Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ แบบฝึก แบบทดสอบ สื่อออนไลน์

ใบความรู้ แบบฝึก แบบทดสอบ สื่อออนไลน์

Published by Nanthiya Chumdee, 2023-07-25 06:14:13

Description: ใบความรู้ แบบฝึก แบบทดสอบ สื่อออนไลน์

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ แบบฝึก แบบทดสอบ ประกอบชุดการสอนการจดั กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนา ชีวิตส่วนตนและสังคม ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โดยวิธีกลุ่มสมั พันธ์รว่ มกับ เทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ นางสาวนันทิยา ชุมดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ กล่มุ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน (กจิ กรรมแนะแนว) โรงเรยี นเทศบาล 6 (วัดตนั ตยาภิรม) สังกัดสำนกั การศกึ ษา เทศบาลนครตรัง

ใบความรู้ การเลน่ คอมพวิ เตอร์ใหส้ นุก มสี าระ การเลน่ คอมพวิ เตอรอ์ ย่างไร ให้มคี วามสขุ และมสี าระ แนวทางการปฏิบัติ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. รจู้ ักจัดสรรเวลา หรอื การแบง่ เวลาว่าจะเริม่ เล่นเมื่อไร เวลาไหน และเม่ือไรจึงจะยตุ ิ การเล่น เป็นการฝึกวินยั และบริหารเวลาซ่งึ มีความสำคัญมากในชวี ติ มนษุ ย์ ๒. เลน่ คอมพิวเตอรใ์ นสิ่งที่มสี าระ เช่น หาความรู้ในการทำรายงานหรอื คน้ ส่ิงต่างๆ และเล่นเพื่อการพักผ่อน ความเพลดิ เพลนิ เช่น เกม คยุ แชทกับเพื่อน เป็นต้น ๓. สง่ เสริม และสนบั สนุนใหม้ ีการพูดคยุ ในเรอ่ื งนัน้ ๆ ท้ังท่ีเป็นสาระ และการพักผ่อน ๔. ส่งเสริมให้เล่นร่วมกนั เป็นกล่มุ เปน็ หมู่ อาจเป็นกล่มุ เพอื่ นๆ หรือคนในครอบครวั เพือ่ แลกเปล่ียนความรู้ ความคิดเห็นซง่ึ กันและกนั รวมทั้งอภิปรายร่วมกนั เพือ่ ให้ได้ ประโยชนส์ งู สดุ ๕. ต้องเข้าใจว่า ถ้าใชเ้ วลาไปกบั การเลน่ คอมพวิ เตอร์มากเกินไปหรือหลงว่าคนสามารถ บงั คบั คอมพิวเตอรไ์ ด้ หรอื เล่นได้ดีมาก จะทำให้ติดอย่กู ับคอมพิวเตอร์จนอาจหลดุ โลกจากความเป็นจริงหรือหลีกหนีสังคม ไม่เรยี นหนังสือ หรอื ขาดความรบั ผิดชอบ ในหนา้ ทห่ี ลักของคนทีค่ วรเปน็ ๖. หาวธิ ีการทจี่ ะส่งเสริมใหม้ ีความคดิ สร้างสรรค์ จากการใชค้ อมพิวเตอร์ ๗. ส่งเสริม และสนบั สนุนใหม้ ที ักษะในการใชค้ อมพวิ เตอร์ ทจี่ ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ชวี ติ ประจำวันให้มากท่ีสดุ ๘. พยายามทำความเขา้ ใจว่าคอมพิวเตอรเ์ ปน็ ส่วนหนึง่ ของชวี ติ เท่านน้ั ควรใหเ้ วลาเพยี งท่ีจะสง่ เสริมใหช้ ีวติ ประจำวันดีขน้ึ ไม่ใชท่ ุ่มเทเวลาท้ังหมด ไปกบั การเล่นคอมพิวเตอร์

2 ๙. การเลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ เป็นการส่งเสรมิ ทักษะเท่านั้น มิใชเ่ ล่นเพียงเพือ่ แพ้เอาชนะ แต่เพียงอย่างเดยี ว ๑๐. สง่ เสริมใหม้ กี ารแลกเปลี่ยนเทคนคิ หรือทกั ษะตา่ งๆ กบั กลมุ่ เพ่ือนหรอื สมาชกิ ใน ครอบครวั ด้วยกัน วัยรนุ่ กับการเล่นคอมพวิ เตอร์ วัยรุน่ ชอบความต่นื เตน้ และความแปลกใหม่ มีความอยากรู้ อยากเหน็ อยากทดลอง ซ่ึงเป็นลกั ษณะท่ัวไป นอกจากนี้วัยร่นุ ตอ้ งการแสดงออกถึงความคิดเห็น ความสามารถของตน ว่าเก่งอย่างไร แนแ่ ค่ไหน โอ้อวดส่ิงทตี่ นคดิ ว่าเกง่ เชน่ ความสามารถในการเล่น และควบคุมคอมพิวเตอรเ์ พ่ือการพกั ผอ่ น เช่น การเล่นเกมต่างๆ หรือเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ ฝึกสมาธิ ความจำ ลับสมองเพื่อให้เกิดประโยชน์กับ การนำไปใช้ในการดำรงชีวิตของเขาต่อไปได้ และการท่ผี ใู้ หญส่ ามารถดูแล ควบคมุ การใชค้ อมพวิ เตอร์ ของวัยรุน่ จะตอ้ งมีความรู้ทีถ่ กู ตอ้ งทัง้ ด้านคอมพิวเตอร์ และ ตอ้ งมีทัศนคตทิ ่ดี ี ส่งเสริมสนับสนนุ การเล่นคอมพิวเตอร์ เพ่ือ ชว่ ยให้วัยรุ่น มที ักษะและเป็นประโยชนต์ ่อชวี ติ ประจำวันทเี่ ก่ยี วขอ้ งสาระ ความรู้และการพักผอ่ น โดยใหเ้ กิดการแลกเปลยี่ นเทคนคิ ข้อคิดเห็น วิธกี ารระหวา่ งวยั รนุ่ ด้วยตนเอง และ หรอื ระหวา่ ง วยั รุ่นกบั ผู้ใหญ่ก่อให้เกิดการเรียนรมู้ ีสาระและสนกุ กบั การเล่น คอมพวิ เตอร์ อย่างสร้างสรรค์เปน็ การใชเ้ วลาไดอ้ ยา่ งคุม้ คา่ และเกิดประโยชน์สูงสุดเพ่ือเป็นการพัฒนาเด็กวัยรุ่นท่ีกำลัง จะเตบิ โตไปเปน็ ผู้ใหญ่ทม่ี คี ุณภาพ และเป็นกำลงั สำคัญกับ การพัฒนาประเทศชาติตอ่ ไป ในอนาคต อา้ งอิงจาก พญ.จริ าภรณ์ ประเสรฐิ วิทย์. คู่มือคา่ ยการทกั ษะการสร้างชีวิต. หนา้ ๑๘ – ๒๒.

3 แบบฝึกประกอบการสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรอ่ื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรม เลน่ คอมพิวเตอรใ์ หส้ นกุ มสี าระ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบฝกึ กิจกรรม เล่นคอมพิวเตอร์ใหส้ นกุ มีสาระ โดยเทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A ช่อื กล่มุ ....................................................ช้นั ............ รายชื่อสมาชิกกลมุ่ 1……………………………………….........………………..4………………………………....………………..….. 2………………………………………………….........……..5………………....………………………..………….. 3…………………………………………………….........…..6………………………....…………………..……….. คำชแี้ จง ใหส้ มาชิกในกลุม่ ช่วยกนั ตอบคำถามตอ่ ไปน้ี (๑๐ คะแนน) 1. เมอื่ นกั เรียนได้ศกึ ษาจากใบความรู้ เรอื่ ง เล่นคอมพิวเตอรใ์ หส้ นุก มสี าระ แล้ว นักเรยี นคิดและรู้สึกอย่างไร กบั ส่งิ ท่ีนกั เรียนได้รู้จากกิจกรรมนี้ (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 2. นักเรยี นคดิ วา่ เล่นคอมพวิ เตอรใ์ ห้สนกุ มสี าระ มโี อกาสเปน็ ไปได้และมโี อกาสเป็นจริงได้ หรือไม่อย่างไร (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .....................................................................................................................................

4 3. ถา้ นักเรยี นมเี พ่อื นตดิ เกม ไม่ยอมเรยี นหนงั สือ แก้ไขพฤตกิ รรมไม่ได้ นักเรยี นจะมีวิธี อธบิ ายใหผ้ ใู้ หญ่เชื่อได้ว่า นักเรยี นทตี่ ิดเกมสามารถเปลยี่ นพฤติกรรมไดจ้ ริง นกั เรียนทำ ไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... 4. ถ้านกั เรยี นพบเหน็ เพือ่ นนกั เรียนตดิ เกม นกั เรยี นควรช่วยเหลอื หรือไม่ อยา่ งไร (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ๕. นักเรยี นบอกวธิ เี ล่นคอมพวิ เตอรใ์ ห้สนกุ และมีสาระได้จริง มา ๓ วิธี (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................

5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน แบบฝกึ กิจกรรม เลน่ คอมพิวเตอรใ์ ห้สนุก มีสาระ ขอ้ 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1 บอกสิ่งที่ไดจ้ ากการอ่าน บอกสงิ่ ทีไ่ ด้จากการอา่ น บอกสิ่งทไ่ี ด้จากการอา่ น ใบความร/ู้ บอกความรู้สึก/ ใบความรู้/บอกความรูส้ กึ / ใบความรู/้ บอกความรู้สึก/ เลา่ ประสบการณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เล่าประสบการณ์ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง เลา่ ประสบการณท์ ี่เกีย่ วขอ้ ง ไดช้ ดั เจน ตรงประเด็น ได้แตไ่ มช่ ดั เจน ตรงประเด็น ไม่ได้ บางสว่ น 2 บอก/อธบิ าย/เลา่ บอก/อธบิ าย/เลา่ บอก/อธบิ าย/เลา่ ประสบการณไ์ ดช้ ดั เจน ประสบการณไ์ ดช้ ัดเจน แต่ ประสบการณ์ไม่ชดั เจน พรอ้ มบอกเหตผุ ลประกอบ บอกเหตุผลประกอบไม่ได้ และไมม่ เี หตุผลประกอบ ได้ 3 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชื่อมโยงประสบการณ์เดมิ เชื่อมโยงประสบการณ์เดิม เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ กบั ความรูใ้ หม่ได้ชดั เจน กับความรูใ้ หมไ่ ด้แต่ไม่ชดั เจน กับความรู้ใหมไ่ ด้ พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ได้ 4 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดิม เชือ่ มโยงประสบการณเ์ ดมิ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดิม กับความรใู้ หมไ่ ดช้ ดั เจน กบั ความรใู้ หม่ไดไ้ มค่ อ่ ยชดั กบั ความรู้ใหม่ได้ พร้อมบอกเหตุผลประกอบ ชัดเจน บอกเหตุผลประกอบ ได้ ไมไ่ ด้ 5 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธิบาย/ เช่อื มโยงประสบการณเ์ ดิม เช่อื มโยงประสบการณเ์ ดมิ เชือ่ มโยงประสบการณเ์ ดมิ กบั ความรู้ใหม่ไดช้ ัดเจน กบั ความรู้ใหมไ่ ด้แตไ่ มช่ ดั เจน กบั ความรู้ใหมไ่ ด้ พร้อมบอกเหตุผลประกอบ ได้

6 แบบทดสอบหลงั เรียน ชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาทกั ษะชีวิต ด้านการพฒั นาชีวิตสว่ นตนและสังคม ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โดยวิธกี ลุ่มสมั พนั ธ์รว่ มกับเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เรอ่ื ง สอ่ื ออนไลน์ กจิ กรรม เลน่ คอมพิวเตอรใ์ หส้ นุก มีสาระ .................................................................................................................................... คำชแ้ี จง 1. ใหน้ กั เรียนทำเคร่อื งหมาย X ทับขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ เพียงข้อเดยี วในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีท้ังหมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยี ก. สะดวก ข. ประหยัด ค. ตอบสนอง Lilf style ง. ถกู ท้ังข้อ ๑ และ ๒ 2. ข้อใดเปน็ แนวทางใหแ้ กว่ ัยรุ่นเล่นเกมคอมพวิ เตอร์ในชว่ งเวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์ ก. เล่นเกม คยุ แชทกบั เพือ่ นไดท้ กุ เวลา ข. รจู้ กั แบ่งเวลาว่าจะเริม่ เลน่ เมอ่ื ไร เวลาไหนและเมื่อไรจึงจะยตุ ิการเล่น ค. สง่ เสริม และสนบั สนุนให้วัยรนุ่ ไดม้ ีการพดู คุยในเรื่องน้นั ๆ ทั้งที่เปน็ สาระ และไม่เป็นสาระ ง. หาวธิ ีการท่จี ะสง่ เสรมิ วัยรุน่ ใหม้ ีความคิดการเลน่ เกมชนะเกมคอมพวิ เตอร์ 3. การใชเ้ ทคโนโลยีของบุคคลใดสง่ ผลเสียต่อสุขภาพมากท่ีสุด ก. วารชี อบอ่านข่าวสารจากจอคอมพิวเตอร์ ในทมี่ ืด ข. นารีชอบโพสต์รูปตนเองลงในโซเชียลเนต็ เวิร์ค ค. วิเชยี รชอบเลน่ เกมขับรถแข่ง ง. สนั ตชิ อบดูละครหลงั ข่าว ทกุ วันพุธและวันพฤหัสบดี 4. พฤติกรรมใดต่อไปน้ีไม่ควรปฏบิ ตั ิ ก. ไม่ใสค่ อนแทคเลนสข์ ณะวา่ ยนำ้ ข. ใชโ้ ทรศัพท์มือถือนานๆ ค. ไม่รบั ประทานอาหารขณะใชง้ านคอมพวิ เตอร์ ง. พกั สายตาบ่อยๆ เม่อื ใช้งานคอมพวิ เตอรน์ านๆ

7 5. ข้อใดเปน็ การใช้คอมพวิ เตอร์เพ่อื ประโยชน์ทสี่ ดุ ก. ใชค้ อมพิวเตอร์เพือ่ ผ่อนคลายความตงึ เครียด ข. ใชค้ อมพิวเตอร์เพ่อื ทำงานและการเรยี น ค. ใช้คอมพิวเตอรเ์ พือ่ สำหรับคลายเหงา ง. ใชค้ อมพิวเตอรเ์ พือ่ ความบันเทิง 6. การใช้คอมพิวเตอรเ์ ป็นเวลานานสง่ ผลต่อสขุ ภาพอยา่ งไร ก. ทำให้สวิ ขึน้ บนใบหนา้ ข. ทำใหน้ ้ำหนกั ตวั มากข้นึ ค. ทำให้เป็นโรคสมองเสอ่ื ม ง. ทำให้เวยี นศรี ษะคลื่นไส้ 7. ขอ้ ใดคือปญั หาท่เี กิดจากผลกระทบจากการเลน่ เกมมากเกินไป ก. พฤตกิ รรมกา้ วรา้ ว ข. ปัญหาทางสายตา ค. สมาธิสั้น ง. เป็นไปไดท้ ุกข้อ 8. ผู้ใหญค่ วรมที ศั นคตอิ ย่างไร จงึ จะทำใหเ้ ดก็ เล่นคอมพวิ เตอร์สนุกและมีสาระ ก. บังคับให้เด็กเล่นคอมพวิ เตอรเ์ ป็นเวลา ข. ไม่ควรใหเ้ ดก็ เลน่ คอมพิวเตอรเ์ กง่ กวา่ ตนเอง ค. ใหเ้ ด็กเลน่ เกมต่างๆ หรือเกบ็ เก่ียวความรู้ ประสบการณ์ ฝกึ สมาธิ ง. ตั้งกฎเกณฑม์ ากๆเพือ่ ไมใ่ ห้เดก็ ออกนอกกรอบท่ีไม่ต้องการ 9. ผูท้ ี่ใช้คอมพิวเตอรเ์ ปน็ ประจำอาจส่งผลเสียต่อสขุ ภาพได้อยา่ งไร ก. เกดิ โรคนิ้วล็อค ข. เกดิ ปญั หาการไดย้ ิน ค. เกดิ ปัญหาทางสายตา ง. เกิดความผิดปกติทางพนั ธกุ รรม 10. การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งไมถ่ กู ต้องจะก่อใหเ้ กดิ ผลเสียในข้อใดบา้ ง ก. เสพเทคโนโลยจี นขาดไมไ่ ด้ ข. ปญั หาการเจบ็ ป่วย ค. มคี วามม่นั ใจในตนเองลดลง ง. เปน็ ไปไดท้ กุ ขอ้

ใบความรู้ สอนใหร้ ูเ้ ทา่ ทนั ดกี วา่ ปดิ กัน้ สอ่ื ออนไลน์ ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทของมนุษย์เป็นอย่างมาก มีการนำความรู้และ เทคโนโลยีด้านต่างๆ มาพัฒนาเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะด้านการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตก็ถูกผลิต ออกมามากมายหลายรุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่เทคโนโลยีดังกลา่ วจะเปน็ ประโยชน์ต่อผใู้ หญแ่ ล้ว แต่ ยงั มีประโยชน์ต่อเด็กเล็กๆ ไปจนถึงวัยรุ่นในด้านของส่ือความรู้ ส่ือออนไลน์และส่ือดิจิตอล ที่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ใกล้ตัวและเข้าถึงง่าย ทั้งยังช่วยให้สื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย และเล่นเพือ่ การพกั ผอ่ น ความเพลิดเพลิน เชน่ เกม คยุ แชทกับเพ่ือน เป็นต้น การใชส้ ่อื ออนไลน์และการใชเ้ ทคโนโลยีของเด็กน้นั ถอื เปน็ เรือ่ งทดี่ แี ละมปี ระโยชน์ แตก่ ็ตอ้ งอย่ใู นความพอดแี ละเหมาะสมกบั วยั ในเดก็ เลก็ ๆ ชว่ งวยั 3 ขวบขน้ึ ไป หากให้เขาใช้เวลากับสมารท์ โฟนและสื่อออนไลน์มากเกินไป กอ็ าจทำให้ เขาเสียโอกาสในการเรยี นร้ดู ้าน อนื่ ๆ ขาดทกั ษะในการเขา้ สังคม และอาจส่งผลในแงล่ บอืน่ ๆ ต่อตวั เดก็ ได้ ดังน้ันคณุ พ่อคณุ แม่ จึงจำเป็นตอ้ งสอนลกู ใหอ้ ย่ใู นโลกออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม เพราะอันตรายจากสื่อออนไลนแ์ ละโซเชียลมีเดียน้นั มีซอ่ นอยู่มากมายเลยทีเดียว

9 ทง้ั นีเ้ พราะสอื่ ออนไลน์ต่างๆ มีการเข้าถงึ ง่าย และมคี วามเป็นสาธารณะที่ใครตอ่ ใครก็ สามารถรบั ชมและเข้ามาแสดงความคดิ เห็นได้ต่างๆ โดยที่เราไม่สามารถหา้ มให้ใครแสดง ความคิดเห็นได้ บางความเหน็ อาจทำให้เกิดความร้สู ึกไม่ดี ผู้ใหญจ่ ึงควรสอนและให้คำแนะนำ แกเ่ ด็กๆ ใหร้ ูจ้ ักรับมอื กับสภาวะทางอารมณ์ การแสดงความรู้สึก และการโตต้ อบความคิดเห็น ในสื่อโซเชยี ลให้เขาอยเู่ ปน็ และสามารถปรบั ตวั ได้ดีในโลกออนไลน์ จากงานวจิ ัยพบว่าเดก็ อังกฤษในช่วงอายุ 15 ปี กว่า 27 % ใช้อนิ เทอร์เนต็ มากท่สี ุด โดยพวกเขาใช้เวลาหลังเลกิ เรยี น อยู่ในโลกออนไลน์มากกวา่ 6 ชวั่ โมงต่อวัน โดย 95 % ใช้งานในส่ือออนไลน์แบบส่วนตวั มากขน้ึ ไม่วา่ จะเปน็ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและสแนปแชท ซงึ่ สื่อดงั กล่าวมคี วามเสี่ยงที่จะทำใหม้ ภี ยั บนโลกออนไลนร์ วมไปถึงผลกระทบในแงล่ บตา่ งๆ ทางด้านจิตใจ เช่น การกลั่นแกลง้ ทาง ไซเบอร์ การโจมตดี ้วยถ้อยคำรนุ แรงและหยาบคาย ต่างๆ การหลอกลวง การแบล็กเมล ไปจนถึงการคุกคามทางเพศ เป็นตน้ ดังนั้นการมคี วามรู้ ความเข้าใจในการใช้งานอยา่ งเหมาะสม มีภูมคิ มุ้ กันท่ีดี จะช่วยให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยไี ด้อย่างปลอดภัย และรู้เทา่ ทันถงึ ความเส่ียงและอนั ตรายทีซ่ ่อนอยู่ในสื่อ ออนไลน์ ประโยชนแ์ ละข้อจำกดั ของสอื่ สงั คมออนไลน์ แมล้ กั ษณะของเครือข่ายสงั คมออนไลน์ จะเป็นสอื่ ให้ขอ้ มลู ขา่ วสารสามารถกระจาย ออกไปอยา่ งรวดเร็วและกว้างขวางมีคณุ ประโยชนม์ ากมายในดา้ นการติดต่อส่อื สาร แตก่ ็ เปรียบเสมือนดาบสองคมหากผใู้ ช้ขาดคณุ ธรรมจริยธรรม สามญั สำนกึ การร้จู กั เคารพสทิ ธิ ของผอู้ ่นื และความระมัดระวงั ในการใชแ้ ลว้ สังคมออนไลนเ์ หลา่ นีก้ ็จะเป็น“สังคมอันตราย” ทจ่ี ะเปน็ ดา้ นมดื ของสงั คมไทย

10 1. สามารถแลกเปล่ยี นข้อมลู ความรู้ในส่ิงท่สี นใจร่วมกนั ได้ 2. เปน็ คลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปล่ียนความรู้ หรอื ตั้งคำถามในเรือ่ งต่างๆ เพ่ือให้บคุ คลอนื่ ท่ีสนใจหรอื มีคำตอบ ไดช้ ่วยกันตอบ 3. ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการติดต่อส่ือสารกับคนอืน่ สะดวกและรวดเร็ว 4. เป็นส่ือในการนำเสนอผลงานของตวั เอง เชน่ งานเขยี น รูปภาพ วีดิโอตา่ งๆ เพื่อให้ผูอ้ ่นื ได้เขา้ มารบั ชมและแสดงความคดิ เหน็ 5. ใช้เป็นสือ่ ในการโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ หรือบริการลกู ค้าสำหรบั บริษทั และองค์กรต่างๆ ช่วยสรา้ งความเชอ่ื ม่นั ให้ลกู คา้ 6. ช่วยสรา้ งผลงานและรายไดใ้ หแ้ ก่ผใู้ ช้งาน เกิดการจ้างงานแบบใหมๆ่ ขน้ึ 7. คลายเครยี ดไดส้ ำหรบั ผ้ใู ช้ทต่ี อ้ งการหาเพอื่ นคุยเล่นสนกุ ๆ 8. สร้างความสมั พันธท์ ่ดี ีจากเพื่อนสูเ่ พ่ือนได้ หลกั การและแนวทางการใชส้ ือ่ สงั คมออนไลน์ (Social Media) อยา่ งสรา้ งสรรค์ 1. หลกั การและแนวปฎิบัตทิ วั่ ไป 1.1 พึงระมดั ระวังการใชถ้ อ้ ยคำและภาษา ท่ีอาจเป็นการดูหม่ิน หรอื หมน่ิ ประมาท บคุ คลอ่ืน และควรใช้ภาษาใหถ้ ูกตอ้ ง สภุ าพ สร้างสรรค์ 1.2 พงึ งดเว้นการโต้ตอบ ดว้ ยความรุนแรง กรณีบุคคลอืน่ มคี วามคิดเห็นที่แตกต่าง การละเวน้ ไม่โต้ตอบจะทำใหค้ วามขดั แยง้ ไม่บานปลายจนหาที่สิน้ สดุ ไม่ได้ 1.3 พึงงดเว้นการใช้สอื่ สังคมวิพากษ์วจิ ารณ์ ตลอดจน แสดงความเหน็ ในเรือ่ งทเ่ี ป็นขอ้ มูลภายในองคก์ รหรืออาจส่งผล กระทบต่อองค์กรได้

11 1.4 พึงใชร้ ปู แสดงตัวตนทีแ่ ท้จรงิ และพึงงดเว้นการนำรูปบคุ คลอืน่ รปู บุคคลสาธารณะ มาแสดงว่าเปน็ รปู ของตนเอง เว้นแต่เปน็ สื่อสังคมในนามบคุ คล 1.5 องค์กร หรือ แผนกงานทส่ี ังกดั อาจใช้รูปสญั ลกั ษณ์ เคร่อื งหมายแสดงสังกดั ได้ แต่ตอ้ งคำนึงถงึ ความเหมาะสมในการใชง้ าน 1.6 พึงระมดั ระวังข้อความทีส่ ง่ ผลกระทบต่อเด็ก สตรี หรือ ละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชน 2 หลักการส่งต่อขอ้ มลู 2.1. ควรส่งขอ้ มลู ข่าวสารเฉพาะบคุ คลท่ีรู้จกั แสดงตัวตน ตำแหนง่ หน้าที่การงาน สถานะทีช่ ดั เจนเท่าน้นั 2.2. ละเว้นการสง่ ข้อมูลท่ีเปน็ ข่าวลือ ขา่ วไม่ปรากฎทมี่ า หรือเปน็ เพียงการคาดเดา 2.3. งดเวน้ การส่งตอ่ ข้อความเก่ยี วขอ้ งกบั สถาบันทกุ กรณี ยกเว้น ข้อความนั้นๆ เปน็ ทเี่ ผยแพรต่ อ่ สาธารณะแล้ว 2.4 พึงระลกึ เสมอวา่ การสง่ ตอ่ ข้อความทเ่ี ปน็ เท็จ หรือ ข้อความที่เจ้าของประสงค์ กระจายขา่ วสร้างความสบั สน วนุ่ วายในบา้ นเมือง เท่ากับตกเป็นเคร่อื งมือของบคุ คลเหล่านั้น 2.5 ควรงดเวน้ การส่งต่อข้อความเร่อื งบุคคลเสยี ชวี ติ เวน้ เสียแตต่ รวจสอบขอ้ เท็จจริง แลว้ 2.6 การสง่ ตอ่ ขอ้ ความเชิญชวนไปร่วมชุมนุม หรอื กระทำกิจกรรมทางสังคมใดๆ ต้อง ตรวจสอบข้อเท็จจรงิ ให้แน่ชัดเสยี กอ่ น

12 พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยการกระทำความผดิ เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2550 ขอ้ ควรปฏบิ ัติและควรระวังในการใช้เครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ ดังน้ี 1. พงึ ตระหนักเสมอวา่ การโพสตข์ ้อความ หรอื แสดงความคิดเห็น ให้เผยแพรบ่ นส่ือสงั คมออนไลน์ เปน็ ขอ้ ความทส่ี ามารถเข้าถึงได้ โดยสาธารณะ ดังนัน้ ผเู้ ผยแพรต่ ้องรับผิดชอบ ทง้ั ด้านสังคม และกฎหมาย 2. อย่าเปดิ เผยขอ้ มลู ส่วนตัวมากเกินไปบนสอ่ื สงั คมออนไลน์ รวมถงึ ขอ้ มูลทางการเงนิ เพราะการเปิดเผยข้อมูลสว่ นตวั มากเท่าไหร่ ภัยรา้ ยก็จะเข้าใกลต้ วั เรามากข้ึนเทา่ นนั้ การระบุ วัน เดอื น ปเี กิด จะทำใหม้ ิจฉาชพี ทราบถึงอายุ 3. ไม่ควรโพสต์ขอ้ ความทีช่ ้ชี วนใหม้ จิ ฉาชีพรับรู้ความเคลื่อนไหวสว่ นตัวของเราตลอด เช่น บอกสถานะว่าไม่อยบู่ ้าน หรอื เดนิ ทางไปท่ไี หน ซง่ึ จะทำใหผ้ ้ไู มห่ วังดีวางแผน มาทำร้าย หรอื วางแผนขโมยทรัพย์สนิ เราได้ 4. ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการโพสต์ หรือ เผยแพร่ ส่งต่อ ข้อความ รูปภาพ วีดโิ อ ท่อี าจทำให้ผูอ้ ืน่ เสียหาย เชน่ ภาพหลุด คลิปหลุด หรือ โพสต์รปู ภาพทสี่ ือ่ ถงึ อบายมขุ ตา่ งๆ และไมค่ วรใชถ้ อ้ ยคำหยาบคาย ถอ้ ยคำลามก อนาจาร ดูหมิ่น สอ่ เสียด เสียดสี ให้ร้ายผ้อู ืน่ ในทางเสียหาย หรอื สร้างความแตกแยกในสังคม 5. พึงระมดั ระวังทจ่ี ะไวใ้ จหรอื เชอ่ื ใจคน ท่ีรจู้ กั ผ่านอินเทอร์เน็ต ในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ส่วนตัว เช่น ชอ่ื อีเมล หมายเลขโทรศพั ท์ ที่อยู่ หรือชื่อสถานศึกษา เพราะอาจถกู หลอกลวง หรือลอ่ ลวงไปทำอนั ตรายได้ 6. ใหร้ ะมัดระวังการเชค็ อนิ (Check-in) ผ่านส่ือสังคมออนไลน์ โดยใชก้ ล้องโทรศพั ท์ ถา่ ยภาพ ระบพุ ิกัด และเวลา เพราะภาพทกุ ภาพ การโพสต์ทกุ อย่างจะอยใู่ น อนิ เทอรเ์ น็ต ไมม่ วี นั ถกู ลบอย่างแทจ้ ริง ----------------------------------------------------------------------------------------- อ้างอิงจาก วารสารประกนั ภัย.ปีที่ 33 ฉบบั 139 (กรกฎาคม-กันยายน 2556) หน้า 28-29. http://smforedu.blogspot.com/2014/02/blog-post.html. http://mirror.co.uk. ucg.org.

13 แบบฝึกประกอบการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาทักษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เรอื่ ง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรม สอนใหร้ เู้ ทา่ ทัน ดกี วา่ ปิดกน้ั ----------------------------------------------------------------------------- แบบฝกึ กจิ กรรม สอนให้รู้เทา่ ทนั ดกี ว่าปิดกั้น โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A ชือ่ กลุ่ม....................................................ชนั้ ............ รายชือ่ สมาชกิ กล่มุ 1……………………………………….........………………..4………………………………....………………..….. 2………………………………………………….........……..5………………....………………………..………….. 3…………………………………………………….........…..6………………………....…………………..……….. คำชแ้ี จง ใหส้ มาชิกในกลมุ่ ช่วยกันตอบคำถามต่อไปนี้ (๑๐ คะแนน) 1. เมอื่ นกั เรยี นได้อ่านใบความรู้ เร่ือง สอนใหร้ ู้เท่าทนั ดกี วา่ ปดิ ก้ัน นักเรียนเข้าใจอย่างไร และเหน็ ดว้ ยหรือไม่ อยา่ งไร (๒ คะแนน) ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 2. การรู้เทา่ ทันเทคโนโลยีและการเข้าถึงสือ่ ออนไลน์ เป็นการแกป้ ัญหาการใช้สอ่ื ออนไลน์ และเทคโนโลยีตรงจดุ หรือไม่ อย่างไร (๒ คะแนน) ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... .............................................................................................................. . ......................................................................................................................................

14 3. ถา้ พอ่ แม่เพอ่ื นนกั เรียนห้ามไม่ ให้เพอ่ื นใชส้ ่ือเทคโนโลยแี ละเข้าถึงสอ่ื ออนไลน์ เพราะกลัว การมวั่ สมุ แหล่งข้อมูลทไ่ี ม่สมควร นกั เรยี นจะมวี ิธีแนะนำใหพ้ ่อแม่ของเพ่ือนให้เข้าใจ อย่างไร (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 4. การที่พอ่ แม่ ผ้ใู หญใ่ หโ้ อกาสนักเรยี นเรยี นรู้การใช้สอื่ ออนไลน์และเทคโนโลยีโดยไม่กีดกัน นกั เรยี นคดิ อยา่ งไร เพราะอะไร (๒คะแนน) ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ๕. ส่ือเทคโนโลยีและสอื่ ออนไลน์ทพ่ี อ่ แม่เปดิ โอกาสให้นกั เรียนได้เรียนรแู้ ละใช้ได้ถกู ต้องเกดิ ประโยชน์ มีอะไรบ้าง (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................

15 เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบฝกึ กิจกรรม สอนใหร้ เู้ ท่าทัน ดกี วา่ ปดิ ก้นั ขอ้ 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1 บอกส่ิงท่ีไดจ้ ากการอา่ น บอกสิ่งท่ีไดจ้ ากการอ่าน บอกสิง่ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่าน ใบความรู้/บอกความรู้สึก/ ใบความร/ู้ บอกความรูส้ กึ / ใบความรู้/บอกความรู้สึก/ เล่าประสบการณ์ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เล่าประสบการณท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ ง เล่าประสบการณ์ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ได้ชัดเจน ตรงประเดน็ ไดแ้ ต่ไม่ชดั เจน ตรงประเด็น ไมไ่ ด้ บางสว่ น 2 บอก/อธิบาย/เล่า บอก/อธิบาย/เลา่ บอก/อธบิ าย/เลา่ ประสบการณ์ได้ชดั เจน ประสบการณ์ไดช้ ัดเจน แต่ ประสบการณไ์ มช่ ดั เจน พร้อมบอกเหตุผลประกอบ บอกเหตผุ ลประกอบไม่ได้ และไม่มีเหตุผลประกอบ ได้ 3 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไมส่ ามารถบอก/อธิบาย/ เช่ือมโยงประสบการณ์เดิม เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ เชอื่ มโยงประสบการณเ์ ดิม กบั ความรใู้ หมไ่ ดช้ ดั เจน กับความรูใ้ หมไ่ ดแ้ ตไ่ มช่ ัดเจน กับความรูใ้ หมไ่ ด้ พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ได้ 4 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไมส่ ามารถบอก/อธิบาย/ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดมิ เชอื่ มโยงประสบการณ์เดิม เช่ือมโยงประสบการณเ์ ดมิ กบั ความรู้ใหม่ไดช้ ัดเจน กับความร้ใู หม่ได้ไม่ค่อยชัด กบั ความรู้ใหมไ่ ด้ พร้อมบอกเหตุผลประกอบ ชดั เจนบอกเหตุผลประกอบ ได้ ไมไ่ ด้ 5 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไมส่ ามารถบอก/อธบิ าย/ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดิม เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดิม เชือ่ มโยงประสบการณเ์ ดิม กบั ความรใู้ หม่ไดช้ ดั เจน กับความรู้ใหม่ไดแ้ ตไ่ มช่ ดั เจน กับความรใู้ หม่ได้ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ ได้

16 แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาทกั ษะชวี ิต ด้านการพัฒนาชวี ิตสว่ นตนและสังคม ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยวธิ กี ลุ่มสัมพันธร์ ่วมกบั เทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A เรอื่ ง สอื่ ออนไลน์ กิจกรรม สอนให้รเู้ ท่าทนั ดกี วา่ ปิดกัน .................................................................................................................................... คำช้ีแจง 1. ให้นกั เรียนทำเครอ่ื งหมาย X ทับขอ้ ท่ถี กู ตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียวในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีทง้ั หมด 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ในการใชส้ ือ่ ออนไลน์ อะไรคือสิ่งท่ีเปน็ อันตรายต่อการดำเนนิ ชีวิต ก. การพดู คุยออนไลนผ์ ่านอนิ เตอรเ์ นต็ (Chat) ข. การปิดบงั ขอ้ มูลของอีกฝ่ายหนึ่ง ค. ความเครียดท่ีเกิดจากเลน่ สอื่ ออนไลน์ ง. ไวรัสที่ตดิ มาจากการโหลดขอ้ มูล ๒. เด็กวยั ใด สามารถเรม่ิ เล่นสอ่ื ออนไลน์และเทคโนโลยีได้แลว้ ก. อายุ ๓ ปขี ้ึนไป ข. อายุ ๔ ปีขนึ้ ไป ค. อายุ ๖ ปีขนึ้ ไป ง. อายุ ๗ ปีข้นึ ไป 3. “สอนใหร้ ้ทู นั ดกี วา่ ปิดกัน้ ” เน้นเร่ืองอะไรเพอื่ ไมใ่ หเ้ กิดอันตรายในการดำเนินชวี ิตแก่ นกั เรยี น ก. การใชส้ ื่อเทคโนโลยีใหเ้ ป็นประโยชน์ ข. การเปดิ คอมพวิ เตอรใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ค. การใชโ้ ทรศัพทใ์ นการติดตอ่ สอ่ื สาร ง. วธิ ใี ชเ้ ทคโนโลยีใหท้ นั สมยั 4. เคร่อื งมอื สื่อสารชนดิ ใดท่ีใช้งานตา่ งจากพวก ก. โทรทศั น์ ข. โทรศัพท์ ค. โนต๊ บคุ๊ ง. แทบ็ เล็ต

17 5. ในต่างประเทศเดก็ อายุเฉล่ยี ๑๕ – ๑๖ ปี ถา้ ใช้เวลาอยู่กับสอื่ ออนไลน์วันละประมาณ เท่าไรจะมโี อกาสเสยี่ งตอ่ ภยั บนโลกออนไลน์ ก. มากกวา่ ๒ ชั่วโมง ตอ่ วัน ข. มากกวา่ ๓ ชว่ั โมง ต่อวัน ค. มากกว่า ๕ ช่วั โมง ต่อวนั ง. มากกว่า ๖ ชั่วโมง ตอ่ วนั ๖. ถา้ มีหนงั สอื แจ้งคา่ โทรศพั ท์มอื ถอื จากรา้ นคา้ ขายโทรศพั ท์ ทั้งๆทีน่ กั เรยี นไมไ่ ดซ้ ือ้ จาก ร้านน้นั นักเรยี นคดิ วา่ มาจากสาเหตุใด ก. การเปิดเผยข้อมูลสว่ นตัว ข. มีการนำเอกสารสว่ นตวั ที่สำคัญไปใช้ประโยชน์ ค. การข่มขู่ หวงั ผลประโยชน์ทางสอ่ื ออนไลน์ ง. เปน็ ไปได้ทุกขอ้ 7. ปญั หาท่ีทำใหผ้ ู้ใช้ส่ือออนไลน์และเทคโนโลยีกังวลใจมากท่ีสุด คืออะไร ก. ไม่มีสญั ญาณ ข. พลังงานหมด ค. ราคาย่ีหอ้ ของโทรศัพท์ ง. อปุ กรณ์เสริม 8. “สงั คมก้มหน้า” คือการกลา่ วถึงบุคคลทม่ี พี ฤติกรรมอย่างไร ก. ทำนา ข. เลน่ โทรศัพทม์ ือถอื ค. พิมพ์คอมพวิ เตอร์ ง. คนไม่มงี านทำ 9. หากนกั เรียนถูกกล่ันแกลง้ ทางโซเชียล นกั เรียนควรแกป้ ญั หาด้วยวิธใี ด ก. ลบขอ้ ความท่สี รา้ งความเสียหาย ข. ไม่โต้ตอบขอ้ ความใดๆ เลกิ ใชส้ ่ือออนไลนส์ ักระยะ ค. บล็อกคนท่กี ลนั่ แกล้งเรา ง. เลือกคำตอบทกุ ขอ้ ทก่ี ล่าวมา 10. ในปัจจุบนั สอ่ื ออนไลน์อะไรทม่ี บี ทบาทสำคัญตอ่ การดำเนินชวี ติ ของมนษุ ย์มากทีส่ ุด ก. สมาร์ทโฟน ข. โทรศพั ทม์ ือถอื ค. แทบ็ เลต็ ง. คอมพวิ เตอร์

ใบความรู้ สงั คมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆา่ ตัวตาย สือ่ สงั คมออนไลน์กบั การฆา่ ตัวตาย เป็นท่ีรู้กันดีว่าในยุคปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน คอ่ นข้างมาก และส่ือดังกล่าวกเ็ ปรียบเสมือนดาบสองคมทมี่ ีทงั้ ดา้ นบวกและด้านลบ อยา่ งใน กรณีทีม่ ีการเผยแพร่เนื้อหาแสดงออกถึงความรุนแรง เช่น การทำร้ายตัวเอง ทำรา้ ยผู้อ่ืน หรือ การถ่ายทอดสดแสดงการฆ่าตัวตาย ล้วนเป็นปัญหาท่ีควรได้รบั การแก้ไข และแพทย์ระบุว่า การเผยแพร่ข้อความหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงรวมถึงการฆ่าตัวตาย ส่งผลโดยตรง ในเรื่องของการเรียนรู้ในสังคม โดยเฉพาะอิทธิพลท่ีมีต่อเด็กและวัยรุ่นท่ียังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีทักษะการแก้ไขปัญหาที่ดี อาจมีการเลียนแบบพฤติกรรมได้ เนื่องจากคิดว่าเป็นการแก้ปัญหา ที่ดีทีส่ ดุ ปัจจบุ นั “ปัญหาการพยายามฆา่ ตวั ตาย” นบั เป็นปัญหาสงั คมทเ่ี กดิ ขนึ้ บอ่ ยๆ และยงั พบว่ามวี ยั รุน่ มกี ารพยายามฆ่าตวั ตายเพ่มิ มากขนึ้ ซ่ึงจากขอ้ มูลปี 2559 ประเทศไทยมีอัตราผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ อยู่ที่ 6.35 ต่อประชากรแสนคน แต่ทั้งน้ีเรื่องของการฆ่า ตวั ตายก็ต้องมปี จั จัยหลายอย่างรว่ มด้วย นอกเหนอื จากการเลียนแบบพฤติกรรมตามเนื้อหา ท่ีเผยแพร่ในส่ือสังคมออนไลน์โดยปัญหาที่เกิดมากท่ีสุดมักเกิดกับวัยรุ่นโดยเฉพาะเน่ืองจาก ความสามารถของสมองส่วนที่เกยี่ วข้องกับการยบั ยั้ง ชง่ั ใจยงั พฒั นาไดไ้ ม่เท่ากับดา้ นของอารมณ์ ทำให้ขาด ความสามารถในการจดั การกับปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ และ การใชส้ อื่ สังคมออนไลน์กม็ ีส่วนตอ่ การแสดงออก ทางพฤตกิ รรมคอ่ นขา้ งมาก

19 สาเหตขุ องการพยายามฆา่ ตวั ตายในวยั รุ่น • เกดิ จากภาวะโรคซึมเศร้า ส่งผลใหท้ ำร้ายตวั เองและไม่อยากมีชีวติ อยู่ • ปรบั ตัวไม่เก่ง จงึ ประชดชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเพอ่ื หนีปัญหา • สารเสพตดิ • กลุ่มทม่ี อี าการทางจิต เช่น หแู วว่ เห็นภาพหลอน ทำใหท้ ำร้ายตวั เองไดเ้ ชน่ กนั นอกจากนนั้ อาจเกดิ จากการเห็นตวั อย่าง เช่น เหน็ เพ่ือนแกป้ ัญหาดว้ ยวิธนี ีก้ ็ ทำใหเ้ ขาทำตาม และเนอ่ื งจากในปจั จบุ นั สอื่ ในสังคมมันแพรไ่ ปอยา่ งรวดเรว็ เม่อื มีขา่ วการฆา่ ตวั ตายเกดิ ขึน้ จึงเหมือนกับเป็นตวั อยา่ งใหเ้ ดก็ เห็นวา่ การฆา่ ตัวตาย คือ การแกป้ ัญหา แต่เดก็ จะไมท่ นั คิดว่าผลจากการพยายามฆา่ ตวั ตาย ทีม่ าจะกอ่ ให้เกดิ ปัญหาอกี มากมาย สื่อสงั คมออนไลน์กบั อาการทางจติ เวช อีกหนึ่งภาวะท่ีควรทำความรู้จกั ทเ่ี กี่ยวกบั การใช้งานส่อื สังคมออนไลน์ เรยี กวา่ Facebook Depression Syndrome หรอื ภาวะซมึ เศร้าจากเฟสบุ๊ค ซงึ่ มีลกั ษณะ ดังน้ี 1. มีความเข้าใจผดิ เกี่ยวกบั ความเปน็ จรงิ ท่ีเป็นสุขของเพือ่ นๆ ในเฟสบุ๊ค 2. ตกเป็นเหย่ือทางอารมณข์ องกจิ กรรมชวี ติ ประจำวันของผู้อ่ืน 3. มักเปรยี บเทยี บระดับคุณภาพชีวิตของตนเองกับเพื่อนๆ อยเู่ สมอ 4. มักเปล่ียนรูปโปรไฟลข์ องตนเองอยู่เสมอเพ่อื เรียกร้องความสนใจ 5. รูส้ กึ กระวนกระวายใจเมอ่ื ไมส่ ามารถเช็คขอ้ ความขา่ วสาร หรือสถานะตวั เองไดเ้ หมือนที่ทำเป็นปกติ 6. มกั อพั เดทสถานะแบบดงึ ดูด หรือโพสต์บทความต่างๆ เช่น ขอ้ ความขำขัน ข้อความแหลมคม

20 สัญญาณอนั ตรายของโรคซึมเศรา้ และการพยายามฆา่ ตวั ตายในวยั ร่นุ คนท่ีคดิ จะฆา่ ตวั ตายน้นั มกั จะมีอาการหรอื คำพดู ทีบ่ ง่ บอกอะไรบางอย่าง เช่น พฤติกรรมทีเ่ ปลย่ี นแปลงไป ซง่ึ สงั เกตไดด้ ังน้ี 1. มีการเปล่ียนแปลงในเรื่องการทานอาหารและการนอนอย่างเหน็ ไดช้ ัด (อดอาหาร นอนไมห่ ลับตลอดคนื ฯลฯ) 2. มพี ฤติกรรมรุนแรงกา้ วร้าว ทำลายของหรอื ทำร้ายคนอ่ืนและตัวเอง อย่างไม่มี สาเหตุหรือเหตผุ ลมาสนับสนุน 3. เก็บตัวเงียบ ไม่สุงสงิ กับเพ่อื นหรือคนในครอบครัวเหมือนเคย 4. หนอี อกจากบ้าน 5. มอี าการเบ่ือหนา่ ย ไมม่ ีสมาธิ 6. อาจเรมิ่ หันมาด่ืมเหล้าหรือใช้ยาเสพตดิ 7. เร่มิ ไม่ยอมเรยี นหรอื ไมย่ อมทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมายจากอาจารย์ หรอื ทำไปอยา่ งลวกๆ ให้เสรจ็ ๆไป ไมม่ เี หตผุ ลอันสมควร 8. ไม่ใส่ใจในการแต่งตัวหรือหนา้ ตา เหมือนแต่ก่อน 9. มบี คุ ลิกเปลี่ยนไปอยา่ งมาก เชน่ จากเดิมเคยเปน็ คนช่างคุยกลบั เก็บตัวเงียบ หรือเคยเป็นคนอารมณด์ ี ชอบแหยเ่ พอื่ นฝูงกลับกลายเปน็ คนอารมณ์รอ้ นหงุดหงิด ไมอ่ ยาก ใหใ้ ครมาย่งุ ดว้ ย 10.บน่ ถึงอาการเจบ็ ป่วยท่ไี ม่ได้ปว่ ยจริง เช่น ปวดหวั มาก หรอื แขนขาไม่มแี รง ร้สู ึกชา เจบ็ ไปหมด ฯลฯ 11. มกั จะพดู ถึงหรือใส่ใจกับเรอ่ื งความตายบอ่ ยๆ เริ่มมอบของท่ีตนเองรักเปน็ พิเศษหรือชอบสะสมไวแ้ กค่ นอ่ืนๆโดยไม่มีเหตผุ ลอันใด 12. มักพูดถึงหรือบ่นอยากฆา่ ตวั ตาย หรือบางคร้ังทำเป็นพูดเลน่ หรือทำเป็น วางแผนว่าจะฆา่ ตวั ตาย ให้คนใกลช้ ิดฟัง เช่น “ถา้ เขาตายไป คนอืน่ ๆคงสบายใจข้นึ ” ถ้าข้นึ ไปบนตกึ สงู ๆโดดลงมาจะตายไหม” ฯลฯ 13. มีการข่หู รอื พยายามทำร้ายตัวเองหรอื พยายามทำการฆา่ ตัวตาย

21 การป้องกนั และลดปญั หาการฆา่ ตัวตายจากสื่อสังคมออนไลน์ 1. อย่าท้าทาย ไม่ส่อื ความหมายต่างๆ เช่น “ทำเลย” “กล้าทำหรอื เปลา่ ” เพราะจะ ยิง่ ไปกระตุ้นให้เขาทำ 2. อย่าใช้คำพดู เยาะเยย้ เช่น “โง”่ “บา้ ” หรอื ตำหนิอนื่ ๆ เพราะจะยิง่ เพิม่ ความคดิ ทางลบและเพม่ิ โอกาสทำมากขนึ้ 3. อย่าน่งิ เฉย การนง่ิ เหมือนเปน็ การสนับสนุนทางออ้ ม 4. อยา่ สง่ ข้อความ หรือเผยแพร่ภาพการฆา่ ตัวตายและความโศกเศร้าของครอบครวั ของผเู้ สียชีวติ มากเกินไป เพราะจะกระตุ้นให้ผ้ทู ่ีคิดฆ่าตวั ตายเกิดการเลยี นแบบ 1. ควรห้าม หรอื ขอให้หยุดพฤตกิ รรมทจ่ี ะฆ่าตัวตาย 2. ควรชวนคยุ ประวิงเวลาใหม้ ีโอกาสทบทวนโดยการถาม ถึงความทกุ ข์ รับฟัง และไม่ปล่อยให้อยคู่ นเดยี ว ใหค้ ดิ ถงึ คนที่รักและเปน็ ห่วง แนะทางออกอนื่ ๆ 3. ควรตดิ ตอ่ หาความช่วยเหลือ เช่น บุคคลท่ใี กลช้ ิดเขา ทสี่ ุดขณะนัน้ วัคซนี 3 ส. ป้องกนั ปญั หาฆา่ ตัวตาย ส. ท่ี 1 คือ การมีสมั พันธภาพทด่ี ีต่อกนั (Connect) ส. ท่ี 2 คือ การสอ่ื สารท่ดี ีตอ่ กัน (Communication) ส. ท่ี 3 คอื ใส่ใจรับฟงั (Care) ----------------------------------------------------------------------------------------- อา้ งองิ จาก รศ.พญ.สุวรรณี พุทธิศรี สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยร่นุ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. https://thestandard.co/thai-people-try-to-commit-suicide-6-people-per-hour/ https://med.mahidol.ac.thme/article. http://www.komchadluek.net/news/edu-health/213160

22 แบบฝึกประกอบการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาทักษะชีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เรื่อง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสู่การฆา่ ตัวตาย ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบฝกึ กิจกรรม สังคมออนไลน์ นำไปสูก่ ารฆ่าตัวตาย โดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ชื่อกลุ่ม....................................................ชน้ั ............ รายช่อื สมาชกิ กล่มุ 1……………………………………….........………………..4………………………………....………………..….. 2………………………………………………….........……..5………………....………………………..………….. 3…………………………………………………….........…..6………………………....…………………..……….. คำชแี้ จง ใหส้ มาชิกในกลุ่มช่วยกนั ตอบคำถามต่อไปน้ี (๑๐ คะแนน) 1. นกั เรยี นร้สู กึ อยา่ งไรกับปญั หาการใช้สื่อสงั คมออนไลนท์ นี่ ำไปสูก่ ารฆา่ ตัวตายในกิจกรรมนี้ (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... 2. ผทู้ ีต่ กเป็นเหยอื่ ของการใชส้ อ่ื ออนไลน์แลว้ คิดฆ่าตวั ตาย เกิดจากสาเหตุใด เพราะอะไร (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................

23 ๓. เม่อื นักเรยี นได้รบั ข่าวจากเพื่อนของนักเรียนวา่ มีคนแพร่ภาพสดคดิ จะฆา่ ตัวตาย นกั เรยี น จะบอกกบั เพอื่ นนักเรยี นอยา่ งไร เพราะอะไร (๒ คะแนน) ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 4. ถ้าเพอื่ นของนักเรียนมีปัญหาเก่ยี วกับการใชส้ ือ่ ออนไลน์ จนมีผลเสยี ตอ่ ร่างกาย สุขภาพ การเรยี นตำ่ นกั เรียนควรชว่ ยเหลอื หรอื ไม่ อยา่ งไร (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๕. นกั เรยี นมีวิธไี ม่ตกเป็นเหยอ่ื ของการคิดฆา่ ตัวตายจากการใช้ส่อื ออนไลนไ์ ดอ้ ย่างไร มา ๓ วธิ ี (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................

24 เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบฝกึ กจิ กรรม สงั คมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตวั ตาย ข้อ 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1 บอกสิง่ ทไ่ี ด้จากการอา่ น บอกสิ่งทไ่ี ดจ้ ากการอ่าน บอกส่ิงทไี่ ด้จากการอ่าน ใบความร/ู้ บอกความรสู้ ึก/ ใบความรู/้ บอกความรู้สึก/ ใบความร/ู้ บอกความรสู้ ึก/ เล่าประสบการณ์ท่ีเก่ียวขอ้ ง เลา่ ประสบการณท์ เ่ี กี่ยวข้อง เลา่ ประสบการณ์ที่เก่ียวขอ้ ง ไดช้ ัดเจน ตรงประเด็น ได้แตไ่ มช่ ดั เจน ตรงประเดน็ ไมไ่ ด้ บางสว่ น 2 บอก/อธบิ าย/เล่า บอก/อธบิ าย/เล่า บอก/อธบิ าย/เล่า ประสบการณไ์ ดช้ ัดเจน ประสบการณไ์ ด้ชัดเจน แต่ ประสบการณ์ไมช่ ัดเจน พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ บอกเหตุผลประกอบไม่ได้ และไม่มเี หตุผลประกอบ ได้ 3 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชือ่ มโยงประสบการณ์เดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดิม กบั ความรูใ้ หมไ่ ดช้ ัดเจน กบั ความรใู้ หมไ่ ด้แตไ่ ม่ชัดเจน กบั ความรใู้ หม่ได้ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ ได้ 4 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธิบาย/ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดมิ เชอื่ มโยงประสบการณ์เดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ กบั ความรใู้ หมไ่ ดช้ ดั เจน กับความรู้ใหมไ่ ดไ้ มค่ อ่ ยชัด กับความรูใ้ หมไ่ ด้ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ ชดั เจน บอกเหตุผลประกอบ ได้ ไมไ่ ด้ 5 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธิบาย/ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดิม เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดมิ กับความร้ใู หมไ่ ด้ชดั เจน กับความรใู้ หมไ่ ด้แต่ไมช่ ดั เจน กับความรใู้ หม่ได้ พร้อมบอกเหตุผลประกอบ ได้

25 แบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาทักษะชีวิต ดา้ นการพัฒนาชวี ิตส่วนตนและสงั คม ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยวิธีกล่มุ สัมพนั ธ์ร่วมกับเทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A เรื่อง สอื่ ออนไลน์ กจิ กรรม สงั คมออนไลน์ นำไปสูก่ ารฆ่าตวั ตาย .................................................................................................................................... คำช้ีแจง 1. ใหน้ ักเรียนทำเครื่องหมาย X ทับขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งที่สุดเพยี งข้อเดียวในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีทัง้ หมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ข้อใดไมใ่ ช่อาการทางจติ เวชหรืออาการซมึ เศรา้ จากเฟสบุค๊ ก. มักเปรยี บเทยี บระดับคณุ ภาพชีวติ ของตนเองกบั เพอื่ นๆเสมอๆ ข. มกั ชอบเปลย่ี นโปรไฟส์ของตนเองอยู่เสมอๆ ค. มกั ชอบโฟสต์ข้อความต่างๆ เช่น ขอ้ ความขำขนั ง. มีความเข้าใจเปน็ อย่างดีกบั ความจรงิ ทีเ่ ปน็ ความสุขเพื่อนๆ 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ เนอ้ื หาท่ีเผยแพร่ทางสอื่ ออนไลนใ์ นด้านลบ ก. การถา่ ยทอดสดการแขง่ ขนั กีฬาฟุตบอล ข. การถ่ายทอดสดแสดงการฆ่าตวั ตาย ค. การแสดงออกการใช้ความรนุ แรง ง. การทำรา้ ยตนเอง ๑. ผทู้ ค่ี ิดฆ่าตัวตายจากการใช้สังคมออนไลน์ สว่ นใหญเ่ กดิ จากความบกพร่องทางด้านใด ก. มอี าการทางจติ เวช ข. สมาธสิ นั้ ค. ซึมเศรา้ ง. สมองเส่ือม 4. ข้อใดเป็นขอ้ ดีท่ผี ู้ปกครองมสี ่วนร่วมในการเล่นสอื่ ออนไลนข์ องลกู ก. มสี ่วนร่วมแสดงความคดิ เหน็ เชน่ กดไลค์ (like) เพ่ือการยอมรบั ข. ผปู้ กครองควบคุมเดก็ อย่างใกล้ชิด ค. การควบคุมเวลาในการเลน่ สอื่ ออนไลน์ ง. คอยสังเกตว่าเด็กสนใจด้านเดียวกบั ตนหรอื ไม่

26 5. “สังคมก้มหนา้ ”หมายถงึ ผู้ติดสือ่ ออนไลนป์ ระเภทใด ก. คอมพิวเตอร์ ข. แท็บเลต็ ค. สมาร์ทโฟน ง. โทรศพั ท์มอื ถอื 6. ข้อใดไม่ใช่สาเหตขุ องการตดิ สอื่ ออนไลน์ ก. ปว่ ยเป็นโรคซมึ เศร้า ข. สมาธสิ ัน้ ค. บา้ ดารา ตดิ ละคร ง. สังคมก้มหนา้ 7. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุทำใหว้ ัยรนุ่ ทใ่ี ชส้ ื่อออนไลน์ คดิ จะฆ่าตัวตาย ก. การถูกวพิ ากษ์วิจารณ์ทางเฟสบุ๊ค ข. ไม่ได้รบั ความช่ืนชมดว้ ยการกดไลค์ (like) ค. ผเู้ ผยแพรข่ อ้ มูลเป็นโรคจิต ง. เป็นไปได้ทุกข้อทก่ี ลา่ วมา ๘. ใครคือผู้ทีจ่ ะดูแลและป้องกันการคิดฆ่าตวั ตายของวยั รุ่นได้ดที ่สี ุด ก. โรงเรียน ข. ครอบครัว ค. นักสงั คมสงเคราะห์ ง. ตำรวจ 9. การใช้สอ่ื ออนไลน์ชนิดใดทำใหว้ ัยรุ่นคิดฆา่ ตัวตายมากที่สุด ก. การเลน่ เฟสบคุ๊ ข. การเล่นเกมออนไลน์ ค. การพดู คุยออนไลน์ผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต (Chat) ง. การเลน่ ไลน์ 10. สาเหตุแรกท่สี ่งผลใหว้ ยั รุ่นคิดฆา่ ตัวตาย คืออะไร ก. พฤตกิ รรมการเลียนแบบ ข. ขาดการยับยง้ั ชัง่ ใจ ค. ขาดความสามารถในการแกป้ ญั หา ง. ความเครยี ดทางด้านอารมณ์

ใบความรู้ โรคสมาธิส้นั กับสื่อออนไลน์ มาทำความรจู้ ักโรคสมาธิสน้ั กนั หน่อย โรคสมาธิสน้ั (ADHD , Attention Deficit Hyperactivity Disorder) เปน็ ปัญหาทางพฤติกรรมท่ีพบได้บอ่ ยในเด็กวัยเรียนและเป็นสาเหตุอันดบั หนงึ่ ท่ที ำให้ เดก็ มีปญั หาการเรียน เกิดจากความบกพร่องในการทำหน้าท่ขี องสมอง มีอาการหลักเปน็ เร่ือง ความผิดปกติทางดา้ นพฤติกรรมได้แก่ ขาดสมาธิ ซนอยไู่ ม่นิ่ง หุนหนั พลันแล่น ขาดการยับยั้งชั่งใจ ที่เปน็ มากกว่าพฤติกรรมตามปกติของเดก็ ในระดบั พฒั นาการเดยี วกนั โรคสมาธิสั้นมีสาเหตุจากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยชีวภาพและปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการทำงานของสมองตั้งแต่ขณะอยู่ในครรภ์ ขณะคลอด และ หลังคลอดที่อาจแตกต่างกันในแต่ละคน โดยมีสาเหตจุ ากปัจจยั ทางพันธกุ รรมเป็นสาเหตุหลัก สว่ นปัจจัยด้านการเลี้ยงดู เช่น การเลี้ยงดูท่ีขาดระเบียบ หรือการปล่อยให้เด็กดูโทรทัศน์มาก เกินไป ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคสมาธิส้ัน แต่อาจมสี ่วนทำให้อาการของโรคสมาธิส้ันเป็นมาก ข้นึ ได้ สมาธิสัน้ แท้ กับ สมาธิส้นั เทยี มคืออะไร 1. เด็กสมาธสิ น้ั เทยี ม เม่ือได้รับการดแู ลแก้ไข ปรับพฤติกรรมแล้ว อาการเหลา่ นั้นจะหายไป 2. เด็กสมาธสิ ั้นแท้ เมอ่ื ไดร้ บั การดแู ลแก้ไข ปรับพฤติกรรมแล้วมอี าการดขี นึ้ ควบคมุ ตนเอง ได้ แต่ยังมอี าการอยู่ ยังตอ้ งได้รับการดแู ลและ กนิ ยาอยา่ งต่อเนือ่ ง

28 สังเกตอยา่ งไรวา่ เป็นโรคสมาธิสัน้ หรือไม่ 1. การขาดสมาธิ • ไมส่ ามารถทำงานที่ครู หรอื พอ่ แมส่ ง่ั จนสำเร็จ • ไมม่ สี มาธิในขณะทำงานหรือเล่น • ดเู หมือนไมค่ ่อยฟงั เวลาคนอนื่ พดู ด้วย • ไม่สามารถตัง้ ใจฟงั และเก็บรายละเอียดได้ ทำให้ทำงานผิดพลาดบ่อย • ไมค่ ่อยเป็นระเบียบ • วอกแวกง่าย • ขลี้ ืมบ่อยๆ • มีปัญหาหรือพยายามหลีกเลีย่ งงานทตี่ ้องใชค้ วามคดิ หรือสมาธิ • ทำของใชส้ ่วนตัวหรือของใช้ทจี่ ำเป็นสำหรับงานหรอื การเรียนหายอยู่บ่อยๆ 2. การซน และการขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง • ยกุ ยิก อยไู่ มส่ ขุ • นั่งไมต่ ิดท่ี ลุกเดินบอ่ ยๆ ขณะอยู่ทบี่ ้านหรอื ในหอ้ งเรียน • ชอบวงิ่ ชอบปนี ป่ายส่ิงตา่ งๆ • เลน่ เสียงดัง • ต่นื ตวั ตลอดเวลา หรือดตู ื่นเตน้ งา่ ย • ชอบโพล่งคำตอบเวลาครหู รือพ่อแมถ่ ามโดยทย่ี งั ฟงั คำถามไม่จบ • รอคอยไมเ่ ปน็ • ชอบขัดจงั หวะหรอื สอดแทรกเวลาผู้อ่ืนกำลังพูดอยู่ หากมีลักษณะในขอ้ 1 หรอื 2 รวมกนั มากกวา่ 6 ขอ้ อาการของเด็กมคี วามเปน็ ไป ได้สงู ทจี่ ะเปน็ โรคสมาธิสั้น

29 โรคสมาธิส้นั เทียม กับเทคโนโลยี โรคสมาธิส้ันเทียม (Pseudo-ADHD) คือ โรค สมาธิส้ันท่ีไม่ได้เป็นอาการท่ีเกิดจากความผิดปกติของ สมอง แต่เกิดจากการเล้ียงดูที่ขาดวินัย และพฤติกรรม การเข้าถึงเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์จนมีบทบาทใน ชีวิตประจำวันของเด็กมากๆข้ึน จนทำให้บางรายมี พฤติกรรมกา้ วรา้ ว ขาดสมาธิในการเรียน ขาดปฎิสัมพันธ์ กับเพื่อนในวัยเดียวกันและ มีภาวะสมาธิสั้นเทียม วธิ ีการรักษาและชว่ ยเหลอื เด็กท่ีเป็นโรคสมาธสิ นั้ การรักษาโรคสมาธิสน้ั ตอ้ งอาศยั การรกั ษาแบบผสมผสานทง้ั การปรับพฤตกิ รรม และการใชย้ ารว่ มกนั และต้องอาศยั ความรว่ มมอื กนั จากหลายฝา่ ย ทั้ง พ่อแม่ ครู หมอ โดยประกอบด้วยการให้ความรแู้ ละคำแนะนำวธิ ีการช่วยเหลือแก่ผู้ปกครองและผูป้ ่วย การประสานงานกับครูเพอ่ื ให้มีการช่วยเหลือทโ่ี รงเรียน การใช้ยา และการรักษาภาวะท่ีพบร่วม รวมทงั้ แกไ้ ขผลกระทบของโรคสมาธิส้ันท่เี กิดข้นึ ๑. การรักษาด้วยยาโดยแพทย์จะทำใหเ้ ดก็ มสี มาธิดีขึน้ ซนน้อยลง ดูสงบลง การรักษาดว้ ยยาจะไม่ทำใหเ้ ดก็ ติดและไม่สง่ ผล ต่อการเจริญเติบโตเน่อื งจากอยูใ่ นความดูแลของแพทย์ แตผ่ ูป้ กครอง ตอ้ งพาเดก็ พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ และรบั ประทานยา ตามที่แพทยส์ ัง่ อย่างเคร่งครดั

30 ๒. การชว่ ยเหลอื ดา้ นจติ ใจ แพทย์จะใหค้ ำแนะนำและขอ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งในการดแู ลเด็ก เพอื่ ขจัดความเขา้ ใจผิดต่างๆ ของผ้ปู กครองท่ีคดิ ว่าเด็กดอื้ และเพอ่ื ให้เด็กเขา้ ใจว่าปญั หาที่ ตนเองมนี ัน้ ไมใ่ ช่วา่ ตนเองเปน็ คนไมด่ ี ๓. การปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม ดว้ ยหลัก ลดส่ิงเร้า เพม่ิ สมาธิ เพ่ิมการควบคุมตนเอง จะชว่ ยให้เดก็ มีสมาธิ ดีข้ึน มีความอดทน และควบคุมตนเองไดด้ ี ๔. การช่วยเหลือดา้ นการศกึ ษา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อา้ งองิ จาก ค่มู อื เด็กท่ีมีความตอ้ งการพเิ ศษ สถาบนั ราชานุกูล. พิมพ์ครงั้ ท่ี 1. กรุงเทพฯ : บียอนด์ พบั ลิสชิง่ , 2558 : 5-9. http://alertidebykruta.blogspot.com/2018/09/attention-deficit- hyperactivity.html?m=1. https://health.kapook.com/view139577.html. https://aboutmom.co/features/technology-and-pseudo-adhd/6761/ https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1462342828. http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/information/article/141747 . http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/information/article/ 14971.

31 แบบฝกึ ประกอบการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เร่ือง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรม สญั ญาณเสี่ยง “โรคสมาธิส้ัน” ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบฝึกกจิ กรรม สัญญาณเสยี่ ง“โรคสมาธสิ ้นั ” โดยวธิ กี ลุ่มสัมพนั ธ์รว่ มกบั เทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A ชอื่ กลุ่ม....................................................ช้ัน............ รายช่ือสมาชิกกลมุ่ 1……………………………………….........………………..4………………………………....………………..….. 2………………………………………………….........……..5………………....………………………..………….. 3…………………………………………………….........…..6………………………....…………………..……….. คำชแี้ จง ใหส้ มาชิกในกล่มุ ช่วยกนั ตอบคำถามตอ่ ไปนี้ (๑๐ คะแนน) 1. นักเรียนรู้สกึ อยา่ งไรกับความรู้ เรือ่ ง โรคสมาธสิ ้นั กบั สอื่ ออนไลน์ ” และจากการสำรวจ ตนเอง เรื่อง “เชค็ ดว่ น ! 6 สญั ญาณทีบ่ อกคุณติดสมาร์ทโฟนเข้าขน้ั วิกฤต”ิ (๒ คะแนน) ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นคิดว่าพฤติกรรมการใช้สือ่ ออนไลน์ของนักเรียน มโี อกาสเปน็ โรคสมาธสิ ้นั เทยี ม หรอื ไม่ อยา่ งไร (๒ คะแนน) ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... .........................................................................................................................................

32 ๓. นกั เรียนจะมวี ิธปี รบั พฤติกรรมการใชส้ ือ่ ออนไลน์อยา่ งไรเพือ่ ปอ้ งกันการเปน็ โรคสมาธิส้นั (.๒....ค..ะ..แ...น..น...)........................................................................................................................... ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ 4. นกั เรยี นมวี ธิ ีสงั เกตอยา่ งไรว่าเพ่ือนหรอื บุคคลในครอบครวั เป็น“โรคสมาธิสน้ั ” (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๕. ถา้ เพอื่ นหรอื บุคคลในครอบครวั ของนกั เรยี น เปน็ โรคสมาธสิ ้นั นกั เรยี นจะมีวธิ ชี ่วยเหลอื อย่างไร บอกมา ๓ วธิ ี (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................

33 เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบฝึกกจิ กรรม สญั ญาณเสย่ื ง “โรคสมาธิส้ัน” ข้อ 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1 บอกส่งิ ที่ได้จากการอา่ น บอกส่งิ ท่ีไดจ้ ากการอา่ น บอกสง่ิ ท่ีไดจ้ ากการอ่าน ใบความรู้/บอกความรสู้ ึก/ ใบความรู้/บอกความรูส้ กึ / ใบความรู้/บอกความรูส้ กึ / เล่าประสบการณ์ทเ่ี ก่ียวข้อง เลา่ ประสบการณ์ท่เี กยี่ วขอ้ ง เล่าประสบการณ์ท่เี กีย่ วข้อง ไดช้ ดั เจน ตรงประเด็น ไดแ้ ต่ไม่ชดั เจน ตรงประเด็น ไมไ่ ด้ บางสว่ น 2 บอก/อธิบาย/เลา่ บอก/อธิบาย/เล่า บอก/อธบิ าย/เลา่ ประสบการณไ์ ดช้ ดั เจน ประสบการณ์ไดช้ ดั เจน แต่ ประสบการณ์ไม่ชัดเจน พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ บอกเหตผุ ลประกอบไม่ได้ และไมม่ ีเหตผุ ลประกอบ ได้ 3 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดิม เชือ่ มโยงประสบการณ์เดิม เชือ่ มโยงประสบการณเ์ ดมิ กับความรู้ใหม่ได้ชดั เจน กบั ความรู้ใหม่ไดแ้ ต่ไมช่ ดั เจน กับความรูใ้ หมไ่ ด้ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ ได้ 4 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชื่อมโยงประสบการณ์เดมิ เชือ่ มโยงประสบการณ์เดิม เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดิม กบั ความรใู้ หมไ่ ดช้ ัดเจน กบั ความรใู้ หม่ได้ไม่ค่อยชัด กับความรใู้ หม่ได้ พรอ้ มบอกเหตผุ ลประกอบ ชดั เจน บอกเหตผุ ลประกอบ ได้ ไมไ่ ด้ 5 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธิบาย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธิบาย/ เชือ่ มโยงประสบการณ์เดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดิม เช่อื มโยงประสบการณ์เดมิ กับความรู้ใหม่ได้ชดั เจน กับความรู้ใหม่ไดแ้ ต่ไม่ชัดเจน กบั ความรู้ใหม่ได้ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ ได้

34 แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาทักษะชวี ิต ดา้ นการพฒั นาชีวิตสว่ นตนและสังคม ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โดยวธิ กี ลุ่มสัมพนั ธร์ ว่ มกับเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เรอื่ ง สอ่ื ออนไลน์ กิจกรรม สญั ญาณเสยี่ ง “ โรคสมาธสิ น้ั ” .................................................................................................................................... คำชี้แจง 1. ให้นักเรียนทำเครอ่ื งหมาย X ทับข้อท่ีถูกตอ้ งท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี วในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีท้ังหมด 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. การเลน่ สอ่ื ออนไลนม์ ากเกนิ ไปเปน็ สาเหตหุ น่งึ ทำใหเ้ ดก็ เป็นโรคสมาธสิ ้นั หรอื ไม่ อยา่ งไร ก. ใช่ เพราะโรคสมาธสิ ั้นเกดิ จากเดก็ มีอาการซมึ เศร้า ข. ใช่ เพราะโรคสมาธิส้นั เกดิ จากขาดสือ่ ออนไลน์ไมไ่ ด้ ค. ไมใ่ ช่ เพราะโรคสมาธสิ น้ั เกดิ จากพันธกุ รรม ง. ไม่ใช่ เพราะการเล่นส่อื ออนไลนเ์ ป็นเพยี งสว่ นหนงึ่ ใหเ้ ด็กเปน็ โรคสมาธิส้นั เพ่มิ มากข้นึ 2. เดก็ ท่มี อี าการสมาธิสนั้ จะมีลกั ษณะอย่างไร ก. ซนอยไู่ มน่ ่ิง ข. ขาดสมาธิ ค. ขาดการยับยงั้ ชงั่ ใจตนเอง ง. เลือกทุกขอ้ ทก่ี ล่าวมา ๓. อวัยวะของร่างกายข้อใดไม่มีผลกระทบโดยตรงจากการเล่นคอมพิวเตอร์นานเกินไป ก. หวั ใจ ข. หวั ไหล่ ค. ดวงตา ง. สมอง 4.โรคคอมพวิ เตอร์ หมายถึงขอ้ ใด ก. ไวรัสคอมพิวเตอร์ ข. โปรแกรมตัวหนอน ค. ความเจบ็ ป่วยทมี่ าจากการใช้คอมพิวเตอร์ ง. ความจำเสื่อม

35 ๕. โรคโมโนโฟเบยี หมายถงึ โรคชนดิ ใด ก. โรคสมองเสอื่ ม ข. โรคขาดมอื ถอื ไม่ได้ ค. โรคสมาธิสน้ั ง. โรคซึมเศร้า 6. ขอ้ ใดเปน็ ผลกระทบทางออ้ มท่เี กิดจากการติดสื่อออนไลน์ของเดก็ ในปจั จบุ ัน ก. โรคตา ข. ปวดหลัง ค. โรคอ้วน ง. โรคเก่ยี วกบั สมอง ๗. ขอ้ ใดเป็นการป้องกนั ตนเองไม่ให้เกิดโรคทเ่ี กิดจากการเล่นสอื่ ออนไลน์ ก. เลน่ สอื่ ออนไลนท์ ีต่ นเองชอบ ข. ไม่เลน่ สื่อออนไลนท์ ี่มคี นเลน่ มากๆ ค. การจำกัดเวลาการเล่นไม่ใหม้ ากเกนิ ไป ง. เล่นสอ่ื ออนไลนเ์ ฉพาะที่ไดร้ ับความนยิ ม 8. คนท่เี ลน่ สอ่ื ออนไลน์และเทคโนโลยีเป็นเวลานาน มโี อกาสจะเปน็ โรคชนิดใดมากท่ีสดุ ก. สมาธสิ น้ั ข. นอนไม่หลับ ค. โรคโมโนโฟเบยี ง. โรคสมองเส่อื ม 9. สอื่ ออนไลน์และเทคโนโลยมี ีประโยชน์แกน่ กั เรยี นดา้ นใดมากท่ีสดุ ก. เล่นเกมออนไลน์ ข. การสืบค้นข้อมูล ค. เลน่ เฟสบุ๊ค ง. การพดู คยุ ออนไลนผ์ า่ นอนิ เตอรเ์ น็ต (Chat) 10.ข้อใดไมใ่ ช่ โรคทเ่ี กดิ จากสาเหตุของการติดสอ่ื ออนไลน์ ก. ป่วยเปน็ โรคซมึ เศร้า ข. สมาธสิ ัน้ ค. บ้าละครหลังข่าว ง. สงั คมก้มหน้า

สังคม ใบความรู้ โรคยุคใหม่ ภัยไอที มาทำความรู้จกั โรคตา่ งๆทีเ่ กดิ จากการใชส้ อ่ื ออนไลน์ ยคุ สงั คมออนไลนท์ ที่ ุกคนแทบจะมสี มารท์ โฟน คยุ กับเพือ่ นผ่านเฟซบคุ๊ หรอื ไลน์แทน การโทรศพั ท์ สไลดห์ นา้ จอรับข่าวสารรอบตัวแบบไมใ่ ห้ตกยุค พฤติกรรมแบบนท้ี ำให้มีปญั หา ด้านสขุ ภาพได้ 1. โรคซึมเศร้าเฟซบคุ๊ หลายคนอาจสงสัยว่า เล่นเฟซบคุ๊ ก็มเี พ่ือนมากมายแล้วจะเป็นโรค ซึมเศร้าได้อย่างไร แต่อาการน้ีเกิดข้ึนได้จริงๆเพราะคนเราเมื่อติด อยู่แต่หน้าจอ จิ้มๆกดๆ คุยกับคนในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นไป เพิกเฉยต่อคนในโลกจริง อีกท้ังยังใช้เฟชบุ๊คเป็นเคร่ืองระบาย ความรสู้ กึ มากขนึ้ โดยเฉพาะเวลาเหงา เดยี วดาย กย็ ่งิ โพสตเ์ ยอะ น่ันเพราะเฟซบุ๊คได้สร้างความเป็นจริงเทียมขึ้นมา จากการโพสต์ เร่ืองดีๆ แตเ่ ก็บงำเรื่องร้ายๆแยๆ่ ทีอ่ ยากปกปดิ ไว้ เราจึงเห็นแต่คนท่ีมชี ีวิตสมบูรณ์แบบในโลก เสมือนจรงิ ไปหมด เมอ่ื นำมาเปรยี บเทียบกบั ตัวเอง ความรู้สกึ “ไร้ค่า”จงึ เกิดขึน้ 2. โรคละเมอแชท (sleep-texting) อาการน้ีคือ ถึงแม้เราจะนอนแต่ก็ยังลุกขึ้นมาพิมพ์เหมือนกับคนละเมอ สาเหตุมา จากพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟนเกินเหตุ ทำให้สมองยึดติดกับโทรศัพท์อยู่ทุกขณะจติ แม้กระท่ัง เวลานอน หากมีข้อความเข้ามา สมองก็จะปลุกร่างกายท่ีหลับให้อยู่ในสภาวะละเมอ แล้วส่ง ข้อความไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราอาจจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเขียนอะไรไป หรือส่งไปหาคนไหน เพราะอยูใ่ นสภาวะกึง่ หลับก่ึงตืน่ และอาการละเมอแชทยงั กระทบตอ่ สุขภาพ เพราะเมื่อสมอง ปลกุ ให้เราตน่ื ในช่วงที่รา่ งกายพกั ผอ่ น ทำให้กระทบการทำงานของรา่ งกาย สะสมความเครียด

37 1. โรควุ้นในตาเสอ่ื ม การเพง่ ข้อความในจอสี่เหลย่ี มเลก็ ๆกจ็ ะทำให้ดวงตาของเราทำงาน หนกั ขน้ึ แบบคณู สอง ถ้าปลอ่ ยไปนานๆจนมองเห็นหยากไย่ ตาข่าย หรือเส้นอะไรวนไปวนมา เหมือนยงุ ปดั เท่าไรก็ไม่โดน แบบนเ้ี รยี ก “โรควนุ้ ในตาเสอื่ ม” ควรรีบหาหมอ โดยปกตจิ ะพบในผู้สูงอายุ เพราะใช้งานดวงตามานานจนเสือ่ มไป ตามวยั แตน่ ่าตกใจที่ปจั จบุ นั พบคนในอายนุ อ้ ยๆ เปน็ โรคนี้มากขึ้น สาเหตุหลักๆ กม็ าจากการในสอื่ ออนไลน์ เช่น การแชททงั้ วัน จอ้ งจอทงั้ คนื เล่นเกม ใช้คอมพวิ เตอร์ตดิ ต่อกนั นานๆ 2. โรคกลัวไม่มีมือถือใช้ (Nomophobia) เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งที่จัดอยู่ใน กลุ่มวิตกกังวล เป็นอาการหวาดกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อสื่อสาร ซ่ึงสามารถ สำรวจตนเองได้วา่ เป็นโรคนี้หรือไม่ เช่น ถ้าเราอยใู่ นที่ไม่มีสัญญาณโทรศพั ท์อนิ เตอร์เน็ต หรือจู่ๆ แบตเตอร่ีโทรศัพท์หมด แล้วเรารู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย แสดงว่ามีอาการโนโมโฟเบีย ถ้าบางคนเป็นมากๆ อาจมีอาการเครียด ตัวส่ัน เหงื่อออก คลื่นไส้ ซ่ึงอาการหนักเบาข้ึนอยู่ กับแตล่ ะคน 3. โรคสมาร์ทโฟนเฟซ (Smartphone face)หรอื โรคใบหน้าสมารท์ โฟน เกิดจากการที่ เราก้มหน้ามองหน้าจอ หรอื จ้องสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเน้ือคอเกิด อาการเกร็งและเพิม่ แรงกดบริเวณแก้ม เมื่อแก้มถูกแรงกดนานๆเข้าก็จะทำให้เส้นใยอลิ าสติก บนใบหน้ายืดจนแก้มบริเวณกรามย้อยลงมา แถมกล้ามเน้ือบริเวณมุมปากก็จะตกไปด้วยจน ใบหน้าอาจดูผิดแปลกไปจากเดมิ และจะเห็นชัดขึน้ เม่ือถา่ ยภาพด้วยอปุ กรณ์ของตัวเอง 4. โรคทนรอไม่ได้ เน่ืองจากพฤติกรรมทเ่ี ปล่ียนไปตามความรวดเรว็ ของ เทคโนโลยีทำให้เราใชช้ วี ติ เรง่ รีบจนเปน็ นสิ ัย ความสะดวกสบาย ในการใช้อุปกรณท์ างเทคโนโลยีเปน็ ที่มาของโรคทนรอไม่ได้ หรอื Hurry Sickness Syndrome) เพราะไมว่ ่าจะท่องโลกโซเชยี ล เล่นเกมส์ ดหู นงั ฟงั เพลง หรือถา่ ยรูป ก็สามารถทำไดง้ ่ายและ รวดเร็ว ทำให้กลายเปน็ คนใจรอ้ น ขาดความอดทน ไมย่ อมทน แม้แต่เร่อื งเล็กๆน้อยๆ อารมณเ์ สียงา่ ย โรคนี้จะส่งผลกระทบกบั ชีวติ ประจำวนั อยา่ งมาก เพราะความใจร้อน ทำใหก้ ลายเป็นคนไม่รอบคอบ ถ้าเป็นหนกั ข้นึ อาจเข้าขา่ ยเปน็ โรคประสาทได้

38 7. โรคความผดิ ปกตจิ ากอุบัตภิ ัยสะสม (Cumulative Trauma Disorders) อาการ ของโรคจะคอ่ ยเป็นค่อยไป จะมีอาการปวดคอ ไหล่ ขอ้ มือ และหลัง ผู้ที่เป็นมากๆ อาจมี อาการอื่นร่วมด้วย เชน่ อาการชาทม่ี อื อาการแบง่ ออกเปน็ 3 ระยะ คือ 1. ระยะแรกเป็นแล้วหายเมอ่ื ไดพ้ กั 2. ระยะสอง คอื มีอาการต่อเนอ่ื งถึงกลางคืนและหายเมือ่ ได้พกั 3. ระยะสาม คือ เป็นตลอดเวลาไม่หายเม่อื ได้พัก โรคน้มี คี วามคล้ายกบั โรคจากการทำงานซำ้ ซาก มักมีอาการชาข้อมอื เกิดเนอื่ งจากการใช้งานซำ้ ๆ ที่บริเวณขอ้ มือ ทำให้เอ็นรอบๆขอ้ มือหนาขึน้ แลว้ ไปกดประสาททว่ี ่ิงผา่ น ทำให้เกดิ อาการชาและเจบ็ ได้ 8. โรคภูมิแพ้ โรคนีเ้ กิดจากสารเคมจี ากจอคอมพิวเตอร์ กอ่ ให้เกิดโรคสารนม้ี ีชือ่ ว่า Triphenyl Phosphate ทั้งในจอวดิ โี อ จอคอมพิวเตอร์ สามารถกอ่ ให้เกิดปฏิกริ ยิ าภมู แิ พ้ เช่น คัน คัดจมกู และปวดศรี ษะ ผลวจิ ัยพบว่า เม่ือจอคอมพิวเตอร์ร้อนข้ึนจะปล่อยสารเคมีดงั กล่าวออกมาโดยเฉพาะ หากสภาพภายในห้องทำงานมเี นอ้ื ท่ีจำกัด เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ อาจจะเปน็ สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกดิ โรคภมู แิ พ้ได้ ดงั น้ัน อากาศท่ดี ใี นบรเิ วณที่ทำงานหรือที่อยู่อาศยั จึงจำเป็นอยา่ งยงิ่ 9. โรคทอ้ งร่วง โรคนี้ต้ังช่ือตามตัวอักษรชดุ แรกบนแป้นคยี ์บอร์ด วา่ Qwerty Tummy สาเหตขุ องโรคเพราะแปน้ คยี ์บอรด์ มีแบคทีเรยี ซ่ึงเป็นต้นเหตุของโรคอาหารเป็นพิษและผใู้ ช้รับประทานอาหารไป พรอ้ มกับใชง้ านคยี บ์ อรด์ คียบ์ อรด์ เป็นแหลง่ เพาะแบคทีเรยี ท่นี า่ กลวั ด้วย (ผลการสำรวจ คนทำงาน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคียบ์ อร์ดและ 20% ไม่เคยทำความสะอาด เมาส์ ขณะท่ี 50% ไมเ่ คยทำความสะอาดคีย์บอร์ดภายในเวลาหน่ึงเดือน)

39 10. โรคอ้วน เดก็ มีภาวะอ้วนงา่ ยกวา่ ในอดีต และพบวา่ มอี ตั ราเพิ่มสงู ขึ้น เนือ่ งจากวถิ ี ชีวติ เปลยี่ นแปลงไป โดยเดก็ ยุคนี้นิยมการหันมาใชเ้ วลาวา่ งในการเลน่ เกมหรอื ใช้ เทคโนโลยีมากขึ้น ทง้ั ผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แทบ็ เล็ต ต่างจากเดก็ สมัยก่อน ทนี่ ิยมทำกจิ กรรมในยามวา่ งร่วมกับเพอ่ื น โดยการวง่ิ เลน่ เล่นกีฬา ออกกำลงั กายกลางแจ้ง ซงึ่ การละเล่นหรอื กิจกรรม เหลา่ นน้ั จะช่วยเสรมิ สร้างพฒั นาการด้านรา่ งกายของเดก็ ใหแ้ ข็งแรง 11. โรคสมาธสิ ้นั ทีเ่ กิดจากการเล่นเกม เล่นอนิ เทอร์เน็ต ดูทวี เี ยอะ บาง คนเข้าใจผิดเหน็ เด็กดโู ทรทัศนไ์ ดน้ านเปน็ ช่ัวโมง แลว้ นกึ วา่ เดก็ มสี มาธิดี แต่โดยหลักการวัด สมาธเิ ดก็ จะไมน่ ำสิง่ เหล่าน้ันมาวดั เนื่องจากถือว่าเปน็ ส่ิงเรา้ ที่มี การเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา ในหนึ่งนาทมี กี ารเปลย่ี น ภาพเป็นพนั ภาพ การทเี่ ดก็ ได้ดูโทรทศั นห์ รือเล่นเกม นานๆและรสู้ กึ สนุกจนเมอ่ื ทำอย่างอื่นกร็ สู้ ึกไม่สนุกเท่า เม่อื ตอ้ งมาอา่ นหนงั สือหรอื ทำอะไรนงิ่ ๆจึงจดจ่อไดไ้ มน่ าน เกิดความร้สู ึกไม่อยากทำ เพราะเป็นตวั กระต้นุ เดียว 12. โรคนอนไม่หลับ ปัญหาการนอนไม่หลับจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งโรคท่ี หลายคนเป็นอยู่แต่อาจไม่รตู้ ัว มีผลการวิจยั พบว่าความสว่างของหน้าจอมีผลต่อการนอน ไมห่ ลบั จริง แล้วไม่ใชแ่ คก่ ารใช้คอมพิวเตอรเ์ ท่านั้น แตร่ วมการใชส้ มาร์ทโฟนและแทบ็ เล็ต ต่างๆดว้ ย เมลาโทนิน (Melatonin) คอื ฮอรโ์ มนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับและเวลาตนื่ ของมนษุ ย์ จากการศกึ ษาของนักวิจยั พบว่า การที่เราสมั ผสั กับแสงของหน้าจอ คอมพวิ เตอรต์ า่ งๆ ทำใหจ้ ำนวนของเมลาโทนนิ ลดลง นอกจากน้ีการใช้ คอมพิวเตอรใ์ นชว่ งกลางคืนยงั ทำใหร้ ่างกายร้สู ึกต่ืนตวั และยังทำให้นาฬกิ าชีวิต เปลยี่ นแปลงดว้ ย นคี่ อื สาเหตทุ ี่ทำให้เรานอนไมห่ ลับน่นั เอง

40 13. ปญั หาด้านสายตา ปัญหาด้านสายตาท่ีเกิดจากการเพ่ง การใชส้ ายตาเยอะและใช้ในทม่ี แี สงไม่เหมาะสม จะทำให้ปวดตาไดง้ า่ ย 14. โรคไมเกรน ภาวะปวดหวั และโรคไมเกรน เกดิ จากการทำงานของสมอง อยา่ งหนึ่ง พบว่าแสงจา้ ๆ จากคอมพิวเตอร์ มือถือ ลว้ นเปน็ ตวั กระตุน้ ไมเกรนได้ เดก็ บางคนปิดไฟมืด แล้วเลน่ ไอแพด เป็นต้น 15. โรคหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพกอ่ นวยั อนั ควร จากการนง่ั ผิดทา่ น่ังเกรง็ เปน็ เวลานาน ๆ และทำเปน็ ประจำจนเปน็ นสิ ยั หากเป็น หนกั จนมอี าการปวดมาก ๆ แพทยต์ ้องผ่าตัดรักษา ---------------------------------------------------------------------------- อา้ งองิ จาก https://www.thaihealth.or.th/ https://health.kapook.com/view87257.html http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/information/story/14446 https://health.kapook.com/view90153.html https://www.dek-d.com/lifestyle/17369/ https://www.potatotechs.com

41 แบบฝึกประกอบการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาทกั ษะชวี ติ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เรอื่ ง สอ่ื ออนไลน์ กิจกรรม โรคยุคใหม่ ภัยไอที ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบฝกึ กิจกรรม โรคยคุ ใหม่ ภยั ไอที โดยเทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A ชือ่ กล่มุ ....................................................ชัน้ ............ รายชอ่ื สมาชกิ กลมุ่ 1……………………………………….........………………..4………………………………....………………..….. 2………………………………………………….........……..5………………....………………………..………….. 3…………………………………………………….........…..6………………………....…………………..……….. คำชแ้ี จง ใหส้ มาชิกในกลมุ่ ชว่ ยกันตอบคำถามต่อไปน้ี (๑๐ คะแนน) 1. นักเรียนรสู้ ึกอย่างไรกับโรคตา่ งๆที่มากบั ใชส้ อื่ ออนไลน์และเทคโนโลยีในกจิ กรรมนี้ (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... 2. เมอ่ื นักเรียนไดศ้ กึ ษาใบความรู้โรคยุคใหม่ ภัยไอทแี ล้ว โรคตา่ งๆเกิดจากสาเหตุใด นกั เรยี นเปน็ โรคอะไรบา้ งหรือไม่ (๒ คะแนน) .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................

42 ๓. พฤตกิ รรมอย่างไรในการใช้ส่ือออนไลนแ์ ละเทคโนโลยีที่จะนำโรคตา่ งๆเข้าสรู่ ่างกายของผู้ใช้ .(.๒....ค...ะ..แ..น...น..)........................................................................................................................... ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. 4. ถา้ เพื่อนของนักเรยี นมีอาการปวดตา แสบตาหลงั จากใชง้ านจากคอมพิวเตอร์ นักเรยี นจะ ชว่ ยเหลอื หรอื มีการแนะนำเพอ่ื นหรือไม่ อย่างไร (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. 5. จงบอกวธิ ีปอ้ งกนั โรคตา่ งๆ ทม่ี ากับการใชส้ ่อื ออนไลน์และเทคโนโลยมี า ๓ วิธี (๒ คะแนน) ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................

43 เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบฝกึ กจิ กรรม โรคยคุ ใหม่ ภัยไอที ขอ้ 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1 บอกสิ่งท่ไี ด้จากการอา่ น บอกสงิ่ ทไ่ี ด้จากการอ่าน บอกสง่ิ ทไ่ี ด้จากการอ่าน ใบความรู้/บอกความรสู้ ึก/ ใบความรู/้ บอกความรสู้ ึก/ ใบความรู้/บอกความรู้สึก/ เลา่ ประสบการณ์ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง เลา่ ประสบการณ์ที่เก่ยี วข้อง เลา่ ประสบการณท์ ่เี กย่ี วข้อง ไดช้ ดั เจน ตรงประเด็น ได้แต่ไมช่ ัดเจน ตรงประเด็น ไมไ่ ด้ บางส่วน 2 บอก/อธิบาย/เล่า บอก/อธิบาย/เลา่ บอก/อธิบาย/เลา่ ประสบการณ์ไดช้ ดั เจน ประสบการณ์ไดช้ ัดเจน แต่ ประสบการณ์ไม่ชัดเจน พร้อมบอกเหตุผลประกอบ บอกเหตุผลประกอบไม่ได้ และไมม่ ีเหตผุ ลประกอบ ได้ 3 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธบิ าย/ เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดมิ เช่ือมโยงประสบการณ์เดมิ เชอ่ื มโยงประสบการณ์เดิม กับความรู้ใหมไ่ ด้ชดั เจน กบั ความรใู้ หมไ่ ดแ้ ต่ไม่ชดั เจน กบั ความรใู้ หม่ได้ พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ได้ 4 บอก/อธิบาย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไม่สามารถบอก/อธิบาย/ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดิม เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดิม เชื่อมโยงประสบการณ์เดมิ กบั ความรใู้ หมไ่ ดช้ ัดเจน กบั ความรูใ้ หม่ไดไ้ ม่ค่อยชัด กบั ความรใู้ หม่ได้ พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ชัดเจน บอกเหตผุ ลประกอบ ได้ ไมไ่ ด้ 5 บอก/อธบิ าย โดยสามารถ บอก/อธบิ าย โดยสามารถ ไมส่ ามารถบอก/อธบิ าย/ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดมิ เชื่อมโยงประสบการณเ์ ดมิ เชือ่ มโยงประสบการณ์เดิม กบั ความรู้ใหมไ่ ด้ชัดเจน กบั ความรู้ใหม่ได้แต่ไม่ชดั เจน กบั ความรใู้ หม่ได้ พร้อมบอกเหตุผลประกอบ ได้

44 แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ การสอนกิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาทกั ษะชีวิต ด้านการพฒั นาชีวิตสว่ นตนและสงั คม ของนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โดยวธิ กี ลุม่ สมั พนั ธ์รว่ มกบั เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เร่อื ง สื่อออนไลน์ กจิ กรรม โรคยุคใหม่ ภยั ไอที .................................................................................................................................... คำชแี้ จง 1. ให้นักเรียนทำเครือ่ งหมาย X ทับขอ้ ที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดียวในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีทัง้ หมด 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. เดก็ ที่เลน่ ส่อื ออนไลน์และเทคโนโลยี มกั จะมีพฤติกรรมดมื่ ชาเย็น ชาไข่มุก นำ้ อัดลม ขณะใชง้ านไปดว้ ย เดก็ เหล่านมี้ โี อกาสเปน็ โรคใดมากทส่ี ุด ก. โรคท้องรว่ งรนุ แรง ข. โรคอว้ น ค. โรคเบาหวาน ง. โรคทางเดนิ อาหาร 2. เราควรต้งั จอคอมพวิ เตอร์หา่ งจากสายตาประมาณเท่าใด เพื่อป้องกันปัญหาทีจ่ ะเกิดกบั ดวงตา ก. ประมาณ ๒๐ - ๒๔ เซนติเมตร ข. ประมาณ ๒๐ - ๒๔ นวิ้ ค. ประมาณ ๒๕ เซนตเิ มตร ง. ประมาณ ๒๕ น้ิว 3. โรคท่มี าจากคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ และหลอดภาพจากคอมพิวเตอร์ เปน็ สาเหตทุ ำให้เกิดเปน็ โรคชนดิ ใด ก. โรคปวดตา ข. โรคเส้นประสาทบริเวณขอ้ มือถูกกดทับ ค. โรคปวดคอและปวดหลัง ง. เปน็ ไปไดท้ กุ ขอ้ ท่ีกลา่ วมา 4. โรคท้องร่วงเพราะคีย์บอรด์ เกดิ จากสาเหตใุ ด ก. เช้อื ไวรสั ชนิดหน่งึ ข. เกิดจากเชอ้ื แบคทเี รยี ค. อาหารเป็นพษิ ง. เลอื กข้อ ข และขอ้ ค

45 5.ข้อใด ไม่ใช่ โรคที่เกิดจากการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ หลง่ สาธารณะ หรือตามร้านค้าอินเตอรเ์ น็ต ก. พิษสุนัขบา้ ข. ภูมิแพ้ ค หวัด ง. เช้ือรา 6. ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของโรคโนโมโฟเบีย ก. เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึง่ ข. ทานอาหารไมไ่ ด้ ปวดเมื่อย มไี ข้ ค. รสู้ กึ เครยี ดเมื่อไมม่ สี ัญญาณอินเตอรเ์ นต็ ง. มอี าการหงุดหงดิ เม่อื หาโทรศัพท์ไม่เจอ ๗. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ พฤติกรรมชวี ิตติดออนไลน์ ก. อยูเ่ ฉยๆ ไดไ้ ม่นานกร็ ู้สกึ วา่ ต้องเขา้ ไปเลน่ Facebook, Twitter เขา้ เว็บไซต์ ข. หากไมม่ ีอินเตอร์เน็ตใช้ จะเกิดอาการหงุดหงดิ ซมึ เศรา้ ค. พูดคุยกบั คนรอบขา้ งอยา่ งสนุกสนาน ง. เมื่อมปี ญั หาหรือผิดหวัง มักจะใช้สื่อออนไลนเ์ พื่อระบายความรู้สกึ เหล่านนั้ ๘. อาการฟับบิ้ง (Phubbing) คืออะไร ก. อาการติดโทรศัพท์หรือโซเชียลข้ันรุนแรง ข. อาการท้องเสยี ค. อาการเรม่ิ ต้นของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ง. อาการเก่ยี วกบั ระบบหายใจ 9. ทุกๆ ๑-๒ ช่วั โมง เราควรพกั สายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ ประมาณกน่ี าที ก. ประมาณ ๑๐ - ๒๐ นาที ข. ประมาณ ๑๐ - ๑๕ นาที ค. ประมาณ ๕ - ๑๐ นาที ง. ประมาณ ๒ - ๕ นาที 10. ปจั จยั ท่ีสง่ ผลทำให้วยั รนุ่ มีภาวะปวดหัวและโรคไมเกรน เกิดจากสาเหตใุ ด ก. แสงที่มาจากจอคอมพิวเตอร์ ข. แบคทเี รียท่มี าจากคีย์บอรด์ ค. เชือ้ ไวรสั ขึ้นสมอง ง. ปัญหาด้านสายตาทเี่ กดิ จากเพง่ นาน ๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook