Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 เมืองหลัก 18 เมืองรอง ภาคอีสาน

2 เมืองหลัก 18 เมืองรอง ภาคอีสาน

Published by Guset User, 2022-07-19 05:57:13

Description: 2 เมืองหลัก 18 เมืองรอง ภาคอีสาน

Search

Read the Text Version

2 เมืองหลัก 18 เมืองรอง ภาคอีสาน

เมืองรอง

หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทโคกโก่ง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีประเพณี – พิธีกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านผู้ไท ภูมิปัญญา ท้องถิ่น การแต่งกาย คนในชุมชนทุกเพศทุกวัยล้วนแต่งกายด้วยชุดผู้ ไท ภาษาพูดคนในชุมชนยังคงใช้ภาษาพื้นบ้าน คือภาษาผู้ไทเป็น ภาษาพูด งานศิลปหัตถกรรมมีกลุ่มสตรีทอผ้า ตัดเย็บเสื้อผ้าแบบผู้ไท ทั้งเย็บด้วยจักรและเย็บด้วยมือ มีกลุ่มจักสานเครื่องใช้ในครัวเรือน

เขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ เป็น เขื่อนดินกั้นลำประทาว ประกอบด้วยเขื่อน 2 แห่งคือ เขื่อนบน ขนาดความจุน้ำ 44 ล้าน ลูกบาศก์เมตรและ เขื่อนล่าง ขนาดความจุน้ำ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ ผลิตกระแสไฟ้ฟ้าจ่ายให้กับ พื้นที่ อ.แก้งคร้อ และ อ.คอนสวรรค์ นอกจากนี้ยังจ่ายน้ำที่กักเก็บไว้ให้กับพื้นที่การเกษตร อ.แก้ง คร้อ และ อ.เมืองชัยภูมิ รวมทั้ง ยังจ่ายน้ำไปยังเขตน้ำตกตาดโตน และส่งไปผลิตน้ำประปาของการ ประปาจังหวัดชัยภูมิ เขื่อนบนถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวชัยภูมิ และจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากมีห้วยลำประทาวที่กว้างใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีหาดทรายน้ำจืดที่น่าเที่ยวชมโดย เฉพาะยามเย็น ในอ่างเก็บน้ำลำประทาว ยังเป็นแหล่งเลี้ยงปลาในกระชัง สามารถปรุงเป็นอาหารรส เด็ดที่ขึ้นชื่อได้แก่ ทอดมันปลาสลาด หรือที่รู้จักกันในนามของทอดมันปลากรายนั่นเอง

ถนนคนเดินนครพนม จังหวัดนครพนม ถนนคนเดินนครพนม Mekong Walking Street บริเวณหอนาฬิกาเวียดนาม อนุสรณ์ ได้ทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลาประมาณ 16.30 น. - 20.30 น. เดินลัดเลาะออกไปอีกนิด ริมน้ำโขง คือ Walkway เส้นทางสวรรค์ชายโขง 12 จักราศี วิวดีมากๆ มีทั้งทางปั่นจักรยาน และ Boardwalk เดินออกกำลังกาย/ เดินเล่นชมโขง *จุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว จอดได้ที่บริเวณหลังตลาดอินโดจีน และเลียบริมโขง ถนนสุนทรวิจิตร หน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร ไปจนถึงบริเวณลานตะวันเบิกฟ้า

หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ แต่ความ Unseen ของ หินสามวาฬ นั้น ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะที่นี่ยังเป็นหนึ่งใน จุดชมวิวที่ สวยที่สุดในภูสิงห์ อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ตอนที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับ ขึ้นมาที่ขอบฟ้า เราจะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ไล่เฉดสีกันอย่างสวยงามเลยทีเดียว รวมไป ถึงภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าแบบไกลสุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญคือ เราจะได้เห็นผืนป่าสีเขียวที่อุดม สมบูรณ์ วิวของ ป่าภูวัว แก่งสะดอก ห้วยบังบาตร หาดทรายแม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่ง ประเทศลาว อีกด้วยค่ะ และถ้ามองให้ดีๆ อาจจะเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ อีกด้วยนะคะ สุดยอดไป เลยใช่ไหมล่ะคะ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่อันซีนสุดๆ แบบหาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ

ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ภายในสถาบันราช ภัฏบุรีรัมย์ ถนนจิระ เป็นสถานที่รวบรวมจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุอันมีค่าทาง ประวัติศาสตร์ โบราณคดีและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจและเป็นแหล่งข้อมูลเพื่อการค้นคว้าวิจัย ศูนย์วัฒธรรมอีสานใต้ ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ถนนจิระ จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เพื่อ ให้ความรู้และเป็นแหล่งข้อมูลในการค้นคว้าวิจัยด้านประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ชุมชนโบราณ ช้างกับส่วย ศาสนาและ ความเชื่อ ผ้า เครื่องดนตรีอีสาน ห้องเตาเผาและเครื่องเคลือบ

สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม สะพานไม้แกดำ ตั้งอยู่ใน บ้านแกดำ ตำบลแกดำ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม เป็นหนึ่งในสะพานไม้เก่าแก่ที่อยู่ท่ามกลาง บรรยากาศของทุ่งนา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะได้สัมผัสกับวิถี ชีวิตความเป็นชาวบ้านของที่นี่กันค่ะ โดยสะพานนี้จะทอดตัวยาว ผ่านหนองน้ำแกดำ ยาวเกือบ 1 กิโลเมตรเลยค่ะ มีบึงบัวและพืชน้ำ สีเขียวต่างๆ รอบล้อมเอาไว้ เป็นสะพานสวยที่ต้องมาชมกันเลยค่ะ

ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง จังหวัดมุกดาหาร ประวัติความเป็นมามีเรื่องเล่าขานกันมานานว่า ราวปี พ.ศ.1896 เจ้าฟ้างุ้ม แห่งเมืองล้านช้าง เป็นบุตรเขยกษัตริย์เมือง อินทะปัดได้พาลูกหลาน อพยพ ตามลำน้ำโขง ผ่านเมืองหนองคาย เมืองนครพนม จนถึงเขตเมืองมุกดาหาร แล้วเกิดเรือล่มที่บริเวณปากห้วยมุก ธิดาสาวทั้งสองคนซึ่งมี พระนามว่า พระนางพิมพา กับ พระนางลมพามา สิ้นชีพพิตักษัยจนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2313 เจ้ากินรีได้มาสร้างเมืองมุกดาหารพร้อมกับได้สร้าง โบสถ์วัดศรีมงคลใต้ขึ้นและในขณะก่อสร้างได้พบพระเมาลีพระพุทธรูปเหล็กจมอยู่ใต้พื้นดิน (บริเวณศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องในปัจจุบัน) จึง ขุดไปประดิษฐาน ณ โบสถ์วัดศรีมงคลใต้ แต่พอรุ่งขึ้น พระพุทธรูปเหล็กองค์นั้น ก็กลับมาประดิษฐานอยู่ที่เดิมที่พบในครั้งแรกอีก ชาวบ้านจึง พากันเรียกว่า \"พระหลุบเหล็ก\" ประกอบกับบริเวณดังกล่าว ทุกวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6 จะมีเสียงร่ำไห้ของ ผู้หญิงสองคนซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็น เสียงของพระนางพิมพา กับ พระนาง ลมพามา และได้แสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่เนือง ๆ เจ้ากินรีเจ้าเมือง มุกดาหาร ได้สืบทราบประวัติแห่ง ความเป็นมาจึงตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น เพื่อให้วิญญาณได้สิงสถิต เมื่อ พ.ศ. 2315 และได้ขนานนามว่า \"หอเจ้า แม่สองนางพี่น้อง\" อันเป็นที่ เคารพสักการะของชาวเมืองมุกดาหาร

เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า จังหวัดยโสธร บ้านสิงห์ท่า ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นย่านการค้าตั้งแต่สมัยโบราณและได้เจริญขึ้น เมื่อสมัยฝรั่งเศสเข้ามามี อิทธิพลมาก ในภูมิภาคนี้ในช่วงนั้นเองผู้ที่มีฐานะดี มีการนำเข้าช่างฝีมือ จากเวียดนามจำนวนมากเข้ามาสร้างบ้านเรือน ทำให้บ้านเรือนมีรูปแบบ ศิลปกรรมแบบจีนผสม ยุโรปที่งดงาม ปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นบนสองข้างทาง ถนนศรีสุนทร นครทุม อุทัยรามฤทธิ์ และวิทยะธำรง บางแห่งยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก บอกถึงบรรยากาศของความเป็นอดีต ขณะที่อีก หลายแห่งถูกปล่อยให้รกร้าง ขาดคนอาศัย สร้างเสน่ห์ให้บ้านสิงห์ท่าสวยงามมาจนทุกวันนี้

วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม จังหวัดร้อยเอ็ด วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ที่มีความงดงาม ตระการตามากที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทยองค์เจดีย์ออกแบบโดยกรมศิลปากร ผสม ผสานศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสี ทองอร่าม มีความกว้างxยาวxสูง 101 เมตร และมียอดทองคำที่มีน้ำหนักถึง 60 กิโลกรัม นอกจากนี้ภายในเจดีย์ 6 ชั้น ยังตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา มีทั้งพิพิธภัณฑ์วิปัสสนา กรรมฐานของหลวงปู่ศรี รูปเหมือนของพระเกจิอาจารย์ 101 องค์ รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ ที่ชั้นบนสุด ให้ประชาชนได้มาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐานคล้ายพระธาตุพนม มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปี ในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูป ปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย สร้างเมื่อ พ.ศ. 2103 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ใน สมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสักขีพยานแสดง ความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาค นหุต(เวียงจันทน์) พระธาตุศรีสองรักเป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐถือปูนมีฐานเป็นเหลี่ยม จัตุรัส ขนาดกว้างด้านละประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 32 เมตร เป็นวัดที่ไม่มีพระ ภิกษุพำนักอยู่ในวัด นอกจากองค์พระเจดีย์แล้ว ถัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีโบสถ์ 1 หลัง ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปนาคปรก 1 องค์ และพระพุทธรูปอื่น ๆ อีกบ้าง และถัดองค์พระเจดีย์ไปทางทิศตะวันตกมีศิลาจารึก 1 แผ่น ซึ่งจารึกตำนาน การสร้างพระธาตุศรีสองรักด้วยอักษรธรรมอยู่ด้วย ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรี สองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดง ขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็น สัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม ไม่สวมหมวกและรองเท้าขึ้นไป บนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ (หมายเหตุ: ก่อนท่านจะทำ หรือประกอบพิธีใด ๆ ที่เกี่ยวกับองค์พระธาตุ ขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าองค์พระ

ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ ตั้งอยู่ภายในวัดสระกำแพงใหญ่ ตั้งอยู่ใน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัด ศรีสะเกษ เป็นปราสาทขอม โบราณสถานที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่และ สมบูรณ์ที่สุดของจังหวัด ภายในวัดมีสรีระของหลวงปู่เครื่อง สุภัทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ ซึ่งเป็นเกจิชื่อดังของจังหวัดศรีสะเกษ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อยู่หลายแห่ง ทั้งอุโบสถ พญานาคที่ประดิษฐานพระเมี๊ยะมุนีจำลอง รูปหล่อหลวงปู่เครื่ององค์ใหญ่ ถ้ำเงินถ้ำทอง เป็นต้น

พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บริเวณกลางเทือกเขาภูพาน ในท้องที่อำเภอภูพาน จังหวัด สกลนคร อยู่ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นสถานที่ประทับของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจน พระบรมวงศานุวงศ์ ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ไม่มีพระองค์ใดประทับอยู่ ทางสำนักเลขาธิการพระราชวังจะอนุญาตให้ ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรัก ต้นไม้ได้เลยทีเดียว เนื่องจากภายในเต็มไปด้วยไม้นานาพรรณโดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับ

ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทศีขรภูมิ หรือ ปราสาทระแงง ตั้งอยู่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นปราสาท ที่มีความสมบูรณ์และงดงามที่สุดมากที่สุดในจังหวัดสุรินทร์ มีทับหลังเป็นรูปนางอัปสร ถือดอกบัว และทวารบาลยืนกุมกระบอง ซึ่งนางอัปสราที่ปราสาทศีขรภูมินี้มีลักษณะ คล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่พบที่ปราสาทศิลปะเขมร โบราณแห่งใดอีกเลยในประเทศไทย พบที่ปราสาทศีขรภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ใน ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นจุดพระอาทิตย์ขึ้นและทะเล หมอกแบบกว้างไกลสุดตา ถือเป็น จุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและขึ้นชื่อของหนองคาย เบื้องล่างของ ทะเลหมอกภูห้วยอีสันสามารถมองเห็นเกาะแก่งของแม่น้ำโขง หากวันใดที่สายหมอกบางเบา สามารถ มองเห็นวิวพระอาทิตย์สีทองในยามเช้าสะท้อน ไปยังพื้นน้ำและเกาะแก่งได้ชัดเจน

พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ จังหวัดหนองบัวลำภู เดิมเป็นเหมืองหินทราย มีการระเบิดหินทำให้เกิดหน้าผาสูงซึ่งพบซากเปลือกหอยโบราณ ต่อมาเหมืองถูกทิ้งร้าง ชาวบ้านได้เข้าไปพบหิน ที่มีลักษณะคล้าย เปลือกหอยสวยงาม จึงขุดขายเป็นจำนวนมาก เมื่อกรมทรัพยากรธรณีสำรวจ ได้พบว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์เปลือกหอยกาบคู่ มีอายุอยู่ในยุคจูราสสิกตอนปลาย ต่อมาพื้นที่แห่งนี้ได้พัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่อง จักรวาลเอกภพ ระบบสุริยจักรวาล โลก แหล่งกำเนิดชีวิต วิวัฒนาการของพืช สัตว์ มนุษย์ ไดโนเสาร์ และซากดึกดำบรรพ์ ซากกระดูกไดโนเสาร์พบที่บ้านห้วยเดื่อ ซากดึกดำบรรพ์หอยหินพบที่บ้านห้วยเดื่อ จำลองหน้าผาที่พบซากหอยหิน การ ทำงานของนักโบราณชีววิทยา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวความรู้ทางด้านธรรมชาติ และธรณีวิทยาของจังหวัดหนองบัวลำภูที่เป็น แหล่งค้นพบที่สำคัญ ควรค่าแก่การศึกษาของเยาวชนจังหวัดหนองบัวลำภู

วัดดงเฒ่าเก่า จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นแหล่งโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลสมัยทวาราวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ หลักฐานที่พบเสมาหินทราย พระพุทธ รูปหินทรายแบบทวาราวดีตอนปลายเส้นทางเข้าสู่แหล่งโบราณคดีวัดดงเฒ่าเก่าจากตัวอำเภอเมือง ตามถนนอรุณประเสริฐ (อำเภอเมือง-ทางแยกตำบลน้ำปลีก-วัดดงเฒ่าเก่า) ระยะทางประมาณ ๒๓ กิโลเมตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook