน์จะได้มขี อ้ มลู ในการทำแบบทดสอบและเมอื่ อา่ นข้อมลู และทำแบบทดสอบรับเกยี รติบัตรแล้ว ท่านสามารถนำข้อมลู จากหนงั สอื อเิ ลคทรอนกิ สเ์ ลม่ นีไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอบางเสาธง

2 จุดเรม่ิ ต้นแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพัฒนาประเทศไปสูค่ วามทันสมัย ไดก้ อ่ ให้เกิดการเปลย่ี นแปลงแก่สงั คมไทยอย่าง มากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม อกี ทั้งกระบวนการของความ เปลยี่ นแปลงมีความสลับซับซอ้ นจนยากที่จะอธิบายใน เชิงสาเหตุและผลลพั ธไ์ ด้ เพราะการเปลยี่ นแปลงทง้ั หมดตา่ งเปน็ ปัจจัยเช่ือมโยงซ่งึ กนั และกนั สำหรบั ผลของการพัฒนาในดา้ นบวกน้ัน ไดแ้ ก่ การเพ่มิ ขนึ้ ของอัตราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ ความ เจริญทางวตั ถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสอ่ื สารท่ที ันสมัย หรอื การขยายปริมาณและกระจายการศกึ ษาอยา่ งทัว่ ถึง มากข้นึ แตผ่ ลดา้ นบวกเหล่าน้ีสว่ นใหญ่กระจายไปถงึ คนในชนบท หรือผู้ดอ้ ยโอกาสในสงั คมนอ้ ย แต่ว่า กระบวนการ เปลีย่ นแปลงของสงั คมได้เกดิ ผลลบติดตามมาดว้ ย เช่น การขยายตัวของรัฐเขา้ ไปในชนบท ไดส้ ่งผลให้ชนบทเกดิ ความ ออ่ นแอในหลายดา้ น ทัง้ การต้องพึง่ พงิ ตลาดและพ่อคา้ คนกลางในการสัง่ สนิ ค้าทุน ความเสือ่ มโทรมของ ทรัพยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธแ์ บบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกนั ตามประเพณเี พอ่ื การจัดการทรัพยากรท่ีเคยมี อย่แู ตเ่ ดมิ แตก สลายลง ภมู ิความรทู้ ่ีเคยใชแ้ ก้ปญั หาและสัง่ สมปรับเปลีย่ นกันมาถกู ลืมเลือนและเร่ิม สูญหายไป สิง่ สำคัญ กค็ อื ความพอเพยี งในการดำรงชวี ติ ซ่งึ เป็นเงอ่ื นไขพนื้ ฐานท่ีทำให้คนไทยสามารถพึง่ ตนเอง และ

3 ดำเนินชีวติ ไปไดอ้ ยา่ งมศี กั ดศิ์ รีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนด ชะตาชีวติ ของตนเอง ความสามารถในการ ควบคุมและจัดการเพอ่ื ใหต้ นเองไดร้ ับการสนองตอบตอ่ ความตอ้ ง การต่างๆ รวมทัง้ ความสามารถในการจดั การปัญหา ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึง่ ทง้ั หมดน้ถี อื วา่ เป็นศกั ยภาพพื้นฐานทค่ี นไทยและสังคมไทยเคยมีอยแู่ ต่ เดมิ ต้องถูก กระทบกระเทอื น ซ่งึ วกิ ฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความออ่ นแอของชนบท รวมทั้งปญั หาอืน่ ๆ ที่เกิดขึน้ ลว้ นแต่เป็นข้อพสิ จู น์และยนื ยนั ปรากฎการณน์ ้ไี ดเ้ ปน็ อย่างดี พระราชดำริวา่ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง “...การพฒั นาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ตอ้ งสรา้ งพืน้ ฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของ ประชาชนสว่ นใหญ่เบือ้ งต้นกอ่ น โดยใชว้ ิธกี ารและอุปกรณ์ทปี่ ระหยัดแต่ถูกตอ้ งตามหลักวิชาการ เม่อื ไดพ้ ื้นฐานความ มั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏบิ ัติได้แลว้ จงึ คอ่ ยสร้างค่อยเสรมิ ความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นทสี่ ูงข้ึนโดยลำดบั ตอ่ ไป...” (๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗) “เศรษฐกจิ พอเพียง” เปน็ แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร ท่ีพระราชทานมานานกว่า ๓๐ ปี เป็นแนวคดิ ทตี่ ั้งอยบู่ นรากฐานของวฒั นธรรมไทย เปน็ แนวทางการพัฒนาทีต่ ง้ั บนพนื้ ฐานของทางสายกลาง และความไมป่ ระมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมเี หตุผล การ สรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ในตวั เอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เปน็ พื้นฐานในการดำรงชีวติ ที่สำคัญจะต้องมี “สติ ปัญญา และ ความเพียร” ซง่ึ จะนำไปสู่ “ความสุข” ในการดำเนินชวี ิตอยา่ งแท้จรงิ

4 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ปรชั ญาชี้ถึงแนวการดำรงอยแู่ ละปฏบิ ตั ิตนของประชาชนในทกุ ระดับ ตั้งแตร่ ะดบั ครอบครวั ระดับชมุ ชน จนถึงระดับรัฐ ทัง้ ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศใหด้ ำเนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการ พฒั นาเศรษฐกิจ เพ่ือใหก้ า้ วทันตอ่ โลกยคุ โลกาภวิ ัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล รวมถึง ความจำเป็นทีจ่ ะต้องมีระบบภูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ดีพอสมควร ตอ่ การกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปล่ยี นแปลงทงั้ ภายใน ภายนอก ทงั้ น้ี จะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยง่ิ ในการนำวชิ าการต่างๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดำเนินการ ทกุ ขน้ั ตอน และขณะเดยี วกนั จะต้องเสริมสร้างพ้นื ฐานจติ ใจของคนในชาติ โดยเฉพาะ เจ้าหนา้ ที่ของรัฐ นกั ทฤษฎี และนักธุรกจิ ในทุกระดบั ใหม้ ีสำนกึ ในคุณธรรม ความซอื่ สตั ยส์ ุจริต และให้มีความรอบรูท้ ่ี เหมาะสม ดำเนินชวี ติ ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปญั ญา และความรอบคอบ เพือ่ ให้สมดุลและพรอ้ มตอ่ การรองรบั การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ และกวา้ งขวาง ทัง้ ด้านวตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ ง ดี หลกั ปรชั ฐาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (Sufficiency Economy๗ จงึ ประกอบด้วยคุณสมบตั ิ ๓ ห่วง ๒ เงอ่ื นไข ดงั นี้ หว่ ง ๑. ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดที ่ไี มน่ อ้ ยเกนิ ไปและไม่มากเกนิ ไป โดยไม่เบียดเบยี นตนเอง และผอู้ ื่น เช่น การผลิตและการบริโภคทีอ่ ย่ใู นระดับพอประมาณ หว่ ง ๒. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตดั สินใจเก่ยี วกับระดบั ความพอเพยี งน้ัน จะต้องเป็นไปอย่างมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ตลอดจนคำนงึ ถงึ ผลท่คี าดว่าจะเกดิ ขึ้นจากการกระทำนนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ ห่วง ๓. ภมู คิ ุ้มกนั หมายถึง การเตรียมตัวให้พรอ้ มรบั ผลกระทบและการเปล่ยี นแปลงดา้ นต่างๆ ที่จะเกดิ ข้ึน โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณต์ า่ งๆ ที่คาดว่าจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต โดยมี เงื่อนไขเศรษฐกจิ พอเพียง ของการตัดสินใจและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดบั พอเพียง ๒ ประการ ดังน้ี ๑. เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรเู้ กย่ี วกบั วิชาการต่างๆ ท่เี กี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบทจ่ี ะ นำความรูเ้ หล่านน้ั มาพิจารณาใหเ้ ช่ือมโยงกนั เพอ่ื ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั ิ ๒. เง่อื นไขคณุ ธรรม ที่จะตอ้ งเสรมิ สร้าง ประกอบดว้ ย มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มีความซือ่ สัตย์สจุ ริต และมคี วามอดทน มีความเพียร ใช้สติปญั ญาในการดำเนนิ ชวี ิต สว่ นคำถามท่ีว่า ๓ ห่วง ๒ เง่อื นไข ๔ มิติ คอื อะไร เศรษฐกิจพอเพยี ง คอื อะไร ๓ หว่ ง ๒ เงือ่ นไข สมดลุ ๔ มติ ิ ๓ หว่ ง ความพอประมาณ มีเหตุผล มภี มู ิค้มุ กัน ๒ เงอ่ื นไข มคี ุณธรรม นำความรู้ (เงอื่ นไขความรู้ ๓ ร รอบรู้ รอบครอบ ระมดั ระวัง) (เง่ือนไขคณุ ธรรม ซอื่ สัตยส์ ุจรติ อดทน เพยี ร มีสต)ิ สมดุล ๔ มิติ เศรษฐกจิ สง่ิ แวดลอ้ ม สงั คม วฒั นธรรม (กิจ ลอ้ ม สงั วัฒนธรรม) หลักความพอดี ๕ ประการ หลกั เหตุผล ๕ ประการ หลกั ภูมิค้มุ กัน ๒ หลกั จิตใจ ประหยดั ลดค่าใช้จา่ ยทกุ ด้าน ภมู ปิ ญั ญา

5 รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง สังคม ประกอบอาชีพสุจรติ ทรพั ยากร เลกิ แก่งแย่งผลประโยชน์ เทคโนโลยี ไมห่ ยดุ นิ่งในการแก้ปัญหาความทุกขย์ ากในชวี ิต ภูมิธรรม ซ่อื สัตยส์ ุจรติ ขยนั อดทนและแบ่งปัน เศรษฐกิจ ปฏบิ ัติตนลดละเลิก อบายมุข เปา้ หมายของหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง พึง่ ตนเองได้ระดับหนึ่ง อยู่ร่วมกบั ผอู้ ่นื ในสงั คมได้อยา่ งสนั ตสิ ุข อยรู่ ว่ มกับธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มได้อย่าง ยง่ั ยนื การประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจพอเพียง เริม่ จากระดับ ตัวเอง ครอบครวั องคก์ ร ชุมชน สังคม ประเทศชาติ ๓ ห่วง ๒ เงอ่ื นไข สมดลุ ๔ มติ ิ (ดา้ นวัตถุ สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม และวัฒนธรรม) ลำดับข้ันตอนการพัฒนาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ตัวเอง ครอบครวั องคก์ ร ชมุ ชน สังคม ประเทศชาติ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ตรงกับหลกั ธรรม สัปปุริสธรรม ๗ ๑..(ความพอประมาณ) มัตตัญญตุ า เปน็ ผู้รู้จักประมาณ อตั ตญั ญุตา เปน็ ผรู้ ูจ้ ักตน ๒. (ความมีเหตผุ ล) ธมั มัญญุตา เป็นผู้รู้จกั เหตุ อตั ถญั ญตุ า เป็นผู้รจู้ ักผล ๓.(การมีภูมิคมุ้ กนั ทด่ี ใี นตัว) กาลัญญุตา เปน็ ผรู้ ู้จักกาล ปริสัญญตุ า เป็นผูร้ จู้ กั บริษทั ชุมชน ปุคคลัญญตุ า หรอื ปุคคลป โรปรัญญุตา เปน็ ผูร้ ูจ้ กั บุคคล ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้อัญเชิญมาครัง้ แรกใน แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาตฉิ บบั ที่ ๙ วิสยั ทศั น์ แผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ตรงกบั หลักเศรษฐกิจพอเพยี ง “เศรษฐกจิ พอเพียง” (Sufficiency Economy) เปน็ ปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงมีพระราช ดำรสั ชแ้ี นะแนวทางการดำเนินชวี ิตแกพ่ สกนกิ รชาวไทยมาโดยตลอดรวมถงึ การพฒั นาและบรหิ ารประเทศ ที่ตัง้ อยบู่ น พ้นื ฐานของ ทางสายกลาง คำนึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุ้มกันทดี่ ใี นตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระทำ ประเทศไทยกับเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง ม่งุ เน้นใหผ้ ู้ผลติ หรอื ผู้บริโภค พยายามเร่ิมตน้ ผลิต หรือบรโิ ภคภายใต้ขอบเขต ข้อจำกดั ของรายได้ หรอื ทรัพยากรท่มี ีอยูไ่ ปก่อน ซง่ึ กค็ ือ หลักในการลดการพงึ่ พา เพ่มิ ขดี ความสามารถในการควบคุมการผลติ ได้ ดว้ ยตนเอง และลดภาวะการเสย่ี งจากการไม่สามารถควบคมุ ระบบตลาดได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เศรษฐกิจพอเพียงมใิ ช่หมายความถงึ การกระเบยี ดกระเสียนจนเกนิ สมควร หากแต่อาจฟ่มุ เฟือยไดเ้ ปน็ ครั้งคราวตาม อตั ภาพ แตค่ นส่วนใหญ่ของประเทศ มกั ใช้จ่ายเกินตัว เกนิ ฐานะท่ีหามาได้ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถนำไปสเู่ ป้าหมายของการสร้างความมน่ั คงในทางเศรษฐกจิ ได้ เชน่ โดยพ้ืนฐาน

6 แล้ว ประเทศไทยเปน็ ประเทศเกษตรกรรม เศรษฐกิจของประเทศจงึ ควรเน้นที่เศรษฐกจิ การเกษตร เนน้ ความม่นั คงทาง อาหาร เป็นการสรา้ งความมน่ั คงให้เปน็ ระบบเศรษฐกจิ ในระดบั หน่ึง จงึ เป็นระบบเศรษฐกจิ ท่ีชว่ ยลดความเสีย่ ง หรอื ความ ไม่มั่นคงทางเศรษฐกจิ ในระยะยาวได้ เศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถประยกุ ตใ์ ช้ไดใ้ นทุกระดับ ทกุ สาขา ทุกภาคของเศรษฐกิจ ไม่จำเปน็ จะต้องจำกัด เฉพาะแต่ภาคการเกษตร หรือภาคชนบท แมแ้ ตภ่ าคการเงิน ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมหี ลกั การท่ีคล้ายคลึงกันคอื เนน้ การเลอื กปฏิบตั ิอยา่ งพอประมาณ มีเหตุมีผล และสรา้ งภูมิคมุ้ กันให้แกต่ นเองและ สังคม การดำเนินชวี ิตตามแนวพระราชดำรพิ อเพียง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเขา้ ใจถงึ สภาพสงั คมไทย ดังน้ัน เมอ่ื ไดพ้ ระราชทานแนวพระราชดำริ หรอื พระบรมราโชวาทในดา้ นต่างๆ จะทรงคำนึงถงึ วิถชี ีวติ สภาพสงั คมของ ประชาชนดว้ ย เพื่อไม่ใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทางความคดิ ทอ่ี าจนำไปสู่ความขัดแย้งในทางปฏิบัติได้ แนวพระราชดำรใิ นการดำเนนิ ชีวติ แบบพอเพียง ๑. ยึดความประหยดั ตดั ทอนคา่ ใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการใช้ชีวิต ๒. ยึดถือการประกอบอาชีพดว้ ยความถูกต้อง ซื่อสตั ยส์ ุจรติ ๓. ละเลิกการแก่งแยง่ ผลประโยชนแ์ ละแข่งขันกนั ในทางการค้าแบบตอ่ สู้กันอยา่ งรนุ แรง ๔. ไม่หยดุ นิ่งท่ีจะหาทางให้ชวี ติ หลดุ พ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ใหม้ รี ายไดเ้ พ่มิ พูนขน้ึ จนถงึ ขนั้ พอเพยี งเป็นเป้าหมายสำคัญ ๕. ปฏิบตั ติ นในแนวทางทีด่ ี ลดละสง่ิ ชัว่ ประพฤติตนตามหลกั ศาสนา ตัวอยา่ งเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทฤษฎีใหม่ ทฤษฎใี หม่ คอื ตวั อย่างท่เี ป็นรปู ธรรมของ การประยกุ ต์ใชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงท่เี ดน่ ชดั ท่ีสดุ ซ่งึ ได้ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำรนิ ี้ เพ่ือเปน็ การชว่ ยเหลือเกษตรกรท่ีมักประสบปญั หาทง้ั ภัยธรรมชาติและปัจจยั ภาย นอกทมี่ ีผลกระทบต่อการทำการเกษตร ให้ สามารถผา่ นพน้ ช่วงเวลาวกิ ฤต โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำได้โดยไม่เดือดรอ้ นและยากลำบากนกั ความเสย่ี งท่ีเกษตรกร มกั พบเป็นประจำ ประกอบดว้ ย ๑. ความเส่ียงดา้ นราคาสนิ ค้าเกษตร ๒. ความเสย่ี งในราคาและการพึ่งพาปจั จยั การผลิตสมัยใหม่จากต่างประเทศ ๓. ความเสี่ยงด้านน้ำ ฝนท้ิงชว่ ง ฝนแล้ง ๔. ภัยธรรมชาตอิ ืน่ ๆ และโรคระบาด ๕. ความเสี่ยงดา้ นแบบแผนการผลิต - ความเสี่ยงด้านโรคและศัตรูพชื

7 - ความเสยี่ งดา้ นการขาดแคลนแรงงาน - ความเสยี่ งด้านหน้ีสินและการสญู เสยี ท่ดี ิน ทฤษฎใี หม่ จึงเปน็ แนวทางหรอื หลกั การในการบริหารการจดั การท่ีดนิ และน้ำ เพ่ือการเกษตรในทด่ี ินขนาดเลก็ ใหเ้ กิด ประโยชนส์ งู สดุ ความสำคญั ของทฤษฎใี หม่ ๑. มีการบรหิ ารและจัดแบง่ ท่ดี นิ แปลงเลก็ ออกเป็นสัดสว่ นที่ชัดเจน เพอ่ื ประโยชน์สงู สดุ ของเกษตรกร ซึ่งไม่เคยมใี ครคิด มาก่อน ๒. มกี ารคำนวณโดยใช้หลักวชิ าการเกีย่ วกับปริมาณนำ้ ทจี่ ะกักเกบ็ ให้พอเพยี งต่อการเพาะปลูกได้อย่างเหมาะสมตลอดปี ๓. มีการวางแผนทสี่ มบรู ณ์แบบสำหรบั เกษตรกรรายยอ่ ย โดยมีถึง ๓ ข้นั ตอน ทฤษฎีใหมข่ ้ันต้น ให้แบ่งพน้ื ทอี่ อกเป็น ๔ สว่ น ตามอัตราสว่ น ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ซ่ึงหมายถึง พน้ื ที่ส่วนท่หี นงึ่ ประมาณ ๓๐% ให้ขดุ สระเกบ็ กักนำ้ เพื่อใชเ้ กบ็ กักน้ำฝนในฤดูฝน และใช้เสรมิ การปลูกพืช ในฤดูแล้ง ตลอดจนการเลย้ี งสัตว์และพชื น้ำต่างๆ พื้นท่สี ่วนทีส่ อง ประมาณ ๓๐% ให้ปลูกข้าวในฤดูฝนเพื่อใชเ้ ปน็ อาหารประจำวนั สำหรับครอบครวั ให้ เพยี งพอตลอด ปี เพื่อตัดคา่ ใช้จ่ายและสามารถพงึ่ ตนเองได้ พ้นื ทีส่ ่วนที่สาม ประมาณ ๓๐% ให้ปลกู ไม้ผล ไม้ยนื ตน้ พืชผกั พืชไร่ พชื สมุนไพร ฯลฯ เพ่อื ใชเ้ ป็นอาหาร ประจำวัน หากเหลอื บรโิ ภคก็นำไปจำหน่าย พน้ื ทีส่ ว่ นทีส่ ่ี ประมาณ ๑๐% เป็นทอี่ ยูอ่ าศยั เลย้ี งสตั ว์ ถนนหนทาง และโรงเรอื นอ่นื ๆ ทฤษฎีใหมข่ น้ั ที่สอง เมอื่ เกษตรกรเข้าใจในหลกั การและได้ปฏิบัตใิ นท่ดี ินของตนจนได้ผลแล้ว ก็ต้องเรมิ่ ข้นั ท่สี อง คอื ให้เกษตรกร รวมพลังกนั ในรปู กลุ่ม หรอื สหกรณ์ รว่ มแรงร่วมใจกนั ดำเนินการในด้าน (๑) การผลิต (พันธ์พุ ืช เตรยี มดิน ชลประทาน ฯลฯ) - เกษตรกรจะต้องร่วมมือในการผลิต โดยเรมิ่ ต้งั แต่ขัน้ เตรยี มดนิ การหาพันธพ์ุ ืช ปุย๋ การจัดหานำ้ และอ่ืนๆ เพื่อการเพาะปลูก (๒) การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เคร่ืองสีขา้ ว การจำหนา่ ยผลผลติ ) - เมือ่ มผี ลผลิตแล้ว จะตอ้ งเตรยี มการต่างๆ เพื่อการขายผลผลิตให้ไดป้ ระโยชนส์ งู สดุ เชน่ การเตรียมลาน ตากขา้ วร่วมกนั การจัดหายุ้งรวบรวมขา้ ว เตรยี มหาเครื่องสขี ้าว ตลอดจนการรวมกนั ขายผลผลิตให้ได้ราคาดีและลด คา่ ใช้จ่ายลงดว้ ย (๓) การเป็นอยู่ (กะปิ นำ้ ปลา อาหาร เครือ่ งน่งุ หม่ ฯลฯ) - ในขณะเดียวกันเกษตรกรตอ้ งมคี วามเป็นอย่ทู ดี่ ีพอสมควร โดยมปี ัจจยั พน้ื ฐานในการดำรงชวี ิต เช่น

8 อาหารการกินตา่ งๆ กะปิ นำ้ ปลา เสื้อผ้า ทีพ่ อเพียง (๔) สวัสดิการ (สาธารณสุข เงินก)ู้ - แตล่ ะชมุ ชนควรมสี วสั ดิภาพและบรกิ ารที่จำเป็น เช่น มสี ถานีอนามยั เม่อื ยามปว่ ยไข้ หรือมกี องทนุ ไว้กยู้ มื เพอ่ื ประโยชน์ในกิจกรรมตา่ งๆ ของชมุ ชน (๕) การศึกษา (โรงเรยี น ทุนการศกึ ษา) - ชมุ ชนควรมีบทบาทในการส่งเสรมิ การศกึ ษา เช่น มีกองทนุ เพื่อการศกึ ษาเล่าเรยี นให้แก่เยาวชนของ ชุมชนเอง (๖) สังคมและศาสนา - ชมุ ชนควรเป็นท่รี วมในการพฒั นาสงั คมและจิตใจ โดยมศี าสนาเป็นทีย่ ึดเหน่ยี วโดยกจิ กรรมท้งั หมด ดงั กลา่ วข้างต้น จะตอ้ งได้รับความรว่ มมอื จากทกุ ฝ่ายทเี่ กีย่ วข้อง ไม่วา่ สว่ นราชการ องคก์ รเอกชน ตลอดจนสมาชกิ ใน ชุมชนนนั้ เป็นสำคญั ทฤษฎีใหม่ข้ันทสี่ าม เมื่อดำเนินการผา่ นพ้นขน้ั ที่สองแลว้ เกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรก็ควรพฒั นาก้าวหนา้ ไปสู่ขั้นทีส่ ามต่อไป คือตดิ ตอ่ ประสานงาน เพ่อื จัดหาทุน หรือแหลง่ เงนิ เชน่ ธนาคาร หรอื บรษิ ทั ห้างรา้ นเอกชน มาชว่ ยในการลงทนุ และ พฒั นาคุณภาพชวี ติ ทง้ั นี้ ทง้ั ฝ่ายเกษตรกรและฝา่ ยธนาคาร หรอื บริษทั เอกชนจะได้รับประโยชน์ร่วมกนั กล่าวคอื - เกษตรกรขายขา้ วได้ราคาสูง (ไม่ถูกกดราคา) - ธนาคารหรอื บรษิ ัทเอกชนสามารถซื้อขา้ วบริโภคในราคาต่ำ (ซือ้ ข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสเี อง) - เกษตรกรซ้ือเครือ่ งอุปโภคบริโภคได้ในราคาต่ำ เพราะรวมกนั ซอื้ เปน็ จำนวนมาก (เป็นร้านสหกรณ์ราคา ขายส่ง) - ธนาคารหรอื บริษทั เอกชน จะสามารถกระจายบุคลากร เพ่อื ไปดำเนินการในกิจกรรมตา่ งๆ ให้เกิดผลดี ยิ่งขน้ึ หลกั การและแนวทางสำคญั ๑. เป็นระบบการผลิตแบบเศรษฐกิจพอเพยี งทีเ่ กษตรกรสามารถเลย้ี งตัวเองได้ในระดบั ท่ีประหยดั กอ่ น ทั้งน้ี ชุมชนต้องมีความสามัคคี ร่วมมอื ร่วมใจในการชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั ทำนองเดียวกับการ “ลงแขก” แบบดั้งเดมิ เพอื่ ลดคา่ ใช้จา่ ยในการจา้ งแรงงานดว้ ย ๒. เนือ่ งจากขา้ วเป็นปจั จยั หลกั ท่ีทุกครวั เรือนจะต้องบริโภค ดงั นน้ั จงึ ประมาณวา่ ครอบครัวหนึง่ ทำนา ประมาณ ๕ ไร่ จะทำใหม้ ีขา้ วพอกนิ ตลอดปี โดยไม่ต้องซอื้ หาในราคาแพง เพ่อื ยดึ หลักพึง่ ตนเองได้อยา่ งมีอิสรภาพ ๓. ตอ้ งมีนำ้ เพือ่ การเพาะปลูกสำรองไวใ้ ช้ในฤดแู ล้ง หรือระยะฝนทิ้งช่วงได้อย่างพอเพยี ง ดงั นน้ั จงึ จำเปน็ ตอ้ งกนั ที่ดนิ ส่วนหนึ่งไวข้ ดุ สระน้ำ โดยมหี ลักวา่ ต้องมีนำ้ เพยี งพอทีจ่ ะเพาะปลกู ไดต้ ลอดปี ทงั้ นี้ ได้พระราชทาน พระราชดำริเป็นแนวทางวา่ ตอ้ งมีน้ำ ๑,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ตอ่ การเพาะปลูก ๑ ไร่ โดยประมาณ ฉะนน้ั เมื่อทำนา ๕ ไร่ ทำพืชไร่ หรือไมผ้ ลอีก ๕ ไร่ (รวมเป็น ๑๐ ไร่) จะต้องมนี ้ำ ๑๐,๐๐๐ ลกู บาศก์เมตรต่อปี

9 ดังนั้น หากต้งั สมมตฐิ านว่า มีพื้นท่ี ๕ ไร่ ก็จะสามารถกำหนดสูตรคร่าวๆ ว่า แต่ละแปลง ประกอบด้วย - นาขา้ ว ๕ ไร่ - พชื ไร่ พืชสวน ๕ ไร่ - สระน้ำ ๓ ไร่ ขุดลกึ ๔ เมตร จนุ ำ้ ได้ประมาณ ๑๙,๐๐๐ ลูกบาศกเ์ มตร ซ่ึงเป็นปริมาณน้ำทเี่ พยี งพอทีจ่ ะ สำรองไว้ใช้ยามฤดูแลง้ - ท่ีอยอู่ าศยั และอื่นๆ ๒ ไร่ รวมท้งั หมด ๑๕ ไร่ แตท่ ง้ั น้ี ขนาดของสระเก็บน้ำขึน้ อยกู่ ับสภาพภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม ดังนี้ - ถา้ เปน็ พื้นท่ีทำการเกษตรอาศัยนำ้ ฝน สระนำ้ ควรมีลกั ษณะลกึ เพื่อป้องกนั ไมใ่ หน้ ำ้ ระเหยได้มากเกนิ ไป ซึง่ จะทำใหม้ นี ้ำใชต้ ลอดทงั้ ปี - ถ้าเปน็ พน้ื ที่ทำการเกษตรในเขตชลประทาน สระน้ำอาจมลี กั ษณะลึก หรือตนื้ และแคบ หรอื กว้างกไ็ ด้ โดยพจิ ารณาตามความเหมาะสม เพราะสามารถมีนำ้ มาเตมิ อยู่เร่ือยๆ การมสี ระเก็บน้ำกเ็ พอ่ื ใหเ้ กษตรกรมีนำ้ ใช้อยา่ งสม่ำเสมอทงั้ ปี (ทรงเรียกว่า Regulator หมายถงึ การควบคมุ ใหด้ ี มรี ะบบนำ้ หมนุ เวียนใชเ้ พ่อื การเกษตรไดโ้ ดยตลอดเวลาอย่างต่อเนือ่ ง) โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในหน้าแลง้ และระยะฝนท้ิง ชว่ ง แต่มไิ ดห้ มายความว่า เกษตรกรจะสามารถปลูกขา้ วนาปรงั ได้ เพราะหากน้ำในสระเก็บนำ้ ไม่พอ ในกรณมี ีเขอื่ นอยู่ บริเวณใกล้เคียงกอ็ าจจะตอ้ งสบู น้ำมาจากเขื่อน ซ่ึงจะทำให้น้ำในเขอ่ื นหมดได้ แต่เกษตรกรควรทำนาในหนา้ ฝน และเม่ือ ถงึ ฤดูแล้ง หรอื ฝนท้ิงช่วงใหเ้ กษตรกรใช้น้ำท่ีเก็บตุนนั้น ใหเ้ กิดประโยชน์ทางการเกษตรอยา่ งสูงสุด โดยพิจารณาปลกู พืช ให้เหมาะสมกบั ฤดูกาล เพื่อจะได้มผี ลผลิตอ่นื ๆ ไว้บริโภคและสามารถนำไปขายไดต้ ลอดทง้ั ปี ๔. การจดั แบง่ แปลงทดี่ นิ เพื่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดน้ี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงคำนวณและคำนงึ จากอตั ราการถือครองที่ดินถวั เฉลี่ยครัวเรือนละ ๑๕ ไร่ อย่างไรกต็ าม หากเกษตรกรมพี ืน้ ทถ่ี อื ครองนอ้ ยกวา่ น้ี หรือ มากกว่านี้ กส็ ามารถใชอ้ ัตราส่วน ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ เปน็ เกณฑ์ปรับใชไ้ ด้ กล่าวคอื ร้อยละ ๓๐ สว่ นแรก ขุดสระน้ำ (สามารถเลยี้ งปลา ปลกู พืชนำ้ เช่น ผักบงุ้ ผกั กะเฉด ฯลฯ ได้ด้วย) บนสระ อาจสร้างเล้าไก่และบนขอบสระน้ำอาจปลูกไมย้ ืนตน้ ท่ีไมใ่ ช้นำ้ มากโดยรอบ ได้ รอ้ ยละ ๓๐ ส่วนท่ีสอง ทำนา รอ้ ยละ ๓๐ ส่วนท่ีสาม ปลกู พชื ไร่ พืชสวน (ไมผ้ ล ไมย้ ืนต้น ไมใ้ ชส้ อย ไมเ้ พอื่ เป็นเชื้อฟนื ไมส้ ร้างบ้าน พืชไร่ พืชผัก สมุนไพร เปน็ ตน้ ) ร้อยละ ๑๐ สดุ ท้าย เป็นที่อยู่อาศยั และอ่ืนๆ (ทางเดิน คันดนิ กองฟาง ลานตาก กองปยุ๋ หมัก โรงเรือน โรง เพาะเห็ด คอกสตั ว์ ไมด้ อกไมป้ ระดับ พชื สวนครัวหลงั บา้ น เป็นต้น) อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดงั กลา่ วเปน็ สตู ร หรือหลักการโดยประมาณเทา่ นั้น สามารถปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลง ได้ตามความเหมาะสม โดยขึ้นอยกู่ บั สภาพของพืน้ ทีด่ ิน ปรมิ าณน้ำฝน และสภาพแวดลอ้ ม เช่น ในกรณีภาคใตท้ ีม่ ีฝนตก ชกุ หรือพ้นื ทีท่ ม่ี ีแหลง่ น้ำมาเติมสระได้ต่อเน่อื ง กอ็ าจลดขนาดของบ่อ หรือสระเกบ็ นำ้ ให้เล็กลง เพื่อเกบ็ พื้นท่ไี วใ้ ช้

10 ประโชนอ์ ่นื ตอ่ ไปได้ ๕. การดำเนินการตามทฤษฎีใหม่ มีปัจจัยประกอบหลายประการ ข้ึนอยูก่ ับสภาพภูมิประเทศ สภาพแวดล้อมของแต่ละทอ้ งถ่ิน ดังนนั้ เกษตรกรควรขอรบั คำแนะนำจากเจ้าหนา้ ท่ดี ้วย และทีส่ ำคัญ คือ ราคาการลงทุน คอ่ นข้างสูง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การขดุ สระนำ้ เกษตรกรจะตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือจากส่วนราชการ มูลนธิ ิ และเอกชน ๖. ในระหว่างการขุดสระน้ำ จะมดี นิ ทีถ่ ูกขุดขึ้นมาจำนวนมาก หนา้ ดินซงึ่ เปน็ ดินดี ควรนำไปกองไว้ตา่ งหาก เพอื่ นำมาใช้ประโยชนใ์ นการปลูกพืชต่างๆ ในภายหลงั โดยนำมาเกลีย่ คลุมดินชนั้ ลา่ งทเี่ ปน็ ดนิ ไมด่ ี หรืออาจนำมาถมทำ ขอบสระน้ำ หรอื ยกรอ่ งสำหรบั ปลูกไมผ้ ลก็จะได้ประโยชนอ์ กี ทางหนง่ึ ตัวอย่างพืชทีค่ วรปลกู และสตั ว์ทคี่ วรเล้ยี ง ไมผ้ ลและผกั ยนื ต้น : มะม่วง มะพรา้ ว มะขาม ขนุน ละมุด สม้ กลว้ ย นอ้ ยหนา่ มะละกอ กะท้อน แคบ้าน มะรุม สะเดา ข้เี หล็ก กระถนิ ฯลฯ ผกั ล้มลุกและดอกไม้ : มนั เทศ เผอื ก ถวั่ ฝกั ยาว มะเขอื มะลิ ดาวเรือง บานไมร่ ้โู รย กหุ ลาบ รกั และ ซ่อนกล่ิน เปน็ ตน้ เหด็ : เห็ดนางฟา้ เหด็ ฟาง เหด็ เป๋าฮอื้ เป็นตน้ สมุนไพรและเครอื่ งเทศ : หมาก พลู พริกไท บุก บัวบก มะเกลือ ชมุ เห็ด หญา้ แฝก และพืชผกั บางชนิด เชน่ กะเพรา โหระพา สะระแหน่ แมงลัก และตะไคร้ เป็นต้น ไมใ้ ช้สอยและเช้อื เพลิง : ไผ่ มะพร้าว ตาล กระถนิ ณรงค์ มะขามเทศ สะแก ทองหลาง จามจรุ ี กระถิน สะเดา ขี้เหลก็ ประดู่ ชงิ ชัน และยางนา เป็นตน้ พชื ไร่ : ข้าวโพด ถวั่ เหลอื ง ถว่ั ลิสง ถวั่ พุ่ม ถ่ัวมะแฮะ อ้อย มันสำปะหลัง ละหุง่ นนุ่ เป็นตน้ พืชไรห่ ลายชนดิ อาจเก็บเกี่ยวเม่อื ผลผลิตยงั สดอยู่ และจำหน่ายเป็นพืชประเภทผักได้ และมรี าคาดกี ว่าเกบ็ เมื่อแก่ ได้แก่ ขา้ วโพด ถัว เหลือง ถั่วลิสง ถ่ัวพ่มุ ถั่วมะแฮะ ออ้ ย และมนั สำปะหลัง พืชบำรุงดนิ และพืชคลมุ ดิน : ถวั่ มะแฮะ ถว่ั ฮามาตา้ โสนแอฟรกิ ัน โสนพื้นเมอื ง ปอเทอื ง ถ่ัวพรา้ ข้ีเหล็ก กระถิน รวมทงั้ ถ่ัวเขยี วและถ่วั พ่มุ เปน็ ต้น และเมือ่ เกบ็ เก่ียวแล้วไถกลบลงไปเพื่อบำรุงดนิ ได้ หมายเหตุ : พืชหลายชนดิ ใช้ทำประโยชน์ไดม้ ากกว่าหนึง่ ชนดิ และการเลอื กปลกู พืชควรเนน้ พชื ยนื ตน้ ดว้ ย เพราะการ ดแู ลรักษาในระยะหลังจะลดนอ้ ยลง มีผลผลิตทยอยออกตลอดปี ควรเลือกพชื ยืนตน้ ชนิดต่างๆ กนั ให้ความร่มเย็นและชุม่ ช้ืนกับทอี่ ยูอ่ าศยั และส่ิงแวดลอ้ ม และควรเลือกต้นไม้ใหส้ อดคล้องกับสภาพของพืน้ ที่ เช่น ไมค่ วรปลูกยคู าลิปตัสบรเิ วณ ขอบสระ ควรเปน็ ไม้ผลแทน เป็นตน้ สัตวเ์ ลย้ี งอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ สตั วน์ ำ้ : ปลาไน ปลานิล ปลาตะเพียนขาว ปลาดุก เพอื่ เป็นอาหารเสริมประเภทโปรตนี และยังสามารถ นำไปจำหนา่ ยเปน็ รายได้เสริมไดอ้ กี ดว้ ย ในบางพนื้ ท่สี ามารถเล้ียงกบได้ สกุ ร หรือ ไก่ เลยี้ งบนขอบสระน้ำท้ังน้ี มลู สุกรและไก่สามารถนำมาเปน็ อาหารปลา บางแห่งอาจเล้ียงเปด็ ได้ ประโยชน์ของทฤษฎใี หม่

11 ๑. ใหป้ ระชาชนพออยพู่ อกินสมควรแก่อตั ภาพในระดบั ท่ีประหยดั ไมอ่ ดอยาก และเลี้ยงตนเองไดต้ ามหลกั ปรชั ญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ๒. ในหนา้ แล้งมีน้ำน้อย กส็ ามารถเอาน้ำที่เก็บไว้ในสระมาปลกู พชื ผักตา่ งๆ ท่ีใช้นำ้ น้อยได้ โดยไม่ต้อง เบียดเบียนชลประทาน ๓. ในปที ี่ฝนตกตามฤดกู าลโดยมีนำ้ ดีตลอดปี ทฤษฎีใหม่นส้ี ามารถสร้างรายไดใ้ หแ้ ก่เกษตรกรได้โดยไม่ เดือดรอ้ นในเรอื่ งคา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ๔. ในกรณีทเ่ี กดิ อุทกภัย เกษตรกรสามารถท่จี ะฟนื้ ตัวและชว่ ยตัวเองไดใ้ นระดบั หน่ึง โดยทางราชการไมต่ ้อง ชว่ ยเหลอื มากนัก ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณดว้ ย ทฤษฎีใหม่ทสี่ มบรู ณ์ ทฤษฎีใหม่ท่ีดำเนนิ การโดยอาศยั แหล่งน้ำ ธรรมชาติ นำ้ ฝน จะอยู่ในลกั ษณะ “หม่ินเหม”่ เพราะหากปีใด ฝนน้อย นำ้ อาจจะไมเ่ พยี งพอ ฉะนน้ั การที่จะทำให้ทฤษฎใี หม่สมบูรณ์ไดน้ ั้น จำเป็นต้องมสี ระเกบ็ กกั นำ้ ทมี่ ีประสิทธภิ าพ และเต็มความสามารถ โดยการมีแหลง่ น้ำขนาดใหญ่ทสี่ ามารถเพ่ิมเติมน้ำในสระเกบ็ กักน้ำให้เต็มอยู่ เสมอ ดังเชน่ กรณี ของการทดลองทีโ่ ครงการพัฒนาพื้นที่บรเิ วณวดั มงคลชัยพฒั นาอนั เนอ่ื งมาจาก พระราชดำริ จังหวดั สระบรุ ี ระบบทฤษฎีใหม่ท่ีสมบรู ณ์ อ่างใหญ่ เติมอ่างเลก็ อ่างเล็ก เติมสระนำ้ จากภาพ วงกลมเล็ก คอื สระน้ำทเ่ี กษตรกรขดุ ขนึ้ ตามทฤษฎีใหม่ เม่ือเกิดชว่ งขาดแคลนน้ำในฤดแู ล้ง เกษตรกรสามารถสูบ นำ้ มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ และหากน้ำในสระนำ้ ไมเ่ พยี งพอกข็ อรับน้ำจากอ่างห้วยหนิ ขาว (อา่ งเลก็ ) ซงึ่ ไดท้ ำระบบสง่ นำ้ เชื่อมต่อทางทอ่ ลงมายังสระนำ้ ท่ไี ด้ขดุ ไวใ้ นแตล่ ะแปลง ซ่งึ จะช่วยใหส้ ามารถมนี ำ้ ใช้ตลอดปี

12 กรณที เ่ี กษตรกรใชน้ ำ้ กันมาก อา่ งห้วยหินขาว (อา่ งเล็ก) กอ็ าจมีปรมิ าณนำ้ ไม่เพียงพอ กส็ ามารถใชว้ ิธกี ารผันนำ้ จากเข่อื น ปา่ สักชลสิทธิ์ (อา่ งใหญ)่ ต่อลงมายังอ่างเก็บน้ำห้วยหนิ ขาว (อา่ งเลก็ ) ก็จะช่วยให้มปี ริมาณนำ้ มาเติมในสระของเกษตรกร พอตลอดท้ังปโี ดยไมต่ อ้ งเสยี่ ง ระบบการจัดการทรัพยากรนำ้ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สามารถทำใหก้ ารใชน้ ้ำมีประสิทธิภาพอย่างสงู สุด จากระบบส่งทอ่ เปิดผา่ นไปตามแปลงไร่นาตา่ งๆ ถงึ ๓- ๕ เท่า เพราะยามหน้าฝน นอกจากจะมนี ำ้ ในอ่างเก็บนำ้ แล้ว ยงั มีน้ำในสระของราษฎรเก็บไว้พรอ้ มกันด้วย ทำใหม้ ี ปรมิ าณนำ้ เพมิ่ อย่างมหาศาล นำ้ ในอ่างที่ตอ่ มาสู่สระจะทำหนา้ ทเ่ี ปน็ แหล่งนำ้ สำรอง คอยเตมิ เท่าน้นั เอง แปลงสาธิตทฤษฎีใหม่ของมูลนธิ ิชยั พฒั นา ทา่ นทีส่ นใจสามารถขอคำปรกึ ษาและเยี่ยมชมแปลงสาธติ ทฤษฎใี หม่ได้ ดงั นี้ ๑. สำนักบรหิ ารโครงการ สำนักงานมูลนิธิชัยพฒั นา โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๘๒ ๔๔๒๕ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๓๓๔๑ ๒. โครงการพัฒนาพน้ื ท่ีบรเิ วณวัดมงคลชัยพฒั นาอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ จังหวัดสระบุรี โทรศัพท์ / โทรสาร ๐ ๓๖๔๙ ๙๑๘๑ ๓. โครงการแปลงสาธติ การเกษตรแบบผสมผสานตามแนวพระราชดำริ (ทฤษฎใี หม่) อำเภอปากทอ่ จังหวดั ราชบรุ ี โทรศพั ท์ / โทรสาร ๐ ๓๒๓๓ ๗๔๐๗ ๔. โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี อำเภอชะอำ จงั หวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ / โทรสาร ๐ ๓๒๕๙ ๔๐๖๗ ๕. โครงการสาธติ ทฤษฎีใหม่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โทรศพั ท์ / โทรสาร ๐ ๔๓๘๕ ๙๐๘๙ ๖.โครงการสาธติ ทฤษฎีใหม่ อำเภอปักธงชัย จงั หวัดนครราชสีมา โทรศพั ท์ / โทรสาร ๐ ๔๔๓๒ ๕๐๔๘ ทมี่ า https://www.chaipat.or.th/site_content/item/3579-2010-10-08-05-24-39.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook