1 ความรทู้ ่วั ไปเก่ียวกับยาเสพติด ๑.ความหมายของยาเสพติด ยาเสพติด หมายถึงสารเคมีหรอื สารใดกต็ ามซึง่ เมอ่ื บุคคลเสพหรือ รบั เขา้ สู่รา่ งกาย ไมว่ า่ โดยการฉดี การสบู การกนิ การดม หรือวิธีอน่ื ติดต่อกนั เปน็ เวลานาน หรือช่วงระยะเวลา หนงึ่ แล้วจะก่อใหเ้ กดิ เรื้อรัง ซง่ึ จะทำให้เกดิ ความเสือ่ มโทรมขึ้นแกบ่ ุคคลผเู้ สพและแก่สงั คมดว้ ย ท้งั จะต้องทำใหผ้ ู้ เสพแสดงออกซงึ่ ลักษณะ ดังนี้ ๑.๑. ผูเ้ สพมีความตอ้ งการอย่างแรงกล้าทจี่ ะเสพยาชนิดนน้ั ๆ ต่อเนือ่ งกนั ไป และต้องแสวงหายา ชนิดนนั้ ๆ มาเสพใหไ้ ดไ้ มว่ า่ ด้วยวธิ กี ารใดๆ ก็ตาม ๑.๒. ผเู้ สพจะตอ้ งเพม่ิ ปริมาณของยาท่เี คยใช้ให้มากขึน้ ทุกระยะ ๑.๓. ผู้เสพจะมคี วามปรารถนาอยากเสพยาชนดิ นนั้ ๆ อย่างรุนแรง ระงบั ไม่ได้ คือ มกี ารตดิ และ อยากยาทง้ั ทางดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ ๏สถานท่ีใหค้ ำปรึกษาด้านปอ้ งกัน และแนะนำการบำบัดรักษาขัน้ ต้น ๑. สำนกั งานศึกษาปอ้ งกันการติดยา(กระทรวงสาธารณสขุ ) 286 ถนนพระราม6 พญาไท กรงุ เทพฯ โทร. 2824180-5 ๒. สภาสงั คมสงเคราะห์แหง่ ประเทศไทยศนู ย์อาสาสมัครยาเสพติด ตกึ มหดิ ล กรุงเทพฯ โทร. 2455522 ๓. ศนู ย์สขุ วทิ ยาจติ พญาไท กรงุ เทพฯ โทร.2815241 ๔. สมาคมสขุ ภาพจิตแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ โทร.2452733 ๕. สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรุงเทพฯ โทร.2459340-9 ๏สถานบำบัด ๑. โรงพยาบาลตำรวจ แผนกจติ เวช กรุงเทพฯ โทร.2528111-7 ๒. โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า แผนกจิตเวช กรงุ เทพฯ โทร.2461946 ๓. โรงพยาบาลธัญญารกั ษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทมุ ธานี โทร.5310080-8
2 ๔. โรงพยาบาลสมเด็จพระป่ินเกลา้ กรุงเทพฯ โทร.4681116-20 ๕. โรงพยาบาลทหารเรอื กรุงเทพฯ โทร. 4112191 ๖. ศนู ยบ์ ริการสาธารณสขุ กรงุ เทพฯ ลุมพินี ซอยปลกุ จิตต์ ถ.วิทยุ โทร.2512970 ๗. ศนู ย์บริการสาธารณสขุ กรงุ เทพฯ สี่พระยา โทร.2364055 ๘. สำนกั สงฆ์ถำ้ กระบอก จ.สระบรุ ี ๙. สำนกั สงฆถ์ ้ำเขาทะลุ จ.ราชบุรี
3 ๒.ประเภทของสารเสพติด ยาเสพติด แบ่งไดห้ ลายรปู แบบ ตามลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ ฝิ่น เอ๊กซต์ าซี แบ่งตามที่มาของยาเสพตดิ คอื ๒.๑ ยาเสพย์ติดธรรมชาติ ได้แก่ ยาเสพตดิ ท่ีได้มาจากตน้ พชื เช่น ฝิ่น โคคะอนี กญั ชา รวมทงั้ ที่ได้ ปรงุ แปรสภาพลกั ษณะอยา่ งอ่นื โดยกรรมวธิ ที างเคมีแลว้ เช่น มอรฟ์ นี เฮโรอีน เป็นตน้ ๒.๒ ยาเสพย์ติดสังเคราะห์ ได้แก่ ยาเสพติดทไ่ี ด้มาจากการปรุงขนึ้ โดยกรรมวิธที างเคมีโดยตรง และ นำมาใชแ้ ทนยาเสพติดธรรมชาตไิ ด้ เชน่ แอมเฟตามิน เพธิดีน ไฟแซปโตน เมธาโดน เป็นตน้ แบง่ ตามพระราชบัญญตั ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ ซ่ึงจะแบ่งออกเป็น ๕ ประเภท คอื ยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภทท่ี ๑ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษชนิดร้ายแรง เปน็ ยาที่ไมม่ ีการนำมาใช้ในทาง การแพทย์ และทำให้เกดิ การเสย่ี งตอ่ การตดิ ยาของประชากรในระดับรุนแรง เชน่ เฮโรอีน ยาบา้ ยาอี เปน็ ต้น ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๒ ยาเสพติดใหโ้ ทษท่ัวไป ยาเสพตดิ ประเภทนีส้ ามารถนำมาใชเ้ พ่ือ ประโยชน์ทางการแพทยไ์ ด้ แต่ต้องใชภ้ ายใต้การควบคุมของแพทย์ และใชเ้ ฉพาะกรณที ี่จำเป็นเท่านั้น ไดแ้ ก่ ฝน่ิ มอรฟ์ ีน โคเคน หรอื โคคาอนี โคเคอีน และเมทาโดน ยาเสพตดิ ให้โทษ ประเภทที่ ๓ ยาเสพตดิ ประเภทนเ้ี ปน็ ยาเสพติดให้โทษทมี่ ยี าเสพติดประเภทที่ ๒ ผสมอยดู่ ้วย มีประโยชน์ทางการแพทย์ การนำไปใชเ้ พ่อื จดุ ประสงคอ์ ื่น หรอื เพ่ือเสพติด จะมีบทลงโทษกำกบั ไว้ ยา เสพตดิ ประเภทนี้ ได้แก่ ยาแกไ้ อ ที่มตี วั ยาโคเคอีน ยาแก้ท้องเสยี ทีม่ ีฝิน่ ผสมอยดู่ ว้ ย ยาฉีดระงับปวดตา่ ง ๆ เช่น มอร์ฟีน เพทิดีน ซง่ึ สกดั มาจากฝิน่ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทท่ี ๔ คอื สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภทท่ี ๑ หรอื ประเภทท่ี ๒ ยาเสพตดิ ประเภทน้ีไม่มกี ารนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบดั โรคแต่อยา่ งใด และมีบทลงโทษกำกบั ไว้ ด้วย ไดแ้ กน่ ำ้ ยาอะเซติคแอนไฮไดรย์ และ อะเซติลคลอไรด์ ซึ่งใช้ในการเปลยี่ นมอรฟ์ นี เปน็ เฮโรอนี สารคลอซูได อีเฟครีน สามารถใช้ในการผลติ ยาบ้าได้ และวตั ถุออกฤทธ์ิต่อจติ ประสาทอกี ๑๒ ชนดิ ที่สามารถนำมาผลติ ยาอี และยาบา้ ได้ ผสมผสาน เห็ดข้ีควาย ยาเสพตดิ ให้โทษประเภทที่ ๕ เปน็ ยาเสพติดใหโ้ ทษที่มไิ ดเ้ ขา้ ข่ายอยใู่ นยาเสพติดประเภทท่ี ๑ ถึง ๔ ไดแ้ ก่ ทกุ ส่วนของพืชกญั ชา ทกุ ส่วนของพชื กระทอ่ ม เหด็ ข้ีควาย เป็นตน้
4 แบ่งตามคณุ สมบตั ิของยาเสพตดิ คอื ๑ ยาเสพติดประเภทกดประสาท (Depressant) ได้แก่ ฝ่ิน มอรฟ์ นี เฮโรอีน เซโดนลั บาร์ฟิโนบาร์บิ ตาล โบรไมด์ พาราดีไฮด์ และเมธาโดน เป็นต้น ยาเสพติดเหล่านีจ้ ะกดประสาทสว่ นกลางหรอื สมอง ทำให้ประสาท มึนงง งว่ งซึมและหมดแรง นอกจากน้ี ยงั กดศูนยป์ ระสาท การหายใจ ทำใหห้ ายใจช้าลง จนถึงขน้ั หยดุ หายใจได้ ๒. ยาเสพตดิ ประเภทกระตนุ้ ประสาท (Stirmulant) ไดแ้ ก่ ใบกระท่อม โคเคอีน แอมเฟตามีน เปน็ ต้น ยาเสพติดเหล่านี้จะกระตนุ้ ประสาทสว่ นกลางหรือสมอง ทำให้ประสาทต่นื ตัวและ กระวนกระวายไม่ง่วงนอน แตเ่ มือ่ หมดฤทธิย์ าแล้วจะหมดแรง เพราะร่างกายไม่ได้รบั การพักผอ่ นและอาจจะเกดิ อาการตวั สัน่ ตงึ เครียดถึงกับ หมดสติจนถงึ ขัน้ เสียชีวิตได้ ๓. ยาเสพตดิ ประเภทหลอนประสาท (Hallucinogen) ได้แก่ กญั ชา แอลเอสดี (L.S.D. = Lysergic acid Diethylamide) ดีเอ็มที (D.M.T. = Dimethyl Trytamine) เอสทพี ี (S.T.T. = Serenity Tranquility Peace) เหด็ ข้คี วาย เปน็ ตน้ ยาเสพตดิ เหลา่ นีจ้ ะทำใหเ้ กดิ ประสาทหลอนเห็นภาพผดิ ปกติ รสสมั ผสั เปล่ยี นแปลง รวมทั้งอายตนะท้ังห้าของร่างกายแปรปรวน มปี ฏกิ ริ ยิ าผิดไปจากความจรงิ ทงั้ หมด ๔. ยาเสพติดประเภทออกฤทธผิ์ สมผสาน (Mixed) ได้แก่ กญั ชา ถา้ เสพจำนวนน้อยจะกดประสาท อยชู่ วั่ ระยะหนง่ึ ต่อเม่ือเสพเพิ่มเข้าไปมากจะกลายเปน็ พิษหลอนประสาทได้ แบง่ ตามองคก์ ารอนามัยโลก ซ่งึ แบง่ ออกได้เป็น ๙ ประเภท คอื ๑. ประเภทฝนิ่ หรือมอร์ฟีน รวมท้งั ยาทม่ี ฤี ทธ์ิคล้ายมอรฟ์ นี เช่น ฝน่ิ มอรฟ์ ีน เฮโรอีน เพธิดนี ๒. ประเภทบาบิทเู รท รวมท้งั ยาท่ีมีฤทธท์ิ ำนองเดียวกัน เช่น เซโคบารบ์ ิตาล อะโมบารบ์ ิตาล พาราล ดไี ฮด์ เมโปรบาเมท ไดอาซแี พม คลอไดอาชีพอกไซด์ ๓.ประเภทแอลกอฮอลด์ เชน่ เหล้า เบียร์ วสิ กี้ ๔.ประเภทแอมเฟตามนี เช่น แอมเฟตามนี เดกซ์แอมเฟตามนี ๕.ประเภทโคเคน เชน่ โคเคน ใบโคคา ๖.ประเภทกญั ชา เช่น ใบกัญชา ยางกญั ชา ๗.ประเภทคทั เช่น ใบคทั ใบกระท่อม ๘.ประเภทหลอนประสาท เชน่ แอลเอสดี ดเี อม็ ที เมสคาลีน เมล็ดมอรน์ ิง่ โกลลี่ ต้นลำโพง เหด็ บาง ชนดิ
5 ๙.ประเภทอนื่ ๆ เป็นพวกทไี่ ม่สามารถเข้าประเภทได้สารระเหยตา่ งๆ เช่น ทนิ เนอร์ เบนซิน นำ้ ยา ลา้ งเลบ็ ยาแก้ปวด บุหร่ี ฝน่ิ (OPIUM) ลกั ษณะทวั่ ไป ตน้ ฝน่ิ เปน็ พืชลม้ ลุก นิยมปลกู กันทางภาคเหนือของประเทศไทย (จดั เปน็ ยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ ตราพระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒) เน้อื ฝ่นิ ได้มาจากยางที่กรดี จากผล (กระเปาะ) ฝ่นิ มีสนี ้ำตาล กลนิ่ เหม็นเขียว รสขม เรยี กวา่ ฝิ่นดบิ และหากนำฝิน่ ดบิ มาต้ม เคย่ี วหรอื หมกั จะไดฝ้ ิ่นท่ีมีสีนำ้ ตาลไหมป้ นดำ มีรส ขมเฉพาะตัว เรยี กวาฝ่ินสกุ ทง้ั ฝิ่นดิบและฝน่ิ สกุ มีฤทธใ์ิ นการ กดระบบประสาท อาการผู้เสพติดฝ่ิน มอี าการจิตใจเลื่อนลอย ซึม งว่ ง พูดจาวกไปวนมา อารมณ์ดี และการตัดสินใจเชอ่ื งช้าผูท้ ่ีเสพ ฝ่ินตดิ ตอ่ กนั เป็นระยะเวลานาน สุขภาพร่างกายจะทรดุ โทรม ตัวซีดเหลือง ซบู ผอม ดวงตาเหมอ่ ลอย รมิ ฝปี าก เขียวคล้ำ ออ่ นเพลียง่าย ซึมเศรา้ งว่ งเหลาหาวนอน เกียจคร้าน อารมณ์แปรปรวนง่าย พดู จาไมอ่ ย่กู ับร่องกบั รอย ความจำเส่ือม ชพี จรเต้นช้า ไมร่ ู้สกึ ตัว และหากไม่ไดเ้ สพฝิน่ เมอื่ ถงึ เวลาจะมอี าการหงดุ หงดิ ฉุนเฉยี วง่าย บางรายมี อาการออ่ นเพลยี ไมม่ ีแรง ด้ินทรุ นทุราย น้ำมูกน้ำตาไหล มา่ นตาขยายผิดปกติ ปวดตามกลา้ มเนื้อตามกระดกู ปวด บิดในท้องอยา่ งรุนแรง อาเจียน หายใจลำบาก อาจชกั และหมดสตไิ ด้ มอร์ฟนี (MORPHINE) ลักษณะท่ัวไป เป็นสารอัลคาลอยด์ทส่ี กัดได้จากฝ่ิน มีลกั ษณะเป็นผงสขี าวนวล สีครีม สีเทา ไมม่ กี ลิ่น รสขม ละลายน้ำง่าย (จัดเปน็ ยาเสพตดิ ให้โทษประเภท ๒ ตามพระราชบญั ญตั ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒) มฤี ทธใ์ิ น การกดประสาทและสมองรุนแรงกวา่ ฝ่นิ ประมาณ ๘-๑๐ เท่า เสพติดได้ง่าย มลี ักษณะแตกตา่ งกัน เช่น อดั เป็น เมด็ เป็นผง เปน็ แท่งสีเ่ หลี่ยมมเี ครือ่ งหมาย 999 หรอื OK เป็นสัญลกั ษณ์ และชนดิ นำ้ บรรจุหลอด อาการผู้เสพติดมอรฟ์ ีน ผทู้ เ่ี สพมอรฟ์ นี ระยะแรกฤทธิข์ องมอรฟ์ นี จะช่วยลดความวิตกกังวล คลายความเจบ็ ปวด ตา่ ง ๆ ตามร่างกาย ทำให้มีอาการง่วงนอนและหลบั งา่ ย และหากเสพจนเกดิ อาการตดิ ฤทธ์ิของมอร์ฟีนจะทำให้ผู้ เสพมอี าการเหมอ่ ลอย เซ่อื งซมึ จติ ใจเลอ่ื นลอย เกยี จคร้านไมส่ นใจตอ่ ส่ิงแวดล้อมรอบกายสุขภาพร่างกาย ผา่ ยผอม ทรดุ โทรม และเมื่อไมไ่ ด้เสพจะเกดิ อาการกระวนกระวาย ความคิดสบั สนพฤติกรรมกา้ วรา้ ว หงดุ หงดิ ง่าย วิตกกงั วล หวาดระแวง หูออ้ื นอนไม่หลับ ปวดท้อง คลน่ื ไส้ อาเจียน บางคนอาจชักและหมดสตใิ นทส่ี ดุ
6 เฮโรอนี หรอื ผงขาว (HEROIN) ลักษณะทั่วไป เฮโรอีนเปน็ ยาเสพติดใหโ้ ทษชนิดร้ายแรง ประเภท ๑ (ตามพระราชบญั ญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒) เฮโรอนี ได้จากการสงั เคราะหต์ ามกรรมวธิ ที างเคมี ฤทธิข์ องเฮโรอนี มคี วามรุนแรงกว่ามอรฟ์ นี ประมาณ ๔- ๘ เท่าและรุนแรงกว่าฝนิ่ ประมาณ ๓๐-๘๐ เทา่ อาการผ้เู สพติดเฮโรอีน เฮโรอนี เปน็ ยาเสพติดทรี่ ้ายแรง เสพติดไดง้ า่ ยเมอ่ื ใชเ้ พียง ๑ หรอื ๒ คร้งั อาจทำใหเ้ กิด อาการมนึ งงเซอ่ื งซมึ ง่วง เคลิม้ หลบั ได้เป็นเวลานาน ไม่สนใจตอ่ สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบข้าง บางรายเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจยี น ตาลาย สำหรับผทู้ ีเ่ สพจนติด เสพเปน็ ประจำรา่ งกายจะทรดุ โทรม ผอมตัวซีดเหลอื ง ขอบตาคลำ้ ดวงตา เหม่อลอย นำ้ หนกั ตวั ลดอย่างรวดเร็ว สมองและประสาทเสอื่ ม ความคิดสบั สน ความจำเสื่อม อ่อนเพลียไมม่ แี รง และหากใชย้ าเกิดขนาด ฤทธิ์ของเฮโรอีนจะทำให้หัวใจหยดุ ทำงาน เกดิ อาการ \"ช็อค\" ถึงแก่ความตายไดท้ นั ที สำหรับอาการขาดยาหรือไม่ได้เสพยาเมอ่ื ถงึ เวลาเสพ ผเู้ สพตดิ เฮโรอีนจะเกดิ อาการทุรนทุราย ทุกข์ทรมาน นำ้ มกู น้ำตาไหล ความคดิ ฟุง้ ซา่ น สบั สน หงุดหงิด กระวนกระวาย ปวดเจ็บตามกล้ามเนอ้ื ตามกระดกู ปวดท้องอยา่ ง รุนแรง หูออ้ื ตาพรา่ มวั อาเจียนอยา่ งรนุ แรง ถ่ายอจุ จาระเป็นเลือด นอนไมห่ ลับ บางรายมอี าการเพอ้ คลง่ั ชักและ หมดสตอิ าจถงึ ขน้ั เสยี ชีวติ ได้ โคเคน (COCAINE) ลักษณะท่ัวไป โคเคนหรือโคคาอีน เป็นสารเสพติดธรรมชาติทไ่ี ดจ้ ากการสังเคราะห์สว่ นใบของตน้ โคคา (จดั เป็นยา เสพตดิ ให้โทษประเภท ๒ ตามพระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ.๒๕๒๒) นิยมปลูกกนั มากในประเทศแถบ อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง เช่น ประเทศโบลเิ วีย เปรู โคลมั เบยี เอกวาดอร์ เปน็ ต้น มีฤทธ์ใิ นการ กระตุ้น ประสาทสว่ นกลางเชน่ เดียวกับ แอมเฟตามีน (ยาม้า) แต่ทำให้เกดิ อาการติดยาได้งา่ ยกว่า โคเคนหรอื โคคาอนี นิยม เรียกกันในกลุ่มผ้เู สพว่า COKE , SNOW , SPEED BALL , CRACK ฯลฯ มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาว รสขม ไม่ มีกลนิ่ มักนิยมเสพโดยใชว้ ิธีสูบ ฉีด หรอื สดู พ่นเข้าไปในจมกู ฯลฯน อาการผเู้ สพติดโคเคน ผู้เสพตดิ โคเคนเข้าสรู่ ่างกาย ในระยะแรกฤทธ์ขิ องโคเคนจะกระต้นุ ประสาททำให้เกิดอาการ ไร้ความรู้สึก ดเู หมอื นคล้ายมีกำลังมากข้นึ มีความกระปรก้ี ระเปร่า ไมร่ ู้สกึ เหนอื่ ย แตเ่ มอ่ื หมดฤทธย์ิ ารา่ งกายและ ความรสู้ กึ จะออ่ นเพลียเม่ือยล้าขน้ึ มาทันที มีอาการเซอ่ื งซึมและหากว่าเสพจนถึงขัน้ ตดิ ยาจะเกิดผลตอ่ ร่างกาย อย่างมาก เชน่ หัวใจเตน้ แรง ความดนั โลหิตสูง ตัวรอ้ น มไี ข้ตลอดเวลา นอนไม่หลบั ฯลฯ และหากเสพโคเคนเขา้ สู่ ร่างกายเกิดขนาดจะเกดิ พษิ เฉียบพลนั ฤทธ์ิของยาจะไปกดการทำงานของหัวใจ ทำให้หายใจไม่ออกอาจชกั และ เสยี ชีวิตได้
7 กญั ชา (CANNABIS) ลกั ษณะทวั่ ไป กญั ชาเป็นพชื ล้มลกุ จำพวกหญา้ ชนิดหนึ่ง มีชอื่ เรียกต่าง ๆ กนั เชน่ THAISTICKS,MARY - JANE หรือทน่ี ยิ มเรียกกันในกลุม่ ผ้เู สพวา่ เนอื้ (จัดเป็นยาเสพตดิ ให้โทษประเภท ๕ ตามพระราชบัญญตั ิยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒) ลกั ษณะใบกัญชา จะเรียวยาวแตกเป็นแฉกคลา้ ยใบละห่งุ หรอื มันสำปะหลงั สว่ นทีน่ ำมาใช้เสพกค็ อื ใบและยอดช่อดอกตวั เมีย โดยการนำมาตากหรืออบแห้งแล้วบดหรอื หน่ั เปน็ ผงหยาบ ๆ นำมามวนบุหรีส่ บู หรือ อาจสบู ดว้ ยกล้องหรือบ้องกัญชา บางรายใชเ้ คย้ี ว หรอื เจอื ปนกบั อาหารรบั ประทาน ในกรณที ี่เสพติดด้วยวิธกี ารสบู กลิน่ กญั ชาจะเหมือนกบั เชือกหรอื หญา้ แหง้ ไหมไ้ ฟ กัญชาจะออกฤทธหิ์ ลายอย่างผสมผสานกัน เรมิ่ ตั้งแต่ กระตนุ้ กด และหลอนประสาททงั้ นเี้ น่ืองจากในช่อดอกและใบกัญชามีสารพิษที่ร้ายแรงชนิดหน่งึ เรียกวา่ TETRAHYDROCANNABINOL (THC) เป็นสารพษิ ท่ีทำลายสุขภาพรา่ งกายและก่อให้เกดิ อาการติดยา อาการของผูเ้ สพติดกญั ชา ผู้ทเี่ สพกญั ชาในระยะแรกของการเสพ ฤทธข์ิ องกญั ชาจะกระตุน้ ประสาททำให้ผูเ้ สพมีอาการรา่ เรงิ ชา่ งพดู หัวเราะ ง่าย หัวใจเต้นเร็ว ตืน่ เต้นงา่ ย ต่อมาจะมอี าการคลา้ ยคนเมาเหลา้ อย่างออ่ นเนื่องจากกญั ชา ออกฤทธิ์กดประสาทผู้ เสพจะมอี าการงว่ งนอน ซึม หายใจถ่เี หน็ ภาพลวงตา ภาพหลอนต่าง ๆ เกิดอาการ หูแวว่ ตกใจง่าย วติ กกงั วล หวาดระแวง บางรายคลนื่ ไส้อาเจยี นความจำเสอ่ื มความคิดสบั สนเพ้อคลงั่ ไมส่ ามารถควบคุมตนเองไดม้ อี าการทาง จิต นอกจากนี้สารพิษในกัญชายงั ทำลายระบบภูมิคุ้มกนั ของร่างกาย ทำใหร้ า่ งกายออ่ นแอ ติดโรคอ่ืน ๆ ไดง้ า่ ย เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรอื้ รัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอดทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงเกิดความ ผดิ ปกติของฮอรโ์ มนเพศและพนั ธุกรรม กระท่อม (KRATOM) ลักษณะท่ัวไป กระท่อมเป็นพืชยนื ตน้ ขนาดกลางชนดิ หนงึ่ พบมากในแถบทวปี เอเชีย เช่น ประเทศอนิ เดยี ไทย ฯลฯ (จัดเป็นยาเสพติดประเภท ๕ ตามพระราชบัญญัติยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒) ลกั ษณะใบคลา้ ยใบกระดงั งา หรือใบฝรั่ง มดี อกกลมโตเทา่ ผลพุทรา มชี อ่ื เรียกต่าง ๆ กัน เช่น กระทมุ่ โคก กระทุ่มพาย การเสพจะใช้สว่ นทเ่ี ป็น ใบเคีย้ วสด หรือตากแหง้ แล้วบดหรอื หัน่ เป็นผงหยาบนำไปผสมกบั น้ำร้อนดื่มแทนใบชาจนี อาการผู้เสพติดกระท่อม ผ้เู สพใบกระท่อม จะพบวา่ ร่างกายทรดุ โทรมมาก เนอ่ื งจากสขุ ภาพรา่ งกายทำงานเกิน กำลงั ลักษณะท่เี หน็ ชัด คือ ผวิ หนงั ตามรา่ งกายแห้งเกรยี มดำ ปากแหง้ แก้มเปน็ จุดดำ ๆ และมีอาการนอนไม่หลบั ทอ้ งผกู อจุ จาระเปน็ สีเขียวคล้ายมลู แพะ และหากเสพเขา้ สรู่ า่ งกายตดิ ต่อกันเปน็ เวลานาน ๆ จะทำให้สภาพจติ ใจ
8 สบั สนอาจมอี าการทางประสาทและเมื่อไมไ่ ด้เสพจะมีอาการขาดยา รา่ งกายจะอ่อนเพลียปวดเมอื่ ยตามขอ้ ตาม กลา้ มเนอื้ อารมณ์หงุดหงดิ กระวนกระวาย เบอ่ื อาหารคลนื่ ไส้อาเจียน นอนไมห่ ลบั เหด็ ขค้ี วาย (PSILOCYBE CUBENSIS MUSHROOM) ลักษณะท่วั ไป เป็นเห็ดพษิ ท่ีมกั ขนึ้ อยตู่ ามมลู ความแหง้ และมขี ้ึนอยู่ท่วั ไปแทบทุกภาคของประเทศไทย มีชอ่ื เรยี ก กันในบรรดานกั ทอ่ งเทย่ี ววา่ MAGIC MUSHROOM (จดั เป็นยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท ๕ ตามพระราชบัญญตั ิยา เสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒) ลกั ษณะของเหด็ ขี้ควายมสี ีเหลืองซีดคลา้ ยสีฟางแห้ง บรเิ วณสว่ นบนของหวั เหด็ ท่มี ี รูปรา่ งคล้ายร่ม จะมสี นี ำ้ ตาลเข้มจนถงึ ดำบริเวณก้านตอนบนใกล้ตวั รม่ มแี ผ่นเนือ้ เย่อื บาง ๆ สีขาวคล้ายวงแหวน แผอ่ ยู่รอบก้าน เหด็ ข้ีควายพบไดท้ ง้ั ในสภาพที่เปน็ เห็ดสดและเหด็ ตากแหง้ ผู้ท่ีเสพหรอื บริโภคเหด็ ชนดิ น้ีเข้าไป รา่ งกายจะได้รับสารพษิ เชน่ ไซโลลีน และไซโลไซลีน ซ่งึ เปน็ สารพษิ ทมี่ ีฤทธิใ์ นการหลอนประสาท ทำลายระบบ ประสาทอยา่ งรุนแรง ผู้เสพติดจะมอี าการมนึ เมา จนอาจถงึ ข้ันเสยี ชีวิต อาการผเู้ สพติดเหด็ ข้คี วาย ผ้ทู ่ีเสพหรือบริโภคเห็ดพษิ จะร้สู กึ ร้อนวูบวาบ ตามเนือ้ ตวั แนน่ หนา้ อก ตาพร่า อดึ อดั รสู้ ึกไม่สบาย คล่ืนไสอ้ าเจียน อาการดงั กล่าวจะมมี ากนอ้ ยเพยี งใดขึน้ อยกู่ บั ปริมาณของการเสพ และสภาพรา่ งกาย ของผ้เู สพเป็นสำคญั ในกรณีทเี่ สพหรอื บรโิ ภคเข้าสู่รา่ งกายในปริมาณมาก หรือรา่ งกายมภี ูมติ า้ นทานน้อยฤทธข์ิ อง สารพษิ อาจทำให้ถงึ แก่ชีวติ ได้ และบางรายก็อาจจะมอี าการมึนเมา เคลิม้ ประสาทหลอน ตาพร่า ความคดิ สับสน มีอาการแปรปรวนทางจติ อารมณ์เปลย่ี นแปลงได้งา่ ย เพ้ออาจบ้าคล่ังได้ เหด็ ขค้ี วาย
9 แอมเฟตามีน (AMPHETAMINE) ลกั ษณะท่วั ไป แอมเฟตามีน มีลกั ษณะเป็นผงผลึกมีขาว ไมม่ ีกล่ิน รสขม มีฤทธใ์ิ นการกระตนุ้ ระบบประสาท ส่วนกลาง (จัดเป็นวตั ถุทีอ่ อกฤทธ์ิต่อจติ และประสาทประเภท ๒ ตามพระราชบญั ญัตวิ ตั ถอุ อกฤทธ์ติ ่อจิตประสาท พ.ศ.๒๕๑๘) มชี อื่ เรยี กทางการค้าต่าง ๆ กัน เชน่ เบนซดี รีน ฟีนามีน ฯลฯ แตใ่ นกลุ่มผูใ้ ชห้ รือเสพนยิ มเรียกกันวา่ ยามา้ ยาขยัน ยาแก้ง่วง ยาโดป๊ ยาเพม่ิ พลงั ฯลฯ ผงแอมเฟตามนี ๑ กรัม ละลายได้ในน้ำ ๙ ซ.ี ซ.ี (มิลลลิ ิตร) และ ละลายได้ในแอลกอฮอล์ ๕๐๐ ซี.ซ.ี (มลิ ลิลิตร) แต่จะไมล่ ะลายในอเี ทอร์ ผงแอมเฟตามนี (ยามา้ ) เม่ือนำมาผลิต- อดั เปน็ เมด็ ยาแลว้ จะมลี ักษณะเม็ดยา เชน่ เม็ดกลมแบน รูปเหล่ียม รปู หวั ใจ หรอื อาจเป็นแคปซูล มีสตี า่ งกนั เช่น สีขาว สนี ้ำตาล สีเหลอื ง แต่ทพี่ บสว่ นมากจะเปน็ สขี าว เม็ดกลมแบน มีสญั ลักษณบ์ นเมด็ ยา เชน่ รปู หวั มา้ , LONDON, 99, รูปดาว อาการของผเู้ สพตดิ แอมเฟตามนี (ยาม้า) ฤทธ์ขิ องแอมเฟตามนี (ยาม้า) จะสง่ ผลกระทบต่อผูเ้ สพ ก่อใหเ้ กิดอาการ ทง้ั ทางรา่ งกายและจติ ใจ ดงั ต่อไปนี้ คอื อาการทางกาย ผเู้ สพแอมเฟตามนี (ยามา้ ) ประมาณ ๒๐ - ๓๐ กรัมต่อวัน จะมีอาการเบื่ออาหาร พดู มาก ตน่ื เตน้ ง่าย มอื สั่น คลน่ื ไส้ ความดนั โลหติ สงู หัวใจเต้นเร็วและแรง ไมร่ ู้สกึ ง่วง เหงอ่ื ออกมาก กลนิ่ ตัวแรง ปากและจมูกแหง้ หนา้ มนั ทำงานไดน้ านเกินกวา่ ปกติ รมู า่ นตาเบกิ กว้าง สูบบหุ ร่ีจัด ท้องเสยี มอี ารมณ์หงดุ หงดิ ฉุนเฉยี วงา่ ย อเี ฟดรนี (EPHEDINE) หรอื ยาอี (Extacy) ลกั ษณะทัว่ ไป เปน็ ผงละเอยี ดสขี าว เมอ่ื นำมาผลิตเปน็ เมด็ ยาจะมหี ลายลกั ษณะ เชน่ เปน็ เมด็ กลมแบน ชนิดนำ้ บรรจหุ ลอด และชนดิ แคปซลู มฤี ทธ์ใิ นการกระตนุ้ ระบบประสาทส่วนกลาง เช่นเดียวกับแอมเฟตามนี (ยามา้ ) จดั เป็นวตั ถอุ อกฤทธ์ิต่อจิตและประสาทประเภท ๒ ตามพระราชบัญญตั วิ ัตถุออกฤทธ์ิต่อจติ และประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ ซง่ึ จากเดิม อเี ฟดรีน จัดเป็นวัตถทุ ่อี อกฤทธต์ิ อ่ จติ และประสาทประเภท ๓ แต่เน่อื งจาก ได้มีการนำอเี ฟด รนี มาใชใ้ นทางทผ่ี ิด มีการนำมาเสพแทนแอมเฟตามนี (ยาม้า) กอ่ ให้เกดิ ปญั หาตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ ินสว่ นรวมอยา่ ง มากมาย จึงได้มกี ารแกไ้ ขกฎหมายทเี่ กย่ี วข้องกับวตั ถทุ ่อี อกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และจดั ใหอ้ ีเฟดรนี ทง้ั ชนิดนำ้ และทุกตำรบั ยาทมี่ สี ว่ นผสมของอีเฟดรนี เป็นวตั ถทุ อี่ อกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ อาการของผู้เสพติดอีเฟดรีน ผู้เสพยาอีเฟดรนี จะมีอาการคลา้ ยคลึงเชน่ เดยี วกับผู้เสพแอมเฟตามนี (ยามา้ ) กล่าวคอื ฤทธิ์ของอเี ฟดรีน จะกระต้นุ ระบบประสาท ทำให้ผู้เสพสามารถทำงานได้นานมีอาการต่นื เต้นงา่ ย ใจส่นั ไมร่ ู้สึกง่วงนอน เหงื่อออกมาก ความดันโลหิตสูง ฯลฯ หากเสพติดต่อกันเป็นเวลานานจะเกิดอาการประสาทหลอน
10 เป็นโรคจติ บางรายท่ีเสพยาเขา้ สู่รา่ งกายเกนิ ขนาดจะเกดิ อาการประสาทหลอน เป็นโรคจติ บางรายที่เสพยาเขา้ สู่ รา่ งกายเกนิ ขนาดจะเกิดอาการใจสน่ั มือเท้าเกรง็ และชา ความดันโลหติ สงู หัวใจเต้น
11 ๓.สาเหตขุ องการใชย้ าเสพยต์ ิด สาเหตุของการใช้ยาเสพตดิ สามารถสรุปเป็นขอ้ ๆ ได้ดงั น้ี ๑.เกดิ จากความอยากรู้ อยากทดลอง ไดย้ นิ ได้ฟงั บางคนเคยเห็น จงึ เกดิ ความอยากรู้ สนใจวา่ ยาเสพย์ติดเป็นอย่างไร ๒.เพอ่ื นท่ใี กล้ชดิ สนทิ กนั ชกั ชวน การถูกรบเรา้ จากคนข้างเคยี งบอ่ ยครัง้ จึงทำให้ยับยั้งใจไมไ่ ด้ ๓.สภาพครอบครัวมีปัญหา บรรยากาศภายในครอบครวั ไม่ดี ขาดความรัก ความอบอนุ่ บิดามารดา ห่างเหนิ ไม่ให้เวลาใกล้ชิดเอาใจใสเ่ ทา่ ทีค่ วร ประกอบกบั ปจั จัยอนื่ ๆ ทำใหไ้ ปเข้ากบั กล่มุ เพื่อนจงึ มีแนวโน้มกระทำ ผดิ ไดง้ า่ ย ๔.ส่ิงแวดลอ้ มทางโรงเรยี น โรงเรียนไม่สามารถอบรมปลูกฝงั จรยิ ธรรม ศีลธรรม ควบคุมอยา่ งมี ระเบยี บวินยั ทำให้โรงเรียนไม่สามารถอบรมสั่งสอนทั้งวิชาการและความประพฤตแิ ก่นกั เรียนอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๕.สงิ่ แวดล้อมของที่อยู่อาศยั ในเขตที่พกั อาศัยรอบบรเิ วณมคี นเสพยาเสพติด มกี ารซือ้ ขายการไดย้ นิ การไดพ้ บเหน็ และทีร่ ้ายแรงที่สดุ คือ ในบ้านมคี นท่ีเสพยาเสพย์ตดิ ๖.ส่อื มวลชนต่าง ๆ เชน่ หนังสอื พมิ พ์ โทรทศั น์ และภาพยนตร์ การประชาสัมพนั ธ์ การแพรภ่ าพ ซ่งึ ส่งผลทัง้ ๒ ดา้ น คอื ดา้ นหนงึ่ ก็ช่วยควบคุมและป้องกนั แต่อกี ด้านกลบั เปน็ การชกั จูงโน้มนา้ วไปโดยอัตโนมัติ
12 ๔.ลกั ษณะผูใ้ ชย้ าเสพติด มี ลักษณะอาการและสิ่งทพี่ บได้ ดงั นี้ คือ ๑.การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย ๑.๑ สขุ ภาพทรดุ โทรม ซบู ซีด หมองคล้ำ นำ้ หนักตัวลด ไมม่ เี รย่ี วแรงท่จี ะทำงานหนกั รมิ ฝีปากเขยี ว คล้ำ มกั ใสแ่ วนกรองแสงสีเข้มเพอ่ื ตอ่ สู้กับแสงสวา่ ง เพราะม่านตาขยาย เหงื่อออกมาก ๑.๒ มีร่องรอยการเสพยาเสพยต์ ิดให้เห็นทบี่ ริเวณแขนตามแนวเสน้ โลหติ ดำ มักใส่เสื้อแขนยาวเพ่อื ปกปิดรอ่ ยรอยการฉีดยาเสพติด ๑.๓ มีรอยแผลเปน็ ท่ีทอ้ งแขนเป็นรอยกรีดด้วยของมคี มตามขวางเฉยี ง ๆ ๑.๔ นิ้วมอื มรี อยคราบเหลอื งสกปรก ๑.๕ ผิวหนังหยาบกร้านเปน็ แผลผุพอง อาจมหี นอง น้ำเหลอื ง คล้ายโรคผวิ หนัง ๒.การเปลยี่ นแปลงทางจติ ใจ ความประพฤติ การงานบกพร่อง ขาดความเช่ือมัน่ ในตนเอง ไมส่ นใจส่งิ แวดลอ้ ม ปลอ่ ยเนื้อปล่อยตวั พูดจาไมส่ ัมพนั ธ์กับความเปน็ จริง ชอบอยู่คนเดียว ชอบแยกตัวเอง หลบซ่อน ตัวไมเ่ ข้าหน้า ผู้อ่นื ทำตวั ลกึ ลับ เปน็ คนเจา้ อารมณ์ หงดุ หงิดเอาแต่ใจตัวเอง พดู จากา้ วรา้ วแมแ้ ต่บดิ ามารดา ครูอาจารย์ของ ตนเอง ไม่สนใจความเปน็ อยขู่ องเอง แต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย สีหนา้ แสดงความวติ กกังวลซึมเศร้า เม่อื ขาดยาเสพติดจะมีอาการอยากยาเกดิ ขน้ึ คอื น้ำมูกไหล หาวนอน กระสบั กระส่าย กระวนกระวาย หายใจถลี่ ึก คลน่ื ไส้ อาเจียน เบ่อื อาหาร นำ้ หนักลด ทอ้ งเดนิ ขนลกุ เป็นตะคริว แขนขาหรือกล้ามเนือ้ ส่วนใดส่วนหนึ่งสั่น กระตุก ขบฟนั ปวดเมอื่ ยตามรา่ งกาย ปวดเส่ยี วในกระดกู ด้ินทุรนทรุ าย มา่ นตาขยายโตขึน้ ความดันโลหิตสงู ชัก กระตุก ลักษณะการติดยาอาจแบ่งเปน็ ๒ ลกั ษณะคอื ๑.การตดิ ยาท่เี กดิ จากสภาวะทางร่างกาย (Physiological Dependence) คือการแสดงออกของ ภาวะไม่สมดลุ ทางรา่ งกาย เมื่อขาดสารเคมหี รือยา ซ่งึ ก็คือร่างกายมีภาวะขาดยา (Drug Withdrawal) น่นั เอง ๒.การตดิ ยาทีเ่ กดิ จากสภาวะทางจติ ใจ (Psychological Dependence) คือความคิดหรอื ความรสู้ ึก ของบคุ คลทที่ ำให้เชื่อวา่ ตอ้ งใชย้ า และต้องทำทุกวิถที างเพ่ือให้ได้มาซง่ึ ยาหรือสารเคมีดังกลา่ ว ถึงแมจ้ ะรูถ้ ึงผลเสีย ทีม่ ตี ่อตนเอง
13 ๕.โทษและพษิ ภัยของยาเสพติด การติดยาเสพติดทุกประเภทมแี ต่โทษไมม่ ีคุณประโยชน์เลย โทษท่เี หน็ ไดง้ ่าย ๆ คือสขุ ภาพร่างกาย ของผูเ้ สพจะเส่ือมโทรมลง ต่อมาจิตใจกเ็ ลวลง ร้ายขึ้น ไม่สนใจในการศกึ ษาเลา่ เรียนและการงานอาชพี ทำลาย ชอ่ื เสยี งเกียรติยศของตนเองและวงศ์ตระกลู และนำไปสูก่ ารประกอบอาชญากรรม มีผลกระทบกระเทอื นถึงสังคม ส่วนร่วมและเศรษฐกิจของประเทศชาติ โทษของยาเสพติดจงึ อาจสรปุ ไดด้ งั นี้ ๑.โทษตอ่ ตนเอง ยาเสพติดจะทำลายกระทำงานของสมองส่วนกลาง ประสาทอตั โนมตั ิ และ ประสาทส่วนปลาย สง่ ผลให้ควบคุมตวั เองไมไ่ ด้ ทำใหร้ ่างกายมีสภาพทรดุ โทรมออ่ นแอ และ เกยี จคร้านไมอ่ ยาก ทำอะไรเอาแตน่ อน ๒.โทษตอ่ ครอบครวั สญู เสยี เงนิ ทองและทรัพยส์ นิ ไปกบั การซอ้ื ยาเสพติดทำให้ฐานะยากจนลูกเมยี ตอ้ งลำบาก ทำลายชอ่ื เสยี งของครอบครวั บคุ คลในครอบครัวมคี วามทุกขใ์ จ ๓.โทษต่อชาติบ้านเมอื ง ประเทศชาตติ อ้ งสญู เสยี เงนิ รายไดไ้ ปกับคา่ ยาเสพตดิ และเมือ่ มปี ระชากรใน บา้ นเมอื งตดิ ยาเสพติดกนั มากทำใหป้ ระเทศชาติสูญเสียทรพั ยากรมนุษยใ์ นการพฒั นาประเทศและการตดิ ยาเสพ ตดิ ยังเป็นต้นเหตขุ องการเกิดอาชญากรรมด้วย
14 ๖.การป้องกันปัญหายาเสพติด การป้องกนั ปัญหาส่งิ เสพติดต้องอาศยั ความรว่ มมือจากหลายฝ่าย ดงั นี้ การป้องกนั ตนเอง ๑. ไมท่ ดลองเสพส่ิงท่รี ้วู ่ามีภยั เพราะอาจจะทำให้ตดิ ได้งา่ ย ๒. เลอื กคบเพื่อนท่ีดี พยายามหลีกเล่ยี งเพือ่ นที่ชอบชักจงู ไปในทางเสือ่ มเสีย ๓. รู้จักใช้วิจารณญาณในการแกป้ ญั หา แต่หากว่าไมส่ ามารถแก้ไขเองได้ กค็ วรจะปรกึ ษากบั พอ่ แม่ หรอื ญาติผูใ้ หญ่ท่ไี ว้ใจได้ ๔. การสรา้ งทักษะชีวติ โดยเฉพาะทกั ษะการปฏเิ สธเม่อื ถกู เพื่อนชักชวนใหเ้ สพสิง่ เสพตดิ ตอ้ งรจู้ กั ปฏเิ สธอยา่ งนุม่ นวลโดยการชแี้ จงผลเสียของสงิ่ เสพตดิ ต่อการเรยี นและอนาคต การรู้จกั ปฏิเสธอยา่ งจริงจงั และ จิตใจแนว่ แนจ่ ะทำใหเ้ พ่ือนเกรงใจไม่กล้าชวนอกี ปอ้ งกันตนเอง ทำไดโ้ ดย.. ๑. ศึกษาหาความรู้ เพอื่ ใหร้ ู้เท่าทนั โทษพษิ ภยั ของยาเสพติด ๒.ไมท่ ดลองใชย้ าเสพติดทุกชนดิ และปฏิเสธเม่อื ถูกชกั ชวน ๓.ระมัดระวงั เร่ืองการใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทำใหเ้ สพตดิ ได้ ๔. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ๕.เลอื กคบเพ่อื นดี ทชี่ กั ชวนกนั ไปในทางสรา้ งสรรค์ ๖ เมือ่ มปี ัญหาชีวติ ควรหาหนทางแก้ไขทไี่ มข่ ้องเกย่ี วกบั ยาเสพตดิ หากแกไ้ ขไม่ได้ควรปรกึ ษา ผู้ใหญ่ การป้องกนั ในครอบครวั ผทู้ ีต่ ดิ สิง่ เสพติดสว่ นใหญจ่ ะเกดิ จากครอบครวั ท่ีแตกแยกมีปัญหา ขาดความรักความ อบอุน่ เกิดความวา้ เหว่ ขาดท่ยี ดึ เหนย่ี วทางจิตใจ ซึ่งเปน็ เหตุให้เด็กๆ หันไปพง่ึ ยาเสพติดแทน ดังน้ันพ่อแมจ่ ึงควร ให้ความรักความอบอุ่น และพอ่ แม่ก็ควรจะประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งที่ดี และเป็นทป่ี รึกษาใหแ้ ก่ลูกๆได้ ทำให้ลูก ไมห่ นั ไปพง่ึ พายาเสพติด
15 ป้องกันครอบครัว ทำได้โดย ๑.สรา้ งความรกั ความอบอุน่ และความสมั พันธอ์ นั ดรี ะหวา่ งสมาชิกในครอบครัว ๒.ร้แู ละปฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ๓.ดแู ลสมาชกิ ในครอบครัว ไม่ให้ขอ้ งเกยี่ วกับยาเสพติด ๔.ใหก้ ำลังใจและหาทางแกไ้ ข หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวติดยาเสพติด การปอ้ งกันในโรงเรยี น ครคู วรให้ความรู้เกีย่ วกบั โทษและอันตรายของสิง่ เสพติดให้กับนักเรยี น จัดใหม้ กี จิ กรรม นันทนาการในโรงเรยี นให้เพียงพอและสนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนไดร้ ว่ มกจิ กรรม นนั ทนาการต่างๆและสอนใหเ้ ด็กรจู้ กั ใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ การปอ้ งกันชุมชน การปอ้ งกันชมุ ชนจากปัญหาสง่ิ เสพติดทำไดห้ ลายวธิ ี เชน่ ๑.การให้ความรู้ โดยการอบรมแกท่ กุ คนในชุมชนให้เหน้ โทษหรอื อนั ตรายจากสง่ิ เสพตดิ ๒.เสรมิ กจิ กรรมยามว่าง โดยการส่งเสรมิ อาชีพแก่ชุมชนยามว่าง เช่น การเย็บเสอ้ื ผ้า การทำรองเทา้ เป็นต้น ๓.ตง้ั ศูนยร์ บั แจ้งเบาะแสเก่ยี วกับส่งิ เสพตดิ เมือ่ พบวา่ มีการซอื้ ขายหรือเสพสง่ิ เสพตดิ ภายในชุมชน ๔.เข้ารว่ มโครงการชุมชนปลอดสิ่งเสพติดต่างๆ ทั้งทีท่ างราชการจัดข้ึน และชุมชนคิดรเิ ร่ิมขนึ้ มาเอง ปอ้ งกนั ชุมชน ทำไดโ้ ดย ๑.ช่วยชมุ ชนในการตอ่ ต้านยาเสพตดิ ๒.เม่ือทราบแหลง่ เสพ แหล่งคา้ หรอื ผลิตยาเสพติด ควรแจง้ ให้เจา้ หน้าท่ีทราบทนั ที ท่.ี .. *สำนกั งาน ป.ป.ส. โทร. 02-2459414 หรือ 02-2470901-19 ต่อ 258 โทรสาร 02-2468526 *ศูนยร์ ับแจ้งขา่ วยาเสพติด สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ โทร. 1688
16 รัฐบาล ๑. การใหก้ ารศึกษาแกป่ ระชาชนอย่างทว่ั ถงึ ๒.แกไ้ ขปญั หาเศรษฐกจิ และสังคมอยา่ งจรงิ จงั และจัดสรรงบประมาณในการปอ้ งกนั และปราบปราม สง่ิ เสพติด ๓.จดั บคุ ลากรและหน่วยงานในการป้องกนั และปราบปรามสง่ิ เสพติดให้เพียงพอ และดำเนนิ การ อย่างต่อเน่ือง ๔.การบังคับใช้กฏหมายอย่างจรงิ จงั บางครงั้ เจา้ หนา้ ทต่ี ำรวจบางคนท่ีดูแลด้านส่ิงเสพติดก็ปลอ่ ย ปละละเลย หรือทำการค้าสิ่งเสพติดเสยี เองทำให้การปราบปรามไมไ่ ดผ้ ลเทา่ ที่ควร ดงั นนั้ รฐั บาลจงึ ควรเขท้ มงวด กับผู้กระทำผดิ และลงโทาผูก้ ระทำผดิ อย่างจรงิ จังและตอ่ เนื่อง
17 ๗.ขอ้ หา และอัตราโทษของการกระทาผิด เก่ยี วกบั ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑-๕ ขอ้ หา ไอซ์ ยาบา้ เฮโรอีน ฝิ่น โคเคน ยาเค กระทอ่ ม กญั ชา ยาอี แอลเอสดี ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ยาเสพติดให้โทษ ยาเสพตดิ ให้โทษ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ประเภทที่ ๒ ประเภทท่ี ๓ ประเภทที่ ๔ ประเภทท่ี ๕ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที๑่ ผลติ นำเขา้ สง่ ออก จำคกุ ตลอดชีวิต จำคกุ ตงั้ แต่ ๑ปี - จำคุก ๑ปี - ๓ ปี จำคกุ ๑ปี - ๑๐ปี จำคุก ๒ปี - ๑๕ปี และปรบั ๑๐ ปี และปรับต้งั แต่ และปรบั และปรบั ๒๐,๐๐๐ และปรบั ๒๐๐,๐๐๐ จำหนา่ ย ๑,๐๐,๐๐๐ บาท- ๑๐๐,๐๐๐ บาท- ๑๐๐,๐๐๐ บาท- บาท- ๒๐๐,๐๐๐ บาท-๑,๕๐๐,๐๐๐ ครอบครอง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓๐๐,๐๐๐ บาท บาท บาท ครอบครองเพอ่ื ถ้ากระทำเพื่อ ถ้าเป็นมอร์ฟนี ฝ่ิน จำหน่าย จำหน่ายมีโทษ เฮโรอีน จำคกุ ตงั้ แต่ จำคกุ ตงั้ แต่ ๑ปี - จำคุกตง้ั แต่ ๑ปี - จำคุกตั้งแต่ ๒ปี - ครอบครอง ประหารชวี ิต ๒๐ ป-ี ตลอดชวี ติ ๒ ปี และปรับต้ัง ๑๕ ปี และปรับตง้ั ๑๕ ปี และปรับตัง้ แต่ และปรับ แต่ ๒๐,๐๐๐ แต่ ๑,๐๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ บาท- จำคกุ ต้ังแต่ ๔ปี - ๒,๐๐๐,๐๐๐ ถึง บาท- ๒๐๐,๐๐๐ บาท- ๑,๕๐๐,๐๐๐ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ตลอดชวี ติ และ ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท บาทหรือทัง้ จำท้งั บาท ปรบั ต้ังแต่ จำคุกต้งั แต่ ๑ปี - ปรับ ๘๐,๐๐๐ บาท- ๑๐ ปี และปรับตง้ั แต่ ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๐ บาท- จำคกุ ไม่เกิน ๕ปี จำคุกไม่เกิน ๕ปี หรอื ประหารชวี ติ ๒๐๐,๐๐๐ บาทหรอื ปรบั ไมเ่ กิน ปรับไมเ่ กิน จำคกุ ตง้ั แต่ ๑ปี - ทั้งจำทั้งปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐,๐๐๐ บาทหรือ ๑๐ ปี และปรับตัง้ หรือทงั้ จำทัง้ ปรับ ทัง้ จำทัง้ ปรบั แต่ ๒๐,๐๐๐ บาท- จำคกุ ไม่เกนิ ๕ปี ๒๐๐,๐๐๐ บาท ปรับไม่เกิน หรอื ทั้งจำทัง้ ปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาทแต่ หากมีตัง้ แต่ ๑๐๐ กรัมขึ้นไปใหถ้ อื ครอบครองเพ่ือ จำหน่าย
18เสพ จำคกุ ๖ เดือน - ๓ ปี และปรับตัง้ แต่ ๑๐,๐๐๐ บาท - ๕๐,๐๐๐ บาท หรือทัง้ จำท้ังปรับ ใช้อบุ ายหลอกลวง จำคกุ ๑ ปี ๒ ๑๐ ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่ ๑๐๐,๐๐๐ บาท-๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถ้ากระทำโดยมอี าวุธหรือร่วมกัน ขูเ่ ขญ็ ใชก้ ำลงั ตั้งแตส่ องคนขนึ้ ไป จำคกุ ๒ ปี -๑๕ ปี และปรบั ๒๐๐,๐๐๐ บาท -๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถ้ากระทำต่อหญิงหรือ ประทุษรา้ ยให้ผอู้ นื่ บคุ คลซึ่งยังไมบ่ รรลนุ ิติภาวะ หรือจูงใจใหผ้ อู้ ื่นกระทำผดิ ทางอาญา หรือเพอื่ ประโยชน์แกต่ นเองหรอื ผู้อ่นื ในการ เสพ กระทำความผดิ อาญา จำคุก ๓ ปี -ตลอดชีวิต และปรบั ๓๐๐,๐๐๐ บาท -๕๐๐,๐๐๐ บาท ถ้าเป็นมอร์ฟีนหรือ โคเคอีน ระวางดทษเพิ่มกึง่ หนงึ่ และถ้าถา้ กระทำต่อหญงิ หรอื บคุ คลซ่งึ ยังไม่บรรลนุ ติ ภิ าวะ หรอื จูงใจใหผ้ อู้ ่ืน กระทำผิดทางอาญา หรอื เพอื่ ประโยชนแ์ กต่ นเองหรอื ผูอ้ ่ืนในการกระทำความผิดอาญา จำคุกตลอดชวี ิตและ ปรบั ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถ้าเปน็ เฮโรอีนระวางโทษเป็นสองเทา่ และถ้ากระทำต่อหญงิ หรือ บคุ คลซ่ึงยงั ไม่บรรลุนิติภาวะโทษประหารชีวิต ใช้อุบายหลอกลวง ระวางโทษเปน็ สองเท่าของโทษที่กฎหมายบญั ญัติไว้สำหรับความผิดน้ัน (มาตรา ๙๓/๒) ข่เู ข็ญ ใชก้ ำลงั ประทุษร้ายใหผ้ อู้ น่ื ผลิต นำเข้า สง่ ออก จำหน่าย ครอบครอง เพอื่ จำหนา่ ยหิอครอบ ครอง ยุยงส่งเสริมให้ผ้อู น่ื จำคุก ๑ ปี -๕ ปี และปรบั ๒๐,๐๐๐ บาทถงึ ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้งั จำท้งั ปรบั เสพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: