002080

50 หากพดู ถงึ วงการวทิ ยาศาสตรค์ งไมม่ ใี ครไมน่ กึ ถงึ ชายทชี่ อ่ื “อลั เบริ ต์ ไอนส์ ไตน”์ (Albert Einstein) เจ้าของทฤษฎสี มั พนั ธภาพท่ใี ช้สร้างระเบิด ปรมาณู เปน็ ทฤษฎที เี่ รยี กไดว้ า่ ลำ้�ยคุ มากในสมยั นน้ั นอกจากนน้ั ยงั มที ฤษฎี อกี มากมายทเี่ ขาสรา้ งขน้ึ แต่ยังไม่สามารถพสิ ูจน์และทำ�ความเขา้ ใจเนอ้ื หา ทง้ั หมดได้ มาจนถึงทกุ วันน้ี “อัลเบิรต์ ไอน์สไตน”์ นน้ั ถือก�ำ เนดิ เม่อื วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1879 ในครอบครวั ชาวยวิ ทเ่ี มอื งอลู ม์ แควน้ เวอรเ์ ทมบรู ก์ ประเทศเยอรมนี เป็นเมอื งทอี่ ยูท่ างทิศตะวนั ออกของสตุทการ์ทไป 100 กิโลเมตร เมืองอลู ม์ แหง่ นี้เป็นเมอื งทม่ี ีช่อื เสยี งทางด้านการผลิตนกั คณิตศาสตรท์ ี่มีคุณภาพ จน มคี ำ�ขวญั ประจำ�เมอื งว่า “ชาวอูลม์ ทุกคน ล้วนเปน็ นกั คณิตศาสตร”์ บิดาช่อื “แฮร์มนั น์” มอี าชีพขายเตยี งนอน ซึง่ ภายหลังได้เปลี่ยน มาขายสินค้าดา้ นเคมีไฟฟ้า ส่วนมารดาช่อื “พอลลีน” พออายไุ ดเ้ พยี ง 6 สปั ดาหก์ ไ็ ดย้ า้ ยมาอยทู่ เี่ มอื งมวิ นคิ เมอื่ โตขน้ึ เขากไ็ ดเ้ รมิ่ เรยี นหนงั สอื เหมอื น เดก็ ทว่ั ไป นอกจากน้ันยงั เรยี นไวโอลิน ซง่ึ เป็นสิ่งท่เี ขาชอบมากในขณะนน้ั เพราะวา่ เปน็ สงิ่ ทปี่ ลดปลอ่ ยอารมณไ์ ดด้ ที สี่ ดุ เขาจงึ มกั พกพาไวโอลนิ ไปดว้ ย ทกุ แหง่ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

51 ต่อมาเม่ือโตขนึ้ ไอน์สไตนก์ ไ็ ด้เรยี นวชิ าคณิตศาสตรซ์ ่งึ เขาคน้ พบวา่ เป็นอีกสงิ่ หน่งึ ท่เี ขาชอบมากไมน่ อ้ ยไปกวา่ ไวโอลนิ โดยวิชาแคลคูลัส เนือ่ ง จากชื่นชอบวิธีการหาเหตุผลของวิชานี้ ซ่ึงช่วงเวลาดังกล่าวเขาได้พยายาม คน้ หาค�ำ ตอบของปริศนา “โลกอันไพศาล” และ “เอกภพ” ไปดว้ ย ในปี ค.ศ.1984 ครอบครวั ของไอนส์ ไตน์ได้ยา้ ยจากเมืองมวิ นิคไป อย่ทู ี่เมืองพาเวยี น อิตาลี เน่อื งจากความล้มเหลวทางธุรกจิ แตไ่ อน์สไตน์ ยงั คงอยทู่ เี่ มอื งมวิ นคิ ตอ่ ไป ซงึ่ ตอ่ มาเขากม็ กั จะเลา่ เรอ่ื งราวเมอื่ ครงั้ ทเี่ ขาอายุ ได้ 4-5 ขวบอยเู่ สมอ โดยเรอื่ งทเ่ี ขาเล่านนั้ มอี ยู่วา่ ขณะที่เขาปว่ ยอยู่ บิดาของเขาก็ใหเ้ ข็มทศิ แมเ่ หล็ก เพอ่ื เอาไวเ้ ล่น หรือเป็นของขวัญเพื่อท่ีจะทำ�ให้หายเร็วขึ้น ในช่วงน้ันเองเขาสังเกตเห็นว่า เข็มทิศน้ันจะช้ีไปทางทิศเหนือเสมอ เหมือนว่ามีพลังบางอย่างท่ีคอยบังคับ อยูเ่ ป็นพลงั ท่วี า่ งเปล่าไมส่ ามารถมองเหน็ ด้วยตาเปล่า ตอนนั้นเองท่ีทำ�ให้ความสงสัยของเขาน้ันเป็นเรื่องที่น่าพิศวงและ น่าตดิ ตาม ในวยั ขนาดน้ันยอ่ มทีจ่ ะไม่มที างท่จี ะเข้าใจหรือมีความรเู้ กย่ี วกับ พลังแม่เหล็กเป็นแน่ แต่น่ันไม่ใช่สิ่งสำ�คัญ เพราะส่ิงท่ีสำ�คัญย่ิงกว่านั้นคือ ความสงสยั ทกุ ครง้ั เปน็ การปลกุ สญั ชาตญาณการเปน็ นกั วทิ ยาศาสตรท์ ด่ี ขี อง เขาขึ้นมา T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

52 จากค�ำ บอกเลา่ ของสมาชกิ ในครอบครวั ตา่ งระบวุ า่ ไอนส์ ไตนใ์ นตอน เด็กน้ันเป็นคนท่ีชอบย้ำ�คำ�พูด จดจ่ออยู่กับคำ�พูดเหล่าน้ันเหมือนว่ายังมี บางสิ่งท่ีอยู่เบ้ืองหลังคำ�พูดเหล่าน้ัน และยังมีข้อน่าสังเกตอีกอย่างหน่ึงคือ ไอน์สไตน์จะเป็นคนที่มีสมาธิในการทำ�งานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสมบัติที่ ตดิ ตวั เขามาตง้ั แตเ่ ดก็ เพราะในตอนเดก็ เขามกั จะชอบสรา้ งบา้ นดว้ ยไพ่ ซงึ่ สามารถสรา้ งได้หลายชนั้ มาก เม่อื เติบโตเปน็ ผใู้ หญ่ ไอนส์ ไตนก์ ม็ โี อกาสไดเ้ ปน็ ครพู ร้อมกับศกึ ษา ทฤษฎอี น่ื ๆ อกี มากมายท่ีบรรดานกั วิทยาศาสตรช์ ่ือดังคดิ คน้ เอาไว้ ซึ่งเขา กส็ ามารถต่อยอดความคิดเหลา่ นนั้ พรอ้ มทัง้ สรา้ งทฤษฎใี หม่เป็นของตัวเอง อีกดว้ ย จนกระท่ังมาค้นพบ “ทฤษฎีสัมพันธภาพ” ที่มีสูตรว่า E=mc2 หรือทน่ี ักวทิ ยาศาสตร์ในยุคนั้นเรยี กวา่ “สมการของไอนส์ ไตน์” โดยให้ E เทา่ กบั พลังงาน m เท่ากับมวล และ c เทา่ กบั ความเร็วแสง แตใ่ นตอนแรกนน้ั ทฤษฎนี ย้ี งั ไมเ่ ปน็ ทย่ี อมรบั กนั ในวงการวทิ ยาศาสตร์ เพราะเป็นเรือ่ งทอ่ี ยไู่ กลเกนิ ไปกวา่ ท่วี ทิ ยาศาสตร์ในยุคนัน้ จะตามทัน อกี ท้งั ยังไมม่ ีขอ้ พิสจู น์ท่ีแสดงวา่ เป็นไปไดจ้ ริง คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

53 ขอ้ สรปุ นนั้ ยงั ไมป่ รากฏอยา่ งแนช่ ดั แตก่ ม็ เี รอ่ื งของสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 เขา้ มาคนั่ กลางเสียกอ่ น ซึง่ ฝ่ายเยอรมันทนี่ �ำ โดย “อดอล์ฟ ฮติ เลอร์” ได้ทำ�การกวาดล้างชาวยิวท่ัวโลก ไอน์สไตน์จึงตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายน้ัน แตด่ ว้ ยความชว่ ยเหลอื ของสหรฐั อเมรกิ าจงึ ท�ำ ใหง้ านวจิ ยั ของไอนส์ ไตนส์ �ำ เรจ็ เกดิ เปน็ ระเบดิ ปรมาณทู ่ีถล่มสองเมืองของญี่ปนุ่ คือ ฮโิ รชมิ าและนางาซากิ ไอน์สไตน์ ถือว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ย่ิงใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 ทฤษฎสี มั พนั ธภาพทเ่ี ขาสรา้ งขนึ้ นนั้ เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งมากในการพฒั นา กลศาสตรค์ วอนตมั จกั รวาลวทิ ยาและกลศาสตรเ์ ชงิ สถติ ิ ซงึ่ ในปคี .ศ. 1921 เขายงั ไดร้ บั รางวลั โนเบล สาขาฟสิ กิ ส์ จากผลงานการอธบิ ายปรากฏการณ์ โฟโตอเิ ลก็ ทรคิ และการบ�ำ เพญ็ ประโยชนต์ อ่ วงการฟิสกิ ส์เชงิ ทฤษฎี ในแง่ของความฉลาดน้ันต้องยอมรับว่าไอน์สไตน์น้ันเป็นบุคคลท่ีมี ความเป็นอัจฉริยะอย่างมากในเหล่ามวลมนุษย์ที่เกิดขึ้นบนโลกในรอบหลาย รอ้ ยปี ความสามารถของเขาน้ันสามารถเทียบไดก้ บั นวิ ตนั กาลิเลโอ และ อรสิ โตเตลิ หากจะบอกวา่ เขาเปน็ ผทู้ พ่ี ามนษุ ยชาตหิ ลดุ พน้ จากหลมุ ดำ�แหง่ ความสงสยั นน้ั คงไม่ผิดเลย T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

54 การค้นควา้ งานวจิ ยั รวมทง้ั แนวคดิ ของไอน์สไตน์นน้ั ชว่ ยใหว้ งการ วิทยาศาสตร์ของโลกน้ันก้าวหน้าข้ึนแบบก้าวกระโดด ทำ�ให้ย่นย่อเวลาใน การคน้ ควา้ ความรู้ และยงั สามารถอธบิ ายความเรน้ ลบั ทางธรรมชาตไิ ดอ้ ยา่ ง มีเหตุมีผล “การกา้ วขา้ มกรอบความคดิ ” นนั่ ถอื วา่ เปน็ หลกั การส�ำ คญั ทไ่ี อนส์ ไตน์ ใช้ตลอดมา คนธรรมดานัน้ มกั จะตั้งคำ�ถาม โดยท่ีมคี ำ�ตอบในใจประมาณ หนึ่ง ซ่งึ ยงั ไมแ่ น่ใจวา่ นั่นจะเป็นสง่ิ ท่ถี กู หรอื ผิด แต่ส่ิงทไี่ อนส์ ไตน์ทำ�นนั้ ให้ มองขา้ มคำ�ตอบน้นั ออกไปอีก มองให้ทะลอุ อกไปใหไ้ กลกวา่ ส่งิ ที่ควรจะเป็น ทำ�ใหพ้ บความจริงหลากหลายอยา่ งที่ซอ่ นอย่นู อกกรอบความคดิ นนั้ การให้ความสำ�คญั กับเรอ่ื งของเหตแุ ละผลมากเกนิ ไป ทำ�ให้ความ คิดของคนเรานั้นถูกตั้งกรอบเอาไว้ไม่ให้คิดไปไกลกว่าที่ควรจะเป็น แต่ หากว่าลดเรื่องของเหตุผลลงแล้วใส่เร่ืองของจินตนาการหรือความฝันเข้าไป จะท�ำ ใหเ้ กดิ มติ ิในความคิดที่หลากหลายและแปลกใหมม่ ากมาย อย่างทีเ่ รา ไมเ่ คยคิดมากอ่ นว่าจะมีบนโลก ดงั ค�ำ กลา่ วของไอนส์ ไตนท์ ใี่ หส้ มั ภาษณก์ บั นติ ยสาร The Saturday Post ในวนั ที่ 16 ตลุ าคม 1929 โดยกลา่ วไวว้ ่า คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

55 “...ฉันเป็นศิลปินที่พอจะวาดรูปได้อย่างเสรีตาม จินตนาการ จิตนาการน้นั เป็นส่งิ ท่มี ีความสำ�คัญย่งิ ว่าความรู้ ความรนู้ นั้ เปน็ สง่ิ ทถ่ี กู จ�ำ กดั ขอบเขตเอาไว้ สว่ นจนิ ตนาการนน้ั เปน็ สิ่งทโ่ี อบล้อมโลกทัง้ ใบเอาไว้...” จากคำ�พูดดังกล่าวก็ย่ิงทำ�ให้เห็นว่าไอน์สไตน์น้ันให้ความสำ�คัญกับ จนิ ตนาการมากเพยี งใด การมจี นิ ตนาการนน้ั ไมจ่ ำ�เปน็ วา่ จะเปน็ แตเ่ รอื่ งของ วทิ ยาศาสตรเ์ ทา่ นนั้ ไมว่ า่ งานชนดิ ไหนกต็ ามเรอื่ งของจนิ ตนาการนน้ั เปน็ สง่ิ ทขี่ าดไปไมไ่ ด้ หากตอ้ งการใหด้ ขี นึ้ แปลกใหมข่ น้ึ และตอ้ งการใหง้ านกา้ วไป ขา้ งหนา้ สงิ่ นจ้ี ะเปน็ ตวั ผลกั ดันทด่ี มี าก ย่ิงในยุคปัจจุบันน้ีเร่ืองของจินตนาการนั้นเป็นเร่ืองท่ีขาดไม่ได้เลย การทำ�งานโดยขาดจินตนาการนั้น กไ็ มต่ า่ งกับเป็นหุน่ ยนต์หรอื เคร่อื งจกั รที่ คอยฟังคำ�ส่ังเท่าน้ัน หากหน่วยงานใดมีพนักงานประเภทน้ีมากเกินไปย่อม จะลา้ หลงั กวา่ หนว่ ยงานอืน่ อยา่ งเห็นไดช้ ัด อีกหลักการสำ�คัญของไอน์สไตน์ท่ีทุกคนน้ันควรเอาเป็นแบบอย่าง นน่ั คือ การรจู้ กั สงสัยและพยายามคน้ หาคำ�ตอบของความสงสัยนั้น ความ สงสัยน้ันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา หลายครั้งท่ีคนธรรมดาน้ันกลายมาเป็น คนส�ำ คัญของโลกได้ โดยอาศัยความสงสยั ท่คี นทว่ั ไปมองขา้ ม T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

56 ลกั ษณะของไอนส์ ไตนน์ น้ั เปน็ ผทู้ สี่ งสยั ไปเสยี ทกุ เรอ่ื ง จะสงั เกตจาก การทเ่ี ขาเปน็ คนทย่ี �้ำ คดิ ย�้ำ ท�ำ เปน็ ประจ�ำ มาตง้ั แตเ่ ดก็ นนั่ เปน็ เพราะพยายาม ทจ่ี ะเรียนร้จู ากสิง่ ที่ไดร้ บั มา และพยายามทจี่ ะมองไปในแง่มมุ อืน่ ๆ อกี เมอ่ื เกดิ ความสงสัยแล้วกจ็ ะเกิดสมมตฐิ านตามมา น่ันคอื การหาค�ำ ตอบโดยการคาดเดาตามประสบการณ์และความน่าจะเป็นท้ังหมดท่มี ี แล้ว กถ็ งึ จะมาถงึ ขนั้ ตอนการทดลองตามแนวคดิ แตล่ ะแบบวา่ แบบไหนจะเปน็ ค�ำ ตอบของความสงสัยนัน้ สุดท้ายกค็ ือการสรปุ นำ�ผลการทดลองท้งั หมดนน้ั มาสรปุ และพยายามหาตัวแปรทีท่ �ำ ให้เกิดผลลพั ธอ์ อกมา ท้งั หมดนีล้ ้วนเปน็ หลกั การขน้ั พนื้ ฐานทีบ่ รรดานกั วิทยาศาสตรต์ ่าง ใชใ้ นการหาขอ้ สงสยั ซงึ่ ใชไ้ ดด้ ใี นระดบั หนง่ึ แตห่ ากวา่ ตอ้ งการสง่ิ ทม่ี ากกวา่ น้ัน กต็ อ้ งเติมเรอื่ งของจินตนาการเขา้ ไปอกี ซ่งึ ผลลัพธ์ท่อี อกมารบั รองวา่ จะ เป็นเรอื่ งที่เกนิ กรอบความคิดของคนธรรมดา ดงั คำ�กล่าวของไอน์สไตนท์ ว่ี ่า “จิตใจที่รู้โดยสัญชาตญาณ นั่นคือของกำ�นัลอัน ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนจิตใจท่ีมีแต่เหตุผลน้ันก็คือทาสที่ซื่อสัตย์ เรา นนั้ สร้างสังคมที่ใหเ้ กียรตแิ ก่คนรบั ใชแ้ ละลืมเลอื นของก�ำ นลั ” คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

57 เม่ือความสงสัยมารวมเขา้ กบั จนิ ตนาการ จะเกดิ เป็นแนวความคิด ท่ีแปลกแยกออกไปจากปกติ น่ันเป็นส่ิงท่ีสำ�คัญมาก สำ�หรับผู้ที่ต้องการ ประสบความส�ำ เรจ็ ในชวี ติ ดา้ นตา่ งๆ ท�ำ ใหเ้ รานน้ั กา้ วไปไดร้ วดเรว็ กวา่ ทค่ี วร จะเปน็ จงอย่าหยุดความสงสัยและจินตนาการของเราไว้ด้วย เหตุผลและความน่าจะเป็น เพราะน่ันจะเป็นการหยุดการ พฒั นาศักยภาพของตนเองอย่างน่าเสียดาย T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

ต้น โออิชิ เรากำ�หนดจุดเริ่มต้นไม่ได้ แต่เส้นทางชีวิต นับจากจุดเริ่มต้นเป็นต้นไป เราสามารถเลือกได้

59 คดิ แบบ ตัน โออิชิ หากยอ้ นไปประมาณ 10 ปที ่ีแล้วช่ือของ ตนั โออชิ ิ หรอื ตัน ภาสกรนที คงไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในสังคม แต่หลังจากที่เขาเข้ามา จบั ธุรกจิ เครอื่ งดื่มชาเขียวภายใต้ยหี่ อ้ โออชิ ิ จากคนธรรมดาคนหนึ่งไดก้ ลาย มาเปน็ ทร่ี จู้ กั ทวั่ ทง้ั ประเทศ ซง่ึ เขาเองกไ็ มไ่ ดม้ จี ดุ เดน่ เรอื่ งรปู รา่ งหนา้ ตาหรอื มาจากตระกลู ใหญ่ คงไม่มคี ำ�ไหนที่เหมาะส�ำ หรับตันไดด้ ีเท่ากับค�ำ คมท่ีวา่ “ไมม่ ีอะไรเป็นไปไมไ่ ด้” T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

60 ไม่มอี ะไรที่เป็นไปไม่ไดบ้ นโลกใบนี้ ประโยคน้ตี นั ยังเช่ืออยเู่ สมอ และน�ำ มาใชเ้ ปน็ แนวทางในการด�ำ เนนิ ชวี ติ และด�ำ เนนิ ธรุ กจิ ในทกุ วนั นี้ หลาย คนคงจะต้ังคำ�ถามวา่ “เปน็ ไปไดห้ รือทค่ี นธรรมดาสามญั สามารถพลิกชวี ิต ได้จากแนวความคดิ ?” หากคำ�ถามนี้ถูกส่งไปให้ตันตอบ คงตอบได้เพียงอย่างเดียวว่า “เป็นไปได้” เพราะไม่มีกฎข้อไหนท่ีห้ามไม่ให้คนจนสามารถมาเป็นคนรวย หรือห้ามให้คนรูปไม่หล่อเป็นคนรวย ทุกอย่างน้ันเป็นเรื่องท่ีเราคิดไปเอง ท้ังนั้น คนเรามักต้ังกรอบความคิดให้ตนเองและกักขังความสามารถและ วสิ ัยทศั นข์ องตนเองไว้ข้างในนัน้ หากตอ้ งการประสบความสำ�เรจ็ ในชีวิต ควรทำ�ลายกรอบความคิด นั้นเสีย พร้อมกับลบคำ�ว่าเป็นไปไม่ได้ออกไปจากชีวิต เรื่องราวชีวิตของ ตันเองสามารถใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ความคิดน้ีได้เป็นอย่างดี เพราะรากฐาน ครอบครัวนั้นกม็ าจากครอบครวั ทม่ี ฐี านะคอ่ นขา้ งไม่ดนี ักเทา่ นน้ั ตัน ภาสกรนที กำ�เนิดเมื่อวันท่ี 4 เมษายน พ.ศ. 2502 ที่ จงั หวดั ชลบรุ ี เปน็ ลกู ชายคนสดุ ทอ้ งในจ�ำ นวน 6 คน ครอบครวั ของตนั เปน็ ครอบครวั ของคนจนี ทีม่ าจากจนี แผน่ ดนิ ใหญ่ ด้วยฐานะครอบครัวท่ีไมด่ นี ัก บวกกับสมาชกิ ในครอบครัวมีจ�ำ นวนมาก จงึ ทำ�ใหต้ นั นั้นจบการศกึ ษาเพยี ง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เทา่ น้ัน งานช้นิ แรกในชีวติ คือ รับจ้างแบกของ เมอื่ อายุไดเ้ พยี ง 17 ปเี ท่านั้น คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

61 หลงั จากนัน้ มาก็เก็บเล็กผสมน้อยรวมกบั เงินทย่ี ืมพ่อและพสี่ าวรวม กันเป็นเงิน 5 หมน่ื บาท นำ�มาสรา้ งธรุ กจิ เปน็ ของตวั เอง โดยเปิดรา้ นขาย หนังสืออยใู่ นตึกแถวใกล้ทา่ รถ จงั หวัดชลบุรี ซงึ่ ก็ถอื ว่าไดก้ �ำ ไรเป็นอยา่ งดี จนสามารถขยายกิจการเปิดรา้ นก๊ฟิ ชอป ร้านสกุ แ้ี ละร้านเบเกอรี่ ชว่ งนั้นถือวา่ เป็นช่วงท่ีธรุ กิจของตนั นั้นกำ�ลงั ไปไดด้ ี มเี งินเก็บมาก พอสมควร ซึ่งตันเองก็ได้วางแผนท่ีจะใช้เงินดังกล่าวต่อยอดความสำ�เร็จ โดยการท�ำ ธรุ กจิ อสงั หารมิ ทรพั ย์ แตแ่ ลว้ ตนั นนั้ ตอ้ งมาเจอมรสมุ ชวี ติ ลกู ใหญ่ ในชวี ติ ในปพี .ศ. 2540 เมอ่ื รฐั บาลในขณะนน้ั ประกาศลอยคา่ เงนิ บาท ทำ�ให้ ธรุ กจิ ทกี่ �ำ ลงั ไปไดส้ วยตอ้ งลม้ ลงอยา่ งไมเ่ ปน็ ทา่ จากเหตกุ ารณค์ รงั้ นน้ั ทำ�ให้ ตนั นนั้ ตอ้ งกลายเป็นหน้ีนบั 100 ลา้ นบาท ตอ้ งขายทรพั ยส์ นิ ท่ีมีอยทู่ ัง้ หมด นั้นเพ่ือมาชำ�ระหนีเ้ หลา่ นี้ เม่ือถึงจุดวิกฤตสุดในชวี ติ ตันคิดวา่ ต่อใหท้ ำ�งานอยู่ทีเ่ ดมิ กค็ งเป็น เรอ่ื งยากทจ่ี ะกลบั มาดเี หมอื นเดมิ ได้ จงึ ตดั สนิ ใจเขา้ กรงุ เทพฯ เพอ่ื เปดิ เสน้ ทาง ธุรกิจใหม่ ซึ่งตันเช่ือว่ามันต้องดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน ธุรกิจที่ตันเริ่มทำ�ท่ี กรงุ เทพฯ คอื การเปิดสตดู ิโอถ่ายภาพแต่งงาน T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

62 จากนั้นจึงหันเหมาทำ�ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น และก็ได้รับการตอบ รับจากคนไทยเปน็ อยา่ งดี เพราะเป็นสงิ่ ใหมท่ ่ีไมค่ ่อยมีใครทำ� อีกทั้งรสชาติ และราคาของอาหารนนั้ ก็สมเหตสุ มผล แตจ่ ุดพลิกผนั ที่ทำ�ใหต้ นั กลับมาได้ และกลบั มายงิ่ ใหญก่ วา่ เดมิ คอื การเขา้ ไปท�ำ ธรุ กจิ ชาเขยี วโออชิ ิ ซงึ่ ท�ำ ใหห้ น้ี 100 ลา้ นบาทนนั้ กลบั กลายมาเป็นสินทรพั ยม์ ลู คา่ กวา่ 200 ล้านบาท โดย ใชเ้ วลาเพียง 4-5 ปี แตน่ ่ันไม่ใชจ่ ุดสิน้ สุด เมื่อโออชิ สิ ามารถเข้าตลาดหุน้ ไดท้ ำ�ใหม้ ลู ค่า สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ ขน้ึ เปน็ 2,000 ลา้ นบาท ในพรบิ ตา จากวธิ กี ารคดิ ทไ่ี มเ่ หมอื น ใคร มีการริเริ่มอะไรใหม่ๆ ให้วงการธุรกิจไทยตลอดเวลา ท�ำ ให้เรื่องราว ของผชู้ ายทีช่ อื่ “ตัน ภาสกรนที” นั้นเป็นเร่ืองราวชวี ิตท่ีมสี ีสนั จนสามารถ ใช้เป็นกรณีศึกษา โดยเอามาดัดแปลงให้เข้ากับธุรกิจแต่ละแบบหรือเอามา ปรับใชใ้ นการด�ำ เนนิ ชวี ิตไดเ้ ป็นอย่างดี แนวคดิ และแนวปฏบิ ตั ขิ องตนั นน้ั เปน็ แนวคดิ ทใี่ หก้ ำ�ลงั ใจแดบ่ รรดา คนธรรมดาสามญั ทเี่ ปน็ คนสว่ นมากในสงั คมใหล้ องปรบั เปลยี่ นความคดิ เพอ่ื ทจ่ี ะไปสคู่ วามส�ำ เรจ็ ในอนาคต สง่ิ ทอ่ี ยากจะชใ้ี หเ้ หน็ ในตวั ของตนั อกี อยา่ งหนง่ึ คอื การทเี่ ปน็ คนตดิ ดนิ กนิ งา่ ยอยงู่ า่ ย ไมฟ่ งุ้ เฟอ้ กบั เงนิ ทไ่ี ดม้ า รวมทงั้ เปน็ คนทอ่ี อ่ นนอ้ มถอ่ มตน เขา้ กบั ผอู้ น่ื ไดง้ า่ ย ซง่ึ บคุ ลกิ ดงั กลา่ วจะพบเหน็ ไดท้ กุ ครง้ั เมือ่ ตนั ออกโทรทศั นห์ รืองานสงั คมท่ีไม่เป็นทางการ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

63 การแตง่ กายทเ่ี รยี บงา่ ย เสอ้ื เชต้ิ สสี นั ไมฉ่ ดู ฉาด ในบางครง้ั กใ็ สเ่ สอ้ื ยดื ธรรมดา กางเกงยนี สห์ รือไม่กก็ างเกงผา้ ธรรมดา รองเท้าคัทชสู ดี ำ� เครื่อง ประดบั นนั้ กม็ แี ตน่ าฬกิ าทใ่ี ชเ้ ปน็ ประจ�ำ อยเู่ รอื นเดยี วเทา่ นน้ั แมว้ า่ ไปรว่ มงาน บวช งานศพหรืองานแตง่ งาน กม็ กั จะพบภาพลักษณเ์ ดิมๆ ที่ถึงแตง่ ตัวไม่ หรหู ราแตก่ ม็ าดว้ ยความเตม็ ใจ ซงึ่ มกั ทำ�ใหล้ กู นอ้ งหลายคนนน้ั ตอ้ งกำ�ชบั ให้ แตง่ ตัวให้ดภู ูมิฐานขน้ึ เพ่ือเปน็ การสรา้ งภาพพจนใ์ นสังคม สิ่งเหลา่ น้ีลว้ นบ่งบอกถงึ อุปนิสัยส่วนตวั ทีต่ ดิ ดิน ไมย่ อมให้อำ�นาจ ทรัพย์สินเงินทองเข้ามาเปลี่ยนชีวิตตัวเอง อดีตเป็นคนมัธยัสถ์อย่างไรใน ปัจจุบันก็ยังรักษาความเป็นคนมัธยัสถ์ไว้อย่างนั้น และจะยังรักษาความ มัธยสั ถ์ไว้อยา่ งเดมิ นอกจากนนั้ ยงั มอี กี เรอื่ งทแี่ สดงถงึ ความมธั ยสั ถข์ องตนั ไดเ้ ปน็ อยา่ ง ดี คือเขาจะไมย่ อมเสียเงนิ ตัดผมทรี่ า้ นตดั ผมในกรงุ เทพฯ เพราะราคาแพง มาก เขาจะกลับไปตดั ผมรา้ นประจ�ำ ท่ี อำ�เภอบอ่ ทอง จงั หวัดชลบุรที ุกครั้ง ทีม่ โี อกาส เป็นรา้ นตดั ผมแบบโบราณ ไม่ติดแอร์ ราคาแค่ 50 บาทเท่าน้ัน ปรชั ญาชวี ติ ของตนั นน้ั อาจจะมอี ยหู่ ลายอยา่ ง แตป่ รชั ญาทเี่ หน็ เดน่ ชัดที่สุดคือ เป็นคนที่รู้จักใช้จ่ายเงินอย่างสมเหตุสมผล รู้จักใช้เงินเพ่ือต่อ ยอดทางธุรกิจ ทำ�อย่างต้ังใจเพือ่ ให้ได้ผลลพั ธ์ออกมาดีท่ีสดุ การใช้เงินทกุ บาททุกสตางค์ในชีวิตประจำ�วันก็ใช้อย่างประหยัดจนติดเป็นนิสัย เหมาะ ส�ำ หรับคนยคุ น้ที ี่จะนำ�เป็นตัวอยา่ งไว้ปฏิบัติตาม T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

64 ในยุคนี้คนเราในสังคมน้ันถูกความอยากเข้าครอบงำ�มากเกินไป และทำ�ทกุ วิถีทางเพอื่ จะตอบสนองความอยากนน้ั แมว้ า่ สดุ ทา้ ยแลว้ ผลลัพธ์ นน้ั จะออกมาเปน็ อยา่ งไรกต็ าม การหกั หา้ มใจกบั สงิ่ ลอ่ ใจเหลา่ นนี้ น้ั เปน็ เรอื่ ง ที่ยากในช่วงแรกๆ หากว่าสามารถทำ�ได้ครั้งหน่ึงแล้วคร้ังต่อไปก็จะง่ายข้ึน สุดทา้ ยก็จะเปน็ อุปนสิ ยั ที่ตดิ ตวั เราไป ดงั เชน่ ท่ีตนั น้นั ได้ท�ำ มา จากการใช้ชวี ิตทีธ่ รรมดานเ่ี องที่ทำ�ให้ “ตัน ภาสกรนท”ี ไดร้ ับคดั เลอื กจากผอู้ า่ นนติ ยสารผจู้ ดั การใหเ้ ปน็ Role Model อนั ดบั ทส่ี องของเมอื ง ไทย ซง่ึ คะแนนห่างจากอันดับท่ี 1 เจา้ สัวเจริญ สริ วิ ฒั นภักดอี ยู่เพียงเลก็ น้อยเทา่ นัน้ ดว้ ยบคุ ลกิ ของตนั ที่เรยี บง่ายและเข้าถึงทุกคนไดง้ า่ ย นัน่ เองจึง ท�ำ ให้ผลติ ภณั ฑ์ของตนั เองกม็ ลี กั ษณะทค่ี ล้ายกนั โดยเฉพาะแบรนด์โออชิ ิท่ี มกี ารสอ่ื ถงึ ผคู้ นทกุ ระดบั ชนั้ ในสงั คม ซง่ึ จากการวเิ คราะหพ์ บวา่ สาเหตทุ คี่ น ท่วั ไปนิยมชมชอบตนั นน้ั มีสาเหตมุ าจาก 3 สาเหตุ อย่างแรก เป็นเพราะแบรนด์ของโออิชิน้ันเป็นแบรนด์ที่ใหม่สร้าง สสี นั ให้ธรุ กจิ ในเมืองไทย อกี ทัง้ ยงั เปน็ ตัวทำ�ให้เกดิ ปรากฏการณ์ “ชาเขยี ว ฟเี วอร”์ เปน็ ทร่ี จู้ กั ในสงั คม โดยเฉพาะในกลมุ่ วนั รนุ่ และวยั ท�ำ งาน จนสามารถ จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทยได้ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

65 แม้ว่าหลังจากน้ันจะต้องถูกกระแสชาเขียวปนเป้ือนกรดเกลือเข้า มาสรา้ งวกิ ฤตอกี ครง้ั แตน่ น่ั กถ็ กู แกไ้ ขดว้ ยแคมเปญ พบโชค 1 ลา้ นใตฝ้ าโออชิ ิ อกี ทงั้ ยงั รว่ มเปน็ สปอนเซอร์ในรายการตา่ งๆ ทไ่ี ด้รบั ความนยิ ม จงึ ทำ�ใหช้ อ่ื ชาเขยี วโออิชนิ ้นั กลบั มาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว อยา่ งท่ีสอง คือการแสดงการจดั การปัญหาอย่างถกู ต้องและไดผ้ ล ดี สบื เนือ่ งมาจากปัญหาชาเขียวปนเปื้อนกรดเกลือนน่ั เอง ตนั แสดงให้เห็น ถงึ ศกั ยภาพทางดา้ นการเปน็ ผนู้ �ำ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ทเี่ ขาขนึ้ มายนื จดุ นไ้ี ดไ้ มใ่ ช่ เร่ืองของโชคหรือได้รับการอุปถัมภ์เพียงอย่างเดียว เขาสามารถพลิกวิกฤต เป็นโอกาส ท�ำ ให้เกดิ การยอมรบั เหมือนเช่นดังเดิมในเวลาอนั สั้น อยา่ งท่สี าม คือบคุ ลิกของตันน้ันเป็นบคุ ลิกที่ Role Model หรอื เจ้าสวั ทา่ นอื่นไมม่ ี คือเปน็ คนทเ่ี ข้าถึงได้ง่าย ตดิ ดิน จนทำ�ใหห้ ลายคนนนั้ รู้สึกว่า การที่จะเป็นอย่างตันในวันน้ีไม่ใช่เร่ืองท่ียากหรือไกลเกินฝันไปเลย จนสามารถเรยี กไดว้ า่ เปน็ บคุ คลทเี่ ปน็ ตน้ แบบทค่ี นธรรมดาอยากจะเลยี นแบบ มากที่สุดในปจั จบุ นั แมจ้ ะมีสาเหตุถงึ สามสาเหตุท่ีทำ�ให้ตนั ได้รับรางวัล Role Model ในอนั ดบั ทสี่ อง แตอ่ ยา่ งทเี่ รารกู้ นั วา่ ความทเ่ี ปน็ คนออ่ นนอ้ มถอ่ มตนและเขา้ กบั ผอู้ น่ื ไดง้ า่ ยอยา่ งไมเ่ ลอื กชนชน้ั นนั่ ตา่ งหากทเี่ ปน็ สาเหตสุ �ำ คญั ทท่ี �ำ ใหต้ นั ไดร้ ับรางวัลน้ีมา T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

66 และก็เป็นข่าวฮือฮาในวงการธุรกิจเมืองไทยอีกคร้ังหนึ่ง เม่ือ ตัน ภาสกรนที ได้ประกาศลาออกจากการเป็นผู้จัดการโออิชิกรุ๊ปอย่าง เป็นทางการ เมอ่ื วันที่ 9 กนั ยายน พ.ศ. 2553 ซ่ึงเกดิ ข้ึนหลังจากที่ตนั ตดั สนิ ใจขายหนุ้ ส่วนใหญใ่ ห้บรษิ ัท ไทยเบฟเวอเรจ จ�ำ กัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2551 ซ่ึงเกิดข่าวออกมาหลายกระแสเก่ียวกับเรื่องนี้ แต่น่ันมันไม่ส�ำ คัญ กับตนั เพราะเขาไดเ้ ดินหนา้ เปดิ บรษิ ัทใหม่ โดยใหช้ ่อื บริษทั วา่ “บรษิ ทั ตนั ไม่ตัน จำ�กัด” โดยท่ีบริษัทแห่งนี้จะเป็นบริษัทที่แบ่งผลกำ�ไรส่วนหนึ่ง สนับสนุนมูลนิธิตันปัน เป็นมูลนิธิที่สนับสนุนในเรื่องการศึกษาของเด็กไทย รวมทั้งเรือ่ งของการอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ มดว้ ย หลายคนนน้ั คดิ วา่ สง่ิ ทต่ี นั ท�ำ นน้ั เปน็ เรอื่ งทผ่ี ดิ หรอื ไมก่ เ็ ปน็ การสรา้ ง ภาพ เพราะว่านนั่ เป็นการนำ�เงินไปละลายน�ำ้ จ�ำ นวนมาก ซ่ึงความจริงแลว้ ส�ำ หรบั ผชู้ ายทชี่ อ่ื ตนั ภาสกรนที เรอ่ื งของเงนิ หรอื หนา้ ตาในสงั คมนน้ั ไมใ่ ช่ สง่ิ ทสี่ �ำ คญั ทสี่ ดุ การทไี่ ดช้ ว่ ยเหลอื ผทู้ ด่ี อ้ ยโอกาสและการทไ่ี ดท้ �ำ ประโยชนใ์ ห้ สว่ นรวมเปน็ เร่ืองทส่ี ำ�คญั ทีส่ ุด ในเร่อื งน้ตี ันถือว่าเป็นแบบอย่างท่ดี ีให้กับผ้มู ีอันจะกินในสังคมไทย อีกจำ�นวนมาก ท่ียังยดึ ถอื เรื่องของเงนิ ทองและหนา้ ตาในสังคม โดยไมเ่ คย หนั มามองคนทอี่ ยรู่ ว่ มในสงั คมเลย หากวา่ คนเหลา่ นนั้ มคี วามทกุ ขห์ รอื ความ ล�ำ บากได้ ส่ิงเหล่านั้นยอ่ มต้องเข้ามาถงึ ตัวเราในสกั วัน คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

67 การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือทำ�ให้ทุกคนมีความสุขมีโอกาสที่ดีในการ ศกึ ษาและการทำ�งานสดุ ทา้ ยในชวี ิตบน้ั ปลายของตนั นนั้ ตนั เคยพดู เอาไว้ว่า “ตอนแกๆ่ ผมตอ้ งการกลบั ไปอยบู่ า้ นนอก อยทู่ น่ี น่ั มเี งนิ แค่ 10 ลา้ นกห็ รสู ดุ แลว้ ผมต้ังใจไวว้ ่าไมท่ �ำ งานไปตลอดชีวติ หรอก อายุ 70 ปีก็คงไม่นัง่ เปน็ ประธานบริษทั ไหนแลว้ ” การแสดงความคิดเห็นในเรื่องการใช้ชีวิตในบ้ันปลายนั้นเป็นการ ตอกย�ำ้ วา่ ตนั นนั้ เปน็ คนทว่ี างแผนชวี ติ ของตนเองไวอ้ ยา่ งมธั ยสั ถ์ แมก้ ระทง่ั การใชจ้ า่ ยในชว่ งสดุ ทา้ ยของชวี ติ ยงั เปน็ การอยอู่ ยา่ งใชง้ า่ ยกนิ งา่ ย เพยี งใหม้ ี ความสขุ สบายทางใจกพ็ อ แมว้ า่ จะมเี งนิ ทองอยมู่ ากมาย แตก่ ไ็ มเ่ คยทคี่ ดิ จะครอบครองเอาไว้ คนเดยี ว พยายามแจกจา่ ยสงิ่ เหลา่ นนั้ ใหส้ งั คม เพอื่ เปน็ ประโยชนข์ องคนหมู่ มากอยา่ งสูงสุด โดยไม่ได้หวังสงิ่ ตอบแทนกลับมาเลย น่ันเป็นส่ิงท่ีเรียกว่า “พอ” เป็นการพอใจในส่ิงท่ี มอี ยแู่ ละส่ิงท่ีตนเองเป็นอยู่ หลักปรัชญาการดำ�เนินชีวิตแบบ นี้เปน็ ส่ิงที่คนยคุ นีส้ มัยนีค้ วรเอาไปปฏิบัติตาม เพราะในสังคม ยุคปัจจุบันต่างลืมเลือนคำ�ว่า “พอ” ไปแล้ว แต่ตันน้ันเป็น ผู้ที่นำ�คำ�นี้กลับมาใช้ท้ังในเร่ืองของแนวคิดและทางปฏิบัติ ทำ�ใหค้ นในสงั คมจำ�นวนมากต่ืนจากค�ำ ว่า “ความเหน็ แก่ตัว” ทท่ี ับถมสังคมมาเปน็ เวลานาน T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

กาลิเลโอ เราไม่สามารถสอนอะไรใครได้เลย เราเพียงช่วยให้เขา ค้นพบสิ่งที่อยู่ในตัวเขาเท่านั้น

69 คดิ แบบ กาลเิ ลโอ ผ้ทู ี่ยดึ ถือความจริง ไม่ใช่ความเช่อื วิทยาศาสตร์นั้นเป็นสิ่งท่ีอยู่คู่กับโลกนี้มาต้ังแต่อดีต สร้างความ เจริญและใหค้ วามรูแ้ ก่ชาวโลกมาเปน็ เวลานาน แต่กว่าจะมาถงึ วนั น้ี ไมใ่ ช่ เรื่องท่ีง่ายเลย ยิ่งในยุคสมัยก่อนความขัดแย้งในเร่ืองความเช่ือทางศาสนา และความเชือ่ ทางวทิ ยาศาสตรน์ ้ันมอี ย่างรนุ แรง ท�ำ ใหเ้ กิดโศกนาฏกรรมขน้ึ มากมายจนเป็นเร่ืองท่สี ลดใจมาจนถงึ ทกุ วนั น้ี T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

70 “กาลเิ ลโอ กาลเิ ลอ”ี (Galileo Galilei) คอื หนง่ึ ในนกั วทิ ยาศาสตร์ ท่ตี ่อสเู้ พอื่ ค้นหาความจริง เป็นผู้ท่พี สิ ูจนใ์ ห้เห็นวา่ “ทฤษฎขี องอรสิ โตเติล” นักปราชญ์ชาวกรีกทเ่ี ป็นท่ีเคารพของนักวิทยาศาสตร์ยุคนนั้ เป็นเรอ่ื งผิด ทฤษฎดี งั กลา่ วนนั้ มอี ยวู่ า่ “วตั ถทุ มี่ นี �้ำ หนกั มากกวา่ จะตกถงึ พน้ื กอ่ น วตั ถทุ ม่ี นี �้ำ หนกั เบา” ซงึ่ ทฤษฎนี เ้ี ปน็ สง่ิ ทเ่ี ชอ่ื กนั มาอยา่ งยาวนานและยอมรบั ว่าเป็นเรื่องจริง โดยไม่มีผู้ขัดแย้งมาก่อน แต่สำ�หรับกาลิเลโอน้ัน เชื่อว่า ทฤษฎีท่ีแทจ้ ริงนั้นต้องไดผ้ า่ นการพิสจู นท์ ีถ่ ูกต้องเสยี ก่อน ซ่ึงหลังจากการพิสูจน์หลายต่อหลายคร้ัง กาลิเลโอก็พบว่าทฤษฎี ดังกลา่ วเปน็ เรือ่ งท่ีผิด เป็นส่ิงทท่ี �ำ ให้วทิ ยาศาสตรห์ ลงทางมาอยา่ งยาวนาน ซงึ่ ถา้ หากไมแ่ ก้ไขใหถ้ ูกตอ้ งการพัฒนาทางวิทยาศาสตรน์ ัน้ คงเปน็ ไปไดย้ าก หากผู้อ่านลองนำ�มาเปรียบกับการทำ�งานในหน่วยงานส่วนมากจะ เห็นได้วา่ ทกุ หนว่ ยงานน้ันจะมีความเชอ่ื และแนวทางการท�ำ งานของตนเอง ซงึ่ สว่ นใหญก่ จ็ ะน�ำ มาจากผทู้ เี่ คยประสบความส�ำ เรจ็ ทางดา้ นเหลา่ นน้ั มากอ่ น เพราะถือว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางท่ีถูกต้องและใช้ได้ผลจริงใน แต่ละยคุ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

71 แต่สำ�หรับบางหน่วยงานน้ันจะใช้ในเร่ืองของความเช่ือส่วนตัวเสีย มากกว่า คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นอย่างนี้ และเช่ือว่า ทั้งหมดน้ันเป็นไปได้จริง โดยไม่ได้มีพื้นฐานอ้างอิงทางด้านเหตุและผลเลย สุดท้ายก็ตอ้ งพบกบั ความล้มเหลวในทีส่ ดุ นน่ั ถอื วา่ เปน็ เรื่องปกติเพราะการ ใช้ความเชือ่ นำ�หนา้ เหตุผล มกั จะท�ำ ให้คนเราหลงวนเวียนอยู่ในกรอบความ คดิ ของตวั เอง จนหาทางออกจากส่งิ นไ้ี ม่ได้ นอกจากนน้ั ในชวี ติ จรงิ จ�ำ เปน็ อยา่ งยง่ิ ทเ่ี ราตอ้ งยดึ ถอื ความจรงิ ทเ่ี ปน็ อยู่ แทนทจ่ี ะยดึ ถอื ความเชอื่ แมว้ า่ ความเชอ่ื นนั้ จะเปน็ ความเชอ่ื ของคนหมมู่ าก กต็ ามความจรงิ นนั้ เปน็ สง่ิ ทตี่ อ้ งพสิ จู นเ์ พอื่ ใหเ้ ปน็ ทย่ี อมรบั และสามารถน�ำ ไป ใชป้ ระโยชน์ได้จรงิ ประวัติของชายท่ีชื่อ กาลิเลโอ นั้นมีอยู่ว่าเขาเป็นเกิดเม่ือ 15 กมุ ภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ณ เมืองปีซา ประเทศอติ าลี วนิ เซนซิโอ กาลเิ ลอี พ่อของเขานัน้ เปน็ ขนุ นาง เป็นนกั ดนตรี นักเขียน นักคณิตศาสตร์ และอกี มากมาย เปน็ บคุ คลที่มคี วามสามารถมากในยุคนน้ั เป็นส่วนหนง่ึ ทีป่ ลกู ฝัง ให้กาลเิ ลโอเป็นคนทมี่ คี วามสามารถรอบดา้ นเมอื่ โตขึ้น T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

72 เมอื่ เตบิ ใหญข่ นึ้ กไ็ ดเ้ ขา้ เรยี นวชิ าแพทย์ ในมหาวทิ ยาลยั ปซี า ซง่ึ นนั่ เปน็ ไปตามความตอ้ งการของผเู้ ปน็ พอ่ แมว้ า่ เขาจะใหค้ วามสนใจในเรอื่ งของ คณติ ศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตรม์ ากกวา่ กต็ าม แตน่ นั่ กเ็ ปน็ เพยี งความตอ้ งการ ในสว่ นลกึ เทา่ นนั้ เพราะในยคุ สมยั นนั้ ความตอ้ งการของพอ่ นนั้ ถอื วา่ เปน็ สทิ ธิ์ ขาดในการตดั สนิ ใจ แตจ่ ดุ พลกิ ผนั ของชวี ติ กม็ าถงึ เมอื่ ครง้ั หนงึ่ กาลเิ ลโอมโี อกาสไดเ้ ขา้ รบั ฟงั การบรรยายทางวชิ าคณติ ศาสตร์ ท�ำ ให้เขารวู้ า่ นน่ั เปน็ สิง่ ที่เขาชอบอยา่ ง แทจ้ รงิ สดุ ทา้ ยกาลเิ ลโอกย็ ตุ เิ สน้ ทางทางการแพทยล์ ง และหนั เหมาใหค้ วาม สนใจทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยไม่คิดลงั เล แมก้ ารตัดสินใจครั้งนั้นจะทำ�ใหผ้ ู้เป็น พอ่ นนั้ เกดิ ความขัดใจกต็ าม “การตัดสินใจในเรื่องท่ีสำ�คัญควรมีท่ีมาจากความ ต้องการที่แท้จริงในจิตใจของตนเอง ไม่ใช่เป็นความต้องการ ของผอู้ น่ื แมว้ า่ ผลลพั ธน์ น้ั จะออกมาดหี รอื รา้ ย เรากย็ งั สามารถ ยอมรับและอยูก่ ับมนั ไดอ้ ยา่ งเตม็ ภาคภูม”ิ การตัดสินใจในครั้งน้ันของกาลิเลโอนั่นถือว่าเป็นการทำ�ตามส่ิงท่ี ตวั เองชอบ มากกวา่ สิง่ ท่เี ขาควรเป็น แมว้ า่ จะเป็นสงิ่ ทต่ี รงกนั ข้ามกับความ ต้องการของพอ่ ก็ตาม คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

73 ซง่ึ ต่างกบั คนเราในสังคมทกุ วนั น้ที ีใ่ หค้ วามส�ำ คญั กับสง่ิ ท่คี นอน่ื คดิ หรอื คนอน่ื มองมากกวา่ การตดั สนิ ใจครง้ั สำ�คญั ๆ ในชวี ติ เราหลายครงั้ นนั้ ไม่ ได้เกิดจากความตอ้ งการทแี่ ทจ้ รงิ ของเรา แต่กลับเปน็ ไปตามความต้องการ ของคนรอบขา้ งทอี่ ยากใหเ้ ปน็ ซง่ึ คนทตี่ อ้ งอยกู่ บั สงิ่ ทเ่ี ลอื กนนั้ กม็ เี พยี งเราคน เดยี วเทา่ นนั้ บางคร้ังในการเลือกหรือตัดสินใจในชีวิตเราต้องใช้ตนเองเป็นที่ตั้ง เปน็ ส�ำ คญั ความคดิ ของผอู้ น่ื นน้ั คงไดเ้ ปน็ เพยี งแคส่ ว่ นประกอบในการตดั สนิ ใจ เท่าน้ัน แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นๆ จะประสบความสำ�เร็จหรือล้มเหลว กต็ าม แต่นน่ั กถ็ ือวา่ เป็นสง่ิ ท่เี ราได้ท�ำ ด้วยตวั เราเองแลว้ ในปีค.ศ. 2127 ตอนนัน้ กาลเิ ลโออายุได้เพยี ง 20 ปี แต่เขากลับ เป็นผคู้ ้นพบ “ทฤษฎเี พนดลู มั ” (Pendulum) หรือทีเ่ รียกกนั วา่ “กฎการ แกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม” ซ่ึงสุดท้ายก็ถูกพัฒนามาสร้างเป็นเครื่องจับเวลา ผลงานการค้นพบคร้ังน้ันถือว่าเป็นผลงานชิ้นแรกของกาลิเลโอ เกิดข้ึน เมอื่ เขาก�ำ ลังนง่ั ฟังการสวดมนต์ท่ีโบสถแ์ ห่งหน่งึ กาลเิ ลโอได้สังเกตเห็นโคม ทแี่ ขวนบนเพดานโบสถน์ น้ั แกวง่ ไปมา เปน็ สาเหตใุ หเ้ ขานนั้ สงสยั วา่ การแกวง่ ของโคมไฟในแตล่ ะรอบ นน้ั ใช้เวลาในการแกวง่ เทา่ กันหรือไม่ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

74 เมื่อเกิดความสงสัยกาลิเลโอจึงลองพิสูจน์ดู โดยการจับเวลาของ การแกว่งไปมาของโคมไฟเทยี บกบั ชพี จรของตนเอง ซึง่ เป็นพืน้ ฐานดา้ นการ แพทย์ที่เคยเรียนมาก่อน โดยที่เขารู้ว่าการเต้นของชีพจรคนเราในช่วงเวลา ปกตินนั้ จะใช้เวลาในการเตน้ แตล่ ะครง้ั เท่ากัน เมอ่ื ใชห้ ลกั การดงั กลา่ วในการจบั เวลา ท�ำ ใหก้ าลเิ ลโอนน้ั รวู้ า่ การแกวง่ ของโคมไฟนนั้ ในแตล่ ะรอบนนั้ ใชเ้ วลาเทา่ กนั และเมอื่ กลบั ถงึ บา้ นเพอ่ื ตอ้ งการ ใหก้ ารทดลองนน้ั สมบรู ณแ์ บบและมคี วามนา่ เชอ่ื ถอื มากขน้ึ กาลเิ ลโอจึงทำ�การ ทดลองในลักษณะเดิมหลายต่อหลายครั้ง จนเกิดความมั่นใจว่าถูกต้อง สุดท้ายจึงต้ังเปน็ “ทฤษฎีเพนดลู ัม” (Pendulum) ขน้ึ มา ปีต่อมากาลิเลโอตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย เน่ืองจาก ไม่มีเงินในการเรียนต่อ แต่ต่อมาในปีพ.ศ. 2131 ได้รับการติดต่อให้ ดำ�รงตำ�แหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ ในมหาวิทยาลัย ปซี า และเหตกุ ารณท์ เ่ี ป็นจุดเปลีย่ นของชีวติ อกี ครั้ง ในปพี .ศ. 2134 เมื่อ กาลเิ ลโอไดเ้ กิดมขี อ้ โต้แยง้ ใน “ทฤษฎีของอรสิ โตเตลิ ” ทีม่ ีอยูว่ า่ “วัตถทุ ีม่ ี น�ำ้ หนกั มากกวา่ จะตกถงึ พน้ื กอ่ นวตั ถทุ ม่ี นี �ำ้ หนกั เบา” การทอ่ี รสิ โตเตลิ มขี อ้ สรปุ ออกมาเชน่ น้ี เพราะเชอ่ื ว่าอากาศนน้ั พยุงวตั ถทุ ่มี นี ำ�้ หนักเบาไดด้ ีกว่าวัตถุที่ มนี ้�ำ หนักมาก คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

75 ซึ่งในยุคสมัยนั้นแนวคิดของอริสโตเติลได้ถูกยกย่องจากบรรดา นักวิทยาศาสตร์ว่าเป็นผู้ที่มีคุณประโยชน์กับวงการวิทยาศาสตร์เป็นอย่าง มาก ความร้ทู างวทิ ยาศาสตรจ์ �ำ นวนมากมีตน้ ตอมาจากทฤษฎตี ่างๆ ของ อรสิ โตเตลิ การทกี่ าลิเลโอได้ออกความเหน็ ทข่ี ัดแยง้ ก็เทา่ กบั เป็นการกระทำ� ท่ีดหู ม่ินวงการวิทยาศาสตรเ์ ป็นอยา่ งมาก เพ่ือตัดสินปัญหาข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นกาลิเลโอจึงได้ทำ�การ ทดลอง ต่อหน้าบรรดาเหลา่ นักวิทยาศาสตรท์ งั้ หลาย โดยนำ�ก้อนตะกว่ั มา สองกอ้ น กอ้ นแรกนนั้ หนัก 4.5 กโิ ลกรัม อีกก้อนหนัก 9 กโิ ลกรมั ทิ้งมา จากยอดหอเอนปซี าพรอ้ มๆ กนั ผลปรากฏวา่ ตะกวั่ ทงั้ สองกอ้ นนน้ั ตกลงถงึ พนื้ พรอ้ มกนั ซงึ่ ในครง้ั นน้ั กท็ �ำ การทดลองดงั กลา่ วซ�้ำ หลายตอ่ หลายครงั้ แต่ ผลปรากฏนั้นก็มบี ทสรปุ มาเหมอื นเดิม แม้ว่าผลสรุปของการทดลองออกมาจะบ่งบอกว่าความคิดของ กาลเิ ลโอนั้นเปน็ ฝ่ายถูก แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์ส่วนหนงึ่ นน้ั ยงั คงไมเ่ ห็น ดว้ ยและยงั เชือ่ มัน่ ในทฤษฎขี องอริสโตเติล จากเหตุการณใ์ นครงั้ นั้นสุดทา้ ย ก็เป็นเหตุให้กาลิเลโอต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยถูกกล่ันแกล้ง จากคนรอบขา้ งที่ไมย่ อมรบั แมว้ า่ ความคดิ ของกาลเิ ลโอนนั้ ยงั ไมเ่ ปน็ ทยี่ อมรบั ของคนในสมยั นน้ั มากนัก แต่มาถึงยุคหลังจนถงึ ยุคปัจจบุ นั กเ็ หน็ ได้ชัดวา่ ความคดิ ของเขานน้ั เป็นท่ียอมรับจากคนท่ัวโลกอย่างเปน็ ทางการ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

76 ความจริงนั้นอาจจะยังไม่ถูกยอมรับในวันน้ี แต่ความ จรงิ กเ็ ปน็ ความจรงิ อยวู่ นั ยงั ค�ำ่ สกั วนั หนงึ่ ตอ้ งไดร้ บั การยอมรบั จากผู้คนอยู่ดี ในชีวิตการทำ�งานการที่ซื่อตรงต่อความจริงนั้นเป็นส่ิงสำ�คัญที่สุด ความจรงิ เปน็ อย่างไรกว็ า่ กันตามน้นั แม้วา่ ยงั ไม่เหน็ ผลในเร็ววัน แต่สกั วนั หนง่ึ ขา้ งหนา้ ตอ้ งเปน็ ทย่ี อมรบั กนั อยา่ งแนน่ อน เราควรมองการณไ์ กลใหม้ าก ยดึ ถอื ความจรงิ และซอื่ ตรงตอ่ มนั แมว้ า่ การพดู เทจ็ หรอื กระทำ�ใหส้ ง่ิ ผดิ กลาย เปน็ สง่ิ ถกู นนั้ จะเหน็ ผลไดเ้ รว็ กวา่ แตส่ ดุ ทา้ ยกย็ อ่ มเปน็ ทปี่ ระจกั ษต์ อ่ คนทว่ั ไป หลังจากลาออกจากมหาวิทยาลัยปีซา กาลิเลโอก็ได้เข้ามารับงาน เป็นศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปาดัว ซึ่งเขาก็ได้ ค้นคดิ วิชาทีเ่ รียกวา่ “พลศาสตร”์ (Dynamic) เปน็ หลักการทว่ี ่าด้วยการ เคล่ือนไหวของวัตถุในลกั ษณะต่างๆ ตอ่ มากาลเิ ลโอหันมาให้ความสนใจกบั เรอื่ งของดาราศาสตร์ ซง่ึ ใน ขณะน้ันต้องศึกษาโดยการใช้ตาเปล่าและความรู้เดิมที่สืบทอดกันมา ทำ�ให้ เกดิ ขอ้ จ�ำ กดั ในการหาความรใู้ หมๆ่ เพม่ิ เตมิ แตป่ ญั หาดงั กลา่ วกไ็ ดถ้ กู แกไ้ ขใน ปีพ.ศ. 2153 โดยกาลิเลโอได้สร้าง กล้องโทรทรรศน์ ข้ึนมาเป็นคร้ังแรก มกี �ำ ลงั ขยายเพยี ง 3 เทา่ ซง่ึ เขาไดแ้ นวคดิ มาจากชา่ งท�ำ แวน่ ตาชาวฮอลแลนด์ ทีส่ ามารถสร้างกลอ้ งส่องทางไกลข้ึนมาได้ส�ำ เรจ็ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

77 ภายหลงั กลอ้ งโทรทรรศนข์ องกาลเิ ลโอถกู พฒั นาจนมกี �ำ ลงั ขยายถงึ 32 เทา่ ทำ�ให้เขาสามารถส่องดดู วงดาวต่างๆ ในจักรวาลไดช้ ัดเจนมากขน้ึ สงิ่ ทเ่ี ขาไดพ้ บเหน็ ผา่ นกลอ้ งโทรทรรศนไ์ ดถ้ กู จดบนั ทกึ อยา่ งละเอยี ด และได้ ถูกน�ำ มาเผยแพรอ่ ยา่ งกวา้ งขวางผา่ นหนังสือทีช่ อื่ ว่า Senderieus Nuncius ซ่ึงมคี วามหมายว่า “ผูน้ �ำ สารจากดวงดาว” ซึ่งมเี น้อื หาท่ีน่าสนใจและเป็น ความรู้ใหม่ทางดาราศาสตรข์ องคนในสมยั นั้นดงั นี้ - พบว่าผิวของดวงจันทรแ์ ละดาวศกุ รน์ นั้ ไม่ได้ราบเรยี บอยา่ งท่ีเรา คดิ มที ง้ั พ้นื ท่ที ี่เปน็ เหว ภูเขาและหลมุ มากมาย นอกจากน้ันยงั พบดาวอีก หลายประเภท อาทิ ดาวเคราะห์ คอื ดาวทไ่ี มม่ แี สงสวา่ งในตวั เอง อยา่ งโลก ดวงจันทร์ และดาวฤกษ์ คอื ดาวทีม่ แี สงในตัวเอง อยา่ งดวงอาทิตย์ - พบเสน้ ทางชา้ งเผือก (Milky Way) ทีม่ ีลักษณะเป็นสีขาวเป็น ทางยาว เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการเรียงตวั ของดาวฤกษจ์ �ำ นวนมาก - พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ ซง่ึ ต่อมาได้เขียนหนังสอื เกย่ี วกับเร่ืองน้ี โดยใชช้ อื่ วา่ “สารจากจดุ ดบั บนดวงอาทติ ย”์ (Letter on the Solar Spot) - มกี ารคน้ พบวงแหวนของดาวเสาร์ แตใ่ นขณะนน้ั กาลิเลโอยงั ไม่ ไดเ้ รยี กว่า “วงแหวน” เพราะยงั ไม่ทราบแน่ชัดวา่ เปน็ อะไร T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

78 การค้นพบนั้นยังมีอีกมากมาย ซึ่งการค้นพบต่างๆ นั้นถูกนำ� มาประมวลและรวบรวมเป็นองค์ความรู้เข้าด้วยกัน ทำ�ให้เขาสามารถตั้ง สมมตฐิ านเกย่ี วกบั การโคจรของโลกวา่ เป็นการโคจรรอบดวงอาทิตย์ และ ไดศ้ กึ ษาจนพบวา่ แทท้ จี่ รงิ แลว้ ดวงอาทติ ยน์ น้ั เปน็ ศนู ยก์ ลางของระบบสรุ ยิ ะ จกั รวาล การทำ�งานของกาลิเลโอนั้นยังเป็นเรื่องท่ีท�ำ อย่างต่อเนื่องแม้ว่าเขา ได้เขา้ ส่วู ยั ชราแลว้ กต็ าม การคน้ พบคร้งั สดุ ทา้ ยของเขาคอื การพบวา่ ดวง จันทร์น้นั ใชเ้ วลา 15 วนั ในการโคจรรอบโลก หลังจากนั้นไมน่ านกาลเิ ลโอก็ ตาบอดและเสียชีวติ ลงในเวลาตอ่ มา ท่เี มอื งฟลอเรนซ์ ประเทศอติ าลี ชีวิตของกาลิเลโอน้ันสะท้อนความเด่นชัดให้เราเห็นว่าการไม่รู้จัก หยุดน่ิง พยายามค้นหาคำ�ตอบของสิ่งท่ีสงสัย แม้กระทั่งเวลาช่วงสุดท้าย ของชีวิตก็ไม่เคยละลดความพยายามนี้เลย ซ่ึงหากปรัชญาข้อนี้ถูกน�ำ ไปใช้ ในงานใดกต็ ามก็ต้องพบกบั ความส�ำ เรจ็ ดว้ ยกันทั้งนน้ั ดังคำ�ทีว่ า่ “ความพยายามอยู่ทีไ่ หน ความสำ�เรจ็ อยทู่ นี่ ั่น” คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

การตัดสินใจในเรื่องที่สำ�คัญ ควรมีที่มาจากความต้องการที่แท้จริงในจิตใจของตนเอง ไม่ใช่เป็นความต้องการของผู้อื่น แม้ว่าผลลัพธ์นั้นจะออกมาดีหรือร้าย เราก็ยังสามารถยอมรับและอยู่กับมันได้อย่างเต็มภาคภูมิ

วอร์เรน บัฟเฟตต์ จงหลีกห่างจาก บัตรเครดิต และลงทุนในตัวคุณเอง

81 คิดแบบ วอรเ์ รน บัฟเฟตต์ บุรุษที่เคยรวยทสี่ ุดในโลก ในปีค.ศ. 2008 มีข่าวทส่ี ร้างความฮอื ฮาใหว้ งการคนรวยระดบั โลก เมอ่ื นติ ยสารฟอรบ์ ส์ ซง่ึ เปน็ นติ ยสารทจี่ ดั ล�ำ ดบั ต�ำ แหนง่ คนทร่ี วยทส่ี ดุ ในโลก ไดป้ ระกาศออกมาว่า ต�ำ แหน่งคนทรี่ วยท่ีสุดในโลกในปีค.ศ. 2008 ได้แก่ ชายท่ีชื่อว่า “วอร์เรน เอด็ เวริ ์ด บัฟเฟตต์” (Warren Edward Buffett) นกั ธรุ กจิ ชาวอเมรกิ นั ดว้ ยจ�ำ นวนทรพั ยส์ นิ ทงั้ หมด 62,000 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

82 สว่ นอนั ดับท่สี องนั้นไดแ้ ก่ “คาร์ลอส สลิม เฮลู” เจ้าพ่อเทเลคอม ชาวเม็กซิกัน ซึ่งมีทรัพย์สินท้ังหมดรวม 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน อนั ดบั ทส่ี ามเปน็ ของแชมปเ์ กา่ อยา่ ง “บลิ ล์ เกตส”์ นกั ธรุ กจิ ดา้ นคอมพวิ เตอร์ ชาวสหรัฐที่มีทรพั ย์สนิ 58,000 ล้านเหรยี ญสหรัฐฯ จากเด็กที่เคยส่งหนังสือพิมพ์และติดตั้งตู้เกมพินบอล กลับกลาย มาเป็นมหาเศรษฐเี บอร์หน่งึ ของโลก น่ันย่อมไม่ใช่เรอื่ งทธ่ี รรมดา สามารถ แซงหน้ามหาเศรษฐีอันดับหน่ึงของโลกแชมป์เก่าที่ครองตำ�แหน่งมานานถึง 13 ปี อยา่ ง “บิลล์ เกตส์” เจา้ พอ่ ไมโครซอฟท์ ซง่ึ ในปีดงั กลา่ วตกมาอยู่ ในอนั ดบั ทสี่ าม “วอรเ์ รน เอด็ เวริ ด์ บฟั เฟตต”์ (Warren Edward Buffett) เกดิ เมอ่ื วนั ที่ 30 ธนั วาคม ค.ศ. 1930 ทโี่ อมาฮา เนบราสกา ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ได้เร่มิ ทีจ่ ะเรยี นรูก้ ารลงทุนในหุน้ ตั้งแต่อายเุ พยี ง 11 ปี ในด้านการศึกษา วอร์เรน บัฟเฟตต์นั้น ได้เข้าเรยี นในระดับมหาวิทยาลัยท่ีมหาวทิ ยาลัยเพน- ซลิ เวเนยี และไดย้ า้ ยไปเรยี นทม่ี หาวทิ ยาลยั เนแบรสกาจนจบการศกึ ษา หลงั จากนั้นจึงไปเรียนต่อท่ีมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในระดับปริญญาโท สาขา เศรษฐศาสตร์ คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

83 ในการเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียนั่นเองท่ีเป็นการจุดประกาย ความคิดในการลงทุนในตลาดหุ้น วอร์เรน บัฟเฟตต์จึงได้ศึกษาปรัชญา การลงทุนในรูปแบบของ “เบนจามิน เกรแฮม” รวมท้ังปรัชญาการลงทุน ของ “ฟลิ ิป ฟชิ เชอร์” เขาได้น�ำ แนวคิดทงั้ หมดทไี่ ด้มาประยุกตเ์ ข้าดว้ ยกัน จนเกิดเป็นแนวทางการลงทุนในรูปแบบของตนเองข้ึน หลงั จากทว่ี อรเ์ รน บฟั เฟตตป์ ระสบความส�ำ เรจ็ ในการท�ำ ธรุ กจิ อยา่ ง งดงาม ท�ำ ใหห้ ลายคนเรม่ิ สนใจวธิ กี ารด�ำ เนนิ ธรุ กจิ และแนวคดิ ในการวางแผน ในการลงทนุ ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซง่ึ วิธีการลงทนุ ของเขาน้นั ก็ไมใ่ ชเ่ รื่อง ทีล่ กึ ลบั ซบั ซอ้ นอะไรในวงการการลงทนุ ในตลาดหุ้น น่ันคือพยายามลงทุนกับหุ้นที่มีมูลค่าที่ม่ันคงในระยะยาวมากกว่า ลงทุนเก็งกำ�ไรในระยะส้ัน หากจะอธบิ ายให้เข้าใจงา่ ยๆ ก็คือจะเลอื กลงทนุ ในหนุ้ ทท่ี �ำ ก�ำ ไรแนน่ อนในระยะยาว ซงึ่ การลงทนุ ในลกั ษณะนก้ี ต็ อ้ งทมุ่ ซอื้ กนั อยา่ งมหาศาลถงึ จะคมุ้ คา่ “การใช้เงินต่อเงิน” เป็นกลยุทธ์ท่ีวอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้มาตลอด จนประสบความสำ�เร็จอย่างทุกวันน้ี เป็นการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ เกบ็ เงนิ ไวใ้ นธนาคารหรอื อสังหาริมทรพั ยท์ ไ่ี มก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลกำ�ไร เมอ่ื ไดก้ ำ�ไร กลับมาทุกครง้ั จะเกิดการลงทุนเพิม่ ขึน้ จากผลกำ�ไรท่ีได้ เรียกได้ว่าเปน็ การ ลงทุนอยา่ งไมห่ ยดุ ยง้ั ดว้ ยวธิ กี ารน้จี ึงไม่ใชเ่ รอ่ื งแปลกเลยทค่ี นอย่างวอร์เรน บฟั เฟตตจ์ ะก้าวข้ึนมาเป็นมหาเศรษฐอี นั ดับหนงึ่ ของโลกไดอ้ ย่างงดงาม T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

84 การท�ำ ธรุ กจิ ในรปู แบบของวอร์เรน บัฟเฟตต์นนั้ ค่อยข้างท่มี คี วาม แตกต่างจากมหาเศรษฐีคนอื่นๆ เพราะเขามักจะมองผลกำ�ไรในระยะยาว ดังท่ีเขาเคยซื้อกิจการของบริษัทส่ิงทอเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ในปีค.ศ. 1962 ในตอนทเ่ี ขาอายไุ ด้ 32 ปี ราคาหนุ้ ในตอน นนั้ มีคา่ ไม่ถงึ 8 เหรยี ญสหรัฐดว้ ยซ�ำ้ ซ่ึงต่อมาภายหลังน้ัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เปลี่ยนรูปแบบบริษัท แบบเดมิ มาเป็นโฮลด์ ิ้ง คมั พานี (Holding Company) มีการจดทะเบยี น ในตลาดหนุ้ วธิ กี ารบรหิ ารงานเนน้ ในเรอ่ื งของการซอ้ื ขายหนุ้ ในตลาดหนุ้ โดย ทไี่ มม่ กี ารปนั ผลกำ�ไรมาเปน็ สบิ ๆ ปแี ลว้ เพราะนำ�ผลก�ำ ไรดงั กลา่ วไปลงทนุ ตอ่ ตามแนวคิดแบบเงินต่อเงนิ ท�ำ ใหม้ ูลค่าของหุน้ ท่ี ณ ปจั จบุ ันนพี้ ุ่งสูง เปน็ หลักหลายลา้ นเหรยี ญสหรฐั ไปแล้ว การท�ำ ธรุ กจิ แบบวอรเ์ รน บฟั เฟตต์ นน้ั เปน็ เร่ืองการทำ�ธรุ กิจแบบ วางแผนระยะยาว ซ่งึ แตกต่างจากบิลล์ เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ทเ่ี น้นใน เร่ืองของการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นอย่างมาก และแตกต่างกับพ่อมด การเงนิ อยา่ ง “จอร์จ โซรอส” ที่มีแนวทางการท�ำ ธุรกิจในลักษณะเล่นแร่- แปรธาตุ ซ่งึ วิธีการท่ีจอรจ์ โซรอสใช้นนั้ ทางวอรเ์ รน บัฟเฟตต์ไม่เหน็ ด้วย เปน็ อยา่ งยง่ิ เพราะจะเปน็ การบอ่ นท�ำ ลายการลงทนุ ทางการเงนิ สรา้ งความ เสยี หายใหร้ ะบบธรุ กิจของโลกทง้ั ในระยะสัน้ และระยะยาว คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

85 ความส�ำ เรจ็ ทม่ี มี าอยา่ งตอ่ เนอื่ งจงึ มผี ทู้ พ่ี ยายามคน้ หาหลกั การและ แนวคิดในการทำ�ธุรกิจของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงทำ�ให้เกิดหนังสือเกี่ยว กบั ตวั เขาออกมามากมาย หนงั สอื แตล่ ะเลม่ นนั้ มคี วามหนาของเนอื้ หาอยา่ ง มาก นน่ั ยอ่ มแสดงถงึ ประสบการณท์ ส่ี งั่ สมมาเปน็ เวลานาน ซง่ึ ในกลางเดอื น มกราคม พ.ศ. 2552 ไมเคลิ บรซู ไดอ้ อกมาสรปุ แนวทางความคิดของ วอรเ์ รน บฟั เฟตตไ์ ว้ 10 ข้อ อยา่ งนา่ สนใจ โดยเน้ือหาดงั กลา่ วน้นั พอทจ่ี ะ สรปุ ได้ดังนี้ ขอ้ แรก การเปน็ ผมู้ ธั ยสั ถ์ การรจู้ กั ใชเ้ งนิ อยา่ งมธั ยสั ถน์ นั้ ถอื วา่ เปน็ แนวทางในการด�ำ เนนิ ชวี ติ ของวอรเ์ รน บฟั เฟตตม์ าตง้ั แตเ่ ดก็ จนกระทง่ั ถงึ ทกุ วันนี้ แมว้ ่าเขาจะมีเงินทองมากมาย แต่กไ็ ม่เคยทจี่ ะใช้เงินทองเหล่านั้นไป กับสิ่งที่ไม่จ�ำ เป็นอย่างเคร่ืองประดับหรือรถยนต์ราคาแพงๆ ชีวิตปัจจุบันน้ี เขากไ็ ดอ้ าศยั อยู่ที่บ้านหลงั เดมิ ท่ซี ื้อมาตั้งนานแลว้ เป็นบ้านแบบชาวอเมรกิ ันชนชนั้ กลางมกี ารตอ่ เตมิ เพอ่ื ให้เหมาะสม กบั การอยอู่ าศยั พน้ื ทโี่ ดยรอบกเ็ ปน็ ยา่ นชนบท การเดนิ ทางไปไหนมาไหนก็ ขบั รถเอง โดยรถท่ใี ช้ก็เปน็ รุ่นธรรมดาไมไ่ ดห้ รูหราอะไร T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

86 การที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เป็นคนท่ีมีความมัธยัสถ์อาจมองว่าไม่น่า จะเกย่ี วกับความสำ�เรจ็ ในการท�ำ ธรุ กจิ ของเขา แต่แท้ทจ่ี ริงแลว้ มันเก่ยี วขอ้ ง มากเหมือนกัน การที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย อย่างทีม่ หาเศรษฐีส่วนใหญค่ วรท�ำ กัน ท�ำ ให้เขามเี งนิ เหลอื ที่ใช้ในการลงทุน เปน็ จำ�นวนมาก ไมจ่ ำ�เป็นต้องขายห้นุ ท่มี ีเพอ่ื มาซื้อส่ิงของเหลา่ นี้ และยงั มี เวลาที่จะคิดหาช่องทางในการลงทุน ไมต่ ้องไปเสียเวลากับเรื่องเหลา่ น้ี ข้อที่สอง รู้จักการอดทนรอคอยโอกาสทองที่กำ�ลังจะมาถึง การ อดทนรอคอยน่ันถือว่าเป็นปัจจัยหน่ึงที่ทำ�ให้บรรดามหาเศรษฐีระดับโลกน้ัน ประสบความสำ�เร็จ วอร์เรน บัฟเฟตต์ก็เช่นกัน ยิ่งในช่วงท่ีมีการผันผวน ของเศรษฐกิจโลก นัน่ จะเป็นโอกาสทองใหเ้ ขาเขา้ ไปซื้อห้นุ ของบรษิ ัทใหญ่ที่ เกิดความสนั่ คลอนจนราคาหนุ้ ตกลงมา ซง่ึ ในความคดิ ของวอรเ์ รน บฟั เฟตตจ์ ะเหน็ วา่ นน่ั เปน็ โอกาสทจี่ ะซอ้ื หนุ้ ในราคาถกู ในปจั จบุ นั นม้ี รี ายงานวา่ เขาไดเ้ ขา้ ไปซอ้ื หนุ้ ในกลมุ่ ปโิ ตรเลยี ม ไฟฟา้ การขนสง่ ทางรถไฟและธนาคารพาณชิ ยต์ า่ งๆ เพราะเชอ่ื วา่ หนุ้ กลมุ่ เหลา่ น้ีจะเกิดผลประโยชน์มหาศาลในระยะยาว คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

87 ขอ้ ท่สี าม จงเดินทวนกระแส วอรเ์ รน บัฟเฟตตน์ ัน้ เป็นนกั ลงทนุ ท่ี ชอบซ้ือหุ้นที่เดินสวนกระแสของตลาด โดยที่เขามองว่าหากว่าเราเดินตาม กันไปเป็นจำ�นวนมาก ก็จะทำ�ให้ผลประโยชน์ท่ีควรจะได้รับน้ันถูกปันส่วน และท�ำ ใหผ้ ลประโยชน์ดังกลา่ วหมดไปในเวลาอนั สน้ั แต่หากว่าเรารู้จักสวนกระแสกับคนอื่นๆ เลือกซื้อหุ้นท่ีตกลงจาก บรษิ ทั ทม่ี คี วามมนั่ คง จะท�ำ ใหเ้ ราไดห้ นุ้ นน้ั ไวใ้ นราคาถกู และเมอ่ื บรษิ ทั นน้ั ฟนื้ ตัวข้ึนมาเม่อื ไหร่ เรากจ็ ะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล หลักการนี้สามารถ ใช้ได้จรงิ แตต่ อ้ งมกี ารวิเคราะห์บรษิ ัทดงั กล่าวใหแ้ น่ชัดเสยี กอ่ น ขอ้ ทสี่ ่ี เลอื กลงทนุ ในธรุ กจิ ทต่ี นเองเขา้ ใจ แนวความคดิ ในทางธรุ กจิ ทีเ่ หน็ ได้อยา่ งเดน่ ชดั ข้อหนึ่งของ วอร์เรน บฟั เฟตตค์ ือเขาจะไม่ยอมท่ตี อ้ ง ซือ้ หุ้นจากธุรกิจทเี่ ขาไมเ่ ขา้ ใจ ซึ่งในนีก้ ค็ ือธุรกจิ ในเร่อื งของเทคโนโลยี เขา ยงั ถอื แบบอยา่ งในการท�ำ ธรุ กจิ แบบเกา่ เพราะเขาไมเ่ ขา้ ใจวา่ ธรุ กจิ ในรปู แบบ อื่นนนั้ ทำ�งานกันอยา่ งไร และไม่รูว้ ่าผลก�ำ ไรทีไ่ ด้นั้นมาจากไหน ซ่ึงต่างจากมหาเศรษฐีโดยทั่วไปจำ�นวนมากที่หารายได้จากธุรกิจ เกยี่ วกบั เทคโนโลยเี ปน็ หลกั จนเมอ่ื เกดิ ภาวะฟองสบแู่ ตกทวั่ โลก ทำ�ใหธ้ รุ กจิ เกี่ยวกับเทคโนโลยตี า่ งพากันลม้ ระเนระนาดเปน็ แถวๆ มหาเศรษฐหี ลายคน ต้องสูญเงนิ ไปเป็นจำ�นวนมหาศาล ซ่ึงสวนทางกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ทีม่ ีผล ก�ำ ไรจากการลงทุนในธรุ กิจดา้ นอน่ื ๆ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

88 ขอ้ ทหี่ า้ จงอยา่ เชอื่ ค�ำ วเิ คราะหว์ จิ ารณม์ ากเกนิ ไป ทกุ วนั นใี้ นวงการ ตลาดหนุ้ นั้นมีนักวิเคราะหว์ ิจารณเ์ กิดข้ึนมาอย่างมากมาย มีการออกมาให้ ความเห็นในส่ือตา่ งๆ ทัว่ ไป ตา่ งคนต่างหาเหตุผลท่ีมายนื ยนั ความคิดของ ตนเอง บางครงั้ กถ็ ูกตอ้ ง บางครง้ั กผ็ ดิ นั่นกลบั กลายเป็นมรสมุ ทางความ คิดทำ�ใหน้ กั ลงทุนน้นั เกดิ ความไขว้เขว แต่สำ�หรับนักลงทุนมือฉมังอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์น้ัน กลับมอง บคุ คลกลมุ่ นเี้ ปน็ เพยี งผอู้ อกมาแสดงความเหน็ เทา่ นน้ั ซงึ่ ขอ้ มลู ทนี่ ำ�มาแสดง เขาไมไ่ ดใ้ หค้ วามสนใจเลย วอรเ์ รน บฟั เฟตตเ์ ชอ่ื ในการวเิ คราะหข์ องตนเอง จากประสบการณก์ ารท�ำ งานทม่ี มี าอยา่ งยาวนานเปน็ ส�ำ คญั และแหลง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ชือ่ ถือได้ของเขาเอง ขอ้ ท่ีหก พยายามคน้ หาของดรี าคาถูก การหาซือ้ หนุ้ ที่มผี ลกำ�ไรดี ในอนาคตในราคาท่ีถูก น้ันเป็นเป้าหมายสำ�คัญของนักลงทุนทุกคน แต่มี นอ้ ยคนทจี่ ะเขา้ ใจและสามารถท�ำ ได้ ซง่ึ วอรเ์ รน บฟั เฟตตก์ ถ็ อื วา่ เปน็ หนง่ึ ใน จำ�นวนน้ัน เป็นผทู้ ม่ี องหาห้นุ จากบริษทั ทมี่ ีอนาคตไกลและราคาถกู ซง่ึ วิธี การดงั กลา่ วได้กลา่ วอยา่ งละเอยี ดในหนงั สอื ของเขาเองชอ่ื ว่า The Warren Buffet Way ของ Robert Hagstorm หรือหนงั สอื The Market Gurus ของ John Reese และ Todd Glassman คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

89 โดยอาจจะสรุปหลักการอย่างง่ายได้ดังนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์นั้น จะไมค่ อ่ ยใหค้ วามส�ำ คญั กบั ก�ำ ไรตอ่ หนุ้ มากนกั แตจ่ ะมองวา่ มลู คา่ หนุ้ ทข่ี ายไป น้ันทำ�ให้เกิดหนี้สินต่อบริษัทหรือไม่ อีกท้ังการจะซื้อหุ้นแต่ละบริษัทน้ัน ต้องได้รับการตรวจเช็กประวัติเป็นอย่างดีอย่างน้อยต้องย้อนหลังไป 5 ปี เพ่อื ให้เหน็ ผลประกอบการท่แี ทจ้ ริงของบรษิ ทั ขอ้ ทเ่ี จด็ ควรลงทนุ กบั บรษิ ทั ทม่ี กี ารแขง่ ขนั ในตลาดนอ้ ย การลงทนุ ในธุรกิจบางอย่างท่ีมีการผูกขาดหรือมีผู้เลียนแบบได้ยากนั้นเป็นอีกกลยุทธ์ หนึ่งท่ี วอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้ในการตัดสินใจซ้ือหุ้น เพราะบริษัทเหล่านี้ จะมีการแข่งขนั ในตลาดนอ้ ย มีผลก�ำ ไรท่ีแนน่ อน อย่างเช่นท่ีเขาเคยลงทุนในบริษัทประกอบการรถไฟ นอกจากน้ัน บรษิ ทั ทมี่ เี คร่อื งหมายการค้าทเ่ี ปน็ ทรี่ จู้ กั ของคนทวั่ โลก และไดร้ บั ความนยิ ม มาอย่างต่อเน่ืองจนไม่มีใครกล้าเข้ามาเปิดตลาดสู้ น่ันก็ถือว่าเป็นอีกธุรกิจ หน่งึ ทีเ่ ป็นทีช่ น่ื ชอบของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซ่ึงเขาก็เคยซ้ือหุ้นของธุรกิจนำ้�ดำ�อย่าง โคคา-โคล่า แล้วก็ทำ�ให้ เขาไดผ้ ลก�ำ ไรอยา่ งงามทเี ดยี ว ทงั้ สองธรุ กจิ ทว่ี อรเ์ รน บฟั เฟตตซ์ อื้ หนุ้ นน้ั มกั จะไดร้ ับผลกระทบน้อยมากจากปัจจยั ภายนอก ซงึ่ แตกตา่ งจากบริษทั อื่นๆ หากวา่ มกี ารขน้ึ ราคาของสนิ คา้ และบรกิ ารกไ็ มค่ อ่ ยสง่ ผลกระทบตอ่ ยอดขาย มากนกั จึงอาจกล่าวไดว้ า่ การซือ้ หุ้นในธุรกิจประเภทนม้ี ีความเสยี่ งต�่ำ มาก T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

90 ขอ้ ทแี่ ปด ใหร้ จู้ กั ทมุ่ ทนุ ในบรษิ ทั ทนี่ ่าซอื้ อยา่ งไมล่ งั เล ลกั ษณะของ นกั ลงทนุ โดยทวั่ ไปนน้ั จะเปน็ การลงทนุ ในหลายบรษิ ทั เพอื่ ทจี่ ะกระจายความ เสยี่ ง หากวา่ พลาดไปก็ยงั ไมเ่ สียหายมากนกั อกี ทั้งยังมีหุ้นของบรษิ ัทอ่นื ให้ แกต้ วั อีก ซ่ึงการลงทุนในลักษณะน้ีถือว่าเป็นแนวทางตรงกันข้ามกับของ วอรเ์ รน บฟั เฟตต์ เพราะเขาจะเน้นการลงทุนแบบท่มุ ทุนในบริษัทที่มีความ น่าเชื่อถือสูง และมีโอกาสให้ผลประโยชน์แน่นอน การลงทุนในลักษณะน้ี หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องท่ีเส่ียงเพราะหากผิดพลาดก็จะสูญเสียเงิน ไปเป็นจ�ำ นวนมาก แตส่ �ำ หรบั วอรเ์ รน บฟั เฟตตน์ น้ั สามารถลดความเสยี่ งทเ่ี กดิ ขน้ึ โดย การวเิ คราะหอ์ ยา่ งมรี ะบบ มกี ารอดทนรอจนราคาหนุ้ อยใู่ นเกณฑพ์ อใจถงึ จะ ซ้ือ หากเรามาดูประวัติการลงทุนของเขาจะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นนักธุรกิจ ระดบั โลก แตเ่ ขาเลอื กลงทุนในไม่กีบ่ รษิ ทั เทา่ นัน้ ข้อทเี่ ก้า ใหม้ องผลก�ำ ไรในระยะยาวเป็นหลัก แนวทางการลงทนุ ในการซอ้ื หนุ้ ของวอรเ์ รน บฟั เฟตตจ์ ะเปน็ การลงทนุ ในระยะยาวเสยี เปน็ สว่ น ใหญ่ เปน็ การเลอื กซอ้ื จากบรษิ ทั ทม่ี น่ั ใจแลว้ วา่ ในอนาคตนน้ั จะทำ�ก�ำ ไรอยา่ ง ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซ่ึงมักจะเป็นแนวทางท่ีสวนทางกับนักลงทุนทั่วไป ท่ีเมือ่ พอเห็นก�ำ ไรพอสมควรกข็ ายออกมา หรอื เมอ่ื เหน็ ทา่ ว่าจะขาดทนุ กจ็ ะ ขายทนั ทีเพือ่ ลดความเสียหาย คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

91 แม้ว่าการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์จะเป็นการลงทุนในระยะ ยาว แต่ก็ไม่ใช่ซื้อหุ้นแล้วปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง จะมีการติดตามผลของหุ้น นน้ั อยเู่ สมอ ทงั้ ในเรอื่ งของการบรหิ ารภายในและอตั รามลู คา่ หนุ้ ณ ปจั จบุ นั ซ่ึงในบางครั้งหุ้นบางตัวทำ�กำ�ไรสูงในระยะส้ันเขาก็จะตัดสินใจขายในทันที เหมือนกัน หรือแม้แตห่ ้นุ บางตวั น้นั มที ที า่ จะดิ่งลงอย่างไมม่ ีวันข้ึนมาอกี ก็ จะตดั สินใจขายเช่นกนั เพอ่ื ปอ้ งกนั ความเสยี หาย ข้อที่สิบ จงเชื่อมนั่ ในสหรัฐอเมรกิ า วอรเ์ รน บฟั เฟตตน์ นั้ มองว่า แมเ้ ศรษฐกจิ โลกในวนั นห้ี รอื ในอนาคตจะเปน็ อยา่ งไรกแ็ ลว้ แต่ สหรฐั อเมรกิ า กย็ งั เปน็ สหรฐั อเมรกิ า รฐั บาลในแตล่ ะยคุ นน้ั จะเขา้ มาชว่ ยเหลอื บรรดาบรษิ ทั ธรุ กจิ ขนาดใหญอ่ ยา่ งแนน่ อน หากวา่ มปี ญั หาหนกั จนแกไ้ ขไมไ่ ด้ เพราะหาก บริษัทเหล่าน้ลี ม้ ลงกจ็ ะท�ำ ให้สหรฐั อเมริกานัน้ ลม้ ดว้ ย วอร์เรน บัฟเฟตต์จึงเลือกท่ีจะซ้ือหุ้นบริษัทเหล่าน้ีในระยะยาว เพราะเห็นว่าบริษัทเหล่านี้แม้จะเจอมรสุมทางเศรษฐกิจอย่างไรในอนาคต รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาก็จะหนุนหลังไม่ให้ล้มอย่างแน่นอน และเมื่อ คลื่นลมทางเศรษฐกิจน้ันสงบลงเมื่อไหร่ บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ก็จะ กลบั ขน้ึ มาผงาดอยา่ งแนน่ อน ซงึ่ การลงทนุ กบั บรษิ ทั เหลา่ นใี้ นระยะยาวยอ่ ม เปน็ เร่อื งทีม่ คี วามเสย่ี งน้อยมาก T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

92 ทั้งสิบข้อน้ีล้วนเป็นการสรุปหลักการท่ีทำ�ให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ด�ำ เนนิ ธรุ กจิ ยาวนานมาหลายสบิ ปี เปน็ การรวบรวมมาจากประสบการณแ์ ละ แนวคิดท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์ของตนเอง ซ่งึ แนน่ อนวา่ มันเปน็ ส่งิ ทถี่ กู ตอ้ ง เพราะ ไดพ้ ิสูจน์มาแลว้ ด้วยตวั เขาเอง ปรชั ญาในการท�ำ ธรุ กจิ ของวอรเ์ รน บฟั เฟตตท์ เี่ หน็ เดน่ ชัดท่ีสุดก็คือการใช้เงินต่อเงิน พยายามสร้างกำ�ไรจากกำ�ไร ท�ำ ให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลอย่างไม่ส้นิ สดุ ในชีวิตบ้ันปลายของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ อย่างสามัญชนอย่างที่สุด พร้อมกับทำ�ประโยชน์ให้มนุษยชาติมากที่สุด ซงึ่ สดุ ท้ายเขากต็ ัดสนิ ใจในขณะที่มอี ายไุ ด้ 75 ปีว่าจะมอบทรัพย์สนิ จ�ำ นวน 85 เปอร์เซ็นต์ที่เขามีหรือราวๆ 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับมูลนิธิ บลิ ล์-เมลินดา เกตต์ ซง่ึ เปน็ มลู นธิ ทิ บ่ี ลิ ล์ เกตต์ เพอื่ นรกั ของเขาทไ่ี ดก้ อ่ ตงั้ เอาไวเ้ พอ่ื ชว่ ย เหลอื ในการวจิ ยั วคั ซนี ทสี่ ามารถรกั ษาโรครา้ ยทง้ั 20 ชนดิ ทวั่ โลก ซงึ่ หนง่ึ ใน น้นั กค็ อื โรคเอดส์ โรคทีค่ รา่ ชีวติ คนทัว่ โลกหลายล้านคนตอ่ ปี คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

93 การบริจาคของวอรเ์ รน บัฟเฟตต์ เขาเชื่อวา่ ทรพั ย์สิน ที่เขาบริจาคนั้นจะนำ�ความสุขมาสู่มนุษยชาติ ส่วนหนึ่งน้ัน อยากทำ�ให้บรรดามหาเศรษฐีท่ัวโลกน้ันหันมาให้ความสำ�คัญ กบั เพื่อนมนุษย์ใหม้ าก อย่าใช้เวลากบั สิ่งฟุ่มเฟือยหรอื งานจน มากเกนิ ไป หนั มาใช้ชวี ิตด้วยความเรียบง่ายและมอบความรกั ให้กับเพอื่ นมนุษย์ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

สตีฟ จอบส์ นวัตกรรม แบ่งแยก ผู้นำ� ออกจาก ผู้ตาม

95 คิดแบบ สตีฟ จอบส์ ผูป้ ระสบความส�ำ เร็จในสิ่งทรี่ ัก ถา้ พดู ถงึ เรอื่ งของเทคโนโลยที างคอมพวิ เตอรค์ งไมม่ ใี ครไมร่ จู้ กั บรษิ ทั คอมพวิ เตอรค์ า่ ยดงั อยา่ ง แอปเปลิ แตใ่ ครจะรบู้ า้ งวา่ คนทส่ี รา้ งบรษิ ทั นข้ี น้ึ มา นนั้ เปน็ คนทยี่ งั ไมจ่ บมหาวทิ ยาลยั รวมทงั้ ในอดตี ยงั แทบจะไมม่ ที ซ่ี กุ หวั นอน ทเี ดยี ว ท�ำ ไมหรอื อะไรทที่ �ำ ใหเ้ ขานนั้ พลกิ ชะตาของตนเองมากลายเปน็ บคุ คล ชื่อดังในโลกคอมพวิ เตอรไ์ ด้ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

96 คนทเ่ี ราก�ำ ลงั พดู ถงึ นน่ั คอื ชายทช่ี อ่ื วา่ “สตฟี พอล จอบส”์ (Steve Paul Jobs) ซึ่งในขณะนี้ถือว่าเป็นบุคคลชั้นนำ�ในวงการอุตสาหกรรม คอมพวิ เตอรใ์ นปจั จบุ นั เปน็ ผทู้ ร่ี ว่ มกอ่ ตง้ั แอปเปลิ คอมพวิ เตอร์ รว่ มกบั สตฟี วอซ- เนยี ก (Steve Wozniak) ตัง้ แตป่ ีค.ศ. 1976 ทงั้ คถู่ อื วา่ เป็นผูท้ ป่ี ลุกกระแส การใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือทเี่ รยี กว่า “โนต้ บ๊กุ ” ใหไ้ ด้รับความนยิ ม มากขน้ึ แตใ่ ครจะคดิ วา่ คนทเ่ี กง่ ดา้ นคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งจอบสน์ น้ั จะมปี ระวตั ิ ท่ยี ากลำ�บาก เขาเกิดในเมืองซานฟรานซสิ โก มลรัฐแคลฟิ อรเ์ นยี โดยการ ดูแลของพ่อแม่บุญธรรมอย่างนายพอลและนางคลารา จอบส์ ซ่ึงต่อมา ทั้งสองก็ได้รับบุตรบุญธรรมอีกคนหน่ึงชื่อ แพตตี้ ส่วนพ่อแม่ท่ีแท้จริงของ เขานั้นคือนายอับดุลฟัตตะห์ จันดาลี นักศึกษามุสลิมชาวซีเรีย กับนาง โจแอน ซิมป์สัน ซ่ึงในขณะท่ีให้ก�ำ เนิดจอบส์น้ัน ทั้งคู่นั้นยังไม่พร้อมที่จะ ดแู ลเด็ก ในขณะน้ันทั้งพ่อและแม่ของจอบส์ต้ังใจที่จะยกจอบส์ให้คนอื่นท่ี พร้อมกว่าไปเล้ียงดู ในขณะท่ีเขายังอยู่ในครรภ์ โดยมีเง่ือนไขท่ีว่าคู่สามี ภรรยาทจ่ี ะเลยี้ งดเู ขานนั้ ตอ้ งจบปรญิ ญาตรีทง้ั คู่ ซง่ึ คสู่ ามคี แู่ รกทไี่ ดร้ บั เลอื ก นนั้ เปน็ ทนายความ ทงั้ หมดนน้ั ดเู หมอื นจะเปน็ ไปดว้ ยดี แตเ่ มอื่ จอบสค์ ลอด ออกมาเปน็ ผชู้ าย พวกเขาทั้งคู่กเ็ กิดเปลีย่ นใจอยา่ งกะทันหนั ปฏิเสธในทนั ที โดยอ้างว่าต้องการท่ไี ดเ้ ดก็ ผู้หญงิ ไปเลี้ยงดู คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

97 ต่อมาก็มีคู่สามีภรรยาอีกคู่หนึ่งได้แสดงความต้องการจะรับจอบส์ ไปดูแล ซึ่งนั่นก็เหมือนจะเป็นจุดจบของปัญหาทุกอย่าง แต่ก็ต้องมาติด ปัญหาทีว่ ่าทัง้ สองไม่ไดจ้ บปรญิ ญาตรี ทำ�ใหพ้ อ่ แมท่ แี่ ท้จริงของจอบสน์ ัน้ ไม่ ตอ้ งการยกให้ แต่คู่สามีภรรยาทั้งสองต่างสัญญาว่าจะส่งเสียให้จอบส์นั้นจบ ปริญญาตรีในอนาคตอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นการสัญญา แต่ด้วยความ ตอ้ งการจะเลยี้ งดจู อบสอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ นนั่ จงึ ทำ�ใหพ้ อ่ แมข่ องจอบสน์ น้ั ตดั สนิ ใจ มอบจอบสใ์ หท้ งั้ สองดแู ลในทส่ี ดุ ซงึ่ คสู่ ามภี รรยาทงั้ สองกก็ ลายมาเปน็ พอ่ แม่ บุญธรรมของจอบส์จนถึงปจั จบุ นั นี้ ในปีค.ศ. 1972 จอบส์ได้จบการศึกษาระดับไฮสคูลจากโรงเรียน โฮมสตีดไฮสคูล หลังจากน้ันเขาก็ได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยท่ี มหาวิทยาลัยรีด เมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน แต่เขาก็เรียนได้เพียง หกเดอื นเทา่ นน้ั กต็ ดั สนิ ใจพกั การเรยี น เหตผุ ลนนั่ มสี าเหตมุ าจากคา่ เลา่ เรยี น ท่ีสูงมาก จนท�ำ ให้จอบสน์ นั้ ใช้เงนิ ไปเปน็ จ�ำ นวนมากในระหว่างน้นั ซง่ึ พอ่ แมบ่ ญุ ธรรมของเขาเปน็ คนงานธรรมดามคี า่ แรงไมม่ าก หากวา่ ปลอ่ ย ใหเ้ ปน็ อยา่ งนต้ี อ่ ไป ไมช่ า้ กเ็ รว็ เขากไ็ มไ่ ดเ้ รยี นอยดู่ ี อกี ทง้ั จอบสเ์ หน็ วา่ คา่ เลา่ เรยี น ท่ีเสียไปกับสิ่งท่ีได้มานั้นยังไม่คุ้มค่ากัน ซึ่งปัญหานี้ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่มี ทางออกให้กับเขาเลย จอบส์จึงคิดว่าการพักการเรียนน้ันคงเป็นวิธีที่ดีท่ีสุด แลว้ T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!

98 หลังจากน้ันชีวิตของจอบส์น้ันอยู่ในช่วงท่ีตกต่ำ�มาก ช่วงหน่ึงของ ชีวิต ต้องเก็บกระป๋องไปคืนร้านเพื่อจะนำ�เงินค่าประกันกระป๋องน้ันไปซ้ือ อาหารประทังชวี ิต ทกุ วันอาทติ ย์เขาตอ้ งเดินเป็นระยะทางถึง 7 ไมล์เพื่อ ทจ่ี ะไปรบั บรจิ าคอาหารจากโบสถพ์ ราหมณ์ สว่ นทอ่ี ยนู่ น้ั ไมต่ อ้ งพดู ถงึ จอบส์ ตอ้ งอาศัยหอ้ งของเพอ่ื นนอนอยเู่ สมอ และแลว้ จดุ เปลยี่ นจดุ หนงึ่ ในชวี ติ ของจอบสน์ นั้ กม็ าถงึ เมอื่ เขามคี วาม สนใจในการเรยี นคอรส์ สอนการออกแบบตวั หนงั สอื (Caligraphy) เปน็ การ สอนเกี่ยวกับการออกแบบตัวหนังสือ การวางช่องไฟในป้ายโฆษณาหรือสื่อ สง่ิ พมิ พต์ า่ งๆ ทเี่ ปดิ โดยมหาวทิ ยาลยั รดี ซง่ึ ในขณะนนั้ ถอื วา่ เปน็ มหาวทิ ยาลยั ชนั้ แนวหน้าของสหรัฐอเมริกาท่ีมคี วามรูเ้ รอ่ื งน้ี ในตอนแรกทจี่ อบสต์ ดั สนิ ใจเรยี นคอรส์ นเ้ี พราะตอ้ งการรวู้ ธิ กี ารสรา้ ง ตัวหนังสือและความรู้สึกชอบส่วนตัวเท่าน้ัน ซ่ึงหลังจากจบคอร์สนี้เขาก็ไม่ คอ่ ยไดใ้ ชค้ วามรดู้ า้ นนอ้ี กี เลย แตส่ บิ ปใี หห้ ลงั เขากบั ตอ้ งพงึ่ มนั เปน็ อยา่ งมาก ในการผลติ คอมพิวเตอรแ์ มคอนิ ทอชออกมา สตฟี จอบสน์ นั้ ยงั จำ�เรอื่ งราวครง้ั นนั้ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และไดก้ ลา่ วถงึ เรื่องนีเ้ อาไวว้ า่ “เราไม่สามารถต่อจุดให้เป็นรูปร่างจากการมองไปข้าง หนา้ เราจะทำ�ไดต้ อ่ เมือ่ เรามองยอ้ นหลงั ไป” คิ ด เ ห นื อ ชั้ น ร ว ย เ ห นื อ วิ ก ฤ ต

99 คนที่จะประสบความสำ�เร็จได้น้ันจำ�เป็นต้องมีความรู้หรือ ประสบการณ์จากอดีตมาช่วยผลักดัน หากว่าเราต้องการที่จะเดินก้าวไป ข้างหน้าอย่างมั่นคง ก็ต้องย้อนกลับมาดูว่าอดีตนั้นเรามีอะไรมาบ้าง และ พยายามเชอื่ มสงิ่ ทเี่ รามใี นอดตี กบั ในปจั จบุ นั และอนาคตเขา้ ดว้ ยกนั จะท�ำ ให้ การพัฒนานนั้ เปน็ ไปอย่างสอดคลอ้ งกัน ท้ังประสบการณแ์ ละความร้ทู ี่มีมาน้ัน เป็นส่วนสำ�คัญที่จะท�ำ ให้คน ธรรมดาคนหนง่ึ นนั้ กลบั กลายเปน็ คนทปี่ ระสบความสำ�เรจ็ ได้ หรอื อาจจะเปน็ ค�ำ ถามท่ตี ิดอยูใ่ นใจหลายคน แต่สตีฟ จอบส์ไดท้ �ำ ใหเ้ ห็นแล้ววา่ เปน็ ไปได้ และยังเชื่อม่ันอย่างนั้นตลอดมา ซึ่งส่ิงเหล่าน้ันต้องมากับความมุ่งม่ันอย่าง จรงิ จังในการท�ำ งานดว้ ย หลังที่จอบส์ออกมาจากมหาวิทยาลัยพร้อมกับความรู้ในเร่ืองของ การออกแบบอักษร เขาในวัยเพียง 20 ปีก็ได้ตัดสินใจท�ำ โรงงานประดิษฐ์ คอมพิวเตอร์เอง ซึ่งโรงงานแห่งแรกของบริษัทแอปเปิลได้เปิดท่ีโรงรถของ พ่อเขาเอง โดยได้ร่วมกับเพื่อนรักอย่าง “สตีเฟน วอซเนียก” (Stephen Wozniak) ในช่วงน้ันทั้งสองท�ำ งานอย่างหนักจนบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมาก จนปจั จบุ นั มสี นิ ทรพั ยถ์ งึ 2,000 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั มพี นกั งานมากกวา่ 4,000 คน T h i n k beyond Crisis will be R i c h soon enough!