หน่วยที่10

หน่วยท่ี 10 ปญั ญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence)

การประยกุ ใ์ ีเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานดา้ น ่าง ๆ• ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรอื เอไอ (AI) หมายถงึ ความฉลาด เทยี มท่สี รา้ งข้ึนใหก้ บั สง่ิ ท่ไี ม่มีี ีวิ• การพฒั นาใหร้ ะบบคอมพวิ เ อรม์ ีลกั ษณะการทางานใกลเ้ คยี ง กบั ระบบการประมวลผลและการ อบสนองของมนุษย์ ท่มี ี อ่ แ ่ละสถานการณ์ เพอ่ื ใหค้ อมพวิ เ อรส์ ามารถปฏบิ ั งิ าน แทนท่มี นุษยไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

หนุ่ ยน ข์ องฮอนดา้ ท่รี ูจ้ กั ดใี นดา้ นปญั ญาประดษิ ฐ์

วั อย่างการนาหนุ่ ยน ม์ าใีง้ านในดา้ น ่าง ๆ

ปญั ญาประดิษฐ์ ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) คอื ความพยายามในการพฒั นาระบบคอมพวิ เ อร์ (ทง้ั ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟ แ์ วร)์ ใหม้ ีพฤ ิกรรมเลียนแบบมนุษย์ ระบบดงั กล่าวจะ อ้ งมีความสามารถในการเขา้ ใจภาษามนุษย์ ทางานท่ี อ้ งใี้การประสานงานระหว่างส่วน ่าง ๆ (โรโบ ิก-robotics) ใีอ้ ปุ กรณ์ท่สี ามารถรบั ทราบและ อบสนองดว้ ยพฤ ิกรรมและภาษา (ระบบการมองและการออกเสยี ง) การเลียนแบบความเี่ียวีาญและการ ดั สนิ ใจของมนุษย์ (ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ) ระบบดงั กล่าวยงั จะ อ้ งแสดงความสามารถทาง รรกะ การใีเ้ ห ุผล สญั ีา ญาณ และการใีห้ ลกั การสมเห สุ มผล (common sense) ท่มี คี ณุ ภาพในระดบั เดียวกบั มนุษย์

องคป์ ระกอบของปญั ญาประดษิ ฐ์ ความีาญฉลาดของมนุษยม์ ีความซบั ซอ้ น และกวา้ งขวางกว่าความีาญฉลาดของเคร่อื งคอมพิวเ อร์ องคป์ ระกอบท่ีแยกความแ ก ่างของมนุษย์ ออกจากสั วี์ นิดอ่ืนๆ คือ ความสามารถในการพฒั นาความเก่ียวขอ้ ง และการใี้ วั แทนความรู้ และการเปรยี บเทยี บ ซ่ึงสามารถนามาใีใ้ นการสรา้ งความรูใ้ หม่ๆกฎเกณฑใ์ หม่ ความีาญฉลาดของมนุษยย์ งั รวมไปถึง ความสามารถในการใี้ประสาทสมั ผสั ในการรบั รูเ้ ห กุ ารณ์ท่เี กดิ ข้ึนรอบๆ

ปญั ญาประดิษฐ์ ปญั ญาประดิษฐ์ สามารถจดั แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท ามลกั ษณะของเป้ าหมาย ไดแ้ ก่ 1. ระบบท่ีคิดเหมือนมนุษย์ : ความพยายามใหม่อนั น่า ่ืนเ น้ ท่ีจะทาให้คอมพวิ เ อรค์ ดิ ได.้ ..เคร่อื งจกั ท่มี ีส ิปญั ญาอย่างครบถว้ นและแทจ้ รงิ และกจิ กรรมท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ความคดิ มนุษย์ ไดแ้ ก่ การ ดั สนิ ใจ การแกป้ ญั หา การเรียนรู้ 2.ระบบท่กี ระทาเหมอื นมนุษย์ : วีิ าของการสรา้ งเคร่อื งจกั รทที างานในสง่ิ ซ่ึงอาศยั ปญั ญา และการศึกษาวิธีทาใหค้ อมพวิ เ อรก์ ระทาในส่งิ ท่ีมนุษยท์ าไดด้ ีกว่าในขณะน้นั

ปญั ญาประดษิ ฐ์ 3. ระบบท่ีคิดอย่างมีปญั ญา : การศึกษาความสามารถในดา้ นส ิปญั ญาโดยการใีโ้ มเดลการคานวณ และการศึกษาวิธีการคานวณท่ีสามารถรบั รู้ ใีเ้ ห ผุ ล และกระทา 4. ระบบท่กี ระทาอย่างมีปญั ญา : ปญั ญาประดิษฐค์ อื การศึกษาเพอ่ื ออกแบบเอเจน ์ ท่มี ปี ญั ญา และ AI เก่ยี วขอ้ งกบั พฤ ิกรรมท่แี สดง ปญั ญาในสง่ิ ท่มี นุษยส์ รา้ งข้ึน

ความแ ก า่ งระหวา่ ง AI กบั ระบบสารสนเทศปก ิ

ประโยีน์ของปญั ญาประดิษฐใ์ นเีิงธุรกจิ 1. ขอ้ มูลจะถูกเก็บไวใ้ นลกั ษณะคลา้ ยกบั เป็ นหน่วยบนั ทึกความจาของขององคก์ ร กลายเป็ นฐานความรูอ้ งคก์ ร ท่ีพนักงานสามารถเขา้ สืบคน้และหาคาปรกึ ษาไดท้ กุ เวลา 2. ระบบฯ จะี่วยสรา้ งกลไกท่ไี ม่นาความรูส้ กึ ความเหน่ือยลา้ หรอืความกงั วล เขา้ มาเป็ นองคป์ ระกอบ ซ่ึงจะมีประโยีน์เป็ นอย่างมากกบั งานประเภทท่ีอนั ราย ่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็ นดา้ นส่ิงแวดลอ้ มท่ีไม่ปลอดภยัดา้ นร่างกาย หรอื ดา้ นจิ ใจ ก็ าม ระบบฯ น้ียงั อาจทาหนา้ ท่ีใหค้ าปรึกษาท่ีมีประโยีน์ในี่วงเวลาคบั ขนั ได้

ประโยีน์ของปญั ญาประดษิ ฐใ์ นเีิงธุรกจิ 3. ระบบฯ จะถกู นามาทางานในสว่ นท่เี ป็นงานจาเป็น หรอื เป็นงานท่นี ่าเบ่อื หน่ายสาหรบั มนุษย์ 4. ระบบฯ จะี่วยเพม่ิ ความสามารถในฐานความรูข้ ององคก์ รดว้ ยการเสนอวิธีแกป้ ญั หาสาหรบั งานเฉพาะดา้ น ซ่งึ มปี ริมาณมากหรอืมีความซบั ซอ้ นมากเกนิ ไปสาหรบั มนุษย์ โดยเฉพาะเม่ือ อ้ งการทางานน้นั ใหส้ าเรจ็ ภายในระยะเวลาอนั สน้ั

ปญั ญาประดษิ ฐ์ ในระบบธุรกจิ 1. fuzzy logic คลมุ เครอื บอกไม่ไดี้ ดั เจน เี่นอปุ กรณ์ท่ไี ปใีใ้ นเคร่อื งซกั ผา้ (ีนิดผา้ )การพฒั นางาน ดา้ นปญั ญาประดิษฐ์ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การใีก้ ฎพ้นื ฐาน มคี วามสามารถทางาน ขอ้ มูลท่ไี ม่จาเป็น อ้ งมคี า่ เท่ยี ง รงเสมอ และอาจนาไปใี้ แกป้ ญั หาท่มี นุษย์ ไม่สามารถแกไ้ ข ไดม้ าก่อนประกอบดว้ ยนิยามและเทคนิค า่ ง ๆ สาหรบั ใีเ้ ป็นรูปแบบแทนความรู้ และการอา้ งองิ ถา้ ความรูท้ ่มี ีค่า ไม่เท่ยี ง รง (Imprecise) ไม่แน่นอน (Uncertain) และไม่สามารถเี่ือถอื ได้ unreliable

ปญั ญาประดิษฐ์ ในระบบธุรกจิ 2. Genetic Algorithms การปรบั เปลย่ี นสารพนั ธุกรรมของยีนส์หมายถงึ วิธกี ารแกป้ ญั หาท่ใี ีแ้ นวทางเดยี วกบั วธิ กี ารท่ี สง่ิ มีีีวิ ปรบั วั เองใหเ้ ขา้กบั สภาพแวดลอ้ ม หรอื ววิ ฒั นาการ (evolution) วธิ กี ารท่ถี กู โปรแกรมใหท้ าการเปลย่ี นแปลง หรอื ปรบั ปรุงสว่ นประกอบ ของระบบโดยการสรา้ งข้ึนมาใหม่ การดดั แปลงและการคดั สรรวธิ ีธรรมีา ใิ ี้ Function คณิ ศาส รใ์ หเ้ กดิ โปรแกรมใหม่ๆ มาใีง้ าน (ประโยีนแ์ กป้ ญั หา ออกแบบสนิ คา้ รวจสอบระบบการทางาน ่าง ๆ)

ปญั ญาประดษิ ฐ์ ในระบบธุรกจิ 3. ระบบปญั ญาประดิษฐแ์ บบผสมผสาน (Hybrid AIsystem) ระบบเจนเน กิ อลั กอรทิ มึ ฟสั ซีโลจกิ ระบบเครอื ข่ายนิวรอน ละระบบผูเ้ ี่ียวีาญสามารถนามาบูรณาการ เขา้ ดว้ ยกนั เป็นระบบเดียว เพอ่ื จะไดเ้ ลอื กใีแ้ ่สว่ นท่ดี ที ่สี ดุ ของเทคโนโลยแี ่ละอยา่ ง ระบบดงั กลา่ วเรยี กวา่ ระบบปญั ญาประดิษฐ์ แบบผสมผสาน(Hybrid AI System) ซ่ึงกาลงั ไดร้ บั ความนิยมเพม่ิ ข้ึนในงานทางธุรกจิ ปจั จุบนั

ปญั ญาประดษิ ฐ์ (AI) แบง่ เป็นสาขา า่ ง ๆ ดงั น้ี1.วทิ ยาการหนุ่ ยน (์ Robotic) • เกย่ี วขอ้ งกบั การออกแบบสรา้ งและนาหนุ่ ยน ไ์ ป ใีง้ านแทนมนุษยป์ ระกอบดว้ ย 2 สว่ น – สว่ นเคลอ่ื นไหวประกอบดว้ ย แขน ขอ้ ่อ มือ – สว่ นท่ที าหนา้ ท่คี วบคมุ การ ดิ ่อ คอมทางานกบั หนุ่ ยน ์

สาขาของปญั ญาประดษิ ฐ์– ห่นุ ยน (์ Robotic) • ใี้ ามโรงงานอุ สาหกรรม เี่น การทาสรี ถยน ์ การ ใสส่ ะกรู การเคลอ่ื นยา้ ยวั ถุ การหยบิ • การวางและระบบงานท่ซี บั ซอ้ น เี่น รวจสอบ ขอ้ บกพร่องของเคร่อื งจกั ร ทดสอบวงจรไฟฟ้ า เี่ือม วั ถงั รถยน ์

สาขาของปญั ญาประดษิ ฐ์2.ภาษาธรรมีา ิ (Natural Language)– คอมพวิ เ อรส์ ามารถเขา้ ใจภาษาท่มี นุษยใ์ ีใ้ นีีวิ ประจาวนั เี่น ภาษาองั กฤษ ภาษาไทย หรอื ภาษาจนี เป็น น้– เก่ยี วขอ้ งกบั การ ดิ ่อสอ่ื สารดว้ ยภาษา ่างๆ ของมนุษย์– ประยกุ ใ์ ีภ้ าษาศาส รแ์ ละคอมพวิ เ อรเ์ ขา้ ดว้ ยกนั– ใหค้ อมเขา้ ใจความของประโยคและความหมายของคา หลกั ไวยากรณ์ของภาษา ภาษาธรรมีา จิ รงิ ๆ– แลว้ เป็นภาษาท่ยี อมใหค้ อมพวิ เ อรร์ บั คาสงั่

สาขาของปญั ญาประดิษฐ์3. ระบบเครอื ข่ายเสน้ ประสาท (Neural Networks)คอื ความสามารถในการจาลองประสาทสมั ผสั ของมนุษย์ เป็ นระบบคอมพวิ เ อรท์ ่ถี กู พฒั นาใหจ้ าลองการทางาน ของสมองและระบบ เสน้ ประสาทของมนุษย์ โดยระบบเครอื ข่ายเสน้ ประสาทจะมคี วามสามารถในการสงั เก การเรยี นรู้ การจดจา การพดู การไดย้ นิ การทาซ้า สมั ผสั และการแยกแยะถงึ สง่ิ า่ งๆ ได้

สาขาของปญั ญาประดษิ ฐ์3.1 การพดู :ใีก้ ารบนั ทกึ เสยี งของมนุษย์ หน่วย อบสนองดว้ ยเสยี งเลอื กการแสดงผลจากการบนั ทกึ เสยี งของผูใ้ ี้ เี่น เ าไมโครเวฟ ลฟิ ท์นาฬกิ าปลกุ วดี ีโอเกมส์ เป็น น้

สาขาของปญั ญาประดิษฐ์3.2 การไดย้ ิน : ระบบการจาคาพดู เี่น พนกั งานขายสามารถสงั่ สนิ คา้ ดว้ ยสงั่ งา่ ยๆกบั คอมพวิ เ อร์ โดยบอกรหสั ประจา วั ลูกคา้ รหสั สนิ คา้ จานวน แพทยท์ ่อี ยู่ในหอ้ งผ่า ดั สามารถขอขอ้ มลู ของคนไขข้ ณะทาการผ่า ดั

สาขาของปญั ญาประดิษฐ์3.3 การเหน็ : จะใีก้ ลอ้ งถา่ ยภาพ ถ่ายสง่ิ ท่ี อ้ งการนาเขา้ ไปสรา้ งเป็นฐานขอ้ มูล เม่ือกลอ้ งเร่มิ ทางานจะรบัสญั ญาณภาพเปลย่ี นเป็นสญั ญาณ วั เลขมาแปลความและเปรยี บเทียบกบั ภาพท่บี นั ทกึ ไวก้ อ่ นในฐานขอ้ มลูเี่น การอา่ นรูปภาพ การอา่ นลายน้ิวมือ การ รวจหาี้ินสว่ นท่บี กพรอ่ ง

สาขาของปญั ญาประดษิ ฐ์4. ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ ES : Expert System • คอื โปรแกรมคอมพวิ เ อรท์ ่รี วมเอา ความรู้ ความ ีานาญ และวธิ คี ดิ ท่เี ป็นเห เุ ป็ นผลของมนุษยท์ ่เี ป็น ผูเ้ ี่ียวีาญ มาสรา้ งเป็นฐานความรู้ • โดยทาหนา้ ท่เี ป็นผูเ้ ี่ียวีาญใหค้ าปรกึ ษาบอกวธิ กี าร แกป้ ญั หาใหก้ บั มนุษย์

การประยกุ ใ์ ีเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานดา้ น ่างๆ – การประยกุ ใ์ ีง้ านระบบผูเ้ ี่ียวีาญ • ดา้ นการแพทย์ MYCIN • ดา้ นอุ สาหกรรม ออกแบบผงั โรงงาน • ดา้ นการผลิ วเิ คราะหอ์ อกแบบ ารางการผลิ • ดา้ นธุรกจิ การบรกิ าร การบารุงรกั ษาระบบการจา่ ยไฟฟ้ า รวจสอบผูก้ ระทาผิดใน ลาดหนุ้

ขอ้ จากดั ของปญั ญาประดษิ ฐ์ความสามารถท่ใี ีเ้ ปรยี บเทยี บ ปญั ญาธรรมีา ิ ปญั ญาประดิษฐ์ความคงทนถาวรขององคค์ วามรู้ อาจสูญหายไป าม จดั เกบ็ เป็นองค์ กาลเวลาหรอื การ ายของผู้ ความรูไ้ ดค้ งทนถาวร เป็นเจา้ ขององคค์ วามรู้การคดั ลอกและการเผยแพร่ ทาไดย้ าก อ้ งเสยี ทาไดง้ า่ ย รวดเรว็องคค์ วามรู้ ค่าใีจ้ า่ ยใหก้ บั ผูเ้ ี่ียวีาญ และเสยี ค่าใีจ้ า่ ย สูงและใีเ้ วลานาน นอ้ ยการจดั ทาเป็นเอกสารขององค์ ย่งุ ยาก คา่ ใีจ้ า่ ยสูง คอ่ นขา้ งงา่ ยและความรู ้ คา่ ใีจ้ า่ ยไม่สูงนกัความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ มคี วามคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ไม่มี

ขอ้ จากดั ของปญั ญาประดษิ ฐ์ความสามารถท่ใี ีเ้ ปรยี บเทยี บ ปญั ญาธรรมีา ิ ปญั ญาประดิษฐ์น้ ทนุ ขององคค์ วามรู้ สูงมากเม่อื คดิ เป็นี่วง ค่าใีจ้ า่ ย า่ กว่า เวลานาน เน่ืองจาก อ้ งจา่ ย ใหก้ บั ผูเ้ ี่ียวีาญเป็ นประจาความละเอยี ดออ่ นและ อาจมีความลาเอยี งได้ มคี วามละเอยี ดยุ ธิ รรม เน่ืองจากเห ผุ ลทางอารมณ์ รอบคอบและยุ ธิ รรม และบางเวลาอาจเกดิ ความไม่ เสมอ ามท่ถี กู รอบคอบได้ โปรแกรมไว้

ขอ้ จากดั ของปญั ญาประดษิ ฐ์ความสามารถท่ใี ี้ ปญั ญาธรรมีา ิ ปญั ญาประดิษฐ์เปรยี บเทยี บการนาประสบการณ์ออกมา นาออกมาใีไ้ ดเ้ ลย อ้ งมีการแปลงใี้ สารสนเทศกอ่ นการใหเ้ ห ผุ ล อ้ งอาศยั ประสบการณ์สูง ถา้ เป็นปญั หาเฉพาะ ในการใหเ้ ห ผุ ล ดา้ นจะสามารถให้ เห ผุ ลไดด้ ี

ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ (Expert System : ES)• ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ (Expert System : ES) – เป็นสว่ นหน่ึงของปญั ญาประดิษฐ์ ดงั น้นั การ ดั สนิ ใจท่มี คี วาม ซบั ซอ้ น นอกจาก อ้ งอาศยั การจดั การขอ้ มูลและการจดั การ แบบจาลองท่ดี ีแลว้ ยงั อ้ งนา “ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ” เขา้ มา แทนท่ี “ระบบผูเ้ ี่ียวีาญท่เี ป็นมนุษย”์ มาผ่านกระบวนทาง คอมพวิ เ อร์ (Computer Processing) เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการ ดั สนิ ใจและการแกป้ ญั หา

ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ ( Expert System )• หมายถงึ ชุดคำสง่ั ของคอมพวิ เตอรท์ เ่ี กบ็ รวบรวมควำมรูเ้ ก่ยี วกบั ปัญหำ เฉพำะเร่ือง และกระบวนกำรอนุมำนเพ่อื นำไปสผู่ ลสรุปปัญหำ นนั้ โดยความรูท้ ่เี กบ็ รวบรวม อาจเป็นความ รูท้ ่ถี กู บนั ทกึ อยา่ งเป็น ทางการ ในเอกสาร า่ ง ๆ หรอื เป็นความรู้ ท่ไี ดจ้ ากประสบการณข์ อง ผูเ้ ี่ียวีาญในสาขาน้นั• ซ่งึ เราอาจกลา่ วโดยสรปุ ไดว้ า่ \"ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ หมายถงึ ระบบ สารสนเทศท่ใี หค้ าปรกึ ษาท่ลี อกเลยี นกระบวนการใี้ เห ผุ ลของ ผูเ้ ี่ียวีาญในสาขาความรูน้ ้นั \"

ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ (Expert System)• คลา้ ยกบั ระบบอน่ื รงท่ีี ่วยผูบ้ รหิ ารแกไ้ ขปญั หา• ่างจากระบบอน่ื รงท่ี อ้ งเกย่ี วขอ้ งกบั การจดั การความรู้ (Knowledge) มากกว่า สารสนเทศ• ถกู ออกแบบใหี้ ่วยในการ ดั สนิ ใจโดยใีว้ ธิ เี ดียวกบั มนุษย์• ใีห้ ลกั การปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)

องคป์ ระกอบและโครงสรา้ งการทางานของ ระบบผูเ้ ี่ียวีาญ ขอ้ เทจ็ จรงิ (Facts) ฐานองคค์ วามรู้ผูใ้ ี้ (Knowledge Based)(USER) กลไกวนิ ิจฉยั สรุปความ (Inference Engine) ความเี่ียวีาญ (Expertise)

ประโยีน์ของระบบผูเ้ ี่ียวีาญ ES1. ป้ องกนั และรกั ษาความรูซ้ ่ึงอาจสูญหายไปขณะทาการเรยี กขอ้ มูลหรอื การยกเลกิ การใีข้ อ้ มูล ลอดจนการสูญหาย เน่ืองจากขาดการเกบ็ รกั ษาความรูอ้ ย่างเป็นระบบ และเป็นระเบยี บแบบแผน2. ES จะจดั เ รยี มขอ้ มูลใหอ้ ยูใ่ นลกั ษณะท่พี รอ้ มสาหรบั นาไปใีง้ านและมกั จะถกู พฒั นาใหส้ ามารถ อบ สนอง อ่ ปญั ญาในทนั ทที ่ีเกดิความ อ้ งการ3. การออกแบบ ES มกั จะคานึงถงึ การบนั ทึกความรูใ้ นแ ล่ ะสาขาให้เพยี งพอและเหมาะสมกบั การใีง้ าน ซ่งึ จะทาให้ ระบบสามารถปฏบิ ั งิ านแทนผูเ้ ี่ียวีาญอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

ประโยีนข์ องระบบผูเ้ ี่ียวีาญ ES4. ES จะสามารถ ดั สนิ ปญั หาอยา่ งแน่นอน เน่ืองจากระบบถกู พฒั นาใหส้ ามารถปฏบิ ั งิ านโดยปราศ จากผล กระทบ ทางร่างกายและอารมณ์ท่มี ีอยู่ใน วั มนุษย์ เี่น ความเครยี ดความเจบ็ ป่วย เป็น น้5. ES เป็นเคร่อื งมือเีิงกลยทุ ธข์ องธุรกจิ โดยเฉพาะองคก์ ารสมยั ใหม่ (Modem Organization) ท่ี อ้ งการ สรา้ ง ความไดเ้ ปรยี บในการแข่งขนั เี่น การวเิ คราะหแ์ ละวางแผนการ ลาด การลด น้ ทนุ การเพม่ิ การผลิ ภาพ เป็น น้

วั อย่างระบบผูเ้ ี่ียวีาญ การ รวจสอบ การบรกิ าร การวนิ ิจฉยั โรค การพยากรณอ์ ากาศ

วั อยา่ งระบบผูเ้ ี่ียวีาญ• วั อย่างซอฟ แ์ วรท์ ่เี ป็นเคร่อื งมือในการพฒั นาระบบ ผูเ้ ี่ียวีาญ เพอ่ื สนบั สนุนการ ดั สนิ ใจของมนุษย์ ซอฟ แ์ วรม์ ี ี่ือว่า “ExSys Corvid” นอกจากมีความยดื หย่นุ ในการกาหนดกฎท่ใี ีใ้ นการเี่ือมโยง ขอ้ มูล ่าง ๆ ไดโ้ ดยนกั พฒั นาไม่ อ้ งเขียนกฎเองแลว้ ยงั สามารถพฒั นาระบบผูเ้ ี่ียวีาญบนเวบ็ ไดอ้ กี ดว้ ย• www.exsys.com

ระบบความจรงิ เสมอื น(Virtual Reality)• ความจรงิ เสมอื น (Virtual Reality) ระบบความจรงิ เสมือนเป็น โปรแกรมทางดา้ นการปฏสิ มั พนั ธ์ (Interactive) อบโ ร้ ะหว่าง วั ผูใ้ ีก้ บั ระบบ โดยระบบจะสรา้ ง สภาพแวดลอ้ มเสมือนจรงิ ดว้ ยคอมพวิ เ อรก์ ราฟฟิ ก สรา้ ง เสยี ง กลน่ิ และแรงป้ อนกลบั มายงั ผูใ้ ีใ้ หร้ ูส้ กึ ว่าไดส้ มั ผสั และ ไดอ้ ยู่ในสภาวะน้นั จรงิ ๆ เี่น ในการออกแบบบา้ นระบบจะ สามารถทาใหร้ ูส้ กึ เหมือนเดินเขา้ ไปในบา้ นท่กี าลงั ออกแบบน้นั

ระบบความจรงิ เสมอื น(Virtual Reality)การควบคมุ แบบไฮบรดิ ระบบความจรงิ เสรมิ สาหรบัในสภาพแวดลอ้ มเสมอื น การถา่ ยทอดทกั ษะการประกอบี้ินงาน

บทสรุปสาหรบั ผูบ้ รหิ าร การยกระดบั ความรู้ และการบริหารความรูไ้ ดก้ ลายเป็ นความรบั ผิดีอบหลกั สาหรบั การบริหารงานในองคก์ ร ผูบ้ ริหารจะ อ้ งสามารถกาหนดทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กรและทาให้ระบบงานและกระบวนการทางานทง้ั หมดสามารถทางานไดอ้ ยา่ งเ ม็ ประสทิ ธิภาพ

บทสรุปสาหรบั ผูบ้ รหิ าร ระบบงานสาหรบั งานภมู ปิ ญั ญาและงานสารสนเทศและงานปญั ญาประดษิ ฐส์ ามารถเปลย่ี นแปลงกระบวนการทางานไดใ้ นหลายรูปแบบระบบงานสามารถใีป้ ระโยีนจ์ ากการสอ่ื สาร การรว่ มมือกนั ทางาน และการประสานงานกนั เี่น การนาวิธีการวเิ คราะหข์ อ้ มูลเขา้ มาใีใ้ นระหว่างการพฒั นาผลิ ภณั ฑ์ หรอื ลดบทบาทของบคุ ลากรในการประมวลผลให้นอ้ ยลงกว่าเดมิ

บทสรุปสาหรบั ผูบ้ รหิ าร เทคโนโลยจี านวนมากสามารถนามาใีส้ นบั สนุนการบรหิ ารภมู ิปญั ญา รวมทง้ั เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐแ์ ละเคร่อื งมือซอฟ แ์ วร์สาหรบั การบรหิ ารงานกลมุ่ อยา่ งกรุป๊ แวร์ ผูบ้ รหิ ารควรทาความเขา้ ใจในเร่อื งมูลคา่ การลงทนุ ผลประโยีน์ และขีดความสามารถของเทคโนโลยแี ่ละแบบ เพอ่ื นามาใีก้ บั การแกป้ ญั หาในการบรหิ ารภมู ปิ ญั ญาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม