Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิปัญญาท้องถิ่นการต่อเรือบางพระ

ภูมิปัญญาท้องถิ่นการต่อเรือบางพระ

Published by SCI RMUTTO, 2019-07-30 12:58:42

Description: ภูมิปัญญาท้องถิ่นการต่อเรือบางพระ

Keywords: ชลบุรี,บางพระ,อู่ต่อเรือ,อู่ต่อเรือบางพระ

Search

Read the Text Version

ค ณ ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ร า ช ม ง ค ล ต ะ วั น อ อ ก ภมู ปิ ญญาท้องถินการต่อเรอื บางพระ จดั ทําโดย ฝายกิจการนกั ศึกษาและกิจการพเิ ศษ

คํานาํ จงั หวดั ชลบุรเี ปนจงั หวดั ชายทะเลทีมพี นื ทีติดทะเลดา้ นอ่าวไทยหลายอําเภอ อาชพี การทําประมงจงึ เปนอาชพี หลักอาชพี หนงึ ของประชาชนในจงั หวดั ชลบุรี และอีกอาชพี หนงึ ทีอยูค่ ่กู ับจงั หวดั ชลบุรมี านานพอๆ กับอาชพี การประมงคือการต่อเรอื ประมงพนื บา้ น ปจจุบนั อาชพี นนี บั วนั ก็จะยงิ หาคนทําทีมคี วามรแู้ ละชาํ นาญยากขนึ ทกุ ที ซงึ ตอนนเี หลืออู่ ต่อเรอื อยูเ่ พยี งแหง่ เดยี วในจงั หวดั ชลบุรี คืออู่ต่อเรอื บางพระของคณุ เสรมิ เจอื สวุ รรณ ทังนคี วามรดู้ า้ นการต่อเรอื เหล่านมี กั อยูในรปู แบบฝงลึกในตัวบุคคล หากไมม่ กี ารถ่ายทอด หรอื บนั ทึกไวอ้ งค์ความรกู้ ็จะสญู หายไป คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออกจงึ เหน็ ความสาํ คัญทีจะใหน้ กั ศึกษาไดเ้ รยี นรคู้ วามสาํ คัญของภมู ปิ ญญาพนื บา้ น รว่ มทํานบุ าํ รงุ ศิลปวฒั นธรรมภาคตะวนั ออก มสี ว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ เอกลักษณข์ องท้องถินเกียวกับ การทําประมงพนื บา้ น รวมทังภมู ปิ ญญาในการต่อเรอื และซอ่ มเรอื จงึ จดั โครงการธาํ รงษ์ รกั ษ์วถิ ีชวี ติ ชาวประมงและการต่อเรอื บางพระ โดยบูรณาการโครงการกับการเรยี นการ สอนในหลักสตู ร พรอ้ มทังจดั ทําเอกสารรวบรวมองค์ความรภู้ มู ปิ ญญาท้องถินการต่อเรอื บางพระเพอื ใชเ้ ปนขอ้ มูลการศึกษาและอนรุ กั ษ์ภมู ปิ ญญาท้องถินของจงั หวดั ชลบุรสี บื ไป

ฝายกิ จการนักศึ กษาและกิ จการพิเศษ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อู่ต่อเรอื บางพระ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ชายทะเลบางพระ อู่ต่อเรอื ประมง ขนาดเล็กทียัง บางพระเปนชุมชนดังเดิมทีมีประวัติศาสตร์และความ เหลืออยู่เพียงอู่ เปนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในชุมชนด้านชายฝงทะเล เดียวของจังหวัด ทียังคงสะท้อนวิถีชีวิตทียังคงเอกลักษณ์ของชุมชน ชายทะเลให้เห็นผ่านภูมิปญญา ประเพณีความเชือ เช่น ชลบุรี การทําประมงชายชายฝง การแปรรูปอาหารทะเล การต่อ เรือ และประเพณีแห่พญายม เปนต้น นอกจากนี ในพืนที PAGE 01 ยังมีศาสนสถานทีสาคัญ คือ วัดบางพระวรวิหาร วัดวิเวกา ราม และวัดเขาบางพระ อู่ต่อเรอื บางพระ การต่อเรือนับเปนส่วนหนึงของวิถีชีวิตชุมชนประมง พืนบ้านเพราะเปนเครืองมือทีใช้ดาํ รงชีพทํามาหากิน ใน อดีตบริเวณชายทะเลบางพระมีอู่ต่อเรือ 3 – 4 เจ้า แต่ ปจจุบันเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวคือ อู่ต่อเรือบางพระของ ลุงเสริม เจือสุวรรณ ซึงตังอยู่ในพืนทีชุมชนวัดหลวง บริเวณชายทะเลบางพระ ด้านทิศเหนือติดกับตลาดอาหาร ทะเลสด เปนอู่ต่อเรือทีมีชือเสียงว่ามีคุณภาพเปนทีรู้จัก ของชาวประมงทังในและนอกชุมชนซึงมีผู้มาว่าจ้างให้ต่อ เรืออย่างต่อเนือง อู่ต่อเรือประมงขนาดเล็กทียังเหลืออยู่ เพียงอู่เดียวของจังหวัดชลบุรี คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

จุดเรมิ ต้นในอาชพี ต่อเรอื หมอเรอื บางพระ ผมเกิดปชวด ป 2479 เกิดทีบางพระ บ้านแม่ผมอยู่ แถว ร.ร. ปทุมวิทย์ ทํางานมาแล้วหลายประเภท ทําไร่ก็ ลุงเสริม เจือสุวรรณ เคยทํา ได้ค่าแรงวันละ 2 บาท ทําฟน ปลวกแดงก็ไป หลัง จากนันก็มาทําประมง วางอวน วางลอบ ออกหาปลามา ประวตั ิสว่ นตัว ก่อน วนั เกิด: วนั ที 27 เมษายน 2479 ทีอยู:่ 62/6 หมูท่ ี 3 ต.บางพระ สมัยก่อนชายทะเลบางพระทีนีหาดทรายสวย ทราย อ.ศรรี าชา จ.ชลบุรี เปนสีทอง ตอนกลางคืน ปูลมจะวิงออกมาขาวเต็มหาด หมดเลย ตอนหลังเค้าถมทีทําถนนหมด เมือก่อนหาดสวย มาก ทะเลก็สวย มองเห็นหมดทังบางแสน ศรีราชา แต่ ก่อนไม่มีบ้านคน เปนหาด ด้านในเปนคลอง ผมก็เคย รับจ้างทําถนนทีนีได้ค่าแรงวันละ 25 บาท ทีนังคุยกันตอน นีแต่เดิมเปนทะเล พอถมมาเรือยๆ ทรายพัดเข้ามาบ้าง ตรงนีก็เลยเปนพืนดิน ผมเคยทํางานเปนลูกมือในอู่ต่อเรือ อาศัยครูพัก ลักจาํ ใช้การสังเกต และทดลองทําด้วยตนเอง เพราะคุ้น เคยกับอาชีพต่อเรือมาตังแต่ยังเด็ก สมัยก่อนมีคนต่อเรือ จาํ นวนมาก ทําให้มีความรู้ในการต่อเรือ สมัยทําประมงผม ซือเรือเก่าๆ มาใช้ แล้วค่อยๆ ซ่อมๆ เรือเอง ซ่อมไปซ่อม มา ก็ลองหัดต่อเรือดู โดยใช้ไม้ฝาบ้าน พอลองต่อก็ทําได้ เมือชาํ นาญแล้วจึงออกมาตังอู่เปนกิจการของตัวเอง จนถึงวันนี ผมเคยไปต่อเรือที อ. ชุมแสง จ. นครสวรรค์ ต่อในวัด ตอนนันพอทําเสร็จก็ให้พระช่วยเข็นลงนาํ (หัวเราะ) เรือลํานันมีคนซือต่อไปใช้ทีเกาะสีชัง สมัยแรก ๆ ทต่อเรือ ราคาไม้คิวละ 22 บาทเอง ปจจุบันตอนนีไม้ กระบากราคาคิวละ 500 กว่าบาทแล้ว ผมไปหากินทัวหมด สัตหีบก็ไป คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 02

เมือถามถึงอายุการใช้งานของเรือแต่ละลํา ลุงตอบว่า \"ขึนกับการบาํ รุงรักษา เรือของ ผมทีต่อเองอายุ 20-30 ป แต่ก่อนต่อเรือลําใหญ่ หลังๆ คนนิยมเรือขนาดเล็ก สมัยก่อนที ทําก็มีคนช่วยกันต่อ ตอนนันลูกชายผมยังเล็ก เริมทําตังแต่อายุ 30 กว่าสมัยก่อนค่าแรง คนงานแค่วันละ 20 กว่าบาท ตอนนี 500 บาท บางคน 1,200 บาท แต่ช่างฝมือสู้ผมไม่ได้ เค้ายังต่อเรือไม่ค่อยได้ ผมต้องปนรูปให้เค้า แล้วเค้าถึงจะมาเข้ากระดานได้\" ลุงเสริมกล่าวเพิมเติมอีกว่า อู่ต่อเรือของตนยังสามารถสร้างอาชีพให้คนหลายคน ไม่ ว่าจะเปนช่างไม้ ช่างสัดไม้ และช่างทาสี แต่ส่วนใหญ่เปนชาวประมงทังนัน ทีใช้เวลาในช่วง ไม่ออกทะเลมาหารายได้เสริม ทังนีการทํางานในอู่ต่อเรือของคุณลุงเสริมใช้แรงงานคน ทังหมด มีการใช้เครืองมือเล็ก ๆ เพียงไม่กีชิน เมือถามว่าต้องมีการเขียนแบบอู่ต่อเรือ ก่อนสร้างหรือไม่ ลุงหัวเราะพร้อมชีไปทีหัว บอกอยู่ในหัวอยู่แล้ว และเมือถามว่าต้องมีการ ทดสอบหลังจากต่อเรือเสร็จแล้วว่าเรือจะจม หรือเอียงก่อนส่งให้ลูกค้าไหม ลุงหัวเราะ เบา ๆ แล้วส่ายหัวบอกว่าไม่ต้อง เพราะถ้าขันตอนแรกตังแต่วางกระดูกงู มีความสมดุลแล้ว ยังไงก็ไม่จมหรือเอียงแน่นอน คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 03

เรอื งเล่าจากหมอเรอื ปจจุบันทีอ่างศิลา และบางแสนก็ ทุ ก วั น นี ที ยั ง ไ ม่ เ ลิ ก ทํา อู่ ต่ อ เ ร ือ นั น ไม่มีอู่ต่อเรือแล้ว ทีชลบุรีเหลือทีบาง เพราะเปนภูมิปญญาของชาวบ้านอย่าง พระ ซึงการต่อเรือใหม่ราคาอยู่ที 2-3 แท้จริง อีกทังในตอนนีก็มีอู่ต่อเรือของ แสนบาท ส่วนมากจึงนิยมซือเรือมือ ลุ ง เ พี ย ง อู่ เ ดี ย ว ใ น จั ง ห วั ด ช ล บุ ร ีที ยั ง ค ง สองเพราะมีราคาถูกกว่า หรือหันไปใช้ ต่ อ เ ร ือ ป ร ะ ม ง ข น า ด เ ล็ ก อ ยู่ จึ ง ไ ม่ อ ย า ก เรือไฟเบอร์เพิมมากขึน ข้อเสียของ ให้สูญหายไป อีกทังเทศบาลตําบลบาง เรือไฟเบอร์เวลาจม จะจมถึงพืนดินเลย พระขอร้องให้ต่อเรือต่อไป เนืองจาก ไม่ทน ส่วนเรือไม้ ตอนเรือควาํ เรือจะ ต้องการอนุรักษ์อาชีพท้องถินนีไว้ ที ลอยไม่จม และทนทานกว่า ส่วนราคา สาํ คัญถ้าเราเลิกพวกนีจะชาวประมงจะ ต่อเรือนันตนไม่เอากําไรมากนัก ราคา เ อ า เ ร ือ ไ ป ซ่ อ ม ที ไ ห น ห ร ือ ต่ อ เ ร ือ ที ไ ห น ขึนกับขนาดของเรือและไม้ทีใช้ ส่วน ต น เ ชื อ ว่ า อี ก ไ ม่ น า น อ ง ค์ ค ว า ม รู ้นี ค ง จ ะ ร า ค า ซ่ อ ม เ ร ือ ก็ ไ ม่ ไ ด้ คิ ด แ พ ง เ พ ร า ะ รู ้ดี สู ญ ห า ย ไ ป เ นื อ ง จ า ก ไ ม่ มี ค น ส า น ต่ อ   ว่ า ช า ว ป ร ะ ม ง ก็ ต้ อ ง ห า เ ช้ า กิ น คํา เมือถามถึงลูกชายของลุงเสริม ที ทั ง นี จ า ก ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ ช่ า ง ที ม า ช่ ว ย ชือนายถวิล เจือสุวรรณ ทีทายาทเพียง ง า น ลุ ง เ ส ร ิม ล้ ว น ก ล่ า ว เ ป น เ สี ย ง คนเดียวทีมาช่วยงานตรงนี ลุงกล่าวว่า เดียวกันว่า ลุงเสริมเปนปราชญ์ด้าน อาชีพหลักของลูกชายก็คือทําประมง ใน ก า ร ต่ อ เ ร ือ จ ร ิง ๆ เ พ ร า ะ เ ร ีย น รู ้ด้ ว ย อนาคตถ้าหากตนไม่ได้ต่อเรือแล้ว ขึน ตนเอง ลูกชายก็เรียนรู้งานได้แค่เพียง อ ยู่ กั บ ลู ก ช า ย ว่ า จ ะ ร ับ ช่ ว ง ต่ อ ห ร ือ เ ป ล่ า บางส่วน ถ้าหมดช่วงลุงเสริมไปข้อมูล จากบทสัมภาษณ์นายถวิล กล่าวว่า ตน สาํ คัญก็อาจจะหายไปด้วย ทีสาํ คัญชาว จะสานต่อธุรกิจนีไปเรือย ๆ จนกว่าจะ ป ร ะ ม ง แ ถ ว นี ไ ม่ นิ ย ม ไ ป ต่ อ เ ร ือ ข้ า ง น อ ก ทําไม่ไหว และหลังจากนันในอนาคตตน เ นื อ ง จ า ก ต้ อ ง ค อ ย ค ว บ คุ ม ก า ร ทํา ง า น ก็ ไ ม่ รู ้ว่ า จ ะ มี ค น ม า สื บ ท อ ด ธุ ร กิ จ นี ต่ อ ข อ ง ช่ า ง ต ล อ ด จ น ไ ป ถึ ง ก า ร ซื อ อ ะ ไ ห ล่   หรือไม่ การซ่อมเรือจึงจาํ เปนจะต้องอยู่ใกล้ บ้านเพราะสะดวกกว่า คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 04

เรอื งเล่าจากหมอเรอื ลุงเสริมเล่าเรืองการต่อเรือให้พวกเราฟงด้วยใบหน้าเปอนยิมว่า ขันตอนการต่อ เรือนัน เริมจากคุยความต้องการกับลูกค้า ว่าต้องการเรือขนาดไหน ใช้ไม้อะไร งบ ประมาณเท่าไหร่ จากนันก็โทรสังซือจากโรงไม้ ไม้เนือแข็งทีใช้ในการต่อเรือส่วนใหญ่ได้ มาจากโรงไม้ ต.หนองขาม อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี หรือทีชลบุรี หรือทีกระทิงลาย ไม้ทีนิยม ใช้ เช่น ไม้กะบาก ไม้ตะเคียน ไม้ประดู่ ไม้แสม การซือไม้แต่ละครังใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 บาท ทังนีถ้าราคาไม้ทีสังราคาถึง 10,000 บาท ทางโรงไม้จะนาํ มาส่งถึงอู่ต่อเรือ แ ต่ ถ้ า ซื อ น้ อ ย ต้ อ ง ขั บ ร ถ ไ ป เ อ า เ อ ง ไม้กงทีใช้ในการต่อเรือ ได้มาจากมาจากหัวไร่ ปลายนา เช่น พวกกระถินณรงค์ สะเดา มะขามเทศ และขนุนบ้าน ส่วนไม้กระดาน (ไม้ กาบ) ทําจากไม้กะบาก ไม้เต็ง ซึงไม้เต็งนีจะมีราคาแพงกว่าไม้กะบากถึง 2 เท่า แต่ข้อดี คือเนือไม้จะแข็ง ทนทานกว่า แต่ข้อเสียคือ ไม้เต็งจะชอบฉีก มีเสียน เวลาวางอวนจะไป เ กี ย ว อ ว น ไ ด้ ขนั ตอนการต่อเรอื นนั เรมิ จากการนาํ ไมก้ ระดานวางซอ้ นกันจากฐานตรงกลางทีเปนไม้ กระดกู งู ซงึ ถือวา่ เปนกระดกู สนั หลังของเรอื โดยวางไมก้ ระดานซา้ ยขวาขนึ ไปเปนคู่ ๆ ทังนี เพอื ใหก้ ราบเรอื ทังสองขา้ งสมดลุ กัน การซอ้ นต่อแผน่ ไมก้ ระดานจะต้องเซอื มต่อกันอยา่ ง ประณตี ดว้ ยลกู กะสกั ต่อไปคือการนาํ ไมล้ ักษณะโค้งคล้ายตัว U ทีเรยี กวา่ “กง” มาวางเรยี ง กันภายในลําเรอื ตามขนาดและระยะทีเหมาะสม ตังแต่สว่ นของเรอื จนถึงท้ายเรอื กงมหี นา้ ที เปนโครงกระดกู หรอื โครงสรา้ ง ชว่ ยยดึ ไมก้ ระดานทีวางซอ้ นกันขนึ ไปใหต้ ิดกับกงดว้ ยตะปูหรอื ลกู กะสกั ทําใหล้ ําเรอื มคี วามแขง็ แรงขนึ ทังสองขนั นสี าํ คัญทีสดุ เนอื งจากเปนการวางศูนย์ ของเรอื ใหเ้ ทียง เมอื ลําเรอื มคี วามสมบูรณแ์ ล้วจงึ มกี ารต่อเติมสว่ นหวั สว่ นท้าย กราบเรอื และ สว่ นประกอบ ต่าง ๆ ของลําเรอื ขนั สดุ ท้ายคือ การทาสตี อนจะดดั ก็ใหท้ านาํ มนั แล้วเอาไฟลน ซงึ กรรมวธิ กี ารดดั ไมน้ เี ปนภมู ปิ ญญาท้องถินของไทย ญปี ุนยงั เคยมาดงู าน ขนาดของเรอื ถ้า ลําทีเหน็ มี 9 ศอก 4.50 ม. อีกลํา 5 ม. ปกติเคยทําลําใหญถ่ ึง 8 -10 ม. เรอื ลําใหญท่ ีต่อค้างไวท้ ี อู่มขี นาดสบิ กวา่ เมตร แต่ไมไ่ ดต้ ่อแล้วเนอื งจากรฐั บาลชุดนมี กี ารควบคมุ ปรมิ าณเรอื ไม่ อนญุ าตใหต้ ่อเรอื ใหมเ่ พราะไมม่ ที ะเบยี น หากต่อต้องใชท้ ะเบยี นเรอื เก่าทีหมดสภาพเท่านนั คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 05

ประเภทของเรอื เรอื ฉลอม เปนเรอื ทีหวั เรอื จะสงู กวา่ ท้ายเรอื นิยมใชผ้ า้ สามสผี กู ทีหวั เรอื ลักษณะเรอื หวั ท้ายจะงอนเรยี ว ตรงกลางปอง ตัวเรอื เปนเหลียม แผน่ กระดานขา้ วเรอื เปนทับเกล็ด นยิ มใชต้ ามชายทะเลแถบปากอ่าว เหมาะกับการบรรทกุ สนิ ค้าและหา ปลา เรอื เปด หรอื เรอื อีเปด เปนเรอื ต่อทีมสี ว่ นหวั และท้ายเรอื เท่ากัน ลักษณะของเรอื สว่ นท้ายจะกลมแบน บางลํามเี สา กระโดงสองเสา ใชแ้ ขวน มหี างเสอื บานเดียว เรอื เปดสามารถโต้ลมไดก้ วา่ เรอื ทัวไป ตัวเรอื เปดมปี ระทนุ หลังคาครอบ กลางลาเรอื เหมอื นเรอื ฉลอม และมขี ยาบคลมุ ท้ายเรอื เหมอื นกัน เรอื ประมงไทยลากเดียว (ท้ายตัด) ใชเ้ พอื การลากอวน เรอื หนึงมกั จะต่อความยาว 12 วา ขนึ ไปจนถึง 19 วา เปนเรอื ที ต่อด้วย ไมป้ ระด่สู ม้ ไมต้ ะเคียนทอง และไมม้ ะค่าโมง เปนสว่ นใหญ่ การใชง้ านเพอื การเดินทางไปทําประมง การลากปลา ยงั ทะเลลึกมาก ๆ เรอื ท้ายจะเปนเรอื ทีใชว้ ธิ กี ารต่อเรอื ยากทีสดุ อู่ต่อเรอื คณุ ลงุ เสรมิ รบั ต่อเรอื ทกุ ชนดิ ทีมคี นมาจา้ งวาน แต่สว่ นใหญล่ กู ค้านยิ มใหต้ ่อเรอื ฉลอม \"แคเ่ หน็ ไกล ๆ ลงุ กร็ แู้ ลว้ วา่ เปนเรอื ทลี งุ ตอ่ เพราะมเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั จาํ ไดเ้ ลย\" คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 06

\"ต้องการอนรุ กั ษ์อาชพี ท้องถินนไี ว\"้   เสรมิ เจอื สวุ รรณ การทํางานในอู่ต่อเรือของคุณลุงเสริมใช้แรงงานคนทังหมด มีการใช้เครืองมือเล็ก ๆ เพียง ไม่กีชิน และเปนการสร้างเรือประมงโดยไม่ต้องเขียนแบบแปลน หรือทําพิมพ์เขียว เพียง กําหนดความยาว ความกว้าง ของเรือทีต้องการแล้วก็เขียนกงเรือขึน โครงร่างของเรือหลัง จากนัน รูปทรงความสวยงามความแข็งแรงถูกควบคุมด้วยภูมิปญญา ความสามารถและความ ชาํ นาญของช่างต่อเรือ การต่อเรอื ประมงปจจุบนั ยงั ใชแ้ รงงานคน เครอื งมอื ชา่ งไม้ เชน่ สวิ สวา่ น มอื เลือยลันดา เลือยชกั มอื (ใชส้ องคน) เปนต้น การวางรปู ทรงเรอื ผวู้ า้ จา้ งเปน ผกู้ ําหนดความยาว และความกวา้ ง ของเรอื และเครอื งจกั รทีจะใช้ ชา่ งจะเปนผู้ ออกแบบกง อันเปนสว่ นหลักของโครงรา่ งเรอื เรยี งกัน จากหวั จรดท้าย แล้ว เลือยไมเ้ ปนกง ทกุ ตัวจนครบนาํ ไปตังบนกระดกู งู เมอื ไดฤ้ กษ์ดจี งึ ทําพธิ ตี ังโขน ซงึ เปนประเพณสี าํ หรบั การต่อเรอื ทกุ ลํา เมอื ตังโขน กง และสว่ นท้ายของเรอื เสรจ็ จงึ ขนึ ไมเ้ ปลือกเรอื ชา่ งจะแต่งรปู ทรงเรอื ใหส้ วยงามตามความนยิ มและความ ชาํ นาญ อันเปนเอกลักษณข์ องชา่ งแต่ละคน       \"การแต่งรูปเรือให้ได้ตามรูปทรงทีต้องการ ช่างจะต้องระวัง สัดส่วน ความสมดุล ระหว่างกราบซ้ายกับกราบขวา เพือ รั ก ษ า ศู น ย์ ถ่ ว ง ข อ ง เ รื อ ใ ห้ ดี \" ทังนเี รอื ประมงบางพระไมน่ ยิ มสรา้ งเก๋งเรอื เพราะสว่ นใหญจ่ ะออกทะเลไม่ ไกลมาก เชา้ ไปเยน็ กลับ แต่ถ้าหากต้องการก็สามารถทําได้ ซงึ จะกําหนดขนาด ตามความต้องการ และตามลักษณะการใชง้ าน เชน่ หากจะใชท้ ีเก็บปลาไดม้ าก ๆ ก็จะเวน้ ทีทําเปนระวางบรรทกุ มากกวา่ เก๋งเรอื คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 07

ชนดิ ของไมท้ ําเรอื ไมส้ ะเดา ไมม้ ะขามเทศ ไมก้ ระถินณรงค์ ไมข้ นุนบา้ น ไมต้ ะเคียน ไมก้ ระบาก ไมเ้ ต็ง ไมส้ กั คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 08

วสั ดแุ ละอุปกรณ์ทีใชใ้ นการต่อเรอื ประมง ลกู กะสกั \"เรอื พนื บา้ นบางพระนยิ มใชเ้ รอื เปด หวั จะโล้นๆ ปากกา นาํ มนั สน ไมม่ โี ขน ท้ายจะตัด สว่ นเรอื ฉลอมจะมหี วั โขน ชนั เครอื งเผาไม้ เอาไวผ้ กู ผา้ ชาวประมงบางแสน หาดวอนจะ เลือยตัดไม้ สวา่ นเจาะ ชอบมาจา้ งต่อเรอื ฉลอม ชาวประมงบางพระ ครอื งเจยี ไม้ เลยหนั มาจา้ งต่อแบบเรอื ฉลอมบา้ ง\" เครอื งไสไม้ สมัยก่อนเอาซุงมาขุดทําเรอื แล้วค่อยพัฒนาเอาไม้มาต่อทําเรอื ภายหลัง ตอนนีก็มีชา่ ง หลายคนเปนลูกมือ โดยตัวเองจะเปนคนออกแบบ และวางเรอื เอง ใหล้ ูกน้องคอยชว่ ย ไม้เนือแข็งทีใชใ้ นการต่อเรอื ส่วนใหญ่ได้มาจาก ต.หนองขาม อ. ศรรี าชา จ.ชลบุรี เชน่ ต้น ตะเคียน ต้นประดู่ ต้นแสม  การซอื ไม้แต่ละครงั ใชเ้ งินลงทุนประมาณ 10,000 บาท ขนาดเรอื ที นิยมต่อในปจจุบันเปนเรอื ขนาดกลาง ยาว 5-10 เมตร ตังราคาเรอื ไม้ทีต่อแล้ว 60,000- 120,000 บาท ขึนกับชนิดของไม้และความต้องการของเจ้าของเรอื ใชเ้ วลาในการต่อเรอื ประมาณ 1 เดือน/ลํา คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 09

โครงสรา้ งของเรอื กระดกู งู กงเรอื ใชไ้ มเ้ ต็ง ใชไ้ มเ้ ต็ง, ไมต้ ะเคียน สว่ นนีใชไ้ มห้ นา กาบเรอื หรอื ไมก้ ระดาน กันดดู ใชไ้ มก้ ระบาก ไมเ้ ต็ง ไมต้ ะเคียน ใชไ้ มข้ นุน ตะเคียน กระถินณรงค์ โขนเรอื PAGE 10 ใชไ้ มข้ นุน ตะเคียน กระถินณรงค์ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ขนั ตอนการต่อเรอื PAGE 11 โดย ลงุ เสรมิ เจอิ สวุ รรณ 1. ใช้เลือยตัดไม้ให้มีขนาดเล็กลงเพือนาํ มาใช้ทําส่วนประกอบต่าง ๆ 2. วาดแบบไม้ตามขนาดชินส่วนของเรือ และตัดตามเส้นทีขีดไว้ 3. นาํ ไม้มาเจียรไม้ให้เรียบเนียนด้วย เครืองเจียรไม้ไฟฟา 4. นาํ ไม้ทีได้มาเรียงตามโครงสร้างของ เรือ ทังหมด 8 ชิน ด้วยระยะห่างที เท่ากัน วางให้เท่า ๆ กัน ชินบนของ ทัง 2 ฝงเรียกว่า ปกนก 5. นาํ ปากกาและลูกกะสักทีทําหน้าที เหมือนน็อตมาล็อคไม้ให้ติดกันตาม โครงสร้างของเรือให้แน่น 6. นาํ นาํ มันเครืองมาทาทีไม้ของเรือและ ใช้เครืองมือล็อคไม้ตามโครงสร้าง ของเรือ เผาไม้ เพือให้นาํ มันเครืองทีเรือซึม เข้าเนือไม้ ทําให้ใม้มีความอ่อน สามารถดัดตามรูปแบบของเรือทีช่าง ได้ร่างไว้ (ไม่ได้เผาถึงขนาดไหม้) 7. นาํ หมันมาตอกเผืออุดช่องว่างเรือไม่ ให้นาํ เข้า 8. ติดกระเบนเรือ ซึงเปนไม้แผ่นบาง ใช้ นาํ มันยางมาทาระหว่างเรือและ กระเบนเรือ 9. ทานาํ มันเคลือบเรือ โดยใช้นาํ มันสน และชัน เพือทาให้ไม้สวยงาม และเพิม ความคงทนของเรือ 12. การใส่เครืองยนต์เรือ เก๋งเรือ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

\" ราคาลกู ละ 12 บาท ซอื ไมเ้ ปนท่อน มา แล้วจา้ งเค้าเหลาลกู ละ 5 บาท มี ลูกกะสัก หรือ หลายขนาดคือ 3-6 หนุ ขนึ กับ ลูกประสัก ขนาดของเรอื 1ลํา ใช้ 500 กวา่ ตัว เรอื 1 ลําทํา 3 คน เดยี วนที ํา 2 คน หรอื คนดยี วก็ได้ ตีตะปูมาแล้วเจาะ ทีหลัง\" คือ ไม้หมุดสําหรับตรึง กงเรือต่างตะปู ลกู กะสกั หรอื ลกู ประสกั คอื ไมห้ มุดสาํ หรบั ตรงึ กงเรอื ตา่ ง ต้นแสมสาร ตะปู ทําจากแกน่ ไมแ้ สมสาร เนอื แขง็ สคี อ่ นขา้ งดาํ นาํ มาเหลา เปนแทง่ สเี หลยี มหนา้ กวา้ งราว 1 นวิ เมอื ใขต้ อ้ งถากใหก้ ลม มี ชอื ท้องถิน กราบดั กะบดั (ชาวบน-นครราชสมี า) ขนาดเทา่ กบั รสู สวา่ นทเี จาะกระดานกบั กง ซงึ ทะลถุ งึ กนั ทางโคน ขเี หล็กโคก ขเี หล็กแพะ (ภาคเหนอื ) ขเี หล็กปา ลกู กะสกั จะโตกวา่ ทางปลายเลก็ นอ้ ย ฉะนนั กอ่ นตอกลกู กะสกั จะ (ภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ) ขเี หล็กสาร ใชเ้ หลก็ สองคม ไขรกู ระดานดา้ นนอกใหก้ วา้ งกวา่ ขา้ งในเลก็ นอ้ ย (นครราชสมี า ปราจนี บุร)ี แลว้ ตอกลกู กะสกั โผลพ่ น้ กงเลก็ นอ้ ย แลว้ ผา่ ปลายลกู กะสกั ใช้ ลมิ ไมส้ กั อดั ลงไปตรงรอยผา่ ตอนนใี ชค้ น 2 คน คนหนงึ อยูท่ าง ชอื วทิ ยาศาสตร์ Senna garrettiana (Craib) H.S. ดา้ นหวั ลกู กะสกั อกี คนอยูด่ า้ นปลาย แลว้ ใชค้ อ้ นกวดลกู กะสกั Irwin & Barneby พรอ้ ม ๆ กนั ลกู กะสกั กจ็ ะอดั กระดานใหต้ ดิ แนน่ กบั กงเรอื นเิ วศวทิ ยาและการกระจายพนั ธุ์ วธิ ที ใี ชค้ อ้ นตอกลกู กะสกั ทงั ดา้ นหวั และปลายพรอ้ ม ๆ พบตามบรเิ วณปาโปรง่ ปาเบญจพรรณ กนั นเี รยี กวา่ กวดลกู กะสกั ทางดา้ นหวั คอื ดา้ นทอี ยูก่ บั กระดาน ลกู กะสกั จะโตจงึ บงั คบั กระดานใหเ้ บยี ดแนน่ กบั กงเรอื สว่ นทาง ปาเต็งรงั ปาทีราบตําทัวไป และปาผลัดใบทีระดบั ดา้ นกงเรอื กม็ ลี มิ อดั ทปี ลายลกู กะสกั ทําใหล้ กู กะสกั บานออก ความสงู จากระดบั นาํ ทะเลไมเ่ กิน 500 เมตร ใน เปนการบงั คบั ไมใ่ หล้ กู กะสดั ถอนตวั หลดุ ออกไปได้ การใชล้ กู กะ ประเทศไทยพบไดม้ าทางภาคเหนอื ภาคกลาง สกั จงึ ดกี วา่ การใชต้ ะปู เพราะไมต้ อ่ ไมป้ ระสานไดแ้ นน่ กวา่ โลหะ และภาคอืนๆ ยกเวน้ ภาคใต้ สว่ นในต่างประเทศ และไมไ้ มเ่ ปนสนมิ คงทนกวา่ ถงึ แมจ้ ะผกุ เ็ ปลยี นไดง้ า่ ย ความ พบขนึ กระจายในแถบเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ หนาแนน่ กด็ กี วา่ กนั (ทีมา: เมอื ลกู กะสกั แนน่ ตามตอ้ งการแลว้ กใ็ ชเ้ ลอื ยตดั สว่ นเกนิ http://biodiversity.forest.go.th/index.php? ทงั ตอนหวั และตอนปลายออก ใหเ้ สมอกบั เนอื กระดานและกง option=com_dofplant&view=showone&Itemi เรอื ตรงหวั ลกู กะสกั ทตี ดั ออกนจี ะเหน็ รอยกลม ๆ ซงึ นาํ อาจซมึ d=59&id=884) เขา้ ไปไดท้ ําใหไ้ มเ้ นอื กระดานผใุ นภายหลงั ฉะนนั จงึ ตอ้ งใชช้ นั ยา ปดหวั ลกู กะสกั PAGE 12 ทมี า (สมบตั ิ พลายนอ้ ยเกดิ . (2559). เกดิ ในเรอื . สาํ นกั พมิ พม์ ติ ชน กรงุ เทพฯ . 2559. 218 หนา้ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศัพท์ทีใชใ้ นการต่อเรอื กง กงเรอื คือ ไมร้ ปู โค้งใชเ้ ปนโครงเรอื หรอื ไมท้ ่อนหนา้ ทําเปนรปู โค้ง ติดตามขวางตลอดลําเรอื สว่ นล่างของกงตรงกลางสว่ นโค้ง ยดึ ติดกับ กระดกู งู กงค้าง กงขา้ ง คือ ไมโ้ ครงสรา้ งเรอื ทําเปนรปู โค้ง วางตามขวางของลํา ทํา เฉพาะดา้ นขา้ ง เวน้ สว่ นทีเปนท้องเรอื กงค้างใชว้ างสลับกับกงเปนชว่ งๆ ไปตามความยาวของเรอื กงวาน คือ กงเรอื เฉพาะตัวทีเจาะทะลใุ หน้ าํ ทีขงั อยูร่ ะหวา่ งกงไหลลอด ถึงกัน เพอื ความสะดวกในการวดิ นาํ กรรเชยี ง กระเชยี ง คือ เครอื งพุย้ นาํ ใหเ้ รอื แล่นรปู คล้ายแจว มหี ลักสาํ หรบั พาด กระแชง คือ เครอื งบงั แดดกันฝน โดยนาํ ใบเตยหรอื ใบจากมาเยบ็ ทําเปน ผนื มไี มไ้ ผส่ านลายตัด ใชช้ นั ผสมนาํ มนั ยาง และผสมปูนเล็กนอ้ ยพอนทับ ต่อมาใชส้ งั กะสี กระดกู งู คือ โครงหลักทีวางตลอดหวั ถึงท้ายเรอื เปนแกนของเรอื เมอื วาง กระดกู งูแล้วก็ต้องตัง \"กง\" บนกระดกู งู กระทงปา คือ ไมท้ ่อนใชย้ นั ขวางตามลําเรอื ขุด เพอื ใหก้ ราบเรอื ถ่างกวา้ ง ออกไปตามทีต้องการ กระทงเหนิ หกู ระต่าย คือ ไมข้ วางเรอื อันสดุ ท้ายของหวั เรอื หรอื ท้ายเรอื กราบ คือ ไมเ้ สรมิ แคมเรอื ใหส้ งู ขนึ หรอื สว่ นของเรอื ตอนทีมไี มเ้ สรมิ หรอื ไม้ กระดานทีติดตรงแคมเรอื ไปตามแนวนอนสาํ หรบั เดนิ เก๋ง คือ หอ้ งมหี ลังคาคลมุ ใชต้ ังบนพาหนะหรอื ยวดยาน เชน่ เรอื ซงึ มหี อ้ ง ชนดิ นอี ยูด่ ว้ ย เรยี กหอ้ งนนั วา่ เก๋งเรอื ขยาบ คือ เครอื งกันแดดและฝน ทีเลือนเขา้ -ออกจากประทนุ เรอื ได้ ขนึ คาน คือ การนาํ เรอื ขนึ มาบนบก ต้องวางบนคานไมท้ ีวางพาดขนานกัน บนเสาเพอื รองรบั หวั เรอื และท้ายเรอื คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี PAGE 13

ศัพท์ทีใชใ้ นการต่อเรอื โขนเรอื คือ ไมส้ ลักรปู ลอยตัว ติดอยูท่ ีหวั เรอื เปนสว่ นประกอบเพมิ เติมที ประดษิ ฐข์ นึ เพอื ความงามในศิลปะ และแสดงยศศักดิ ของผทู้ ีเปนเจา้ ของ แคม คือ สว่ นรมิ ทัง ๒ ขา้ งของเรอื จงิ โจเ้ รอื คือ ไมร้ ปู สามเหลียมชายธงเรอื ติดอยูใ่ ต้ท้องเรอื ตอนท้าย ปองกัน ใบจกั รเรอื ไมใ่ หส้ วะเขา้ ไปปะปน กันกระทบ และกันไมใ่ หเ้ พลาแกวง่ ชกั แนวเรอื คือ การตรวจสอบหมนั เรอื วา่ ยงั แนน่ ดหี รอื ไม่ โดยใชอ้ ุปกรณท์ ี เปนเหล็กแบนๆ ขนาดกวา้ ง 1 นวิ ยาว 10 นวิ ปลายขา้ งหนงึ งองุ้ม ขูดเอาชนั เก่าตามแนวเรอื ออก ถ้าหมนั พองตัวออกมาก็ชกั หมนั เก่าทิง แล้วตอกหมนั ใหมเ่ ขา้ ไปแทน เต่าหบั คือ ไมท้ ีตีใหต้ ิดกับขา้ งเรอื ดา้ นในดว้ ยลกู ประสกั เปนไมแ้ ขง็ แรง เจาะ รสู เี หลียมเล็กกวา่ รไู มเ้ สรมิ แคร่ ซงึ อยูข่ า้ งบน สาํ หรบั ยดึ หลักแจวใหแ้ นน่ ถ่อ คือ ไมส้ าํ หรบั ดนั แล้วยนั ใหเ้ รอื เดนิ ทวน คือ ท่อนไมข้ องโครงสรา้ งเรอื ทีติดอยูก่ ับกระดกู งู ในแนวตัง ทังดา้ นหวั และท้าย เรยี กวา่ ทวนหวั และทวนท้ายตามลําดบั นาํ มนั ยาง คือ นาํ มนั ทีใชส้ าํ หรบั ทาเรอื และยาเรอื เบกิ เรอื คือ ถ่างเรอื ทีทําเปนรปู แล้วใหผ้ ายออก มี 3 วธิ ดี ว้ ยกัน คือ เบกิ ไฟ เบกิ นาํ และเบกิ ปากขวาน ประทนุ คือ หลังคาเรอื รถ หรอื เกวยี นทีโค้งคลมุ ตามรปู เรอื รถ หรอื เกวยี น ปากกา คือ ไมส้ าํ หรบั ถ่างปากเรอื ใหก้ วา้ งขนึ มรี ปู รา่ งเหมอื นกับกรรไกร พาย คือ เครอื งมอื สาํ หรบั พุย้ นาํ ใหเ้ รอื เดนิ ถ้ามลี วดเปนคิวตลอดกลางใบ พาย เรยี กวา่ \"พายคิว\" ถ้าดา้ มสนั ใบปอม เพอื ใหจ้ บั ไดถ้ นดั เรยี กวา่ \"พาย ทยุ \" พลีไม้ คือ พธิ บี วงสรวงเจา้ ปาเจา้ เขาหรอื รกุ ขเทวดาก่อนทีจะตัดไมม้ าทําเรอื คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทีมา: http://saranukromthai.or.th PAGE 14

อาหารทะเลรสลํา แหล่งธรรมลือเลือง เมอื งพระสามดี ประเพณีแหพ่ ญายม ชมพระพุทธบาทรอ้ ยป ฝายกิจการนกั ศึกษาและกิจการพเิ ศษ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook