แผนพฒั นาบคุ ลากร ทอ. พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๗๙ โดย คณะกรรมการพัฒนาบคุ ลากร ทอ. กพ.ทอ. พฤษภาคม ๒๕๖๑
๒ สารบญั คำนำ หลกั กำรและเหตุผล - สถำนกำรณป์ ระเทศไทยและยทุ ธศำสตร์ชำติ ๒๐ ปี - ยทุ ธศำสตร์ ทอ. ๒๐ ปี - วสิ ัยทศั น์ ยทุ ธศำสตร์ ทอ. - คำ่ นิยมหลกั ของ ทอ. - นโยบำย ผบ.ทอ.ปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ - แนวทำงกำรพฒั นำตำมยุทธศำสตร์ ทอ. - กำรบริหำรกำลังพล ทอ. - ปัจจัยควำมสำเร็จในกำรขับเคลอ่ื นตำมยุทธศำสตร์ ทอ.๒๐ ปี กำรวเิ ครำะห์ SWOT แผนพัฒนำบคุ ลำกร - กลยุทธท์ ่ี ๑ เสรมิ สร้ำงศักยภำพกำลงั พล ทอ.ส่อู งค์กำรสมรรถนะสูง - กลยทุ ธท์ ่ี ๒ สร้ำงเสริมระบบกำรบริหำรกำลังพล ทอ.สสู่ ำกล - กลยทุ ธ์ท่ี ๓ เสรมิ สร้ำงเครือขำ่ ยเข้มแขง็ พร้อมนำ ทอ.สอู่ งค์กำรชน้ั นำ - กลยทุ ธ์ที่ ๔ กระดบั องคก์ ำรสู่ควำมเป็น SMART RTAF อย่ำงยงั่ ยืน
คานา แผนพัฒนำบุคลำกร ทอ. พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๗๙ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นด้วยควำมร่วมมือจำกหลำยภำคส่วน โดยเฉพำะ หน.นขต.ทอ.ท่ีกรุณำร่วมแสดงควำมคิดเหน็ ผ่ำนกำรประเมินด้วยแบบสอบถำมออนไลน์ในกำรประชุมสัมมนำสมรรถนะกำลงั พล ทอ. ฐำนขอ้ มูลและกำรดำเนินกำรพัฒนำบุคลำกร ทอ.ตำมนโยบำยผบ.ทอ.ท่ีผ่ำนมำ แผนพัฒนำบุคลำกร กห. พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๔ และกำรประชุมคณะกรรมกำรจัดทำแผนพฒั นำบุคลำกร โดยมี รอง จก.กพ.ทอ.เป็นประธำน ท่ีได้ร่วมวิเครำะห์ข้อมูลดังกล่ำวร่วมกับกำรประเมินสถำนกำรณ์ในปัจจุบันและอนำคตตำมหลักวิชำกำรท่ีเป็นสำกล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทำงและแนวทำงกำรพฒั นำกำลังพลในกำรขับเคลื่อนทอ.ให้บรรลุวิสยั ทัศน์และผลักดันให้ ทอ.ก้ำวสู่กำรเป็นองค์กำรสมรรถนะสูงด้วยกำรเติมเต็มศักยภำพกำลังพลให้มีสมรรถนะตำมที่ ทอ.ต้องกำรและยกระดับศักยภำพกำลังพลให้เป็นSMART People ซงึ่ จะเป็นกำลังพลสำคัญที่เป็นพลังในกำรนำพำ ทอ.สู่ควำมเป็นองค์กำรสมรรถนะสูงอย่ำงย่ังยืน โดยเกิดพลวัตของพฤติกรรมกำรเรียนรู้พัฒนำตนเองอย่ำงต่อเน่ืองสู่กำรสร้ำงสรรค์นวัตกรรมที่หลำกหลำย เกดิ ควำมคุ้มคำ่ ในกำรดำเนนิ กำรจนสำมำรถสร้ำงมูลค่ำเพ่ิมใหก้ ับ ทอ.ได้ ภำยใตก้ ำรมีบรรยำกำศและวัฒนธรรมองคก์ ำรท่เี อื้อต่อกำรดำเนนิ กำรดังกล่ำว รวมถึงควำมสำมำรถในกำรใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีช่วยในกำรเพิม่ ประสิทธิภำพกำรทำงำนให้เกิดผลสัมฤทธ์ิอย่ำงเป็นรูปธรรม ซ่ึงจะสอดรับกบั นโยบำย Thailand 4.0ของรัฐบำล รวมถึงสร้ำงควำมเชอ่ื มัน่ ในศกั ยภำพ ทอ.ทีพ่ ร้อมปกปอ้ งประเทศชำติประชำชน คณะกรรมกำรมุ่งม่ันให้แผนพัฒนำบุคลำกรฉบับนี้ เป็นกรอบทิศทำงให้ทุกหน่วยดำเนินกำรในแนวทำงเดียวกัน เพื่อผลสำเร็จตำมที่ต้องกำร และขอขอบคุณในทุกควำมร่วมมือของกำรดำเนินกำรเพ่ือให้กำลังพลพรอ้ มกำ้ วสู่ ทอ.สมรรถนะสูงอย่ำงยัง่ ยืนในอนำคต คณะกรรมกำรจดั ทำแผนพัฒนำบคุ ลำกร ทอ. กพ.ทอ.
หลักการและเหตุผล สถานการณป์ ระเทศไทยและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี โลกปจั จบุ ันมีกำรเปล่ยี นแปลงเกิดข้ึนอย่ำงรวดเร็วหลำยประกำร ที่สำคัญคือ ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศแบบก้ำวกระโดดที่สง่ ผลตอ่ กำรพัฒนำประเทศไทยในปัจจุบันและอนำคต เห็นได้จำกกำรปฏิวัตดิ จิ ติ อล (Digital Revolution) โดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ตในทุกสิ่งทกุ อยำ่ ง (Internet of Things) พร้อมกับกำรเข้ำสู่ยุคอุตสำหกรรม ๔.๐ (The Fourth Industrial Revolution) เป็นยุคของกำรใช้เทคโนโลยีในกระบวนกำรผลิตทั้งหมดท่ีล้วนส่งผลต่อควำมก้ำวหน้ำทำงเศรษฐกิจ กำรเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนและวิถีชีวิตกำรทำงำนมีกำรใชเ้ ทคโนโลยีเคร่ืองจักรกลทำงำนแทนมนุษย์มำกข้ึน คนที่มศี ักยภำพสงู จะมโี อกำสอยู่รอดในสังคมได้ดีกว่ำ จึงเกดิ ควำมต้องกำรแรงงำนคนท่มี ีคุณภำพ มคี วำมคดิ สร้ำงสรรค์ มีทักษะสูง มีควำมเชี่ยวชำญในงำนเฉพำะทำงเพ่มิ มำกขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงควำมเชี่ยวชำญทำงเทคโนโลยีที่จะเปน็ แต้มตอ่ ของกำรช่วงชงิ ควำมได้เปรียบในเชิงกำรแขง่ ขันอันส่งผลต่อกำรเตบิ โตทำงเศรษฐกิจของประเทศ ซ่ึงนโยบำยรฐั บำลเน้นประเทศไทยให้พร้อมเข้ำสู่ยุคประเทศไทย ๔.๐ (Thailand 4.0) เพอ่ื รองรับสถำนกำรณด์ ังกล่ำว กอปรกับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนนิ กำรจัดทำยทุ ธศำสตรช์ ำติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เพื่อใชเ้ ป็นทิศทำงขบั เคล่ือนกำรพฒั นำประเทศสู่ “ควำมมั่นคง มั่งคั่ง และย่ังยนื ” ซ่ึงมี ๖ ประกำร ได้แก่ ๑) ควำมม่ันคง เน้นกำรเสริมสร้ำงควำมม่ันคงของสถำบันหลักของประเทศ กำรรักษำควำมสงบแห่งชำติและกำรป้องกันประเทศ ๒) กำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน เน้นกำรพัฒนำกำรผลิตและกำรบริกำรเพ่ือขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ๓) กำรพัฒนำและเสริมสรำ้ งศักยภำพคน เน้นพัฒนำศักยภำพคน ด้วยกำรศกึ ษำเรียนรู้อย่ำงมคี ณุ ภำพ ปลกู ฝังระเบียบวินัยคุณธรรมจริยธรรมและค่ำนิยม รวมถึงกำรมีสุขภำวะท่ีดี ๔) กำรสร้ำงโอกำสควำมเสมอภำคและเท่ำเทียมกันทำงสังคม เน้นระบบบริกำรที่ดี มีนวัตกรรมเอื้อต่อกำรดำรงชีวิต และควำมเข้มแข็งของสังคมชุมชนและวัฒนธรรม ๕) กำรสร้ำงกำรเติบโตบนคุณภำพชวี ิตทเ่ี ป็นมิตรต่อส่งิ แวดล้อม เน้นควำมเข้มแข็งของระบบกำรบริหำรจัดกำรส่ิงแวดล้อม และ ๖) กำรปรับสมดุลและพัฒนำระบบกำรบริหำรจัดกำรภำครัฐ เน้นกำรพฒั นำระบบรำชกำรสู่สำกล กำรบริหำรแบบบรู ณำกำร กำรพัฒนำบคุ ลกรภำครฐั และควำมโปร่งใสในกำรปฏิบตั ิรำชกำร ในขณะท่ีควำมมั่นคงของประเทศนับเป็นประเด็นสำคัญ เนือ่ งจำกสถำนกำรณป์ ระเทศมีควำมเสยี่ งต่อกำรกอ่ กำรรำ้ ย ในหลำยรปู แบบ กำรเผชญิ กับปญั หำอำชญำกรรมข้ำมชำติทมี่ วี ธิ กี ำรท่ีทวีควำมรนุ แรงและซบั ซ้อนมำกขึ้น ตลอดจน มีควำมเส่ียงสูงในด้ำนไซเบอร์หรืออำชญำกรรมไซเบอร์ พบว่ำ จำนวน ๑ ใน ๕ ของเคร่อื งคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยถกู โจมตีดว้ ยโปรแกรมท่ไี มพ่ งึ ประสงค์และในอนำคตมีแนวโนม้ ของควำมเส่ยี งน้ีเพ่ิมมำกข้ึนเรื่อยๆ ปัญหำกำรทุจริตคอร์รัปชั่น แม้ปัจจุบันรัฐบำลจะมีกำรควบคุมปรำบปรำมกำรทุจริตคอร์รัปช่ันอย่ำงจริงจังมำกข้ึนแลว้ กต็ ำม และมีควำมพยำยำมในกำรผลักดันองค์กรโปร่งใสใหเ้ กิดผลเปน็ รูปธรรมแต่ก็ยังพบปัญหำกำรทุจริตคอร์รัปชั่นท่ีขยำยวงกว้ำงขึ้นทั้งในภำครัฐและเอกชน เนื่องจำกควำมต้องกำรตอบสนองเชิงวัตถุที่สูงขึ้นตำมแบบลัทธิทนุ นยิ ม อีกท้ังกฎหมำยที่ใช้ในปัจจุบันหลำยฉบับมีควำมลำ้ สมยั และเป็นอุปสรรคต่อกำรพัฒนำประเทศ รวมถึงกำรเผชิญปัญหำกำรขำดคนทำงำนทดแทนข้ำรำชกำรที่เกษียณอำยุในขณะที่คณุ ภำพของบุคลำกรภำครัฐกลับลดลง ส่งิ เหล่ำนีส้ ะท้อนถึงกำรที่ภำครฐั ยังไม่สำมำรถปรับตัวไดท้ ันกับ
กำรเปล่ียนแปลงในยุคสังคมออนไลน์ได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพเท่ำที่ควร แม้จะมีกำรปรับปรุงพัฒนำกำรให้บริกำรและกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศช่วยในกำรปฏิบัติงำนเพื่อกำรให้บริกำรท่ดี ีขึ้นมำเป็นลำดับแลว้ ก็ตำม จึงต้องเร่งพัฒนำระบบกำรบริหำรจัดกำรภำครัฐ กำรให้บริกำรประชำชนให้ได้ตำมมำตรฐำนสำกล และผลักดันระบบธรรมำภิบำลให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในหน่วยงำน ซึ่งกำรพัฒนำในเรื่องดังกล่ำว มีควำมจำเป็นเร่งด่วนเพ่ือลดผลกระทบในวงกว้ำงของประเทศ ท้ังเป็นกำรเสริมสร้ำงภำพลักษณ์ท่ีดีของประเทศไทยให้โดดเด่นย่ิงข้ึนทัง้ หมดน้ีเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชำชนและประเทศชำติเป็นสำคัญ โดยเฉพำะตอบสนองควำมคำดหวังของประชำชนท่ีมตี อ่ รัฐบำล หน่วยงำนรำชกำร และทสี่ ำคญั คือ บคุ ลำกรภำครฐั หรือขำ้ รำชกำรเป็นปัจจยั สำคญั ที่จะสำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรดังกลำ่ วได้อยำ่ งเป็นรูปธรรม ทำใหก้ ระทรวงกลำโหม และกองทัพไทยต้องมีกำรปรบั ปรุงยุทธศำสตร์และนโยบำยที่เกี่ยวข้องใหส้ อดคลอ้ งกับยุทธศำสตรช์ ำติดงั กล่ำวให้เกดิ ผลเปน็ รูปธรรม ยทุ ธศาสตร์ ทอ. ๒๐ ปี ทอ.ในฐำนะหน่วยงำนสังกัดกระทรวงกลำโหม จึงได้กำหนดยุทธศำสตร์ ทอ. ๒๐ ปี ให้มีควำมทนั สมัยสอดคล้องตำมสภำวะแวดล้อมด้ำนควำมม่ันคงท่ีเปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนสอดคล้องตำมยุทธศำสตร์ชำติ ๒๐ ปี และยุทธศำสตร์กำรป้องกันประเทศ ซึ่งกองทัพอำกำศตระหนักถึงควำมสำคัญในกำรจัดทำยุทธศำสตร์เพ่ือใช้ในกำรกำหนดเป้ำหมำยและทิศทำงกำรขับเคลื่อนองคก์ รใหเ้ กดิ กำรพัฒนำอย่ำงต่อเนอื่ งเป็นระบบและเกดิ ผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยสำมำรถตอบสนองตอ่ ควำมต้องกำรกำรพัฒนำประเทศ ในขณะที่ยังคงสำมำรถดำรงเป้ำหมำยในกำรพัฒนำสู่ “กองทัพอำกำศช้ันนำในภูมิภำค” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกัน และได้กำหนดขอบเขตกำรพัฒนำตำมยุทธศำสตร์ ทอ. ๒๐ ปี เป็น ๓ ระยะต่อเน่ืองกัน ระยะท่ี ๑ คือกำรพัฒนำสู่กองทัพดิจติ อล (Digital Air Force : DAF) เป็นกำรพฒั นำกองทัพในทุกภำคส่วนให้ก้ำวสกู่ องทัพดิจิตอลได้อย่ำงแท้จริง โดยต้องกำรกำรพัฒนำอย่ำงต่อเน่ืองตลอดห้วงระยะเวลำ ๒๐ ปี เริ่มจำกกำรพัฒนำพ้ืนฐำนเทคโนโลยีดิจิตอลเพ่ือให้กำรปฏิบัติภำรกิจในทุกด้ำนของกองทั พเป็นไปอย่ำงรวดเร็วและมีประสิทธิภำพ เหมำะสม ทันตำมควำมต้องกำรในทุกสถำนกำรณ์ จนถึงกำรพัฒนำสู่ ทอ.ที่ใช้เครือข่ำยเป็นศูนยก์ ลำง (Network Centric Air Force : NCAF) เปน็ กำรพฒั นำสกู่ ำรปฏบิ ัติกำรท่ีใชเ้ ครือขำ่ ยเป็นศนู ย์กลำง(Network Centric Operation ; NCO) ในระยะท่ี ๒ โดยมุ่งเน้นกำรพัฒนำเฉพำะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติกำรท่ีใช้เครือข่ำยเป็นศูนย์กลำงโดยตรง (RTAF NCO Combat Related Function) หรือส่วนท่ีเกี่ยวข้องในกำรปฏิบัติกำรในส่วนหน้ำ (Front Line Operations) เพื่อมุ่งเน้นกำรขับเคลื่อนกองทัพไปสู่“ทอ.ชั้นนำในภูมิภำค (One of the Best Air Forces in ASEAN)” ซ่ึงเป็นระยะท่ี ๓ หรือเป้ำหมำยสุดท้ำยโดยเป็นกำรพัฒนำกำรใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและแนวควำมคิดกำรปฏิบัติท่ีดีในกำรใช้เครือข่ำยเป็นศูนย์กลำงกำรปฏิบัติกำรรบและกำรปฏิบัตกิ ำรท่ีมิใช่กำรรบ เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคำมทุกรูปแบบได้อย่ำงมีประสิทธิภำพบนพ้ืนฐำนของกำรพึ่งพำตนเองให้มำกท่ีสุด โดยเฉพำะแนวทำงกำรพัฒนำขีดควำมสำมำรถในมิติไซเบอร์(Cyber Domain) รวมทั้ง กำรริเริม่ และวำงรำกฐำนสำคญั ในกำรพฒั นำขดี ควำมสำมำรถในมติ ิอวกำศ (SpaceDomain) เพื่อสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรในมิติทำงอำกำศ (Air Domain) และเตรียมควำมพร้อมในกำรป้องกันภัยคุกคำมในมิติดังกล่ำวท้ังในปัจจุบันและในอนำคต ท้ังนี้ กองทัพอำกำศมุ่งมั่นพัฒนำกำลังพลให้เป็นทหำรฉลำด (Smart People) อำวุธฉลำด (Smart Weapon Systems) และกลยุทธ์ฉลำด (Smart Tactics) เพ่ือ
ดำรงขีดควำมสำมำรถและควำมพร้อมในกำรปฏิบตั ิภำรกิจดังกล่ำวด้วยกำรใชท้ รัพยำกรที่มีอยู่อย่ำงจำกัดให้ค้มุ ค่ำเกดิ ประโยชน์สงู สุด เพอื่ สรำ้ งมูลคำ่ เพิม่ ใหก้ ับประเทศชำติและประชำชนอยำ่ งเต็มกำลังควำมสำมำรถ วิสัยทศั น์ ยทุ ธศาสตร์ ทอ. วิสัยทัศน์ “ทอ.ชั้นนำในภูมิภำค” One of the Best Air Forces in ASEAN และขับเคลื่อนโดยกำหนดเป็นประเด็นยุทธศำสำตร์ ๕ ประกำร ไดแ้ ก่ประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ท่ี ๑ พิทักษร์ กั ษำและเทิดทนู สถำบันพระมหำกษตั ริย ๖ประเดน็ ยุทธศำสตร์ท่ี ๒ เสรมิ สร้ำงสมรรถนะและควำมพรอ้ มในกำรปอ้ งกันประเทศประเด็นยทุ ธศำสตร์ที่ ๓ รกั ษำควำมมนั่ คงของรัฐประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ท่ี ๔ รักษำผลประโยชนแ์ ห่งชำติประเด็นยุทธศำสตร์ที่ ๕ สนับสนนุ กำรขบั เคลอ่ื นยทุ ธศำสตร์กำรพัฒนำประเทศของรัฐบำล โดยเฉพำะประเด็นยุทธศำสตร์ที่ ๒ เสริมสร้ำงสมรรถนะและควำมพรอ้ มในกำรป้องกันประเทศซึ่งมีเป้ำหมำยยุทธศำสตร์ เป็นกองทัพท่ีมีสมรรถนะและควำมพร้อม ตลอดจนสำมำรถผนึกกำลังร่วมกับเหล่ำทัพอื่นในกำรป้องกันประเทศให้มีควำมม่ันคงปลอดภัยจำกภัยคุกคำมทุกรูปแบบ ภำยใต้กำรเสริมสร้ำงควำมสำมำรถกำรบัญชำกำรและควบคุมที่สำมำรถเช่ือมโยงและบูรณำกำรข้อมูลอย่ำงครบถ้วน ถูกต้องทันสมัย เพ่ือกำรหยั่งรู้สถำนกำรณ์แบบเบ็ดเสร็จ (Total Situation Awareness) อันเป็นเครื่องมือสำหรับผู้บังคับบญั ชำในกำรวำงแผน อำนวยกำร ควบคุม และบังคับบัญชำ กำรใช้กำลังทำงอำกำศในกำรปฏิบัตกิ ำรรบและกำรปฏิบัติกำรทีม่ ิใชก่ ำรรบ ดว้ ยกำรพัฒนำเทคโนโลยดี ิจติ อลให้มคี วำมพร้อมใช้งำนตลอดเวลำ เสริมสรำ้ งควำมสำมำรถระบบตรวจจับให้มีคุณภำพและจำนวนท่ีเหมำะสม เพียงพอ และมีระบบสำรองเพ่ือใช้งำนทดแทนกนั ได้ มคี วำมสำมำรถในกำรแสวงหำข้อมูลในทกุ ควำมต้องกำร เพ่ือให้ได้รับข้อมูลในรปู แบบดิจิตอลท่ีมคี วำมถูกต้อง ครบถ้วน และทันเวลำ ทั้งสำมำรถบูรณำกำรข้อมลู ทั้งหมดให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลที่ชำญฉลำด(Smart Information) กลยุทธ์เสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถผู้ปฏิบัติ/หน่วยปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติ/หน่วยปฏิบัติที่มีควำมชำญฉลำด (Smart Platform) มีควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติกำรรบและกำรปฏิบัติกำรท่ีมิใช่กำรรบ โดยใช้เทคโนโลยี ที่ทนั สมัย รวมท้ังรองรับกำรใช้งำนอำวุธสมรรถนะสูงท่ีทันสมยั โดยต้องสำมำรถบูรณำกำรและเช่ือมโยงเข้ำสู่กำรปฏิบัติกำรที่ใช้เครือข่ำยเป็นศูนย์กลำงของ ทอ. ด้วยกำรเสริมสร้ำงควำมสำมำรถทุกเครือข่ำยให้มีควำมแข็งแกร่ง (Robustness) ควำมเสถียร (Stability) ควำมเพียงพอต่อควำมต้องกำร(Sufficiency) ควำมเชื่อถือได้ (Reliability) ควำมรวดเร็ว (Speed) ควำมปลอดภัย (Security) และควำมทันสมัย (Update) ครอบคลุมพ้ืนท่ีปฏิบัติกำร รวมถึงควำมสำมำรถสนับสนุนและบริกำร ด้วยระบบส่งกำลังบำรุงและระบบคลังท่ีมีคุณภำพเป็นไปตำมมำตรฐำนสำกล ที่สำคัญคือควำมสำมำรถบุคลำกรและพฤติกรรมกำรปฏิบัติงำน ให้มีสมรรถนะและควำมสำมำรถในลักษณะข้ำมสำยงำนและหลำกหลำย (Cross-Functional &Multi-Disciplined) บนพ้ืนฐำนควำมเข้ำใจ มีควำมเช่ียวชำญ และควำมพร้อมในกำรปฏิบัติกำร ตลอดจนมีพฤติกรรมกำรปฏิบัติงำนท่ีเหมำะสมสอดคล้องกับแนวควำมคิดกำรปฏิบัติกำรที่ใช้ เครือข่ำยเป็นศูนย์กลำงโดยเฉพำะพัฒนำควำมสำมำรถด้ำนสงครำมไซเบอร์ ควำมสำมำรถด้ำนกิจกำรอวกำศ ควำมสำมำรถด้ำน
กำรข่ำว ควำมร่วมมือดำ้ นควำมม่ันคง และคณุ ภำพชีวติ ของกำลังพล เพ่ือให้ ทอ.ให้เป็นองค์กำรแหง่ กำรเรียนรู้และกำรวจิ ยั พฒั นำนวตั กรรมกำลังทำงอำกำศที่มีประสทิ ธภิ ำพอยำ่ งย่ังยนื คา่ นยิ มหลักของ ทอ. ทอ.ได้ประกำศค่ำนิยมหลักของ ทอ. (RTAF Core Values) เมื่อ ๘ สิงหำคม พ.ศ.๒๕๕๔ โดยกำหนดข้ึนจำกคำปฏญิ ญำณตนต่อธงชยั เฉลมิ พลที่ทหำรทุกคนได้กล่ำวไว้ นับแต่เร่ิมต้นของกำรเข้ำรับรำชกำรและยึดถือเป็นหลักในกำรประพฤติปฏิบัติตนตรำบจนกระทั่งวำระสุดท้ำยของกำรรับรำชกำร หรือแม้กระท่ังวำระสุดทำ้ ยแหง่ กำรดำรงชีวิต และหมำยรวมถึงกำรยึดถอื ปฏิบัติร่วมกัน อันเป็นเอกลักษณ์ของทหำรอำกำศไทย เพ่ือสร้ำงจิตสำนึกในควำมเป็นทหำรอำกำศ (Air-minded) โดยกำหนดค่ำนิยมหลักของ ทอ.ไว้๓ ประกำร ใชค้ ำยอ่ วำ่ “AIR” ใหก้ ำลงั พลของ ทอ.ถือปฏิบัติ ดังน้ี A ; Airmanship ควำมเป็นทหำรอำกำศ หมำยถึง กำรแสดงออกถึงควำมเป็นทหำรอำกำศที่มีระเบียบวินัย รู้หลักกำร ขน้ั ตอน และมีทักษะในกำรปฏิบัติงำน มีควำมเชีย่ วชำญในงำนท่ีรับผิดชอบอย่ำงมืออำชพี มคี วำมตระหนักรู้ในตนเอง สำมำรถตดั สินใจได้อย่ำงเหมำะสมภำยใต้ควำมเสี่ยงในทุกสถำนกำรณ์และสำมำรถทำงำนเป็นทมี เพ่อื ผลสมั ฤทธข์ิ องงำน I ; Integrity and Allegiance ควำมซ่ือสัตย์และควำมจงรักภักดี หมำยถึง มีควำมยึดม่ันในระบบเกียรติศักดิ์ มีควำมจงรักภักดีต่อสถำบันชำติ ศำสนำ และพระมหำกษัตริย์ กล้ำกระทำในสิ่งที่ถูกต้องมีคุณธรรมจริยธรรม มีควำมซื่อตรง ดำรงไว้ซ่ึงควำมยุติธรรม และมีจรรยำบรรณในวิชำชีพ พร้อมเปิดใจรับควำมคิดเหน็ ของผู้อืน่ R ; Responsibility ควำมรับผิดชอบ หมำยถึง ควำมรับผิดชอบต่อตนเอง องค์กร สังคมและประเทศชำติเพื่อให้กำรปฏิบัติภำรกิจสัมฤทธ์ิผลอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นทต่ี ัง้ นโยบาย ผบ.ทอ.ปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ นโยบำย ผบ.ทอ.เฉพำะด้ำนกำลังพลในแต่ละปี ได้ให้ควำมสำคัญต่อคุณภำพกำลังพล อันเป็นปัจจัยสำคัญย่ิงต่อกำรขับเคล่ือน ทอ.เพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์ ทอ.ในปี ๒๕๖๒ จึงได้กำหนดให้นำสมรรถนะมำเป็นเครอื่ งมือในกำรบริหำรกำลงั พลเพอ่ื เสริมสรำ้ งกำลงั พล ทอ.ใหม้ ีสมรรถนะสูงขน้ึ โดยกำหนดเป็นนโยบำยมำอย่ำงต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ถึงปัจจุบันปี ๒๕๖๐ ซึ่ง กพ.ทอ.ใช้เป็นทิศทำงในกำรขับเคล่ือนสมรรถนะดงั กลำ่ ว นโยบำย ผบ.ทอ.ดงั กลำ่ ว มีดังนี้ ๑. สร้ำงจติ สำนกึ ในควำมเป็นทหำรอำกำศ โดยกำรปลกู ฝังและเสริมสรำ้ งค่ำนยิ มหลักของ ทอ.ใหก้ ำลังพล ทอ.ยึดถอื ปฏบิ ัติรว่ มกนั และเกดิ ผลสัมฤทธิอ์ ย่ำงเป็นรปู ธรรม ๒. บรหิ ำรกำลังพล ทอ.โดยใช้สมรรถนะของกำลังพล ทอ.เพอื่ เสรมิ สรำ้ งขีดควำมสำมำรถของกำลงั พลตำมทิศทำงยุทธศำสตร์ ทอ.
๓. ปรับปรงุ เส้นทำงควำมกำ้ วหน้ำในอำชพี ของกำลังพล ทอ.ให้สำมำรถบรหิ ำรกำลงั พลไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ เกดิ ควำมชดั เจนตำมเสน้ ทำงควำมเจรญิ ก้ำวหน้ำ ๔. เสริมสรำ้ งระเบียบวนิ ยั ปลกู ฝังจติ สำนกึ กำรเป็นทหำรอำชดี สง่ เสรมิ ขวญั และกำลังใจของกำลงั พล ทอ. ๕. นำหลักกำรกำรจดั กำรควำมรู้มำใชย้ กระดบั กำลังพล ทอ.ให้มีขดี ควำมสำมำรถในกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมมำตรฐำนเพื่อมงุ่ สกู่ ำรเปน็ ทอ.แหง่ กำรเรยี นรู้ แนวทางการพฒั นาตามยทุ ธศาสตร์ ทอ. ยุทธศำสตร์ ทอ. ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) คือ หลักกำรสำคัญในกำรขับเคลื่อนกำรดำเนินกำรโดยเน้น “สำน-เสริม-สร้ำง” กล่ำวคือ “สำน” เป็นกำรสำนต่อกำรพัฒนำอย่ำงต่อเน่ือง “เสริม” เป็นกำรเพ่ิมขีดควำมสำมำรถกำลังทำงอำกำศให้สมบูรณ์ยิ่งข้ึน และ “สร้ำง” ควำมเข้มแข็งในมิติไซเบอร์เพ่ือตอบสนองต่อภัยคุกคำมด้ำนไซเบอร์ที่ทวีควำมรนุ แรงเพ่มิ มำกขน้ึ ตลอดจนริเริ่มและวำงรำกฐำนมิตอิ วกำศ เพื่อเตรียมควำมพรอ้ มในกำรป้องกันภัยคุกคำมท่ีมีแนวโน้มเกิดข้ึนในอนำคต ทอ.จึงมุ่งม่ันพัฒนำทหำรฉลำด (Smart People) อำวุธฉลำด (Smart Weapon) และกลยุทธ์ฉลำด (Smart Tactics) เพื่อดำรงขีดควำมสำมำรถและควำมพร้อมในกำรปฏิบัติภำรกิจด้วยกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีอยู่อย่ำงคุ้มค่ำที่สุด ภำยใต้ปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดต่ำง ๆ ให้ตอบสนองภำรกิจเพื่อประเทศชำติและประชำชนอย่ำงเต็มกำลังควำมสำมำรถ โดยมุ่งเน้นกำรปฏิบัติภำรกิจให้มีประสิทธิภำพสูงสุดภำยใต้กำรปฏิบัติกำรท่ีใช้เครือข่ำยเป็นศูนย์กลำงอย่ำงมีคุณภำพ ด้วยกำรเพิ่มควำมรวดเร็วของวงรอบกำรตัดสินใจ (Observe-Orient-Decide-Act : OODA Loop) โดยกำรแลกเปลี่ยนข้อมูลข่ำวสำร (Information)ควำมตระหนักร้สู ถำนกำรณ์ (Situation Awareness) ร่วมกนั ผ่ำนระบบเครือขำ่ ยทีม่ ีประสทิ ธิภำพ (Network)เพื่อให้ผู้บงั คับบัญชำมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สำมำรถตัดสินตกลงใจและสั่งกำรไปยังผู้ปฏิบัต/ิ หนว่ ยปฏิบัติ(Shooter) ได้ถูกต้องทันเวลำ ทั้งนี้เพื่อควำมมนั่ คงปลอดภัยของประเทศชำติ จงึ ได้มงุ่ เน้นกำรพัฒนำ ๓ มิติที่สำคัญ คือ มติ ิกำรปฏิบัติกำรทำงอำกำศ (Air Power Domain) ไดแ้ ก่ กำรบัญชำกำรและควบคุม (Commandand Control ; C2) ระบบตรวจจับ (Sensor) ผู้ปฏิบัติ/หน่วยปฏิบัติ (Shooter) ระบบเครือข่ำย (Network)กำรสนับสนุนและกำรบริกำร (Support and Service) บุคลำกรและพฤติกรรมกำรปฏิบัติงำน (Human andBehavior) มิติไซเบอร์ (Cyber Domain) เป็นมิติด้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำรเครือข่ำยและอินเทอร์เน็ตท่ีต้องได้รับกำรพัฒนำอย่ำงรวดเร็ว เพื่อป้องกันภัยคุกคำมในมิติไซเบอร์ท่ีจะก่อให้เกิดผลกระทบและควำมเสยี หำยในวงกวำ้ ง ซ่ึงเป็นกำรปฏิบัตกิ ำรด้ำนควำมม่นั คงของชำติ รวมถึงกำรพัฒนำและใช้ประโยชน์จำกขีดควำมสำมำรถทำงไซเบอร์ในกำรปฏิบัติกำรทำงทหำรเชิงรุกเพ่ือควำมได้เปรียบท้ั งในยุทธกำรและยทุ ธวิธี ด้วยกำรผนึกกำลังเครือข่ำยป้องกันประเทศ และมิติอวกำศ (Space Domain) เป็นเทคโนโลยีกิจกำรดำ้ นอวกำศเพอื่ ควำมมน่ั คง ซ่ึงตอ้ งไดร้ ับกำรพฒั นำอยำ่ งต่อเน่อื งใหเ้ หมำะสมสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบันและอนำคต โดยใช้ขีดควำมสำมำรถทำงอวกำศในกำรสังเกตกำรณ์ห้วงอวกำศ (Space Observation) กำรตรวจกำรณ์ทำงอวกำศ (Space Surveillance) และกำรป้องกันทำงอวกำศ (Space Defense) ตลอดจนกำรสอื่ สำรและโทรคมนำคมทำงอวกำศ เพื่อสนับสนุนกำรปฏิบตั ิภำรกิจและเพ่ิมศักยภำพด้ำนกำรรบของกองทัพ
และของประเทศในภำพรวม เน่ืองจำกเป็นเทคโนโลยีท่ีมีศักยภำพในกำรตอบสนองต่อกำรเปล่ียนแปลงของสภำวะแวดลอ้ มด้ำนควำมมั่นคง และช่วยสนับสนุนกำรปฏิบัติภำรกจิ ดำ้ นควำมมัน่ คงของกองทัพอำกำศ และเหล่ำทพั อำจกลำ่ วได้ว่ำเป็นกำรใช้ศักยภำพกำลังพลร่วมกับเทคโนโลยีสำรสนเทศทนั สมัยในกำรปฏิบัตภิ ำรกิจและกำรปฏิบัติกำรทำงอำกำศตำมพันธกิจกองทัพอำกำศท้ังกำรเตรียมกำลังและกำรใช้กำลังทำงอำกำศรวมถงึ เตรียมควำมพรอ้ มในกำรป้องกันภัยคกุ คำมในปัจจบุ ันและอนำคต ท้งั หมดนีเ้ พอ่ื ใหเ้ กดิ ประสทิ ธิผลสงู สุดภำยใตป้ จั จยั สำคัญท่ีสุด คือ กำลงั พลท่ีมีคณุ ภำพหรือกำลังพลท่ีเปน็ ทหำรฉลำด (Smart People) ทั้งกำลังพลท่ีเป็นกำลังหลักในกำรปฏิบัติกำรทำงอำกำศและกำลังพลสนับสนุนในกำรปฏิบัติกำรทำงอำกำศที่สำมำรถปฏิบัติภำร กิจให้สำเร็จลุล่ว ง ไ ด้อย่ำง สัมฤทธิ์ ผลและ มีคุณภำพ ท่ีก่ อให้เกิ ดคุณค่ำและ มูลค่ ำเพิ่มให้กั บกองทพั อำกำศ ประชำชนและประเทศชำติ การบรหิ ารกาลงั พล ทอ. กำรบริหำรกำลังพลของ ทอ. มีกำรกำหนดวงรอบกำรบริหำรกำลังพล ๖ ข้ันตอน ได้แก่๑) กำรกำหนดควำมต้องกำรกำลังพล เป็นกำรวิเครำะห์กำลังพล (Human Resource Analysis) ทั้งเชิงปริมำณและเชิงคุณภำพเพื่อรองรับกำรปฏิบัติรำชกำรและภำรกิจต่ำงๆ ได้อย่ำงเหมำะสมและเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ ๒) กำรจัดหำและสรรหำกำลังพล เป็นกำรคัดกรองและคัดเลือกกำลังพล (Recruitment andSelection) ให้ดำรงตำแหน่งงำนให้เหมำะสมกับประเภทและชนิดของงำน หรือ Put the Right Man on theRight Job, On the Right Time, At the Right Place ๓) กำรบรรจุใช้กำลังพล เป็นกำรให้กำลังพลปฏิบัติงำนตำมคำบรรยำยลกั ษณะงำน (Job Description) และคำบรรยำยลักษณะเฉพำะของงำน (Job Specification)รวมถึงงำนตำมตำแหน่งงำน (Job Positioning) ๔) กำรพัฒนำกำลังพล เป็นกำรเพิ่มหรือเติมเต็มศักยภำพกำลังพลด้วยกำรพัฒนำในรูปแบบหรือบริบทต่ำงๆ ตำมควำมเหมำะสมภำยใต้ข้อจำกัดและโอกำสต่ำงๆ๕) กำรบำรุงรักษำกำลังพล (Retain) เป็นกำรสร้ำงขวัญกำลังใจ กำรให้ผลตอบแทนกำลังพลอย่ำงเหมำะสมท้ังบำเหน็จควำมชอบ รำงวัลและควำมก้ำวหน้ำในอำชีพ (Career Path) รวมถึงสวัสดิกำรและคุณภำพชีวิตกำลังพล และ ๖) กำรพ้นจำกรำชกำร (Retirement) เปน็ กำรดูแลเมอ่ื พน้ จำกรำชกำรท้ังเกษียณอำยรุ ำชกำรตำมกำหนดเวลำ กำรลำออกจำกรำชกำรก่อนกำหนดเวลำ กำรพ้นจำกรำชกำรทเ่ี ป็นบทลงโทษ กำรถูกปลดถูกไล่ออกจำกรำชกำร ซึ่งได้รบั กำรดแู ลกำรจดั กำรตำมกฎระเบียบขอ้ บงั คับ ซึ่งกำรดำเนินกำรบรหิ ำรกำลังพลน้ีเป็นกำรดำเนินกำรภำยใต้กำรมีระบบสำนสนเทศกำรบริหำรกำลังพล (Human Recourse InformationSystem ; HRIS) เป็นฐำนข้อมูลกำลังพลขนำดใหญ่ท่ีสำมำรถเลือกนำไปใช้ให้เหมำะสมกับบริบทท่ีเกี่ยวข้องอำจกล่ำวได้ว่ำกำรบริหำรกำลังพลเป็นกำรกำกับดูแลตั้งแต่เข้ำรับรำชกำรจนพ้นจำกรำชกำร มีกำรใช้ประโยชนก์ ำลังพลและกำรใหผ้ ลตอบแทนเพ่ือสร้ำงแรงจงู ใจให้กำลังพลอย่ำงเหมำะสม จะเห็นได้ถึงกำรบรหิ ำรกำลังพลอย่ำงเป็นระบบ เร่ิมตั้งแต่ต้นทำง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดแรกรับกำลังพลเข้ำรับรำชกำร กลำงทำงเป็นชว่ งเวลำที่รบั รำชกำร มีกำรปฏิบตั ิงำนในหน่วยภำยใน ทอ. และปลำยทำง เป็นจุดส้ินสดุ ท่ีกำลงั พลพ้นจำกรำชกำรหรือท่ีเรียกวำ่ เกษียณอำยรุ ำชกำร ซ่ึง ทอ.ดแู ลกำลงั พลต้ังแต่คดั เลือกกำลังพลจนบรรจเุ ข้ำรับรำชกำรจนกระท่งั เกษยี ณอำยุรำชกำร กลำ่ วคือตัง้ แตต่ ้นทำงจนถึงปลำยทำง
แนวทางพัฒนากาลังพล ทอ. กำรพัฒนำกำลังพล ทอ.แบ่งเป็น ๒ ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภทท่ี ทอ.กำหนดหรือจัดสรรงบประมำณให้สำหรับโครงกำรศึกษำฝึกอบรมและกิจกรรมเพอื่ กำรพัฒนำต่ำง ๆ ท้ังภำยในและภำยนอก ทอ.จนถึงต่ำงประเทศ รวมถึงหน่วยงำนจัดกำรพัฒนำให้กำลังพลหน่วย เช่น กำรใช้ระบบพ่ีเล้ียง กำรฝึกงำนในหน้ำท่ี กำรสอนงำนภำยในหน่วย กำรมอบหมำยงำน กำรให้คำปรึกษำแนะนำ กับประเภทท่ีกำลังพลแต่ละบุคคลเรยี นร้พู ัฒนำด้วยตนเองโดย ทอ.หรอื หน่วยไมม่ ีกำรจัดสรรงบประมำณให้ นอกจำกนก้ี ำรพฒั นำกำลงั พลตำมนโยบำยด้ำนกำรศกึ ษำ ทอ.ได้แบง่ รูปแบบกำรพัฒนำด้วยหลักสูตรกำรฝึกอบรม ๓ รูปแบบ ได้แก่ InitialCourse เป็นกำรฝึกอบรมสำหรับกำรแรกต้ังหรือสำหรับผู้เริ่มเข้ำรับรำชกำรหรือเป็นคร้ังแรกของกำรเร่ิมต้นกำรศึกษำในหลักสูตรขั้นพื้นฐำน Upgrade Course เป็นกำรฝึกอบรมสำหรับกำรยกระดับควำมรู้ควำมสำมำรถจำกกำรพัฒนำด้วยหลักสตู รกำรศึกษำในขั้นท่ีสูงขนึ้ ตำมเสน้ ทำงควำมก้ำวหนำ้ ในอำชีพ Refresher Course เป็นกำรฝึกอบรมสำหรับกำรฟื้นฟูควำมรู้ควำมเข้ำใจให้ทันสมัยหลังจำกผ่ำนกำรศึกษำฝึกอบรมหลักสูตรนั้น ๆมำแล้วเปน็ ระยะเวลำหนึง่ ปัจจัยความสาเร็จในการขับเคลอ่ื นตามยุทธศาสตร์ ทอ.๒๐ ปี หลังขับเคลือ่ นกำรพัฒนำตำมยทุ ธศำสตร์ ทอ. โดยมีกำลังพลเป็นแกนนำและใช้เทคโนโลยีเป็นเครอื่ งมอื ในกำรพัฒนำ ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีกำลังทำงอำกำศ เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำรท่พี ัฒนำอย่ำงรวดเร็ว เช่น เทคโนโลยีอำกำศยำนไร้คนขับ เทคโนโลยีด้ำนกำรสื่อสำรและโทรคมนำคมเทคโนโลยีไซเบอร์และเทคโนโลยีอัตโนมัติ เป็นต้น ส่งผลให้กำรเตรียมและใช้กำลังของ ทอ.ในกำรปฏิบัติภำรกิจเปล่ียนแปลงไป ทอ.จงึ ต้องกำรกำลงั พลและผู้เชี่ยวชำญเฉพำะด้ำนเพิ่มมำกขึ้น ซ่ึงต้องสรรหำคัดเลือกและพัฒนำบุคลำกรของ ทอ.ในทุกระดับให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจและควำมชำนำญเก่ียวกับเทคโนโลยี เพื่อให้สำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ รวมท้ัง กำรพัฒนำและปรับปรุงโครงสร้ำง ทอ.ให้เหมำะสมในขณะเดียวกัน กำรปลูกฝังค่ำนิยมหลักและกำรสร้ำงวัฒนธรรมองค์กำรที่ดี จะช่วยส่งเสรมิ ให้กำลังพล ทอ.ตระหนกั และมีเป้ำหมำยในกำรพัฒนำ ทอ.ร่วมกัน มคี วำมเข้ำใจในแนวทำงกำรพฒั นำ ทอ. ทง้ั นี้ กำลังพลต้องให้ควำมสำคัญและปฏิบัติตำมบทบำทหน้ำท่ีของตนเองเพื่อพัฒนำ ทอ.มุ่งสู่เป้ำหมำยที่วำงไว้ได้อย่ำงรวดเร็วและมปี ระสิทธิภำพTraining Course Competency GAP Development Initial Course Mentoring GAP - GAP 0 GAP +Upgrade Course GAP - GAP 0 GAP + Coaching GAP - GAP 0 GAP + Group ActivityCourse GAP - GAP 0 GAP + OJT, Case StudyRefresher Course GAP - GAP 0 GAP + e-learning etc.Course Coaching ConsultingUpgrade Course Self-Directed Learning etc.CourseRefresher CourseCourse Dynamic Development through High Performance
การวิเคราะหจ์ ุดแขง็ จดุ อ่อน โอกาส อุปสรรค SWOT (รำยละเอยี ดในภำคผนวก) หลกั กำร 7S McKinney รูปภาพจาก http://www.valuebasedmanagement.net/methods_7S.html แนวคดิ นไ้ี ดร้ ับกำรเผยแพร่เป็นครงั้ แรกในปี ค.ศ.๑๙๘๐ โดย Robert Waterman, Tom Peter andJulien Phillips องค์ประกอบทั้ง ๗ ประการ ของ 7S Model ๑. กลยทุ ธ์ขององคก์ ร (Strategy) หมำยถงึ แผนทก่ี ำหนดขึน้ เพื่อสรำ้ งหรือคงไว้ซ่งึ ควำมไดเ้ ปรยี บทำงกำรแข่งขนั กำรวำงแผนเชงิ กลยทุ ธ์ชว่ ยให้องคก์ ำรทรำบสถำนะปัจจุบัน และช่วยกำหนดแผนที่จะชว่ ยให้บรรลุถงึ พนั ธกิจและเป้ำหมำยขององคก์ ำรโดยไม่หลงทำง ๒. โครงสรำ้ งองคก์ ำร (Structure) เปน็ โครงสร้ำงขององคก์ ำรในรูปแบบแนวทำงทอี่ งค์กำรจดั สร้ำงเพื่อบอกหน้ำทแ่ี ละลำดับชั้นของแต่ละส่วนโครงสร้ำงขององค์กำรทด่ี จี ะตอ้ งมีควำมคล่องตวั ในกำรบรหิ ำรงำนและไม่ทำใหเ้ กดิ กำรทำงำนทซี่ ้ำซ้อน มีสำยบงั คบั บญั ชำทชี่ ัดเจน และต้องสง่ เสริมให้มกี ำรทำงำนประสำนงำนระหว่ำงหนว่ ยงำนได้อย่ำงรำบรนื่ ๓. ระบบกำรปฏบิ ตั ิงำน (System) เป็นกระบวนกำรหรือขั้นตอนกำรปฏิบตั งิ ำนประจำวนั ที่บคุ ลำกรจะต้องทำให้สำเรจ็ ในกำรปฏิบัตงิ ำนตำมกลยุทธ์ เพื่อใหบ้ รรลุเปำ้ ประสงค์ตำมทก่ี ำหนดไว้ กำรจัดโครงสรำ้ งท่ีเหมำะสมและมีกลยุทธท์ ด่ี ี ร่วมกับกำรจัดระบบกำรทำงำน จะชว่ ยให้องค์กำรต้องแบ่งหนำ้ ท่ขี องระบบงำนท่ีชัดเจน อำทิ ระบบบญั ช/ี กำรเงิน (Accounting/Financial System) ระบบกำรผลิต เป็นตน้ ๔. บุคลำกร (Staff) ทรพั ยำกรมนุษย์เป็นปจั จยั สำคัญต่อกำรดำเนินงำนขององคก์ ำร องคก์ ำรจะประสบควำมสำเร็จหรือไมส่ ่วนหนึง่ ข้นึ กับกำรจดั กำรทรัพยำกรมนุษย์ (Human Resource Management)
กำรวำงแผนทรพั ยำกรมนษุ ย์ เป็นกระบวนกำรวิเครำะหค์ วำมต้องกำรทรัพยำกรมนุษย์ในอนำคต องค์กำรทดี่ ีต้องมีบุคลำกรท่ีเพียงพอตอ่ ปริมำณงำน และมีกำรคัดเลือกบุคลำกรทม่ี ีควำมรแู้ ละควำมสำมำรถตรงกับงำน ๕. ทกั ษะ ควำมรู้ ควำมสำมำรถ (Skill) ทกั ษะควำมรู้ควำมสำมำรถของบคุ ลำกรในองคก์ ำรเปน็ ส่ิงท่ีสำคัญมำก องค์กำรท่ีดีตอ้ งมอบหมำยงำนให้บุคลำกรตำมควำมรแู้ ละควำมสำมำรถ อีกท้ังองค์กำรจะตอ้ งเป็นตัวเร่งผลกั ดนั และคอยสนับสนนุ ใหบ้ ุคลำกรพัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถให้มปี ระสทิ ธิภำพมำกย่งิ ขึน้ ๖. รูปแบบกำรบริหำรจัดกำร (Style) เป็นแบบแผนพฤติกรรมในกำรปฏิบตั งิ ำนของผู้บรหิ ำร ซ่ึงเปน็องค์ประกอบทสี่ ำคญั อยำ่ งหนง่ึ ของสภำพแวดล้อมภำยในองคก์ ำร ควำมเปน็ ผ้นู ำองคก์ ำรจะมีบทบำทท่ีสำคญัตอ่ ควำมสำเรจ็ หรอื ลม้ เหลวขององค์กำร ผนู้ ำท่ีประสบควำมสำเรจ็ ตอ้ งวำงโครงสร้ำงวฒั นธรรมองคก์ ำรดว้ ยกำรเชอ่ื มโยงระหวำ่ งควำมเป็นเลศิ และพฤตกิ รรมทำงจรรยำบรรณให้เกดิ ขึน้ ๗. ค่ำนิยมร่วม (Shared values) คำ่ นยิ มและบรรทดั ฐำนท่ยี ดึ ถือร่วมกนั โดยสมำชกิ ขององคก์ ำรท่ีกลำยเปน็ รำกฐำนของระบบกำรบรหิ ำร และวิธกี ำรปฏบิ ัติของบุคลำกรและผู้บรหิ ำรภำยในองค์กำร หรอื อำจเรยี กวำ่ วัฒนธรรมองค์กำร รำกฐำนของวัฒนธรรมองคก์ ำรหนว่ ย คอื ควำมเช่ือ คำ่ นิยมที่สร้ำงรำกฐำนทำงปรัชญำเพอ่ื ขับเคลือ่ นทศิ ทำงขององคก์ ำร โดยท่วั ไปแล้ว ควำมเชอ่ื จะสะท้อนใหเ้ หน็ บุคลิกภำพและเป้ำหมำยของผูบ้ ริหำรระดบั สงู ตอ่ มำควำมเชอื่ จะถกู กำหนดเปน็ บรรทดั ฐำน เปน็ พฤติกรรมประจำวันภำยในองค์กำรเม่ือค่ำนิยมและควำมเชอ่ื ถกู ยอมรบั ทัว่ ท้งั องค์กำร บคุ ลำกรจะแสดงพฤตกิ รรมตำมค่ำนยิ มเปน็ อตั โนมัติ หลักการ SWOT SWOT เปน็ หลักกำรวิเครำะหร์ ปู แบบหนึ่ง ท่ีนยิ มใชก้ นั อย่ำงแพร่หลำยในมหำวิทยำลยั ฮำร์วำรด์มำต้ังแตป่ ี ๑๙๖๐ โดยจะใช้ในกำรประเมินสถำนกำรณแ์ ละวำงแผนกลยุทธ์ รวมทั้งตรวจสอบสภำพองค์กำรทัง้ภำยในและภำยนอก โดยจะทำกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล ๔ อยำ่ งคือ จดุ แข็ง จุดอ่อน โอกำส และอุปสรรค เพอ่ื แกไ้ ขปัญหำภำยในและภำยนอกขององค์กำรใหม้ ีประสิทธภิ ำพมำกย่งิ ข้ึน
องคป์ ระกอบของ SWOT องคป์ ระกอบของ SWOT มที ้ังหมด ๔ ประกำร ประกอบด้วย ๑. จดุ แข็ง (Strength) คือ ควำมสำมำรถและสถำนกำรณท์ ด่ี ภี ำยในองคก์ ำร ๒. จดุ อ่อน (Weakness) คือ ควำมสำมำรถและสถำนกำรณ์ทเ่ี ป็นขอ้ ด้อยขององคก์ ำร ตอ้ งแก้ไข ๓. โอกำส (Opportunity) คอื หนทำงท่ีทำให้องค์กำรประสบควำมสำเร็จ ๔. อุปสรรค (Threat) คือ ปจั จัยท่ีขัดขวำงกำรทำงำนขององค์กำร กำรใชห้ ลกั กำร SWOT ในกำรวเิ ครำะห์ปัญหำ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑. กำรวเิ ครำะหจ์ ำกปจั จัยภำยใน (Internal analysis) โดยเป็นกำรวเิ ครำะห์จำกจุดแข็งและจุดอ่อนขององคก์ ำร ๒. กำรวเิ ครำะหจ์ ำกปจั จัยภำยนอก (External analysis) โดยเปน็ กำรวิเครำะห์โอกำสและอปุ สรรคที่เกีย่ วขอ้ งกบั สังคม กำรเมือง ประชำชน เศรษฐกิจ ขนั้ ตอนการดาเนินการ ๑. ประชมุ วเิ ครำะห์ SWOT ๒. สอบถำมควำมคิดเห็น ผบช. ๓. จดั ทำรำ่ งกลยุทธ์ ๔. ประชุม พิจำรณำร่ำงกลยุทธ์ ๕. จดั ทำร่ำงแผนพัฒนำบุคลำกร ๖. ประชุม พิจำรณำร่ำงแผนพัฒนำบุคลำกร ๗. ขออนมุ ัติแผนพัฒนำบคุ ลำกรสรปุ ขอ้ มลู จากการวิเคราะห์ SWOT ค่าถ่วงนา้ นักวิเครำะห์ PESTLE ของ Francis J. Aguilar, ๑๙๖๗ (ประยุกตใ์ ช้ PEST) ๐.๒๘ ลาดบั PEST ๐.๒๕ ๑ P; Political ๐.๒๔ ๒ E; Economic ๐.๒๔ ๓ S; Social ๑.๐๐ ๔ T; Technological ผลรวม
PEST ค่าถ่วงนา้ หนกั คา่ จริง คะแนนถว่ งนา้ หนกั โอกาส อุปสรรค โอกาส อปุ สรรค P ๐.๒๘ ๓.๑๓ ๒.๘๕ ๐.๘๗ ๐.๗๙ E ๐.๒๕ ๓.๑๗ ๓.๒๓ ๐.๗๖ ๐.๗๘ S ๐.๒๔ ๓.๐๖ ๒.๘๙ ๐.๗๒ ๐.๖๘ T ๐.๒๔ ๓.๕๗ ๓.๕๙ ๐.๘๘ ๐.๘๘รวม ๑.๐๐ ๓.๒๓ ๓.๑๔ ๓.๒๓ ๓.๑๓วิเครำะห์ 7’s McKinsey ของ Robert Waterman, Tom Peter and Julien Phillips, ๑๙๘๐ลาดับ 7’s McKinsey ค่าถว่ งนา้ นัก ๑ Strategy; S1 ๐.๑๖ ๒ Structure; S2 ๐.๑๕ ๓ Style; S3 ๐.๑๙ ๐.๑๑ System; S4 ๐.๑๔ ๕ Staff; S5 ๐.๑๒ ๖ Skill; S6 ๐.๑๓ ๗ Shared Value; S7 ๑.๐๐ ผลรวม7'S คา่ ถ่วงนา้ หนัก คา่ จรงิ คะแนนถ่วงนา้ หนัก SW SWStrategy; S1 ๐.๑๖ ๓.๖๔ ๓.๔๗ ๐.๕๘ ๐.๕๕Structure; S2 ๐.๑๕ ๓.๕๐ ๓.๓๒ ๐.๕๔ ๐.๕๑Style; S3 ๐.๑๙ ๓.๓๖ ๓.๑๐ ๐.๖๓ ๐.๕๘System; S4 ๐.๑๑ ๓.๑๖ ๓.๗๓ ๐.๓๔ ๐.๔๑Staff; S5 ๐.๑๕ ๓.๒๔ ๓.๑๔ ๐.๔๗ ๐.๔๖Skill; S6 ๐.๑๒ ๓.๑๘ ๑.๘๒ ๐.๓๘ ๐.๒๑Shared Value; S7 ๐.๑๓ ๓.๙๑ ๓.๓๐ ๐.๕๐ ๐.๔๒ ๑.๐๐ ๓.๔๓ ๑.๑๘ ๓.๔๓ ๓.๑๔ รวม
ผลการวเิ คราะห์ SWOT (รำยละเอียดคะแนนวิเครำะห์ SWOT ตำมผนวก) กำรขับเคล่อื นองค์กำรให้มุ่งเน้นยุทธศำสตร์เชิงรุก และเติมเต็มยุทธศำสตร์เชิงรับให้มีประสทิ ธิภำพมำกยิง่ ขน้ึ จำกทัง้ ๒ แนวคดิ ของประเด็นยุทธศำสตร์ดังกล่ำว จะช่วยยกระดับองค์กำรในปัจจุบันให้พร้อมกำ้ วสอู่ งค์กำรในอนำคตตำมวิสัยทัศนท์ กี่ ำหนดได้
แผนพัฒนาบุคลากร ทอ. พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๗๙เปา้ หมาย กำลังพล ทอ.มีศกั ยภำพพรอ้ มขับเคลอ่ื น ทอ.สูว่ ิสัยทศั น์อย่ำงยง่ั ยนื ในปี ๒๕๗๙ตวั ช้ีวัด ๑. ระดบั ควำมสำเร็จกำรดำเนนิ กลยุทธไ์ ดต้ ำมเป้ำหมำยครอบคลุม ๔ กลยุทธใ์ นช่วงเวลำทก่ี ำหนด ๒. รอ้ ยละกำลงั พลในแต่ละ นขต.ทอ.มำกกวำ่ รอ้ ยละ ๗๐ มีสมรรถนะตำมเกณฑ์ที่ ทอ.กำหนด ๓. อตั รำสว่ นของนวตั กรรมทช่ี ่วยเพิม่ ประสทิ ธิภำพในกำรทำงำนในแต่ละ นขต.ทอ.เมือ่ เทียบกบั จำนวนกำลงั พล มำกกวำ่ ๑ : ๑๐๐ ข้ึนไป กลยทุ ธท์ ี่ ๑ เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพกาลังพล ทอ.สู่องค์การสมรรถนะสงู กลยุทธ์ยอ่ ยที่ ๑.๑ พฒั นำสมรรถนะกำลงั พล กลยทุ ธ์ที่ ๒รำชกำร ๑.๑.๑ พัฒนำกำลงั พลตำมผลกำรประเมินสมรรถนะ ๑.๑.๒ พัฒนำกำลังพลเทำ่ ทันกำรเปลย่ี นแปลงในปัจจบุ นั และอนำคต ๑.๑.๓ สง่ เสริมกำรเรยี นรพู้ ัฒนำตนเองอย่ำงตอ่ เนือ่ ง ๑.๑.๔ สรำ้ งเสน้ ทำงกำรศึกษำฝึกอบรมท่มี ีประสทิ ธภิ ำพ กลยุทธ์ยอ่ ยท่ี ๑.๒ บรหิ ำรผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนกำลังพลใหเ้ กดิ ประสทิ ธิผล ๑.๒.๑ พัฒนำกำรกำหนดเปำ้ หมำยตวั ช้ีวัดรำยบุคคล ๑.๒.๒ สนับสนนุ ใหเ้ กิดพลวตั กำรประเมนิ ผลกำรพฒั นำกำลงั พล ๑.๒.๓ สง่ เสริมกำรสรำ้ งสรรค์ผลงำนและนวตั กรรมในกำรทำงำน กลยทุ ธ์ยอ่ ยที่ ๑.๓ สรำ้ งวฒั นธรรมองค์กำรเขม้ แขง็ ๑.๓.๑ ส่งเสรมิ คุณภำพชวี ิตในกำรทำงำน ๑.๓.๒ เสรมิ สร้ำงค่ำนิยมหลกั ของ ทอ.ในหน่วยงำน ๑.๓.๓ เสรมิ สรำ้ งจิตสำนกึ ทำงสงั คมในกำรใหบ้ ริกำร สร้างเสรมิ ระบบการบรหิ ารกาลังพล ทอ.สสู่ ากล กลยุทธย์ ่อยท่ี ๒.๑ พฒั นำระบบกำรสรรหำคัดเลือกกำลังพลตำมแนวคิดสมรรถนะ กลยุทธย์ อ่ ยที่ ๒.๒ พฒั นำระบบกำรธำรงรักษำกำลงั พล กลยทุ ธย์ ่อยที่ ๒.๓ พฒั นำระบบเตรยี มกำรดแู ลกำลังพลก่อนและหลงั เกษยี ณอำยุ
ใช้งำน ๒.๓.๑ พฒั นำระบบฐำนขอ้ มลู กำลงั พลใหท้ นั สมยั พรอ้ มรำชกำร ๒.๓.๒ พฒั นำกำรเตรียมกำรดแู ลกำลังพลก่อนเกษยี ณอำยุ กลยุทธท์ ่ี ๓ ๒.๓.๓ พฒั นำกำรดูแลสิทธกิ ำลงั พลหลังเกษียณอำยรุ ำชกำร กลยุทธ์ท่ี ๔ เสริมสร้างเครอื ขา่ ยเข้มแข็งพรอ้ มนา ทอ.สูอ่ งค์การชัน้ นาประสทิ ธิภำพ กลยุทธ์ยอ่ ยที่ ๓.๑ ส่งเสริมกำรปฏบิ ัตกิ ำรที่ใช้เครอื ข่ำยเป็นศนู ยก์ ลำง กลยทุ ธ์ย่อยท่ี ๓.๒ สนบั สนุนกำรปฏบิ ตั กิ ำรขอ้ มูลข่ำวสำรเชงิ รุก กลยุทธย์ อ่ ยท่ี ๓.๓ สรำ้ งสัมพันธภำพในเครือข่ำยพันธมิตรเข้มแขง็ ยกระดับองค์การสู่ความเปน็ SMART RTAF อยา่ งย่งั ยนื กลยุทธย์ ่อยที่ ๔.๑ ปรบั ตัวองค์กำรให้เท่ำทันสถำนกำรณอ์ นำคตอยำ่ งมี กลยุทธย์ ่อยที่ ๔.๒ ธำรงรกั ษำพลวตั กำรเรยี นรู้พฒั นำตนเองได้อยำ่ งตอ่ เน่ืองยง่ั ยนื กลยุทธ์ย่อยที่ ๔.๓ รกั ษำภำพลกั ษณ์ทีด่ ีขององค์กำรอยำ่ งตอ่ เนอื่ ง
กลยุทธ์ท่ี ๑ เสรมิ สรา้ งศักยภาพกาลังพล ทอ.สู่องค์การสมรรถนะสงูตวั ช้วี ดั กลยทุ ธ์ที่ ๑ ระดบั ควำมสำเร็จของกำรดำเนนิ กำรตำมกลยุทธ์ย่อยได้ครบ คา่ เป้าหมายในแตล่ ะระยะเวลา (ปี)กลยทุ ธ์ย่อยท่ี ๖๑ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๑. พัฒนำสมรรถนะกำลงั พล ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐๒. บริหำรผลกำรปฏิบตั งิ ำนกำลงั พล ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐ ให้เกดิ ประสทิ ธิผล๓. สรำ้ งวฒั นธรรมองค์กำรเข้มแขง็ ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐
บท้งั ๓ กลยทุ ธย์ ่อยตำมคำ่ เป้ำหมำยในแตล่ ะช่วงเวลำทก่ี ำหนดข้อมลู หนว่ ย หนว่ ยเกย่ี วข้อง นขต.ทอ.๗๙ ปัจจุบัน ตวั ชีว้ ัด รับผดิ ชอบ นขต.ทอ.๐๐ ๖๕ รอ้ ยละของควำมสำเรจ็ ในกำร กพ.ทอ. นขต.ทอ. ดำเนินกำรพฒั นำสมรรถนะ กำลังพลครอบคลุมทกุ ประเด็น๐๐ ๖๐ รอ้ ยละของควำมสำเรจ็ ในกำรบริหำร กพ.ทอ. ผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนกำลงั พลครอบคลมุ ทุกประเด็น๐๐ ๖๐ ร้อยละของควำมสำเร็จในกำร กพ.ทอ. ดำเนนิ กำรสรำ้ งวฒั นธรรมองคก์ ำร เข้มแข็งครอบคลมุ ทกุ ประเดน็
กลยุทธ์ยอ่ ยที่ ๑.๑ พัฒนำสมรรถนะกำลงั พลตัวช้วี ดั กลยุทธ์ท่ี ๑.๑ รอ้ ยละของควำมสำเร็จในกำรดำเนนิ กำรพฒั นำสมรรถนะกประเด็นกลยุทธย์ อ่ ย วตั ถุประสงค์ งบประมาณ งบป ๖๑ - ๖๔๑.๑.๑ พัฒนำกำลงั พล เพื่อพฒั นำกำลงั พล xxx,xxx,xxx xx,xxx,xxxตำมผลกำรประเมิน อยำ่ งมีประสิทธิภำพสมรรถนะ๑.๑.๒ พฒั นำกำลงั พล เพ่ือใหก้ ำลงั พลเท่ำ xx,xxx,xxx x,xxx,xxxเท่ำทนั กำรเปลีย่ นแปลง ทนั กำรเปลี่ยนแปลงในปัจจุบนั และอนำคต๑.๑.๓ ส่งเสริมกำร เพื่อให้สำมำรถเรยี นรู้ xxx,xxx xxx,xxxเรียนรู้พัฒนำตนเอง ดว้ ยตนเองได้อย่ำงต่อเนื่อง๑.๑.๔ สร้ำงเสน้ ทำง เพื่อให้มที ิศทำงกำร - -กำรศึกษำฝึกอบรมทีม่ ี ฝึกอบรมที่มีประสิทธภิ ำพ ประสทิ ธภิ ำพ
กำลังพลครอบคลุมทุกประเด็น หนว่ ยรบั ผิดชอบ หน่วยเกย่ี วขอ้ งประมาณในแตล่ ะช่วงเวลา (ปี) นขต.ทอ. กพ.ทอ. ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙ หนว่ ยสำยวทิ ยกำร xx,xxx,xxx xx,xxx,xxx xx,xxx,xxxx,xxx,xxx xx,xxx,xxx xx,xxx,xxx หนว่ ยสำยวทิ ยกำร นขต.ทอ.xx,xxx xx,xxx xx,xxx หนว่ ยสำยวทิ ยกำร นขต.ทอ.--- กพ.ทอ. นขต.ทอ. ยศ.ทอ. หนว่ ยสำยวิทยกำร
ประเด็น เป้าประสงค์ ตวั ชวี้ ัด คา่ ขอ้ มลู กลยทุ ธ์ย่อย เปา้ หมาย ปจั จบุ ัน๑.๑.๑ พฒั นำ มีกำรนำผลกำร ร้อยละนขต.ทอ. ≥ร้อยละ - ๑.๑.๑.๑กำลังพลตำม ประเมินไปใช้ ทส่ี ำมำรถทำได้ผลกำรประเมิน ประโยชน์ ๗๐ กำรปฏิบสมรรถนะ มแี ผนพัฒนำ รอ้ ยละนขต.ทอ. หน่วยงำ กำลงั พลหนว่ ย ที่สำมำรถ อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ ดำเนินกำรได้ ≥รอ้ ยละ - ๑.๑.๑.๒ ครอบคลุม ๗๐ ของคะแ จำนวน ผบช. -แ ผ้นู ำหนว่ ยให้ หนว่ ยท่รี ว่ มมือ -แ ควำมสำคัญ จำนวนหน่วยที่ -แ ผนู้ ำหนว่ ยรว่ ม ปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิ รอ้ ยละหน่วยที่ ≥ร้อยละ - ๑.๑.๑.๓ มีเครื่องมือและ ปฏิบตั ไิ ด้ ๗๐ และกำก วิธีกำรพฒั นำ รอ้ ยละหน่วยท่ี มโี ครงกำรฝกึ ปฏิบัตไิ ด้ ≥รอ้ ยละ - ๑.๑.๑.๔ อบรมท่เี หมำะสม ระดับควำมสำเรจ็ ๗๐ แนะนำแ ระบบท่ีพัฒนำ ท่ีดำเนินกำรได้ แลว้ ≥ร้อยละ - ๑.๑.๑.๕ ๗๐ กำลังพล ≥ร้อยละ - ๑.๑.๑.๖ ๘๐ ทำงกำร สำเรจ็ - ๑.๑.๑.๗
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หนว่ ยปฏบิ ตั ิ๑ วเิ ครำะหผ์ ลคะแนนประเมินตำมโปรแกรมประเมินผล - นขต.ทอ.บัตงิ ำนตำมแนวคดิ สมรรถนะกำลงั พล ทอ.ในระดบั -ำนและระดับ ทอ. นขต.ทอ.๒ วำงแผนพฒั นำกำลงั พลหน่วยตำมชอ่ งว่ำง (Gap) -แนนประเมนิ ฯ เทยี บกบั เกณฑท์ ่ี ทอ.กำหนด - คณก.สมรรถนะแผนพัฒนำกำลงั พล Gap – (ต่ำกว่ำเกณฑ)์ แยกชนั้ ยศ xxx,xxx นขต.ทอ.แผนพฒนำกำลงั พล Gap 0 (เท่ำกับเกณฑ)์ แยกช้ันยศ xx,xxx,xxx นขต.ทอ.แผนพฒั นำกำลังพล Gap + (สูงกวำ่ เกณฑ์) แยกช้ันยศ xx,xxx,xxx นขต.ทอ.๓ ส่งเสริมให้ผนู้ ำหน่วยให้ควำมสำคัญ กำหนดนโยบำยกับดูแลกำรพฒั นำกำลงั พลตำมแผนทกี่ ำหนด สำยวิทยำกำร๔ ผนู้ ำทุกระดบั ในหน่วยแสดงบทบำทผใู้ ห้คำปรึกษำและผ้สู อน (Coaching)๕ พัฒนำเครื่องมอื และวิธกี ำรพฒั นำให้เหมำะสมกบัลและบรบิ ทของหนว่ ย๖ จัดทำโครงกำรศึกษำฝึกอบรมให้สอดรับกับแนวรพฒั นำกำลงั พลของหน่วย๗ ยกระดับระบบกำรพฒั นำกำลงั พลสำยวทิ ยำกำร
ประเดน็ เป้าประสงค์ ตัวช้วี ัด ค่า ข้อมลู กลยุทธย์ ่อย เป้าหมาย ปจั จุบัน๑.๑.๒ พฒั นำ มโี ครงกำร ระดับควำมสำเร็จ สำเรจ็กำลังพลเทำ่ ทัน ฝึกอบรม ที่ทำได้ - ๑.๑.๒.๑กำรเปลี่ยนแปลง แนวทำงพฒั นำ ระดับควำมสำเรจ็ สำเร็จ ควำมเปในปจั จุบันและ ภำษำองั กฤษ ทที่ ำได้อนำคต แนวทำงพฒั นำ ระดับควำมสำเรจ็ สำเร็จ - ๑.๑.๒.๒ ICT ที่ทำได้ เหมำะส๑.๑.๓ ส่งเสริม เรียนรผู้ ่ำน ระดบั ควำมสำเรจ็ สำเร็จกำรเรยี นรู้ e-learning ที่ทำได้ - ๑.๑.๒.๓พฒั นำตนเอง เรียนรู้ด้วย ระดบั ควำมสำเร็จ สำเรจ็ ระดบั พืน้อย่ำงต่อเน่ือง ตนเอง ทท่ี ำได้ มีคู่มอื ปฏบิ ัติ ระดบั ควำมสำเรจ็ สำเรจ็ - ๑.๑.๓.๑ งำนรำยบคุ คล ท่ที ำได้ มีองคค์ วำมรู้ ร้อยละหนว่ ยที่ ≥ร้อยละ - ๑.๑.๓.๒ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๗๐ Self-dir แลกเปลีย่ น รอ้ ยละหนว่ ยที่ เรยี นรู้ผ่ำน ปฏบิ ัติได้ ≥รอ้ ยละ - ๑.๑.๓.๓ กจิ กรรมกล่มุ ๗๐ - ๑.๑.๓.๔ - ๑.๑.๓.๕ แลกเปล
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หนว่ ยปฏิบตั ิ๑ จดั ทำโครงกำรศึกษำฝึกอบรมให้สอดรบั กับทิศทำง xx,xxx,xxx นขต.ทอ.ปล่ยี นแปลงของโลกและต้องกำรกำลังพลในอนำคต x,xxx,xxx นขต.ทอ.๒ ยกระดบั ควำมสำมำรถในกำรใชภ้ ำษำอังกฤษให้ x,xxx,xxx นขต.ทอ.สมกับบรบิ ทกำลังพลแต่ละประเภทสรู่ ะดับสำกล xxx,xxx นขต.ทอ.๓ พฒั นำควำมสำมำรถในดิจิทัลเทคโนโลยใี นนฐำนและระดบั กำ้ วหน้ำ๑ สนับสนนุ กำรเรียนรดู้ ว้ ยตนเองผำ่ น e-learning๒ ส่งเสรมิ กำรเรียนร้ดู ้วยตนเองในลกั ษณะ - นขต.ทอ.rected Learning - นขต.ทอ.๓ สง่ เสรมิ กำรจดั ทำคมู่ อื ปฏิบตั งิ ำนรำยบุคคล๔ ส่งเสริมกำรสรำ้ งองค์ควำมรใู้ นกำรทำงำน - นขต.ทอ.๕ ส่งเสรมิ กำรเรียนรผู้ ำ่ นกลุม่ กิจกรรมและกำร - นขต.ทอ.ลีย่ นเรยี นร้รู ่วมกนั ในกำรทำงำน
ประเดน็ เปา้ ประสงค์ ตวั ชว้ี ัด คา่ ขอ้ มลู กลยุทธ์ย่อย เป้าหมาย ปัจจบุ ัน๑.๑.๔ สร้ำง มี Training ระดับควำมสำเรจ็ สำเร็จ - ๑.๑.๔.๑เสน้ ทำง Roadmap ทที่ ำได้กำรศกึ ษำ หนว่ ยมีกำร ร้อยละหน่วยที่ กำลงั พลฝกึ อบรมที่มี ฝึกอบรม ปฏิบัตไิ ด้ ≥รอ้ ยละ - ๑.๑.๔.๒ประสทิ ธิภำพ หนว่ ยวำง ร้อยละหนว่ ยที่ ระบบกำร ปฏิบัติได้ ๗๐ กำหนด ตดิ ตำม ≥รอ้ ยละ - ๑.๑.๔.๓ ประเมนิ ผล ๗๐
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏบิ ตั ิ๑ วำงแนวทำงกำรศกึ ษำฝึกอบรม (Training Roadmap) - นขต.ทอ.ล ทอ. นขต.ทอ.๒ ดำเนนิ กำรศกึ ษำฝึกอบรมกำลงั พลตำมแนวทำงท่ี xx,xxx,xxx๓ ตดิ ตำมประเมนิ ผลควำมสำเรจ็ ของกำรดำเนนิ กำร - นขต.ทอ.
กลยทุ ธ์ย่อยท่ี ๑.๒ บริหำรผลกำรปฏิบัติงำนกำลงั พลให้เกิดประสทิ ธผิ ลตัวชวี้ ัดกลยทุ ธ์ท่ี ๑.๒ รอ้ ยละของควำมสำเร็จในกำรบริหำรผลกำรปฏิบัติงำนกำลังประเดน็ กลยทุ ธย์ อ่ ย วัตถุประสงค์ งบประมาณ งบป ๖๑ - ๖๔๑.๒.๑ พัฒนำกำร เพอ่ื ใหก้ ำลังพลมที ิศทำง xx,xxx xxx,xxx,xxxกำหนดเป้ำหมำยตัวชี้วดั และมงุ่ ผลสำเรจ็ ในกำรรำยบคุ คล ดำเนนิ งำน๑.๒.๒ สนบั สนนุ ใหเ้ กิด เพ่อื ใหก้ ำรพฒั นำ xxx,xxx xx,xxx,xxxพลวตั กำรประเมนิ ผลกำร เป็นไปอยำ่ งเปน็ ระบบพัฒนำกำลังพล ครบวงจร PDCA๑.๒.๓ ส่งเสรมิ กำร เพือ่ ใหเ้ กดิ ควำมคดิ xxx,xxx xxx,xxxสร้ำงสรรคผ์ ลงำนและ สรำ้ งสรรคท์ ีน่ ำไปสู่กำรนวัตกรรมในกำรทำงำน สร้ำงนวัตกรรมได้
งพลครอบคลุมทุกประเดน็ หน่วยรับผิดชอบ หน่วยเกีย่ วขอ้ งประมาณในแตล่ ะชว่ งเวลา (ป)ี xx,xxx,xxx กพ.ทอ. ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙ หน่วยสำยวทิ ยกำร xx,xxx,xxx xx,xxx,xxx xx,xxx,xxxx,xxx,xxx x,xxx,xxx xx,xxx,xxx xx,xxx,xxx หนว่ ยสำยวทิ ยกำรxxx,xxx xx,xxx xx,xxx xx,xxx หนว่ ยสำยวิทยกำร
ประเดน็ เปา้ ประสงค์ ตวั ชี้วัด คา่ ขอ้ มูลกลยทุ ธ์ย่อย เปา้ หมาย ปจั จุบนั๑.๒.๑ พัฒนำ กำลังพลทุก ระดับควำมสำเร็จ สำเรจ็ - ๑.๒.๑.๑กำรกำหนด ระดับมคี วำมรู้ ของกำรดำเนิน กำรกำหเป้ำหมำย ควำมเขำ้ ใจ โครงกำร -รตวั ชี้วัด - รรำยบุคคล มีส่ือกำร จำนวนสื่อกำร ≥ ๓ สอื่ - ๑.๒.๑.๒ เรียนรทู้ ่ี เรยี นรู้ รำยบคุ ค หลำกหลำย -ส Line, e -ส มีกำรเผยแพร่ - จำนวนชอ่ งทำงส่ือ ≥๒ชอ่ งทำง - ๑.๒.๑.๓ ประชำสมั พันธ์ - ระดับควำมสำเร็จ สำเร็จ ใชง้ ำน ในกำรดำเนินกำร มีกำรประเมนิ รอ้ ยละหน่วยที่ ≥ ร้อยละ - ๑.๒.๑.๔ ควำมสำเร็จ ดำเนนิ กำรได้ ๗๐๑.๒.๒ กำลังพล รอ้ ยละหน่วยท่ี ≥ รอ้ ยละ - ๑.๒.๒.๑สนับสนนุ ให้ พฒั นำกำร ดำเนินกำรได้ ๗๐ - ๑.๒.๒.๒เกดิ พลวัตกำร ทำงำนอย่ำง เป็นรปู ธประเมนิ ผลกำร เป็นระบบตำม - ๑.๒.๒.๓พัฒนำกำลังพล วงจร PDCA นโยบำย
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏิบัติ๑ ประชุมสมั มนำกำลงั พลในกำรสร้ำงควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ x,xxx,xxx กพ.ทอ.หนดเปำ้ หมำยตัวช้ีวดั รำยบุคคล xxx,xxx นขต.ทอ.ระดบั ผูร้ ับกำรประเมนิ และผ้ปู ระเมิน ชัน้ ยศ น.ท.ขน้ึ ไป นขต.ทอ.ระดบั ผู้รับกำรประเมนิ ชัน้ ยศ น.ต.ลงมำ -๒ สรำ้ งส่ือกำรเรียนรกู้ ำรกำหนดเปำ้ หมำยตวั ช้วี ัดคลสือ่ ออนไลน์ อำทิ โปรแกรม Help, U -Tube, e-mail,e-book, QR Code etc.สอื่ เอกสำร อำทิ คูม่ อื แผน่ พับ เปน็ ต้น๓ ส่อื สำรประชำสัมพันธส์ อ่ื กำรเรยี นรู้และกระต้นุ กำร๔ ตดิ ตำมประเมนิ ผลกำรปฏบิ ัติ - กพ.ทอ.๑ พัฒนำกำรทำงำนอยำ่ งเปน็ ระบบตำมวงจร PDCA - นขต.ทอ.๒ ทบทวนผลกำรพัฒนำกำลงั พลจำกกำรประเมนิ ท่ี - นขต.ทอ.ธรรม๓ ปรับปรงุ กำรพฒั นำกำลังพลใหเ้ หมำะสมสอดรบั กับ - นขต.ทอ.ย หนว่ ย และ ทอ.
ประเดน็ เปา้ ประสงค์ ตัวช้วี ัด คา่ ข้อมูล กลยุทธย์ อ่ ย เป้าหมาย ปจั จบุ นั๑.๒.๓ สง่ เสริม มรี ะบบจดั เกบ็ ระดับควำมสำเร็จ สำเรจ็กำรสรำ้ งสรรค์ ท่ดี ี ของกำรดำเนินกำร สำเร็จ - ๑.๒.๓.๑ผลงำนและ มีกำรคิดนอก ระดบั ควำมสำเร็จ สำเรจ็ ในกำรเรนวัตกรรมใน กรอบ ของกำรดำเนินกำร สำเร็จกำรทำงำน มีนวัตกรรม ระดบั ควำมสำเร็จ - ๑.๒.๓.๒ ICT ของกำรดำเนนิ กำร สำเรจ็ สร้ำงสร มีกำรเรยี นรู้ ระดับควำมสำเร็จ ≥ ๑๐๐ ต้นแบบปฏิบัติ ของกำรดำเนนิ กำร - ๑.๒.๓.๓ ทด่ี ี กำรใช้ด มรี ะบบสร้ำง ระดบั ควำมสำเรจ็ แรงจูงใจ ของกำรดำเนนิ กำร - ๑.๒.๓.๔ มผี ลงำนท่ี จำนวนผลงำน ผลงำนจ สรำ้ ง นวัตกรรม - ๑.๒.๓.๕ นวตั กรร - ๑.๒.๓.๖
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏบิ ัติ๑ พัฒนำระบบกำรจัดเกบ็ องค์ควำมร้แู ละแนวปฏบิ ัติที่ดี x,xxx,xxx กพ.ทอ./ทสส.ทอ./รียนรู้พัฒนำ - สอ.ทอ.๒ ส่งเสรมิ กำรคิดนอกกรอบ เปิดโอกำสในกำร นขต.ทอ.รรค์งำน x,xxx,xxx๓ สง่ เสรมิ กำรสร้ำงนวัตกรรมในกำรทำงำน โดยเฉพำะ - นขต.ทอ.ดจิ ิทลั เทคโนโลยีในกำรเพมิ่ ประสิทธิภำพกำรทำงำน๔ เรยี นรู้จำกต้นแบบปฏบิ ัติท่ีดใี นกำรสรำ้ งสรรค์ นขต.ทอ.จำกภำยในและภำยนอก ทอ.๕ สรำ้ งแรงจงู ใจในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนและ x,xxx,xxx นขต.ทอ.รมอยำ่ งเหมำะสม - นขต.ทอ.๖ สร้ำงมูลคำ่ เพ่ิมในงำนดว้ ยนวตั กรรม
กลยทุ ธย์ อ่ ยท่ี ๑.๓ สรำ้ งวัฒนธรรมองค์กำรเข้มแขง็ตัวชี้วดั กลยทุ ธ์ท่ี ๑.๓ - รอ้ ยละของควำมสำเร็จในกำรดำเนินกำรสรำ้ งวัฒนธรรมอประเดน็ กลยทุ ธ์ย่อย วัตถุประสงค์ งบประมาณ งบป ๖๑ - ๖๔๑.๓.๑ พฒั นำกำร เพือ่ ให้กำลังพล xx,xxx xx,xxxกำหนดเปำ้ หมำยตัวช้วี ัด ดำเนินกำรไดถ้ ูกตอ้ งรำยบุคคล๑.๓.๒ สนบั สนุนให้เกิด เพ่ือให้เกดิ พลวตั ใน - -พลวัตกำรประเมนิ ผลกำร กำรดำเนินกำรพัฒนำกำลังพล๑.๓.๓ สง่ เสริมกำร เพื่อใหเ้ กดิ ผลงำนเชงิ xxx,xxx xxx,xxxสร้ำงสรรค์ผลงำนและ นวตั กรรมนวัตกรรมในกำรทำงำน
องคก์ ำรเขม้ แข็งครอบคลุมทุกประเดน็ หนว่ ยรับผดิ ชอบ หนว่ ยเกยี่ วขอ้ งประมาณในแต่ละช่วงเวลา (ป)ี กพ.ทอ. นขต.ทอ. ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙ xx,xxx xx,xxx xx,xxx--- กพ.ทอ. นขต.ทอ.xxx,xxx xxx,xxx xxx,xxx กพ.ทอ. นขต.ทอ.
ประเด็น เปา้ ประสงค์ ตวั ชีว้ ัด ค่า ข้อมลู กลยุทธย์ อ่ ย เปา้ หมาย ปจั จบุ ัน๑.๓.๑ สง่ เสรมิ ผนู้ ำหน่วย ระดับควำมสำเรจ็ สำเรจ็คุณภำพชวี ิตใน สนบั สนุนกำร ในกำรดำเนนิ กำร - ๑.๓.๑.๑กำรทำงำน ดำเนนิ กำร สำเร็จ หนว่ ยงำ ระดบั ควำมสำเรจ็ ≥ ๗๐ นขต.ทอ. ในกำรดำเนินกำร สำเรจ็ - ๑.๓.๑.๒ ดำเนนิ กำร ร้อยละนขต.ทอ.ที่ ≥ ๘๕ นขต.ทอ. ดำเนินกำร สำเรจ็ - ๑.๓.๑.๓ ดำเนินกำร ระดบั ควำมสำเรจ็ ≥ ๗๐ Workpl นขต.ทอ. ในกำรดำเนนิ กำร ดำเนนิ กำร ร้อยละนขต.ทอ.ที่ - ๑.๓.๑.๔๑.๓.๒ นขต.ทอ. ดำเนนิ กำรเสริมสรำ้ ง ดำเนนิ กำร ระดบั ควำมสำเร็จ ๗๐ ๑.๓.๒.๑คำ่ นิยมหลัก นขต.ทอ. ในกำรดำเนินกำร ของ ทอของ ทอ.ใน ดำเนนิ กำร ร้อยละนขต.ทอ.ที่หน่วยงำน นขต.ทอ. ดำเนินกำร - ๑.๓.๒.๒ ดำเนินกำร หน่วยงำ - ๑.๓.๒.๓ ค่ำนิยมห
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หนว่ ยปฏิบัติ๑ สนับสนุนกำรใช้หลกั ๕ ส.อยำ่ งจรงิ จังต่อเนอื่ งใน - กพ.ทอ./นขต.ทอ.ำน๒ สง่ เสริมบรรยำกำศกำรทำงำนในเชิงสร้ำงสรรค์ - นขต.ทอ.๓ ส่งเสรมิ กำรสรำ้ งควำมสขุ ในหน่วยงำน Happy - นขต.ทอ.lace๔ เสริมสร้ำงควำมผกู พันในหนว่ ยงำนและองค์กำร - นขต.ทอ.๑ ทบทวนจดั ทำแนวทำงกำรเสริมสร้ำงคำ่ นยิ มหลกั - นขต.ทอ.อ.ในหน่วยงำนและ หน.นขต.ทอ.ให้กำรสนับสนนุ - นขต.ทอ.๒ รณรงคก์ ำรปฏิบัติตนตำมคำ่ นิยมหลกั ของ ทอ.ใน - นขต.ทอ.ำน๓ ตดิ ตำมประเมนิ ผลพฤตกิ รรมกำรปฏิบัติตนตำมหลกั ของ ทอ.
ประเดน็ เป้าประสงค์ ตัวชว้ี ัด ค่า ข้อมลู กลยทุ ธย์ อ่ ย เป้าหมาย ปัจจบุ นั๑.๓.๓ นขต.ทอ. รอ้ ยละนขต.ทอ.ที่เสริมสร้ำง ดำเนินกำร ดำเนนิ กำรอยำ่ ง ≥ ๘๐ ๖๐ ๑.๓.๓.๑จติ สำนกึ ทำง อยำ่ งเป็น เปน็ ระบบ ๑.๓.๓.๒สงั คมในกำร ระบบ Serviceใหบ้ รกิ ำร ๑.๓.๓.๓ ใหบ้ ริกำ ๑.๓.๓.๔ สงั คม ๑.๓.๓.๕
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏบิ ตั ิ๑ ปรับปรงุ พฒั นำมำตรฐำนงำนให้ทนั สมัยพรอ้ มใช้งำน - นขต.ทอ.๒ กระตุ้นกำรปฏิบตั ิตำมมำตรฐำนงำนดว้ ยจิตบรกิ ำร - นขต.ทอ.e Mind๓ รณรงค์กำรมีจิตสำธำรณะ Public Mind ในกำร - นขต.ทอ.ำร๔ สนับสนนุ กำรมจี ิตอำสำในกำรช่วยเหลือผูอ้ นื่ และ - นขต.ทอ.๕ ประเมินผลกำรดำเนนิ กำรอย่ำงเปน็ รปู ธรรม - นขต.ทอ.
กลยุทธ์ที่ ๒ สร้างเสริมระบบการบรหิ ารกาลังพล ทอ.สู่สากลตัวชี้วดั กลยุทธ์ท่ี ๒ ระดับควำมสำเร็จของกำรดำเนนิ กำรตำมกลยทุ ธ์ย่อยได้ครบ ค่าเปา้ หมายในแตล่ ะระยะเวลา (ปี)กลยุทธ์ยอ่ ยท่ี ๖๑ - ๖๔ ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๑. พฒั นำระบบกำรสรรหำคดั เลอื ก ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐กำลังพลตำมแนวคิดสมรรถนะ๒. พัฒนำระบบกำรธำรงรกั ษำ ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐ กำลังพล๓. พัฒนำระบบเตรียมกำรดูแล ๖๑-๗๐ ๗๑-๘๐ ๘๑-๙๐ ๙๑-๑๐ กำลงั พลกอ่ นและหลงั เกษยี ณ อำยุรำชกำร
บท้ัง ๓ กลยุทธ์ยอ่ ยตำมค่ำเปำ้ หมำยในแตล่ ะช่วงเวลำท่กี ำหนดขอ้ มลู หน่วย หน่วยเก่ียวขอ้ ง นขต.ทอ.๗๙ ปจั จุบนั ตวั ชีว้ ัด รบั ผดิ ชอบ นขต.ทอ.๐๐ - ระดบั ควำมสำเรจ็ ในกำรพัฒนำระบบ กพ.ทอ. นขต.ทอ. กำรสรรหำคดั เลือกกำลงั พลตำม แนวคิดสมรรถนะ๐๐ - ระดบั ควำมสำเรจ็ ในกำรพัฒนำระบบ กพ.ทอ. กำรธำรงรกั ษำกำลงั พลตำมแนวคิด สมรรถนะ๐๐ - - ระดับควำมสำเรจ็ ในกำรพัฒนำ กพ.ทอ. ระบบเตรยี มกำรดแู ลกำลงั พลก่อน เกษีนณอำยุรำชกำร - ระดบั ควำมสำเรจ็ ในกำรพฒั นำ ระบบกำรดูแลสิทธกิ ำลงั พลหลงั เกษีนณอำยุรำชกำร
กลยทุ ธ์ย่อยที่ ๒.๑ พัฒนำระบบกำรสรรหำคดั เลอื กกำลงั พลตำมแนวคิดสมรรถตวั ชีว้ ดั กลยุทธ์ท่ี ๒.๑ ระดบั ควำมสำเร็จในกำรพัฒนำระบบกำรสรรหำคัดเลือกกำกลยทุ ธ์ย่อย วัตถุประสงค์ งบประมาณ งบป ๖๑ - ๖๔พฒั นำระบบกำรสรรหำ เพือ่ ใหไ้ ดก้ ำลงั พลตำม xxx,xxx xxx,xxxคดั เลอื กกำลงั พลตำม ควำมต้องกำรจำกกำรแนวคดิ สมรรถนะ สรรหำคัดเลอื ก กลยทุ ธ์ยอ่ ย เป้าประสงค์ ตวั ชี้วัด คา่ ข้อมูล เปา้ หมาย ปจั จบุ ัน๒.๑ พัฒนำ กพ.ทอ. ระดับควำมสำเร็จ สำเรจ็ - ๒.๑.๑ระบบกำรสรร ดำเนินกำร ในกำรดำเนินกำรหำคดั เลือก กพ..ทอ. ระดบั ควำมสำเร็จ สำเร็จ - ๒.๑.๒กำลงั พล ดำเนินกำร ในกำรดำเนนิ กำร และตำแตำมแนวคดิ มีรปู แบบกำร ระดับควำมสำเรจ็สมรรถนะ สรรหำคัดเลือก ในกำรดำเนินกำร สำเรจ็ - ๒.๑.๓ หน่วยเข้ำใจ รอ้ ยละนขต.ทอ.ท่ี สมรรถน และปฏบิ ตั ิได้ ดำเนนิ กำร ≥ ๗๐ - ๒.๑.๔ กำลงั พล
ถนะำลงั พลตำมแนวคิดสมรรถนะประมาณในแต่ละชว่ งเวลา (ปี) หนว่ ยรบั ผดิ ชอบ หน่วยเก่ยี วข้อง กพ.ทอ. นขต.ทอ.๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙xxx,xxx - - แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏบิ ตั ิวเิ ครำะหค์ วำมต้องกำรกำลงั พลตำมแนวคิดสมรรถนะ - กพ.ทอ./นขต.ทอ.กำหนดอตั รำควำมต้องกำรกำลงั พลทีเ่ หมำะสมกับงำน - กพ.ทอ./นขต.ทอ.แหนง่ งำน - นขต.ทอ.พฒั นำรปู แบบแนวทำงกำรสรรหำคดั เลอื กตำมแนวคิด xxx,xxx กพ.ทอ.นะจัดทำโครงกำรประชมุ สัมมนำรูปแบบสรรหำคัดเลอื กลบนพืน้ ฐำนควำมต้องกำรกำลงั พลท่เี หมำะสมกับงำน
กลยุทธ์ยอ่ ยท่ี ๒.๒ พัฒนำระบบกำรธำรงรักษำกำลงั พลตวั ชวี้ ดั กลยทุ ธ์ท่ี ๒.๒ ระดับควำมสำเร็จในกำรพฒั นำระบบกำรธำรงรกั ษำกำลงั พล กลยุทธ์ยอ่ ย วตั ถปุ ระสงค์ งบประมาณ งบป พัฒนำระบบกำรธำรง รักษำกำลงั พล ๖๑ - ๖๔ - เพอื่ ใหก้ ำลงั พล xxx,xxx xxx,xxx ไดร้ บั แรงจูงใจ - เพอื่ ใหก้ ำลงั พลท่ี ต้องกำรยังคงอยู่ใน หนว่ ยงำน กลยทุ ธย์ อ่ ย เปา้ ประสงค์ ตัวชี้วัด ค่า ข้อมูล เปา้ หมาย ปัจจบุ ัน๒.๒ พฒั นำ มีระบบเส้นทำง ระดบั ควำมสำเรจ็ สำเร็จ - ๒.๒.๑ระบบกำรธำรง ควำมก้ำวหน้ำ ในกำรดำเนินกำรรกั ษำกำลงั พล มรี ะบบสรำ้ ง ระดบั ควำมสำเรจ็ สำเร็จ - ๒.๒.๒ แรงจูงใจท่ีดี ในกำรดำเนินกำร บำเหน็จ
ลตำมแนวคิดสมรรถนะ หน่วยรับผิดชอบ หน่วยเกี่ยวขอ้ งประมาณในแต่ละชว่ งเวลา (ป)ี กพ.ทอ. นขต.ทอ. ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙ xxx,xxx xxx,xxx xxx,xxx แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หน่วยปฏบิ ตั ิ - นขต.ทอ.พฒั นำเส้นทำงควำมก้ำวหน้ำในอำชพี xxx,xxx นขต.ทอ.สร้ำงระบบแรงจงู ใจดว้ ยกำรให้ขวัญกำลงั ใจ อำทิจ รำงวลั ค่ำตอบแทน ควำมก้ำวหน้ำในอำชีพ
กลยุทธย์ อ่ ยที่ ๒.๓ พฒั นำระบบเตรยี มกำรดูแลกำลงั พลกอ่ นและหลังเกษยี ณอำตวั ชีว้ ดั กลยุทธ์ที่ ๒.๓ - ระดบั ควำมสำเร็จในกำรพัฒนำระบบเตรียมกำรดูแลกำลัง - ระดับควำมสำเรจ็ ในกำรพฒั นำระบบกำรดแู ลสิทธิกำลังพประเดน็ กลยุทธ์ยอ่ ย วัตถปุ ระสงค์ งบประมาณ งบป ๖๑ - ๖๔๒.๓.๑ พัฒนำระบบ เพ่ือใหม้ ีข้อมูล xx,xxx,xxx x,xxx,xxxฐำนขอ้ มลู กำลงั พลให้ กำลงั พลรองรับทันสมัยพรอ้ มใชง้ ำน กำรใช้งำน๒.๓.๒ พัฒนำกำร เพ่ือเตรียมควำม xxx,xxx xxx,xxxเตรียมกำรดูแลกำลังพล พรอ้ มกำลังพลก่อนก่อนเกษียณอำยุรำชกำร เกษยี ณอำยุรำชกำร๒.๓.๓ พฒั นำกำรดแู ล เพอ่ื ให้กำลงั พลหลัง - -สิทธกิ ำลังพลหลัง เกษียณอำยรุ ำชกำรเกษยี ณอำยุรำชกำร ไดร้ ับกำรดแู ลอย่ำง รวดเรว็ และเหมำะสม
ำยรุ ำชกำร หนว่ ยรับผดิ ชอบ หน่วยเกยี่ วขอ้ งลงพลก่อนเกษยี ณอำยุรำชกำร กพ.ทอ. ทสส.ทอ./สอ.ทอ.พลหลังเกษยี ณอำยรุ ำชกำรประมาณในแต่ละช่วงเวลา (ปี) ๖๕ - ๖๙ ๗๐ - ๗๔ ๗๕ - ๗๙ - xxx,xxx -xxx,xxx xxx,xxx xxx,xxx กพ.ทอ. กง.ทอ. สก.ทอ.--- กพ.ทอ. กง.ทอ. สก.ทอ.
ประเดน็ เป้าประสงค์ ตวั ชีว้ ัด คา่ ขอ้ มลู กลยทุ ธย์ อ่ ย เปา้ หมาย ปัจจุบัน๒.๓.๑ พัฒนำ ระบบ HRIS ระดับควำมสำเรจ็ สำเรจ็ - ๒.๓.๑ระบบ ทันสมัย กำรดำเนนิ กำรฐำนขอ้ มูล สำเร็จ - ๒.๓.๑กำลงั พลให้ ระบบเครือขำ่ ย ระดบั ควำมสำเร็จทนั สมยั สำเรจ็ - ๒.๓.๑พรอ้ มใชง้ ำน ประสทิ ธิภำพสูง กำรดำเนินกำร สำเร็จ - ๒.๓.๒๒.๓.๒ พัฒนำ มีกำรประเมินเปน็ ระดบั ควำมสำเร็จ อำยุรำกำรเตรียมกำรดูแลกำลงั พล รูปธรรม กำรดำเนนิ กำร สำเรจ็ - ๒.๓.๒กอ่ นเกษียณอำยุรำชกำร มีรูปแบบฝกึ อบรม ระดบั ควำมสำเรจ็ สำเรจ็ - ๒.๓.๒ รำชกำ ท่เี หมำะสม กำรดำเนินกำร สำเร็จ - ๒.๓.๒ มกี ำรสรำ้ งงำน ระดับควำมสำเร็จ - - อำชีพ กำรดำเนินกำร กำลงั พลก่อน ระดับควำมสำเร็จ เกษียณมีควำมรู้ กำรดำเนนิ กำร ควำมเขำ้ ใจ กำลงั พลกอ่ น ระดบั ควำมสำเรจ็ เกษียณได้รับกำร กำรดำเนนิ กำร ดูแลอย่ำงทัว่ ถงึ
แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม งบประมาณ หนว่ ยปฏบิ ตั ิ๑.๑ พัฒนำระบบ HRIS ให้ทันสมัยพร้อมใช้งำน xx,xxx,xxx กพ.ทอ. ทสส.ทอ.๑.๒ พัฒนำกำรเชือ่ มโยงระบบเครอื ข่ำยฐำนข้อมูลกำลังพล xxx,xxx สอ.ทอ. ทสส.ทอ.๑.๓ ประเมินประสิทธิภำพกำรใช้งำนฐำนขอ้ มลู กำลงั พล - สอ.ทอ. กพ.ทอ./๒.๑ สร้ำงรปู แบบกำรฝึกอบรมกำรเตรียมตวั กอ่ นเกษียณ xx,xxx นชต.ทอ.ำชกำรใหเ้ หมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำยและระดบั ชน้ั ยศ xxx,xxx กพ.ทอ.๒.๒ พัฒนำกำรสรำ้ งงำนอำชีพใหเ้ หมำะสมกบั กำลงั พล สก.ทอ.๒.๓ โครงกำรฝึกอบรมกำรเตรยี มตัวก่อนเกษียณอำยุ xxx,xxx กพ.ทอ.ำร๒.๔ พัฒนำระบบกำรดูแลสิทธิกำลังพลเชงิ รุก - กพ.ทอ. ตรวจสอบกำลงั พลเพ่ือเตรยี มกำรกอ่ นเกษยี ณ กำรให้บรกิ ำรข้อมูลสิทธทิ ี่เข้ำถึงกำลังพลรำยบุคคล
ประเด็น เปา้ ประสงค์ ตวั ช้วี ัด คา่ ขอ้ มลู กลยุทธย์ อ่ ย เป้าหมาย ปจั จุบัน๒.๓.๓ พฒั นำ ระบบบริกำรแบบ ระดับควำมสำเรจ็ สำเรจ็ - ๒.๓.๓กำรดแู ลสิทธิ One Stop กำรดำเนนิ กำรกำลังพลหลงั Service ≥ ๙๐ - ๒.๓.๓เกษียณ ประสิทธิภำพสงู ร้อยละกำลังพล รำชกำอำยุรำชกำร กำลงั พลหลงั ทีไ่ ด้รบั กำรดแู ล เกษียณได้รับ สทิ ธิเทยี บกบั สำเรจ็ - ๒.๓.๓ กำรดูแลอยำ่ ง กำลังพล ของกำ มปี ระสทธภิ ำพ กลมุ่ เป้ำหมำย ระดบั ควำมสำเร็จ ระบบกำรติดตำม กำรดำเนนิ กำร ประเมินผลแบบ ครบวงจร
Search