Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่5

หน่วยที่5

Published by Sang2556000, 2017-07-17 00:34:36

Description: หน่วยที่5

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 5 ระบบสารสนเทศและการพฒั นา(Information System and Development)

*การวางแผนและการพฒั นาระบบสารสนเทศ (System Development)

ความจาเป็นในการพฒั นาระบบสารสนเทศ➢การเปลย่ี นแปลงกระบวนการการบรหิ ารและการ ปฏบิ ตั ิงาน➢การปรบั องคก์ ารและสรา้ งความไดเ้ ปรยี บในการแข่งขนั ➢➢บกรคุ ะลบาวกนรการธุรกจิ ➢➢เวทธิ คกี โานรแโลลยะเี ทคนิค ➢➢➢ขกงบอา้ รปมบรูลระแหิมลาาะรณโโคครรงงสกราาร้ งพ้นื ฐานภายในองคก์ าร

กระบวนการวางแผนระบบสารสนเทศภารกจิ ขององคก์ าร การประเมนิ สภาพแวดลอ้ มแผนกลยทุ ธข์ ององคก์ าร โครงสรา้ งพน้ื ฐานเดมิ ดา้ น IT แผนกลยทุ ธด์ า้ น IT โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ น IT แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ น IT โครงการดา้ น IT

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร1. วสิ ยั ทศั นแ์ ละแผนกลยทุ ธข์ ององคก์ าร➢ วสิ ยั ทศั น์ : องคก์ ารกาลงั ม่งุ ไปในทิศทางใด➢ แผนกลยทุ ธ์ : องคก์ ารจะเดินไปตามทศิ ทางท่กี าหนด ไวอ้ ย่างไร

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร2. ระบบสารสนเทศจะสนบั สนุนวสิ ยั ทศั นแ์ ละ กลยทุ ธ์ ขององคก์ ารอยา่ งไร➢ ระบบสารสนเทศจะมีบทบาทในการสนบั สนุนวสิ ยั ทศั นข์ อง องคก์ ารอยา่ งไร➢ ระบบสารสนเทศเดิมเป็นอยา่ งไร➢ แผนระบบสารสนเทศในปจั จุบนั เป็นอยา่ งไร➢ แผนระบบสารสนเทศในอนาคตจะพฒั นาในลกั ษณะ อย่างไร

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร3. ระบบสารสนเทศในปจั จุบนั➢ ระบบปจั จุบนั ไดส้ นบั สนุนองคก์ ารมากนอ้ ยเพยี งไร➢ ระบบปจั จุบนั มีความเหมาะสมหรอื ไม่ มจี ดุ ออ่ นจุด แข็งอย่างไร➢ ควรจะปรบั ปรุงระบบปจั จุบนั อยา่ งไร

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร4. ระบบสารสนเทศท่เี สนอแนะ➢ หลกั การและเหตผุ ล➢ ความสามารถของระบบใหม่➢ ฮารด์ แวร์➢ ซอรฟ์ แวร์➢ ขอ้ มูล และการสอ่ื สารขอ้ มลู

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร5. กลยทุ ธท์ างการบรหิ าร➢ แผนการจดั หา➢ ช่วงเวลาดาเนินการ➢ การจดั โครงสรา้ งองคก์ ารใหม่➢ การปรบั ปรงุ ระบบงานภายในองคก์ าร➢ การควบคุมทางการบรหิ าร➢ การฝึกอบรม➢ กลยทุ ธด์ า้ นบคุ ลากร

การวางแผนระบบสารสนเทศในองคก์ าร6. แผนปฏบิ ตั กิ าร➢ รายละเอยี ดแผนปฏบิ ตั กิ าร➢ ปญั หาท่คี าดว่าจะเกดิ ข้ึน➢ รายงานความกา้ วหนา้7. งบประมาณท่ตี อ้ งการใช้➢ ค่าใชจ้ า่ ยทง้ั หมด8. การพฒั นาระบบสารสนเทศ

ขน้ั ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ1. วธิ กี าร เทคนิค และเครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์2. การวิเคราะหร์ ะบบสารสนเทศ3. การจดั การแฟ้ มขอ้ มลู และฐานขอ้ มูล4. การออกแบบระบบสารสนเทศ5. การพฒั นาระบบสารสนเทศ

1. วธิ กี าร เทคนิค และเคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ 1. แนวทางในการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ ไดแ้ ก่ วธิ กี าร (Methodology) เทคนิค (techniques) และ เคร่อื งมอื แบบจาลองตา่ งๆ (Model Tools) 2. วธิ ีการใชว้ เิ คราะหแ์ ละออกแบบสารสนเทศ คอื SDLC (System development lift cycle) และ RAD ( Rapid application development)

1. วธิ กี าร เทคนิค และเคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ 3. เทคนิคสาหรบั การวเิ คราะห์ ไดแ้ ก่ เทคนิคการ รวบรวมขอ้ มูล ( Data gathering) และเทคนิคการ จดั การโครงการ (Project Management) 4. เครอ่ื งมอื สาหรบั วเิ คราะห์ ไดแ้ ก่ แบบกระบวนการ (Modeling processes) แบบจาลองขอ้ มลู (modeling data) และแบบจาลองเชิงวตั ถุ (Modeling object)

2.การวเิ คราะหร์ ะบบสารสนเทศ 1.วงจรการพฒั นาระบบ (SDLC) เป็นวกิ ารแบบ ดงั่ เดิม 2.ขน้ั ตอนวเิ คราะหร์ ะบบสารสนเทศ ( System Analysis phase) ประกอบดว้ ยการวเิ คราะห์ ปญั หา การศึกษาความเป็นไปได้ การวเิ คราะห์ ความตอ้ งการ การวเิ คราะหเ์ พอ่ื การตดั สนิ ใจ

3. การจดั การแฟ้ มขอ้ มูลและฐานขอ้ มูล 1.การจดั การแฟ้ มขอ้ มลู และโครงสรา้ ง 2.แฟ้ มขอ้ มลู และฐานขอ้ มลู ประกอบดว้ ยการจดั แฟ้ ม การใชแ้ ฟ้ ม ความรูด้ า้ นฐานขอ้ มูล การ จดั การฐานขอ้ มูล ขอ้ ดี ปญั หาและอปุ สรรค 3.สถาปตั ยกรรมฐานขอ้ มูลและแบบจาลอง ฐานขอ้ มูล

4. การออกแบบระบบสารสนเทศ 1. การออกแบบผลลพั ธ์ เช่น การกาหนดความตอ้ งการผลลพั ธ์ อปุ กรณ์ท่แี สดงผล วธิ ีการแสดงผล การออกแบบรายงาน 2. การออกแบบขอ้ มูลนาเขา้ เช่นวธิ กี ารนาเขา้ อปุ กรณ๋รบั ขอ้ มูล 3. การออกแบบสว่ นตดิ ตอ่ กบั ผูใ้ ช้ 4. การออกแบบแฟ้ มขอ้ มูล ฐานขอ้ มูล 5. การออกแบบแอฟพเิ คชนั่ 6. การพจิ ารณาฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ และอปุ กรณ์สอ่ื สาร

5. การพฒั นาและการใชร้ ะบบสารสนเทศ 1.การพฒั นาระบบสารสนเทศ เช่นความตอ้ งการ ซอฟตแ์ วร์ การเขียนโปรแกรมการทดสอบ 2. การนาสารสนเทศไปใช้ การปรบั เปลย่ี นระบบ การจดั ทาเอกสาร การฝึกอบรม

การพฒั นาระบบสารสนเทศ (SYSTEM DEVELOPMENT)การพฒั นาระบบสารสนเทศ เป็นกจิ กรรมทง้ั หมดท่ี จาเป็นในการนาระบบสารสนเทศมาใชเ้ พอ่ื แกป้ ญั หาขององคก์ ารหรอื สรา้ งโอกาสใหก้ บั องคก์ าร

การพฒั นาระบบสารสนเทศการพฒั นาระบบสารสนเทศมหี ลายวธิ ี เช่น แบบวงจรชีวติ (System Development Life Cycle), การสรา้ งตน้ แบบ (Prototyping), การเนน้ ผูใ้ ชเ้ ป็นหลกั (End-User Development), การจา้ งบคุ คลภายนอก(Outsourcing), และการใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูป(Application software package)

วธิ ีการ (methodologies) หมายถงึ รูปแบบการดาเนินงานท่ีใช้สาหรบั การวเิ คราะห์ การออกแบบ และการพฒั นาระบบสารสนเทศ มี2 วธิ ี คอื1.วธิ ีวงจรพฒั นาระบบ (systems development life cycle-SDLC)ปจั จุบนั เรยี กวา่ เป็นวธิ กี ารพฒั นาระบบแบบเดิม ตอ้ งใชร้ ะยะเวลานานและทรพั ยากรมาก2.วธิ ีพฒั นาระบบงานแบบรวดเรว็ (rapid applicationdevelopment- RAD) ปจั จุบนั มีเทคโนโลยสี มยั ใหม่และเคร่อื งมือต่าง ๆ ท่ไี ดส้ รา้ งข้ึนมาเพอ่ื ช่วยในการพฒั นาระบบสารสนเทศ

เปรยี บเทยี บขน้ั ตอนของวงจรพฒั นาระบบ และการพฒั นาระบบแบบรวดเรว็SDLC RAD•การวเิ คราะหป์ ญั หา 1. การวางแผนกาหนดความตอ้ งการ•การศึกษาความเป็ นไปได ้•การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของ (requirement planning)ระบบ 2. การออกแบบโดยผูใ้ ช้ (user design)•การวเิ คราะหเ์ พ่อื ตดั สนิ ใจ 3. การสรา้ งระบบ (construction)•การออกแบบ 4. การเปลย่ี นระบบ (cutover)•การสรา้ งระบบ•การใชร้ ะบบ

วธิ ีการการพฒั นาระบบแบบรวดเรว็ จาแนกไดเ้ ป็น การพฒั นาระบบรว่ มกนั การจดั ทาตน้ แบบ การใชซ้ อฟตแ์ วรเ์ คส และการวเิ คราะห์ ออกแบบและเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ

การพฒั นาระบบรว่ มกนั (Joint Application Development – JAD)การพฒั นาระบบรว่ มกนั หรอื เจเอดี เป็นอกี วธิ ีหน่ึงของการพฒั นาระบบอย่างรวดเรว็ ระหวา่ งผูใ้ ชร้ ะบบและผูพ้ ฒั นา โดยผูใ้ ชแ้ ละผูพ้ ฒั นาระบบมีสว่ นรว่ มในการกาหนดความตอ้ งการของระบบรว่ มกนั (Joint requirement planning –JRP) และออกแบบระบบรว่ มกนั (joint application design – JAD) เพอ่ื ลดเวลา ค่าใชจ้ า่ ย และขน้ั ตอนการรวบรวมขอ้ มูล เป็ นวธิ ีท่บี รษิ ทั ไอบเี อม็ พฒั นาข้ึนในช่วงปลายทศวรรษ1970 และเป็นท่นี ิยมใชเ้ ป็นเทคนิคในการรวบรวมขอ้ มูลขององคก์ ารดา้ นธุรกจิ ในการรวบรวมขอ้ มูลรว่ มกนั ผูท้ ่เี กย่ี วขอ้ งจะตอ้ งมกี ารวางแผนดาเนินการท่ดี ีเพราะเป็นกระบวนการท่ตี อ้ งใชเ้ วลา และค่าใชจ้ า่ ย แตผ่ ลท่ไี ดก้ จ็ ะคมุ้ ค่า

การจดั ทาตน้ แบบ (Prototyping)การจดั ทาตน้ แบบ คือ การจดั สรา้ งระบบทดลองหรอื ระบบตน้ แบบกอ่ นการพฒั นาระบบทง้ั หมด ข้ึนมาแลว้ ใหผ้ ูใ้ ชท้ าการทดสอบหาขอ้ บกพรอ่ งและประเมนิคา่ ของระบบ นาไปปรบั ปรุง และทดสอบประเมนิ ใหม่วนซ้าไปเรอ่ื ย ๆ จนกวา่ จะเป็ นท่ยี อมรบั ของผูใ้ ชจ้ งึ นาไปปรบั เปล่ยี นเป็ นระบบจรงิ วธิ นี ้ีทาใหผ้ ูใ้ ชม้ สี ว่ นรว่ มในการพฒั นาระบบ เหมาะสมกบั สง่ิ แวดลอ้ มท่ไี ม่สามารถกาหนดความตอ้ งการท่ีชดั เจน แน่นอนได้ แมว้ ่าจะไม่รวมคณุ สมบตั ขิ องงานประยกุ ตไ์ วท้ ง้ั หมดเพราะยงั เป็นระบบท่ยี งั ไมไ่ ดร้ บั การทดสอบอยา่ งสมบูรณ์ ไมม่ ขี อ้ มูลจานวนมากและครบถว้ นเตม็ ระบบ จงึ อาจมขี อ้ บกพรอ่ งได้ แตก่ ส็ รา้ งไดอ้ ย่างรวดเร็ว และประหยดั (London and London 2001)

การใชซ้ อฟตแ์ วรเ์ คส (Computer-Aided Software Engineering – CASE)ซอฟตแ์ วรเ์ คส เป็นซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ ท่ชี ่วยสนบั สนุนการพฒั นาระบบสารสนเทศ ท่ชี ่วย พฒั นาโปรแกรม และสรา้ งแบบฟอรม์ ตา่ งๆ ใหม้ ีมาตรฐาน ถอื เป็นเคร่อื งมอื ท่ชี ่วยอานวยความสะดวก เพม่ิ ประสทิ ธิภาพทาใหม้ ีมาตรฐานและมโี ครงสรา้ งท่ดี ี อปุ สรรคกค็ อื มรี าคาสูง ตอ้ งใชเ้ วลาฝึกอบรมในการใชค้ ่อนขา้ งมาก องคก์ ารสว่ นใหญ่ยงั ไม่มมี าตรฐานของการนามาประยกุ ตใ์ ชท้ ่ชี ดั เจน ซอฟตแ์ วรเ์ คส เช่น Oracle’s Developer2000, Rational ROSE, Visio

การวิเคราะห์ ออกแบบ และเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ หรอื โอโอเอดี(Object-Oriented Analysis and Design – OOAD) มองระบบเป็นกลมุ่ ของวตั ถุ ในปจั จุบนั ใชว้ ธิ ีน้ีมากทง้ั การวเิ คราะห์ ออกแบบ และโปรแกรม การพฒั นาโปรแกรมเชิงวตั ถุ เป็นการใชแ้ นวคิดในการวเิ คราะห์ออกแบบ และเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ มีเคร่อื งมืออตั โนมตั ิช่วยสนบั สนุนมากในทกุ ขน้ั ตอน

SYSTEM DEVELOPMENT LIFE CYCLE (SDLC)• ศึกษาความเป็ นไปได้• วเิ คราะหร์ ะบบ• ออกแบบระบบ• เขียนโปรแกรม• ทดสอบระบบ• ติดตง้ั ใชง้ านระบบ• เปล่ยี นระบบเขา้ สูร่ ะบบใหม่ และบารุงรกั ษา

ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั การใช้ SDLC•การพฒั นาระบบตอ้ งใชเ้ วลานานมาก•กวา่ จะไดผ้ ลใหผ้ ูบ้ รหิ ารเหน็ ผูบ้ รหิ ารกอ็ าจเปล่ยี นเป็นคน ใหม่ ซ่งึ มคี วามตอ้ งการตา่ งกนั ไป•หากใชเ้ วลานานมาก แมแ้ ต่ เทคโนโลยี กเ็ ปล่ยี นไป•ตอ้ งใชง้ บประมาณค่อนขา้ งมาก

แนวทางการพฒั นาระบบสารสนเทศ1. พฒั นาระบบโดยพฒั นาตน้ แบบ • จดั ทาระบบทดลอง โดยอาศยั ขอ้ กาหนดความตอ้ งการของผูใ้ ช้ จากน้นั เชิญผูใ้ ช้ มาพจิ ารณาระบบทดลอง2. การจดั ซ้ือซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ มาใช้ • ขอ้ พจิ ารณาในการเลอื กซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ • มี function ครบถว้ น • ยดื หยุน่ สามารถปรบั เปล่ยี นได้ • ใชง้ า่ ย ตดิ ตง้ั งา่ ย ดูแลงา่ ย • มีเอกสารต่าง ๆ พรอ้ ม • ผูข้ ายมีคุณภาพ และพรอ้ มสนบั สนุน • ใชท้ รพั ยากรต่างๆ ไม่มาก เกนิ ความจาเป็น • ราคาเหมาะสม

แนวทางการพฒั นาระบบสารสนเทศ (ตอ่ )3. การว่าจา้ งท่ปี รกึ ษาบรษิ ทั เอกชนหรอื ภาครฐั • ขอ้ ดี • มีความเช่ียวชาญดา้ นน้ีอยู่แลว้ • อดุ หนุนคนไทย หากเป็นสถาบนั ภาครฐั • มคี วามไวว้ างใจ หากเป็นภาครฐั • ประหยดั เวลาในการจดั ทาเอกสารการประกวดราคา • ขอ้ สงั เกต • ท่ปี รกึ ษาภาครฐั เหมาะกบั โครงการขนาดเลก็ – กลาง เน่ืองจากขาดความ เช่ียวชาญในการบรหิ ารโครงการขนาดใหญ่

แนวทางการพฒั นาระบบสารสนเทศ (ต่อ)4. การพฒั นาระบบของผูใ้ ช้ • ขอ้ ดี • ช่วยท่นุ เวลา และกาลงั คนของศูนยไ์ อซีที อกี ทง้ั ผูใ้ ชไ้ ดร้ ะบบท่ี ตอ้ งการรวดเรว็ ข้ึน และตรงกบั ความตอ้ งการมากท่สี ดุ • ขอ้ เสยี • ระบบท่ไี ดอ้ าจจะไม่ไดม้ าตรฐาน ไม่สามารถทางานรว่ มกบั ระบบ อน่ื ได้ ขาดเอกสารคู่มือ ทาใหอ้ าจมปี ญั หา หากผูพ้ ฒั นาไม่อยูใ่ น องคก์ รแลว้ ถา้ บคุ ลากรขาดความรูค้ วามสามารถทาใหเ้ ปลอื งเวลา และทรพั ยากรและมีอตั ราเสย่ี งสูง

แนวทางการพฒั นาระบบสารสนเทศ (ต่อ)5. การ Outsourcing• มไี ดห้ ลายความหมาย การวา่ จา้ งใหค้ นภายนอกพฒั นาระบบงานใหก้ ็ เป็นการ Outsource แตใ่ นปจั จุบนั นิยมหมายถงึ การใหบ้ รษิ ทั มา รบั เหมางานดา้ นไอซที ไี ปหมด ตง้ั แตก่ ารพฒั นาระบบ การจดั หา อปุ กรณ์มาใช้ รวมไปถงึ การปฏบิ ตั กิ ารระบบใหด้ ว้ ยคนของบริษทั เอง

OUTSOURCING DEVELOPMENTหมายถงึ การจา้ งบรษิ ทั ภายนอกเขา้ มาดาเนินการพฒั นาระบบสารสนเทศใหก้ บั ธุรกจิ หรอื องคก์ ร ซ่ึงรวมทง้ั การพฒั นาระบบการจดั การระบบ และการบารงุ รกั ษาระบบสารสนเทศใหก้ บัธุรกจิ และการใหบ้ รกิ ารอน่ื ๆท่เี กย่ี วขอ้ ง เช่น การเช่าซ้ืออปุ กรณ์ทางคอมพวิ เตอรต์ า่ งๆ โดยมกี ารทาสญั ญา(Contract) ร่วมกนั

OUTSOURCING DEVELOPMENT•การใชบ้ รกิ ารจากผูใ้ หบ้ รกิ ารภายนอก (Outsource) •แหลง่ ภายนอกมากกวา่ 80% ไดแ้ ก่ การมอบหมายความ รบั ผิดชอบและโอนทรพั ยส์ นิ รวมทง้ั พนกั งานใหก้ บั Outsourcer •แหลง่ ภายนอกนอ้ ยกวา่ 80% ไดแ้ ก่ การเลอื กใชบ้ รกิ าร อยา่ งใดอย่างหน่ึงเป็นการชวั่ คราว เช่น การจา้ งเขียน โปรแกรม

WHEN TO USE OUTSOURCING?ปจั จยั ท่คี วรพจิ ารณา ไดแ้ ก่ •ความจาเป็นของระบบตอ่ การดาเนินงานขององคก์ ร • ระบบท่มี คี วามตอ้ งการรบี ด่วน • ระบบท่ไี ม่เก่ยี วกบั ระบบอน่ื ในองคก์ ร • ระบบท่มี ีมาตรฐานสูง • ระบบท่จี ะพฒั นาน้นั ไม่ใช่เพอ่ื การทางานหลกั ท่ีสาคญั ท่ีสุด ขององคก์ ร

WHEN TO USE OUTSOURCING?ปจั จยั ท่คี วรพจิ ารณา ไดแ้ ก่ •ผลกระทบของการใชง้ านระบบตอ่ การแข่งขนั ขององคก์ ร • เม่ือตอ้ งการเพม่ิ ศกั ยภาพในการแข่งขนั ดว้ ยเทคโนโลยี สารสนเทศ แตธ่ ุรกจิ ไม่มีความสามารถดา้ นน้ี •ความตอ้ งการในการพฒั นาบคุ ลากรดา้ น IT ขององคก์ ร

ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของ OUTSOURCING• ขอ้ ดี • ขอ้ เสยี • สูญเสยี การควบคมุ เพราะการ • ทาใหต้ น้ ทนุ ในการพฒั นา ระบบสารสนเทศลดลง ควบคมุ การทางานของระบบ• ไดร้ บั คณุ ภาพของบรกิ าร สารสนเทศอยูท่ ่บี รษิ ทั ภายนอก ตามท่ตี อ้ งการ • ทาใหต้ อ้ งพ่งึ พาบรษิ ทั ภายนอกใน• มคี วามยดื หย่นุ ในการ การจดั การระบบสารสนเทศ เปล่ยี นแปลงเทคโนโลยที ใ่ี ช้ • อาจเสย่ี งตอ่ การรวั่ ไหลของขอ้ มูลท่ี• ทาใหส้ ามารถประมาณการ สาคญั คา่ ใชจ้ า่ ยได้ • ความลา้ สมยั ในความรูด้ า้ น• ลดเวลาของคนในองคก์ รท่ี เทคโนโลยสี ารสนเทศของจะตอ้ งไปทางานดา้ นระบบ บคุ ลากรภายในสารสนเทศ

ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของ OUTSOURCING• ขอ้ ดี • ปญั หา • ไดค้ วามรูค้ วามชานาญจาก • ควบคมุ การปฏบิ ตั งิ านไมไ่ ด้ ? ภายนอก • ขอ้ มูลสาคญั อาจรวั่ ไหล ? • ไม่มีความเป็นอสิ ระ ตอ้ งพ่งึ บรษิ ทั • ทาใหผ้ ูบ้ รหิ ารสามารถม่งุ ความ สนใจไปในเร่อื งท่เี นน้ กลยทุ ธข์ อง องคก์ รมากข้ึน ตลอดเวลา ?• ประหยดั งบประมาณ และ • ขาดความยดื หยนุ่ ในการ ปรบั เปล่ยี นระบบ ? กาลงั คน • ไม่มโี อกาสพฒั นาคนของ• ไดบ้ รกิ ารท่มี คี ณุ ภาพ หน่วยงาน?• กาหนดและพยากรณ์งานท่ี ตอ้ งการไดง้ า่ ย• ทาใหต้ น้ ทนุ คงท่ี กลายเป็นตน้ ทนุ แปรผนั

ความลม้ เหลวของ OUTSOURCING• ผูบ้ รหิ ารไม่เขา้ ใจในเทคโนโลยีท่จี ะตอ้ งบรหิ ารวา่ มีผลตอ่ องคก์ รอย่างไร ขอ้ จากดั เป็นอยา่ งไร• องคก์ รไม่สามารถระบคุ วามตอ้ งการท่แี ทจ้ รงิ ได้• องคก์ รไม่มคี วามสามารถในการหาแหลง่ Outsource• องคก์ รไม่มีความสามารถในการเจรจาต่อรองกบั Outsourcer• องคก์ รไม่มีความสามารถในการประสานงานกบั Outsourcer

ขน้ั ตอนในการ OUTSOURCING• จดั ตง้ั คณะทางานกบั แหลง่ Outsource• ระบขุ อ้ กาหนดความตอ้ งการใชบ้ ริการท่ีแทจ้ ริง• ดาเนินการจดั ทาเอกสารเชิญชวนย่นื ขอ้ เสนอ• ประเมินขอ้ เสนอ• ประเมินผูเ้ สนอใหบ้ รกิ าร• เจรจาต่อรองในการทาสญั ญา โดยในสญั ญาควรพจิ ารณาในเร่อื งท่ีสาคญั คอื ระยะเวลาของสญั ญา วธิ กี ารวดั ผลงาน• (ปรมิ าณ คณุ ภาพ ระยะเวลาการนาสง่ ) และการคาดการณถ์ งึ เหตกุ ารณ์ท่อี าจจะเปล่ยี นแปลง

การพฒั นาระบบ คอืSystem development คอื กลมุ่ ของกจิ กรรมท่ใี ชใ้ นการ พฒั นาระบบสารสนเทศ Information system (IS) คอื System developmentSystem คือกลมุ่ ของ การรวมเอา hardware, activities คอื กลมุ่ ของเฟส software, data, people, andองคป์ ระกอบรว่ มกนั ใน procedures มาทางานรว่ มกนั (phases) และเรยี กว่าเป้ าหมายเดียวกนั ในการผลติ สารสนเทศท่มี ี system development คณุ ภาพ life cycle (SDLC)Page 620

การพฒั นาระบบPages 620 – 621Figure 12-1

การพฒั นาระบบSystem development รวมถงึ ตวั แทนจากฝ่ ายต่างๆ ซ่งึ มึจุดประสงคเ์ ดียวกนั ในระบบ

การพฒั นาระบบ คอื• Project management คอื กระบวนการวางแผน กาหนดตาราง และควบคมุ กจิ กรรมในระหวา่ งการพฒั นา• แผนและตารางการทางานจะมปี ระสทิ ธภิ าพข้ึนอยู่กบั หวั หนา้ โครงการเป็นผูก้ าหนด:ขอบเขตโครงการ กจิ กรรมทต่ี อ้ งการ ประมาณการเวลาแตล่ ะ Project scope Required activities กจิ กรรม Time estimates for each activityประมาณตน้ ทนุ แตล่ ะ งานของแตล่ ะ กจิ กรรมทสี่ ามารถกาหนดทา กจิ กรรม กจิ กรรม ในเวลาเดยี วกนัCost estimates for Order of activities Activities that can take each activity place at the same time

การพฒั นาระบบ คอืเคร่อื งมือท่นี ิยมใชใ้ นการวางแผนและจดั ทาตารางเวลาและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกจิ กรรมท่กี าหนดใน Gantt chart

การพฒั นาระบบ คอืA PERT chart ใชใ้ นการวางแผนและจดั ทาตารางเวลา

การพฒั นาระบบ คอื•Feasibility เป็นการศึกษาถงึ ความเหมาะสมในการพฒั นา ระบบสารสนเทศขององคก์ รการศกึ ษาความ การศึกษาความ การศึกษาความ การศึกษาความเป็นไปไดด้ า้ น เป็นไปไดด้ า้ นเวลา เป็นไปไดด้ า้ น เป็นไปไดด้ า้ น ปฏบิ ตั กิ าร เทคนิคTechnical เศรษฐศาสตร์Operational Schedule feasibility Economic feasibility feasibility feasibility

การพฒั นาระบบ คือ•Documentation คอื การรวบรวมและรายงานสรปุ ขอ้ มลู และสารสนเทศ •โครงการคอื สมดุ บนั ทกึ เอกสารทง้ั หมดในแตล่ ะ โครงการ•Users และ IT professionals จะอา้ งถงึ เอกสารเพอ่ื ปฏบิ ตั งิ านและเปล่ยี นแปลงระบบปจั จุบนั

การพฒั นาระบบ คอื•ระหวา่ งการพฒั นาระบบสมาชิกทมี โครงการจะตอ้ งนาขอ้ มูลและสารสนเทศมาดว้ ยเทคนิคตา่ ง ๆ ไดห้ ลายวธิ ี Review Observe SurveydocumentationInterview JAD Sessions Research

ใครคอื ผูก้ าหนดโครงการพฒั นาระบบUser มคี วามตอ้ งการระบบใหม่หรอื ปรบั ปรุงระบบองคก์ รจะตอ้ งการเปลย่ี นเทคโนโลยฮี ารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรใ์ หม่องคก์ รในอนาคตท่ตี อ้ งการควบคมุ องคก์ รท่เี ปลย่ี นแปลงการบรหิ ารจดั การถงึ จุดเปลย่ี นแปลงUser จะตอ้ งการระบบใหม่หรอื เปล่ยี นแปลงสารสนเทศดา้ นการบรกิ าร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook