มารจู้ ักกับอาเซียนกันเถอะ จดั ทาโดย เด็กหญงิ สุนพี ร โภคารตั นก์ ุล ชนั ประถมศึดษาปที ่ี ๖ \"One Vision, One Identity, One Community\" (หน่ึงวสิ ัยทศั น์ หนง่ึ เอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม) เข้าสู่บทเรียน
เน้ือหา ประวัติอาเซียน อาหาร 10 ประเทศอาเซียนการแต่งกาย 10 ประเทศอาเซียน
ประวัติอาเซียนสมาคมประชาชาตแิ ห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (อังกฤษ: Association ofSouth East Asian Nations) หรอื อาเซียน (ASEAN) เป็นองคก์ ารทางภมู ิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด10 ประเทศ ไดแ้ ก่กมั พูชา ไทย บรไู น พม่า ฟิลปิ ปินส์ มาเลเซยี ลาว เวยี ดนามสิงคโปร์ และอินโดนีเซยี อาเซียนมีพน้ื ทีร่ าว 4,435,670 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 590 ลา้ นคนในปี พ.ศ. 2553 จีดพี ขี องประเทศสมาชิกรวมกนั คดิเปน็ มลู คา่ ราว 1.8 ลา้ นลา้ นดอลลาร์สหรฐั คิดเป็นลาดับท่ี 9 ของโลกเรียงตามจีดีพีอาเซยี นมีภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาทางการ
อาเซยี นมีจดุ เริม่ ตน้ จากสมาคมอาสา ซง่ึ ก่อตง้ั ขน้ึ เมื่อเดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2504 โดยไทยมาเลเซยี และฟลิ ปิ ปนิ ส์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ไดม้ กี ารลงนามใน ปฏญิ ญากรงุ เทพอาเซยี นได้ถอื กาเนดิ ขน้ึ โดยมรี ัฐสมาชิกเร่ิมตน้ 5 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือความรว่ มมอื ในการเพม่ิ อตั ราการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ การพัฒนาสังคม วฒั นธรรมในกลุ่มประเทศสมาชกิ และการธารงรักษาสันตภิ าพและความม่ันคงในภูมภิ าค และเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทระหวา่ งประเทศสมาชิกอย่างสนั ติ หลงั จาก พ.ศ. 2527 เปน็ ต้นมา อาเซียนมรี ัฐสมาชิกเพ่ิมขึน้ จนมี 10 ประเทศในปจั จุบัน กฎบตั รอาเซยี นได้มีการลงนามเมื่อเดอื นธันวาคมพ.ศ. 2551 ซ่งึ ทาให้อาเซยี นมสี ถานะคล้ายกบั สหภาพยโุ รปมากยง่ิ ขึ้น เขตการคา้ เสรีอาเซียนไดเ้ รม่ิ ประกาศใชต้ ั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2553 และกาลงั กา้ วส่คู วามเป็นประชาคมอาเซยี น ซ่ึงจะประกอบดว้ ยสามดา้ น คอื ประชาคมอาเซยี นดา้ นการเมอื งและความมนั่ คงประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558
วัตถุประสงค์ จากสนธิสญั ญาไมตรีและความรว่ มมอื ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ไดม้ ีการสรุปแนวทางของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ไว้จานวนหกข้อ ดังนี้1.ให้ความเคารพแกเ่ อกราช อานาจอธิปไตย ความเทา่ เทยี ม บูรณภาพแหง่ ดนิ แดนและเอกลักษณ์ของชาตสิ มาชกิ ทั้งหมด2.รัฐสมาชกิ แตล่ ะรฐั มสี ทิ ธทิ ่ีจะปลอดจากการแทรกแซงจากภายนอก การรกุ รานดนิ แดนและการบังคบั ขเู่ ขญ็3.จะไม่เข้าไปยุง่ เกีย่ วกับกจิ การภายในของรัฐสมาชิกอน่ื ๆ4.ยอมรับในความแตกตา่ งระหว่างกนั หรือแกป้ ัญหาระหวา่ งกันอยา่ งสันติ5.ประณามหรอื ไม่ยอมรับการคกุ คามหรือการใช้กาลงั6.ให้ความรว่ มมอื ระหว่างกนั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ หนา้ แรก
อาหาร 10 ประเทศอาเซียน 1.ประเทศไทย : ตม้ ยากุ้ง ต้มยากุ้ง : แคเ่ อ่ยชอ่ื กเ็ ป็นทท่ี ราบกนั ดอี ยแู่ ลว้ วา่ ตม้ ยากงุ้ เป็นอาหารคาวท่เี หมาะสาหรับรับประทานกบั ขา้ วสวยร้อน 2.ประเทศกมั พูชา : อาม็อก อาม็อก : เปน็ อาหารคาวยอดนยิ มของกมั พชู า มีลกั ษณะ คลา้ ยหอ่ หมกของไทย
3.ประเทศบรูไน : อมั บูยตั อัมบูยตั : เปน็ อาหารยอดนยิ มของบรูไน มี ลกั ษณะเด่นอยทู่ ่ีตวั แป้งจะเหนียวข้นคล้ายขา้ วต้ม หรอื โจ๊ก โดยมีแป้งสาคเู ป็นสว่ นผสมหลกั ตัวแป้ง อัมบูยตั เอง ไม่มีรสชาติ แตค่ วามอรอ่ ยจะอยูท่ ่ีการ จิ้มกับซอสผลไม้ทม่ี ีรสเปร้ยี ว 4.ประเทศพมา่ : หล่าเพด็หลา่ เพ็ด : เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า โดยการนาใบชาหมักมาทานกับเครอ่ื งเคยี ง
5.ประเทศฟิลิปปินส์ : อโดโบ้อโดโบ้ : เปน็ อาหารยอดนยิ มของประเทศฟลิ ิปปนิ ส์ทาจากเนือ้ หมู หรือเนอ้ื ไก่ ทีผ่ ่านการหมัก และปรุงรส 6.ประเทศสงิ คโปร์ : ลกั ซาลกั ซา : อาหารข้ึนช่อื ของประเทศสิงคโปร์ ลกั ซามีลักษณะคลา้ ยก๋วยเตยี๋ วตม้ ยาใส่กะทิ ทาให้รสชาติเข้มขน้ คล้ายคลงึ กับข้าวซอยของไทย
7.ประเทศอินโดนีเซยี : กาโด กาโด กาโด กาโด: อาหารยอดนยิ มของประเทศ อนิ โดนเี ซีย ประกอบไปด้วยผัก และธัญพืช หลากหลายชนดิ ทัง้ แครอท มันฝร่งั กะหล่าปลี ถ่วั งอก ถัว่ เขียว นอกจากนย้ี งั มีเตา้ หู้ และไขต่ ม้ สุกด้วย8.ประเทศลาว : สลัดหลวงพระบางสลดั หลวงพระบาง : เป็นอาหารขน้ึ ชอ่ื อกี ชนิดหนึ่งเนื่องจากมีรสชาตกิ ลาง ๆ ทาใหร้ ับประทานไดท้ ง้ัชาวตะวนั ออก และตะวนั ตก
9.ประเทศมาเลเซยี : นาซิ เลอมกันาซิ เลอมกั : อาหารยอดนยิ มของประเทศมาเลเซยี โดยนาซิ เลอมัก จะเปน็ ข้าวหุงกบั กะทิและใบเตย ทานพร้อมเคร่อื งเคยี ง 4 อย่าง10.ประเทศเวยี ดนาม : เปาะเปยี๊ ะเวียดนามเปาะเป๊ียะเวียดนาม : ถอื เปน็ หน่งึ ในอาหารพืน้ เมืองทีโ่ ดง่ ดังทีส่ ุดของประเทศเวยี ดนาม หน้าแรก
การแตง่ กาย 10 ประเทศอาเซียน การแตง่ กายของประเทศบรไู น สาหรบั ชุดของผชู้ าย เรียกวา่ บาจู มลายู (Baju Melayu) สว่ นของชุดผู้หญิงเรียกวา่ บาจูกุรงั (Baja Kurung) การแตง่ กายของประเทศกัมพูชา ซัมปอต (Sampot) เปน็ เครอ่ื งแต่งกายประจาชาตขิ อง ประเทศกมั พูชา สาหรับชุดผู้หญงิ ซงึ่ มีความคลา้ ยคลึงกับผา้ นุ่ง ของประเทศลาวและไทย มีหลายหลายรปู แบบ สาหรบั ผู้ชายนนั้ มกั สวมใส่เส้อื ที่ทาจากผ้าไหมหรือผ้าฝา้ ยทงั้ แขนสัน้ และแขนยาว พรอ้ ม ทั้งสวมกางเกงขายาว
การแตง่ กายประเทศอินโดเซีย เคบาย่า (Kebaya) เป็นชดุ ประจาชาติของประเทศอนิ โดนีเซยีสาหรับผ้หู ญงิ มีลักษณะเปน็ เสอ้ื แขนยาวผ่าหนา้ กลัดกระดุม ตัวเสอ้ืจะมีสสี นั สดใส ปกั ฉลเุ ป็นลายลูกไม้ ส่วนผ้าถุงที่ใชจ้ ะเปน็ ผา้ ถงุ แบบบาตกิ สาหรับการแตง่ กายของผชู้ ายมักจะสวมใส่เส้ือแบบบาติกและนุ่งกางเกงขายาว และนงุ่ โสร่งเม่อื อย่บู ้านหรือประกอบพธิ ลี ะหมาดท่ีมัสยิด การแตง่ กายของประเทศลาว ผูห้ ญิงลาวจะนุ่งผ้าซน่ิ และเส้อื แขนยาวทรงกระบอก สาหรบัผชู้ ายมกั แต่งกายแบบสากลหรอื นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อช้ันนอกกระดกุ เจด็ เม็ดคล้ายเสอ้ื พระราชทานของไทย
การแต่งกายของประเทศมาเลเซยี สาหรับชุดของผู้ชาย เรียกวา่ บาจู มลายู (BejuMelayu) ประกอบดว้ ยเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวท่ที าจากผ้าไหม ผา้ ฝา้ ยหรือโพลีเอสเตอรท์ ี่มสี ่วนผสมของผา้ ฝ้ายสาหรบั ชดุ ของผหู้ ญิง เรียนกว่า บาจกู รุ งุ (Baja Kurung)ประกอบด้วยเสื้อคลมุ แขนยาวและกระโปรงยาว การแตง่ กายของประเทศฟิลปิ ปนิ ส์ ผ้ชู ายจะนุ่งกางเกงขายาวและสวมเส้ือท่เี รียกวา่ บารองตากาลอ็ ก ซึง่ ตัดเยบ็ ด้วยผ้าใยสปั ปะรด มีบ่า คอตงั้ แขนยาว ท่ีปลายแขนเส้อื ท่ีขอ้ มอื จะปกั ลวดลาย สว่ นผู้หญิงนงุ่ กระโปรงยาว ใส่เสอื้ แขนสน้ั จบั จบี ยกตงั้ ข้ึนเหนอื ไหล่คลา้ ยปกี ผเี สื้อเรียกวา่ บาลนิ ตาวกั
การแตง่ กายของประเทศสิงคโปร์ สิงคโปรไม่มีชดุ ประจาชาตเิ ป็นของตนเอง เน่อื งจากประเทศสงิ คโปร์แบ่งออกเป็น 4 เชือ้ ชาติหลกั ได้แก่ จนี มาเลย์ อนิ เดยีและชาวยุโรป ซึ่งแตล่ ะเชอ้ื ชาติกม็ ชี ุดประจาชาตเิ ปน็ ของตนเอง การแต่งกายของประเทศไทย สาหรับชดุ ผู้หญิงคือ ชุดไทยจักรี เปน็ ชดุ ไทยท่ีประกอบด้วยสไบเฉียง ใช้ผา้ ยกมีเชงิ มีชายพกใชเ้ ขม็ ขดั ไทยคาด สว่ นทอ่ นบนเปน็ สไบ จะเย็บให้ติดกับซน่ิ เป็นทอ่ นเดียวกนัเปดิ บา่ ข้างหน่ึง ชายสไบคลุมไหล่ ทง้ิ ชายดา้ นหลงั ยาวตามท่ีสาหรบั ชุดผู้ชายคือ ใส่เสอ้ื พระราชทาน
การแตง่ กายของประเทศเวียดนาม อ่าวหญ่าย เปน็ ชดุ ประจาชาติของประเทศเวียดนามท่ีประกอบไปด้วยชดุ ผ้าไหมท่พี อดตี ัวสวมทับกางเกงขาวยาวซ่ึงเปน็ ชุดทมี่ ักสวม ใส่ในงานแต่งงานและพธิ กี ารสาคญั ของประเทศมลี กั ษณะคลา้ ยชดุ กี่เพา้ ของจนี ในปจั จุบนั เปน็ ชดุ ท่ไี ด้รบัความนยิ มจากผหู้ ญงิ เวียดนาม ส่วนผ้ชู ายเวียดนามจะสวมใส่ชุดอ่าหญ่ายในพิธแี ต่งาน การแต่งกายของประเทศพม่า ลองยี เปน็ ชดุ แตง่ กายประจาชาติของประเทศพมา่ โดยมี การออกแบบในรปู ทรงกระบอก มีความยาวจากเอวจรดปลาย เทา้ การสวมใสใ่ ชว้ ิธกี ารขมวดผา้ เขา้ ดว้ ยกนั โดยไม่มดั หรอื พับ ข้นึ มาถงึ หัวเข่าเพ่ือความสะดวกในการสวมใส่ หนา้ แรก
ขอขอบคุณhttp://hilight.kapook.com/view/73561 หน้าหลกั
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: