โครงงานสิ่งประดิษฐ์ เรื่อง สร้างบ้านจากไมไ้ อติม จัดทาโดย นางสาวอคั รยา รตั นโกเศศ พรอ้ มคณะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/11 เสนอ คณุ ครนู พรตั น์ ปะวะถี โครงงานน้ีเป็นส่วนหนง่ึ ของวิชา คณิตศาสตร์ (ค33203) โรงเรียนศรกี ระนวนวิทยาคม อาเภอกระนวน จังหวดั ขอนแก่น
โครงงานส่งิ ประดิษฐ์ เรือ่ ง สร้างบ้านจากไมไ้ อติม จัดทาโดย นางสาวอคั รยา รัตนโกเศศ เลขท่ี 28 นางสาวพรณภา คุ้มตะบุตร เลขที่ 22 นางสาวปัชฎมิ า ภูสง่า เลขที่ 21 นางสาวรจนา พรมวเิ ศษ เลขท่ี 25 นางสาวจุไรรตั น์ ไชยขัน เลขท่ี 15 นางสาวประภัสสร ตน้ กนั ยา เลขท่ี 19 นางสาวอภิสมา ชินพะวอ เลขที่ 27 นายณัลทวัฒน์ ทบั แสง เลขที่ 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/11 เสนอ คุณครูนพรตั น์ ปะวะถี โครงงานน้เี ป็นส่วนหนงึ่ ของวชิ า คณิตศาสตร์ (ค33203) โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น
ก หัวขอ้ โครงงาน : สรา้ งบา้ นจากไม้ไอตมิ โครงงานพฒั นาเพื่อการศึกษา ประเภทของโครงงาน : 1.นางสาวอคั รยา รตั นโกเศศ 2.นางสาวพรณภา คุ้มตะบตุ ร ผเู้ สนอโครงงาน : 3.นางสาวปชั ฎิมา ภูสงา่ 4.นางสาวรจนา พรมวิเศษ ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน : 5.นางสาวจุไรรัตน์ ไชยขนั 6.นางสาวประภัสสร ตน้ กนั ยา ปีการศึกษา : 7.นางสาวอภสิ มา ชนิ พะวอ 8.นายณัลทวัฒน์ ทับแสง นายนพรัตน์ ปะวะถี 2562 บทคดั ยอ่ โครงงานเรื่องการประดิษฐ์ช้ินงานจากไม้ไอตมิ มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาพัฒนางานฝีมือ กรรมวธิ ีการ ประดษิ ฐช์ ้นิ งานจากไม้ไอตมิ เพอื่ ให้สามารถผลติ ชน้ิ งานจากไม้ไอติม ซ่ึงเป็นการสร้างงานสร้างรายได้และใช้ เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ เพื่อตระหนกั และเหน็ คุณคา่ ของไมไ้ อติม จากผลการดาเนนิ งานโครงงานส่งิ ประดิษฐ์บ้านจากไม้ไอติม เราสามารถใชง้ านส่งิ ประดิษฐ์ และ สามารถนาไม้ไอตมิ มาทาเปน็ บา้ นจาลอง กล่องใส่ปากกา หรอื ชิน้ งานอื่นๆได้ตามต้องการได้และสามารถทาได้ หลายขนาดตามความต้องการ มคี วามสวยงาม ความสะดวกสบาย ประหยดั คา่ ใช้จา่ ยและมีประสทิ ธภิ าพการ ใช้งานอย่างค้มุ ค่า
ข กติ ติกรรมประกาศ ขอขอบคุณผใู้ ห้ความปรึกษาด้านตา่ งๆ ในการสร้างบ้านจากไม้ไอติม จนดาเนินการได้สาเร็จ เน่ืองด้วยความอนุเคราะห์ของผู้อานวยการโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม นายสุรเชษฐ รูปต่า และอาจารย์ นพรัตน์ ปะวะถี อาจารย์ประจาวิชา ที่ได้อนุมัติโครงงานจัดทาส่ิงประดิษฐ์การเรียนรู้ในรูปแบบ บ้านไม้ไอติม และคอยให้คาแนะนาในเร่ืองดังกล่าว ในการทาส่ิงประดิษฐ์ในคร้ังน้ีมีท่ีมาความสาเร็จลงได้ด้วยความกรุณา ของอาจารย์นพรัตน์ ปะวะถี ท่ีได้แนะนาการสืบค้นข้อมูลอินเตอร์เน็ต ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านท่ีห้องสมุด โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม ขอบคุณทุกท่านที่แนะนาให้ค้นหาหนังสือและการใช้อินเตอร์เน็ตเพ่ือศึกษาหา ขอ้ มลู และขอบคุณ บดิ า มารดา ที่เอือ้ เฟื้อสถานท่ีในการปฏิบตั ิงานและสนับสนนุ ด้านงบประมาณ คณะผจู้ ัดทา
สารบัญ หนา้ เรื่อง ก ข บทคดั ย่อ 1-2 กิตติกรรมประกาศ บทท่ี 1 บทนา 3-6 7-8 - ความเป็นมาและความสาคัญ วัตถุประสงค์ 9-10 11 - ขอบเขตการวิจยั - ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ บทท่ี 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและท่เี กีย่ วขอ้ ง บทที่ 3 วธิ ดี าเนนิ งาน - วสั ดุและอุปกรณ์ - วธิ ีการจัดทาโครงงาน บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ - สรุปผล - ประโยชน์ที่ไดจ้ ากโครงงาน - ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก
สารบญั ตาราง หนา้ เรื่อง 8 10 1. ตารางเก็บรวบรวมข้อมลู 2. การวิเคราะห์ผลการทาบา้ นไมไ้ อติมแล้วไปเพมิ่ มูลคา่
บทที่1 บทนา ท่มี าและความสาคญั ของโครงงาน ที่มาและความสาคัญของโครงงานพบว่าในปัจจุบนั เรานน้ั ในสังคมไทยส่วนใหญเ่ วลาต้องการส่ิงของสง่ิ หนง่ึ น้ันเรากจ็ ะหาซ้อื ตามท่ตี ่างๆทม่ี สี งิ่ ของเหล่านนั้ แตพ่ บวา่ มีราคาสงู มากทางคณะเราเลยตง้ั โครงงานชน้ิ นี้ ขึน้ มาเพือ่ สาหรบั คนที่ต้องการประหยัดคา่ ใช้จา่ ยในการซ้ือส่งิ ของท่ีตอ้ งการและสามารถลดคา่ ใช้จ่ายบางสว่ น ลงและกล่องท่ีต้องการมคี วามทนทานคุ้มค่ามากทส่ี ุดและสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันไดม้ ากท่สี ุด จดุ มงุ่ หมายของโครงงาน 1.เพือ่ ศึกษาขั้นตอนประดิษฐ์บ้านจากไมไ้ อตมิ 2.เพอ่ื ให้เหน็ คณุ คา่ ของไม้ไอติม ท่สี ามารถนากับมาใช้ประโยชนใ์ หม่ สมมุตติฐาน - การสรา้ งงานประดิษฐเ์ ราสามารถนาเศษวสั ดเุ หลอื ใช้ เช่น ไมไ้ อติม มาดดั แปลง ตกแตง่ ให้เกดิ ประโยชน์และเพิ่มมูลค่าได้ ขอบเขตการศึกษาคน้ ควา้ การสร้างบ้านจากไม้ไอติมเป็นการพฒั นามุง่ สรา้ งผลิตภัณฑ์สาเร็จเพื่อสร้างจุดเด่นและเพิม่ มูลค่าของ บา้ นไอติมใหม้ รี าคาสงู ขึ้น ในดา้ นคณิตศาสตร์ เรานามาใช้คานวณในการกาหนดราคาในการจาหน่าย ในด้านวิทยาศาสตร์ เรานาวัสดุทถ่ี ูกทง้ิ มาแปรรปู เป็นการลดภาวะโลกร้อน ในด้านเทคโนโลยี เรานาเทคโนโลยีเขา้ มาใช้ในการประดษิ ฐ์สง่ิ ของเครื่องใช้ใหม้ ีความหลากหลาย สร้างความสะดวกรวดเรว็ ในการผลติ เพิ่มความโดดเด่นของสิง่ ประดษิ ฐ์ ในด้านวศิ วะกรรมศาสตร์ ใช้ในการออกแบบบา้ นไม้ไอติม ใหไ้ ดต้ ามทเี่ ราต้องการ ตัวแปร ตัวแปรต้น -บ้านไมจ้ ากไม้ไอติม ตัวแปรตาม -มลู คา่ ของบา้ นจากไม้ไอติมที่เรากาหนด ในการจาหนา่ ย
ประโยชนแ์ ละคุณค่าของโครงงาน 1.เปน็ แนวความคดิ ให้ผู้อ่ืนไดน้ าไปขยายความรู้ได้ 2.เปน็ ส่งิ ประดษิ ฐ์ที่สามารถนาสิง่ ของเหลือใชม้ าใชป้ ระโยชน์ในรปู แบบอน่ื ได้ 3.เป็นสงิ่ ประดิษฐท์ ี่ทาใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของวสั ดเุ หลือใช้ นิยามคาศพั ท์เฉพาะ 1.สิ่งประดษิ ฐ์ หมายถึง งานฝมี ือหรือนวัตกรรมท่ีคณะจัดทาโครงการสร้างขน้ึ มา 2.ไมไ้ อศรีม หมายถงึ แท่งไม้เลก็ ๆ ที่ทามาจากไม้กา้ มปู 3.บา้ นไม้ไอศกรีมจาลอง หมายถึง บ้านไมเ้ ล็ก ๆ ทป่ี ระดิษฐจ์ ากไมไ้ อศกรมี มาประกอบกันใหไ้ ด้ รูปทรงบา้ น 4. เฟอร์นิเจอร์ หมายถึง เป็นสิ่งของที่สามารถเคล่ือนย้ายได้ ท่ีอาจรองรับการใช้งานของร่างกาย มนษุ ย(์ เชน่ เครือ่ งเรอื นการน่งั และเตียงนอน) หรือมีไวส้ าหรบั เกบ็ ของ หรือเก็บวตั ถุทางแนวตั้งเหนือพ้ืนผิวของ พ้ืนดิน เคร่ืองเรือนสาหรับเก็บของมักมีประตู บานเล่ือน และช้ันเก็บของ ที่อาจเก็บของช้ินเล็กๆ อย่างเสื้อผ้า อุปกรณ์ หนงั สือ ข้าวของเครอื่ งใช้ อาจเป็นผลติ ผลทเ่ี กดิ จากการออกแบบทางด้านศิลปะ และอาจถือได้ว่าเป็น งานศิลปะประดับตกแต่ง นอกจากน้ีอาจมีความหมายในทางเชิงสัญลักษณ์หรือทางด้านศาสนา เคร่ืองเรือน อาจมสี ว่ นประกอบรว่ มอน่ื อย่างเช่น นาฬิกา หรอื โคมไฟ เพือ่ ประโยชน์ใช้สอยพนื้ ทภี่ ายในเครือ่ งเรือนสามารถ ทาไดจ้ ากวัสดุหลากหลายประเภท เชน่ เหล็ก พลาสติก ไม้ 5. มลู คา่ หมายถึง จานวนเงินหรือราคาทีเ่ ราสามารถกาหนดในการนาบ้านไม้ไอติม ไปขายหรือ จาหนา่ ยได้
บทท่ี 2 เอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ ง ในการจัดทาโครงงาน และศกึ ษาเอกสารทเี่ กย่ี วข้องเกย่ี วกับการทาบ้านไมจ้ ากไม้ไอตมิ นี้ ผจู้ ดั ทา โครงงานได้ศึกษาคน้ คว้าที่เกี่ยวขอ้ งกบั วิธีการทาบ้านไมไ้ อติม โดยลาดบั ทเี่ ป็นเนอื้ หาสาระโดยสาคัญ ดงั ตอ่ ไปน้ี ความหมายของไอศกรีม(ไอติม) ไอศกรีม (อังกฤษ: ice cream)หรอื ภาษาปากวา่ ไอติม เป็นของหวานแช่แขง็ ชนิดหนง่ึ ไดจ้ ากการผสม สว่ นผสมนาไปผ่านการฆ่าเช้ือแลว้ นั้นนาไปปน่ั ในทีเ่ ยน็ จดั เพื่อเติมอากาศเข้าไปพร้อมๆกับการลดอุณหภูมโิ ดย อาศัยเครอ่ื งป่นั ไอศกรีมไอศกรมี ตกั โดยทวั่ ไปจะต้องผา่ นขั้นตอนการแช่เยอื กแข็งอกี ครง้ั ก่อนนามาขายหรอื รับประทาน ไอศกรมี ในประเทศไทย ในประเทศไทยนั้นไอศกรีมเริ่มเข้ามาในช่วงสมัยรชั กาลที่5 เปน็ หนึง่ ในวฒั นธรรมตะวันตกท่ี พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ทรงนามาเผยแพร่ในสยาม หลงั เสรจ็ ประพาสอินเดยี , ชวาและ สิงคโปร์ น้าแข็งในตอนแรก ๆกย็ ังไมส่ ามารถผลติ ในประเทศไดจ้ งึ ต้องนาเข้าจากประเทศสงิ คโปร์เมอื่ ไทยส่งั เคร่อื งทานา้ แข็งเข้ามากเ็ ริ่มมีการทาไอศกรีมกนิ กนั มากข้นึ ถอื ว่าไอศกรมี เปน็ ของเสวยเฉพาะสาหรับเจา้ ขนุ มลู นายเทา่ น้ัน ซงึ่ สมเด็จฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพบันทึกไว้ว่า ไอศกรีมเปน็ ของท่ีวเิ ศษในเวลาน้ันเพราะเพง่ิ ไดเ้ คร่อื งทาน้าแข็งอย่างเลก็ ท่ีเขาทากนั ตามบ้านเข้ามา ทาบางวันนา้ ก็แขง็ บางวันกไ็ ม่แขง็ มีไอศกรีมบ้างบางวันก็ไม่มี จึงเหน็ เป็นของวิเศษ โดยไอศกรีมในพระราชวงั น้ันจะทาจากนา้ มะพร้าวออ่ น ใส่เม็ดมะขามคัว่ จนต่อมาเมือ่ มีโรงงานทา นา้ แข็ง แต่กย็ งั ถือเปน็ ของชน้ั ดโี ดยมีไอศกรมี ระดบั ชาวบ้านทาเองดว้ ย ในชว่ งแรก ๆ นั้นไอศกรีมกะทิมี ลักษณะเป็นนา้ แข็งละเอยี ดใส ๆ รสหวานไมม่ าก และมีกล่ินหอมของดอกนมแมว ในสมัยนั้นวิถกี ารกินของ ผ้คู นจะนยิ มกินอาหารกันในเรอื นแพ เหมอื นท่สี มยั นนั้ จะขายก๋วยเตี๋ยวหรือกาแฟกันบนเรือ ลกั ษณะของไอศกรมี กะทิใสถ่ ้วยพรอ้ มโรยดว้ ยถว่ั ลิสงคัว่ กม็ ีมาตง้ั แตส่ มยั นน้ั ซง่ึ ต่อมาไอศกรมี กะทิก็มี การเปล่ยี นแปลงพฒั นาขน้ึ จากกะทใิ สๆ กม็ ีความเขม้ ขน้ มกี ารใส่ลอดช่อง,เมด็ แมงลกั และขนุนฉีกเข้าไปโดย คนไทยได้ดดั แปลงไอศกรมี ของต่างชาติมาเป็นไอตมิ กะทโิ ดยใช้กะทสิ ดผสมกบั นา้ ตาลนาไปปน่ั ให้แข็งเนื้อไอติ มคอ่ นข้างใสเป็นเกล็ดนา้ แข็งละเอียดเวลารับประทานต้องขูดไอติมออกจากขอบหมอ้ โลหะเม่ือไอติมเรม่ิ แขง็ ตวั ตอนขายตักใสถ่ ว้ ยเป็นลกู ๆเรียกไอตมิ ตักกนิ กับถ่วั ขา้ วเหนยี ว หรือลกู ชิด บางคนกินกบั ขนมปงั ท่ีหน่ั เป็นท่อน และมีรอยแยกเป็นร่องอยตู่ รงกลาง ส่วน ไอศกรีมหลอด หรอื ไอศกรมี แท่งก็เกิดข้ึนในสมยั รชั กาลท่ี7 โดยใช้นา้ หวาใสห่ ลอดสงั กะสแี ละ เขย่าใหแ้ ข็ง และมกี ้านไม้เสยี บโดยจะใส่ถงั ขับไปขายตามถนนสนั่ กระดง่ิ เป็นสญั ญาณเพ่ือเรียกลกู ค้านอกจากนี้ ยงั มีจุดขายท่ีการลนุ้ ไอศกรีมฟรจี ากไมเ้ สยี บที่หากมสี แี ดงป้ายอยู่ก็จะได้กนิ ฟรีอีกหนงึ่ แท่งดว้ ยซ่งึ ไอศกรีมแบบ
หลอดกม็ ีการพัฒนาจนมาเปน็ ไอศกรมี โบราณทม่ี สี ่วนผสมของนมโดยมลี กั ษณะเป็นแท่งส่ีเหลยี่ มอาจทานเป็น แท่งหรือตัดใส่ถว้ ยรบั ประทานก็ได้ จากน้ันมาก็เปน็ ยุคของไอศกรมี แบบวัฒนธรรมตะวนั ตกแท้ ๆ จนถงึ ปจั จุบนั ประเภทของไอตมิ · ไอศกรีมแท่ง · เชอร์เบต · ซอร์เบต์ · ซอฟตเ์ สริ ์ฟ · ซันเด · พาร์เฟต์ · หวานเย็น · ไอติมตัด · ไอติมไม้แดง · ไอศกรมี น้าเตา้ หู้ · ไอศกรีมกะทิ · ไอศรมี โคน · ไอศกรมี ถ้วย แหล่งกาเนดิ ของไอตมิ ต้นกาเนิดของไอศกรมี นัน้ ไมเ่ ป็นที่แน่ชัดมาเรมิ่ จากไหนบางขอ้ มูลก็วา่ เร่มิ มีมาต้งั แตส่ มัยจกั รพรรดิเน โรแห่งจกั รวรรดิโรมัน ทไ่ี ด้มกี ารพระราชทานเลย้ี งไอศกรมี ทหาร โดยในสมยั นน้ั ทาจากเกล็ดน้าแข็ง(หิมะ)ผสม น้าผ้งึ และผลไม้ ซง่ึ คล้ายกับไอศกรีมเชอร์เบตในปจั จบุ ัน แต่บ้างกว็ ่ามาจากประเทศจนี เกดิ จากเม่อื สมัยโบราณ ทน่ี มถือเป็นของหายาก จงึ ได้มีการคดิ วิธเี ก็บรักษาโดยการเอาไปฝงั ในหิมะ จงึ เกิดเป็นไอศกรมี ขึ้นแมจ้ ะไมไ่ ด้มี ลักษณะเหมือนกับไอศกรมี อย่างทุกวันนี้ แต่บ้างก็ว่ามาจากอิตาลีโดยมาร์โค โปโล กลับจากจีนแล้วเอาสูตรไอศกรีมมาเผยแพร่ซึ่งในตอนน้ัน ไอศกรมี ของจีนยงั ไมม่ ีนม เปน็ คลา้ ยน้าแขง็ ไสมากกว่า ยงั มจี ุดเริ่มต้นจากอังกฤษเม่ือสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่1พ่อ ครัวคนหนึ่งมีสูตรเด็ดเป็นครีมแช่แข็งปรุงรส ซึ่งเป็นสูตรลับสุดยอดท่ีส่งเป็นของหวานถวายพระองค์ทว่าเม่ือ พระองค์ถูกปลงพระชนม์โดยโอลิเวอร์ครอมเวลล์ ระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษระหว่างปีค.ศ.1642-ค.ศ. 1651 พ่อครัวต้องลี้ภัยไปยโุ รปจงึ ได้นาสูตรไอศกรมี นีเ้ ผยแพร่ออกไป
กระบวนการทางเทคโนโลยี กระบวนการเทคโนโลยี เป็นขัน้ ตอนการทางานเพอ่ื สรา้ งส่งิ ของเครื่องใชห้ รือวิธีการอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ขึ้นมาเพื่อแกป้ ัญหาหรือสนองความตอ้ งการของมนุษย์ กระบวนการเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย 7 ข้ันตอน ดงั นี้ ขัน้ ที่ 1 กาหนดปัญหาหรอื ความตอ้ งการ ขั้นตอนแรกของกระบวนการเทคโนโลยี คือการกาหนดปัญหาหรือความต้องการ ซึ่งเป็นการทาความ เข้าใจหรือวเิ คราะห์ปญั หาหรือความต้องการหรือสถานการณ์เทคโนโลยีอยา่ งละเอียด เพื่อกาหนดกรอบของ ปญั หาหรือความต้องการใหช้ ัดเจนมากข้ึน ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับปัญหาหรอื ความต้องการท่ีกาหนดไว้ในข้ันตอนกาหนดปัญหา หรอื ความต้องการจากแหลง่ ข้อมลู ท่ีเชื่อถือได้ เช่น ศึกษาจากตารา วารสาร บทความ สารานกุ รม สืบคน้ จาก อินเทอร์เน็ต ระดมสมองจากสมาชกิ ในกลมุ่ โดยควรมีการรวบรวมขอ้ มูลรอบด้านใหค้ รอบคลมุ ปัญหาหรือ ความตอ้ งการ ซึง่ จะทาให้เราสามารถสรุปวธิ กี ารแก้ปญั หาหรือสนองความต้องการ ไดค้ รบถว้ นสมบรู ณข์ ึ้น ข้นั ที่ 3 เลือกวิธกี าร การเลอื กวิธีการ เปน็ การพจิ ารณาและเลือกวิธีการแกป้ ัญหาหรอื สนองความต้องการท่เี หมาะสมและ สอดคลอ้ งกบั ปัญหาหรือความตอ้ งการมากที่สดุ โดยใช้กระบวนการตัดสนิ ใจเลือกจากวธิ ีการทส่ี รุปไดใ้ นขัน้ รวบรวมขอ้ มลู ประเด็นทค่ี วรนามาพิจารณาคือ ข้อดี ข้อเสีย ความสอดคล้องกบั ทรพั ยากรที่มีอยู่ ความ ประหยดั และการนาไปใช้ได้จริงของแตล่ ะวิธี เชน่ ทาให้ไดด้ ขี น้ึ สะดวกสบายหรือรวดเร็วขึน้ นอกจากนี้ควร พจิ ารณาคดั เลอื กวธิ ีการโดยใชก้ รอบของปัญหาหรือความต้องการ มาเปน็ ข้อมูลประกอบการตัดสนิ ใจเลอื ก ขนั้ ที่ 4 ออกแบบและปฏบิ ตั ิการ การออกแบบและปฏบิ ตั ิการเปน็ การถา่ ยทอดความคดิ หรือลาดบั ความคิดหรือจนิ ตนาการใหเ้ ปน็ ข้ันตอน เกีย่ วกับวธิ ีการแก้ปัญหาหรอื สนองความต้องการโดยละเอยี ด โดยใชก้ ารรา่ งภาพ 2 มติ ิ การรา่ งภาพ 3 มิติ การรา่ งภาพฉาย แบบจาลอง หรือแบบจาลองความคิด และวางแผนการปฏิบตั งิ านอย่างเปน็ ขั้นตอน จากนนั้ ลงมอื สร้างตามแนวทางทไ่ี ด้ถา่ ยทอดความคิดและวางแผนการปฏิบตั งิ านไว้ ผลงานทไี่ ด้อาจเปน็ ชิน้ งาน หรอื แบบจาลองวธิ กี าร ขน้ั ท่ี 5 ทดสอบ การทดสอบเป็นการตรวจสอบช้ินงานหรือแบบจาลองวิธกี ารทส่ี ร้างข้ึนว่ามคี วามสอดคลอ้ งตามแบบท่ี ไดถ้ ่ายทอดความคิดไว้หรอื ไม่ สามารถทางานหรือใช้งานได้หรือไม่ มีข้อบกพรอ่ งอย่างใด หากผลการทดสอบ พบวา่ ชิน้ งานหรือแบบจาลองวิธกี ารไมส่ อดคล้องตามแบบที่ถ่ายทอดความคิดไว้ ทางานหรือใชง้ านไม่ได้ หรือ
มขี อ้ บกพร่องที่ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข จะตอ้ งมีการบันทึกส่ิงตา่ ง ๆ เหล่านไี้ ว้ ซงึ่ ข้อมูลเหล่านีจ้ ะเปน็ ข้อมูลทน่ี าไปสู่ การปฏบิ ตั ิงานในขนั้ ปรบั ปรงุ แก้ไขต่อไป ข้ันที่ 6 ปรับปรงุ แกไ้ ข การปรบั ปรุงแก้ไข เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากข้ันทดสอบว่าควรปรบั ปรงุ แก้ไขช้ินงานหรือ แบบจาลองวธิ กี ารในส่วนใด ควรปรับปรงุ แก้ไขอย่างไร แล้วจึงดาเนนิ การปรับปรุงแก้ไขในสว่ นน้ัน ขนั้ ตอนน้ี อาจจาเปน็ ต้องกลับไปท่ีขนั้ ตอนออกแบบและปฏบิ ตั ิการอีกคร้ัง เพ่ือถ่ายทอดความคิดใหม่หรอื อาจกลบั ไป ขั้นตอนรวบรวมข้อมลู และเลือกวิธีการทเี่ หมาะสมอีกครั้งก็ได้ เพ่ือใหไ้ ด้สิ่งของเคร่ืองใช้หรือวิธีการท่เี หมาะสม มากขน้ึ ข้ันที่ 7 ประเมินผล การประเมินผล เปน็ การนาช้นิ งานหรอื วธิ กี ารที่ไดส้ รา้ งข้นึ ไปดาเนินการแก้ปัญหาหรอื สนองความ ตอ้ งการทกี่ าหนดไวใ้ นขั้นกาหนดปญั หาหรือความต้องการ และประเมนิ ผลทีเ่ กิดขึ้นว่าช้นิ งานหรอื วิธกี ารน้ัน สามารถแก้ปัญหาไดห้ รือไม่ หากผลการประเมินพบวา่ ชนิ้ งานหรอื วิธีการไม่สามารถแกป้ ัญหาหรือสนองความ ต้องการได้ ควรพจิ ารณาวา่ จาเป็นต้องแกไ้ ขในขัน้ ตอนใด เพ่ือนาไปปรบั ปรุงตามกระบวนการเทคโนโลยีอกี ครัง้ เพอ่ื ทาให้การทางานมีประสทิ ธภิ าพมากข้นึ
บทที่ 3 วิธกี ารดาเนนิ การ การทาบ้านไม้ไอติม ไดด้ าเนินการตามรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี 1. วัสดอุ ปุ กรณ์ 2. การทาบ้านไม้ไอติม 3. การเกบ็ รวมรวมข้อมูล 4. สรุปผล 5. นาเสนอโครงงาน 1. วสั ดุอปุ กรณ์ 1.ไม้ไอตมิ 2.ปืนกาว 3. แท่งกาว 4.กระดาษแขง็ 5.มดี คัดเตอร์ 2.การทาบา้ นไม้ไอตมิ 1. วางแผนและออกแบบรปู รา่ งของบา้ น 2. สรา้ งสเี่ หลย่ี มจากไม้ไอติม (เป็นผนงั ของบา้ นไอติม 4 ด้าน) 3. สร้างหลงั คา - สร้างกรอบหลังคา โดยใช้ไม้ไอติม 3 อนั เรยี งใหเ้ ป็นสามเหล่ียม จานวน 2 ชดุ - สรา้ งแผน่ หลังคา จานวน 2 ดา้ น - ตดิ แผน่ บานเกร็ด 2 ดา้ น (จุด 3 เหลย่ี ม ) 4.ประกอบบา้ น - เจาะหน้าตา่ งทผี่ นัง จานวน 1- 2 จุด - เจาะประตู จานวน 1 จดุ
3.การเกบ็ รวบรวมข้อมูล วัสดุ ราคา หนว่ ย รวม ไม้ไอตมิ 40 1 40 ปนื กาว 100 1 100 แท่งกาว 10 1 10 กระดาษแข็ง 10 1 10 มดี คัดเตอร์ 10 1 10 รวม 170 จากการเกบ็ รวมรวมข้อมลู เราเอาบ้านไม้ไอติม ขายอนั ละ 129 บาท จากต้นทุนประมาณ 170 บาท (ปนื กาวสามารถใช้งานได้ไมจ่ ากดั ครง้ั ) เราจะขาดทนุ แต่ถา้ เราเฉลย่ี ตน้ ทนุ จานวน 80 บาท สามารถสรา้ ง กาไรให้กบั บ้านไมไ้ อติม ประมาณ 49 บาท จะถือได้วา่ หากเราประสบความสาเร็จในการเพิ่มมลู ค่าให้กบั บา้ นไม้ไอติม เราจะต้องมีการผลิตจานวนเพิ่มมากกว่า 1 ชน้ิ เพือ่ จาหนา่ ย หรือเปลี่ยนทางเลือกในการใชว้ ัสดุ กาว จากซอื้ ปืนกาว มาใช้กาวลาเท็กซแ์ ทน
บทที่ 4 ผลการดาเนินการ ขน้ั ตอนในการทา 1. สรา้ งสี่เหล่ยี มจากไม้ไอติม. (เป็นผนงั ของบ้านไอติม 4 ด้าน) - วางไม้ไอตมิ 2 อนั ใหข้ นานกัน โดยระยะห่างเทา่ กับไม้ไอตมิ 1 อนั วางไมไ้ อติมอีก 2 อันทด่ี า้ นบน ของไม้ไอติม 2 อันแรกเพอื่ ทาใหม้ ันเปน็ สีเ่ หลีย่ ม ตดิ กาวที่มุมของไม้ไอติม ทาแบบนซ้ี า้ เพื่อทาส่เี หลย่ี ม เพมิ่ อกี 3 อัน 2. ติดกาวไม้ไอติมใหท้ วั่ กรอบของผนงั ทีส่ รา้ งไว้ โดยเรียงกันใหท้ ว่ั สี่เหลี่ยมแบนๆ ทากาวเปน็ เสน้ ที่ไม้ ไอติมทเ่ี ป็นกรอบของสี่เหลย่ี มทีอ่ ย่ดู ้านตรงขา้ มกันและค่อยๆ เรยี งไม้ไอติม ให้ทาซ้าเพื่อสร้างผนงั ท้ัง 4 ให้ เสรจ็ -ใชม้ ีดอเนกประสงคเ์ ล็มไม้ไอติมให้มีขนาดพอดีกบั ชอ่ งสุดท้าย 3. สร้างหลังคา -สร้างกรอบหลังคา โดยใช้ไม้ไอติม 3 อัน เรียงให้เป็นสามเหลี่ยม ซ้อนไม้ไอติมที่มุมสามเหลี่ยม ให้ หยอดกาว เพ่ือติดไม้ไอติมเข้าด้วยกันท้ังสามมุม ทาแบบนี้ซ้าเพ่ือสร้างสามเหล่ียมอีกอันหน่ึง (หลังคาแบบ พื้นฐานจะใช้แค่สามเหล่ียมสองอันเพื่อทาเป็นโครงยึด แต่อาจจะสร้างหลังคาท่ีแข็งแรงกว่าโดยการทา สามเหลยี่ มอนั ท่ีสาม ซ่งึ ก็จะอย่รู ะหว่างสามเหลยี่ มสองอันทีห่ ลงั คา) -นาไม้ไอตมิ มาเรยี งเพอ่ื ทาดา้ นหนึง่ ของหลงั คา หยอดกาวตรงดา้ นเรยี บๆ ที่ปลายไมไ้ อติม แตล่ ะอัน ตดิ ไม้ไอติมที่สามเหลยี่ มท้งั สองเพื่อท่ีมนั จะได้ต้ังฉาก ให้ทาขัน้ ตอนนีซ้ ้าจนกวา่ จะเรยี งไม้ไอติมทัว่ ความกว้าง ของสามเหลีย่ ม ใหเ้ รยี งไม้ไอติมใหช้ ดิ ๆ กัน กดไม้ไอติมท่ีตาแหนง่ ของมันค้างไว้อยา่ งน้อย 5 วินาทเี พอื่ ทก่ี าวจะ ไดย้ ึดตวั แนน่ - เรียงแผน่ บานเกล็ดหลังคาเซ็ตทส่ี อง ใช้วธิ เี ดียวกนั กับที่เรยี งไม้ไอติมท่ีดา้ นแรกของหลังคา ติดกาวท่ี ด้านตรงข้ามของหลังคาทท่ี าเสรจ็ แล้ว ให้ระวงั เม่ือจบั ทห่ี ลังคาเพ่ือท่ีจะได้ไม่ทาใหไ้ มไ้ อติมแยกออกจากกนั - ตดิ บานเกล็ดหลังคาท่โี ลง่ อยู่ของบา้ นไอตมิ ตอนน้ี มีโครงหลงั คาแลว้ ทโี่ ลง่ อยูต่ รงแตล่ ะดา้ น โดยวธิ ี นี้เป็นวิธีทางเลือก อาจจะปิดหลงั คาใหส้ นิทกนั เลยโดยไม่ต้องมีการตกแตง่ ดา้ นใน ให้เรม่ิ จากดา้ นล่างของ หลงั คา ติดกาวไมไ่ อติมกบั โครง ขณะที่ แปะไม้ไอติมเพ่มิ ต้องตัดให้มันสน้ั ลงเลก็ น้อยเม่ือเรียงไม้ไอติมถึงยอด ของสามเหลีย่ ม 4. การประกอบตัวบา้ น - เจาะหน้าต่างท่ีผนงั ใหท้ าก่อนท่ีจะตดิ กาวผนงั เข้าดว้ ยกัน ใหใ้ ช้มีดอเนกประสงคค์ ่อยๆ ตัดเจาะ เป็นช่องสเ่ี หลย่ี มจตุรสั ด้านละ 1 นิ้ว แคบ่ านเดียวหรือจะมากกว่านนั้ (เจาะหน้าตา่ งตรงกลางหรือตรงดา้ นข้าง กไ็ ด้ตามต้องการ) -เจาะประตู. การเจาะเป็นประตู ขนาดของไม้ไอติมที่ใช้จะเป็นส่ิงระบุว่าประตูควรมีขนาดใหญ่ เทา่ ไหร่ ลองให้ขนาดของประตูยาวไปตามขนาดของความสูงของบ้าน และมีขนาด ⅓ ของความกว้างของบ้าน เจาะประตูโดยใช้มีดอเนกประสงค์ อาจจะติดกาวเศษกระดาษท่ีมีขนาดเท่ากับประตูท่ีกาลังเปิดอยู่ตรงขอบ เพือ่ ใหเ้ หมอื นประตจู ริงๆ พบั กระดาษให้โคง้ ไปตามขอบทีต่ ดิ กาวเพื่อเลยี นแบบเวลาประตเู ปิดและปิด
5.ติดกาวผนังท่ีแต่ละขอบ ใช้ผนังสองอัน และตั้งมันขึ้นโดยให้ไม้ไอติมอยู่ในแนวต้ัง บีบกาวให้เป็น เส้นไปตามขอบของไม้ไอติมที่ปลายผนัง ค่อยๆ นาขอบตรงท่ีมีกาวมาต่อกันเบาๆ และกดค้างไว้แบบน้ัน ประมาณ 30 วนิ าที ติดผนังอีกสองอันทีเหลอื ภายในคราวเดยี วเพอื่ ให้ได้โครงสรา้ งพนื้ ฐานของบา้ น ติดหลังคาท่ีด้านบน ตดิ กาวหลังคาโดยบีบกาวตามขอบด้านบนทัง้ หมดของบ้าน ติดหลงั คาไวท้ ด่ี า้ นบนของบา้ น และค่อยๆ กดไว้เป็นเวลานานพอทีก่ าวจะยึดกันแน่น การวเิ คราะห์ผลการทาบ้านไมไ้ อตมิ แล้วนาไปเพ่มิ มูลค่าเพมิ่ วสั ดุ ราคา หนว่ ย รวม ไมไ้ อติม 40 5 200 ปืนกาว 100 1 100 แท่งกาว 20 1 20 กระดาษแข็ง 10 5 50 มีดคดั เตอร์ 10 1 10 รวม 380 เม่ือนาไปจาหนา่ ย เราจาหน่ายในราคา ขายอนั ละ 129 บาท เปน็ จานวน 5 อนั จะเหน็ ได้วา่ เรา สามารถเพ่ิมมูลค่าของบา้ นไม้ไอติม จากตน้ ทนุ 380 บาท เรานาไปจาหนา่ ยท้งั 5 อัน ได้เงิน 645 บาท แสดงว่าจากตน้ ทุนเดิม เราขายไดก้ าไร 265 บาท จะเหน็ ได้ว่าเราขายบ้านไม้ไอติม ได้กาไรอนั ละ 53 บาท ยงิ่ ไปกว่านน้ั หากเราต้องการความแตกตา่ งสรา้ งทางเลอื กของผ้ซู ื้อในการเลอื กช้ินงาน เราอาจจะเพ่ิมสสี ัน เพอื่ สรา้ งความโดดเดน่ ของชิ้นงานได้ เราจึงควรที่จะทาต่อเพื่อสร้างรายไดใ้ ห้ตัวเองและขยายเพอ่ื เพ่ิมรายได้ ใหก้ บั สมาชิกในกลมุ่ ทส่ี นใจ
บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ การศึกษาเรื่อง สรา้ งบา้ นจากไมไ้ อติม มวี ัตถุประสงค์ 1.เพือ่ ศึกษาข้ันตอนประดษิ ฐ์บ้านจากไมไ้ อตมิ 2.เพือ่ ให้เห็นคณุ คา่ ของไมไ้ อติม ท่ีสามารถนากับมาใช้ประโยชนใ์ หม่ จากการศกึ ษาสรปุ ผลการดาเนินการได้ว่า 1.ในการศึกษาข้ันตอนการประดษิ ฐ์บา้ นจากไม้ไอติมนนั้ ข้ันตอนแรกต้องศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณแ์ ละ การจดั เตรยี มอุปกรณใ์ นการทาให้พรอ้ ม เรยี บเรยี งขนั้ ตอนในการทา ก่อนและหลงั หลงั จากน้นั กป็ ระกอบ ชิ้นส่วนของบ้าน และนาไปจาหน่าย 2.ในการสรา้ งให้เห็นคุณค่าของไม้ไอติม ท่ีสามารถนากบั มาใช้ประโยชนใ์ หม่น้นั เราสามารถหาสิง่ ของ ในการทาได้จากในบ้าน เพ่ือมาตกแตง่ ให้เกดิ ความสวยงามและนา่ สนใจมากย่ิงขน้ึ เพ่อื ดงึ ดูดความสนใจของผู้ ซ้ือในการซื้อบ้านไม้ไอตมิ มากย่งิ ขึ้น อภปิ รายรายละเอยี ด การทาบ้านไม้ไอติม เกิดจากการประดิษฐ์ ตกแต่งบ้านไม้ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เป็น ส่ิงประดิษฐ์เพ่ือเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง หรืออาจดัดแปลงเป็นสิ่งของเครื่องใช้ เช่น กระปุกออมสิน กล่องใส่ ดินสอ หรืออ่ืน ๆ เพ่ือให้เกิดความสวยงาม มีความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ เป็นการดึงดูดความ น่าสนใจของชิ้นงานท่ีประดิษฐ์จากไม้ไอติมธรรมดาท่ีเหลือใช้โยนท้ิง แต่เม่ือมีการประดิษฐ์ประดอยนามา จาหน่ายจึงเปน็ การเพม่ิ มลู ค่าใหแ้ กส่ ่ิงของเหล่านัน้ อกี ดว้ ย ข้อเสนอแนะ 1.ควรสรา้ งทางเลอื กให้กบั ผู้ซอ้ื โดยการผลิตช้ินงานทีห่ ลากหลาย 2.ควรทาใหค้ ่าใชจ้ า่ ยน้อยกว่าน้ี
บรรณานุกรม การค้นคว้าเกย่ี วกับสิง่ ประดษิ ฐ์ (บา้ นไมไ้ อติม) .เข้าถึงได้ จาก https://www.thaiphysicsteacher.com (วนั ทสี่ ืบคน้ ข้อมลู 18 กนั ยายน 2562). ตัวอยา่ งการทาโครงงาน. เขา้ ถงึ ได้ จาก https://sites.google.com/site/khorngnganbanmixitim/ (วันท่สี ืบค้นข้อมลู 18 กนั ยายน 2562).
ภาคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: