Journal of Professional Routine to Research (Volume 8, January-June 2021) 45 1. บทนา น่าสนใจเร่ืองหน่ึง ซ่ึงได้ศึกษาเร่ืองการใช้บริการงาน พั ส ดุ ข อ ง บุ ค ล า ก ร ใ น วิ ท ย า ลั ย น า น า ช า ติ เม่ือทุกองค์กรภาครัฐในประเทศไทยต้องมีการจัดซ้ือ มหาวิทยาลยั มหิดล ซ่งึ พบว่าพนกั งานสว่ นใหญ่ไม่ทราบ สินค้า อาทเิ ช่น วัสดุซ่อมบาํ รุง/ก่อสร้าง วัสดุงานบ้าน และไม่เข้าใจเก่ยี วกบั ข้นั ตอน กฎเกณฑ์ วิธกี ารจัดซ้อื จัด งานครัว วัสดุยานพาหนะและขนส่ง วัสดุคอมพิวเตอร์ จ้าง และระเบียบพัสดุ พนักงานไม่ได้รับข้อมูลความ วัสดุไฟฟ้ าและวิทยุ วัสดุหนังสือวารสารและส่ิงพิมพ์ คืบหน้ าการจัดซ้ ือวัสดุ/ครุภัณฑ์ว่ าได้ ดําเนินการถึง ครุภัณฑ์ เคร่ืองมือท่อี าํ นวยความสะดวกในการทาํ งาน ข้นั ตอนไหนและจะได้รบั ของท่สี ่งั ซ้ือเม่อื ใด [4] งานวจิ ยั อ่ืน ๆ เป็ นต้ น เพ่ืออํานวยความสะดวกในการ ฉบับน้ีสะท้อนให้ เห็นถึงการขาดประสิทธิภาพใน ดําเนินงานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานน่ันเอง ซ่ึงใน กระบวนการการจัดทาํ รายงานของส่วนงาน ถงึ แม้จะไม่ พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ มงี านวจิ ัยของส่วนงานอ่นื ๆออกมามากนกั แต่ตวั ผ้วู ิจยั ภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 8 ระบุว่าการจัดซ้ือจัดจ้าง เองในฐานะท่เี ป็นนักวิชาการพัสดุ (ชาํ นาญการพิเศษ) แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร พั ส ดุ ข อ ง ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ น้ั น ต้ อ ง ของมหาวิทยาลัยแห่งน้ี ซ่ึงพอจะให้ข้อสงั เกตได้ว่า อาจ ก่อให้ เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้ องกับหลักการ เป็นเพราะว่า มหาวิทยาลัยมหิดลยังไม่เคยมีการพัฒนา คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพประสิทธิผล และ ตวั ช้วี ัด (Indicator) และเกณฑก์ ารประเมนิ งานด้านการ ตรวจสอบได้ โดยต้องจัดให้มีการเกบ็ ข้อมูลการจัดซ้ือ จัดซ้ือสินค้าต่าง ๆเลย ตัวช้ีวัดน้ันมีความสาํ คัญมาก จดั จ้างและการบรหิ ารพัสดุอย่างเป็นระบบ ซ่ึงนยิ ามของ เพราะเป็ นดัชนีหรือหน่วยวัดความสําเร็จของการ ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลน้ันจะต้องมีการ ปฏิบัติงานท่ีจะต้ องถูกกําหนดข้ึนมาเป็ นตัวเลขท่ี วางแผนการจัดซ้ือจัดจ้างล่วงหน้า เพ่ือความต่อเน่ือง สามารถนับได้จริง และสามารถส่อื ถึงเป้ าหมายในการ และมีกําหนดเวลาท่ีเหมาะสม มีการประเมินและ ปฏิบัติงาน เพ่ือสร้างความชัดเจนในการติดตามและ เปิ ดเผยผลสมั ฤทธ์ขิ องการจัดซ้ือจดั จ้างและการบรหิ าร ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านได้ [5] พัสดุ [1] และท่ีผ่านมาประเทศไทยเคยมีรายงาน การศึกษาถึงประสิทธิผลการบริหารงานพัสดุของ ในแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ส ถ า บั น อุ ด ม ศึ ก ษ า ใ น สั ง กั ด ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร 2563-2566 ระยะ 4 ปี ในยุทธศาสตร์ท่ี 4 ด้าน อดุ มศึกษา โดยพบว่ากระบวนการจดั ซ้อื จดั จ้างและการ Management for Self-Sufficiency and Sustainable ควบคุมพัสดุท่ีดี จะมีอิทธพิ ลเชิงบวกต่อประสทิ ธภิ าพ Organization ได้กาํ หนดกลยุทธล์ าํ ดบั ท่ี 7 ให้พัฒนาขดี ก า ร บ ริ ห า ร พั ส ดุ เ ป็ น อ ย่ า ง ม า ก [ 2 ] แ ล ะ ใ น ความสามารถในการบริหารจัดการทางการเงินของทุก พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ส่วนงานให้มีประสทิ ธภิ าพอย่างย่ังยืน โดยกาํ หนดให้มี ภาครัฐ พ.ศ.2560 ได้มีการกําหนดเพ่ิมเติมคําว่า การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ว่าด้ วยโครงการพัฒนา “สนิ ค้า” โดยให้ความหมายว่า คือ วัสดุ ครุภัณฑ์ ท่ดี นิ กระบวนงานด้านการคลังและพัสดุ ซ่ึงขับเคล่ือนโดย ส่ิงปลูกสร้าง และทรัพย์สินอ่ืนใดรวมท้ังงานบริการท่ี กองคลังของมหาวิทยาลัยมหิดล [6] สอดคล้องตาม รวมอยู่ในสินค้ าน้ันด้ วย ซ่ึงคําว่าสินค้ าน้ีจึงได้ ถูก หลักทฤษฎีเก่ียวกับมาตรฐานการเงิน 7 ด้ าน นาํ มาใช้ในการบริหารงานพัสดุต้งั แต่น้นั เป็นต้นมา (7Hurdles) ในระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน ท่ี จะต้องจัดให้ มีการรายงานทางการเงินและผลการ มหาวิทยาลัยมหิดลซ่ึงเป็นหน่วยงานในกาํ กบั ดําเนินงาน (Financial and Performance Reporting) ของรัฐท่ีต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบตามแนวทางของ ในกระบวนการรายงานน้นั จะต้องมกี ารกาํ หนด ตวั ช้ีวัด พระราชบัญญัติฯ ดังกล่ าวด้ วย โดยท่ีปั จจุ บัน การประเมนิ ผลท่ชี ัดเจน มรี ะยะเวลาในการตรวจสอบท่ี มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีการเกบ็ ข้อมูลการจัดซ้ือจัดจ้าง แน่นอน ข้อมูลท่ีรายงานต้องแสดงความสัมพันธข์ อง และการบริหารพัสดุอย่างเป็ นระบบท่ีดี แต่หาก ผลงานท่เี กดิ ข้ึน ตลอดจนการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของ พิจารณาย่อยลงไปในรายละเอยี ดของงานซ้อื สนิ ค้าหรือ การดําเนินงานซ่ึงจะเป็ นข้อมูลสาํ หรับผู้บริหารเพ่ือ จ้างงานบริการแต่ละงานแล้วน้ันกลับพบว่ายังไม่มีการ นําไปดาํ เนินการวางแผนต่อไป ด้วยความสาํ คัญของ กาํ หนดการประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ขิ องการจดั ซ้ือจดั จ้างและ ปัญหาดังกล่าวท่ีนําเสนอมาข้างต้น ผู้วิจัยจึงมีความ การบริหารพัสดุมหาวิทยาลัยจึงควรมีการวางระบบ ต้องการท่ีจะพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑก์ ารประเมินงาน ตรวจสอบ และพัฒนาระบบตรวจสอบภายในต้ังแต่ จัดซ้ือสินค้ าให้ เป็ นไปตามขอบเขตงานพัสดุตาม เร่ิมต้ นโครงการจนส้ินสุดโครงการเพ่ือความมี ระเบยี บมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีวัตถุประสงคก์ ารวจิ ัย ประสิทธิภาพ [3] ผู้วิจัยได้พบรายงานผลการวิจัยท่ี เพ่ือพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินงานจัดซ้ือ
46 วารสารการพัฒนางานประจาํ ส่งู านวิจัย (ปี ท่ี 8 มกราคม–มถิ ุนายน 2564) สินค้ าของมหาวิทยาลัยมหิ ดลให้ มีความถูกต้ องเชิง จ้างและการบริหารพัสดุอย่างเปิ ดเผยและเปิ ดโอกาสให้ เ น้ื อห า แล ะ เป็ นไป ตามขอบเ ขตง านพั ส ดุตาม มีการแข่งขันอย่างเป็ นธรรม 3) ความมีประสทิ ธภิ าพ พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ และประสิทธิผล (Efficiency and Effectiveness) คือ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่า ต้องมกี ารวางแผนการจัดซ้อื จดั จ้างและการบริหารพัสดุ ด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ล่วงหน้าทุกคร้ังเพ่ือให้การจัดซ้ือจัดจ้างเป็ นไปอย่าง 2560 ต่อเน่ืองท้งั ต้องมกี ารประเมนิ ผลและเปิ ดเผยผลสมั ฤทธ์ิ ของการจัดซ้ือจัดจ้างแก่สาธารณชน และ 4) ความ 2. วสั ดุและวิธีการ รับผิดชอบต่อผลสาํ เร็จของงาน (Accountability) คือ ต้องมีการเกบ็ ข้อมูลการจัดซ้ือจัดจ้างอย่างเป็ นระบบ การวิจัยในคร้ังน้ีเป็ นวิจัยเชิงสาํ รวจ (Survey เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ ซ่ึงผู้มหี น้าท่รี ับผิดชอบ Research) เพ่ือมุ่งทาํ ความเข้าใจในเร่ืองตัวช้ีวัดและ ต้องมีการบันทึกหลักฐานการดาํ เนินการ พร้อมระบุ เ ก ณ ฑ์ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ง า น จั ด ซ้ื อ สิ น ค้ า ข อ ง เหตุผลในการพิจารณาส่ังการในแต่ละข้ันตอนท่สี าํ คัญ มหาวิทยาลัยมหิดลให้ มีความถูกต้ องเชิงเน้ ือหาและ ไว้ เพ่ื อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตาม เป็ นไปตามขอบเขตงานพัสดุตามพระราชบัญญัติการ ประเมนิ ผล [7] จัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้าง ผ้วู ิจยั ใช้วธิ สี ร้างนิยามเชงิ ทฤษฎี (Theoretical และการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 ซ่ึงการวิจัยคร้งั Definition) โ ด ย เ ร่ิ ม ต้ น จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ท บ ท ว น น้ีผู้วิจัยได้ขอการรับรองจริยธรรมการวิจัยในคนจาก วรรณกรรม จากน้ันร่างนิยามเชิงทฤษฎีข้ึนมาเพ่ือขอ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ม หิ ด ล เ ล ข ท่ี MU-CIRB ความคิดเห็นจากผู้เช่ียวชาญ เม่ือได้ความเห็นจาก 2020/097.1604 ผู้เช่ียวชาญแล้วจึงทดสอบด้วยเทคนิคเดลฟายซ่ึงเป็ น กรอบการวิจยั (Research flow chart) การถามมตจิ ากผ้เู ช่ยี วชาญเพ่ือหาฉันทามติ แสดงกรอบ การวจิ ัยดงั ภาพท่ี 1 ผู้วิจัยจะพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑก์ ารประเมนิ ขอ้ มูลที่ใชใ้ นการวิจยั งานจัดซ้ือสินค้า โดยอาศัยหลักการจัดซ้ือจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐของกรมบัญชีกลางได้กาํ หนด การวิจัยคร้ังน้ีเกบ็ ข้อมูลจากผู้เช่ียวชาญ โดย หลักการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐของ ผู้วิจัยคัดเลือกผู้เข้าร่วมวิจัยแบบเจาะจง (Purposive ประเทศไทย ไว้ในพระราชบญั ญัติการจดั ซ้อื จัดจ้างและ sampling) จํานวน 14 คน โดยพิจารณาจากผู้ท่ีมี ก า ร บ ริ ห า ร พั ส ดุ ภ า ค รั ฐ พ . ศ . 2 5 6 0 ซ่ึ ง ประสบการณ์ในการทาํ งานด้านพัสดุ ท้ังในระดับการ มหาวทิ ยาลัยมหิดลต้องนาํ มาปฎบิ ตั มิ ี 4 ประการ ได้แก่ ขบั เคล่ือนนโยบายและระดบั ชาํ นาญด้านการปฏบิ ตั งิ าน 1) ความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน (Value for Money) คือ โดยผู้วิจัยจะคัดเลือกจา กส่วนงาน ต่ างๆ ของ กา รจั ดห า พั ส ดุโ ดยมุ่ ง เ น้ นคุณ ภ า พสิน ค้ าหรือ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ผู้วิจัยใช้เกณฑ์ คุณลักษณะท่ตี อบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้งานของ อตั ราความคลาดเคล่ือนท่ี 0.54-0.50 ตามตารางการ หน่วยงานของรัฐ มีราคาท่ีเหมาะสม และมีแผนการ วิจัยด้วยเทคนิคเดลฟายของ โทมัส แมคมิลแลน [9] บริหารพัสดุท่ีชัดเจนและมีประสิทธิภาพ 2) ความ ดงั แสดงในตารางท่ี 1 โปร่งใส (Transparency) คือต้องดาํ เนินการจัดซ้ือจัด 1.ศึกษาตวั ช้วี ดั จากทฤษฎแี ละงานวจิ ัยเป็นฐานสนับสนุน 2.กาํ หนดตวั ช้วี ัดโดยใช้ทฤษฎแี ละงานวจิ ยั เป็นฐานสนับสนุน 3.ขอความคดิ เหน็ ผ้เู ช่ยี วชาญประกอบการตดั สนิ ใจ 4.จดั ทาํ และนาํ เสนอตวั ช้วี ัด และเกณฑก์ ารประเมนิ ภาพที่ 1 แสดงกรอบการวิจยั ท่มี า การสร้างตวั ช้วี ัดของเบอรส์ ไตนแ์ ละคณะ[8]
Journal of Professional Routine to Research (Volume 8, January-June 2021) 47 ตารางท่ี 1 แสดงค่าความคลาดเคล่อื นของการวจิ ยั ด้วยเทคนิคเดลฟาย จานวนผูเ้ ชีย่ วชาญ ค่าความคาดเคลอื่ น ความคาดเคลอื่ นลดลง 1-5 1.20-0.70 0.50 5-9 0.70-0.85 0.12 9-13 0.85-0.54 0.04 13-17 0.54-0.50 0.02 17-21 0.50-0.48 0.02 21-25 0.48-0.46 0.02 25-29 0.46-0.44 0.02 วิธีการวิจยั พร้อมมีคําถามปลายเปิ ดให้ ผู้เช่ียวชาญแสดงความ ก า ร วิ จั ย ค ร้ั ง น้ี ใ ช้ วิ ธี เ ด ล ฟ า ย ( Delphi คิดเห็นอย่างเป็ นอิสระ จากน้ันผู้วิจัยจะนําข้ อมูลมา วิเคราะห์ฉันทามติของผู้เช่ียวชาญในรอบแรก และ Technique) เน่ืองจากเป็ นการพัฒนาตัวช้ีวัดท่ีต้อง ปรับปรงุ ตามคาํ แนะนาํ อาศัยความรู้จากผู้เช่ียวชาญในการลงมติ การให้ ข้อคิดเห็นเชิงเน้ือหาให้ มีความถูกต้องสมบูรณ์ตาม การพิจารณารอบท่ี 2 และรอบต่อ ๆไป ผู้วิจัย ห ลั ก ก า ร พั ฒ นา ตัวช้ ีวั ดด้ วย วิธีนิย า มเ ชิงปฏิบัติการ จะแสดงค่ามธั ฐานและพิสยั ควอไทลข์ องคะแนนในรอบ (Theoretical Definition) แรก พร้อมระบุค่าคะแนนของผู้เช่ียวชาญในรอบแรก เกณฑก์ ารคดั เลอื กผูเ้ ขา้ ร่วมวิจยั ของแต่ละท่านให้ ด้วย รอบน้ีกาํ หนดให้ ผู้เช่ียวชาญ พิจารณา 2 สปั ดาห์ โดยการให้คะแนนความเหมาะสม ใช้ เทคนิค Snowball Sampling จะเจาะจง ของตัวช้ีวัด แบ่งเกณฑ์คะแนนเป็ น 5 ระดับ จากน้ัน เ ลื อ ก ผู้ เ ช่ี ย ว ช าญ ท่ีมีตําแ ห น่ งหั วห น้ า งาน ด้ านพั สดุ ผู้วิจัยจะนาํ ข้อมูลมาวิเคราะห์ฉันทามตขิ องผู้เช่ียวชาญ จํานวน 1 คนก่อน ซ่ึงผู้วิจัยเจาะจงเลือกหัวหน้างาน จนกว่าจะได้ตวั ช้ีวัดและเกณฑก์ ารประเมนิ ท่มี คี วามเหน็ พั ส ดุ ข อ ง ส ถ า บั น น วั ต ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้ พ้องเป็นเอกฉันท์ (Consensus) มหาวิทยาลัยมหิดลเป็ นผู้เช่ียวชาญคนท่ี 1 แล้วจึงให้ การวิเคราะหข์ อ้ มูล ผู้เช่ียวชาญแนะนาํ รายช่ือคนต่อไปท่ีมีลักษณะตรงกับ เกณฑ์ดังต่อไปน้ี ปฏิบัติงานด้านพัสดุมาแล้วมากกว่า การวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยจะทําการวิเคราะห์หา 10 ปี หรือ ได้รับตาํ แหน่งชาํ นาญการพิเศษ หรือ เป็น ความเห็นพ้ องของกลุ่มผู้เช่ียวชาญใช้ การคํานวณ หัวหน้างานท่ีควบคุมดูแลงานพัสดุ หรือ เป็ นผู้ท่ีดาํ รง ค่ามธั ยฐาน ค่าพิสยั ควอไทล์ ซ่ึงอธบิ ายดงั น้ี ตําแหน่งฝ่ ายบริหารท่ีรับมอบหมายกํากับงานด้าน จดั ซ้อื จัดจ้างพัสดุ • ค่ามัธยฐาน (Median) คือ ค่ากลางของ ข้นั ตอนการศึกษาวิจยั คาํ ตอบของกลุ่มท้ังหมดในแต่ละข้อซ่ึงผู้วิจัยกาํ หนด เกณฑก์ ารแปลผลค่ามธั ยฐาน ดงั ตารางท่ี 2 ข้ันตอนการพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑ์การ ประเมนิ งานจดั ซ้อื สนิ ค้าของมหาวิทยาลัยมหิดล • ค่าพิสยั ควอไทล์ (Interquartile Range) คอื ค่าความแตกต่างระหว่างควอไทล์ท่ี 3 กบั ควอไทล์ท่ี 1 ผู้วิจัยรวบรวมตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมิน ของแต่ละคาํ ถามโดยหาได้จากสตู รต่อไปน้ี IQR = Q3 งานจากการทบทวนงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วข้อง จากน้นั ได้จดั ทาํ - Q1 ผ้วู ิจยั กาํ หนดเกณฑก์ ารแปลผลดงั ตารางท่ี 3 เป็น “ร่างตวั ช้ีวัดและเกณฑก์ ารประเมนิ ” ข้นึ มา ผู้วิจัย จะติดต่อกลุ่มผู้เช่ียวชาญท่ีมีคุณสมบัติตามข้อกาํ หนด 3. ผลการวิจยั และการอภิปรายผล เบ้อื งต้น โดยการนัดหมายทางโทรศพั ทใ์ นการขอความ อนุเคราะห์เกบ็ ข้อมูล และส่งร่างตวั ช้ีวัดและเกณฑ์การ ผลการวิจยั ประเมนิ 3.1 การพัฒนาตวั ช้วี ดั และเกณฑก์ ารประเมนิ การพิจารณารอบท่ี 1 กาํ หนดให้ผู้เช่ียวชาญ ด้วยวธิ เี ดลฟาย พิจารณา 2 สัปดาห์ โดยการให้ ปรับแก้ ไขความ ผลการวิจัยคร้ังน้ีเป็ นการสร้างและพัฒนา เหมาะสมของตัวช้ีวัด แบ่งเกณฑค์ ะแนนเป็ น 5 ระดับ ตวั ช้วี ัดโดยอาศัยทฤษฎแี ละองิ ผู้เช่ียวชาญ หรือใช้นิยาม เชิงปฏบิ ตั กิ าร (Theoretical Definition) โดยผ้วู ิจัยได้
48 วารสารการพัฒนางานประจาํ ส่งู านวจิ ัย (ปี ท่ี 8 มกราคม–มิถุนายน 2564) ตารางที่ 2 แสดงความหมายของค่ามธั ยฐาน ความหมาย คาํ ตอบน้นั เหมาะสมน้อยท่สี ดุ ค่ามธั ยฐาน คาํ ตอบน้นั เหมาะสมน้อย ค่ามธั ยฐานต่าํ กว่า 1.50 คาํ ตอบน้นั เหมาะสมปานกลาง ค่ามธั ยฐานระหว่าง 1.50 - 2.49 คาํ ตอบน้นั เหมาะสมมาก ค่ามธั ยฐานระหว่าง 2.50 - 3.49 คาํ ตอบน้ันเหมาะสมมากท่สี ดุ ค่ามธั ยฐานระหว่าง 3.50 - 4.49 ค่ามธั ยฐานต้งั แต่ 4.50 ข้นึ ไป ตารางที่ 3 แสดงความหมายค่าพิสยั ควอไทล์ ค่าพิสยั ควอไทล์ ความหมาย 0.00 – 0.99 แสดงว่าผ้เู ช่ียวชาญมคี วามคดิ เหน็ สอดคล้องกนั มากท่สี ดุ 1.00 – 1.99 แสดงว่าผู้เช่ียวชาญมคี วามคดิ เหน็ สอดคล้องกนั มาก 2.00 – 2.99 แสดงว่าผู้เช่ยี วชาญมคี วามคดิ เหน็ สอดคล้องกนั น้อย มคี ่าต้งั แต่ 3 ข้นึ ไป แสดงว่าผู้เช่ียวชาญมคี วามคดิ เหน็ ไม่สอดคล้องกนั ตดิ ต่อผู้เช่ียวชาญท่เี ข้าร่วมการวิจัยในคร้ังน้ีจาํ นวน 14 ผลการวิเคราะห์ รอบท่ี 2 พบว่ า คณะ คน จากการสอบถามด้านคุณลักษณะผู้เช่ียวชาญท่เี ข้า ผู้เช่ียวชาญแสดงความคดิ เหน็ สอดคล้องกนั ว่าตวั ช้ีวัดท่ี ร่วมในการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นระดับผู้บริหารและ เหมาะสมระดับมากท่สี ดุ (ค่ามัธยฐานต้ังแต่ 4.50 ข้นึ หัวหน้ างาน ร้ อยละ 57.10 รองลงมาเป็ นระดับ ไป) จํานวน 3 ข้ อ (ตัวช้ีวัดท่ี1, 3, 4) ตัวช้ีวัดท่ี ปฏิบัติงาน ร้อยละ 42.90 ระยะเวลาปฏิบัติงานของ เหมาะสมระดับมาก (ค่ามธั ยฐานต้งั แต่ 3.50 - 4.49) ผ้เู ช่ียวชาญสว่ นใหญ่ 10-15ปี ร้อยละ 64.30 รองลงมา จาํ นวน 4 ข้อ (ตวั ช้วี ดั ท่2ี , 5, 6, 7) ตวั ช้ีวัดท่เี หมาะสม ปฏิบัติงานมาแล้ว 21 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 28.60 ระดับ ระดับปานกลาง (ค่ามัธยฐานต้ังแต่ 2.50 - 3.49) การศึกษาส่วนใหญ่ศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ จํานวน 1 ข้อ (ตัวช้ีวัดท่ี8) และเม่ือพิจารณาในเร่ือง 92.90 รองลงมาศึกษาระดบั ปรญิ ญาโท ร้อยละ 7.10 ความสอดคล้องกนั ของความคิดเหน็ ผู้เช่ียวชาญท้งั 14 คน พบว่า อยู่ในระดับสอดคล้องกนั มากท่สี ดุ มีจาํ นวน ผลการวิเคราะห์รอบท่ี 1 น้ันมีผู้เช่ียวชาญเข้า 2 ข้อ นอกน้ันอยู่ในระดับสอดคล้องกันมาก ระดับ ร่วมวิจัย จาํ นวน 14 คน และท้งั หมดได้เข้าร่วมวิจัยต่อ สอดคล้องกันน้อย และมีไม่สอดคล้องกันอีกด้วย แต่ ในการพิจารณารอบท่ี 2 และรอบท่ี 3 ดังน้ัน ในการ อย่างไรกต็ ามข้อมูลท้งั หมดจะถูกนาํ เข้าส่กู ารพิจารณา วิจัยน้ีมจี าํ นวนผู้เช่ียวชาญท่เี หมาะสมต่อการหามติร่วม ในรอบท่ี 3 เพ่ือหามติร่วมในคร้ังสุดท้ายด้วยการ ในเร่ืองการพัฒนาตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินงาน เปล่ียนแปลงคาํ ตอบ (Stability) ต่อไป จัดซ้ือสินค้า มีท้ังส้ิน 8 ตัวช้ีวัด ได้แก่ ตัวช้ีวัดท่ี 1 ระยะเวลาในการจัดทาํ แผนการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้า ผลการวิเคราะห์ รอบท่ี 3 พบว่ า คณะ ตวั ช้ีวัดท่ี 2 ระยะเวลาในการจดั ทาํ เอกสาร ตัวช้ีวัดท่ี 3 ผู้เช่ียวชาญแสดงความคดิ เหน็ สอดคล้องกนั ว่าตวั ช้วี ัดท่ี ระยะเวลาในการจัดทาํ ราคากลางสนิ ค้า ตามแบบ บก. เหมาะสมระดับมากท่สี ดุ (ค่ามัธยฐานต้ังแต่ 4.50 ข้ึน 01-06 ตัวช้ีวัดท่ี 4 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลใน ไป) จํานวน 3 ข้ อ (ตัวช้ีวัดท่ี1, 3, 4) ตัวช้ีวัดท่ี การปฏบิ ัติงานจัดซ้ือจัดจ้าง ตัวช้ีวัดท่ี 5 ความโปร่งใส เหมาะสมระดบั มาก (ค่ามัธยฐานต้งั แต่ 3.50 - 4.49) ในกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้าง ตัวช้ีวัดท่ี 6ความคุ้มค่า จาํ นวน 5 ข้อ (ตัวช้ีวัดท่ี2, 5, 6, 7, 8) เม่ือพิจารณา ด้านคุณลักษณะในการดาํ เนินการจัดซ้ือจัดจ้าง ตวั ช้ีวัด ในเร่อื งความสอดคล้องกนั ของความคดิ เหน็ ผ้เู ช่ียวชาญ ท่ี 7 ความคุ้มค่า ด้านราคา ในการดาํ เนินการจัดซ้ือจัด ท้งั 14 คน พบว่า อยู่ในระดบั สอดคล้องกนั มากท่สี ดุ ซ่ึง จ้าง และตวั ช้วี ัดท่ี 8 ความตรวจสอบได้ ในกระบวนการ มจี าํ นวนเพ่ิมข้นึ มาจากรอบท่ี 2 จดั ซ้อื จัดจ้าง
Journal of Professional Routine to Research (Volume 8, January-June 2021) 49 ตารางที่ 4 แสดงค่ามธั ยฐานและค่าพิสยั ระหว่างควอไทลข์ องกลุ่มผู้เช่ยี วชาญ รอบท่ี 2 และ รอบท่ี 3 n = 14 ตวั ช้ ีวดั รอบที่ 2 รอบที่ 3 Median Q1 Q3 IQR Median Q1 Q3 IQR 1. ระยะเวลาในการจดั ทาํ แผนการจดั ซ้อื จัดจ้าง 5 3 5 2 5 5 5 0 สนิ ค้า 2. ระยะเวลาในการจัดทาํ เอกสาร 4 34 1 4 44 0 3. ระยะเวลาในการจัดทาํ ราคากลางสินค้า ตาม 5 2 5 3 5 5 5 0 แบบ บก. 01-06 4. ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลในการปฏบิ ตั งิ าน 5 3 5 2 5 5 5 0 จัดซ้อื จัดจ้าง 5. ความโปร่งใสในกระบวนการจดั ซ้อื จดั จ้าง 4 34 1 4 44 0 6. ความค้มุ ค่า ด้านคณุ ลักษณะในการดาํ เนินการ 4 4 4 0 4 4 4 0 จดั ซ้อื จดั จ้าง 7. ความค้มุ ค่า ด้านราคาในการดาํ เนนิ การจัดซ้อื 4 4 4 0 4 4 4 0 จดั จ้าง 8. ความตรวจสอบได้ ในกระบวนการจัดซ้อื จัดจ้าง 3 3 4 1 4 4 4 0 3.2 ตวั ช้ ีวดั และเกณฑก์ ารประเมินงานจัดซ้ ือสินคา้ 3.1) การจัดทาํ แผนการจัดซ้อื สนิ ค้า ใช้จัดทาํ ไปใชก้ บั ส่วนงานภายในมหาวิทยาลยั มหิดล ตัวช้ีวัด “ระยะเวลาในการจัดทาํ แผนการจัดซ้ือจัดจ้าง สนิ ค้า” 1) วัตถปุ ระสงค์ 1.1) เพ่ือพัฒนาขีดความสามารถในการ 3.2) การขออนุมัติหลักการจัดซ้ือสินค้า ใช้ บริหารจัดการทางการเงินของทุกส่วนงานให้ มี จดั ทาํ ตวั ช้วี ดั “ระยะเวลาในการจัดทาํ เอกสาร” ประสทิ ธภิ าพอย่างย่งั ยนื 1.2) เพ่ือการรายงานผลการดําเนินงาน 3.3) การจัดทาํ ราคากลางสินค้าท่ีจัดซ้ือ ใช้ (Performance Reporting) จัดทาํ ตัวช้ีวัด “ระยะเวลาในการจัดทาํ ราคากลางสนิ ค้า 2) การกาํ หนดภารกจิ และมอบหมายงาน ตามตารางแสดงวงเงินงบประมาณท่ีได้รับจัดสรรและ 2.1) กาํ หนดให้มีนโยบายในการประเมินผล ราคากลาง (แบบ บก. 01-06)” ความคุ้มค่าของการดาํ เนินงานจัดซ้ือสนิ ค้าโดยการนาํ ตวั ช้วี ดั และเกณฑก์ ารประเมนิ งานจัดซ้อื สนิ ค้า 3.4) ภาพรวมการจัดซ้ือสินค้ า ใช้ จัดทํา 2.2) ให้มีการจัดทาํ กระบวนการรายงานผล ตัวช้ีวัด “ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการ การดาํ เนินงานในการประเมนิ ผลท่ชี ัดเจน มรี ะยะเวลา ปฏบิ ตั งิ านจัดซ้อื จัดจ้าง” “ความโปร่งใสในกระบวนการ ในการตรวจสอบท่แี น่นอน สามารถนาํ ข้อมูลท่รี ายงาน จัดซ้ือจัดจ้าง” “ความคุ้มค่า ด้านคุณลักษณะในการ ไปแสดงความสัมพันธ์ของผลงานท่ีเกิดข้ึน ตลอดจน ดาํ เนินการจัดซ้ือจัดจ้าง” “ความคุ้มค่า ด้านราคาใน การวิเคราะห์ความค้มุ ค่าของการดาํ เนินงานได้อกี ด้วย การดาํ เนินการจัดซ้ือจัดจ้าง” และ “ความตรวจสอบได้ 3) มาตรฐานในการปฏบิ ตั งิ าน ในกระบวนการจดั ซ้อื จดั จ้าง” ให้มีการกาํ หนด ตัวช้ีวัดในกิจกรรมจัดซ้ือสินค้าของ ส่วนงานต่าง ๆ ดงั น้ี 4) ระบบการวดั ผล ให้ส่วนงานต่าง ๆมรี ะบบ การวดั ผลโดยใช้เกณฑด์ งั ตารางท่ี 5 5) มาตรการควบคุม ให้เป็ นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการ จัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ หมวด 6 การ บริหารสญั ญาและการตรวจรบั พัสดุ [10]
50 วารสารการพัฒนางานประจาํ สู่งานวิจัย (ปี ท่ี 8 มกราคม–มถิ ุนายน 2564) ตารางที่ 5 สรปุ ตวั ช้วี ัดและเกณฑก์ ารประเมนิ งานจัดซ้อื สนิ ค้าสาํ หรบั งานพัสดุมหาวทิ ยาลัยมหิดล ชือ่ กิจกรรม ตวั ช้ ีวดั 1 เกณฑป์ ระเมิน (คะแนน) 5 1.1 ระยะเวลาใน 2 วันข้นึ ไป 234 ภายใน 2ช่ัวโมง 1. การจัดทาํ การจัดทาํ แผนการ ภายใน 2 วัน ภายใน 1 วัน ภายใน 4ช่ัวโมง แผนจัดซ้ือ จัดซ้ือจัดจ้าง 2 วนั ข้นึ ไป ภายใน 2ช่ัวโมง สนิ ค้า สนิ ค้า ภายใน 2 วัน ภายใน 1 วัน ภายใน 4ช่ัวโมง 2.1 ระยะเวลาใน 2 วันข้นึ ไป ภายใน 2 วัน ภายใน 1 วนั ภายใน 4ช่ัวโมง ภายใน 2ช่ัวโมง 2. ขออนุมัติ การจัดทาํ เอกสาร หลักการ ดาํ เนินการจัดซ้ือจัด ดาํ เนินการจัดซ้ือ ดาํ เนินการจัดซ้ือ ดาํ เนินการจัดซ้ือ ดาํ เนินการจัดซ้ือ จัดซ้ือสนิ ค้า 3.1 ระยะเวลาใน จ้างในงานปกตหิ รือ จัดจ้างในงาน จัดจ้างในงาน จัดจ้างในงาน จัดจ้างในงาน 3. จัดทาํ ราคา การจัดทาํ ราคา ตามท่ผี ู้บงั คับ ปกตหิ รือตามท่ผี ู้ ปกติหรือตามท่ผี ู้ ปกตหิ รือตามท่ผี ู้ ปกตหิ รือตามท่ผี ู้ กลางสนิ ค้าที กลางสนิ ค้าตาม บัญชาส่งั ได้แล้ว บงั คับ บญั ชาส่งั บงั คับ บญั ชาส่งั บงั คับ บัญชาส่งั บงั คับ บัญชาส่งั จัดซ้ือ แบบ บก. 01-06 เสรจ็ ช้ากว่ากาํ หนด ได้แล้วเสรจ็ ช้า ได้แล้วเสรจ็ ตาม ได้แล้วเสรจ็ เรว็ ได้แล้วเสรจ็ อย่าง 4.1 ประสทิ ธภิ าพ มากโดยต้องคอย กว่ากาํ หนดโดย กาํ หนดเวลา กว่ากาํ หนด เรียบร้อยและเรว็ 4. ภาพรวม และประสทิ ธิ ผล แนะนาํ ติดตาม ต้องคอยแนะนาํ กว่ากาํ หนดมาก การจัดซ้ือ ในการปฏบิ ัตงิ าน ตลอดเวลา สนิ ค้า จัดซ้ือจัดจ้าง จัดซ้ือจัดจ้าง จัดซ้ือจัดจ้าง ถูกต้องตามพรบ. ถูกต้องตามพรบ. 4.2 ความโปร่ง และระเบยี บ จัดซ้ือจัดจ้าง จัดซ้ือจัดจ้าง จัดซ้ือจัดจ้าง และระเบียบกระ ใสในกระบวน กระทรวง การคลัง ถูกต้องตามพรบ. ถูกต้องตามพรบ. ถูกต้องตามพรบ. ทรวงการคลัง มี การจัดซ้ือจัดจ้าง ไม่มผี ู้รับจัดหา และระเบียบกระ และระเบียบกระ และระเบยี บกระ ผู้รับจัดหาเสนอ เสนอราคา ทรวงการคลังมี ทรวงการคลังมี ทรวงการคลัง มี ราคา 4 ราย 4.3 ความคุ้ม ค่า สนิ ค้าท่ดี าํ เนิน การ ผู้รับจัดหาเสนอ ผู้รับจัดหาเสนอ ผู้รับจัดหาเสนอ สนิ ค้าท่ดี าํ เนิน ด้านคุณลักษณะ จัดซ้ือจัดจ้างมี ราคา 1 ราย ราคา 2 ราย ราคา 3 ราย การจัดซ้ือจัดจ้าง ในการดาํ เนินการ คุณลักษณะไม่ตรง สนิ ค้าท่ดี าํ เนิน สนิ ค้าท่ดี าํ เนิน สนิ ค้าท่ดี าํ เนิน แล้วเสรจ็ มี จัดซ้ือจัดจ้าง ตามคุณลักษณะท่ี การจัดซ้ือจัดจ้าง การจัดซ้ือจัดจ้าง การจัดซ้ือจัดจ้าง คุณลักษณะท่สี งู จัดซ้ือจัดจ้าง ทาํ ให้ มคี ุณลักษณะไม่ แล้วเสรจ็ มี แล้วเสรจ็ มี กว่าคุณลักษณะท่ี 4.4 ความคุ้มค่า ต้องมีการยกเลิก ตรงตาม คุณลักษณะตรง คุณลักษณะท่สี งู กาํ หนดไว้ในการ ด้านราคาในการ การจัดซ้ือจัดจ้าง คุณลักษณะท่ี ตามท่จี ัดซ้ือจัด กว่าคุณลักษณะท่ี จัดซ้ือจัดจ้าง ดาํ เนินการจัดซ้ือ และดาํ เนินการหา จัดซ้ือจัดจ้าง ทาํ จ้าง กาํ หนดไว้ในการ มากกว่า 1 ข้อ จัดจ้าง ผู้รับจ้างรายใหม่ ให้ต้องมีการ จัดซ้ือจัดจ้าง ข้นึ ไป แต่ไม่มีผู้รับจัดหา ยกเลิกการจัดซ้ือ การจัดซ้ือจัดจ้าง มากกว่า 1 ข้อ 4.5 ความตรวจ เสนอราคา จัดจ้าง และ ต่อคร้ังอยู่ใน ประหยัดงบประ สอบได้ในกระ การจัดซ้ือจัดจ้าง ดาํ เนินการหา วงเงินงบประ ประหยัดงบประ มาณในการจัดซ้ือ บวนการจัดซ้ือจัด ต่อคร้ังเกนิ วงเงนิ ผู้รับจ้างรายใหม่ มาณท่ตี ้งั ไว้ มาณในการจัดซ้ือ จัดจ้างมากกว่า จ้าง งบประมาณท่ตี ้ังไว้ การจัดซ้ือจัดจ้าง จัดจ้างร้อยละ 1 ร้อยละ 10 ข้นึ ไป มากกว่าร้อยละ 10 ต่อคร้ังเกนิ วงเงิน มกี ารถ่ายสาํ เนา ถงึ ร้อยละ 10 ต่อ ต่อคร้ัง ต่อคร้ัง และต้อง งบประมาณท่ตี ้งั จัดเกบ็ เอกสาร คร้ัง ขอเปล่ียนแปลง ไว้ ร้อยละ 1 ถงึ จัดซ้ือจัดจ้างอ มีการจัดเกบ็ เอก งบประมาณ ร้อยละ 10 ต่อ ย่างครบถ้วน มกี ารจัดเกบ็ สารจัดซ้ือจัดจ้าง คร้ัง และต้องขอ เอกสารจัดซ้ือจัด ครบถ้วน ใน เอกสารจัดซ้ือจัด เปล่ียนแปลง จ้าง ครบถ้วนใน รูปแบบสาํ เนา จ้างไม่ครบถ้วน งบประมาณ รปู แบบไฟล์ เอกสาร และไฟล์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ มกี ารถ่ายสาํ เนา จัดเกบ็ เอกสาร จัดซ้ือจัดจ้างแต่ ไม่ครบถ้วน
Journal of Professional Routine to Research (Volume 8, January-June 2021) 51 อภิปรายผล พัสดุ 4 ด้าน 1) ด้านความถูกต้อง 2) ด้านความค้มุ ค่า ผลการวิจัยคร้ังน้ีได้ผลการวิจัยออกมาเป็ น 3) ด้านความโปร่งใส 4) ด้านความรวดเร็วในการ ให้บริการ และสอดคล้องกับ ภัทรา คุณเวียง [13] ได้ ตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินงานจัดซ้ือสินค้าสาํ หรับ เสนอเกณฑ์การประเมินประสทิ ธิภาพการจัดซ้ือจัดจ้าง งานพัสดุมหาวิทยาลัยมหิดล แบ่งออกเป็น 4 กจิ กรรม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านคุณภาพของงาน 2) ด้านปริมาณ ได้แก่ 1. การจัดทาํ แผนการจัดซ้ือสินค้า 2. การขอ 3) ด้านเวลา 4) ด้านค่าใช้จ่าย อนุมัติหลักการจัดซ้ือสินค้า 3. การจัดทาํ ราคากลาง ขอ้ เสนอแนะ สินค้าท่ีจัดซ้ือ 4. ภาพรวมการจัดซ้ือสินค้า โดยมี 8 ข้อเสนอแนะในการนาํ ผลการวจิ ยั ไปใช้ ตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินผล ได้แก่ ตัวช้ีวัดท่ี 1 ระยะเวลาในการจัดทําแผนการจัดซ้ ือจัดจ้ างสิน ค้ า 1. สํ า ห รั บ อ ง ค์ ก ร ห น่ ว ย ง า น (เหมาะสมมากท่สี ดุ , สอดคล้องมากท่สี ดุ ) ตัวช้ีวัดท่ี 2 มหาวิทยาลัยมหิดล ควรกาํ หนดให้มีนโยบายในการ ระยะเวลาในการจัดทําเอกสาร (เหมาะสมมาก, ประเมนิ ผลความคุ้มค่าของการดาํ เนินงานจัดซ้ือสนิ ค้า สอดคล้องมากท่ีสุด) ตัวช้ีวัดท่ี 3 ระยะเวลาในการ โดยการนําตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินงานจัดซ้ือ จัดทําราคากลางสินค้ า ตามแบบ บก. 01 -06 สนิ ค้าจากงานวิจยั น้ีไปใช้เป็นตวั กาํ หนดนโยบาย (เหมาะสมมากท่สี ดุ , สอดคล้องมากท่สี ดุ ) ตวั ช้ีวัดท่ี 4 ประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลในการปฏิบัติงานจัดซ้ือ 2. สาํ หรับผู้บริหาร ควรนาํ ผลการวิจัยไปใช้ จัดจ้าง (เหมาะสมมากท่ีสุด, สอดคล้องมากท่ีสุด) เป็ นแนวทางในการจัดทาํ กระบวนการรายงานผลการ ตัวช้ีวัดท่ี 5 ความโปร่งใสในกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้าง ดาํ เนินงานเพราะสามารถใช้ตัวช้ีวัดในการประเมนิ ผลท่ี (เหมาะสมมาก, สอดคล้องมากท่สี ดุ ) ตวั ช้วี ัดท่ี 6ความ ชัดเจน มรี ะยะเวลาในการตรวจสอบท่แี น่นอน สามารถ คุ้มค่า ด้านคุณลักษณะในการดาํ เนินการจัดซ้ือจัดจ้าง นาํ ข้อมูลท่รี ายงานไปแสดงความสมั พันธข์ องผลงานท่ี (เหมาะสมมาก, สอดคล้ องมากท่ีสุด) ตัวช้ีวัดท่ี 7 เกิดข้ึน ตลอดจนการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการ ความคุ้มค่า ด้านราคา ในการดาํ เนินการจัดซ้ือจัดจ้าง ดาํ เนนิ งานได้อกี ด้วย (เหมาะสมมาก, สอดคล้องมากท่สี ดุ ) และตัวช้ีวัดท่ี 8 ความตรวจสอบได้ ในกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้ าง 3. สาํ หรับนักวิชาการพัสดุ ควรนาํ ผลการวจิ ยั (เหมาะสมมาก, สอดคล้องมากท่ีสุด) ซ่ึงสามารถนํา มา ป รับใ ช้ กับลั กษ ณ ะ ข อง กา รป ฏิบัติง า น เ พ่ื อ ตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินงานจัดซ้ือสนิ ค้าสาํ หรับ เ ป รี ย บ เ ที ย บ ร ะ ห ว่ า ง ส่ิ ง ท่ี ป ฏิ บั ติ อ ยู่ จ ริ ง กั บ เ ก ณ ฑ์ งานพัสดุมหาวิทยาลัยมหิดลเหล่าน้ี ไปใช้วิเคราะห์ ป ระ เ มินของงา นวิจัยว่ าตนเองน้ันได้ คะแนนผลการ ความคุ้มค่าของการดาํ เนินงานจัดซ้ือสนิ ค้า และการวัด ปฏบิ ัติงานเท่าไร และนาํ ไปพัฒนากระบวนการทาํ งาน ประสทิ ธภิ าพของการปฏบิ ตั งิ านของบุคลากรด้านพัสดุ ให้ดยี ่งิ ข้นึ ต่อไป ข้อเสนอแนะในการวิจัยคร้งั ต่อไป ท้งั น้ีผลการวิจัยยังสอดคล้องกบั ปวริศา แสง คาํ [11]ท่ไี ด้เสนอเคร่ืองมอื วัดประสทิ ธภิ าพว่าได้มกี าร ในการวิจัยคร้ังต่อไปควรดําเนินการศึกษา วัดประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของบุคลากรด้าน ประ เมินผลหลังจากท่ีมหาวิทยาลัยได้ นําตัวช้ ีวัดและ พัสดุ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านบรรลุเป้ าหมายความสาํ เรจ็ เกณฑก์ ารประเมินงานจัดซ้ือสนิ ค้าไปใช้กบั ทุกส่วนงาน ได้แก่ การบรรลุผลตามเป้ าหมาย คุณภาพของงานท่ี เพ่ือเปรียบเทียบระหว่างส่วนงาน หรือศึกษาวิเคราะห์ สําเร็จ ความสมบูรณ์ครบถ้ วนท้ังเชิงปริมาณและ ตัวแปรต่าง ๆท่สี ่งผลต่อประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล คุณภาพ 2) ด้านกระบวนการปฏบิ ัติงาน ได้แก่ ความ การจดั ซ้อื สนิ ค้าของมหาวทิ ยาลัยมหิดลต่อไป รวดเรว็ เสรจ็ ทนั เวลา ใช้เวลาน้อยและคุ้มค่า 3) ด้าน การจัดหาและการใช้ทรัพยากร ได้แก่ ความสามารถใช้ 4. เอกสารอา้ งอิง ท รั พ ย า ก ร ใ น ก า ร ป ฏิบัติง าน ได้ ปร ะ หยั ด แ ล ะ คุ้มค่ า ดํา เ นิ น ง า น ไ ด้ ต า ม แ ผ น ท่ีกํา ห น ด ผ ล ง า นต ร ง ต ามท่ี 1. ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัด กาํ หนดหรือมากกว่าท่ตี ้งั ไว้ 4) ด้านความพอใจของทกุ จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560. ราช ฝ่ าย ได้แก่ ความสาํ เรจ็ ของผลการปฏบิ ตั งิ านบรรลุตาม กจิ จานุเบกษา 2560;134(24ก),13-54. เป้ าหมาย โดยได้ปริมาณและคุณภาพตรงตามความ ต้องการ และยงั มคี วามสอดคล้องกบั วชั ราภรณ์ ลาวงค์ 2. ทัศนีย์ เสียงดัง และ ไพฑูรย์ อินต๊ะขัน. กลยุทธ์ [12] ท่มี เี กณฑก์ ารประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงาน การบริหารงานพัสดุท่ีส่งผลต่อประสิทธิผลการ บริหารงานพัสดุของสถาบันอุดมศึกษา ในสังกดั คณะกรรมการการอุดมศึกษา. วารสารการบัญชี และการจดั การ 2561;10(2):154-66.
52 วารสารการพัฒนางานประจาํ ส่งู านวิจัย (ปี ท่ี 8 มกราคม–มถิ ุนายน 2564) 3. ทพิ ยาพร เหมโส. การจัดซ้ือจัดจ้างด้วยวิธกี ารทาง 9. McMillan, Thomas T. The Delphi Technique. อิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) กับความเป็ นไปได้ Proceedings of the annual meeting of California ในการเกดิ พฤตกิ รรมการสมยอมในการเสนอราคา Junior; 1971 May 3-5; Monterrey. California: (การฮ้ัว) ของมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: College Association Commission on Research มหาวทิ ยาลยั มหิดล; 2558. and Development; 1971. 4. สาวิตรี พิชญชัย และ ณัชชา พวงสมบัติ. การใช้ 10. กระทรวงการคลัง. ระเบียบกระทรวงการคลังว่า บริการงานพัสดุของบุคลากรในวทิ ยาลัยนานาชาติ ด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสาร Mahidol R2R e- พ.ศ. 2560. กรงุ เทพฯ: กรมบญั ชกี ลาง; 2560. Journal 2559;3(2):41-55. 11. ปวริศา แสงคาํ . ผลกระทบของการจัดซ้ือจัดจ้าง 5. สาํ นักงาน ก.พ.. คู่มือการประเมินผลการปฏิบัติ และการบริหารพัสดุภาครัฐแนวใหม่ ท่ีมีต่อ ราชการ แนวทางการกําหนดตัวช้ีวัดและค่า ประสทิ ธภิ าพของการปฏบิ ตั งิ านบุคลากรด้านพัสดุ เป้ าหมาย. กรุงเทพฯ: สาํ นักวิจัยและพัฒนางาน ในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม. มหาสารคาม: บุคคล สาํ นกั งาน ก.พ.; 2552. มหาวิทยาลยั มหาสารคาม; 2562. 6. ม ห า วิ ท ย า ลั ย ม หิ ด ล . แ ผ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ 12. วัชราภรณ์ ลาวงค์. ความสัมพันธ์ระหว่างการ มหาวิทยาลยั มหิดล พ.ศ.2563-2566 ระยะ 4 ปี . พัฒนาระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอเลก็ นครปฐม: มหาวทิ ยาลยั มหิดล; 2562. ทรอนิกสก์ บั ประสทิ ธภิ าพการบริหารงานพัสดุของ สถานศึกษาสังกัดสาํ นักงานคณะกรรมการการ 7. มนัส แจ่มเวหา และ โกมล จิรชัยสุทธิกุล. การ อาชีวศึกษา. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย ปฏริ ปู ระบบการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ มหาสารคาม; 2561. ภาครัฐแนวใหม่. จุลนิติ 2559;13(5):1-25. 13. ภัทรา คุณเวียง. ปัจจัยท่มี ีผลต่อประสทิ ธภิ าพการ 8. Burstein, Oakes, Guiton. Education indicators. จัดซ้ ือจัดจ้ างขององค์กรปกครองส่วนท้ องถ่ินใน In M. C. Alkin (Ed.), Encyclopedia of อาํ เภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี. กรุงเทพฯ: educational research (6 th ed.). New York: มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช; 2560. Macmillan; 1992.
รายละเอียดสาหรบั ผูเ้ ขียนในการส่งบทความ / รายงานวิจยั เพอื่ ลงตีพมิ พ์ ในวารสารการพฒั นางานประจาสู่งานวิจยั Journal of Professional Routine to Research (JPR2R) คาแนะนาสาหรบั ผสู้ นใจส่งบทความลงวารสาร - วารสาร เปิ ดรับบทความ/รายงานวิจัยเพ่ือลงตีพิมพ์โดยมีจุดประสงคห์ ลักในการพัฒนาโอกาสของบุคลากร สายสนับสนุนในการเผยแพร่ผลงาน โดยเปิ ดรบั บทความท่เี ก่ยี วข้อง ดงั ต่อไปน้ี 1. สาขามนุษศาสตร์และสงั คมศาสตร์ (ด้านการศึกษา, ด้านการวางแผนพัฒนา, การวจิ ยั ทางสงั คมศาสตร์ ) 2. สาขาการบรหิ ารและการจดั การ (ด้านบญั ชแี ละพัสดุ, ด้านการบริหารจดั การ) 3. สาขาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี - ส่งต้นฉบบั ผลงานท่สี รปุ แล้วจานวนไม่เกนิ 10 หน้า พร้อมเขยี นช่ือและข้อมลู ตดิ ต่อกลับ ตามแบบฟอรม์ - กองบรรณาธกิ ารของวารสารจะให้ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ และดาเนนิ การติดต่อผ้เู ขยี นในกรณีแก้ไข จากผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ Peer Review เพ่ือให้ทางผู้เขียนนาไปดาเนินการแก้ไข เม่ือแก้ไขเรียบร้อยตามท่ี ประเมนิ จาก Peer Review ให้นาต้นฉบบั ท่แี ก้ไขมาส่งพร้อมไฟล์ - เม่อื บทความของทา่ นได้รับการเผยแพร่ในวารสารแล้ว ทางกองบรรณาธกิ ารจะสง่ วารสารในรปู แบบออนไลน์ ทางอเี มล ขอ้ กาหนดและเงื่อนไขการเผยแพร่ผลงานในวารสารการพฒั นางานประจาสู่งานวิจยั 1.ข้อมูลสว่ นบุคคลและบทความของท่านจะต้องเป็นข้อมลู ท่เี ป็นความจรงิ ไม่ขดั ต่อหลักจรยิ ธรรมและจรรณยาบรรณของ วงการวชิ าการและวชิ าชพี 2.วารสารการพัฒนางานประจาสงู่ านวิจัยไม่รบั ผดิ ชอบต่อกรณที ่ผี ลงานไม่ผ่านเกณฑค์ ุณภาพถกู ปฏเิ สธหรือไม่สามารถหา ผู้ทรงคุณวฒุ ิท่เี หมาะสมเพ่ือประเมนิ ผลงานของทา่ นได้ รวมถงึ ผลงานท่ที ดลองวจิ ยั หรือศกึ ษาในคน-สตั ว์ท่ไี ม่ผ่านการ พิจารณาจริยธรรมการวิจัยในคน-สตั ว์ 3. บทความต้องไม่เคยตพี ิมพ์เผยแพร่ท่ใี ดมาก่อน ไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบบั อ่นื ขอ้ กาหนดในการเตรียมตน้ ฉบบั บทความ 1. ขนาดกระดาษ A4 2. กรอบข้อความ ในแต่ละหน้ามขี อบ ดงั น้ี จากขอบบนของกระดาษ 1.25 น้ิว ขอบล่าง 1.0 น้วิ ขอบซ้าย 1.25 น้วิ ขอบขวา 1.0 น้วิ 3. ระยะห่างระหว่างบรรทดั หน่งึ ช่วงบรรทดั ของเคร่อื งคอมพิวเตอร์ 4. ตวั อกั ษรใช้องั สนา นวิ (Angsana New) ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ โดยใช้หวั เร่อื งขนาด 18 point ชิด ซ้าย ตวั หนา และข้อความทว่ั ไป ขนาด 16 point ชดิ ซ้าย ตวั ธรรมดา และให้บรรทดั แรกของทุกย่อหน้าเย้อื ง 1 ซม.ของ บรรทดั การเตรียมตน้ ฉบบั บทความวิชาการ (ไมเ่ กิน 10 หนา้ ) 1. ช่อื เร่อื ง (Title) ต้องมที ้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 2. ช่ือผู้นิพนธแ์ ละสงั กดั (Author) เขียนช่ือสกุลและสงั กดั ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ในกรณที ่มี ผี ู้นิพนธ์ หลายคนให้เรียงช่ือตามลาดับความสาคญั ท่แี ต่ละคนมีส่วนร่วมในงานวจิ ัยน้นั ช่ือผู้เขียนทุกคน (Author) ให้ระบุเฉพาะ ช่ือ-นามสกุลโดยไม่ต้องระบุคานาหน้านาม โดยตาแหน่งทางวิชาการและช่ือสถานท่ที างาน หน่วยงานของผู้เขียนให้ระบุ ไว้ในเชิงอรรถท้ายหน้า สาหรับการติดต่อผู้นิพนธป์ ระสานงาน(Corresponding Author) ให้ทาเคร่ืองหมาย (*) ไว้บน นามสกลุ และระบุหมายเลขโทรศัพทแ์ ละอเี มล์ (e-mail) ไว้ในเชงิ อรรถท้ายหน้า
ตวั อยา่ งชื่อเรือ่ ง การศึกษาความพงึ พอใจของผูใ้ ชบ้ ริการคอมพวิ เตอรข์ องมหาวทิ ยาลยั มหิดล The satisfaction of user's computer, Mahidol University พัฒนา ประจา 1*, เช่ียวชาญ วจิ ัย2 และ โอกาส สร้างสรรค3์ Patthana Prajom1*, ChaiCharn Wijai2 and Aookarn Sangsand3 ตวั อย่างเชิงอรรถทา้ ยหนา้ 1 งานวิจัยและบริการวชิ าการ คณะสง่ิ แวดล้อมและทรพั ยากรศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล 1 Research and Academic Services Department , Faculty of Environment and Resource Studies Mahidol University * Corresponding author : [email protected] 3. บทคัดย่อ (Abstract) ต้องเขียนเป็นความเรียงย่อหน้าเดียวมีความสมบูรณค์ รบถ้วน โดยมีสาระสงั เขปท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4. คาสาคญั (Keyword) เขยี นเป็นคา หรือวลี ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษจานวนอย่างน้อย 3 คา 5. บทนา (Introduction) ให้ข้อมูลสารสนเทศและประเดน็ สาคญั ทางวชิ าการรวมท้งั วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 6. หลกั คาอธบิ ายท่ผี สมผสานกบั ข้อวจิ ารณโ์ ดยประกอบด้วยประเดน็ ย่อยหรอื หัวข้อย่อยและคาอธบิ ายท่ี ผสมผสานกบั ข้อวิจารณห์ รอื ข้อเสนอแนะท่กี อ่ ให้เกดิ แนวคดิ ใหม่ 7. สรปุ (Conclusion) 8. เอกสารอ้างองิ (Reference) การเตรียมนพิ นธต์ น้ ฉบบั รายงานการวิจยั (ไม่เกิน 10 หนา้ ) 1. ช่อื เร่อื ง (Title) ต้องมที ้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 2. ช่ือผู้นิพนธแ์ ละสงั กดั (Author) เขยี นช่ือสกุลและสงั กดั ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ในกรณที ่มี ีผู้นพิ นธ์ หลายคนให้เรียงช่ือตามลาดบั ความสาคญั ท่แี ต่ละคนมีส่วนร่วมในงานวิจัยน้นั ช่ือผู้เขียนทุกคน (Author) ให้ระบุเฉพาะ ช่ือ-นามสกุลโดยไม่ต้องระบุคานาหน้านาม โดยตาแหน่งทางวิชาการและช่ือสถานท่ที างาน หน่วยงานของผู้เขยี นให้ระบุ ไว้ในเชิงอรรถท้ายหน้า สาหรับการติดต่อผู้นิพนธ์ประสานงาน(Corresponding Author) ให้ทาเคร่ืองหมาย (*) ไว้บน นามสกลุ และระบหุ มายเลขโทรศพั ทแ์ ละอเี มล์ (e-mail) ไว้ในเชิงอรรถท้ายหน้า 3. บทคัดย่อ (Abstract) ต้องเขียนเป็ นความเรียงย่อหน้าเดียวมีความสมบูรณ์ครบถ้วน โดยมีสาระสังเขป ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ (Objective),วัสดุและวิธกี ารวิจัย (การเกบ็ ข้อมูล/กลุ่มตัวอย่าง/เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการวิจัย/ การวิเคราะห์ผล) และสรปุ ผล ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4. คาสาคญั (Keyword) เขยี นเป็นคา หรือวลี ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษจานวนอย่างน้อย 3 คา 5. บทนา (Introduction) ให้ข้อมลู ข้อสารสนเทศและประเดน็ สาคญั ทางวิชาการรวมท้งั วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั 6. วัสดแุ ละวธิ กี าร (Materials and method) กล่าวถงึ การออกแบบกล่มุ ตวั อย่าง เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการเกบ็ ข้อมูล และการวิเคราะห์สถติ ิ โดยเรยี งลาดบั ตามข้นั ตอน 7. ผลการวิจัยและอภิปรายผล (Result and Discussion) รายงานผลท่สี าคญั อภิปรายผลและสรปุ ผล 8. เอกสารอ้างองิ (Reference) รูปแบบตาราง รูปภาพ กราฟ และสมการคณิตศาสตร์ 1. รูปแบบตาราง กรณที ่มี ตี ารางประกอบ ให้ระบุคาว่า ตารางที่ พร้อมท้งั ข้อความบรรยายตาราง หัวตาราง ให้จัดชิดซ้ายของหน้ากระดาษ โดยตารางต้องมคี วามคมชัด และใต้ตารางให้บอกแหล่งท่มี า โดยตวั อกั ษรขนาด 16 point ตวั ปกติ
ตวั อย่าง ตารางที่ 1 แสดงผลค่าเฉล่ยี ความพึงพอใจของการจดั ประชุมวชิ าการ [2] ขอ้ มูล ค่าเฉลยี่ S.D. ด้านอาหารว่าง-อาหารกลางวนั 3.45 0.521 ด้านการประชาสมั พันธ์ 4.52 0.655 ด้านสถานท่ี 4.12 0.845 2. รูปแบบรูปภาพและกราฟ กรณีท่ีมีภาพประกอบหรือกราฟ ช่ือภาพให้ระบุคาว่า ภาพที่ /กราฟที่ไว้ใต้ ภาพประกอบ และจัดข้อความบรรยายภาพให้อยู่ก่งึ กลางหน้ากระดาษ โดยรปู ภาพ/กราฟต้องมคี วามคมชัด บนั ทกึ เป็น ไฟล์ท่มี ีนามสกุล JPEGs ท่มี คี วามละเอยี ดไม่ต่ากว่า 300 dpi และใต้รูปภาพให้บอกแหล่งท่มี า โดยตวั อกั ษรขนาด 16 point ตวั ปกติ 3. รูปแบบสมการคณิตศาสตร์ ต้องพิมพ์อยู่ก่ึงกลาง หรือในกรณีท่ีสมการมีความยาวมากอาจยอมให้มี ความกว้างได้เตม็ หน้ากระดาษ และจะต้องมีหมายเลขกากบั อยู่ภายในวงเลบ็ ตาแหน่งของหมายเลขสมการจะต้องอยู่ชดิ ขอบด้านขวาของคอลมั น์ และเพ่ือความสวยงามให้เว้นบรรทัดเหนือสมการ 1 บรรทดั และเว้นใต้สมการ 1 บรรทดั เม่อื จะกล่าวอ้างองิ ถงึ สมการท่ี (1) ให้ใสว่ งเลบ็ ด้วยเสมอ ดงั ตวั อย่างน้ี (1) 5a b 11c2 รูปแบบการอา้ งอิง (Reference) 1. การอา้ งอิงที่แทรกในเน้ ือหาของบทความ ใช้การอ้างองิ ระบบลาดับหมายเลข โดยระบุลาดับหมายเลข อ้างองิ ท้ายข้อความหรือช่ือบุคคลท่นี ามาอ้างองิ โดยเร่ิมจากหมายเลข 1,2,3 ไปตามลาดับท่อี ้างองิ ก่อนหลัง โดยใช้ เลขอารบคิ อยู่ในวงเลบ็ ใหญ่ [1] ตวั อยา่ งการอา้ งอิงแทรกในเน้ อื หาบทความ กู้ด กล่าวว่า กจิ กรรมนักศึกษาเป็นแผนกจิ กรรมและดาเนินงาน ซ่ึงนักศึกษาหรือสถาบันจัดข้นึ เพ่ือสร้างความ สนุกสนาน [1] และวลั ภา เทพหัสดนิ ณ อยุธยา กล่าวว่า กจิ กรรมนกั ศกึ ษาจัดข้นึ เพ่ือพัฒนานักศึกษาในด้านต่างๆ [2] 2. การอา้ งอิงทา้ ยบทความ เอกสารอ้างอิงทุกลาดับจะต้องมีการอ้างอิงหรือกล่างถึงในบทความ ต้องพิมพ์เรียงลาดับการอ้างองิ ตาม หมายเลขท่กี าหนดไว้ภายในวงเลบ็ ใหญ่ท่ไี ด้อ้างองิ ถงึ ในบทความ โดยไม่ต้องแยกภาษาหรือประเภทของเอกสารอ้างองิ โดยลาดับการอ้างอิงให้พิมพ์ชิดขอบกระดาษด้านซ้าย ถ้ารายละเอียดของเอกสารอ้างอิงมีความยาวเกนิ 1 บรรทัดให้ พิมพ์บรรทดั ต่อไปโดยย่อหน้า ตวั อยา่ งการอา้ งอิงแทรกทา้ ยบทความ 1. Good, Carter V. Dictionary of Education. New York: Mc Graw- Hill;1973. 2. วัลภา เทพหัสดนิ ณ อยุธยา. งานบคุ คลากรนสิ ติ นกั ศึกษา. กรงุ เทพฯ: คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย; 2528. การเขียนเอกสารอา้ งอิงแบบแวนคูเวอร์ (Vancouver style) เอกสารอ้างองิ ไม่ควรเกนิ 20 เล่ม 1. อา้ งอิงจากหนงั สอื ภาษาไทย รปู แบบ : ผ้แู ต่ง(Author). ช่อื หนงั สอื (Title of the book). คร้ังท่พี ิมพ์ (Edition). เมอื งท่พี ิมพ์ (Place of Publication): สานกั พิมพ์ (Publisher); ปี (Year). ตวั อย่าง - หนงั สือที่ผูแ้ ต่งเป็ นบุคคล Janeway CA, Travers P, Walport M, Shlomchik M. Immunobiology. 5th ed. New York: Garland Publishing; 2001.
รงั สรรค์ ปัญญาธญั ญะ. โรคตดิ เช้ือของระบบประสาทกลางในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: เรอื นแก้วการพิมพ์; 2536. - หนงั สือที่ผูแ้ ต่งเป็ นบรรณาธิการหรือผูร้ วบรวม (Editor/Compiler) Norman IJ, Redfern SJ, editors. Mental health care for elderly people. New York: Churchill Livingstone; 1996. - หนงั สือที่ผูแ้ ต่งเป็ นหนว่ ยงานหรือสถาบนั (Organization) Institute of Medicine (US). Looking at the future of the Medicaid program. Washington: The Institute; 1992. 2. อา้ งอิงจากวิทยานิพนธ์ รปู แบบ : ช่ือผู้นิพนธ.์ ช่ือเร่ือง [ประเภท/ระดบั ปรญิ ญา]. เมอื งท่พี ิมพ์: มหาวิทยาลัย; ปี ท่ไี ด้รับปริญญา. ตวั อย่าง Kaplan SJ. Post-hospital home health care: the elderly's access and utilization [dissertation]. St. Louis,MO: Washington University; 1995. องั คาร ศรชี ัยรัตนกลู . การศกึ ษาเปรียบเทยี บคณุ ภาพชวี ิตของผ้ปู ่ วยโรคซมึ เศร้าชนดิ เฉียบพลนั และชนิดเร้อื รัง [วิทยานิพนธป์ รญิ ญาวิทยาศาสตรมหาบณั ฑติ ]. กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ; 2543. 3. อา้ งอิงจากวารสาร รปู แบบ : ช่อื ผ้แู ต่ง (Author). ช่อื บทความ (Title of the article). ช่อื วารสาร (Title of the Journal) ปี พิมพ์ (Year);เล่มท่ขี องวารสาร (Volume):หน้าแรก-หน้าสดุ ท้าย (Page). ตวั อย่าง Kane RA, Kane RL. Effect of genetic testing for risk of Alzheimer's disease. N Engl J Med 2009;361:298-9. จริ าภรณ์ จนั ทร์จร. การใช้โปรแกรม EndNote: จัดการเอกสารอ้างองิ ทางการแพทย์. จุฬาลงกรณเ์ วชสาร 2551;52:241-53. 4. อา้ งอิงบทความในหนงั สือพมิ พ์ รปู แบบ : ช่อื ผ้เู ขยี น. ช่อื เร่ือง. ช่อื หนงั สอื พิมพ์. ปี เดอื น วนั ท่ี ;สว่ นท่ี : เลขหน้า (เลขคอลมั น)์ . ตวั อยา่ ง ซี 12. ตลุ าการศาล ปค, เข้ารอบ. ไทยรัฐ. 2543 พ.ย. 20; ข่าวการศึกษา ศาสนา-สาธารณสขุ : 12 (คอลมั น์ 1). 5. อา้ งอิงจากเอกสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ รปู แบบ : ช่อื ผ้แู ต่ง (Author). ช่อื บทความ (Title of the article) [ประเภทของส่อื /วสั ดุ. ปี พิมพ์ [เข้าถงึ เม่อื /cited ปี เดอื น วันท่]ี . เข้าถงึ ได้จาก/ Available from: http://…………. ตวั อยา่ ง สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการวจิ ยั . ค่มู อื การพัฒนาข้อเสนอโครงการ[อนิ เตอรเ์ นต็ ].[เข้าถงึ เม่อื วนั ท่ี 21 พฤษภาคม 2557]. เข้าถงึ ได้จากhttp://www.rihes.cmu.ac.th/ Anderson SC, Poulsen KB. Anderson's electronic atlas of hematology [CD-ROM]. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2002.
6. อา้ งอิงบทความวารสารบนอินเตอรเ์ นต รปู แบบ : ช่อื ผ้แู ต่ง (Author). ช่อื บทความ (Title of the article). ช่อื วารสาร (Title of the Journal) [ประเภทของส่อื ]. ปี พิมพ์ [เข้าถงึ เม่อื /cited ปี เดอื น วันท่]ี ; ปี ท:่ี [หน้า/about screen]. เข้าถงึ ได้ จาก/ Available from: http://…………. Annas GJ. Resurrection of a stem-cell funding barrier--Dickey-Wicker in court. N Engl J Med [Internet]. 2010[cited 2011 Jun 15];363:1687-9. Available from: http://www.nejm.org/doi/pdf/10.1056/NEJMp1010466 การส่งบทความ ผ้สู นใจสามารถศึกษาข้อมูลเพ่ิมเตมิ หรอื สง่ บทความได้ท่ี https://www.tci-thaijo.org/index.php/jpr2r/index สอบถามข้อมูลเพ่ิมเตมิ ท่ี โทรศัพท์ 02-441-5000 ต่อ 2114 หรอื อเี มล [email protected] งานวิจัยและบริการวชิ าการ คณะส่งิ แวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 999 ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ตาบลศาลายา อาเภอพทุ ธมณฑล จังหวดั นครปฐม 73170
Search