Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore องค์ความรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรพื้นบ้าน

องค์ความรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรพื้นบ้าน

Published by SCI RMUTTO, 2022-05-18 06:01:07

Description: คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดโครงการ โครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย โดยมุ่งหวังให้นักศึกษา บุคลากรและประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาสมุนไพรไทยของจังหวัดชลบุรี ศึกษาภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านการใช้สมุนไพรเป็นอาหาร เป็นยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ฯลฯ โดยจัดทำเอกสารรวบรวมองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสมุนไพรไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลการศึกษาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบไป

Keywords: #scirmutto,rmutto,องค์ความรู้,สมุนไพรพื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

APRIL 2022 | ISSUE องค์ความรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรพื้นบ้าน 06 อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ภู มิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่ น สมุนไพร ประเภทของสมุนไพร 8 ผักพื้นบ้านมีดีที่เป็นยา สมุนไพรไทยห้ามกินเป็นอาหาร สมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ จี เอ พี (Good Agricultural Practice ; GAP) เทคนิคอย่างง่าย ในการสร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรพื้นบ้าน ชุมชนตะเคียนเตี้ย น้ำมะพร้าวสกัดเย็น กาแฟมะพร้าว ผ้ามัดย้อมเปลือกมะพร้าว แกงไก่กะลา สบู่สมุนไพร การบูรณาการโครงการทำนุฯ กับการเรียนการสอน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก

SCIRMUTTO คำนำ ประเทศไทยมีการใช้สมุนไพรใช้มาอย่างช้านาน อยู่ควบคู่กับสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา อย่างลึกซึ้งซึ่ง เป็นการถ่ายทอดทางภูมิปัญญาการรักษาโรคและมีการแลกเปลี่ยนระหว่างพื้นที่จนไม่สามารถแยกได้ว่าที่มามาจากไหน แต่ เราสามารถสันนิษฐานได้จากแหล่งกําเนิดของพืชนั้น ๆ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ระบุถึงการใช้พืชพรรณสมุนไพร ตั้งแต่สมัยพุทธกาล อาทิ การนําสมุนไพรมาใช้ได้ทั้งในแง่การนํารับประทานเป็นอาหาร เช่น การรับประทานพืชผักหรือนํามา ประกอบเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวและรักษาสิวฝ้ากระจุดด่างดําบนผิวหน้าและผิวกายได้การใช้แป้งสมุนไพรพอกหน้า พอกตัว ซึ่งการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพผิวเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาไทยที่คนไทย นํามาใช้กันตั้งแต่รุ่นปู่ย่า นอกจากนี้ยังมี การนําสมุนไพรมาใช้เป็นอาหารเสริมบํารุงร่างกาย ใช้ขับสารพิษ และใช้เป็นเครื่องดื่ม การอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดอาหาร ไทยเพื่อสุขภาพ ปัญหาสําคัญคือ การขาดความรู้ และ เทคโนโลยีสมุนไพรขั้นสูงทําให้ไม่สามารถสร้างนวัตกรรมยาสมุนไพร ได้ จึงควรมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรไทยเพื่ออนุรักษ์และต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรท้องถิ่นเพื่อ สุขภาพ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการสืบทอดทางภูมิปัญญาสมุนไพรไทยและการยกระดับสมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับอย่างสากล คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงได้จัดกิจกรรมนอกหลักสูตร เสริมทักษะการเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21 ให้ นักศึกษาได้แสดงศักยภาพในทักษะวิชาชีพ ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในการแก้ปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เสริม ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ สืบสานและอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย ทําโครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย โดยมุ่งหวังให้ นักศึกษา บุคลากรและประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาสมุนไพรไทยของจังหวัดชลบุรี ศึกษา ภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านการใช้สมุนไพรเป็นอาหาร เป็นยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ฯลฯ อีกทั้งเพื่อ ประชาสัมพันธ์กิจกรรม พัฒนานักศึกษาที่บูรณาการด้านทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น กับการเรียนการสอน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายในการทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรมกับสถาบันการ ศึกษาและชุมชน ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง จัดทำเอกสารรวบรวมองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสมุนไพรไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลการศึกษาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น สืบไป ฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

SCIRMUTTO สบู่สมุนไพร อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น กาแฟมะพร้าว ผ้ามัดย้อม สารบัญ เปลือกมะพร้าว แกงไก่กะลา 1 สมุนไพร 2 การแบ่งประเภทสมุนไพรอย่างง่าย 4 8 ผักพื้นบ้านมีดีที่เป็นยา 5 สมุนไพรไทยห้ามกินเป็นอาหาร 6 ตัวอย่างสมุนไพรท้องถิ่น (ภาคตะวันออก) 10 สมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ 12 Good Agricultural Practice ; GAP เทคนิคอย่างง่าย ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม 13 สมุนไพรพื้นบ้าน ชุมชนตะเคียนเตี้ย 14 ผ้ามัดย้อมจากเปลือกมะพร้าว 19 การทำน้ำมะพร้าวสกัดเย็น 21 แกงไก่กะลา 22 กาแฟมะพร้าว 23 สบู่สมุนไพร 25 การบูรณาการโครงการทำนุบำรุงศิลปะ 26 และวัฒนธรรมกับการเรียน การสอน 35 ภาพกิจกรรม

SCIRMUTTO สมุนไพร อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น คำว่า “สมุนไพร” หมายความว่า ยาที่ได้มาจากพืช สัตว์ แร่ธาตุจากธรรมชาติที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ โครงสร้างภายใน สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ และบำรุงร่างกายได้ ประเภทของสมุนไพร สมุนไพรที่ได้จากส่วนของพืชโดยตรง (พืชวัตถุ) โดยส่วนต่าง ๆ ที่นำมานั้นมีสารที่สามารถใช้เป็นยาได้ ได้แก่ ใบ ดอก ผล เปลือกผล เมล็ด เปลือกเมล็ด ราก หรือหัว ต้น แก่น กระพี้ เนื้อไม้ เปลือกไม้ สมุนไพรที่ได้จากอวัยวะของสัตว์ (สัตว์วัตถุ) ได้แก่ ตับ ดี นอ เขา เอ็น เลือด น้ำมัน มูล ฯลฯ เช่น ขี้ผึ้ง รังนก น้ำมันตับปลา สมุนไพรที่ได้จากแร่โดยธรรมชาติหรือสิ่งที่ ประกอบขึ้นจากแร่ธาตุต่าง ๆ ตามกรรมวิธี (ธาตุวัตถุ) ได้แก่ ตับ ดี นอ เขา เอ็น เลือด น้ำมัน มูล ฯลฯ เช่น ขี้ผึ้ง รังนก น้ำมันตับปลา สมุนไพรที่ได้จากแร่โดย ธรรมชาติหรือสิ่งที่ประกอบขึ้นจากแร่ธาตุต่าง ๆ ตามกรรมวิธี (ธาตุวัตถุ) นำมาใช้เป็นยา เช่น เกลือ กำมะถัน น้ำประสานทอง ดีเกลือ สารส้ม 1

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การแบ่งประเภทสมุนไพรอย่างง่าย สมุนไพรที่เป็นอาหาร -ออกฤทธิ์น้อย -ร่างกายย่อยสลายง่าย -ถูกควบคุมปริมาณในการใช้ ผักพื้นบ้าน คือ พรรณพืชพื้นบ้าน ผักพื้นบ้าน คือ พรรณพืชพื้นบ้านในท้องถิ่น ชาวบ้านนำมาบริโภคเป็นอาหาร เป็นยารักษา ในท้องถิ่น ชาวบ้านนำมาบริโภค โรค หรือนำมาทำเป็นของใช้สอยในครัวเรือน ผักพื้นบ้านนอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นอาหาร เป็นยารักษาโรค หรือ แล้ว ส่วนใหญ่ยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร เนื่องจากมีรสยาที่หลากหลายอยู่ในผักพื้นบ้าน นำมาทำเป็นของใช้สอยในครัว ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ให้ความสำคัญกับรสอาหารพื้นบ้าน ดังนี้ เรือน ผักพื้นบ้านนอกจากจะมี คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ส่วน รสฝาด มีสรรพคุณทางยา คือ ช่วยสมานแผล แก้ท้องร่วง บำรุงธาตุในร่างกาย เช่น ยอด ใหญ่ยังมีสรรพคุณเป็นยา มะม่วง ยอดมะกอก ยอดจิก ยอดกระโดน ขนุนอ่อน สมุนไพร เนื่องจากมีรสยาที่หลาก หลายอยู่ในผักพื้นบ้าน รสหวาน มีสรรพคุณทางยา คือ ช่วยให้มีการดูดซึมได้ดีขึ้น ทำให้ชุ่มชื้น บำรุงกำลัง แก้ อ่อนเพลีย เช่น เห็ด ผักหวานป่า ผักขี้หูด บวบ น้ำเต้า เชียงดา ผักหวานบ้าน รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณทางยา คือ แก้ท้องอืด แก้ลมจุกเสียด ขับลม บำรุงธาตุ เช่น ดอก กระทือ กระเทียม ดอกกระเจียวแดง ดีปลี พริกไทย ใบชะพลู ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย เร่ว รสเปรี้ยว มีสรรพคุณทางยา คือ ขับเสมหะ ช่วยระบาย เช่น ยอดมะขามอ่อน มะนาว ยอด ชะมวง มะดัน ยอดมะกอก ยอดผักติ้ว ส้มกุ้ง ผักกาดส้ม รสหอมเย็น มีสรรพคุณทางยา คือ บำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น แก้อ่อนเพลีย เช่น เตยหอม โสน ดอกขจร บัว ผักบุ้งไทย เป็นต้น รสมัน มีสรรพคุณทางยา คือ บำรุงเส้นเอ็น เป็นยาอายุวัฒนะ เช่น สะตอ เนียง ถั่วพู ฟักทอง กระถิน ชะอม ต้างหลวง รสขม มีสรรพคุณทางยา คือ บำรุงโลหิต เจริญอาหาร ช่วยระบาย เช่น มะระขี้นก มะแว้งต้น ลิงลาว ยอดหวาย ดอกขี้เหล็ก ใบยอ สะเดา เพกา มะขม 2

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สมุนไพรที่เป็นยา รูปแบบของสมุนไพรที่ใช้เป็นยา สามารถจำแนกได้ดังนี้ -ออกฤทธิ์รุนแรง -เกิดการสะสมภายในร่างกาย 1. รูปแบบที่เป็นของเหลว ยาเหล่านี้มักได้จากกรรมวิธีต่าง ๆ กันเช่น ยาต้มคือหั่นต้นยา -มีการ “สะตุยา” \"ประสะ” แล้วต้มกับน้ำ ยาชงเป็นยาแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั่วแล้วนำไปชงกับน้ำ น้ำคั้นสมุนไพร เตรียมโดยการเอาต้นสมุนไพรสด ๆ ตำให้ละเอียด เติมน้ำแล้วคั้นเอาน้ำยามารับประทาน และยาดองเตรียมโดยบดสมุนไพรให้แห้งห่อด้วยผ้าขาวบาง ดองในสุรา การสะตุยา ในเภสัชกรรมแผนไทย เภสัชวัตถุบางชนิด 2. รูปแบบที่เป็นของแข็ง ยาปั้นลูกกลอน เตรียมโดยหั่นต้นไม้ยาสดให้เป็นแว่นบาง ๆ ตาก ที่มาจากพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ อาจมีความเป็น แดดให้แห้ง บดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม 1 ส่วน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ ขนาด พิษอยู่ค่อนข้างสูง เช่น สลอด ยางสลัดได เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ปั้นเสร็จผึ่งแดดจนแห้ง ชะมดเช็ด สารหนู น้ำประสานทอง หรือปรอท เป็นต้น จึงต้องผ่านขั้นตอนเพื่อลดความเป็น 3. รูปแบบกึ่งแข็งกึ่งเหลว สมุนไพรเหล่านี้จะทำให้อยู่ในลักษณะพอทรงตัวได้ มักใช้เพื่อ พิษหรือแปรสภาพเสียก่อนที่จะนำมาเตรียม การรักษาภายนอก เช่น ยาพอก เตรียมโดยใช้ต้นสดตำให้แหลกหรือเหลว เป็นยา เช่น การสะตุ การประสะ หรือการฆ่า ฤทธิ์ 4. รูปแบบอื่น ๆ ที่มีลักษณะการใช้พิเศษ เช่น ใช้วิธีรมควัน เพื่อรักษาโรคของทางเดิน หายใจ หรือการรมควันเพื่อรักษาแผล และให้มดลูกเข้าอู่ในสตรีภายหลังคลอด https://www.rama.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/pois-cov/Herbal การสะตุ การประสะ เป็นการใช้ความร้อนหรือไฟ ทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลง ทางเภสัชกรรมแผนไทย มีความหมายของการประสะอยู่ 4 ประการคือ เช่น ยาดำ หรือรงทอง ทำให้พิษของตัวยาน้อยลง 1. การทำให้ตัวยามีพิษอ่อนลง เช่น การประสะยางสลัดได เช่น หัวงูเห่า หรือทำให้ตัวยาสะอาดขึ้น เช่น มหาหิงคุ์ 2. การทำให้ตัวยาสะอาดขึ้น เช่น การล้างเอาดินและสิ่งสกปรกออก หรือทำให้ตัวยาปราศจากเชื้อโรค เช่น ดินสอพอง 3. ปริมาณตัวยานั้นจะเท่ากับเครื่องยาทั้งหลาย เช่น ยาประสะกะเพรา นอกจาก หรือทำให้ตัวยาสลายตัวลง เช่น เกลือสมุทร กะเพราแล้วยังมีตัวยาอื่นอีก 6 อย่าง ให้ใส่ใบกะเพราเท่ากับตัวยาอื่นทั้ง 6 อย่าง แต่การใช้ความร้อนสะตุตัวยาในบางกรณี จะทำให้ รวมกัน ฤทธิ์ของตัวยาเพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้ลดลง เช่น สารส้มที่ 4. ใช้ในชื่อยาที่กระทำให้บริสุทธิ์ เช่น ยาประสะน้ำนม ที่ทำให้น้ำนมมารดาบริสุทธิ์ สะตุแล้วจะสูญเสียน้ำไปทำให้มีปริมาณของสารส้ม ไม่เป็นโทษต่อทารก ในบางตำรามีความหมายว่า ทำให้มากขึ้น เช่น ยาประสะ มากกว่าเดิม น้ำนม ที่ทำให้มารดาที่กินยานี้มีน้ำนมมากขึ้น อ้างอิง: https://www.healthcarethai.com/ 3

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น 8 ผักพื้นบ้านมีดีที่เป็นยา 2. ข่า 1.ก้านตง สรรพคุณ เหง้าแก่ รสร้อน เผ็ดปร่า ขับลม แก้ สรรพคุณ แก้พิษร้อนถอนพิษไข้ ฟกช้ำ บวม แก้พิษ ขับลมในลำไส้ รักษา กลาก ส่วนที่นำมาใช้ ราก ใบอ่อน ยอดอ่อน เกลื้อน การปรุงอาหาร ใบอ่อน และยอดอ่อน ส่วนที่นำมาใช้ เหง้าแก่ อ่อน ต้นอ่อน ดอกตูม นำมาต้มให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้ม การปรุงอาหาร เหง้าใช้ปรุงพริกแกง ใส่ในต้มยำ น้ำพริกหรือแกงแคร่วมกับผักอื่น ๆ ต้นและดอกกินสดได้ หรือลวกกินกับน้ำพริก 3 .แค สรรพคุณ ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้ไข้หัว 4.มะเขือพ  วง ลม ส่วนที่นำมาใช้ ยอด ใบ ฝักอ่อน ดอก สรรพคุณ ผลช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ กินอาหารให้เป็น ‘ยา’ thaihealth ส่วนที่นำมาใช้ ผลอ่อน การปรุงอาหาร ลวกจิ้มน้ำพริก หรือแกงส้ม การปรุงอาหาร กินสดหรือต้มจิ้มน้ำ พริก หรือนำไปแกง 5.ผักปลัง สรรพคุณ ก้านช่วยแก้พิษฝี แก้ท้อง 6.ตำลึง ผูก และลดไข้ ส่วนใบช่วยขับปัสสาวะ สรรพคุณ ใบมีรสเย็น ดับพิษร้อน ถอนพิษ ไข้ แก้แสบคัน แก้เจ็บตา ตาแดง ส่วนต้น และบรรเทาอาการผื่นคัน ช่วยแก้โรคผิวหนัง และลดน้ำตาลในเลือด ส่วนที่นำมาใช้ ยอด ใบ ผลอ่อน ส่วนที่นำมาใช้ ยอด ใบ ดอกอ่อน การปรุงอาหาร ลวกจิ้มน้ำพริก ผัด แกง ผลอ่อนนำไปดอง การปรุงอาหาร ลวกจิ้มน้ำพริก แกงส้ม แกงแค 7.มะระขี้นก 8.ชะพลู สรรพคุณ มีความเชื่อผิดๆ ว่ามะระขี้นกแก้โรค เอดส์ แต่ความจริง มะระขี้นกแค่ช่วยให้อาการดี ขึ้นเท่านั้น เพราะมะระขี้นกทำให้เจริญอาหารและ เป็นยาระบาย ช่วยแก้ลมเข้าข้อ หัวเข่าบวม บำรุง น้ำดี แก้โรคม้าม โรคตับ ขับพยาธิ น้ำต้มใบมะระ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ส่วนที่นำมาใช้ ยอด ใบ ผลอ่อน การปรุงอาหาร ยอด ใบ ลวกจิ้มน้ำพริก ผลนำไป สรรพคุณ ส่วนลูกขับเสมหะ ส่วนใบแก้ปวดท้อง จุกเสียด ผัดหรือแกงได้ ส่วนที่นำมาใช้ ใบ การปรุงอาหาร กินกับเมี่ยงคำ แกงกะทิ หรือน้ำพริก กินได้ทั้งสด และลวก   ที่มา: MGR Online (2560) https://mgronline.com/infographic/detail/9600000093292 4

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สมุนไพรไทยห้ามกินเป็นอาหาร ที่มา: หมอสมุนไพร (2561) https://www.facebook.com/watch/?v=143615152959190 1.รางจืด รางจืดเป็นยาเย็น ไม่แนะนำให้กินติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือนำมาใช้ เป็นส่วนประกอบในอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งอย.เคยออกมาเตือนแล้ว ด้วย เพราะมีเจ้าของผลิตภัณฑ์หัวใสต้องการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบ ในเครื่องดื่ม ดังนั้นให้กินได้เฉพาะเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น เช่น ลดไข้ ถอนพิษ แก้ร้อนใน 2.หญ้าหนวดแมว เป็นสมุนไพรไทย รสจืด มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ในคนที่เป็นนิ่วก้อนเล็ก ๆ ในไต ถ้านำมากินเป็นอาหารบ่อย ๆ จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ตัวยาที่กินเข้าไปอาจถูกขับออกมาหมด รวมไปถึงสารอิ เล็กโทรไลต์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วย 3.กวาวเครือ สมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจน ใครที่กินเป็นอาหาร เป็นเวลานานเพื่อหวังให้มีหน้าอกตูม เอวขอด สะโพกบึ้ม ต้องคิดให้ ดี ๆ เพราะหากมีการรับเข้าไป สะสมในร่างกายในปริมาณที่สูง จะ ทำให่สมดุลฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะจะก่อให้ เป็นโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม 4.ฟ้าทะลายโจร เป็นยารสเย็น การนำมากินเป็นอาหารประจำ ๆ นั้นต้องระวัง หรือแม้กระทั่ง กินติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ถึงแม้มีงานวิจัย ระบุว่า ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเสียก็ไม่แนะนำให้ กิน ในปริมาณที่เยอะ ๆ และติดต่อกันมาก ควรกินเฉพาะเมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ หรือมีไข้ เท่านั้น เช่น กินปริมาณ 250-500 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ 5

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ตัวอย่างสมุนไพรท้องถิ่น (ภาคตะวันออก) ปราจีนบุรี : มะขามป้อม ข้าวโพด ฉะเชิงเทรา : สระแก้ว : ไพล แคนตาลูป ว่านหางจระเข้ ถั่วเขียว น้ำนมราชสีห์ ชลบุรี : อ้อย จันทบุรี : พริกไทย กระวาน สับปะรด เร่วหอม ลูกสำรอง ไพล มังคุด ระยอง :ผักกระชับ กฤษณา ผักบุ้งทะเล ตราด :ขมิ้นชัน มะพร้าว ระกำ 6

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ว่านหางจระเข้ น้ำนมราชสีห์ สับปะรด กฤษณา ผักกระชับ 7 อ้อย

SCIRMUTTO ผักบุ้งทะเล อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ขมิ้นชัน มะพร้าว ระกำ มะขามป้อม ข้าวโพด 8

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ไพล แคนตาลูป ถั่วเขียว พริกไทย ลูกสำรอง มังคุด เร่วหอม 9

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ ชื่อสมุนไพร ไพล ชื่ออื่นๆ ปูเลย (ภาคเหนือ) ,ว่านไฟ (ภาคกลาง) ,ว่านปอบ (ภาค อีสาน) , มิ้นสะล่าง (รัฐฉาน-แม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber montanum (J.Koenig) Link ex A.Dietr. ชื่อพ้อง Zingiber cassumunar Roxb., Zingiber purpureum Roscoe วงศ์ ZINGIBERACEA ถิ่นกำเนิดไพล ไพลพรรณไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียแถบประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย พืชชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วไป ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยนั้นพบได้ทั่วทุกภาคของ ประเทศ แต่นิยมปลูกกันมากในแถบจังหวัด กาญจนบุรีสุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว ชื่อสมุนไพร กระชายดำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker. ชื่อวงศ์: ZINGIBERACEAE ชื่ออื่น: ว่านจังงัง ว่านพญานกยูง ว่านกั้นบัง ว่านกำบัง ว่าน กำบังภัย กะแอน ระแอน (ภาคเหนือ) ขิงทราย (มหาสารคาม) ส่วนที่ใช้: เหง้า สรรพคุณ: เหง้า รักษาโรคบิด แก้ท้องอืดเฟ้อ บำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด รักษา แผลในปาก ขับระดูขาว ขับปัสสาวะ ตำรายาไทย: ใช้บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อยและอาการเหนื่อยล้า และเพิ่มสมรรถภาพ ทางเพศ ขับลม เป็นยาอายุวัฒนะ (เชื่อว่าช่วยบำรุงสมรรถภาพทาง เพศชาย) แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง หรือโขลกกับเหล้าขาวคั้นน้ำดื่ม แก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อน ใช้กวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางใน เด็ก หรือต้มดื่มแก้โรคตา 10

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ ชื่อสมุนไพร ขมิ้นชัน ชื่ออื่น ๆ: ปูเลย (ภาคเหนือ) ,ว่านไฟ (ภาคกลาง) ,ว่านปอบ (ภาค อีสาน) , มิ้นสะล่าง (รัฐฉาน-แม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์: Zingiber montanum (J.Koenig) Link ex A.Dietr. ชื่อพ้อง: Zingiber cassumunar Roxb., Zingiber purpureum Roscoe วงศ์: ZINGIBERACEA ถิ่นกำเนิดไพล ไพลพรรณไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียแถบประเทศอินเดีย อิน โดนีเซีย มาเลเซีย และไทย พืชชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วไปใน แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยนั้นพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่นิยมปลูกกันมากในแถบจังหวัด กาญจนบุรีสุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว ชื่อสมุนไพร ใบบัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์: Centella asiatica Urban. วงศ์: UMBELLIFERAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ต้น เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี มักขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลำต้นเลื้อยยาวไปตาม พื้นดิน แตกรากฝอยตามข้อ แผ่ไป จะงอกใบจากข้อ ชูขึ้น 3 – 5 ใบ ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไต เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 5 ซม. ขอบใบหยัก ก้านใบยาว ดอก ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ขนาดเล็ก 2 – 3 ดอก กลีบ ดอกสีม่วง ผล เป็นผลแห้ง แตกได้ ส่วนที่ใช้ประโยชน์: ลำต้นและใบสด สรรพคุณทางยาและวิธีใช้ ใบกินเป็นผักสดและคั้นน้ำบำรุงหัวใน แก้อ่อนเพลีบ ขับปัสสาวะ ลด ความดันและแก้ช้ำใน ใบตำบดละเอียดใช้ทา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ได้ใบกินเป็นผักสดและคั้นน้ำบำรุงหัวใน แก้อ่อนเพลีบ ขับปัสสาวะ ลด ความดันและแก้ช้ำใน ใบตำบดละเอียดใช้ทา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ได้ 11

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง Good Agricultural Practice (GAP) จี เอ พี (Good Agricultural Practice ; GAP) คือการปฏิบัติทาง สมุนไพรสำหรับรับประทานต้องผ่านมาตรฐาน การเกษตรที่ดีในการผลิตพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ได้ การผลิต Good Manufacturing Practice มาตรฐาน ปลอดภัยทั้งต่อผู้ผลิตและ ผู้บริโภค (GMP) (Good Manufacturing Practice) หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร เป็น มาตรฐาน GAP เกณฑ์หรือข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่จำเป็นใน การผลิตและควบคุมเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตาม การเพาะปลูก การขนส่ง การแปรรูป และทำให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นการป้องกันและขจัดความเสี่ยงที่อาจ มาตรฐานการผลิตแบบครบวงจร ทำให้อาหารเป็นอันตราย เป็นพิษ หรือเกิด ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตวััตถุดิบ-การขนส่ง ความไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สมุนไพรประเภทยาและอาหารเสริม ต้อง ผ่านมาตรฐานของ Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S) 016 | DECEMBER ISSUE  OFF ROAD 12

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น เทคนิคอย่างง่าย ในการ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพร พื้นบ้าน 1 ค้ น ห า / ส ร้ า ง S T O R Y เ ส ริ ม ค ว า ม แ ก ร่ ง ด้ ว ย ข้ อ มู ล เ ชิ ง 2 วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ 3 ห า ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ห า G I M M I C จุ ด ข า ย ที่ น่ า ส น ใ จ 4 ห า ต ล า ด ที่ แ ต ก ต่ า ง 5 ทำ โ ฆ ษ ณ า ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ 6 อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม 13

SCIRMUTTO ชุมชน อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ตะเคียนเตี้ย ชุ ม ช น ต ะ เ คี ย น เ ตี้ ย ตั้ ง อ ยู่ ใ น พื้ น ที่ อ . บ า ง ล ะ มุ ง จ . ช ล บุ รี เ ป็ น แ ห ล่ ง ที่ ยั ง ค ง มี ก า ร ป ลู ก ม ะ พ ร้ า ว ที่ ใ ห ญ่ ที่ สุ ด ใ น จั ง ห วั ด ช ล บุ รี \"หมู่บ้านตะเคียนเตี้ย\" เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิม พื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์มีน้ำตลอดปี ผู้คนจึงยึดอาชีพทำนาเป็น หลัก วิถีชุมชนดำเนินมาอย่างเรียบง่าย ต่อมาได้มีการหันมาปลูก มะพร้าวกันมาขึ้นและยึดเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมะพร้าวได้ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อเขตเมือง ขยายตัวมีการกว้านซื้อพื้นที่บริเวณนี้เพื่อไปทำโครงการอสังหาต่างๆ ชาวบ้านเริ่มขายที่แล้วไปอยู่ที่อื่น จนทำให้ผืนป่ามะพร้าวลดน้อยลงไป เรื่อย ๆ ชุมชนตะเคียนเตี้ย ปลูกมะพร้าวกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ จากมะพร้าวเกิดขึ้นมากมาก หนึ่งในนั้นก็คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ออร์แกนิก 100 % ที่บ้านสวนป่า สาโรชกะแหวว แรกเริ่มเดิมทีแล้วคุณ สาโรชเข้ามาอยู่ที่ชุมชนตะเคียนเตี้ยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว บนพื้นที่ 7 ไร่ปลูกมะพร้าวเป็นหลัก มีพืชผสมผสาน โดยไม่ใช้สารเคมีทำให้สวน แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศเป็นอย่างดี ชาวตะเคียนเตี้ยจึงเกิดความคิดที่จะอนุรักษ์รักษาป่ามะพร้าวที่ ยังคงเหลืออยู่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้คู่ชุมชน โดยนำภูมิปัญญาท้อง ถิ่นที่มีมาต่อยอด สร้างสรรค์เป็นกิจกรรม และ แหล่งท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม โดยมีมะพร้าวเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงวิถีชุมชน เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การทำกาแฟมะพร้าว จากกาแฟที่ใช้นม เป็นส่วนผสม ก็ดัดแปลงน้ำมะพร้าวให้กลายเป็นท๊อปปิ้งบนกาแฟ ได้อย่างสวยงาม อร่อย ลงตัว หรือ การพาปั่นจักรยานเที่ยวชม วิถีชาวสวนมะพร้าว การปลอกเปลือกมะพร้าวที่ยังใช้แรงงานคน อยู่ เป็นต้น ชุมชนตะเคียนเตี้ย จึงถือว่าเป็นชุมชนของคนรักษ์ มะพร้าวอย่างแท้จริง 14

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น กิจกรรมที่ 1 การบูรณาการและการรวบรวมองค์ความรู้โครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย 15 มกราคม 2565 ภาค บรรยายออนไลน์ เวลา 9.00-11.00 น. ด้วยระบบ Zoom กิจกรรมที่ 2 22 มกราคม 2565 ภาคปฏิบัติ ณ สวนสมุนไพร ชุมชนตะเคี้ยนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เวลา 9.00-16.00 น RUNNING TIPS FROM DYLAN HALL 15

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น กิ จ ก ร ร ม นั ก ศึ ก ษ า สำ ร ว จ พื ช ส มุ น ไ พ ร สวนป่า สาโรช กะแหวว สวนป่าสาโรชกะแหวว เป็นบ้านของนายสาโรช โรจน์สกุลพานิช (คุณสาโรจ) ประธานกลุ่ม วิสาหกิจชุมชน คนรักษ์มะพร้าวตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กับนางดารณี โรจน์สกุลพานิช (คุณแหวว) ซึ่งเป็นที่สวนมะพร้าว มีพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่ ปลูกมะพร้าวเป็นหลัก มีพืชผสมผสาน พืช กินได้ ไม้ผลต่าง ๆ รวมอยู่ด้วย โดยทำการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมีทำให้เกิดเป็นป่าธรรมชาติ ขนาดเล็กขึ้นมา สร้างความร่มรื่นและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ จึงได้เรียกสวนป่านี้ว่า “สวนป่าสาโรชกะแหวว” 16

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น น้ำมันหอมระเหยจากว่านสาวหลง มีส่วนประกอบ ได้แก่ ว่านสาวหลง • (E)- BUT-1-ENYL-4-METHOXYBENZENE 85% • LIMONENE 2.2% ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amomum biflorum Jack • Β- PINENE 2.1% ชื่อเรียกอื่น : ว่านฤาษีสร้าง, ฤาษีผสม • CAMPHOR 1.8% ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE Limonene ลักษณะ : พืชล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน ส่วนเหนือดินสูง 30-80 ซม. ใบรูปขอบขนาน กาบใบแดง 2.4% แผ่นใบมีขนนุ่มปกคลุม ช่อดอกขนาดเล็ก เกิดที่เหง้าห่างจากโคนลำต้นเทียม จำนวนดอกน้อย เกิดจากเหง้า กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาว กลีบปากมีแถบสีเหลืองตรงกลาง อับเรณูสีขาว มี (E)- but-1-enyl-4-methoxybenzene จงอยยื่นพ้นไปด้านบน รูปสามแฉก ผลกลมสีเขียวแกมเหลือง มีหนามสีแดงปกคลุมว่านสาว 93.3% หลงเป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิงข่า มีเหง้าทอดเลื้อยอยู่ใต้ดิน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบอัดกัน แน่น ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปหอก ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบบิด เส้นกลางใบสีแดงเรื่อ ใบมีขน นุ่มปกคลุม ดอกออกตามเหง้าใต้ดิน ดอกย่อยสีเหลือง ก้านดอกยาว ปลายช่อโค้ง ผลเป็นช่อ คล้ายช่อพริกไทย สภาพนิเวศ : ชอบขึ้นในดินร่วนซุยระบายน้ำดี แสงแดดรำไร การขยายพันธุ์ : แยกกอ การใช้ประโยชน์ : มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ราก ใบและลำต้น ต้มน้ำดื่มแก้ร้อนใน ขับลมใน กระเพาะ คนสมัยก่อนนำใบมาขยี้ใส่ผมเพื่อให้มีกลิ่นหอม เกร็ดน่ารู้ : ทุกส่วนของว่านสาวหลงมีกลิ่นหอมแรง ใช้เป็นยาสมุนไพร ราก ใบและต้น ต้มน้ำ ดื่มแก้ร้อนใน ขับลมในลำไส้ หรือต้มน้ำอาบช่วยบำรุงผิวพรรณ เป็นพืชมงคลจึงนิยมปลูกไว้ รอบบ้าน บ้างว่าเป็นว่านเมตตามหานิยม ทาตามตัวให้เป็นเสน่ห์ ว่านมหาเสน่ห์จากสวนป่าlสาโรชกะแหวว นำมาสกัดเป็นหัวน้ำหอม แล้วนำมารวมกับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 17

SCIRMUTTO มะพร้าวพันธุ์หมูสีองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชื่ อสามัญ: Coconut ชื่ อวิทยาศาสตร์: Cocos nucifera Linn ชื่ อวงศ์: PALMAE ชื่ ออื่ น ๆ : มะพร้าวหมูสี มะพร้าวน้ำหอม น้ำมะพร้าวมีรสหวาน กลิ่นหอม จึงนิยมปลูกเป็นการค้า มี ลำต้นเตี้ย ตั้งตรง แข็งแรง อวบ ปล้องถี่ ติดผลได้เร็ว ดอกตัวผู้และดอกตัว เมียจะบานในเวลาใกล้เคียงกัน หากไม่มีมะพร้าวชนิดอื่นปลูกปะปนอยู่ด้วย ก็ จะทำให้มีการผสมเกสรในต้นเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ใบ จะแผ่กระจายรอบต้นคล้ายรูปวงกลม มีทางใบสั้น จั่น จะเกิดขึ้นบริเวณโคนทาง โดยมีผลขนาดต่างๆ ติดอยู่จำนวนมาก ผล มีลักษณะกลมรี ส่วนปลายผลจะเป็นจีบเล็กน้อย ผลจะโตสม่ำเสมอกัน ทั้งทะลาย ภายในผลจะมีน้ำที่มีรสชาติหวานหอม และมีเนื้อผลที่นุ่มน่ารับ ประทาน ในแต่ละผลจะมีน้ำหนักประมาณ 900 กรัม ประโยชน์ น้ำมันมะพร้าว-มีรสหวานเค็ม ใช้รับประทานเป็นยา บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง เมื่อใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับ เนื้อ-ใช้ประกอบในอาหารคาวหวาน หากนำมาเคี่ยว น้ำปูนใสอย่างละ 1 ส่วน คนผสมให้เข้ากันทีละน้อย ก็จะได้น้ำมันประมาณ 60-65% ซึ่งในน้ำมัน แล้วนำไปใช้ทารักษากลากเกลื้อน ใช้บำรุงผม ทาแผล มะพร้าวก็มีกรดไขมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการอยู่ ที่โดนน้ำร้อนลวก ผิวหนังที่แตกแห้ง และใช้แก้อาการ หลากหลายชนิด ของโรคผิวหนังต่าง ๆ น้ำมะพร้าว-มีรสหอมหวานชื่นใจ และยังมีสาร อาหารพวกน้ำตาล โปรตีน โซเดียม แคลเซียม โป น้ำมะพร้าว-ใช้ดื่มแก้กระหายน้ำ แก้นิ่ว แก้อาการบวม แตสเซียม ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูง เหมาะที่จะใช้ น้ำ อาเจียนเป็นเลือด ช่วยขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้ท้อง เป็นเครื่องดื่ม เสีย ช่วยให้ระบาย สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตหรือโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าว เนื่องจากจะได้รับผลเสีย มากกว่าผลดี และน้ำมะพร้าวยังสามารถนำไปแปรรูป สรรพคุณทางยา เป็นน้ำส้มสายชู เพื่อใช้ประกอบในอาหารต่าง ๆ ได้อีก มากมาย กะลา-ใช้แก้อาการปวดกระดูกและเส้นเอ็น โดยนำ มาเผาให้เป็นถ่านดำ แล้วบดให้เป็นผงละเอียด ใช้ ผสมน้ำดื่มครั้งละ ½-1 ช้อนชา วันละ 3-4 ครั้ง 18 ดอก-มีรสฝาดหวานหอม ใช้เป็นยาแก้อาการเจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ใช้กล่อม เสมหะ บำรุงโลหิต และแก้อาการปากเปื่อย ราก-รสฝาดหวานหอม ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย ช่วย ขับปัสสาวะ หรือใช้อมบ้วนปากแก้อาการเจ็บคอ

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ผ้ามัดย้อมจากเปลือกมะพร้าว วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ 1. ผ้าเส้นใยจากธรรมชาติ ผ้ามัสลิน ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหม 2. พืชที่ให้สีธรรมชาติ เปลือกมะพร้าวสับ ใบ สัก ใบมังคุด แก่นฝาง ใบมะม่วง 3. ปูนแดง 4. เกลือแกง เพื่อตรึงสี 5. สารส้ม 6. วัสดุสร้างลาย เช่น ลูกปัด เม็ดถั่วเขียว หนังยาง ไม้หนีบผ้า ตะเกียบ แผ่นไม้รูป ทรงต่าง ๆ ก้อนหิน ไม้ไอติม 19

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ขั้ น ต อ น ก า ร ทำ 05 ก า ร เ ต รี ย ม ผ้ า 1 นำผ้ามาทำความสะอาดเพื่อเอาสารเคลือบออก ก่อน โดยซักผ้าด้วยน้ำยาล้างจานเพื่อขจัดคราบ มัน จากนั้นแช่ด้วยสารส้ม ทำให้สีติดยึด นำผ้าที่มัดเตรียมไว้ไปแช่ในน้ำปูนแดงก่อนที่จะนำ ลงหม้อต้ม เพราะการแช่น้ำปูนแดงจะช่วยทำให้สี ติดผ้าได้ดีมากยิ่งขึ้น ก า ร เ ต รี ย ม สี ย้ อ ม 2 นำเปลือกมะพร้าวสับแช่น้ำ 1 คืน ผสมกับเปลือก ใบมังคุด จะทำให้สีเข้มขึ้น นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้น้ำในหม้อเดือด จากนั้นฉีก เปลือกมะพร้าวใส่ลงไปในหม้อ ใส่เกลือแกง อัตราส่วน น้ำ 40 ลิตร: เกลือแกง 4 ถ้วยซุป ช่วย ให้สีติดกับผ้า ต้มทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อสกัดน้ำย้อม จากนั้นกรองเปลือกมะพร้าวออกให้เหลือไว้แต่น้ำ ต้มเปลือกมะพร้าวและเปลือกใบมังคุด อาจจะใช้ ตะแกรงที่มีตาค่อนข้างเล็กเป็นตัวช่วยกรอง หรือ กรองผ่านผ้าขาวบาง ก า ร ย้ อ ม ผ้ า 3 นำมัดผ้าที่เรามัดเตรียมไว้ลงไปต้มในหม้อทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที พัก 5 นาที แช่ผ้าในกะละมังที่มี น้ำปูนแดง ไว้สักครู่ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วนำผ้าขึ้นจากหม้อแล้วนำ ไปล้างน้ำสะอาด ประมาณ 3 – 4 รอบแบบไม่ต้อง ขยี้ผ้า จากนั้นทำผ้าไปตากลมให้แห้ง 20

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การทำน้ำมะพร้าวสกัดเย็น ขั้ น ต อ น ก า ร ต ก ต ะ ก อ น แ ล ะ ก า ร ร ะ เ ห ย น้ำ ก า ร แ ช่ แ ข็ ง น้ำ ก ะ ทิ นำน้ำมันที่แยกได้ตั้งทิ้งไว้ในตู้ควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน นำน้ำกะทิที่คั้นเสร็จและผสมเข้ากันดีแล้ว แช่ในตู้ 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7-10 วัน เพื่อให้เกิดการ เย็นภายในไม่เกิน 4 ชั่วโมง หลังจากคั้นเสร็จ โดย ตกตะกอนแยกกากและน้ำอย่างสมบูรณ์ ไม่กระทบกระเทือนเป็นเวลา 18-24 ชั่วโมง กะทิและน้ำจะแยกชั้นกันชัดเจน (ชั้นล่างคือน้ำ ชั้น ขั้ น ต อ น ก า ร แ ย ก น้ำ อ อ ก จ า ก น้ำ มั น บนคือกะทิ) เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนต้องใช้ความประณีตมีสมาธิ เมื่อนำออกจากตู้เย็นและแยกน้ำออกจากกระทิแล้ว และความชำนาญในการช้อนแยกตักน้ำมันที่ลอยตัวอยู่ สามารถทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องให้เกิดการหมักตาม เหนือน้ำ แต่ยังมีกากกะทิลอยอยู่ด้านบน ธรรมชาติจนเกิดการแยกตัวของน้ำกับน้ำมันได้ ขั้นตอนนี้จะทำให้เราได้น้ำมันมะพร้าวที่ยังมีน้ำและ แต่โอกาสที่จะไม่เกิดน้ำมันเกิดน้อย บูดเสีย น้ำมันมี ตะกอนละเอียดที่ปะปนอยู่ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา กลิ่นเป็นไปได้สูงจึงต้องเพิ่มขั้นตอนการนำกะทิไป เปล่า แช่ในตู้แช่แข็งอีก 1-2 วัน น้ำมันที่ได้จึงยังไม่ใสและมีน้ำผสมอยู่ ก า ร ล ะ ล า ย ก ะ ทิ แ ช่ แ ข็ ง เ พื่ อ ใ ห้ เ กิ ด วิ ธี ก า ร แ ย ก น้ำ อ อ ก จ า ก น้ำ มั น น้ำ มั น 1. แยกโดยการเจาะรูด้านล่างของถุงพลาสติกใส น้ำกะทิที่แยกน้ำแล้วผ่านการแช่แข็งนำไปละลายน้ำ 2. แยกโดยวิธีกาลักน้ำแต่ต้องใช้ภาชนะที่เป็นแก้วหรือ แข็งและแยกน้ำมันในตู้ควบคุมอุณหภูมิอีก 2-3 วัน พลาสติกใสใส่กะทิ ขั้ น ต อ น ก า ร ก ร อ ง น้ำ มั น ใ ห้ บ ริ สุ ท ธิ์ 3. การใช้ภาชนะใส เช่น ขวดใส่น้ำดื่มที่มีก๊อกปิดเปิด นำน้ำมันที่ได้จากการตกตะกอนบรรจุในขวดขนาด ติดตั้งอยู่ด้านล่าง ใหญ่วางไว้ชั้นบนสุดของตู้กรอง เปิดกรองครั้งละ 1-2 ลิตร กรองด้วยกระดาษหยาบและกรองละเอียด 3 ชั้น กรองด้วยสำลีที่ใช้ทางการแพทย์เป็นการกรอง ละเอียดสุดอีก 2 ชั้น อัตราการกรองแบบละเอียดด้วยแรงโน้มถ่วงของ โลกอยู่ที่ 1 ลิตร/วัน 21

SCIRMUTTO แกงไก่กะลาอาหารองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ท้องถิ่นคนบางละมุง มะพร้าวหมูสีเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่ เป็นพันธุ์กินผลอ่อน น้ำมี รสชาติหวานแต่ไม่หอม ที่รอบหัวจุกมะพร้าวจะเป็นสีขาวเมื่อดึงขั้วจุกออก จะมีสีชมพูยังไม่มีเนื้อมะพร้าวเป็นกะลาอ่อนรสชาติกรุบ กรอบ มัน หวาน อ่อน หอมมะพร้าวอ่อน อร่อย หากรอบขั้วจุกมะพร้าวเป็นสีเขียวจะมีเนื้อ มะพร้าวใช้กินไม่ได้เพราะกะลาจะมีรสฝาด คนในชุมชนตะเคียนเตี้ยกินกะลามะพร้าวอ่อนกันมานาน และขาย เป็นมะพร้าวกินผลอ่อนโดยนำกะลามาบริโภคเป็นอาหารราคาขายอยู่ที่ลูก ละ 25-30 บาท ซึ่งกะลามะพร้าวอ่อนจะเก็บได้เมื่อลูกมะพร้าวออกทะลาย 2-3 เดือน ใน 1 ปีจะมีผลผลิต 12 ทะลายต่อต้น หากเป็นมะพร้าวที่แก่ กว่านี้ราคาขายอยู่ที่ลูกละ 4-5 บาท ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แทน ผลผลิตกะลามะพร้าวอ่อนมีทุกวันและยอดสั่งจองก็มีทุกวันเช่นเดียวกัน ในการผลิตกะลามะพร้าวอ่อนเพื่อการบริโภคนั้นจะนำส่วนกะลาอ่อนมาหั่น เป็นชิ้นเล็กๆ 1 รอบการผลิตใช้มะพร้าว 50 ลูก ได้ผลผลิตประมาณ 2 กิโลกรัม เนื้อกะลามะพร้าวอ่อนสีไม่คล้ำเคล็ดลับคือเมื่อฝานเนื้อกะลาแล้ว นำแช่ในน้ำหมักมะนาวที่ผสมกับน้ำตาลทรายแดง ภาพแสดง กะลาอ่อนมะพร้าวหมูสี นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้ฝึกปฏิบัติทำแกงไก่กะลา \"ลองชิมฝีมือหนูไหมคะ\" 22

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น แกงไก่กะลา ส่ วนผสม 1.พริกชี้ฟ้าแดง 7 เม็ด 2.ตะไคร้ 3 ต้น 3.พริกแห้ง 7 เม็ด B Y ส ม พัก ต ร์ข้า ว แ ก ง 4.พริกขี้หนู 3 เม็ด แกงไก่กะลา\" เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวบ้านตะเคียนเตี้ย ที่นี่จะนิยม 5.กระเทียม 2 ถ้วย นำลูกมะพร้าวอ่อน ๆ (ที่กะลายังไม่เเข็ง) มาปอกเปลือก และแซะ 6.ข่าซอย 3 ช้อนโต๊ะ เอาแต่ส่วนเนื้อกะลาออกมาเป็นส่วนประกอบของอาหารโดยจะนำ 7.ผิวมะกรูก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ กะลาที่ได้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ แล้วนำไปล้างน้ำเพื่อใช้เป็นส่วน 8.ดอกกระเพรา 2 ถ้วยตวง ผสมของแกง 9.ดอกผักชี 2 ถ้วยตวง 10.พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ 11.เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ 12.กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ 13.ไก่บ้าน 2 ขีด วิ ธี การทำ 14.มะพร้าวอ่อน 2 ขีด 1.เลือกมะพร้าวพันธุ์พื้นเมืองที่ชื่อ “หมูสี” เพราะเนื้อกะลาหวาน ฝาดน้อย ใช้มะพ ร้าวอ่อนที่ยังไม่มีเนื้อ เพราะจะกรอบ ไม่แข็งเกินไป 2.กะลามะพร้าวอ่อน ได้จากในลูกมะพร้าวอ่อนที่ยังไม่มีเนื้อ เวลาผ่ามะพร้าวออกมาจะสามารถใช้ช้อนตักกะลาอ่อนออกมาได้เลย ถ้าช้อนตักไม่ออกแสดง ว่ากะลาแก่เกินกว่าที่จะนำมาแกงแล้ว จากนั้นนำมาหั่น แล้วต้ม 3.นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกรวมกันจนละเอียด จะได้พริกแกงสำหรับแกงไก่กะลา 4.ตั้งกระทะให้ร้อน จากนั้นนำเนื้อไก่ไปรวนจนเกือบสุก แล้วใส่พริกแกง รอจนได้กลิ่นหอมฉุย จากนั้นเติมน้ำลงไปพอขลุกขลิก รอจนน้ำเดือดแล้วปรุงรส PดA้วGยEน้1ำ0ปลา น้ำตาล จากนั้นใส่กะลาที่หั่นไว้ลงไป รอจนเดือดอีกรอบ ปิดไฟ แล้วโรยใบกะเพรา คลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ 23

กาแฟมะพร้าว 1 กาแฟสดที่ต้มแล้วชงกับน้ำตาลอ้อย 2 ใช้น้ำกะทิสดจากมะพร้าวแทนนมหรือครีมเทียม โดยตีฟองขณะร้อน 3 วิธีดื่มห้ามคน 4 วิธีดื่มห้ามคน รสชาติหอมมันจากกะทิ 23

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น กาแฟมะพร้าวตะเคียนเตี้ย 24

อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่นส บู่ ส มุ น ไ พ ร น้ำ มั น ม ะ พ ร้ า วSCIRMUTTO สมุนไพรท้องถิ่นที่นำมาทำสบู่จะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิว และถนอมผิวพรรณ ได้แก่ ไพล ขมิ้นชัน มะขาม น้ำมันมะพร้าว ทานาคา ซึ่งอาจจะมีการผสมวัถุดิบที่ถนอมผิว อื่น ๆ เข้าด้วย เช่น กากกาแฟ เมล็ดอัลมอนด์ แต่ตัวที่เป็นพระเอกของการทำสบู่ที่ชุมชนตะเคียนเตี้ยก็คือ \"น้ำมันมะพร้าว\" ที่จะผสมผสานไป ในสบู่ทุกสุตรที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน โดยน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการชำระล้างคราบเหงื่อไคล ซึ่งใน การทำสบู่จะมีวัตถุดิบที่มากมาย มีขั้นตอนและกระบวนการผลิตที่ใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนการขึ้น รูปสบู่อาจจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน เพื่อให้สบู่คงรูปในแบบก้อนก่อน จึงจะสามารถแกะออกมาจากแม่พิมพ์เพื่อ นำมาใช้ได้ 25

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น โครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย การบูรณาการโครงการทำนุ บำรุงศิลปะและวัฒนธรรมกับ การเรียนการสอน Styling รายวิชาที่บูรณาการโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความ เป็นไทยกับการจัดการเรียนการสอน แนวทางการทำงาน วิทยาการคอมพิวเตอร์ เตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การวิเคราะห์และออกแบบระบบ อาจารย์ประจำหลักสูตรพิจารณารายวิชา การบริหารโครงการทางด้าน ที่สอดคล้องกับองค์ความรู้จากการทำนุ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการ บำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย สื่อสาร ระบุกิจกรรมการบูรณาการใน มคอ. 3 โภชนศาสตร์ หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมิน เทคโนโลยีผักและผลไม้ ผล การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร อาจารย์ประจำวิชาทำแผนการใช้ ประโยชน์/การบูรณาการโครงการทำนุ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม วัตถุดิบธรรมชาติและสมุนไพร บำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพื่อสุขภาพและความงาม กับพันธกิจอื่นส่งให้คณะกรรมการด้าน การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความ เทคโนโลยีชีวภาพ หน่วยปฏิบัติการวิศวกรรม เป็นไทยพิจารณา กระบวนการชีวภาพ ให้นักศึกษาและบุคลากรเข้าร่วมกิจกรรม ส่งเสริมให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการ สร้างสรรค์งาน/กิจกรรมด้านการทำนุ บำรุงศิลปวัฒนธรรม และความเป็นไทย ประเมินผลความสำเร็จของการบูรณา การตามวัตถุประสงค์ การวัดผลและการ เรียนรู้ของรายวิชาตามแบบรายงานความ สำเร็จของการบูรณาการ ใน มคอ. 5 อุตสาหกรรมอาหารและการบริการ อาหารไทย 26

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การบูรณาการโครงการทำนุ บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการเรียนการสอน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการ อาหาร วิชาเทคโนโลยีผักและผลไม้ 1. ให้นักศึกษาศึกษาสมุนไพรไทยในท้องถิ่น 2.ให้นักศึกษารายวิชาการแปรรูปอาหาร 2 สามารถแปรรูปสมุนไพรเป็นผลิตภัณฑ์ อย่างน้อย 1 ชนิด โดยใช้หลักการแปรรูป อาหาร 3. ให้นักศึกษาจัดทำคลิปการแปรรูป สมุนไพรจากการศึกษา เพื่อเผยแพร่ การสกัดน้ำมันหอมระเหย การสกัดสารหอมระเหย จากว่านสาวหลง จากใบเตยหอมด้วยน้ำ การสกัดน้ำมันมะพร้าวด้วย การสกัดผักบุ้งทะเลด้วย วิธีการแช่เยือกแข็ง เอทานอล 27

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีการอาหาร วิชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร 1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง มะปี๊ด หรือ ส้มจื๊ด (KUMQUATS หรือ CUMQUATS) ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย พืชครัวประจำถิ่นเมืองจันท์ 2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการประยุกต์ใช้สมุนไพรในการ ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus japonica Thunb. พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร วงศ์ส้ม RUTACEAE 3. เพื่อส่งเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการ 4. เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.เพื่อรวบรวม และเผยแพร่ผลงานนักศึกษาสู่สาธารณะ อันเป็นการสร้างความรับรู้ในศักยภาพของ นักศึกษา และกิจกรรมการเรียนการสอนของคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวัน ออก นักศึกษาศึกษาสมุนไพรไทยในท้องถิ่น นักศึกษาผลิตอาหารไทยโดยใช้สมุนไพรในท้องถิ่น โดยประยุกต์ใช้ความรู้ในรายวิชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร อภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน #ซอสดิปส้มจี๊ด #เมอแรงค์มะปี๊ด 28

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และ รายงานคุณค่าทางโภชนาการและ เทคโนโลยีการอาหาร สารพฤกษเคมีที่สําคัญของสมุนไพรที่ส่งผลต่อสุขภาพ วิชาโภชนศาสตร์ วิธีการดำเนินงาน 29 1. ให้นักศึกษาศึกษาสมุนไพรไทยในท้องถิ่น 2.ให้นักศึกษานำเสนองานในรูปแบบ คลิปวิดิโอ/power point หัวข้อ “คุณค่าทาง โภชนาการและสารพฤกษเคมีที่ส าคัญของสมุนไพรที่ส่งผลต่อสุขภาพ โดย นศ.ได้ เลือกสมุนไพรจากสวนสมุนไพร ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ยมาคนละชนิดเพื่อนำเสนอโดย ประยุกต์ใช้ความรู้ในรายวิชาโภชนศาสตร์ 3. อภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การบูรณาการโครงการทำนุ วิธีการดำเนินงานในการใช้ประโยชน์/การบูรณาการ บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการเรียนการสอน ให้นักศึกษาศึกษาการสกัดสารสำคัญจากวัตถุอินทรีย์ จากตำรา สื่อการเรียนการสอน วีดีโอ และค้นคว้า ทางอินเตอร์เน็ต สาขาวิชาเทคโนโลยี ให้นักศึกษา สกัดสารสำคัญคอร์ไดเซปินในเห็ดถั่งเช่าสีทองโดย ชีวภาพ ประยุกต์ใช้ความรู้ในรายวิชาหน่วยปฏิบัติการทางวิศวกรรม กระบวนการชีวภาพ วิชาหน่วยปฏิบัติการวิศวกรรมกระบวนการ ชีวภาพ อภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน 1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความ เข้าใจเรื่องภูมิปัญญาสมุนไพรไทย 2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการประยุกต์ใช้ความ รู้เกี่ยวกับสารอาหารและสารพฤกษเคมีใน สมุนไพรต่อการ ป้องกันโรคและเสริมสุข ภาพ 3. เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 4.เพื่อรวบรวม และเผยแพร่ผลงาน นักศึกษาสู่สาธารณะ อันเป็นการสร้าง ความรับรู้ในศักยภาพของ นักศึกษา และ กิจกรรมการเรียนการสอนของคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ภาพตัวอย่างปฏิบัติการการสกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบอินทรีย์ 30

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การบูรณาการโครงการทำนุ บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการเรียนการสอน สาขาวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศและการ สื่อสาร วิชาการบริหารโครงการทาง ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร 1. นักศึกษามีความรู้จักพืชสมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. นักศึกษาสามารถนำความรู้จากการเรียน ในรายวิชา 0694305 การบริหาร โครงการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร และ 0694202 คอมพิวเตอร์กราฟิก มาประยุกต์ใช้ เพื่อ จัดทำ วางแผน และควบคุมโครงการให้ สำเร็จ 3. ผลงานของนักศึกษามีการรวบรวมในรูป สื่อ และได้เผยแพร่สู่สาธารณะ 4. องค์ความรู้รายวิชาที่บูรณาการกับ อนุรักษ์ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย 1 เรื่อง 31

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภู มิ ปัญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ภาพกิจกรรมการนำเสนอผลงานสื่อเรียนรู้ออนไลน์พืชสมุนไพร 32

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การบูรณาการโครงการทำนุ พริกแกงตะเคียนเตี้ย บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม (สูตรต่อยอด) กับการเรียนการสอน By อ.เกษมสุข เขียวทอง สาขาวิชาอุตสาหกรรม อาหารและการบริการ วิชาอาหารไทย ส่ วนผสม พริกขี้หนูสวนสีเขียว-สีแดง 20 เม็ด กระเทียมไทย 3 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา พริกไทย ครึ่งช้อนชา ดอกกะเพราแดง 3 ช้อนโต๊ะ เนื้อปลาสุก 150 กรัม วิ ธี การทำ โ ข ล ก ส่ ว น ผ ส ม ทุ ก อ ย่ า ง ร ว ม กั น จ น ล ะ เ อี ย ด จ ะ ไ ด้ น้ำ พ ริ ก ป ริ ม า ณ 8 0 - 9 0 ก รั ม น้ำพริกแกงที่ได้สามารถใช้ทำอาหารได้หลายเมนู เช่น ขนมจีนน้ำยา แกงหน่อไม้ดอง ผักพริกถั่วฟักยาว แกงไตปลา เป็นต้น 33

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น การบูรณาการโครงการทำนุ คุกกี้ตัวหนอนไส้สับปะรด บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการเรียนการสอน สาขาวิชาผลิตภัณฑ์เพื่อ สุขภาพและความงาม วิชาวัตถุดิบธรรมชาติและสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม ส่ วนผสม แป้งเค้ก 500 กรัม เนยสด 300 กรัม น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม ผงฟู 2 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง วิ ธี ทำสั บปะรดกวน กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 1 . สั บ เ นื้ อ สั บ ป ะ ร ด ไ ป เ ป็ น ชิ้ น เ ล็ ก ๆ ห รื อ นำ ไ ป ปั่ น ด้ ว ย เ ค รื่ อ ง ปั่ น ใ ห้ พ อ ห ย า บ ๆ สีผสมอาหารตามชอบ (สูตรนี้ใชสีส้ม ม่วงและเขียว) 2 . เ ท เ นื้ อ สั บ ป ะ ร ด ที่ ปั่ น แ ล้ ว ใ ส่ ล ง ใ น ก ร ะ ท ะ เ ท ฟ ล อ น ( ห รื อ สับปะรดกวน ก ร ะ ท ะ ท อ ง เ ห ลื อ ง ) นำ ขึ้ น ตั้ ง ไ ฟ ก ล า ง อ่ อ น ก ว น ไ ป เ รื่ อ ย ๆ ร อ จ น ส่ ว น ผ ส ม เ ริ่ ม เ ดื อ ด 3 . ใ ส่ น้้ำ ต า ล ท ร า ย ล ง ไ ป ค น ใ ห้ ล ะ ล า ย เ ข้ า กั น ก ว น ไ ป เ รื่ อ ย ๆ จ น ส่ ว น ผ ส ม เ ริ่ ม แ ห้ ง ป ร ะ ม า ณ 1 ชั่ ว โ ม ง เ นื้ อ สั บ ป ะ ร ด ก ว น จ ะ เ ริ่ ม ใ ส มี สี เ ข้ ม ขึ้ น แ ล ะ เ ห นี ย ว จ า ก นั้ น ปิ ด ไ ฟ พั ก ไ ว้ จ น เ ย็ น ก่ อ น นำ ใ ส่ ภ า ช น ะ ที่ มี ฝ า ปิ ด มิ ด ชิ ด วิ ธี ทำคุ กกี้ ตั วหนอน 1 . ใ ส่ เ น ย ล ง ใ น เ ค รื่ อ ง ตี แ ป้ ง ตี จ น เ น ย ขึ้ น ฟู จ า ก นั้ น ค่ อ ย ๆ ท ย อ ย ใ ส่ น้ำ ต า ล ไ อ ซิ่ ง ล ง ไ ป ตี ใ ห้ เ ข้ า กั น 2 . นำ ไ ข่ ใ ส่ ล ง ไ ป ตี กั บ เ น ย ต า ม ด้ ว ย เ ก ลื อ ผ ง ฟู ก ลิ่ น ว า นิ ล ล า แ ล ะ แ บ่ ง แ ป้ ง เ ค้ ก ใ ส่ ล ง ไ ป 3 ร อ บ ตี ใ ห้ เ ข้ า กั น ดี 3 . พ อ ตี เ ส ร็ จ แ ล้ ว พั ก ไ ว้ ใ น ตู้ เ ย็ น 3 0 น า ที แ บ่ ง แ ป้ ง อ อ ก ม า ผ ส ม สี ต า ม ช อ บ ปั้ น เ ป็ น ก้ อ น ก ล ม เ ล็ ก สำ ห รั บ แ ต่ ง ส่ ว น แ ป้ ง ที่ เ ห ลื อ ปั้ น ใ ห้ ก ล ม แ ล้ ว ก ด ใ ห้ แ บ น ใ ส่ ไ ส้ สั บ ป ะ ร ด ล ง ไ ป แ ล้ ว ปั้ น เ ป็ น รู ป ท ร ง รี ค ล้ า ย ตั ว ห น อ น 4 . นำ เ ข้ า เ ต า อ บ ที่ อุ ณ ห ภู มิ 1 6 0 อ ง ศ า เ ซ ล เ ซี ย ส น า น 1 5 น า ที พ อ อ บ เ ส ร็ จ แ ล้ ว เ ก็ บ ใ ส่ ข ว ด โ ห ล 34

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น ภาพกิจกรรม RUNNING TIPS FROM DYLAN HALL 35

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น RUNNING TIPS FROM DYLAN HALL 36

SCIRMUTTO อ ง ค์ค ว า ม รู้ภูมิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่น RUNNING TIPS FROM DYLAN HALL 37

ภูมิปโัคญรงญกาาสรมอุนนุไรัพกรษ์ไทย วั น ที่ 1 5 แ ล ะ วั น ที่ 2 2 ม ก ร า ค ม 2 5 6 5 ขอขอบคุณ คุณสันติ ทิพยวรการกูร จาก วิสาหกิจชุมชนต้นก่อหลวง จ. จันทบุรี คุณสาโรช โรจน์สกุลพานิช จาก วิสาหกิจชุมชน คนรักษ์มะพร้าวตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี รวบรวมข้อมูล ออกแบบ และจัดทำโดย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ดร.สุธีรา อานามวงษ์ 43 หมู่ 6 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 อดิศักดิ์ จำปาสี http://science.rmutto.ac.th Facebook: https://www.facebook.com/sci.rmutto/ https://www.facebook.com/sa.sci.rmutto โทร. 033-136099 ต่อ 1334 Email: [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook