หน่วยท่ี 7ระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจ
ระบบสนับสนุนการตดั สินใจDecision Support System (DSS) ระบบท่ที าหนา้ ท่จี ดั เตรยี มสารสนเทศเพอ่ื ช่วยในการตดั สนิ ใจบางครง้ั สารสนเทศ TPS และ MIS ไม่สามารถช่วยใหผ้ ูบ้ รหิ ารตดั สนิ ใจไดจ้ าเป็นตอ้ งพฒั นาระบบช่วยตดั สนิ ใจ DSS ข้ึน เพอ่ื ช่วยในการตดั สนิ ใจภายใตผ้ ลสรุปและการเปรยี บเทยี บขอ้ มูลจากแหลง่ อน่ื ทง้ัภายในและนอกองคก์ ร โดยเฉพาะอย่างย่งิ เพอ่ื ช่วยในการตดั สนิ ใจท่ีไม่ไดค้ าดไวล้ ว่ งหนา้ เช่น การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั การรวมบริษทั และการหาบรษิ ทั รว่ ม การขยายโรงงาน ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ เป็นตน้
ระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจDecision Support System (DSS)คุณสมบตั ิของระบบ DSSต้องเป็ นระบบท่โี ต้ตอบกับผู้ใช้ได้ สามารถใช้งานได้ง่ายผู้บริหารต้องสามารถ ใช้งานโดยพ่งึ ความช่วยเหลือจากผู้เช่ียวชาญน้อยท่สี ุดหรือไม่ต้องพ่งึ เลยจะต้องช่วยผู้บริหารในกระบวนการการตดั สนิ ใจ
ระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจDecision Support System (DSS)คุณสมบตั ขิ องระบบ DSSจะต้องถูกออกแบบมาให้สามารถเรียกใช้ทงั้ ข้อมูลแบบก่งึโครงสร้ างและแบบไม่ มี โครงสร้าง แน่นอนได้จะต้องสามารถสนับสนุนผู้ตดั สินใจได้ในทกุ ระดบั แต่จะเน้นท่ีระดบั วางแผนบริหารและวางแผนยุทธศาสตร์
ระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจDecision Support System (DSS)คณุ สมบตั ิของระบบ DSS มีรูปแบบการใชง้ านอเนกประสงค์ มีความสามารถในการจาลองสถานการณ์และมี เคร่อื งมือในการวเิ คราะหส์ าหรบั ช่วยเหลอื ผูท้ าการตดั สนิ ใจ ตอ้ งสามารถปรบั ใหเ้ ขา้ กบั ความตอ้ งการข่าวสาร ในสภาพการณ์ต่าง ๆ
ระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจDecision Support System (DSS)คณุ สมบตั ิของระบบ DSS ต้องมีกลไกช่วยให้สามารถเรียกใช้ข้อมูลท่ตี ้องการได้อย่างรวดเร็ว ต้องสามารถตดิ ต่อกับฐานข้อมูลขององค์กรได้ ต้องทางานโดยไม่ขนึ้ กับระบบการทางานตามตารางเวลาขององค์กร ต้องมีความยดื หยุ่นพอท่จี ะรองรับรูปแบบการบริหารแบบต่าง ๆ
ระบบสนับสนุนการตดั สินใจDecision Support System (DSS) ระบบ DSS ด้วย GIS ผ่าน Map Server ตวั อย่างภาพจากระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจแสดงพืน้ ท่อี ุทยานแห่งชาตดิ อยอนิ ทนนท์ จังหวัดเชยี งใหม่ ท่ีแปรจากภาพถ่ายจากดาวเทียม แสดงเส้นทางคมนาคม ทางนา้ ฯลฯ
ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดบั สูงExecutive Support System (ESS) เป็นระบบท่สี รา้ งข้ึน เพ่อื สนบั สนุนสารสนเทศและการตดั สนิ ใจสาหรบั ผูบ้ ริหารระดบั สูงโดยเฉพาะ ซ่ึงช่วยในการวางแผนกลยุทธห์ รือแผนการดาเนินงานระยะยาวขององคก์ ร สามารถช่วยแกป้ ัญหาแบบไม่มโี ครงสรา้ ง Unstructured ซ่ึงจะเนน้ ทางดา้ นข่าวสารสาหรบั ผูบ้ ริหารระดบั สูง และยงั สามารถใชข้ อ้ มูลจากภายในและภายนอกไดใ้ นการสรา้ งและประมวลผล เหมาะกบั การวเิ คราะหแ์ ละประยุกตใ์ ชก้ บั ปัญหาท่เี ปลย่ี นแปลงอยู่เสมอ
ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูงExecutive Support System (ESS)คณุ สมบตั ขิ องระบบ ESSสามารถเจาะขอ้ มูลลงลกึ ไดม้ ากกว่า (Drill Down)สามารถกรองขอ้ มูลท่ไี ม่มจี าเป็นออกได้ และ Interface ในรูป Graphic แทนขอ้ มูลจรงิมคี วามยดื หย่นุ สูง กระบวนการคดิ กวา้ งข้ึน เพม่ิ ระบบวเิ คราะห์ และเปรยี บเทยี บ
ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดบั สูงExecutive Support System (ESS)คณุ สมบตั ขิ องระบบ ESSผู้บริหารใช้งานง่ายขึน้ Interface เป็ นกันเอง ผู้บริหารสามารถทางาน ปรับปรุง เพ่มิ เตมิ ปรับแต่งเองได้สามารถตดั สินใจจากข้อมูลท่มี ีอยู่ได้ทนั ที และตรวจสอบการทางานใน ระดับล่างได้ช่วยขยายขอบเขตการทางานของผู้บริหารได้กว้างขวางมากขึน้ สามารถช่วยพฒั นาการบริหารในลักษณะ Centralization และนาพา องค์กรไปสู่องค์กรแห่งการรับรู้และตอบสนอง (Sense and Response Organization)
ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดบั สูงExecutive Support System (ESS)ตวั อย่างของระบบ ESS ในทางธุรกจิการเจาะลกึ ขอ้ มูลของผูบ้ รหิ ารเก่ยี วกบั ผลกาไรขาดทนุ รายงานงบดลุและยอดขายทง้ั แบบขายปลกี และขายสง่ แยกประเภทตามภมู ภิ าคตามตวั แปรตน้ อน่ื ๆ ไดต้ ามปรารถนา การตรวจรายงานการควบคมุดา้ นการเงนิ และยอดบญั ชีในแตล่ ะเดอื น
ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดบั สูงExecutive Support System (ESS)ตวั อย่างของระบบ ESS ในทางธุรกจิผูบ้ รหิ ารอาจตอ้ งการทราบขอ้ มูลระดบั ลกึ ทางการตลาด เพ่อื นามาตดั สนิ ใจเพม่ิ สว่ นแบ่งการตลาด สามารถใช้ ESS เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการเหลา่ น้นัหรอื อาจตอ้ งการขอ้ มูลท่สี าคญั เพ่อื วดั ความพงึ พอใจของลูกคา้ และ Suppliersสามารถพฒั นา ESS ใหอ้ ยู่บน Web based แลว้ รวมขอ้ มูลเป็นคลงั ให้ผูบ้ รหิ ารสามารถวเิ คราะหไ์ ด้
ความสัมพันธ์ระหว่างระบบแบบต่าง ๆ Management Executive Decisioninformation systems support systems support systems (MIS) (ESS) (DSS)Knowledge Transactionwork systems processing system (KWS) (TPS)ระบบ TPS มกั จะเป็นระบบหลกั ทเ่ี ป็นตวั รวบรวมขอ้ มูลเขา้ มาเพ่อื แจกจ่ายใหแ้ ก่ ระบบอ่ืน ๆ ระบบ ESS จะเป็นผูร้ บั ขอ้ มูลจากระบบอืน่ ไปใช้ สว่ นระบบทเ่ี หลอื กจ็ ะมกี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มูลระหว่างกนั และระบบทท่ี าหนา้ ท่ี ต่างกนั สาหรบั ผูใ้ ชใ้ นระดบั เดยี วกนั กอ็ าจมกี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มูลระหว่างกนั ได้
รูปแบบลักษณะงานองค์กรManufacturing Accounting Enterprise System Business Process Business Process Business Process Enterprise-wide business Process Human Marketing FinanceResources and Sale
การพจิ ารณาระบบสารสนเทศ ตามลักษณะทส่ี นับสนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรับฝ่ ายการตลาด และฝ่ ายขายฝ่ ายการตลาด : คน้ หาความตอ้ งการของลูกคา้ , วางแผนการผลติ บรกิ ารหรอื สนิ คา้ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ ,จดั การโฆษณา และจดั การกระตนุ้ การขาย (Promotion) และกาหนดกลุ่มลูกค้าเป้ าหมายสาหรับบริการหรือสนิ ค้าท่อี งค์กรผลติ
การพจิ ารณาระบบสารสนเทศ ตามลกั ษณะท่สี นบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการตลาด และฝ่ ายขายฝ่ ายขาย : รบั ผดิ ชอบในการตดิ ต่อกบั ลูกคา้ , ขายบรกิ ารหรอื สนิ คา้ , รบั การสงั่ ซ้ือ และตดิ ตามการขายจนเสรจ็ ส้นิกระบวนการ
การพจิ ารณาระบบสารสนเทศตามลักษณะทสี่ นับสนนุ การทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการตลาด และฝ่ ายขาย ตัวอย่างระบบสารสนเทศสาหรับฝ่ ายการตลาด และ
การพจิ ารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะที่สนบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการผลติวางแผน, พฒั นา, บารุงรกั ษาส่งิ อานวยความสะดวก, กาหนดเป้ าหมายการผลติ , สอบถาม, เกบ็ รกั ษา, ความพรอ้ มใชง้ านของวสั ดุสาหรบั การผลติ . กาหนดตาราง ทางานใหก้ บั อุปกรณ,์ ส่งิ อานวยความสะดวก, จดั หาวสั ดุ และแรงงานเพ่อื นามา สรา้ งเป็นสนิ คา้ ท่ีตอ้ งการ
การพิจารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะท่ีสนบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการผลติ ตวั อย่างระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายผลติ
การพิจารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะท่ีสนบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการเงนิ และการบญั ชีฝ่ ายการเงนิ : รบั ผดิ ชอบการบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ สว่ นท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การเงนิ ขององคก์ ร เช่น เงนิ สด หนุ้ พนั ธบตั ร และการลงทนุ อน่ื ๆ ซ่ึงจะไดร้ บั ขอ้ มูล จานวนมากจากแหลง่ ขอ้ มูลภายนอกองคก์ รเพอ่ื ทาใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจไดว้ า่ องคก์ ร จะไดร้ บั ผลประโยชน์สูงสุดจากการลงทนุ
การพิจารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะท่สี นบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการเงนิ และการบญั ชีฝ่ ายการบญั ชี :รบั ผิดชอบในการรกั ษา และจดั การรายการหลกั ฐานเก่ยี วกบั การเงนิ ขององคก์ ร เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ รายการชาระเงนิ การเสอ่ื มราคา และรายการชาระคา่ ตอบแทน นอกจากน้ีตอ้ งสรุปสถานะทางทรพั ยส์ นิขององคก์ รในปจั จบุ นั และสรุปรายการคา่ ใชจ้ า่ ยทง้ั หมดท่เี กดิ ข้ึนในเดอื นท่ีผ่านมา
การพิจารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะที่สนบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการเงนิ และการบญั ชี ตวั อย่างระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายการเงนิ และการบญั ชี
การพิจารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะทสี่ นบั สนุนการทางาน ระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายทรพั ยากรมนุษย์ พฒั นา, การสงวนรกั ษาบคุ ลากรขององคก์ ร, สนบั สนุนการเลอื กสรรบคุ ลากร, จดั การรกั ษาระเบยี นขอ้ มูลบคุ ลากรใหม้ ีความสมบูรณ์, สรา้ งสรรคก์ จิ กรรมท่ี กระตนุ้ ใหบ้ คุ ลากรเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค,์ ทกั ษะในการปฏบิ ตั งิ าน, การจา่ ย ค่าทดแทนใหแ้ กบ่ คุ ลากรท่ถี กู เลกิ จา้ ง และการจดั วางบคุ ลากรเขา้ สูต่ าแหน่งท่ี เหมาะสม
การพจิ ารณาระบบสารสนเทศตามลกั ษณะท่สี นบั สนุนการทางานระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายทรพั ยากรมนุษย์ ตวั อยา่ งระบบสารสนเทศสาหรบั ฝ่ ายทรพั ยากรมนุษย์
การบูรณาการระบบงาน และกระบวนการทางธุรกจิ : ระบบสารสนเทศองคก์ ร และระบบเครอื ข่ายอตุ สาหกรรมระบบสารสนเทศ และกระบวนการทางธุรกจิ ระบบสารสนเทศสนบั สนุนการทางานขององคก์ ร ซ่งึ หมายถงึ กจิ กรรม ตา่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั งาน เช่น การจดั โครงสรา้ งงาน อธิบายถึงการ ไหลเวยี นของวสั ดุ ข่าวสาร ความรู้ และวธิ กี ารท่ผี ูบ้ รหิ ารใชใ้ นการประสาน การทางาน
การบูรณาการระบบงาน และกระบวนการทางธุรกจิ : ระบบสารสนเทศองคก์ ร และระบบเครอื ข่ายอตุ สาหกรรมระบบสารสนเทศ และกระบวนการทางธุรกจิ ตวั อย่าง กระบวนการทาง ธุรกจิ
การบูรณาการระบบงาน และกระบวนการทางธุรกจิ : ระบบสารสนเทศองคก์ ร และระบบเครอื ข่ายอตุ สาหกรรมการกระตนุ้ ใหพ้ นกั งานเขา้ เป็นสมาชิกแผนการรบั ผลประโยชนต์ อบแทน นัน่ คือ ตอ้ งรวบรวมคนจากหลายฝ่ ายเขา้ มาทางานเดียวกนั เน่ืองจากว่ากจิ กรรมหลายชนิดท่ีทางานก้าก่ึงระหว่างหนา้ ท่ีการทางานดา้ นต่าง ๆ จงึ ตอ้ งนาระบบสารสนเทศเขา้ มาสนับสนุนการทางานในแต่ละดา้ น รวมถึงประสานการทางานของดา้ นต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั นอกจากน้ียงั ช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพขององคก์ รดว้ ยการทาใหก้ ระบวนการทางานบางสว่ นเกดิ ข้ึนโดยอตั โนมตั ิ หรือช่วยใหอ้ งคก์ รทบทวนและสรา้ งกระบวนการทางานใหม่ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน
การบูรณาการระบบงาน และกระบวนการทางธุรกจิ :ระบบสารสนเทศองคก์ ร และระบบเครอื ข่ายอตุ สาหกรรม การกระตนุ้ ใหพ้ นกั งาน เขา้ เป็นสมาชิกแผนการ รบั ผลประโยชน์ ตอบแทน
การบูรณาการระบบงาน และกระบวนการทางธุรกจิ : ระบบสารสนเทศองคก์ ร และระบบเครอื ข่ายอตุ สาหกรรมการกระตนุ้ ใหพ้ นกั งานเขา้ เป็นสมาชิกแผนการรบั ผลประโยชนต์ อบแทน จากรูป แสดงคลงั ขอ้ มูลและเซตย่อยของตลาดขอ้ มูล (Data Mart Subset) ทเ่ี กบ็ขอ้ มูลทถ่ี อดมาจากฐานขอ้ มูลปฏบิ ตั กิ ารต่างๆ เพ่อื การวเิ คราะหท์ างธุรกจิ การวจิ ยัตลาด การสนบั สนุนการตดั สนิ ใจ และโปรแกรมประยุกตเ์ หมอื งขอ้ มูล (Data Mining)ขอ้ มูลจากโปรแกรมประยุกต์ ไดแ้ ก่ การควบคุมการผลติ การวางแผนความตอ้ งการวตั ถุดิบ (MRP ) การควบคุมสนิ คา้ คงคลงั การจดั การเร่ืองอะไหล่ การกระจายสนิ คา้การสง่ สนิ คา้ วตั ถุดิบ การควบคุมคาสง่ั ซ้ือ และการสง่ั ซ้ือสนิ คา้ ขอ้ มูลดา้ นตลาดขอ้ มูลไดแ้ ก่ การเงนิ การตลาด การขาย บญั ชี การจดั ทารายงาน วศิ วกรรม ประกนั ภยั และทรพั ยากร
การบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ลูกคา้ (Customer Relationship Management : CRM) องคก์ ารท่ตี อ้ งการสรา้ งความไดเ้ ปรียบเชิงแข่งขนั ท่ยี ง่ั ยืนตอ้ งหนั มาเอาใจใสอ่ ย่างจริงจงั กบั ความสมั พนั ธก์ บั ลูกคา้ โจทยข์ องระบบ CRM ท่อี งคก์ ารตอ้ งหาคาตอบคือ ปัจจยั อะไรท่มี ผี ลกระทบต่อผลสาเร็จของระบบ CRM รวมถึงการยอมรบั และสนบั สนุนระบบ CRM
การบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ลกู คา้ (Customer Relationship Management : CRM) จากผูบ้ รหิ ารระดบั สูงในฐานะท่เี ป็นยทุ ธศาสตรข์ ององคก์ าร เทคโนโลยี ITทาใหก้ ารรวบรวมขอ้ มูลและวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธก์ บั ลูกคา้ มีประสทิ ธิภาพ แต่การลงทนุ ในเทคโนโลยเี ป็นสง่ิ ท่จี ะถกู พจิ ารณาต่อจากการสรา้ งความยอมรบั และใหก้ ารสนบั สนุนจากผูป้ ฏบิ ตั งิ านภายในองคก์ าร ทง้ั น้ีเน่ืองจากระบบ CRM นามาซ่งึ การเปล่ยี นแปลงกระบวนการปฏบิ ตั งิ าน ระบบ CRM ท่มี ปี ระสทิ ธผิ ลจงึ ควรเป็นระบบท่ี“ยกระดบั คณุ คา่ ท่ลี กู คา้ นามาสูอ่ งคก์ ารและคณุ ค่าท่อี งคก์ ารนาไปสูล่ กู คา้ ”
การบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ลูกคา้(Customer Relationship Management : CRM) การเพม่ิ บทบาท ของ CPM ในองคก์ ร
การบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ลกู คา้ (Customer Relationship Management : CRM) ขอ้ ดีของระบบ CRMขยายระบบสู่ E-CPMเป็นเคร่ืองมอื ช่วยเช่ือมต่อเขา้ กบั ระบบงานอ่นื ๆสรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหว่างกนัมกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลของลกู คา้ ในระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์สามารถนาศนู ยบ์ ริการทางโทรศพั ท(์ Call Center)เขา้ มาสนบั สนุนการ ทางาน
ปญั หาของระบบงานองคก์ รแบบเดิม องคก์ รขนาดใหญม่ กั จะมรี ะบบสารสนเทศอยูห่ ลายชนิดท่สี นบั สนุนการทางานของหลายฝ่ ายในหลายระดบั และหลายกระบวนการทางธุรกจิ ระบบงานสว่ นใหญถ่ กู สรา้ งข้ึนมาใชง้ านเพอ่ื วตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะดา้ น ทาใหไ้ ม่สามารถสอ่ื สารระหว่างกนั ได้ ผูบ้ รหิ ารกจ็ ะมคี วามยากลาบากในการรวบรวมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการสาหรบั นามาใชเ้ ป็นขอ้ มูลสรุปสาหรบั การพจิ ารณาภาพการปฏบิ ตั งิ านโดยรวมขององคก์ ร เช่น พนกั งานฝ่ ายขายไมท่ ราบวา่ สนิ คา้ น้นั มีอยูม่ ากนอ้ ยเท่าใดในคลงั สนิ คา้ หรอื ลูกคา้ ไม่สามารถตดิ ตามรายการสนิ คา้ ท่ีสงั่ ได้ เป็นตน้
ผลประโยชน์ของระบบงานองคก์ รระบบงานองคก์ รจะทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งมากต่อวธิ กี ารดาเนินธุรกจิ ใน 4 ดา้ น1. โครงสรา้ งองคก์ ร : สามารถทาการเช่ือมโยงสานกั งานสาขาต่าง ๆ ขององคก์ รเขา้ ดว้ ยกนั ได้ สรา้ งวฒั นธรรมองคก์ รใหเ้ ป็นไปในแนวทางเดียวกนั มวี ธิ ีการดาเนินธุรกจิ เป็นระบบเดียวกนั โดยมีการประสานหนา้ ท่ี การทางานของฝ่ ายต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ได้
ผลประโยชนข์ องระบบงานองคก์ รระบบงานองคก์ รจะทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอย่างมากต่อวธิ กี ารดาเนินธุรกจิ ใน 4 ดา้ น2. กระบวนการบริหาร : สามารถจดั การการทางานแบบอตั โนมตั ใิ หแ้ ก่กระบวนการทางาน ทงั้ หลายได้ สามารถปรบั ปรุงขอ้ มูลสาหรบั การบริหาร และการตดั สนิ ใจได้ ขอ้ มูลทน่ี าเสนอ โดยมโี ครงสรา้ งของการผสมผสานระหว่างการทางาน ของฝ่ ายต่าง ๆ สามารถเรียกใชไ้ ดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็ว
ผลประโยชนข์ องระบบงานองคก์ รระบบงานองคก์ รจะทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งมากต่อวธิ ีการดาเนินธุรกจิ ใน 4 ดา้ น3. เทคโนโลยพี ้นื ฐาน : สามารถประสานการทางานระหว่างกนั ไดเ้ สมอื นเป็นระบบเดยี วกนั ทว่ั ทงั้ องคก์ ร ขอ้ มูลเกบ็ รวมกนั เพียงแห่งเดยี ว มมี าตรฐานเดียวกนั สามารถนาขอ้ มูลไปใชก้ บั ระบบสารสนเทศในทุกสว่ นขององคก์ รได้
ผลประโยชนข์ องระบบงานองคก์ รระบบงานองคก์ รจะทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอย่างมากต่อวธิ ีการดาเนินธุรกจิ ใน 4 ดา้ น4. ความสามารถทางธุรกจิ : การปฏบิ ตั งิ านมปี ระสทิ ธภิ าพสงู ข้ึน สามารถช่วยใหเ้ กดิ ระบบงานพ้นื ฐานท่มี ลี กู คา้ หรือความตอ้ งการต่าง ๆ ซ่ึงเป็นส่งิ ทก่ี ระตุน้ กระบวนการทางานใหเ้ กดิ ข้ึน สามารถรวบรวมกระบวนการทางานต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั
ผลประโยชนข์ องระบบงานองคก์ รระบบงานองคก์ รจะทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งมากต่อวธิ ีการดาเนินธุรกจิ ใน 4 ดา้ น4. ความสามารถทางธุรกจิ : สามารถตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ ไดด้ ี ดา้ นฝ่ ายการผลติ มขี อ้ มูลทด่ี ขี ้ึน ในการทจ่ี ะทาการผลติ เฉพาะสนิ คา้ ท่ี ลูกคา้ สง่ั ซ้ือ สามารถจดั ซ้ือวสั ดุในปริมาณทพ่ี อดีกบั ความตอ้ งการในการผลติ สนิ คา้ ช่วยลดระยะเวลาทส่ี นิ คา้ ถูกเกบ็ ไวใ้ นคลงั สนิ คา้
ความทา้ ทายของระบบงานองคก์ ร องคก์ รจาเป็นจะตอ้ งออกแบบการทางานใหม่ เพ่ือใหข้ ่าวสารสามารถไหลเวยี นไปทว่ั องคก์ รไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพกระบวนการพฒั นาทต่ี อ้ งใชค้ วามกลา้ หาญ : นาเทคโนโลยใี หม่มาใชซ้ ่ึงทาใหก้ ระบวนการทางานตอ้ งเปล่ียนแปลงไป การกาเนิดของวฒั นธรรมองคก์ รใหม่ ๆ ท่ตี ่างไปจากเดมิ มกี ารฝึกฝนพนกั งานใหร้ ูจ้ กั ระบบงานใหม่
ความทา้ ทายของระบบงานองคก์ ร องคก์ รจาเป็นจะตอ้ งออกแบบการทางานใหม่ เพอ่ื ใหข้ ่าวสารสามารถไหลเวยี นไปทวั่ องคก์ รไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพกระบวนการพฒั นาท่ตี อ้ งใชค้ วามกลา้ หาญ : ตอ้ งเปลย่ี นกระบวนการทางานใหม่ไปพรอ้ ม ๆ กนั ในขณะทจ่ี ะตอ้ งรกั ษา ธุรกจิ เดมิ เอาไว้ ตอ้ งใชร้ ะยะเวลาประมาณ 3-5 ปีในการนาระบบงานใหม่มาใชง้ านไดอ้ ย่าง เตม็ ประสทิ ธภิ าพ องคก์ รจะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจในธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลง ทม่ี าพรอ้ มกบั ระบบงานใหม่
ความทา้ ทายของระบบงานองคก์ รค่าใชจ้ ่ายเร่ิมตน้ ท่สี ูง และผลประโยชนใ์ นอนาคต : การพฒั นาระบบงานองคก์ รนนั้ มมี ูลค่าสงู มาก ผลประโยชนจ์ ะค่อย ๆ เพ่มิ พูนข้ึนจากการท่บี ุคลากรสามารถใชร้ ะบบงานองคก์ รได้ ไดร้ บั ความรูใ้ นกระบวนการทางธุรกจิ ซ่ึงไม่สามารถจะเรียนรู้ไดจ้ ากวธิ กี ารแบบเดมิ
ความทา้ ทายของระบบงานองคก์ รความไม่อ่อนตวั : องคก์ รตอ้ งมกี ารเปลย่ี นแปลงตวั ซอฟตแ์ วร์ ซ่ึงแต่ระบบงานองคก์ รมีลกั ษณะท่ยี ากต่อการแกไ้ ขเปลย่ี นแปลง จึงอาจเป็นไปไดว้ ่าสกั วนั หน่ึงองคก์ รดิจิตอลนนั้ จะกลายเป็นองคก์ รลา้ สมยั (โดยท่ไี ม่สามารถแกไ้ ขไดเ้ หมอื นระบบงานเก่า)
ความท้าทายของระบบงานองค์กร การรับรู้คณุ ค่าทางกลยทุ ธ์ : องค์กรไม่สามารถนาวิธีการเฉพาะ ของตนเองมาใช้ซ่ึงอาจเป็ นวธิ ีการที่ทาให้ ได้เปรียบบริษทั ค่แู ข่งขนั ถ้าระบบงาน องค์กรไม่สามารถเข้ากนั ได้กบั วธิ ีการ ดาเนินธุรกจิ ขององค์กรแล้ว อาจทาให้ องค์กรสูญเสียวธิ ีการดาเนินธุรกจิ ทดี่ ีได้
สรุปบทบาทของระบบสารสนเทศทง้ั 6 ประเภทในองค์กร 1. ระบบสนับสนุนผ้บู ริหารระดบั สูง (Executive Support System : ESS) 2. ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ (Management Information System : MIS) 3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System : DSS) 4. ระบบผ้ชู านาญการ (Knowledge Work System : KWS) 5. ระบบสานักงาน (Office System) 6. ระบบประมวลผลรายการธุรกรรมข้อมูล (Transaction Processing System : TPS)
สรุประบบสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ทสี่ นับสนนุ การทางาน ในการดาเนินธุรกจิ1. ฝ่ ายขายและการตลาด ช่วยองค์กรในการกาหนดกลุ่มลูกค้า ช่วยพัฒนา สินค้าและบริการ สนับสนุนการขายสินค้าและบริการ การให้บริการแก่ ลกู ค้า2. ฝ่ ายผ้ผู ลติ ช่วยในการวางแผน การพฒั นา และการผลติ สินค้าและบริการ3. ฝ่ ายการเงิน และการบัญชี ช่วยในการติดตามการเก็บรักษา และใช้ งาน ทรัพย์สินขององค์กร และกระบวนการไหลเวียนของระบบเงินทุน4. ฝ่ ายทรัพยากรมนุษย์ ช่วยจดั การเกบ็ รักษาระเบียบข้อมลู ของบุคลากร
สรุป กระบวนการทางธุรกจิ หมายถึง การจดั โครงสรา้ งของงาน การประสานงาน และการมุ่งเนน้ ในการผลติ สนิ คา้ และบริการท่มี ีคุณค่า การบริหารห่วงโซ่อุปทาน คอื การเช่ือมโยงอย่างเหนียวแน่นของกจิ กรรมท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การซ้ือการผลติ และการนาสง่ สนิ คา้ ระบบสารสนเทศช่วยทาใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธภิ าพสูงข้ึนดว้ ยการประสานงาน การจดั ตาราง การควบคุมการจดั หาวสั ดุ การผลติ การบริหารคลงั สนิ คา้ และการนาสง่ สนิ คา้ และบริการไปยงั ลกู คา้
Search
Read the Text Version
- 1 - 47
Pages: