หน่วยที่3

หน่วยท่ี 3ความสมั พนั ธข์ องระบบสารสนเทศ องคก์ รโครงสรา้ งองคก์ รธุรกจิ บทบาททางธุรกจิ และกระบวนการธุรกจิ

ความสมั พนั ธข์ องระบบสารสนเทศ องคก์ ร โครงสรา้ ง องคก์ รธุรกจิ บทบาททางธุรกจิ และกระบวนการธุรกิจ• เน่ืองจาก การเปล่ยี นแปลงของโลกปจั จุบนั ท่มี ีการแข่งขนั สูงข้ึนการตดั สนิ ใจของผูบ้ รหิ ารตอ้ งทาในเวลาท่จี ากดั ภายใตเ้ งอ่ื นไขต่างๆ มากมาย ทาใหบ้ ทบาทของสารสนเทศในองคก์ รมีมากข้ึน

ความสมั พนั ธข์ องระบบสารสนเทศ องคก์ ร โครงสรา้ งองคก์ รธุรกจิ บทบาททางธุรกจิ และกระบวนการธุรกจิ•การใหส้ ารสนเทศแก่ผูบ้ ริหารในการช่วยการตดั สนิ ใจทางธุรกิจ จงึ ทาใหอ้ งคก์ รตดั สนิ ใจ นาระบบสารสนเทศหรอื เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในองคก์ ร การนาเทคโนโลยีต่าง ๆมาใช้ทาใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงต่างๆท่ใี นองคก์ ร• เช่น การเปล่ยี นแปลงการปฏบิ ตั ิงาน การเพ่มิ ขีดความสามารถในการทางาน การสรา้ งความตอ้ งการในดา้ นอน่ื ๆ การเมืองในองคก์ ร ลกั ษณะการดาเนินการ และวฒั นธรรมองคก์ ร เป็นตน้

ภาพท่ี 1 แสดงถงึ ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศ และความตอ้ งการของธุรกิจความตอ้ งการของธุรกจิ การจดั การระบบสาร เทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื ระบบ• โลกาภวิ ฒั น์ สนเทศหรอื สารสนเทศ• การจดั การความเสย่ี ง • ระบบเครอื ข่ายและโทรคมนาคม• การสนองความตอ้ งการของตลาด เทคโนโลยีสารสนเทศ • ระบบฐานขอ้ มลู• ตน้ ทนุ ฯลฯ • ระบบสารสนเทศทางการจดั การฯลฯจากภาพท่ี 1 แสดงใหเ้ หน็ วา่ ความตอ้ งการขององคก์ รและระบบสารสนเทศมคี วามสมั พนั ธก์ นัในลกั ษณะของความสมั พนั ธแ์ บบสองทาง(Two-way relationship)คอื ตา่ งมบี ทบาทซ่ึงกนัและกนั

บทบาทขององคก์ รท่มี ีต่อระบบสารสนเทศองคก์ รมผี ลต่อระบบสารสนเทศในหลายดา้ นพอสรุปได้ 4 ขอ้ ดงั น้ีคอื1. การตดั สนิ ใจเร่อื งบทบาทของระบบสารสนเทศและการนาระบบสารสนเทศมา ใช้ กลา่ วคือ - องคก์ รจะตอ้ งทาการพจิ ารณาว่าจะนาระบบสารสนเทศมาใชใ้ หเ้ กดิ ความ ไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั - หรอื จะนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชแ้ ทนพนกั งานเทา่ น้นั หรอื ท่ี เรยี กว่า Automation - หากองคก์ รใหค้ วามสาคญั ตอ่ ระบบสารสนเทศในการเป็นทรพั ยากรท่ีใช้ ในการแข่งขนั องคก์ รอาจจะตอ้ งมกี ารจดั เตรยี มงบประมาณในการลงทนุ ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศใหม้ ากข้ึน เพอ่ื ปรบั ปรุงประสทิ ธิภาพในการ ทางานของระบบใหด้ ีข้ึนเร่อื ยๆ

บทบาทขององคก์ รท่มี ีต่อระบบสารสนเทศองคก์ รมีผลตอ่ ระบบสารสนเทศในหลายดา้ นพอสรุปได้ 4 ขอ้ ดงั น้ีคือ 2. การตดั สนิ ใจว่าจะพฒั นาระบบสารสนเทศอย่างไร ไดแ้ ก่ - การตดั สนิ ใจท่จี ะพฒั นาระบบสารสนเทศดว้ ยหน่วยงาน ภายใน หรอื จะจา้ งหน่วยงานภายนอกมาทาการพฒั นาท่ี เรยี กว่า Outsourcing - หากองคก์ รจะทาการพฒั นาดว้ ยตวั เอง องคก์ รจะตอ้ งมี หน่วยงานทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศภายในท่มี ีความรู้ ความสามารถเพยี งพอในการจะดาเนินการดงั กลา่ วได้

บทบาทขององคก์ รท่มี ีตอ่ ระบบสารสนเทศองคก์ รมผี ลตอ่ ระบบสารสนเทศในหลายดา้ นพอสรุปได้ 4 ขอ้ ดงั น้ีคอื 3. การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั การจดั ตง้ั หน่วยงานสารสนเทศ ไดแ้ ก่ - การตดั สินใจท่ีจะมีหน่วยงานสารสนเทศภายในแบบใด เช่น เป็ นเพียงหน่วยงานสนับสนุนการบารุงรกั ษาระบบ สารสนเทศเท่าน้ัน หรือจะเป็ นหน่วยงานสารสนเทศหลกั ใน การพฒั นาระบบดว้ ยตวั เอง

บทบาทขององคก์ รท่มี ีต่อระบบสารสนเทศองคก์ รมผี ลต่อระบบสารสนเทศในหลายดา้ นพอสรุปได้ 4 ขอ้ ดงั น้ีคอื 4. การตดั สนิ ใจว่ามีปจั จยั อะไรบา้ งท่ีตอ้ งคานึงถงึ ในการพฒั นาระบบ สารสนเทศ - เช่น จะตอ้ งมีการปรบั เปล่ียนวิธีการทางานหรือไม่เพ่ือรองรบั การ นาระบบสารสนเทศหรือเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ร และ ปรบั ปรุงอย่างไร เป็นตน้

การนาระบบสนเทศมาใชใ้ นองคก์ รกอ่ ใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลง ภายในองคก์ รมากมาย ซ่ึงสามารถสรุปไดด้ งั น้ี1. ทาใหผ้ ูบ้ รหิ ารมสี ารสนเทศ(Information)มาช่วยในการตดั สนิ ใจ การวเิ คราะห์ การจดั การ และการควบคมุ ท่ดี ขี ้ึน2. ทาใหผ้ ูบ้ รหิ ารสามารถจดั การการงานท่มี ีประสทิ ธภิ าพข้ึน ดว้ ยการ เสรมิ ทางดา้ นการตดิ ต่อสอ่ื สารท่สี ะดวกรวดเรว็3. ทรพั ยากรสารสนเทศมีความสาคญั มากข้ึน และถอื เป็นสว่ นหน่ึง ขององคก์ รเช่นเดียวกบั ทรพั ยากรดา้ นอน่ื ๆ ดงั น้นั การจดั สรร งบประมาณการจดั ซ้ือหรอื หามาซ่ึงทรพั ยากรสารสนเทศถอื เป็น สว่ นหน่ึงของแผนกลยทุ ธข์ ององคก์ ร

การนาระบบสนเทศมาใชใ้ นองคก์ รกอ่ ใหเ้ กดิ การ เปล่ยี นแปลงภายในองคก์ รมากมาย ซ่งึ สามารถสรุปได้ ดงั น้ี4. ผูบ้ รหิ ารทกุ คนถอื วา่ มีสว่ นสาคญั ในการจดั การ และการใช้ ประโยชน์ของทรพั ยากรสารสนเทศ5. ทาใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงโครงสรา้ ง วฒั นธรรม และ อทิ ธิพลทางการเมอื งในองคก์ ร หน่วยงานสารสนเทศหรือ หน่วยงานทมี สี ว่ นในการเกบ็ รวบรวม และวเิ คราะหข์ อ้ มูลจะ มีความสาคญั มากข้ึนในองคก์ ร

ประเภทของระบบสารสนเทศท่ใี ชอ้ งคก์ รระบบสารสนเทศท่นี าไปใชใ้ นองคก์ รในปจั จุบนั น้นั มีวตั ถปุ ระสงคท์ ่สี าคญั มี 3 อยา่ ง คอื 1. นาไปใชใ้ นการประมวลผลรายการ และการจดั ทา รายงาน 2. นาไปใชใ้ นการช่วยการตดั สนิ ใจ 3. นาไปใชใ้ นการช่วยการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร

ประเภทของระบบสารสนเทศท่ใี ชอ้ งคก์ ร(ตอ่ ) แบง่ ตามหนา้ ท่ที างธุรกจิ แบ่งตามโครงสรา้ งของธุรกจิ แบ่งตามโครงสรา้ งของระบบ แบ่งตามระดบั การตดั สนิ ใจ แบ่งตามกจิ กรรมท่สี นบั สนุน

แบง่ ตามหนา้ ท่ที างธุรกจิ1.ระบบสารสนเทศทางดา้ นการตลาด ( Marketing Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ใี ชช้ ่วยงานทางดา้ นการตลาด เช่น - ระบบการขาย ณ จดุ ขาย (Point of Sales หรอื POS) ท่ใี ชใ้ น การเกบ็ ขอ้ มูลการซ้ือขายสนิ คา้ ของหา้ งสรรพสนิ คา้ ต่างๆ หรอื - ระบบพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่ใี ชใ้ นการซ้ือขายสนิ คา้ ผ่านทาง ระบบอนิ เตอรเ์ น็ตเป็ นตน้

แบ่งตามหนา้ ท่ที างธุรกจิ2.ระบบสารสนเทศทางการผลติ หรอื อตุ สาหกรรม (Production or Manufacturing Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ใี ชช้ ่วยงานทางดา้ นการผลติ เช่น - ระบบการจดั การทรพั ยากรการผลติ หรอื MRP ท่ใี ชใ้ นการ คานวณการใชว้ ตั ถดุ บิ ทางการผลติ และการจดั ตารางการผลิต หรอื - ระบบการสงั่ ซ้ือวตั ถดุ บิ ทางสายหรอื เช่ือมตรง (On-line) เป็น ตน้

แบง่ ตามหนา้ ท่ที างธุรกจิ (ต่อ)3.ระบบสารสนเทศการจดั การทรพั ยากรมนุษย์ (Human Resource Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ใี ชช้ ่วยงาน ทางดา้ นการจดั การทรพั ยากรมนุษย์ เช่น - ระบบการจดั เกบ็ ขอ้ มูลพนกั งานในฐานขอ้ มูล (Database) หรอื - ระบบการรบั สมคั รงานทางอนิ เตอรเ์ น็ต เป็นตน้4.ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี (Accounting Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ีใชช้ ่วยงานทางดา้ นการบญั ชี ส่วนใหญ่จะ เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลทางบญั ชีเพอ่ื การจดั ทางบการเงนิ

แบง่ ตามหนา้ ท่ที างธุรกจิ (ต่อ)5.ระบบสารสนเทศทางการเงนิ(Financial Information Systems)ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ใี ชช้ ่วยงานทางดา้ นการเงนิ เช่น - ระบบการวเิ คราะหก์ ารลงทนุ ของกจิ การ หรอื - ระบบการคานวณรายรบั รายจา่ ยของกจิ การท่เี ป็นเงนิ สดเพอ่ื จดั ทางบกระเสเงนิ สดและการวเิ คราะหก์ ารมีเงนิ สดสารองในกิจการ เป็ นตน้

แบง่ ตามโครงสรา้ งของธุรกจิ คือการแบ่งระบบสารสนเทศตามลกั ษณะการจดั สายงานของ องคก์ ร แบ่งเป็น 3 แบบคอื1. ระบบสารสนเทศของหน่วยงาน (Departmental Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบการเก็บขอ้ มูล การประมวลผล และการส่งผ่าน ขอ้ มูลของแต่ละหน่วยงานส่วนใหญ่จะเช่ือมต่อกนั ดว้ ยระบบ เครอื ข่ายภายใน (Local-Area Network, LAN )

แบง่ ตามโครงสรา้ งของธุรกจิ (ต่อ)2.ระบบสารสนเทศขององคก์ ร (Organizational Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ีเช่ือมต่อระบบสารสนเทศของแต่ละ หน่วยงานภายในองคก์ รเขา้ ดว้ ยกนั เพอ่ื เรยี กใชข้ อ้ มูลร่วมกนั3.ระบบสารสนเทศระหว่างองคก์ ร (Inter-Organizational Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ีเช่ือมต่อกนั ระหว่างต่างองคก์ ร เพ่ือใชข้ อ้ มูล รว่ มกนั หรอื ประสานการทางานกนั โดยใชก้ ารเช่ือมต่อดว้ ยระบบเครอื ข่าย แบบวงกวา้ ง (Wide-Area Network, WAN)

แบง่ ตามโครงสรา้ งของระบบ1.ระบบสารสนเทศแบบเด่ยี ว(Standalone Information Systems) ไดแ้ ก่ระบบสารสนเทศท่ใี ชง้ านสาหรบั คนใดคนหน่ึง ไม่มี การเช่ือมต่อกบั ผูอ้ น่ื เช่น ผูจ้ ดั การฝ่ ายตลาดจดั เกบ็ ขอ้ มลู ลกู คา้ ไว้ เพอ่ื การวเิ คราะหล์ กู คา้ ทาประวตั ลิ ูกคา้ (Customer Profile) ไวเ้ พอ่ื จะไดต้ ดั สนิ ใจเร่อื งการ ตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ เป็นตน้

แบง่ ตามโครงสรา้ งของระบบ2.ระบบสารสนเทศแบบกระจายไปยงั เครอื ข่าย(Distributed of Network Information Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่ีกระจายการประมวลผลขอ้ มูลหรือการ จดั เก็บขอ้ มูลไปยงั เคร่ืองคอมพิวเตอรส์ ่วนบุคคล (Personal Computer, PC) ท่เี ช่ือมโยงกนั ในระบบเครอื ข่าย

แบง่ ตามโครงสรา้ งของระบบ3. ระบบสารสนเทศท่อี ยูบ่ นเมนเฟรม (MainframeInformation Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่รี วมการประมวลผลและการเกบ็ ขอ้ มูลไว้ ท่เี คร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ มนเฟรม สว่ นใหญ่จะเป็นการประมวลผลท่ี มขี อ้ มูลจานวนมาก หรอื การประมวลผลท่มี ีความสาคญั มากตอ่ องคก์ ร เช่น การประมวลผลดอกเบ้ยี ของธนาคาร หรอื การ ประมวลผลทางบญั ชี เป็นตน้

แบง่ ตามระดบั การตดั สนิ ใจ(S1.tรrะaบteบgสicารIสnนfoเทrmศเaพtอ่ืioกnารSตyดัstสeนิ mใจs)ระดบั กลยทุ ธ์ คือ ระบบสารสนเทศซ่ึงเนน้ การตดั สนิ ใจแบบท่ไี ม่มีรstูปrแuบctบur(Uedn)sสtrว่ uนcใtหuญre่จdะ)เปแ็นละกาแรบตบดั กสง่ึนิ มใรีจูปขแอบงผบูบ้ ร(หSิ eาmร i-ระดบั สูง เช่น การใชร้ ะบบสารสนเทศเพอ่ื การวเิ คราะห์ทางเลอื กตา่ งๆ ในการจะขยายกจิ การ

แบง่ ตามระดบั การตดั สนิ ใจ2. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การตดั สนิ ใจระดบั ยทุ ธวธิ ี(Tactical Information Systems)รูปแคบือบรแะลบะบแสบาบรมสีรนูปเแทบศบซ(่ึงSจtะrเuนc้tนuกrาeรdต)ดัเชส่นินใกจารแใบชบร้ ะกบ่ึงมบีสารสนเทศวิเคราะหก์ ารออกผลิตภณั ฑใ์ หม่ ซ่ึงรวมทง้ั การเลือกผลิตภณั ฑ์ การออกแบบผลิตภณั ฑ์ และการทดสอบตลาด เป็นตน้

แบง่ ตามระดบั การตดั สนิ ใจ3. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การตดั สนิ ใจระดบั ปฏบิ ตั กิ าร(Operational Information Systems)(Strคuอื ctรuะrบeบdส)าเรชส่นนเกทาศรซใช่งึ จร้ ะะเบนบน้ สกาารรสตนดัเทสศนิ ใในจแกบารบเมกรีบ็ ูปขแอ้ บมบูลการตลาดว่า สนิ คา้ ใดมียอดขายดีท่ีสดุ สนิ คา้ ใดมียอดขายท่ีน้อยท่ีสุดเพ่ือทาการแกไ้ ข โดยอาจมีการตดั สินใจทางการปรบั กลยุทธท์ างการตลาด หรอื การยกเลกิ การผลติ ได้

ภาพท่ี 2 แสดงถงึ ระดบั การตดั สนิ ใจและระดบั ผูบ้ รหิ ารในองคก์ รการตดิ สนิ ใจระดบั กลยทุ ธ์ ผู้บริหาร ระดับสูงการตดิ สนิ ใจระดบั ยทุ ธวิธี ผูบ้ รหิ าร ระดบั กลางการตดิ สนิ ใจระดบั ปฏบิ ตั กิ าร ผูบ้ รหิ ารระดบั ล่าง พนกั งาน

ตารางท่ี 2-1 แสดงความสมั พนั ธข์ องลกั ษณะของสารสนเทศกบั ระดบั การตดั สนิ ใจ ลกั ษณะสารสนเทศ ระดบั การตดั สินใจ ระดบั ล่าง ระดบั กลาง ระดบั บนระยะเวลา ส้ัน ปานกลาง ยาวทมี่ า ภายใน ภายและภายนอก ภายนอกเนือ้ หา ละเอยี ด ส่วนใหญ่เป็ นแบบ สรุป สรุประดบั ความแน่นอน แน่นอน ไม่แน่นอนบ้าง ไม่แน่นอน แน่นอนบ้างระดับความเส่ียง ตา่ ปานกลาง สูงความสามารถในการตัดสินใจ ใช้น้อยมาก ใช้บ้าง ใช้มากการพง่ึ พาระบบสารสนเทศ สูง ปานกลาง ตา่ ถงึ ปานกลางการพง่ึ พาสารสนเทศภายใน สูงมาก สูง ปานกลางการพง่ึ พาสารสนเทศภายนอก ตา่ ปานกลาง สูงมากความต้องการสารสนเทศออนไลน์สายตรง สูงมาก สูง ปานกลางการใช้สารสนเทศทผ่ี ่านมา สูง ปานกลาง ตา่การใช้การวเิ คราะห์สารสนเทศแบบ“What – if(อะไร - ถ้า) ต่า สูง สูงมาก

แบง่ ตามกจิ กรรมที่สนบั สนุน1. ระบบประมวลผลรายการ(Transaction Processing Systems, TPS)TPS คอื ระบบสารสนเทศท่ใี ชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูลท่เี ป็ นการทางธุรกจิ ต่างๆเขา้ มาประมวลผลเบ้อื งตน้ แลว้ เกบ็ ไวเ้ ป็นขอ้ มูลของธุรกจิ ท่จี ะนาไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป2. ระบบควบคมุ การผลติ (Process Control Systems, PCS)PCS คอื ระบบ TPS อย่างหน่ึง ซ่งึ ใชใ้ นการควบคมุ การผลติ (แrบeบalต-t่อiเmน่eือ)งทเช่ตี ่นอ้ งกมากีราผรลเกติ บ็ในขโอ้ รมงูลงเาพนอ่ืกกลานั่ รนค้าวมบนัคุมหตรลอื อโรดงเาวนลา ไฟฟ้ า เป็นตน้

ระบบสารสนเทศกบั กลยทุ ธธ์ ุรกจิแผนธุรกจิ (Business Strategy) ไดแ้ ก่ การวางแผนกลยทุ ธ์ โดยมองภาพรวมของธุรกจิ การตดั สนิ ใจว่า ธุรกจิ ตอ้ งการไปในทางทศิ ทางใด เช่นตอ้ งการการเป็นผูน้ าทาง การตลาด เป็นผูน้ าดา้ นตน้ ทนุ และราคา เป็นตน้ระบบสารสนเทศเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic Information System) ไดแ้ ก่ ระบบสารสนเทศท่นี าไปใชใ้ นการวางแผนและการดาเนินการ ของธุรกจิ เพอ่ื ใหค้ วามไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั (Competitive Advantage)

การนาระบบสารสนเทศไปใชใ้ นเร่อื งของกลยทุ ธธ์ ุรกจิ สามารถแบ่งการ พจิ ารณาไดแ้ บง่ เป็น 3 ระดบั ดงั น้ีคอื1. กลยุทธร์ ะดบั ธุรกจิ (Business – Level Strategy) ไดแ้ ก่ การพจิ ารณาในการแข่งขนั อย่างมปี ระสทิ ธิภาพในตลาดท่ธี ุรกจิ ดาเนินการอยู่ เช่น ตลาดสนิ คา้ อปุ โภค บรโิ ภค ตลาดบรหิ ารทอ่ งเท่ยี วเชิงอนุรกั ษ์ โดย การตดั สนิ ใจ 3 ดา้ นคือ 1.การเป็นผูน้ าทางดา้ นตน้ ทนุ การผลติ ท่ตี า่ สดุ 2.การผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารท่มี คี วามแตกต่างจากคูแ่ ข่ง 3.การเปล่ยี นแปลงขอบเขตการแข่งขนั เช่น การขยายตลาดไปสูต่ ลาด ตา่ งประเทศ หรอื การเจาะตลาดขนาดเลก็ ท่มี คี วามตอ้ งการเฉพาะดา้ น เป็น ตน้ มีตวั อยา่ งท่เี ก่ยี วขอ้ ง 4 แบบ ดงั น้ี ->

Ex1 : การนาเทคโนโลยไี ปใชใ้ นการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพ ของธุรกจิ ใน Value ChainValue Chain Model ไดแ้ ก่ ตวั แบบในการมอบภาพธุรกจิ ในลกั ษณะของสายโซ่ของกจิ กรรมท่มี ีความเกย่ี วขอ้ งสมั พนั ธก์ นั Model น้ีแบ่งกจิ กรรมการดาเนินการของธุรกจิ เป็น กจิ กรรม หลกั (Primary Activities) และกจิ กรรมสนบั สนุน (Support Activities)

Ex1 : การนาเทคโนโลยไี ปใชใ้ นการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพ ของธุรกจิ ใน Value Chainกิจกรรมหลกั ไดแ้ ก่ กิจกรรมท่ีมีความเก่ียวขอ้ งโดยตรงต่อการผลิต และ กระจายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารไปยงั ผูบ้ รโิ ภค เช่น การผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ าร การขนสง่ การขายและบรกิ ารหลงั การขายกจิ กรรมสนบั สนุน ไดแ้ ก่ กจิ กรรมท่ที าใหก้ จิ กรรมหลกั มคี วามเป็ นไปไดใ้ น การดาเนินการหรือทาใหก้ จิ กรรมหลกั มีการดาเนินการท่ีมีประสทิ ธิภาพ มากข้ึน เช่น การจดั การทรพั ยากรมนุษย์ การจดั การดา้ นการนา เทคโนโลยมี าใช้ เป็นตน้

Ex2 : การนาเทคโนโลยีสารสนเทศในการสรา้ งผลิตภณั ฑ์ใหม่เพอ่ื สนองความตอ้ งการของลูกคา้ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั กลยุทธก์ ารสรา้ งความแตกต่างของสินคา้ หรือบริการ(Product Differentiation) เช่น- การท่ีธนาคารไทยพาณิชยเ์ สนอการทาบตั รนักศึกษาควบกบั บตั รเอทเี อม็ (Automatic Teller Machine, ATM) หรอื- การท่ีบรษิ ทั เดลคอมพวิ เตอร์ (Dell Computer) เปิ ดโอกาสใหล้ ูกคา้สงั่ เคร่ืองคอมพิวเตอรด์ ว้ ยตวั เองทางออนไลน์ โดยลูกคา้ สามารถเลือกความสามารถของเคร่อื งและอปุ กรณ์ต่างๆ ไดต้ ามตอ้ งการ เป็นตน้

Ex3 : การนาระบบสารสนเทศไปใชใ้ นการสรา้ งกลยทุ ธก์ ารเจาะ ตลาดเฉพาะกลยทุ ธก์ ารสรา้ งตลาดเฉพาะ (Focus Differentiation) คอื การสรา้ งผลติ ภณั ฑเ์ พอ่ื เจาะตลาดของกลมุ่ ลกู คา้ ท่มี ีความตอ้ งการเฉพาะ ในการน้ีไดแ้ ก่- การนาระบบสารสนเทศมาทาการวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของลกู คา้ แต่ละกลมุ่ เพอ่ื จะไดน้ าเสนอสนิ คา้ หรอื บรกิ ารไดต้ ามความตอ้ งการมากข้ึน- เช่น การตามขอ้ มูลการเขา้ ไปยงั Web Site ตา่ ง ๆ ของกลมุ่ เป้ าหมายเพอ่ื ตอ้ งการทราบพฤตกิ รรมของผูใ้ ชว้ ่ามีความชอบสว่ นตวั ต่อสนิ คา้ หรอืบรกิ ารชนิดใดเป็นพเิ ศษหรอื ไม่- หรอื การเกบ็ ขอ้ มลู การใชบ้ ตั รเครดิตของลกู คา้ เพอ่ื นามาวเิ คราะหห์ าความตอ้ งการเฉพาะ เพอ่ื จดั สง่ รายการสนิ คา้ หรอื บรกิ ารท่คี ดิ ว่าลกู คา้ น่าจะมคี วามตอ้ งการไปใหท้ ่บี า้ น เป็นตน้

Ex4 : การนาระบบสารสนเทศไปใชใ้ นการจดั การดา้ น Supply Chain สลSูกมuั คพpา้นpั (ธlCyก์ uนัCsรthะoหamiวneา่ rงMผ) ูผ้ aลnติ a(gSeumppenlietrค)อื ผูจก้ ดาั รจจาดหั กนา่ารยเช(่ือDมisกtจิrกibรuรมtoตrา่)งแๆละท่ี กผLลูผo้ ยcลkทุติ -ธiทหn์ ารงือดSผuาู้จ้ นpดั pจSlาiuหeprนps่าlยyเกพบัC่อื ธhใุรหaกiเ้จิnกดิเรนคยี ้ัน่ากใไวชด่าจ้ แ้ ่าLกยo่ใคcนkวกา-ามinรพเปยCลา่ยียuนาsมtไoทปm่จีทะeาผrธsุูรกกลิจหูกกครบืัอา้ ผูอ้ น่ื (Switching Cost) มสี ูงข้ึน (หมายความว่าถา้ ใชก้ ลยุทธน์ ้ี ลูกคา้ /ผูผ้ ลติ /ผูจ้ ดั จาหน่าย จะไม่เปล่ยี นใจ ไปหาท่ใี หม่คนใหม่ เพราะจะมีคา่ ใชจ้ า่ ยท่สี ูง)

2. กลยุทธร์ ะดบั องคก์ ร (Firm-Level Strategy)ไดแ้ ก่ การตดั สนิ ใจทาใหห้ น่วยงานภายในองคก์ รมีการทางานทม่ี ีประสทิ ธิภาพ โดยการนาระบบสารสนเทศและเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ดงั กลา่ ว ซ่งึ สามารถพจิ ารณาได้ 2 เร่อื งคอื2.1 การนาระบบสารสนเทศไปใชส้ ง่ เสรมิ ธุรกจิ ท่เี ป็นธุรกจิ หลกัธุรกจิ หลกั (Core Competencies) คอื ธุรกจิ ท่อี งคก์ รมคี วามชานาญมากท่สี ุด- เช่น บรษิ ทั เจรญิ โภคภณั ฑม์ ีการทาธุรกจิ มากมาย แต่ธุรกจิ ท่ถี อื วา่เป็นธุรกจิ หลกั ของกจิ การกค็ อื การผลติ ดา้ นสตั วแ์ ละอาหารสตั ว์

2. กลยุทธร์ ะดบั องคก์ ร (Firm-Level Strategy) - หรอื กรณีบรษิ ทั Federal Express ท่มี ีความชานาญในการทาธุรกจิ การจดั สง่ พสั ดมุ ากท่สี ดุ เป็นตน้- การนาระบบสารสนเทศมาใชส้ ง่ เสรมิ ธุรกจิ หลกั ไดแ้ ก่ การรวมศูนยข์ อ้ มูลเพอ่ื การใชข้ อ้ มูลรว่ มกนั ระหว่างหน่วยงานท่ที าเก่ยี วกบัธุรกจิ หลกั หรอื การลงทนุ ในเทคโนโลยหี รอื ระบบท่จี ะทาใหก้ ารทาธุรกจิ หลกั มปี ระสทิ ธภิ าพมากข้ึน

2.2 การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื ระบบสารสนเทศไปใชใ้ นการเช่ือมโยงหน่วยงานต่างๆ ภายในองคก์ ร- ไดแ้ ก่ การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศไปใชใ้ นการตดิ ตอ่ สอ่ื สารหรอืประสานงานระหวา่ งหน่วยงาน เช่น - ไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ อนิ เทอรเ์ น็ต อนิ ทราเน็ต หรือ กรปุ๊ แวร์(Groupware) เป็นตน้ - เพอ่ื ใหก้ ารตดิ ตอ่ งานท่สี ะดวกและรวดเรว็ ข้ึน และเป็นการเช่ือมโยงหน่วยงานท่อี ยู่หา่ งไกลกนั ใหม้ ีการประสานงานท่ดี ีข้ึน

3. กลยุทธร์ ะดบั อุตสาหกรรม (Industry-Level Strategy)ไดแ้ ก่ การตดั สนิ ใจทางดา้ นการแข่งขนั หรอื การเป็นพนั ธมิตรกบัองคก์ รอน่ื ในอตุ สาหกรรมเดียวกนั ซ่ึงองคก์ รจะตอ้ งทาการพจิ ารณาก่อนวา่ ใครเป็นลกู คา้ ผูผ้ ลติ คู่แข่งขนั ในปจั จบุ นั และอนาคต เพอ่ืนามาตดั สนิ ใจว่าธุรกจิ น้นั มีความสามารถในการแข่งขนั เป็นอยา่ งไรเม่อื เทยี บกบั คู่แข่งขนั มีอานาจต่อรองกบั ลกู คา้ และผูผ้ ลติ เพยี งใดควรจะเป็นพนั ธมิตรกบั ใคร เพอ่ื ความไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั

3. กลยุทธร์ ะดบั อุตสาหกรรม (Industry-Level Strategy)- เช่น การตดั สนิ ใจเขา้ รว่ มเป็นพนั ธมิตรใน Star Alliance ของบรษิ ทั การบนิ ไทยกบั สายการบนิ อน่ื ท่บี รษิ ทั ไม่มีเสน้ ทางการบนิ เป็ นตน้ การรว่ มเป็นพนั ธมิตรน้นั อาจเป็นในลกั ษณะของการใชข้ อ้ มูลร่วมกนั มากกวา่ การทาธุรกจิ รว่ มกนั ได้ http://www.yopi.co.th/prd_16045 - เช่น การเป็นพนั ธมิตรกนั ระหวา่ งบตั รเครดิตธนาคารไทยพาณิชยก์ บั บรษิ ทั มีเดยี ออฟมเี ดยี กบั การออกบตั รเครดิตมเี ดยี เพอ่ื การใชฐ้ านขอ้ มูล ลูกคา้ ร่วมกนั เป็นตน้

ลกั ษณะการเป็นพนั ธมิตรสามารถทาไดด้ งั น้ี1) การเป็นพนั ธมิตรระหวา่ งธุรกจิ กบั คูแ่ ข่งขนั เช่น การร่วมมือกนั ระหวา่ งบรษิ ทั คอมพวิ เตอรห์ ลายๆบรษิ ทั การพฒั นาระบบสารสนเทศใหอ้ งคก์ รขนาดใหญ่2) การเป็นพนั ธมิตรระหว่างธุรกจิ กบั ธุรกจิ อน่ื ท่ไี ม่ใช่คูแ่ ข่ง เช่น ความรว่ มมือระหว่างสายการบนิ กบั บรษิ ทั ใหเ้ ช่า รถในการใหบ้ รกิ ารลูกคา้ และการใหส้ ว่ นลด

ลกั ษณะการเป็นพนั ธมติ รสามารถทาไดด้ งั น้ี3) การเป็นพนั ธมิตรระหวา่ งธุรกจิ กบั ผูผ้ ลติ หรอื ลกู คา้ระบบสารสนเทศท่นี ามาใชใ้ นการสรา้ งพนั ธมิตรน้นัเรยี กวา่ ระบบสารสนเทศระหวา่ งองคก์ ร (Inter-organizational Information Systems) เช่น ระบบเอก็ ซท์ ราเน็ต ระบบอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นตน้

ระบบสารสนเทศกบั การปรบั ปรุงการทางานในองคก์ ร การปรบั ปรุงการทางานในการองคก์ ร (Business Process Redesign) คอื การปรบั เปลย่ี นวธิ กี ารทางานใหม่ เพอ่ื ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน และสามารถตอบสนองต่อความตอ้ งการของลกู คา้ ไดด้ ีข้ึน เช่น การลดขน้ั ตอนการทางานใหส้ น้ั ลงในการจดั การดา้ นคาสงั่ ซ้ือของ ลูกคา้ เป็นตน้

สาเหตทุ ่ที าใหธ้ ุรกจิ ตอ้ งปรบั ปรุงการทางาน- ลูกคา้ (Customer) คอื ลูกคา้ มคี วามตอ้ งการท่มี ากข้ึน และเตม็ ใจท่จี า่ ยเงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารตามท่ตี นตอ้ งการน้นั- การแข่งขนั ( Competition) คอื มีการแข่งขนั ท่ตี ่อเน่ืองและรุนแรงข้ึน ในดา้ นของราคาคณุ ภาพของสนิ คา้ และการใหบ้ รกิ ารจากคู่แข่งท่อี ยูใ่ น อตุ สาหกรรมเดยี วกนั- การเปล่ยี นแปลง ( Change) คอื มกี ารเป็นแปลงของเทคโนโลยแี ละ สภาพแวดลอ้ มในการทาธุรกจิ ท่รี วดเรว็ และบางครง้ั ไมอ่ าจคาดการณ์ได้ ลว่ งหนา้

ลกั ษณะของการปรบั ปรงุ การทางานการรวมงานหลายๆงานใหเ้ ป็นงานเดยี วใหอ้ านาจการตดั สนิ ใจกบั พนกั งานมากข้ึนขน้ั ตอนการทางานมีความเป็นธรรมชาตมิ ากข้ึนและงาน บางอย่างสามารถทาพรอ้ ม ๆ กนั ได้ขน้ั ตอนการทางานสามารถมีไดห้ ลายแบบ เพอ่ื ใหส้ ามารถ ปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความตอ้ งการของลกู คา้

ลกั ษณะของการปรบั ปรงุ การทางานการทางานไม่มีขอ้ จากดั ดา้ นสถานท่ี ข้ึนอยู่กบั ลกั ษณะงานท่ี น่าจะเป็น ซ่ึงอาจจะเป็นการทางาน ณ สถานท่ขี องลูกคา้ หรอื ผูผ้ ลติ ได้การควบคมุ ท่ไี ม่กอ่ ใหเ้ กดิ ผลดีตอ่ งานมนี อ้ ยลงมีการสรา้ งพนั ธมิตรกบั องคก์ รภายนอกมากข้ึน เพอ่ื ใหก้ าร ตดิ ต่อกบั ภายนอกมีประสทิ ธิภาพมากข้ึน

ลกั ษณะของการปรบั ปรงุ การทางานการดาเนินการเป็นแบบผสมระหวา่ งการรวมศูนยแ์ ละการ กระจายศูนย์ทาใหก้ ารตดิ ต่อระหวา่ งลูกคา้ และองคก์ รท่มี จี ดุ เดยี ว เพอ่ื ลด ความสบั สนและย่งุ ยากของลูกคา้ และเพอ่ื ประสทิ ธิภาพการ ใหบ้ รกิ ารลกู คา้

ผลของการปรบั ปรุงการทางาน การปรบั ปรงุ การทางานทาใหเ้ กดิ สง่ิ ตา่ งๆในองคก์ รดงั น้ีคอื➢ การเปลย่ี นจากการผลติ แบบรวมเป็นการผลติ แบบตาม ความตอ้ งการของลกู คา้ ( Mass Production To Mass Customization ) การนาระบบสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ รสามารถทาใหก้ าร ผลติ แบบรวมสามารถตอบสนองความตอ้ งการเฉพาะของ ลูกคา้ ได้

ผลของการปรบั ปรุงการทางาน➢ การเปลย่ี นโครงสรา้ งองคก์ ร (Restructuring Organizations ) ไดแ้ ก่ การลดจานวนคนทางานลงในบางตาแหน่ง ขณะเพ่ิม พนักงานในตาแหน่งใหม่ๆ หรือการยุบบางแผนกไปรวมกบั แผนกอ่ืนเพ่ือใหก้ ารทางานสมั พนั ธก์ นั และรวดเร็วย่ิงข้ึน โดย การนาเทคโนโลยมี าใชแ้ ทนคน➢การลดลงของเวลาในการทาธุรกจิ การนาเทคโนโลยีสนเทศมาใช้ จะทาใหก้ ารทาธุรกจิ ตา่ งๆรวดเรว็ ข้ึน

ตวั อย่างของการนาสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ร UPS แข่งขนั ไปทวั่ โลกดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศบรษิ ทั United Parcel Service หรอื UPS ซ่ึงเป็นบทราิกษาัทรใกห่อญต่อง้ั นัมดาตบั ง้ัหแนต่ึง่ปขี อ2ง4โ5ล0กในแดลา้ะนยกงั คารงจเปดั ็ สน่งบพริสัษดัทุทอานั งดบบักหน่ึงในปจั จุบนั จากการท่ีไม่เคยหยุดอยู่กบั การพฒั นาบริการใหด้ ีข้ึน

ตวั อยา่ งของการนาสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ร UPS แข่งขนั ไปทวั่ โลกดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศCompuUtePrSกใาชรค้บอนั มทพกึ วิขเอ้ตมอลูรลข์ านยาเดซเ็นลลก็ กูทค่เี รา้ ยีเวกลวา่าทH่รี บัanหdบี -หheอ่ ldและเวลาท่สี ง่ หบี หอ่ จากน้นั สง่ ผ่านขอ้ มลู โดยผา่ น ระบบเครอื ข่ายของโทรศพั ทไ์ รส้ าย หรอื Cellular TelephoneNetwork ภายในรถไปยงั คอมพวิ เตอรห์ ลกั ของบรษิ ทั ท่ีตง้ั อยู่ทวั่ โลกทาใหส้ ามารถทราบไดว้ ่าพสั ดุอยู่ท่ไี หน