แผนการสอน หน่วยท่ี 13 สอนคร้ังท่ี 15 ชื่อวชิ า วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง ชั่วโมง 4 ช่ือหน่วย ทฤษฎีของเทเวนิน สาระสาคญั ทฤษฎีของเทเวนิน เรียกวา่ เทเวนิน ธีโอร่ี เป็ นวศิ วกร ชาวฝรั่งเศส ไดค้ น้ พบทฤษฎีที่สามารถ แกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ า ที่จะตอ้ งสร้างสมการที่ยงุ่ ยาก ตอ้ งใชเ้ มทริกและดีเทอร์มิแนนทแ์ กส้ มการ ทฤษฎีของ เทเวนินเหมาะสาหรับการหาคา่ กระแสไหลผา่ นตวั ตา้ นทานตวั ใดตวั หน่ึงท่ีคา่ ความตา้ นทานเปล่ียนไปแตก่ ็ ยงั สามารถหาคา่ กระแสไหลผา่ นความตา้ นทานน้นั ได้ โดยไมต่ อ้ งต้งั สมการใหม่เหมือนกฎของเคอร์ชอฟฟ์ จุดประสงค์การเรียน จุดประสงค์ทว่ั ไป 1. รู้จกั หลกั การทฤษฎีของเทเวนิน 2. รู้จกั การหาแรงดนั เทเวนินและความตา้ นทานเทเวนิน 3. ศึกษาการเขียนวงจรสมมูลยข์ องเทเวนิน 4. ศึกษาตวั อยา่ งการคานวณ ทฤษฎีของเทเวนิน 5. เพอื่ ปฏิบตั ิการทดลองตามทฤษฎีของเทเวนิน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหลกั การ ทฤษฎีของเทเวนินไดถ้ ูกตอ้ ง 2. อธิบายการหาแรงดนั ของเทเวนินและความตา้ นทานเทเวนินไดถ้ ูกตอ้ ง 3. เขียนวงจรสมมลู ยข์ องเทเวนินไดถ้ ูกตอ้ ง 4. คานวณหาคา่ ปริมาณทางไฟฟ้ าดว้ ยทฤษฎีของเทเวนินไดถ้ ูกตอ้ ง 5. ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎีของเทเวนินไดถ้ ูกตอ้ ง
เนือ้ หาสาระ หน่วยที่ 13 ช่ือหน่วยการสอน ทฤษฎีเทวนิ ิน ทฤษฎีของเทวนิ ิน ( Thevenin’s Theorem ) กล่าวไวว้ า่ ในวงจรไฟฟ้ าใดๆเราสามรถยบุ หรือรวมวงจรใหอ้ ยใู่ นรูปของแหล่งจ่ายแรงดนั ไฟฟ้ า (Voltage ) หน่ึงตวั และตวั ตา้ นทานหน่ึงตวั ได้ ซ่ึงเรียกวา่ วงจรสมมลู ของเทวนิ ิน ( Thevenin Equivalent Circuit ) เม่ือ VTH = แรงดนั เทเวนิน RTH = ความตา้ นทานเทวนิ ิน รูปท่ี 1 วงจรสมมลู ของเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit )
หลกั การทฤษฎขี องเทวนิ ิน ( Thevenin’s Theorem ) รูปที่ 2 จากวงจรรูปที่ 2 สามารถนาเอาหลกั การทฤษฎีของเทเวนิน ( Thevenin’s Theorem ) มาใชเ้ ป็นข้นั ๆดงั น้ี 1. ปลดโหลด RL ออกจากจุด A – B 2. หาค่าแรงดนั เทเวนิน VTH ซ่ึงเป็นแรงดนั ระหวา่ งจุด A- B นน่ั คือแรงดนั ไฟฟ้ าท่ีตกคร่อม ตวั ตา้ นทาน R2 นน่ั เอง ดงั แสดงในวงจรรูปท่ี 2 รูปท่ี 3 จากวงจรรูปที่ 3 พิจารณาเห็นวา่ แรงดนั ไฟฟ้ าที่ตกคร่อม ตวั ตา้ นทาน R2 เท่ากบั กระแสไฟฟ้ าที่ ไหลผา่ นตวั ตา้ นทาน R2 คูณดว้ ย คา่ ความตา้ นทาน R2 นนั่ เอง
I E เม่ือ R1 R 2 จะได้แรงดันไฟฟ้ าตกคร่อมตวั ต้านทาน R2 VTH I R2 R1 E R2 R2 ดงั น้นั แรงดนั เทเวนิน VTH E R R2 1 R 2 1.ลดั วงจรแหล่งจ่ายแรงดนั หรือเปิ ดวงจรแหล่งจา่ ยกระแสแลว้ แตก่ รณี 2.หาคา่ ความตา้ นทานเทเวนิน RTH โดยมองเขา้ ไปท่ีจุด A- B ดงั แสดงในรูปที่ 3 รูปท่ี 4 จากวงจรรูปท่ี 4 เมื่อมอง เขา้ จุด A-B จะเห็นตวั ตา้ นทาน R1 ขนานกบั R2 ไดค้ า่ ความตา้ นทานเทเวนิน RTH ดงั น้ี R TH R1R 2 R1 R2 3. นาค่าแรงดนั ไฟฟ้ าเทเวนิน VTH และคา่ ความตา้ นทานเทเวนิน RTH มาเขียนวงจรสมมูลของว เทเวนิน แลว้ นาโหลด RL ท่ีปลดออกในตอนแรกมาต่ออีกคร้ังหน่ึง ดงั แสดงในรูปที่ 5 เพื่อ หาคา่ กระแสไฟฟ้ าที่ไหลผา่ น RL ตามที่ตอ้ งการ
รูปท่ี5 จากวงจรรูปที่ 5 จะคานวณหาค่ากระแสไหลผา่ น RL ไดจ้ ากสูตร IL VTH R TH R L ตวั อย่างท่ี 1 จากวงจรรูปท่ี 6 จงคานวณหาค่า RTH ,VTH และ IL รูปที่ 6 วธิ ีทา 1.ปลด RL ออกจากวงจรแลว้ หาค่าแรงดนั เทเวนิน VTH ดงั รูปที่ 7
รูปท่ี 7 I E1 E2 15 V 5 V 1.111 mA R1 R2 3 kΩ 6 kΩ V1 IR1 1.111 mA 3 kΩ 3.333 V V3 IR3 1.111 mA 6 kΩ 6.666 V VTH E1 V1 15 V 3.333 V 11.667 V หรือ VTH E2 V2 5 V 6.666 V 11.666 V 2.หาความตา้ นทานเทเวนิน โดยลดั วงจร ( Short Circuit ) ที่แหล่งจา่ ยแรงดนั E1 และ E2ดงั รูปท่ี 8
รูปที่ 8 R TH R1R 2 3 kΩ 6 kΩ 2 kΩ R1 R2 3 kΩ 6 kΩ 3.นาค่า VTH และ RTH มาเขียนวงจรสมมูลของเทเวนิน (Thevenin Equivalent Circuits ) แลว้ นพโหลด RL ที่ปลดออกมาต่อ ดงั แสดงในรูปที่ 9 รูปท่ี 9 กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ตรวจความพร้อมของผเู้ รียนโดยการเขา้ แถวแลว้ ขานช่ือ 2. แจกแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี13 3. ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซกั ถาม ทฤษฎีการวางซอ้ น 4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนเกี่ยวกบั ทฤษฎีเทเวนิน 5. ครูอธิบายทฤษฎีเทเวนินพร้อมตวั อยา่ งการคานวณ 6. ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั การแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ าโดยใชท้ ฤษฎีเทเวนิน มีข้นั ตอนอยา่ งไร 7. สาธิตการปฏิบตั ิการทดลอง 8. แจกใบงานและควบคุมการปฏิบตั ิการทดลอง 9. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปตอบขอ้ สงสยั 10. ประเมินผลการเรียนของนกั เรียนในหน่วยท่ี 13 จากแบบทดสอบหน่วยที่13 11. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาในหน่วยที่ 14 งานทมี่ อบหมายหรือกจิ กรรม (ก่อนเรียน, ขณะเรียน,หลงั เรียน)
ก่อนเรียน ใหศ้ ึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเกี่ยวกบั ทฤษฎีของเทวนิ ิน ขณะเรียน ใหน้ กั เรียนมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ียวกบั ทฤษฎีของเทวนิ ิน หลงั เรียน สรุปเน้ือหาจากที่นกั เรียนไดม้ ารายงานหนา้ ช้นั เรียนและประเมินผล สื่อการเรียนการสอน
จากแผนการสอน ได้กาหนดสื่อการสอนทใี่ ช้ให้สอดคล้องกบั เนือ้ หาหรือวตั ถุประสงค์ไว้ดงั นี้ หน่วยการสอน ประเภทสื่อการสอน รหสั ของสื่อ ( ส่ิงพมิ พ์, โสตทศั น์, หุ่นจาลองหรือของจริง ) 13 หนงั สืออา้ งอิง ชยั วฒั น์ ลิ้มพรวจิ ิตรวไิ ล , สมเกียรติ พ่งึ อาตม์ และ จิราภรณ์ จนั แดง,สมศกั ด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง. : ศนู ยส์ ่งเสริม-อาชีวะ, 2546. สื่อ - ซีดีการบรรยาย เร่ือง ทฤษฎีเทวนิ ิน - แบบฝึกหดั
การประเมนิ ผล จากแผนการสอน วดั ผลประเมนิ ผล ก่อนการเรียน ขณะเรียน และหลงั เรียน วธิ กี าร โจทย์ปัญหาหรือหลกั เกณฑ์ ก่อนเรียน 1.สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม ขณะเรียน 2.สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธิตหนา้ ช้นั เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม หลงั เรียน 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
บันทึกหลงั การสอน หลงั จากได้ทาการสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรพจิ ารณาสรุปประเมนิ ผลการสอนคร้ังนี้โดยทา เครื่องหมาย / ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ หรือบนั ทกึ ให้คาแนะนาเพมิ่ เติมกไ็ ด้ พร้อมรายงานตามลาดบั ข้นั เพอื่ ได้รับทราบ รายการหวั ข้อประเมนิ ใช่ ไม่ใช่ หมายเหตุ 1. ทาการสอนไดค้ รบตามวตั ถุประสงค์ / 2. นาเขา้ สู่บทเรียนตรงตามท่ีกาหนด / 3. สามารถดาเนินการสอนตามแผนการสอน / 4. ใชส้ ่ือการสอนครบตามแผนการสอน / 5. ใชค้ าถามในระหวา่ งการสอนไดค้ รบ / 6. อ่ืน ๆ (โปรดระบุ)......................................... บันทกึ เพม่ิ เติม ( ผลการใช้แผนการสอน, ผลการเรียนของนักเรียน, ผลการสอนของครู ) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
แผนการสอน หน่วยท่ี 14 สอนคร้ังที่ 16 ชื่อวชิ า วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง ช่ัวโมง 4 ช่ือหน่วย ทฤษฎีนอร์ตนั สาระสาคญั ทฤษฎีของนอร์ตนั เรียกวา่ นอร์ตนั ธีโอร่ี จะตรงกนั ขอ้ มกบั ทฤษฎีเทเวนินคือ วงจรสมมูลของเท เวนินจะอยใู่ นรูปแหล่งจา่ ยแรงดนั แตท่ ฤษฎีนอร์ตนั อยใู่ นรูปแหล่งจา่ ยกระแสส่วนการหาคา่ ความตา้ นทาน เทียบเท่าจะเหมือนกนั ทฤษฎีของนอร์กนั กล่าวไวว้ า่ ในวงจรไฟฟ้ าใด ๆ เราสามารถยบุ หรือรวมวงจรให้อยู่ ในรูปของแปล่งจา่ ยกระแสไฟฟ้ าหน่ึงตวั ขนานกบั ตวั ตา้ นทานหน่ึงตวั ได้ ซ่ึงเรียกวา่ วงจรสมมลู ลของนอร์ ตนั จุดประสงค์การเรียน จุดประสงค์ทว่ั ไป 1. รู้จกั หลกั การทฤษฎีของนอร์ตนั 2. รู้จกั การหากระแสและความตา้ นทานนอร์ตนั 3. ศึกษาการเขียนวงจรสมมูลของนอร์ตนั 4. ศึกษาตวั อยา่ งการคานวณ ทฤษฎีของนอร์ตนั 5. เพอ่ื ปฏิบตั ิการทดลองตามทฤษฎีของนอร์ตนั จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายหลกั การ ทฤษฎีของนอร์ตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. อธิบายการหาแรงดนั ของนอร์ตนั และความตา้ นทานนอร์ตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 3. เขียนวงจรสมมลู ของนอร์ตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. คานวณหาค่าปริมาณทางไฟฟ้ าดว้ ยทฤษฎีของนอร์ตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 5. ตอ่ วงจรทดลองตามทฤษฎีของนอร์ตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง
เนือ้ หาสาระ หน่วยที่ 14 ชื่อหน่วยการสอน ทฤษฎีนอร์ตนั ทฤษฎีของนอร์ตัน( Norton’s Theores ) ทฤษฎีของนอร์ตนั ( Norton’s Theores ) กล่าวไวว้ า่ ในวงจรไฟฟ้ าใดๆ เราสามารถยบุ หรือรวม วงจรให้อยใู่ นรูปของแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้ าหน่ึงตวั ขนานกบั ตวั ตา้ นทาน หน่ึงตวั ได้ ซ่ึงเรียกวา่ วงจร สมมูลของนอร์ตนั (Norton Equivalent Circuit) เมื่อ IN = กระแสไฟฟ้ านอร์ตนั RN = ความตา้ นทานนอร์ตนั รูปที่ 1 จากวงจรรูปท่ี 1 สามารถนาเอาหลกั การทฤษฎีของนอร์ตนั ( Norton’s Theores ) มาใช้ เป็นข้นั ๆดงั น้ี 1.ปลดโหลด RL ออกแลว้ ลดั วงจร (Short Circuit) ท่ีจุด A- B 2.หาค่ากระแสนอร์ตนั IN ซ่ึงเป็นกระแสไฟฟ้ าท่ีไหลระหวา่ งจุด A – B ในขณะลดั วงจร ที่จุด A-B ดงั แสดงในรูปท่ี 2
รูปท่ี 2 จากวงจรรูปท่ี 2 กระแสนอร์ตนั (Norton Equivalent Current) ก็คือกระแสไฟฟ้ าท่ี ไหลผา่ นตวั ตา้ นทาน R3 นน่ั เอง ซ่ึงจะหาค่าไดด้ งั น้ีคือ I E I E R1 R 2R3 R1 R 2R 3 R 2R 3 I ER 2 R 3 R2 R R1R 2 R 3 R 2R 3 3 R2 R3 ดงั น้นั จากหลกั การของการแบ่งกระแสจะไดว้ า่ IN I R R2 2 R 3 IN E R R R2 R3 R R R R2 2 R 1 2 R3 2 3 3 นนั่ คือ กระแสนอร์ตนั IN E R1R 2 R2 R3 R2R3 1.กาค่าความตา้ นทาน RN ซ่ึงเป็นคา่ ความตา้ นทานรวมท้งั หมดของวงจร ท่ีมองเขา้ ท่ีจุด A-B และการหาคา่ ความตา้ นทานนอร์ตนั RN จะตอ้ งปลดโหลด (RL) ออกจากจุด A-B และปลดแหล่งจ่าย แรงดนั ไฟฟ้ าในวงจรออกแลง้ ลดั วงจร ท่ีจุดปลดแหล่งจ่าย ดงั แสดงในรูปท่ี 3
รูปท่ี 3 จากวงจรในรูปท่ี 3 เม่ือมองเขา้ ที่จุด A-B จะไดค้ ่าความตา้ นทานนอร์ตนั RN R3 R1R 2 R1 R2 2.นาค่ากระแสนอร์ตนั และความตา้ นทาทที่ได้ มาเขียนเป็ นวงจรสมมลู นอร์ตนั (Norton Equivalent Circuit) ดงั แสดงในรูปท่ี 4 แลว้ จึงนาโหลด ( RL) มาตอ่ ท่ีจุด A – B เพอ่ื คานวณหา คา่ กระแสไฟฟ้ า ท่ีไหลผา่ นโหลด ( RL ) รูปที่ 4 จากวงจรรูปที่ 4 จากหลกั การแบ่งกระแสจะได้ IL IN R RN N R L
IL VTH R TH R L ตวั อย่างท่ี 1 จากวงจรรูปที่ 5 จงหาค่า IN,RN และ IL รูปที่ 5 วธิ ีทา หาคา่ IN โดยปลด RL ออกแลว้ ลดั วงจร(Short Circuit) ดงั รูปที่ 6 รูปท่ี 6
I1 E1 10 V 2 A R1 5 Ω I2 E2 5 V 0.625 A R2 8 Ω IN I1 I2 2 A 0.625 A 2.625 A หาค่า RN โดยการเปิ ดวงจร แลว้ ลดั วงจรที่แหล่งจา่ ยแรงดนั ไฟตรง E1และ E2 ดงั รูปที่ 7 รูปท่ี 7 RN R1R 2 5 8 3.076 R1 R2 5 8 นาค่า IN และ RN ที่ไดม้ าเขียนเป็นวงจรสมมูลนอร์ตนั (Norton Equivalent Circuit) ดงั แสดง ในรูปที่ 8 แลว้ จึงนาโหลด ( RL ) มาตอ่ ท่ีจุด A-B อีกคร้ังหน่ึง เพ่อื คานวณหาคา่ กระแสไฟฟ้ า ท่ีไหลผา่ น โหลด (RL) รูปที่ 8
จากการแบ่งกระแสจะได้ IL IN RN 2.625 A 3.076 Ω Ω 1.328 A RN RL 3.076 Ω 3
กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ตรวจความพร้อมของผเู้ รียนโดยการเขา้ แถวแลว้ ขานช่ือ 2. แจกแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่14 3. ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซกั ถาม ทฤษฎีนอร์ตนั 4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนเกี่ยวกบั ทฤษฎีนอร์ตนั 5. ครูอธิบายทฤษฎีนอร์ตนั พร้อมตวั อยา่ งการคานวณ 6. ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั การแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ าโดยใชท้ ฤษฎีนอร์ตนั มีข้นั ตอนอยา่ งไร 7. สาธิตการปฏิบตั ิการทดลอง 8. แจกใบงานและควบคุมการปฏิบตั ิการทดลอง 9. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปตอบขอ้ สงสยั 10. ประเมินผลการเรียนของนกั เรียนในหน่วยที่ 14 จากแบบทดสอบหน่วยท่ี14 มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาในหน่วยท่ี 15 ตอ่ ไป
งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรม (ก่อนเรียน, ขณะเรียน,หลงั เรียน) ก่อนเรียน ใหศ้ ึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเกี่ยวกบั ทฤษฏีนอร์ตนั ขณะเรียน ใหน้ กั เรียนมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ียวกบั ทฤษฎีนอร์ตนั หลงั เรียน สรุปเน้ือหาจากที่นกั เรียนไดม้ ารายงานหนา้ ช้นั เรียนและประเมินผล
ส่ือการเรียนการสอน จากแผนการสอน ได้กาหนดส่ือการสอนทใ่ี ช้ให้สอดคล้องกบั เนือ้ หาหรือวตั ถุประสงค์ไว้ดงั นี้ หน่วยการสอน ประเภทส่ือการสอน รหัสของส่ือ ( ส่ิงพมิ พ์, โสตทศั น์, หุ่นจาลองหรือของจริง ) 14 หนงั สืออา้ งอิง ชยั วฒั น์ ลิ้มพรวจิ ิตรวไิ ล , สมเกียรติ พ่งึ อาตม์ และ จิราภรณ์ จนั แดง,สมศกั ด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง. : ศูนยส์ ่งเสริม-อาชีวะ, 2546. ส่ือ - ซีดีการบรรยาย เร่ืองทฤษฏีนอร์ตนั - แบบฝึกหดั
การประเมนิ ผล จากแผนการสอน วดั ผลประเมนิ ผล ก่อนการเรียน ขณะเรียน และหลงั เรียน วธิ กี าร โจทย์ปัญหาหรือหลกั เกณฑ์ ก่อนเรียน 1.สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม ขณะเรียน 2.สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธิตหนา้ ช้นั เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม หลงั เรียน 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
บันทึกหลงั การสอน หลงั จากได้ทาการสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรพจิ ารณาสรุปประเมินผลการสอนคร้ังนี้โดยทา เครื่องหมาย / ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ หรือบนั ทกึ ให้คาแนะนาเพมิ่ เตมิ กไ็ ด้ พร้อมรายงานตามลาดบั ข้นั เพอ่ื ได้รับทราบ รายการหัวข้อประเมิน ใช่ ไม่ใช่ หมายเหตุ 1. ทาการสอนไดค้ รบตามวตั ถุประสงค์ / 2. นาเขา้ สู่บทเรียนตรงตามที่กาหนด / 3. สามารถดาเนินการสอนตามแผนการสอน / 4. ใชส้ ่ือการสอนครบตามแผนการสอน / 5. ใชค้ าถามในระหวา่ งการสอนไดค้ รบ / 6. อ่ืน ๆ (โปรดระบุ)......................................... บันทกึ เพม่ิ เติม ( ผลการใช้แผนการสอน, ผลการเรียนของนักเรียน, ผลการสอนของครู ) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
แผนการสอน หน่วยท่ี 8 ชื่อวชิ า วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง สอนคร้ังท่ี 8 ชื่อหน่วย การแปลงวงจรสตาร์ เดลตา้ และวงจรบริดจ์ ชั่วโมง 4 สาระสาคญั การตอ่ วงจรความตา้ นทานในวงจรไฟฟ้ า อาจไมใ่ ช่วงจรอนุกรม วงจรขนานหรือวงจรผสม เสมอไป จึงทาใหย้ ากต่อการวเิ คราะห์ ดงั น้นั ตอ้ งทาการเปล่ียนโครงสร้างของวงจรเป็ นอยา่ งอ่ืนเพื่อให้ สามารถคานวณวงจรไดง้ ่ายข้ึน มี 2 แนวทางคื่อ 1. การแปลงวงจรที่ต่อแบบสตาร์ ใหเ้ ป็นเดลตา้ 2. การแปลงวงจรท่ีต่อแบบเดลตา้ ใหเ้ ป็นสตาร์ วงจรบริดจแ์ บบวตี สโตน เรียกวา่ วตี สโตน บริดจ์ เซอร์กิต เป็นวงจรที่ใชส้ าหรับหาค่าความตา้ นทาน ที่ไม่ทราบคา่ โดยใชห้ ลกั การเปรียบเทียบคา่ ความตา้ นทานที่ตอ้ งการทราบค่ากบั ค่าความตา้ นทานมาตรฐาน ท่ีทราบคา่ แลว้ วงจรบริดจจ์ ะมีอยู่ 2 สภาวะ คือ บริดจส์ ภาวะสมดุล บริดจส์ ภาวะไม่สมดุล จุดประสงค์การเรียน จุดประสงค์ทว่ั ไป 1.ศึกษาการแปลงวงจรสตาร์ เดลตา้ 2. ศึกษาวงจรบริดจส์ ภาวะสมดุล 3.ศึกษาวงจรบริดจส์ ภาวะไม่สมดุล 4.รู้จกั การหาค่าความตา้ นทานท่ีไม่ทราบคา่ ดว้ ยวงจรบริดจ์ 5.ศึกษาตวั อยา่ งการคานวณ 6.เพื่อปฏิบตั ิการทดลองวงจรแปลงสตาร์ เดลตา้ และวงจรบริดจ์ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกวธิ ีการแปลงวงจรสตาร์ เดลตา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง 1.อธิบายลกั ษณะวงจรบริดจส์ ภาวะสมดุลไดถ้ ูกตอ้ ง 2.อธิบายลกั ษณะวงจรบริดจส์ ภาวะไมส่ มดุลไดถ้ ูกตอ้ ง 4.คานวณวงจรการแปลงสตาร์ เดลตา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง 5.ปฎิบตั ิการทดลองวงจรสตาร์ เดลตา้ และวงจรบริดจไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง
เนือ้ หาสาระ หน่วยที่ 8 ช่ือหน่วยการสอน วงจรสตาร์ เดลตา้ และวงจรบริดจ์ การตอ่ วงจรความตา้ นทานในวงจรไฟฟ้ า อาจไมใ่ ช่วงจรอนุกรม วงจรขนานหรือวงจรผสมเสมอไป จึง ทาใหย้ ากตอ่ การวเิ คราะห์ ดงั น้นั ตอ้ งทาการเปล่ียนโครงสร้างของวงจรเป็นอยา่ งอ่ืนเพือ่ ใหส้ ามารถ คานวณวงจรไดง้ ่ายข้ึน มี 2 แนวทางค่ือ 1. การแปลงวงจรท่ีตอ่ แบบสตาร์ ใหเ้ ป็นเดลตา้ 2. การแปลงวงจรที่ต่อแบบเดลตา้ ใหเ้ ป็นสตาร์ วงจรบริดจ์แบบวตี สโตน(Wheatstone Bri วงจรบริดจแ์ บบวตี สโตน เรียกวา่ “ วตี สโตน บริดจ์ เซอร์กิต” (Wheatstone bridge circuit) เป็น วงจรที่ใชส้ าหรับการหาค่าความตา้ นทานที่ไมท่ ราบค่าโดยใชห้ ลกั การเปรียบเทียบค่าความตา้ นทานท่ี ตอ้ งการทราบค่ากบั ความตา้ นทานมาตรฐานที่ทราบค่าแลว้ วงจรบริดจจ์ ะมีอยู่ 2 สภาวะ คือบริดจส์ ภาวะ สมดุล และบริดจส์ ภาวะไม่สมดุล 1. วงจรบริดจ์สภาวะสมดุล ( Balance bridge circuit ) หลกั การของวงจรบริดจส์ มดุล กม็ ีอยวู่ า่ เมื่อเราทราบคา่ ของความตา้ นทาน ตามวงจรใน รูป จนกระทง่ั เขม็ ของกลั ป์ วานอร์มิเตอร์ช้ีที่คา่ ศูนย์ ซ่ึงจะพบวา่ ในขณะน้นั ไม่ไดม้ ีกระแสไหลผา่ นกลั ป์
วานอร์มิเตอร์ เพราะวา่ ระดบั ของแรงดนั ท่ีจุด Rx กบั ท่ีจุด Rx มีค่าเท่ากนั หรือความต่างศกั ย์ ระหวา่ งจุด Rx กบั จุด Rx มีค่าเทา่ กบั ศนู ยโ์ วลท์ และในขณะน้ีถือวา่ วงจรบริดจอ์ ยใู่ นสภาวะสมดุล เมื่อวงจรบริดจอ์ ยใู นสภาวะสมดุล จะทาใหไ้ ดแ้ รงดนั ตกคร่อมที่ความตา้ นทาน R1 กบั Rx มี ค่าเท่ากนั และแรงดนั ตกคร่อมที่ความตา้ นทาน R2 กบั R3 มีคา่ เท่ากนั ดงั น้นั จะได้ V1 = Vx และ V2 = V3 แต่ V1 = I1 + R1 V2 = I1 + R2 V3 = I2 + R3 VX = I2 + Rx แทนคา่ V1 และ Vx จะได้ I1 R3 = I2 Rx แทนคา่ V2 และ V3 จะได้ I1 R2 = I2 R3 เมื่อเอาสมการที่หน่ึงมาหารสมการท่ีสองจะได้ R1 Rx R1 R2 Rx R1 R3 R2 R 2 = R 3 หรือ R x = R 3 หรือ
รูปที่ 1 จากวงจรรูปท่ี 1 เมื่อกระแส I1 มีค่าเท่ากบั I2 จะเป็นผลทาใหแ้ รงดนั ที่ตกคร่อม R1 เท่ากบั แรงดนั ตกคร่อม R2 และแรงดนั ตกคร่อมตกคร่อม R3เทา่ กบั รงดนั ตกคร่อม R4 หรือแรงดนั ท่ีจุด A เท่ากบั แรงดนั ที่จุด B ใส สภาวะน้ีกระแสไหลผา่ นแอมมิเตอร์จะเทา่ กบั ศูนยเ์ รียกสภาวะน้ีวา่ บริดจส์ มดุล ( Balance bridge ) ซ่ึง สามารถเขียนเป็นสมการไดด้ งั น้ี VR1 = VR2 หรือ I1R1 = I2 R2 …………………………..( 1 ) VR3 = VR4 หรือ I1R3 = I2 R4 …………………………..( 2 ) นาสมการท่ี (1 ) หารดว้ ยสมการที่ (2 ) จะได้ I1R1 I2R 2 I1R 3 I2R 4
ดงั น้นั จะได้ R1 R2 R3 R4 จากสมการดงั กล่าว สามารถนามาประยกุ ต์ เพือ่ หาคา่ ความตา้ นทานที่ไม่ทราบค่าได้ จากวงจรรูป ท่ี 1 ถา้ กาหนดใหค้ ่าตวั ตา้ นทาน R1 คือตวั ตา้ นทานที่ไม่ทราบค่า และตวั ตา้ นทาน R2,R3 และ R4 คือตวั ตา้ นทานที่ทราบคา่ แลว้ จะได้ R1 R2 R3 .........................................( 3 ) R4 2.วงจรบริดจ์สภาวะไม่สมดลุ จากวงจรรูปที่1 เม่ือกระแส I1 มีค่าไม่เทา่ กบั I2 จะเป็นผลทาใหแ้ รงดนั ท่ีตกคร่อม R1 ไม่เท่ากบั แรงดนั ตกคร่อม R2 และแรงดนั ตกคร่อม R3 ไมเ่ ทา่ กบั แรงดนั ตกคร่อม R4 หรือ แรงดนั ที่จุด A ไม่ เท่ากบั แรงดนั ที่จุด B ในสภาวะน้ีจะมีกระแสไหลผา่ นแอมมิเตอร์ เรียกสภาวะน้ีวา่ บริดจไ์ ม่สมดุลย์ ( UnBalance bridge ) ตวั อย่างที่ 1 จากวงจรรูปที่ 2 จงคานวณหาค่าตวั ตา้ นทานไม่ทราบค่า R3 รูปท่ี 2
วธิ ีทา R1 R3 R2 R4 จะได้ R3 R1 R4 3 kΩ 8 kΩ 3 kΩ R2 8 kΩ ตัวอย่างท่ี 2 จงคานวณหาค่าอตั ราส่วนความตา้ นทานของวงจรบริดจ์ (Bridge Circuit )แตล่ ะสาขา รูปที่ 3 สาขาท่ี 1 I1R1 R1 5 Ω 5 Ω I1R 2 R2 1 Ω สาขาท่ี 2 I2R3 R3 4 Ω 1.333 Ω I2R4 R4 3 Ω
กจิ กรรมการเรียนรู้ 1 ตรวจความพร้อมของผเู้ รียนโดยการเขา้ แถวแลว้ ขานชื่อ 2 แจกแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่8 3 ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซกั ถามเก่ียวกบั วงจรบริดวสี โตน 4 ครูนาเขา้ สู่บทเรียนเกี่ยวกบั วงจรบริดวสี โตน อธิบายประกอบการฉายซีดี 5 ครูอธิบายวงจรบริดวสี โตนพร้อมตวั อยา่ งการคานวณ โดยใชส้ ่ือแผน่ ใส 6 ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั การแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ าโดยใช้ วงจรบริดวสี โตนมีข้นั ตอน อยา่ งไร 7 สาธิตการปฏิบตั ิการทดลองแจกใบงานและควบคุมการปฏิบตั ิการทดลอง 8 ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปตอบขอ้ สงสัย 9 ประเมินผลการเรียนของนกั เรียนในหน่วยที่ 8 จากแบบทดสอบหน่วยที่8 มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาในหน่วยที่ 9 ตอ่ ไป
งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรม (ก่อนเรียน, ขณะเรียน,หลงั เรียน) ก่อนเรียน ใหศ้ ึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเกี่ยวกบั วงจรบริดวสี โตน ขณะเรียน ใหน้ กั เรียนมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเกี่ยวกบั วงจรบริดวสี โตน หลงั เรียน สรุปเน้ือหาจากท่ีนกั เรียนไดม้ ารายงานหนา้ ช้นั เรียนและประเมินผล
ส่ือการเรียนการสอน จากแผนการสอน ได้กาหนดสื่อการสอนทใี่ ช้ให้สอดคล้องกบั เนือ้ หาหรือวตั ถุประสงค์ไว้ดงั นี้ หน่วยการสอน ประเภทสื่อการสอน รหัสของส่ือ ( สิ่งพมิ พ์, โสตทัศน์, หุ่นจาลองหรือของจริง ) 8 หนงั สืออา้ งอิง ชยั วฒั น์ ลิ้มพรวิจิตรวไิ ล , สมเกียรติ พ่ึงอาตม์ และ จิ ราภรณ์ จนั แดง,สมศกั ด์ิ แสงศรี วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง. : ศูนยส์ ่งเสริม-อาชีวะ, 2546. สื่อ - ซีดีการบรรยายเรื่อง วงจรบริดวสี โตน - แบบฝึกหดั
การประเมนิ ผล จากแผนการสอน วดั ผลประเมนิ ผล ก่อนการเรียน ขณะเรียน และหลงั เรียน วธิ กี าร โจทย์ปัญหาหรือหลกั เกณฑ์ ก่อนเรียน 1.สังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม ขณะเรียน 2.สงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธิตหนา้ ช้นั เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม หลงั เรียน 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
บนั ทึกหลงั การสอน หลงั จากได้ทาการสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรพจิ ารณาสรุปประเมินผลการสอนคร้ังนีโ้ ดยทา เครื่องหมาย / ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ หรือบันทกึ ให้คาแนะนาเพม่ิ เตมิ กไ็ ด้ พร้อมรายงานตามลาดบั ข้นั เพอ่ื ได้รับทราบ รายการหวั ข้อประเมิน ใช่ ไม่ใช่ หมายเหตุ 1. ทาการสอนไดค้ รบตามวตั ถุประสงค์ / 2. นาเขา้ สู่บทเรียนตรงตามที่กาหนด / 3. สามารถดาเนินการสอนตามแผนการสอน / 4. ใชส้ ่ือการสอนครบตามแผนการสอน / 5. ใชค้ าถามในระหวา่ งการสอนไดค้ รบ / 6. อื่น ๆ (โปรดระบุ)......................................... บันทกึ เพม่ิ เติม ( ผลการใช้แผนการสอน, ผลการเรียนของนักเรียน, ผลการสอนของครู ) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
แผนการสอน หน่วยท่ี 15 สอนคร้ังที่ 17 ชื่อวชิ า วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง ชั่วโมง 4 ชื่อหน่วย การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด สาระสาคญั ทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด แมก็ ซิมมั่ พาวเวอร์ ทรายเฟอร์ ธิโอร่ี เป็นทฤษฎีที่ใชถ้ ่ายโอน กาลงั ไฟฟ้ าจากแหล่งจา่ ยไฟฟ้ าไปยงั โหลด เช่นจากเคร่ืองขยายเสียงซ่ึงเป็นแหล่งจา่ ยไฟฟ้ าถ่ายโอน กาลงั ไฟฟ้ าไปยงั ลาโพงท่ีทาหนา้ ที่เป็นโหลด โดยมีหลกั การวา่ การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด ไปยงั โหลด น้นั จะเกิดข้ึนสูงสุดเมื่อความตา้ นทานของโหลดเท่ากบั ความตา้ นทานภายในของแหล่งจา่ ยไฟฟ้ า การ แกป้ ัญหาและวเิ คราะห์วงจรไฟฟ้ าในเรื่องทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดจะใชว้ งจรสมมลู เทเวนิน จุดประสงค์การเรียน จุดประสงค์ทว่ั ไป 1.ศึกษาทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด 2.ศึกษาตวั อยา่ งการแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ า 3.เพือ่ ปฏิบตั ิการทดลองวงจรเพือ่ หากาลงั ไฟฟ้ า จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1.บอกลกั ษณะการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดไดถ้ ูกตอ้ ง 2.แกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ าไดถ้ ูกตอ้ ง 3.ปฏิบตั ิการทดลองวงจรเพอื่ หากาลงั ไฟฟ้ าไดถ้ กู ตอ้ ง
เนือ้ หาสาระ หน่วยที่ 15 ช่ือหน่วยการสอน การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด( Maximum Power Transfer Theorem ) ทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด เรียกวา่ “แมก็ ซิมม่ั พาวเวอร์ ทรานเฟอร์ ธีโอรี่” ( Maximum Power Transfer Theorem ) เป็นทฤษฎีท่ีใชถ้ ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าจากแหล่งจา่ ยไฟฟ้ าไปยงั โหลด เช่น จากเคร่ืองขยายเสียงซ่ึงเป็นแหล่งจา่ ยไฟฟ้ าไปยงั ลาโพงที่ทาหนา้ ท่ีเป็นโหลด โดยมีหลกั การ วา่ การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด ( Maximum Power ) ไปยงั โหลดน้นั จะเกิดข้ึนสูงสุดเม่ือความ ตา้ นทานของโหลด เทา่ กบั ความตา้ นทานภายในของแหล่งจา่ ยไฟฟ้ า การแกป้ ัญหาและวเิ คราะห์ วงจรไฟฟ้ าในเร่ืองทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดจะใชว้ งจรสมมูลเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit ) ทฤษฎกี ารถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด( Maximum Power Transfer Theorem ) กล่าวไวว้ า่ ในวงจรไฟฟ้ าใดๆ ท่ีมีแหล่งจา่ ยไฟฟ้ าต่ออยู่ จะเกิดการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าจาก แหล่งจา่ ยไฟฟ้ าไปยงั โหลดและจะเกิดกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด ( Maximum Power ) ท่ีโหลด เท่ากบั ความ ตา้ นทานภายในของแหล่งจ่ายไฟฟ้ า ดงั แสดงในรูปที่ 1 ก และ ข (ก) (ข) รูปที่ 1 รูปวงจรและกราฟแสดงกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด
ในบางคร้ังการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าจากแหล่งจ่ายไปยงั โหลด จะตอ้ งผา่ นตวั ตา้ นทานต่างๆหลาย ตวั เรายงั สามารถหาคา่ กาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด ( Maximum Power ) ท่ีจะเกิดข้ึนที่โหลดน้นั ได้ โดยการนาเอา หลกั การทฤษฎีเทเวนิน ( Thevenin Theorem ) มาใช้ ซ่ึงจะเห็นวา่ วงจรสมมลู ของเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit ) จะมีเพยี ง แหล่งจา่ ยแรงดนั ไฟฟ้ าเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit )และคา่ ความตา้ นทานเทเวนิน ที่ต่ออยใู่ นวงจร ดงั น้นั จะเกิดกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด ( Maximum Power ) ที่โหลดก็ ตอ่ เม่ือค่าความตา้ นทานของโหลด RL เทา่ กบั ความตา้ นทานเทเวนิน RTH จากรูปที่ 1 จะได้ IL VTH R TH R L I2L VTH 2 R L V 2 TH R L TH R TH R L PL R R 2 L เม่ือคา่ กาลงั ไฟฟ้ า Pl มีค่าสูงสุดที่โหลด สามารถหาค่าความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง RL กบั RTH โดย ใชส้ มการดิฟเฟอร์เรนเชียล dPL 0 R TH R L 2 V2TH R L 2R TH RL dPL R TH R L 4 RTH RL V2 2 2V2TH R TH RL TH R TH R L 2R L นนั่ คือ R TH R L
ตัวอย่างที่ 1 จงคานวณหาคา่ กาลงั ไฟฟ้ าที่โหลด PL เมื่อ RTH มีค่ามากกวา่ RL รูปท่ี 2 วธิ ีทา IL VTH 1.5 V 0.5 A R TH R L 2 1 PL I2L R L 0.52 A 1 0.25 W กาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดท่ีโหลดเทา่ กบั 0.25 W ตัวอย่างท่ี 2 จงคานวณหาค่ากาลงั ไฟฟ้ าท่ีโหลด PL เมื่อ RTH มีคา่ เท่ากบั RL
วธิ ีทา IL VTH 1.5 V 0.375 A R TH R L 2 2 PL I2L R L 0.3752 A 2 0.281 W กาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดท่ีโหลดเทา่ กบั 0.281 W ตัวอย่างท่ี 3 จงคานวณหาคา่ กาลงั ไฟฟ้ าที่โหลด PL เมื่อ RTH มีคา่ นอ้ ยกวา่ RL รูปท่ี 4 วธิ ีทา IL VTH 1.5 V 0.3 A R TH R L 2 3 PL I2L R L 0.32 A 3 0.27 W กาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดท่ีโหลดเท่ากบั 0.27 W
กจิ กรรมการเรียนรู้ 1 ตรวจความพร้อมของผเู้ รียนโดยการเขา้ แถวแลว้ ขานช่ือ 2 แจกแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่15 3 ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซกั ถาม เรื่องการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด 4 ครูนาเขา้ สู่บทเรียนเกี่ยวกบั การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด อธิบายประกอบการฉายซีดี 5 ครูอธิบายทฤษฎีการถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดพร้อมตวั อยา่ งการคานวณ โดยใชส้ ่ือ แผน่ ใส 6 ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั การแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ าโดยใช้ การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุดมี ข้นั ตอนอยา่ งไร 7 สาธิตการปฏิบตั ิการทดลองแจกใบงานและควบคุมการปฏิบตั ิการทดลอง 8 ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปตอบขอ้ สงสัย 9 ประเมินผลการเรียนของนกั เรียนในหน่วยที่ 15จากแบบทดสอบหน่วยที่15
งานท่ีมอบหมายหรือกจิ กรรม (ก่อนเรียน, ขณะเรียน,หลงั เรียน) ก่อนเรียน ใหศ้ ึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ียวกบั การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ า สูงสุด ขณะเรียน ใหน้ กั เรียนมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ียวกบั การถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้ าสูงสุด หลงั เรียน สรุปเน้ือหาจากที่นกั เรียนไดม้ ารายงานหนา้ ช้นั เรียนและประเมินผล
ส่ือการเรียนการสอน จากแผนการสอน ได้กาหนดส่ือการสอนทใ่ี ช้ให้สอดคล้องกบั เนือ้ หาหรือวตั ถุประสงค์ไว้ดงั นี้ หน่วยการสอน ประเภทสื่อการสอน รหสั ของส่ือ ( ส่ิงพมิ พ์, โสตทศั น์, หุ่นจาลองหรือของจริง ) 15 หนงั สืออา้ งอิง ชยั วฒั น์ ลิ้มพรวจิ ิตรวไิ ล , สมเกียรติ พ่งึ อาตม์ และ จิราภรณ์ จนั แดง,สมศกั ด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง. : ศนู ยส์ ่งเสริม-อาชีวะ, 2546. ส่ือ - ซีดีการบรรยายเร่ือง การถ่ายโอนกาลงั งานไฟฟ้ า สูงสุด - ใบงาน - แบบฝึกหดั
การประเมนิ ผล จากแผนการสอน วดั ผลประเมนิ ผล ก่อนการเรียน ขณะเรียน และหลงั เรียน วธิ กี าร โจทย์ปัญหาหรือหลกั เกณฑ์ ก่อนเรียน 1.สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม ขณะเรียน 2.สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธิตหนา้ ช้นั เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม หลงั เรียน 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
บันทึกหลงั การสอน หลงั จากได้ทาการสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรพจิ ารณาสรุปประเมนิ ผลการสอนคร้ังนี้โดยทา เครื่องหมาย / ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ หรือบันทกึ ให้คาแนะนาเพมิ่ เติมกไ็ ด้ พร้อมรายงานตามลาดบั ข้นั เพอ่ื ได้รับทราบ รายการหวั ข้อประเมิน ใช่ ไม่ใช่ หมายเหตุ 1. ทาการสอนไดค้ รบตามวตั ถุประสงค์ / 2. นาเขา้ สู่บทเรียนตรงตามที่กาหนด / 3. สามารถดาเนินการสอนตามแผนการสอน / 4. ใชส้ ่ือการสอนครบตามแผนการสอน / 5. ใชค้ าถามในระหวา่ งการสอนไดค้ รบ / 6. อื่น ๆ (โปรดระบุ)......................................... บันทกึ เพม่ิ เติม ( ผลการใช้แผนการสอน, ผลการเรียนของนักเรียน, ผลการสอนของครู ) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195