1 ชิ้นงานท่ี 1เรื่อง องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ จดั ทาโดย นางสาว จารวี แสนโยชน์ปวส.1 คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ กลุ่ม 2 เลขที่ 9 เสนอ อาจารย์ ทวศี ักด์ิ หนูทมิรายวชิ า การประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2561 1
2 องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ทางานอย่างเป็ นระบบ (System) หมายถึง ภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบย่อยที่มีหนา้ ท่ีเฉพาะ ทางานประสานสัมพนั ธ์กนั เพ่ือให้งานบรรลุตามเป้ าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์การท่ีมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว จะยงั ไม่สามารถทางานไดด้ ว้ ยตวั เอง ซ่ึงหากจะให้คอมพิวเตอร์ทางานไดอ้ ย่างเป็ นระบบและมีประสิทธิภาพแลว้ ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไปดว้ ยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูล (Data)สารสนเทศ (Information) และกระบวนการทางาน ( Procedure ) 1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองคป์ ระกอบของตวั เคร่ืองที่สามารถจบั ตอ้ งได้ ไดแ้ ก่วงจรไฟฟ้ า ตวั เครื่อง จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีร์บอร์ด เป็ นตน้ ซ่ึงสามารถแบ่งส่วนพ้ืนฐานของฮาร์ดแวร์เป็ น 4หน่วยสาคญั 1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit) ทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูลและโปรแกรมเขา้ เคร่ืองไดแ้ ก่ คีย์บอรืดหรือแป้ นพิมพ์ เมาส์ เคร่ืองสแกน เคร่ืองรูดบตั ร Digitizer เป็นตน้ 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพยี ู (CPU : Central Processing Unit) ทาหนา้ ท่ีในการทางานตามคาสงั่ ท่ีปรากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจุบนั ซีพียขู องเครื่องพีซี รู้จกั ในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor)หรือ Chip เช่นบริษัท Intel คือ Pentium หรือ Celelon ส่วนของบริษัท AMD คือ K6,K7(Athlon) เป็ นต้นไมโครโปรเซสเซอร์ มีหนา้ ท่ีในการประมวลผลขอ้ มูล ในลกั ษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาที่แน่นอน เรียกว่าสัญญาณ Clock เม่ือมีการเคาะจงั หวะหน่ึงคร้ัง ก็จะเกิดกิจกรรม 1คร้ัง เราเรียกหน่วย ท่ีใชใ้ นการวดั ความเร็วของซีพยี วู า่ “เฮิร์ท”(Herzt) หมายถึงการทางานไดก้ ี่คร้ังในจานวน 1 2
3วินาที เช่น ซีพียู Pentium4 มีความเร็ว 2.5 GHz หมายถึงทางานเร็ว 2,500 ลา้ นคร้ัง ในหน่ึงวินาที กรณีท่ีสัญญาณ Clock เร็วก็จะทาให้คอมพิวเตอร์เคร่ืองน้นั มีความเร็วสูง และ ซีพียทู ี่ทางานเร็วมาก ราคาก็จะแพงข้ึนมากตามไปดว้ ย 1.3 หน่วยเกบ็ ข้อมูล ( Storage ) ซ่ึงสามารถแยกตามหนา้ ท่ีไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ 1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจาหลัก ( Primary Storage หรือ Main Memory ) ทาหน้าท่ีเก็บโปรแกรมหรื อข้อมูลท่ีรับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงขอ้ มูลต่อไปซ่ึงอาจแยกไดเ้ ป็ น 2ประเภท คือ RAM ( Random Access Memory ) ท่ีสามารถอ่านและเขียนขอ้ มูลไดใ้ นขณะที่เปิ ดเคร่ืองอยู่ แต่เมื่อปิ ดเครื่องขอ้ มูลใน RAM จะหายไป และ ROM ( Read Only Memory ) จะอ่านไดอ้ ย่างเดียว เช่น BIOS(Basic Input Output system) โปรแกรมฝังไวใ้ ชต้ อนสตาร์ตเคร่ือง เพอ่ื เคร่ืองคอมพิวเตอร์เร่ิมตน้ ทางาน เป็นตน้ 1.3.2 หน่วยเกบ็ ข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทาหนา้ ท่ีเกบ็ ขอ้ มลู หรือโปรแกรมที่จะป้ อนเขา้ สู่หน่วยความจาหลกั ภายในเคร่ืองก่อนทาการประมวลผลโดยซีพียู รวมท้งั เป็ นท่ีเก็บผลลพั ธ์จากการประมวลผลดว้ ย ปัจจุบนั รู้จกั ในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผน่ ฟร็อปปี ดิสก์ (Floppy Disk) ซ่ึงเม่ือปิ ดเคร่ืองขอ้ มูลจะยงั คงเกบ็ อยู่ 1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทาหน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผล ไดแ้ ก่ จอภาพ และเคร่ืองพมิ พ์ เป็นตน้ ท้งั 4 ส่วนจะเชื่อมต่อกนั ดว้ ยบสั ( Bus ) 1. ตวั เครื่อง (Case) ทาหนา้ ท่ีในส่วนของการประมวลผลขอ้ มูลที่ไดร้ ับมาจากอุปกรณ์นาเขา้ ต่างๆ ซ่ึงภายในตวั เคร่ืองจะมีอุปกรณ์หลกั ไดแ้ ก่ แผงวงจรหลกั หมอ้ แปลงไฟฟ้ า ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจา การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง เป็นตน้ 3
42. จอภาพ (Monitor) ทาหนา้ ท่ีแสดงผลขอ้ ความ รูปภาพ3. คยี ์บอร์ด (Keyboard) ทาหนา้ ท่ีป้ อนขอ้ มลู เขา้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์4. เม้าส์ (Mouse) ทาหนา้ ที่เป็นส่วนท่ีใชส้ งั่ งานดว้ ยการช้ีและเลือกสิ่งต่างๆท่ีแสดงอยบู่ นจอภาพ 4
55. ลาโพง (Speaker) ทาหนา้ ท่ีเป็นส่วนที่ใชแ้ สดงผลท่ีเป็นเสียง6. สแกนเนอร์ เป็ นอุปกรณ์ท่ีใชห้ ลกั การของการส่องแสงไปยงั ขอ้ ความ สัญลกั ษณ์ หรือภาพ ท่ีตอ้ งการทาสาเนาภาพ จากน้นั ขอ้ มลู ท่ีถกู อ่านจะถกู แปลงเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ า และเกบ็ เป็นไฟลภ์ าพ 7. รอม (ROM) เป็นหน่วยความจาท่ีเก็บขอ้ มูลแบบถาวร ขอ้ มูลท่ีบนั ทึกในรอม จะยงั คงอยแู่ มจ้ ะปิ ดเครื่อง หนา้ ท่ีของรอมคือจะตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ใดบา้ ง ที่ติดต้งั ใชง้ าน หากตรวจสอบไม่อุปกรณ์ที่สาคญั ๆเช่น ไม่พบฮาร์ดดิสก์ ซีพยี ู หรือแรม รอมจะหยดุ การทางาน 5
6 8. แรม (RAM) เป็นพ้ืนท่ีท่ีใชใ้ นการประมวลผล ขอ้ มูลชว่ั คราว เม่ือปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลที่มีการประมวลผลจะหายไปทนั ที 9.ซีดีรอม (CD ROM) เป็ นส่ือบนั ทึกขอ้ มูลชนิดหน่วยเก็บขอ้ มูลสารองลกั ษณะเป็ นแผ่นจานกลมคลา้ ยแผน่ เสียงหรือแผน่ คอมแพค็ ดิสกส์ าหรับฟังเพลง ขอ้ ดีคือ เกบ็ ขอ้ มูลไดป้ ริมาณมากกวา่ ดิสกเ์ กต็ 2. ซอฟต์แวร์ ( Software ) ซอฟตแ์ วร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาส่ัง ท่ีส่ังใหฮ้ าร์ดแวร์ทางาน รวมไปถึงการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์แวดลอ้ มต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นตน้ ซอฟตแ์ วร์ เป็นส่ิงท่ีมองไม่เห็นจบั ตอ้ งไม่ได้ แต่รับรู้การทางานของมนั ได้ ซ่ึงต่างกบั ฮาร์ดแวร์(Hardware) ที่สามารถจบั ตอ้ งได้ ซ่ึงแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรม ท่ีใชใ้ นการควบคุมระบบการ ทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท้งั หมด เช่น การบูตเครื่อง การสาเนาขอ้ มูล การจดั การระบบของดิสก์ ชุดคาสง่ั ที่เขียนเป็นคาสั่งสาเร็จรูป โดยผูผ้ ลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลิต การทางานหรือการประมวลผล ของซอฟต์แวร์เหล่าน้ี ข้ึนกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ือง ระบบของซอฟต์แวร์เหล่าน้ีออกแบบมาเพื่อการปฏิบตั ิควบคุม และมีความสามารถในการยดื หยนุ่ การประมวลผลของเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ 6
7 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็ นโปรแกรมที่ใช้ควบคุม และติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจดั การระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบ กล่าวโดยสรุปคือ หากจะทางานใดงานหน่ึง โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็ นเครื่องมือ ในการทางาน แลว้จะตอ้ งติดต่อกบั ซอฟตแ์ วร์ระบบก่อน ถา้ ขาดซอฟตแ์ วร์ชนิดน้ี จะทาใหเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ ไม่สามารถทางานได้ ตวั อยา่ งของซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีไดแ้ ก่ โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ Unix Linux DOS และ Windows (เวอร์ชนั่ ต่าง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT XP Vista ) เป็นตน้ 2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เป็ น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์เขา้ ใจ ใหเ้ ป็นภาษาท่ีเคร่ืองเขา้ ใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการแปลภาษาระดบั สูงซ่ึง เป็ นภาษาใกลเ้ คียงภาษามนุษย์ ให้เป็ นภาษาเครื่องก่อนที่จะนาไปประมวลผล ตวั แปลภาษาแบ่งออกเป็ นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาสั่งในโปรแกรมท้งั หมดก่อน แลว้ ทาการลิ้ง (Link) เพ่ือใหไ้ ดค้ าสง่ั ที่เครื่องคอมพิวเตอร์เขา้ ใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคาสั่ง แลว้ ทางานตามประโยคคาส่งั น้นั การจะเลือกใชต้ วั แปลภาษาแบบใดน้นั จะข้ึนอยู่กบั ภาษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม ซ่ึงมี 2 แบบไดแ้ ก่ ภาษาแบบโครงสร้าง เช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา(Java)ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นตน้ ภาษาแบบเชิงวตั ถุ ( Visual หรือ Object Oriented Programming ) เช่น Visual Basic,Visual C หรือ Delphi เป็นตน้ 2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟตแ์ วร์เสริมช่วยให้เครื่องทางานมีประสิทธิภาพมากข้ึน เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจดั เก็บขอ้ มูลในดิสก์ ช่วยสาเนาขอ้ มูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ ช่วยคน้ หาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เป็ นตน้ โปรแกรมในกลุ่มน้ีไดแ้ ก่ โปรแกรม Norton WinzipScan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เป็นตน้ 7
8 2.1.4 ติดต้ังและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็ นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดต้งั ระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใชง้ านอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีนามาติดต้งั ระบบ ไดแ้ ก่ โปรแกรม SetupและDriver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer , DriverScanner ฯลฯ เป็นตน้ 2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือ ซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมท่ีทาใหค้ อมพิวเตอร์ทางานต่างๆ ตามท่ีผูใ้ ชต้ อ้ งการ ไม่ว่าจะดา้ นเอกสาร บญั ชี การจดั เก็บขอ้ มูล เป็ นตน้ ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจาแนกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซ่ึงเขียนข้ึนเพ่ือการทางานเฉพาะอย่างที่เราตอ้ งการ บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น โปรแกรมการทาบญั ชีจ่ายเงินเดือนโปรแกรมระบบเช่าซ้ือ โปรแกรมการทาสินคา้ คงคลงั เป็ นตน้ ซ่ึงแต่ละโปรแกรมก็มกั จะมีเงื่อนไข หรือแบบฟอร์มแตกต่างกนั ออกไปตามความตอ้ งการ หรือกฏเกณฑข์ องแต่ละหน่วยงานที่ใช้ ซ่ึงสามารถดดั แปลงแก้ไขเพิ่มเติม (Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพ่ือให้ตรงกับความต้องการของผูใ้ ช้ และซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตท์ ี่เขียนข้ึนน้ีโดยส่วนใหญ่มกั ใชภ้ าษาระดบั สูงเป็นตวั พฒั นา 2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานท่ัวไป (General Purpose Software) เป็ นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผูจ้ ดั ทาไว้เพ่ือใชใ้ นการทางานประเภทต่างๆ ทว่ั ไป โดยผใู้ ชค้ นอ่ืนๆ สามารถนาโปรแกรมน้ีไปประยุกตใ์ ชก้ บั ขอ้ มูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดดั แปลง หรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งเขียนโปรแกรมเอง ซ่ึงเป็ นการประหยดั เวลา แรงงาน และค่าใชจ้ ่ายในการเขียนโปรแกรม นอกจากน้ี ยงั ไม่ตอ้ งเวลามากในการฝึ กและปฏิบตั ิ ซ่ึงโปรแกรมสาเร็จรูปน้ี มกั จะมีการใชง้ านในหน่วยงาน ซ่ึงขาดบุคลากรท่ีมีความชานาญเป็ นพิเศษในการเขียนโปรแกรม ดังน้ัน การใช้โปรแกรมสาเร็จรูปจึงเป็ นสิ่งท่ีอานวยความสะดวกและเป็ นประโยชน์อย่างย่ิง ตวั อย่างโปรแกรมสาเร็จรูปที่นิยมใชไ้ ดแ้ ก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS,Internet Explorer และ เกมส์ต่างๆ เป็นตน้ 8
9 3. บุคลากร ( Peopleware ) คือ บุคลากรจะเป็ นส่ิงสาคญั ที่จะเป็ นตวั กาหนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุม้ ค่าในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซ่ึงสามารถแบ่งบุคลากรตามหน้าท่ีเกี่ยวขอ้ งตามลกั ษณะงานได้ 6 ดา้ น ดงั น้ี 3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) ทาหน้าท่ีศึกษาและรวบรวมความตอ้ งการของผูใ้ ชร้ ะบบ และทาหน้าท่ีเป็ นส่ือกลางระหว่างผใู้ ชร้ ะบบและนักเขียนโปรแกรม(Programmer) หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นักวิเคราะห์ระบบตอ้ งมีความรู้เก่ียวกับระบบคอมพิวเตอร์พ้นื ฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผมู้ ีความคิดริเร่ิมสร้างสรรคม์ ีมนุษยส์ มั พนั ธ์ท่ีดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) คือบุคคลที่ทาหนา้ ท่ีเขียนซอฟตแ์ วร์ต่างๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อส่ังงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานตามความต้องการของผูใ้ ช้ โดยเขียนตามแผนผงั ที่นกั วิเคราะห์ระบบไดเ้ ขียนไว้ 9
10 3.3 ผู้ใช้ ( User ) เป็ นผใู้ ชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะเป็ นผปู้ ฏิบตั ิหรือกาหนดความตอ้ งการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ว่าทางานอะไรไดบ้ า้ ง ผใู้ ชง้ านคอมพิวเตอร์ทวั่ ไป จะตอ้ งเรียนรู้วิธีการใชเ้ คร่ือง และวิธีการใชง้ านโปรแกรม เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมท่ีมีอยสู่ ามารถทางานไดต้ ามท่ีตอ้ งการ 3.4 ผู้ปฏบิ ัติการ (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะตอ้ งมีเจา้ หนา้ ท่ีคอมพวิ เตอร์ท่ีคอยปิ ดและเปิ ดเคร่ือง และเฝ้ าดูจอภาพเมื่อมีปัญหาซ่ึงอาจเกิดขดั ขอ้ ง จะตอ้ งแจง้ System Programmer ซ่ึงเป็นผดู้ ูแลตรวจสอบแกไ้ ขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทีหน่ึง 3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA ) กลุ่มบุคคลท่ีทาหน้าที่ดูแลขอ้ มูลผ่านระบบจดั การฐานขอ้ มูล ซ่ึงจะควบคุมให้การทางานเป็ นไปอย่างราบร่ืน นอกจากน้ียงั ทาหนา้ ที่กาหนดสิทธิการใชง้ านขอ้ มูล กาหนดในเร่ืองความปลอดภยั ของการใชง้ าน พร้อมท้งั ดูแลดาตา้ เบสเซิร์ฟเวอร์ (DatabaseServer) ใหท้ างานอยา่ งปกติดว้ ย 10
11 3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผวู้ างนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ใหเ้ ป็นไปตามเป้ าหมายของหน่วยงาน เป็ นผทู้ ี่มีความหมายต่อความสาเร็จหรือลม้ เหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาใชง้ านเป็นอยา่ งมาก 4. ข้อมูลและสารสนเทศ 4.1 ข้อมูล (Data) หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน แลว้ ใชต้ วั เลขตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์ต่างๆ ทาความหมายแทนส่ิงเหล่าน้นั เช่น คะแนนสอบวิชาภาษาไทยของนกั เรียน อายขุ องพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั ราคาขายของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้ คาตอบที่ผถู้ ูกสารวจตอบในแบบสอบถาม 4.2 สารสนเทศ (Information) หมายถึง ขอ้ สรุปต่างๆ ที่ไดจ้ ากการนาขอ้ มูลมาทาการวิเคราะห์ หรือผา่ นวิธีการที่ ไดก้ าหนดข้ึน ท้งั น้ีเพ่ือนาขอ้ สรุปไปใชง้ านหรืออา้ งอิง เช่น เกรดเฉล่ียของวชิ าภาษาไทยของนกั เรียน อายเุ ฉล่ียของพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั ราคาขายสูงสุดของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้ ขอ้ สรุปจากการสารวจคาตอบในแบบสอบถาม 11
12 5. กระบวนการทางาน ( Procedure ) คือ องคป์ ระกอบดา้ นน้ีหมายถึงกระบวนการทางานเพ่ือให้ไดผ้ ลลพั ธ์ตามตอ้ งการ ในการทางานกบั คอมพิวเตอร์ผใู้ ชจ้ าเป็นตอ้ งทราบข้นั ตอนการทางานเพ่ือใหไ้ ดง้ านท่ีถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ ซ่ึงอาจจะมีข้นั ตอนสลบั ซบั ซอ้ นหลายข้นั ตอน ดงั น้นั จึงมีความจาเป็ นตอ้ งมีคู่มือปฏิบตั ิงาน เช่น คูม่ ือผใู้ ช้ ( user manual ) หรือคูม่ ือผดู้ ูแลระบบ ( operation manual ) เป็นตน้ 12
1313
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: