Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่7-8

หน่วยที่7-8

Published by panu11133, 2019-10-09 01:38:26

Description: หน่วยที่7-8

Search

Read the Text Version

2104-2204 วิชาเครื่องมือวัดไฟฟาและอิเล็กทรอนกิ ส 1 เคร่อื งวัดกําลังไฟฟา วัตตมิเตอร (Wattmeter) เปนเครื่องมือวัดท่ีใชสําหรับวัดกําลังไฟฟา (Power) กําลังไฟฟา สามารถวัดไดในรูปของแรงดันไฟฟาและกระแสไฟฟา นําคาท่ีไดทั้งสองมาคํานวณหากําลัง ไฟฟา โดยใชสตู รคาํ นวณ ดังน้ี P = EI โดยที่ P คอื กาํ ลงั ไฟฟา มีหนวยเปน วัตต (W) E คอื แรงดนั ไฟฟา มหี นวยเปน โวลต (V) I คือ กระแสไฟฟา มีหนว ยเปน แอมแปร (A) ถงึ แมจ ะใชว ธิ กี ารคาํ นวณจากแรงดันไฟฟา และกระแสไฟฟา ที่วัดไดในวิธีการ ดังกลา วก็ตาม แต จะไมสะดวกและเกิดความยุงยากในการวัดคา และการคํานวณหาคา ดังนั้นวัตตมิเตอรจึงถูกสรางข้ึนมา ใชงาน เพ่อื ใชว ดั กําลงั ไฟฟาไดโดยตรง โดยมวี งจรการใชงาน ดังแสดงใน รูปที่ 1 รปู ที่ 1 วงจรวตั ตมเิ ตอรในการตอวัดกาํ ลังไฟฟา จากรูปท่ี 1 เปนโครงสรางของวัตตมิเตอร แบบอิเล็กโทรไดนาโมมิเตอรสวนประกอบจะ ประกอบดวยขดลวด 3 ขวด ขดลวด 2 ขวดใหญที่วางขนานกันจะเปนขดลวดคงท่ี (Fixed Coils) หรือ ขดลวดกระแส (Current Coils) สวนตอนกลางของขดลวดคงท่ีจะมีขดลวดเคลื่อนท่ีได (Moving Coil) หรือขดลวดแรงดัน (Voltage Coil) วางอยูภายในวงกลมของขดลวดคงท่ี โดยท่ีขดลวดเคล่ือนที่จะมีแกน ยดึ ติดพรอมเข็มช้แี ละสปรงิ กน หอย เรียบเรยี งโดย อ.รชั วิทย เมธีโชติเศรษฐ วิทยาลัยเทคนิคลําปาง

2104-2204 วชิ าเคร่อื งมือวดั ไฟฟา และอิเลก็ ทรอนิกส 2 การนําอิเล็กโทรไดนาโมมิเตอรไปทําเปนวัตตมิเตอรจะตองตอวงจรท้ังขดลวดคงที่และ ขดลวด เคลื่อนท่ีเขาดวยกัน พรอมตอตัวตานทาน (R) และโหลดเขาวงจร จึงจะไดวงจรวัตตมิเตอรขึ้นมา ดังรูป วงจรวัตตมิเตอร ซ่ึงจะมีข้ัวตอใชงาน 4 ข้ัว เปนข้ัวตอแหลงจายไฟไปตอแหลงจาย ไฟฟา 2 ขั้ว และ ขั้วตอโหลด 2 ข้ัว การตอใชงานจะตองนําวัตตมิเตอรดานท่ีตอโหลดไปตอเขากับโหลดที่ตองการวัด กําลังไฟฟา เมื่อมีกระแสไฟฟาผานเขาวงจร ทําใหขดลวดคงท่ีหรือขดลวดกระแสท้ัง 2 ขดเกิด สนามแมเหลก็ ข้นึ และขดลวดเคลอ่ื นท่ีหรอื ขดลวดแรงดนั กเ็ กิดสนามแมเหลก็ ขนึ้ เชนกัน เกดิ การผลกั กนั ของสนามแมเหล็กระหวางขดลวดคงที่กับขดลวดเคลื่อนที่ ทําใหขดลวดเคล่ือนท่ีบายเบนไป การท่ีขดลวด เคลื่อนทีจ่ ะบา ยเบนไปมากหรอื นอ ยข้นึ อยูกับโหลดท่นี าํ มาตอ และแรงดนั ท่ีปอนเขา มา วัตตมิเตอรแบบอิเล็กโทรไดนาโมมิเตอรน้ีสามารถนําไปวัดกําลังไฟฟาไดท้ังกําลังไฟฟาของวงจร กระแสตรง และกําลังไฟฟาของวงจรกระแสสลับ เพราะขดลวดทั้งขดลวดแรงดันและ ขดลวดกระแส สามารถรับแรงดัน ไดท้ังไฟฟากระแสตรงและไฟฟากระแสสลับ แตตองระมัดระวังในการใชตองไมให กระแสที่ผา นขดลวดกระแสเกินกวา พกิ ดั ของมิเตอรท บ่ี อกไว และตอ งไมใ หแ รงดนั ที่ปอนเขาขดลวดแรงดนั เกินกวาพิกัดของมิเตอรท่ีบอกไว ดังน้ันในการใชวัตตมิเตอรวัดกําลังไฟฟา จึงควรตอแอมมิเตอรและโวลต มิเตอรร วมในวงจรดว ย เพื่อเปน ตวั แสดงคาของกระแสและแรงดนั ท้ังหมดท่ีจะผา นวตั ตมิเตอร วัตตมิเตอรท่ีใชในการทดลองใบงานน้ี เปนวัตตมิเตอรชนิดเฟสเดียว (Singlephase Wattmeter) ถกู สรางข้ึนมาใหสามารถวัดแรงดันและวดั กระแสได 2 ยา นคือ วัดกระแสได 0.2 A และ 1 A วัดแรงดันได 120 V. และ 240 V. แบบหน่ึง อีกแบบหนึ่งวัดกระแสได 1 A และ 5 A วัดแรงดันได 120 V. และ 240 V. การอานคากําลังไฟฟาจากวัตตมิเตอรที่ถูกตองจะตองอานคาจากหนาปดสเกลในตําแหนงที่เข็มมิเตอรชี้ คา นํามาคูณรวมกับคาตัวคูณในตารางที่แนบติดมากับตัววัตตมิเตอร ซ่ึงจะข้ึนอยูกับคาแรงดันและ คากระแสทีต่ อวัดจากขั้วตอของวัตตมิเตอร ตารางแสดงคาที่ตั้งวัดและคาตัวคูณของวัตตมิเตอร แสดงไวใน ตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 คา ตัวคณู คงที่ ยานการวัดแรงดนั ตัวคณู คงท่ี ยา นการวัดกระแส 120 V 240 V 0.2 0.4 0.2 A 1A 12 5A 5 10 เรยี บเรียงโดย อ.รชั วทิ ย เมธโี ชติเศรษฐ วทิ ยาลัยเทคนคิ ลําปาง

2104-2204 วชิ าเคร่ืองมือวัดไฟฟา และอิเล็กทรอนิกส 3 การตอวตั ตม ิเตอร เพ่ือวดั กาํ ลงั ไฟฟาจะตอไดด ังแสดงในรปู ท่ี 2 แหลง จาย • โหลด • | |A |A |V |V ± | ± รปู ท่ี 2 การตอ ใชง านของวตั ตมเิ ตอร ตวั อยางท่ี 1 ตอวัตตม เิ ตอรใชง านท่ีขั้วแรงดนั 120 V. ทข่ี ว้ั กระแส 0.2 A เมอ่ื วดั คาเข็มช้ีบา ยเบน ไปบนสเกลชค้ี าทีเ่ ลข 25 จะอา นคากาํ ลงั ไฟฟาไดเ ทา ไร วิธที ํา คาตวั คณู ของแรงดนั 120 V., กระแส 0.2 A คือ คา 0.2 (ดูตารางที่ 1 ประกอบ) คา กาํ ลงั ไฟฟา ท่วี ัดได = ตวั เลขท่ีอานได × คา ตวั คณู = 25 × 0.2 ∴ P = 5W ตอบ ตัวอยางที่ 2 ตอวัตตม ิเตอรใชงานทีข่ ้ัวแรงดัน 240 V ที่ขัว้ กระแส 5 A เมอ่ื วัดคาเขม็ ชบี้ า ยเบน ไปบนสเกลชี้คา ทเี่ ลข 40 จะอา นคา กาํ ลังไฟฟาไดเทาไร วธิ ีทาํ คา ตวั คูณของแรงดนั 240 V , กระแส 5 A คอื คา 10 (ดตู ารางท่ี 1 ประกอบ) คากําลงั ไฟฟาท่ีวัดได = ตัวเลขท่อี านได × คา ตัวคูณ = 40 × 10 ∴ P = 400 W ตอบ เรียบเรยี งโดย อ.รชั วทิ ย เมธีโชติเศรษฐ วทิ ยาลัยเทคนคิ ลําปาง

2104-2204 วชิ าเครอื่ งมอื วัดไฟฟาและอเิ ลก็ ทรอนิกส 4 คากําลังไฟฟาในวงจรไฟฟากระแสสลับ จะตองเปนคากําลังไฟฟาจริง (True Power) หรือ PT สามารถเขยี นเปน สตู รไดดงั น้ี โดยท่ี P PT = E I Cos ∅ คอื กาํ ลังไฟฟา มหี นวยเปนวัตต (W) E คอื แรงดันไฟฟา มหี นวยเปน โวลต (V) I คอื กระแสไฟฟา มหี นว ยเปนแอมแปร (A) Cos ∅ คือ คา เพาเวอรแ ฟคเตอรข องวงจร ในวงจรท่ีมโี หลดเปน ความ ตา นทานบรสิ ทุ ธ์ิ (Pure Resistance) คา Cos ∅ = 1 เรยี บเรียงโดย อ.รชั วทิ ย เมธโี ชติเศรษฐ วทิ ยาลัยเทคนิคลําปาง

1 วิชา เครอื่ งมอื วดั ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ บทท่ี 7 รหสั วชิ า 2104 – 2204 บทท่ี 7 เครื่องกาํ เนดิ สัญญาณ วตั ถปุ ระสงค์ 1. บอกชนดิ ของเครอ่ื งกําเนิดสญั ญาณได้ 2. อธบิ ายคณุ ลักษณะของ Function generator ทด่ี ีได้ 3. ต้งั คา่ แรงดนั และความถีข่ องสัญญาณทกี่ าํ เนดิ จาก Function generator ได้ 7-1 เครอื่ งกําเนิดสญั ญาณ เครื่องกําเนิดสัญญาณ เป็นเคร่ืองมือวัดและทดสอบชนิดหน่ึง ทําหน้าท่ีเป็นตัวให้ กําเนิดสัญญาณชนิดต่างๆขึ้นมา เช่น สัญญาณไซน์(Sine wave) สัญญาณส่ีเหลี่ยม (Square wave) สัญญาณสามเหล่ียม (Triangle wave) และสัญญาณฟันเล่ีอย (Saw tooth wave) เป็นต้น ดังรูปท่ี 7-1 เพ่ือใช้ในการทดสอบปรับแต่งและตรวจซ่อมวงจร อิเล็กทรอนิกส์เคร่ืองกําเนิดสัญญาณที่ถูกผลิตข้ึนมาใช้งานเรียก ช่ือแตกต่างกันตาม ค่าความถ่ีและชนิดของสัญญาณที่กําเนิดข้ึนมา ท่ีพบว่ามีการใช้งานแบ่งออกเป็น 5 ชนิด คือ 1.เครอ่ื งกําเนดิ สัญญาณความถี่เสียง (Audio Frequency : AF generator) 2. เคร่อื งกาํ เนิดสญั ญาณความถีว่ ิทยุ (Radio Frequency :RF generator) 3. ฟังก์ชันเจนเนอร์เรเตอร์ (Function generator) 4. พลั ซ์เจนเนอรเ์ รเตอร์ (Pulse generator) 5. สวีฟเจนเนอรเ์ รเตอร์ (Sweep generator) ELWE(Thailand) หนา้ 1

2 วชิ า เครื่องมอื วัดไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ บทท่ี 7 รหัสวิชา 2104 – 2204 แต่ในบทเรยี นจะศกึ ษาเฉพาะเคร่อื งกาํ เนิดสญั ญาณที่นินมใช้กนั อย่างแพรห่ ลาย ในห้องปฏิบตั ิการทางไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ คอื ฟังก์ช่ันเจนเนอร์เรเตอร(์ Function Generator) เทา่ นัน้ ลักษณะของเครือ่ งกําเนดิ สัญญาณแบบตา่ งๆแสดงดังรูปท่ี 7-2 รูปท่ี 7-1 ลกั ษณะของรปู คลื่นสญั ญาณชนิดต่างๆ ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Function_generator รปู ที่ 7-2 ลักษณะของเคร่ืองกาํ เนิดสญั ญาณชนดิ ต่างๆ หน้า 2 ELWE(Thailand)

3 วิชา เครื่องมอื วดั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ บทที่ 7 รหสั วชิ า 2104 – 2204 7-2. ฟังก์ช่ันเจนเนอรเ์ รเตอร(์ Function Generator) ฟังก์ช่ันเจนเนอร์เรเตอร์ คือเครื่องกําเนิดสัญญาณ ชนิดหนึ่ง ท่ีสร้างสัญญาณทาง ไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ สามารถเลือกชนิดของรูปคล่ืนสัญญาณ และสามารถกําหนด ขนาดของสัญญาณ และความถี่ของสัญญาณได้ เพื่อนําไปใช้ในงาน การสอบเทียบ เครอื่ งวดั วดั และการทดสอบ วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และวงจรไฟฟา้ แบบตา่ งๆ โครงสร้าง วงจรภายในเคร่ืองฟังกช์ ัน่ เจนเนอร์เรเตอร์โดยท่ัวไปจะประกอบด้วยโครงสร้างท่ี สําคัญ 7 สว่ น ดงั รปู 7-3 คือ รูปท่ี 7-3 Block diagram ของฟังกช์ นั่ เจนเนอร์เรเตอร์ 1. วงจรปรับความถขี่ องสัญญาณ (Frequency control network) 2. แหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าคงท่ี (Constant current source 1,2) 3. วงจรอนิ ติเกรเตอร์ (Integrator) คือ วงจรกําเนดิ สญั ญาณคลืน่ สามเหล่ียม (Triangular wave generator) 4. วงจรมลั ติไวเบรเตอร์ (Multi-vibrator) ทาํ หนา้ ท่กี าํ เนิดรูปคลน่ื สเ่ี หลี่ยม ELWE(Thailand) หน้า 3

4 วชิ า เครอ่ื งมอื วัดไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ บทท่ี 7 รหัสวิชา 2104 – 2204 5. วงจรขยายสญั ญาณเอาตพ์ ุต (Output Amplifier 1,2) ทาํ หน้าที่ปรบั ขนาด ของสญั ญาณทีส่ ร้างได้ปกติจะปรบั ไดร้ ะหวา่ ง 0.1VP-P-10VP-P 7. วงจรเปลย่ี นรูปคล่ืน (Shaping circuit) ทําหนา้ ทีเ่ ปล่ยี นรปู คลนื่ สามเหลี่ยม เป็นคล่ืนไซน์ วงจรนจี้ ะใช้วงจรขา่ ยผสมระหว่างตวั ตา้ นทาน กับไดโอด 6. สวติ ชเ์ ลอื กสญั ญาณ (Selector switch) ทําหนา้ ท่ี เลือกสัญญาณชนดิ ที่ ตอ้ งการสง่ ออกทางเอาต์พตุ คณุ สมบตั ิของ Function Generator Function Generator ใช้เป็นเครื่องกําเนิดรูปคลื่นได้หลายรูปคลื่น ท่ีสามารถ ควบคุมได้ ท้ังการปรับแต่งรูปคลื่น ปรับแต่งขนาดและปรับแต่งความถี่ได้ เพื่อใช้เป็น สัญญาณส่งออกไปยัง วงจร อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ เพ่ือการตรวจสอบการทํางาน เพ่ือตรวจซ่อม ปรับแต่ง หรือเปรียบเทียบค่า โดยใช้สัญญาณท่ีกําเนิดได้เป็นสัญญาณ มาตรฐาน (References Signal) หรือสัญญาณอ้างอิง เคร่ืองกําเนิดสัญญาณที่ได้ มาตรฐานควรมคี ณุ ลักษณะทั่วไปดังต่อไปนี้ 1. ความถี่ท่ีของสัญญาณท่ีสร้างขึ้นต้องสามารถปรับค่าได้ในย่านความถี่ที่กว้าง ตั้งแต่ 1Hz- 1MHz เปน็ ตน้ ในความถแ่ี ต่ละคา่ จะต้องมคี วามคงท่ี และสามารถอา่ นค่าได้ 2. สัญญาณท่ีสร้างขึ้นต้องไม่มีรูปร่างท่ีผิดเพ้ียนไปจากมาตรฐาน และไม่มีสัญญาณ รบกวน ปะปนออกมา 3. สามารถปรบั หรือ ควบคมุ ขนาด (Amplitude)ของสัญญาณท่ีสร้างขึ้นได้ ต้ังแต่ขนาด ต่ําท่ีสดุ จนถงึ ขนาดทีส่ งู ทสี่ ดุ 3) การเลือกรูปสญั ญาณ สามารถผลติ รูปคลื่นสญั ญาณเอาต์พุตได้หลายชนิดเช่น รูปคล่ืน ไซน์ (Sine Wave) รูปคล่ืนสามเหลี่ยม (Triangular wave) รูปคลื่นฟันเล่ือย (Saw tooth Wave) รูปคลื่นสี่เหลี่ยม (Square Wave) และรูปคลื่นพัลส์ ( Pulse Wave ) เป็นต้น ELWE(Thailand) หน้า 4

5 วิชา เครือ่ งมือวดั ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ บทท่ี 7 รหัสวิชา 2104 – 2204 การใช้งาน Function Generator ในบทเรียนน้ีเลือก Function Generator ผลิตภัณฑ์ของ Agilent model 33120A มาใช้ในการอธิบานการทํางาน เป็น Function Generator แบบดิจิตอลท่ีใช้ งานไดง้ ่ายและมคี วามแมน่ ยําสูง ดังรปู ที่ 7-4 รปู ที่ 7-4 Function Generator Agilent 33120A การใชง้ านปมุ่ ควบคมุ ตา่ งๆมีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี ปุ่มที่ 1 ปุ่มเปดิ ปดิ เครื่อง ปมุ่ ที่ 2 ป่มุ หมนุ เพอื่ ปรบั เพิม่ หรอื ลด ความถ่ี และขนาดของสัญญาณ ปมุ่ ที่ 3 ป่มุ กดเพอื่ เลอื กกําเนิดคล่ืนไซน์ ปมุ่ ท่ี 4 ปุ่มกดเพอื่ เลอื กกาํ เนิดคล่ืนส่ีเหล่ียม ปุ่มที่ 5 ปมุ่ กดเพือ่ เลอื กกาํ เนิดคลืน่ สามเหล่ยี ม ปมุ่ ท่ี 6 ปมุ่ กดเพอื่ เลอื กกาํ เนดิ คลื่นฟันเลอ่ื ย ปมุ่ ที่ 7 ปุ่มกดเพอ่ื เลือกปรบั ความถ่ขี องสญั ญาณ ปมุ่ ที่ 8 ป่มุ กดเพ่อื เลอื กปรับขนาดของสัญญาณ ป่มุ ที่ 9 ปมุ่ กดเพอื่ เลือกเมนู เพื่อปรบั ความถ่ี และขนาดของสญั ญาณ ปุ่มที่ 10 ป่มุ กดเพอื่ เพ่ิม ลดค่าความถี่ และขนาดของสญั ญาณ ปมุ่ ที่ 11 ข้ัวต่อสญั ญาณออกไปใช้งาน ปุ่มท่ี 12 จอแสดงค่า ชนดิ ความถ่ี และขนาดของสญั ญาณ ELWE(Thailand) หน้า 5

6 วิชา เครอื่ งมือวดั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ บทที่ 7 รหสั วิชา 2104 – 2204 ตัวอย่างท่ี 7-1 จงตั้งค่าแรงดัน และความถี่ของสัญญาณไซน์ที่กําเนิดจาก Function generator เทา่ กบั 20VP-P, f=1 kHz รูปที่ 7-5 การตัง้ คา่ Sine wave 20VP-P, f=1 kHz วธิ ที ํา 1. กดสวิตช์ เปดิ เครอื่ ง 2. กดปุ่ม เลอื กคลนื่ ไซน์ 3. กดป่มุ Ampl เพอื่ ปรบั ขนาดแรงดัน 4. หมุนปุ่มปรับขนาดแรงดัน จนไดค้ ่า 20.00 VP-P 5. กดป่มุ Freq เพอ่ื ปรบั ความถี่ 6. หมนุ ปุ่มปรับความถ่ี จนได้คา่ 1.00 kHz 7. อ่านค่า แรงดัน 20.00 VP-P และความถี่ 1.00 kHz ท่ีหน้าจอเครื่อง และใช้ ออสซิลโลสโคปมาวดั รูปคลื่นไซน์ที่ขัว้ เอาตพ์ ุตจะได้ตรงกับที่ปรับตั้งค่า ดงั รูปท่ี 7-5 ELWE(Thailand) หน้า 6

7 วิชา เครอ่ื งมือวดั ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ บทท่ี 7 รหสั วชิ า 2104 – 2204 ตัวอย่างท่ี 7-2 จงตั้งค่าแรงดัน และความถี่ของสัญญาณ Square wave ที่กําเนิดจาก Function generator เท่ากบั 2VP-P, f=100 Hz รปู ท่ี 7-6 การตง้ั คา่ Square wave 2VP-P, f=100 Hz วธิ ที ํา 1. กดสวติ ช์ เปิดเครอ่ื ง 2. กดปุ่ม เลอื กคลื่น Square wave 3. กดป่มุ Ampl เพอ่ื ปรบั ขนาดแรงดนั 4. หมุนปมุ่ ปรบั ขนาดแรงดนั จนได้คา่ 2.00 VP-P 5. กดปมุ่ Freq เพอ่ื ปรับความถ่ี 6. หมุนปุ่มปรับความถ่ี จนไดค้ า่ 100 Hz 7. อ่านค่า แรงดัน 2.00 VP-P และความถ่ี 100 Hz ท่ีหน้าจอเครื่อง และใช้ ออสซิลโลสโคปมาวัดรูปคลื่น Square wave ที่ข้ัวเอาต์พุตจะได้ตรงกับที่ปรับตั้งค่า ดัง รปู ที่ 7-6 ELWE(Thailand) หนา้ 7

8 วิชา เครื่องมือวดั ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ บทท่ี 7 รหสั วชิ า 2104 – 2204 แบบฝกึ หัดบทท่ี 7 เครื่องกําเนิดสัญญาณ จากรูปตอ่ ไปนใ้ี ชต้ อบคาํ ถามขอ้ 1-2 1. ข้อใดคือ คล่ืนรปู ไซน์ ก.A ข. B ค. C ง. D 2. ขอ้ ใดคือ คลืน่ Square wave ก.A ข. B ค. C ง. D 3.ขอ้ ใดไม่ใชเ่ ครอ่ื งกําเนดิ สัญญาณ ก.เคร่อื งกาํ เนิดสญั ญาณความถีเ่ สียง ข. เครอื่ งกาํ เนิดสญั ญาณความถ่วี ิทยุ ค. ฟังกช์ ันเจนเนอร์เรเตอร์ ง. ออสซิลโลสโคป เจนเนอเรอตอร์ จากรปู ตอ่ ไปน้ใี ชต้ อบคําถามข้อ 4-7 ELWE(Thailand) หน้า 8

9 วชิ า เครื่องมอื วดั ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ บทที่ 7 รหัสวชิ า 2104 – 2204 4.จากรูปคือวงจรภายใน เครอ่ื งมือวดั ชนิดใด ก.เคร่อื งกาํ เนิดสัญญาณความถเี่ สียง ข. พลั ส์เจนเนอรเ์ รเตอร์ ค. ฟงั ก์ชันเจนเนอร์เรเตอร์ ง. ออสซลิ โลสโคป เจนเนอเรอตอร์ 5.วงจรหมายเลขใดทําหนา้ ที่ปรับความถี่(Frequency)ของสญั ญาณเอาตพ์ ุต ก.1 ข. 2 ค. 3 ง. 5 6.วงจรหมายเลขใดทําหน้าที่ปรับขนาด(Amplitude)ของสญั ญาณเอาต์พตุ ก.1 ข. 2 ค. 3 ง. 5 7.วงจรหมายเลขใดทําหน้าท่สี ร้างสญั ญาณสามเหลยี่ ม ก.1 ข. 2 ค. 3 ง. 5 จากรูปต่อไปน้ใี ช้ตอบคาํ ถามขอ้ 8-10 8. ป่มุ หมายเลขใดทําหนา้ ท่ีปรับความถ(่ี Frequency)ของสญั ญาณเอาตพ์ ุต ก.2และ3 ข. 2และ7 ค. 3และ7 ง. 2และ8 9. ปมุ่ หมายเลขใดทาํ หนา้ ทปี่ รับขนาด(Amplitude)ของสัญญาณเอาตพ์ ตุ ก.2และ3 ข. 2และ7 ค. 3และ7 ง. 2และ8 10. ปุม่ หมายเลขใดใชเ้ ลือกรปู แบบของคลื่นสัญญาณ Sine wave ก.5 ข. 4 ค. 3 ง. 6 ELWE(Thailand) หน้า 9

10 วิชา เคร่อื งมอื วดั ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ บทท่ี 7 รหสั วชิ า 2104 – 2204 จากรปู ต่อไปนี้ใช้ตอบคําถามข้อ 11-12 11.การปรับตั้ง Function generator ดังรูปใดจะสามารถกําเนิดสัญญาณได้ดังรูป ข้างบน 12. ความถ่ขี องคล่นื สญั ญาณทก่ี าํ เนดิ ไดเ้ ทา่ กับ ง. 10 kHz ก.1 MHz ข. 10 MHz ค. 1 kHz ELWE(Thailand) หนา้ 10


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook